รายงานผลการปฏบิ ัติงาน และผลการประเมนิ ตนเองรายบคุ คล (Self Assessment Report: SAR) ผ้รู ายงาน นางสาวอมุ าพร เมอื งโคตร ตาแหน่ง ครู ชานาญการพเิ ศษ โรงเรยี นปลาปากวทิ ยา อาเภอปลาปากจงั หวดั นครพนม สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 กระทรวงศึกษาธิการ
คานา รายงานการประเมินตนเอง( Self Assessment Report : SAR) เป็นการประเมิน การปฏิบตั หิ นา้ ทตี่ าม พระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแห่งชาตพิ ุทธศกั ราช2542และฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2545 รวมทัง้ มาตรฐานการศึกษา ของโรงเรียน ขา้ พเจ้าได้จัดทาข้ึนเพ่อื รายงานผลการจัดการเรียนการสอนและการปฏบิ ตั ิหน้าท่ขี องข้าพเจ้าตามฝ่าย / กลมุ่ งานตลอดจนกจิ กรรมต่างๆทีไ่ ด้สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียนมีคุณลักษณะและคุณภาพตามระดบั มาตรฐานคุณภาพการศกึ ษา โรงเรียนปลาปากวทิ ยา สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562 รายงานนโี้ รงเรยี นสามารถนาผลการดาเนินงานไปจดั ทาการประเมินคุณภาพภายในและสรปุ รายงานให้ ผู้บงั คับบัญชาตามลาดบั สายงานตลอดจนเผยแพร่ให้กับผู้ปกครองนักเรียนชุมชนในสังคมไดท้ ราบผลการปฏบิ ตั ิงาน ของบุคลากรโรงเรียนปลาปากวทิ ยา สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษาเขต 22 ขอ้ มูลทไี่ ดจ้ ากการประเมนิ ในการประเมินตนเอง (SAR) ในครง้ั นี้ข้าพเจ้าจะได้นาไปใช้เป็นแนวทางในการ ปรับปรงุ เพอื่ พัฒนาการปฏิบตั ิงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย เพื่อส่งเสรมิ และพฒั นาศกั ยภาพของผเู้ รียนให้สงู ข้ึนในทุกๆ ดา้ นต่อไป ลงช่ือ (นางสาวอมุ าพร เมืองโคตร) ครู ชานาญการพิเศษ
สารบญั หนา้ ตอนที่ 1 ข้อมลู สว่ นตัว - ขอ้ มลู ท่ัวไป 1 - ข้อมูลการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี 2 - การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 5 - ผลการปฏิบัตงิ าน 6 - ผลการประเมินการสอนของครโู ดยนักเรียน 7 - การประเมนิ ตนเองเก่ยี วกบั การจัดทาแผนการจัดการเรียนร้ทู เ่ี น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ 7 ตอนท่ี 2 ผลการดาเนินงานตามมาตรฐานการศกึ ษา มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผเู้ รยี น 11 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ 1 1 มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่เี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั 12 ภาคผนวก 13 ภาคผนวก ก ตารางการประเมนิ ผล ผลการประเมินการสอนของครูโดยนักเรยี น ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ระดับชน้ั ม.3 คณุ ภาพของผูเ้ รยี น ตามมาตรฐานที่ 1 ภาคผนวก ข วิจยั โครงการปัจฉมิ นเิ ทศ ภาคผนวก ค คาส่ัง/การไปราชการ งานวิจัยในชนั้ เรยี น เรอื่ ง รายงานการพฒั นาชดุ กิจกรรมแนะแนวเพือ่ พฒั นาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สาหรับนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคผนวก ง เกียรตบิ ตั ร/รูปภาพ
รายงานการประเมินตนเอง (SAR) ตอนที่ 1 ขอ้ มูลสว่ นตัว 1.1 ขอ้ มลู ทัว่ ไป ชอื่ นางสาวอุมาพร สกุล เมืองโคตร วุฒกิ ารศกึ ษา ปริญญาตรี ครศุ าสตรบัณฑิต วิชาเอก จติ วทิ ยาการแนะแนว จากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร ปรญิ ญาโท ศึกษาศาสตรม์ หาบณั ฑติ วชิ าเอกบริหารการศกึ ษา จากมหาวทิ ยาลัยบูรพา อน่ื ๆ ระบ.ุ ................ วชิ าเอกจาก................................... ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ชานาญการพเิ ศษ อายุ 41 ปี ปฏิบัติราชการ 8 ปี เลขทต่ี าแหนง่ 6574 เงินเดอื น 25,440 บาท เงนิ วทิ ยฐานะ - บาท วนั / เดอื น / ปี เกดิ วันที่ 3 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2521 วัน / เดือน / ปี บรรจุเข้ารับราชการ 19 เมษายน 2554 ปฏบิ ตั ิการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ กจิ กรรมแนะแนว ปฎิบัตงิ านพิเศษ 1. หัวหนา้ งานแนะแนว 2. งานรบั นกั เรียน 3. งานจัดทา ปพ. ต่างๆ 4. งานเวรประจาวนั ศุกร์ 5. ครทู ี่ปรกึ ษา ม.6/2 สังกดั กลุ่มบริหารงาน วิชาการ โรงเรียนปลาปากวทิ ยา สานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 แสดงจานวนวันลา ประจาปกี ารศึกษา 2562 (1 เมษายน 2562 –31มนี าคม 2563) ประเภท ลาปว่ ย ลากิจ ลาอุปสมบท ลาคลอด มาสาย คร้งั 2 - -- -
1.2ข้อมูลการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ห้อง จานวนคาบ/ชม 1.2.1 ปฏบิ ัตกิ ารสอนตลอดปีการศึกษา 2562 ภาคเรียนที่ 1/2562 ม.3/1 1 ม.3/2 1 ท่ี รายวชิ า ม.3/3 1 ม.3/4 1 1 แนะแนว ก 23901 ม.3/5 1 2 แนะแนว ก 23901 ม.3/6 1 3 แนะแนว ก 23901 ม.4/1 1 4 แนะแนว ก 23901 ม.4/2 1 5 แนะแนว ก 23901 ม.4/3 1 6 แนะแนว ก 23901 ม.4/4 1 7 แนะแนว ก 31901 ม.5/1 1 8 แนะแนว ก 31901 ม.5/2 1 9 แนะแนว ก 31901 ม.5/3 1 10 แนะแนว ก 31901 ม.5/4 1 11 แนะแนว ก 32901 ม.6/1 1 12 แนะแนว ก 32901 ม.6/2 1 13 แนะแนว ก 32901 ม.6/3 1 14 แนะแนว ก 32901 ม.6/4 1 15 แนะแนว ก 33901 16 แนะแนว ก 33901 ม.4 1 17 แนะแนว ก 33901 ม.ตน้ 1 18 แนะแนว ก 33901 ม.5/2 1 21 คาบ/สปั ดาห์ 19 กจิ กรรมวิชาทหาร รด.(วนั พธุ ) 20 กจิ กรรมชุมนมุ กระดาษ 21 จริยธรรม ม.ปลาย รวม
ภาคเรียนท่ี 2/ 2562 ปฏบิ ตั กิ ารสอนวชิ าแนะแนว 1 รายวิชา จานวน 18 ห้อง จานวน 18 คาบ/ต่อสปั ดาห์ ดงั น้ี แสดงจานวนรายวชิ า หอ้ งเรยี น นกั เรียน คาบเรยี น ท่ีปฏิบตั กิ ารสอน ท่ี รายวิชา หอ้ ง จานวนคาบ/ชม 1 แนะแนว ก 23902 ม.3/1 1 2 แนะแนว ก 23902 ม.3/2 1 3 แนะแนว ก 23902 ม.3/3 1 4 แนะแนว ก 23902 ม.3/4 1 5 แนะแนว ก 23902 ม.3/5 1 6 แนะแนว ก 23902 ม.3/6 1 7 แนะแนว ก 31902 ม.4/1 1 8 แนะแนว ก 31902 ม.4/2 1 9 แนะแนว ก 31902 ม.4/3 1 10 แนะแนว ก 31902 ม.4/4 1 11 แนะแนว ก 32902 ม.5/1 1 12 แนะแนว ก 32902 ม.5/2 1 13 แนะแนว ก 32902 ม.5/3 1 14 แนะแนว ก 32902 ม.5/4 1 15 แนะแนว ก 33902 ม.6/1 1 16 แนะแนว ก 33902 ม.6/2 1 17 แนะแนว ก 33902 ม.6/3 1 18 แนะแนว ก 33902 ม.6/4 1 19 กจิ กรรมวชิ าทหาร รด.(วนั พุธ) ม.4 1 20 กจิ กรรมชุมนุมกระดาษ ม.ตน้ 1 21 จริยธรรม ม.ปลาย ม.4/2 1 รวม 21 คาบ/สปั ดาห์
1.2.3 ปฏิบตั หิ นา้ ที่ครทู ่ีปรึกษา จานวนนกั เรียน รวมทง้ั สนิ้ (คน) ชาย(คน) หญงิ (คน) 30 ชน้ั / หอ้ ง มัธยมศกึ ษาปีท่ี ม.6/2 13 17 1.2.4 งานพเิ ศษในโรงเรียน ได้แก่ งาน หัวหน้างานวัดและประเมินผล กลมุ่ บริหารงาน วชิ าการ งาน ระบบดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียนท่ีปรกึ ษา ม.6/2 กล่มุ บริหารงานทว่ั ไป 1.3 การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน 1.3.1 จดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ ดงั นี้ ที่ รหสั วชิ า รายวชิ า ระดบั ชน้ั จานวน/แผน ม.3 10 แผน 1 ก 23902 กจิ กรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาทักษะอาชพี ม.5 10 แผน 2 ก 32902 กจิ กรรมแนะแนว 1.3.2 ผลิตสอ่ื / นวัตกรรม จานวน 5 ชิ้น ได้แก่ ท่ี ชื่อสอื่ /นวัตกรรม 1 ชุดการสอนกิจกรรมการเรยี นรู้เพื่อการศกึ ษาและอาชพี 1.3.3 จดั ทาหน่วยการเรยี นร้แู บบบรู ณาการ เช่น STEM, เศรษฐกจิ พอเพียง, ค่านิยม 12 ประการ ได้แก่ หน่วย เรื่อง ระดับชนั้ รว่ มกบั กลมุ่ สาระการ จานวน ที่ เรยี นรู้ ชัว่ โมง 1 ทกั ษะอาชพี ม.3 เศรษฐกิจพอเพียง 5 รว่ มกับกลุม่ สาระการ งานอาชพี และ เทคโนโลยี 1.3.4 จดั ทาวิจยั ในชั้นเรยี น จานวนเร่ือง ไดแ้ ก่** ถ้ามแี สดงไว้ทีภ่ าคผนวก ** ระดับช้นั ที่ เรอื่ ง ม.3/1 1 รายงานการพัฒนาชดุ กิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคิดการสร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง สาหรบั นักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
1.3.5 การนา/มอบหมายงาน นกั เรียนไปศึกษาค้นควา้ /ใชแ้ หลง่ เรยี นรู้นอกโรงเรยี นจานวนคร้ัง ดังน้ี ท่ี ช่ือแหล่งเรียนรู้ เร่ือง จานวนครั้ง 1 ห้องสมดุ - 2 1.3.6 เชญิ วิทยากรภายนอกมาใหค้ วามรแู้ ก่นกั เรยี น จานวนคร้งั 1 ได้แก่ ท่ี วัน /เดอื น / ปี ช่ือวทิ ยากร เรอ่ื ง / หวั ขอ้ 1- - - 1.3.7 รปู แบบ / วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนทค่ี รูใช้ คือ ข้อใดบา้ ง (ตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ ) การอธิบาย การสืบสวนสอบสวน การสาธิต / ทดลอง กลุม่ สืบค้นความรู้ การใชเ้ กมประกอบ กลุม่ สัมพันธ์ สถานการณจ์ าลอง การเรียนร้แู บบรว่ มมือ กรณีตวั อย่าง ความคดิ รวบยอด บทบาทสมมุติ อริยสัจ 4 การแก้ไขสถานการณ์ การศึกษาคน้ คว้าด้วยตนเอง โปรแกรมสาเรจ็ รปู การทศั นะศึกษานอกสถานที่ ศนู ย์การเรียน การเรียนรจู้ ากห้องสมดุ ชุดการสอน การพฒั นากระบวนการคดิ คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน การใชภ้ ูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ โครงงาน การอภปิ รายกลมุ่ ย่อย การถามตอบ การแกป้ ญั หา อื่น ๆ ระบุ........... อ่นื ๆ ระบุ……………………...… สรุป จานวนรูปแบบ / วิธกี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนท่ีครใู ชว้ ิธี 1.3.8 สภาพการปฏิบตั งิ านสอน เขียนเคร่อื งหมายในช่องทีต่ รงกบั ความเปน็ จริงท่ีทา่ นปฏิบัตอิ ยู่ ที่ รายการปฏิบัติ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ทสี่ ุด กลาง ทส่ี ดุ 1 ตรงตามวฒุ ิ/สาขาวิชาที่จบการศึกษา 2 ตรงตามความถนดั 3 ตรงตามประสบการณก์ ารสอน 4 ตรงกบั ความร้คู วามสามารถ 5 ตรงกบั ความต้องการ/ความสนใจ
1.3.9 การพฒั นาตนเอง (การเข้ารว่ มกิจกรรมทางวิชาการ / การเขา้ รว่ มอบรม / ประชุมสมั มนา /ศึกษาดูงานฯลฯ) ท่ี วัน / เรือ่ ง สถานท่ี หน่วยงานท่จี ดั หลกั ฐาน เดือน/ ปี เข้ารว่ มกิจกรรมวนั ตอ่ ตา้ นการค้า สนง.พฒั นาสังคมและความ 5 ส.ค. มนุษยจ์ งั หวดั นครพนม ประจาปี ม่นั คงของสนษุ ยจ์ ังหวดั เกียรติ 2562 บัตร 1 การศกึ ษา 2562 โรงเรียนปลาปากวิทยา นครพนมกระทรวงการพฒั นา สังคมและความมน่ั คงของ มนษุ ย์ 21-22 อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร Futre New ห้องประชุมตะเพยี น 2 ต.ค. Digital Planet Classroom แก้ว สพม.22 คาสงั่ 2562 (DPC) Pedagogy Training โรงเรยี นปลาปากวิทยา ผ่านการพัฒนาบคุ ลากรด้านการ สถาบนั ทดสอบทาง การศกึ ษาแห่งชาติ 3 18 ต.ค. จัดสอบด้วยบทเรียนรูปแบบ (องค์การมหาชน) สทศ. เกียรติ 2562 อิเล็กทรอนิกส์ หลกั สตู รกรรมการ บัตร คมุ สอบขั้นที่ 1 4 18 ต.ค. ผา่ นการอบรมดว้ ยระบบออนไลน์ กรมสุขภาพจิต กรมสขุ ภาพจิต เกยี รติ 2562 www.thaiteentraining.com บัตร ผา่ นการพฒั นาบคุ ลากรดา้ นการ 5 22 ก.พ. จดั สอบดว้ ยบทเรียนรูปแบบ สพม.22 สทศ. เกยี รติ 2563 อิเลก็ ทรอนกิ ส์ หลักสตู รกรรมการ บตั ร คมุ สอบขัน้ ที่ 2 6 12 ม.ี ค. อบรมการวดั ผลประเมนิ ผลผา่ น หอ้ งประชุมตะเพียน โรงเรยี นปลาปากวทิ ยา คาสง่ั / 2563 ระบบ SGS แกว้ รูปภาพ โรงเรียนปลาปากวทิ ยา 7 20 ก.ย. อบรมรุ่นที่ 1 โครงการสง่ เสริม โรงเรียนมกุ ดาหาร สพม.22 เกียรติ 2563 นักเรียนผู้มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม อ.เมือง บัตร และบาเพ็ญประโยชน์เพอ่ื เขา้ ศึกษาตอ่ ในระดับอุดมศึกษา จ.มกุ ดาหาร
*** แสดงคาสัง่ และสรุปผลการไปอบรมที่ภาคผนวกตามจานวนครัง้ ที่ไป*** สรุป การพฒั นาตนเอง จานวน ครั้ง จานวนวนั คิดเป็นชั่วโมง นามาขยายผล...1....ครง้ั 1.3.10 การไดร้ ับเชิญเปน็ วิทยากร/กรรมการตัดสนิ ภายในและภายนอกสถานศึกษา ที่ วัน / เดอื น / ปี รายการ / เรื่อง หนว่ ยงานทเี่ ชิญ -- - 1.4 ผลการปฏิบตั งิ าน 1 .4.1การปฏิบตั ิหน้าทจี่ ดั กิจกรรมการเรยี นการสอนประจาปกี ารศึกษา ปรากฏผลดงั น้ี ตารางแสดงผลการประเมินการเรียนการสอนกิจกรรมแนะแนว ในภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3-6 ปีการศกึ ษา รอ้ ยละของนักเรียนท่มี รี ะดับคณุ ภาพ (คน) วิชา ผา่ น ไม่ผา่ น ม.3 กิจกรรมแนะแนว 95.32 4.68 (172 คน) (164) (8) ม.4 กจิ กรรมแนะแนว 100 0 ( 108คน) (108) (0) ม.5 กจิ กรรมแนะแนว 100 0 (88คน) (88) (0) ม.6 กจิ กรรมแนะแนว 100 0 (92 คน) ( 92) (0) รวม 98.26 1.74 (452 ) (8)
ตารางแสดงผลการประเมินการเรยี นการสอนกิจกรรมแนะแนว ในภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2562 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3-6 ปกี ารศึกษา รอ้ ยละของนักเรยี นท่ีมีระดบั คณุ ภาพ (คน) วิชา ผา่ น ไม่ผา่ น ม.3 กิจกรรมแนะแนว 95.32 4.68 (171 คน) (163) (8) ม.4 กจิ กรรมแนะแนว 100 0 ( 108คน) (108) (0) ม.5 กิจกรรมแนะแนว 100 0 (88คน) (88) (0) ม.6 กิจกรรมแนะแนว 100 0 (92 คน) ( 92) (0) รวม 98.28 1.74 (451 ) (8) 1.4.2 การปฏบิ ัตงิ านหน้าที่พิเศษปรากฏผลดงั น้ี 1) กลุม่ บริหารงานวิชาการ งาน หวั หนา้ งานแนะแนว กลุ่มบริหารงาน วชิ าการ สรปุ ไดว้ ่าระดับคุณภาพการปฏบิ ัติงาน ดี พอใช้ ปรบั ปรุง 2) กล่มุ บรหิ ารงานทว่ั ไป 3.1 งานกิจการนักเรียนโดยปฏบิ ตั หิ น้าท่ี 3.1.1 การเยี่ยมบา้ น และคดั กรองนกั เรยี นยากจนชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6/2 3.1.2 ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ครูเวรประจาวันอังคาร 3.1.3 ปฏบิ ตั หิ น้าท่คี รเู วรวันหยุดราชการ 12 คร้งั สรปุ ได้วา่ ระดับคณุ ภาพการปฏิบัตงิ าน ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
1.5 ผลการประเมินการสอนของครูโดยนกั เรยี น (ดภู าคผนวก) นกั เรียนท่ตี อบแบบสอบถาม คือนกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 จานวน 171 คน ระดับการประเมิน กจิ กรรม มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ทส่ี ุด กลาง ที่สุด 1. ครแู จง้ ผลการเรยี นรใู้ หน้ ักเรียนทราบอย่างชัดเจน 120 46 4 1 0 2. ครจู ัดกิจกรรมการเรียนร้สู นกุ และนา่ สนใจ 110 56 3 2 0 3. เน้ือหาทีส่ อนทันสมัยเสมอ 140 24 6 1 0 4. ครใู ชส้ ่อื ประกอบการเรียนการสอนทเ่ี หมาะสมและหลากหลาย 122 34 10 4 1 5. ครูใชค้ าถามซกั ถามนักเรียนบ่อย ๆ 152 12 7 0 0 6. ครูประยกุ ตส์ าระที่สอนเขา้ กับเหตกุ ารณ์ปจั จบุ นั /สภาพแวดล้อม 146 20 5 0 0 7. ครูสง่ เสรมิ นักเรยี นได้ฝกึ ปฏบิ ัตจิ รงิ มกี ารจัดการ และ 145 23 3 0 0 การแก้ปัญหา 8. ครูให้นกั เรียนฝึกกระบวนการคดิ คิดวิเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ 123 35 12 1 0 9. ครสู ง่ เสริมใหน้ กั เรยี นทางานร่วมกนั ทัง้ เป็นกล่มุ และรายบุคคล 132 25 12 2 0 10. ครใู หน้ กั เรียนแสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ 135 14 21 1 0 11. ครูมีการเสรมิ แรงใหน้ ักเรียนทีร่ ว่ มกิจกรรมการเรยี นการสอน 133 21 15 0 2 12. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นซักถามปญั หา 145 21 4 1 0 13. ครูคอยกระตนุ้ ให้นักเรียนต่นื ตัวในการเรียนเสมอ 123 32 15 1 0 14. ครสู อดแทรกคุณธรรมและค่านิยม 12 ประการในวิชาท่สี อน 136 22 12 1 0 15. ครูยอมรบั ความคิดเหน็ ของนักเรยี นทตี่ า่ งไปจากครู 153 16 2 0 0 16. นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในการวัดและประเมินผลการเรียน 136 30 4 1 0 17. ครูมกี ารประเมนิ ผลการเรียนดว้ ยวิธกี ารที่หลากหมายและยุตธิ รรม 146 21 3 1 0 18. ครูมคี วามต้ังใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน 138 26 7 0 0 19. บุคลกิ ภาพ การแต่งกายและการพดู จาของครูเหมาะสม 156 10 5 0 0 20. ครเู ขา้ สอนและออกชนั้ เรียนตรงตามเวลา 136 26 9 0 0 รวม 2727 514 159 17 3 จากผลการประเมินการสอนของครูโดยนักเรียน พบว่า มคี ะแนนเฉลีย่ 4.74 อยใู่ นระดับความพงึ พอใจ มากทีส่ ดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยท่สี ดุ
เกณฑ์การตดั สินความพงึ พอใจ คะแนนเฉลย่ี 1.51 – 2.50 ระดบั น้อย คะแนนเฉล่ีย 4.51 – 5.00 ระดบั มากทส่ี ดุ คะแนนเฉล่ีย 1.00 – 1.50 ระดับนอ้ ยที่สุด คะแนนเฉลีย่ 3.51 – 4.50 ระดับมาก คะแนนเฉลี่ย 2.51 – 3.50 ระดับปานกลาง 1.6 การประเมนิ ตนเองเก่ียวกับการจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรทู้ ีเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ (เขียนเคร่อื งหมาย / ลงในช่องระดบั คุณภาพ โดยพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ดา้ นขวามอื ) ดัชนชี วี้ ดั ระดับคุณภาพ เกณฑ์การประเมิน 4321 1. การวเิ คราะห์ มาตรฐานฯ / 1. มกี ารระบุตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ และ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ 2. มกี ารวเิ คราะห์ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ / แยกออกเป็น 3 ดา้ นคอื ความรู้ เจตคติ ทKักPษA)ะ ( (ระดับ 4 มี 5 ขอ้ 3. มีความเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรยี นรู้ ระดบั 3 มี 4 ข้อ / 4. สอดคลอ้ งกับผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั ระดบั 2 มี 3 ขอ้ 5. ครอบคลมุ มาตรฐานการศกึ ษา ระดบั 1 มี 1-2 ขอ้ ) 1. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ ปน็ ขัน้ ตอน 2. การออกแบบกิจกรรม 2. แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้มอี งค์ประกอบ การเรียนรู้ ครบ 4 ดา้ น (แลกเปลี่ยนประสบการณ์ (ระดบั 4 มี 5 ข้อ การสร้างองคค์ วามร้นู าเสนอความรู้ ปฏิบัติ / ระดับ 3 มี 4 ข้อ ประยกุ ต์ใช้) ระดบั 2 มี 3 ขอ้ 3. มคี วามเหมาะสมกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ระดับ 1 มี 1-2 ข้อ) 4. มคี วามสอดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3. การออกแบบปฏสิ ัมพันธ์ ท้งั 3 ดา้ น(ความรู้ เจตคติ ทกั ษะ) (ระดบั 4 มี 5 ขอ้ 5. สามารถปฏบิ ัติได้จริง 1. มีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลมุ่ ระดบั 3 มี 4 ข้อ 2. มีความหลากหลายในการมีสว่ นรว่ มของผูเ้ รยี น ระดับ 2 มี 3 ขอ้ 3. มีการกาหนดบทบาทและกจิ กรรมอยา่ ง ชัดเจน ระดับ 1 มี 1-2 ขอ้ ) 4. ปฏบิ ัตจิ ริง 5. ผเู้ รียนสนกุ สนาน เกิดการเรยี นรู้
4. การออกแบบประเมินผล / 1. มกี ารประเมนิ ผลการเรยี นในแต่ละแผน (ระดับ 4 มี 5 ข้อ / 2. มกี ารกาหนดวธิ กี ารประเมนิ ผลหลากหลาย ระดับ 3 มี 4 ขอ้ 3. วธิ ีการประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ ระดับ 2 มี 3 ข้อ การเรยี นรู้ ระดับ 1 มี 1-2 ขอ้ ) 4. ปฏบิ ัติจรงิ 5. นาผลการประเมนิ มาพัฒนาการเรียนรู้ 5. การใชส้ ่อื อปุ กรณ์ 1. มีการใชส้ ื่อ อปุ กรณห์ รือแหลง่ เรยี นรู้ การเรียนรู้ 2. มกี ารกาหนดขั้นตอนหรอื วธิ กี ารใชส้ อื่ (ระดับ 4 มี 5 ขอ้ ระดบั 3 มี 4 ข้อ หรอื แหล่งเรยี นรู้ ระดับ 2 มี 3 ข้อ 3. มกี ารใช้สือ่ อปุ กรณ์หรอื แหลง่ การเรยี นรู้ ระดบั 1 มี 1-2 ข้อ) เหมาะสมกับกิจกรรมการเรยี นรู้ 4. มีสอ่ื อุปกรณ์ แหล่งเรยี นรู้ 5. มกี ารพฒั นาสอ่ื อุปกรณ์ แหลง่ เรยี นรู้ สรุป : การจัดทาแผนการจดั การเรียนรนู้ ้ี อยใู่ นระดบั คุณภาพ 3 ดี เกณฑ์การตัดสนิ 4 หมายถงึ มกี ารปฏิบตั อิ ยใู่ นระดบั ดมี าก 3 หมายถึง มกี ารปฏบิ ตั อิ ย่ใู นระดบั ดี 2 หมายถึง มีการปฏบิ ตั ิอยใู่ นระดับปานกลาง 1 หมายถึง มกี ารปฏิบตั อิ ยใู่ นระดับปรับปรุง
ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน (ดูภาคผนวก)ประเมินทกุ ระดับท่ีสอน จานวน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ชน้ั นักเรยี น ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ เฉลยี่ (คน) ในการสื่อสาร ในการคดิ ในการ ในการใช้ ในการใช้ รวม แกป้ ัญหา ทักษะชวี ิต เทคโนโลยี ม.3 171 4.16 3.99 4.23 4.30 4.35 4.21 ม.4 108 4.23 3.89 4.20 4.16 4.52 4.20 ม.5 88 4.15 3.86 4.25 4.36 4.36 4.20 ม.6 92 4.25 3.87 4.15 4.23 4.26 4.15 ผลการประเมินสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น พบว่า 1. นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 มีค่าสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี นเทา่ กบั 4.21 อยู่ในคุณภาพระดบั มาก 2. นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 มีค่าสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี นเท่ากับ 4.20 อยู่ในคณุ ภาพระดบั มาก 3. นักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 มคี า่ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนเท่ากบั 4.20 อยู่ในคุณภาพระดบั มาก 4. นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 มคี ่าสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียนเท่ากบั 4.15 อยู่ในคุณภาพระดับมาก เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ คะแนนเฉลี่ย 1.51 – 2.50 ระดบั น้อย คะแนนเฉล่ยี 4.51 – 5.00 ระดบั มากทีส่ ดุ คะแนนเฉลี่ย 1.00 – 1.50 ระดับนอ้ ยทส่ี ุด คะแนนเฉลย่ี 3.51 – 4.50 ระดับมาก คะแนนเฉล่ีย 2.51 – 3.50 ระดับปานกลาง
ผลการประเมินการอา่ นคดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี นประเมินทุกระดบั ทีส่ อน จานวน ผลการประเมนิ (คน/ ร้อยละ) นกั เรียน ชั้น จานวนนักเรียนท่ปี ระเมิน ระดบั ดี (คน) ข้นึ ไป ดเี ยี่ยม ดี ปรับปรุง ไม่ผา่ น 3 2 10 ม.3 171 163 0 0 8 171 ม.4 108 108 0 0 0 108 ม.5 88 88 0 0 0 88 ม.6 92 92 0 0 0 92 รอ้ ยละ 451 0 0 8 459 ผลการประเมนิ การอา่ นคดิ วเิ คราะห์และเขียนพบวา่ 1. นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3-6 มผี ลการอา่ นคิด วิเคราะห์และเขยี นอยใู่ นระดับดขี ึ้นไป คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 อยใู่ นคุณภาพระดับ ดีเยี่ยม เกณฑ์ตัดสนิ ระดับคุณภาพ รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป ดีเย่ียม ร้อยละ 70-79 ดีมาก ร้อยละ 60-69 ดี รอ้ ยละ 50-59 ผา่ น รอ้ ยละ ต่ากวา่ 50 ไมผ่ ่าน
ผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ จานวนนักเรียนท่ปี ระเมิน 1) ชัน้ ม.3 คนรวมจานวน 171 คน เกณฑก์ ารพิจารณา จานวน ระดับคณุ ภาพ ระดับดี ร้อยละ นกั เรียน ดีเย่ียม ขน้ึ ไป ระดับดี 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ดี ปรับปรุง ไม่ผ่าน ขึ้นไป 2. ซือ่ สตั ย์สจุ ริต (3) 3. มวี นิ ยั (2) (1) (0) 163 95.3 4. ใฝ่เรียนรู้ 171 163 163 95.3 5. อยู่อย่างพอเพียง 171 163 008 163 95.3 6. มุ่งม่ันในการทางาน 171 163 008 163 95.3 7. รักความเป็นไทย 171 163 008 163 95.3 8. มีจิตสาธารณะ 171 163 008 163 95.3 171 163 008 163 95.3 รวมท้ังสิน้ 171 163 008 163 95.3 รอ้ ยละระดับดีข้นึ ไป 171 163 008 1304 95.3 คะแนนของตัวบง่ ชี้ 1368 1304 008 0 0 64 ระดบั คุณภาพ 95.3 1.91 ดเี ยยี่ ม ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์พบวา่ นกั เรยี นอยใู่ นระดับ ดีเยีย่ ม เกณฑ์ตดั สินระดบั คุณภาพ 1.80 – 2.00 = 5 ดีเยี่ยม 1.50 – 1.79 = 4 ดีมาก 1.20 – 1.49 = 3 ดี 1.00 – 1.19 = 2 พอใช้ 0.00 – 0.99 = 1 ปรับปรงุ
ตอนที่ 2 ผลการดาเนินงานตามมาตรฐานการศึกษา คาชีแ้ จง 1. ศึกษาเกณฑม์ าตรฐานคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนปลาปากวทิ ยา มาตรฐานที่ 1-3 2. มาตรฐานท่ี 1-3 ประเมนิ ผลแล้วจะได้ผลระดับคุณภาพตัวบ่งชี้/มาตรฐาน แล้วทาเครื่องหมาย ลงในช่องระดบั คณุ ภาพ 3.เกณฑก์ ารตดั สิน 5 หมายถึง มีผลการปฏบิ ัตอิ ยู่ในระดับยอดเยย่ี ม (41-50 คะแนน) 4 หมายถึง มผี ลการปฏิบัตอิ ยใู่ นระดบั ดีเลิศ (31-40 คะแนน) 3 หมายถงึ มีผลการปฏบิ ัติอยู่ในระดบั ดี (21-30คะแนน) 2 หมายถงึ มีผลการปฏบิ ตั อิ ยใู่ นระดับปานกลาง (11-20 คะแนน) 1 หมายถึง มผี ลการปฏบิ ตั ิอยใู่ นระดบั กาลงั พัฒนา (1-10คะแนน) มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผ้เู รียน ตวั บ่งช้ี ระดบั คุณภาพตัวบ่งช้ี/มาตรฐาน 1.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างวิชาการของผเู้ รยี น 54321 1)ผ้เู รยี นมคี วามสามารถในการอ่าน การเขยี น การสอ่ื สารและการคิด คานวณ 2) มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ คดิ อย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลยี่ นความคิดเห็น และแก้ปัญหา 3) มีความสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร 5) มผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนตามหลักสตู รสถานศึกษา 6) มีความรทู้ ักษะพ้ืนฐาน และเจตคติทด่ี ีต่องานอาชีพ 1.2 คณุ ลกั ษณะพึงประสงค์ของผูเ้ รียน 1) การมคี ุณลกั ษณะและค่านยิ มทดี่ ีตามที่สถานศึกษากาหนด 2) ความภมู ใิ จในทอ้ งถน่ิ และความเปน็ ไทย 3) การยอมรับท่จี ะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย 4) สุขภาวะทางร่างกาย และจติ สังคม 5 12 18 คะแนน 35 รวมคะแนน ดเี ลิศ สรุปผลการประเมนิ มาตรฐานที่ 1
กิจกรรม/โครงการ/หลกั ฐานรอ่ งรอยท่ีดาเนินการ ผลการดาเนินงาน โครงการแนะแนวการศึกษาตอ่ จุดเดน่ โครงการยกระดับผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น โรงเรยี นมีกจิ กรรม(Best Practices) ดา้ นนวัตกรรมโดย ใช้ Googleclassroom จดั กจิ กรรมการเรียนการสอนทุก โครงการเปดิ บ้านวชิ าการ โครงการพัฒนาศกั ยภาพสภานกั เรยี น กลมุ่ สาระ โครงการปฐมนิเทศนักเรยี น ม.๑,ม.๔ จุดควรพัฒนา ขยายผลการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนโดยใช้ โครงการพฒั นาศกั ยภาพครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา Googleclassroom ใหก้ บั โรงเรียนในเครอื ข่าย เพ่อื สร้าง โครงการสง่ เสริมทักษะความเปน็ เลิศทางวิชาการ โครงการส่งเสริมและพฒั นาความเป็นเลศิ ดา้ นนวตั กรรม ความเข้มแข็งให้กับส่ือนวตั กรรม โครงการสรรหาผลงานทีเ่ ปน็ เลิศ (Best Practices) โครงการสารสนเทศกลุ่มงานบรหิ ารท่วั ไป โครงการหอ้ งสมุดมชี วี ติ โครงการ การเรยี นรดู้ ้วย STEM, PLCและ การจดั การ เรียนร้แู บบGoogle Classroom โครงการบูรณาการการสอนวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เป็นภาษาอังกฤษโดยครไู ทย (EIS) โครงการการจดั การเรยี นการสอนแบบคขู่ นาน (มัธยมศกึ ษา ตอนปลายกับ ปวช.) โครงการคมุ้ ครองผ้บู ริโภค
มาตรฐานที่ 2กระบวนการบริหารและการจดั การ เกณฑ์การตดั สิน 5 หมายถึง มผี ลการปฏบิ ตั อิ ยใู่ นระดับยอดเยย่ี ม(25-30 คะแนน) 4 หมายถึง มผี ลการปฏบิ ัตอิ ยู่ในระดับดีเลศิ (18-24 คะแนน) 3 หมายถงึ มีผลการปฏิบัติอย่ใู นระดบั ดี(13-18คะแนน) 2 หมายถงึ มีผลการปฏิบตั ิอยูใ่ นระดบั ปานกลาง(7-12คะแนน) 1 หมายถึง มีผลการปฏิบัตอิ ย่ใู นระดบั กาลงั พฒั นา(1-6คะแนน) ตวั บง่ ชี้ ระดับคณุ ภาพตวั บ่งช้ี/มาตรฐาน 2.1 มีเปา้ หมายวสิ ยั ทศั น์และพันธกจิ ทสี่ ถานศกึ ษากาหนดชัดเจน 5 4 3 21 2.2 มีระบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพของสถานศึกษา 2.3 ดาเนินงานพัฒนาวชิ าการทเี่ น้นคณุ ภาพผู้เรยี นรอบดา้ นตามหลักสตู ร สถานศึกษา และทุกกลุ่มเปา้ หมาย 2.4 พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชยี่ วชาญทางวชิ าชีพ 2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมทเ่ี อื้อตอ่ การจดั การเรยี นรู้ อยา่ งมคี ณุ ภาพ 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ สนับสนนุ การบริหารจดั การและ การจัดการเรยี นรู้ คะแนน รวมคะแนน 15 12 สรปุ ผลการประเมินมาตรฐานที่ 2 27 ยอดเยย่ี ม
กิจกรรม/โครงการ/หลกั ฐานร่องรอยทดี่ าเนินการ ผลการดาเนนิ งาน โครงการลานคณุ ธรรม จดุ เด่น โครงการเสรมิ สร้างความสัมพนั ธก์ บั ชุมชนและเครือข่ายภาคี มกี ารบรหิ ารจดั การครบท้ัง 4 ฝา่ ย คอื ฝ่ายบรหิ าร ทางการศึกษา วชิ าการ ฝา่ ยบริหารทวั่ ไป ฝา่ ยงบประมาณและ โครงการจัดการเรยี นรูท้ ักษะงานทักษะอาชพี โครงการจัดจา้ งครแู ละนักการภารโรงในสาขาท่ีขาดแคลน แผนงาน ฝา่ ยบริหารงานบุคคล โครงการจดั หา และซ่อมแซม บารุงวัสดุ ครภุ ณั ฑ์ และมีการจดั การสอนวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ โครงการธนาคารโรงเรยี น คอมพวิ เตอร์ เป็นภาษาอังกฤษโดยครูไทย (EIS) โครงการนเิ ทศภายใน จุดควรพฒั นา โครงการบูรณาการการสอนวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพวิ เตอร์ เปน็ ภาษาองั กฤษโดยครูไทย (EIS) สรา้ งเครือข่ายด้านการเรยี นการสอนวทิ ยาศาสตร์ โครงการประกันคณุ ภาพการศึกษา คณิตศาสตร์ คอมพวิ เตอร์ เปน็ ภาษาอังกฤษโดยครูไทย โครงการพฒั นางานบคุ ลากรทาการศกึ ษา (EIS) ให้กบั โรงเรียนในเครอื ขา่ ย มาตรฐานที่ 3กระบวนการจดั การเรียนการสอนทเี่ น้นผู้เรียนเป็นสาคญั เกณฑ์การตดั สนิ 5 หมายถึง มผี ลการปฏบิ ัติอยูใ่ นระดบั ยอดเยยี่ ม(21-25 คะแนน) 4 หมายถึง มผี ลการปฏิบตั อิ ยใู่ นระดับดีเลศิ (16-20 คะแนน) 3 หมายถึง มีผลการปฏบิ ัติอย่ใู นระดบั ดี(11-15คะแนน) 2 หมายถึง มผี ลการปฏบิ ัติอยใู่ นระดบั ปานกลาง(6-10คะแนน) 1 หมายถงึ มผี ลการปฏิบัติอยใู่ นระดับกาลงั พัฒนา(1-5คะแนน) ตวั บง่ ชี้ ระดบั คณุ ภาพตัวบ่งชี้/มาตรฐาน 5 4 3 21 3.1 จัดการเรยี นรผู้ า่ นกระบวนการคิดและปฏิบตั จิ รงิ และสามารถนา ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตได้ 3.2 ใช้สอื่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรทู้ เี่ อ้อื ตอ่ การเรยี นรู้ 3.3 มีการบรหิ ารจดั การชน้ั เรียนเชงิ บวก 3.4 ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนาผลมา พฒั นาผู้เรียน 3.5 มีการแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละใหข้ ้อมูลสะท้อนกลบั เพื่อพัฒนาและ ปรับปรงุ การจัดการเรียนรู้ คะแนน 15 8 รวมคะแนน 23 สรุปผลการประเมนิ มาตรฐานท่ี 3 ยอดเยี่ยม
กจิ กรรม/โครงการ/หลักฐานร่องรอยที่ดาเนนิ การ ผลการดาเนนิ งาน จุดเดน่ โครงการพฒั นาปรบั ปรุง ซอ่ มแซมอาคารเรียนและอาคาร มีนวตั กรรมดา้ นระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น ประกอบ โดยใชโ้ ปรแกรมตรวจสอบรายช่ือผ่านสอื่ โครงการจัดการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศโดยครูชาวต่างชาติ เทคโนโลยี พัฒนานวตั กรรมโดยครู (องั กฤษ ลาว จนี เวยี ดนาม) คอมพวิ เตอร์ โครงการพัฒนาบรรยากาศและส่ิงแวดลอ้ ม โครงการพัฒนาปรบั ปรงุ งานวชิ าการ จุดควรพฒั นา โครงการพัฒนาระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี น กาลังขยายผลโดยการเผยแพรน่ วัตกรรมใหก้ บั โครงการพฒั นาระบบสารสนเทศ โรงเรียนในเครือขา่ ย จะพัฒนาตอ่ ใหก้ บั โรงเรียนนอกเครือขา่ ย โครงการพฒั นาสอื่ ICT เพ่ือการเรยี นการสอน โครงการรณรงค์การศกึ ษาตอ่ ในระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน โครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนกั เรียน การรับรองรายงานการประเมินตนเอง (Self AssessmentReport ; SAR) ลงชือ่ ผูร้ ายงาน (นางสาวอมุ าพร เมืองโคตร) ตาแหน่ง ครู ชานาญการพเิ ศษ 19 / มี.ค./2563 ลงชื่อ ผรู้ บั รองรายงาน (นางกลุ ชา กอ้ นใจจิตร) หัวหน้ากลุ่มสาระกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 19 / มี.ค./2563 ลงชอ่ื ผู้รบั รองรายงาน (นางสาวสาวิตรี ปารพี นั ธ์) หัวหน้าฝา่ ยวิชาการ 19 / มี.ค./2563 ลงชือ่ ผูร้ ับรองรายงาน (นายมงคล ธนาไสย) ผู้ชว่ ยผ้อู านวยการสถานศกึ ษา รกั ษาการในตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนปลาปากวิทยา 12 / ม.ี ค. /2563
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก ตารางการประเมนิ ผล
ภาคผนวก ข งานวิจัย
ชอื่ เรอื่ ง รายงานการพฒั นาชดุ กิจกรรมแนะแนวเพือ่ พฒั นาการศกึ ษาและอาชพี ตามแนวคิดการสรา้ ง องคค์ วามรูด้ ว้ ยตนเอง สาหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ชื่อผูร้ ายงาน นางสาวอมุ าพร เมืองโคตร หนว่ ยงาน โรงเรียนปลาปากวทิ ยา สานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 22 ปที ท่ี าการศึกษาคน้ คว้า 2562 บทคดั ยอ่ การพฒั นาชุดกจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาการศกึ ษาและอาชีพ ตามแนวคิดการสรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 เปน็ นวตั กรรมการศกึ ษาทส่ี ามารถนามาใชใ้ นการจดั กิจกรรม การเรยี นการสอนได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ เนอ่ื งจากเป็นสือ่ การเรียนการสอนที่ตอบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคล เปิดโอกาสให้ผู้เรยี นแสดงความคดิ เห็น ฝกึ การตัดสินใจ แสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง มีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่อื 1) เพ่ือพฒั นาชดุ กิจกรรมแนะแนวเพ่ือพฒั นาการศกึ ษาและอาชีพตามแนวคิดการสร้างองคค์ วามรู้ ดว้ ยตนเอง ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ทม่ี ีประสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพอื่ เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ นักเรยี น ก่อนและหลงั ไดร้ บั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรดู้ ว้ ยชุดกิจกรรมแนะแนวเพอื่ พฒั นาการศกึ ษาและอาชีพ ตาม แนวคิดการสร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 3) เพ่อื ศึกษาความพึงพอใจท่ีมีต่อชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพ่อื พัฒนาการศกึ ษาและอาชพี ตามแนวคดิ การสร้างองค์ความรดู้ ้วยตนเอง ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 กลุม่ เปา้ หมายเปน็ นกั เรยี นระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3/1 ทเี่ รยี นในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 โรงเรียนปลาปากวทิ ยา อาเภอปลา ปาก จังหวัดนครพนม จานวน 32 คน ท่ีไดจ้ ากการสมุ่ แบบเจาะจง (Purposive Sampling) รูปแบบการศึกษาคือ The One - Group Pretest- Posttest Design เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ในการศึกษาคร้ังน้ปี ระกอบด้วย ชุดกิจกรรมแนะแนวเพอ่ื พฒั นาการศกึ ษาและอาชีพ ตามแนวคิดการสร้างองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 จานวน 9 ชดุ แผนการ จัดการเรียนร้ดู ้วยชุดกจิ กรรมแนะแนวเพื่อพฒั นาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสร้างองค์ความรดู้ ว้ ยตนเอง ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน 11 แผน เวลา 18 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนกลุม่ สาระกิจกรรมพัฒนา ผเู้ รียน กิจกรรมแนะแนว ทกั ษะดา้ นการศึกษาและอาชพี แบบปรนยั 4 ตวั เลือก จานวน 30 ข้อ ซึ่งมีคา่ ความยากง่าย ตงั้ แต่ 0.22 ถงึ 0.78 คา่ อานาจจาแนกตงั้ แต่ 0.22 ถงึ 0.67 มคี า่ เชอื่ ม่นั ทง้ั ฉบบั 0.73 แบบทดสอบหลงั เรียนชดุ กิจกรรมแนะแนวเพ่อื พฒั นาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรดู้ ้วยตนเอง ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1-9 เปน็ แบบทดสอบปรนัย 4 ตวั เลือก ชุดละ 10 ข้อ 10 คะแนน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรยี นที่ มีต่อชดุ กิจกรรมแนะแนวเพอ่ื พัฒนาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคดิ การสร้างองคค์ วามรูด้ ้วยตนเอง ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 3 สถติ ทิ ีใ่ ช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู คือ ร้อยละ ค่าเฉลีย่ ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน และ t – test Dependent Sample ผลการศกึ ษาพบว่า 1. ชดุ กิจกรรมแนะแนวเพ่อื พัฒนาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสร้างองคค์ วามรูด้ ว้ ยตนเอง ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ท่ีผู้ศกึ ษาคน้ คว้าสรา้ งข้ึนมีประสิทธิภาพเทา่ กับ 89.44/88.44 ซง่ึ สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ท่ตี ั้งไว้
2. ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี นหลังเรยี นด้วยชดุ กิจกรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาการศึกษาและอาชพี ตาม แนวคิดการสร้างองคค์ วามรูด้ ว้ ยตนเอง ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 สงู กวา่ ก่อนเรยี นอยา่ งมนี ัยสาคัญทางสถติ ิท่ีระดับ .01 3. ความพงึ พอใจของนักเรียนทม่ี ีตอ่ ชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพอ่ื พัฒนาการศกึ ษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสร้าง องคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 อยู่ในระดบั มากทีส่ ุด
สรุป อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ การ ศกึ ษาคน้ คว้าครั้งนี้ เป็นการศกึ ษาเพือ่ พัฒนาชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพอ่ื พัฒนาการศึกษาและอาชพี ตาม แนวคิดการสร้างองค์ความรดู้ ้วยตนเอง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ซึ่งสามารถสรปุ สาระสาคญั และผลการค้นควา้ ได้ดังน้ี 1. ความมุ่งหมายของการค้นควา้ 2. สมมตฐิ านของการคน้ ควา้ 3. ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง 4. ระยะเวลาทใ่ี ช้ในการค้นคว้า 5. เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการคน้ คว้า 6. การวิเคราะห์ขอ้ มูล 7. สรุปผลการค้นคว้า 8. อภิปรายผล 9. ขอ้ เสนอแนะ ความมุง่ หมายของการศึกษา ในการศึกษาค้นคว้าครงั้ นีผ้ ูศ้ ึกษาไดก้ าหนดความมุง่ หมายของการศึกษาค้นคว้าไว้ ดงั นี้ 1. เพอื่ พฒั นาชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพ่อื พฒั นาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคดิ การสรา้ งองค์ความรู้ด้วย ตนเอง ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรียน ก่อนและหลงั ได้รับการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ดว้ ยชุดกิจกรรมแนะแนวเพอ่ื พัฒนาการศกึ ษาและอาชพี ตามแนวคดิ การสรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 3. เพื่อศกึ ษาความพงึ พอใจที่มตี ่อ ชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพฒั นาการศกึ ษาและอาชพี ตามแนวคดิ การ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 สมมติฐานการศึกษา ในการศึกษาค้นควา้ ครงั้ น้ผี ้ศู ึกษาได้ตั้งสมมติฐานการศกึ ษาคน้ คว้าไว้ ดงั น้ี ชนั้ 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ทเี่ รียนดว้ ย ชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคิดการสรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 หลงั เรยี นสูงกว่ากอ่ นเรียน มปี ระสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ท่ีเรยี นด้วยชุดกิจกรรมแนะแนวเพอ่ื พฒั นาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคดิ การสรา้ งองคค์ วามรูด้ ว้ ยตนเอง ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 หลังเรยี นสูงกวา่ ก่อนเรียน 3. ความพึงพอใจ ของนกั เรียน ท่ีมตี อ่ ชุดกิจกรรมแนะแนวเพอ่ื พฒั นาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง ประชากร ไดแ้ ก่ นักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนปลาปากวทิ ยา จานวน 6 ห้องเรยี น จานวน 166 คน ม.3/1 จานวน 32 คน ม.3/2 จานวน 29 คน ม.3/3จานวน 31 คน ม.3/4 จานวน 25 คน ม.3/5 จานวน 27 คน ม.3/6 จานวน 22 คน สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 22 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2561 บริบทของนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 คือใช้หลกั สตู รเดยี วกนั มกี ารจดั การเรยี นการสอนเหมอื นกนั และนกั เรยี นแตล่ ะห้องมคี วามสามารถใกล้เคยี งกนั กลุม่ ตัวอยา่ ง ไดแ้ ก่ นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3/1 โรงเรยี นปลาปากวทิ ยา สานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา มธั ยมศกึ ษา เขต 22 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2561จานวน 32 คน ซึ่งคัดเลอื กโดยวธิ ีการสมุ่ แบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะเวลาท่ใี ช้ในการค้นคว้า ระยะเวลาท่ีทาการคน้ ควา้ ปกี ารศึกษา 2561 ใช้เวลาในการทดลอง 18 ช่ัวโมง โดยทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นก่อนเรยี น จานวน 1 ชั่วโมง ทดลองสอน 16 ช่ัวโมง ทดสอบและวัดความพงึ พอใจที่มีตอ่ ชุด กจิ กรรมแนะแนวเพอื่ พฒั นาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสร้างองค์ความรดู้ ว้ ยตนเอง ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 หลัง เรยี น 1 ชว่ั โมง เครื่องมอื ท่ีใช้ในการค้นคว้า เครือ่ งมือที่ใชใ้ นการค้นควา้ ครงั้ น้ี จาแนกตามลักษณะการใช้ ดังนี้ 1. ชุดกิจกรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสร้างองคค์ วามรูด้ ้วยตนเอง ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 จานวน 9 ชดุ 2. แผนการจดั การเรียนรกู้ ลุ่มสาระการเรยี นรู้กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น กจิ กรรมแนะแนว ทไี่ ด้รบั การพฒั นา กจิ กรรมการเรยี นรกู้ ลุ่มสาระการเรยี นรู้กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมแนะแนว ด้านการศกึ ษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสร้างองค์ความรูด้ ้วยตนเอง ช้นั มธั ยมศึกษา ปที ี่ 3 จานวน 11 แผน 18 ชว่ั โมง
3. แบบวดั ความพงึ พอใจทมี่ ีตอ่ ชุดกิจกรรมแนะแนวเพอ่ื พฒั นาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคิดการสรา้ ง องค์ความร้ดู ว้ ยตนเอง ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 4. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น มีคา่ ความยากง่าย ตั้งแต่ 0.2-0.8 และมีค่าอานาจจาแนกต้ังแต่ 0.2 ขนึ้ ไป แบบปรนยั 4 ตวั เลอื ก จานวน 30 ขอ้ มคี ่า ความเช่ือมั่น เทา่ กบั 0.73 การวเิ คราะห์ข้อมลู 1. ประสทิ ธภิ าพของชดุ กิจกรรมแนะแนวเพอื่ พฒั นาการศกึ ษาและอาชีพ ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรู้ ด้วยตนเอง ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 2. การวเิ คราะห์เปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนกั เรยี นก่อนและหลงั ได้รับการสอนโดยใช้ชุด กิจกรรมแนะแนวเพอื่ พฒั นาการศกึ ษาและอาชพี ตามแนวคิดการสร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 3. การวเิ คราะหค์ วามพึงพอใจของนักเรยี นท่ีมีต่อชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาการศึกษาและอาชีพ ตาม แนวคิดการสร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 สรปุ ผลการศึกษาคน้ ควา้ 1. ชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพ่อื พัฒนาการศกึ ษาและอาชีพ ตามแนวคิดการสรา้ งองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ท่ีผู้คน้ คว้าสรา้ งขึน้ มีประสทิ ธิภาพเท่ากับ 89.44/88.44 ซง่ึ สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ตงั้ ไว้ 2. ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นหลังเรียนดว้ ยชุดกจิ กรรมแนะแนวเพือ่ พฒั นาการศกึ ษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสรา้ งองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 สงู กว่ากอ่ นเรียนอยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ระดับ .01 3. ความพึงพอใจของนกั เรียนทม่ี ีตอ่ ชดุ กิจกรรมแนะแนวเพ่อื พฒั นาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคิดการ สรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 อยู่ในระดบั มากทส่ี ุด อภิปรายผล การศกึ ษาค้นคว้าคร้งั น้ี ได้ขอ้ คน้ พบจากการทดลองกบั สมมติฐานการคน้ ควา้ ที่ตั้งไวท้ ุกขอ้ โดยพบว่า ชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพอ่ื พัฒนาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคิดการสรา้ งองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ที่ผู้ คน้ ควา้ สร้างขึน้ มีประสิทธภิ าพเท่ากับ 89.44/88.44 หมายความว่า นักเรียนทัง้ หมดได้คะแนนเฉลี่ยจากการทาแบบฝกึ ทกั ษะ ระหว่างเรยี นวัดจากคะแนนแบบทดสอบหลังเรยี นแตล่ ะชดุ รอ้ ยละ 89.44 และนักเรยี นท้งั หมดมีคะแนนเฉล่ยี จากการทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นหลังเรยี น รอ้ ยละ 88.44 แสดงว่าแบบฝกึ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ท่ีสร้าง ขนึ้ มปี ระสิทธภิ าพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 จากผลคะแนนท่มี ากกว่าเกณฑป์ ระสิทธิภาพทต่ี ง้ั ไวแ้ ละการสอนโดยใช้ชุด
กิจกรรมแนะแนวเพอื่ พฒั นาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคดิ การสรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ช่วย ให้นกั เรยี นมผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนสงู ข้นึ ซงึ่ ผคู้ น้ ควา้ ไดน้ าผลการค้นควา้ มาอภิปรายผลประเดน็ ที่สาคญั ดังนี้ 1. ผลการพฒั นาชุดกจิ กรรมแนะแนวเพ่อื พฒั นาการศึกษาและอาชีพ ตามแนวคิดการสรา้ งองคค์ วามรู้ ดว้ ยตนเอง ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ผู้คน้ คว้าได้พัฒนากจิ กรรมการเรยี นร้โู ดย ตามแนวคิดการสร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง เปน็ 6 ขัน้ ตอน แบง่ กลมุ่ เด็กเก่งเดก็ อ่อนอยู่กล่มุ เดียวกนั และเกิดกจิ รรมเพื่อช่วยเพ่อื นตามมา ดังนี้ ขนั้ ท่ี 1 ขัน้ ทบทวนความรู้เดมิ ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรูแ้ ละจัดกจิ กรรมท่หี ลากหลาย เพอ่ื ทบทวนความร้เู ดมิ เตรียมความ พรอ้ มและเรา้ ความสนใจของผ้เู รยี นใหพ้ ร้อมทจ่ี ะเรียนเรอ่ื งใหม่ ซึง่ กจิ กรรมทใ่ี ช้ เชน่ เกม การสนทนาประกอบสอื่ การยกตวั อยา่ งสถานการณ์ กระตุ้นย่ัวยุ หรือทา้ ทายใหน้ ักเรยี นสนใจสงสยั ใคร่รู้ อยากรู้อยากเหน็ หรือขัดแยง้ เกิด ปัญหาทาให้นกั เรียนต้องการศึกษาคน้ ควา้ ทดลองหรือแกป้ ญั หา (สารวจตรวจสอบด้วยตัวนักเรยี นเอง) หรอื ครูให้ นักเรยี นอา่ นสถานการณ์ ปัญหาจากใบงานและเรยี บเรียงเป็นคาพดู ของตวั เอง ครูอาจจะสุม่ ถามนกั เรียนเพ่ือกระตุ้น ให้นกั เรียนไดส้ อบถามกันและกัน เปน็ ตน้ ขั้นที่ 2 ขัน้ สร้างความขดั แย้งทางปญั ญา ครจู ัดกจิ กรรมหรือสถานการณใ์ ห้ นักเรียนสารวจตรวจสอบปัญหาหรอื ประเด็นที่นักเรยี นสนใจใคร่รู้ หรอื ครถู ามคาถามจากใบงานเพอื่ ใหน้ ักเรยี นตอบ คาถาม จากสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวันว่านักเรียนจะตอ้ งหาคาตอบคืออะไร คาตอบท่ไี ด้ตรงกบั ความรเู้ ดิมหรือ ขัดแยง้ กับความรู้เดมิ หรอื ไม่ เป็นต้น ขั้นท่ี 3 ขัน้ ศึกษาค้นคว้าเพ่ือสรา้ งความร้ใู หม่ ครกู ระตนุ้ ด้วยคาถามเพ่อื แกป้ ัญหาหรอื ช่วยให้นกั เรียนเลอื กใชว้ ธิ ีแก้ปัญหา หรือสร้างความรใู้ หม่ ครจู ดั สถานการณ์ทีใ่ หน้ ักเรียนวิเคราะห์ อธิบายความรู้ หรือ อธิบายซกั ถามแลกเปลยี่ นความคิดเห็นซ่งึ กนั และกนั เกยี่ วกบั ส่งิ ทไี่ ด้เรียนรหู้ รอื สงิ่ ทีไ่ ด้คน้ พบ เพื่อใหน้ กั เรยี นไดพ้ ฒั นาความรูค้ วามเขา้ ใจในองค์ความรู้ท่ไี ดอ้ ย่างชัดเจน ขัน้ ที่ 4 ข้ันตรวจสอบความเขา้ ใจ ครูจดั กิจกรรมหรือสถานการณท์ ีเ่ ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นไดข้ ยายหรอื เพิม่ เตมิ ความรู้ความเข้าใจในองค์ความร้ใู หมใ่ หก้ ว้างขวาง กระจา่ งสมบูรณ์และลกึ ซ้ึงย่งิ ขนึ้ หรือครูให้นกั เรียนตอบคาถามในใบงานเพอ่ื ดาเนนิ การแกป้ ญั หาตามขน้ั ตอนท่ไี ด้ รว่ มมือกนั สร้างขึ้น หรอื ครใู ห้นักเรียนพจิ ารณาคาตอบทไ่ี ด้รว่ มกนั เพื่อตอบปญั หาทีโ่ จทย์กาหนดให้ ตอบปญั หา ร่วมกนั คละกัน ใหเ้ ด็กวิเคราะหค์ วามสมั พนั ธก์ บั ส่งิ อ่นื ๆ ขนั้ ที่ 5 ขน้ั สรปุ ความรู้ ครใู หน้ กั เรียนตอบคาถามในใบงาน เพ่อื หาคาตอบ อนั จะเปน็ ข้อมลู นาไปสกู่ ารอธิบายและสรปุ ผลคาตอบท่ไี ด้ หรอื นกั เรียนรว่ มกันสรปุ แนวคิด หลักการ และกระบวนการในการแกป้ ัญหาในเรอื่ งท่ีเรียนครูช่วยสรุปเพิ่มเติมให้นักเรยี นไดค้ วามคดิ รวบยอดและหลักการที่ ถูกตอ้ ง ข้ันท่ี 6 ขน้ั ประยุกตใ์ ช้ความรู้ ครูให้นกั เรียนนาความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปแก้ปญั หาในสถานการณ์อื่นๆ ตอ่ ไป ซง่ึ ผลการจดั กจิ กรรมสอดคล้องกับแนวคิดของ ศิริลักษณ์ วัฒนศริ ิ (2545 : 44) ได้ศกึ ษาเกีย่ วกับการสร้างชดุ การสอนกิจกรรมแนะ แนวด้านอาชพี สาหรบั นกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นปัญญาวรคณุ กรุงเทพมหานครผลการคน้ ควา้ พบวา่ นักเรียนที่เข้ารว่ มกจิ กรรมโดยใชช้ ดุ การสอนกิจกรรมแนะแนวดา้ นอาชพี มีคะแนนสูงกว่าคะแนนกอ่ นเรียนเพ่ิมขน้ึ อยา่ ง มีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดบั .01 สอดคล้องงานคน้ ควา้ ของ อาภาพร ปัญญาฟู (2551 : บทคดั ยอ่ ) ไดศ้ กึ ษาการ พฒั นากจิ กรรมการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เร่ือง ทฤษฎบี ทพีทาโกรสั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ตามแนวคิดทฤษฎคี อน สตรัคตวิ ิสต์ ผลการคน้ ควา้ พบวา่ นกั เรยี นเกิดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เร่อื งทฤษฎีบทพีทาโกรสั ตามแนวคดิ ทฤษฎี คอนสตรคั ติวิสต์ นักเรยี นจานวนร้อยละ 71.87 ของจานวนนักเรียนทงั้ หมดมผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรียนเฉล่ีย ผ่าน เกณฑค์ วามรอบรู้ 70/70 ตามวัตถปุ ระสงคท์ ต่ี งั้ ไว้ งานคน้ ควา้ ของ วลิ เดอร์ (Willder. 2004 : 25-31) ได้ศกึ ษา การใชว้ ัฎจักรการเรียนร้แู บบ 5E เพือ่ ใชแ้ กป้ ญั หาการจัดการเรียนรูข้ องครูวิทยาศาสตร์ พบว่า วฏั จกั รการเรียนรู้
แบบ 5E ทาให้ผู้เรียนประสบผลสาเรจ็ จากการดาเนนิ การท่ีต่อเนื่องในการเรียนรู้ ทาให้นักเรียนเปน็ ผูส้ นใจในสิ่งที่ เรยี นรู้ รู้จกั การสืบเสาะ สามารถใหค้ าอธิบายสาหรบั ประสบการณ์เรียนรู้ ขยายความรู้และไดร้ ับการประเมินผลการ เรยี นรู้ ซึ่งทาใหไ้ ดข้ อ้ แนะนาในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้ วฎั จักรการเรยี นรูแ้ บบ 5E สาหรับนักเรียนในระดับ ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษาเปน็ ต้น เพราะฉะน้นั ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแนวคดิ คอนสตรคั ติวสิ ซมึ โดยใช้ รูปแบบการสอนแบบ 5E ช่วยพัฒนานกั เรียนในทกุ ด้าน และสอดคล้องกบั งานค้นควา้ ของ สุภาวดี ศรธี รรมศาสน์. (2551:บทคัดย่อ) ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบ 5E ท่เี นน้ พฒั นาความคดิ สรา้ งสรรคท์ างคณิตศาสตร์ สาหรบั นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 พบว่านักเรยี นจานวนร้อยละ 56.67 ไดค้ ะแนนความคดิ สร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ ตงั้ แตร่ อ้ ยละ 50 ข้ึนไป สูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนดให้และนกั เรียนจานวนรอ้ ยละ 73.33 มีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนต้ังแต่ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป ผ่านเกณฑ์ทก่ี าหนดไว้ สอดคล้องกับงานคน้ คว้าของ วรรณศิ า ปลอดโปร่ง (2555: ง) ซ่ึงได้ ทาการคน้ คว้าเร่ืองผลการใช้ชดุ กิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาการตระหนักรู้ในตนเองในการเลือกแผนการเรยี นของ นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒปทุมวัน และพบผลทสี่ าคญั คอื (1) ภายหลัง การทดลองนักเรียนทีไ่ ด้รับชุดกิจกรรมแนะแนวมกี ารตระหนักรูใ้ นตนเองในการเลือกแผนการเรยี นสูงขน้ึ กว่าระยะก่อน การทดลองอยา่ งมนี ัยสาคัญทางสถติ ทิ ่รี ะดบั .01 (2) ภายหลังการทดลองนกั เรียนกลมุ่ ทดลองทไ่ี ด้รบั ชุดกจิ กรรมแนะ แนวมกี ารตระหนกั ร้ใู นตนเองในการเลือกแผนการเรยี นสงู กว่า ของกลุ่ม ควบคุมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่รี ะดบั .01 (3) ในระยะติดตามผลนักเรียนกลุ่ม ทดลองทีไ่ ด้รับชดุ กจิ กรรมแนะแนวมีการตระหนกั รู้ ในตนเองในการเลือกแผนการ เรยี นสูงกว่าระยะก่อนการทดลองอยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดบั .01(4) ในระยะหลังการทดลองกับระยะตดิ ตามผล นักเรียนทไ่ี ดร้ ับชุดกจิ กรรมแนะแนวมกี ารตระหนกั ร้ใู นตนเองในการเลอื กแผนการเรียนไม่แตกตา่ งกัน 2. ด้านการพฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรยี นผลการค้นคว้าพบว่ามีคะแนนเฉลีย่ หลงั เรยี นสูงกวา่ กอ่ นเรียน อยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ .01 ซ่ึงเป็นผล มาจากการพัฒนาชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาการศึกษา และอาชีพ ตามแนวคิดการสร้างองค์ความรูด้ ว้ ยตนเอง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ทีเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั ให้นักเรียน สามารถสร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง และเนน้ เน้อื หา เนือ้ หาเป็นเรื่องท่ผี ู้เรยี นสนใจ มีกจิ กรรมการเรียนร้เู ป็นขน้ั ตอน ท่ีชัดเจน มวี ัสดุ เอกสาร การใชส้ ื่อทส่ี ามารถมองเห็นเปน็ รูปธรรม ประกอบกบั การบูรณาการกิจกรรมต่างๆ เพอื่ ให้ นักเรยี นไดแ้ สดงความคดิ เห็น สรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง และเช่อื มโยงความรเู้ ดิมกบั ความใหม่ได้ เป็นการเรยี นการ สอนคณิตศาสตรท์ แี่ ปลกใหม่ ทาให้นักเรยี นมคี วามสนใจกระตอื รือรน้ ต้องการที่จะเรียนรู้ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จัดเนื้อหาและกิจกรรมใหส้ อดคลอ้ งกบั ความถนดั ความสนใจและความแตกตา่ งของผู้เรยี นฝกึ ทักษะกระบวนการคดิ การจดั การ การเผชิญสถานการณ์ การประยกุ ต์ ใชเ้ พื่อแก้ไขปัญหา โดยผู้เรยี นได้เรียนรู้จากประสบการณจ์ รงิ ฝึกการ ปฏิบตั ิ ให้คดิ เป็น ทาเป็น และแกป้ ัญหาได้ รกั การอา่ นและใฝร่ ้ใู ฝ่เรยี น (กรมวิชาการ. 2542 :15-16) สอดคลอ้ งกับ งานคน้ คว้าของ วารี คชศลิ า (2546: บทคดั ย่อ) ได้ศกึ ษาผลการพัฒนาชดุ กิจกรรมแนะแนวเพ่ือการตัดสินใจเลือกศกึ ษา ตอ่ ในระดบั อุดมศกึ ษาของนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนสองพน่ี อ้ งวทิ ยา จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี และผลการจาก ค้นควา้ พบวา่ (1) ชดุ กิจกรรมแนะทีพ่ ัฒนาข้ึนมปี ระสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80/80(2) นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจในการตัดสินใจ เลอื กศกึ ษาตอ่ ในระดับอดุ มศกึ ษาสูงขึ้นอย่างมนี ัยสาคัญทางสถติ ิทร่ี ะดับ .05 และ (3) นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 มี ความพอใจตอ่ ชดุ กจิ กรรมแนะแนวเพอื่ การตัดสินใจเลอื กศึกษาตอ่ ในระดบั อุดมศึกษาอยใู่ นระดบั มาก งานคน้ คว้าของ นติ ยา อุทธการ (2552:บทคัดย่อ) ไดท้ าการคน้ คว้าเกีย่ วกับ การใชก้ จิ กรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาความสามารถในการ
ปรบั ตัวทางสังคมของนกั เรยี นระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1โรงเรยี นสนั ป่าตองวทิ ยาคม จังหวัดเชยี งใหม่ ดาเนนิ การ ทดลองโดยใช้กิจกรรมแนะแนวเปน็ ระยะเวลา 6สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 คาบ นาขอ้ มูลที่ไดม้ าวเิ คราะหโ์ ดยใชค้ า่ เฉล่ีย ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานและการทดสอบคา่ ที ผลการค้นควา้ พบว่า หลงั เขา้ ร่วมกิจกรรมแนะแนว นักเรียนมี ความสามารถในการปรบั ตวั ทางสงั คมโดยรวมทั้ง 4 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นการยอมรบั ตวั เองและผอู้ ื่น ดา้ นความสมั พนั ธก์ ับ เพื่อน ดา้ นความสัมพันธ์กับครู และด้านความสัมพนั ธ์กบั สภาพแวดล้อมในโรงเรยี นสงู ข้ึน อย่างมนี ัยสาคัญทางสถิติที่ ระดับ .01 สอดคลอ้ งกับงานค้นควา้ ของรุ่งทวิ า โพธใิ์ ต้ (2551: บทคดั ย่อ) ไดท้ าค้นคว้าเรอื่ งผลของการใช้กจิ กรรมแนะ แนวเพอื่ พัฒนาทกั ษะชีวิตด้านความตระหนักรู้ ในตนเองของนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2551 โรงเรยี นหนองบวั วทิ ยายน โดยผูค้ ้นคว้าเป็นผูจ้ ัดกิจกรรมแนะแนวเพอื่ พฒั นาความตระหนกั รใู้ นตนเองของนกั เรียน จานวน10 คร้ัง ครั้งละ 50 นาที เปน็ เวลา 10 สัปดาห์ผลการคน้ คว้าพบว่า หลงั การทดลองกลุม่ ทดลองมีคะแนนทกั ษะ ชีวิตดา้ นความตระหนักรู้ในตนเองเพิ่มขน้ึ อย่างมีนยั สาคญั ทางสถติ ิท่ีระดับ .05 และหลงั การทดลองกล่มุ ทดลองมี คะแนนทักษะชวี ิตด้านความตระหนักรู้ ในตนเองเพ่มิ ขน้ึ กว่า กลมุ่ ควบคุมอย่างมีนัยสาคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดบั .05 3. ด้านการพฒั นาความพงึ พอใจทมี่ ีตอ่ ชดุ กิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาการศกึ ษาและอาชีพ ตามแนวคดิ การสรา้ งองคค์ วามรูด้ ้วยตนเอง ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 อยู่ในระดบั ดถี ึงดมี าก จากการสงั เกตและสัมภาษณ์นกั เรยี นจะไม่ ชอบวิชาคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 อาจจะมาจากหลายปจั จยั เชน่ วธิ กี ารสอนไม่เรา้ ใจ ครไู ม่สอน เหตผุ ลหลังน้เี ป็นเรื่องจรงิ ของโรงเรยี นปลาปากวิทยา ทมี่ คี รูวิชาแนะแนวมี 1 คน ครไู มพ่ อสาหรบั จานวนนกั เรียน ทา ให้นกั เรยี นไม่ได้เรียนตอ่ เนอ่ื ง เรียนไมค่ รบตามหลักสูตร พอขึ้นมาชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ยงั ขาดความรู้ความเข้าใจ เกีย่ วกบั กิจกรรมแนะแนว เลยเกดิ เจตติท่ีไม่ดีตอ่ วิชาแนะแนว และในการจดั กิจกรรมสอนแบบเดิม แบบบรรยาย ทา ใหน้ กั เรยี นไม่มีความรู้ทอ่ี ยูแ่ บบคงทน ถามในเรื่องทีเ่ คยเรยี นมาแล้วไมส่ ามารถตอบได้ แตเ่ มือ่ ผ้คู ้นคว้าไดจ้ ดั กจิ รรม โดยใช้ชดุ กิจกรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาการศึกษาและอาชพี ตามแนวคิดการสรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง และเมอื่ ผเู้ รยี น ไดล้ งมือปฏิบัตดิ ้วยตนเองแล้วนกั เรียนจะสามารถจดจาสิง่ ที่เรยี นไดเ้ ปน็ อย่างดี และนัน่ เองเป็นสว่ นหน่งึ ในการทาให้ นักเรียน สามารถแกป้ ญั หาไดเ้ มื่อเจอปญั หา เพราะความรู้ทไี่ ด้จะคงอยู่สามารถระลกึ ได้ เมือ่ นกั เรียนมคี วามรู้อยูแ่ ลว้ สามารถแก้ปัญหาได้ก็จะทาใหน้ กั เรียนมเี จตคติต่อสง่ิ นัน้ ดีข้ึนด้วย สอดคลอ้ งกบั แนวคิดของ กิบสัน (Gibson.1980 : 416–422) ได้สารวจความคิดเหน็ ของครูในโรงเรียนมัธยมศึกษาในรฐั โอไฮโอ มชิ แิ กน เวสตเ์ วอจเิ นีย และอนิ เดียนา จานวน 208 คน เกีย่ วกับการจัดโครงการแนะแนวในโรงเรยี น พบว่า ครูสว่ นมากเหน็ วา่ การใหข้ อ้ สนเทศทางการศกึ ษา และอาชพี แก่นักเรียนเป็นสิ่งจาเปน็ อย่างมาก ครูจึงถือว่าการใหบ้ ริการสนเทศทางด้านการศึกษาและอาชีพแกน่ ักเรยี น เป็นบริการสาคัญในโครงการแนะแนวของโรงเรียน งานค้นคว้าของ เดอกิน (Durgin. 1974 : 2674 – 2675) ไดส้ ารวจ การจดั โครงการแนะแนวอาชพี ของโรงเรียนมัธยมศกึ ษา ในรฐั โอไฮโอ กบั ครแู นะแนวจานวน 884 คน พบว่า ตาม ความเห็นของครแู นะแนวแลว้ บรกิ ารแนะแนวอาชีพเปน็ บรกิ ารทีม่ ีความสาคญั มากทสี่ ุดในการชว่ ยใหน้ ักเรียนมี ความสามารถเลือกอาชีพไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและบางแห่งยอมรับวา่ โครงการแนะแนวในอาชีพของตนยงั จดั บริการให้ นกั เรียนไม่เพียงพอจาเปน็ ตอ้ งปรับปรงุ โดยด่วน เพอื่ ใหเ้ พยี งพอกับความต้องการของนักเรียน งานคน้ ควา้ ของ ดิคเคนส์ (Dickens. 1985 : 2502) ไดศ้ กึ ษาผลของการสอนโดยการใชโ้ ปรแกรมการศึกษาดา้ นอาชีพทีม่ ีต่อการรบั ร้ดู า้ นอาชีพ และอัตมโนมติของนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3และชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ของโรงเรยี นประถมศกึ ษามลรัฐนวิ เจอรซ์ ี่ ผลการศึกษาพบวา่ นักเรียนทีไ่ ด้รับการสอนโดยใช้โปรแกรมการศกึ ษาด้านอาชีพมีการรับรดู้ ้านอาชพี และอตั มโนมติ
สงู ข้ึนหลงั ได้รับการสอนแตไ่ ม่พบความแตกตา่ งของการรบั รู้ด้านอาชพี และอตั มโนมตริ ะหว่างนกั เรยี นชายและนักเรียน หญงิ สอดคล้องกบั งานคน้ ควา้ ของ วารี คชศิลา (2546: บทคดั ย่อ) ได้ศึกษาผลการพฒั นาชดุ กิจกรรมแนะแนวเพื่อการ ตัดสินใจเลอื กศกึ ษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรยี นสองพ่ีน้องวทิ ยา จังหวัดสพุ รรณบรุ ี และผลการจากคน้ คว้าพบว่า (1) ชดุ กิจกรรมแนะที่พัฒนาข้ึนมีประสทิ ธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80(2) นักเรียนมีความ เข้าใจในการตดั สินใจเลอื กศกึ ษาตอ่ ในระดับอดุ มศึกษาสูงขึ้นอย่างมนี ัยสาคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ .05 และ (3) นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความพอใจตอ่ ชุดกิจกรรมแนะแนวเพอื่ การตดั สินใจเลือกศกึ ษาตอ่ ในระดับอดุ มศกึ ษาอยใู่ นระดบั มาก ขอ้ เสนอแนะ 1. ขอ้ เสนอแนะจากผลการคน้ ควา้ 1.1 ในการใช้ชุดการสอนกจิ กรรมแนะแนวเพอ่ื พฒั นาด้านการศึกษาและอาชพี ของนกั เรยี นชว่ งช้นั ที่ 3 ผสู้ อนควรให้นักเรยี นช่วยกนั สรุปถึงประโยชน์ของแต่ละกิจกรรม เพ่อื ทน่ี กั เรียนสามารถนาไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ได้ 1.2 ควรสร้างชุดการสอนกจิ กรรมแนะแนวเพือ่ พฒั นาด้านการศกึ ษาและอาชีพของนักเรียนชว่ งชั้นที่ 3 ให้ มเี ทคนิคที่หลากหลาย แปลกใหม่ ทนั สมยั เหมาะสมกับตามความต้องการและความสนใจของผู้เรียน 1.3 ในการทากจิ รรมกลมุ่ ผ้สู อนควรกระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นได้มบี ทบาท หรอื ไดท้ ากจิ กรรมทกุ คน 1.4 การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนควรใช้สอ่ื ทเ่ี นน้ การปฏบิ ตั ิจริง เพอื่ ใหน้ กั เรยี นเกิดความสนใจ มี โอกาสสรา้ งความเขา้ ใจดว้ ยตนเอง และในการเรียนรเู้ ร่ืองเรขาคณติ ทกุ ชนั้ ตอ้ งมีกิกจรรมทส่ี ามารถพฒั นากระบวนการ คิด วเิ คราะห์ เพอื่ เปน็ พ้ืนฐานในการเรยี นรใู้ นระดบั สงู ต่อไป 1.5 เวลาในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ควรจัดใหเ้ หมาะสม และ แผนการจัดการเรียนร้คู วรแยกสอนเป็นชว่ั โมง เพราะบางโรงเรียนอาจจะมกี ารจัดคาบสอน ไม่ตอ่ เนือ่ งกันทาใหก้ จิ กรรมทีท่ าขาดตอน ไมส่ มา่ เสมอ การจดั กจิ กรรมก็ไม่เป็นไปตามท่คี าดหวังได้ 2. ขอ้ เสนอแนะในการทางานคน้ คว้าครง้ั ต่อไป 2.1 ในการใชช้ ดุ การสอนกิจกรรมแนะแนวเพอ่ื พัฒนาดา้ นการศกึ ษาและอาชีพของนกั เรียนชว่ งชัน้ ท่ี 3 ผสู้ อนควรมีการติดตามประเมินผล เพื่อนาขอ้ มลู มาพัฒนาปรับปรุงในการคน้ คว้าคร้ังตอ่ ไป 2.2 ในการค้นควา้ เกี่ยวกับการเรยี นรู้ ตามแนวคิดคอนสตรัคตวิ สิ ซึม ควรมีการพัฒนาในด้านกระบวนการคิด วิเคราะห์รว่ มดว้ ย และมีตัวแปรอน่ื ทม่ี ากกว่านเี้ พ่มิ ขึน้ เชน่ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ความรับผดิ ชอบ เปน็ ต้น หรอื เพมิ่ ทักษะกระบวนการคดิ ทห่ี ลากหลายกว่านอ้ี กี อาจจะเพ่มิ การทา โครงงาน การทาแฟม้ สะสมงาน เปน็ ต้น
2.3 ควรมกี ารหาประสทิ ธิภาพของชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว และควรมีแบบฝกึ หดั กอ่ นเรยี นและหลัง เรยี นใหน้ กั เรยี นทา เพือ่ จะไดท้ ราบว่าหลังจากเรียนกิจกรรมแนะแนวแตล่ ะกจิ กรรมไปแล้ว นกั เรยี นจะมกี ารพฒั นาดา้ น การศึกษาและอาชีพเพมิ่ ขึ้นมากนอ้ ยเพยี งใด
ภาคผนวก ค คาสั่ง/การไปราชการ
ภาคผนวก ง เกยี รติบัตร/รูปภาพ
รว่ มกจิ กรรมวนั คริสมาสต์ และวนั ข้นึ ปใี หม่ วันที่ 28 ธันวาคม 2563
รว่ มกจิ กรรมเล้ียงส่งครพู ฒั นพงษ์ แสงพนั ธ์ วันท่ี 28 ธันวาคม 2563
รว่ มอบรมพฒั นาการเรยี นการสอนของตนเองโดยใช้ Googleclassroom วันท่ี 21-22 ตุลาคม 2563
ประชมุ ประจาเดอื น ปกี ารศึกษา 2562
ประชมุ วชิ าการ ปกี ารศึกษา 2562
รว่ มให้กาลงั ใจครวู มิ ลรตั น์ พลโลก ประเมินเพื่อเล่อื นวทิ ยฐานะครชู านาญการ วนั ที่ 3 กมุ ภาพนั ธ์ 2563
รว่ มกิจกรรมปัจฉมิ นเิ ทศและมอบใบประกาศนยี บัตรสาหรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3,6 วันที่ 21 กมุ ภาพนั ธ์ 2563
รว่ มกิจกรรมปัจฉมิ นเิ ทศและมอบใบประกาศนยี บัตรสาหรบั นกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3,6 วันที่ 21 กมุ ภาพนั ธ์ 2563
เลอื กต้งั กรรมการนักเรยี นประจาปีการศึกษา 2563 วันท่ี 31 มกราคม 2563
รบั เกยี รตบิ ตั รครดู ไี ม่มอี บายมุข ในงานวันครู วนั ท่ี 16 มกราคม 2563
อบรมครู การพัฒนาบุคลากรทางการศกึ ษา การวัดผลประเมินผลผ่านระบบ SGS และการเตรียมความพรอ้ มก่อนขอมีหรอื เลื่อนวทิ ยฐานะครู วนั ที่ 12 มนี าคม 2563 ณ โรงเรียนปลาปากวทิ ยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: