วนอทุ ยานแพะเมอื งผี ขอมลู ท่วั ไป วนอุทยานแพะเมืองผี อยูในทองทีต่ ําบลแมหลาย ตําบลนํ้าชาํ ตําบลทงุ ทุงโฮง อําเภอเมอื ง จังหวดั แพร มเี น้อื ท่ปี ระมาณ 167 ไร กรมปาไมไดป ระกาศจดั ต้ังเปนวนอทุ ยานเมอื่ วนั ที่ 4 มีนาคม 2524 มีอาณาเขตติดตอ ดังน้ี ทิศเหนอื จดลําคลองชลประทาน ทศิ ใต จดทุงนา ของราษฎร ทิศตะวันออก จดทุงนาของราษฎรบา นนํ้าชาํ ทิศตะวันตก จดทางหลวงหมายเลข 101 ถนนยนั ตรกิจโกศลและคนั คลองสง นํ้า ชลประทาน วนอทุ ยานแพะเมอื งผี เมอ่ื คร้งั ในอดตี กาลนานมาแลว ชาวบานขนานนามวา เปน “แพะเมืองผี” ไมม ีผใู ดทราบประวัตเิ ปนท่ี แนน อนแตไดเ ลาสบื ทอดกันมาวา แตกอนบรเิ วณปาแหง นี้ เปนพ้ืนทีอ่ ุดมสมบูรณ มพี ันธไ มใ หญข้ึนอยูหนาแนนและสัตวปานอยใหญเปน จาํ นวนมาก ในสมัยนัน้ มคี รบู าปญโญฯ เปน เจาอาวาสวัดนํ้าชํา ตําบลนา้ํ ชํา ซ่ึงชาวบา นไดพรอ มใจกันนิมนตม าเปนเจาอาวาสองคแรกของ วดั นํ้าชําและไดบอกเลาประวัตแิ พะเมืองผีสบื ทอดติดตอ กันมาวา มีหญงิ ชราคนหนึง่ ซ่ึงชาวบานเรียกวา “ ยาสมุ ” เขา ไปหาผัก หนอไม เปน อาหาร แตห ลงปาแลวไปพบหลุมเงนิ ทองคํา จึงไดนาํ เงนิ และทองคํา ใสถ งุ แลวเตรยี มหาบจะกลับบานเสรจ็ แลวเกดิ หลงปาอีก โดยไม สามารถนําเอาหาบเงิน ทองคาํ ออกมาได ยาสมุ จึงวางหาบจะกลับบา นเสรจ็ แลว เกิดหลงปาอกี โดยไมส ามารถนําเอาหาบเงิน คํา ออกมาได ยา สมุ จึงวางหาบแลวหาไมม าคาดเปน ราว (ราวไม) ตอมาออกจากปาจนถึงบา นและเดินกลับไปราวไมท่ีคาดไวเ ปนแนวทางไว ซงึ่ ปจ จุบนั เปน รองทางนาํ้ พบเหน็ ได เปน แนวออกไปทางบานน้ําชําทิศตะวันออกของแพะเมอื งผี ยาสุม จึงไดชักชวนชาวบานใหเขาไปดว ยปรากฏวา ชาวบา นกไ็ ดตดิ ตามยาสุม เขาไปถงึ จุดทีย่ า สมุ วางหาบไวแ ตไมพ บเงินและทองคํา ในหาบแตอยาใด ไมร วู าหายไปไดอยา งไร ชาวบานจงึ ขนานนามสถานทีน่ นั้ วา “แพะยาสุมคาดราว” และไดชว ยกนั คนหา พบรอยเทาคนเดนิ ยาสุม และชาวบานไดเดนิ ตามรอยเทา เหลา น้ันไป จนกระท่งั มาถงึ พ้ืนท่ีซงึ่ ชาวบานขนานนามวา “แพะเมืองผี” ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนอื คําวา “แพะ” ในทน่ี หี้ มายถงึ ปา แพะน่ันเอง สวนคํา วา เมอื งผี ก็เปนชื่อทีช่ าวบานเรยี กกันสืบมาในสมัยดกึ ดําบรรพ โดยอาจจะเห็นวา ปาแพะตรงนี้มีลักษณะพิสดารของภมู ิประเทศ และเพราะ ความเรนลับตามเร่อื งราวท่เี ชอ่ื ถือเลาสบื ทอดกันมาจนถงึ ปจ จุบันนีก้ อ็ าจเปนได วนอทุ ยานแพะเมอื งผมี ีสภาพเปนปา บนทร่ี าบลอนคล่นื สภาพสูงๆ ตํ่าๆ ไมส มํา่ เสมอ มลี ักษณะเปน เนินเตยี้ ๆ สงู จากระดับนํ้าทะเลปานกลางประมาณ 180-210 เมตร จะมีเสาดนิ รปู รา งประหลาด เกดิ จากกระบวนการกระทําของน้ําไหลและชะช้ันดนิ ทม่ี ีความแขง็ ไมเทา กัน นักธรณีวทิ ยาประมาณ คา อายขุ องดินแหงน้ีวา อยูในยคุ QUATERNARY ซ่งึ เปนยคุ คอนขางใหม มอี ายุตัง้ แต 15 ลานป จนถงึ ปจ จุบนั ลกั ษณะการเกิดของเสาดนิ เกดิ จากหนิ เซมิคอนโซลิเดเตด (SEMICONSOLIDATGED) คือ หินท่ียงั แข็งตัวไมเ ตม็ ทป่ี ระกอบดว ยชั้นดินทราย ( SILTSTONE) ชนั้ หินทราย ( SANDSTONE) สลบั กนั เปนช้ัน ๆ แตละชน้ั มีความตานทานตอการผพุ ังไมเ ทา กัน เมื่อถูกนํา้ ฝนชะซึมสชู ั้นหนิ ท่ีมคี วามตานทานตอ การผุพงั นอ ยกวา (LESS- RESISTANT BED) ก็จะถกู กรอนโดยงายเหลือช้ันทม่ี คี วามตานทานตอการผพุ ังมากกวา ( MORE - RESISTANT BED) ทําหนาที่เสมือน แผน เกราะวางอยูขา งบน เรยี กวา แคป ( CAP) ทาํ ใหน้าํ ไมส ามารถชะกรอนตอ ไปไดง าย สว นที่เหลอื ใหเหน็ อยโู ดยการเกิดลกั ษณะนี้ จงึ มี รปู รางเปนหยอ มแตกตางกนั ท่ีมาของขอ มูล “วนอุทยานแพะเมอื งผี” 2550. [ออนไลน]. เขาถงึ เมื่อ: 7 กมุ ภาพนั ธ. จาก http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style2/default.asp?npid=45&lg=1
Search
Read the Text Version
- 1 - 1
Pages: