Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาศาสตร์ ป.5 หน่วยที่ 7 น้ำในท้องถิ่นของเรา

วิทยาศาสตร์ ป.5 หน่วยที่ 7 น้ำในท้องถิ่นของเรา

Published by Saithong2422, 2020-05-21 06:14:47

Description: น้ำในท้องถิ่นของเรา

Search

Read the Text Version

สอนโดย คุณครูทรายทอง บัวผา โรงเรยี นอนุบาลรักภาษา

สอนโดย คุณครูทรายทอง บัวผา โรงเรยี นอนุบาลรักภาษา

น้ำในทอ้ งถิ่นของเรำ แผนผงั หวั ขอ้ หนว่ ยกำรเรียนรู้

แหลง่ นำ้ เปล่ยี นสี ….แมน่ ำ้ สรี ้งุ สวยท่สี ดุ ในโลก!.... ในประเทศโคลมั เบยี

แบบทดสอบปรนยั เพือ่ พฒั นำทักษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ เรอื่ ง น้ำในทอ้ งถ่ินของเรำ

๑. ข้อใดเปน็ แหล่งน้ำผวิ ดิน ๑ ลำธำร ๒ นำ้ บอ่ ๓ นำ้ บำดำล ๔ นำ้ ในดนิ

๒. นำ้ ในดินจัดอยกู่ ล่มุ เดียวกบั แหลง่ นำ้ ข้อใด ๑ ลำธำร ๒ หนอง ๓ นำ้ บำดำล ๔ มหำสมุทร

๓. บ่อนำ้ แหง่ หน่ึงใชแ้ รงคนขุด เพอื่ นำน้ำขนึ้ มำใช้ น้ำในบอ่ เปน็ นำ้ ประเภทใด ๑ นำ้ ผิวดนิ ๒ น้ำบำดำล ๓ นำ้ ใตด้ นิ ๔ นำ้ ในดิน

๔. ข้อใดเป็นแหล่งนำ้ ตำมธรรมชำติ ๑ ทะเล ๒ นำ้ ในสระ ๓ อ่ำงเก็บน้ำ ๔ คลองชลประทำน

๕. นำ้ จำกแหล่งใดสะอำดที่สดุ ๑ อ่ำงเก็บน้ำ ๒ บอ่ บำดำล ๓ แม่นำ้ ๔ นำ้ ตก

๖. จำแนกแหลง่ น้ำบนโลกออกเปน็ ๒ ประเภท ดังนี้ ขอ้ ใดจำแนกไมถ่ ูกต้อง ๒ แม่น้ำ ๔ น้ำบำดำล ๑ บงึ ๓ ลำธำร

๗. ข้อใดเป็นกำรอนรุ กั ษ์นำ้ ในคลอง ๑ สรำ้ งรำ้ นอำหำรริมคลอง ๒ ทำกำรประมงในคลองจำนวนมำก ๓ กำจัดผกั ตบชวำในคลองที่มจี ำนวนมำก ๔ เทนำ้ ท้ิงจำกครัวเรอื นลงสู่คลองเพอ่ื เพม่ิ ปรมิ ำณน้ำ

๘. กำรกระทำในข้อใดท่กี อ่ ใหเ้ กดิ ผลเสียตอ่ แหลง่ น้ำ ๑ จบั ปลำในแม่น้ำ ๒ เลี้ยงปลำในแม่น้ำ ๓ พำยเรือในลำคลอง ๔ ทิง้ เศษอำหำรลงแหล่งนำ้

๙. ข้อใดเป็นวิธกี ำรประหยดั น้ำ ๑ ใชน้ ้ำบว้ นปำกและแปรงฟันโดยใชแ้ ก้ว ๒ ใช้สำยยำงฉดี ลำ้ งทำควำมสะอำดพื้น ๓ ใชน้ ำ้ ประปำรดน้ำต้นไม้ ๔ ซกั ผำ้ ครั้งละ ๑-๒ ชน้ิ

๑๐. กำรติดตัง้ กังหันบำบัดนำ้ ในแหล่งน้ำมีวัตถปุ ระสงคต์ ำมขอ้ ใด ๑ ช่วยลดปรมิ ำณออกซเิ จนในแหลง่ นำ้ ๒ ชว่ ยเพ่ิมปริมำณออกซิเจนในแหล่งน้ำ ๓ ชว่ ยลดปริมำณวชั พชื ในแหลง่ น้ำ ๔ ชว่ ยเพม่ิ ปรมิ ำณวัชพชื ในแหลง่ น้ำ

แหลง่ นำ้ แหลง่ นำ้ ตำมธรรมชำติ แหลง่ นำ้ ที่มนุษยส์ รำ้ งขนึ 1.นำ้ บนดนิ 2.นำ้ ใตด้ นิ บ่อน้ำ นำ้ ในดนิ อ่ำงเกบ็ น้ำ น้ำบำดำล เขือ่ น แหล่งนา้ คอื ส่วนของเปลอื กโลกบริเวณทีม่ ีน้าสะสมหรอื ปกคลุมอยู่ โดยเราสามารถจ้าแนกแหลง่ น้าเปน็ ประเภทใหญๆ่ ได้ 2 ประเภท คอื แหลง่ น้าตามธรรมชาตแิ ละแหล่งน้าท่มี นุษย์สร้างขนึ

๑ แหล่งนำ้ ในทอ้ งถน่ิ และกำรใชป้ ระโยชน์ นำ้ เปน็ ทรัพยำกรธรรมชำตซิ ่ึงเปน็ ปจั จัยท่ีมีควำมสำคัญกบั กำรดำรงชีวติ ของ สิง่ มชี ีวิตทุกชนิด นักเรยี นทรำบหรือไม่ว่ำ โลกของเรำมีน้ำอยูท่ ี่ใดบำ้ ง 21/05/63 วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ป.๕ แผนท่ีโลก 17

รอบตัวของเรำมแี หล่งนำ้ อยูห่ ลำยแหล่ง นกั เรียนทรำบหรอื ไม่ว่ำ โลกของเรำมีแหลง่ นำ้ ประเภทใดบ้ำง เมือ่ เทน้ำลงไปทแ่ี บบจำลองแหลง่ นำ้ จะพบว่ำนำ้ ไหล ไปยงั สว่ นต่ำง ๆ ของแบบจำลอง ซ่งึ เปรียบเทยี บกับแหลง่ นำ้ ในธรรมชำติบนโลกไดว้ ่ำ โลกมีแหลง่ นำ้ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ แหล่งนำ้ ผวิ ดิน เช่น ทะเล มหำสมทุ ร บงึ แม่นำ้ และแหล่งน้ำใต้ดนิ เชน่ น้ำในดนิ นำ้ บำดำล 21/05/63 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ป.๕ 18

21/05/63 วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี แหล่งนำ้ ต่ำง ๆ ในธรรมชำติ 19 ป.๕

แหลง่ น้ำตำ่ ง ๆ ในธรรมชำติ แหล่งน้ำผิวดนิ เป็นแหล่งนำ้ ทีอ่ ยู่บนผวิ ของพน้ื ดิน เชน่ น้ำจำกแหล่งตำ่ ง ๆ เช่น แมน่ ้ำ บึง ทะเลสำบ ทะเล มหำสมุทร แหล่งนำ้ ใตด้ ิน มอี ยปู่ ระมำณ 0.6 เปอร์เซน็ ต์ เป็นแหล่งน้ำท่เี กิดจำกกำรสะสมของน้ำฝนท่ีซมึ ผ่ำนชน้ั ดนิ และชน้ั หนิ ลงไปแล้วกกั เกบ็ เอำไวใ้ ตด้ นิ ประกอบด้วย นำ้ ในดนิ และนำ้ บำดำล 21/05/63 วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ป.๕ 20

แหลง่ นา้ ตามธรรมชาติ น้าใตด้ ิน เปน็ แหลง่ นา้ ทีอ่ ยใู่ ตผ้ วิ ดนิ มอี ย่ปู ระมาณ 0.6 เปอร์เซน็ ต์ ซง่ึ เกดิ จากนา้ บนผวิ ดินไหลซมึ ผ่านชนั ดนิ ลงไปกกั เก็บอยู่ใตผ้ วิ ดนิ ส่วนน้าในแหลง่ น้านีมักจะใสเพราะสารแขวนลอยต่างๆ จะถกู ชันดินและหินชว่ ยกรองเอาไว้คงเหลอื แตส่ ารทล่ี ะลายน้าได้ นา้ ใตด้ ิน

น้ำท่แี ทรกอย่ใู นเนอื้ ดิน เรยี กว่ำ นำ้ ในดนิ น้ำท่ีถกู ขังอยู่ภำยในช่องวำ่ งของช้ันหินทีอ่ ยู่ ลึกลงไป เรยี กวำ่ น้ำบำดำล 21/05/63 วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ป.๕ 22

1. น้าในดิน เปน็ น้าทีอ่ ยใู่ ตผ้ ิวดนิ เหนอื ชันหิน ซ่งึ นา้ ส่วนใหญ่ซมึ ผ่านไดย้ าก น้าจะขงั อยู่รวมกนั อยู่ในบรเิ วณนัน เรา เรยี กระดบั น้าตอนบนสดุ ของน้าในดนิ ทวี่ า่ นี ระดับน้าในดิน ซึ่งระดบั นา้ ดงั กลา่ วในพืนที่แต่ละแหง่ จะไมเ่ ท่ากันและไม่คงที่ ขนึ อยู่กับปรมิ าณนา้ ฝนและสภาพภมู ปิ ระเทศบรเิ วณนัน

2. นา้ บาดาล เปน็ น้าใต้ดินที่ซึมผ่านชนั หินที่มีรพู รนุ ลงไปขังอยใู่ นชอ่ งว่าของชนั หิน อยูล่ กึ กวา่ น้าในดนิ มีความใสมากกว่านา้ ในดิน ไม่ มอี ินทรีย์สารเจือปน แตม่ แี รธ่ าตุตา่ งๆ ละลายปนอยู่มาก ระดบั บนสดุ ของน้าบาดาลเรียกวา่ ระดับน้าบาดาล ซ่งึ จะเปลี่ยนแปลงตาม ฤดกู าลหรือตามปรมิ าณการเพ่มิ และการสูญเสยี นา้ การเปลย่ี นแปลงระดบั น้าบาดาลจะเปลีย่ นไปช้ากวา่ ระดับน้าในดนิ

แหลง่ นา้ ท่มี นษุ ย์สรา้ งขนึ มนษุ ยส์ รา้ งแหลง่ นา้ ขนึ มาก็เพื่อวตั ถปุ ระสงค์ตา่ งๆ เชน่ ผลติ กระแสไฟฟ้า นา้ กนิ น้าใช้ ทา้ การเกษตร ป้องกนั อทุ กภยั

แหลง่ น้าท่มี นษุ ยส์ ร้างขนึ บ่อนา้ เป็นการขุดพนื ดนิ ลงไปเพ่อื นา้ นา้ ใตด้ ินขนึ มาใช้ ถา้ เป็นบอ่ ท่ขี ดุ เพือ่ น้าน้าดิน มาใช้เรียกวา่ บอ่ น้าในดนิ แตถ่ า้ เจาะลกึ ลงไปถงึ ชนั ของน้าบาดาลเรยี กว่า บ่อบาดาล ส้าหรบั การน้านา้ บาดาลมาใช้มากเกินไปจะทา้ ใหแ้ ผน่ ดินบริเวณนันทรดุ ตัวลงได้ในบริเวณ กวา้ ง เช่น ในกรงุ เทพมหานครและเขตปริมณฑล

แหลง่ นา้ ท่มี นุษยส์ รา้ งขึน อา่ งเก็บน้า เปน็ แหล่งเกบ็ กกั นา้ ขนาดเลก็ เกิดจากการสร้างท้านบกนั หบุ เนินนนั ไว้ เพอ่ื กักเก็บนา้ ไว้ใช้ใน การเกษตรในบรเิ วณไม่กว้างขวางนกั สา้ หรบั น้ากินน้าใชห้ รอื ปลูกพันธ์สุ ัตวน์ ้า ตัวอย่างอา่ งเก็บน้า อำ่ งเกบ็ นำ้ หว้ ยซบั เหลก็ จังหวดั ลพบรุ ี อ่ำงเกบ็ นำ้ บำงพระ จงั หวดั ชลบรุ ี อำ่ งเกบ็ นำ้ สที น จังหวดั กำฬสนิ ธุ์

แหล่งนา้ ท่ีมนุษยส์ ร้างขึน เข่อื น เปน็ แหลง่ กักเกบ็ น้าขนาดใหญ่ การสร้างเขือ่ นทา้ โดยการสร้างท้านบขนาดใหญ่กันขวางลา้ นา้ สา้ หรับทด น้าหรอื กักเก็บน้า และมปี ระตรู ะบายนา้ ให้ไหลผ่านออกไปได้โดยไม่ไหลลน้ ขา้ มตวั เขือ่ น น้าทไ่ี ดจ้ ากบริเวณ หนา้ เขื่อนซึ่งมีระดับนา้ สงู มาก สามารถนา้ ไปใช้ประโยชน์ทางดา้ นการชลประทานหรือใชพ้ ลังงานนา้ ในเขอ่ื นผลติ กระแสไฟฟ้าได้

เข่อื นสิรกิ ิต์ จังหวดั อุตรดติ ถ์

เข่อื นอุบลรตั น์ จงั หวดั ขอนแกน่

เข่อื นภมู พิ ล จงั หวัดตาก

เข่อื นป่าสกั ชลสทิ ธ์ิ จงั หวดั ลพบรุ ี

เข่อื นศรีนครนิ ทร์ จงั หวดั กาญจนบรุ ี

น้ำท้ังหมดของโลกแบ่งไดเ้ ป็น ๒ ประเภท ได้แก่ นำ้ เคม็ และนำ้ จดื ซ่งึ มปี ริมำณไมเ่ ท่ำกัน น้ำทั้งหมดของโลกแบ่งเป็นน้ำเค็มประมำณร้อยละ ๙๗.๕ ซึ่งอยู่ในมหำสมุทร และ แหล่งน้ำอนื่ ๆ และทเี่ หลอื อกี ประมำณรอ้ ยละ ๒.๕ เปน็ นำ้ จดื ถำ้ เรียงลำดับปริมำณน้ำจืด จำกมำกไปน้อยจะอยู่ที่ ธำรน้ำแข็งและพืดน้ำแข็ง น้ำใต้ดิน ชั้นดินเยือกแข็งคงตัวและ น้ำแข็งใต้ดิน ทะเลสำบ ควำมชื้นในดิน ควำมชื้นในบรรยำกำศ บึง แม่น้ำ และน้ำใน สิง่ มชี ีวติ 21/05/63 วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ป.๕ 34

๒ ควำมจำเป็นของนำ้ ต่อชวี ติ และกำรประหยดั น้ำ นักเรยี นได้ศึกษำถงึ ปริมำณน้ำบนโลกและปรมิ ำณนำ้ ท่มี นษุ ยน์ ำมำใช้ประโยชนไ์ ด้ มำแล้ว ซ่งึ ปริมำณน้ำทมี่ นษุ ย์สำมำรถนำมำใชป้ ระโยชน์ไดม้ ีอยูน่ อ้ ยมำก นักเรียนจะมี แนวทำงในกำรอนุรักษน์ ำ้ อย่ำงไร นำ้ จืดท่ีมนษุ ย์นำมำใชไ้ ด้มปี รมิ ำณน้อยมำก เรำจงึ ควรใชน้ ำอย่ำงประหยดั และร่วมกันอนุรกั ษน์ ้ำ 21/05/63 วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ป.๕ 35

การอนรุ ักษน์ ้า การปอ้ งกนั ปญั หาทพี่ ึงจะเกดิ ขนึ กับนา้ และการนา้ มาใชเ้ พอื่ เกิดประโยชน์สูงสุดในการดา้ รงชีวติ ของ มนษุ ย์ เราจึงควรชว่ ยกนั แกป้ ญั หาการสูญเสยี ทรพั ยากรนา้ ดว้ ยการอนรุ กั ษน์ า้

21/05/63 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ป.๕ 37

๑. กำรใช้นำ้ อยำ่ งประหยัด ๓. กำรป้องกันน้ำเสีย กำรไม่ทิ้ง ขยะและสิ่งปฏิกูลและสำรพิษลง ๒. กำรสงวนน้ำไว้ใช้ กำรทำบ่อเก็บ ในแหล่งน้ำ น้ำเสียที่เกิดจำก น้ำ กำรสร้ำงโอ่งน้ำ ขุดลอกแหล่งน้ำ โรงงำนอุตสำหกรรม โรงพยำบำล รวมทั้งกำรสร้ำงอ่ำงเก็บน้ำ และ ควรมีกำรบำบัดและขจัดสำรพิษ ระบบชลประทำน ก่อนท่ีจะปล่อยลงสู่แหลง่ นำ้ ๔. กำรบำบัดน้ำเสยี กลับมำใช้ประโยชน์ 21/05/63 วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ป.๕ 38

การอนุรกั ษ์น้า 1.การปลกู ป่า โดยเฉพาะการปลกู ปา่ บรเิ วณพนื ที่ตน้ นา้ หรอื บรเิ วณพนื ท่ีภเู ขา เพอื่ ใหต้ ้นไมเ้ ปน็ ตวั กกั เกบ็ น้าตามธรรมชาติ ทังบนดนิ และใต้ดนิ

การอนุรักษน์ า้ 2.การพฒั นาแหล่งน้า พัฒนาแหล่งน้าเพอ่ื ให้มนี ้าเพยี งพอจึงจ้าเป็นตอ้ งท้าการขดุ ลอกแหล่งน้าให้กวา้ งและลกึ ใกลเ้ คียงกบั สภาพเดมิ หรอื มากกวา่ ตลอดจนจัดหาแหลง่ น้าเพมิ่ เตมิ อาจจะกระทา้ โดยการขุดเจาะนา้ บาดาลมาใช้ ซ่งึ ตอ้ งระวังปญั หาการเกดิ แผน่ ดินทรดุ

การอนุรักษ์นา้ 3.การสงวนนา้ ไวใ้ ช้ เปน็ การวางแผนการใช้น้าเพื่อใหม้ ปี ริมาณนา้ ทมี่ คี ุณภาพมาใชป้ ระโยชนต์ ลอดทงั ปี โดยเฉพาะในชว่ งฤดูแล้ง ด้วย วธิ กี ารต่างๆ เชน่ การท้าบอ่ หรือสระเกบ็ น้า การหาภาชนะขนาดใหญ่เพอื่ กกั เก็บนา้ ฝน( เชน่ โอง่ หรอื แท็งก์นา้ ) รวมทังการสรา้ งอา่ งเก็บนา้ และ ระบบชลประทาน

การอนุรักษน์ า้ 4.การใชน้ ้าอยา่ งประหยดั เปน็ การนา้ น้ามาใช้ประโยชน์หลายอยา่ ง อย่างตอ่ เน่ืองและเกดิ ประโยชน์สูงสดุ ทงั ด้านการอนุรกั ษ์นา้ และตวั ผใู้ ชน้ า้ เอง กลา่ วคือ สามารถลดค่าใชจ้ า่ ยเก่ียวกับค่านา้ ลงได้ ปรมิ าณน้าเสยี ทจ่ี ะทงิ ลงแหล่งนา้ มีปรมิ าณนอ้ ยลง และป้องกนั ปัญหาการขาดแคลนน้า

การอนรุ ักษ์น้า 5.การป้องกันการเกิดมลพิษของน้า การป้องกันปัญหามลพิษของนา้ จะต้องอาศัยกฎหมายเปน็ เครอ่ื งมือ และเจา้ หน้าท่ตี ้องปฏบิ ัติตาม กฎหมายหรอื พระราชบัญญตั ิทีเ่ กีย่ วข้องกบั ทัพยากรนา้ อยา่ งเคร่งครัด น้าเสียท่ีระบายจากโรงงานอตุ สาหกรรม โรงพยาบาล ตอ้ งควบคมุ อย่างจริงจงั และ บังคบั ใหม้ ีการบ้าบัดน้าเสียก่อนทงิ หรือปล่อยลงสแู่ หลง่ นา้

การอนรุ ักษน์ ้า 6.การนา้ น้าทใ่ี ชแ้ ล้วกลบั ไปใชใ้ หม่ นา้ ทีถ่ กู น้าไปใช้แล้ว ในบางครงั ยงั มสี ภาพทสี่ ามารถน้าไปใช้ประโยชนด์ ้านอื่นได้ เช่น น้าจาก การล้างภาชนะอาหารสามารถนา้ ไปใช้รดน้าต้นไม้ หรือนา้ จากการซกั ผา้ สามารถนา้ ไปถบู ้าน สุดท้ายน้าไปใชร้ ดนา้ ต้นไม้ เปน็ ตน้

การตรวจสอบคุณภาพนา้ การตรวจวดั คณุ ภาพนา้ ทางกายภาพ การตรวจวดั คณุ ภาพนา้ ทางชวี ภาพ 1.การสังเกตสขี องนา้ ส่งิ มีชีวติ ทอ่ี าศยั อยใู่ นแหลง่ นา้ 2.การสงั เกตกลนิ่ ของนา้ คุณภาพน้าดมี าก สัตว์ทีพ่ บมากสดุ ไดแ้ ก่ตวั อ่อนแมลงชีปะขาวและตัวออ่ นแมลงเกาะหนิ คุณภาพน้าไมด่ ี สตั วท์ ี่พบมากสดุ ไดแ้ ก่ หนอนแดง คุณภาพนา้ ปานกลาง สตั วท์ ีพ่ บมากสดุ ได้แก่ ตัวอ่อนแมลงปอ กงุ้ และปนู ้าจืด ไสเ้ ดือนนา้ จืด

เขียนลงในกระดาษ 1.อธบิ ายกลไกการได้ยินเสยี งของมนุษย์ สง่ การบ้านในคาบเรยี นถดั ไป 2.องค์ประกอบทที่ า้ ใหไ้ ดย้ ินเสยี งมอี ะไรบา้ ง 3.เรยี งลา้ ดบั ตวั กลางทเ่ี สยี งเดนิ ทางได้ดที ี่สดุ 4.มลพิษทางเสยี งท้าใหเ้ กดิ ผลกระทบดา้ นใดบา้ ง

แบบทดสอบปรนยั เพือ่ พฒั นำทักษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ เรอื่ ง น้ำในทอ้ งถ่ินของเรำ

๑. ข้อใดเปน็ แหลง่ น้ำผิวดิน ๑ ลำธำร ๒ นำ้ บอ่ ๓ น้ำบำดำล ๔ น้ำในดิน ๑เฉลย เหตุผล น้ำผิวดนิ คอื แหล่งน้ำตำมธรรมชำติท่ีอยบู่ นผวิ ของพื้นดนิ ได้แก่ ลำธำร ส่วนน้ำบ่อเป็นน้ำในดิน น้ำบำดำลและน้ำในดิน เป็นแหล่งน้ำตำม ธรรมชำติประเภทนำ้ ใตด้ นิ

๒. น้ำในดินจดั อยู่กลุม่ เดยี วกับแหลง่ น้ำข้อใด ๑ ลำธำร ๒ หนอง ๓ น้ำบำดำล ๔ มหำสมทุ ร ๓เฉลย เหตุผล น้ำในดินและน้ำบำดำลเป็นแหล่งน้ำที่เกิดจำกกำรสะสมของ น้ำฝนที่ซึมผ่ำนชั้นดินและชั้นหินลงไปแล้วกักเก็บเอำไว้ใต้ดิน ส่วนลำธำร หนอง และมหำสมทุ รจัดเป็นแหล่งน้ำผวิ ดิน

๓. บ่อน้ำแห่งหนึ่งใชแ้ รงคนขดุ เพื่อนำนำ้ ขนึ้ มำใช้ นำ้ ในบอ่ เป็นนำ้ ประเภทใด ๑ นำ้ ผิวดนิ ๒ น้ำบำดำล ๓ น้ำใตด้ ิน ๔ นำ้ ในดิน ๔เฉลย เหตุผล เนื่องจำกน้ำในดิน คือ แหล่งน้ำที่เกิดจำกกำรไหลซึมของน้ำ ผิวดินหรือน้ำฝนลงไปใต้ผิวดิน น้ำในดินนำขึ้นมำใช้โดยกำรขุดบ่อลงไปลึกกว่ำ ระดบั นำ้ ในดิน แลว้ ใช้ภำชนะผูกเชอื กหย่อนลงไปตกั น้ำข้ึนมำ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook