การปฏิรูปศาสนาคริสต์

การปฏริ ปู ศาสนาครสิ ต์ CHRISTIANITY REFORMATION

ผู้เริ่มตน้ ในการปฏิรปู ศาสนาคริสต์ เกิดทเ่ี มอื ง ไอสเลเบน นครแซกโซนี ประเทศเยอรมนีเมือ่ วนั ท่ี 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1483 บดิ ามารดาเปน็ คนยากจนและไม่ไดร้ ับศึกษา เม่ือเติบโตข้ึนกไ็ มม่ เี งนิ จะให้ลเู ทอร์ เข้าโรงเรียน ลูเทอร์ต้องเทย่ี วร้องเพลงขอทานตามบา้ นต่าง ๆ เพ่อื หาเงนิ มาจา่ ยค่าเลา่ เรียนในโรงเรยี น เผอญิ มหี ญงิ มงั่ คัง่ คนหนึง่ เกดิ ความเมตตาได้ช่วยเหลอื ใหเ้ ข้าอยู่ใน มหาวทิ ยาลัยเม่ือ ค.ศ. 1500 เป็นหนง่ึ ในผปู้ ฏิรูปศาสนาครสิ ต์ โดยแยกมาเป็นนิกายโปรเตสแตนต์ เพราะไมเ่ หน็ ดว้ ยกบั คาสอนของครสิ ตจกั รโรมนั คาทอลกิ บางขอ้ โดยการ ปฏิรูปนีเ้ กิดขนึ้ ในยคุ ฟื้นฟศู ิลปวทิ ยา เรยี กว่าการปฏิรูปศาสนาฝ่าย โปรเตสแตนต์ นิกายท่ีถือหลกั เทววทิ ยาตามแนวคิดของลเู ทอรเ์ รยี กว่า นิกายลเู ทอแรนซง่ึ เป็นนิกายย่อยในนิกายโปรเตสแตนต์ มารต์ ิน ลเู ทอร์

สาเหตทุ ่จี ะตอ้ งการปฏิรปู ศาสนาศคริสต์ • บาทหลวงและพระในสมัยน้นั ใชเ้ งินอย่างฟ่มุ เฟือยและมุ่งทางสู่ความโลภ จนไดล้ ะเลยถึงพระธรรมวินยั ในตอนนั้น • เกิดความเสอ่ื มเสียในทางศาสนาคริสต์ • เกดิ การขายใบไถ่บาปขึ้น • ศาสนามอี ิทธิพลมากเกนิ ไปทาใหไ้ มม่ ีคนนับถอื ศาสนาคริสตห์ รอื อาจเหน็ ตา่ งกถ็ ูกรงั แกขเู่ ข่นฆ่า ทาใหเ้ กิดสงครามศาสนาข้ึน • เหตจุ ากการฟื้นฟูศิลปวทิ ยาทาใหเ้ กิดการศึกษามากข้ึน • เกิดการตีพิมพพ์ ระคมั ภีรไ์ บเบิลในภาษาท่ีแตกต่างทาใหผ้ ู้ทนี่ บั ถอื ศาสนา หันมาสนใจทจ่ี ะศึกษาด้วยตนเองและได้ละเลยการศึกษาผา่ นพธิ กี รรมทาง ศาสนาตา่ งๆโดยส้นิ เชิง

การปฏริ ปู ของศาสนาครสิ ต์ • ได้มีการนพิ นธ์ “เทวนคร” ของออกัสตินแหง่ เมืองฮปิ โปในตอนแรก ทาใหเ้ กิดแรงบนั ดาลใจ ในหมาขบวนการปฏิรูปศาสนาศริสต์ • ขบวนการอัสไซท์ ฆราวาสมีสิทธเ์ิ ช่นเดียวกันกบั พระสงฆ์ และพระคัมภีร์ท่มี อี านาจสูงสดุ เทา่ นน้ั • ขบวนการลอลล์ าร์ด ไดเ้ สนอให้มีการเนน้ เทศมากกว่ารบั ศีล และต่อต้านการสารภาพบาป การสวดมนตใ์ หแ้ กผู้ท่ีไดต้ ายจากไปแลว้ และการเชือ่ ในวัตถนุ ิยมหรอื เคร่อื งรางของขลงั • ผลเหตนุ ้ที าใหก้ ารปฏริ ปู ศาสนาคริสตจ์ ึงลุกลามกวา้ งข้นึ และรวดเร็วมากศริสต์จักรจงึ ตอ้ ง รับมือและยับยง้ั ดังน้ี • มกี ารประชมุ สังคายนาแหง่ เทรนด์ [COUNCIL OF TRENT] เพือ่ กาหนดกฎระบียบภายในศ ริสต์จักร มกี ารยกเลิกการไถ่บาป และมกี ารใชภ้ าษาพ้ืนถ่ินแต่ละประเทศในการสอนศาสนา • การปรบั ปรงุ เร่อื งระเบียบวินยั ของนักบวช

ผลกระทบของการปฏิรปู ศาสนาครสิ ตใ์ นตอนหลงั • ทาให้ศาสนาคริสตห์ ลงั ท่ีไดร้ บั การปฏริ ปู แล้ว จึงแยกแบ่งออกมาเปน็ 2 นิกาย ดงั น้ี - นิกายโรมนั คาทอลิก ศูนย์กลางอยูท่ ก่ี รงุ โรมมพี ระสันตะปาปาเปน็ เปน็ ประมูข - นิกายโปรเตสแตนต์ มกี ารแยกออกเป็นนิกายอ่นื ๆอกี ได้แก่ นกิ ายลูเธอรแ์ รน นิกายคาลลิน นกิ ายแองกลคิ ัน เปน็ ตน้ • เอกภาพทางศาสนาคริสต์จงึ สิ้นสดุ ลง • มีการกระตนุ้ ใหม้ ีการศึกษาหลักธรรมศาสนาคริสต์มากข้ึนในเหล่าสามัญชน • เกดิ กระแสทางชาตินิยม • เกิดสงครามศาสนาในยโุ ปรทาใหภ้ ายหลังกษตั ริย์มีอานาจอยูเ่ หนือศริสตจ์ กั รในทส่ี ุด

ศาสนาครสิ ตน์ ิกายโรมนั คาทอลิก เป็นครสิ ตจกั รท่ีใหญ่ท่ีสดุ ในโลก มีศาสนกิ ชนกวา่ 1.3 พนั ลา้ นคนในปี ค.ศ. 2017 เป็นองคก์ ร ระหวา่ งประเทศท่ีใหญ่และเก่าแก่ท่ีสดุ ท่ียงั ดาเนนิ กิจการอยู่ และมีบทบาทสาคญั ในประวตั ิศาสตร์ อารยธรรมตะวนั ตก พระสนั ตะปาปาทรงเป็นประมขุ และปกครองศาสนจกั รนีผ้ ่านสนั ตะสานกั ในศาสนจกั รโรมนั คาทอลกิ ประกอบดว้ ยครสิ ตจกั รละตินและครสิ ตจกั รคาทอลิกตะวนั ออก ชาวคาทอลกิ เช่ือว่าพระเยซมู ีพระมหาบญั ชาตงั้ ศาสนจกั รขนึ้ ใหเ้ ป็นหน่งึ เดียว ศกั ดิส์ ทิ ธิ์ สากล และสืบมาจากอคั รทตู โดยมีมขุ นายกสืบทอดหนา้ ท่ีจากอคั รทตู และพระสนั ตะปาปาสืบมาจาก นกั บญุ เปโตร ซง่ึ พระเยซทู รงยกเป็นเอกในบรรดาอคั รทตู ศาสนจกั รคาทอลิกใหค้ วามสาคญั กบั ศีลมหาสนทิ ท่ีสดุ ในบรรดาศีลศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ทงั้ หมด และฉลอง ศีลนีใ้ นพธิ ีมสิ ซา โดยเช่ือวา่ ไวนแ์ ละปังท่ีบาทหลวงเสกในพธิ ีนีจ้ ะเปล่ียนสารเป็นพระกายและพระ โลหิตของพระเยซู และมีหลกั คาสอนใหน้ บั ถือพระนางมารียพ์ รหมจารเี ป็นพระมารดาพระเจา้ และ ราชนิ ีแหง่ สวรรค์ นอกจากนีย้ งั เช่ือในพระเมตตา การชาระใหบ้ รสิ ทุ ธิ์โดยความเช่ือ การประกาศ พระวรสาร และทางานเพ่อื สงั คม ศาสนจกั รคาทอลกิ จงึ เป็นองคก์ รเอกชนท่ีใหญ่ท่ีสุดในโลกท่ีจดั การศกึ ษาและบรกิ ารสขุ ภาพ ในประเทศไทยเรยี กครสิ ตศ์ าสนกิ ชนนิกายโรมนั คาทอลกิ วา่ \"ครสิ ตงั \"

ศาสนาครสิ ต์นิกายโปรเตสแตนต์ เปน็ นิกายหนง่ึ ในศาสนาครสิ ต์ ใชห้ มายถึงคริสต์ศาสนกิ ชนใด ๆ ทีไ่ มใ่ ช่ โรมนั คาทอลิกและออร์ทอดอกซ์ โปรเตสแตนตเ์ ปน็ ขบวนการศาสนาท่ีมี จดุ เรมิ่ ตน้ ที่ประเทศเยอรมนีช่วงต้นคริสตศ์ ตวรรษที่ 16 เพอ่ื คัดคา้ นหลกั ความเชอ่ื และการปฏบิ ตั แิ บบโรมันคาทอลกิ โดยเฉพาะในประเดน็ ที่เก่ียวกบั ความรอด การทาใหช้ อบธรรม และคริสตจักรวิทยา โปรเตสแตนต์แบง่ ออกเป็นหลายคริสตจกั รย่อย ซ่งึ ยดึ หลกั ความเชอื่ แตกต่างกนั ไป แต่ โดยทวั่ ไปจะยอมรับหลกั การเหมือนกันวา่ มนษุ ยจ์ ะเป็นคนชอบธรรมได้ก็ โดยอาศยั พระคณุ จากพระเจา้ ผา่ นทางความเช่ือเท่านัน้ (เรยี กวา่ หลกั โซลาก ราเซยี และโซลาฟีเด) เชอื่ ว่าผเู้ ชอื่ ทกุ คนเป็นปุโรหติ และคมั ภีร์ไบเบลิ มี อานาจสงู สุดในการกาหนดหลกั ความเชอ่ื และศีลธรรม (เรยี กว่าหลกั โซลาสก รปิ ตูรา)

สมาชกิ ในกลุม่ การปฏิรปู ศาสนาครสิ ต์ 1. นางสาว ชนาพร เดชพงษ์ เลขท่ี 16 2. นาย พรพริ ุณ สาระชาติ เลขท่ี 18 3. นางสาว มณกี ร ทองดง เลขที่ 20 4. นางสาว กุลจริ า แสนย่าง เลขที่ 31 5. นางสาว วรรณภา งามสมภาพ เลขท่ี 36 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/2