Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 04

แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 04

Published by จุตติ ประนมศรี, 2022-06-04 12:49:56

Description: แบบฟอร์มแผนการสอนพลังงาน 04

Search

Read the Text Version

132 แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ ชือ่ วชิ า พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม รหัสวชิ า 20001-1002 ทฤษฎี 2 คาบ หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) -สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ 1/5 -สาขาการบัญชี 1/6 -สาขาการตลาด 1/7 -สาขาการโรงแรม 1/8 -สาขาการโรงแรม 1/9 -สาขาเทคนิคคอมพวิ เตอร์ 2/5 หนว่ ยท่ี 4 ผลกระทบการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม จดั ทำโดย นายจุตติ ประนมศรี

133 หนว่ ยการเรียนร้แู ละสมรรถนะประจำหน่วย ชือ่ หน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 1 ความรู้ ทกั ษะ คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกับ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1.พลงั งาน 1.มที กั ษะในเรอื่ งของ 1.ขยนั และสงิ่ แวดลอ้ ม 2.ประหยัด 2.ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน 3.ซ่อื สัตย์ 3.สิ่งแวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ 4.มวี นิ ยั 4.ความสัมพันธร์ ะหวา่ งพลงั งาน สง่ิ แวดล้อม 5.สภุ าพ ทรัพยากรธรรมชาติและ 2.มที กั ษะในกจิ กรรม 6.สะอาด สง่ิ แวดลอ้ ม กลุ่ม 7.สามัคคี 5.ความสัมพนั ธร์ ะหว่างพลังงาน 3.สามรถนำเสนองานใน 8.มนี ้ำใจ กับระบบนเิ วศ กล่มุ ได้อยา่ งดี 6.วิกฤตการใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ 4.มอี งค์ความร้ใู นเรอ่ื งท่ี ส่ิงแวดลอ้ ม เรียน 7.ผลกระทบทเ่ี กิดจากปญั หา สิ่งแวดลอ้ ม 8.แนวทางการอนุรักษ์และพัฒนา พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม หนว่ ยที่ 2 1. พลังงานสิน้ เปลือง 1.มีทักษะในเรื่องของ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ แหลง่ กำเนิดพลังงาน 2. พลงั งานทดแทน พลังงานสนิ้ เปลอื งและ 2. ซื่อสตั ย์สุจรติ พลังงานทดแทน 3. มีวินัย 2.มที กั ษะในกจิ กรรมกลุ่ม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 3.สามรถนำเสนองานใน 5. อยู่อยา่ งพอเพียง กลมุ่ ได้อยา่ งดี 6. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 4.มีองค์ความรใู้ นเรื่องที่ 7. รักความเป็นไทย พลังงานสนิ้ เปลืองและ 8. มีจิตสาธารณะ พลงั งานทดแทน

134 หน่วยการเรียนรู้และสมรรถนะประจำหน่วย(ตอ่ ) ช่ือหน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 3 ความสัมพันธข์ องพลงั งาน ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มกับการดำรงชีวติ 1.พลงั งานแปรรูป 1.มที กั ษะในเร่ืองของ 1.ขยนั 2.ประหยดั หน่วยที่ 4 2.บทบาทของมนุษยใ์ นระบบ พลังงานแปรรปู 3.ซอื่ สัตย์ ผลกระทบการใช้พลงั งาน 4.มีวินยั ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม 2.มีทักษะในกจิ กรรมกลุ่ม 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง ส่ิงแวดล้อม 6. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 3.การใช้พลงั งานใน 3.สามรถนำเสนองานใน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจิตสาธารณะ ชีวิตประจำวัน กลมุ่ ได้อยา่ งดี 4.หน่วยวดั พลังงาน 4.มีองค์ความรู้ในเรื่อง 5.พลังงานไฟฟา้ พลังงานที่ขาด พลังงานแปรรปู ท่ีใชใ้ น ไม่ได้ในยุคโลกาภวิ ฒั น์ ยานพาหนะและประกอบ 6.พลังงานเช้ือเพลงิ ทีใ่ ช้สำหรับ อาหาร ยานพาหนะ 5.มีความรู้เรื่องมนุษย์กับ 7.พลงั งานในการประกอบอาหาร การใชป้ ระโยชนจ์ าก 8.มนษุ ย์กับการใชป้ ระโยชนจ์ าก พลังงาน พลงั งาน 1.ระดับปัญหาสง่ิ แวดล้อม 1.มที กั ษะในเร่ืองของปัญหา 1.ขยัน 2.ผลกระทบต่อสภาพภมู ปิ ระเทศ สิ่งแวดลอ้ ม 2.ประหยัด และทรัพยากรดิน 2.มีทักษะในกจิ กรรมกลุ่ม 3.ซอ่ื สตั ย์ 3.ผลกระทบต่ออากาศและเสียง 3.สามรถนำเสนองานใน 4.มวี ินยั 4.ผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำ กลุ่มได้อย่างดี 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 5.ผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลก 4.มอี งค์ความรูใ้ นเร่ือง 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน ร้อน ผลกระทบต่ออากาศและ 7. รกั ความเป็นไทย 6.ผลกระทบต่อการลดลงของชนั้ เสียง5.มีความรเู้ รื่องมนุษย์ 8. มจี ติ สาธารณะ โอโซน (O3) ในชนั้ บรรยากาศ กับผลกระทบตอ่ การลดลง 7.ผลกระทบต่อการสูญเสยี ความ ของช้นั โอโซน (O3) ในชน้ั หลากหลายทางชวี ภาพ บรรยากาศ 8.ผลกระทบต่อการเกดิ มลทัศน์

135 หนว่ ยการเรยี นร้แู ละสมรรถนะประจำหนว่ ย(ต่อ) ชอ่ื หน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 5 หลักและวิธีการการอนรุ ักษ์ ความรู้ ทกั ษะ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1.ขยัน และสิ่งแวดลอ้ ม 1. ความหมายของการอนุรักษ์ 1.มีทักษะในเรื่องของการ 2.ประหยดั 3.ซอ่ื สตั ย์ หน่วยท่ี 6 2. สถานการณก์ ารใชพ้ ลงั งาน อนุรักษ์พลังงาน 4.มีวินยั การปอ้ งกนั และการแก้ไข 5. อยอู่ ย่างพอเพียง ปัญหาพลงั งานและ 3. จิตสำนึกในการอนุรกั ษ์ 2.มที กั ษะในกิจกรรมกลุ่ม 6. ม่งุ ม่ันในการทำงาน สิง่ แวดล้อม 7. รักความเปน็ ไทย พลงั งาน 3.สามรถนำเสนองานใน 8. มีจติ สาธารณะ 4. วิธกี ารเบอ้ื งตน้ ในการอนรุ ักษ์ กลุม่ ได้อยา่ งดี 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอ่ื สัตย์สุจริต พลังงาน 4.มีองค์ความรูใ้ นเร่ือง 3. มวี ินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. การปรบั ปรงุ อาคารเพ่ือการ วิธกี ารเบ้ืองต้นในการ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน อนรุ กั ษ์พลังงาน อนรุ กั ษ์พลังงาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ 6. การอนรุ ักษ์พลงั งานดา้ นต่าง ๆ 5.มีความร้เู รื่องมนุษย์กับ 7. การใชแ้ หล่งพลังงานอยา่ งมี แนวทางการจดั การ ประสิทธิภาพ ส่งิ แวดล้อมแบบยัง่ ยืน 8. หลกั การการจดั การ 6.มีทักษะตามวตั ถุประสงค์ ส่งิ แวดลอ้ ม และวธิ ีการอนรุ ักษ์ 9. แนวทางการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอ้ มแบบยัง่ ยืน ส่ิงแวดลอ้ ม 10. ความร่วมมอื ในการจัดการ สิ่งแวดลอ้ ม 11. วตั ถุประสงค์และวิธีการ อนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอ้ ม 1. ปัญหาพลงั งานและ 1.มีทกั ษะในเร่ืองของการ สิ่งแวดล้อม ปัญหาพลงั งานและ 2. การวิเคราะหร์ ะบบสิ่งแวดล้อม ส่ิงแวดลอ้ ม 3. การป้องกันและวธิ แี ก้ไขปัญหา 2.มีทกั ษะในกิจกรรมกลุ่ม พลงั งานสง่ิ แวดลอ้ ม 3.สามรถนำเสนองานใน 4.การประเมินผลกระทบ กลุม่ ได้อย่างดี ส่ิงแวดลอ้ ม 4.มอี งค์ความรูใ้ นเรื่องการ ปอ้ งกนั และวิธีแก้ไขปัญหา พลังงานสิง่ แวดลอ้ ม 5.มีความร้เู รื่องการ ประเมนิ ผลกระทบ สงิ่ แวดลอ้ ม

136 หนว่ ยการเรียนรแู้ ละสมรรถนะประจำหนว่ ย(ต่อ) ช่อื หน่วย สมรรถนะ หน่วยท่ี 7 ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ กฎหมายและนโยบาย พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ 1. ท่มี าของกฎหมายอนรุ กั ษ์ 1.มที กั ษะในเรื่องของ 1.ขยนั และสิง่ แวดลอ้ ม 2.ประหยัด พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ กฎหมายอนุรักษ์พลังงาน 3.ซ่อื สตั ย์ 4.มวี ินัย สิง่ แวดล้อม ทรพั ยากรธรรมชาติและ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 6. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 2. กฎหมายการอนรุ ักษ์พลังงาน ส่ิงแวดลอ้ ม 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 3. กฎหมายสิ่งแวดล้อม 2.มีทักษะในกิจกรรมกลมุ่ 9.สุภาพ 10.สะอาด 4. กฎหมายสงวนและค้มุ ครอง 3.สามรถนำเสนองานใน 11.สามคั คี 12.มีนำ้ ใจ สตั วป์ ่า กลุ่มได้อยา่ งดี 5. กฎหมายสิ่งแวดล้อมอนื่ ๆ 4.มีองค์ความรู้ในเร่ือง 6. ผลบงั คบั ทางกฎหมายของ ปัญหาการใช้กฎหมาย พระราชบัญญตั ิ พลังงาน 7. ปญั หาการใชก้ ฎหมายพลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ทรพั ยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอ้ ม สิ่งแวดลอ้ ม 5.มีความรูเ้ รื่องมนุษยก์ บั 8. นโยบายและแผนเกีย่ วกับ แนวทางการจัดการ พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมแบบยง่ั ยืน สง่ิ แวดลอ้ ม 6.นโยบายและแผนเกี่ยวกับ พลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดลอ้ ม

137 การสอนออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom

138 การสอนออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom การสอบออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom

139 แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 4 สอนครั้งท่ี 8-9 ชอ่ื หน่วย ผลกระทบการใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ ชว่ั โมงรวม 4 สิง่ แวดลอ้ ม ชอื่ เรื่อง ผลกระทบการใชพ้ ลงั งาน จำนวนชั่วโมง 2 1.สาระสำคญั 1. ระดบั ปัญหาสง่ิ แวดล้อม 2. ผลกระทบต่อสภาพภมู ปิ ระเทศและทรัพยากรดิน 3. ผลกระทบต่ออากาศและเสยี ง 4. ผลกระทบต่อทรัพยากรนำ้ 5. ผลกระทบต่อการเกดิ ภาวะโลกรอ้ น 6. ผลกระทบต่อการลดลงของชั้นโอโซน (O3) ในชนั้ บรรยากาศ 7. ผลกระทบต่อการสญู เสียความหลากหลายทางชวี ภาพ 8. ผลกระทบต่อการเกดิ มลทัศน์ 2.สมรรถนะประจำหน่วย เพ่ือให้ผู้เรยี นศึกษาผลกระทบของการใช้พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือ เปน็ แนวทางการปฏิบัติท่ีถูกต้องต่อการใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมและสง่ิ แวดล้อม ในชีวติ ประจำวนั 3.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ เม่อื เรยี นจบหนว่ ยการเรียนน้ี ผู้เรยี นสามารถ 1. อธบิ ายปัญหาส่งิ แวดล้อมได้ถกู ต้อง 2. แยกระดับปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มได้ถูกต้อง 3. อธบิ ายผลกระทบการใชพ้ ลงั งานตอ่ สภาพแวดลอ้ มตา่ ง ๆ ไดถ้ ูกต้อง 4. อธิบายแนวทางแกไ้ ขปญั หาอันเกิดจากผลกระทบการใชพ้ ลงั งานไดถ้ ูกต้อง 5. อธิบายผลกระทบต่อการลดลงของชนั้ โอโซน (O3) และภาวะโลกร้อนได้ถูกตอ้ ง 6. อธบิ ายแนวทางแกไ้ ขปัญหามลทัศน์ในทอ้ งถ่นิ ตนเองไดถ้ ูกต้อง 3.2 ดา้ นทกั ษะ 1.มีทกั ษะในเร่ืองของปัญหาสิง่ แวดล้อม 2.มีทกั ษะในกจิ กรรมกลุ่ม 3.สามรถนำเสนองานในกลุ่มได้อยา่ งดี 4.มอี งคค์ วามรู้ในเร่ืองผลกระทบต่ออากาศและเสยี ง5.มคี วามรเู้ รื่องมนุษยก์ บั ผลกระทบต่อการลดลงของ ชัน้ โอโซน (O3) ในช้ันบรรยากาศ

140 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ 1.ขยัน 2.ประหยดั 3.ซ่อื สัตย์ 4.มีวินัย 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 3.4 หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านสงั คม -รู้จักแบง่ หน้าที่รับผิดชอบในการทำงาน -แลกเปลี่ยนเรียนรจู้ ากเพ่ือนครู ดา้ นสงิ่ แวดล้อม -มคี วามรู้ในการเลอื กใชว้ สั ดุอปุ กรณ์ในทอ้ งตลาดมาใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม -มคี วามรเู้ ก่ียวกบั การรักษาธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านวัฒนธรรม -มีความรู้ความเข้าใจในภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ มาใช้ในการเรยี นรู้ และ ผลติ ชิ้นงาน 4.ความรพู้ นื้ ฐานทค่ี วรมีก่อนเรียน -ความรดู้ า้ นพลังงานสน้ิ เปลือง -ความร้ดู ้านการทำกิจกรรมกล่มุ -ความรู้ด้านการนำเสนองาน 5.เนื้อหาสาระการเรยี นรู้ ดังทกี่ ลา่ วมาแล้ววา่ พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมมีความสัมพนั ธ์ การใชพ้ ลงั งานหรือการใช้ ทรัพยากรธรรมชาตโิ ดยทางตรงหรือทางอ้อมย่อมมผี ลกระทบต่อการใช้ท้ังส้ิน โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ ใช้แล้วหมดไปในรปู ของพลังงานเช้ือเพลงิ ฟอสซิล นำไปสู่ผลกระทบในระดับท้องถิ่น ระดับภูมภิ าค และระดับโลก ซ่ึง มผี ลต่อความเปน็ อยู่ของสงิ่ มีชีวิตบทโลก ไดแ้ ก่ ผลกระทบตอ่ ดิน นำ้ อากาศ เสียง มลทศั น์ หรือระดบั โลก เช่น ภาวะ โลกรอ้ น ภาวการณ์สูญเสยี โอโซน (O3) ในช้นั บรรยากาศของโลกและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพของโลก ดังน้ัน ในการใชท้ รพั ยากรต้องคำนึงถึงผลกระทบท่ีจะเกดิ ขนึ้ วา่ เกินกว่าทีธ่ รรมชาตจิ ะคืนสู่สมดุลธรรมชาติได้ เองมากนอ้ ยแค่ไหน ซึ่งการพฒั นาทกุ อยา่ งต้องควบคู่กับการอนรุ ักษ์เสมอหรือการพัฒนาต้องไม่ทำลายระบบนเิ วศเดิม

141 แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 4 ชอ่ื หน่วย ผลกระทบการใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม สอนครัง้ ที่ 8-9 ชอ่ื เรือ่ ง ผลกระทบการใชพ้ ลังงาน ชว่ั โมงรวม 4 จำนวนชัว่ โมง....... 6.กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันสนใจปัญหา จูงใจผเู้ รียน (motivation) 1. ตรวจเรยี กรายชือ่ การแต่งกาย 2. แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้วชิ าพลังงาน ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม/การวัดผลและเกณฑ์การประเมนิ ผล/โดย เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นซักถาม 3. บอกจุดประสงค์การเรียนหนว่ ยที่ 1 ความรเู้ บอ้ื งต้นเกีย่ วกับพลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม 4. ให้ทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยที่ 1 (10 นาท)ี 5. สนทนา ซักถามจากภาพข่าวเก่ยี วกับสง่ิ แวดล้อมและเหตกุ ารณ์ปัจจบุ ันจากส่อื ต่าง ๆ ใหผ้ เู้ รยี นแสดงความ คิดเห็น ขั้นศกึ ษาข้อมลู (information) 1. อธบิ ายความหมายของทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ มและพลังงาน ซกั ถามให้ผเู้ รยี นยกตวั อยา่ ง ประกอบคำอธบิ าย 2. อธบิ ายความร้เู บื้องตน้ เกี่ยวกับพลังงานและสิง่ แวดลอ้ มกบั ระบบนิเวศ และสาระการเรยี นรู้ตามหน่วย การเรยี น โดยใช้ Power Point ประกอบ พรอ้ มการซักถาม 3. ใหท้ ำกิจกรรมใบงานท่ี 1 โดยผูส้ อนจะตรวจสอบและสรุปในชัว่ โมงถัดไป 4. ใหผ้ ูเ้ รียนซักถามข้อสงสยั หรอื นำไปสู่การสรุป ขั้นนำขอ้ มูลมาทดลองใช้ (application) 1. ให้รว่ มกันสรุปสาระสำคญั โดยการซักถาม 2. ใหท้ ำแบบทดสอบหลังเรียน ข้นั สำเรจ็ ผล (progress) 1.สรปุ เกณฑ์การประเมนิ ผล 2.ถา้ ผู้เรียนไมผ่ ่านควรมีการซ่อมเสริม

142 แผนการจัดการเรียนรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 4 ช่อื หนว่ ย ผลกระทบการใช้พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม สอนครงั้ ท่ี 8-9 ช่ือเรอื่ ง ผลกระทบการใช้พลังงาน ชัว่ โมงรวม 4 จำนวนชัว่ โมง....... 7.สือ่ การเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ สอื่ ส่งิ พมิ พ์ - หนงั สอื เรียนวชิ าพลงั งาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม ของสำนกั พิมพ์ศนู ย์ส่งเสรมิ วิชาการ (2562) - ขา่ วสารเก่ยี วกบั ทรพั ยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม และพลังงาน ที่เปน็ ข่าวในสอ่ื ตา่ ง ๆในเหตกุ ารณ์ ปจั จุบัน สอื่ โสตทัศน์ Power Point 8.เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) - ใบเน้อื หาเร่อื ง ความรเู้ บอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม 9.การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่ืน - บรู ณาการกับวิชาพลังงานและสงิ่ แวดล้อม 10.การวดั และประเมนิ ผล 1. การวัดผล 1.1 จากแบบทดสอบหลงั เรยี น 1.2 จากกจิ กรรมกลมุ่ ตามใบงาน 1.3 จากการสังเกตพฤตกิ รรม 1.4 จากการนำเสนองานกลุ่ม 1.5 จากแบบทดสอบออนไลน์ 2. เคร่ืองมือวัดและประเมนิ 2.1 ใบงาน 2.2 แบบทดสอบออนไลน์ 2.3 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ ผล 3.1 จากแบบประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคลและกลุม่ 3.2 จากคะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น 3.3 แบบประเมินคุณธรรมและจริยธรรม

143 แผนการจัดการเรยี นรมู้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 4 ช่อื หน่วย ผลกระทบการใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม สอนครง้ั ท่ี 8-9 ชอ่ื เรื่อง ผลกระทบการใชพ้ ลังงาน ชวั่ โมงรวม 4 จำนวนช่ัวโมง....... 1.บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 11.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ จำนวนเนื้อหา มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับจำนวนเวลา เพราะเหตุใด............................................................... การเรยี งลำดบั เนอ้ื หา มคี วามเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับความเขา้ ใจของผู้เรียน เพราะเหตุใด................................................ การนำเขา้ สู่บทเรียน มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกบั เนื้อหาแต่ละหวั ขอ้ เพราะเหตุใด...................................................... วธิ กี ารสอน มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกบั เนอ้ื หาแต่ละหวั ขอ้ เพราะเหตุใด..................................................... สื่อการสอน มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับเน้ือหาแต่ละหัวข้อ เพราะเหตุใด...................................................... งานทีก่ ำหนดใหท้ ำ มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับเนื้อหา/เวลา/วตั ถปุ ระสงค์ เพราะเหตุใด........................................... การนำเสนอ มคี วามเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกบั เนอ้ื หา/เวลา/วตั ถปุ ระสงค์ เพราะเหตุใด........................................... การประเมนิ ผล มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกบั วัตถุประสงคห์ นว่ ย เพราะเหตใุ ด....................................................... อ่ืน ๆ ............................................................................................................................. .........................................

144 เนอ้ื หาหน่วยท่ี 4 ผลกระทบการใช้พลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม การผลติ พลังงานไฟฟ้าจากเช้ือเพลิงสน้ิ เปลื้อง 1. ถ่านหนิ การใช้ถ่านหินลกิ ไนตม์ าเปน็ เชอื้ เพลงิ ผลิตกระแสไฟฟ้า หรืออตุ สาหกรรมตา่ งๆ ถงึ แม้จะไดป้ ระโยชน์ อย่างมากมาย แต่ถา่ นหินก่อใหเ้ กิดมลภาวะต่อสง่ิ แวดลอ้ มหลายด้าน เรม่ิ ตงั้ แตก่ ารทำเหมืองและการเผา ไหม้ เน่อื งจากสมบัติของถ่านหินประกอบด้วย กา๊ ซซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ (SO2) ที่เปน็ มลพษิ ทางอากาศสง่ ผลให้ เกิดฝนกรด กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) และกา๊ ซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ซึง่ เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีผล ตอ่ การเกิดสภาวะโลกรอ้ น ผลกระทบต่อส่งิ แวดล้อมจากการผลติ ไฟฟา้ จากถา่ นหนิ มดี ังน้ี 1. เกิดน้ำเสียจากการทำบ่อเหมอื ง สง่ ผลต่อมลภาวะแหล่งนำ้ ใต้ดนิ คือ เกิดนำ้ กระดา้ ง มสี าร แขวนลอย และมีสารประกอบพวกซลั เฟตสงู มาก 2. มลภาวะทางอากาศ ทำให้เกดิ ฝนุ่ ละอองลอยอยู่ทั่วไปรอบ ๆบรเิ วณเหมือง และเกิดก๊าซไอเสียตา่ ง ๆ จากการเผาไหม้ทจี่ ะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไดแ้ ก่ ก๊าซซลั เฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) 3. ปัญหาตอ่ ระบบนเิ วศ เมือ่ ขดุ หนา้ ดินทิ้งไป เป็นการทำลายป่าไม้ ทำให้ป่าไม้เสยี สมดุลทาง ธรรมชาติ และเกดิ ปญั หาดนิ ขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำการเพาะปลูกไม่ได้ 4. ตอ้ งอพยพราษฎร เพราะตอ้ งใช้บรเิ วณกว้างในการเปิดหนา้ เหมือง 5. เกิดก๊าซจากการเผาไหม้ถ่านหนิ เชน่ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) และสารไฮโดรคารบ์ อน นอกจากนั้นยัง มอี อกไซดข์ องไนโตรเจนและกำมะถนั ทำให้เกดิ ภาวะการเปน็ กรดต่อส่ิงแวดล้อม 2. น้ำมนั การใช้น้ำมนั เปน็ เช้อื เพลงิ ในการผลิตไฟฟา้ สง่ ผลกระทบตอ่ สิ่งแวดล้อม ต้ังแต่กระบวนการการขุดเจาะ และผลิตนำ้ มันปโิ ตรเลยี ม โดยจะก่อใหเ้ กดิ ผลกระทบทางด้านส่งิ แวดลอ้ มดังนี้ 1. ผลท่ีจะเกิดข้ึนจากวสั ดทุ ใ่ี ช้หลอ่ ลน่ื ในการขุด (Drilling fluid) 2. การระบายน้ำเค็มท่มี ีความเคม็ สูงมากจากหลุมเจาะ 3. มสี ารบางประเภททเี่ ปน็ พิษปะปนออกมาด้วย เช่น ปรอท แคดเมียม โครเมยี ม เป็นต้น 4. การเกิดอบุ ัติเหตุจากการระเบดิ ของแท่นขุดเจาะส่งผลใหเ้ กิดการร่ัวไหลของน้ำมนั มีดังน้ี 4.1 ทำใหบ้ รเิ วณน้ันมีการปนเป้ือนน้ำมัน มผี ลให้กา๊ ซออกซเิ จนระหวา่ งอากาศและน้ำทะเล มี การถา่ ยเทไดน้ ้อย ทำใหส้ ัตว์นำ้ ขาดออกซิเจนและรากต้นไมใ้ นป่าชายเลนไมส่ ามารถหายใจได้จึงเป็นการทำลาย ระบบนเิ วศป่าชายเลน 4.2 คราบนำ้ มนั ท่ีมีใหท้ ้องทะเลไปติดตามร่างกายของสตั ว์ อุดตันจมูกปากหรือระคายเคืองตา คราบนำ้ มนั ที่เคลือบผิวหนังจะถกู ดูดซมึ เขา้ สู่รา่ งกายไปยับยง้ั การสบื พนั ธุ์และการเจรญิ เตบิ โต โดยเฉพาะไข่นกจะ ไมส่ ามารถฟักออกเป็นตวั ได้

145 4.3 การปนเปื้อนของสารพษิ นำ้ มนั มีความเป็นพิษต่อทางเดินอาหาร ตบั อ่อน ไต ปอด ระบบ ประสาทสว่ นกลาง และมผี ลระยะยาวต่อระบบสบื พันธ์ุ โดยนำ้ มนั สามารถเขา้ ส่ตู วั สตั ว์ได้ทงั้ ทางการหายใจ (ไอ ระเหย) ซมึ ผา่ นทางผิวหนังและทางปากสตั วจ์ ะมีการสะสมสารพษิ ในตัว เมื่อนำไปเป็นอาหารกเ็ กิดเปน็ พษิ ต่อ ผบู้ ริโภค 4.4 คราบน้ำมันปดิ กั้นแสงสว่างท่ีส่องลงมาส่พู ้นื ทอ้ งน้ำ มีผลต่อขบวนการสังเคราะห์แสงของพชื นำ้ และมี ผลต่อสัตว์หนา้ ดิน แนวปะการงั และแหลง่ หญ้าทะเล 4.5 คราบนำ้ มันเมื่อเคล่ือนตัวเขา้ สู่ชายฝง่ั จะสง่ ผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝ่งั มผี ลต่อแหล่งท่องเทยี่ ว รวมถงึ การทำประมงการเพาะเล้ียง 5 ส่วนของการจัดการกบั บ่อ เมือ่ สิน้ สุดการนำน้ำมันปโิ ตรเลยี มมาใชป้ ระโยชน์ พืน้ ที่ทีอ่ ยู่โดยรอบบ่อน้ำมัน กอ่ ให้เกิดปญั หาภาวะมลพิษทางอากาศ เน่ืองจากมปี ริมาณของเถ้าและกำมะถนั สูง เมอ่ื ถูกเผาไหม้จะก่อให้เกิดก๊าซ ซลั เฟอร์ไดออกไซดล์ อยอยู่ในบรรยากาศ เม่ือรวมตวั กับความช้นื ในอากาศตกลงมาเปน็ ฝน เรยี กวา่ ฝน กรด นอกจากนกี้ ารเผาไหม้ของเช้อื เพลงิ ยงั ทำให้เกดิ ออกไซด์ของไนโตรเจน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ คาร์บอนมอนอกไซด์อกี ดว้ ย รปู ท่ี 5.1 ผลกระทบที่เกดิ จากเหตกุ ารณ์น้ำมนั รว่ั ที่อา่ วเม็กซโิ ก พ.ศ. 2553 ทม่ี า: http://www.clipmass.com/story/30242 3. ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาตเิ ปน็ เช้อื เพลิงท่ใี ห้พลังงานสะอาด มีคณุ สมบัตทิ ไี่ มส่ ่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เชน่ ไมม่ ี สี ไม่มกี ลิน่ และสามารถเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ การผลิตไฟฟ้าจาก กา๊ ซธรรมชาติจะก่อใหเ้ กิดผลกระทบต่อ สิ่งแวดลอ้ มคือ 1. ในการผลติ ไฟฟ้าต้องใชน้ ้ำเพอื่ หล่อเยน็ เคร่ืองควบแน่นไอน้ำ เมื่อปล่อยนำ้ หลอ่ เย็นลงแหล่งน้ำกจ็ ะมี ผลตอ่ อณุ หภูมิของนำ้ ในแหลง่ นำ้ ทำใหส้ ิง่ มีชวี ิตในน้ำตาย ปลาซึ่งสามารถอาศยั อยู่ในน้ำไดใ้ นอณุ หภูมิไม่ เกนิ 33 องศาเซลเซียส

146 2. ก่อใหเ้ กดิ มลภาวะในอากาศ คือ ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซซลั เฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และ กา๊ ซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ถูกปล่อยออกมา 4. น้ำมนั เตา การผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยนำ้ มนั เตา ก่อใหเ้ กดิ ปัญหาภาวะมลพิษทางอากาศค่อนข้างมาก เนอ่ื งจากมี ปริมาณของเถา้ และกำมนั ถนั สงู ถึงแมว้ า่ ทกุ โรง จะมีเคร่ืองกำจดั ฝุ่นละอองแล้วก็ตาม แตก่ ็ยงั ไม่สามารถลด ปรมิ าณกำมะถันได้ ซ่งึ เมื่อถูกเผาไหมจ้ ะก่อใหเ้ กิดกา๊ ซซัลเฟอร์ไดออกไซดล์ อยอยู่ในบรรยากาศและกา๊ ซนเ้ี มื่อ รวมตวั กับความชน้ื ในอากาศตกลงมาเป็นฝน เรยี กวา่ ฝนกรด ซึ่งทำลายสภาพนเิ วศอยา่ งกว้างขวาง นอกจากน้ี การเผาไหม้ของเชื้อเพลงิ ยงั ทำให้เกิดออกไซดข์ องไนโตรเจน กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ และคารบ์ อนมอนอกไซด์ อกี 5. นิวเคลยี ร์ การนำพลังงานนิวเคลยี รม์ าใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ในปัจจุบนั ไดม้ กี ารพฒั นาอย่างมาก เพราะมีผลกระทบ ด้านบวก ดังนี้ 1. ทางดา้ นเศรษฐกจิ ทำใหป้ ระเทศได้ไฟฟ้าที่มรี าคาถูก เพราะเชอ้ื เพลงิ มรี าคาถูกกว่าชนดิ อ่ืนเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นากจิ การภาคอุตสาหกรรม ภาคธรุ กจิ ลด การนำเข้าเชอ้ื เพลิงทน่ี ำมาผลิต กระแสไฟฟ้า เช่น ก๊าซธรรมชาติ และนำ้ มนั 2. ด้านส่ิงแวดลอ้ ม เป็นพลงั งานสะอาด ไม่มกี ารปล่อยก๊าซเรือนกระจกสสู่ งิ่ แวดล้อมโดยใช้เทคโนโลยี ช้ันสงู และการบรหิ ารจดั การท่มี ีประสิทธิภาพ ผลกระทบจากการใช้พลงั งานนิวเคลยี ร์ ดา้ นลบตอ่ ส่งิ แวดล้อม ดังน้ี 1. ตอ้ งหาที่เก็บและจดั การกับแท่งเช้ือเพลงิ ฯ ทใี่ ช้แลว้ เพราะแท่งเชอ้ื เพลงิ มีอนั ตรายจากสาร กมั มนั ตภาพรังสี 2. มคี ่าใช้จ่ายมากในการปลดระวางหลังเลกิ ใช้แหล่งผลิต 3. แทง่ เช้อื เพลงิ ไม่สามารถนำกลบั มาใช้ใหม่ได้ 4. เสย่ี งต่อการเกิดอบุ ัติเหตุ เชน่ การรัว่ ของสารกัมมันตภาพรังสีเม่ือเกดิ อุบตั ิเหตุ 5. ตอ้ งใชเ้ งนิ ลงทนุ ในการก่อสรา้ งสูง 6. จำเปน็ ต้องพฒั นาและเตรียมการเก่ียวกบั การจดั การกากกัมมันตรังสี การดำเนินงานด้านแผนฉุกเฉิน ทางรงั สี และมาตรการควบคุมความปลอดภัยเพ่ือป้องกันอุบัติเหตุ 7. การยอมรับของประชาชนยงั มีนอ้ ยในประเทศไทย และในอีกหลายประเทศ ผลกระทบจากการใช้พลังงานตอ่ สิ่งแวดล้อม พลังงานมีความสำคญั ในการพฒั นาประเทศรวมไปถงึ มีความสำคญั ต่อการดำรงชวี ิตประจำวันของ มนุษย์ ในปัจจบุ นั ภาคอุตสาหกรรมมกี ารขยายตัว จำนวนประชากรเพิ่มข้นึ ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงาน เพมิ่ ข้ึนตามไปด้วย ในการผลติ และการใช้พลังงานต่าง ๆ มีผลตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ในขณะเดียวกนั การใช้พลังงาน

147 ก็สง่ ผลกระทบตอ่ ทรัพยากรธรรมชาตสิ ง่ิ แวดลอ้ มและต่อสุขภาพอนามยั ของมนุษย์ หรอื มคี วามสำคัญต่อการดำรง ชวี ติ ประจำวัน จากทม่ี นษุ ย์เปน็ ผมู้ ีบทบาททสี่ ำคญั ท่สี ดุ ในการใช้พลังงานทีส่ ่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม คงหนีไมพ่ น้ สงิ่ ท่ีตามมา เช่น ปัญหามลพิษสิ่งแวดลอ้ ม ปญั หาทรพั ยากรธรรมชาติร่อยหรอ ปญั หา สง่ิ แวดลอ้ มเสอ่ื มโทรม ตลอดจนปัญหาผลกระทบจากปรากฏการณ์ต่างๆ ผลกระทบด้านสง่ิ แวดลอ้ มทเี่ กดิ จากการ ใช้พลังงาน ผลกระทบจากการใช้พลงั งานตอ่ สงิ่ แวดล้อมในกรณีการผลติ กระแสไฟฟ้า ในการผลิตกระแสไฟฟ้ามกี ารใช้พลงั งานจากแหลง่ ต่างๆ มีสดั ส่วนดังน้ี ก๊าซธรรมชาติประมาณร้อย ละ 72 รองลงมา ได้แก่ ถา่ นหินลกิ ไนตป์ ระมาณร้อยละ 18 พลงั น้ำประมาณร้อยละ 3 และน้ำมันประมาณ ร้อยละ 0.4 และนำกระแสไฟฟ้าเข้าจากต่างประเทศประมาณร้อยละ 6 แผนภมู ทิ ่ี 5.1 การใช้พลงั งานในการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2553 ท่ีมา: กรมพฒั นาพลังงานทดแทนและอนุรักษพ์ ลังงาน การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลงั งานหมุนเวยี น 1. พลังงานแสงอาทติ ย์ ในการใชพ้ ลงั งานแสงอาทิตย์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันมหี น่วยงานหลายๆหน่วยงานใหก้ าร สนับสนุน เพราะเปน็ พลังงานท่ีสะอาดและมีปริมาณท่ีเพียงพอ แตก่ ม็ ีการส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม คือ 1. การแยง่ ชงิ พ้ืนทเี่ กษตร เพราะมีการใช้พ้นื ท่ีจำนวนมากในการจัดวางแผงเซลลแ์ สงอาทิตย์ 2. ผลต่อทัศนยี ภาพ เน่ืองจากตอ้ งใช้เซลล์แสงอาทติ ยท์ ่มี ีขนาดใหญ่อาจบดบังส่วนต่าง ๆ ของพน้ื ที่ไป 3. สง่ ผลให้สง่ิ มีชีวติ ใกลเ้ คียงอพยพไปอยทู่ ่ีอาศัยแหลง่ ใหม่ 4. ราคาต้นทุนของเซลลแ์ สงอาทติ ยร์ าคาสงู เน่ืองจากยงั ไมม่ กี ารแขง่ ขันทางการตลาด

148 2. ชีวมวล โรงไฟฟ้าชวี มวลสง่ ผลกระทบต่อสิง่ แวดลอ้ มคือ 1. มลพษิ ทางอากาศ เชื้อเพลงิ ชีวมวลเมอื่ เผาไหม้ จะเป็นการเผาไหม้แบบไมส่ มบูรณ์ มีการฟุ้งกระจาย ของกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ กา๊ ซคารบ์ อนมอนนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ และกา๊ ซซัลเฟอร์ได ออกไซด์ รวมถึง ฝนุ่ ละออง เป็นต้น สง่ ผลกระทบต่อผ้ปู ่วยทเ่ี ป็นโรคหัวใจ และโรคปอด โรคหดื หอบ เกิดความ เสียหายตอ่ อาคารบ้านเรือนเกิดความเดอื ดรอ้ นรำคาญต่อประชาชน บดบงั ทศั นะวสิ ยั และเกดิ อุปสรรคในการ คมนาคมขนสง่ 2. นำ้ เสีย จากกล่นิ เหม็นของกระบวนการผลติ หากไมร่ ุนแรงก็มผี ลตอ่ ด้านการอุปโภคบรโิ ภค หากมี ความรนุ แรง ถงึ ต้องอพยพประชากรออกนอกพนื้ ที่ 3. พลงั งานลม ถึงแม้ว่าการใชพ้ ลังงานลมจะไม่กอ่ ให้เกดิ มลภาวะร้ายแรงใด ๆ ต่อสง่ิ แวดลอ้ ม เน่ืองจากพลงั งานลมเปน็ พลังงานบรสิ ุทธิ์ แต่การจะนำพลังงานจากลมมาผลติ กระไฟฟา้ ไดน้ ัน้ ต้องนำผ่านอุปกรณ์กงั หันลม ดังน้ันการใช้ กงั หันลมในการผลติ กระแสไฟฟา้ มีผลกระทบ ดังน้ี 1. ผลต่อทศั นยี ภาพ เนือ่ งจากต้องใชก้ ังหนั ขนาดใหญ่อาจบดบังสว่ นตา่ ง ๆ ของพื้นท่ีไป 2. การเกิดมลภาวะทางเสยี ง เม่ือใบพดั ขนาดใหญท่ ำงานจะเกดิ เสียงดังมาก รบกวนผอู้ ยู่ใกล้เคยี ง 3. การรบกวนคล่ืนวิทยุซง่ึ เกิดจากใบพดั ส่วนใหญท่ ำจากโลหะ เมื่อหมนุ ทำให้เกิดการรบกวนคลน่ื วิทยุ และโทรทัศน์ในระยะ 1-2 กิโลเมตร 4. ผลกระทบต่อระบบนเิ วศ เม่อื ตดิ ตั้งกงั หนั ลมขนาดใหญ่อาจทำใหส้ ่ิงมชี ีวิตใกล้เคียงอพยพไปอยู่ทีอ่ น่ื 4. พลังงานนำ้ พลังงานน้ำ คือ รูปแบบของการสรา้ งกำลงั โดยอาศัยแรงเคล่ือนท่ีของน้ำ การนำเอาพลงั งานน้ำมาผลติ กระแสไฟฟา้ ทำไดโ้ ดยการให้น้ำไหลจากทส่ี ูงลงสู่ที่ตำ่ พลงั งานศักย์ของน้ำซึง่ เกิดจากความเรง่ เนอ่ื งจากแรง ดึงดดู ของโลกถูกเปลีย่ นเปน็ พลงั งานจลน์ ด้วยการผันนำ้ เข้าท่อไปยงั กังหันนำ้ ดังน้ีการจะใช้พลังงานน้ำได้ จะตอ้ งมกี ารสรา้ งเขื่อนกกั เก็บน้ำ เพือ่ ให้ไดม้ วลของนำ้ ที่มีปริมาณมาก เม่ือมีการผลิตกระแสไฟฟา้ ด้วยพลงั งาน งานนำ้ จึงส่งผลกระทบต่อสิง่ แวดลอ้ ม ดงั นี้ 1. การสญู เสยี พ้ืนทีป่ ่าไม้เพ่อื ใช้เป็นอา่ งเก็บนำ้ เหนือเขอ่ื น 2. ประชาชนในพ้นื ทนี่ ้ำทว่ มตอ้ งอพยพย้ายท่ตี ้ังถนิ่ ฐานใหม่ 3. สัตว์ป่าสูญเสยี ท่ีอย่อู าศัยหรอื อาจสูญพันธุ์ไป 4. แร่ธาตุตา่ งๆ ท่มี ีอยู่ในพนื้ ท่ีอาจถูกทง้ิ ใหจ้ มอยู่ใตน้ ำ้ โดยไม่มีโอกาสนำข้นึ มาใช้ 5. ใช้เงินลงทนุ สงู ในการสร้างเข่อื นหรือพัฒนาแหล่งพลังงานจากนำ้ เพ่ือใหไ้ ด้ลกั ษณะภูมิประเทศท่ี เหมาะสม เช่น ตอ้ งการพ้นื ท่ีทม่ี ีระดบั ทอ้ งนำ้ ลึกๆ สำหรบั การสร้างเขื่อนสูงโดยทม่ี ีความยาวไมม่ ากนกั ซึ่งพ้นื ท่ี เหล่านมี้ กั จะอยใู่ นปา่ หรือชอ่ งเขาแคบ ๆ 6. การทแ่ี หล่งพลังงานจากน้ำอยูห่ ่างไกลจากชมุ ชน ทำให้ต้องลงทุนในเร่ืองของสายส่งไฟฟา้ และจะเกิด การสญู เสียพลงั งานในสายสง่

149 รปู ท่ี 5.2 ผลกระทบท่ีเกดิ จากเข่ือน ที่มา: http://www.anubanms.ac.th/webpage/602/60200/2.html 5. พลังงานความร้อนใต้พิภพ พลงั งานความร้อนใต้พภิ พจะเป็นพลงั งานได้เปล่าจากธรรมชาติ สามารถนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าท่ีมี ตน้ ทุนต่ำ การนำพลังงานชนิดนี้มาใชง้ าน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อมดงั น้ี 1 กา๊ ซพิษ เป็นก๊าซประเภทที่มอี นั ตรายต่อระบบการหายใจหากมีการสดู ดมเข้าไป ดงั นั้นจึงต้องมวี ิธีกำจัด กา๊ ซเหล่านีโ้ ดยการเปลี่ยนสภาพของก๊าซให้เปน็ กรด โดยการให้กา๊ ซนน้ั ผ่านเขา้ ไปในน้ำซ่ึงจะเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีได้ เป็นกรดซลั ฟวิ ริกขึ้น โดยกรดนีส้ ามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ 2 แร่ธาตุ นำ้ จากแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพในบางแหล่งมปี รมิ าณแรธ่ าตุตา่ ง ๆ ละลายอยู่ในปรมิ าณ ทสี่ งู ซึง่ หากนำน้ำมาใชแ้ ล้วปล่อยระบายลงไปผสมกับแหล่งนำ้ ธรรมชาติบน ผวิ ดนิ จะส่งผลกระทบต่อระบบน้ำผวิ ดนิ ท่ใี ชใ้ นการเกษตรหรือใช้อุปโภคบริโภคได้ กอ่ นการระบายน้ำลงส่แู หลง่ น้ำธรรมชาตคิ วรทำใหน้ ำ้ นั้นมอี ุณหภมู ิ เท่าหรอื ใกลเ้ คียงกบั อุณหภูมิของนำ้ ในแหลง่ ธรรมชาติเสยี กอ่ น 3 การทรุดตวั ของแผน่ ดนิ ซ่งึ การนำเอาน้ำรอ้ นจากใตด้ ินข้ึนมาใช้ ย่อมทำให้ในแหล่งพลังงานความร้อน นั้นเกดิ การสูญเสียเน้ือมวลสารส่วนหนึ่งออกไป ซง่ึ อาจก่อใหเ้ กดิ ปัญหาการทรดุ ตัวของแผ่นดนิ ข้นึ ได้ ดังน้นั หากมี การสบู น้ำร้อนขึ้นมาใช้ จะต้องมกี ารอัดนำ้ ซงึ่ อาจเป็นน้ำร้อนท่ผี ่าน การใช้งานแลว้ หรอื น้ำเยน็ จากแหล่งอื่นลงไป ทดแทนในอตั ราเร็วที่เท่ากนั เพอ่ื ป้องกนั ปัญหาการทรดุ ตัวของแผน่ ดิน

150 ตารางที่ 5.1 มลพิษท่ีมาจากการผลิตไฟฟา้ หนว่ ยกรมั ต่อกิโลวตั ต์-ชว่ั โมง (g/kWh) ชนดิ โรงไฟฟา้ CO2 NO2 SO2 เช้อื เพลิงฟอสซลิ 322.8 1.8 3.4 ถ่านหนิ 258.5 0.88 1.7 นำ้ มนั 178 0.9 0.001 ก๊าซธรรมชาติ 5.3 0.007 0.02 พลังงานหมนุ เวียน 0 0.6 0.14 6.7 ต่ำมาก ต่ำมาก พลังงานแสงอาทติ ย์ 5.9 ต่ำมาก ต่ำมาก ชีวมวล 51.5 ตำ่ มาก ตำ่ มาก พลังงานลม พลังนำ้ พลังงานใต้พภิ พ ท่ีมา: วงกต วงศ์อภยั คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ หมายเหตุ จากข้อมลู ในปี พ.ศ. 2543 ภาคการผลิตไฟฟ้าจดั เป็นภาคทม่ี ีการปล่อยกา๊ ซเรือนกระจกมาก ทสี่ ดุ ของประเทศคู่กนั กบั ภาคขนส่งท่ีปลอ่ ยมลพิษจากการเผาไหม้ของเคร่ืองยนต์ (ภาคการผลติ ไฟฟา้ คดิ เป็น 31% และภาคขนส่งคดิ เปน็ 34% ของปริมาณกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซดข์ องประเทศ) ผลกระทบจากการใช้พลงั งานตอ่ สง่ิ แวดล้อมในกรณกี ารคมนาคมขนส่ง ปัจจุบันรถยนต์เป็นปจั จัยพ้นื ฐานทจี่ ำเปน็ ต่อการดำรงชีวติ ของมนษุ ย์ ยังรวมถึงใช้ในการขนส่งและ การจราจร ส่งผลใหก้ ารขนส่งและการจราจรเพ่ิมจำนวน ก่อให้เกิดผลเสียอันรา้ ยแรงต่อสขุ ภาพอนามยั ของ มนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมของโลก และตอ่ คณุ ภาพชีวติ ของเรา องคก์ ารอนามัยโลก (WHO and UNEP, 1996) พบว่าเมืองใหญ่ของโลกที่มปี ระชากรมากกวา่ 10 ล้านคน ในปี ค.ศ. 2000 จำนวน 20 เมืองท่ี ทำการศึกษา รวมถึงกรุงเทพมหานคร ล้วนแต่มปี ญั หาคุณภาพอากาศทรี่ ุนแรงจนถึงรุนแรงมาก จากสถานการณ์ ดังกลา่ วเนือ่ งจากมีการใช้น้ำมันเพ่มิ ข้นึ

151 แผนภมู ทิ ่ี 5.2 สดั ส่วนการขนส่ง ท่ีมา: http://benjaponwattana.blogspot.com/ จะเห็นไดว้ า่ สัดส่วนในภาคขนสง่ ทางบก โดยเฉพาะระบบถนนหรอื รถยนต์ มีสดั ส่วนมากทสี่ ดุ ถงึ 86% ของการขนส่งทัง้ หมด เนอ่ื งจากความสะดวกรวดเรว็ ในการขนส่ง ขณะท่รี ะบบรางหรอื รถไฟมี สัดส่วน 2% ระบบการขนส่งทางเรือมสี ดั ส่วนมาเปน็ ทสี่ องด้วยสัดสว่ น 12% เนอ่ื งมาจากความสะดวกในการ ขนส่ง แต่ก็ยงั ไมส่ ะดวกมากเทา่ ทางรถยนต์ ทางอากาศมีสดั สว่ นนอ้ ยทีส่ ุด เน่ืองจากมีต้นทุนท่ีสูง เกนิ ไป สอดคล้องกับความต้องการน้ำมนั เช้อื เพลิงในภาคคมนาคมขนสง่ ซึง่ สัดส่วนของนำ้ มันดเี ซลที่ใช้มากใน รถบรรทุกมีอัตราเพิม่ ขนึ้ ในช่วงหลายปี และมกี ารเพม่ิ สูงขึ้นอยา่ งต่อเนอื่ งพลงั งานท่ีใช้ในสาขาคมนาคมขนสง่ นี้ คอื · น้ำมันเบนซิน · น้ำมันดีเซล · ก๊าซ NGV · ก๊าซหงุ ตม้ (LPG) ผลกระทบจากการใชพ้ ลงั งาน จากการใชพ้ ลงั งานกอ่ ใหเ้ กดิ มลพษิ ในบรรยากาศจากการใชน้ ำ้ มนั ดังนี้ สารตะกั่วจากน้ำมนั เบนซิน กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไซด์ของไนโตรเจน ไฮโดรคาร์บอน และควันเสยี ท่ีปลอ่ ยออกมาจาก เคร่อื งยนต์ เน่ืองจากการเผาไหมข้ องเช้อื เพลงิ ที่ไมส่ มบูรณ์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลและรถมอเตอร์ ไซด์ 2 จังหวะ การคมนาคมขนส่ง มกี ารใชพ้ ลังงานน้ำมันสงู มาก การใช้เปน็ ไปอย่างไม่ประหยดั และขาด ประสทิ ธิภาพ เน่ืองดว้ ยโครงสร้างราคาระหว่างผลิตภัณฑ์นำ้ มนั ประเภทเดยี วกันถกู กำหนดให้แตกตา่ งกนั มาก ความคบั ค่ังของการจราจรและอุตสาหกรรมการ ขนส่งทางถนนและรถบรรทุกสินค้าท่แี ข่งขันกันอย่างส้ินเปลอื ง มาก เมื่อเทยี บต้นทนุ ตอ่ หนว่ ยแลว้ ส่วนการใชพ้ ลังงานในสาขาอุตสาหกรรมนนั้ ยังใช้กรรมวิธีการผลติ และ เคร่อื งจักรอปุ กรณ์ท่ีมีอายุการใชง้ านมาก ทำให้การใชพ้ ลังงานเกดิ การสญู เสยี เปล่าประโยชน์อยูอ่ ีกมาก

152 นอกจากนัน้ การใช้พลงั งานสว่ นมากอย่ใู นเขตเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ซง่ึ ใช้ไฟฟา้ มากกวา่ ภมู ิภาค 10 เทา่ ตัว และใชน้ ้ำมนั มากกวา่ ถึง 6 เท่าตัว การใช้พลังงานในชนบทยังนับว่าอยูใ่ นขอบเขต จำกดั มาก ตวั อยา่ ง เช่น สาขาเกษตร ใชพ้ ลงั งานร้อยละ 8 ของการใชพ้ ลังงานท้งั หมดของประเทศ และใน ปี 2523 จากหมบู่ ้านจำนวน 51,211 แหง่ มีหมู่บา้ นเพยี ง 18,511 แหง่ หรอื ร้อยละ 36 เท่านั้น ทมี่ ไี ฟฟ้าใช้ ฉะน้ันจึงเกดิ ประเด็นช่องว่างแลความไม่สมดุลของการใชพ้ ลงั งานระหวา่ งสาขา การผลิตและระหว่างชนบทกับเมอื ง สาเหตุของการเกดิ ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมจากการใช้พลังงานในสาขาคมนาคมขนสง่ 1. การเพ่ิมขึน้ ของยานพาหนะในชมุ ชนเมือง การเกดิ ปญั หาจราจรติดขดั การจราจรที่ติดขัดทำให้รถ เคลอื่ นตัวได้ด้วยความเรว็ ตำ่ มีการหยุดและออกตวั บ่อยครั้ง น้ำมันถกู เผาผลาญมากข้ึน การสันดาปของน้ำมัน เชอ้ื เพลงิ ไม่สมบูรณ์ และมีการระบายสารมลพิษทางทอ่ ไอเสยี ในสดั ส่วนทเี่ พิ่มมากขึ้น โดยท่ใี นประเทศไทยภาค การขนส่งและจราจรมีการใช้เช้อื เพลิงสงู สดุ เทา่ กบั ภาคอุตสาหกรรมท่ีประมาณร้อยละ 35 ของการใช้พลังงานของ ประเทศ 2. สารมลพิษท่รี ะบายเขา้ สบู่ รรยากาศที่เกดิ จากการคมนาคมขนสง่ ไดแ้ ก่ กา๊ ซคาร์บอน- มอนอกไซด์ กา๊ ซออกไซด์ของไนโตรเจน สารประกอบไฮโดรคารบ์ อน ฝนุ่ ละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน มีผลเสียตอ่ สุขภาพ อนามัยของมนษุ ย์ เช่น ผลเฉยี บพลนั จากก๊าซคารบ์ อนมอนอกไซด์ที่ทำใหค้ นเกดิ อาการมนึ งง ปวดศรี ษะ ขาดสมาธิ หมดสติ จนถงึ เสยี ชวี ิตไดใ้ นระยะเวลาสัน้ ผลเรอื้ รังจากฝนุ่ ละอองและก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ทำให้ระบบหายใจ อักเสบ อาการหอบหดื อาการป่วยจากการได้รบั มลพิษซำ้ ในระยะยาว 3. สารตะก่วั และก๊าซซลั เฟอร์ไดออกไซด์ และสารพิษท่ีเป็นส่วนประกอบทผี่ สมอยู่ในน้ำมัน เชื้อเพลิง ได้แก่ สารตะกัว่ ในนำ้ มนั เบนซนิ และกำมะถันในนำ้ มนั ดีเซล ผลจากโลหะหนัก เชน่ ตะกว่ั ทำใหเ้ ปน็ โรค โลหิตจาง ปัญญาอ่อนในเดก็ ส่งผลเสยี ต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง เป็นต้น 4. ส่วนก๊าซเรือนกระจกทำให้เกดิ สภาวะโลกร้อน สง่ ผลใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศของ โลก ฝนตกไม่ถูกต้องตามฤดกู าล เกิดนำ้ ทว่ มหรอื ภัยแลง้ สง่ ผลเสยี ต่อภาคการเกษตร รูปท่ี 5.3 ผลกระทบทเี่ กิดจากการจราจร ท่ีมา: http://local.environnet.in.th/formal_data2.php?id=119

153 ผลกระทบจากการใช้พลังงานต่อสงิ่ แวดลอ้ มในกรณีการอตุ สาหกรรม ในปจั จุบันการใชพ้ ลังงานในสาขาอุตสาหกรรมมีแนวโนม้ เพิ่มสูงขึ้นตามการพฒั นาเศรษฐกิจของ ประเทศ แนวโนม้ พบวา่ การใช้ไฟฟ้าในสาขาอุตสาหกรรมเพยี งสาขาเดียว สามารถทำให้เกิด กา๊ ซซลั เฟอร์ได ออกไซด์ในบรรยากาศไดถ้ ึง 270,000 ตนั ต่อปี ทง้ั น้ยี งั ไม่ไดค้ ำนงึ ถงึ ก๊าซอน่ื ๆ ที่มผี ลกระทบต่อ ส่ิงแวดลอ้ ม เช่น ออกไซด์ของไนโตรเจน จงึ ทำใหป้ ญั หาส่ิงแวดล้อมดังนี้ 1. มลพิษทางอากาศ การเผาไหม้เช้ือเพลงิ จากกระบวนการผลิต สง่ ผลกระทบต่อคณุ ภาพอากาศในบรรยากาศและต่อสขุ ภาพ อนามยั ของประชาชนในชุมชน ปญั หาส่ิงแวดล้อมสว่ นใหญจ่ ะมาจากการใชน้ ้ำมนั เตาและลกิ ไนต์ในกระบวนการ ผลติ เนื่องจากพลังงานท้ัง 2 ชนดิ มปี รมิ าณกำมะถันสูง รูปที่ 5.4 ผลกระทบท่ีเกิดจากโรงงานอตุ สาหกรรม ท่มี า: http://www.atbiopower.co.th/atbnews/1102_03.htm 2. มลพิษทางนำ้ น้ำเสยี จากอตุ สาหกรรม ไดแ้ ก่ น้ำเสียท่เี กดิ จากกระบวนการอุตสาหกรรม 1. ขน้ั ตอนการลา้ งวัตถดุ บิ 2. กระบวนการผลิต 3. การทำความสะอาดโรงงาน 4. นำ้ เสยี ทีย่ ังไมไ่ ดร้ ับการบำบดั หรือน้ำเสียท่ผี า่ นการบำบัดแลว้ แต่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานนำ้ ทิ้ง อุตสาหกรรม เปน็ อันตรายต่อสิง่ มีชีวติ ทั้งในน้ำและในบรเิ วณใกล้เคยี ง แนวนโยบายของรฐั บาลการแก้ปัญหาดา้ นพลงั งาน 1. เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพในการใชพ้ ลงั งาน โดยเนน้ ประสทิ ธภิ าพการใช้พลังงานตอ่ หน่วยการผลติ ให้ เกดิ การประหยดั และลดการใชพ้ ลงั งานตอ่ หนว่ ยงานการผลิตลงโดยเฉพาะอยา่ งย่ิง การใชพ้ ลังงานในการขนสง่ ทาง ถนนและกจิ การอุตสาหกรรม ปรับโครงสร้างการขนส่งใหเ้ ขา้ สรู่ ะบบขนสง่ ท่ใี ช้พลงั งานน้อย คอื การขนส่งทาง

154 น้ำและรถไฟใหม้ ากข้ึน ขณะเดียวกนั จะขยายระบบส่อื สารและโทรคมนาคมเพื่อลดภาวะการเดนิ ทางตดิ ตอ่ ให้ นอ้ ยลง เร่งปรับปรุงการจราจรในเมอื งใหญ่ใหค้ ล่องตัว สว่ นทางด้านอตุ สาหกรรมรัฐจะใช้มาตรการทางการเงนิ การคลังจงู ใจให้ผู้ประกอบการปรับปรงุ ประสทิ ธภิ าพของโรงงานใหเ้ กดิ การประหยัดและปรบั ปรงุ กรรมวธิ กี ารผลติ ท่ีใช้พลงั งานต่อหนว่ ยให้น้อยลงดว้ ย 2. ปรบั นโยบายราคาพลงั งานทกุ ประเภท ให้สอดคลอ้ งทนั เหตุการณ์และได้สัดส่วนทีเ่ หมาะสม ให้ ราคาพลังงานไดเ้ ปน็ ไปตามภาวะความเปน็ จรงิ โดยไมใ่ ห้มีการชดเชยจากรฐั 3. เร่งพฒั นาพลังงานทม่ี ีต้นกำเนดิ ในประเทศ มาใช้ให้เกิดประโยชนเ์ พื่อลดการนำเข้า น้ำมนั จากตา่ งประเทศ โดยเรง่ ให้หนว่ ยงานของรัฐและเอกชนสำรวจและพฒั นาแหลง่ พลงั งานประเภทต่างๆ ใน ประเทศ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการสำรวจปิโตรเลียมบนบกและในทะเล การพฒั นาก๊าซธรรมชาตใิ นอ่าวไทย การ สำรวจและพัฒนาแหล่งพลังน้ำและถา่ นหินลิกไนต์เพม่ิ ให้มากข้ึน การทดลองสาธิตการผลิตพลังงานจากหินนำ้ มนั การสำรวจแรย่ ูเรเนยี มและพัฒนาพลังงานนอกแบบอืน่ ๆ พรอ้ มกนั ไป ทั้งน้ี จะต้องพฒั นาระบบจัดหาและสำรอง พลงั งานในประเทศใหส้ ามารถสนองความเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกิจและความมน่ั คงของชาตใิ นอนาคตใหไ้ ด้ 4. สนบั สนนุ การลงทนุ ในกิจการพลงั งานของภาครฐั บาลและภาคเอกชน ท้ังภายในประเทศและจาก ต่างประเทศ ส่งเสรมิ ความรว่ มมอื กับต่างประเทศในการพัฒนาแหล่งพลังงาน การจัดหาซือ้ ขาย มีการสำรอง พลงั งาน 5. เร่งรดั ให้มีการผลติ การใชพ้ ลงั งานในรปู แบบและสัดสว่ นท่ีเหมาะสมในชนบท และจดั ใหม้ ีแผนการ ดำเนนิ การดา้ นการจดั หา การผลิต และการใช้พลังงานทส่ี อดประสานกนั และคำนงึ ถึงการอนุรักษ์สง่ิ แวดล้อมของ ประเทศพร้อมกนั ไปดว้ ย มาตรการปรบั โครงสร้างการผลติ และการใช้พลังงาน มาตรการเฉพาะเพอื่ ให้แผนการปรังโครงสรา้ งพลังงานสามารถบรรลเุ ป้าหมายและแนวนโยบายหลักท่ี วางไว้ มีดังน้ี มาตรการประหยัดการใชพ้ ลงั งาน ก. สาขาคมนาคมและขนส่ง 1. ปรบั ปรงุ ระบบการจราจรระบบขนส่งมวลชนในเขตกรงุ เทพมหานคร ให้มี ประสทิ ธิภาพขนึ้ โดยกำหนดเสน้ ทางเดนิ รถกำหนดเวลาจอดและจดุ จอดของรถในเขตท่ีมีการจราจรคับค่ัง กำหนดเวลาเขา้ ทำงานและเลกิ งานของราชการ รฐั วิสาหกิจและสถานศึกษาใหม่ โดยพจิ ารณาลักษณะการ เคล่ือนไหวของประชาชนและยานพาหนะในชว่ งเวลาเรง่ รัดอย่างเหมาะสม เพื่อหลกี เลีย่ งปญั หาการจราจรติดขัด จดั ระบบแท็กซีใ่ หม่โดยจัดท่ีจอดประจำตามศูนย์การค้า โรงแรม และยา่ นชุมชนตา่ งๆ สนับสนนุ เร่งรดั จัดการ กอ่ สรา้ งระบบทางด่วนพิเศษ 2. ปรับปรงุ ระบบภาษียานพาหนะสว่ นบคุ คลใหข้ ึ้นอยู่กับขนาดของความ ส้ินเปลอื งเชือ้ เพลงิ และมลี กั ษณะก้าวหนา้ เพือ่ สง่ เสริมให้มกี ารใชย้ านพาหนะทม่ี ีขนาดเลก็ ลงหรือใชบ้ ริการขนส่ง สาธารณะซ่ึงส้นิ เปลอื งพลงั งานนอ้ ยกว่าและกวดขันการต่อทะเบยี นพาหนะทเ่ี ก่าและชำรุดหมดสภาพเพื่อประหยดั การใช้ น้ำมนั

155 3. สง่ เสรมิ ให้มีการตดิ ต่อโดยผ่านระบบสอ่ื สารและโทรคมนาคมของรฐั เช่น โทรศพั ท์ อนิ เตอรเ์ น็ต มากขนึ้ โดยปรบั ปรงุ ประสทิ ธิภาพและอำนวยความสะดวกในการใชบ้ รกิ ารให้ดียิ่งขนึ้ เพื่อหลีกเล่ียงการตดิ ต่อดว้ ย ตนเอง 4. ให้การรถไฟแหง่ ประเทศไทยปรับปรงุ การขนส่งสินคา้ ทางรถไฟให้รวดเร็วและเพียงพอ เพ่อื ให้มี การใช้บรกิ ารทางรถไฟมากข้ึนเนื่องจากการขนส่งสนิ คา้ งทางรถไฟส้นิ เปลอื งพลังงานน้อยกว่าการขนส่งทางบก อน่ื ๆ 5. ปรบั ปรงุ ระบบขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางนำ้ ซึ่งเป็นระบบคมนาคมทใี่ ช้พลงั งานนอ้ ยทสี่ ดุ ใหด้ ี ยิง่ ขึน้ โดยเฉพาะในบริเวณท่ีลุ่มภาคกลางมีแมน่ ้ำสำคัญๆ ท่ีสามารถจะใชเ้ ป็นเสน้ ทางคมนาคมได้เป็นอย่างดี ได้แก่ แมน่ ำ้ เจา้ พระยา แมน่ ำ้ บางปะกง แมน่ ้ำทา่ จนี และบรเิ วณชายฝั่งทะเล โดยการลงทนุ ขุดลอกรอ่ งน้ำและขุดสัน ดอนทีต่ ้ืนเขนิ สร้างท่าเรือสำหรบั รับสง่ ผู้โดยสารและขนส่งสินค้า โกดงั เกบ็ สินค้าตามรมิ ฝ่ังแม่น้ำให้มากขึน้ 6. การประหยดั ลดการใชน้ ำ้ มนั ดีเซล ซึง่ วิธแี ละขัน้ ตอนการประหยัดสามารถทำได้ โดยปจั จุบัน ภาครัฐเรม่ิ เข้ามาดูแลในเรอ่ื งของพลงั งานภาคส่วนนี้ และมีหลายบริษัททสี่ ามารถลดการใชพ้ ลังงานได้อยา่ งชัดเจน สง่ ผลดกี ับบริษัทขนสง่ ในแง่ของการลดตน้ ทุนและความปลอดภัยในการขับข่ีอกี ด้วย สรปุ พลังงานมีความสำคญั ต่อกระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมมากข้ึน และการพัฒนาประเทศรวมไปถึง ความสำคญั ต่อการดำรงชีวติ ประจำวันของมนุษย์ ซ่ึงการใช้พลังงานของมนุษยท์ กุ วันน้ีส่งผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดสภาพเส่อื มโทรมของสภาพแวดล้อม ผลกระทบจากการใช้พลังงาน คือ ทำใหเ้ กิดความ เจบ็ ป่วย ลม้ ตาย ทำให้สง่ิ ของและทรพั ยากรธรรมชาติเสียหาย ทำลายสภาพแวดลอ้ มและส่ิงมีชวี ติ เกิด มลภาวะทง้ั ทางดิน นำ้ และอากาศ

156 การสอนออนไลน์ การสอบออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom

157 สอ่ื การสอนประจำหนว่ ย

158 สือ่ การสอน ดคู ลปิ วดี โี อ

159 สื่อการสอน ดคู ลิปวดี ีโอ

160 แบบทดสอบประจำหนว่ ย

161 แบบทอสอบหนว่ ยที่ 4 ผลกระทบการใช้พลังงาน 1.ขอ้ ใดไม่ใชส่ าเหตุทก่ี ่อใหเ้ กิดปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม ก.การนำพลงั งานเชือ้ เพลิงมาใชจ้ ำนวนมาก ข.การเพิ่มจำนวนประชากรอยา่ งรวดเรว็ ค.การขยายตัวทางดา้ นเศรษฐกจิ ง.ความแปรปรวนของฤดูกาล 2.นโยบายการใช้พลงั งานในส่วนของภาครัฐมีการกำหนดการประหยัดพลงั งานดา้ นใดบ้าง ก.พลังงานไฟฟ้าและนำ้ มันเชื้อเพลิง ข.พลงั งานไฟฟา้ แลนำ้ มนั เตา ค.3พลังงานไฟฟา้ จากเครื่องจักรและอปุ กรณ์ ง.พลังงานไฟฟ้าจากยานพาหนะต่างๆ 3.แนวทางของเศรษฐกิจพอเพยี งต้งั อยบู่ นพน้ื ฐานใด ก.พัฒนาทางอตุ สาหกรรมให้น้อยทส่ี ดุ ข.เนน้ การเกษตรในครวั เรือน ค.คำนงึ ถงึ ความประหยดั สูงสดุ ง.ทางสายกลางและไมป่ ระมาท 4.การนำแผนการจดั การพลังงานมาใชใ้ นสว่ นของภาคเอกชนมคี วามสำคัญอย่างไร ก.เพราะภาคเอกชนมคี วามสามารถในการจ่ายค่าใชจ้ ่ายด้านพลังงาน ข.เพราะภาคเอกชนมีการใช้พลังงานจำนวนนอ้ ยมาก ค.เพราะภาคเอกชนมกี ารใช้พลงั งานจำนวนมากทสี่ ดุ ง.เพราะภาคเอกชนสามารถจัดหารพลงั งานมาใชไ้ ด้ง่ายกวา่ 5.การจัดการส่ิงแวดล้อมทใี่ ห้ประโยชน์ 2 ทางพร้อมกัน ได้แก่ วธิ ีการลดมลพิษทแ่ี หลง่ กำเนิดและการปรับปรุง กระบวนการต่างๆ คือข้อใดต่อไปนี้ ก.ระบบมาตรฐาน ISO ข.ระบบ 5 ส ค.การประเมนิ ผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม ง.เทคโนโลยีสะอาด หรอื CT 6.การประยุกตใ์ ช้แผนการจดั การพลงั งานต่างๆ ทีป่ ระสบความสำเรจ็ เกิดจากสงิ่ ใดเป็นสำคญั ก.นโยบายผูบ้ รหิ าร ข.นโยบายผถู้ ือหุ้น ค.การใชเ้ ทคโนโลยพี ลงั งาน ง.การเพ่มิ เงนิ ลงทุนในกจิ การ 7.ขอ้ ใดไม่ถูกต้องเก่ียวกับการปอ้ งกันการชะล้างพังทลายของดิน ก.การรณรงค์ใช้หญา้ แฝก

162 ข.3การใชเ้ ทคโนโลยแี ละชนดิ ของพืชที่เหมาะสมกบั คณุ ภาพดิน ค.การส่งเสรมิ ให้ประชาชนเหน็ ความสำคญั ของพฒั นาทด่ี ิน ง.การใชท้ ่ีดินอยา่ งเหมาะสมต่อสมรรถนะของดิน 8.ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ญั หาสง่ิ แวดล้อมด้านคุณภาพอากาศ ก.โรงไฟฟ้า ข.ภาวะโลกร้อน ค.ฝนกรด ง.การปล่อยแกส๊ เรอื นกระจก 9.จังหวดั ทมี่ ีพนื้ ทป่ี ่าลดลงเกินรอ้ ยละ 5 ของพน้ื ท่ี คือจงั หวัดใดทงั้ หมด ก.สตลู ตาก น่าน พะเยา ข.น่าน แพร่ นครพนม ตราด ค.แพร่ นครพนม ตราด เลย ง.นครพนม ตราด ประจวบครี ีขันธ์ อตุ รดติ ถ์ 10.หลกั การใดไม่ใช่เศรษฐกจิ พอเพียง ก.การพ่งึ ตนเองเป็นสำคญั ข.การสร้างนสิ ัยนิยมไทย ค.การบริการดนิ และนำ้ อยา่ งเหมาะสม ง.การลงทุนขนาดใหญ่เพ่ือการผลิตสินค้า 11.ภาคใดของประเทศไทยที่มพี ืน้ ที่ที่มีปัญหาการชะลา้ งพังทลายของดินมากท่สี ดุ ก.ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ข.ภาคเหนือ ค.ภาคใต้ ง.ภาคกลาง 12. ผลกระทบต่อการใช้พลังงานประเภทใดมีผลตอ่ การกลายพนั ธข์ุ องสง่ิ มีชีวติ ก.พลงั งานนวิ เคลยี ร์ ข.พลังงานปิโตรเลยี ม ค.พลังงานถา่ นหนิ ง.พลังงานชีวมวล 13.แกส๊ ใดไมไ่ ด้เกิดจากผลกระทบการใช้ปโิ ตรเลยี ม ก.CO2 ข.CO ค.SO2 ง.SO

163 14.แก๊สใดเกิดจากการเผา่ ไหม้สารทอี่ ยใู่ นน้ำมัน มีผลต่อเยื่อตา และกอ่ ใหเ้ กิดการระคายเคืองในระบบหายใจได้ ก.CO2 ข.SO2 ค.HC ง.Pb 15.สารใดมีผลเสียตอ่ สมอง ไต ระบบประสาท โลหติ และระบบสืบพนั ธ์ุ ก.CO2 ข.SO2 ค.HC ง.Pb 16.แกส๊ ชนดิ ใดสามารถจบั กบั ฮีโมโกบิลในเมด็ เลือดได้ดี ทำใหเ้ มด็ เลือดไม่สามารถรบั O2ได้ ก.CO2 ข.CO ค.SO2 ง.SO 17.ข้อใดไม่ใชผ่ ลกระทบท่เี กิดจากแกส๊ เรือนกระจกและภาวะโลกร้อน ก.ระดบั น้ำทะเลสูงขึน้ และเกิดนำ้ ท่วม ข.ทะเลทรายขยายตวั กวา้ งกวา่ เดมิ ค.หมีข้วั โลกจะอพยพไปอยู่ท่ีอ่นื ง.พนื้ ท่ที ำเกษตรลดลง 18.ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงสามารถนำไปใชไ้ ด้กับส่วนใดบ้าง ก.บคุ คล ข.3ครวั เรอื น ค.องค์กรต่างๆ ง.ถกู ทุกขอ้ 19.ข้อใดไม่ใชส่ ามห่วงของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ก.ความพอเพียง ข.ความพอประมาณ ค.ความมีภมู คิ ุ้มกัน ง.ความมีเหตผุ ล 20.เกษตรทฤษฎีใหมแ่ บง่ พนื้ ที่ทำกนิ แบบใด ก.30:30:30:10 ข.50:25:25 ค.50:50 ง.25:25:25:25


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook