การเตน้ แอโรบิคและการแปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนที่มาเตน้ แอโรบิค ณ
48 การเต้นแอโรบคิ กับการเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมและภาวะ สุขภาพของประชาชนท่มี าเต้นแอโรบิค ณ.สวนชมน่าน จ.พษิ ณุโลก ชิตพล โนวฤทธ์ิ ชชั วาล ฉ่ินไพศาล อนชุ ติ หิรัญกิตติ AbstractObjective : To study health behaviors that changed along with aerobic dance exercise and thesequence of health behavior changes.Method : In-depth interveiws and descriptive analysis were done with the sample.Selected by quotasampling method,by aged group:11-19 year old (1 male and 3 females),20-59 year old (2 males and3 females),20-59 year old (2 males and 2 females), > 60 year old (2 males and 2 females), andpurposively selected the leader of aerobic dance exercise ( 1 case ). The total of 13 cases wereobtained .Result : Most people performed aerobic dancing revealed that their health behaviors and healthstage had changed in the positive direction,i.e. sleep behavior, health status,proper used ofmedicine , relationship behavior ,healthy education and occupation , good health esteem .Thebehaviors that has not changed included eating habit ,drinking alcohol and tobacco smoking , anddriving behavior. The sequence of health behavior changes after aerobic dance exercise in the most peoplestarted from health status ,sleep behavior and eating habit . The study showed that most health behaviors change after aerobic dance exercise but insome cases eating habit had changed before aerobic dance exercise . Other types of exercise that came with aerobic dance exercise inclued walking ,jocking,swimming ,badmintun and Rumkrabong . The reason for joining aerobic dance exercise was to promote their health. This study confirmed the hypothesis that health promotion in one area had effects on healthylife style.
49บทคดั ย่อวตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ศกึ ษาการออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ มสี ว่ นเปลย่ี นแปลงตอ่ สขุ ภาพอะไรบ้าง และพฤตกิ รรมและภาวะสขุ ภาพใดถกู ปรับเปลยี่ นได้ก่อนหลงั ตามลาดบัสถานท่ีทาการศกึ ษา สวนชมนา่ น เทศบาลนครพิษณโุ ลกวธิ ีการดาเนินการวิจยั ทาการสมั ภาษณ์เชิงลกึ เชิงพรรณนา โดยทาการคดั เลอื กประชากรตวั อยา่ งแบบสมุ่ตามอายแุ ละเพศ โดยคดั เลอื กแบง่ ตามชว่ งอายเุ ป็ น อายุ 11-19 ปี (ชาย 1 ราย,หญิง 3 ราย),อายุ 20-59 ปี (ชาย2 ราย หญิง 2 ราย),อายมุ ากกวา่ 60 ปี (ชาย 2 ราย ,หญิง 2 ราย)และคดั เลอื กผ้นู าเต้นแอโรบคิ 1 ราย รวมจานวนทงั้ สนิ ้ 13 รายผลการวจิ ัย จากการศกึ ษาพบวา่ การออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ ของประชาชนทม่ี าเต้นแอโรบิคณ สวนชมนา่ น จงั หวดั พษิ ณโุ ลก กบั การเปลยี่ นแปลงทางสขุ ภาพพบวา่ หลงั จากการเต้นแอโรบคิ แล้วพฤติกรรมสขุ ภาพและภาวะสขุ ภาพของผ้เู ต้นแอโรบคิ เปลย่ี นแปลงไปในทางทีด่ ีขนึ ้ ได้แก่พฤติกรรมด้านการนอน, ด้านการใช้ยา,ด้านสมั พนั ธภาพ,ด้านการเรียนการงาน,ด้านความมนั่ ใจ,ภาวะสขุ ภาพ และมบี างพฤตกิ รรมทปี่ ระชาชนในกลมุ่ ผ้เู ต้นสว่ นมากมคี วามคดิ เหน็ วา่ ไมม่ กี ารปรับพฤตกิ รรมสขุ ภาพได้แก่ พฤตกิ รรมด้านการบริโภคอาหาร,พฤติกรรมด้านการบริโภคเครื่องด่มื ทม่ี ีอลั กอฮอลแ์ ละบหุ รี่ ,ด้านการขบั ขยี่ วดยาน , นอกจากนยี ้ งั ทาให้ทราบถึงลาดบั การเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมและภาวะสขุ ภาพตา่ งๆ ท่เี กิดขนึ ้ กอ่ นหลงัหลงั จากทม่ี าออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ โดยตามความคิดเหน็ สว่ นมากเป็ นไปดงั นี ้พฤติกรรมด้านการนอน ,ด้านการบริโภคอาหาร ตามลาดบั และการศกึ ษาพบวา่ มปี ระชากรกลมุ่ ตวั อยา่ งบางสว่ นได้ปรับเปลย่ี นพฤติกรรมด้านการบริโภคก่อนทจี่ ะเต้นแอโรบคิ แล้วเน่ืองจากมีโรคประจาตวั สว่ นภาวะทางสขุ ภาพท่ถี กูปรับเปลย่ี นเป็ นอนั ดบั แรก คอื ทางด้านสขุ ภาพ และด้านความภมู ิใจเป็ นอนั ดบั ตอ่ มา ในสว่ นของปัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ พฤติกรรมสขุ ภาพอน่ื นอกจากการเต้นแอโรบคิ ยงั พบวา่ มกี ารออกกาลงั กายอยา่ งอนื่ ได้แก่ การเดิน ,วิง่ ,วา่ ยนา้ ,แบดมินตนั ,รากระบอง เป็ นต้น และการบริโภคอาหารท่มี ีประโยชน์ตอ่สขุ ภาพ ได้แก่ ข้าวกล้อง ,เน้อปลา ,หวั ไชโป๊ ว,ผลไม้ ,นาลกู ยอ เป็นต้น ที่มผี ลตอ่ การปรับพฤตกิ รรมสขุ ภาพได้เช่นกนั ประชากรกลมุ่ ตวั อยา่ งได้ไห้เหตผุ ลหรือแรงจงู ใจท่ีทาให้มาเต้นแอโรบคิ คอื ต้องการออกกาลงั กายเพื่อเสริมสร้างสขุ ภาพทงั้ ความสนกุ ทาได้งา่ ยไมต่ ้องใช้อปุ กรณ์ใดๆ มแี หลง่ ใกล้บ้าน และบรรเทาความเจ็บป่ วยทตี่ นเป็ นอยู่ และผ้เู ต้นแอโรบิคเองก็มีสว่ นสาคญั ท่ชี ่วยให้บคุ คลท่อี ยรู่ อบข้างไมว่ า่ จะเป็ น ญาตพิ ่ีน้อง เพอื่ น หรือแม้กระทงั่ คนที่ไมร่ ู้จกั กนั มาก่อนได้ตระหนกั และปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพดขี นึ ้ จากเดมิ โดยผา่ นการสร้างสมั พนั ธภาพระหวา่ งผ้ทู ีเ่ ต้นกบั บคุ คลอน่ื ในลกั ษณะของการพดู คยุ เรื่องสขุ ภาพ การชกั ชวนกนั มาออกกาลงั กาย
50เป็ นกลมุ่ และการเป็ นแบบอยา่ งในการออกกาลงั กายถึงแม้มไิ ด้ถกู ชกั ชวนมากอ่ น ทาให้บคุ คลเหลา่ นนั้ ได้รับประโยชน์จากพฤตกิ รรมสขุ ภาพนนั้ ด้วยหลักการและเหตุผล ในปัจจบุ นั มีผ้สู นใจเข้าร่วมการออกกาลงั การโดยการเต้นแอโรบคิ มากขนึ ้ ในทกุกลมุ่ อายุ เนื่องจากเป็นการออกกาลงั กายท่ีไมต่ ้องใช้อปุ กรณ์มากและผ้เู ต้นก็ได้รับความเพลิดเพลนิ ระหวา่ งการออกกาลงั กายอีกทงั้ ทางองค์กรณ์ตา่ งๆ ทงั้ ภาครัฐบาล และเอกชนก็ออกมารณรงคใ์ ห้ประชาชนออกกาลงั กาย เพ่ือสขุ ภาพท่ีดีถ้วนหน้ากนั เป็นท่ีทราบกนั เป็นอยา่ งดแี ล้ววา่ การออกกาลงั กายนนั้ ชว่ ยในการเสริมสร้างสขุ ภาพให้แก่ผ้ทู ่ีออกกาลงั กาย ซง่ึ ทางคณะวจิ ยั ได้มีโอกาสศกึ ษาสมมตฐิ านของ Janine Hale จากบทความเร่ือง”does health economics do health promotion justice” ในหนงั สือ“Research health promotion (คศ.2000)”หน้า 142-153 ที่กลา่ วถงึ การที่บคุ คลซงึ่ อยู่ในโปรแกรมสขุ ภาพ ไมเ่ พียงแต่ เขาผ้นู นั้ จะได้รับผลดีตอ่ สขุ ภาพเทา่ นนั้ ผ้ทู ี่อยนู่ อกโปรแกรมก็มีโอกาสท่ีจะได้รับจะได้รับผลดีทางสขุ ภาพนนั้ ด้วย ซงึ่ ทางผ้ทู าการวิจยั มีความสนใจในในการเต้นแอโรบคิ วา่ มีสว่ นชว่ ยให้พฤติกรรม ทางสขุ ภาพ ของผู้ที่ออกกาลงั เปลี่ยนแปลงได้หรือไมอ่ ยา่ งไรและสง่ ผลถงึ บคุ คลที่อยรู่ อบข้างของผ้เู ต้นหรือไมอ่ ยา่ งไร เพื่อเป็ นประโยชน์ในการเข้าใจถึงปัจจยั ท่ีมีสว่ นเกื่ยวข้องกบั การปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ซงึ่ อาจนามาใช้เป็นข้อมลู พืน้ ฐานในการศกึ ษาวิจยั เพ่ือสง่ เสริมกิจกรรมสขุ ภาพในการลดพฤตกิ รรมเสี่ยงตอ่ ไปกรอบแนวคดิ ในการวจิ ัย ตวั แปรตาม พฤติกรรมและภาวะสุขภาพท่ี ตัวแปรอสิ ระ การออกกาลงั กาย เปล่ียนแปลง การเต้นแอโรบิค
51ทบทวนวรรณกรรม Janine Hale,2000. Health economic and health promotion.Research healthpromotion.142-153 The possibility of the social diffusion,where one person changing their behavioras aresult of the health promotion campaign may result in others around them alsochanging their behavior.For example,Rosen(1989)estimated the impact of socialdiffusion on smoking to be 20 per cent,which implies that for every ten people who stopsmoking there will be another two who also stop or do not start. The possibility of ‘lifestyle effect’ of regular exercise,where an individual whoundertakes regular exercise also changes other aspects of their lifestyle,making themmore healthy too.(Wester Wedman 1988) There are also externalities or interpersonal external effects(Sugden andWilliams 1978).These occur when an individual gains a benefit from the knowledge thatother s have received the health promotion programme,even if that individual dose notreceive the programme themselves. วรรณภา วัฒนกูล,2541.ปริมาณไขมันของนักเต้นแอโรบคิ หญิง.รายงานการวจิ ัยเพ่อื ปริญญาวทิ ยาศาสตร์มหาบัณฑติ สาขาวิทยาศาสตร์การออกกาลังกายและการกีฬา ศกึ ษาโดย RCT โดยกาหนดจานวนนกั เต้นแอโรบคิ หญิงจานวน 59 คนโดยแบง่ เป็นสองกลมุ่ ได้แก่ กลมุ่ ที่ออกกาลงั กายและไมไ่ ด้ออกกาลงั กาย และหลงั จากออกกาลงั กายแล้วให้กลมุ่ตวั อยา่ งงดอาหารข้ามคืน 12 ชวั่ โมง แล้วนาไปเจาะเลือดเพ่ือหาปริมาณในเลือด ผลการวจิ ยั พบวา่นกั เต้นแอโรบคิ หญิงมีระดบั HCL-C สงู กวา่ ,ระดบั LDL-C/HDL-C และTC/HDL-C ต่ากวา่ หญิงท่ีไมไ่ ด้ออกกาลงั กายอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติ
52ชมานันท์ บวั งาม,2541.ผลของการใช้กระบวนการกลุ่มและการออกกาลังกายต่อการลดความว้าเหว่ของผู้สูงอายใุ นตาบลทะเลทรัพย์ อาเภอ ปะทวิ จงั หวัดชุมพร.รพ.ประทวิ สานักงาน สาธารณะสุขจงั หวัดชุมพร เป็นการวจิ ยั เชงิ สารวจ เพ่ือศกึ ษาความว้าเหวข่ องผ้สู งู อายุ กบั คณุ ลกั ษณะสว่ นบคุ คล ด้านประชากร ด้านสงั คม และเศรษฐกิจ ด้านสขุ ภาพ และด้านการสญู เสีย โดยใช้การสมุ่ ตวั อย่างแบบแบ่งกลมุ่ และการวจิ ยั กึ่งทดลอง โดยใช้กระบวนการกลมุ่ และการออกกาลงั กายกบั กลมุ่ ทดลอง 45 คน เทียบกบั กล่มุ ควบคมุ ท่ีทากิจวตั รประจาวนัตามปกติ ผลการวจิ ยั พบวา่ การใช้กระบวนการกล่มุ (เกมส์ การประชมุ กล่มุ ร่วมกบั การออกกาลงั กาย)สามารถลดความว้าเหว่ของผ้สู งู อายไุ ด้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ธนาพร หยีวิยม,2538.ผลของการดูแลตัวเองด้วยการออกกาลังกายเพ่ือลดระดบัความดนั โลหติ และระดบั คอเลสเตอรอลของหญิงสูงอายุุ .กระทรวงสาธารณสขุ โดยศกึ ษาในผ้หู ญิงสงู อายจุ านวน 30 คนแบง่ เป็ นกลมุ่ ละ 13 คน 2กลมุ่ กลมุ่ หนงึ่ เป็ นกลมุ่ทดลองออกกาลงั กายด้วยการเดนิ ตามโปรแกรม และกลมุ่ ท่ีสองเป็นกลมุ่ ควบคมุ ผลการวจิ ยั พบวา่ 1)ความดนั โลหิตขณะหวั ใจบีบตวั และคอเลสเตอรอลระหวา่ งกลมุ่ ทดลองและกลมุ่ ควบคมุ หลงั การทดลอง 12 สปั ดาห์มีความแตกตา่ งอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ี่ระดบั 0.052) ความดนั โลหิตขณะหวั ใจบบี ตวั และคอเลสเตอรอลระหวา่ งกลมุ่ ทดลอง หลงั การทดลอง 8และ12 สปั ดาห์กบั ก่อนการทดลองมีความแตกตา่ งอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ี่ระดบั 0.05พรรัชนี วีระพงศ์ ,2540.ผลของการออกกาลังกายและการฝึ กกีฬาต่อการเจริญเตบิ โตและการเข้าสู่วัยเจริญพนั ธ์ุในเดก็ ไทย.มหาวิทยาลัยมหดิ ล เพื่อศกึ ษาถงึ ผลของการฝึกกีฬาตอ่ การเจริญเตบิ โตและการเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธ์ุในเดก็ ไทยจงึ ได้ทาการเปรียบเทียบนกั เรียนจากโรงเรียนกีฬา จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี เป็นชาย 257 คน หญิง 123คน ในชว่ งอายุ 9-19 ปี และนกั เรียนในกลมุ่ อายเุ ดียวกนั ในเขตอาเภอเมือง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี เป็นชาย 231 คน หญิง 258 คน ได้ทาการวดั สว่ นสงู ชง่ั นา้ หนกั วดั ความหนาของชนั้ ไขมนั รวมถงึ การตรวจการเจริญวยั ทางเพศแบง่ เป็นระยะตา่ งๆ ตาม Tanner โดยกมุ ารแพทย์ และสมั ภาษณ์ถึงอายุท่ีมีประจาเดือนและมีการหลง่ั นา้ กามครัง้ แรก นอกจากนีย้ งั เก็บตวั อยา่ งปัสสาวะครัง้ แรกในตอนเช้าตดิ ตอ่ กนั เกิน 5 วนั นามาตรวจหาตวั อสจุ เิ พ่ือยืนยนั ถึงอายทุ ่ีมีการหลง่ั นา้ กามครัง้ แรกในเดก็ ชาย เก็บตวั อยา่ งเลือดเพื่อนาไปวิเคราะห์ฮอร์โมน DHEAS ในเพศหญิง DHEAS และ total
53testosterone ในเพศชาย โดยวธิ ี RIA หลงั จากนนั ้ 9 เดอื น ได้ทาการวดั และตรวจร่างกายซา้ โดยผ้วู ดัคนเดิม ผลการทดลองการออกกาลงั กายมีผลในการเพม่ิ อตั ราการเจริญเตบิ โต แม้ว่าจะเข้าสวู่ ยัเจริญพนั ธ์ุเตม็ ท่ี (post puberty) แล้ว นอกจากนีย้ งั มีผลในการยืดเวลาการมีประจาเดือนครัง้ แรกในเพศหญิง และการเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธ์ุ (peripuberty) ของเดก็ ชาย อยา่ งไรก็ตามการออกกาลงักายไมม่ ีผลตอ่ การเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธ์ุเตม็ ท่ี (postpuberty) ชัยสทิ ธ์ิ ภาวลิ าสและคณะ,2531.ผลของการฝึ กออกกาลังกายแบบอากาศนิยมต่อเซลล์ในระบบภูมคิ ุ้มกันของร่างกาย.สมาคมกีฬาเวชศาสตร์แห่งประเทศไทย การศกึ ษาถึงผลออกกาลงั กาย (Strenuous exercise) ครัง้ เดียวและการฝึกออกกาลงั กายแบบอากาศนิยม (aerobic exercise training) ตอ่ เซลล์ในระบบภมู คิ ้มุ กนั ในนกั ศกึ ษาชาย โดยการวิเคราะห์ด้วยวธิ ีพเิ ศษ (Indirect immune for essence technique with monoclonalantibodies) ในการศกึ ษาท่ี 1 มีนกั ศกึ ษาเป็นนกั กีฬาและไมใ่ ชน่ กั กีฬาอยา่ งละ 5 คน หลงั จากออกกาลงั กายที่หนกั เกินไป โดยข่ีจกั รยานวดั งาน (bicycle ergometer) ด้วยระดบั ความหนกั ร้อยละ 70 ของอตั ราชีพจรสงู สดุ เป็นเวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ ท่ีมีการฝึ กออกกาลงั กายแบบอากาศนยิ มนีส้ มรรถภาพทางกายดีขนึ ้ รวมทงั้ คา่อตั ราสว่ นของเซลล์ท่ีกระต้นุ ตอ่ เซลล์ท่ียบั ยงั้ เพมิ่ ขนึ ้ ร้อยละ 16.8 จากก่อนการฝึกออกกาลงั กายซง่ึ เป็นผลจากการลดลงของจานวนเซลล์ท่ียบั ยงั้ อยา่ งมีนยั สาคญั พร้อมกบั มีแนวโน้มในการเพมิ่ ขนึ ้ ของจานวนเซลล์ท่ีกระต้นุ แตก่ ารเพิ่มขนึ ้ นีข้ องความสามารถในการใช้ออกซิเจน สงู สดุ (R =0.07) การเพ่มิ ขนึ ้ ของอตั ราส่วนของเซลล์ท่ีกระต้นุ ตอ่ เซลล์ท่ียบั ยงั้ จะมีผลดใี นการตอบสนองของระบบภมู ิค้มุ กนั ซง่ึ แสดงว่าการฝึกออกกาลงั กายแบบอากาศนยิ มอยา่ งพอเหมาะและสม่าเสมอนา่ จะทาให้สขุ ภาพร่างกายดีขนึ ้ รัตนา กติ สิ ุข,2526.ผลของการฝึ กแอโรบิคดานซ์ท่มี ีต่อความอดทนของระบบไหลเวียนและเปอร์เซนต์ไขมันของร่างกาย. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้ผ้รู ับการทดลองเป็นเพศหญิง อายุ 30-45 ปี ซง่ึ มิได้ออกกาลงั กายเป็นประจา จานวน30 คนการศกึ ษาสมรรถภาพการใช้ออกซเิ จนในระดบั เกือบสงู สดุ นนั้ ใช้วิธีทดสอบลกู่ ลของบอลกี และเปอร์เซ็นต์ไขมนั ของร่างกายโดยใช้การวดั ไขมนั ใต้ผวิ หนงั ซง่ึ เป็นผลจากการฝึกเต้นแอโรบคิ ดานซ์
54ฝึกเป็นระยะเวลา 2 เดอื น ฝึ กสปั ดาห์ละ 3 ครัง้ ครัง้ ละ 1 ชวั่ โมง โดยแบง่ การฝึกออกเป็น 2 ชว่ งชว่ งละ 10-150นาที พกั ระหวา่ งชว่ งละ 5 นาที แล้วนาผลที่ได้จากการทดสอบสมรรถภาพทางกายทงั้ กอ่ นและหลงั การฝึกเต้นแอโรบคิ ดานซ์มาวเิ คราะห์ตามวิธีสถิติ โดยการหาคา่ เฉล่ียและสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน แล้วจงึ ทดสอบความแตกตา่ งของคา่ เฉล่ียด้วยคา่ \"ที\" (t-test)ผลปรากฏวา่ 1. คา่ เฉล่ียของสมรรถภาพการใช้ออกซิเจนในระดบั เกือบสงู สดุ ทงั้ กอ่ นและหลงั การฝึ กเต้น แอโรบคิ ดานซ์มีความแตกตา่ งกนั ที่ระดบั ความมีนยั สาคญั .01 2. คา่ เฉลี่ยของเปอร์เซน็ ตไ์ ขมนั ของร่างกาย ทงั้ ก่อนและหลงั การฝึกเต้นแอโรบคิ ดานซ์มี ความแตกตา่ งกนั ท่ีระดบั ความมีนยั สาคญั .01คาถามหลกั การออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบิค มีผลตอ่ การปรับ พฤตกิ รรม และภาวะสขุ ภาพอยา่ งไรในทศั นคตขิ องผ้เู ต้น คาถามรอง 1.พฤตกิ รรมทางสขุ ภาพและภาวะสขุ ภาพใดทถ่ี กู ปรับเป็ นอนั ดบั แรกจนถึงสดุ ท้าย 2.มีปัจจยั ใดหรือไมท่ ่มี ผี ลตอ่ การปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรมและภาวะสขุ ภาพนอกเหนือจากการเต้นแอโรบคิ 3 .แรงจงู ใจและสาเหตใุ ดทท่ี าให้ประชาชนหนั มาออกกาลงั กายด้วยการเต้นแอโรบคิ 4.บคุ คลรอบข้างของผ้เู ต้นแอโรบคิ มีพฤติกรรมและภาวะสขุ ภาพเชน่ ไร และมีผลจาก ผ้เู ต้นหรือไม่อยา่ งไร ผลท่คี าดว่าจะได้รับ 1. ได้ทราบถึงภาวะสขุ ภาพท่ีเปลี่ยน แปลง ของผ้อู อกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ 2. ได้ทราบถงึ ลาดบั การเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมสขุ ภาพหลงั จากออกกาลงั กาย 3.ได้ทราบถงึ แรงจงู ใจและเหตผลของประชาชนท่ีหนั มาออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบิคเพื่อนาไปใช้ในการสง่ เสริมกิจกรรมการออกกาลงั กายเพ่ือเสริมสร้างสขุ ภาพ 4.ได้ทดสอบสมมตฐิ านท่ีวา่ การที่บคุ คลซง่ึ อยใู่ นโปรแกรมสขุ ภาพ ไมเ่ พียงแต่ เขาผ้นู นั้ จะได้รับผลดี ตอ่ สขุ ภาพเทา่ นนั้ ผ้ทู ี่อยนู่ อกโปรแกรมก็มีโอกาสท่ีจะได้รับจะได้รับผลดีทางสขุ ภาพนนั้ ด้วย เป็นจริงหรือไม่
55แนวทางการศึกษา นิยามศัพท์ 1.การออกกาลงั กายแบบ แอโรบคิ (aerobic excercies ) เป็นการออกกาลงั กายที่ใช้กล้ามเนือ้ มดั ใหญ่ๆ เชน่ แขนขา โดยทาให้หนกั พอและนานพอ และทาตดิ ตอ่ กนั เพ่ือให้ร่างกาย ต้องใช้ออกซเิ จน เพ่ือสร้างพลงั งาน ทาให้หวั ใจและปอดถกู กระต้นุ เป็นเวลานานพอที่จะให้เกิดการเปล่ียนแปลงที่เป็ นประโยชน์ขนึ ้ ในร่างกาย โดยการออกกาลงั กายที่หนกั พอ คือ ออกกาลงั กายให้หนกั ประมาณ 70% ของความสามารถสงู สดุ ของอตั ราการเต้นของหวั ใจของแตล่ ะบคุ คล อตั ราชีพจรท่ีหนกั พอ= (220-อายุ ) *.0.7 ครัง้ /นาที นานพอ คือ เมื่อออกกาลงั กายโดยชีพจรขนึ ้ ไปถึงระดบั ที่กาหนดแล้วก็ให้ทาติดตอ่ กนัไปเร่ือยๆ โดยคงชีพจรไว้อย่างน้อยท่ีระดบั นี ้เป็นเวลา 15-20 นาที 2. การเต้นแอโรบิค (aerobic exicercies) เป็นการออกกาลงั กายแบบแอโรบิค ประเภทหนึ่งซงึ่ นาเพลงมาปะกอบเข้ากบั ทา่ กายบริหาร ทา่ เต้นรา การพกั ร่างกายแบบโยคะ โดยใช้ที่ทางตา่ งๆ เข้ากบั จงั หวะเพลง โดยแบง่ การออกกาลงั กายเป็น 3 ขนั้ ตอนดงั นี ้ 2.1 ชว่ งอบอนุ่ ร่างกาย (worm up) เป็นการอ่นุ เครื่อง ให้กล้ามเนือ้ เร่ิมทางาน ทาให้กล้ามเนือ้ ยืดหยนุ่ พร้อมที่จะออกกาลงั มากกวา่ ปกติ ถ้าหากออกกาลงั โดยไมม่ ีการอบอนุ่ร่างกายกอ่ นอาจทาให้ กล้ามเนือ้ เป็ นอนั ตรายได้ เชน่ กล้ามเนือ้ ฉีก เคล็ด ขดั ยอก เป็ นต้น 2.2 ชว่ งแอโรบคิ (aerobic ) เป็ นขนั้ ตอนการบริหารร่างกาย จะชว่ ยให้กล้ามเนือ้ ทกุ สว่ นได้ทา งาน เป็นผลให้ร่างกายแข็งแรงขนึ ้ 2.3 ชว่ งผอ่ นคลาย(cool down) เป็นการบริหารอยา่ งช้าๆ เพิ่ม ทาให้กล้ามเนือ้ ท่ีทางาน หนกั คอ่ ยๆ ผอ่ นคลาย รวมทงั้ ลดการทางานของหวั ใจ ให้เข้าสภู่ าวะปกติ ในขนั้ นี ้ อาจเป็นการหายใจเข้าออก อยา่ งช้าๆ ทาให้ร่างกายสบาย ผอ่ นคลายที่สดุ 3.พฤตกิ รรมสขุ ภาพ คอื พฤตกิ รรมใดๆ ท่ีสง่ ผลตอ่ สขุ ภาพทงั้ ในด้านบวกและด้านลบ 4.พฤตกิ รรมเส่ียงตอ่ สขุ ภาพ คอื พฤตกิ รรมใดๆ ที่สง่ ผลเสียตอ่ สขุ ภาพ (ในที่นีห้ มายถงึ พฤตกิ รรมการบริโภคอาหาร สบู บหุ ร่ี เครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ การนอน การมีเพศสาพนั ธ์ ความปลอดภยั ด้านการขบั ข่ี
56การใช้ยานอนหลบั ยากลอ่ มประสาท และอ่ืนๆ) 5.ภาวะทางสขุ ภาพ คือ สภาวะทางร่างกาย จิตใจ และสงั คมท่ีมีปฏสิ มั พนั ธ์กนั เช่น ความเจ็บป่ วย ซงึ่ ในการวิจยั นีร้ วมถึง ความมน่ั ใจรูปแบบการวจิ ัย การศึกษาเชิงพรรณนาแบบตดั ขวาง โดยการสมั ภาษณ์เชิงลึกกล่มุ ตัวอย่าง ประชาชนท่ีออกกาลงั กายโดยการเตน้ แอโรบิค ณ สวนชมน่าน จงั หวดั พษิ ณุโลกExclusion criteria - ผทู้ ี่มาออกกาลงั กายโดยการเตน้ แอโรบิกนอ้ ยกวา่ 15 นาที -ผมู้ าเตน้ แอโรบิกนอ้ ยกวา่ 3 วนั ใน 1 สัปดาห์ -ผทู้ ่ีมาเตน้ แอโรบิกต่อเน่ืองกนั นอ้ ยกวา่ 3 วนัเคร่ืองมือวิจัย 1. แบบสมั ภาษณ์ 2. เคร่ืองบนั ทกึ เสียง 3. ใบยินยอมเข้าร่วมในการวจิ ยัวิธีวเิ คราะห์ข้อมูล วิเคราะห์เนือ้ หา (content analysis)Bias in research 1.Selection bias Choice of sampling frame 2.Information bias Imprecision of data/recall bias 3.Confound bias other cause that effect improve health behavior
57 ผลการศกึ ษา 1.ทศั นคตขิ องผู้ออกกาลังกายโดยการเต้น แอโรบคิ ต่อการปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมและภาวะทางสุขภาพ1.1.ด้านการบริโภคอาหาร จากการศกึ ษาพบวา่ ผ้เู ต้น แอโรบคิ จานวน 4 ราย มีการปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมด้านการบริโภค โดยทงั้ 4 ราย มีพฤตกิ รรมการบริโภคจากดั การกินอาหารเหมือน ๆ กนั แตต่ า่ งวธิ ีการและเหตผุ ล บางคนมีการจากดั อาหารพวกไขมนั คาร์โบไฮเดรต เลิกกินของทอด และกินจบุ จิบ หนั ไปด่ืมนา้ กบั พวกผกั ผลไม้แทน บางคนให้เหตผุ ลวา่ การบริโภคลดลงก็เพราะการออกกาลงั กายทาให้เห็นอยแู่ ล้ว เบ่ืออาหารไมอ่ ยากกิน บางคนก็บอกวา่ ใช้เวลาไปกบั การเต้นแอโรบิคทาให้มีการกินน้อยลง จงึ กินน้อยลง และบางคนก็ไมท่ านเพราะกลวั จะเรอ…และได้รับความรังเกียจจากคนรอบข้าง เวลามาเต้นแอโรบคิ จงึ ไมก่ ิน ดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ที่วา่ “เราจะเร่ิมจากัดแคลอร่ี หลังออกแอโรบิค พวกไขมัน คาร์โบไฮเดรต เราจะไม่ค่อยได้ทาน จะหันไปด่ืมนา้ กับกินพวกผัก แต่ก่อนเป็ นคนชอบทานของทอด และกินของจุบจิบค่ะ ท่ชี อบมากคือพวกถ่ัวลสิ ง แล้วกพ็ วกขนมกรอบ ๆ พอรู้ว่าเป็ นพวกไขมันกับคาร์โบไฮเดรตกเ็ ลกิ ไปบ้าง” “ มันจะรู้สกึ ว่ากินอะไรก็อร่อย แต่เราจะพยายามควบคุมตวั เองให้กินให้ปกตหิ รือน้อยลง” “จะรู้สึกว่ากนิ น้อยลงเพราะมันเหน่ือยด้วย เหน่ือยแล้วเบ่ือไม่อยาก” “ค่ะ ก็นา้ หนักมันไม่ลดค่ะ ออกกาลังกายแล้วรู้สึกนา้ หนักไม่ลด เรากจ็ ะดแู ลเร่ืองอาหารหน่อยหน่ึง ไม่รู้ว่ามากเกนิ ไปหรือเปล่า ทานข้าวมือ้ เดยี ว ตอนเช้ากท็ านนา้ เต้าหู้กลางวันกท็ านข้าวมือ้ เดยี ว ตอนเยน็ ทานผลไม้มากๆ แตส่ ว่ นใหญ่ของกลมุ่ ท่ีทาการสมั ภาษณ์ จานวน 8 ราย อ้างว่าไมม่ ีการปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมและภาวะสขุ ภาพ เพราะสว่ นใหญ่บอกวา่ ตนเองได้ มีการควบคมุ การบริโภค มากอ่ นหน้านีแ้ ล้ว โดยให้เหตผุ ลวา่ จากดั อาหารพวกเนือ้ และสตั ว์ใหญ่เพราะความเชื่อทางศาสนา คือนบัถือเจ้าแมก่ วนอมิ จงึ กินเฉพาะผกั และปลามาก่อนหน้านีอ้ ยแู่ ล้ว บางคนกล่าวว่า มีการควบคมุอาหารจากการท่ีต้องการลดนา้ หนกั แตห่ ลงั จากลดนา้ หนกั โดยการคมุ อาหารแล้วสามารถลดนา้ หนกั ได้ ระดบั หนง่ึ แตต่ ้องการลดนา้ หนกั เพ่มิ อีก จงึ เพมิ่ การออกกาลงั กายด้วย แตไ่ มไ่ ด้ควบคมุอาหารเพมิ่ ขนึ ้ คือ ควบคมุ อาหารเหมือนเดมิ บางคนก็บอกวา่ ไมเ่ ปล่ียนแปลงเพราะนิสยั การกินเดมิ ก็มีการจากดั อาหารโดยธรรมชาตอิ ยแู่ ล้ว คือกินน้อยไมห่ ิวมากตงั้ แตเ่ ด็ก จงึ ตดิ นสิ ยั มาตงั้ แต่เดก็ บางคนก็กินมากเหมือนเดมิ กินจบุ จบิ เหมือนเดมิ แตพ่ อออกกาลงั กายแล้วนา้ หนกั ไมข่ นึ ้ จงึ
58สามารถกินได้ตามความต้องการ โดยนา้ หนกั ไมข่ นึ ้ จงึ ไมเ่ ปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมด้านการกินดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ ท่ีวา่ “ไม่เปล่ียนแปลง พ่ีจะไม่ทานพวกเนือ้ หมูเหด็ เป็ ดไก่นีท้ านม่ัง แต่จริง ๆ แล้วชอบคือพวกผักพวกปลา ชอบมาก อีกอย่างคือ พ่นี ับถือเจ้าแม่กวนอมิ ด้วย และมันเป็ นสัตว์ใหญ่ด้วย มันทาให้ย่อยยาก เขาบอกว่ากนิ เนือ้ มาก ๆ มันจะเป็ นพวกมะเร็ง ปกตแิ ล้วพ่ีเป็ นคนแพ้ทุเรียน กินเยอะกินทกุ วัน วันหน่ึงก็ลูก ละ 3 โล 4 โล กินคนเดียวทกุ วัน จนนา้ หนักขนึ้ เป็ น 60 โลเลย ช่วงนีเ้ รามาเต้นกจ็ ะไม่ค่อยมีเวลากนิ ไง กินเฉพาะช่วงเวลากลางวัน บางวันกจ็ ะไม่กนิ เพราะบางทีมารอมาเรอ มาเต้นแล้วเขาจะได้กล่ินส่วนมากพอเต้นเสร็จก็จะไปกนิ แล้วมันก็ไม่ขนึ้ พ่ลี องดูแล้วมันก็ไม่ขนึ้ ” “กินผักมากอยู่แล้ว กนิ ผลไม้ ไก่ลวกไก่ต้ม พะโล้ 2 จาน แต่ไม่กิน กิน 1 จาน” “ผมควบคุมอาหารตงั้ แต่ก่อนเต้นแอโรบิค ตอนแรกหนัก 84 กิโลคุมจนเหลือ 73กโิ ล” “หลังเต้นแอโรบคิ กก็ ินเหมือนเดมิ คือใช้ข้าวกล้อง จะมีเนือ้ ปลา ผักต่าง ๆ และผลไม้” “เหมือนเดมิ ก่อนออกกาลังภายก็กนิ อาหาร ประเภทผักปลา” “บางมือ้ ก็กนิ หนัก แล้วแต่หวิ เหมือนบางทีแล้วแต่อารมณ์ เรา อยากกนิ กก็ นิบางทีกก็ ินไปเร่ือย เป่ื อยค่ะพ่ี” “ไม่เปล่ียนแปลงค่ะ กก็ ินข้าวตอนเช้า กลางวัน เยน็ ก็กนิ 3 มือ้ เหมือนเดมิ ปกติทานน้อยอยู่แล้ว ทาน 3 มือ้ ไม่เพ่มิ ขนึ้ หรือลดลง” “ก็คุมโดยไปกินอาหารพวกท่มี ีกะทแิ ล้วไม่กินไขมันเยอะ พวกมัน ๆ กไ็ ม่กนิ แกงกะทนิ ีก้ ็ไม่กนิ เลย ปกตไิ ม่ชอบอย่แู ล้ว ก็กินอาหารพวกปลา พวกหมูพวกไก่ พวกเนือ้ ไม่ค่อยกนิ ” “คุมอาหารตงั้ แต่ก่อนเต้นแอโรบิคแล้วแต่ไขมันในเลือดกย็ งั สูงอยู่ หมอกเ็ ลยแนะนาให้ออกกาลังกาย ช่วงนัน้ จะไม่ค่อยได้ออกกาลังกาย”1.2 ด้านการบริโภค เคร่ืองด่มื ท่มี ีแอลกลฮอล์ และบุหร่ี จากการศกึ ษาพบวา่ ผ้เู ต้นแอโรบคิ สว่ นใหญ่ไมม่ ีการเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมการบริโภคเครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ ทงั้ ในกลมุ่ ที่เคยบริโภคอยแู่ ล้ว ซงึ่ จะบริโภคตามงานสงั สรร เทา่ นนั้ (มี3ราย) และมี 5 รายท่ีไมเ่ คยบริโภค เครื่องดมื่ ที่มีแอลกอลฮอล์เลย ตงั้ แตแ่ รกกอ่ นเต้นแอโรบคิ ซงึ่บางรายมีความกงั วลเก่ียวกบั โรคท่ีตนเองเป็นอยู่ แตม่ ีบางรายที่รู้สกึ ไมส่ บายหากบริโภคเคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ ในชว่ งท่ีออกกาลงั กาย และมี 1 รายท่ีสบู บหุ รี่ แตก่ ็นาน ๆ ครัง้ และคดิ ว่าไมม่ ีการเปล่ียนแปลงของการสบู บหุ ร่ี ดงั เชน่ คาให้สมั ภาษณ์ท่ีวา่“บุหร่ีมีบ้างนาน ๆ ครัง้ เหมือนเดมิ ไม่รู้สึกว่าต้องการมากขนึ้ หรือลดลง”
59“ไม่สูบค่ะ ส่วนใหญ่กินสไปย์ อย่างอ่ืนไม่ได้กินก็แล้วรู้สกึ แปลก ๆ ไม่ดีต่อร่างกายรู้สกึมันจะอ๊วก”“ไม่พ่จี ะด่มื นา้ เปล่า เป๊ ปซ่ีพ่กี พ็ ยายามจะไม่เอาเลย พ่จี ะทานเป็ นพวกสไปย์เล่น ๆ เพราะจะเป็ นคนกนิ อะไรไม่ค่อยได้ มึนหัว”“กต็ ามเทศกาลเวลาไปเจอพ่นี ้องพ่กี ท็ าน แต่ปกตแิ ล้วไม่ทาน”“นาน ๆ กนิ ท่ี แค่ 1 กระป๋ อง คือผมจะเป็ นความดนั โลหติ สูงอยู่ หมอเลยห้ามพวกแอลกอฮอล์ก่อนนัน้ ผมกไ็ ม่ย่งุ อยู่แล้ว“บุหร่ีก็ไม่สูบหรอก เขาบอกว่าเป็ นอันตรายต่อสุขภาพ”“ผมไม่เคยด่มื เลยตัง้ แต่ทางาน มันเป็ นความคดิ ของผม บ้านผมพ่อด่มื จัด พ่ชี ายทุกคนกินเหล้าหมด ยกเว้นผม ผมมองว่า ควรระวังตวั และมองว่าคนกนิ เหล้าไม่เป็ นตัวของตวั เอง ผมเลยเฉย ๆ ไม่สนใจ บุหร่ีกไ็ ม่เคยสูบ”“บุหร่ีก็ไม่สูบหรอก เขาบอกว่า เป็ นอันตรายต่อสุขภาพ ก็ไม่เอา”“มันก็ยังเหมือเดมิ นะพ่ี เร่ือย ๆ เหมือนไม่ได้กะเกณฑ์ว่าพอมาเต้นแอโรบิคเสร็จ เราจะต้อง ไม่กนิ อันโน้นอันนีน้ ะ แต่ยงั กนิ เหมือนเดมิ ”“กธ็ รรมดาเหมือนเดมิ ถ้าเวียนหวั จัด ๆ พ่กี จ็ ะกนิ เบียร์กระป๋ องหน่ึง ช่วงนัน้ ไม่มีอาการพ่ีกไ็ ม่ทานเฉย ๆ นอกจากเพ่อื นชวนไปเท่ียวกโ็ อเคทาน ถ้าเพ่อื นชวนไปเท่ียวกจ็ ะเป็ นเหล้าเสียมากกว่า ก็ทานตามปกตกิ ็ไม่มากไม่น้อย เหมือนเดมิ แต่จะไม่จับกลุ่มกันไปท่ีบ้านกันนะ อะไรอย่างนีก้ ินทุกวันไป”“ไม่ค่ะ ไม่เคยไม่เคยเลย”“ไม่เก่ียวความรู้สกึ ไม่เก่ียว ส่วนมากเต้นก็คือเต้น กินกค็ ือกิน ใช่กค็ ือปกตเิ หมือนเดมิปัจจุบันไปเท่ยี ว กับเพ่ือน กย็ งั กนิ อยู่”“ไม่เคยค่ะ”“ไม่สูบ ไม่ด่ืมแล้วไม่ชอบ พวกนา้ ขวด แบบนา้ โค้ก นา้ อะไรจะไม่ทานเลย”แตย่ งั มีอีกรายหนงึ่ มีพฤตกิ รรมการบริโภคเคร่ืองด่มื alcohol เปล่ียนไปหลงั จากเต้นแอโรบคิ โดยให้ข้อมลู วา่ การด่มื เคร่ืองด่ืม alcohol สง่ ให้สมาธิเสียไป ทาให้ไมส่ ามารถจดจาทา่ เต้นaerobic ที่มีหลายทา่ หรือเต้นตามไมไ่ ด้ จงึ ไมด่ ื่มถ้าจะมาเต้น aerobic ดงั คากลา่ วที่วา่“จริง ๆ แล้วถ้าออกงานแล้วพอได้ดกี รีต่า ๆ นะค่ะพวกไวน์ พอเราทานพวกเหล้าไวน์มันทาให้การไหลเวียนของเลือดเรามันดเี กนิ ไป เพราะมันร้อนมาก แล้วทาให้ความจาของเราไม่ค่อยดีด้วย แล้วการเต้น aerobic มันมีหลายท่ามากเลยท่มี ันต้องใช้สมาธิในการเต้นถ้าทานพวกนีบ้ ่อย ๆ ร่างกายจะเส่ือมโทรมแล้วก็สมาธิจะขาด”
601.3. ด้านการนอน จากการศกึ ษาพบวา่ ผ้ทู ี่เต้นแอโรบคิ เกือบทงั้ หมดมีการเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมการนอนโดยส่วนใหญ่เห็นวา่ เมื่อเต้นแล้วทาให้ออ่ นเพลียหรือเหนื่อย ทาให้สามารถนอนหลบั ได้เร็วและหลบั ได้สนิทมากขนึ ้ นอนไมก่ ระสบั กระสา่ ย โรคที่เคยรบกวนการนอนก็บรรเทาลงเชน่ บางรายเป็นโรคภมู ิแพ้กลางคนื มกั มีอาการจงึ ไมส่ ามารถนอนหลบั ได้ แตห่ ลงั จากเต้นแอโรบคิ ทาให้นอนหลบัได้สนิท ตื่นขนึ ้ มาก็สดชื่น ตื่นได้เช้ามากขนึ ้ และนอกจากนีอ้ าจมีสาเหตทุ ่ีรบกวนการนอนเชน่ การลดความอ้วนทาให้อดอาหาร เมื่อหิวมากก็นอนไมห่ ลบั แตห่ ลงั เต้นแอโรบคิ ก็สามารถนอนหลบั ได้ดกี วา่ เดมิ กลา่ วคือพฤตกิ รรมด้านการนอนดขี นึ ้ ดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ท่ีว่า ล้มลงนอนกห็ ลับสบายเรียกว่าดที กุ อย่างหลังออกกาลังกาย ต่ืน 6 โมง 7 โมงแล้วแต่จะต่ืนเต้นเช้าแล้วแขง็ แรงดีนะ สดช่ืน” “ช่วงนัน้ นอนไม่ค่อยดีเหมือนท้องมันหวิ ทาให้เราเป็ นอะไรเร่ือยเป่ื อย หลังออกกาลังด้วยการเต้น แอโรบิคอาการนัน้ ก็หายไป “เร่ืองการนอน ให้กามือ แบมือ มันเอาไม่อยู่ แต่ขณะนัน้ ผมออกกาลังกายอยู่ด้วย การนอนกด็ ีขนึ้ ” “ทาให้เราหลับสบายขนึ้ ” “พอต่นื ขนึ้ มาสดช่ืน” “ก่อนหน้าถ้าหากเราเครียดก็จะนอนไม่ค่อยหลับ” “คือไปถงึ เรากจ็ ะเหน่ือยแล้ว ใช่ไหมค่ะ เหน่ือยแล้วเรากห็ ลับสบายขึน้กล้ามเนือ้ เม่ือยล้าก็จะหลับ” “ตอนทีแรก เราก็เป็ นคนท่ีนอนไม่หลับอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างพ่ีเป็ นภมู ิแพ้ พอเวลาดกึ ๆ ตหี น่ึง ตีสอง ตุ่มขนึ้ เตม็ ตวั เป็ นอะไรท่หี งุดหงดิ มันนอนไม่ได้ ตอนหลังเราไปออกกาลังกาย พอนอนป๊ ุปมันกจ็ ะหลับสนิทถงึ เช้า ต่นื มากไ็ ม่รู้สึกเพลีย ไม่รู้สกึอะไร แบบมันนอนแล้วสบาย” “มันดขี ึน้ คือนอนไม่กระสับกระส่ายมาก แล้วมันไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะร่างกายมันแบบโอ้ยถงึ เวลานอนแล้ว มันอยากจะหลับมันก็หลับ” “แต่ก่อนเวลาเรานอนต่นื จะขีเ้ กียจต่ืน โอ้ยขีเ้ กียจ เด๋ียวนีไ้ ม่พอถงึ 6 โมงเออถงึ เวลาต่ืนต่ืนเลย แล้วกอ็ าบนา้ อาบท่าลงมาค้าขายได้ปกติ กลางวันก็จะไม่นอน” “การนอนกป็ กตเิ หมือนเดิม แต่ว่าบางวันกร็ ู้สึกอ่อนเพลียบ้างเหมือนกัน อาจจะเหน่ือยมากขึน้ นิดนึงและเวลาต่ืนนอน ใช่ รู้สึกดีขนึ้ เพราะว่าได้พกั ผ่อนเตม็ ท่ี และนอนต่ืนเช้าขนึ้ กว่าเดมิ ” “ต่นื เป็ นปกติ สมมุตวิ ่าตอนแรกต่ืน 7.30 น. แต่เด๋ียวนีก้ ต็ ่นื 6 โมง ทุกวันเลยต่นื เอง”
61 “นอนไม่มากขนึ้ แต่ว่านอนหลับสนิทขนึ้ คือ เม่ือก่อนนอนแล้วจะต่ืนขึน้ มาหาอะไรกนิ หวิ นา้ แต่เด๋ียวนีไ้ ม่ลุกแล้ว” “เพราะว่าช่วงใหม่ ๆ ใช่ไหม กเ็ ป็ นคนอยู่กับเพ่อื น อย่หู อพกั อยู่ด้วยกัน นอนทีกเ็ ท่ยี งคืนตีหน่ึง รู้สกึ ง่วงแล้วแต่นอนไม่หลับ แต่ช่วงนีร้ ู้สกึ ว่าง่วงนอน ตงั้ แต่หัววันขึน้ประมาณ 3 ท่มุ 4 ท่มุ จะง่วงนอนแล้ว อยากนอน อยากพักผ่อน” “ก็หลับได้ดขี นึ้ เหน่ือย แล้วก่อนนอนหลับได้ดขี นึ้ นอนไม่เร็วขนึ้ นะ แต่กน็ อนพอสมควร 7,8 ช่ัวโมง แล้วแต่เวลาค่ะ” “กอ็ าจเก่ียวค่ะ ออกกาลังกายเสร็จก็อาจจะเพลีย ก็ต้องการเวลานอนเพ่มิ ขึน้การนอนต้องนอนเร็วหน่อย อาจจะได้พักผ่อน” “ไม่นอนดกึ มาก ง่วงก็นอนเลยจะไม่ทนอย่ดู กึ มาก ๆ อะไรอย่างนี”้ ในกลมุ่ ผ้สู มั ภาษณ์ทงั้ หมดมีเพียง 1 รายเทา่ นนั้ ที่ไมม่ ีการเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมการนอนหลงั จากการเต้นแอโรบคิ โดยให้เหตผุ ลวา่ หลงั เต้นแอโรบคิ แล้วไมอ่ อ่ นเพลีย ตน่ื มาไม่เปลี่ยนแปลงจากเดมิ ดงั เชน่ การให้สมั ภาษณ์ที่วา่ “หลังการออกกาลังกาย ร่างกายไม่อ่อนเพลีย ต่ืนมาไม่เปล่ียนจากเดมิ ”1.4. ด้านสุขภาพ จากข้อมลู ที่ได้ทาการศกึ ษาในกลมุ่ พบวา่ สขุ ภาพของผ้เู ต้นทกุ รายดขี นึ ้ ไมว่ า่ จะเป็นผ้ทู ่ีมีร่างกายปกตดิ ไี มเ่ จบ็ ป่ วย แล้วให้ดีขนึ ้ โดยผ้ทู ่ีปกติดีจะมีกล้ามเนือ้ แข็งแรงขนึ ้ การเคลื่อนไหวคลอ่ งตวั และการขบั ถ่ายได้ดีขนึ ้ บางรายถ้าคร่ันเนือ้ คร่ันตวั ไมส่ บายเล็ก ๆ น้อย ๆ ปวดหวั ถ้าออกกาลงั กายหลงั เต้นเสร็จอาการก็ดีขนึ ้ ได้ และในรายท่ีเป็นโรคอยแู่ ล้วก็จะมีอาการดขี นึ ้ และพบมากท่ีสดุ คือภมู แิ พ้ ซงึ่ บางรายอาการไมเ่ กิดขนึ ้ อีกเลย หลงั จากออกกาลงั กาย บางคนก็สามารถลดภาวะไขมนั ในหลอดเลือดสงู โดยไมต่ ้องทานยาเพียงแตเ่ ต้นแอโรบกิ อยา่ งเดยี ว บางคนเมื่อออกกาลงั กายแล้ว โรคตอ่ มทอนซิลอกั เสบ ก็เป็นน้อยลง ผ้เู ต้นบางรายก็บอกว่า สิ่งท่ีเป็นดีขนึ ้ ดงั คากลา่ วท่ีวา่ “ป่ วยเลก็ ๆ น้อย ๆ เป็ นหวัด ตัง้ แต่มาเต้น ไม่ค่อยเป็ น” “เป็ นโรคกระเพาะครับ เป็ นผลจากการอดอาหาร หลังมาออกกาลังกายกท็ านได้ไม่มีปวดท้อง” “ออกกาลังกาย ทาให้กล้ามเนือ้ เราดี การเคล่ือนไหวคล่องตัวและมีส่วนเก่ียวข้องกับการขับถ่ายคือไม่มีปัญหา บางทถี ่าย 2 ครัง้ ” “เป็ นความดนั เลือดสูง ออกกาลังกายเด๋ียวความดันมันขึน้ เด๋ยี วลง” “พ่เี ป็ นโรคภมู ิแพ้ แต่ก่อนนีเ้ จบ็ อาทติ ย์เว้นอาทติ ย์เลยนะคะ พอตอนนีด้ ีขนึ้ คือเดือนหน่ึงตรัง้ แล้วก็ห่างออกห่างออกจนตอนนีน้ ่ีสองเดือนเป็ นท่ี”
62 “นา้ หนักตัวกล็ ด และภูมแิ พ้พ่ไี ม่ต้องกินยาแล้ว ภมู แิ พ้พ่ีหายสนิทแล้ว เชค็ สุขภาพหวั จงหวั ใจเลือด หลอดเลือดอะไรก็ดี และเม่ือก่อนนา้ หนักมันขนึ้ 58 โล ช่วง 2 ปี มานี้นา้ หนักลดลงมาเหลือ 48 โล ไม่เกิน 50” “ภูมิแพ้นีเ้ ป็ นนาน 10 ปี แล้วหมดเขาก็บอกว่ามันไม่หายหรอกคุณ พ่ีกินยานอกด้วย หมดเดอื นหน่ึง 450 บาท อีตอนคัดจมูก พอกินแล้วมันก็ไม่คัดแล้วมันก็ง่วง พอเราต่นื ขึน้ มากเ็ ป็ นเหมือนเดมิ ” “มีโรคต่อมทอนซลิ อักเสบ เป็ นประจาตงั้ แต่เกดิ แล้ว ปี หน่ึงมากกว่า 6 ครัง้ รู้สกึว่าเป็ นน้อยลง เม่ือก่อนจะเป็ นทอนซิลอักเสบจะรู้สึกตวั ร้อน ปวดหวั เจบ็ คอ แต่พอมาออกกาลังกายแล้วบางทกี ็หายไปไม่เป็ นเลย” “สุภาพท่ัวไปกด็ ขี ึน้ ไม่รู้จะบอกอะไร แต่สวิ ดีขึน้ กว่าเม่ือก่อนสิวเตม็ หน้าเยอะมากทาไปตามปกตมิ ันกล็ ดลงเอง” “ช่วยไงพ่ี มันกด็ รี ู้สึกเหมือนมีภูมิต้านทานขึน้ นะ และกธ็ รรมดา มันจะเป็ นช่วงจากปี ท่แี ล้วกับปี นีต้ ดิ ต่อ คือจะเป็ นหวัดบ่อยมาก แล้วก็แพ้โน่นแพ้น่ีบ่อย” “รู้สึกอยากดแู ลสุขภาพตวั เองมากขนึ้ ” “ลดลง ก็อาจจะมีกินยาพวกพาราบ้าง ถ้ามีปวดหัว” “เปล่ียนไป โดยเป็ นน้อยลง เด๋ียวก็ไม่ค่อยเป็ นแล้วคะ ซ่งึ เร่ิมเป็ นมาตัง้ แต่เดก็ แล้วค่ะ? “กด็ แู ลมากขึน้ หน่อย มันก็ปกตนิ ะก็ควบคุมอาหารออกกาลังกาย แล้วก็จะแบบไม่นอนดกึ มาก คือง่วงก็จะนอนเลยจะไม่ทนอยู่ดกึ มาก ๆ อะไรอย่างนี”้1.5. ด้านการขับข่ียวดยาน จากการศกึ ษาพบวา่ ผ้เู ต้นแอโรบคิ ส่วนใหญ่ไมเ่ ปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมการขบั ข่ียวดยานคือ มีบางรายท่ีใสห่ มวกกนั นอ็ คตงั้ แตก่ อ่ นออกกาลงั กาย เพราะผดิ ตามกฎจราจรท่ีกาหนด บางรายท่ีคดิ วา่ ขบั รถอยา่ งระมดั ระวงั แล้ว จงึ ไมค่ ดิ วา่ ตนจาเป็นต้องใส บางรายจะคาดเขม็ ขดั ตามลกั ษณะของรถท่ีมี หากมีก็คาด หากไมม่ ีก็ไมไ่ ด้คาด บางรายก็ใสห่ มวกกนั นอ็ ค เน่ืองจากกนั ฝ่ นุกลวั เรื่องความสวยงามของใบหน้าจากควนั และฝ่ นุ มีบางรายท่ีเลง็ เห็นถึงวา่ ควรระวงั เรื่องสขุ ภาพโดยกลวั อบุ ตั เิ หตทุ ี่อาจเกิดขนึ ้ ได้ และมีบางรายท่ีไมข่ บั รถ เน่ืองจากขบั รถไมเ่ ป็ น ใช้การเดนิ เป็นหลกั มีบางรายคิดวา่ การขบั รถบนถนนในเมืองไมอ่ นั ตราย แตห่ ากขบั ออกนอกเมือง อาจเกิดอนั ตรายจงึ คาดเขม็ ขดั นริ ภยั ดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ท่ีวา่ “อ๋อ คาดเวลาขับรถในเมืองพ่ไี ม่ค่อยคาด ถ้าจะออกนอกเมืองแล้วถงึ คาด” “ก็เหมือนเดมิ ”
63 “มันไม่เก่ียวแต่เด๋ียวนี้ ควันมันเยอะ ถ้าไม่ใส่หมอกควันจะเข้าหน้า และแดดแรงมาก กลัวว่าหน้ามันจะดา และเปื้อนฝ่ ุนและมัน” “ขับรถไม่เป็ น ไปไหนมาไหนจะใช้เดนิ ” “เหมือนเดมิ ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง” “ไม่เปล่ียนหรอก” “ไม่เปล่ียนนะคะพ่ี กแ็ บบเรายงั ใส่ หมวกกันน็อคอย่างเดมิ เราก็ข่ีตามกฎจราจรเหมือนเดมิ ” “กก็ ลัว กลัวอุบัตเิ หตุมากค่ะ ก็จะป้ องกันตวั เอง” “กไ็ ม่เปล่ียนแปลงท่จี ะใส่เข้าถงึ 5 โมงเยน็ แต่หลังจาก 6 โมงป๊ ุบ เราจะถอดทนั ทีก็คือทาตามกฎ” “ปกตกิ ข็ ับรถคันใหญ่ ก็จะคาดนะ ถือรถเต่านีไ้ ม่มีคันใหญ่นีค้ าดตลอด” แตม่ ีสว่ นน้อยของผ้เู ต้นแอโรบคิ ที่มีการเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมการขบั ขี่ยวดยานหลงั เต้นแอโรบคิ มีบางรายท่ีไมเ่ คยขบั ข่ีเอง แตน่ ง่ั ไปด้วย และมีความกลวั การเกิดอบุ ตั เิ หตจุ งึ เตอื นให้คนขบั ขบั ช้า ๆ บางรายบอกถงึ ผลดีของการออกกาลงั กายที่ทาให้ร่างกายแขง็ แรง รวมทงั้ มีสมาธิประสาทไวขนึ ้ เพิม่ ความตน่ื ตวั ระวงั ในการขบั ขี่ยวดยานลดการเกิดอบุ ตั เิ หตุ ดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ที่วา่ “กก็ ลัวอุบัตเิ หตุมากค่ะ กจ็ ะป้ องกันตนเอง” “ก็อาจจะเก่ียวค่ะ เพราะว่าการออกกาลังกาย ทาให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ทาให้เรามีสมาธิในการจะทาอะไรต่าง ๆ ด้วยคะ รวมทงั้ การข่ีรถจักรยานยนต์ ส่วนเร่ืองสวมหมวกกันน็อคยังคงเหมือนเดมิ คือ ไปใส่หมวกกันน็อคเหมือนเดมิ ” “รัดค่ะ safty belt” “ในแง่ของสมาธิในการขับแล้วก็ เออถ้าสมาธิดที กุ อย่างก็จะไม่เกิดอุบัตเิ หตุบนท้องถนน” “ปกตขิ ับไม่เร็ว หลังจากออกกาลังกาย ทาให้ประสาทไวการต่นื ตัวอะไรไม่เช่ืองช้าการถบี เบรคคล่องกว่า”1.6. ด้านการใช้ยา พฤตกิ รรมการใช้ยาเมื่อป่ วยของผ้เู ต้นสว่ นใหญ่ เม่ือไมส่ บายมกั รักษาตวั เองกอ่ น ถ้าเจบ็ ป่ วยเล็กน้อย และซือ้ ยาจากร้านขายยากินเอง ถ้าไมห่ ายหรือเป็นมาก จริง ๆ จงึ จะไปพบแพทย์จาการศกึ ษาในผ้เู ต้นแอโรบิคสว่ นใหญ่ พบวา่ มีพฤติกรรมการใช้ยาท่ีเปลี่ยนแปลงไป คอื มีบางรายที่เคยใช้ยานอนหลบั หลงั จากที่เต้นแอโรบิคแล้ว ปัญหาการนอนหลบั ก็ลดลง การใช้ยานอนหลบั จงึ ไมต่ ้องใช้เชน่ เดมิ , สว่ นบางรายที่ไมส่ บายอยเู่ ดมิ หลงั จากเต้นแอโรบคิ แล้ว สขุ ภาพดขี นึ ้ ก็ไมต่ ้องพงึ่ ยาหรือลดยาลง เชน่ โรคกระเพาะ โรคภมู แิ พ้ โรคปวดหวั ไมเกรน ผ้ทู ี่มีปัญหาด้านการขบั ถา่ ย จากเดมิ ที่ใช้ผลิตภณั ฑ์ชว่ ยระบายก็เปลี่ยนมาออกกาลงั กาย ทาให้การขบั ถ่ายดขี นึ ้ ก็ลดการใช้ผลติ ภณั ฑ์เหลา่ นนั้ ลง ดงั การให้สมั ภาษณ์ที่วา่
64 “แต่ก่อนใช้บ้างเหมือนกันแต่ไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่ตอนนีก้ ็ไม่ได้ใช้แล้ว” “ก่อนออกกาลังกายเคยใช้ยานอนหลับ ตอนนีเ้ ราไม่กล้ากนิ แล้วกลัวตดิ ” “สมัยก่อน ซือ้ ยามากนิ เองเป็ นประจา ขีเ้ กียจ ไม่ได้ ไปโรงพยาบาลมันนานและซือ้ ยามากิน 2 ปี ก่อนนี้ ป้ าไม่ได้ซือ้ มากินเลย” “เคยใช้ยาลดกรดในกระเพาะ ตอนนีไ้ ม่มีอาการอะไรแล้ว มันหายไป ตงั้ แต่ช่วงออกกาลังกาย 3 เดือน” “เพราะตอนท่ใี ช้เราเครียดแล้วนอนไม่หลับ พอเราหายเครียด ออกกาลังกายก็ทาให้ การใช้ยาของเราเน่ียน้อยลงไป” “ก็ยาท่ีหมอเขาจัดให้ทีพ่วี ่า เป็ นภูมแิ พ้ไง เด๋ียวนีก้ ็ไม่ค่อยได้ใช้” “เม่ือก่อนเราไม่ได้เต้นไง คือท้องมันจะผูกด้วย กลายเป็ นคนถ่ายยากด้วย และก็กนิ ฟิ ซเน่ทาให้ระบบขับถ่ายดี ตอนนี้ พอเรามาเต้นถงึ เวลาเราไม่ต้องการใช้พวกนี้ มันก็จะเป็ นธรรมชาตถิ งึ เวลามันกจ็ ะปวด” “ก็กินพวกชาท่ที าให้ถ่ายง่ายขนึ้ คือ ฟิ ซเน่ กินประมาณอาทติ ย์ละครัง้ เน่ืองจากวันศุกร์ เสาร์ ก็จะว่างก็จะไปกินขนมหรืออะไรกับเพ่อื นในกลุ่ม แต่เด๋ียวนีก้ นิ น้อยลงรู้สกึ ซือ้มากล่องเดียว นานมากไม่หมดซักที” “ลดลงมากเลยค่ะ สุขภาพดีขนึ้ รู้สึกกระฉับกระเฉงขนึ้ ค่ะสบายตัว ตัวเบา ๆอย่างนีค้ ่ะ” “อ้อยาระบายมีบ้าง” “ไม่บ่อยเท่าไหร่เดือน 2 เดือนกนิ บ้าง” “ไม่ ๆ หมอไม่ให้เลย ตอนแรก ๆ หมอจะให้มา พอมาออกกาลังกายป๊ ุป มันจะลดลงหมอก็เลยให้ออกกาลังกายอย่างเดียว” แตม่ ีผ้เู ต้นแอโรบิคบางสว่ นที่ไมม่ ีการเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมการซือ้ ยากนั เอง ตงั้ แตก่ อ่ นเต้นแอโรบิค โดยมีบางรายเลือกซือ้ ยากินเองเนื่องจากหลงั การฉีดยาบางรายเห็นวา่ ควรต้องพบแพทย์ก่อนเมื่อตนเองเจบ็ ป่ วยโดยไมม่ ีพฤตกิ รรมซือ้ ยากินเองตงั้ แตแ่ รก และบางรายก็ไมไ่ ด้ใช้ยาใด ๆ เลยเป็นประจา ดงั การให้คาสมั ภาษณ์ที่วา่ “ซือ้ ยากินเองค่ะพ่ี เพราะเป็ นคนท่ไี ม่ชอบหมอ ไม่ชอบไม่ถกู กับเข็ม ธรรมดาไม่ชอบกนิ เป็ นคนท่กี ินยายากเหมือนกันแต่เราก็ต้องกินนะ แต่บางทเี หน็ ร้านขายยาอย่างนี้รู้สกึ เบ่ือ ๆ เซง็ ๆ ขนาด เม่ือวานข่ีรถผ่านนะท่ีเหน็ ร้านยามองไปรู้สึกเบ่ือ ๆ เซง็ ๆเหมือนเราพ่งึ กินยา” “ไม่เคยซือ้ ยากนิ เอง ต้องหาหมอตลอด” “ไม่ได้ใช้ยาอะไรเป็ นประจา”
651.7. ด้านสัมพันธภาพ จากการศกึ ษาผ้เู ต้นแอโรบิคพบวา่ ทกุ คนท่ีให้การสมั ภาษณ์มีสมั พนั ธภาพที่ดีขนึ ้ ทงั้ ตอ่ญาตพิ ี่น้อง เพ่ือนและสามารถปรับตวั เข้ากบั เพ่ือนใหมไ่ ด้, และเจอสงั คมใหม่ ๆ หลากหลายเน่ืองจากไมม่ ีโอกาสสนทนากนั โดยใช้การเต้นแอโรบคิ เป็ นส่ือกลาง มีบางคนได้เป็นผ้นู าผ้ขู นึ ้ ในการเต้น สอนให้ผ้อู ่ืนได้เต้นเป็นเกิดการสร้างสมั พนั ธ์ที่ดี ระหวา่ งเพื่อน และทาให้เกิดความรู้สกึภาคภมู ิใจตนเอง บางรายท่ีให้เกิดความเข้าใจกนั มากขนึ ้ ระหวา่ งครอบครัว บางรายก็ใช้การออกกาลงั กายเป็นกิจกรรมที่แก้เหงา โดยทาให้มีโอกาสพบปะพดู คยุ กบั ผ้อู ่ืนมากขนึ ้ ดงั การให้สมั ภาษณ์ท่ีวา่ “ความม่ันใจกเ็ พ่มิ นะ มาก็คุยกัน ดกี ว่าอย่บู ้านไปวัน ๆ วัน ๆ ก็ไม่ได้คุยกับใคร ดูแต่หนังอ่านแต่หนังสือพมิ พ์มาอย่างนีก้ ส็ นุกสนาน ทาให้อยากเจอกับคนโน้น เจอกับคนนี”้ “มาเต้นเราได้เจอสมาชิก เจอคุณป้ าคุณลุง ท่ีมาเต้นด้วยกัน พดู คุยกัน เขาก็ให้คาแนะนาทาเป็ นแบบสนทนากัน ทาให้รู้จักคนมากขึน้ ” “ยายมาเต้นก่อน ผมเต้นอย่ขู ้างส่วน ผมเจอคนจีนอีกคนหน่ึงพดู ภาษาไทยไม่ได้เขาพยายามสอนให้ผม ราไท้เก็ก” “บางครัง้ เพ่ือนฝูงคุยกันสนุก หลังรากระบอง กเ็ สวนาเร่ืองสุขภาพ” “บางทีตดิ แล้วครับ มาเจอพรรคพวกม่ัง สัมพันธ์กับครอบครัวดีขนึ้ ” “จริง ๆ ครอบครัวไม่ค่อยมีปัญหาอะไร อารมณ์ก็ดีขนึ้ เปล่ียนแปลงในแง่เป็ นคนท่เี รียบง่ายเด๋ยี วนีก้ จ็ ะเครียดน้อยลง พดู คุยกับคนในครอบครัวมากขนึ้ คือถ้าอารมณ์แจ่มใสกจ็ ะคุยกับคุณพ่อ คุณแม่ และหลานเล่นบ้าง ปกตเิ ม่ือก่อนเป็ นคนพูดน้อยอยู่แล้ว” “ได้เพ่อื น เยอะแยะต่างสาขาอาชีพ แต่ก่อนกลุ่มก็จะแคบเพ่ือนมี 2 – 3 คน แต่พอมาออกกาลังกายอย่างท่บี อกหลายอาชีพ” “ปกตกิ ไ็ ม่ได้ทะเลาะกับแฟนอยู่แล้ว” “ทีแรกเขาก็มาก่อนบ้าง และเรากเ็ ต้นไปเต้นมาก็รู้จักกัน มีเพ่อื นมากขนึ้ ” “เหมือนเดมิ เพราะไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่” “ได้รู้จักเพ่อื นใหม่มากขนึ้ ทงั้ เพ่อื นต่างวัย เพ่อื นวัยเดยี วกัน กไ็ ด้มาคุยกันมากขนึ้ มาคุยกันท่นี ่ี” “เขาเปิ ดโอกาสให้เรามาเต้น เขาปล่อยเรา เขาสนับสนุนให้มาเต้น รู้สึก เขาให้ความสนใจกับเรามากขนึ้ คือสนใจว่าเราออกจากบ้านทกุ วันไปไหน เราก็บอกไปว่าไปน่ีไปน่ี เขากไ็ ม่ว่าอะไร ให้ไปออกกาลังกาย” “ก็ดขี นึ้ ถ้าสมมุตวิ ่ามีงานอะไรอย่างเนีย้ อย่างสอบเต้นแอโรบคิ เราเต้นได้ เรากจ็ ะไปนาเพ่อื น ๆ ก็จะยอมรับเรา” “ก็รู้สึกสนิทสนมกันมากขนึ้ ” “ก็บางทีกพ็ อแบบนีเ้ สร็จ กอ็ อกไปไหนด้วยกัน” “ชีวิตครอบครัวป้ า ไม่มีปัญหา รักกันมาก ปกตกิ ด็ ีอย่แู ล้ว” “รักกันมากขนึ้ ”
66 “มีมากขนึ้ ” “มีถ้าเป็ นเพ่อื นเก่า เพ่อื นใหม่กม็ ีบ้าง” “กไ็ ด้เพ่มิ รู้จักคนเยอะขึน้ ได้เจอกันคุยกันแล้วกเ็ ต้นด้วยกัน” “โอ้เพ่อื นเยอะแยะเลย”1.8. ด้านการเรียนการทางาน จากการศกึ ษาผ้เู ต้นแอโรบิคพบวา่ สว่ นใหญ่ มีความเปลี่ยนแปลงด้านการเรียนหรือการทางาน หลงั จากเต้นแอโรบคิ โดยจะมีความจาที่ดขี นึ ้ บางรายคดิ วา่ การออกกาลงั กายทาให้ อยากอาหารมากขนึ ้ จงึ รับประทานอาหารเพ่ิม สง่ ผลตอ่ สมองให้มีอาหารมากขนึ ้ ความจาก็ดขี นึ ้ บางรายจะมีสมาธิท่ีดีขนึ ้ มีการตดั สนิ ใจที่ดีขนึ ้ จากการเต้นแอโรบคิ บางรายจะรู้สกึ ปลอดโปร่งเนื่องจากการฝ่ อนคลายระหวา่ งออกกาลงั กาย บางรายจะมีความรู้สกึ สดช่ืนตลอดวนั เนื่องจากคดิวา่ การท่ีออกกาลงั กายทาให้เหน่ือยแล้วจะได้พกั ผอ่ นมากขนึ ้ พอต่ืนมาก็สดชื่น เน่ืองจากกลางคืนได้นอนอยา่ งเตม็ ที่ บางรายแสดงความรู้สกึ ออกกาลงั กายทาให้เหงื่อระบายออกจงึ รู้สกึ สบายตวัสง่ ผลถงึ ความปลอดโปร่งในด้านความคดิ สมาธิ ดงั การให้สมั ภาษณ์ท่ีวา่ “ผมคิดว่าไม่มีผล มันอาจมีส่วนกอ็ ย่างทาให้ความจา จาได้ดีขนึ้ อาจเป็ นเพราะการได้รับอาหาร” “การตัดสินใจจะไว คนออกกาลังกายจะมีสตดิ ี สมาธิค่อนข้างดี” “เด๋ียวนีล้ ืมเก่งนะ ความจาน้อยแล้วนะลืมก็เก่ง แต่คิดว่าการออกกาลังกายก็ช่วยนะ” “ความจาดีขนึ้ มีสตมิ ีสมาธิมากเลย” “ช่วยได้มากนะค่ะ เพราะว่าร่างกายเรากระฉับกระเฉงขึน้ สดช่ืน ทาอะไรมันก็จะคล่องแคล่วขนึ้ ” “ดี สมองมันกป็ ลอดโปร่งไม่เครียด เม่ือก่อนทาบัญชี แล้วมันจะเครียดไง ย่งิ ใกล้เสียภาษีแต่ถ้าเรามาเต้น เราจะรู้สกึ ผ่อนคลายเรากจ็ ะไม่เครียด” “กต็ อนนีม้ ันกค็ ล่องขนึ้ ตัง้ แต่มาออกกาลัง เม่ือก่อนเราจะขีเ้ กียจกลางวันกินยา(แก้แพ้)แล้วอยากจะนอน นอนกินแล้วก็นอน เด๋ียวนีไ้ ม่นอนแล้ว” “อาจทาให้เราได้พกั ผ่อนมากขนึ้ ตนื้ มาก็สดช่ืน ถ้ากลางคืนได้นอนเตม็ ท่เี วลาเรียนกลางวันก็ไม่รู้สกึ ง่วงเท่าไหร่” “เม่ือก่อนจะหลับบ่อยในห้องเรียนเด๋ยี วนีจ้ ะหลับน้อยลง” “เหมือนว่าสมองเราว่าง ๆ โปร่ง ๆ สบาย ๆ แล้วเรากลับตอนเยน็ ๆ อะไรอย่างนี้เหมือนเอาเหง่ือออกไปแล้ว เหมือนสบายเบาตวั เหมือนเราคิดอะไรดี ๆ เหมือนสมองมันว่าง ๆ โปร่ง ๆ” “ทาให้เปล่ียนแปลงไป กอ็ าจจะแบบความจาดขี ึน้ เพราะว่าร่างกายสมบูรณ์ดีอยู่แล้วทาให้เราไม่เครียด เร่ืองสุขภาพกส็ ่วนมากกจ็ ะทาเร่ืองเรียนให้ดกี ค็ ิดแต่เร่ืองเรียนอย่างเดยี ว”
67 มีบางรายท่ีกลา่ ววา่ การเต้นแอโรบคิ ไมม่ ีผลตอ่ การเปล่ียนแปลงด้านการเรียนการทางานโดยกลา่ วว่าความจาดมี าตงั้ แตก่ ่อนเต้นแอโรบิค และปัจจบุ นั หลงั เต้นแอโรบิคความจายงั คงเป็นเชน่ เดมิ “กค็ วามจาก็ยังดีอย่นู ะค่ะ รู้สกึ ว่าเหมือนเดมิ ค่ะ”1.9. ด้านความม่ันใจ จากการศกึ ษาผ้ทู ่ีมาเต้นแอโรบคิ ส่วนใหญ่เห็นวา่ มีความมนั่ ใจเพิ่มมากขนึ ้ หลงั จากที่ออกกาลงั กาย โดยการเต้นแอโรบคิ ซง่ึ มีหลากหลายเหตผุ ลเช่น เกิดความมน่ั ใจที่มาจากความภมู ิใจที่เต้นตามจงั หวะได้ มีบางรายที่กล้าแสดงออกอยแู่ ล้ว แตก่ ็คดิ วา่ มีความสามารถขนึ ้ จากการออกกาลงั กาย บางรายพดู ถงึ การพฒั นาที่แมน่ ยามากขนึ ้ หลงั จากท่ีมนั่ ใจในจงั หวะของตนเองแล้วหรือมีโอกาสเป็นผ้นู าในการเต้นของกลมุ่ เพื่อน ๆ เกิดความยอมรับตอ่ กนั มีอีกหลายรายกลา่ วถึงความมน่ั ใจที่เกิดจาก รูปร่าง ของตนเองเป็นไปตามท่ีพิจารณาหลงั จากท่ีได้เต้นแอโรบิค ซง่ึ สง่ ผลถึงความมนั่ ใจในเร่ืองอื่น ๆ ตามมา เชน่ การเข้าสงั คม ดงั คาสมั ภาษณ์ท่ีวา่ “ความม่ันใจดีขึน้ ย่งิ ถ้าเต้นตามได้เรากภ็ มู ใิ จ ความม่ันใจจะเกิด” “ม่ันใจว่ามันผอมลง เม่ือก่อนไม่ค่อยม่ันใจ เพราะรูปร่างเขาใหญ่มาก ม่ันใจครับเรามีความกล้าเข้าสังคมมากขนึ้ ” “กค็ ดิ ว่ามันเพ่มิ ขนึ้ นะค่ะ แต่ปกตกิ เ็ ป็ นคนค่อนข้างจะกล้า แสดงออกอย่แู ล้ว” “อ่ะ ตอนนีเ้ รากห็ ่นุ ดขี ึน้ เรากร็ ู้สึกม่ันใจขนึ้ ไปไหนใส่อะไรกใ็ ส่ได้ เพราะเม่ือก่อนเราจะอ้วนยงั ไง หน้าท้อง รู้สึกเนือ้ ตัวมันกจ็ ะมีแต่ไขมัน” “ใช่ ก็รู้สึกเรามีความม่ันใจในตัวเองมากขึน้ ถ้าเราเต้นได้ เรากอ็ ย่แู ถวหน้า ม่ันใจในตัวเองมากขนึ้ ” “กล้าขนึ้ อย่างเม่ือก่อนเต้นจะเฉย ๆ ไม่ค่อยกล้า แต่เด๋ียวนีก้ ล้า เต้นในจังหวะท่ีหนักขนึ้ กล้าเต้นไม่เหมือนชาวบ้านคือ ชาวบ้านเขาเต้นธรรมดา เราก็ใส่ไปกว่าเขาขนึ้หน่ึง” “อย่างไปนาเต้นท่โี รงเรียน ตอนแรก ๆ ก็แบบเขารับเราได้ เขาทาตามเราได้ เขาเปิ ดโอกาสให้เรา” “ก็รู้สึกดพี ่ี ม่ันใจ รู้สกึ เอ้อ เหมือนเราออกกาลังกายแล้วนะ เหมือนห้นุ เรากระชับขนึ้ อะไรอย่างนี”้ “ดขี นึ้ ค่ะ ทาให้ใจเยน็ ” “ทาให้เรากล้าแสดง ออกมากขนึ้ ทงั้ ท่นี ่ี และท่อี ่ืนด้วยกอ็ ย่างเช่น เก่ียวกับไปโรงเรียนกอ็ ย่างเช่น อาจารย์ถามอะไร ก็ส่วนมากกว่า ตอนคาถามของอาจารย์ ออกมารายงานหน้าห้องกไ็ ม่ต้องอาย ต้องเป็ นอะไรมากมาย”
68 และมีเพียง 2 รายท่ีไมต่ ้องเปลี่ยนแปลงด้านของความมน่ั ใจ หลงั จากท่ีได้เต้นแอโรบิคโดยคิดวา่ ความมนั่ ใจของผ้เู ต้นนนั้ ขนึ ้ อยกู่ บั ความรู้สกึ ของตวั เอง สง่ิ ภาพนอกไมส่ ามารถปรับเปลี่ยนได้ ดงั คาสมั ภาษณ์ท่ีวา่ “เหมือนเดมิ ไม่เปล่ียนหรอก” “มันกม็ ีเหมือนกัน มันไม่เก่ียวกับการออกกาลังกาย อย่แู ล้วอย่างเช่น การตัดสนิ ใจท่ีจะทาอะไร”1.10. ด้านเพศสัมพนั ธ์ จากการศกึ ษา พบวา่ ผ้เู ต้นแอโรบคิ จะแบง่ ออกเป็ น 2 กลมุ่ ใหญ่ ๆ คือ กลมุ่ อายนุ ้อย ซึง่ยงั ไมเ่ คยมีเพศสมั พนั ธ์ และอีกกลมุ่ เป็ นกลมุ่ ท่ีมีอายมุ ากขนึ ้ ซงึ่ เคยมีเพศสมั พนั ธ์แล้ว โดยผ้เู ต้นแอโรบคิ ในกลมุ่ ท่ีเคยมีเพศสมั พนั ธ์แล้วสว่ นมากมีความคดิ เห็นวา่ หลงั การเต้นแอโรบคิ ไมม่ ีสว่ นเก่ียวข้องกบั เร่ืองการมีเพศสมั พนั ธ์ โดยให้เหตผุ ลวา่ ไมไ่ ด้สนใจ หรือเลิกสนใจมานานแล้ว คคู่ รอง ยงั คงมีสมรรถภาพทางเพศดีอยหู่ รือลดลง ดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ที่วา่“ของพ่มี ันกป็ กตนิ ะ ปกตแิ ฟนพ่กี ับพ่จี ะไม่ค่อยสนใจ ไม่ค่อยมุ่งเร่ืองทางนีซ้ ักเท่ าไหร่ ”“ยังไม่มีเพศสัมพนั ธ์”“คุณลุงไม่สบายนะค่ะ เพศสัมพนั ธ์ก็เลยหมดไปไม่มีปัญหาก็ยังรักกันอยู่เหมือนเดมิ ไม่มีเลยไม่มีแล้ว”“กม็ ีบ้างเราไม่มีนะ เพศสัมพันธ์เลยหมดไปก็ไม่มีปัญหา ก็ยังรักกันอยู่เหมือนเดมิ ไม่มีเลยไม่มีแล้ว”“ก็มีบ้างเราไม่มีนะ แต่ผู้ชายเขาไม่หมดไง” “สาหรับป้ าเองมันกเ็ ฉย ๆ ไม่ต่างกัน”“ยังไม่เคยครับ”“ผมไม่ได้สนใจ แต่สุขภาพทางเพศจะแข็งแรง”“นานแล้วเกือบ 10 ปี ไม่เคยสนละนะ”“ไม่เปล่ียนหรอกมันเป็ นตามกาลเวลา”นอกจากนีย้ งั มีผ้เู ต้นแอโรบิคในกลมุ่ ท่ีเคยมีเพศสมั พนั ธ์แล้วท่ีมีความเห็นว่า หลงั จากเต้นแอโรบคิ แล้วทาให้มีผลตอ่ การมีเพศสีมพนั ธ์ในแงค่ วามรู้สกึ ดขี นึ ้ หรือเมื่อเต้นแอโรบิคให้ร่างกายแข็งแรง ก็ทาให้ทกุ สว่ นของร่างกาย พร้อมเกี่ยวกบั เร่ืองเพศสมั พนั ธ์ ดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ที่วา่“ก็ร่างกายเราแขง็ แรงวัน ทุกส่ิงทกุ อย่างในเนีย้ กเ็ ปล่ียนไปด้วย”“เหมือนเดมิ ” แล้วความรู้สกึ ดขี ึน้ ไหม “อ๋อดขี ึน้ ใช่ ถ้าคดิ ในแง่นัน้ ก็รู้สึกเราม่ันใจ รู้สกึ ว่าหุ่นเราโอเคอะไรอย่างนี้ เวลาอะไรกับคนอ่ืน เรารู้สกึ ว่าเราม่ันใจตัวเอง”
69 2.พฤตกิ รรมท่ถี ูกปรับเปล่ียนหลังการเต้นแอโรบคิ กาหนดให้ 1,2,3,4,5,6,…………เป็ นลาดบั ของการเปลย่ี นแปลงพฤติกรรมและภาวะสขุ ภาพตามลาดบั จาก ก่อนไปหลงั ด้านการ ด้าน ด้านการ ด้านการ ด้าน ด้านการ ด้านความ ด้านชื่อ ด้านการบริโภค Alcohol นอน สขุ ภาพ ขบั ขี่ ไช้ยา สมั พนั ธภ เรียน มน่ั ใจ เพศสมั ยวดยาน าพ การ พนั ธ์ ทางานA 3 9 2 1 5 4 8 6 7 10B3 21 4567C3 1 52647D3 21 54E4 312F 12 34G1 24 3 5H2 31 6 4I 21 4 5J 2 134K 2 13L1 2M2 143N จากการศกึ ษาถงึ ลาดบั การเปล่ียนแปลงสขุ ภาพหลงั จากท่ีมาเต้นแอโรบคิ พบวา่ พฤตกิ รรมและภาวะทางสขุ ภาพ ที่ถกู ปรับเปลี่ยนเป็นอนั ดบั แรก คือ ภาวะด้านสขุ ภาพ โดยการ เต้นแอโรบคิ ชว่ ยบรรเทาให้โรคภยั ไข้เจ็บดีขนึ ้ หรือหายไป เชน่ โรคกระเพาะอาหาร โรคภมู ิแพ้ โรค ไมเกรน โรคอ้วน เป็นต้น ลาดบั ตอ่ มาคือ พฤตกิ รรมการนอน ซง่ึ ผ้ใู ห้สมั ภาษณ์ สามารถนอน หลบั ได้งา่ ยขนึ ้ สนิทขนึ ้ ตื่นเช้าอยา่ งสดชื่น พฒั นาผ้ทู ี่นอนไมห่ ลงั ได้ดมี าก สว่ นพฤติกรรมอื่น เชน่ ด้านการบริโภค การขบั ข่ียานพาหนะ การใช้ยา สมั พนั ธ์ภาพการทางาน/การเขียน ความภมู ใิ จ พฤตกิ รรมทางเพศ มีการเปลี่ยนแปลงไม่เป็นลาดบั ที่แนน่ อน
70 ในพฤตกิ รรมสว่ นใหญ่ท่ีพบวา่ สามารถเปลี่ยนแปลงได้มากท่ีสดุ เม่ือออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบิคคือ ด้านสมั พนั ธภาพ (10)โดยมีแนวโน้มพฒั นาในทางสร้างสมั พนั ธภาพท่ีดตี อ่ กนัมากขนึ ้ สว่ นพฤติกรรมการนอน การดแู ลสขุ ภาพการเรียน/หารทางาน และความมนั่ ใจ มีการเปลี่ยนแปลงได้เทา่ ๆ กนั (9 ราย) และตอ่ มาคือ พฤตกิ รรมการใช้ยา การบริโภค (6 ราย) การขบั เคลื่อนยานพาหนะ (4 ราย) การปรับเปลี่ยนของด้านเพศสมั พนั ธ์ (2 ราย) ถกู ปรับเปล่ียนลดหลนั่ ตามลาดบั และพฤตกิ รรมการดม่ื เคร่ืองดื่ม ที่มีแอลกอลฮอล์ มีการถกู ปรับเปลี่ยนได้น้อยท่ีสดุ(1 ราย)3. ปัจจยั ท่มี ีผลต่อสุขภาพ นอกจากการเต้นแอโรบคิ จากการศกึ ษาผ้ทู ่ีมาออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ ทงั้ หมด 12 ราย พบวา่ สว่ นใหญ่ปัจจยั ที่สาคญั ตอ่ การปรับเปล่ียนพฤติกรรมสขุ ภาพ มี 3 ประเดน็ ใหญ่ ๆ คอื 1. การออกกาลงั กาย ได้แก่ การ เดนิ วงิ่ วา่ ยนา้ แบตมนิ ตนั รากระบอง 2. การบริโภค เชน่ ข้าวกล้อง เนือ้ ปลา ผดั หวั ไชโป้ ว ผลไม้ นา้ ลกู ยอ 3. การควบคมุ อาหารซง่ึ จะเป็นไปตามบทสมั ภาษณ์คอื “ไม่มีค่ะพ่ี เพราะมาเต้นอย่างนีต้ อนเยน็ กลังไปถ้าเหน่ือยเพลียหน่อยก็นอนหลับไม่งนั้ ก็กินข้าว “ได้เดนิ เดนิ ออกกาลังกาย” “กว็ อร์มค่ะ ไม่ได้เล่นกีฬาอย่างอ่ืน “กไ็ ม่ได้ออกค่ะ เพยี งแต่ทางานไม่ได้ว่ิงไม่ได้อะไร” “ก่อนจะมาเต้นนีจ้ ะมาว่งิ ก่อนแล้วกม็ าเต้น” “สัก 2 – 3 เดือนจากนัน้ กเ็ ต้นอย่างเดียว” “พอต่ืนเพ่อื นแนะนาให้ทานนา้ ลูกยอ พอทานนา้ ลูกยอแล้วไม่เป็ นโรคกระเพาะเลย” “ก็มีว่ายนา้ แบดมนิ ตนั และกว็ ่ิง” “ว่ิงและเล่นแบดมนิ ตนั แต่บ่อยสุดคือ เต้นแอโรบคิ ” “ไม่มี” “ส่งิ ท่กี ินเหมือนเดมิ คือ ข้าวกล้อง เนือ้ ปลา ผัดหัวไชโป้ ว ผักอ่ืน ๆ ตามด้วยผลไม้ จะให้ความชุ่มชืน้ แก่เรา” “ตอนเช้า 6 โมงคร่ึงจะรากระบองทาให้สุขภาพดีขึน้ “ ผมควบคุมอาหารตงั้ แต่ก่อนเต้นแอโรบิค ตอนแรกหนัก 84 กโิ ลกรัม ควบคุมอาหารเหลือ 73 กโิ ลกรัม พอลดได้แล้วม่ันใจขนึ้ ครับ
71 4.แรงจูงใจและสาเหตุท่ีทาให้ประชาชนหันมาออกกาลังกายโดยการเต้นแอโรบคิ จากการศกึ ษาพบวา่ สาเหตแุ ละแรงจงู ใจสว่ นใหญ่ท่ีทาให้คนมาออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ ก็เพราะต้องการออกกาลงั กาย เพ่ือเสริมสขุ ภาพ และบรรเทาโรคท่ีตนเป็นอยซู่ งึ่ โรคที่เป็นมากก็คือ โรคภมู ิแพ้ และแพทย์แนะนาให้ออกกาลงั กาย บางคนก็เป็นโรคไขมนั ในเลือดสงูหมอก็แนะนาให้มาออกกาลงั กาย บางสว่ นต้องการท่ีจะลดหรือควบคมุ นา้ หนกั และสาเหตขุ องการเลือกท่ีจะออกกาลงั กายแบบแอโรบคิ ก็เพราะบอกวา่ อา่ นจากนิตยสาร แล้วพบวา่ การเต้นaerobic เผาผลาญแคลอร่ี ได้มากกวา่ การว่ิง ผ้เู ต้นบางคนก็บอกว่า วิ่งทาให้ปวดเขา่ โดยเฉพาะในคนสงู อายุ จงึ หนั มาเต้นแอโรบคิ เพราะไมป่ วดเขา่ และยงั สามารถออกกาลงั กายได้ทกุ สว่ น บางกลมุ่ กลา่ ววา่ ถกู ชกั ชวนจากคนใกล้ชดิ ให้มาเต้น พอเต้นได้สกั นิคก็ตดิ ใจ บางก็เห็นวา่ การเต้นแอโรบคิ เป็นการออกกาลงั กาย สนกุ ได้เต้น และได้ฟังเพลง นกั เต้นบางคนก็ให้เหตผุ ลวา่ ที่มเ่ ต้นแอโรบคิ ก็เพราะเป็ นการออกกาลงั กาย ท่ีง่ายไมต่ ้องใช้อปุ กรณ์อะไร และอยใู่ กล้บ้าน จึงทาให้สะดวกในการมาออกกาลงั กายโดยวธิ ีนี ้ดงั คากลา่ วท่ีวา่ “ยายมาเต้นก่อน ผมลองฝึ กไท้เกก็ ท่นี ่ียุงกัด พอผมเลกิ แม่บ้านยังเต้นอย่ผู มก็มาเต้นด้วย “ผมชอบเสียงเพลง พอฟังเพลงผมจะเต้นตามเพลง พอไปเต้นกลับบ้านหวั ถงึหมอนกห็ ลับเลย” “ทแี รกหลงไป เพราะแม่บ้านผมชอบเต้น” “ก็เม่ือก่อนลูกเค้ามาเต้น เราขีเ้ กียจเอาแต่ดหู นังละคร ใหม่ ๆ มาเราไม่เคยเต้นเรากม็ าเดนิ รอบอย่างนี้ พอเพ่อื นฝูงบอกให้มาเต้นจนเคย วันไหนไม่มาหงุดหงิดนะ” “ลูกชายบอกว่าแขง็ แรงดีนะแม่ เขายุให้ไปเขายุทกุ วันให้มาเต้น” “จากเพ่อื นเคยประสบความสาเร็จในการลดนา้ หนัก โดยมาเต้นแอโรบิค ผมอยากจะผอมเหมือนเขา” “อย่างว่งิ กไ็ ด้แต่ช่วงขา แต่ตนเต้นแอโรบิคกไ็ ด้ทุกสัดส่วน” “มาเพราะใกล้ รถราไม่ค่อยมี ท่มี าเพราะไม่ปวดหวั เข่า ได้ทงั้ มือ ข้อศอก เข่า คอว่ิงได้กาลังอย่างเดียว เคยว่ิง ไปทหารอากาศ มาเต้นจากมันใกล้บ้านด้วย เหน็ เค้ามาก็มาเลย” “อยากออกกาลังกายจะได้รู้สึกดี ๆ “ “กค็ วามรู้สึกกค็ ือ อีกอย่างหนูก็เป็ นภูมิแพ้อะไรอย่างนี้ ก็ต้องออกกาลังกาย หมอแนะนาให้ออกกาลังกายบ้าง” “กเ็ กิดมีไขมันในเลือดสูง คุณหมอกเ็ ลยแนะนาให้ออกกาลังกายก็เลยอยากออกกาลังกายให้มันมากอีกนิดนึง
72 “เพ่อื ให้ร่างกายแข็งแรงและควบคุมนา้ หนัก” “เพ่อื สุขภาพและเพ่อื นชวนมา” “ก็คือไปหาหมอ หมอบอกให้ออกกาลังกาย คือคอเลสเตอรอลเยอะ “อ่านจากนิตยสาร มันมีการเปรียบเทยี บแคลอร่ี พอเราอ่านดแู ล้วว่งิ คือมันได้น้อยกว่าการเต้นแอโรบคิ แล้วเด๋ียวนีก้ ารเต้นแอโรบิคเขาบอกว่าช่วยลดอัตราเส่ียงของโรคหัวใจได้ด้วย กเ็ ลยคิดว่าน่าจะเต้นได้ อายุอย่างเราขนาดนี้ “เพราะพ่เี ป็ นภมู ิแพ้ หมอเขาก็บอกว่าถ้าออกกาลังกายคงจะดี กเ็ ลยมาว่งิ ว่ิงมาก็ปวดเข้าเลยลองดคู นแก่เขา เต้นได้เราก็น่าจะเต้นได้” “เพราะว่าเหน็ ว่า มันเป็ นการออกกาลังกายท่สี นุกได้เต้น มีเสียงเพลง” “เพ่อื สุขภาพร่างกาย แล้วว่งิ หรือมันไม่ออกเท่ากับเต้น รู้สกึ ว่าการเต้นแอโรบิคทาให้ตนเองเหง่อื ออกได้มากท่ีสุด”5. การส่งเสริมสุขภาพกับการกระจายภาวะสุขภาพต่อคนรอบข้าง จากการศกึ ษาในผ้ทู ่ีมาเต้นแอโรบคิ ทงั้ หมด 12 ราย พบวา่ มี 11 รายที่กลา่ วถึงการกระจายภาวะสขุ ภาพตอ่ บคุ คลรอบข้างได้ กลา่ วถงึ การชกั ชวนคนในการว่ิง และเพ่ือน ๆ มาออกกาลงั กายด้วย มีกลมุ่ ท่ีทากิจกรรมประเภทนีแ้ ละหลายคนมา สว่ นใหญ่โดยตามกนั มาโดยมีจดุ ประสงค์อ่ืนแตพ่ อชกั ชวน ณ สถานท่ีเต้นก็จะลองเต้นดู กลายเป็ นสมาชิกตอ่ ไป มีบางรายท่ีทาหน้าที่เป็นผ้ใู ห้คาปรึกษาด้าน สขุ ภาพและการออกกาลงั กายแก่ผ้อู ื่นโดยต้องอาศยั แผน่ พบัเอกสารตา่ ง ๆ เก่ียวกบั การออกกาลงั กายโดยตนเองเป็นผ้อู อกคา่ ใช้จา่ ยทงั้ หมดเอาแตก่ ็มีบางคนท่ีอยลู่ าพงั คนเดียวมาออกกาลงั แตย่ งั ไมไ่ ด้มีผลกระทบภาวะสขุ ภาพ ตอ่ ผ้ขู นึ ้ ฝึก และบางรายก็มีแบบอยา่ งในการออกกาลงั กาย และทาตามตอ่ เราเนื่องจากเหน็ คณุ คา่ ของการออกาลงั กายนนั้โดยไมไ่ ด้ถกู ชกั ชวนมาก่อน โดยได้กลา่ วในบทสมั ภาษณ์ “คุณพ่อท่านจะสนใจเหมือนลูกเลย ท่านจะออกกาลังกายโดยเดนิ เอาค่ะ เพราะอายุเยอะแล้ว คุณแม่ท่านก็จะเดนิ ท่ีน่ีนะค่ะ ปกตจิ ะมีหลานมาด้วย แล้วอาจมีคุณแม่ตามมาบ้างเป็ นบางครัง้ ” “แฟนพ่เี ขาอายุ 50 กว่า พ่จี ะชวนเขามาเต้น แต่ไม่ไหวเพราะเป็ นโรคข้อ ตอนนีก้ ็เป็ นโรคเบาหวาน กพ็ ยายามชวนเขามาเดนิ แต่ลองมาเดนิ ดูพักหน่ึงไม่ไหวเพราะหวั เข่าอักเสบ” “ก็เคยชวนเพ่ือนแถวบ้านมาเต้นเหมือนกัน แต่เขามาอยู่พักหน่ึงแล้วก็หายไปส่วนใหญ่จะชวนเพ่อื นท่สี นิท ๆ กันมาเต้น อยากให้มีคนมาเต้นเป็ นเพ่อื นมันจะได้มีเพ่อื นคุย” “ตอนแรกท่มี าเต้นแอโรบิค มาถามผู้ปกครองคือพ่ีสาวเขาชวนไปเต้น”
73 “บางทีก็เต้นคนเดียว แต่ถ้าช่วงไหนเพ่อื น ๆ ว่างก็จะชวนมาเต้นด้วยกัน” “ท่มี าด้วยกันประจา ท่ีจะมากม็ ี 5 คน เพราะว่าอยู่ใกล้ ๆ กัน บางทกี ม็ าพร้อมกัน “ถ้าหากเขาว่างเขากม็ าค่ะ “กช็ วนเพ่ือนท่โี รงเรียนเดียวกัน” “มีชวนเพ่อื นๆ ท่รี ู้จักกันท่ีทางาน” “ก็ท่มี ากป็ ระมาณ กลุ่ม ๆ 3-4 คน” “ทาให้มีเพ่อื นมากขนึ้ แม้ไปไหนจะมีเอกสารเก่ียวกับการออกกาลังกายซีรอกซ์แจกออกกาลังกายเพ่ือคลายเคลียด ลุงจะคุยกับเขา พอเขาบอกว่านอนไม่หลับ, ก็บอกไป พอใช้ไปเขาตอบกลับมาว่าดขี นึ้ ” “ป้ าอย่บู ้านคนเดยี วไม่ได้ชวนใคร” “ชวนกันมาออกกาลังกายอย่างเดยี วครับ ได้เพ่อื นวัยเดียวกัน ส่วนใหญ่รุ่นน้อง สรุปผลการวจิ ยัการออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ กบั การปรับพฤตกิ รรมสขุ ภาพ จากการศกึ ษาพบวา่ การออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ ของประชาชนท่ีมาเต้นแอโรบคิ สวนชมนา่ น จ.พษิ ณโุ ลก กบั พฤตกิ รรมสขุ ภาพพบวา่ หลงั จากเต้นแอโรบกิ แล้วพฤตกิ รรมสขุ ภาพของผ้เู ต้นแอโรบคิ เปล่ียนแปลงในทิศทางท่ีดีขนึ ้ ได้แก่ พฤตกิ รรมด้านการนอน ด้านสขุ ภาพ ด้านกรใช้ยา ด้านสงั คม ด้านการเรียนการงาน ด้านความมน่ั ใจ และมีบางพฤตกิ รรมที่ประชาชนในกลมุ่ ผ้เู ต้นมีสว่ นมากมีความคดิ เหน็ วา่ ไมม่ ีการปรับพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ได้แก่พฤตกิ รรมด้านการบริโภคอาหารด้านการบริโภค เครื่องดมื่ ท่ีมีแอลกอฮอล์และบหุ ร่ี ด้านการขบั ข่ียวดยาน นอกจากนี ้ ยงั ทาให้ทราบถึงลาดบั การเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมสขุ ภาพตา่ ง ๆ ที่เกิดขนึ ้กอ่ นหลงั หลงั จากที่มาออกกาลงั กาย โดยการเต้นแอโรบคิ โดยตามความคดิ เหน็ ส่วนมากเป็ นไปดงั นี ้ พฤตกิ รรมด้านสขุ ภาพ ด้านการบริโภคอาหาร ตามลาดบั และจากการศกึ ษาพบวา่ มีประชากรกลมุ่ ตวั อยา่ งบางสว่ น ได้ปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมการบริโภคอาหาร ก่อนท่ีจะมาเต้นแอโรบคิ แล้วเนื่องจากมีโรคประจาตวั อยา่ งอ่ืนสว่ นของปัจจยั ที่มีผลตอ่ พฤตกิ รรมสขุ ภาพอื่น ๆ นอก) จากการเต้นแอโรบิคแล้วยงั พบวา่ มีการออกกาลงั กายได้แก่การเดนิ ว่งิ วา่ ยนา้ แบดมนิ ตนั รากระบอง เป็นต้น และการบริโภคอาหารชนิดที่มีประโยชน์ตอ่ สขุ ภาพได้แก่ ข้าวกล้อง เนือ้ ปลา ผดั หวั ไชโป้ ว ผลไม้ นา้ ลกู ยอเป็นต้น ที่มีผลตอ่ การปรับพฤตกิ รรมสขุ ภาพได้เชน่ กนั
74 ประชากรกลมุ่ ตวั อยา่ ง ได้ให้เหตผุ ล หรือแรงจงู ใจท่ีทาให้มาเต้นแอโรบคิ คะ่ คอื ต้องการออกกาลงั กายเพ่ือเสริมสร้างสขุ ภาพ ได้ทงั้ ความสนกุ ทาได้ง่ายไมต่ ้องใช้อปุ กรณ์อะไร มีแหลง่ใกล้บ้าน และบรรเทาโรคท่ีตนเป็นอยู่ และผ้เู ต้นแอโรบคิ เองก็มีสว่ นสาคญั ท่ีชว่ ยให้บคุ คลที่อยรู่ อบข้าง ไมว่ า่ จะเป็นญาตพิ ่ีน้องเพ่ือนหรือแม้กระทงั่ คนท่ีไมร่ ู้จกั กนั มาก่อน ได้ตระหนักและปรับเปล่ียนพฤตกิ รรม สขุ ภาพดีขนึ ้จากเดมิ โดยผ่านการสร้างสมั พนั ธภาพระหวางผ้ทู ่ีเต้นกบั บคุ คลอื่น ในลกั ษณะของการพดู คยุ เรื่องสขุ ภาพการชกั ชวน กนั มาออกกาลงั กายเป็นกลมุ่ และการเป็นแบบอยา่ งในการออกกาลงั กายถึงแม้จะมิได้ถกู ชกั ชวนมาก่อน ซง่ึ ตรงตามสมมตุ ฐิ านของ Janine Hale (1999) ที่กลา่ วถึงภาวะสขุ ภาพที่กระจายสบู่ คุ คลรอบข้าง ทาให้บคุ คลเหลา่ นนั้ ได้รับประโยชน์จากพฤตกิ รรมสขุ ภาพนนั้ด้วย วจิ ารณ์และข้อเสนอแนะ 1. การเลือกสถานที่ทาการการศกึ ษาวิจยั การเลือกสวนชมนา่ นเป็นที่เก็บข้อมลู มีความเหมาะสมในการเลือกใช้เพระอยใู่ กล้ เก็บข้อมลู ได้งา่ ย สะดวก และประชากรท่ีมีจานวนมาก และมีความหลากหลายในชว่ งอายตุ า่ ง ๆ ทาให้เลือกเก็บข้อมลู ได้ตรงตามเป้ าหมาย แตม่ ีข้อท่ีนา่ สงั เกตคอื กลมุ่ คนท่ีมาเต้นแอโรบคิ สว่ นใหญ่จะมาจากพืน้ ที่บริเวณใกล้เคียง ซง่ึ อยใู่ นตวั เมืองใกล้สถานท่ีราชการ และสถานศกึ ษา ทาให้กลมุ่ ท่ีได้คดั เลือกมาวิจยั สว่ นมาก จะเป็นคนท่ีมีการศกึ ษาคอ่ นข้างมีความรู้ ทาให้ได้ข้อมลู ของกลมุ่ ผ้ทู ี่มีความรู้ แตเ่ พียงด้านเดียว ถ้าหากมีเวลาในการศกึ ษาวิจยั มากกว่านี ้ ก็ควรทาการสารวจ และเก็บข้อมลู จากสถานท่ีเต้นแอโรบิคจากหลาย ๆ แหง่ ในจงั หวดั พิษณุโลกให้ทว่ั ถึง เพื่อจะได้นาข้อมลู ท่ีได้ไปใช้ประโยชน์ได้กบั ประชาชนทว่ั ไปได้ 2. การเก็บรวบรวมข้อมลู ในการเก็บรวบรวมข้อมลู มีข้อจากดั มากในด้านเวลา เนื่องจากกรเก็บรวบรวมข้อมลู ในการเต้นแอโรบคิ นนั้ จะมีเวลาเต้นท่ีแนน่ อน คือประมาณ 17.30 น. ถึง19.00 น. ซงึ่ สว่ นใหญ่คนก็มาเต้นเมื่อเลิกเต้นแล้วทาให้ผ้เู ต้นเหนื่อย และมีเหงื่อออกมากจงึ ต้องรีบแยกย้ายกนั กลบั บ้านเพ่ือไปอาบนา้ ทาให้หาประชากรกลมุ่ ตวั อยา่ งที่ต้องการได้ยาก นอกจากนนั้ถ้าหากผ้ถู กู สมั ภาษณ์ยอมให้ความร่วมมือ การสมั ภาษณ์ก็มีความลาบาก เนื่องจากเป็นเวลาทีคอ่ นข้างมืด และมีคนเหลืออยบู่ ริเวณท่ีสมั ภาษณ์น้อย ทาให้บางครัง้ มีเพียงผ้สู มั ภาษณ์และผ้ถู กู
75สมั ภาษณ์ จงึ ทาให้บรรยากาศในการสมั ภาษณ์ที่ไมเ่ หมาะสม ผ้ถู กู สมั ภาษณ์ จะพยายามรีบตอบเพื่อจะรีบกลบั ทาให้การสมั ภาษณ์บางครัง้ ไมไ่ ด้ข้อมลู ข้างต้นท่ีต้องการอยา่ งลกึ ซงึ ้ 3. ความสมบรู ณ์ของข้อมลู เน่ืองจากหวั ข้อที่ต้องการทาการศกึ ษา สามารถทาความเข้าใจได้หลายแบบ การใช้คาถามเพ่ือที่จะให้ได้มาซง่ึ ข้อมลู เดยี วกนั ซง่ึ คอ่ นข้างยาก และผ้ถู กูสมั ภาษณ์ มีประสบการณ์น้อยในการสมั ภาษณ์ เชงิ ลกึ ทาให้ได้ข้อมลู ที่ไมค่ รบในการสมั ภาษณ์ในแตล่ ะครัง้ อาจมีความขาดตกบกพร่องบ้าง
76 กติ ตกิ รรมประกาศ การทาวิจยั เร่ืองการเต้นแอโรบคิ และการเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรม และสภาวะสขุ ภาพของประชาชนท่ีมาเต้นแอโรบคิ คณะผ้วู ิจยั ขอขอบพระคณุ อาจารย์นายแพทย์พินิจ ฟ้ าอานวยผลรองศาสตราจารย์นายแพทย์ศภุ สิทธิ์ พรรณารุโนทยั และผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์นายแพทย์ปัตพงศ์เกษสมบรู ณ์ ผ้ซู งึ่ ให้คาปรึกษา คาแนะนาและชีแ้ นะแนวทางแก้ไขในการทางานวิจยั ครัง้ นี ้มาโดยตลอด ขอขอบพระคณุ ศนู ย์แพทยศาสตรศกึ ษา โรงพยาบาลพทุ ธชินราชท่ีอานวยสถานท่ี และเจ้าหน้าท่ีท่ีให้การชว่ ยเหลือในการทาวิจยั ครัง้ นี ้ ขอขอบพระคณุ คณาจารย์และผ้มู ีเกียรตทิ กุ ท่านที่เข้าร่วมฟังการบรรยายผลงานวจิ ยั และได้ให้คาแนะนาในการปรับปรุงผลงานซง่ึ จะมีคณุ คา่ ย่ิงตอ่ การพฒั นางานวจิ ยั ตอ่ ไปในอนาคต นสพ. ชิตพล โนวฤทธิ์ นสพ. ชชั วาล ฉิ่นไพศาล นสพ .อนชุ ิต หิรัญกิตติ
77 ใบยนิ ยอมเข้าร่วมโครงการ งานวจิ ยั เรื่อง การเต้นแอโรบคิ และการเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมสขุ ภาพคณะผ้วู ิจยั นสพ.ชติ พล โนวฤทธ์ิ นสพ. ชชั วาล ฉ่ินไพศาล นสพ. อนชุ ิต หริ ัญกิตติวตั ถปุ ระสงคแ์ ละผลที่คาดวา่ จะได้รับจากงานวิจยั เพ่ือศกึ ษาผ้ทู ่ีออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ ณ สวนชมนา่ น ถงึ เหตผุ ลท่ีมาออกกาลงักายประเภทนี ้และได้มีการเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมทางสขุ ภาพอยา่ งไร และมีปัจจยั อื่นใดหรือไม่ที่เก่ียวข้องกบั การเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมสขุ ภาพ เพื่อเป็ นประโยชน์ในการเข้าใจถงึ ปัจจยั ที่มีสว่ นเกื่ยวข้องกบั การปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ซงึ่ อาจนามาใช้เป็นข้อมลู พืน้ ฐานในการศกึ ษาวจิ ยัเพ่ือสง่ เสริมกิจกรรมสขุ ภาพในการลดพฤติกรรมเสี่ยงตอ่ ไป ข้าพเจ้า ( นาย, นาง, นางสาว ) ……………………………………อาย…ุ ………ปีได้ทราบข้อมลู เกี่ยวกบั งานวิจยั นีแ้ ละเข้าใจถึงวตั ถปุ ระสงค์ วธิ ีการดาเนนิ งาน และยินดที ่ีจะเข้าร่วมเป็นสว่ นหนง่ึ ของงานวจิ ยั ด้วยความสมคั รใจของข้าพเจ้าเอง ทงั้ นีข้ ้าพเจ้าจงึ ยินยอมให้ 1. คณะผ้ทู าวจิ ยั บนั ทกึ เสียงของข้าพเจ้าระหวา่ งการสนทนา เพื่อนาไปใช้ประกอบการ วิจยั ได้ 2. ข้าพเจ้ามีสิทธิ์ท่ีจะให้หรือไม่ให้ข้อมลู บางประการแกผ่ ้วู จิ ยั และสามารถออกจาก งานวจิ ยั นีไ้ ด้โดยไมต่ ้องบอกเหตผุ ล 3. ข้าพเจ้าไมอ่ นญุ าตให้ผ้ทู าการวจิ ยั เปิ ดเผยช่ือและข้อมลู ส่วนตวั ของข้าพเจ้าแก่ สาธารณชน ลงช่ือ………………………………
78 (……………………………………) ผ้เู ข้าร่วมโครงการวจิ ยั วนั ท่ี………เดอื น…………….ปี ……. บรรณานุกรมจริยา เลศิ อรรฆมณี และคณะ.งานวจิ ัยทางคลินิก.กรุงเทพฯ:ไพศาลศลิ ป์ การ พมิ พ,์ 2542.ประภาเพญ็ สวุ รรณ และคณะ.การศกึ ษาพฤตกิ รรมการป้ องกนั และรักษาสขุ ภาพของ ลกู จ้างผ้ปู ระกนั ตนในประเทศไทย.วารสารสุขศกึ ษา 2543;86(23):1-19.เรณา พงษ์เรืองพนั ธ์ุ.การวจิ ัยทางการพยาบาล.คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั บรู พา,2539.Watson j and platts .Research health promotion .routledge London 2000 :142-153.www.kaewdiary.com/webbord/show.php?catelD=O&No=4596(15 /01/ 2003)www.thairunning.com (15 /01/ 2003)
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: