Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 05

แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 05

Published by จุตติ ประนมศรี, 2022-06-04 12:53:00

Description: แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 05

Search

Read the Text Version

164 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ ช่อื วิชา พลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม รหัสวิชา 20001-1002 ทฤษฎี 2 คาบ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) -สาขาคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ 1/5 -สาขาการบญั ชี 1/6 -สาขาการตลาด 1/7 -สาขาการโรงแรม 1/8 -สาขาการโรงแรม 1/9 -สาขาเทคนิคคอมพิวเตอร์ 2/5 หนว่ ยท่ี 5 หลักและวิธกี ารการอนรุ ักษพ์ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและ สงิ่ แวดล้อม จัดทำโดย นายจุตติ ประนมศรี

165 หนว่ ยการเรียนร้แู ละสมรรถนะประจำหน่วย ชือ่ หน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 1 ความรู้ ทกั ษะ คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกับ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1.พลงั งาน 1.มที กั ษะในเรอื่ งของ 1.ขยนั และสงิ่ แวดลอ้ ม 2.ประหยัด 2.ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน 3.ซ่อื สัตย์ 3.สิ่งแวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ 4.มวี นิ ยั 4.ความสัมพันธร์ ะหวา่ งพลงั งาน สง่ิ แวดล้อม 5.สภุ าพ ทรัพยากรธรรมชาติและ 2.มที กั ษะในกจิ กรรม 6.สะอาด สง่ิ แวดลอ้ ม กลุ่ม 7.สามัคคี 5.ความสัมพนั ธร์ ะหว่างพลังงาน 3.สามรถนำเสนองานใน 8.มนี ้ำใจ กับระบบนเิ วศ กล่มุ ได้อยา่ งดี 6.วิกฤตการใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ 4.มอี งค์ความร้ใู นเรอ่ื งท่ี ส่ิงแวดลอ้ ม เรียน 7.ผลกระทบทเ่ี กิดจากปญั หา สิ่งแวดลอ้ ม 8.แนวทางการอนุรักษ์และพัฒนา พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม หนว่ ยที่ 2 1. พลังงานสิน้ เปลือง 1.มีทักษะในเรื่องของ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ แหลง่ กำเนิดพลังงาน 2. พลงั งานทดแทน พลังงานสนิ้ เปลอื งและ 2. ซื่อสตั ย์สุจรติ พลังงานทดแทน 3. มีวินัย 2.มที กั ษะในกจิ กรรมกลุ่ม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 3.สามรถนำเสนองานใน 5. อยู่อยา่ งพอเพียง กลมุ่ ได้อยา่ งดี 6. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 4.มีองค์ความรใู้ นเรื่องที่ 7. รักความเป็นไทย พลังงานสนิ้ เปลืองและ 8. มีจิตสาธารณะ พลงั งานทดแทน

166 หน่วยการเรียนรู้และสมรรถนะประจำหน่วย(ตอ่ ) ช่ือหน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 3 ความสัมพันธข์ องพลงั งาน ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มกับการดำรงชีวติ 1.พลงั งานแปรรูป 1.มที กั ษะในเร่ืองของ 1.ขยนั 2.ประหยดั หน่วยที่ 4 2.บทบาทของมนุษยใ์ นระบบ พลังงานแปรรปู 3.ซอื่ สัตย์ ผลกระทบการใช้พลงั งาน 4.มีวินยั ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม 2.มีทักษะในกจิ กรรมกลุ่ม 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง ส่ิงแวดล้อม 6. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 3.การใช้พลงั งานใน 3.สามรถนำเสนองานใน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจิตสาธารณะ ชีวิตประจำวัน กลมุ่ ได้อยา่ งดี 4.หน่วยวดั พลังงาน 4.มีองค์ความรู้ในเรื่อง 5.พลังงานไฟฟา้ พลังงานที่ขาด พลังงานแปรรปู ท่ีใชใ้ น ไม่ได้ในยุคโลกาภวิ ฒั น์ ยานพาหนะและประกอบ 6.พลังงานเช้ือเพลงิ ทีใ่ ช้สำหรับ อาหาร ยานพาหนะ 5.มีความรู้เรื่องมนุษย์กับ 7.พลงั งานในการประกอบอาหาร การใชป้ ระโยชนจ์ าก 8.มนษุ ย์กับการใชป้ ระโยชนจ์ าก พลังงาน พลงั งาน 1.ระดับปัญหาสง่ิ แวดล้อม 1.มที กั ษะในเร่ืองของปัญหา 1.ขยัน 2.ผลกระทบต่อสภาพภมู ปิ ระเทศ สิ่งแวดลอ้ ม 2.ประหยัด และทรัพยากรดิน 2.มีทักษะในกจิ กรรมกลุ่ม 3.ซอ่ื สตั ย์ 3.ผลกระทบต่ออากาศและเสียง 3.สามรถนำเสนองานใน 4.มวี ินยั 4.ผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำ กลุ่มได้อย่างดี 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 5.ผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลก 4.มอี งค์ความรูใ้ นเร่ือง 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน ร้อน ผลกระทบต่ออากาศและ 7. รกั ความเป็นไทย 6.ผลกระทบต่อการลดลงของชนั้ เสียง5.มีความรเู้ รื่องมนุษย์ 8. มจี ติ สาธารณะ โอโซน (O3) ในชนั้ บรรยากาศ กับผลกระทบตอ่ การลดลง 7.ผลกระทบต่อการสูญเสยี ความ ของช้นั โอโซน (O3) ในชน้ั หลากหลายทางชวี ภาพ บรรยากาศ 8.ผลกระทบต่อการเกดิ มลทัศน์

167 หนว่ ยการเรยี นร้แู ละสมรรถนะประจำหนว่ ย(ต่อ) ชอ่ื หน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 5 หลักและวิธีการการอนรุ ักษ์ ความรู้ ทกั ษะ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1.ขยัน และสิ่งแวดลอ้ ม 1. ความหมายของการอนุรักษ์ 1.มีทักษะในเรื่องของการ 2.ประหยดั 3.ซอ่ื สตั ย์ หน่วยท่ี 6 2. สถานการณก์ ารใชพ้ ลงั งาน อนุรักษ์พลังงาน 4.มีวินยั การปอ้ งกนั และการแก้ไข 5. อยอู่ ย่างพอเพียง ปัญหาพลงั งานและ 3. จิตสำนึกในการอนุรกั ษ์ 2.มที กั ษะในกิจกรรมกลุ่ม 6. ม่งุ ม่ันในการทำงาน สิง่ แวดล้อม 7. รักความเปน็ ไทย พลงั งาน 3.สามรถนำเสนองานใน 8. มีจติ สาธารณะ 4. วิธกี ารเบอ้ื งตน้ ในการอนรุ ักษ์ กลุม่ ได้อยา่ งดี 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอ่ื สัตย์สุจริต พลังงาน 4.มีองค์ความรูใ้ นเร่ือง 3. มวี ินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. การปรบั ปรงุ อาคารเพ่ือการ วิธกี ารเบ้ืองต้นในการ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน อนรุ กั ษ์พลังงาน อนรุ กั ษ์พลังงาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ 6. การอนรุ ักษ์พลงั งานดา้ นต่าง ๆ 5.มีความร้เู รื่องมนุษย์กับ 7. การใชแ้ หล่งพลังงานอยา่ งมี แนวทางการจดั การ ประสิทธิภาพ ส่งิ แวดล้อมแบบยัง่ ยืน 8. หลกั การการจดั การ 6.มีทักษะตามวตั ถุประสงค์ ส่งิ แวดลอ้ ม และวธิ ีการอนรุ ักษ์ 9. แนวทางการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอ้ มแบบยัง่ ยืน ส่ิงแวดลอ้ ม 10. ความร่วมมอื ในการจัดการ สิ่งแวดลอ้ ม 11. วตั ถุประสงค์และวิธีการ อนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอ้ ม 1. ปัญหาพลงั งานและ 1.มีทกั ษะในเร่ืองของการ สิ่งแวดล้อม ปัญหาพลงั งานและ 2. การวิเคราะหร์ ะบบสิ่งแวดล้อม ส่ิงแวดลอ้ ม 3. การป้องกันและวธิ แี ก้ไขปัญหา 2.มีทกั ษะในกิจกรรมกลุ่ม พลงั งานสง่ิ แวดลอ้ ม 3.สามรถนำเสนองานใน 4.การประเมินผลกระทบ กลุม่ ได้อย่างดี ส่ิงแวดลอ้ ม 4.มอี งค์ความรูใ้ นเรื่องการ ปอ้ งกนั และวิธีแก้ไขปัญหา พลังงานสิง่ แวดลอ้ ม 5.มีความร้เู รื่องการ ประเมนิ ผลกระทบ สงิ่ แวดลอ้ ม

168 หนว่ ยการเรียนรแู้ ละสมรรถนะประจำหนว่ ย(ต่อ) ช่อื หน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 7 ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ กฎหมายและนโยบาย พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1. ท่มี าของกฎหมายอนรุ กั ษ์ 1.มที กั ษะในเรื่องของ 1.ขยนั และสิง่ แวดลอ้ ม 2.ประหยัด พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ กฎหมายอนุรักษ์พลังงาน 3.ซ่อื สตั ย์ 4.มวี ินัย สิง่ แวดล้อม ทรพั ยากรธรรมชาติและ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 6. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 2. กฎหมายการอนรุ ักษ์พลังงาน ส่ิงแวดลอ้ ม 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 3. กฎหมายสิ่งแวดล้อม 2.มีทักษะในกิจกรรมกลมุ่ 9.สุภาพ 10.สะอาด 4. กฎหมายสงวนและค้มุ ครอง 3.สามรถนำเสนองานใน 11.สามคั คี 12.มีนำ้ ใจ สตั วป์ ่า กลุ่มได้อยา่ งดี 5. กฎหมายสิ่งแวดล้อมอนื่ ๆ 4.มีองค์ความรู้ในเร่ือง 6. ผลบงั คบั ทางกฎหมายของ ปัญหาการใช้กฎหมาย พระราชบัญญตั ิ พลังงาน 7. ปญั หาการใชก้ ฎหมายพลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ทรพั ยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอ้ ม สิ่งแวดลอ้ ม 5.มีความรูเ้ รื่องมนุษยก์ บั 8. นโยบายและแผนเกีย่ วกับ แนวทางการจัดการ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมแบบยง่ั ยืน สง่ิ แวดลอ้ ม 6.นโยบายและแผนเกี่ยวกับ พลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดลอ้ ม

169 การสอนออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom

170 การสอนออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom การสอบออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom

171 แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 5 ชอ่ื หนว่ ย หลักและวธิ กี ารอนรุ กั ษพ์ ลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ สอนคร้งั ที่ 11-13 และสิง่ แวดลอ้ ม ชัว่ โมงรวม 6 ชื่อเรือ่ ง การอนรุ ักษ์พลงั งาน จำนวนชั่วโมง 2 1.สาระสำคญั 1. ความหมายของการอนรุ ักษ์ 2. สถานการณ์การใชพ้ ลังงาน 3. จิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์พลังงาน 4. วธิ กี ารเบ้ืองตน้ ในการอนรุ ักษ์พลงั งาน 5. การปรบั ปรงุ อาคารเพื่อการอนรุ กั ษ์พลงั งาน 6. การอนุรกั ษ์พลังงานด้านต่าง ๆ 7. การใชแ้ หล่งพลงั งานอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 8. หลกั การการจัดการส่ิงแวดล้อม 9. แนวทางการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มแบบยงั่ ยนื 10. ความรว่ มมือในการจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม 11. วตั ถปุ ระสงค์และวิธกี ารอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม 2.สมรรถนะประจำหนว่ ย เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นได้ศึกษาแนวทางและวธิ ีการอนุรักษ์พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มเพอ่ื นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ เมอื่ เรยี นจบหน่วยการเรียนนี้ ผูเ้ รียนสามารถ 1. อธิบายความหมายของการอนุรกั ษ์ การบรหิ ารสิง่ แวดล้อมและการจดั การส่งิ แวดล้อมได้ 2. อธบิ ายสถานการณ์พลงั งานของโลกและประเทศไทยได้ถกู ต้อง 3. อธิบายการปรบั ปรงุ อาคารเพือ่ การอนุรักษ์พลงั งานได้ถูกตอ้ ง 4. อธบิ ายหลกั การสิ่งแวดล้อม แนวทางการจดั การส่ิงแวดลอ้ มแบบยัง่ ยนื ไดถ้ ูกต้อง 5. บอกวตั ถุประสงคแ์ ละวิธีการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มได้ถกู ต้อง 6. อธิบายการใช้แหลง่ พลงั งานอยา่ งมีประสิทธิภาพได้ถูกต้อง 7. เขียนโครงการจดั การส่งิ แวดล้อมไดถ้ กู ต้อง

172 3.2 ด้านทกั ษะ 1.มีทักษะในเรื่องของการอนรุ กั ษ์พลังงาน 2.มีทกั ษะในกจิ กรรมกลมุ่ 3.สามรถนำเสนองานในกลมุ่ ได้อย่างดี 4.มีองค์ความร้ใู นเรื่องวิธกี ารเบ้ืองตน้ ในการอนุรกั ษพ์ ลังงาน 5.มีความรู้เรือ่ งมนุษย์กับแนวทางการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มแบบยั่งยนื 6.มที ักษะตามวัตถุประสงคแ์ ละวธิ กี ารอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม 3.3 คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1.ขยัน 2.ประหยัด 3.ซื่อสตั ย์ 4.มวี ินยั 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 3.4 หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ด้านสังคม -รูจ้ ักแบ่งหน้าท่ีรับผดิ ชอบในการทำงาน -แลกเปลีย่ นเรียนรู้จากเพ่อื นครู ด้านส่งิ แวดล้อม -มีความรูใ้ นการเลอื กใช้วสั ดุอปุ กรณ์ในทอ้ งตลาดมาใช้ประโยชนไ์ ด้อย่างเหมาะสม -มคี วามรู้เกีย่ วกบั การรกั ษาธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม ด้านวัฒนธรรม -มีความรู้ความเข้าใจในภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น มาใช้ในการเรียนรู้ และ ผลิตช้นิ งาน 4.ความรพู้ ้ืนฐานทีค่ วรมีกอ่ นเรยี น -ความรดู้ า้ นพลงั งานส้นิ เปลือง -ความรูด้ า้ นการทำกจิ กรรมกลมุ่ -ความรดู้ ้านการนำเสนองาน 5.เนื้อหาสาระการเรยี นรู้ ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ทำให้มนุษย์สามารถประดิษฐ์คิดค้นเครื่องอำนวยความ สะดวกมากมาย เพ่อื สนองความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต การพัฒนาเศรษฐกจิ ของแต่ละประเทศและการเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วของประชากร ทำให้ความต้องการพลงั งานเพิ่มขึ้นอยา่ งรวดเร็วทุกภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะประเทศที่ พัฒนาและกำลังพัฒนา พลังงานที่ได้ล้วนมาจากแหล่งธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป ไมอาจเกิดทดแทนได้ในเวลาอันส้ัน ได้แก่ พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ และถ่านหิน การใช้ทรัพยากรพลังงานดังกล่าวจึงต้อง เปน็ ไปตามหลักการอนุรักษ์เพ่ือให้มีพลังงานใช้ไดย้ าวนานท่ีสุดและทนั กับการพัฒนาพลังงานทดแทนมาใช้

173 แผนการจัดการเรียนรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 5 สอนคร้งั ที่ 11-13 ชื่อหน่วย หลกั และวธิ ีการอนรุ ักษพ์ ลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและ ชัว่ โมงรวม 6 สง่ิ แวดล้อม ชื่อเรือ่ ง การอนรุ ักษ์พลังงาน จำนวนชัว่ โมง 2 6.กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ สนใจปัญหา จูงใจผเู้ รยี น (motivation) 1. ตรวจเรียกรายชื่อ การแต่งกาย 2. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรวู้ ิชาพลังงาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม/การวดั ผลและเกณฑก์ ารประเมินผล/โดย เปดิ โอกาสให้ผ้เู รียนซักถาม 3. บอกจดุ ประสงค์การเรยี นหนว่ ยที่ 1 ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกับพลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4. ใหท้ ำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยท่ี 1 (10 นาท)ี 5. สนทนา ซักถามจากภาพข่าวเกีย่ วกับสิง่ แวดล้อมและเหตุการณ์ปจั จบุ ันจากส่อื ตา่ ง ๆ ใหผ้ เู้ รยี นแสดงความ คดิ เห็น ขน้ั ศึกษาข้อมลู (information) 1. อธิบายความหมายของทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อมและพลังงาน ซกั ถามใหผ้ เู้ รียนยกตวั อย่าง ประกอบคำอธิบาย 2. อธบิ ายความรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกับพลังงานและส่งิ แวดลอ้ มกับระบบนิเวศ และสาระการเรียนรูต้ ามหนว่ ย การเรียน โดยใช้ Power Point ประกอบ พรอ้ มการซักถาม 3. ให้ทำกจิ กรรมใบงานที่ 1 โดยผู้สอนจะตรวจสอบและสรปุ ในชว่ั โมงถัดไป 4. ใหผ้ เู้ รียนซกั ถามข้อสงสัยหรือนำไปสกู่ ารสรปุ ข้ันนำข้อมลู มาทดลองใช้ (application) 1. ใหร้ ว่ มกันสรปุ สาระสำคญั โดยการซกั ถาม 2. ให้ทำแบบทดสอบหลงั เรียน ขั้นสำเรจ็ ผล (progress) 1.สรปุ เกณฑ์การประเมนิ ผล 2.ถา้ ผู้เรียนไม่ผา่ นควรมีการซอ่ มเสริม

174 แผนการจดั การเรียนรมู้ ุง่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 5 สอนครั้งท่ี 11-13 ชอ่ื หนว่ ย หลกั และวิธกี ารอนุรักษ์พลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาติและ ชวั่ โมงรวม 6 สง่ิ แวดล้อม ช่อื เรือ่ ง การอนุรักษ์พลงั งาน จำนวนชัว่ โมง 2 7.ส่อื การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ สือ่ ส่ิงพมิ พ์ - หนงั สือเรียนวชิ าพลังงาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ ม ของสำนักพมิ พ์ศนู ย์ส่งเสรมิ วิชาการ (2562) - ข่าวสารเกี่ยวกบั ทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และพลังงาน ทเ่ี ป็นข่าวในส่ือต่าง ๆในเหตุการณ์ ปัจจบุ ัน ส่อื โสตทศั น์ Power Point 8.เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) - ใบเน้ือหาเรอ่ื ง ความรเู้ บอื้ งต้นเกีย่ วกบั พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 9.การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวชิ าอ่นื - บูรณาการกับวิชาพลังงานและสงิ่ แวดล้อม 10.การวดั และประเมินผล 1. การวัดผล 1.1 จากแบบทดสอบหลังเรียน 1.2 จากกิจกรรมกลุ่มตามใบงาน 1.3 จากการสังเกตพฤติกรรม 1.4 จากการนำเสนองานกลุ่ม 1.5 จากแบบทดสอบออนไลน์ 2. เครอื่ งมือวดั และประเมิน 2.1 ใบงาน 2.2 แบบทดสอบออนไลน์ 2.3 แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม 3. เกณฑก์ ารประเมินผล 3.1 จากแบบประเมิน พฤติกรรมรายบคุ คลและกลมุ่ 3.2 จากคะแนนแบบทดสอบหลังเรียน 3.3 แบบประเมนิ คณุ ธรรมและจริยธรรม

175 แผนการจดั การเรียนรมู้ ุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 5 สอนคร้งั ที่ 11-13 ช่ือหน่วย หลักและวิธกี ารอนรุ ักษ์พลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาติและ ชั่วโมงรวม 6 จำนวนช่วั โมง 2 สิ่งแวดล้อม ชื่อเรือ่ ง การอนรุ ักษ์พลังงาน 1.บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ 11.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ จำนวนเนอ้ื หา มคี วามเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกบั จำนวนเวลา เพราะเหตใุ ด............................................................... การเรยี งลำดับเนื้อหา มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับความเข้าใจของผูเ้ รยี น เพราะเหตุใด................................................ การนำเขา้ สู่บทเรยี น มคี วามเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับเนอ้ื หาแต่ละหัวข้อ เพราะเหตุใด...................................................... วธิ ีการสอน มคี วามเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนือ้ หาแต่ละหัวข้อ เพราะเหตุใด..................................................... สอื่ การสอน มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกบั เน้ือหาแต่ละหวั ข้อ เพราะเหตุใด...................................................... งานท่ีกำหนดใหท้ ำ มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกบั เน้ือหา/เวลา/วตั ถปุ ระสงค์ เพราะเหตุใด........................................... การนำเสนอ มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนือ้ หา/เวลา/วัตถุประสงค์ เพราะเหตุใด........................................... การประเมนิ ผล มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์หนว่ ย เพราะเหตใุ ด....................................................... อืน่ ๆ ............................................................................................................................. .........................................

176 เนอื้ หาหนว่ ยท่ี 5 หลกั และวธิ ีการอนรุ ักษพ์ ลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม การอนุรักษ์พลงั งาน การอนรุ ักษ์พลงั งาน หมายถงึ การผลติ และการใชพ้ ลงั งานอยา่ งมีประสิทธิภาพและประหยดั หรอื การใช้ ทรพั ยากรพลังงานให้คมุ้ คา่ ที่สดุ ให้หมดไปอย่างช้าที่สุด รวมทั้งพยายามหาพลงั งานทดแทนพลังงานส้นิ เปลือง ในขณะใช้ทรัพยากรพลังงาน การใชพ้ ลังงานของโลก เร่มิ ตน้ จากการนำพลังงานจากแหล่งทรัพยากรธรรมชาตมิ าใชต้ ั้งแตค่ ริสตศ์ ตวรรษ ท่ี 18 จนถงึ ปจั จุบัน ซึ่งเป็นการนำพลังงานมาใช้อยา่ งฟุ่มเฟือย ดังรปู ที่ 8.23 โดยพลงั งานส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้ นัน้ เป็นพลงั งานที่ใชแ้ ลว้ หมดไปหรอื พลังงานสน้ิ เปลืองทั้งสนิ้ เช่น นำ้ มัน ถ่านหนิ และก๊าซธรรมชาติ เปน็ ต้น ถา้ หมด ไปแล้วจะไมส่ ามารถสร้างข้ึนมาใหม่ไดใ้ นระยะเวลาส้นั จากสถานการณด์ ังกล่าวจึงมกี ารคาดการณ์ว่า อาจจะเกดิ สภาวะวิกฤตทางพลงั งานขึ้นในอนาคตอนั ใกล้ สภาวะวิกฤตดงั กลา่ วสามารถสังเกตไดจ้ ากการที่ ราคาของพลังงาน ไดเ้ พ่ิมสงู ขึน้ กวา่ อดตี มาก 5.1 วิธีการเบ้ืองตน้ ในการดำเนนิ การอนรุ ักษพ์ ลังงาน แนวทางการดำเนนิ การอนรุ ักษ์พลังงานใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ เกดิ ผลยง่ั ยืนและต่อเนอ่ื งตามคำแนะนำ ของ กระทรวงพลงั งานในองค์กรหรือหนว่ ยงานตา่ ง ๆ มีขน้ั ตอนเบ้ืองตน้ ดงั นี้ 1) การกำหนดนโยบายและเปา้ หมาย เป็นแนวทางสำคัญในการอนรุ กั ษ์ โดยทกุ คนในองคก์ รถือว่า เปน็ ภาระหน้าทีท่ ่ตี ้องปฏบิ ัติใหบ้ รรลจุ ดุ ประสงคแ์ ละเปา้ หมายพรอ้ มกับใหท้ ุกคนมีสว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิ เชน่ ในวาระครบรอบ 20 ปี กระทรวงพลังงานได้มีการรณรงค์ใหห้ นว่ ยราชการลดใช้พลงั งานให้ได้ 10% 2) การจัดต้ังองค์กรด้านการอนุรักษ์ พลังงานและกำหนดหน้าทคี่ วามรบั ผดิ ชอบ จะทำให้การดำเนนิ งาน ด้านการอนุรักษ์พลงั งานเปน็ ไปอยา่ ง มีประสิทธภิ าพและต่อเน่ือง คณะทำงานด้านการ อนรุ กั ษ์พลงั งานควรแต่งตัง้ จากตวั แทนของแตล่ ะ หน่วยงานในองคก์ รให้ไดม้ ากท่ีสดุ เพ่ือระดมความคดิ และลดปญั หาอปุ สรรคทเ่ี กิดขน้ึ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง การส่อื สารภายในองค์กร 3) การวเิ คราะห์การใชพ้ ลังงานเพื่อหา ศักยภาพในการอนรุ ักษ์พลงั งาน คณะทำงานดา้ น การอนุรกั ษ์ พลงั งานทจี่ ดั ตั้งข้นึ จะตอ้ งมีข้อมูลการใช้ พลงั งานและค่าใช้จา่ ยด้านพลังงาน เพ่ือเปรียบเทียบ ในเชิงวเิ คราะห์และ คำนวณหาตน้ ทุนการใชพ้ ลงั งานทีเ่ กดิ ขึน้ จัดทำสถิติการใช้พลงั งานและคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลังงานในแต่ละเดือนตลอด ปี เชน่ การเปรียบเทียบ การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในแต่ละเดอื นกับปีท่ีผา่ น และการเปรยี บเทียบการใช้พลังงาน ไฟฟา้ ในเดือนนี้ เทยี บกับเดือนทผี่ ่านมา เป็นตน้ การใช้ขอ้ มูลด้านสถิตดิ งั กลา่ วจะเป็นประโยชนต์ ่อการหาศกั ยภาพ ในการอนุรักษ์ พลงั งานและการตดิ ตามผลการอนุรักษพ์ ลังงานได้อย่างมีประสิทธภิ าพ 4) การหามาตรการการอนรุ ักษ์พลังงาน สามารถแบ่งได้เป็น 3 วิธี ดงั ต่อไปน้ี 4.1) วธิ กี ารใช้งานและการบำรุงรกั ษาอย่างถกู ต้อง เชน่ การปดิ ไฟเมื่อไมใ่ ชง้ าน การตัง้ อุณหภมู ิ ของ เคร่ืองปรบั อากาศไวท้ ีอ่ ุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เป็นตน้ ซ่ึงจดั เป็นการดำเนินงานดา้ นการอนุรักษ์ พลงั งานใน ระยะเร่ิมต้น และสามารถทำได้ตลอดเวลา เปลย่ี นพฤติกรรมการใช้ ไม่มคี ่าใช้จา่ ยและเห็นผลการ อนุรกั ษ์พลงั งาน ไดเ้ ร็ว 4.2) วธิ กี ารปรบั ปรุงประสทิ ธิภาพอุปกรณ์ เปน็ การลดการสญู เสียโดยการเปลยี่ นอุปกรณ์ใหม่ แทน ปกรณ์เดมิ ทม่ี ปี ระสิทธิภาพตำ่ เชน่ การใช้หลอดคอมแพกต์ฟลอู อเรสเซนตแ์ ทนหลอดไส้ การเปล่ยี น และเลอื ก

177 ชนดิ โคมไฟใหเ้ หมาะสมกับการใช้งานและการเปลีย่ นเครอื่ งปรบั อากาศเปน็ เบอร์ 5 เปน็ ต้น จดั เป็น วธิ ีการท่ี จะต้องวิเคราะหแ์ ละเปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทนุ เน่ืองจากจะมีเงนิ ลงทุน ผลการประหยัดพลังงานและอายุ การใชง้ านเข้ามาเก่ียวข้อง โดยท่วั ไปวธิ กี ารสังเกต่านนี้มักจัดเป็นแผนดำเนินงานและ กาหนดผ้รู บั ผิดช เพอื่ ดำเนินงานและติดตามผล 4.3) วธิ ปี รับปรงุ หรือเปล่ียนแปลงระบบ เพื่อใหเ้ กิดการอนรุ กั พอจดังงาน เช่น การเปลย่ี น เครือ่ งปรบั อากาศให้มขี นาดทำความเยน็ เหมาะสมกับพื้นท่ีใช้สอย เป็นต้น คณะทำงานด้านการอนุรักษน์ พลงั งานจะตอ้ งทำการศึกษาระบบเทคนิคและหาความ เหมาะสม ของแตล่ ะมาตรการตามวิธกี าร เพอ่ื ให้บรรลุวตั ถปุ ระสงคต์ ามเปา้ หมาย 5) การตดิ ตามผลตามแผนดำเนนิ งานย่างตอ่ เนื่อง เปน็ อกี ข้ันตอนหน่ึงทีจ่ ะทำให้การดำเนนิ งาน ด้านการ อนรุ ักษ์พลงั งานมีความต่อเนื่องและยั่งยืน คณะทำงานด้านการอนุรักษ์พลังง\"นจะต้องจัดใหม้ ีการ ประชุมเพื่อ หารอื ตดิ ตามผล แก้ไขปัญหาท่ผี ิดพลาดและอุปสรรค (ถ้ามี) และปรับปรุงหรือหาวิธกี ารเพ่อื ใหผ้ ลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย 5.2 การปรบั ปรงุ อาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พลงั งานทใี่ ชใ้ นกาตารพกั อาศัยส่วนใหญท่ ่สี ญู เสยี ไปจะเป็นส่ิงงานที่ใช้สำหรับเครอ่ื งปรับอากาศ รองลงมา ไดแ้ ก่ อุปกรณ์เครื่องใชไ้ ฟฟา้ และไฟฟ้าส่องสวา่ ง ซ่งึ ในการปรบั ปรุงการเพ่ือลดปริมาณการใช้ พลงั งานสำหรบั บา้ นพักอาศยั โยท่วั ไป ทาวน้นั ถ้าเสน้ มะฮาตารพาณชิ ย์ ควรปฏิบัติดงั น้ี 1) การเพ่ิมนคุณสมบัติในการกนั ความร้อนและควานขน้ึ ให้แกผ่ นังอาคาร โดยกรตดิ ต้งั ฉนวนท่เี หมาะสม เพอื่ ป้องกนั ความร้อนและความชนื้ จากภายนอกอาคาร เนื่องจากผนงั ทีเ่ หมาะสมกบั อาคารที่มกี าร ปรับอากาศควร เปน็ ผนง่ั ที่มคี า่ ความเปน็ ฉนวนสูง ไมส่ ะสมความรอ้ นและครมชื้น มีมวลสารนอ้ ย คุณสมบัติ ดังกล่าวจะชว่ ยให้ เคร่ืองปรับอากาศสามารถลดอุณหภูมไิ ด้เร็วขน้ึ ช่วยใหป้ ระหยดั พลงั งาน 2) การปอ้ งกันความร้อนจากหลงั คา หลงั คาเป็นส่วนท่ตี อ้ งสัมผสั ความร้อนจากแสงแดดตลอด ชว่ งเวลา กลางวัน ทำให้มีการถา่ ยเทความร้อนผา่ นหลังคาเขา้ สใู่ นอาคารเป็นปริมาณทสี่ ูงมาก อาคารพกั อาศัย ส่วนโหม โดยเฉพาะทาวนเ์ ฮา้ สแ์ ละอาคารพาณชิ ยไ์ ม่มีการตดิ ต้ังฉนวนกนั ความรอ้ นใต้หลังคา ทำให้ความร้อน สามารค ถา่ ยเทเข้ามาในอาคารได้มาก เครื่องปรบั อากาศต้องทำงานหนักข้นึ เป็นการส้นิ เปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ ควรตดิ ตัง้ ฉนวนกนั ความรอ้ นอยา่ งถูกต้องเหมาะสม จะทำใหเ้ กดิ การประหยัดพลงั งานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 3). การตรวจสอบและป้องกนั การร่ัวซมึ ของอากาศ ตามแนวประตหู นา้ ต่างและช่องเปิดต่าง ๆ เพราะ ความร้อนและความข้นึ จากภายนอกอาคารจะเข้ามาสู่ในอาคารผา่ นรอยร่วั ตา่ ง ๆ นนั้ เมอื่ มีระบบปรบั อาศจะทำให้ เครอ่ื งปรบั อากาศต้องทำงานมากกข้ึนเพื่อนำความรอ้ นและความชื้นดงั กล่าวไปปลอ่ ยท้ิงภายนอกอาคาร จงึ งทำให้ เกดิ การสิน้ เปลืองพลังงานมากขึน้ ห้องทีม่ ีการปรับอากาศควรหลกี เลยี่ งการติดต้ัง หน้าต่างหรยี ประตูบานเกลด็ เนอื่ งจากหนา้ ตา่ งและประตูบานเกลด็ นน้ั จะมีการรว่ั ซมึ ของอากาศภายนอก เข้ามาในอาคารไดม้ ากกวา่ หนา้ ตา่ ง หรือประตชู นิดอ่นื ๆ 4) การนำแสงธรรมชาติมาใชใ้ นอาคาร การออกแบบอาหารควรกำหนดตำแหนง่ ของช่องเปดิ ท่ี เหมาะสม และเลอื กกระจกท่ีมีคุณสมบัติท่ดี ี คือ ยอมใหแ้ สงธรรมชาติเขา้ มากแต่ความร้อนสามารถเข้ามาได้น้อยเพ่ือทจ่ี ะ สามารถใชป้ ระโยชน์จากแสงธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ข้อดีของการนำแสงธรรมชาตมิ าใช้ ช่วยลดจำนวน ดวงโคมทต่ี อ้ งติดตัง้ เป็นการประหยดั พลงั งานจากการใช้งานหลอดไฟ และชว่ ยประหยัดงบประมานสำหรับติดตั้ง

178 ดวงโคมอีกดว้ ย เน่อื งจากแสงธรรมชาติมีประสทิ ธภิ าพ 140 ลูเมนตอ่ วตั ต์ ในขณะทห่ี ลอดคอมแพกต์ฟลอู นรส เซนต์มีประสิทธิภาพเพยี ง 40-50 ลูเมนต่อวตั ต์ 5) การเลอื กใชห้ ลอดไฟและอุปกรณ์ทมี่ ปี ระสิทธภิ าพสงู ควรเลอื กชนดิ ของหลอดไฟให้เหมาะสม กบั การ ใช้งาน รวมถงึ การนำอปุ กรณ์ประหยดั พลงั งานมาใช้ เช่น 40-50 ลเู มนตอ่ วัตต์ มาใชแ้ ทนหลอด อินแคนเดสเซนต์ท่ี มปี ระสิทธิภาพเพยี ง 8-20 ลูเมนต่อวัตต์ แสดงว่า การสูญเสียพลังงานไฟฟ้า 1 วตั ต์สำหรบั หลอดอนิ แคนเดสเซนต์ จะได้พลังงานแสงสว่าง 8-20 ลเู มน แตถ่ ้าเป็นหลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์จะได้ พลังงานแสงสว่างถงึ 40-50 ลเู มน นั่นหมายความว่า หากต้องการแสงสวา่ งเทา่ กนั จะต้องใช้หลอด อนิ แคนเดสเซนต์เปน็ จำนวนมากกว่าหลอด คอมแพกตฟ์ ลูออเรสเซนต์ จึงเป็นการสน้ิ เปลืองทั้งในดา้ นการ ลงทุนคา่ ติดตั้งและค่าไฟฟ้าท่สี งู ขึ้น ดงั นัน้ การ เลือกใชห้ ลอดไฟและดวงโคมประสิทธภิ าพสูงจะช่วยประหยดั พลังงานได้ โดยสามารถเปรียบเทยี บประสทิ ธภิ าพ ของหลอดไฟชนิดต่าง ๆ 6) แยกเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าทไ่ี ม่จำเปน็ ออกจากห้องที่ปรับอากาศ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ เช่น ตูเ้ ยน็ เตาอบ หม้อหงุ ข้าว หากนำมาใช้งานในหอ้ งท่ีมีการปรับอากาศกจ็ ะทำให้เคร่ืองปรบั อากาศทำงานหนักข้ึน เนื่องจาก การใชง้ าน เครอื่ งใช้ไฟฟ้าจะทำใหเ้ กดิ ความรอ้ นข้ึน กลายเปน็ ภาระที่เพ่ิมขนึ้ ของระบบปรับอากาศจึงเปน็ การ สิ้นเปลือง พลังงานโดยไมจ่ ำเปน็ 7) เลอื กใชเ้ ฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งภายในทไี่ มส่ ะสมความร้อนและความชื้น เฟอรน์ ิเจอร์ หรอื วัสดุ ตกแตง่ ในอาคารควรมคี ุณสมบัติท่ีไม่เป็นแหล่งสะสมความรอ้ นและความชนื้ หรอื เป็นวสั ดทุ ม่ี ีมวลสารน้อย เชน่ ไม้ ปาร์เก้ กระเบอ้ื งเคลอื บ และใชเ้ ฉพาะสว่ นทีจ่ ำเปน็ ก็จะชว่ ยลดพลงั งานในชว่ งเร่ิมเปดิ เครื่อง ปรบั อากาศทำให้ไม่ สิ้นเปลอื งพลังงานในการปรับอากาศมากเกนิ ความจำเปน็ ได้ 8) การเปลี่ยนมาใชเ้ ครื่องปรบั อากาศท่ีมีประสทิ ธิภาพสูง เครอ่ื งปรับอากาศทมี่ ีประสทิ ธิภาพสงู จะใช้ พลังงานน้อยกว่าเครื่องปรับอากาศท่ีมปี ระสิทธิภาพต่ำ จะเป็นการชว่ ยประหยดั พลงั งานได้มากยิง่ ข้ึน ซ่ึงสามารถ พจิ ารณาประสทิ ธภิ าพของเครอ่ื งปรบั อากาศได้จากฉลากแสดงระดบั ประสิทธิภาพของ เครือ่ งปรับอากาศ หรือ ฉลากประหยัดไฟ และควรเลือกเครื่องปรบั อากาศที่มีฉลากเบอร์ 5 9) ปรับปรงุ สภาพแวดลอ้ ม การใชต้ น้ ไม้ ดิน พชื คลมดนิ และน้ำ รวมถงึ การใช้ร้ัวที่โปร่ง เพื่อให้ กระแสลม สามารถพัดพาความรอ้ นและความชืน้ ทส่ี ะสมอยู่บรเิ วณโดยรอบอาคารออกไป ช่วยลดภาระการ ทำความเยน็ ของ เครื่องปรบั อากาศ เปน็ การใช้ประโยชนจ์ ากธรรมชาติเพ่ือประหยัดพลังงานและเปน็ การสรา้ ง ทศั นียภาพทสี่ วยงาม โดยรอบอาคารด้วย แนวทางการอนุรกั ษ์พลงั งาน โดยมีสว่ นทีเ่ ก่ียวข้องกบั การปรับปรุงพฤติกรรมการบริโภคพลงั งาน และการ ปรับปรุงอาคารใหเ้ หมาะสมจะชว่ ยใหเ้ กิดประสิทธิภาพในการอนรุ ักษ์พลังงาน แตใ่ นอนาคตการ บริโภคพลงั งาน จะต้องมีการเปลย่ี นแปลงทั้งแหลง่ ทม่ี าของพลงั งาน รวมถึงพฤติกรรมการบรโิ ภคพลงั งาน เน่ืองจากแหลง่ กำเนดิ พลังงานกำลงั จะหมดไป จึงจำเปน็ อย่างยิ่งในการจัดหาแหล่งพลังงานท่สี ามารถ ทดแทนได้ (Renewable Energy) หรอื เปน็ พลังงานทส่ี ะอาด (Clean Energy) ซ่ึงไม่ก่อใหเ้ กิดผลกระทบต่อ สภาพแวดลอ้ ม ตวั อยา่ งเช่น พลงั งาน แสงอาทิตย์ พลงั งานลม พลงั งานความร้อนใตพ้ ภิ พ เป็นตน้

179 5.3 การอนุรกั ษพ์ ลังงานด้านตา่ ง ๆ นอกจากการประหยัดพลังงานในองค์กรและการออกแบบอาคารท่ีอยู่อาศยั ให้เหมาะสม รวมท้งั เลือกใช้ วัสดุเพื่อการประหยดั พลังงานภายในอาคารแลว้ ยงั ต้องคำนึงถงึ การอนุรักษพ์ ลงั งานอนื่ ๆ ซง่ึ ต้องได้รบั ความ รว่ มมอื จากผู้ใช้พลังงานทุกคน 1) การอนรุ กั ษ์พลังงานด้านการขนสง่ การคมนาคมขนสง่ เป็นกิจกรรมที่สน้ิ เปลอื งพลังงาน มากทสี่ ดุ มี พลังงานทีส่ ูญเสียมากท่สี ดุ และสว่ นใหญเ่ ป็นพลังงานส้ินเปลือง เช่น นำ้ มัน กา๊ ซธรรมชาติ เปน็ ต้น ดังนน้ั การใช้ ควรคำนงึ ถึงส่งิ ต่อไป 1.1) ปรบั ปรงุ ระบบการขนสง่ ให้มีความคลอ่ งตัว ยานพาหนะมปี ระสทิ ธิภาพสูง 1.2) จัดระบบขนสง่ มวลชนภายในเมอื งหรอื ระหว่างเมืองใหญก่ ับเมอื งบริวารอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ เชน่ ทางดว่ น ทางเฉพาะ 1.3) วางผงั เมืองที่ดี เพ่อื แก้ปญั หาการเดนิ ทางไปมาระหวา่ งบา้ นกับทีท่ ำงาน 1.4) ลดการผลิตรถยนตน์ งั่ ส่วนบคุ คลที่มีกำลังสูงเกินความจำเป็นลง เน่อื งจากโอกาสใช้รถจน เต็มขีด ความสามารถของรถมนี ้อยมาก จงึ เปน็ การสน้ิ เปลืองโดยไม่คุม้ ค่า 1.5) ความเร็วในการขับยวดยานใหเ้ หมาะสมกบั เมอื งและชนบท 1.6) สง่ เสรมิ ให้มีการตดิ ต่อผา่ นระบบส่ือสารมากขึน้ เพื่อหลีกเลย่ี งการเดนิ ทางตดิ ตอ่ ลดการ ใช้ เช้ือเพลิง 1.7) แกไ้ ขปญั หาการจราจรซง่ึ เป็นสาเหตุท่ีทำใหส้ ูญเสยี น้ำมนั เช้ือเพลงิ มาก 1.8) ควรรว่ มมอื กับหนว่ ยงานของรฐั หรือองค์กรท่ีรณรงค์ประหยดั พลังงาน เช่น วนั Car Free Day (22 ก.ย. ของทุกปี) งดการใชร้ ถสว่ นบุคคล เปน็ ต้น 2) การอนุรกั ษ์การใช้พลงั งานด้านอุตสาหกรรม อตุ สาหกรรมทกุ ประเภทและตอ้ งใชพ้ ลังงานเปน็ จำนวน มาก มาตรการในการอนุรักษ์พลงั งานที่ใชใ้ นดา้ นอุตสาหกรรม สรุปไดด้ ังนี้ 2.1) พยายามลดการสูญเสียความร้อนจากแรงเสียดทาน ปรบั ปรงุ ประสิทธิภาพของเคร่ืองจักร และ อปุ กรณ์ในการผลติ 2.2) พยายามนำผลพลอยได้ทเ่ี กิดจากกระบวนการผลติ กลบั มาใช้ประโยชน์อีก เชน่ กา๊ ซทเี่ กิด จาก โรงงานถลุงเหล็ก เป็นต้น 2.3) ลดการใชก้ ระแสไฟฟา้ ท่ีไม่จำเปน็ ในโรงงานอตุ สาหกรรม ควรออกแบบก่อสรา้ งให้แสง ผา่ นเข้าถงึ โรงงานใหม้ าก เพอื่ ลดพลังงานไฟฟา้ ทใี่ ห้แสงสวา่ งโดยเฉพาะในเวลากลางวัน 2.4) พยายามนำสิ่งท่ใี ช้แลว้ กลับมาใชใ้ หม่ (Recycle) เพือ่ สดวตั ถดุ ิบตน้ กำเนิด เช่น กระดาษ พลาสติก โลหะ เปน็ ตน้ 2.5) พยายามผลติ ผลิตภณั ฑ์ทีม่ ีคุณภาพดี มีความทนทานเพอื่ ประหยัดพลังงานในการผลิต 3) อนุรกั ษก์ ารใชพ้ ลังงานในการผลติ ไฟฟ้า อปุ กรณ์ต่าง ๆ ในการดำรงชีวิต ในการอำนวยความ สะดวกใช้ พลังงานไฟฟ้าทัง้ ส้ิน อตั ราการใช้พลงั งานไฟฟ้าจึงทวีมากข้ึนอย่างรวดเรว็ และมีแนวโนม้ เพ่ิมมากขนึ้ ทุกวนั มาตรการอนุรักษ์พลังงานท่ใี ช้ในการผลิตไฟฟ้า พอสรปุ ไดด้ ังนี้ 3.1) ควรส่งเสรมิ ใหป้ ระหยัดพลังงานไฟฟ้าโดยใช้หลอดประหยัดไฟตามความเหมาะสม 3.2) งดการใช้ไฟฟา้ ฟุ่มเฟือยและไม่จำเปน็ ลง เชน่ ไฟโฆษณาสินคา้ ไฟฟ้างานเฉลมิ ฉลองที่ ไมจ่ ำเป็น

180 3.3) เพิ่มประสิทธิภาพในการผลติ พลังงานไฟฟา้ จากแหล่งพลงั งานทดแทน เช่น นำ้ ลม แดด 3.4) ลดการสูญเสยี พลงั งานไฟฟ้า โดยการใชส้ ายไฟให้พอเหมาะกบั กระแสไฟฟ้า 3.5) ให้ความร่วมมอื ในการประหยัดพลังงานไฟฟ้าของรัฐบาล

181 การสอนออนไลน์ การสอบออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom

182 สอ่ื การสอนประจำหนว่ ย

183 สื่อการสอน

184 สื่อการสอน

185 สื่อการสอน

186 แบบทดสอบประจำหนว่ ย

187 แบบทดสอบหนว่ ยท่ี 5 เรอ่ื งการอนุรกั ษ์พลงั งานและการจดั การสง่ิ แวดล้อม 1.องคใ์ ดมสี ว่ นเกีย่ วข้องกับการอณุรักษ์พลงั งานในด้านการออกกฎหมาย ก.ภาคครวั เรอื น ข.ภาคธรุ กิจ ค.ภาคราชการ ง.ภาคประชาชน จ.สถานศึกษา 2.ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ มใดบา้ งท่ีต้องมีการอนุรักษ์ ก.ปา่ ไม้ ข.สตั ว์ปา่ ค.ดนิ ง.นำ้ จ.ถกู ทุกข้อ 3.จดุ ม่งุ หมายของการอนุรักษ์พลังงานคือข้อใด ก.พลงั งานถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชนส์ งู สุด ข.3การนำพลงั งานท่ีใชแ้ ล้วหมดไปมาใช้ก่อน ค.การรักษาพลังงานใหด้ ำรงอยู่ไว้ใหน้ านทส่ี ดุ ง.ขอ้ ก และ ขอ้ ข ถูกต้อง จ.ข้อ ก และข้อ ค ถกู ต้อง 4.พลงั งานชนดิ ใดใช้แล้วหมดไปในครวั เรอื นทม่ี ีความสำคัญในชีวติ ประจำวนั มากทส่ี ุดคือข้อใด ก.พลังงานไฟฟ้า ข.พลงั งานแสงอาทิตย์ ค.พลงั งานเชอ้ื เพลิง ง.พลังงานจลน์ จ.แกส๊ หงุ ตม้ 5.ขอ้ ใดคือพลังงานทดแทน ก.พลงั งานลม ข.พลังงานน้ำมันธรรมชาติ ค.พลังงานแกส๊ ธรรมชาติ ง.พลังงานถ่านหิน จ.พลังงานไฟฟ้า 6.องค์กรภาครัฐควรเนน้ การอนรุ กั ษพ์ ลงั งานใดเป็นสำคัญ ก.อุปกรณ์และเครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ข.น้ำมนั เช้อื เพลิงสำหรบั ยานยนต์

188 ค.เครือ่ งจักรทใี่ ชใ้ นการผลิต ง.ข้อ ก และข้อ ข ถกู ต้อง จ.ขอ้ ข และขอ้ ค ถูกต้อง 7.การประหยัดการใชน้ ้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนตส์ ามารถทำไดอ้ ยา่ งไร ก.เปลี่ยนการใช้แก๊สธรรมชาติมาเป็นนำ้ มันเบนซิน ข.เปล่ียนการใช้น้ำมันเบนซนิ มาเป็นน้ำมนั ดเี ซล ค.เปลย่ี นการใช้นำ้ มนั เบนซนิ มาเป็นแกส๊ ธรรมชาติ ง.เปล่ยี นการใช้น้ำมันเบนซินมาเปน็ แกส๊ หุงต้ม จ.เปลีย่ นการใช้นำ้ มนั เบนซนิ มาเปน็ นำ้ มนั เตา 8.การประหยัดการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าภายในครัวเรือนสามารถทำไดอ้ ยา่ งไร ก.ใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์5 ข.ใช้โทรศัพท์ที่มีความละเอียดของภาพสงู และมีหน้าจอใหญ่ ค.ใช้หลอดไฟฟ้าชนิดมีไส้หลอด ง.ทำความสะอาดแผงความร้อนต้เู ยน็ ทุกสัปดาห์ จ.ปรบั อุณหภมู ิของเครื่องปรับอากาศใหน้ ้อยกวา่ 25 องศา 9.ภาคเอกชนควรอนุรกั ษ์การใช้พลังงานภายในหน่วยงานอย่างไรจงึ จะเกดิ ผลยง่ั ยนื ท่ีสดุ ก.รณรงคใ์ ห้พนักงานในหน่วยงานตระหนกั ถงึ การอนุรักษ์พลังงาน ข.นำเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้ในองค์การ ค.ควบคุมการใชอ้ ุปกรณไ์ ฟฟา้ ทุกประเภท ง.ใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟ้าที่มีการปดิ อตั โนมัติ จ.ตัง้ เวลาปิด-เปิดเครื่องใช้ไฟฟา้ ในองค์กร 10การอนุรกั ษส์ ิ่งแวดลอ้ มสามารถกระทำได้อย่างไร ก.หลกี เลยี่ งการใชว้ ัสดตุ ่าง ๆท่ีเปน็ ของเสียอนั ตรายต่อส่ิงแวดลอ้ ม ข.หลกี เลีย่ งการใชว้ สั ดุทีเ่ ป็นของเสียและก่อใหเ้ กดิ มลพษิ ต่อสงิ่ แวดลอ้ ม ค.กำหนดมาตรการในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติท่ีใช้แลว้ หมดไป ง.การบำบดั ของเสยี ก่อนปล่อยออกส่สู งิ่ แวดลอ้ ม จ.ถกู ทกุ ขอ้ 11.ความหมายท่ีถกู ต้องทส่ี ดุ ของการอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติคือขอ้ ใด ก.ไมน่ ำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ ข.ดำรงไว้ซึง่ ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยูต่ ลอดไป ค.การรู้จกั เพ่ิมพูนทรพั ยากรธรรมชาตใิ หม้ มี ากทสี่ ุด ง.การรู้จักใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งประหยดั และใชใ้ ห้เกิดประโยชน์มากทีส่ ุด 12.จดุ ประสงคส์ ำคญั ของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตคิ ือข้อใด ก.ใหท้ กุ คนรักธรรมชาติ ข.ให้สะสมทรัพยากรธรรมชาติ

189 ค.ใหม้ ีทรัพยากรธรรมชาตไิ วใ้ หค้ นร่นุ หลงั ง.ใช้ทรพั ยากรธรรมชาติใหเ้ กิดประโยชน์มากท่ีสุด 13.ขอ้ ใดไม่ใช่วิธีการอนรุ กั ษ์ส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ ก.ใชท้ รัพยากรอยา่ งประหยัด ข.ใช้สงิ่ อน่ื ทดแทนทรัพยากรธรรมชาตทิ ีห่ ายาก ค.ปรบั ปรงุ ทรพั ยากรในท้องถิ่นใหม้ ีสภาพที่ดีขนึ้ ง.ซอ้ื ทรัพยากรทห่ี ายากกักตุนไว้ 14.ข้อใดเป็นการรักษาส่งิ แวดล้อมในท้องถ่นิ ใหม้ รี ะบบนเิ วศทีด่ ี ก.การลดจำนวนประชากรของสิง่ มีชีวติ ข.การควบคุมผูผ้ ลติ และผู้บริโภค ค.การเพาะปลูกแบบดง้ั เดิม ง.การสร้างเขอื่ นกกั เกบ็ นำ้ 15.ขอ้ ใดใช้ทรพั ยากรนำ้ ไดค้ ุ้มค่าท่สี ุด ก.รดน้ำตน้ ไม้ทกุ เท่ยี งคนื ข.เปิดนำ้ ทงิ้ ไว้ขณะแปรงฟัน ค.นำ้ ท่เี หลือจากซกั ผา้ นำไปรดนำ้ ตน้ ไม้ ง.ด่ืมแตน่ ้ำอัดลม 16.ขอ้ ใดคือทรพั ยากรธรรมชาตทิ ่ีหายาก ก.ตน้ มะขาม ข.ตน้ กหุ ลาบ ค.ต้นสกั ง.ต้นมะม่วง 17.ข้อใดคือการใชส้ ่งิ อนื่ ทดแทนทรพั ยากรทห่ี ายาก ก.การใช้ไม้ไผม่ าทำเก้าอี้แทนไมส่ กั ข.การเอาเสื้อผา้ ท่ีไม่ใชแ้ ล้วไปบริจาคให้ผ้ดู อยโอกาส ค.นำหนังสือทใี่ ชแ้ ลว้ ไปบรจิ าคให้หอ้ งสมุด ง.ใชถ้ ุงผา้ แทนถงุ พลาสติก 18.ผู้ท่มี สี ่วนในการอนุรกั ษส์ ่ิงแวดล้อมและทรัพยากรในจังหวัดคือบคุ คลใด ก.เจ้าหน้าทป่ี า่ ไม้ ข.ผูว้ า่ ราชการจังหวัด ค.ผนู้ ำชุมชน ง.ทกุ คนในจงั หวัด 19.ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษป์ ่าไม้ได้อยา่ งไรบ้าง ก.รว่ มกันปลูกป่าทดแทน ข.ประหยดั นำ้

190 ค.ใช้สง่ิ ของอยา่ งประหยดั และคุม้ ค่า ง.ถูกทุกขอ้ 20.การให้ทุกคนมีส่วนรว่ มในการอนรุ ักษ์สงิ่ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาตกิ ่อใหเ้ กดิ ผลดอี ย่างไร ก.เกิดความร้สู กึ วา่ เปน็ เจ้าของร่วมกนั ข.เพิม่ ภาระหนา้ ที่ของคนในชุมชน ค.ประหยัดงบประมาณ ง.มีประชากรตง้ั ถิ่นฐานอยา่ งหน่าแนน่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook