Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานเชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานเชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

Published by sam_word555, 2022-03-01 12:57:29

Description: หน่วยที่ 1 ความปลอดภัยในงานเชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์

Search

Read the Text Version

เชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุม้ ฟลักซ์ 1 1

เช่อื มอาร์กดว้ ยลวดเชอื่ มห้มุ ฟลักซ์ 1 2 คำส่ัง จงทำเคร่อื งหมายกากบาท (X) หน้าข้อทถี่ ูกทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียว 1. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องในขณะท่ีปฏิบัติงานเชอื่ มอาร์กดว้ ยลวดเชอื่ มหมุ้ ฟลักซ์ ก. สวมชดุ ป้องกันสะเกด็ ไฟ ข. ไมค่ วรใช้หน้ากากตัง้ แตเ่ ร่ิมตน้ อาร์กจนสนิ้ สุดการเช่อื ม ค. การเคาะสแลกงานควรเคาะขณะท่ีขน้ึ งานร้อนอยู่ ง. การเคาะสแลกงานไมค่ วรสวมแวน่ ตานริ ภัย 2. ข้อใดกล่าวถูกต้องในการเตรยี มสถานที่ปฏิบัตงิ านเช่ือมอาร์กด้วยลวดเช่อื มหมุ้ ฟลกั ซ์ ก. วัสดทุ ตี่ ดิ ไฟง่ายควรหา่ งบริเวณเช่อื มงานมากกว่า 10 ฟุตข้นึ ไป ข. วัสดทุ ต่ี ดิ ไฟง่ายควรหา่ งบริเวณเชอ่ื มงานน้อยกวา่ 10 ฟุต ค. ไม่ควรมีผชู้ ว่ ยขณะปฏบิ ัติงานเชือ่ ม ง. ไม่ควรมอี ุปกรณด์ ับเพลิงเตรยี มพรอ้ มขณะปฏิบตั งิ าน 3. แรงดันไฟฟ้าปริมาณเท่าไรทจี่ ะทำใหเ้ สียชีวิต ก. 5 มลิ ลิแอมแปร์ (mA) ข. 20 มลิ ลแิ อมแปร์ (mA) ค. 50 มลิ ลแิ อมแปร์ (mA) ง. 100 มิลลแิ อมแปร์ (mA) 4. การปอ้ งกันรังสจี ากการเชื่อมอารก์ ด้วยลวดเชอื่ มหุม้ ฟลักซ์ บริเวณทเ่ี สือ้ ผา้ ปิดไม่มดิ ชิดผเู้ ช่อื มควร แก้ปัญหาอยา่ งไร ก. หน้ากากเชอ่ื มแบบมือถือ ข. ทาครีมกนั แดด ค. หน้ากากเชอ่ื มและเลนสเ์ ช่ือมท่เี หมาะสม ง. หนา้ กากแบบสวมหวั 5. ขอ้ ใดคือสาเหตุการเกิดไฟไหมใ้ นงานเชื่อมตอ่ เตมิ บา้ น ก. การเตรียมงานท่ีดี ข. สายไฟเชือ่ มมสี ภาพท่ีดี ค. ผู้ปฏิบตั ิงานไม่มีความประมาท ง. การเตรยี มสถานท่ีงานเชื่อมไม่ดี

เชอ่ื มอาร์กดว้ ยลวดเชอื่ มหุ้มฟลกั ซ์ 1 3 6. ข้อใดไมใ่ ชโ่ รคอนั ตรายทเ่ี กิดจากสารเคมีขณะทท่ี ำการเช่ือมถ้ารบั เขา้ สรู่ ่างกายปรมิ าณมาก ก. โรคหมันชาย ข. โรคแมงกานสี พิษเร้ือรัง ค. โรคพารก์ ินสัน ง. โรคเบาหวาน 7. ข้อใดไมใ่ ช่วธิ ีการปฏบิ ัติเพื่อใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ในการตัดถังสารเคมขี นาด 200 ลติ ร ก. เปดิ ฝาถังออก ข. ใช้นำ้ ลา้ งออกใหห้ มด ค. ใช้นำ้ ใสแ่ ทนท่ี ง. ขณะทำการตัดควรปดิ ฝาถัง 8. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกต้องสำหรับงานเชอ่ื มภาคสนาม ก. เคร่อื งเชือ่ มต้องยกพน้ื สูงให้พ้นพื้นดิน ข. บริเวณเชือ่ มตอ้ งปราศจากวัสดทุ ตี่ ิดไฟไดง้ ่าย ค. เครื่องเช่ือมตอ้ งอยู่ในสภาพทใ่ี ช้งานไดด้ ี ง. บรเิ วณทจ่ี ะเชือ่ มอากาศถ่ายเทได้ไมส่ ะดวก 9. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกต้องในการปรบั แต่งช้นิ งานเชื่อม ก. ปดิ สวติ ซเ์ คร่ืองเชือ่ มอาร์กด้วยลวดเชอ่ื มหมุ้ ฟลักซ์ ข. ใส่ถุงมอื ขณะปฏบิ ัตงิ าน ค. เคาะสแลกงานควรเคาะขณะทีช่ ้ินงานร้อนอยู่ ง. สวมแวน่ ตานริ ภัย 10. ข้อใดคือปริมาณของควันเชื่อมโลหะทป่ี ลอดภัยตอ่ ร่างกายคนเราโดยเฉล่ยี จะแล้วจะมีค่าความหนาแน่น ในแต่ละชวั่ โมงต่อวัน ก. 5 มิลลิกรมั /ลูกบาศกเ์ มตร ข. 7 มิลลิกรมั /ลูกบาศกเ์ มตร ค. 8 มลิ ลกิ รัม/ลกู บาศก์เมตร ง. 9 มลิ ลกิ รมั /ลูกบาศกเ์ มตร

เชือ่ มอาร์กดว้ ยลวดเชอื่ มหมุ้ ฟลกั ซ์ 1 4 หัวข้อเรือ่ ง (Topics) 1.1 ความปลอดภยั ในงานเชื่อมอารก์ ด้วยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลักซ์ 1.2 อันตรายจากความรอ้ น 1.3 อันตรายทีเ่ กดิ การไฟฟ้า 1.4 อันตรายที่เกดิ จากแสงและรงั สี 1.5 อันตรายจากสารเคมี 1.6 อนั ตรายท่เี กดิ จากการระเบดิ ของชนิ้ งานทท่ี ำการเชอ่ื ม แนวคิดสำคัญ (Main Idea) การปฏิบัติงานใด ๆ นั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงและให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก คือ เรื่องความปลอดภัยโดย เฉพาะงานอารก์ ด้วยลวดเชอ่ื มหุม้ ฟลกั ซ์ มกั จะมีอันตรายหลายประเภทแอบแฝงอยแู่ ละมผี ้ปู ฏิบัติงานถ้าขาดความรู้หรือ ใหค้ วามสำคญั ซง่ึ มีความเสยี งภยั อยูป่ ระจำ โดยสามารถพบเหน็ การเกดิ อุบัตเิ หตหุ รือโรคที่เกิดจากการปฏบิ ตั งิ านท้ังจาก ตวั เองหรือจากข่าวสารต่าง ๆ อยเู่ สมอ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) แสดงความรเู้ ก่ยี วกับความปลอดภยั ในงานเชอ่ื มอารก์ ด้วยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลักซ์ จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (Behavioral Objectives) 1. อธบิ ายความปลอดภยั ในงานเชอื่ มอารก์ ดว้ ยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซไ์ ด้ 2. บอกสาเหตอุ นั ตรายจากความร้อนได้ 3. บอกอันตรายทเ่ี กดิ ขน้ึ จากระบบไฟฟ้าได้ 4. บอกอนั ตรายทเ่ี กดิ จากแสงและรังสไี ด้ 5. บอกอนั ตรายจากสารเคมีได้ 6. บอกอันตรายที่เกิดจากการระเบดิ ของชน้ิ งานท่ที ำการเชอื่ มได้ 1.1 ความปลอดภัยในงานเชอื่ มอาร์กดว้ ยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ตามหลักอาชวี อนามัย ความปลอดภัยในงานเชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุม้ ฟลักซ์ตามหลักอาชีวอนามัย เป็นการจัดสภาพแวดล้อมใน การปฏิบัตงิ านเช่อื ม ไม่ใหเ้ กดิ มลพิษทเี่ ปน็ อันตรายต่อสุขภาพร่างกายของผูป้ ฏิบัตงิ านเชื่อมและบุคคลโดยรอบข้าง เช่น มลพิษท่เี กดิ จากเสียง ควนั เชอ่ื ม แสงสวา่ งและแสงจากการเชื่อม เครอ่ื งมือ อปุ กรณ์ เครื่องเชื่อม ซึ่งจะต้องจัดการให้ได้ ตามมาตรฐานทกี่ ำหนด อนั ตรายทีเ่ กดิ ข้ึนในงานเชือ่ มอารก์ ด้วยลวดเชื่อมห้มุ ฟลักซ์ มี 6 ประเภท ดงั นี้

เช่ือมอาร์กดว้ ยลวดเชื่อมหุ้มฟลกั ซ์ 1 5 1.2 อนั ตรายจากความรอ้ น อันตรายจากความร้อน อุณหภูมิที่เกิดขึ้นจารกระบวนการเชื่อมโลหะจะสูงถึงจุดหลอมละลายโลหะที่นำมา เชื่อม โดยความรอ้ นท่ีโลหะแผ่นงาน ช่างเชื่อมตอ้ งปอ้ งกันอนั ตรายทีเ่ กิดขึ้นขณะปฏิบัติงานควรหาวิธปี อ้ งกนั โดยปฏบิ ตั ิ ดังนี้ 1.2.1 ประกายไฟที่เกิดจากการเชื่อมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ เป็นอันตรายต่อผิวหนังไหม้และอาจเป็น สาเหตุการเกดิ เพลงิ ไหม้ได้ ดังน้นั ก่อนการเชอ่ื มตอ้ งเตรยี มพืน้ ทใ่ี ห้แน่ใจวา่ ไม่มวี สั ดทุ ่ีก่อให้เกดิ เพลงิ ไหมจ้ ากประกายไฟ ควรปฏบิ ตั งิ านเชื่อมหา่ งจากวัสดุไวไฟอยา่ งนอ้ ย 10 ฟุต ดังรูปท่ี 1.1 รปู ที่ 1.1 ลักษณะงานพน้ื ทีง่ านเชอ่ื มที่ปราศจากสารติดไฟ (ท่มี า: http://sar.udontech.ac.th) 1.2.2 ส่วนการป้องกันส่วนบุคคลผู้ปฏิบัติงานเชื่อมต้องสวมชุดป้องกันที่ถูกต้องจะสามารถป้องกันประกายไฟ และสะเก็ดของน้ำโลหะได้ไม่ให้ผวิ หนังไหมโ้ ดยเฉพาะการเช่ือมท่าเหนือศรี ษะ ดังรูปท่ี 1.2 รปู ที่ 1.2 ลกั ษณะเส้อื หนังทใ่ี ชใ้ นงานเชอื่ ม (ท่มี า: http://sar.udontech.ac.th) 1.2.3 ขณะทีท่ ำการเชื่อมต้องสวมหน้ากากเช่ือมต้ังแตก่ ารเร่ิมต้นอาร์กจนสิ้นสุดการเชื่อม ส่วนการเคาะ สแลก ตอ้ งสวมใส่อปุ กรณ์ปอ้ งกนั ใหค้ รบเพื่อป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดข้ึนได้ ดังรูปท่ี 1.3 และ รูปท่ี 1.4

เชอ่ื มอาร์กด้วยลวดเชื่อมห้มุ ฟลกั ซ์ 1 6 รูปที่ 1.3 ลกั ษณะการใชห้ น้ากากในงานเชอ่ื ม รูปที่ 1.4 ลักษณะการใช้แว่นตานริ ภัยในการเคาะสแลก 1.2.4 ชิ้นงานภายหลังการเชื่อมสิ้นสุดลงการจะนำชิ้นงานไปทำความสะอาดต้องใช้คีมที่ออกแบบจับงานร้อน โดยเฉพาะ เพือ่ ปอ้ งกันอนั ตรายท่จี ะเกิดข้นึ ได้ รปู ที่ 1.5 ลกั ษณะการใชค้ ีมจับชนิ้ งานท่ีมีความร้อน 1.3 อัตรายท่ีเกิดขึ้นจากระบบไฟฟ้า อันตรายที่เกิดขึ้นเนื่องจากเรื่องของระบบไฟฟ้า เริ่มตั้งแต่ระบบไฟฟ้าก่อนเข้าเครื่องเชื่อมมีทั้งกระแสไฟท่ี ขนาดของแรงเคลื่อน 220 โวลต์ 380 โวลต์ 400 โวลต์ ซึ่งเป็นขนาดของแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่อันตราย หลังจากนำ กระแสไฟฟา้ เข้าสูร่ ะบบหมดแปรงของเครื่องเชื่อมแล้วขนานของกระแสไฟฟ้าและแรงเคลื่อนไฟฟ้าจะผกผนั กลบั กัน คือ ขนาดของกระแสไฟฟ้าจะสงู ขน้ึ แรงเคล่ือนไฟฟา้ จะต่ำลง โดยทีข่ นาดของแรงเคลื่อนไฟฟา้ ท่อี อกจากเคร่ืองเชือ่ มไม่ควร ออกแบบใหเ้ กนิ 80 โวลต์ ถึงแม้วา่ จะไมท่ ำอันตรายถึงชวี ิตในทนั ท่ี แต่ถา้ มกี ระแสไฟฟ้าผ่านรางกายเปน็ เวลานานขึ้น ก็ จะทำให้เกิดการช็อกและหัวใจหยุดเต้นได้ นอกจากเป็นอันตรายต่อชีวิตแล้ว กระแสไฟฟ้าที่มีเคลื่อนแรงไฟฟ้าเกิน 80 โวลต์ อาจเป็นแหลง่ ความรอ้ นอาจทำใหเ้ กิดอัคคภี ยั ได้ ถ้าเกิดมตี ัวตา้ นทานขาวงทางเดนิ ของกระแสไฟ

เชอื่ มอาร์กดว้ ยลวดเชอ่ื มห้มุ ฟลกั ซ์ 1 7 1.3.1 ปริมาณของกระแสไฟฟ้าทเ่ี กดิ อันตรายต่อรางกาย กระแสไฟฟา้ ทน่ี ำมาใชก้ บั กระบวนการเช่อื มถึงแม้ จะมแี รงดนั ต่ำแต่รา่ งกายของคนเรากย็ งั สามารถรบั รถู้ ึงแรงดันของกระแสไฟฟ้าทไ่ี ด้รบั ดังตารางที่ 1.1 ลำดับ ปริมาณของกระแส อาการของผู้ที่ได้รับ 1 1 มิลลิแอมแปร์ (mA) มีอาการกระตกุ เล็กนอ้ ย ไม่มอี นั ตรายใดๆ 2 5 มลิ ลิแอมแปร์ (mA) กล้ามเนอ้ื กระตุกอย่างรุนแรง รา่ งกายรู้สึกเจบ็ ปวด 3 10 มิลลแิ อมแปร์ (mA) ร่างกายเจบ็ ปวดมากจนรูส้ ึกทนไม่ได้ 4 20 มิลลิแอมแปร์ (mA) กล้ามเนอ้ื หดตัวอย่างมาก ไม่สามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ 5 50 มลิ ลแิ อมแปร์ (mA) เปน็ อันตรายตอ่ ร่างกาย 6 100 มิลลิแอมแปร์ (mA) เสียชวี ติ 1.3.2 กระแสไฟฟ้าท่ใี ชก้ ับเครอื่ งเชอ่ื ม มอี ยู่ 2 ชนดิ คอื 1. กระแสไฟตรง (Direc Current) : DC 2. กระแสไฟสลับ (Alternating Current) : AC 1.3.3 แรงดันและกระแสไฟฟ้าของเคร่ืองเช่ือม แรงดนั ไฟฟ้าท่เี กิดข้ึนระหว่างลวดเช่ือมกับชน้ิ งาน หมายถงึ แรงดนั ที่ทำให้อเิ ล็กตรอนเคล่ือนผ่านช่องว่าง ระหว่างปลายลวดเชื่อมกับชิ้นงาน มีหน่วยเป็นโวลต์ (Volt) สามารถวัดได้ด้วยโวลต์มิเตอร์ และกระแสไฟฟ้ามีหน่วย เป็นแอมแปร์ (Ampere) วัดได้ด้วยแอมมิเตอร์ เครื่องเชื่อมบางเครื่องจะติดตั้งไว้ทั้งแอมมิเตอร์และโวลต์มิเตอร์ แรงดันไฟฟา้ ในกาเชื่อมมีอยู่ 2 ชนิดคอื 1. แรงดันวงจรเปิด (Open Current Voltage) ขณะที่เครื่องเชื่อมเปิดอยู่แต่ไม่ได้มีการเชื่อมแรงดันที่ เกิดอยู่ทขี่ วั้ ทงั้ สองของเคร่ืองเชื่อมน้นั คือแรงดนั วงจรเปิด สามารถวัดไดโ้ ดยการนำโวลต์มิเตอรว์ ดั ที่ขวั้ ท้ังสองของเครื่อง เชอ่ื ม 2. แรงดันอาร์ก (Arc Voltage) แรงดันวงจรเปิดจะเปลี่ยนเป็นแรงดันอาร์กเมื่อเครื่องเชื่อมเริ่มอาร์ก แรงดนั อารก์ สามารถวดั ไดโ้ ดยการนำโวลตม์ เิ ตอร์วดั ท่ขี ้วั ทัง้ สองของเครื่องเช่ือมขณะท่ที ำการเช่อื มอยู่ แรงดันไฟฟ้าจะเปลี่ยนแปลงตามระยะอาร์ก คอื ระยะอารก์ ยาวแรงดนั ไฟฟา้ จะเพิ่มขึ้นแต่กระแสไฟฟ้า ท่ใี ช้เชือ่ มจะลดลง ถ้าระยะอาร์กสัน้ ลงแรงดนั ไฟจะตำ่ แตะกระแสไฟจะสงู ขน้ึ แรงดันเชื่อมไฟฟ้า จะทำหน้าที่เปลี่ยนแปรงแรงดันไฟฟ้าจากแรงดันสูงให้เป็นแรงดนั ไฟฟ้าที่มีแรงดัน ตำ่ เชน่ แรงดนั ไฟฟ้าที่ 220 โวลต์ หรือ 380 โวลต์ เป็นแรงดนั ไฟฟา้ ทตี่ ่ำ ประมาณ 20 โวลต์ ถึง 100 โวลต์ 1.3.4 ข้อควรระวงั จากกระแสไฟฟ้าจากเครื่องเชื่อม มีดังนี้ 1. ขณะเคร่อื งเชอื่ มเปิดการใชง้ านอยูก่ ระแสไฟฟา้ จะว่งิ ครบวงจร ถา้ ทำการเปลยี่ นลวดเชอ่ื มมือเปล่า หรอื ปรับแต่งช้นิ งานเชื่อม เช่น เคาะสแลก ตรวจสอบขนาด วัดความได้ฉากของงาน อาจเกดิ อนั ตรายจากไฟดูดเม่อื จับ ช้ินงานดว้ ยมอื เปล่า วธิ ปี ้องกันที่ดีทีสดุ ควรปดิ สวติ ชเ์ คร่ืองเช่ือม ดังรปู ที่ 1.6

เชือ่ มอาร์กด้วยลวดเชอื่ มหุ้มฟลกั ซ์ 1 8 รปู ที่ 1.6 ลกั ษณะการสัมผัสกบั ลวดเชื่อมโดยใช้ถุงมอื หนัง 2. ไฟฟ้าลัดวงจร สาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากูปฏิบัติงานเกิดจากการหลงลืมนำเอาสายเชื่อมตำแหน่งที่ ชำรดุ ไปวางพาดชนิ้ งานเชอ่ื มโดยไม่ไดป้ ิดเครื่องเชอื่ ม เม่ือมคี นอื่นหรอื ตัวเองไปสัมผสั งานจะโดนไฟฟ้าดูด เพราะแรงดัน เพราะแรงดันกระแสขนาด 70 โวลต์ ถ้าผ่านร่างกายโดยตรงอาจเสียชีวิตได้ การป้องกันต้องวางหัวเชื่อมกับอุปกรณ์ เฉพาะทก่ี ำหนดไว้เท่านนั้ แก้ไขต้ อ้ งตรวจสอบอปุ กรณ์อยา่ ใหช้ ำรดุ ตอ้ งเปล่ียนทนั ท่ี เช่น สายเชื่อมเก่า ดงั รูปท่ี 1.7 รูปที่ 1.7 ลักษณะสายเช่ือมท่ีใชง้ านเกา่ และชำรดุ 3. การปรับแระแสไฟที่เคร่ืองเชื่อม ในงานภาคสนามทีท่ ำการเช่ือมติดต่อนาน ๆ เครื่องเชือ่ มจะถกู ใช้ งานหนัก อาจเกดิ กระแสไฟฟา้ ร่ัวไปทว่ั โครงเครื่องเชื่อม ถ้าไดป้ รับกระแสไฟทเี่ คร่ืองเชื่อมอย่างไม่ถูกวิธีโดยการใช้มือที่ จับโครงเครื่องอกี มอื จบั หมุน จะถกู ไฟฟ้าดดู ทนั ท่ี ถา้ ชว่ ยเหลอื ไม่ทันจะเสียชีวิต แตถ่ า้ ช่วยเหลอื ทนั อาจพกิ ารลิ้นแข็งพูด ไม่ชัดตลอดชวี ติ วธิ ปี อ้ งกันคอื ตอ้ งตรวจสอบระบบไฟฟ้าทีน่ ำมาจ่ายเขา้ เคร่ืองเช่ือมให้แน่ใจว่าไม่มกี ระแสไฟร่ัวในระบบ กอ่ น 4. ถา้ ต้องการตรวจซ่อมเครื่องเช่ือมต้องปิดสวติ ช์อุปกรณ์ไฟทกุ ครัง้ โดยตอ้ งมปี ้ายบอกไวอ้ ยา่ งชัดเจน ดังรูปท่ี 1.8

เชื่อมอาร์กดว้ ยลวดเชอื่ มห้มุ ฟลักซ์ 1 9 รูปท่ี 1.8 ลกั ษณะการปิดปา้ ยบอกสวิตชอ์ ปุ กรณ์ไฟฟ้า 5. ควรตรวจสอบข้อต่อต่าง ๆ ใหแ้ นน่ ถ้าหากข้อต่อหลวมจะเกิดความร้อนบริเวณดังกล่าวอาจจะเกิด ไฟลกุ ไหม้ขึน้ หรือไฟดดู ชา่ งเช่อื มหรือผ้อู ่นื ได้ 6. การใช้สายไฟขนานไมถ่ ูกต้อง การนำสายไฟขนานเล็กไปต่อเขา้ กับเคร่ืองเชื่อมเมอื่ ใช้นาน ๆ สายไฟ เกิดความร้อนฉนวนท่หี ้มุ อย่จู ะหลอมละลายอาจจะเกิดไฟลุกไหม้ได้ 7. ถ้าตอ้ งการตรวจซ่อมเคร่ืองเช่ือมกรณที ช่ี ำรุด ต้องปิดสวติ ชแ์ ละปดิ แผน่ ป้ายบอกไวใ้ ห้ชดั เจน ดังรูป ที่ 1.9 รูปที่ 1.9 ลักษณะการปิดแผ่นป้ายบอกไว้ให้ชดั เจนขณะซอ่ มเครอื่ งเช่ือมทช่ี ำรุด 8. การตดิ ตงั้ เคร่ืองเช่ือมตอ้ งต่อสายดนิ เพ่ือป้องกันไฟฟา้ ดูด ดังรูปท่ี 1.10 และรูปท่ี 1.11 รูปท่ี 1.10 ลกั ษณะเครื่องเชื่อมทีต่ อ่ จับคีมจบั สายดิน รปู ท่ี 1.11 ลักษณะการไมต่ อ่ สายดินโดนไฟฟ้าดดู

เชื่อมอาร์กด้วยลวดเช่ือมหมุ้ ฟลกั ซ์ 1 10 9. พื้นท่งี านเช่ือมไมว่ า่ จะเปน็ ในโรงงานหรอื งานภาคสนามตอ้ งตดิ ตั้งระบบดับเพลงิ และมีการ ตรวจสอบทุกระยะเวลา 6-12 เดือน และต้องติดต้ัง ณ ตำแหน่งการใชง้ านให้กับผเู้ ช่อื มด้วย ดังรูปที่ 1.12 รูปที่ 1.12 ลกั ษณะการตดิ ตั้งอุปกรณ์ดบั เพลงิ (ที่มา: https://www.jorakay.co.th/) 10. สัญลักษณ์ของถังดับเพลิงแบ่งตามชนิดของไฟ ตามข้อกำหนดมาตรฐานสากล (มาตรฐาน NFPA 10) ในการปอ้ งกันและระงับอัคคีภยั เจา้ หน้าท่ตี ้องทราบชนิดของไฟและวธิ ีการใช้ในปจั จุบันมีอยู่ 5 ชนิด คอื (1) ไฟชนิด A สัญลักษณ์ ตัวอักษร A อยู่ในรูปสามเหลี่ยมด้านที่ไม่เทา่ พื้นสีเขียว ตัวอักษรสีดำใช้ สำหรบั ดบั เพลิงที่เกดิ จากการลกุ ไหมจ้ ากของแข็ง เช่น ไม้ เสือ้ ผ้า กระดาษ และพลาสติก เปน็ ตน้ ดังรปู ท่ี 1.13 รูปท่ี 1.13 ลักษณะสัญลักษณไ์ ฟชนิด A (ทมี่ า: https://board.postjung.com/) (2) ไฟชนดิ B สญั ลกั ษณ์ ตงั อักษร B อยู่ในรูปสเี่ หล่ยี มดา้ นเท่า พนื้ ท่ีสแี ดง ตัวอกั ษรสดี ำ ใช้ สำหรบั ดบั เพลิงท่ีเกดิ จากการลกุ ไหมจ้ ากสารไวไฟเช้อื เพลงิ เหลว เช่น น้ำมันชนดิ ต่างๆ เป็นตน้ ดังรปู ท่ี 1.14 รูปท่ี 1.14 ลกั ษณะสัญลักษณ์ไฟชนดิ B (ท่ีมา: https://board.postjung.com/)

เช่ือมอาร์กด้วยลวดเช่ือมหมุ้ ฟลกั ซ์ 1 11 (3) ไฟชนดิ C สญั ลกั ษณ์ตัวอักษร C อยู่ในรูปวงกลมพ้นื สีฟ้า ตวั อกั ษรสีดำ สญั ลกั ษณ์ ท่ีเปน็ รูปภาพ เป็นปลก๊ั ไฟทีล่ ุกตดิ ไฟ ดงั รูปที่ 1.15 รูปท่ี 1.15 ลกั ษณะสัญลักษณ์ไฟชนดิ C (ทีม่ า: https://board.postjung.com/) (4) ไฟชนิด D สัญลักษณ์ ตัวอกั ษร D อยใู่ นรูปดาวหา้ แฉก พื้นสีเหลือง ตวั อักษรสดี ำ ใช้สำหรับ ดับเพลิงที่เกิดจากการลกุ ไหม้จากวัตถขุ องแขง็ หรือโลหะไวไฟ เชน่ แมกนเี ซยี ม ดงั รปู ท่ี 1.16 รูปที่ 1.16 ลักษณะสัญลักษณไ์ ฟชนดิ D (ท่มี า: www.safetyppe.com) (5) ไฟชนิด K สัญลักษณ์อักษร K อยู่ในรูปหกเหลี่ยมด้านเท่า พื้นสีดำ ตัวอักษรสีขาวสัญลักษณ์ที่ เป็นรูปภาพ จะเป็นรปู กระทะทำอาหารทีล่ ุกติดไฟ เปน็ ไฟที่เกดิ จากเช้ือเพลิงน้ำมันอาหารน้ำมนั พชื น้ำมนั จากสัตว์ และ ไขมนั เคร่ืองดับเพลงิ ทีเ่ หมาะสำหรบั ดับไฟคือเคร่ืองดับเพลงิ ชนดิ นำ้ ผสมสารโปตัสเซียมอะซเิ ตท ดังรูปท่ี 1.17 รปู ที่ 1.17 ลักษณะสัญลักษณ์ไฟชนิด K (ที่มา: https://board.postjung.com/) 11. การเช่ือมในทค่ี ับแคบหรือในถัง ต้องวางเคร่ืองเช่ือมไวน้ อกถัง ปอ้ งกันไฟฟา้ ลดั วงจรซึ่งจะเป็น อันตรายต่อผเู้ ช่อื มหรือผเู้ ก่ยี วข้อง

เชอ่ื มอาร์กด้วยลวดเช่อื มห้มุ ฟลักซ์ 1 12 1.4 อนั ตรายที่เกิดจากแสงและรงั สี งานเชื่อมโลหะทั้งการเชื่อมด้วยกระบวนการเชื่อมเกือบทุกชนิดทำให้เกิดแสงจ้าและรังสีตามมาทำให้มองไม่ เหน็ ช่ัวขณะ/ตาบอดชั่วคราว ตาพรา่ มัว ทำใหเ้ กิดตอ้ ลม รงั สีท่เี กดิ จากการเช่อื มมดี ังนี้ 1.4.1 รังสอี ัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Rays) รงั สีนีจ้ ะมคี วามเข้มของรงั สสี งู มาก ถ้าถกู ผิวหนังจะทำให้ผิว ไหม้และลอกออกภายหลัง อาจส่งผลต่อการเกิดมะเร็งที่ผวิ หนังได้ภายหลัง แต่ถ้าเข้าตาเยื่อบุตาจะอักเสบ คล้ายับเม็ด ทรายเข้าไปอยู่ในตา ซึ่งอันตรายต่อระบบสายตาลิวหนังได้ถ้าป้องกันไม่ดีโดยที่ร่างกายรับรังสีเหล่านี้มาก ๆ จะทำให้ ดวงตาอักเสบ ตาแดง สว่ นผิวหนังก็จะไหมเ้ ป็นผื่นแดง มอี าการแสบร้อนวิธีปอ้ งกนั ใส่เส้ือให้มดิ ชิดและทาครีมกันแดดใน สว่ นที่ปราศจาเสื้อปกปดิ สว่ นการบรรเทาอาการเจ็บแสบตาควรใชผ้ า้ เยน็ หรือเปลือกกลว้ ยหอมปดิ เปลอื กตา ไมค่ วรใชย้ าหยอดตา เพราะอาจก่อใหเ้ กิดต้อหินได้ หากใชอ้ ย่างต่อเนื่องเปน็ เวลานาน 1.4.2 รังสอี นิ ฟราเรด (Infrared Rays) รงั สีน้ปี ระสาทตาไม่สามารถรบั รู้ได้ จะมคี วามรอ้ นสูงและทำอนั ตราย ต่อผิวหนังทุกส่วนอย่างรุนแรง เมื่อสะสมจำนวนมากจะทำให้เกิดต้อลม ต้อกระจก ต้อหินและเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อ ตารังสชี นดิ นจ้ี ะมีความเข้มของรังสี 700-1,400 m 1.4.3 แสงจากการเชื่อม (Visible Light Rays) เป็นรังสีที่สามารถมองเห็นได้ดว้ ยตาเปล่า เมื่อทำการ เชอ่ื มหากป้องกันไม่ดีแสงจะเขา้ สู่นยั น์ตา ทำให้มองไม่เหน็ บรเิ วณงานเชื่อมสายตาพร่ามวั และอาจมองไม่เห็นไปช่ัวขณะ หนึ่ง ซึ้งหากกระทำบ่อยครั้งจะยิ่งทำเป็นการทำลายดวงตาและอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร โดยแสงน้ี นอกจากเป็นอนั ตรายต่อนยั น์ตาแล้วยงั เป็นอันตรายตอ่ ผิวหนงั ได้อกี ดว้ ย การปอ้ งกันอนั ตรายจากรังสี ควรปฏิบัตดิ ังน้ี 1.สวมชุดปอ้ งกนั ท่ีมีสีเขม้ ไม่สะท้อนแสงดงั รูปท่ี1.18 รูปที่ 1.18 ลักษณะการสวมเส้ือผ้าสีเข้ม 2.สวมหน้ากากเชือ่ มพร้อมเลือกเลนสท์ ่ีมีความเข้มเหมาะสมและควรใช้ผา้ ปกปดิ ส่วนลำคอ ดงั รปู ที่ 1.19 รปู ท่ี 1.19 ลกั ษณะการใช้หนา้ กากและผา้ ปกปดิ ลำคอ

เช่อื มอาร์กด้วยลวดเช่ือมห้มุ ฟลักซ์ 1 13 3. ควรมีมา่ นบังแสงจากการเชือ่ ม ดังรูปที่ 1.20 รูปท่ี 1.20 ลักษณะการใช้มา่ นบังแสงในการเช่ือม 4. อันตรายทเี่ กิดจากการระเบิดของชน้ิ งานที่ทำการเช่ือม อันตรายที่เกิดจากการระเบิดของชิ้นงานที่ทำการเชื่อม ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมจะต้องจัดพื้นที่ให้ ปราศจากวัสดุที่ติดไฟง่าย โดยเตรียมพื้นที่ในการฝึกปฏิบัติงาน ให้ห่างจากวัสดุที่จะก่อให้เกิดเพลิงไหม้จากประกายไฟ ดังรปู ท่ี 1.21 รูปที่ 1.21 ลกั ษณะพ้ืนทใี่ นการปฏบิ ัติงานท่หี า่ งจากวัสดุที่จะกอ่ ใหเ้ กิดเพลงิ ไหม้ 1.5 อันตรายจากสารเคมี อันตรายจากสาเคมี ในรูปแบบของฟูม เกิดขึ้นเมื่อโลหะหลอมเหลวกลายเป็นไอ เมือเย็นตัวลงก็จะเกดิ อนภุ าค เลก็ ๆ ลอยอยใู่ นอากาศโดยเฉพาะบริเวณพื้นทป่ี ฏิบตั ิงานผู้ปฏิบัติงานสูดดม สารเคมเี หลา่ นั้นสามารถเข้าไปในร่างกาย ได้ และสะสมในร่างกายในปริมาณมากอาจกอ่ ใหเ้ กดิ โรคตา่ ง ๆ เชน่ โรคหมนั ชาย โรคแมงกานีสพิษเร้ือรงั โรคพาร์กนิ สัน เปน็ ต้น

เชอ่ื มอาร์กดว้ ยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ 1 14 ข้อสงั เกต ควันที่เกิดจากการเชื่อมโลหะเช่น เหล็กอาบสังกะสี แคดเมียม หรืออะลูมิเนียม จะเป็นควันที่มีพิษต่อร่างกาย มีขนาดเล็กมากคือประมาณ 0.4-5 ไมครอน ถ้าผู้ปฏิบัติงานโดยไม่ป้องกันก็จะเป็นการสูดดมสารเคมีเหล่านี้และไป สะสมอยู่ในปอด อาจป่วยเป็นโรคปอดและอาจเสียชีวิตได้รบั ปริมาณมาก โดยที่ปริมาณของควันเชื่อมโลหะที่ปลอดภัย ตอ่ ร่างกายคนเราโดนเฉลี่ยจะแล้วจะมีคา่ ความหนาแน่นในแตล่ ะชว่ั โมงต่อวันไม่เกิน 5 มลิ ลิกรมั /ลกู บาศกเ์ มตร การปอ้ งกัน 1. ถ้าเป็นโรงฝึกงานในสถานศึกษาห้องปฏิบัติการเชื่อมหุ้มฟลักซ์ต้องมีท่อดูดควันโดยที่ขนาดพัดลมดูดควั น จะตอ้ งมีขนาดอัตราความเรว็ ลม47ลูกบาศก์เมตร/นาที/ตารางเมตรของพื้นที่ทำการเชื่อม 2. ในบริเวณโรงงานต้องมพี ัดลมชว่ ยระบายอากาศโดยต้องเปิดประตูหน้าตา่ งให้อากาศถ่ายเท 3. ถา้ เป็นงานภาคสนามตอ้ งจัดระบบปฏิบัตงิ านใหร้ อบคอบและปลอดภัยท่ีสดุ เช่น พน้ื ทป่ี ฏิบัติงานตอ้ งไมม่ ี วัตถทุ ตี่ ิดไฟง่าย บริเวณทจ่ี ะเชอ่ื มอากาศตอ้ งถ่ายเท การว่างเคร่ืองเช่ือมตอ้ งยกพ้นื สูงให้พ้นพ้นื ดนิ และ เครอ่ื งเชอ่ื มต้องอยใู่ นสภาพใช้งานไดด้ ี 4. ใชอ้ ปุ กรณ์ป้องกน้ อนั ตรายส่วนบคุ คลเช่น ท่ปี ดิ ปาก ปิดจมกู ดังรปู ท่ี 1.22 รปู ที่ 1.22 ลกั ษณะการใช้อุปกรณ์ปอ้ งกนั สว่ นบุคคล 1.6 อนั ตรายทเี่ กิดจากการระเบดิ ของชน้ิ งานที่ทำการเช่อื ม อันตรายที่เกิดจากการระเบิดของชิ้นงานที่ทำการเชื่อม ต้องจัดพื้นที่ปฏิบัติงานให้ปราศจากวัสดุที่ติดไฟง่าย การเชื่อมชิ้นงานที่มีโพรง เช่น ถังน้ำมัน ถังบรรจุสารเคมีบางครั้งอาจมีสิ่งติดไฟหลงเหลืออยู่ถึงแม้ว่าจะล้างแล้วก็ตาม หรือความร้อนจากการเชื่อมทำให้อากาศภายในถังขยายตัวอาจทำให้เกิดการระเบิดได้ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยควร ปฏิบัติดงั นี้ 1. เปิดฝาถงั ใช้น้ำลา้ งออกให้หมด 2. ลา้ งทำความสะอาด 3. เตมิ น้ำเข้าไปแทนทอ่ี ากาศภายในถงั น้ำมนั แลว้ ทำการเช่ือมหรือตดั ตามท่ตี ้องการ ดังปรูที่ 1.23

เชอ่ื มอาร์กดว้ ยลวดเช่อื มห้มุ ฟลักซ์ 1 15 รปู ที่ 1.23 ลักษณะถังน้ำมนั 200 ลิตรทถ่ี กู ตัด อันตรายทเ่ี กดิ ไฟไหม้หรอื ระเบิดขณะเช่อื มงานเกดิ จากสาเหตดุ งั นี้ - การเตรียมสถานที่ - การเตรยี มงาน - ความประมาท ดงั นนั้ ผูป้ ฏบิ ตั งิ านควรเพิ่มความระมัดระวงั เพื่อป้องกันการลุกไหมข้ องไฟและการระเบิดไดโ้ ดยคดิ ให้รอบคอบก่อน ทำงานทุกครั้ง

เชือ่ มอาร์กด้วยลวดเช่อื มหุม้ ฟลกั ซ์ 1 16 คำสงั่ จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ ง 1. จงบอกความหมายของความปลอดภยั ในงานเช่ือมอาร์กด้วยลวดเชื่อมห้มุ ฟลักซต์ ามหลักอาชีวอนามัย 2. จงบอกวิธกี ารป้องกนั อันตรายจากสารเคมี 3. จงบอกวิธกี ารป้องกันอันตรายทเ่ี กดิ จากแสงและรังสี 4. จงบอกวธิ ีการเชอื่ มถงั นำ้ มัน ถงั บรรจสุ ารเคมี 5. สญั ลักษณ์ ใช้ดับเพลงิ ชนดิ ใด

เช่ือมอาร์กด้วยลวดเช่ือมหุ้มฟลกั ซ์ 1 17 เฉลยแบบฝึกหดั หน่วยที่ 1 เรื่อง ความปลอดภัยในงานเชอื่ มอารก์ ดว้ ยลวดเชื่อมห้มุ ฟลักซ์ 1. จงบอกความหมายของความปลอดภัยในงานเช่ือมอาร์กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ตามหลักอาชีวอนามยั เป็นการจัดสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานเชื่อม ไม่ให้เกิดมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของ ผ้ปู ฏิบัตงิ านเชอ่ื มและบคุ คลโดยรอบขา้ ง 2. จงบอกวิธกี ารป้องกนั อันตรายจากสารเคมี 1. ถา้ ในโรงงานในสถานศึกษาต้องมที ่อดดู ควนั 2. บริเวณโรงงานต้องมีพดั ลมชว่ ยระบายอากาศ 3. งานภาคสนามต้องมีอากาศถา่ ยเท 3. จงบอกวธิ ีการป้องกันอนั ตรายทเ่ี กดิ จากแสงและรงั สี 1. สวมชุดป้องกันอันตราย 2. สวมหนา้ กากเชื่อม 3. อย่หู า่ งจากบริเวณเชื่อมไม่น้อยกว่า 10 ฟุต 4. จงบอกวธิ กี ารเช่ือมถงั น้ำมัน ถงั บรรจุสารเคมี 1. เปิดฝาถงั ให้น้ำค้างออกให้หมด 2. ล้างทำความสะอาด 3. เติมน้ำเข้าไปแทนท่ีอากาศภายในถัง 5. สญั ลักษณ์ ใชด้ ับเพลิงชนิดใด ใชส้ ำหรบั ดับเพลงิ ทเี่ กิดจากการลุกไหมจ้ ากวัตถขุ องแขง็ หรือโลหะไวไฟ

เชอื่ มอาร์กด้วยลวดเช่อื มห้มุ ฟลกั ซ์ 1 18 คำสัง่ จงทำเครื่องหมายกากบาท (X) หน้าข้อท่ถี กู ท่สี ดุ เพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกล่าวถกู ต้องในการเตรยี มสถานท่ีปฏบิ ัตงิ านเช่ือมอารก์ ดว้ ยลวดเชื่อมห้มุ ฟลักซ์ ก. ไม่ควรมีผชู้ ่วยขณะปฏิบัตงิ านเช่อื ม ข. วสั ดุท่ตี ดิ ไฟงา่ ยควรหา่ งบริเวณเชอื่ มงานน้อยกว่า 10 ฟุต ค. วสั ดุที่ติดไฟงา่ ยควรห่างบริเวณเช่อื มงานมากกวา่ 10 ฟตุ ข้นึ ไป ง. ไม่ควรมีอปุ กรณ์ดับเพลงิ เตรียมพร้อมขณะปฏบิ ัตงิ าน 2. ข้อใดกล่าวถกู ต้องในขณะทปี่ ฏิบตั งิ านเชอ่ื มอารก์ ดว้ ยลวดเชอื่ มหมุ้ ฟลักซ์ ก. การเคาะสแลกงานควรเคาะขณะที่ขึน้ งานร้อนอยู่ ข. ไมค่ วรใช้หนา้ กากตงั้ แต่เริ่มตน้ อาร์กจนส้นิ สุดการเชอ่ื ม ค. สวมชดุ ปอ้ งกันสะเก็ดไฟ ง. การเคาะสแลกงานไม่ควรสวมแว่นตานริ ภยั 3. การปอ้ งกนั รงั สจี ากการเชอื่ มอารก์ ด้วยลวดเชือ่ มหุ้มฟลักซ์ บริเวณทเี่ สอ้ื ผ้าปิดไม่มิดชิดผเู้ ชือ่ มควร แก้ปัญหาอย่างไร ก. หนา้ กากเช่ือมแบบมือถือ ข. หน้ากากเช่ือมและเลนส์เช่ือมท่เี หมาะสม ค. ทาครมี กันแดด ง. หน้ากากแบบสวมหัว 4. แรงดันไฟฟ้าปริมาณเท่าไรท่จี ะทำใหเ้ สียชีวติ ก. 5 มลิ ลิแอมแปร์ (mA) ข. 20 มลิ ลแิ อมแปร์ (mA) ค. 50 มิลลิแอมแปร์ (mA) ง. 100 มิลลแิ อมแปร์ (mA) 5. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกต้องในการปรบั แต่งชนิ้ งานเชื่อม ก. เคาะสแลกงานควรเคาะขณะทชี่ ้นิ งานร้อนอยู่ ข. ใส่ถุงมือขณะปฏบิ ัติงาน ค. ปิดสวติ ซ์เครอื่ งเช่ือมอาร์กด้วยลวดเชอ่ื มหุม้ ฟลกั ซ์ ง. สวมแว่นตานริ ภัย

เชื่อมอาร์กดว้ ยลวดเชอ่ื มห้มุ ฟลักซ์ 1 19 6. ข้อใดคือสาเหตุการเกดิ ไฟไหม้ในงานเชอ่ื มต่อเตมิ บ้าน ก. การเตรยี มงานท่ีดี ข. การเตรียมสถานท่ีงานเชอ่ื มไมด่ ี ค. ผู้ปฏบิ ตั งิ านไมม่ ีความประมาท ง. สายไฟเชอ่ื มมีสภาพทีด่ ี 7. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกต้องสำหรับงานเชือ่ มภาคสนาม ก. เครือ่ งเชอ่ื มตอ้ งยกพืน้ สูงให้พน้ พ้นื ดิน ข. บรเิ วณเชื่อมต้องปราศจากวสั ดทุ ีต่ ดิ ไฟได้งา่ ย ค. บริเวณท่ีจะเชื่อมอากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก ง. เคร่อื งเชือ่ มตอ้ งอยู่ในสภาพทใี่ ช้งานได้ดี 8. ขอ้ ใดไมใ่ ชโ่ รคอนั ตรายทเี่ กิดจากสารเคมีขณะท่ที ำการเช่ือมถา้ รบั เข้าสู่ร่างกายปริมาณมาก ก. โรคหมันชาย ข. โรคแมงกานสี พิษเรื้อรัง ค. โรคเบาหวาน ง. โรคพาร์กนิ สนั 9. ข้อใดคือปรมิ าณของควันเช่อื มโลหะท่ีปลอดภัยต่อร่างกายคนเราโดยเฉล่ียจะแล้วจะมีคา่ ความหนาแนน่ ในแตล่ ะชวั่ โมงต่อวัน ก. 9 มิลลิกรัม/ลูกบาศกเ์ มตร ข. 8 มลิ ลิกรัม/ลกู บาศกเ์ มตร ค. 7 มลิ ลกิ รัม/ลกู บาศก์เมตร ง. 5 มิลลกิ รมั /ลกู บาศกเ์ มตร 10. ข้อใดไม่ใช่วธิ กี ารปฏบิ ัติเพอื่ ให้เกิดความปลอดภัยในการตัดถังสารเคมีขนาด 200 ลิตร ก. เปิดฝาถังออก ข. ใช้น้ำลา้ งออกให้หมด ค. ใช้นำ้ ใสแ่ ทนที่ ง. ขณะทำการตดั ควรปิดฝาถัง

เชื่อมอาร์กด้วยลวดเชอ่ื มห้มุ ฟลกั ซ์ 1 20 เฉลยแบบทดสอบหน่วยท่ี 1 เรอื่ ง ความปลอดภัยในงานเชอื่ มอาร์กด้วยลวดเช่อื มหุ้มฟลกั ซ์ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 1. ก 1. ค 2. ก 2. ค 3. ง 3. ค 4. ข 4. ง 5. ง 5. ค 6. ง 6. ข 7. ง 7. ค 8. ง 8. ค 9. ก 9. ง 10. ก 10. ง

เชอื่ มอาร์กด้วยลวดเชอื่ มหุ้มฟลักซ์ 1 21

เชอ่ื มอาร์กด้วยลวดเช่อื มหุม้ ฟลักซ์ 1 22 ใบงานที่ 1 หน่วยท่ี 1 ช่อื วิชา เชือ่ มอารก์ ดว้ ยลวดเช่ือมหุ้มฟลักซ์ 1 สอนสปั ดาห์ท่ี 2-4 ช่อื หน่วย งานเชื่อมอาร์กดว้ ยลวดเชอื่ มห้มุ ฟลักซ์ จำนวนคาบ 6 คาบ ภาคเรียนที่ 2/2563 เหลก็ กล้าคาร์บอนรอยต่อตวั ทีท่าราบ (1F/PA) SMAW วัสดุ เคร่อื งมอื และอุปกรณ์ 1. แผ่นเหลก็ กลา้ คาร์บอน ขนาด 50 x 10 x 5 มม. จำนวน 2 การเตรียมชน้ิ งาน การปฏิบัติงานเชือ่ ม แผน่ 1. เลือ่ ยมือ 1. เครอ่ื งเช่ือมไฟฟ้า 2. ลวดเชื่อมไฟฟ้าหมุ้ ฟลกั ซ์ E 6013 ขนาด 2.6 มม. 2. บรรทดั 2. หนา้ กากเช่ือม จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เหล็ก 3. ค้อนเคาะสแลก 1. อา่ นแบบงานและเตรยี มชน้ิ งานตามแบบได้ 3. ฉาก 4. คมี จบั ชนิ้ งาน 2. ปฏบิ ตั ิงานเช่ือมอาร์กดว้ ยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซเ์ หลก็ กล้า 4. เหล็กขดี 5. แปรงลวด คาร์บอนรอยต่อตัวทที า่ ราบ (1F/PA) และตรวจงานขัน้ พน้ื ฐาน 5. ตะไบแบน 6. ถงุ มือหนัง ได้ 6. แปรงลวด 7. เสอ้ื หนงั 3. แกไ้ ขข้อบกพรอ่ งงานเชอื่ มก่อนนำไปเช่ือมแนวต่อไปได้ 7. คอ้ น 8. แว่นตานริ ภยั 4. ทำงานดว้ ยความปลอดภัย รอบคอบ อดทนและมวี นิ ัย

เช่ือมอาร์กด้วยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลักซ์ 1 23 ใบงานที่ 1 หนว่ ยที่ 1 ช่ือวิชา เชอื่ มอาร์กด้วยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลักซ์ 1 สอนสัปดาห์ท่ี 2-4 ช่อื หน่วย งานเชอ่ื มอาร์กดว้ ยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลักซ์ จำนวนคาบ 6 คาบ ภาคเรยี นท่ี 2/2563 เหลก็ กลา้ คาร์บอนรอยตอ่ ตัวทีทา่ ราบ (1F/PA) ลำดับขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน 1 รปู ประกอบ ขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ าน 1. เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์งานเชื่อมอาร์ กด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ให้ครบถ้วน ดังน้ี เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ACหรือ AC/DC ค้อน เคาะสแลก แปรงลวด เหล็กขีด ฉาก คีมจับ ชิ้นงานความร้อน เหล็กตอกนำเหล็ก หน้ากากเชื่อมและอุปกรณ์ป้องกันอันตราย เปน็ ตน้ 2. เตรียมช ิ้นงานขนาด 100 x 50 x 5 มิลลิเมตร จำนวน 2 ช้ิน โดยใช้ไมบ้ รรทัดเหลก็ หรือตลับ เมตรวัดขนาดและใช้ไฟเบอร์ตัด ตามขนาดที่ กำนดให้

เชอ่ื มอาร์กดว้ ยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลักซ์ 1 24 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1 ชือ่ วิชา เช่ือมอารก์ ด้วยลวดเชอ่ื มหมุ้ ฟลักซ์ 1 สอนสปั ดาห์ที่ 2-4 จำนวนคาบ 6 คาบ ชื่อหน่วย งานเชือ่ มอาร์กด้วยลวดเชื่อมหมุ้ ฟลักซ์ ภาคเรียนที่ 2/2563 เหล็กกลา้ คารบ์ อนรอยตอ่ ตวั ทีทา่ ราบ (1F/PA) ลำดบั ข้นั ตอนการปฏิบตั ิงาน 2 รปู ประกอบ ขน้ั ตอนการปฏิบัติงาน 3. นำชนิ้ งานมาลบั ความคม เน่ืองจากการตัด โ ด ย ก า ร เ อ า ช ิ ้ น ง า น ม า จ ั บ ก ั บ ป า ก ก า จั บ ช้ินงานแลว้ ใช้ตะไบหยาบลบความคบออกท้ัง สองด้าน 4. เตรียมช ิ้นงานขนาด 100 x 50 x 5 มิลลิเมตร จำนวน 2 ช้ิน ตามขนาดที่กำนดให้

เชื่อมอาร์กด้วยลวดเช่อื มห้มุ ฟลกั ซ์ 1 25 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1 ช่อื วิชา เชื่อมอารก์ ดว้ ยลวดเช่ือมหมุ้ ฟลักซ์ 1 สอนสปั ดาห์ที่ 2-4 จำนวนคาบ 6 คาบ ชอื่ หน่วย งานเชือ่ มอาร์กดว้ ยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลกั ซ์ ภาคเรยี นที่ 2/2563 เหล็กกลา้ คารบ์ อนรอยตอ่ ตัวทีท่าราบ (1F/PA) ลำดบั ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 3 รปู ประกอบ ขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ าน 5. ตรวจสอบเครื่องเชื่อม เปิดสวิตซ์เครื่อง เชื่อม แล้วปรับกระแสไฟ AC หรือ DC โดย การพิจารณาจากลวดเชื่อมที่ใช้และขนาด ความหนาของชิ้นงาน โดยมาตรฐานขนาดกระแสไฟเชื่อม70–100 แอมแปร์ 6. นำชิ้นงานชิ้นที่ 1 วางบนโต๊ะท่าราบแล้ว นำชิ้นงานชิ้นที่ 2 มาวางบนกึ่งกลางชิ้นที่ 1 โดยทำมุม 90° องศา เชื่อมจุดยึดหัวและ ท้ายชน้ิ งานท้ัง 2 จดุ

เชอ่ื มอาร์กด้วยลวดเชอ่ื มห้มุ ฟลักซ์ 1 26 ใบงานที่ 1 หน่วยที่ 1 ชอ่ื วิชา เช่อื มอารก์ ด้วยลวดเชือ่ มหุ้มฟลักซ์ 1 สอนสัปดาห์ที่ 2-4 จำนวนคาบ 6 คาบ ชอื่ หน่วย งานเชอ่ื มอาร์กดว้ ยลวดเช่อื มหมุ้ ฟลกั ซ์ ภาคเรยี นท่ี 2/2563 เหล็กกลา้ คารบ์ อนรอยต่อตัวทีทา่ ราบ (1F/PA) ลำดบั ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 4 รูปประกอบ ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน 7. เริ่มต้นเชื่อมโดยควบคุมระยะอาร์กบ่อ หลอมเหลวท่ีชิ้นงานเช่ือม ใหล้ วดเชอ่ื มทำมุม เอียง 45 ° องศา กับชิ้นงาน และทำมุมนำ ประมาณ 10°-20 ° องศา เคลื่อนที่ด้วย ความเร็วสม่ำเสมอ ตามทศิ ทางของผปู้ ฏิบตั ิ

เชอ่ื มอาร์กดว้ ยลวดเช่ือมหมุ้ ฟลักซ์ 1 27 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยที่ 1 ชอ่ื วิชา เชอ่ื มอารก์ ด้วยลวดเชือ่ มหมุ้ ฟลักซ์ 1 สอนสัปดาห์ท่ี 2-4 จำนวนคาบ 6 คาบ ชือ่ หน่วย งานเชอ่ื มอาร์กดว้ ยลวดเชอื่ มหมุ้ ฟลกั ซ์ ภาคเรียนท่ี 2/2563 เหลก็ กล้าคาร์บอนรอยตอ่ ตัวทีท่าราบ (1F/PA) ลำดับขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ าน 5 รูปประกอบ ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 8. ควบคุมระยะอาร์กให้สม่ำเสมอ ให้ส่าย ลวดเช่ือมเลก็ นอ้ ย 9. ใช้คอ้ นเคาะสแลกเคาะท่แี นวเชอ่ื ม

เชอื่ มอาร์กดว้ ยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ 1 28 ใบงานท่ี 1 หนว่ ยที่ 1 ชื่อวิชา เชื่อมอารก์ ด้วยลวดเชอื่ มห้มุ ฟลักซ์ 1 สอนสัปดาห์ที่ 2-4 จำนวนคาบ 6 คาบ ช่อื หน่วย งานเช่ือมอาร์กดว้ ยลวดเชอ่ื มหมุ้ ฟลักซ์ ภาคเรยี นท่ี 2/2563 เหลก็ กลา้ คารบ์ อนรอยต่อตวั ทีทา่ ราบ (1F/PA) ลำดบั ขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน 6 รูปประกอบ ขนั้ ตอนการปฏบิ ัตงิ าน 10. ใช้สกัดปากแบนเคาะสะเก็ดบริเวณแนว เชื่อมและใช้แปรงลวดขัดทำความสะอาด ชนิ้ งาน 11. ทำความสะอาดพื้นที่บริเวณปฏิบัติงาน เชอ่ื มใหเ้ รยี บร้อยและส่งชิน้ งานให้ผู้ตรวจ

เช่ือมอาร์กด้วยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลกั ซ์ 1 29 ใบประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานท่ี 1 ชอ่ื ……………………………………………นามสกลุ ………………………………………………………… วันที่…………/………………/……………… ระดับชั้น ปวช.…………กลุ่มท…่ี …………แผนกวิชา……………………………………………………… เลขท่ี……………………………………… ชอ่ื ช้ินงาน “งานเชอื่ มต่อตัวทีทา่ ราบ 1F” จำนวน 5 คาบ ที่ รายงานประเมนิ ลักษณะการประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนทไี่ ด้ 1 การเตรยี มงาน ถกู ต้อง 2 1.1 การวัดขนาดความยาวช้ินงาน ถกู ต้อง 2 1.2 การตะไบลบความคมของชนิ้ งาน ถูกต้อง 2 1.3 การปรับกระแสไฟเคร่ืองเชือ่ ม 2 ผลการปฏิบัตงิ าน ถกู ต้อง 4 2.1 จุดเร่ิมตน้ และจดุ สน้ิ สดุ แนวชอื่ ม ถูกต้อง 4 2.2 ขนาดของแนวเชอ่ื ม ถกู ต้อง 4 2.3 ความสมบรู ณ์ของแนวเช่ือม ไม่พบข้อบกพร่อง 4 2.4 ขอ้ บกพรอ่ งของแนวเชื่อม (Undercut Overlap) ได้ตามกำหนด 2 3 เวลาทีใ่ ช้ปฏบิ ัติงาน 3.1 ใช้เวลาในการปฏบิ ัติงานตามกำหนด ไม่ถูกกลา่ วตักเตอื น 2 4 จติ พสิ ัย ถูกต้อง 2 4.1 ความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ าน 2 4.2 การใช้เคร่อื งมือ อุปกรณ์ อย่างถูกต้อง ความสะอาด 30 4.3 ความสะอาดเรยี บรอ้ ยพื้นทป่ี ฏิบัตงิ าน รวม ผลการประเมินการปฏิบัตงิ าน ควรปรบั ปรงุ ผ่าน ไม่ผา่ น ลงชอ่ื ……………………………………………………ผู้ประเมิน (………………………………………………………)