คู่มือตุ๊กตากลิ้งม้วนมินิ2

ส่อื วิทย์ D.I.Y By ครูตน้ ออ้

คำนำ สื่อการสอนตุ๊กตากลงิ้ มว้ นมินิ จดั ทาขึ้น เพอื่ เป็นส่อื การสอนในรายวิชาการผลิตส่อื การ สอนวิทยาศาสตร์ (21024313) เปน็ ส่อื ประเภท การทดลอง เร่อื ง จุดศนู ยถ์ ว่ งและสมดลุ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 โดยมจี ุดประสงค์ เพ่ือจาลองการเกิดจดุ ศนู ย์ถว่ งและสมดุลของ วัตถุในการเคลอื่ นท่ีในแนวดิ่ง ผู้จัดทาคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทา คู่มือฉบับนี้จะมีข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ สนใจศึกษาเรื่อง ตุ๊กตากล้ิงม้วนมินิเป็นอย่างดี หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทาต้องขอ อภยั ไว้ ณ ทีน่ ้ีด้วย อัมพิกา เคหฐาน ผู้จดั ทา

สำรบัญ หนา้ ก คานา ข สารบัญ 1 ช่อื สือ่ 1 ผู้ผลติ 1 ระดับชน้ั 2 หลกั การและเหตุผล 3 วัตถปุ ระสงค์ 3 ประโยชน์ 4 ลักษณะงาน 5 อปุ กรณ์ 6 ขน้ั ตอนการทา 7 กตกิ า 8 หลกั การวทิ ยาศาสตร์ 9 งบประมาณ 10 ขอ้ ดีของสือ่ นี้ 10 วิธใี ช้ส่อื 10 เอกสารอา้ งอิง

ช่อื สื่อ สื่อนีม้ ีชอื่ ว่า “ตกุ๊ ตากล้ิงมว้ นมินิ” ผูผ้ ลติ นางสาวอมั พิกา เคหฐาน รหสั 61101208135 สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ ชน้ั ปีท่ี 4 ระดบั ชนั้ สอนในระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 ว 2.2 ป.3/1 ระบุผลของแรงทม่ี ีต่อการเปลี่ยน แปลงการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถจุ ากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ 1

หลกั กำรและเหตุผล วทิ ยาศาสตรม์ บี ทบาทสาคญั ยงิ่ ในสงั คมโลกปัจจบุ นั และอนาคต วทิ ยาศาสตร์ชว่ ยใหม้ นษุ ยไ์ ด้ พัฒนาวธิ ีคดิ ทัง้ ความคิดเป็นเหตเุ ปน็ ผล คดิ สรา้ งสรรค์ คดิ วิเคราะห์ มี ทกั ษะสาคัญในการคน้ หาความรู้ มีความสามารถในการ แก้ปัญหาอยา่ งเป็นระบบ สามารถตัดสนิ ใจโดยใช้ขอ้ มูลท่ี หลากหลายและมปี ระจกั ษ์พยานทต่ี รวจสอบได้ ในการ สอนวิทยาศาสตร์จึงจาเป็นต้องอาศัยสื่อในลกั ษณะต่าง ๆ หลาย ๆ อยา่ งเพื่อช่วยให้นักเรียนเขา้ ใจสงิ่ ต่าง ๆ ได้งา่ ยข้ึน อยา่ งไรกต็ ามสอื่ วิทยาศาสตร์สว่ นใหญม่ ีราคาสงู มอี ุปสรรค ในการจดั หา การพัฒนาสือ่ การเรยี นการสอนมรี าคา ยอ่ มเยา เหมาะสมกับสภาพท้องถ่ิน นาวัสดุท่ีหาไดใ้ น ทอ้ งถิ่นมาเปน็ วัตถุดบิ ในการผลติ จึงเป็นแนวทางท่นี า่ จะเกดิ ประโยชน์ ในหนว่ ยท่ี 1 แรงและการเคลอ่ื นที่ ตัวชวี้ ัด ว 2.2 ป.3/1 ไดก้ ลา่ วถึงการเคลือ่ นท่ีของวตั ถุในลักษณะต่าง ๆ ทง้ั ในแนวด่งิ และในแนวราบ และการท่ีจะทาใหน้ ักเรยี นเกิด การเรยี นรู้อย่างแท้จรงิ ได้น้ันจาเป็นจะตอ้ งหาเครือ่ งมอื ท่จี ะ ชว่ ยใหน้ ักเรียนสามารถสบื ค้นข้อมูลไดง้ า่ ย และมีความ ทันสมัยทนั ยคุ เทคโนโลยี 2

วตั ถปุ ระสงค์ นกั เรียนสามารถจาลองการเกดิ จุดศนู ย์ ถว่ งและสมดุลในการเคล่อื นทแี่ นวดง่ิ ได้ นกั เรียนสามารถอธิบายหลกั การเอน ของหอเอนปิซาในประเทศอติ าลไี ด้ ประโยชน์ นกั เรยี นมีความพงึ พอใจในการเรยี นวิชาวิทยาศาสตร์ ช่วยสรา้ งความสนใจ อยากสมั ผัส มบี รรยากาศการเรียน สนุกสนาน และเกดิ ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ เช่น การ ออกแบบตกแตง่ ตุ๊กตากลงิ้ มว้ น และการแขง่ ขนั การกลง้ิ ม้วนของตุก๊ ตากล้ิงมว้ นมินิเปน็ ทีม 3

ลักษณะของงำน ส่อื การเรยี นการสอน ตุ๊กตากลงิ้ ม้วนมินิ ขนาด กวา้ ง 2.2 เซนตเิ มตร ยาว 6 เซนติเมตร 6 เซนตเิ มตร 2.2 เซนตเิ มตร ภาพสือ่ การสอนตกุ๊ ตากลงิ้ มว้ นมินิ กระดานเอียงมขี นาด กว้าง 30 เซนตเิ มตร ยาว 64 เซนตเิ มตร 128 เซนตเิ มตร 30 เซนตเิ มตร 64 เซนตเิ มตร 64 เซนตเิ มตร ภาพกระดานเอียง 4

อปุ กรณ์ ลกู ปิงปอง กระดาษแขง็ กรรไกร กาว ปากกาเมจิก ลกู แกว้ เทปใส กระดาษสี ฟวิ เจอร์บอร์ด 5

ข้นั ตอนกำรทำ 12 ผ่าลกู ปิงปองออกเปน็ 2 ซีก มว้ นกระดาษแข็ง สงู ขนาด 5-6 ซม. เทา่ ๆ กนั ใหพ้ อดีกบั ขนาดลกู ปงิ ปอง 3 4 ใส่ลกู ปิงปองด้านหนึ่งของ ใสล่ ูกแกว้ ขนาด 35 มม.ลงไป ม้วนกระดาษแข็ง แล้วติดด้วย ในมว้ นกระดาษแข็ง อันละ 1 ลกู เทปใส 6 5 ใส่ลูกปิงปองดา้ นทเ่ี หลอื ของ ตกแตง่ ให้สวยงาม มว้ นกระดาษแขง็ และตดิ ดว้ ย 6 เทปใส

กตกิ ำ 1. แบ่งนกั เรียนออกเปน็ 6 กลุม่ ตามความเหมาะสมกับ จานวนนักเรียน 2. แบง่ กลุ่มนักเรยี นออกเป็นสายตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ สาย A สาย B และสาย C โดยในแตล่ ะสายจะมีกลมุ่ นกั เรยี นจานวน 2 กลุ่ม ซึง่ แบ่งโดยวิธกี ารจบั สลาก 3. ใหก้ ลุ่มนกั เรียนในแต่ละสายแขง่ การกล้งิ ม้วนของต๊กุ ตา กลิง้ ม้วนกัน เพื่อเลือกกลมุ่ ตวั แทนในสายน้นั ๆ 4. ให้กลุ่มตวั แทนนกั เรยี นในสาย A สาย B และสาย C มา แข่งการกล้ิงม้วนของต๊กุ ตากลงิ้ มว้ น เพื่อเลอื กกลมุ่ นักเรยี นทีช่ นะเลิศ โดยต้องชนะ 2 ใน 3 5. ให้นกั เรยี นกลุ่มท่ชี นะเลิศออกมาอธบิ ายหลักการการ กลิ้งม้วนของต๊กุ ตากลงิ้ ม้วนหนา้ ช้นั เรยี น ขนั้ ตอนกำรเลน่ - วางตุ๊กตากล้ิงมว้ นลงบนกระดานอียง แล้วปล่อยให้ตุ๊กตา กลิง้ มว้ นลงมา กลุม่ ใดท่ีกลิ้งมว้ นได้ไกลทส่ี ุดกลมุ่ นน้ั จะ เปน็ ผชู้ นะ 7

หลกั กำร วิทยำศำสตร์ เม่ือวางตกุ๊ ตาบนกระดานเอียง ตุ๊กตาจะกล้ิงลงมา ตามพน้ื ท่ีเอียง แตเ่ นอื่ งจากตุ๊กตามลี กั ษณะโค้งมนทีด่ า้ น หวั และดา้ นท้าย จงึ ทาใหต้ กุ๊ ตากลิ้งแบบตีลังกากลับหัวไป มาตามแนวพนื้ เอยี ง ทำไมจงึ เปน็ เช่นนน้ั ? “กลิง้ ม้วนได้ เพรำะจุดศูนยถ์ ว่ งท่ีไม่สมดลุ ” เม่ือวางต๊กุ ตาลงบนพน้ื เอยี งลูกแก้วทอี่ ยูภ่ ายในตกุ๊ ตา จะกลง้ิ ไปอย่ใู นตาแหน่งตา่ สุด ทาให้จุดศูนยถ์ ่วงของต๊กุ ตา เปลย่ี นตาแหน่งไปตามลูกแก้วด้วย เพราะน้าหนกั ส่วนมาก ของตุ๊กตาจะอยูท่ ี่ลูกแกว้ จุดศนู ยถ์ ว่ ง ณ ตาแหนง่ ต่าสดุ ของตกุ๊ ตา ซ่ึงมี ลักษณะโค้งมนจะไมส่ มดลุ จงึ ทาใหต้ ๊กุ ตาพลิกตัว และ ลูกแก้วก็จะกล้ิงไปอยูใ่ นตาแหน่งตา่ สุดอีกครั้ง ทาให้ตุ๊กตา พลิกตัวตอ่ ไปไดเ้ ร่ือย ๆ จนถึงพื้นราบ 8

งบประมำณ รำยกำร รำคำ 1. ลกู ปิงปอง 5 บาท 2. กระดาษแขง็ 8 บาท 3. กรรไกร 35 บาท 4. กาว 20 บาท 5. ปากกาเมจกิ 15 บาท 6. ลกู แกว้ 2.5 บาท 7. เทปใส 5 บาท 8. กระดาษสี 6 บาท 9. ฟิวเจอรบ์ อรด์ 60 บาท รวมทั้งสิ้น 156.5 บำท 9

ขอ้ ดขี องสือ่ น้ี 1. ช่วยสรา้ งความสนใจใหแ้ กผ่ ู้เรียนในการเรยี น วิชาวิทยาศาสตร์ 2. เป็นส่ือทดแทนอุปกรณท์ างวิทยาศาสตรท์ ่มี รี าคาสูง 3. ใชง้ านงา่ ย สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั เนื้อหาอ่นื ได้ วิธใี ช้สือ่ ใช้ประกอบการเรยี นการสอน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 แรงและการเคลื่อนท่ี ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เอกสำรอ้ำงอิง National Science Museum.(ออนไลน์).2018, แหลง่ ที่มา shorturl.asia/G0lOC (13 สงิ หาคม 2564) Trueplookpanya.com.เนอ้ื หาวทิ ยาศาสตร์ ป.3 เทอม 2. , แหลง่ ท่มี า shorturl.asia/9lpVb (8 สงิ หาคม 2564) 10

ส่อื วิทย์ D.I.Y. by ครูตน้ ออ้