Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานวิธีการและผลการดำเนินงาน พนมดงรักวิทยา

รายงานวิธีการและผลการดำเนินงาน พนมดงรักวิทยา

Published by Pbern Jaa, 2022-06-22 11:26:04

Description: รายงานวิธีการและผลการดำเนินงาน พนมดงรักวิทยา

Search

Read the Text Version

42 หมวด 4 การวดั การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ (Measurement, Analysis and Knowledge Management) 4.1 การวดั การวิเคราะห์ และการปรับปรุงผลการดาเนินการของโรงเรียน (Measurement, Analysis and Improvement of Organization Performance) ก. การวัดผลการดาเนินการ (PERFORMANCE MEASUREMENT) (1) ตัววดั ผลการดาเนินการ (PERFORMANCE MEASURE) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยานาตัวชีว้ ัดความสาเร็จตามประเด็นกลยุทธ์ในแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2563 – 2565 มาเป็นตัววัดผลการดาเนินการโดยรวมของโรงเรียน เป็นแนวทางสาหรับการกาหนด ทิศทางการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียน ซ่ึงโรงเรียนกาหนดโครงสร้างการบริหารงานโรงเรียน พนมดงรกั วิทยา กาหนดกระบวนการในการบริหารจัดการโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PROUD Model ดงั ภาพท่ี 17 ภาพท่ี 17 กระบวนการบรหิ ารจดั การโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PROUD Model คณะกรรมการบริหารโรงเรียนคัดเลือกตวั ชีว้ ัดความสาเร็จตามประเด็นกลยุทธ์ จากแผนพัฒนาคณุ ภาพ การศึกษา พ.ศ. 2563 – 2565 โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา อาเภอพนมดงรกั จังหวัดสุรินทร์ โดยพิจารณาจาก วิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ เปา้ ประสงค์ อตั ลกั ษณโ์ รงเรยี นไดท้ งั้ หมด 14 ตวั ชวี้ ดั จาก 5 ประเด็นกลยทุ ธ์ ไดแ้ ก่

43 1) ผเู้ รียนมีทกั ษะในการอ่าน เขียน และสื่อสารอย่างนอ้ ย 3 ภาษาไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม และ มีพัฒนาการคิด คานวณตามเกณฑ์ โดยจดั ใหม้ ีกิจกรรมการรกั การอ่าน กิจกรรมค่ายคณิตศาสตรแ์ ละกิจกรรม คา่ ยภาษาองั กฤษ 2) ผู้เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ และวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ แลกเปล่ียนความคิดเห็น เพ่อื แกป้ ัญหานาไปส่กู ารสรา้ งสรรค์ ผลงานและนวตั กรรม โดยจดั ใหม้ ีกจิ กรรมปรบั พนื้ ฐานและกจิ กรรมบรู ณาการ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3) ผเู้ รยี นสามารถดแู ลสขุ ภาพรา่ งกาย สขุ ภาพจิต มีสนุ ทรียภาพดา้ นศิลปะ ดนตรี กีฬา และมีทกั ษะใน การปอ้ งกนั ตนเองจากภยั ธรรมชาติ โดยจดั ใหม้ ีกจิ กรรมคา่ ยดนตรี และมีลานกีฬาท่พี รอ้ มตอ่ การจดั กิจกรรม 4) ผเู้ รียนมีความรู้ มีทกั ษะ เจตคติท่ีดี พรอ้ มท่ีจะศกึ ษาต่อในระดบั ท่ีสงู ขึน้ หรือมีวฒุ ิภาวะทางอาชพี ท่ี เหมาะสมกบั ชว่ งวยั บคุ ลกิ ภาพ ความถนดั และเปา้ หมายชวี ติ โดยการแนะนาของงานแนะแนว 5) ผูเ้ รียนมีทักษะการทางานเป็นทีมและดารงชีวิตในสภาพแวดลอ้ ม โดยจัดกิจกรรมใหไ้ ดแ้ สดงออก ความสามารถผา่ นรายวิชา IS ของนกั เรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 และ 5 6) ผเู้ รียนสามารถใชเ้ ทคโนโลยีและการส่ือสารเป็นเคร่ืองมือในการสืบคน้ ถึงความรูใ้ ชก้ ระบวนการคิด อย่างมีวจิ ารณญาณใหเ้ กิดการรูเ้ ท่าทนั สอื่ เทคโนโลยี 7) ผเู้ รียนไดฝ้ ึกทกั ษะทางวชิ าชพี จากครูท่มี ีความเช่ียวชาญดา้ นช่างโดยเฉพาะ 8) ผเู้ รียนมีความรบั ผิดชอบต่อสงั คมและผอู้ ่ืน มธั ยสั ถ์ อดออม โอบออ้ มอารี มีวินยั รกั ษาศีลธรรมและ เป็นพลเมืองดีของชาติ มีทกั ษะท่ีจาเป็นในศตวรรษท่ี 21 ดว้ ยการจัดกิจกรรมใหน้ กั เรียนช่วยกนั ทาความสะอาด บรเิ วณพนื้ ท่ี 9) โรงเรียนมีหลกั สตู รสถานศกึ ษาตามกลมุ่ ศกั ยภาพผเู้ รียน ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษ ท่ี 21 โดยโรงเรียนจัดหลักสูตรออกเป็น 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 และ หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี 10) โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาท่ีส่งเสริมผูเ้ รียนตามกลุ่มศักยภาพใหม้ ีความรูท้ างวิชาการและ ทกั ษาวิชาชพี 11) ผเู้ รียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น 8 กลมุ่ สาระตามเกณฑร์ ะดบั ชนั้ 12) ผเู้ รยี นมีผลการสอบระดบั เขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาและระดบั ชาติท่สี งู ขึน้ 13) ผเู้ รยี นมีความสามารถ ความถนดั ทางวชิ าชพี เป็นท่ปี ระจกั ษ์ 14) โรงเรียนมีเสน้ ทางการศึกษาต่อ เสน้ ทางการประกอบอาชีพและทกั ษะชีวิต โดยโรงเรียนมีการจดั แนวการศกึ ษาต่อใหน้ กั เรียนท่มี ีความตอ้ งการทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ (2) ขอ้ มูลเชิงเปรยี บเทยี บ (Comparative Data) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีวิธีการใชข้ อ้ มลู เชงิ เปรียบเทียบโดยดาเนินการ ดงั นี้ ฝ่ ายบริหารมอบหมายใหก้ ลุ่มบริหารแผนงานและงบประมาณ ดาเนินการจัดทาแผนพัฒนาการศึกษา พ.ศ. 2563 – 2565 โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการเพ่ือกาหนดข้อมูลสารสนเทศเชิงเปรียบเทียบท่ีสาคัญให้ สอดคลอ้ งกับตัวชีว้ ัดความสาเร็จตามประเด็นกลยุทธ์ รวมทงั้ การบริหารจัดการโรงเรียน แนวทางของโรงเรียนคู่

44 เทียบท่ีมีการดาเนินงานคล้ายคลึงกัน โดยคัดเลือกจากข้อมูลท่ีสาคัญ แหล่งข้อมูลเปิ ดเผยสาธา รณะ โดยเปรียบเทียบ 3 ดา้ น คือ ดา้ นบริหารจัดการศึกษา ด้านผู้เรียนและด้านบุคลากร โดยมีการจัดการข้อมูล สารสนเทศ ดงั ภาพท่ี 18 ภาพที่ 18 กระบวนการจดั การขอ้ มลู สารสนเทศ 1. รวบรวมขอ้ มลู สารสนเทศ ไดแ้ ก่ ขอ้ มลู จากรายงานประจาปีของสถานศึกษา (SAR) รายงานผล การทดสอบระดบั ชาติขนั้ พืน้ ฐานของสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาสุรินทร์ และขอ้ มลู จาก Website ของโรงเรียน 2. วเิ คราะหค์ วามเหมาะสมของขอ้ มลู สารสนเทศ 3. คัดเลือกประเด็นขอ้ มูลเชิงเปรียบเทียบ และนาเสนอผลการคัดเลือกผ่านคณะกรรมการบริหาร โรงเรียน เพ่อื พิจารณาและนาไปใช้ 4. เปรียบเทียบข้อมูลโดยพิจารณาตามประเด็นท่ีกาหนด ตามผลลัพธ์ในหมวด 7 และนาผล การเปรยี บเทยี บมาปรบั ปรุงพฒั นา เพ่อื ใชใ้ นปีถดั ไป โรงเรียนมีการนาผลสารสนเทศเชิงเปรียบเทียบท่ีสาคญั ไปใชใ้ นการจดั ทาแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. 2563 – 2565 แผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ 2563 ตามลกั ษณะของงาน และตามบริบทของโรงเรียน ขอ้ มลู เชิงเปรียบเทียบท่ีสาคญั ตามกระบวนการคัดเลือกขา้ งตน้ โรงเรียนนาไปใชส้ นับสนนุ การตัดสินใจในระดบั ประเด็นกลยทุ ธ์ ตามแผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2563 – 2565 และนิเทศตดิ ตามผล นาขอ้ มลู สารสนเทศ ไปใชใ้ นการประกอบการวางแผนในแตล่ ะดา้ นในหมวด 3 นกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสียและหมวด 5 บคุ ลากร โรงเรียนดาเนินการจดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศ เพ่อื นาขอ้ มลู มาเปรียบเทียบใหเ้ หน็ ภาพโดยรวม ดงั นี้ 1. ดา้ นบริหารและการจดั การศกึ ษา การบริหารจดั การคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา โดยใชร้ ูปแบบ PROUD Model ซ่งึ อาศยั แนวคิดทฤษฎีเชิงระบบ คือ การรบั รู้ เขา้ ใจถึงสภาพปัญหา ตระหนกั ถึง สภาพปัญหา ลงมอื ทาใหเ้ กดิ ผล รว่ มมอื จนเป็นหน่งึ เดยี ว กอ่ ใหเ้ กดิ ผลท่ีย่งั ยืน โดยมผี บู้ รหิ ารโรงเรียน ครู บคุ ลากร คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานและผทู้ รงคณุ วฒุ ิ รว่ มบรหิ ารจดั การศกึ ษา สง่ ผลใหโ้ รงเรยี นผ่านการประเมิน ภายนอก รอบ 3

45 2. ดา้ นผูเ้ รียน โรงเรียนใชข้ อ้ มูลเชิงเปรียบเทียบจากผลการทดสอบทางศึกษาระดับชาติขั้นพืน้ ฐาน (O-NET) ผลการเปรียบเทียบ คือ คะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบ O-NET ของนกั เรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2563 สงู กวา่ ปีการศกึ ษา 2562 3. ดา้ นบคุ ลากร มบี คุ ลากรมอี ตั รากาลงั พรอ้ มสาหรบั การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน (3) ขอ้ มูลนักเรยี นและผู้มีส่วนได้สว่ นเสยี (STUDENT and STAKEHOLDER Data) ในกระบวนการเลือกข้อมูลนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การวัด วิเคราะห์ ทบทวน ปรับปรุงผล การดาเนนิ งานในกระบวนการพฒั นาหลกั สตู รและการจดั การเรียนรู้ การศกึ ษาโดยใชแ้ นวทางการพฒั นาหอ้ งเรียน คณุ ภาพท่ีใชเ้ ป็นพืน้ ฐานความตอ้ งการในการวางแผนจดั ทาโครงสรา้ งหลกั สตู ร การออกแบบการจดั การเรียนการ สอนมีการกาหนดเป็นตวั ชีว้ ัดของหลกั สูตร การจัดการเรียนรู้ การนิเทศติดตามกระบวนการปฏิบัติงานใหบ้ รรลุ ตามเป้าหมาย โดยมีการกาหนดผูร้ บั ผิดชอบและระยะเวลาในการติดตามชัดเจน รวมถึง การนาประเด็นของ ขอ้ รอ้ งเรียนมาสนบั สนุนการตดั สินใจในการจดั ทาประเด็นกลยุทธแ์ ละแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ 2563 ท่ีตอบสนองความต้องการของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยการใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียน ในการพฒั นานกั เรยี นใหส้ อดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2563 – 2565 ระบบการบนั ทกึ ผลการใชข้ อ้ มลู สารสนเทศของนกั เรียนไดด้ าเนินการอย่างเป็นระบบตามท่ีมีการวางแผน การบนั ทึกผลตามตัวชี้วัดท่ีสาคัญ (KPI) โดยกระบวนการนิเทศภายใน เพ่ือใหเ้ กิดความม่ันใจว่าไดน้ าขอ้ มูล สารสนเทศของนกั เรียนและผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสียมาใชป้ ฏิบตั ิการ จากสารสนเทศของนักเรียนดา้ นผลสมั ฤทธิ์ทาง การเรียนเม่ือมีการวัด วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์และความสามารถทางการเรียนของนักเรียนระหว่างภาคเรียน (Formative) พบปัญหาจะนามาซ่ึงการจัดทานวัตกรรมของครูท่ีจะใช้แก้ปัญหานักเรียนอย่างต่อเน่ืองและ เป็นระบบ เพ่ือใหข้ อ้ มลู สารสนเทศท่ีไดจ้ ากการเลือก ไดก้ าหนดใหก้ ล่มุ งาน/งานท่ีเก่ียวขอ้ งนาไปปรบั ใชใ้ นงาน เช่น ข้อมูลพืน้ ฐานของนักเรียนทุกคนครบทุกด้านจากงานนโยบายและแผนงาน คณะครูทุกคนนาขอ้ มูลมา ทาการวิเคราะหน์ ักเรียนเป็นรายบุคคล เพ่ือท่ีจะนาขอ้ มูลมาวิเคราะหส์ ู่การออกแบบการจัดการเรียนรู้ จัดทา หนว่ ยการเรยี นรูแ้ ละแผนการจดั การเรียนรู้ เม่อื พบปัญหานกั เรียนในขณะจดั การเรียนการสอนตอ้ งสรา้ งนวตั กรรม กระบวนการจะหมุนวนไปเรื่อย ๆ และนอกจากนีย้ ังนาข้อมูลมาเป็นสารสนเทศในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ภายในโรงเรยี น เช่น หอ้ งสมดุ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศนู ยพ์ ฒั นาการเรียนการสอนภาษาองั กฤษ สง่ ผลใหน้ กั เรียน ผปู้ กครองมีความพงึ พอใจในระบบบริหารงานของโรงเรยี น เม่ือมีความพึงพอใจในระดบั มากขนึ้ ไปสง่ ผลใหโ้ รงเรยี นไดร้ บั การสนบั สนนุ จากหน่วยงานหรือปัจจยั อ่ืน ๆ การเลือกใชข้ อ้ มูลสารสนเทศมีความสาคัญตามกระบวนการขา้ งตน้ ผลจากการดาเนินการฝ่ ายบริหาร มีการนาผลการดาเนินการของคณะครูมาวิเคราะหห์ าความสมั พนั ธ์ระหว่างผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรียน กับกระบวนการวิจัยในชั้นเรียนและมีการสะท้อนผลการดาเนินงานจากการนิเทศภายในสถานศึกษา โดยใช้ กระบวนการ PLC ใหก้ ับคณะครูไดท้ ราบและยกระดับความสามารถในการทาวิจยั ใหผ้ ่านในระดับดีขึน้ ไปใน ปีการศึกษาใหม่ มีการนาเสนอขอ้ มูลสารสนเทศไปใชใ้ นการประกอบและวางแผนในแต่ละดา้ น ไดแ้ ก่ หมวด 3 ดา้ นนกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย หมวด 5 ดา้ นการมงุ่ เนน้ บคุ ลากร ดงั ภาพท่ี 19

46 ภาพที่ 19 กระบวนการเลือกขอ้ มลู นกั เรียนและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย (4) ความคลอ่ งตวั ของการวัดผล (Measurement Agility) โรงเรียนมีแนวทางในการดาเนินการเพ่ือใหเ้ กิดความม่นั ใจว่าระบบการวัดผลการดาเนินการของโรงเรียน สามารถตอบสนองความเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึน้ อย่างรวดเร็ว ดงั ภาพท่ี 20 ภาพที่ 20 ระบบการวดั ผลการดาเนินการของโรงเรียน มีการจดั เก็บรวบรวมขอ้ มลู มีการจัดระบบขอ้ มูลใหเ้ ป็นปัจจุบนั ครบถว้ น ถูกตอ้ ง สมบูรณ์ และสามารถ นามาใชง้ านไดส้ ะดวก รวดเร็ว ทนั เวลาในทุกระดับไวใ้ น Website ของโรงเรียน Google Drive และฐานขอ้ มลู ของระบบงานต่าง ๆ เช่น SGS, DMC, B-OBEC, EMIS ในเครื่องคอมพิวเตอรข์ องกลุ่มงานท่ีรับผิดชอบ อีกทั้งเป็นรูปแบบเอกสารในกลุ่มงานต่าง ๆ ด้วย ทาให้ผู้นาข้อมูลไปใชเ้ กิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน มกี ารวิเคราะหผ์ ล เพ่อื แกไ้ ขและปรบั ปรุง นามาพฒั นาต่อไป ข. การวเิ คราะหแ์ ละทบทวนผลการดาเนินการ (PERFOMANCE ANALYSIS and Review) โรงเรียนมรี ูปแบบการดาเนนิ งาน ดงั นี้ 1) การประเมินผลการดาเนินงานของระบบประกันคุณภาพภายใน ซ่ึงจะสะท้อนให้เห็นถึงผล การดาเนินงานตามแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. 2563 – 2565 โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา และแผนปฏิบตั ิ

47 การประจาปีงบประมาณ 2563 และรายงานผลในรูปแบบของรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ของโรงเรียนใน แต่ละปีการศกึ ษา 2) การประเมินผลการดาเนินงานตามโครงการหลกั ของโรงเรียนท่ีบรรจไุ วใ้ นแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบตั ิ การประจาปีงบประมาณ 2563 ของโรงเรียน โดยการประเมนิ ใชร้ ูปแบบ PROUD Model ทาใหม้ ขี อ้ มลู ท่ีสามารถ นามาพฒั นา ปรบั ปรุงโครงการใหเ้ หมาะสม 3) การประเมินผลการเรียนของนักเรียน บันทึกข้อมูลในระบบ SGS ตามนโยบายของ สพฐ. ซ่ึงเป็น โปรแกรมสาหรบั จดั ทาสมดุ ประเมนิ ผลรายวิชา (ปพ.5) ทาใหค้ รูผสู้ อนมีการวางแผนการวดั และประเมินผล ไดต้ รง ตามหลักสูตร ถูกต้องแม่นยา นาข้อมูลไปใช้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วรวมทั้งนักเรียนและผู้ปกครองสามารถ ตรวจสอบผลการเรียนดว้ ยตนเองได้ ค. การปรับปรุงผลการดาเนินการ (PERFOMANCE Improvement) (1) การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้และวิธปี ฏบิ ัตทิ เี่ ป็ นเลศิ (Best Practices) โรงเรียนดาเนินการแลกเปลี่ยนเรียนรูแ้ ละนาเสนอวิธีปฏิบตั ิท่ีเป็นเลิศภายใตก้ ารดาเนินงานของผูบ้ ริหาร รองผูอ้ านวยการ หัวหนา้ กล่มุ งาน หัวหนา้ งาน และหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ใหเ้ ป็นไปตามแผนท่ีกาหนดไว้ มีการสรา้ งชมุ ชนแห่งการเรียนรูท้ างวิชาชีพ (PLC) เพ่ือเป็นแนวทางและตวั อย่างใหบ้ คุ คลท่ีสนใจสามารถเขา้ มา ศึกษาเรียนรูแ้ ละทาการปฏิบตั ิร่วมกัน เพ่ือพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา โดยปฏิบตั ิผ่านการประชุมในวาระต่าง ๆ ไดแ้ ก่ การประชุมประจาเดือน การประชมุ หวั หนา้ กล่มุ งาน การประชมุ กล่มุ สาระการเรียนรู้ เพ่ือขบั เคล่ือนตวั ชีว้ ัด และเปา้ ประสงคต์ า่ ง ๆ ใหม้ ปี ระสิทธิภาพ การนิเทศภายในระดบั กลมุ่ สาระการเรียนรูแ้ ละระดบั โรงเรียน เพ่อื กากบั และติดตามรวมถึงการสรา้ งขวญั และกาลงั ใจในการจดั การเรียนการสอน เสนอแนะวิธีการสอนท่ีมีประสิทธิภาพ สะท้อนผลการจัดการเรียนการสอน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอน การสง่ เสรมิ ใหบ้ คุ ลากรทางการศกึ ษาไดแ้ ลกเปล่ียนเรียนรูด้ า้ นการจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ การสรา้ งนวตั กรรม เพ่ือการสอน การวิจัยเพ่ือพัฒนาการศึกษา เป็นตน้ ในมหกรรมวิชาการและการประกวดแข่งขันในเวทีต่าง ๆ การกากับติดตามผลการดาเนินโครงการและกิจกรรมของทุกกลุ่มงาน กลุ่มสาระการเรียนรูเ้ พ่ือประเมินและ สะทอ้ นผลการปฏิบตั ิงาน เพ่ือปรบั ปรุงและพฒั นาต่อยอดใหส้ มบูรณ์ การสง่ เสรมิ ใหบ้ ุคลากรทางการศึกษาไดเ้ ขา้ รบั การอบรมในหลกั สูตรต่าง ๆ ท่ีมีประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเอง ผเู้ รียน และองค์กร และสง่ เสรมิ ใหบ้ ุคลากรได้ เป็นวิทยากรในการขยายผลหรือบรรยายหวั ขอ้ ท่ีผ่านการอบรมแก่เพ่ือนครูในโรงเรียน รวมถึงการเชิญวิทยากรท่มี ี ความรูแ้ ละประสบการณม์ าถ่ายทอดวธิ ีการปฏิบตั ิท่เี ป็นเลิศ เพ่อื สรา้ งแรงบนั ดาลใจใหค้ รูไดพ้ ฒั นาสคู่ วามเป็นมือ อาชีพต่อไป และนอกจากนีโ้ รงเรียนยงั สรา้ งเครือข่ายทางการเรียนรูโ้ ดยทาบนั ทึกขอ้ ตกลงความร่วมมือ (MOU) เพ่อื แลกเปล่ียนเรียนรูก้ บั โรงเรียน มหาวิทยาลยั และหนว่ ยงานต่าง ๆ อกี ดว้ ย (2) ผลการดาเนินการในอนาคต (Future PERFOMANCE) โรง เรียนวาง แผนการดาเนินง านจากการวิเคร าะห์และการแล กเปลี่ ย นเรียนรู ้มาสู่การป รับป รุ ง ผ ล การดาเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2563 – 2565 ของโรงเรียนในอนาคต โดยหัวหนา้ งาน หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ถ่ายทอดความรูไ้ ปสู่ผู้ปฏิบัติแต่ละกลุ่มงานในการประชุม แลกเปล่ียนขอ้ มูล เพ่ือดาเนินการใหส้ อดคลอ้ งและไปในแนวทางเดียวกัน ปัจจุบนั โรงเรียนไดน้ าขอ้ มูลจากผล

48 การดาเนินงานมากาหนดเป็นนโยบายแผนการดาเนินงานเชิงเปรียบเทียบและการแข่งขันกับโรงเรียนในสงั กัด สพม. 33 เพ่ือใหท้ ราบเป้าหมายในอนาคตท่ีโรงเรียนตอ้ งดาเนินการ เช่น ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนเทียบเท่ากับ โรงเรียนประจาจังหวัด ผลการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา และจัดทาข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ สถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ เพ่ือไดว้ างแผนการดาเนินงานเชิงเปรียบเทียบ และพรอ้ มท่ีจะแข่งขัน ใหเ้ ป็นโรงเรียนชนั้ นาในอนาคต (3) การปรับปรุงอยา่ งต่อเน่ืองและนวตั กรรม (Continuous Improvement and INNOVATION) จากรายงานการประเมินตนเอง (SAR) นาไปสู่การดาเนินการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเน่ือง ทาให้ ปฏิบัติการในปีการศึกษาต่อไปได้อย่างครอบคลุม มีการกาหนดกรอบแนวคิดในการปฏิบัติงานตามปฏิทิน ปฏิบัติงานได้ตามแผนท่ีกาหนดไว้ มีการจัดลาดับการดาเนินงานท่ีสาคัญอย่างเป็นระบบลงในปฏิทิน การปฏิบตั ิงาน ทาใหบ้ ุคลากรในหน่วยงานวางแผนการทางานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โดยเน้นให้นากระบวนการ PROUD Model ใช้ในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของโรงเรียน เช่น การยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน การนิเทศภายในระดับโรงเรียน ระดบั กลุ่มสาระการเรียนรู้ การสอนแบบ สะเตม็ ศกึ ษา เป็นตน้ 4.2 การจัดการความรู้ สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Knowledge Management, Information and Information Technology) ก. ความรู้ขององคก์ ร (Organization Knowledge) (1) การจดั การความรู้ (Knowledge Management) โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา ไดม้ กี ารขบั เคล่อื นการจดั การความรูข้ องโรงเรียน 5 ขนั้ ตอน ดงั ภาพท่ี 21 ภาพที่ 21 การขบั เคล่ือนการจดั การความรูข้ องโรงเรียน 1) เตรียมการ โรงเรียนมคี าส่งั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการจดั ทานวตั กรรม ประกอบดว้ ยผบู้ รหิ ารและบุคลากร ทกุ คน จากนนั้ มปี ระชมุ เชิงปฏิบตั ิการเพ่ือกาหนดตวั ชวี้ ดั ความสาเรจ็ ตามประเด็นกลยุทธ์ 2) ออกแบบนวตั กรรม จากการรวบรวมขอ้ มลู นามาสกู่ ารสรา้ งนวตั กรรมของโรงเรียน คือ การบริหาร จดั การโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PROUD Model 3) สรา้ งนวตั กรรม โดยจดั ทานวตั กรรมตามโครงสรา้ งและรูปแบบท่ีกาหนดไว้

49 4) นาไปปฏิบตั ิ โดยผูบ้ ริหารนาเสนอนวัตกรรมการบริหารจัดการโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PROUD Model 5) ติดตามและประเมินผล โดยผู้บริหาร หวั หนา้ งาน หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ดาเนินการติดตาม การใชน้ วตั กรรมเพ่อื กากบั ดแู ล อานวยความสะดวกและช่วยแกไ้ ขปัญหาระหวา่ งดาเนินงาน (2) การเรยี นรู้ระดบั องคก์ ร (Organization LEARNING) โรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยามีแนวทางการเรยี นรูร้ ะดบั องคก์ ร คอื 1) ศึกษาตัวชีว้ ัดความสาเร็จตามประเด็นกลยุทธ์ท่ีเป็นเป้าหมายในการจะทาใหบ้ รรลุวัตถุประสงค์ โดยกลมุ่ บริหารงานโรงเรียนจะจดั ประชมุ ผเู้ ก่ียวขอ้ งในการรว่ มพฒั นาและนาไปบรรจุลงในแผนปฏบิ ตั ิการประจา ปีงบประมาณ 2563 2) แจง้ ผรู้ บั ผิดชอบหรือผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งในการลงมือปฏิบตั ิ รวมทงั้ หน่วยงานหรือองคก์ รท่ีเก่ียวขอ้ งพรอ้ ม ทงั้ ปฏบิ ตั งิ านใหบ้ รรลผุ ล 3) ตรวจสอบความรูห้ รือประสบการณท์ ่ไี ดร้ บั นามาใชใ้ นโรงเรยี น 4) ปรบั ปรุงขอ้ มลู หรอื ผลการดาเนินงานใหเ้ หมาะสมกบั บรบิ ทของโรงเรียน โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยาสง่ เสรมิ บคุ ลากรใหม้ ีการพฒั นาตนเองอยา่ งสม่าเสมอ ผา่ นการอบรม ศกึ ษาดู งาน การแลกเปล่ียนเรียนรูแ้ ละนาเสนอผลงานทางวิชาการ เพ่ือใหบ้ ุคลากรกา้ วทนั ต่อการเปล่ียนแปลงของสงั คม และมคี วามพรอ้ มในการจดั การเรียนการสอนเพ่ือพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ ป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ ดงั ภาพท่ี 22 ภาพท่ี 22 แนวทางการเรียนรูร้ ะดบั องคก์ ร ข. ข้อมูล สารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Data, Information and Information Technology) (1) คณุ ภาพของข้อมลู และสารสนเทศ (Data and Information Quality) โรงเรียนมีวิธีการในการทาใหม้ ่ันใจว่าขอ้ มูลสารสนเทศและความรูข้ องโรงเรียนมีความแม่นยา ถูกตอ้ ง เช่ือถือได้ ทนั เวลา และปลอดภยั โดยมแี นวปฏบิ ตั ิดงั นี้ 1) ดา้ นความถกู ตอ้ ง แม่นยา และเช่ือถือไดข้ องขอ้ มลู สารสนเทศ

50 โรงเรียนมีเอกสารคู่มือการใชง้ านระดับวิธีปฏิบัติงานของแต่ละงาน เช่น ค่มู ือครู ค่มู ือนกั เรียน ค่มู ือ การปฏิบัติงานวัดผลประเมินผลโรงเรียน แผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ 2563 คู่มือการบริหารจัดการ คุณภาพการศึกษา โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา โดยใชร้ ูปแบบ PROUD Model เป็นตน้ ซ่ึงการไดม้ าซ่ึงขอ้ มูล สารสนเทศโรงเรียนมีการทบทวนกระบวนการดาเนินงาน เพ่ือเป็นการตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มูลท่ีเป็น ระบบ มีการควบคมุ และยึดหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ โดยอาศัยทงั้ ปัจจยั ภายใน และภายนอกเช่ือมโยงและอา้ งอิง ขอ้ มลู จากแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศท่ีมีมาตรฐานและมีความน่าเช่ือถือ มีผูร้ บั ผิดชอบระบบท่ีสามารถแกไ้ ขปัญหา หรือข้อผิดพลาดของระบบได้ทันทีเพ่ือให้ได้ขอ้ มูลท่ีชัดเจน มีการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองและตรวจสอบข้อมูล สารสนเทศในระบบอย่เู สมอ ดงั ภาพท่ี 23 ภาพท่ี 23 กระบวนการดาเนนิ งานเอกสาร/คมู่ ือการใชง้ าน 2) ดา้ นความรวดเรว็ ทนั กาลและทนั สมยั ของขอ้ มลู สารสนเทศ โรงเรียนมีการปรบั ปรุงขอ้ มูลใหท้ นั สมัย มีการส่ือสารโดยตรงกับกล่มุ เป้าหมายท่ีตอ้ งการขอ้ มูลและ กาหนดสิทธิในการพัฒนาขอ้ มูลใหผ้ ูเ้ กี่ยวข้องโดยตรง เช่น การส่งข่าวประชาสมั พันธ์ บนหนา้ Website ของ โรงเรียนทางระบบออนไลน์ โดยมีการกาหนดผูร้ บั ผิดชอบทงั้ บุคลากรในโรงเรียนและนักเรียนท่ีมีส่วนเกี่ยวข้อง และระยะเวลาท่แี น่นอนในการสง่ ขอ้ มลู พฒั นาปรบั ปรุงขอ้ มลู อยา่ งตอ่ เน่อื ง ดงั ภาพท่ี 24 ภาพที่ 24 กระบวนการดาเนินงานขอ้ มลู สารสนเทศ

51 (2) ความปลอดภยั ของขอ้ มลู และสารสนเทศ (Data and Information Security) โรงเรียนจัดลาดับชั้นความสามารถในการเขา้ ถึงขอ้ มูลตรงตามลกั ษณะผูใ้ ชง้ าน โดยกาหนด ผูใ้ ชร้ ะบบ (Username ) และรหัสผ่าน (Password) เพ่ือเขา้ ถึงขอ้ มลู ตามสิทธิ์ท่ีมี โดยผูด้ ูแลระบบเป็นผูค้ วบคมุ (Admin) และมีการสารองขอ้ มลู ไวใ้ นท่ีเก็บอย่างปลอดภยั ใน Google Drive เพ่ือปอ้ งกนั ปัญหาการสญู หายของขอ้ มลู อีก ทงั้ มขี อ้ มลู ท่ีเป็นเอกสารตน้ ฉบบั เก็บไวก้ บั หนว่ ยงานท่รี บั ผิดชอบอยา่ งเป็นระบบ (3) ความพร้อมใชง้ านของข้อมลู และสารสนเทศ (Data and Information Availability) โรงเรียนจดั ใหม้ ีการเขา้ ถึงขอ้ มลู ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น ข่าวสารโรงเรียน ปฏิทินกิจกรรมของ โรงเรยี น กระดานสนทนา ภาพกจิ กรรมตา่ ง ๆ เป็นตน้ มบี รกิ ารสญั ญาณ Internet ดว้ ยสญั ญาณ WIFI ท่วั บรเิ วณ โรงเรียน และมีแผนการบารุงรกั ษาระบบเป็นระยะ ๆ มีการจัดการเรียนรู้ผ่าน Google Drive โดยใช้ QR Code ระบบงานต่าง ๆ ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปช่วยในการจดั การเพ่ือความสะดวก รวดเรว็ เชน่ ระบบงานแผนงานโรงเรียน ระบบจัดซือ้ จัดจา้ งของงานพัสดุ (EGP) ระบบงานช่วยเหลือนักเรียน ระบบงานทะเบียนวัดผล (SGS) เป็นตน้ และมีการเก็บเอกสารตน้ ฉบบั อย่างเป็นระบบใน Google Drive เพ่อื งา่ ยต่อการใชง้ าน (4) คุณลักษณะของฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ (Hardware and Software Properties) โรงเรียนมีวิธีการท่ีม่ันใจไดว้ ่าฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ มีความเช่ือถือได้ ปลอดภัย และใชง้ านง่าย โดย โรงเรียนมคี รูและเจา้ หนา้ ท่ที ่มี ีความเช่ียวชาญและชานาญการ มีความรูเ้ ป็นผดู้ แู ลรบั ผดิ ชอบคอยใหค้ าแนะนาและ กาหนดเกณฑม์ าตรฐานการใชง้ าน ก่อนท่ีจะมีการจัดซือ้ ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วรต์ ามมาตรฐานการใชง้ านแต่ละ ดา้ นหรือเหมาะสมกบั ภาระงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง โดยคานึงถึงประสิทธิภาพความคมุ้ ค่า อายุการใชง้ าน ความปลอดภยั ของขอ้ มลู ในการจดั ซือ้ จดั จา้ งมีการแต่งตงั้ คณะกรรมตรวจรบั ตามระเบียบราชการ (5) ความพร้อมใชง้ านในภาวะฉุกเฉนิ (Emergency Availability) โรงเรียนมีการติดตามเฝ้าระวังประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายและระบบคอมพิวเตอร์ เพ่ือรองรับ กระบวนการเลือกและรวบรวมขอ้ มูลสารสนเทศและบูรณาการติดตามการใชง้ านประจาวันและกระบวนการ ทบทวนผลการดาเนนิ การและขดี ความสามารถของโรงเรียน โรงเรียนมีการดแู ลระบบการใชง้ าน โดยมีครูท่ีเป็นเจา้ หนา้ ท่ีคอมพิวเตอรใ์ นการดูแลระบบอานวยความ สะดวกในการใชง้ าน และการซ่อมบารุงใหอ้ ยู่ในสภาพพรอ้ มใชง้ านไดต้ ลอดเวลา โดยมีการประชุม สารวจความ ตอ้ งการในการใชอ้ ปุ กรณ์ พรอ้ มทงั้ ใชง้ านในภาวะฉกุ เฉิน ดงั ภาพท่ี 25 1. สารองขอ้ มลู จากเคร่อื งคอมพิวเตอร์ (อพั โหลด Google Drive) 2. จดั เก็บขอ้ มลู เป็นเอกสาร 3. ระบบยืนยนั ตวั ตนเพ่อื เขา้ ใช้ Internet ผา่ น เลขประจาตวั นกั เรียน 4. ระบบเก็บขอ้ มลู ทาง Internet ตาม พ.ร.บ. คอมพวิ เตอรห์ รอื Log file ภาพท่ี 25 กระบวนการดาเนินงานใชง้ านในภาวะฉกุ เฉิน

52 หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา ม่งุ ม่นั ท่ีจะพฒั นาบริหารจดั การคณุ ภาพการศึกษาใหม้ ีคณุ ภาพ โดยเร่ิมจากการมี ส่วนร่วมของผูบ้ ริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ประชุมร่วมกัน กาหนดแนวทางในการบริหารจัดการ คุณภาพการจัดการศึกษา และจากการระดมสรรพกาลงั จากทุกๆ ฝ่ าย โดยมีเป้าหมายสาคัญคือความสาเร็จ Success โดยใช้ปฏิบัติงานโดยรูปแบบ PROUD Model โดยอาศัยแนวคิดทฤษฎีเชิงระบบคือปัจจัยนาเข้า (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Output) โดยองคป์ ระกอบหลักท่ีสัมพันธ์ของค่านิยม PROUD ประกอบดว้ ย P - Perception การรบั รู้ เขา้ ใจถึงสภาพปัญหา/บรบิ ท/โครงการ R - Realization ตระหนกั ถึงสภาพปัญหา/บรบิ ท/โครงการ O - Operation ลงมือทาใหเ้ กิดผล U - Unity รว่ มมอื จนเป็นหนึง่ เดียว D - Durable เกดิ ผลท่ีย่งั ยนื เพ่ือส่งผลใหร้ ะบบบรรลวุ ิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ และค่านิยม เป็นภาพความสาเรจ็ ท่ีตอ้ งการในอนาคตของโรงเรยี น ดว้ ยการบูรณาการนโยบายตน้ สังกัด ภารกิจ กิจกรรม ความรบั ผิดชอบ ทรพั ยากร บุคลากร ผูท้ รงคุณวุฒิและ เ ทคโนโล ยีนาม าหล อม รวม เ ป็ น นโย บา ยแล ะ ยุทธ ศาส ตร์ใ นกา รด าเ นินง าน ของ โ รง เ รียนพ นม ดง รัก วิ ท ย า เน้นการทางานเป็นทีมและเนน้ การเขา้ ใจ ยอมรบั และการมีส่วนร่วมของผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย ในทุกขั้นตอนของ การปฏิบัติงาน โดยมีหลกั ในการทางานร่วมกันว่า “ร่วมคิด ร่วมทา ร่วมรบั ผิดชอบ” และเน้นการพัฒนาอย่าง ต่อเน่อื ง เพ่อื ใชเ้ ป็นเปา้ หมายสาคญั ของการทางานใหบ้ รรลตุ วั ชีว้ ดั ความสาเรจ็ ตามประเด็นกลยทุ ธ์ 5.1 สภาพแวดลอ้ มของบุคลากร (WORKFORCE Environment) ก. ขีดความสามารถและอัตรากาลงั บุคลากร (WORKFORCE CAPABILITY and CAPACITY) (1) ขดี ความสามารถและอัตรากาลัง (CAPABILITY and CAPACITY) โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา ไดด้ าเนนิ การดา้ นขีดความสามารถและอตั รากาลงั ดงั นี้ 1. สารวจความตอ้ งการอตั รากาลงั ม่งุ เนน้ ขีดความสามารถดา้ นความรูแ้ ละทกั ษะ ประสบการณข์ อง บุคลากร เพ่ือพิจารณาใหป้ ฏิบตั ิงานตามโครงสรา้ งการบรหิ ารงานของโรงเรียน กาหนดภาระงานและอตั รากาลงั เพ่อื ใหบ้ คุ ลากรไดท้ างานในกลมุ่ งานท่ตี นเองถนดั สง่ ผลใหก้ ารปฏบิ ตั ิงานประสบความสาเรจ็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 2. จัดทาแผนอัตรากาลังระยะเวลา 3 ปี โดยใช้การวิเคราะห์แนวโน้มการเคลื่อนไหวจากข้อมูล สารสนเทศบคุ ลากร แนวโนม้ การขอยา้ ย การเกษียณอายรุ าชการแตล่ ะปี เพ่อื กาหนดตาแหน่งและจานวนบคุ ลากร ท่ตี อ้ งการตามคณุ สมบตั ิ ทกั ษะ สมรรถนะ โดยพิจารณารว่ มกนั ทงั้ โรงเรียน 3. นาผลการสารวจมาวิเคราะหอ์ ัตรากาลงั เพ่ือวางแผนการบริหารงาน กาหนดใหค้ รูไดส้ อนตรงตาม วฒุ ิการศึกษา กล่มุ สนบั สนุนการสอนพิจารณาจาก ภาระงานท่ีตรงกับความสามารถท่ีมีอยู่ แต่งตงั้ คณะทางาน ตามกลมุ่ งาน และกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ โดยใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ประชมุ และจดั ทาค่มู ือปฏบิ ตั ิงาน

53 4. กาหนดการประเมินขีดความสามารถ ทกั ษะ สมรรถนะของบคุ ลากร โดยประเมินภาคเรียนละ 1 ครง้ั จดั ระบบการประเมินผลการปฏิบตั ิงานของบุคลากร โดยมอบหมายให้ หวั หนา้ งาน/หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ เป็นผูป้ ระเมินผล โดยใชแ้ บบประเมินประสิทธิภาพประสิทธิผลการปฏิบัติงานของขา้ ราชการครู และรายงาน การประเมนิ ตนเองเป็นรายบคุ คล 5. นาผลการประเมินขีดความสามารถ ทกั ษะ สมรรถนะ มาทบทวนปรบั ปรุงพฒั นา จดั ทาเป็นแผนพฒั นา ตนเองเป็นรายบุคคล (ID PLAN) เป็นแผนพฒั นาความสามารถ ทกั ษะ และสมรรถนะ เพ่ือใหบ้ ุคลากรมีความ เช่ียวชาญ (2) บคุ ลากรใหม่ (New WORKFORCE Members) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีวิธีสรรหา ว่าจา้ ง บรรจุ และรกั ษาบุคลากรใหม่ไวโ้ ดย อธิบายสรุปขั้นตอน การดาเนนิ การ ดงั นี้ 1. โรงเรียนวางแผน วิเคราะหอ์ ตั รากาลงั โดยใชข้ อ้ มลู สารสนเทศบุคลากรมาวางแผนสรรหาบุคลากร ใหม่ใหท้ ันและเพียงพอต่อความตอ้ งการ เม่ือมีตาแหน่งว่าง เช่น บุคลากรเกษียณอายุราชการ บุคลากรย้าย เป็นตน้ โดยวางแผนรว่ มกบั กลมุ่ งาน และกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 2. นาผลการวางแผน วิเคราะหอ์ ัตรากาลงั และความตอ้ งการแต่ละตาแหน่งโดยกล่มุ สาระการเรียนรู้ พิจารณาจากการเพ่ิม/ลดของบุคลากร และช่วั โมงสอนเฉล่ียในส่วนของกล่มุ งานต่าง ๆ พิจารณาจากภาระงาน และนาผลการวิเคราะห์ มาประเมิน จัดอัตรากาลังใหเ้ หมาะสม ในกรณีการรับยา้ ยหรือบรรจุข้าราชการครู จะดาเนินการดงั นี้ 2.1 การรบั ยา้ ยบุคลากรแทนตาแหนง่ ท่วี ่างลง จะดาเนนิ การโดยผ่านความเห็นชอบจากมติ ท่ปี ระชมุ ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา 2.2 การบรรจุบุคลากร โรงเรียนไดป้ ระชมุ คณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียน เพ่ือวิเคราะหค์ วามตอ้ งการ และความจาเป็นผ่านความเห็นชอบจากมติท่ีประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาและเสนอความตอ้ งการอตั รากาลงั ไปยงั สานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาสรุ นิ ทร์ เพ่ือดาเนินการรบั ยา้ ยหรอื บรรจบุ คุ ลากรใหม่ 3. กรณีท่ีไม่ไดร้ บั การจดั สรรอตั รากาลงั ใหก้ ับโรงเรียนเพ่ือบรรจุขา้ ราชการครู จะพิจารณา จา้ งอตั รา จา้ ง โดยยึดแผนอตั รากาลงั ท่ีวางไวแ้ ลว้ สรรหาว่าจา้ งครูอตั ราจา้ ง ใชร้ ะบบการสรรหา เพ่ือการคดั เลือกบุคลากร เขา้ มาทางานไดเ้ หมาะสมกับตาแหน่ง ทงั้ ดา้ นความรู้ ความสามารถ และทกั ษะ ตามคณุ สมบตั ิ ท่ีกาหนดใหต้ รง กบั ความตอ้ งการและลกั ษณะงาน มขี นั้ ตอนการสรรหา ดงั นี้ 3.1 ประกาศรับสมัครบุคลากรตามสาขาวิชาท่ีต้องการทาง Website ของสานักงานเขตพื้นท่ี การศกึ ษามธั ยมศกึ ษาสรุ นิ ทร์ และทาง Website ของโรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยา 3.2 แตง่ ตงั้ คณะกรรมการรบั สมคั รและกรรมการตรวจสอบเอกสารการสมคั ร 3.3 แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินการออกข้อสอบ คณะกรรมการดาเนินการจัดสอบแข่งขันและ คณะกรรมการสอบสมั ภาษณ์

54 3.4 กาหนดเคร่ืองมือคัดเลือก โดยการทดสอบขอ้ เขียนและสอบสมั ภาษณ์ เพ่ือคัดเลือกบุคลากร ปฏบิ ตั ิตามกระบวนการ ขนั้ ตอนการสรรหาบคุ ลากร ดว้ ยความยตุ ธิ รรม 3.5 ประกาศผลการสอบแข่งขนั ทาง Website ของโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา 3.6 ดาเนนิ การจดั ทาสญั ญาจา้ งบรรจเุ ขา้ สตู่ าแหนง่ ดงั ภาพท่ี 26 วางแผน วเิ คราะห์ ประกาศรบั สมคั ร/กาหนดคณุ สมบตั ิ ความรู้ ความสามารถ ความตอ้ งการแตล่ ะตาแหน่ง กาหนดเคร่อื งมอื คดั เลอื ก ทดสอบ บรรจเุ ขา้ สตู่ าแหน่ง สมั ภาษณ์ กระบวนการรกั ษาบคุ ลากร การปฐมนเิ ทศ ครูพ่เี ลยี้ ง จดั สวสั ดิการ ส่งเสรมิ /พฒั นา/สรา้ งขวญั กาลงั ใจ ภาพท่ี 26 แสดงการสรรหาว่าจา้ งบรรจแุ ละรกั ษาบคุ ลากรใหม่ 4. เม่อื มีบคุ ลากรใหม่มาเพมิ่ โรงเรยี นจดั ใหม้ ีการปฐมนเิ ทศ เพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจในบทบาทหนา้ ท่ี และ วฒั นธรรมองคก์ ร มีระบบพ่เี ลีย้ งคอยสอนงานและเปิดโอกาสใหบ้ คุ ลากรใหมไ่ ดเ้ รยี นรูง้ านเพมิ่ เติม การมอบหมาย ใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีพิเศษ พิจารณาจากความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ บุคลากรมีอิสระ ในเชิงความคิด และ สามารถตดั สินใจในงานไดเ้ องโดยคานึงถึงขอบเขตท่ีเหมาะสม จดั สวสั ดิการเพ่ือเสรมิ สรา้ งคณุ ภาพชีวิต โดยเนน้ การสรา้ งสภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศท่ีดีในการทางานใหบ้ ุคลากรมีความพงึ พอใจ ใชเ้ ทคโนโลยีท่ีทนั สมยั เพ่ือ อานวยความสะดวกในการปฏิบตั ิงาน มีสวัสดิการในการทางาน และสวสั ดิการ ดา้ นการประกันอบุ ตั ิเหตุ มีการ ส่งเสริม/พฒั นา/สรา้ งขวัญกาลงั ใจใหบ้ ุคลากรไดร้ บั การพฒั นาโดยการ เขา้ รบั การอบรม ศึกษาดงู าน ศึกษาต่อ การเลือ่ นหรอื มีวทิ ยฐานะสงู ขึน้ และจดั กิจกรรมกีฬา สงั สรรค์ ความสมั พนั ธอ์ นั ดีระหว่างผบู้ รหิ ารกบั บุคลากร และ ระหว่างบุคลากรดว้ ยกันเอง เป็นการเสริมสรา้ งความผูกพันของบุคลากร ใหเ้ กิดความรกั ความผูกพันฉันพ่ีน้อง มีความเออื้ อาทรต่อกนั เนน้ การทางานรว่ มกนั เป็นทมี (3) ความสาเร็จในงาน (Work Accomplishment) โรงเรียนมีวธิ ีการในการจดั รูปแบบการทางานและบรหิ ารบคุ ลากรเพ่ือความสาเรจ็ ในงาน ดงั นี้ 1. จดั โครงสรา้ งการบรหิ ารงานชดั เจน เหมาะสมกบั งาน 2. แตง่ ตงั้ ผรู้ บั ผิดชอบแต่ละตาแหนง่ ตามความรู้ ความสามารถอยา่ งเหมาะสม 3. จดั ทานโยบาย กลยทุ ธข์ องโรงเรยี น เพ่อื เป็นกรอบสาหรบั วางแผนการบรหิ าร

55 4. จดั ทาแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปีงบประมาณ 2563 และคาส่งั แมบ่ ท 5. จัดการบริหารและควบคุมคุณภาพการดาเนินงานอย่างเป็นระบบแบบมีส่วนร่วม มีการจัดวาง บคุ ลากรใหเ้ หมาะสมกบั คณุ วฒุ ิ ความรูก้ ารศกึ ษา ความสามารถในดา้ นต่าง ๆ ใหเ้ หมาะสมกบั ภาระงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6. ใช้กระบวนการ PDCA เป็นเครื่องมือในการดาเนินงานอย่างเป็นระบบ กาหนดผู้รับผิดชอบ ช่วงระยะเวลาชัดเจน มีการจัดทารายงานและขยายส่ผู ูเ้ ก่ียวขอ้ งทราบ เพ่ือตรวจสอบว่าดาเนินงานไปตามแผน และบรรลเุ ปา้ หมาย นาไปสผู่ ลการดาเนินงานท่บี รรลผุ ลสาเรจ็ 7. นาขอ้ มลู มาใชป้ รบั ปรุงโครงสรา้ งการบรหิ ารใหเ้ หมาะสมกบั บรบิ ทท่เี ปล่ียนแปลงไป (4) การจัดการการเปล่ยี นแปลงด้านบุคลากร (WORKFORCE Change Management) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีวิธีการในการเตรียมบุคลากรใหพ้ รอ้ มรบั ต่อการเปลี่ยนแปลงความตอ้ งการ ดา้ นขีดความสามารถและอตั รากาลงั บุคลากร ไดด้ าเนินการดงั นี้ 1. วางแผนพฒั นาบคุ ลากรประจาปี เตรียมบคุ ลากรใหพ้ รอ้ มกบั การเปล่ียนแปลง สง่ เสริมสนบั สนนุ ให้ บคุ ลากรเขา้ ร่วมประชมุ สมั มนาทางวิชาการ/การฝึกอบรมเชิงปฏิบตั ิการ/ศกึ ษาดงู าน ตามบทบาทหนา้ ท่ีสายงาน ของแต่ละคน เพ่ือเป็นการเพ่ิมพนู ความรู้ ประสบการณ์ใหม่ ๆ ใหน้ ามาประยุกตใ์ ชใ้ นการปฏิบัติงาน และเป็น การสรา้ งโอกาสความกา้ วหนา้ ในการทางาน พฒั นาสมรรถนะของบุคลากรใหเ้ พ่ิมขึน้ ซ่งึ เม่ือมีความรูใ้ หม่ ๆ จะมี การรายงานผลและความรูท้ ่ไี ดร้ บั มาขยายผลต่อเพ่ือนรว่ มงานในท่ีประชมุ คณะกรรมการบรหิ ารวิชาการ ท่ปี ระชมุ คณะกรรมการกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ เตรียมรบั ความเปลีย่ นแปลง 2. การจดั เตรียมการและบริหารในช่วงท่ีมีการเพ่ิม/ลดจานวนบุคลากรอย่เู สมอ โดยการแบ่งภาระงาน ให้เหมาะกับสมรรถนะครูและจานวนบุคลากร ซ่ึงจะมีการประเมินภาระงานทุกภาคเรียน และหากช่วงไหน มีการเพิ่มลดบุคลากรโรงเรียน บุคลากรทุกคนพรอ้ มท่ีจะปรบั เปลี่ยนบทบาทภาระงาน เพ่ือใหก้ ารทางานของ โรงเรียนราบรน่ื ในสว่ นของการจดั การเรียนการสอนนนั้ หากมกี ารเพ่มิ หรือลดจานวนบุคลากร ไดม้ อบหมายให้งาน วิชาการดแู ลเรอ่ื งช่วั โมงสอนใหเ้ หมาะสมและมีการจดั สอนแทน เพ่อื ลดผลกระทบท่เี กิดขนึ้ 3. การเปล่ียนแปลงจากการเกษียณอายุราชการ จะสารวจและรวบรวมรายช่ือครูท่ีจะเกษียณอายุ ราชการไวล้ ว่ งหนา้ เพ่อื ใหบ้ คุ ลากรท่จี ะเกษียณอายรุ าชการถ่ายโอนความรู้ งานดา้ นการสอน และงานพิเศษใหแ้ ก่ บุคลากรท่ีมีจะมาปฏิบตั ิงานต่อ โดยแต่งตงั้ ครูท่ีจะเกษียณอายุราชการเป็นท่ีปรึกษา ใหส้ ามารถติดต่อส่ือสาร ขอคาปรกึ ษา เพ่อื ใหส้ ามารถทางานไดอ้ ย่างต่อเน่อื งและทาหนา้ ท่แี ทนไดอ้ ย่างสมบรู ณ์ ข. บรรยากาศการทางานของบคุ ลากร (WORKFORCE Climate) (1) สภาพแวดลอ้ มของการทางาน (Workplace Environment) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา ดาเนินการจัดสภาพแวดลอ้ มการทางานโดยกลุ่มบริหารใหค้ วามสาคัญ และ มบี ทบาทสาคญั ในการบรหิ ารจดั การท่เี อือ้ ต่อการปฏบิ ตั ิงาน มีรูปแบบการดาเนินการ สรุปเป็นภาพท่ี 27 ดงั นี้

56 ภาพที่ 27 แสดงรูปแบบการดาเนนิ การดา้ นสภาพแวดลอ้ มของการทางาน จากภาพ โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา ดาเนินการจดั สภาพแวดลอ้ มของการทางาน ดงั นี้ 1. แต่งตงั้ คณะกรรมการดแู ลอาคารสถานท่ี ดาเนินการโดยกลมุ่ บรหิ ารงานท่วั ไป 2. แต่งตงั้ คณะกรรมการดแู ลเก่ียวกบั สขุ ภาพอนามยั สขุ ภาพของบุคลากร โดยงานอนามยั โรงเรียน 3. สารวจสภาพแวดลอ้ มนามากาหนดนโยบาย และวางแผนการป้องกันภยั ใหเ้ ป็นมาตรฐานรวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ เช่ือมโยงแผนงานและมาตรการดา้ นความปลอดภัย ดา้ นสุขภาพและดา้ นส่ิงแวดล้อมใน การทางานใหส้ อดคลอ้ งกบั ขอ้ กาหนดและระเบียบต่าง ๆ ตามบรบิ ทท่เี หมาะสมของโรงเรยี น 4. ดาเนินงานภายใตโ้ ครงสรา้ งการบริหารและแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ 2563 5. กากับ ติดตาม รายงานผลตามขัน้ ตอน ประเมินความพึงพอใจของบุคลากร ดา้ นสุขภาพอนามัย และความปลอดภยั ในการทางาน 6. นาข้อมูลท่ีได้มาวางแผนเพ่ือการพัฒนาสภาพแวดล้อมในปี การศึกษาต่อไป โรงเรียน จดั สภาพแวดลอ้ มแบง่ ออกเป็น 3 กลมุ่ ดงั นี้ 6.1 สภาพแวดลอ้ มดา้ นอาคารสถานท่ี ช่วยเสริมสรา้ งบรรยากาศท่ีดีในการทางานใหแ้ ก่บุคลากร มีการกาหนดแผนงานเพ่ือปรบั ปรุงอาคารสถานท่ีอย่างต่อเน่ือง มีความพรอ้ มในการปฏิบตั ิงานและการใหบ้ รกิ าร มีการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม ออกแบบวางผังอาคารได้อย่างเป็ นระบบ มองเห็นได้ชัดเจน จัดแบ่ง ความรบั ผิดชอบดแู ลอาคาร ทาใหส้ ะดวกต่อการเขา้ ใชง้ านได้อย่างเหมาะสม มีการสง่ เสรมิ การใชอ้ าคารสถานท่ี และหอ้ งปฏิบตั ิตา่ ง ๆ ใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละคมุ้ ค่า การสรา้ งบรรยากาศท่รี ม่ ร่ืนเพ่ือกระตนุ้ ใหเ้ กิดความกระตอื รือรน้ ในการปฏิบตั ิงาน จัดแหล่งเรียนรูภ้ ายในหอ้ งเรียนและภายนอกหอ้ งเรียน สนับสนุนวัสดุและอุปกรณ์การสอน นิเทศหอ้ งสมุด อาคารหอประชุม หอ้ งพยาบาล โรงอาหารถูกสุขลกั ษณะ มีการจัดระเบียบหอ้ งสานกั งานต่าง ๆ อย่างเป็นสดั ส่วน มีอปุ กรณท์ ่ีจาเป็นเพ่ืออานวยความสะดวก มีระบบสญั ญาณอินเทอรเ์ น็ต วางระบบการจราจร และจัดทาทางเท้าท่ีปลอดภัย บารุงรักษาอาคารสถานท่ีใหพ้ รอ้ มใชง้ าน มีแสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเท กาหนดเสน้ ทางเดินและทางสญั จรในอาคารขนึ้ ลงดา้ นขวา สง่ ผลใหเ้ กิดความรูส้ กึ ปลอดภยั ตอ่ การใชง้ าน บคุ ลากร มีความกระตือรือรน้ ในการทางานใหส้ าเรจ็ ตามเปา้ หมายของโรงเรียน 6.2 สภาพแวดลอ้ มดา้ นความปลอดภยั และสขุ ภาพอนามยั โรงเรยี นใหค้ วามสาคญั และสนบั สนุนให้ ครูและบุคลากรไดท้ างานตามบทบาทหน้าท่ีของโครงสรา้ งองคก์ ร ดูแลดา้ นสวัสดิภาพและสุขภาพอนามยั ท่ีดี มีการตรวจสุขภาพประจาปี การทาประกันอบุ ตั ิเหตุ จัดบริการหอ้ งพยาบาลและการป้องกันภัย ในสถานศึกษา

57 มีการใหค้ วามรู้ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใชอ้ าคารสถานท่ีเพ่ือป้องกันการเกิดภัย ในสถานศึกษา ติดตัง้ อปุ กรณด์ บั เพลิงป้องกนั อัคคีภยั ติดตงั้ กลอ้ งวงจรปิดประจาอาคารต่าง ๆ จดั เวรยามรกั ษาความปลอดภัยตลอด 24 ช่วั โมง ครูชายปฏบิ ตั หิ นา้ ท่เี วรกลางคนื ครูหญิงปฏิบตั หิ นา้ ท่เี วรกลางวนั ในวนั หยุดราชการ 6.3 สภาพแวดลอ้ มดา้ นการบริหารจัดการ มีนโยบายการบริหารจัดการโดยใชก้ ารมีส่วนร่วมของ บคุ ลากรทกุ คนนาขอ้ มลู จากการสารวจสภาพปัจจบุ นั มากาหนดเป็นนโยบายในการแกป้ ัญหาและพฒั นางานของ โรงเรียน กาหนดบทบาทและแนวปฏิบตั ิของบคุ ลากรในสถานศกึ ษา โดยการมอบหมายงานหรือการส่งั การเป็นไป ตามสายการบงั คบั บญั ชาอยา่ งชดั เจนตามโครงสรา้ งองคก์ รเหมาะสมกบั ความสามารถ ติดตามดแู ลชว่ ยเหลอื และ ยกย่องชมเชย มีการสรา้ งขวัญกาลังใจและเปิดโอกาสใหไ้ ดใ้ ชค้ วามรู้ ความสามารถของแต่ละคนอย่างเต็มท่ี จัดสรรงบประมาณสนับสนุนและอานวยความสะดวกในการจดั กิจกรรมต่าง ๆ อย่างสม่าเสมอ รวมถึ งการจดั สวสั ดิการดา้ นตา่ ง ๆ ใหก้ บั บคุ ลากร (2) นโยบาย และสิทธิประโยชน์ (WORKFORCE Benefits and Policies) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา ม่งุ สรา้ งขวญั กาลงั ใจใหแ้ ก่บคุ ลากร โดยกาหนดการใหบ้ รกิ ารและสิทธิประโยชน์ บุคลากรเป็นไปตามกฎระเบียบของทางราชการ และแนวนโยบายการอานวยความสะดวกโดยใหค้ วามเสมอภาค ศึกษาขอ้ มูลบุคลากรในโรงเรียนดาเนินการมอบหมายและแต่งตัง้ โดยกลุ่มบริหารงานบุคคล และกลุ่มบริหาร แผนงานและงบประมาณ รบั ผิดชอบดา้ นสวสั ดิการของขา้ ราชการและบุคลากร โดยกาหนดเป็น นโยบาย 3 ดา้ น ดงั นี้ 1) นโยบายดา้ นสิทธิประโยชนใ์ หแ้ ก่บคุ ลากร เชน่ การเบิกคา่ รกั ษาพยาบาลตามสทิ ธิ ค่าการศกึ ษาบุตร สวสั ดกิ ารค่สู มรสและบตุ รตามสิทธิ การเบิกค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางไปราชการ การรบั เงินเดือนและเงินวิทยฐานะ การขอรบั เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์ การประกนั สงั คมสาหรบั เจา้ หนา้ ท่สี านกั งานครูพิเศษและลกู จา้ ง เป็นตน้ 2) นโยบายดา้ นจดั บรกิ ารสง่ิ อานวยความสะดวกพืน้ ฐาน อปุ กรณท์ ่จี าเป็นสาหรบั สานกั งาน เช่น เครอ่ื ง คอมพิวเตอร์ เคร่ืองถ่ายเอกสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์การเรียนการสอนประจาห้องเรียน บริการผลิตเอกสาร ประกอบการสอน การบรกิ ารเครอ่ื งปรบั อากาศ ติดตงั้ สญั ญาณอนิ เทอรเ์ น็ต 3) นโยบายดา้ นสวสั ดิการและความปลอดภยั ประสานงานใหบ้ รกิ ารตรวจสขุ ภาพประจาปี และการทา ประกนั อบุ ตั ิเหตุ ส่งเสริมพัฒนาบุคลากร การศึกษาดงู าน การสนับสนุนครูในการศึกษาต่อในระดบั ท่ีสงู ขึน้ มอบ เสือ้ ทีมสญั ลกั ษณโ์ รงเรียน จัดบริการหอ้ งอาหารสาหรบั ครู การมอบของขวัญ ช่อดอกไมแ้ สดงความยินดีในวัน สาคัญต่าง ๆ การมอบกระเชา้ เย่ียมไข้ ญาติของบุคลากร จดั สรรบา้ นพักครูใหเ้ หมาะสม การร่วมงานฌาปนกิจ บุคคลในครอบครวั ประเมินความพึงพอใจอย่างสม่าเสมอ มีการพฒั นาปรบั ปรุงระบบการบรกิ ารสิทธิประโยชน์ ต่าง ๆ 5.2 ความผกู พนั ของบุคลากร (Workforce Engagement) ก. ความผูกพนั และผลการปฏบิ ัติงานของบุคลากร (WORKFORCE ENGAGMENT and PERFORMANCE) (1) วัฒนธรรมองคก์ ร (Organization Culture) ทางานเป็นทมี ผบู้ รหิ ารและบคุ ลากร เป็นแบบอย่างท่ีดีในการปฏบิ ตั งิ าน มีการเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมองคก์ ร ท่ีมีลกั ษณะเปิดกวา้ งทางการส่ือสาร มีกระบวนการพฒั นาเกิดผลการดาเนินงาน และบคุ ลากรมีความผูกพันต่อ

58 โรงเรียน อย่กู นั อย่างพ่ีนอ้ ง มีความเคารพรกั ใคร่ สามคั คี เคารพผอู้ าวโุ ส จึงเป็นปัจจยั เกือ้ หนุน ท่ีก่อใหเ้ กิดความ ผกู พนั ต่อโรงเรยี น สง่ ผลต่อพฤติกรรมการทางาน (2) ปัจจยั ขบั เคล่อื นความผกู พัน (Drivers of ENGAGMENT) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา ไดด้ าเนนิ การตามวิธีการสรา้ งความผูกผนั และผลการปฏบิ ตั ิงานของบคุ ลากร โดย การสรา้ งความผกู พนั ผ่านโครงการและกิจกรรม สรุปดงั ตารางท่ี 10 ดงั นี้ ตารางท่ี 10 แสดงปัจจยั การขบั เคลื่อนความผกู พนั วิธีการ ตวั ชวี้ ดั ผลการประเมิน 1. โครงการศกึ ษาดงู าน - ผนู้ าระดบั สงู ครูและบคุ ลากรโรงเรียน - รอ้ ยละ 80 มคี วามพึงพอใจระดบั มากท่สี ดุ พนมดงรกั วทิ ยา เขา้ รว่ มอยา่ งนอ้ ยปีละ - รอ้ ยละ 80 มคี วามพึงพอใจระดบั มากท่ีสดุ 2. ทาบญุ ขนึ้ ปีใหมต่ กั บาตร 1 ครงั้ ขา้ วสาร อาหารแหง้ - ผนู้ าระดบั สงู ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา และนกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู 3. กีฬาครูภายในสถานศกึ ษา - ผนู้ าระดบั สงู สดุ ครู และบคุ ลากรโรงเรยี น - รอ้ ยละ 80 มคี วามพงึ พอใจระดบั มากท่สี ดุ พนมดงรกั วิทยา - รอ้ ยละ 80 มคี วามพงึ พอใจระดบั มากท่ีสดุ 4. งานแสดงมทุ ิตาจติ - ผนู้ าระดบั สงู สดุ ครู และบคุ ลากรโรงเรียน เกษียณอายรุ าชการ พนมดงรกั วทิ ยา 5. โครงการอบรมสมั มนา - ผนู้ าระดบั สงู สดุ ครู และบคุ ลากรโรงเรียน - รอ้ ยละ 80 มคี วามพงึ พอใจระดบั มากท่ีสดุ พนมดงรกั วิทยา 6. งานเลยี้ งสงั สรรค์ - ผนู้ าระดบั สงู สดุ ครู และบคุ ลากรโรงเรยี น - รอ้ ยละ 80 มคี วามพึงพอใจระดบั มากท่ีสดุ - วนั ปีใหม่ พนมดงรกั วิทยา - งานเลยี้ งครูเกา่ ตอ้ นรบั ครูใหม่ - ครูยา้ ยเขา้ หรอื ยา้ ยเพ่อื ไปรบั ตาแหนง่ ใหม่ หรอื บรรจใุ หม่ (3) การประเมนิ ความผกู พนั (Assessment of ENGEMENT) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีวิธีการประเมินความผูกพนั ของบคุ ลากร รูร้ กั สามคั คี มีความศรทั ธาในสถาบนั ผูกพันกบั โรงเรียน เคารพความอาวุโส ร่วมแรงร่วมใจเป็นหน่ึงเดียว จากการเป็นแบบอย่างของผูบ้ ริหารโรงเรียน ใหค้ วามสาคญั ดว้ ยความเสมอภาคแกบ่ ุคลากรอย่างเท่าเทียมกนั ไม่มกี ารรอ้ งทกุ ข์ ไมม่ ีการขาดงานอย่างไม่ทราบ สาเหตุ สรุปดงั ตารางท่ี 11 ดงั นี้ ตารางที่ 11 แสดงวธิ ีการประเมนิ ความผกู พนั ของบุคลากร บุคลากร วธิ กี าร ตัวชวี้ ัด ผลการประเมิน ครู และบคุ ลากร 1. ผบู้ รหิ าร แสดงความยนิ ดียกยอ่ ง - ขอ้ มลู การพฒั นาตนเอง - จานวนครู และบคุ ล ทางการศกึ ษา การท่ไี ดร้ บั การพฒั นา ชมเชย และใหก้ าลงั ใจ มอบดอกไม/้ มอบ - ขอ้ มลู สารสนเทศงานบคุ ลากร ตนเองมากขนึ้ - ครูมสี ถติ กิ ารลาไมเ่ กิน เกียรตบิ ตั ร และบคุ ลากรสาเรจ็ การศกึ ษา - ขอ้ มลู การจดั ทาประกนั อบุ ตั เิ หตุ เกณฑท์ ่กี าหนดไวใ้ น ระดบั ปรญิ ญาโท รางวลั ครูดีเดน่ - ขอ้ มลู บคุ ลากร การเลื่อนวิทยฐานะครู - ขอ้ มลู บา้ นพกั - ขอ้ มลู ดา้ นสวสั ดกิ ารครูและ

59 บุคลากร วธิ กี าร ตวั ชวี้ ดั ผลการประเมนิ นกั การภารโรง 2. การเย่ยี มครูและบคุ ลากรทางการ บคุ ลากรทางการศกึ ษา ระเบยี บวา่ ดว้ ยการลา ศกึ ษาท่เี จบ็ ป่วยหรอื อบุ ตั เิ หตุ กรณีครูอัตราจ้าง ของขา้ ราชการ 3. ดแู ลสวสั ดกิ าร สทิ ธิประโยชน์ การทา ประกนั อบุ ตั เิ หตุ - ขอ้ มลู การต่อสญั ญาจา้ ง พ.ศ. 2555 ดแู ลท่พี กั อาศยั สวสั ดกิ ารเสอื้ ผา้ กรณคี รูอัตราจ้าง - ขอ้ มลู การเขา้ รบั การบรรจแุ ตง่ ตงั้ กรณคี รูอัตราจ้าง - ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน และการต่อ รบั ราชการ - จานวนอตั ราจา้ งท่ี ไดร้ บั การสนบั สนนุ ,เพ่มิ ขึน้ สญั ญาจา้ ง - อตั ราการลาตา่ มาก - สนบั สนนุ การพฒั นาตนเองเพ่อื บรรจเุ ขา้ รบั ราชการ - ดแู ลสวสั ดิการ การประกนั อบุ ตั เิ หตุ - แบง่ หนา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบตามความ - สถิติการลา - อตั ราการลาตา่ มาก ถนดั และความสามารถ - การเขา้ รว่ มกจิ กรรม - รอ้ ยละ 90 เขา้ รว่ ม - ดแู ลสวสั ดกิ าร การเขา้ รว่ มงานเลยี้ ง กิจกรรม สงั สรรค์ - สวสั ดกิ ารเสอื้ ผา้ (4) การจัดการผลการปฏิบัติงาน (PERFORMANCE Management) โรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา มีระบบการจดั การผลการปฏิบตั งิ านของบุคลากรสนบั สนนุ ทาใหเ้ กดิ การทางานท่ี ใหผ้ ลการดาเนินการท่ีดีและความผกู พนั ของบุคลากร ดว้ ยกระบวนการ PDCA เขา้ ไปควบคมุ คณุ ภาพทกุ ขนั้ ตอน ซ่งึ รายละเอียดของ PDCA ดงั ภาพท่ี 28 ภาพท่ี 28 แสดงหลกั การบริหารจดั การโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PDCA 1. วงจรเดมม่ิง ประกอบดว้ ย ขนั้ ตอน 4 ประการดงั นี้ 1.1 P= Plan คือ ขนั้ ตอนการวางแผน เพ่ือเลือกปัญหา ตงั้ เป้าหมาย การแกป้ ัญหา และวางแผน แกป้ ัญหา

60 1.2 D= DO คือ ขนั้ ตอนการดาเนินการแกไ้ ขปัญหาตามแนวทางท่ีวางไว้ 1.3 C= Check คือ ขนั้ ตอนการตรวจสอบและเปรียบเทยี บผล 1.4 A= Action คือ การกาหนดเป็นมาตรฐานและปรบั ปรุงใหด้ ยี ิ่งขึน้ 2. วธิ ีการทางานตามวงจรเดมมง่ิ P = กาหนดแผน D = ทาตามแผนท่ีกาหนด C = ตรวจสอบผลกบั แผน A = หากไม่บรรลแุ ผนใหห้ าสาเหตแุ ละวางแผนแกไ้ ขใหม่ หากบรรลแุ ผนใหร้ กั ษามาตรฐานไว้ P = วางแผนใหมต่ งั้ เปา้ หมายใหม่ D = ทาตามแผนท่ีกาหนด C = ตรวจสอบผลกบั แผน A = หากไม่บรรลแุ ผนใหว้ างแผนแกไ้ ขใหม่ 3. ขนั้ ตอนในการทากจิ กรรม PDCA 3.1 ตรวจดปู ัญหารอบ ๆ ตวั 3.2 เลือกหวั ขอ้ เรอื่ ง 3.3 สารวจสภาพปัจจบุ นั 3.4 กาหนดเปา้ หมาย 3.5 วิเคราะหแ์ ละดาเนินการแกไ้ ข 3.6 กาหนดเป็นมาตรฐาน ซง่ึ มีลกั ษณะ ดงั นี้ - มาจากวิธีการแกไ้ ขท่ีไดผ้ ลแลว้ - มคี วามชดั เจน - สามารถปฏิบตั ไิ ดอ้ ย่างตอ่ เน่ือง 3.7 สรุปและคดั เลือกกิจกรรมครง้ั ต่อไป โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีระบบการจดั การผลการปฏิบตั ิงานของบคุ ลากรใหบ้ รรลวุ ิสยั ทัศนข์ องโรงเรียน โดยกาหนดเปา้ หมายการดาเนินงาน หลกั เกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บงั คบั การปฏิบตั ิราชการ มาพิจารณาใหส้ อดคลอ้ งกบั ตวั ชวี้ ดั ความสาเรจ็ ตามประเด็นกลยทุ ธ์ แตง่ ตงั้ คณะกรรมการท่มี สี ว่ นเก่ียวขอ้ งในการประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน การบริหารค่าตอบแทน การเลื่อนขั้นเงินเดือน เพ่ิมค่าจา้ ง ประเมินตามสายงาน ตามสายบงั คับบญั ชา ตามโครงสรา้ งองคก์ ร ผูม้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งในการประเมินผลปฏิบตั ิงาน ไดแ้ ก่ ผูบ้ ริหารโรงเรียนหัวหน้ากล่มุ สาระ การเรียนรู้ หัวหน้างาน มีการกาหนดเกณฑใ์ หค้ ะแนน วิธีการ ขัน้ ตอนพิจารณาค่าตอบแทนใหส้ อดคลอ้ งตาม ปริมาณงานและคุณภาพของบุคลากร เม่ือไดข้ อ้ สรุปผลคะแนนการประเมินแลว้ จะแจง้ ใหบ้ ุคลากรทราบอย่าง ท่ัวถึง โดยการใช้แบบประเมินประสิทธิภาพประสิทธิผลการปฏิบัติงาน เน้นหลักการทางานมุ่งความโปร่งใส ตรวจสอบได้

61 การยกย่องชมเชย ยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้มีผลงานดีเด่นทุกระดับ ครูและบุคลากรท่ีพัฒนาตนเอง เม่อื สาเรจ็ การศกึ ษาในระดบั ท่สี งู ขึน้ ครูและบคุ ลากรท่ไี ดเ้ ลอ่ื นวทิ ยฐานะ การใหร้ างวลั และส่งิ จงู ใจ ในการปฏบิ ตั ิงานสาหรบั ผมู้ ผี ลงานดีเดน่ มอบเกียรตบิ ตั ร มอบรางวลั กลมุ่ สาระท่ี มงุ่ ม่นั พฒั นาการศกึ ษาจนมผี ลคะแนนเฉลี่ยการทดสอบระดบั ชาติขนั้ พืน้ ฐาน (O-NET) มีผลคะแนนเฉล่ียสงู กว่า ระดับประเทศ และแต่งตงั้ บุคลากรท่ีมีความรู้ ความสามารถรุ่นใหม่ ๆ ใหเ้ ขา้ รบั หนา้ ท่ีในตาแหน่ง หัวหนา้ งาน หวั หนา้ กลมุ่ สาระ และหวั หนา้ กจิ กรรม พิจารณาใหร้ างวลั การเล่ือนขนั้ เงนิ เดอื น การใชร้ ะบบสารสนเทศประกาศคณุ งามความดขี องบคุ ลากรใน Webpage และวารสารโรงเรียน เพ่อื ใหเ้ กิด ความภาคภมู ิใจ นาไปสคู่ วามสาเรจ็ ในการทางาน ดงั นี้ 1. นกั เรยี นมผี ลสมั ฤทธิท์ างการศกึ ษาท่มี ีคณุ ภาพตามมาตรฐาน 2. สถานศกึ ษาใหบ้ ริการทางการศึกษาท่มี ีคณุ ภาพ 3. ครูจดั การเรียนรูอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ข. การพัฒนาบคุ ลากรและผู้นา (WORKFORCE and Leader Development) (1) ระบบการเรียนรู้และการพฒั นา (Learning and Development System) โรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา มโี ครงการพฒั นาบคุ ลากรของแต่ละกลมุ่ งานอยา่ งต่อเน่ือง เพ่อื เพ่ิมประสิทธิภาพ ในการทางานและใหบ้ ริการแก่นกั เรยี นและชมุ ชน โดยมีบุคลากรท่ีอบรมในงานต่าง ๆ ไดน้ าผลขยายสบู่ ุคลากรใน โรงเรียนทงั้ นีเ้ พ่อื ใหร้ ะบบการบรหิ ารจดั การ การบรกิ ารนกั เรยี น ผปู้ กครอง และชมุ ชนอย่างมีประสิทธิภาพ ผลลพั ธ์ คือ รอ้ ยละการอบรมและพฒั นาบคุ ลากร 100 100 90 85 80 ร้อยละของค ูรที่อบรม 70 60 50 40 30 20 10 0 ช่วั โมงอบรม เปา้ หมาย ภาพที่ 29 แสดงจานวนช่วั โมงเฉลย่ี การอบรม สมั มนา พฒั นาตนเองของบุคลากร (2) ประสิทธผิ ลของการเรียนรู้และการพัฒนา (LEARNING and Development EFFECTIVENESS) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีกระบวนการส่งเสริมใหบ้ ุคลากรไดร้ บั การพฒั นาตนเอง โดยการอบรมเพ่ิมพูน ความรูใ้ นดา้ นการปฏิบตั ิงาน เพ่ิมทกั ษะและกระบวนการตดั สินใจแกไ้ ขปัญหาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง มีกิจกรรมสง่ เสรมิ ดา้ นการสือ่ สารจากครูต่างชาติ ดว้ ยวธิ ีการจดั โครงการอบรมสมั มนา โดยใหบ้ คุ ลากรทกุ ท่านเขา้ ร่วมอบรมสมั มนา อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครง้ั และจัดโครงการศึกษาดูงาน โดยให้บุคลากรไดเ้ รียนรูว้ ิธีการปฏิบัติงาน และ

62 มีประสบการณต์ รงจากหน่วยงานอ่ืน นามาปรบั ปรุงและพฒั นาระบบการปฏิบัติงานใหม้ ีประสิทธิภาพเพิ่มขึน้ รวมถงึ ใหโ้ อกาสแสดงความสามารถความคิดเหน็ และมีสว่ นรว่ มในการจดั การศึกษา สง่ ผลใหก้ ารบรหิ ารการศกึ ษา สามารถพฒั นาไดอ้ ย่างต่อเน่ือง อีกทงั้ บุคลากรมีความพึงพอใจต่อวฒั นธรรมภายในองคก์ รแสดงถึงความรกั และ ความผูกพนั ช่วยเหลือเพ่ือนร่วมงาน ตงั้ ใจทางานเต็มความสามารถและทางานเป็นทีม ทาใหก้ ารปฏิบตั ิหน้าท่ี บรรลผุ ลสาเรจ็ เกดิ ประสทิ ธิผล (3) ความก้าวหน้าในวิชาชพี (Career Progression) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีวิธีการในการจดั การความกา้ วหนา้ ในวิชาชีพของโรงเรียน โดยการวางแผนอย่าง มรี ะบบ ดงั ภาพท่ี 30 ภาพที่ 30 แผนผงั ระบบการจดั การความกา้ วหนา้ ในวิชาชพี ของโรงเรียน จากภาพ โรงเรียนพนมดงรักวิทยา มีระบบกากับดูแล โดยนาระบบคุณภาพมาใช้ในการตรวจสอบ การปฏิบตั ิงานของบุคลากรในองคก์ ร คณะกรรมการบริหารโรงเรียนไดน้ าหลกั ธรรมาภิบาลมาเป็นกรอบในการ กากับดูแลโรงเรียน บุคลากรทุกคนแต่ละสายงานตอ้ งปฏิบตั ิงานใหอ้ ยู่ในกรอบและมีความม่งุ ม่นั จริงใจปฏิบตั ิ หนา้ ท่ี 1) บุคลากรโรงเรียนพนมดงรักวิทยาไดจ้ ัดทาข้อมูลสารสนเทศบุคลากร บุคลากรแต่ละสายงาน ตงั้ เปา้ หมายรว่ มกนั ในการขบั เคลอ่ื นงานใหบ้ รรลตุ ามวิสยั ทศั น์ พนั ธกิจและค่านิยม 2) บคุ ลากรมีการวางแผนจดั ทาแผนบคุ ลากร 3) นิเทศภายในระบบแบบเพ่ือนช่วยเพ่ือน หรอื เชิญวทิ ยากรภายนอกมาใหค้ วามรู้ ใหข้ อ้ มลู การพฒั นา แก่ครู เพ่อื ความกา้ วหนา้ ในวชิ าชพี 4) สง่ เสรมิ เพ่อื การพฒั นาบคุ ลากรดา้ นการอบรม พฒั นา การศกึ ษาต่อ และจดั ทาแผนพฒั นาบคุ ลากร เป็นรายบุคคลท่ีเตรียมเขา้ ส่วู ิทยฐานะท่ีสูงขึน้ และส่ือสารใหท้ ราบท่วั กนั เพ่ิมขีดความสามารถเฉพาะ เพ่ือเพิ่ม

63 ความเช่ือม่ันดา้ นความพรอ้ ม โดยกาหนดใหม้ ีผูเ้ ช่ียวชาญภายนอกและมอบหมายใหห้ ัวหน้ากลุ่มงานภายใน โรงเรยี นช่วยเหลอื กนั 5) จัดทาขอ้ มูลให้เป็นสารสนเทศ เพ่ือเป็นแนวทางในดา้ นการตรวจสอบความก้าวหน้าในอาชีพ การงาน ผลลพั ธ์ คอื ประสทิ ธิภาพของครู ปี 2563 ดงั ภาพท่ี 31 7 3 6 6 5 จานวนรางวัล 4 3 2 1 0 ระดบั ประเทศ ระดบั เขต ภาพที่ 31 แสดงจานวนรางวลั ท่บี ุคลากรทางการศกึ ษาไดร้ บั จาแนกตามระดบั เขตและระดบั ประเทศ

64 หมวด 6 การปฏิบัตกิ าร (Operations) 6.1 กระบวนการทางาน (Work Process) มีการปฏิบตั ิการโดยยึดกระบวนการทางานและประสิทธิผลของ การปฏิบตั ิการ เพ่ือสรา้ งคณุ ค่าก่อใหเ้ กิดประสิทธิผลสงู สดุ ต่อการเรียนรู้ และความสาเรจ็ ของนกั เรียน ดาเนินการ ตามกระบวนการอย่างต่อเน่ือง ส่งผลใหโ้ รงเรียนประสบความสาเร็จและย่งั ยืนแมใ้ นภาวะฉุกเฉิน โดยกาหนด วิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ เป้าประสงค์ มีการจัดทาแผนปฏิบตั ิการ โดยใหค้ วามสาคญั กับการออกแบบระบบงาน และ ออกแบบกระบวนการทางานท่มี ีประสิทธิภาพเพ่อื ใหบ้ รรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ ก. การออกแบบหลกั สตู รและกระบวนการ (Product and PROCESS Design) (1) ขอ้ กาหนดของหลกั สตู รและกระบวนการ (Product and PROCESS Requirement) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีจดั ทาขอ้ กาหนดของหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ตามโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล จดั ทาหลกั สตู รสถานศกึ ษา หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 8 กล่มุ สาระและ หลกั สูตรชั้นเรียนท่ีเอือ้ ต่อการเรียนรู้ รวมทัง้ หลกั สูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ใชแ้ หล่งเรียนรูแ้ ละ การสรา้ งเครือข่ายความร่วมมือจากชุมชนและภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชา เพ่ิมเติมของหลกั สตู รเทียบเคียงโรงเรียนมาตรฐานสากล ตงั้ แต่ ปี พ.ศ. 2555 ไดแ้ ก่ รายวิชาการศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง (IS1, IS2, และ IS3) เพ่ือสนองความตอ้ งการของนกั เรียนท่ีมีความสนใจในการเรียนรูท้ ่ีแตกต่างและ หลากหลาย โรงเรียนจึงจดั แผนการเรียนใหน้ กั เรียนไดเ้ ลือกเรียนตามความสนใจเทียบเคียงมาตรฐานสากล ดงั นี้ 1) แผนการเรียนวิทย์ - คณิต 2) แผนการเรียนศิลป์ – ภาษาองั กฤษ กระบวนการจดั การเรียนรูท้ ่ีผเู้ รียนไดล้ งมอื ทา และไดใ้ ชก้ ระบวนการคิดเก่ียวกบั สิ่งท่ีทา ผเู้ รียนไดม้ ีโอกาสลงมือกระทามากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว โรงเรียน จัดสภาพแวดลอ้ มท่ีสนับสนุนการเรียนรูข้ องผูเ้ รียน กระตุน้ ใหผ้ ูเ้ รียนคิดแกป้ ัญหาดว้ ยตัวเอง โดยมีการพัฒนา หลกั สตู รอย่างต่อเน่ืองเพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผเู้ รียนและชมุ ชน โดยเปิดโอกาสใหม้ ีการเสนอแนะ และแสดงความคิดเห็น โรงเรียนมีขอ้ กาหนดของระบบงาน โดยมีการทบทวนข้อกาหนดของระบบงานอย่าง ต่อเน่ือง ดงั ตารางท่ี 12 ตารางท่ี 12 การจดั ทาขอ้ กาหนดท่สี าคญั ของหลกั สตู รและกระบวนการทางาน หลกั สูตรและ ขอ้ กาหนดทสี่ าคัญ วธิ ีการ กระบวนการ หลกั สตู รแกนกลาง จดั กจิ กรรมการเรียนการสอนใน - จดั รายวชิ า IS เป็นรายวชิ าเพม่ิ เติม การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน รายวชิ าเพ่ิมเติมของหลกั สตู ร - จดั รายวชิ าภาษาเขมรเป็นภาษาต่างประเทศภาษาท่ี 2 พทุ ธศกั ราช 2551 เทียบเคยี งโรงเรยี นมาตรฐานสากล ในทกุ ระดบั ชนั้ เทียบเคยี งโรงเรียน - แผนการเรียนทกุ แผน มีรายวชิ า - จดั การเรียนรู้ การจดั กจิ กรรม การวดั ประเมนิ ผลให้ มาตรฐานสากล IS เป็นไปตามมาตรฐาน ตวั ชีว้ ดั และเทียบเคยี งโรงเรยี น - ทกุ ระดบั ชนั้ เรียน เรยี นภาษา มาตรฐานสากล เขมรเป็นภาษาตา่ งประเทศ - ครูพฒั นากิจกรรมการเรียนการสอนแบบ Active ภาษาท่ี 2 Learning - จดั กจิ กรรม Open House นกั เรยี นนาเสนอผลงาน เผยแพรส่ สู่ าธารณชน

65 หลักสตู รและ ข้อกาหนดทส่ี าคญั วธิ ีการ กระบวนการ หลกั สตู รพฒั นาตามความ จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนตาม - จดั การเรยี นรู้ การจดั กจิ กรรม การวดั ประเมนิ ผลให้ ตอ้ งการของนกั เรยี นและ ความตอ้ งการของนกั เรียนและ เป็นไปตามจดุ ประสงคร์ ายวชิ า มาตรฐานการศกึ ษา ชมุ ชน ชมุ ชนตามหลกั สตู รระดบั วิชาชีพ ท่กี าหนดในหลกั สตู รและเทียบเคยี งโรงเรยี น ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) มาตรฐานสากล - ครูพฒั นากจิ กรรมการเรยี นการสอนแบบ Active - นกั เรยี น ผปู้ กครอง ชมุ ชนมี Learning ความพึงพอใจเช่อื ม่นั ตอ่ - จดั กจิ กรรม Open House นกั เรยี นนาเสนอผลงาน หลกั สตู ร เผยแพรส่ สู่ าธารณชน - การวิจยั และพฒั นาหลกั สตู ร (2) แนวคิดในการออกแบบ (Design Concepts) มกี ารบรหิ ารโรงเรียนดว้ ยกระบวนการโดยใช้ PDCA- TPSpr Model โรงเรยี นมกี ารสรา้ งและพฒั นาหลกั สตู ร โดยศกึ ษา วเิ คราะหว์ ิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ เปา้ ประสงค์ ศกึ ษา สภาพแวดลอ้ มความตอ้ งการของผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย ความตอ้ งการของผเู้ รียน และหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) รวมทั้งหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) โดยคณะกรรมการบริหารหลกั สตู รและงานวิชาการ จัดทาหลกั สูตรสถานศึกษา ซ่ึงมีองคป์ ระกอบสาคญั ไดแ้ ก่ โครงสรา้ งหลกั สตู ร (เวลาเรียน รายวิชาพืน้ ฐานและเพิ่มเติม กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน) คาอธิบายรายวิชา แนวการจดั กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน และเกณฑก์ ารวัดประเมินผลและจบการศึกษา เสนอต่อ คณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณาใหค้ วามเห็นชอบ หากมีขอ้ เสนอแนะจากคณะกรรมการจะนาขอ้ เสนอแนะ ดงั กล่าวไปพิจารณาปรบั ปรุงร่างหลกั สตู รสถานศึกษาใหม้ ีความเหมาะสม ชดั เจนย่ิงขึน้ เม่ือไดร้ บั ความเห็นชอบ จากคณะกรรมการสถานศกึ ษาแลว้ จึงจดั ทาคาส่งั ใหใ้ ชห้ ลกั สตู รสถานศึกษา โดยผบู้ ริหารและประธานกรรมกา ร สถานศกึ ษาเป็นผลู้ งนาม ครูผสู้ อนนาหลกั สตู รสถานศึกษาไปกาหนดโครงสรา้ งรายวชิ า ออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ เพ่ือพัฒนาผูเ้ รียนใหม้ ีคุณภาพตามเป้าหมาย ขั้นสุดทา้ ยคือการติดตามประเมินอย่างต่อเน่ือง เพ่ือนาผลจาก การตดิ ตามมาใชพ้ ิจารณาปรบั ปรุงหลกั สตู รใหม้ ีคณุ ภาพและมีความเหมาะสม โดยมกี ระบวนการจดั ทาขอ้ กาหนด ดงั ภาพท่ี 32

66 ภาพที่ 32 ระบบการสรา้ งและพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา จากแผนภาพท่ี 32 โรงเรียนมีการสรา้ งและพัฒนาหลักสูตร โดยศึกษา วิเคราะห์วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ศึกษาสภาพแวดลอ้ มความตอ้ งการของผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย ความตอ้ งการของผูเ้ รียน และหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง 2560) รวมทงั้ หลกั สูตรระดบั ประกาศนียบัตร วิชาชีพ(ปวช.) โดยคณะกรรมการบริหารหลกั สตู รและงานวิชาการ จดั ทาหลกั สตู รสถานศกึ ษา ซ่งึ มีองคป์ ระกอบ สาคัญ ไดแ้ ก่ โครงสรา้ งหลกั สูตร (เวลาเรียน รายวิชาพืน้ ฐานและเพิ่มเติม กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียน) คาอธิบายรายวิชา แนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และเกณฑก์ ารวัดประเมินผลและ จบการศกึ ษา เสนอต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษาพิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบ หากมขี อ้ เสนอแนะจากคณะกรรมการ จะนาข้อเสนอแนะดังกล่าวไปพิจารณาปรับปรุงร่างหลักสูตรสถานศึกษาใหม้ ีความเหมาะสม ชัดเจนย่ิงขึน้

67 เม่อื ไดร้ บั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาแลว้ จงึ จดั ทาคาส่งั ใหใ้ ชห้ ลกั สตู รสถานศกึ ษา โดยผบู้ รหิ าร และประธานกรรมการสถานศึกษาเป็นผูล้ งนาม ครูผูส้ อนนาหลกั สูตรสถานศึกษาไปกาหนดโครงสรา้ งรายวิชา ออกแบบหน่วยการเรียนรูเ้ พ่ือพฒั นาผูเ้ รียนใหม้ ีคุณภาพตามเป้าหมาย ขนั้ สุดทา้ ยคือการติดตามประเมินอย่าง ต่อเน่ือง เพ่ือนาผลจากการติดตามมาใชพ้ ิจารณาปรบั ปรุงหลกั สตู รใหม้ ีคณุ ภาพและมีความเหมาะสม โรงเรียนมี ขอ้ กาหนดของระบบงาน โดยมีการทบทวนขอ้ กาหนดของระบบงานอย่างต่อเน่ือง ดงั นี้ ตารางที่ 13 การจดั ทาขอ้ กาหนดของระบบงาน ขอ้ กาหนด ขอ้ กาหนดทสี่ าคญั หลกั สตู ร 1. ใชเ้ ป็นเครื่องมอื ในการจดั การเรียนการสอน การจดั กิจกรรม การวดั ประเมินผลใหเ้ ป็นไป ตามมาตรฐานตวั ชีว้ ดั 2. นกั เรียนเกิดความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะ จบการศึกษาอย่างมีคณุ ภาพตามหลกั สตู รของ โรงเรยี น 3. นกั เรยี นสามารถดารงชีวิตอย่ใู นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 4. นกั เรยี นมคี ณุ ภาพตามหลกั สตู รและความคาดหวงั ของผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสีย กระบวนการทางาน 1. บรรลเุ ป้าประสงค์ ตวั ชีว้ ดั วิสยั ทศั น์ 2. งานมีคณุ ภาพ ถกู ตอ้ ง รวดเรว็ เป็นปัจจบุ นั 3. เกิดเป็นนวตั กรรม 4. มีการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ทางานเป็นทีม 5. คมุ้ คา่ คมุ้ ทนุ (2) แนวคดิ ในการออกแบบ (Design Concepts) มกี ารบรหิ ารโรงเรียนดว้ ยกระบวนการโดยใช้ PDCA- TPSpr Model ในการบรหิ ารหลกั สตู รทาใหค้ รูและบุคลากรทกุ ฝ่ ายเขา้ ใจกระบวนการจดั ทาหลกั สตู รและสามารถ ออกแบบการเรียนรู้ นาไปสู่การปฏิบัติระดับหอ้ งเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนอยา่ งย่งั ยืน ขอ้ กาหนดท่สี าคญั ตามตารางท่ี 14 ตารางที่ 14 แนวคิดในการออกแบบหลกั สตู ร ขอ้ กาหนด ขอ้ กาหนดทสี่ าคัญ ปัจจยั ทนี่ ามาใช้ วธิ กี าร ในการออกแบบ หลกั สตู ร 1. ใชเ้ ป็นเครื่องมือในการจดั การเรียน - เทคโนโลยี 1. ศกึ ษา วเิ คราะห์ วสิ ยั ทศั น์ การสอน จดั กจิ กรรม การวดั - ความรูข้ ององคก์ ร พนั ธกิจ เปา้ ประสงค์ ประเมนิ ผลใหเ้ ป็นไปตาม มาตรฐาน - หลกั สตู รท่เี ป็นเลิศ 2. ศกึ ษาสภาพแวดลอ้ ม ความ ตวั ชีว้ ดั - คณุ คา่ ในมมุ มอง ตอ้ งการของผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี 2. นกั เรยี นเกิดความรู้ ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะ ของนกั เรียน 3. จดั ทาหลกั สตู ร ตามหลกั สตู ร - ความคล่องตวั 4. เสนอตอ่ คณะกรรมการ 3. นกั เรยี นสามารถดารงชวี ติ อยใู่ นสงั คมได้ สถานศกึ ษา เพ่อื พจิ ารณาอนมุ ตั ิ อย่างมคี วามสขุ 5. นาหลกั สตู รไปใช้ 4. นกั เรียนมคี ณุ ภาพตามหลกั สตู รและ 6. ประเมินผลการใชห้ ลกั สตู ร ความคาดหวงั ของผมู้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสีย 7. ปรบั ปรุงและพฒั นาหลกั สตู ร

68 ข้อกาหนด ขอ้ กาหนดทส่ี าคัญ ปัจจยั ทนี่ ามาใช้ วิธกี าร ในการออกแบบ กระบวนการ 1. บรรลเุ ป้าประสงค์ ตวั ชีว้ ดั วสิ ยั ทศั น์ ทางาน 2. งานมีคณุ ภาพ ถกู ตอ้ ง รวดเรว็ - เทคโนโลยี 1. ขอ้ มลู สารสนเทศ เป็นปัจจบุ นั - ความรูข้ ององคก์ ร 2. วิเคราะห์ 3. เกดิ เป็นนวตั กรรม 4. มกี ารแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ทางานเป็นทีม - หลกั สตู รท่เี ป็นเลิศ 3. นาไปใช้ 5. คมุ้ คา่ คมุ้ ทนุ - คุณค่าในมุมมองของ 4. ติดตาม ประเมินผล ปรบั ปรุง นกั เรียน พฒั นา - ความคลอ่ งตวั ข. การจดั การกระบวนการ (PROCESS Management) (1) การนากระบวนการไปปฏิบตั ิ (PROCESS Implementation) การบริหารโรงเรียนด้วยกระบวนการ PDCA-TPSpr Model มีวิธีการจัดการและปรับปรุงระบบงาน เพ่ือสรา้ งคุณค่าแก่ผูเ้ รียนทาใหผ้ ูเ้ รียนประสบความสาเร็จอย่างย่ังยืน โดยมีกระบวนการจัดการเรียนการสอน ผสมผสาน 2 รูปแบบ คือ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนดว้ ยหลกั สูตรปกติและหลกั สตู รระดบั ประกาศนียบัตร วชิ าชพี (ปวช.) ดงั ตารางท่ี 15 ตารางท่ี 15 แสดงกระบวนการจดั การเรียนการสอน กระบวนการจดั การเรียนการสอน หลักสตู รปกติ หลักสูตร ปวช. 1. กระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่หี ลากหลาย มคี ณุ ภาพ 1. กระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่หี ลากหลาย มคี ณุ ภาพ ตามมาตรฐานและตวั ชีว้ ดั ท่กี าหนดในหลกั สตู ร ตามจดุ ประสงคร์ ายวิชา มาตรฐานการศกึ ษาวชิ าชพี 2. ใหค้ วามสาคญั ต่อนกั เรยี น นกั เรยี นเรียนรูแ้ ละอยรู่ ว่ มกบั ท่กี าหนดในหลกั สตู ร ผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ สามารถแกป้ ัญหาอปุ สรรคตา่ ง ๆ 2. กระบวนการจดั การเรยี นการสอนเนน้ ใหน้ กั เรียนลงมอื ท่เี ผชญิ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม ปฏิบตั จิ นเกดิ ทกั ษะอาชพี 3. มีปฏสิ มั พนั ธก์ บั ผปู้ กครอง 3. นกั เรยี นสามารถนาไปประกอบอาชพี เลยี้ งตนเองได้ 4. ผปู้ กครองมสี ว่ นรว่ มในการจดั การเรียนรูข้ องนกั เรียน 4. นกั เรยี นสามารถเขา้ ศกึ ษาตอ่ ในระดบั อดุ มศกึ ษา และ 5. กิจกรรมผ่านหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารต่าง ๆ การศกึ ษาทางสายอาชพี มากขนึ้ 6. ใชภ้ าษาองั กฤษในการส่อื สารในชวี ิตประจาวนั ได้ จากตารางท่ี 15 จากกระบวนการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรปกติ และหลกั สตู ร ปวช. ครูใชก้ ระบวน การจดั การเรียนการสอนอย่างหลากหลาย เช่น บรรยาย บทบาทสมมตุ ิ ลงมือปฏิบตั ิจรงิ ใชส้ ื่อเทคโนโลยี เป็นตน้ มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมท่ีชัดเจนในเทคนิคการสรา้ งความมีส่วนร่วมจากผูป้ กครองช่วยดูแลเอาใจใส่ต่อ การเรียนของลกู มากขนึ้ โดยไดป้ ฏิบตั ิงานใหเ้ ป็นไปตามขอ้ กาหนดของหลกั สตู รและมีกระบวนการทางานดงั นี้ 1) ผบู้ ริหารและคณะครูประชุมเพ่ือวางแผนและมอบหมายหนา้ ท่ีใหต้ รงกบั ความรู้ ความสามารถและ ความถนัดของครูและบุคลากร จัดอบรม ศึกษาดูงาน เพ่ือส่งเสริมและสนบั สนุนใหค้ รูและบุคลากรมีวิทยฐานะ สงู ขึน้

69 2) นิเทศ กากบั ติดตามการนาหลกั สตู รสหู่ อ้ งเรียน มีการตรวจและอนมุ ตั ิการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ จากผบู้ รหิ าร ภาคเรียนละ 2 ครง้ั 3) สนบั สนนุ สื่อ วสั ดอุ ปุ กรณ์ การจดั บรรยากาศการเรียนรูแ้ ละการแลกเปล่ียนเรียนรูร้ ะหว่างครูผูส้ อน 4) การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ กุ ระดบั ชนั้ ปีการศกึ ษาละ 2 ครงั้ 5) นเิ ทศ กากบั ตดิ ตาม ปีการศกึ ษาละ 2 ครงั้ 6) อนมุ ตั ติ ดั สินผลการเรียนและรายงานผลการเรียนต่อผปู้ กครองและหน่วยงานท่เี ก่ียวขอ้ ง (2) กระบวนการสนับสนุน (Support Process) โรงเรียนไดก้ าหนดกระบวนการสนับสนุนท่ีสาคัญ เพ่ือใหโ้ รงเรียนพนมดงรกั วิทยาบรรลุตามวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์ ทาให้การดาเนินการสรา้ งคุณภาพของหลักสูตร ออกไปอย่างมีคุณภาพสนองความ ตอ้ งการของสังคม ลูกคา้ ผูใ้ ชบ้ ริการ พันธมิตรและผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย ในการนากระบวนการสนับสนุนไปปฏิบัติ โรงเรียนคานึงถึงขอ้ กาหนดท่ีสาคัญและตัวชีว้ ดั เพ่ือใหเ้ กิดความม่นั ใจว่ากระบวนการสนบั สนุนจะช่วยสนบั สนนุ การทางานของกระบวนการท่สี าคญั ใหบ้ รรลเุ ป้าหมาย มกี ระบวนการสนบั สนุนท่สี าคญั โดยใชก้ ระบวนการบริหาร จดั การ (Management Process) ดงั นี้ 1) กระบวนการวางแผน 2) กระบวนการกากบั ติดตาม 3) กระบวนการประเมินผล 4) ทาใหโ้ รงเรียนไดก้ ระบวนการสนบั สนนุ 4 กระบวนการ คือ เทคโนโลยี สภาพแวดลอ้ ม งบประมาณ และการบรหิ ารจดั การดว้ ยระบบคณุ ภาพ ตารางท่ี 16 การจดั กระบวนการสนบั สนนุ กระบวนการ ขอ้ กาหนดสาคัญของกระบวนการ ตัววดั ทใ่ี ช้ในการควบคมุ กระบวนการสนบั สนนุ 1. ดา้ นเทคโนโลยี - การใชร้ ะบบฐานขอ้ มลู สารสนเทศ - ความปลอดภยั - รวดเรว็ ปลอดภยั ใชง้ า่ ย ทนั สมยั - ประสทิ ธิภาพ - มรี ะบบ Backup เพ่อื ลดความเสี่ยงภยั คกุ คาม - ระบบฐานขอ้ มลู ท่คี รอบคลมุ ทกุ กล่มุ งาน - ประสทิ ธิภาพ Hardware Software - ความพงึ พอใจของผใู้ ชบ้ รกิ าร 2. ดา้ นสภาพแวดลอ้ ม - จดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพโรงเรยี น - รอ้ ยละความพงึ พอใจของผปู้ กครอง ใหม้ อี าคารเรยี น หอ้ งนา้ สะอาด มี นกั เรียน ครู และบคุ ลากรทาง ครุภณั ฑแ์ ละอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ท่เี พียงพอ การศกึ ษา - จดั สภาพแวดลอ้ มทางวชิ าการ การจดั - สภาพแวดลอ้ มของโรงเรยี น การเรยี นการสอนท่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั สะอาด รม่ รนื่ สวยงามและเออื้ ต่อ - จดั สภาพแวดลอ้ มทางการบรหิ ารการ การเรียนรู้ จดั การปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความรว่ มมือรว่ มใจของ บคุ ลากรตามคา่ นิยมขององคก์ ร รูร้ กั สามคั คี 3. ดา้ นงบประมาณ - การจดั ทาแผนปฏบิ ตั ิการประจาปี - โปรง่ ใส ถกู ตอ้ งตรวจสอบได้ - การตรวจสอบ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลและ - คมุ้ คา่ ทนั เวลา

70 กระบวนการ ข้อกาหนดสาคญั ของกระบวนการ ตวั วัดทใี่ ชใ้ นการควบคุม รายงานผลการใชเ้ งินและผลการดาเนนิ งาน - สะดวกในการใหบ้ รกิ าร 4. ดา้ นการบรหิ ารจดั การ - การระดมทรพั ยากร และการลงทนุ เพ่อื ดว้ ยระบบคณุ ภาพ การศกึ ษา - รายงานการประเมินคณุ ภาพภายใน - การบรหิ ารการเงนิ การบญั ชี - รายงานผลการประเมนิ ความเสย่ี ง - การบรหิ ารพสั ดแุ ละสนิ ทรพั ย์ และการควบคมุ ภายใน - การจดั วางระบบควบคมุ ภายในหนว่ ยงาน - รายงานผลการดาเนินงานตามตวั ชวี้ ดั - ประเมินประกนั คณุ ภาพภายใน - ปรบั ปรุงและสรา้ งนวตั กรรม วางแผนงาน/ ออกแบบพฒั นาระบบคณุ ภาพ - นาแผนงานหรือระบบท่อี อกแบบหรือ ปรบั ปรุงสกู่ ารปฏบิ ตั ิ มีตัวชีว้ ัดสาคัญ คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องนักเรียนความสามารถใน การอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน การจบหลักสูตร ร้อยละผลงานและรางวัลของนักเรียน ผลการทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติ (O-NET) ม.3 และ ม.6 รอ้ ยละของจานวนนักเรียนท่ีศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือ เทียบเท่า และการประกอบอาชีพ ตามกาหนดเวลารอบแรกโดยผู้บริหารได้ส่ือสารให้คณะครู ได้เข้าใจใน การทางานผา่ นการประชมุ แจกคาส่งั ปฏบิ ตั ิงาน ผ่านทาง Social Media ทาง Line โรงเรยี น เพจ Facebook และ Line กลมุ่ งาน (3) การปรับปรุงหลักสตู รและกระบวนการ (Product and PROCESS Improvement) โรงเรียนไดป้ รบั ปรุงและพฒั นาหลกั สตู รอย่างต่อเน่ือง เพ่ือเป็นหลกั ประกนั ว่าผเู้ รียนจะไดร้ บั การพฒั นาทงั้ ดา้ นสติปัญญา รา่ งกาย คณุ ธรรม บรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั ชาติและสามารถดารงชวี ิตในสงั คมไดอ้ ย่าง มีความสขุ 1. การปรบั ปรุงหลกั สตู ร มีกิจกรรมดาเนนิ การ 8 ประการ ดงั ภาพท่ี 33

71 ภาพท่ี 33 การดาเนินการปรบั ปรุงหลกั สตู รของโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา 1.1 การวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของนกั เรยี น โรงเรยี นจะสารวจความตอ้ งการของนกั เรยี น เพ่อื ใชเ้ ป็น กรอบในการจดั ทาหลกั สตู ร 1.2 การกาหนดจดุ หมาย วางแผนหลกั สตู รจะชว่ ยกนั กาหนดจดุ หมายท่ีตอ้ งการ 1.3 การเลอื กเนอื้ หาท่จี ะนามาศกึ ษาตามความตอ้ งการของผมู้ สี ว่ นไดเ้ สียไดม้ าโดยตรง คณะผจู้ ดั ทา หลกั สตู รพจิ ารณาความสอดคลอ้ งและความสาคญั ของเนือ้ หาท่เี ลือก 1.4 การจัดเนือ้ หา จดั ตามลาดบั จากเนือ้ หาท่ีง่ายไปส่เู นือ้ หาท่ียาก จัดตามลกั ษณะหรือธรรมชาติ ของเนอื้ หาสาระท่ตี อ้ งการใหน้ กั เรียนเรียนรู้ การจดั เนอื้ หาท่เี หมาะสมสอดรบั กบั วฒุ ภิ าวะของนกั เรยี น ความพรอ้ ม ของนกั เรียนและระดบั ผลสมั ฤทธิข์ องนกั เรียน 1.5 การเลือกประสบการณก์ ารเรียนรู้ เลือกวิธีการหรือยุทธวิธีท่ีนกั เรียนสามารถนาไปใชก้ บั เนือ้ หา นกั เรียนจะทาความเขา้ ใจเนือ้ หาผ่านกจิ กรรมการเรยี นรูท้ ่นี กั วางแผนหลกั สตู รและครูเป็นผเู้ ลือก 1.6 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เลือกวิธีการท่ีจะจดั และกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ และการจดั ลาดับ ขนั้ ตอนของการใชก้ ิจกรรม ในขนั้ นคี้ รูจะปรบั ยทุ ธวธิ ีใหเ้ หมาะกบั นกั เรียนเฉพาะกลมุ่ ท่ีครูรบั ผิดชอบ

72 1.7 การกาหนดส่งิ ท่จี ะตอ้ งประเมินและวิธีการในการประเมิน ครูผสู้ อนตอ้ งประเมินและตรวจสอบให้ ไดว้ ่าหลกั สตู รดงั กล่าวบรรลจุ ดุ หมายหรือไม่ ครูผสู้ อนจะตอ้ งเลอื กเทคนิคอย่างหลากหลาย เพ่อื ใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั การวดั ผลสมั ฤทธิ์ของนกั เรียน และบอกไดว้ ่าจดุ หมายของหลกั สตู รไดร้ บั การตอบสนองหรือไม่ 1.8 การตรวจสอบความสมดลุ และลาดบั ขนั้ ตอน ผูจ้ ดั ทาหลกั สตู รจะตอ้ งม่งุ เนน้ ท่กี ารจดั ทาหลกั สูตร หรือหน่วยการเรียนการสอนใหค้ งเสน้ คงวาและสอดคลอ้ งภายในตัวหลักสูตรเอง การดาเนินการ ในลกั ษณะนี้ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นเกดิ ประสบการณก์ ารเรียนรูท้ ่เี หมาะสมและเกิดความสมดลุ ในเนือ้ หาและประเภทของการเรียนรู้ 2. การนาหลกั สูตรหรือหน่วยการเรียนไปทดลองใช้ เม่ือคณะผูร้ บั ผิดชอบหลกั สูตรไดจ้ ัดทาหลกั สูตร และเอกสารประกอบหลกั สูตรในรูปของส่ือหรือบทเรียนต่าง ๆ เรียบรอ้ ยแลว้ ครูผูส้ อนจะนาเอกสารหลักสูตร เหล่านั้นไปทดลองสอนในชั้นเรียนท่ีรบั ผิดชอบ มีการสงั เกต วิเคราะหแ์ ละเก็บรวบรวมผลการใชห้ ลกั สูตรและ การจดั กิจกรรมในชนั้ เรียน เพ่อื เป็นขอ้ มลู สาหรบั การปรบั ปรุงหลกั สตู รใหส้ มบรู ณข์ นึ้ ในโอกาสตอ่ ไป 3. การปรบั ปรุงเนอื้ หาในหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกนั ในขนั้ ตอนนจี้ ะตอ้ งปรบั หนว่ ยการเรยี นหรือหลกั สตู ร ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของนกั เรียนอย่างแทจ้ รงิ โดยพิจารณาความสอดคลอ้ งระหว่างความสามารถของ นักเรียนกับทรพั ยากรท่ีโรงเรียนมีอยู่และกับพฤติกรรมการสอนของครู มีการรวบรวมขอ้ จากัดต่าง ๆ ท่ีไ ดจ้ าก การทดลองไวใ้ นคมู่ อื ครู เพ่อื จะใชเ้ ป็นขอ้ สงั เกตและแนวทางท่ีจะชว่ ยใหค้ รูไดจ้ ดั กจิ กรรม การสอนอย่างรอบคอบ 4. การพัฒนากรอบงาน ภายหลังจากจัดทาบทเรียนหรือหลักสูตรรายวิชาต่าง ๆ จานวนหน่ึงแลว้ ผู้พัฒนาหลักสูตรจะต้องตรวจสอบหลักสูตรและส่ือในแต่ละหน่วยหรือแ ต่ละรายวิชาในประเด็นของความ เหมาะสมและความเพยี งพอของขอบข่ายเนอื้ หา และความเหมาะสมของการจดั ลาดบั เนอื้ หา 5. การนาหลกั สูตรไปใชแ้ ละเผยแพร่ เพ่ือใหค้ รูท่ีเกี่ยวขอ้ งนาหลักสตู รไปใชจ้ ริงในระดับหอ้ งเรียนได้ อยากมีประสทิ ธิภาพผล และมคี วามจาเป็นท่ผี บู้ รหิ ารจะตอ้ งจดั ฝึกอบรมครูประจาการอย่างเหมาะสม 6. ปรบั ปรุงและพัฒนาหลกั สูตร โดยการนาผลการรายงานการใชห้ ลกั สูตรมาวิเคราะหส์ ่วนเด่นส่วน ดอ้ ย เพ่ือพัฒนาส่วนดอ้ ยใหไ้ ดห้ ลกั สตู รสถานศึกษาท่ีทันสมยั ตรงตามความตอ้ งการของนกั เรียนและผูม้ ีส่วนได้ สว่ นเสีย กระบวนการพฒั นาหลกั สตู รทงั้ 6 ขนั้ ตอนมีการจดั ทาหลกั สตู รในสถานการณจ์ รงิ ผรู้ บั ผดิ ชอบสามารถ ปรบั ปรุงกิจกรรมและขนั้ ตอนใหเ้ หมาะสมกบั ธรรมชาติของเนือ้ หาวิชา สภาพทอ้ งถ่ินและเง่ือนไขอ่นื ๆ ได้ อย่างไรก็ ตามในเวลาปฏิบตั งิ าน เม่อื มีปัญหาเกิดขนึ้ สามารถปรกึ ษาหารอื กบั ผรู้ ูแ้ ละผเู้ ช่ียวชาญในดา้ นนไี้ ดค้ วามไดเ้ ปรียบ ของการสรา้ งหลกั สตู รโดยครูผสู้ อน สามารถตรวจสอบผลงานและปรบั ปรุงแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมไดต้ ลอดเวลา เพราะมนี กั เรยี นซง่ึ พรอ้ มท่ีจะใหค้ วามรว่ มมือในการทดลองใชใ้ นทุกขนั้ ตอน ค. การจัดการนวตั กรรม (INNOVATION Management) การจดั การนวตั กรรมโรงเรียนไดจ้ ดั ทานวัตกรรม เรื่อง การบริหารจัดการโรงเรียนทงั้ ระบบดว้ ยกระบวนการ PDCA–TPSpr นานวตั กรรมสกู่ ารปฏบิ ตั ิมกี ระบวนการ ตามภาพท่ี 34

73 ภาพท่ี 34 การนานวตั กรรมสกู่ ระบวนการทางาน ในการนานวตั กรรมสกู่ ระบวนการทางาน โรงเรียนไดใ้ ชข้ อ้ มลู ความตอ้ งการของผมู้ ีสว่ นไดเ้ สียท่ีมตี ่อหลกั สตู ร และกระบวนการจดั การเรียนการสอน เพ่ือใหบ้ รรลผุ ลการดาเนินงานท่ีดีและบรรลวุ ิสยั ทัศนข์ องโรงเรียน ครูและ บคุ ลากรทางการศกึ ษานานวตั กรรมไปใชแ้ ละพฒั นาการบรหิ ารจดั การในชนั้ เรยี น 6.2 ประสทิ ธผิ ลของการปฏบิ ัตกิ าร (Operational Effectiveness) ก. ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการ (PROCESS Efficiency and EFFECTIVENESS) การควบคมุ ตน้ ทุน โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาดาเนินการควบคมุ ตน้ ทุนเพ่ือลดค่าใชจ้ ่าย ลดการใชท้ รพั ยากร โดยมีกระบวนการ ดงั ภาพท่ี 35 ภาพที่ 35 การควบคมุ ตน้ ทุน โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาดาเนินการควบคมุ ตน้ ทนุ เพ่ือลดค่าใชจ้ ่าย ลดการใชท้ รพั ยากร โดยมีวิธีการควบคมุ ตน้ ทนุ โดยรวมของระบบงาน มีการวางแผนปรบั ปรุงการลดตน้ ทุนอย่างเป็นระบบโดยรวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ เช่นค่าจา้ ง ค่าวตั ถุดิบ ค่าโทรศพั ท์ ค่าสาธารณปู โภคต่าง ๆ ฯลฯ นอกจากนีย้ งั มีการประสานงานกบั เครือข่ายของ

74 โรงเรียน ในการจัดทาโครงการต่าง ๆ เพ่ือควบคุมต้นทุนและลดต้นทุนการผลิตท่ีซา้ ซ้อนมีวิธีการป้องกัน ขอ้ ผิดพลาด ลดการซา้ ซอ้ นของงาน ดงั ตารางท่ี 17 ตารางที่ 17 แนวปฏบิ ตั ิเพ่อื ปอ้ งกนั ขอ้ ผิดพลาดจากการดาเนนิ งาน การควบคมุ วิธกี ารป้องกนั ขอ้ ผิดพลาดจากการดาเนนิ งาน 1. ประหยดั ทรพั ยากร 1. การประหยดั พลงั งาน (ปิดไฟทกุ ดวงเม่ือไมใ่ ชง้ าน เปิด-ปิดเคร่อื งปรบั อากาศตามเวลาท่กี าหนด 2. ลดตน้ ทนุ ปิดเครื่องคอมพวิ เตอรเ์ ม่ือไมไ่ ดใ้ ชง้ านเป็นเวลานาน การใชก้ ระดาษ 2 หนา้ 3. ครู 4. ลดการทางานซา้ ซอ้ น 2. ใชร้ ะบบการส่ือสารท่รี วดเรว็ ลดการใชก้ ระดาษ โดยใชช้ ่องทาง Social Network ไดแ้ ก่ Group mail , E-mail, Facebook, Line เป็นตน้ 3. สนบั สนนุ ใหบ้ คุ ลากรเรียนรูง้ านท่ขี า้ มสายงานหรอื งานท่นี อกเหนอื หนา้ ท่รี บั ผิดชอบ เพ่อื สามารถ ทางานทดแทนเม่ือมเี หตจุ าเป็นหรอื ทดแทนอตั รากาลงั 1. เพมิ่ ทกั ษะพิเศษในการปฏบิ ตั งิ าน เชน่ การเป็นพิธกี ร ทกั ษะการแกไ้ ขปัญหา คอมพวิ เตอร์ เบอื้ งตน้ ทกั ษะภาษาองั กฤษ ทกั ษะการซ่อมบารุง เพ่อื ลดคา่ ตอบแทนเจา้ หนา้ ท่ี 2. ใชว้ ทิ ยากรจดั อบรมทเ่ี ป็นบคุ ลากรในโรงเรียน เพ่อื ลดคา่ ใชจ้ า่ ยค่าตอบแทนวทิ ยากร คา่ เดินทาง ค่าท่พี กั และค่าใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ 3. ใชว้ ธิ ีขอความรว่ มมอื จากบคุ ลากรเครอื ข่าย หรือสว่ นราชการ เพ่อื ลดค่าใชจ้ า่ ย/คา่ ตอบแทน การปฏิบตั งิ าน 1. จดั ทาคมู่ อื /แนวทางการปฏิบตั งิ าน/ปฏทิ ินการปฏบิ ตั ิงาน เพ่อื เป็นแนวทางการปฏิบตั งิ านท่ี ถกู ตอ้ ง เช่น แนวปฏบิ ตั ิ เกี่ยวกบั การเบกิ จา่ ยเงนิ ในการเดนิ ทางไปราชการ แนวปฏิบตั ใิ น การจดั ซอื้ จดั จา้ ง คมู่ อื การบรหิ ารและการจดั การโครงการตามปฏิทนิ การปฏบิ ตั ิงาน เป็นตน้ 2. มคี าส่งั การสอน คาส่งั แตง่ ตงั้ ผนู้ เิ ทศในโรงเรยี น โดยใชแ้ บบนิเทศออนไลน์ 3. จดั กจิ กรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ PLC/ประชมุ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ 1. นาระบบเทคโนโลยีมาใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านเพ่อื ความคลอ่ งตวั ลดการทางานซา้ ซอ้ น เช่น ระบบ การรบั -สง่ หนงั สอื ระบบการลาออนไลน์ ระบบการจดั การโครงการ ระบบการประเมนิ โครงการ/ กิจกรรม ระบบการขออนมุ ตั ิไปราชการ

75 ข. การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply-Chain Management) โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา ไดด้ าเนินการจดั การเก่ียวกบั ห่วงโซ่อปุ ทานดงั นี้ ภาพท่ี 36 การจดั การเก่ียวกบั ผสู้ ง่ มอบ ส่วนของปัจจัยนาเข้า (Input) ในท่ีนีค้ ือ ครู นักเรียน บุคลากรในโรงเรียน ผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย วัสดุและ อุปกรณ์ อาคารและสถานท่ี จัดส่งและส่งมอบวัตถุดิบ คือ ขอ้ มูลนักเรียน งบประมาณ นโยบาย ส่ือการเรียน การสอน สิ่งอานวยความสะดวก โดยสามารถจัดในรูปแบบเชิงระบบ ท่ีประกอบดว้ ย ปัจจัยนาเขา้ (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Output) ท่ีมีปฏิสมั พนั ธโ์ ตต้ อบกบั สภาพแวดลอ้ มทงั้ ภายนอกและภายใน ส่วนของกระบวนการ (process) องคป์ ระกอบของกระบวนการการผลิตท่ีก่อใหเ้ กิดผลผลิตท่ีสนองความ ตอ้ งการและความพงึ พอใจของผเู้ รยี น สว่ นของปัจจยั ผลผลติ (Output) ตามระบบการจดั การห่วงโซ่อปุ ทานนนั้ ผลผลติ ท่สี นองความตอ้ งการและ ความพึงพอใจของผูเ้ รียนและผูท้ ่ีมีส่วนไดส้ ่วนเสีย คือ คุณภาพของผูเ้ รียน การไดร้ บั รางวัลหรือประกาศนียบตั ร นกั เรียนไดร้ บั การดแู ลช่วยเหลือ มีสขุ ภาพดี โดยเนน้ การจดั การเรียนการสอนท่ีมีผเู้ รียนเป็นสาคญั ครูมีมาตรฐาน ระบบการวดั และประเมินผลท่ีชดั เจนโดยคานึงถึงศกั ยภาพหรือความสามารถของผเู้ รียนท่ีมคี วามแตกต่างระหว่าง บุคคล เพ่ือพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนและใช้การจัดการระบบดูแล ช่วยเหลือนกั เรยี น สนบั สนุนและสง่ เสริม ดแู ลใหน้ กั เรียนมีความสขุ และพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ทาใหเ้ ป็นนกั เรยี นท่มี ี คณุ ภาพทงั้ ดา้ นการศกึ ษา รูจ้ กั ใชช้ ีวิต มีคณุ ลกั ษณะและค่านยิ มท่ีพงึ ประสงค์ ส่วนของข้อมูลย้อนกลับ (feedback) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีวิธีการรบั ฟังความคิดเห็นของนักเรียน ผปู้ กครองและสถานประกอบการ เพ่ือใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั (feedback) รวมถึงสารสนเทศท่ีนาไปปฏิบตั ิไดเ้ ก่ียวกับ กระบวนการพฒั นาหลกั สตู รและบรกิ ารทางการศกึ ษาท่ีสง่ เสรมิ การเรยี นรูข้ องนกั เรียนอย่างหลากหลายทาง ไดแ้ ก่ การประเมินผลการใชห้ ลกั สตู ร โดยพิจารณาจากการสรุปผลการสมั ฤทธิท์ างการเรยี นในแต่ละปีการศกึ ษา

76 ส่วนของผู้ส่งมอบ (Supplier) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีการคดั เลือกผสู้ ง่ มอบในดา้ นต่าง ๆ โดยคานึงถึง ความตอ้ งการของครู บุคลากร นักเรียนและผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสียเป็นหลัก ผูส้ ่งมอบตอ้ งมีคุณสมบัติท่ีครบถ้วน ติดตามผลและตรวจสอบได้ โรงเรียนจะมีการจัดประชุมเพ่ือทาข้อตกลงและทาความเขา้ ใจใหม้ ีแนวทางการ ดาเนินงานเป็นไปตามนโยบายและความจาเป็นของโรงเรียน มีการกาหนดระยะเวลาในการตรวจสอบและ ประเมินผลในการดาเนินงานอย่างชัดเจน หากมีส่ิงท่ีตอ้ งปรบั ปรุงจะมีการแจง้ ขอ้ มูลยอ้ นกลบั แก่ผูส้ ่งมอบทันที เพ่อื ใหส้ ามารถแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดไดอ้ ย่างทนั ท่วงที โรงเรียนไดพ้ ิจารณาคดั เลือกองคก์ รท่มี ีความสามารถเฉพาะมา สนับสนุนช่วยเหลือใหก้ ารจัดการเรียนรูใ้ หม้ ีประสิทธิภาพท่ีสาคัญ ไดแ้ ก่ สานักงานพัฒนาฝีมือและสมรรถนะ แรงงาน ไดท้ าขอ้ ตกลงท่ีจะร่วมมือกบั โรงเรียนในการฝึกอบรมโครงการยกระดบั เพ่ิมศกั ยภาพฝีมือและสมรรถนะ แรงงาน และสถานประกอบการอ่ืนๆ รบั นกั ศึกษาประสบการณ์ โดยมีคณะกรรมการท่ีโรงเรียนแต่งตงั้ ขึน้ ทาหนา้ ท่ี กากบั ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงของผสู้ ง่ มอบ และรายงานผลทกุ ภาคเรียน ค. การเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยและภาวะฉุกเฉนิ (Safety and Emergency Preparedness) (1) ความปลอดภยั (Safety) การสารวจความปลอดภยั ภายในโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา มีกระบวนการ ดงั นี้ ภาพที่ 37 กระบวนการการสารวจความปลอดภยั ภายในโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา โรงเรียนมีการวิเคราะหป์ ัญหาความไม่ปลอดภัยในโรงเรียนและนอกโรงเรียน กาหนดผูร้ ับผิดชอบใน การแกป้ ัญหา กาหนดตารางปฏบิ ตั ิงาน และมาตรการในการรกั ษาคามปลอดภยั ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ซง่ึ มี ขนั้ ตอน ดงั นี้ 1. การสารวจความปลอดภัยในโรงเรียนและส่งเสริมความปลอดภัย ทาใหส้ มาชิกทุกคนในโรงเรียน จะตอ้ งรว่ มมือกนั และมีสว่ นร่วมรบั ผิดชอบในการดแู ล เอาใจใส่ สงั เกต ตรวจตรา เช่น การสารวจดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม การสารวจดา้ นบรกิ ารความปลอดภยั การจดั เวรประจาวนั 2. การรายงานอุบัติเหตุในโรงเรียนเพ่ือทราบขอ้ มูลการเกิดอุบัติเหตุ และหาแนวทางแก้ไขปัญหา อบุ ตั ิเหตไุ ด้ โดยถือเป็นความรบั ผิดชอบของทกุ คนในโรงเรียน รายงานทนั ทีหรือไม่เกิน 24 ช่วั โมง โดยใช้ ช่องทาง Social Network ไดแ้ ก่ Facebook, Line เป็นตน้

77 3. การแนะแนวให้คาปรึกษาทางด้านความปลอดภัยให้นักเรียนมีความรู้ รู้จักระมัดระวัง ซ่ึงจะ ช่วยปอ้ งกนั อบุ ตั ิเหตุ 4. การจดั ทาประกันอบุ ตั ิเหตุ เป็นการคุม้ ครองเร่ืองความปลอดภยั เม่ือประสบอุบตั ิเหตุขึน้ จะมีสิทธิ์ ไดร้ บั ค่าชดเชยความสญู เสยี หรอื การบาดเจบ็ ท่เี กิดขนึ้ 5. การจัดบริการเคร่ืองอานวยความสะดวก ไดแ้ ก่ บริการนา้ ดื่ม นา้ ใช้ การจัดระบบไฟฟ้าท่ีปลอดภยั ระบบ Internet WIFI 6. การบรกิ ารความปลอดภยั ในการเดนิ ทางไป-กลบั 6.1 การจัดบริการเรื่องการเดินทางไป-กลับ จัดทาเสน้ ทางการเดินทางท่ีปลอดภัยท่ีสุด การใช้ เจา้ หนา้ ท่ตี ารวจ นกั ศกึ ษาวิชาทหารชว่ ยนกั เรียนขา้ มถนน จดั ประชมุ ทา MOU ระหวา่ งโรงเรียนกบั คนขบั รถรบั ส่ง นกั เรียน 6.2 การจดั บรกิ ารเรอ่ื งการใชร้ ถเดนิ ทางไป-กลบั โรงเรยี น 6.3 การจดั บริการความปลอดภยั โดยความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ ไดแ้ ก่ สถานีตารวจภูธร พนมดงรกั 7. การบรกิ ารปฐมพยาบาล เม่ือเกิดอบุ ตั ิเหตแุ ละอนั ตรายในโรงเรียน มีการใหค้ วามช่วยเหลือเบือ้ งตน้ ก่อนการนาส่งโรงพยาบาลพนมดงรกั โดยจัดใหม้ ีหอ้ งพยาบาลและครูประจาหอ้ งพยาบาล มีอปุ กรณก์ ารปฐม พยาบาล และยาชนิดตา่ ง ๆ พรอ้ มใหบ้ รกิ ารทกุ เม่ือ มีระเบียบการใชห้ อ้ งพยาบาลแจง้ ใหท้ กุ คนทราบอย่างชดั เจน 8. การจัดให้มีสภานักเรียนฝ่ ายปกครอง เพ่ือให้นักเรียนได้รับความปลอดภัยและมีบทบาทใน การบรกิ ารความปลอดภยั ใหแ้ ก่ทกุ คนในโรงเรียน ผลลพั ธ์ คอื สขุ อนามยั และความปลอดภยั ในอาคารสถานท่ี (2) การเตรยี มความพร้อมต่อภาวะฉุกเฉนิ (Emergency Preparedness) โรงเรียนพนมดงรักวิทยาได้เตรียมแนวทางปฏิบัติต่อภาวะฉุกเฉินทางกายภาพ ได้แก่ ภาวะฉุกเฉิน จากอัคคีภัย วาตภัย อุทกภัยและภัยพิบัติอ่ืน เช่น ภาวะฉุกเฉินจากโรคระบาด ระบบเทคโนโลยีขัดข้อง ฯลฯ ดงั ภาพท่ี 38 ภาพที่ 38 แนวทางปฏิบตั ิต่อภาวะฉุกเฉินทางกายภาพ

78 โรงเรยี นมีการกาหนดขนั้ ตอนการเตรยี มความพรอ้ มตอ่ ภาวะฉกุ เฉินหรือภยั พิบตั ิ ดงั ตารางท่ี 18 ตารางท่ี 18 แสดงขนั้ ตอนการเตรยี มความพรอ้ มต่อภาวะฉกุ เฉินหรือภยั พบิ ตั ิ ข้นั ตอน การดาเนินการ 1. เตรียมความพรอ้ มรองรบั เกดิ - ประชมุ วางแผน วเิ คราะหภ์ าวะฉกุ เฉินท่คี าดว่าสามารถเกิดขนึ้ ได้ เชน่ ไฟไหม้ นา้ ท่วม ภาวะฉกุ เฉินหรือเกดิ ภยั พิบตั ิ เกิดโรคระบาด หรือระบบเทคโนโลยีขดั ขอ้ ง เตรยี มความพรอ้ มต่อภาวะฉกุ เฉิน โดยการมีสว่ นรว่ มทง้ั 4 กล่มุ บรหิ ารงานและมอบหมายผรู้ บั ผิดชอบ สรา้ งความตระหนกั ใหค้ รูบคุ ลากร นกั เรียน รณรงคใ์ หต้ รวจสอบความเรยี บรอ้ ยในหอ้ งเรียน หอ้ งปฏิบตั กิ าร หอ้ งทางาน สม่าเสมอ - มอบหมาย แตง่ ตงั้ ครูเวรและยามรกั ษาการณภ์ ายในบรเิ วณโรงเรยี นตลอด 24 ช่วั โมง ทงั้ ในวนั ราชการและวนั หยดุ ราชการ - ติดตงั้ อปุ กรณพ์ รอ้ มใชง้ าน ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ตดิ ตงั้ ระบบปอ้ งกนั อคั คีภยั (อปุ กรณด์ บั เพลิง) ทกุ อาคารและมีการตรวจสอบประสิทธิภาพเป็นประจาทกุ เดอื น - สารสนเทศโทรศพั ทฉ์ กุ เฉิน จดั ทาและรวบรวมขอ้ มลู หมายเลขโทรศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั การแจง้ เหตดุ ว่ น เหตรุ า้ ย ไวท้ ่บี รเิ วณปฏิบตั ิหนา้ ท่หี รอื เห็นชดั เจน 2. การปฏบิ ตั ขิ ณะเกิดภาวะ - ผรู้ บั ผดิ ชอบรายงานผบู้ งั คบั บญั ชาหรอื โทรเบอรฉ์ กุ เฉินโดยด่วนและปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ฉกุ เฉินหรอื เกิดภยั พิบตั ิ ตามท่ีวางไว้ - วางแผนส่งั การ เม่ือเกดิ หรือคาดวา่ จะเกดิ ภยั พิบตั ิท่สี ง่ ผลกระทบตอ่ โรงเรียน - ดาเนินการปอ้ งกนั ระงบั ภยั และแกไ้ ขสถานการณฉ์ กุ เฉินโดยเรว็ - รายงานผบู้ งั คบั ชาและต่อหน่วยงานตน้ สงั กดั แลว้ แตก่ รณี 3. การฟื้นฟบู รู ณะหลงั เกิดภาวะ - ผรู้ บั ผิดชอบประเมินความเสยี หายหรือผลกระทบจากการเกดิ ภาวะฉกุ เฉิน ฉกุ เฉินหรือเกิดภยั พบิ ตั ิ - กาหนดวิธีการจดั การฟื้นฟู โดยยดึ หลกั กฎหมายและระเบยี บท่เี ก่ียวขอ้ ง ใหค้ งอยใู่ น สภาพท่เี หมาะสมหรือคนื ส่สู ภาพเดมิ ไดภ้ ายในเวลารวดเรว็ - ปรบั ปรุงระบบการดาเนินการ ประชาสมั พนั ธใ์ หผ้ เู้ ก่ียวขอ้ งทราบ และรายงาน ตอ่ หนว่ ยงานตน้ สงั กดั

79 หมวด 7 ผลลพั ธ์ (RESULTS) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีวิธีการดาเนินงานอย่างเป็นระบบ ส่งผลใหผ้ ลลพั ธ์ท่ีเป็นเลิศ ตอบสนองความ ตอ้ งการของสงั คมอย่างหลากหลายโดยใชร้ ูปแบบการบรหิ ารของโรงเรียน PDCA–TPSpr โดยมงุ่ เนน้ ท่นี กั เรียน ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา สง่ ผลใหน้ กั เรียนและผปู้ กครองเกิดความพงึ พอใจและผลลพั ธท์ ่ีเป็นเลิศเกิดจากระบบ การทางานท่ีมีประสิทธิภาพและความร่วมแรงร่วมใจของบุคลากรในโรงเรียน จึงมีการเสริมแรงใหม้ ีขวัญและ กาลังใจในการปฏิบัติงานท่ีเข้มแข็งเพ่ือองค์กรต่อไป การดาเนินงานด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านหลักสูตรและ กระบวนการ ดา้ นนกั เรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี ดา้ นบคุ ลากร ดา้ นการนาองคก์ รและการกากบั ดแู ลองคก์ ร และ ดา้ นการเงนิ และตลาด สง่ ผลใหเ้ กิดผลลพั ธ์ ดงั นี้ 7.1 ผลลพั ธด์ ้านหลกั สูตรและกระบวนการ (Product and Process RESULTS) ก. ผลลพั ธด์ ้านหลักสตู รและกระบวนการจัดการเรยี นการสอนทม่ี ุ่งเน้นผ้เู รียน (STUDENT Focused Product and PROCESS Result) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาไดจ้ ดั หลกั สตู รท่ีหลาหลาย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 และหลกั สตู รระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) มหี ลกั สตู รท่สี ง่ เรมิ ความเป็นเลิศตอบสนองต่อความถนดั และศกั ยภาพตามความตอ้ งการของผเู้ รยี น ปรากฏผลลพั ธด์ งั ตอ่ ไปนี้ 1. ความพงึ พอใจของนกั เรยี นและผปู้ กครองเกี่ยวกบั หลกั สตู รสถานศึกษา ความพงึ พอใจของนกั เรยี นและผปู้ กครองเก่ียวกบั หลกั สตู รสถานศึกษา 4.56 4.54 4.54 4.53 4.5 4.52 ผปู้ กครอง 4.5 4.48 4.47 4.46 4.44 4.42 นกั เรยี น ปี2562 ปี2563 ภาพที่ 39 ความพงึ พอใจของนกั เรียนและผปู้ กครองเก่ียวกบั หลกั สตู รสถานศกึ ษา จากภาพ พบว่า นักเรียนมีความพึงใจในหลกั สูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 เพ่ิมขึน้ จากปีการศึกษา 2562 รอ้ ยละ 1.34 ด้านผู้ปกครองมีความความพึงใจในหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 เพ่ิมขึน้ จาก ปีการศกึ ษา 2562 รอ้ ยละ 0.88 แสดงใหเ้ ห็นว่าโรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีผลลพั ธ์ดา้ นหลกั สตู รและกระบวนการ จดั การเรยี นการสอนท่มี งุ่ เนน้ ผเู้ รยี นเป็นท่พี งึ พอใจของนกั เรียนและผปู้ กครองเป็นอยา่ งดี

80 2. การรบั นกั เรียนเขา้ ศึกษาตอ่ ระดบั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1, 4 และระดบั ปวช.1 จานวนนกั เรยี นที่เขา้ ศกึ ษาตอ่ ที่โรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยา 250 103 100 110 200 192 70 166 150 100 50 0 ม.4 ปวช.1 ม.1 ปี2563 ปี2564 ภาพที่ 40 การเขา้ ศกึ ษาตอ่ ท่โี รงเรยี นพนมดงรกั วิทยา จากภาพ พบว่า การรับนักเรียนเข้าศึกษาการรับนักเรียนเขา้ ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 มีจานวนนักเรียนเพ่ิมขึน้ จากปีการศึกษา 2563 รอ้ ยละ 15.66 ระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ ชั้นปีท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 มีจานวนนักเรียนเพิ่มขึน้ จากปีการศึกษา 2563 ร้อยละ 57.14 แสดงให้เห็นว่า โรงเรียนพนมดงรักวิทยา มีผลลัพธ์ด้านหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนการสอนท่ีมุ่งเน้นผู้เรียน ทาใหไ้ ดร้ บั ความไวว้ างใจจากผปู้ กครองสง่ นกั เรียนมาสมคั รเรยี นเป็นจานวนเพม่ิ ขึน้ ข. ผลลพั ธด์ ้านประสิทธภิ าพของกระบวนการทางาน (WORKPROCESS EFFECTIVENESS RESULTS) (1) ประสิทธผิ ลและประสิทธภิ าพของกระบวนการ (PROCESS EFFECTIVENESS and EFFICIENCY) 1.1 ผลการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาพท่ี 41 คา่ คะแนนเฉลี่ยการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ของนกั เรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3

81 จากภาพท่ี 40 พบว่า รายวิชาภาษาไทยมีค่าเฉล่ยี ท่สี งู กว่าระดบั จงั หวดั สงู กวา่ ระดบั สพฐ. และสงู กวา่ ระดบั ประเทศ 1.2 ผลการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาพที่ 42 คา่ คะแนนเฉลี่ยการทดสอบระดบั ชาติ (O-NET) ของนกั เรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 จากภาพ พบว่า รายวิชาภาษาไทยและรายวิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรมมีค่าเฉลี่ยท่ีสงู กว่า ระดบั จงั หวดั สงู กว่าระดบั สพฐ. และสงู กว่าระดบั ประเทศ 1.3 ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนวชิ า IS ท่ไี ดผ้ ลการเรียนระดบั 3 ขนึ้ ไปของนกั เรียน ผลการเรียนระดับ 3 ขึ้นไป รายวิชา IS ผลการเรยี น3ขนึ้ ไป ผลการเรยี นนอ้ ยกว่าระดบั 3 79.19 74.26 73.27 56.65 43.35 25.74 26.73 20.81 ม.2(IS1) ม.2(IS2) ม.5(IS1) ม.5(IS2) ภาพท่ี 43 แสดงผลการเรยี นระดบั 3 ขนึ้ ไปรายวชิ า IS ของนกั เรยี น จากภาพ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีผลการเรียนระดับ 3 ขึน้ ไปมากกว่าผลการเรียนน้อยกว่าระดับ 3 แสดงใหเ้ หน็ ถึงความสาคญั ของการเรียนการสอนรายวิชา IS

82 1.4 การศกึ ษาต่อของนกั เรียนมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ร้อยละการศึกษาต่อของนักเรียนชั้น ม .3 85.38 14.62 ศึ ก ษ า ต่ อ ไ ม่ ศึ ก ษ า ต่ อ ภาพท่ี 44 รอ้ ยละของการศกึ ษาต่อของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 จากภาพ พบวา่ นกั เรยี นสว่ นใหญ่ในระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี3 ของโรงเรียนพนมดงรกั วิทยา ศกึ ษาต่อ ในระดบั ท่ีสงู ขึน้ เกิดจากการเรียนการสอนของโรงเรียนท่ีเนน้ ยา้ ใหค้ วามสาคญั ต่อการเรียนการสอนทาใหน้ กั เรียน เหน็ คณุ ค่าของการศกึ ษาต่อท่จี ะเป็นสิ่งสาคญั ในการดารงชีวติ 1.5 การศกึ ษาต่อของนกั เรียนมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ร้อยละของศึกษาต่อของนักเรียน ปวช .3 72.24 27.76 ศึ ก ษ า ต่ อ ไ ม่ ศึ ก ษ า ต่ อ ภาพท่ี 45 รอ้ ยละของการศกึ ษาตอ่ ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 จากภาพ พบวา่ นกั เรียนสว่ นใหญ่ในระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี6 ของโรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยา ศกึ ษาต่อ ในระดบั ท่สี งู ขึน้ เกิดจากการเรียนการสอนของโรงเรยี นท่เี นน้ ยา้ ใหค้ วามสาคญั ต่อการเรียนการสอนทาใหน้ กั เรียน เห็นคณุ ค่าของการศกึ ษาต่อท่จี ะเป็นสง่ิ สาคญั ในการดารงชีวติ

83 1.6 การศกึ ษาตอ่ ของนกั เรียนระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ ปีท่ี 3 (ปวช.3) รอ้ ยละของศกึ ษาตอ่ ของนกั เรยี น ปวช.3 53 52 51 50 49 48 47 46 ไมศ่ กึ ษาตอ่ ศกึ ษาตอ่ ภาพท่ี 46 รอ้ ยละของการศกึ ษาตอ่ ของนกั เรียนชนั้ ปวช.3 จากภาพ พบว่า นกั เรียนสว่ นใหญ่ในระดบั ชนั้ ปวช.3 ของโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา ไมศ่ กึ ษาต่อในระดบั ท่ีสูงขึน้ เน่ืองจากนกั เรียนสามารถนาวฒุ ิการศึกษาท่ีจบสมัครงานตามสถานประกอบการต่าง ๆ ไดโ้ ดยง่ายและ เพ่อื ท่จี ะมีรายไดข้ องตวั เองเพ่อื เลีย้ งชพี (2) การเตรียมพร้อมตอ่ ภาวะฉุกเฉิน (Emergency Preparedness) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา ไดเ้ ตรียมแนวทางต่อภาวะฉุกเฉิน 3 ระยะ คือ ระยะท่ี1 การเตรียมความพรอ้ ม รองรับภาวะฉุกเฉินก่อนเกิดภัย ระยะท่ี 2 การปฏิบัติขณะเกิดภาวะฉุกเฉินหรือเกิดภัยพิบัติ ระยะท่ี 3 การปฏิบตั ิการฟื้นฟูบรู ณะหลงั เกิดภาวะฉกุ เฉินหรือภยั พิบตั ิและไดม้ ีการจดั อบรมใหค้ วามรูค้ วามเข้าใจ ตระหนกั เร่ืองภัยพิบัติ และการป้องกันตนเองแก่ผูเ้ รียน มีการจัดเวรยามรกั ษาความปลอดภัย มีการตรวจสอบเครื่อง ดบั เพลิงตามอาคารต่าง ๆ ใหอ้ ย่ใู นสภาพเตรียมพรอ้ มใชง้ านอย่เู สมอ มีการแต่งตงั้ คณะกรรมการครูเวรประจาวนั และคณะทางานเจา้ หนา้ ท่ีเวรยามรกั ษาความปลอดภัยทั้งกลางวันและกลางคืน การเตรียมความพรอ้ มภาวะ ฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ บคุ ลากรมีความรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ีตามแนวปฏิบตั ิอย่างเครง่ ครดั ส่งผลใหไ้ ม่เกิดปัญหา เกี่ยวกบั การเกิดเหตรุ า้ ยต่อนกั เรียน ครู บคุ ลากรและผมู้ สี ว่ นไดเ้ สีย ดงั ตารางท่ี 19 ตารางที่ 19 ตวั ชวี้ ดั สขุ ภาพ อนามยั ความปลอดภยั และการรกั ษาความปลอดภยั ในโรงเรยี นพนมดงรกั วิทยา ตัวชวี้ ดั เป้าหมาย ผลลัพธ์ 1. จานวนครงั้ ท่นี กั เรยี น/บคุ ลากรไดร้ บั บาดเจบ็ ป่วยในขณะมาเรยี น/มาปฏิบตั ิหนา้ ท่ี 0 0 2. จานวนนกั เรียน/บคุ ลากรท่เี สยี ชีวิตในขณะมาปฏิบตั ิหนา้ ท่ี 00 3. จานวนผปู้ ่วยจากโรครา้ ยแรงตามประกาศทางราชการแต่ละปี 00 4. การตรวจสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 4.1 ความม่นั คงแขง็ แรงของอาคารเรยี น ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 4.2 ระบบบรกิ ารและอานวยความสะดวกและความปลอดภยั จากการใชน้ า้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 4.3 ระบบบรกิ ารและอานวยความสะดวกและความปลอดภยั จากการไฟฟา้ ใชไ้ ด/้ ปลอดภยั ใชไ้ ด้

84 ตวั ชวี้ ัด เป้าหมาย ผลลพั ธ์ 4.4 ระบบสขุ ภาพอนามยั และสงิ่ แวดลอ้ ม ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 4.5 ระบบป้องกนั และระงบั อคั คภี ยั ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 4.6 ระบบบรหิ ารจดั การความปลอดภยั ในอาคารเรยี น ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ จากตาราง พบว่าตวั ชวี้ ดั สว่ นใหญ่เป็นไปตามเป้าหมายท่ตี งั้ ไวส้ ะทอ้ นใหเ้ หน็ ว่า โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยาให้ ความสาคัญกับสุขภาพอนามัย ความปลอดภัยของนักเรียน โดยประสานงานกับสถานีตารวจภูธรพนมดงรกั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลจกี แดกและโรงพยาบาลพนมดงรกั เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 7.2 ผลลัพธด์ า้ นนักเรยี นและผมู้ สี ว่ นได้ส่วนเสยี (STUDENT and Stakeholder-Focused Results) ก. ผลลพั ธด์ ้านนักเรยี นและผมู้ ีส่วนได้สว่ นเสีย (STUDENT and Stakeholder-Focused Results) (1) ความพงึ พอใจของนักเรียนและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย (STUDENT and Satisfaction) ความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครองนัน้ นักเรียนและผูป้ กครองมีความพึงพอใจต่อหลักสูตรและ การจัดการ ศึก ษ าข อง โ รงเรี ย นซ่ึงเ ป็ นห ลัก สูตร ท่ีเ อื้อ ต่อ ก ารพัฒน า คุณภ าพข อง ผู้เรี ย นสู่ม า ตร ฐา น ส า ก ล โดยพิจารณาจากขอ้ มลู หลายๆสว่ น ทงั้ จากความพงึ พอใจของนกั เรียนและผปู้ กครองเกี่ยวกบั หลกั สตู รการศึกษา หรอื ผปู้ กครองและนกั เรยี นมีความเช่ือม่นั ในการท่มี าสมคั รเขา้ เรียนจานวนเพ่มิ ขนึ้ ดงั ภาพ 6.0 4.2 4.0 4.3 4.0 4.2 4.0 5.0 5.0 4.3 4.0 4.0 4.0 3.0 ระดับความพึงพอใจ 2.0 1.0 0.0 เนือ้ หา เทคนิคการสอน การใชส้ ่อื วดั ประเมนิ ผล คณุ ธรรม ความพงึ พอใจ เปา้ หมาย ภาพที่ 47 แสดงค่าเฉลยี่ ระดบั ความพงึ พอใจของนกั เรียนท่มี ีตอ่ ครูผสู้ อน จากภาพท่ี46 พบว่า ค่าเฉลี่ยระดบั ความพงึ พอใจของนกั เรียนท่ีมีต่อครูผสู้ อน ในดา้ นความรูใ้ นเนือ้ หาวิชา เทคนิคการสอน การใชส้ ่ือ วิธีการวดั ประเมินผล และดา้ นการมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม มีความพงึ พอใจอย่ใู นระดบั สงู กว่าเป้าหมายท่ีกาหนด และสอดคลอ้ งกับภาพท่ี 41 แสดงค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจของผูป้ กครองท่ีมีต่อ ครูผสู้ อน

85 ความพงึ พอใจ เปา้ หมาย 3.5 3.0 3.7 3.0 ด้ า น ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ด้ า น ก า ร บ ริ ก า ร ภาพท่ี 48 แสดงคา่ เฉลยี่ ระดบั ความพงึ พอใจของผปู้ กครองท่ีมตี ่อครูผสู้ อน จากภาพ พบวา่ ค่าเฉลยี่ ระดบั ความพงึ พอใจของผปู้ กครองท่มี ีต่อครูผสู้ อนในดา้ นการจดั การเรียนการสอน ดา้ นการบรกิ าร มีความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั สงู กวา่ เปา้ หมายท่ีกาหนด (2) ความผกู พนั ของนักเรยี นและผมู้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสีย (STUDENT and Stakeholder ENGAGMENT) นักเรียนระดับมธั ยมศึกษาปีท่ี3เดิมนนั้ มีความตอ้ งการท่ีจะศึกษาต่อในระดับมธั ยมศึกษาตอนปลายและ ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี เป็นจานวนมากเพราะมีความเช่ือม่นั และผกู พนั กบั โรงเรียนพนมดงรกั วิทยา อกี ทงั้ ยงั มีกิจกรรมแนะแนวนักเรียนรุ่นนอ้ งในการเตรียมตัวเขา้ ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และมีกิจกรรมทอดผา้ ป่ า เพ่อื การศกึ ษาสาหรบั ศษิ ยเ์ กา่ ท่ีตอ้ งการพฒั นาโรงเรียน ดงั ภาพ จานวนนักเรียนสมัครเรียน ม .4 165 53 นักเรียนเดิ ม นั ก เ รี ย น โ ร ง เ รี ย น อื่ น ภาพที่ 49 แสดงจานวนนกั เรยี นท่สี มคั รเรียนระดบั ชนั้ ม.4 จากภาพ พบว่า มีนกั เรียนระดบั ม.3 โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาเดิมสมัครเรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 และระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ ปีท่ี1เป็นจานวนมากแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความผกู พนั กบั ทางโรงเรยี นเป็นอย่างดี

86 7.3 ผลลพั ธด์ า้ นบุคลากร (WORKFORCE-Focused RESULT) ก. ผลลัพธด์ า้ นบคุ ลากร (WORKFORCE-Focused RESULT) (1) ขีดความสามารถและอตั รากาลงั บคุ ลากร (WORKFORCE CAPABILITY and CAPACITY) โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาประเมินความตอ้ งการจาเป็นดา้ นขีดความสามารถและประเมินอตั รากาลงั ของ บุคลากรเพ่ือสนับสนุนความสาเร็จของพันธกิจ ค่านิยม กลยุทธ์ และโครงสร้างหลักสูตร โดยมีการจัดทา แผนพฒั นาบคุ ลากร มโี ครงการพฒั นาบคุ ลากร ทาใหม้ บี คุ ลากรท่มี ีคณุ ภาพและสง่ ผลใหค้ รูมวี ิทยฐานะท่สี งู ขึน้ บุ ค ล า ก ร โ ร ง เ รี ย น พ น ม ด ง รั ก วิ ท ย า 3 51 2 ผู้บ ริหา ร ค รู ส นับ ส นุน ภาพที่ 50 แสดงจานวนครูและบคุ ลากรทางการศึกษา จากภาพ พบว่า โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีเพียงพอต่อการจัดการเรียน การสอนทาใหน้ กั เรียนมีคณุ ภาพ ตลอดทงั้ มคี รูท่มี คี วามรูค้ วามสามารถอยา่ งหลากหลาย ดงั ภาพ จานวนครู ท่ีมีวิทยฐานะ 4 8 27 4 ชา นา ญ กา รพิเศ ษ ชา นา ญ กา ร ไม่มีวิ ทยฐา นะ ค รู ผู้ช่ว ย ภาพที่ 51 แสดงจานวนครูท่ีมวี ิทยฐานะ

87 จากภาพ พบว่า โรงเรียนพนมดงรกั วิทยามีครูท่ีมีวิทยฐานะชานาญการพิเศษจานวน 4 คน ท่ีจะเป็นผคู้ อย แนะนาแนวทางการปฏิบตั ิงานสาหรบั ครูท่านอ่ืน ทาใหค้ รูท่ีมีประสบการณน์ อ้ ยมีท่ีปรกึ ษาในการปฏิบตั ิงานอย่าง มคี ณุ ภาพและประสบผลสาเรจ็ (2) บรรยากาศการทางาน (WORKFORCE Climate) โรงเรียนไดจ้ ดั บรรยากาศและส่ิงแวดลอ้ มในการทางานใหก้ บั บุคลากรในโรงเรียนเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพใน การทางาน ทงั้ การปรบั ภูมิทศั น์ อาคารสถานท่ีใหเ้ หมาะสม ใหม้ ีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย ตลอดจนไดจ้ ดั สวสั ดกิ ารต่าง ๆ ทาใหค้ รูและบคุ ลากรมคี วามพงึ พอใจ ดงั ภาพ แผนภมู แิ สดงคา่ ระดบั ความพงึ พอใจบรรยากาศในการทางานของบคุ ลากร 4.8 4 6 5 4.7 4.8 4.7 4.8 4.8 4.9 444444 4 3 2 1 0 เป้าหมาย ความพงึ พอใจ ภาพที่ 52 แสดงค่าระดบั ความพงึ พอใจบรรยากาศในการทางานของบคุ ลากร จากภาพ พบว่า ระดบั ความพงึ พอใจบรรยากาศในการทางานของบุคลากรสงู กว่าเป้าหมายท่ตี งั้ ไวท้ กุ ดา้ น (3) การทาใหบ้ ุคลากรมีความผูกพนั (WORKFORCE ENGAGMENT) โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยามีวิธีการทาใหบ้ คุ ลากรมคี วามผูกพนั ทงั้ ในปัจจุบนั และอนาคต โดยวดั จากกจิ กรรม รดนา้ ดาหวั ในวนั สงกรานต์ กิจกรรมวันขึน้ ปีใหม่ กิจกรรมเกษียณอายุราชการ และกิจกรรมสรา้ งขวัญกาลงั ใจ ต่าง ๆ ส่งผลใหบ้ ุคลากรมีความผูกพันกบั โรงเรียน เม่ือเกษียณอายุราชการ หรือโยกยา้ ย รบั ตาแหน่งใหม่ ยงั คง กลบั มาพฒั นาโรงเรียน เช่น เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน เป็นคณะกรรมการสมาคมศิษยเ์ ก่า มีส่วน รว่ มระดมทนุ ในการพฒั นาโรงเรียนอยา่ งตอ่ เน่ือง และเป็นแบบอยา่ งในการปฏิบตั ิตน ปฏบิ ตั ิงาน แก่ครูในปัจจบุ นั

88 (4) การพัฒนาบุคลากร (WORKFORCE Development) โรงเรยี นพนมดงรกั วทิ ยาไดพ้ ฒั นา สง่ เสรมิ ศกั ยภาพบคุ ลากรทกุ ระดบั ใหม้ ีทกั ษะในการทางาน สนบั สนนุ ให้ ครู บุคลากร เขา้ ร่วมประชุมอบรม สมั มนา ศึกษาดงู านเพ่ือพฒั นาตนเองสม่าเสมอ และสนับสนุนใหค้ รูทาการ ฝึกซ้อมนักเรียนใหไ้ ด้รบั รางวัลทั้งในระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา ระดับภาค และระดับประเทศ สนับสนุนใหค้ รู ดาเนินการวจิ ยั จนมีผลงานวิจยั รอ้ ยละ 100 ดงั ภาพ ภาพที่ 53 แสดงรอ้ ยละของจานวนผลงานวจิ ยั ของครูปี 2563 จากภาพ พบว่า ครูและบุคลากรในโรงเรียนให้ความสาคัญในการดาเนินการวิจัยเพ่ือพัฒนาการเรียน การสอนในปี 2562 ทกุ คน ซง่ึ เป็นไปตามเปา้ หมายท่ตี งั้ ไว้ ผบู้ รหิ าร ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาทกุ คนไดเ้ ขา้ รบั การอบรมพฒั นา ปรากฏผลตามภาพ ภาพท่ี 54 แสดงจานวนช่วั โมงเฉล่ยี การอบรม สมั มนา พฒั นาตนเอง จากภาพ พบว่า บุคลากรของโรงเรียนพนมดงรกั วิทยาพัฒนาตนเองดา้ นวิชาการ อย่างน้อย คนละ 40 ช่วั โมงตอ่ ปี คิดเป็นรอ้ ยละ 80 ซง่ึ สงู กวา่ เปา้ หมายท่ตี งั้ ไว้

89 7.4 ผลลัพธด์ า้ นการนาองคก์ รและการกากบั ดูแลองคก์ ร (Leadership and Governance Results) ก. ผลลพั ธด์ ้านการนาองคก์ ร การกากับดแู ลองคก์ รและความรับผิดชอบตอ่ สังคม (Leadership, Governance and Societal Responsibility RESULTS) (1) การนาองคก์ ร (Leadership) โรงเรยี นพนมดงรกั วิทยาไดก้ าหนดทิศทางและสรา้ งความเขา้ ใจเก่ียวกบั ทิศทางในการพฒั นาขององคก์ รให้ บุคลากรไดร้ บั รู้ รวมทงั้ สรา้ งบรรยากาศและการมีส่วนร่วมในการดาเนินงานของโรงเรียนใหก้ ับครูและบุคลากร นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีแผนพัฒนาการศึกษา พ.ศ. 2560 - 2564 และแผนปฏิบัติการประจา ปีงบประมาณท่ีสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ สอดคลอ้ งกบั กลยุทธ์ นโยบายของโรงเรียน และใชเ้ ป็นแนวทางในการ ปฏิบตั ิงานเป็นขอ้ มลู การบรหิ ารโรงเรียน และมีโครงการท่ีบรรลเุ ปา้ หมายตามแผนปฏิบตั กิ ารประจาปีงบประมาณ 2564 เพ่ือใหม้ ่นั ใจว่า ตวั ชีว้ ดั ความสาเรจ็ ตามประเด็นกลยุทธ์ มีความสาคญั ต่อความตอ้ งการและความคาดหวงั ของนกั เรียนและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย ปรากฏผลตามภาพ แผนภมู แิ สดงคา่ เฉลย่ี ระดบั ความพงึ พอใจของนกั เรยี น ครู และผปู้ กครองตอ่ การนาองคก์ ร เปา้ หมาย ความพงึ พอใจ 3.6 3.6 3.5 3.5 3.5 3.5 3 3 3 3 3 3 ภาพที่ 55 แสดงค่าเฉล่ียระดบั ความพงึ พอใจของนกั เรยี น ครู และผปู้ กครองตอ่ การนาองคก์ ร จากภาพ พบว่า ค่าเฉล่ียระดบั ความพึงพอใจของนกั เรียน ครู และผปู้ กครองท่ีมีต่อการนาองคก์ รของฝ่ าย บรหิ ารในทกุ ๆ ดา้ น อยใู่ นระดบั สงู กวา่ เปา้ หมายท่ตี งั้ ไว้ (2) การกากบั ดแู ลองคก์ ร (GOVERNANCE) โรงเรยี นมแี ผนพฒั นาการศกึ ษา พ.ศ. 2560-2564 และแผนปฏิบตั กิ ารประจาปีงบประมาณท่สี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ สอดคลอ้ งกับกลยุทธ์ นโยบายของโรงเรียน และใชเ้ ป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเป็นข้อมูล การบริหารโรงเรียน และมีโครงการท่ีบรรลเุ ปา้ หมายตามแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ 2564 เพ่ือใหม้ ่นั ใจ ว่าตวั ชีว้ ัดความสาเร็จตามประเด็นกลยุทธ์ มีความสาคญั ต่อความตอ้ งการและความคาดหวังของนักเรียนและ ผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย ปรากฏผลตามตาราง

90 ตารางที่ 20 ผลการประเมนิ ภายนอกรอบ 4 ดา้ นครู และการบริหาร ระดับคณุ ภาพ ดี ดา้ น ดี คณุ ภาพของผเู้ รยี น ดี กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ กระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั (3) กฎหมายและกฎระเบียบข้อบงั คับ (Law and Regulation) ผลลัพธ์ท่ีสาคัญดา้ นจริยธรรม จากมาตรการกากับดูแลเพ่ือให้ม่ันใจว่าบุคลากรท่ีมีจริยธรรม จากผล การดาเนินงานในการประเมินประสิทธิภาพประสิทธิผลดา้ นท่ี 2 ผลการปฏิบตั ิงานของครูตามภาระงานท่ีไดร้ บั มอบหมายจากทางโรงเรียนในปี 2563 รอ้ ยละของครูมีพฤติกรรมท่ีมีจริยธรรมตามขอ้ กาหนดของกฎหมายครูได้ รอ้ ยละ 100 โรงเรียนมแี ผนพฒั นาการศึกษา พ.ศ. 2560-2564 และแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณท่สี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ สอดคลอ้ งกับกลยุทธ์ นโยบายของโรงเรียน และใชเ้ ป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเป็นข้อมูล การบริหารโรงเรียน และมีโครงการท่ีบรรลเุ ปา้ หมายตามแผนปฏิบตั ิการประจาปีงบประมาณ 2564 เพ่ือใหม้ ่นั ใจ ว่าตวั ชีว้ ดั ความสาเร็จตามประเด็นกลยุทธ์ มีความสาคญั ต่อความตอ้ งการและความคาดหวังของนกั เรียนและ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ปรากฏผลตามตาราง ตารางท่ี 21 ตวั วดั ท่สี าคญั ดา้ นกฎหมาย กฎระเบยี บขอ้ บงั คบั และจรยิ ธรรม ตัวชวี้ ัด ปี 2562 - รอ้ ยละของบคุ ลากรท่มี ีความขดั แยง้ ดา้ นผลประโยชน์ 0 - รอ้ ยละของนกั เรยี นและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสียรอ้ งเรียนเรือ่ งจรยิ ธรรม 0 - รอ้ ยละของบคุ ลากรท่ที าผดิ วินยั 0 (4) จรยิ ธรรม (Ethics) ผบู้ รหิ ารโรงเรียนสง่ เสรมิ ให้ ครู นกั เรยี น บคุ ลากรในโรงเรียนใหม้ ีความประพฤติดีมีคณุ ธรรม เหน็ ประโยชน์ สว่ นรวมมากกวา่ สว่ นตน ปรากฏผลดงั นี้ นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมดา้ นการสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ปรากฏผลตามภาพ ภาพท่ี 56 แสดงคา่ เฉลยี่ ระดบั ความพงึ พอใจของครู นกั เรยี น ท่มี ีต่อ การสง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา

91 จากภาพ พบว่า ค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจของครู นกั เรียนท่ีมีต่อผูบ้ ริหารสถานศึกษาในการส่งเสริม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม แก่ครูและนกั เรยี น อย่ใู นระดบั สงู กวา่ เปา้ หมายท่ตี งั้ ไว้ (5) สังคม (Society) โรงเรียนมีการบรกิ ารสงั คม ชมุ ชน ในดา้ นต่างๆ เช่น การบริการดา้ นวิชาการ อาคาร สถานท่ี โรงเรียนพนมดงรกั วทิ ยามีการบรกิ ารสงั คม ชมุ ชนอยา่ งสม่าเสมอปรากฏผลตามตาราง ตารางท่ี 22 แสดงจานวนครง้ั ในการใหบ้ รกิ ารของโรงเรียนต่อชมุ ชน หนว่ ยงานภาครฐั และเอกชน ด้าน จานวนครัง้ ในการใหบ้ ริการ ปี 2562 1.ดา้ นวชิ าการ 94 2.ดา้ นอาคารสถานท่ี 15 3.ดา้ นกีฬา 4 4.ดา้ นส่งเสรมิ ประเพณี 9 5.ดา้ นบรกิ ารสาธารณประโยชน์ 15 จากตาราง พบว่า โรงเรียนไดใ้ หบ้ ริการแก่ต่อชุมชน หน่วยงานภาครฐั และเอกชนในหลาย ๆ ดา้ น ทัง้ ดา้ น วชิ าการ อาคารสถานท่ี กีฬาสง่ เสรมิ ประเพณี และบรกิ ารสาธารณะประโยชน์ ข. ผลลพั ธด์ ้านการนากลยทุ ธไ์ ปปฏิบัติ (Strategy Implementation RESULTS) โรงเรียนไดก้ าหนดเป้าหมายและตัวชีว้ ัดท่ีชัดเจนเสริมสรา้ งความแข็งแกร่งของสมรรถนะหลกั ขององคก์ ร เพ่อื นาไปสกู่ ารปฏิบตั ิท่ถี กู ตอ้ งและตรงตามเปา้ หมาย เพ่อื ท่จี ะใหบ้ รรลกุ ลยทุ ธท์ ่ี 1 พฒั นาผเู้ รยี นดา้ นวิชาการและ ทักษะทางวิชาชีพ โรงเรียนพนมดงรกั วิทยาไดส้ ่งเสริมและสนับสนุนนกั เรียนไดม้ ีองคค์ วามรูใ้ ช้ Internet ซ่ึงเป็น แหลง่ เรียนรูท้ ่สี าคญั ท่สี ดุ ในปัจจบุ นั ปรากฏผลตามภาพ ภาพท่ี 57 รอ้ ยละของผใู้ ชบ้ รกิ ารสารสนเทศ ปี 2563 จากภาพ พบว่า ผลลัพธ์ในดา้ นการไดใ้ ช้ Internet ของนักเรียนอยู่ในระดับท่ีสูงกว่าเป้าหมายซ่ึงส่งผลให้ นกั เรียนมคี วามรูค้ วามสามารถในการสบื คน้ สืบหาความรูเ้ พิ่มมากขึน้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook