Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานวิจัยในชั้นเรียน61

งานวิจัยในชั้นเรียน61

Published by rungrada243, 2018-09-17 09:17:19

Description: งานวิจัยในชั้นเรียน61

Search

Read the Text Version

งานวจิ ยั ในชนั้ เรียน เรื่อง การสารวจการสง่ งานของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 รายวชิ า การงานอาชีพและเทคโนโลยี ผ้วู จิ ัย นางสาววรารัตน์ ธิลา ตาแหนง่ พนกั งานราชการ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานพ้นื ฐานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2561โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชียงใหม่ สงั กดั สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ

ชื่องานวิจยั การสง่ งานของนักเรยี นของนกั เรียนชนั้ ม.2 ในรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีช่ือผู้วิจยั นางสาววรารตั น์ ธิลากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี บทคดั ยอ่ งานวิจัยชิ้นนี้เก่ียวกับการพัฒนาความรับชอบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในการส่งงานในวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ซึ่งข้าพเจา้ ได้จัดทาแบบบันทึกพฤติกรรมการส่งงานของนักเรียนในการสง่ งานแบบฝึกหัดและการทาใบงานปฏิบตั ิ ซ่ึงได้ข้อสรุปว่าในตอนแรกของงานวิจัยนักเรียนบางคนยังไม่สามารถปรับตัวเองให้มีความรับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมายแต่เมื่อได้รับการกวดขันจากครูผู้สอนนักเรียนสามารถปรับปรุงความรับผิดชอบของตนเองในการส่งงานได้มากยิ่งขึ้น

คานา แบบการวิจัยฉบับนี้เป็นการทาการวิจัยเพ่ือศึกษาเก่ียวกับการส่งงานของนักเรียนในรายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์31 อาเภอแม่แจ่มจังหวัดเชียงใหม่ ในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561 โดยการวิจัยครั้งนี้ได้ทาเป็นแบบบันทึกการส่งงานของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ท่ีมีความรับผิดชอบอยู่ในระดับที่ต้องพัฒนา สาเหตุของการจัดทางานวิจัยชิ้นน้ีเพ่ือต้องการฝึกให้นักเรียนมีความรับผิดชอบในส่งงานในทุก ๆ รายวิชาตามกาหนดเวลาท่ีครูสั่ง ให้เป็นลักษณะนิสัยที่ดีติดตัวนักเรียนไป และจะได้เป็นพื้นฐานในความรับผิดชอบในทุก ๆ ด้านของนักเรียนที่ต้องนาไปใชจ้ รงิ ๆ ในชีวติ ประจาวัน ดงั นัน้ ในการจดั ทาแบบการวิจัยชน้ิ นข้ี า้ พเจ้าหวังว่าจะเปน็ ประโยชนต์ ่อการเรยี นการสอนและเปน็ การปลูกฝงั นิสยั ใหก้ ับนกั เรยี นในดา้ นความรบั ผดิ ชอบและการตรงต่อเวลามากยิ่งข้ึน

บทท่ี 1 บทนาความเป็นมาและความสาคญั ของงานวิจยั การเรยี นรู้ไมไ่ ดห้ มายถึงการท่ีเขาตอบคาถามท่เี ราถามไดเ้ ทา่ น้ัน แต่หมายถึงการทีเ่ ขารวู้ า่ สง่ิ ทเี่ ขากาลงั เรียนคืออะไร สามารถใช้ความรทู้ มี่ อี ยู่แลว้ มาเช่อื มโยงกบั ความร้ใู หม่ท่ีเรากาลังสอนหรอื ไม่ และสามารถนาส่งิ ทเ่ี ราสอนไปประยุกต์ใช้กบั สถานะการณ์อน่ื ๆ ได้หรือไม่ สง่ิ เหล่านเี้ ปน็ ส่ิงทผี่ ู้เรยี นตอ้ งทาเอง ครูไม่สามารถจะทาใหเ้ ขาได้ ส่งิ ท่คี รจู ะทาได้ คอื ตอ้ งเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นไดท้ าส่ิงดงั กล่าว โดยสร้างบรรยากาศการเรียนทีเ่ ออ้ื กับสิ่งเหลา่ นี้การสร้างบรรยากาศในการเรียนเพ่อื ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ กิดการเรียนรู้ คอื ต้องทาให้ผเู้ รยี น เรียนอยา่ งกระตอื รอื รน้ (active learning) และตระหนกั วา่ ตนกาลังเรียนอะไรอยู่ ครจู ะสามารถสรา้ งบรรยากาศแบบนไ้ี ดจ้ าก การจดั ชั้นเรยี น การสร้างแบบเรียนและกิจกรรมในห้องเรยี น และการหาเคร่ืองมือท่ีจะชว่ ยใหผ้ ู้เรียนไดพ้ ดู ถงึ สง่ิ ท่ีเรยี นออกมาเพอ่ื จะได้รบั รวู้ ่าตัวเขาเองกาลังทาอะไรอยู่ (self - awareness) เชน่การเขยี นไดอาร่ที ีพ่ ดู ถึงการเรยี น ปญั หาทพี่ บ และสง่ิ ท่ีไดเ้ รียนการจัดชัน้ เรยี น ควรจะใหผ้ เู้ รยี นได้มีโอกาสทางานกลุ่มเพอ่ื ท่ีจะได้แลกเปลยี่ นความรู้และความคดิ เห็นกับเพ่ือน การสร้างแบบเรียนและกิจกรรมในหอ้ งเรยี น ควรจะให้ผู้เรียนไดม้ ีส่วนรว่ มในการเลือกกจิ กรรม เลือกการบ้าน และเลือกกลมุ่ คนทเ่ี ขาอยากจะทากิจกรรมในห้องเรียนด้วย ผ้เู รยี นควรจะรูว้ า่ เขาถกู คาดหวังใหเ้ รียนอะไรในวิชานัน้ เพ่ือจะไดร้ วู้ ่าวิธกี ารเรียนที่เขาเรียนเหมาะสมหรอื ไม่ และเขาบรรลเุ ป้าหมายทตี่ ง้ั เอาไว้หรอื ไม่ ครูควรจะคานึงถึงความแตกต่างระหวา่ งผู้เรียนว่า เด็กในช้ันมคี วามสามารถ ความชอบ และมีแรงจูงใจในการเรยี นแตกต่างกัน ถา้ หากกาหนดใหเ้ ดก็ ทางานแบบเดียวกัน คนทุกคนจะเกดิ การเรียนรไู้ ม่เทา่ กัน นอกจากนีค้ รูควรจะใหค้ วามสาคญั กับการสอนใหเ้ ดก็ ตระหนักว่าเขากาลงั เรยี นอะไร และเรยี นอยา่ งไร

ไดอารี่เปน็ สง่ิ ที่จะชว่ ยให้ผเู้ รยี นสามารถบนั ทกึ กระบวนการเรียน งานทีเ่ ขาทา และยังใชเ้ ปน็ สือ่ ทคี่ รูกับเดก็ จะติดตอ่ สื่อสารกันโดยไมจ่ าเปน็ ต้องนาเรื่องนั้นเข้ามาพดู ในห้องเรียน การเขยี นไดอารีจะชว่ ยให้ผู้เรยี นไดค้ ิดย้อนไปถึงกระบวนการทีเ่ ขาเรียนรแู้ ล้วเขียนบรรยายออกมา (reflective) การท่ีเขาตอ้ งเขียนบรรยายถงึ วิธีการและข้ันตอนในการเรียน จะชว่ ยให้ผูเ้ รยี นตระหนกั ถึงกระบวนการการเรยี นรู้ ข้อดีและข้อดอ้ ยของตวั เอง ซง่ึ จะทาใหเ้ ขารูต้ ัวและปรับปรงุ ตัวได้ และยังทาใหเ้ ขารู้ว่ากาลังเรยี นอะไร สว่ นผ้เู รียนในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ปญั หาในการเรยี นร้ทู ี่พบมากคอื ไม่สง่ งานตามระยะเวลาทค่ี รกู าหนดทาให้เกดิ ปญั หาดา้ นการเรียนการสอน ครูจงึ ควรรว่ มกันฝกึ ผู้เรยี นให้ตระหนักถงึความสาคัญกระบวนการการเรียนรู้จะช่วยให้เขามคี วามมนั่ ใจทจ่ี ะเรยี นรไู้ ดต้ ลอดชวี ติ (life-long learning)จุดมงุ่ หมาย ให้ผเู้ รยี นตระหนกั ถงึ ความสาคญั เล็งเห็นถงึ ประโยชน์และมีเจตคตทิ ด่ี ีต่อการส่งงานท่ีสามารถนาไปใช้ได้จริงในชวี ติ ประจาวันและปลกู ฝงั ความรบั ผิดชอบตัวแปรที่ศึกษา การสง่ งานของนกั เรยี นกรอบแนวคดิ ในการวจิ ยัแบบฝึกหดั /ใบงาน การส่งงาน นกั เรียนครูผสู้ อนประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รบั หลงั จบการวิจัยผเู้ รียนตระหนักถึงความสาคญั เลง็ เหน็ ถงึ ประโยชน์และมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ การสง่ งานและสามารถนาชิ้นงาน/ใบงานไปใชใ้ นวชิ าอน่ื ๆและผู้เรยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบเพ่มิ มากขึน้



บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยอา้ งอิง \"ดินทีพ่ อกหางหมู มีแตจ่ ะเพม่ิ มากขึ้นๆและถ่วงหมูใหก้ นิ อยู่หลบั นอนไม่เปน็ สุขยง่ิ ๆ ขึ้นไปฉนั ใดการงานท่ปี ล่อยทงิ้ ไวค้ ั่งคา้ ง กม็ ีแต่จะยง่ิ เพิ่มมากขน้ึ และถว่ งความเจริญกา้ วหนา้ ทั้งแกต่ นเอง และหมคู่ ณะฉันนั้นค่าของคนอยู่ท่ผี ลของงานหากปล่อยการงานใหค้ ง่ั คา้ งก็เทา่ กบั กาลงั ทาลายคา่ ของตนเอง\"เหตุที่ทาให้งานค่งั ค้างคือ 1. ทางานไม่ถูกกาล ยงั ไม่ถงึ เวลาทาก็ใจรอ้ นด่วนไปทา แตพ่ อถงึ เวลาควรทากลบั ไมท่ า เช่น ตอนแดดออกมวั ไปถบู ้าน พอฝนตกกลับไปซักเสือ้ ผา้ ตากเท่าไหรก่ ็ไมแ่ หง้ หรือตอนเด็กไมย่ อมเรียนหนังสือ เท่ยี วสามะเลเทเมา พอแกเ่ ฒา่ จะมาเรียนกเ็ รยี นไมไ่ หวแลว้ 2. ทางานไม่ถูกวิธี ทาผิดขั้นตอน ผดิ ลาดบั เช่น จะทาความสะอาดบ้าน ก็ไปกวาดพนื้ ก่อน แล้วกวาดเพดานทีหลงั ฝนุ่ ผงต่างๆ ก็ตกลงมาต้องกวาดพื้นใหมอ่ ีก เปน็ ต้น 3. ไมย่ อมทางาน ชอบผดั วนั ประกันพรุ่ง หรือหาเหตุต่างๆ นานามาอ้าง เชน่ รอฤกษ์รอยาม พระ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรัสว่า ถา้ เราจะทาความดีเม่ือไร ฤกษ์กด็ เี ม่ือนน้ั ไมต่ ้องรอ ทาไปได้เลย ประโยชน์ย่อม เป็นฤกษ์ของประโยชน์เอง\"ประโยชนย์ อ่ มลว่ งเลยคนโง่ ผู้มวั รอฤกษ์ยามอยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของ ประโยชน์เอง ดวงดาวจกั ทาอะไรได้

บทท่ี 3 วธิ ดี าเนนิ การวจิ ยัประชากร นกั เรยี นในระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 จานวน 125 คน โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2561กลุ่มตัวอยา่ ง นกั เรยี นในระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 125 คน โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31อาเภอแม่แจม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561วิธีดาเนนิ การวจิ ยั 1. คดั เลอื กเดก็ ทข่ี าดความรับผดิ ชอบเร่อื งการสง่ งาน 2. ประชมุ ครูผู้ร่วมวิจัยเพอ่ื แบ่งความรบั ผิดชอบ 3. เรยี กนักเรยี นเขา้ พบพูดคยุ เพอื่ แก้ปญั หาเป็นรายบุคคล 4. ติดตามผลการส่งงานในวชิ า องั กฤษ คณติ ศาสตร์และคอมพิวเตอร์ 5. ตรวจสอบความความรบั ผิดชอบเรอื่ งการส่งงาน จากครูประจาชนั้ หรือครูผู้สอนระดับ ม.2 6. รวบรวม และสรปุ ผลการวจิ ยั เพื่อนาเสนอเครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ นการวจิ ัย แบบฝึกหัดท้ายบทเรยี น ใบงานปฏบิ ัติตามเนอ้ื หาในบทเรียน แบบบนั ทกึ พฤติกรรมนกั เรยี นในการสง่ งาน

บทท่ี 4 ผลการวจิ ยัผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล/ผลการแกป้ ญั หาจากการนาไปปฏิบตั ิจริง ผูว้ ิจยั ได้ดาเนินการทาการวจิ ัยตามข้ันตอนต่าง ๆ ท่เี ตรยี มไวแ้ ละนาไปใช้กับนักเรียนในระดับชนั้มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 125 คน แล้วพบว่าในระยะเริ่มแรกของงานวจิ ัยนกั เรยี นบางคนขาดความรบั ผิดในการสง่ งานแตเ่ มื่อได้รับการกวดขันจากครูในแตล่ ะรายวิชามกี ารสง่ งานและการปฏบิ ตั ิงานได้ดขี ้ึนในระดบั หน่งึแตย่ ังคงตอ้ งมีการทวงถามในบางครงั้ นักเรียนยังมีความรบั ผดิ ชอบต่องานของตนเองไม่มากพอในระดบั ที่คาดหวงั วา่ ควรจะเปน็ ขา้ พเจ้าจึงไดแ้ ก้ปญั หาทเ่ี กดิ ข้ึนโดยการจดั ทาใบบนั ทกึ การส่งงานในนักเรียนท่ีมปี ญั หาและใชค้ ะแนนเข้ามาเป็นเครอ่ื งจงู ใจในการสง่ งานของนกั เรยี นซง่ึ ภายหลังจากการทาการแกไ้ ขดังน้นี กั เรยี นมีความรับผิดชอบในการสง่ งานทด่ี ีข้ึน

บทที่ 5 สรุปผลการวจิ ยัจากผลการวจิ ยั สรุปได้ดงั น้ีคอื การวจิ ัยการปลูกฝังความรบั ผดิ ชอบเร่ืองการส่งงานของนักเรยี นเริ่มจากแบบสารวจการสง่ งานในวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี และนาผลการบนั ทึกการส่งงานของนักเรียนในระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2ท้ังหมดจานวน 125 คน ทง้ั หมด 4 ห้องเรยี นมาสมั พนั ธ์กบั การบันทึกผลการสง่ งาน นักเรียนสว่ นใหญท่ างานสง่ ตามกาหนดเวลาทม่ี อบหมายให้ พบนกั เรยี น 6 – 10 คน ในแตล่ ะห้องไมส่ ง่ งานตามกาหนด ครูได้มอบหมายให้กลับไปทางานใหเ้ สรจ็ เพ่ือส่งงานในชว่ั โมงเรยี นหน้า เม่ือนกั เรียนได้รับการฝกึ ใหม้ ีนิสัยที่ตรงต่อเวลาในการส่งงานและมีความรับผดิ ชอบต่องานทไ่ี ด้รบั มอบหมายเพอื่ เปน็ พ้ืนฐานนสิ ัยทดี่ ใี หก้ บั นกั เรยี นหลังจากนน้ั มีการแจง้ ให้นกั เรียนทราบผลการงานของนักเรยี นในกรณีทีน่ กั เรียนไม่ต้ังใจทางาน ทางานเพ่ือใหเ้ สรจ็ๆ ไป จะไดไ้ มโ่ ดนบันทึก ครแู กไ้ ขโดยการให้นักเรียนกลบั ไปแก้ไขงานทที่ า เพือ่ ทาให้นกั เรียนทราบวา่ ว่าการทางานในคร้งั ตอ่ ไปตอ้ งทางานให้เรยี บร้อยและเสร็จใหท้ นั เวลาท่คี รูกาหนด ผลท่ไี ด้นกั เรียนเกิดการพัฒนาตนเองในการทางานครงั้ ตอ่ ไปได้ดขี ึน้ ผลการทางานแบบฝกึ หดั 3 บท และ ใบงานปฏบิ ตั ิ 5 ใบงาน นักเรยี นมีการพฒั นา ระดับการสง่ งานของตนเองดขี ้ึนเปน็ ลาดบั สาหรับนกั เรียนทที่ างานสง่ ตรงเวลาเดิมอยูแ่ ลว้ ก็มกี ารพฒั นาในด้านความเรยี บรอ้ ยของงานเพมิ่ มากข้นึ จากเดมิ อกี ดว้ ยข้อคิดทไ่ี ด้จากการวิจัย 1. ควรมีการสารวจการสง่ งานในทุกรายวิชาทเ่ี ปดิ สอนในระดบั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 2. เพิม่ วิธกี ารแก้ปัญหาและหาสาเหตุหรอื ปัจจยั ที่ส่งผลต่อการส่งงานลา่ ชา้ หรอื ไมส่ ง่ งานเลย 3. มอบรายชอ่ื ผู้เรยี นทม่ี ปี ญั หาเร่อื งการส่งงานให้ครูประจาชนั้ เพือ่ ดาเนนิ การแก้ปญั หาในลาดบั ต่อไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook