ICARF แผนการสอน

ICARE แผนการจัดการเรยี นรูท้ .ี่ ..... กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที .ี่ .... รหัสวิชา ค 33101 รายวิชา คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน ภาคเรยี นท.ี่ ....ปกี ารศึกษา............. แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่.....เรอื่ ง ความหมายของลาดับและพจนท์ ่ัวไปของลาดบั เวลา.....ชั่วโมง ผู้สอน.............................................. โรงเรียน............................................ 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั สาระที่ 4 พีชคณติ มาตรฐาน ค 4.1 เขา้ ใจและวเิ คราะหแ์ บบรปู (Pattern) ความสมั พนั ธแ์ ละฟงั กช์ ัน สาระท่ี 6 ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ มาตรฐาน ค 6.1 มีความสามารถในการแก้ปัญหา การใหเ้ หตผุ ล การส่อื สาร การสื่อความหมายทาง คณติ ศาสตร์และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรตู้ า่ งๆ ทางคณิตศาสตรแ์ ละเช่ือมโยงคณติ ศาสตร์กับศาสตร์อนื่ ๆ และมคี วามคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ตวั ชว้ี ดั ค 4.1 ม.6/4 เขา้ ใจความหมายของลาดับและหาพจน์ท่ัวไปของลาดับจากดั ค 6.1 ม.3/1 ใช้วิธีการท่หี ลากหลายแกป้ ัญหา ค 6.1 ม.3/2 ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปญั หาใน สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ค 6.1 ม.3/3 ให้เหตผุ ลประกอบการตัดสินใจและสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม 2.สาระสาคญั ลาดบั เปน็ ฟงั ก์ชนั ที่มโี ดเมนเปน็ เซตของจานวนเต็มบวกทีเ่ รยี งจากนอ้ ยไปมากซ่ึงอาจจะมจี านวนจากดั หรอื จานวนอนนั ตแ์ ละในการเขยี นลาดับต้องเชอ่ื มโยงเร่ืองความสมั พนั ธ์และฟงั ก์ชนั โดยจะเขียนเฉพาะสมาชิก ของเรนจเ์ รยี งลาดับ จานวนที่หนึง่ จานวนท่สี อง จานวนที่สาม ไปเรือ่ ยๆและมีเคร่ืองหมายจุลภาคคนั่ ระหว่างพจน์

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เมื่อนักเรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมนี้แล้ว นักเรียนสามารถ ดา้ นความรู้ 1. อธิบายความหมายของลาดับได้ 2. เขียนแบบรปู ความสมั พนั ธ์ของลาดับได้ 3. หาพจน์ท่วั ไปของลาดับได้ ทกั ษะ/กระบวนการ 1. ทักษะการให้เหตุผล 2. ทกั ษะการแก้ปญั หา 3. ทักษะการสอ่ื สาร คุณลักษณะอันพง่ึ ประสงค์ 1. ทางานเปน็ ระบบ รอบคอบ 2. มคี วามรับผิดชอบ 3. มีระเบียบวินัย สมรรถนะสาคญั 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. สาระการเรียนรู้ ความหมายของลาดับ

5. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1) ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1.1) นกั เรยี นและครูพร้อมสนทนาซักถาม ครตู รวจสอบรายชื่อนกั เรียนในชัว่ โมงเรยี นนี้ 1.2) สมุ่ ตวั แทนนกั เรยี น 2 - 3 คนแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั ความหมายของลาดบั ตามประสบการณ์เดิม ของนักเรยี น 1.3) ครูรับฟงั ความคิดเห็นของนักเรยี นพร้อมท้ังช่นื ชมในการแสดงออกของนักเรียน 2) ขนั้ ก่อการเรียนรู้ - ขัน้ เกิดแรงบนั ดาลใจ (Inspire) 1.) ครยู กตวั อยา่ งสถานการณ์เก่ยี วกบั ลาดบั ดังนี้ วันท่ี 1 นายสมชายอา่ นหนงั สอื ได้ 7 หนา้ วนั ที่ 2 นายสมชายอา่ นได้ 14 หนา้ วันท่ี 3 นายสมชายอ่านได้ 21 หนา้ วันที่ 4 นายสมชายอ่านได้ 28 หน้า เปน็ เชน่ น้ีไปเรอ่ื ย ๆ ได้ลาดบั 7, 14, 21, 28, ... 2.) ครูกระตุน้ ให้นักเรยี นวเิ คราะห์ว่าสถานการณท์ ่ีกาหนดให้น้เี กยี่ วกบั ลาดับอยา่ งไร - เลอื กสนใจตามถนัด (Choose) 1.) นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นจาก ชุดกจิ กรรมการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ เล่มที่ 1 เร่ือง ความหมาย ของลาดับและพจนท์ ่วั ไปของลาดบั จานวน 10 ข้อ โดยใช้เวลา 15 นาที และครชู ี้แจงวัตถปุ ระสงค์ของแบบชุด กจิ กรรมการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เลม่ ท่ี 1 ให้นกั เรยี นทราบ 2.) ครเู ชอื่ มโยงลาดับที่ยกตวั อย่างสถานการณ์ มาส่สู ญั ลักษณท์ างคณิตศาสตร์ เชน่ วนั ที่ 1 เราเรียกพจน์ ท่ี 1 ของลาดับเขียนแทนด้วย ������1 วันที่ 2 เราเรียกพจน์ 2 ของลาดบั เขียนแทนด้วย ������2 เปน็ เชน่ นไ้ี ปเรอื่ ย จนถึง พจนท์ ี่ n ของลาดับ เขยี นแทนดว้ ย ������������ 3.) ครใู ชล้ าดับเหล่านมี้ าใชส้ าหรับใหน้ กั เรยี นต้งั คาถามหาพจน์ต่างๆ และพจน์ทว่ั ไปของลาดบั รวมทงั้ การ จาแนกลาดบั 4.) นักเรยี นจัดกลุ่มโดยคละกล่มุ เกง่ กลาง ออ่ น กลุม่ ล่ะเท่าๆ กนั จากนน้ั ครูกาหนดกิจกรรมใหน้ กั เรยี น ปฏบิ ัตเิ พอ่ื เกดิ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์

5.) ครกู าหนดรปู สเ่ี หลี่ยมจัตุรัส 12 3 4 5 6.) นกั เรยี นแต่ล่ะกลุม่ รว่ มกันวางแผนเพื่อปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 7.) นกั เรียนนับจานวนรปู ส่เี หลย่ี มจัตุรัสแตล่ ะรปู โดยครใู ช้คาถามเพ่ือกระต้นุ ใหน้ ักเรยี นคิดวเิ คราะห์ - รปู ส่ีเหลยี่ มจตั รุ สั แตล่ ่ะรปู ที่กาหนดให้มขี นาดเทา่ กนั หรอื ไม่ - รูปสีเ่ หลี่ยมจตั รุ สั แตล่ ะ่ รปู ทก่ี าหนดให้มีรูปส่ีเหล่ียมจตั รุ ัสท่ีซ่อนอยู่ก่ีรปู 8.) ตวั แทนนักเรียนของแตล่ ะกล่มุ นาเสนอวิธกี ารนับใหเ้ พ่ือนในห้องฟงั - เปา้ หมายชดั ปฏิบตั ติ ามแผน (Aim & Act) 1.) นกั เรียนทบทวนเกี่ยวกับการหาพจนต์ ่างๆ ของลาดับร่วมกับครู 2.) ครยู กตวั อย่างการหาพจน์ตา่ งๆ ให้นักเรยี นศกึ ษา 2 - 3 ตวั อยา่ งบนกระดาษ 3.) นักเรยี นกลุ่มเดิมศึกษาใบความร้ทู ี่ 1 - 2 ในชดุ กิจกรรมการเรยี นร้เู พ่ือเพิ่มเตมิ ความรู้หลงั จากปฏิบัติ กิจกรรม 4.) นกั เรียนแต่ละ่ กลมุ่ รว่ มกันปฏบิ ัติกจิ กรรมในแบบฝึกหดั ที่ 1 - 2 เพือ่ ประเมินตนเองว่าเขา้ ใจเนื้อหาที่ได้ เรียนรู้ผ่านมามากน้อยเพียงใด 5.) นกั เรยี นจบั คู่ (ไม่ซ้ากลุม่ เดมิ ) เพ่ือศึกษาใบความรู้ท่ี 3 - 4 เก่ียวกับการเขียนลาดบั จากดั และลาดับ อนนั ต์ และการหาพจน์ทั่วไปของลาดับ 6.) นกั เรยี นแต่ละคู่แลกเปลย่ี นความรู้ โดยการใช้กจิ กรรมเพ่อื นสอนเพ่ือน จากน้นั นักเรียนแตล่ ะค่รู ว่ มกนั ปฏิบตั ิกจิ กรรมในแบบฝกึ หัดท่ี 3 - 4 7.) นักเรยี นแตล่ ะคนคนศกึ ษาเพ่ิมเติมเกย่ี วกบั การใช้ฟังกช์ ันพหนุ ามหาพจน์ท่ัวไปจากใบความรทู้ ี่ 5 - 6

- สะท้อนแกน่ การเรยี นรู้ (Reflect) 1.) นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทบทวนหลังการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและแบบฝึกหดั โดยใหน้ กั เรียนเก่งให้ คาปรกึ ษาให้ความชว่ ยเหลอื เพ่ือนท่ีมีปัญหาซักถาม ครใู ห้คาแนะนาเพ่ิมเติมและสงั เกตพฤติกรรมการเรียนร้แู บบ ร่วมมือของนักเรียน 2.) ตวั แทนนกั เรยี นแตล่ ่ะกลุ่มแลกเปลยี่ นความรู้และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการปฏิบัตแิ บบฝึกหดั เกีย่ วกบั ลาดับ 3.) ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมความรเู้ กี่ยวกับ ลาดับ หลังจากนกั เรียนรว่ มกับปฏิบัติกิจกรรมและให้คาแนะนา สาหรบั นักเรยี นทย่ี ังมีขอ้ สงสัย 4.) นักเรียนแตล่ ่ะคนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมในแบบฝึกหดั ท่ีเหลือ แลว้ แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนในหอ้ งเรยี นกับ ส่ิงท่ีนกั เรยี นได้ศกึ ษา - การยกระดบั ส่คู ณุ ภาพ (Enhance) 1.) นักเรียนสนทนาร่วมกับครูเก่ียวกับส่ิงที่ได้ศึกษามาทงั้ หมด และใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั สรปุ ความรู้ทไ่ี ด้ และตรวจสอบความถูกต้องของแบบฝึกหัด 2.) สมุ่ เลอื กตัวแทนนกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอกจิ กรรมที่ได้ปฏิบตั ิผ่านมาแบบฝกึ หัด ประกอบด้วย 3.) สมุ่ ตวั แทนนักเรยี นแต่ละกล่มุ (ไมซ่ า้ กบั นักเรียนนาเสนอคาตอบ)มานาเสนอการเขยี นลาดับในรปู แจก แจงพจน์และการหาพจนท์ ่วั ไป 4.) นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรุปความร้ทู ่ีไดเ้ รียน ดงั นี้ เรอื่ ง ความหมายของลาดบั โดยใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั น้ี ประเดน็ คาถาม 1 : ลาดับหมายความว่าอย่างไร แนวคาตอบ 1 : ลาดับ หมายถงึ ฟังกช์ ันที่มีโดเมนเปน็ เซตของจานวนเต็มบวกท่เี รยี งจากน้อยไปมาก โดย เรม่ิ ตง้ั แต่ 1 ประเด็นคาถาม 2 : ลาดับจากดั และลาดับอนนั ต์แตกต่างกันอยา่ งไร แนวคาตอบ 2 : ลาดบั จากัด เป็นลาดบั ทเ่ี กิดจากโดเมนทเ่ี ป็นเซตจากดั ส่วนลาดับอนันต์เปน็ ลาดบั ทีเ่ กิด จากโดเมนทเี่ ป็นเซตอนันต์ ประเด็นคาถาม 3 : นกั เรียนเขียนลาดับในรูปแจกแจงพจนไ์ ดอ้ ยา่ งไร

แนวคาตอบ 3 : นาเรนจ์ของฟงั ก์ชนั มาเขยี นเรยี งกัน จากพจน์ที่ 1 พจน์ท่ี 2 พจนท์ ่ี 3 ไปเร่ือย ๆ โดยค่ัน แต่ละพจนด์ ้วยเครอื่ งหมายจุลภาค เชน่ 2,4,6,8,10 หรือ -20, -10, 0, 10, ... 5.) นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียนจากชดุ กิจกรรมการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ เล่มที่ 1 เรอ่ื งความหมายของ ลาดบั และพจน์ทั่วไปของลาดับ จานวน 10 ข้อ โดยใชเ้ วลา 15 นาที เพ่ือวดั ระดบั ความเข้าใจของเน้ือหาท่ีได้เรยี นรู้ ผา่ นมา 6.) ครูสงั เกตพฤติกรรมขณะท่ีนกั เรยี นศึกษาเน้ือหาจากใบความร้แู ละปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการนาเสนอและ ตรวจสอบความถูกตอ้ งหลงั จากนักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมเสร็จส้นิ 3) ขั้นสรุปบทเรียน 1.) นกั เรียนแต่ละ่ กลมุ่ รว่ มกันสรปุ ส่งิ ทีไ่ ดศ้ ึกษาและลงความคดิ เห็นในรปู แบบแผนผังความคดิ เก่ียวกับ ความหมายของลาดับ เพ่ือสรุปองค์ความรแู้ ละสามารถตกแตง่ ใหส้ วยงาม โดยครูกาหนดเกณฑ์การใหค้ ะแนน แผนผงั ความคดิ ของนักเรยี นแต่ล่ะกลมุ่ 6. ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1.) ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เล่มท่ี 1 เรือ่ ง ความหมายของลาดับและพจนท์ วั่ ไปของลาดับ 2.) สมุดบนั ทึก