วิจัยในชนั้ เรยี นรายงานผลการใช้บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนเพอ่ื พฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นวชิ าคอมพวิ เตอร์และการบารุงรักษา เรอ่ื ง หลักการทางานคอมพิวเตอร์ ของนกั เรียน ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 (ปวช) ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จัดทาโดย วา่ ทีร่ อ้ ยตรสี มพงษ์ ตระการศุภกร ตาแหนง่ พนักงานราชการ สานกั งานบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จังหวัดเชยี งใหม่
ชือ่ เรือ่ ง : รายงานผลการใชบ้ ทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนเพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น วชิ า ระบบปฏบิ ัตกิ ารเบอื้ งต้น เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 (ปวช) ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ผวู้ ิจัย : ว่าที่ร้อยตรสี มพงษ์ ตระการศภุ กรปีที่ศึกษา : 2560 รายงานผลการใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนเพอื่ พัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน วชิ าระบบปฏบิ ัติการเบอ้ื งต้น เร่อื ง การจัดการขอ้ มูลและสารสนเทศ ของนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 (ปวช.) ปีการศกึ ษา 2560 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จังหวัดเชียงใหม่มีวตั ถุประสงคค์ ือเพือ่ พัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น เรอ่ื ง การจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ ของนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5(ปวช.) ทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนกั เรยี นท่ีเรยี นด้วยบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน เรื่อง การจดั การขอ้ มูลและสารสนเทศ และเพ่ือศึกษาความคดิ เหน็ ของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5(ปวช.) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ท่ีมตี ่อการใช้บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน เร่ือง การจดั การข้อมูลและสารสนเทศ กล่มุ เป้าหมายที่ใชใ้ นการศึกษาเป็นนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5 (ปวช.) ภาคเรียนท่ี 2ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จานวน 20 คน เป็นชาย 8 คน หญงิ 12 คน เคร่อื งมอื ที่ใช้ในการศึกษาคร้ังนี้คือ บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน เรือ่ ง การจดั การข้อมูลและสารเสนทเทศ 1 บทเรยี นแผนการจัดการเรยี นรู้จานวน 1 แผน สาหรับประกอบการสอน 2 ชวั่ โมง แบบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เรื่องการจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ จานวน 10 ขอ้ และแบบประเมนิ ความคดิ เหน็ จานวน 1 ฉบับ 10 ขอ้ หาประสิทธิภาพของบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนโดยใช้เกณฑม์ าตรฐาน 80/80 วิเคราะห์หาค่าเฉล่ีย ( x ) สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.) และคา่ ร้อยละ(Percentage)ความเป็นมาและความสาคัญของปญั หา เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ ได้เข้ามบี ทบาทที่เก่ียวกับชวี ิตประจาวนั และกลายเป็นสงิ่ ทส่ี าคญั ของมนษุ ย์มากขึน้ คอมพิวเตอร์มีบทบาทในทกุ วงการทุกอาชพี ซ่ึงจะพบได้ว่าในหนว่ ยงานตา่ งๆไดน้ าคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ มาใชเ้ พอ่ื ใหเ้ กิดประโยชน์ เกดิ ความสะดวกสบายในการดาเนินงาน และทาให้เกิดประสิทธภิ าพสงู ในสถานศึกษาส่วนใหญ่ไดจ้ ัดหาไว้ เพอ่ื ในการจดั การเรียนการสอน และจดั การศึกษาท่มี ีการพัฒนาโปรแกรมตา่ งๆ ให้มีคุณภาพสงู ขึน้ ในปัจจุบันการจัดการเรยี นการสอนทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพน้นั จะตอ้ งประกอบดว้ ยวัตถุประสงค์อย่างหนงึ่ ก็คอื จะตอ้ งปลกู ฝันใหน้ กั เรียนมคี วามรู้ฝ่ายเรยี น และสามารถศกึ ษาค้นคว้า หาความรู้ได้ด้วยตนเองนัน้ มีหลายวธิ ี ซึ่งการเรยี นผ่านบทเรยี นคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนเป็นอีกสว่ นหน่ึงหรืออกี แนวทางหน่ึงท่จี ะช่วยทีจ่ ะทาให้ผเู้ รียนมีความรู้อิสระ ในการเลอื กเนือ้ หาในการเรียนรซู้ งึ่ สามารถ กาหนดเสน้ ทางในการเรียนร้ขู องตนเองได้ตามความสนใจและความถนัดของผู้เรยี น เปน็ การส่งเสรมิ การเรยี นแบบผู้เรยี นเปน็ ศนู ยก์ ลางด้วย ดงั นนั้ ทางผ้วู จิ ัย จึงได้เหน็ ความสาคญั ของการเรียนการสอนด้วยการโดยใชส้ อื่ เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจดั การเรยี นการสอน จงึ ไดน้ าบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิท์ างการเรียนโดยโปรแกรมAdobe captivate เร่ืองการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5(ปวช.) โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแจ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่ ซ่ึงเป็นรายวชิ าท่นี ักเรียนจะต้องทาการศกึ ษาค้นควา้ เพอ่ืทาการเรยี นและใหบ้ ทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนอกี ท้ังยงั ชว่ ยใหน้ ักเรียนไปปฏบิ ตั ิ สามารถนาไปศึกษาและฝึก
ปฏิบัตงิ านดว้ ยตนเอง ได้ซึง่ จะทาให้นักเรยี นเกดิ ทักษะการเรยี นรดู้ ้วยตนเองนอกเวลาเรียนไดเ้ นน้ การฝึกทาความเขา้ ใจกบั เนือ้ หาสาระดว้ ยตนเอง อกี ท้ังยังช่วยสง่ เสรมิ ใหบ้ ทเรียนมคี วามนา่ สนใจมากขึน้ เพือ่ พฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี น ในการแกป้ ัญหาหลาย ๆ ประการ การสอนโดยบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน เป็นแนวทางในการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นให้มีประสิทธภิ าพมากยิง่ ข้นึวตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือพฒั นาบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เร่อื ง การจัดการขอ้ มูลและสารสนเทศนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 5 สาขาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชยี งใหม่ 2. เพอื่ ศกึ ษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรยี นท่ีเรียนดว้ ยบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน เรอ่ื ง การจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ ของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ 3. เพอ่ื ศึกษาความคิดเหน็ ของนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 สาขาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่สมมตุ ฐิ านของการศึกษา 1. ผู้เรยี นมบี ทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เรอ่ื งการจัดการข้อมลู และสารสนเทศของนกั เรียนชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 6 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ 2. ผู้เรียนมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นหลงั เรยี น โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนเรื่องการจัดการ ขอ้ มูลและสารสนเทศสูงข้นึ กว่าก่อนเรียน 3. นักเรยี นมีความคิดเห็นการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน เรอ่ื งการจดั การขอ้ มูลและ สารสนเทศในระดับดีมากขอบเขตของการศกึ ษา 1. กลุ่มเป้าหมายในการวิจยั ในชนั้ เรียน นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 สาขาคอมพวิ เตอรธรุ กิจ หอ้ ง 1 จานวน 20 คน โรงเรยี นราช ประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 ซึ่งผวู้ ิจัยได้ เลอื กแบบเจาะจง 2. เนอ้ื หา / สาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ 3 เร่ืองการจัดการข้อมูล และสารสนเทศ 3. ตัวแปร ได้แก่ ตัวแปรต้น คือ บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนเร่ือง การจดั การขอ้ มลู และสารสนเทศ ตวั แปรตาม คือ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เรอ่ื งการจดั การ ข้อมลู และสารสนเทศ
วธิ ดี าเนนิ การ ดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ใู หก้ บั เดก็ นักเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน เร่ือง การจดั การขอ้ มลู และสารสนเทศจานวน 2 ช่ัวโมง กับนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์31 อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชียงใหม่ ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 จานวน 20 คน โดยดาเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูลดังนี้ 1.ทดสอบกอ่ นเรยี น กบั นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 20 คน เปน็ การกลมุ่ เปา้ หมายโดยใช้แบบทดสอบก่อนเรยี น เพื่อวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน จานวน 10 ขอ้ 2. ดาเนนิ การสอน โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เร่อื ง การจัดการขอ้ มูลสารสนเทศ กบันกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 20 คน ตรงตามหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 จานวน 2 ชั่วโมง 3. แบบทดสอบหลังเรยี น หลังจากทีไ่ ด้ดาเนินตรงตามแผนการจัดเรียนรู้แลว้ ก็ดาเนนิ การทดสอบโดยใช้แบบทดสอบหลังเรยี นเพื่อวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น แล้วนาคะแนน ทง้ั หมดมาวิเคราะหต์ ่อไป 4. เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นโดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน เรอ่ื ง การจัดการขอ้ มูลสารสนเทศ ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 จานวน 20 คน จากคะแนนทดสอบก่อนเรียนและทดสอบหลงั เรียนผลการวิเคราะห์ข้อมูล รายงานการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในรายวิชาระบบปฏิบัติการเบื้องต้น เรื่องการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 มีวัตถุประสงดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ของนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชียงใหม่ 2. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการจดั การข้อมูลและสารสนเทศ นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจมีประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจต่อการเรยี นบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
กลุ่มเป้าหมายทีใ่ ช้ในการศึกษาคือ นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จานวน 20 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 12คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 1 บทเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ จานวน 10 ข้อและแบบประเมินความคิดเห็น 1 ฉบับ จานวน 10 ข้อวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉล่ีย ( x ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ(Percentage) ในการศึกษาครงั้ นศี้ ึกษาได้แบ่งการวิเคราะห์ผลออกได้ 3ตอนดงั นี้ ตอนที่ 1 การหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ตอนที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตอนที่ 3 ความคิดเหน็ ของนกั เรียนที่เรียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรือ่ ง การจดั การข้อมูลและสารสนเทศ การทดลองคร้ังที่ 1 ขั้นทดลองหาประสิทธิภาพหนึ่งต่อหนึ่ง (1:1) นาบทเรียนไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 1 คน ซึ่งคัดเลือกจากนักเรียนเก่งปานกลาง แล้วนามาหาประสิทธิภาพ ความเหมาะสมของเนื้อหาและเวลาที่ใช้ เพื่อนาไปปรบั ปรงุ แก้ไข จากการทดลองหาประสทิ ธิภาพ ผลปรากฏว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ยังไม่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ได้ประสิทธิภาพเท่ากับ66.66/76.66 (ภาคผนวก ค) เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างยากเกินไป บางคร้ังการอธิบายเนื้อหาในบทเรียนไมม่ ีความชดั เจน จึงไดป้ รับปรงุ เน้อื หาให้งา่ ยขนึ้ และได้เพิ่มเตมิ รูปภาพให้สอดคล้องกบั เนอื้ หา การทดลองคร้ังที่ 2 ข้ันทดลองหาประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็ก (1:3) นาบทเรียนไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560จานวน 3 คน เป็นนักเรียนเก่ง 1 คน ปานกลาง 1 คนและอ่อน 1 คน หาประสิทธิภาพ และพิจารณาข้อบกพร่องแล้วนาไปปรับปรุงแก้ไขอีกครั้งหนึ่ง พบว่ายังไม่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ได้ประสิทธิภาพเท่ากบั 73.33/84.44 (ภาคผนวก ค) เนื่องจากแบบทดสอบยากและเปน็ การวิเคราะห์มากเกินไปจึงไดท้ าการปรบั ปรงุ ขอ้ สอบให้มีความเหมาะสมกับระดับผู้เรยี นมากขนึ้ การทดลองครั้งที่ 3 ขั้นทดลองหาประสิทธิภาพภาคสนาม (1:15) นาบทเรียนไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560จานวน 20 คน แล้วหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ผลปรากฏว่า บทเรียน มี
ประสิทธิภาพเท่ากบั 81.66/86.66 (ภาคผนวก ค) แล้วจึงนาไปทดลองใช้จริงกับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560ตารางที่ 1 แสดงประสิทธิภาพของของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (N= 20)กก คะแนนN=20 ระหว่างเรยี น หลงั เรียน 10 10รวม 245 260รอ้ ยละ 81.66 86.66 จากตาราง 1 พบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศของนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.66/86.66 แสดงว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานท่กี าหนด คือ 80/80 ตอนที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมลู และสารสนเทศ ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตารางที่ 2 ผลการเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมลู และสารสนเทศ ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 (N = 19)รวม กอ่ นเรยี น หลงั เรียน ความก้าวหน้าคา่ เฉลี่ย 233 318 85คา่ ร้อยละ 5.97 8.15 2.18ค่าสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน 21.80 59.74 81.54 1.02 0.83
จากตาราง 2 พบว่า ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นโดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรือ่ ง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 21.80 โดยมีคะแนนก่อนเรียนร้อยละ 59.74 และมีคะแนนหลังเรียนร้อยละ 81.54 โดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนทีส่ ร้างขนึ้ สง่ ผลให้ผู้เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนทีส่ งู ขนึ้ สว่ นค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทไ่ี ด้จากคะแนนก่อนเรียนสูงกว่าคะแนนหลงั เรียนโดยมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนก่อนเรียน เท่ากับ 1.02 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนหลังเรียน เท่ากับ 0.83 จะเห็นได้ว่าก่อนเรียนผู้เรียนมีความสามารถแตกต่างกัน แต่หลังจากเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแล้วพบว่าความสามารถของผู้เรยี นแตกต่างกนั น้อยลง ตอนที่ 3 ความคิดเห็นของนกั เรียนที่เรียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรือ่ ง การจดั การข้อมลู และสารสนเทศตารางที่ 3 ค่าเฉล่ีย ( x ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) จากการประเมินความคิดเห็นของนักเรียนต่ อ ก า ร เ รี ย น ด้ ว ยบทเรี ยนคอมพิวเตอร์ช่ วยสอนเรื่อง การจัดการข้อมู ลและสารสนเทศ(N = 15) ผลการประเมิน รายการ ระดบั1. การเรียนวิชานีท้ าให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างชัดเจน ( x ) (S.D.) คุณภาพ 4.77 0.43 ดมี าก2. เนือ้ หาวิชาน้มี คี วามสาคัญต่อการนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ 4.49 0.51 ดี3. เทคนิคการจดั การเรียนรู้สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.79 0.41 ดมี าก4. ส่อื การเรียนการสอนหลากหลายและช่วยให้นักเรยี นเกิดการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์ 4.62 0.54 ดมี าก5. กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ กระบวนการคิดและความแตกต่างระหว่างบคุ คล 4.72 0.51 ดมี าก6. กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ให้นักเรียนได้ปฏิบัติดว้ ยตนเอง 4.82 0.39 ดมี าก7. นักเรยี นมีโอกาสในการคิดแกป้ ัญหาและตดั สนิ ใจดว้ ยตนเอง 4.87 0.34 ดมี าก8. กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้นกั เรียนมีวินัย มีคณุ ธรรมและมีความรับผิดชอบ 4.82 0.39 ดมี าก
ตารางที่ 3 (ต่อ)ค่าเฉลย่ี ( x ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) จากการประเมินเจตคติของนกั เรียนต่อก า ร เ รี ย น ด้ ว ยบทเรี ยนคอมพิ วเตอร์ ช่ วยสอนเรื่ อง การจั ดการข้ อมู ลและสารสนเทศ(N = 20) รายการ ผลการประเมิน ระดับ9. ผลการประเมินนกั เรียนก่อนและหลงั เรียนไดน้ าไปใช้ ในการปรับปรุงการเรียนการสอน ( x ) (S.D.) คุณภาพ10. นักเรยี นมีความพอใจในบรรยากาศการเรียนรู้และมี 4.90 0.31 ดมี าก ความสุขกับการเรยี นวิชาน้ี 4.49 0.60 ดีคา่ เฉลีย่ รวม 4.73 0.44 ดีมาก จากตาราง 3 พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 4.73 เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่ารายการที่มีคะแนนเฉล่ียมากทีส่ ุด คือ ผลการประเมินนักเรียนก่อนและหลังเรียนได้นาไปใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอน มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 4.90 รองลงมา ได้แก่นักเรยี นมีโอกาสในการคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจดว้ ยตนเอง มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.87 และกิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้นักเรียนไดป้ ฏิบัติด้วยตนเอง,กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้นักเรียนมีวินัย มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบ มีคะแนนเฉลีย่ เท่ากับ 4.82 ตามลาดบัสรุปผล 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.66/86.66 แสดงว่าบทเรียนมีประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานท่กี าหนด คือ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 21.80 โดยมีคะแนนก่อนเรียนร้อยละ 59.74 และมีคะแนนหลังเรียนร้อยละ 81.54 โดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้นส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ได้จากคะแนนก่อนเรียนสงู กว่าคะแนนหลังเรียนโดยมีค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนก่อนเรียน เท่ากบั 1.02และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนหลังเรียน เท่ากับ 0.83 จะเห็นได้ว่าก่อนเรียนผู้เรียนมีความสามารถแตกต่างกัน แตห่ ลังจากเรียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแล้วพบว่าความสามารถของผู้เรยี นแตกต่างกนั น้อยลง
3. ความคิดเหน็ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ พบว่า นักเรียนมีคิดเห็นการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดบั ดมี ากอภิปรายผล 1. รายงานการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จากการทดลองพบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.66/86.66 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (เผชญิ กิจระการ, 2544 : 44-51) และเปน็ ไปตามสมมุติฐานท่ีต้ังไว้ จึงถอืว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจดั การข้อมูลและสารสนเทศ มีประสทิ ธิภาพและเหมาะสมในการนาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ภูมรินทร์ แสนไชยสุริยา(2546 : 46) ได้ทาการวิจัยเพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย โครงสร้างของบทเรียนเป็นแบบเพื่อการสอน (TutorialInstruction) มีการจัดเนื้อหาแบบเรียงลาดับ ผลการศึกษาพบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อสอนเรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ (ช 0249)สาหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 89.00/91.58 ซึ่งสงู กว่าเกณฑ์ที่ต้ังไว้ข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะการนาผลการศึกษาไปใช้1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ท่ีสร้างข้ึนเป็นบทเรียนสาหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 หากจะนาชดุ การสอนไปใช้สอนในระดับช้ันอืน่ ผสู้ อนควรพจิ ารณาเน้อื หาและความยากง่าย ปรบั ปรุงใหเ้ หมาะสมกับผ้เู รยี น2. ก่อนการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ผู้สอนควรศึกษารายละเอียด และขั้นตอนในการใช้บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน ให้เข้าใจเสยี ก่อน แล้วจงึ นาไปใชใ้ นการเรียนการสอน เพ่ือใหผ้ ู้เรียนได้เข้าใจเนอื้ หาและได้รับประโยชน์จากการเรยี นการสอนมากที่สุด3. ผู้เรียนบางคนยังขาดทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ทาให้การเรยี นการสอนเป็นไปอย่างล่าช้า ดังนั้นจึงควรจัดสอนความรู้พื้นฐานให้ผเู้ รยี นกลมุ่ นัน้ ก่อนเพ่อื ให้การจัดการเรียนการสอนเปน็ ไปอย่างตอ่ เน่อื งและพร้อมกัน
4. ในการจัดการเรียนการสอนหากไม่มีอุปกรณ์และ โปรแกรมท่ีจาเป็นต่อการใช้ บทเรยี นจะเปน็ อุปสรรคต่อการเรียน อุปกรณ์ที่ต้องมีในเครื่อง ได้แก่ Sound Card ลาโพงท่ีทาให้เกิดเสียง หากผู้เรียนใช้พร้อมกันหลายเครือ่ งควรใช้หฟู งั เพอ่ื ไมใ่ ห้เกดิ การรบกวน ห้องเรยี นอนื่5. ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน ครูตอ้ งเปลีย่ นบทบาทจากการพูด บอกออกคาสั่ง มาเป็นผใู้ ห้ความช่วยเหลือ ผู้จดั ประสบการณ์ท่เี อ้อื อานวยให้ผูเ้ รียน ไดค้ ดิ ค้นหาคาตอบ อภปิ รายถกเถียง เกดิ ความคดิ รวบยอด บรรลุการเรยี นรู้ตามผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวงั อกี ทั้งครูควรเปน็ ผู้เสรมิ สร้างความเป็นประชาธิปไตย ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้เรียน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งจะทาให้ผเู้ รยี นจดจาได้นาน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา1. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรียน2. บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน3. แบบประเมินความคดิ เหน็ ของนักเรียน แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นกอ่ นเรยี น- หลงั เรียนคาชี้แจง ให้ขีดเคร่อื งหมายกากบาท ลงในช่องสเ่ี หลย่ี มทีต่ รงกับตัวอกั ษร ก ข ค หรือ ง ที่เปน็ คาตอบทีถ่ กู ต้องทีส่ ดุ หรอื เหมาะสมทีส่ ดุ เพียงคาตอบเดยี ว ในกระดาษคาตอบ-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ข้อใดจัดเป็นข้อจากัดของข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์ก. นาเสนอข้อมูลด้วยส่ือที่หลากหลายข. ติดต่อส่ือสารข้อมูลกันโดยไม่มีขีดจากัดค. มีความรวดเร็วในการนาเสนอผลงานง. ข้อมูลมีจานวนมหาศาล และคัดกรองได้ง่าย2. การตรวจสอบข้อมูลในเรื่องเดียวกัน ควรจะปฏิบัติอย่างไรก. เลือกข้อมูลที่เพื่อนเลือกตรงกันข. เลือกข้อมูลที่เกิดขึ้นในปัจจุบันค. เลือกข้อมูลที่มีแหล่งอ้างอิง มีความน่าเชื่อถือง. เลือกข้อมูลที่แปลมาจากภาษาต่างประเทศ3. ข้อใดเป็นการบันทึกข้อมูลในหน่วยความจาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ก. Floppy Disk ข. Flash Driveค. CD - ROM ง. Hard Disk4. อุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลในข้อใดที่ไม่นิยมใช้ในปัจจุบันก. แผ่นซีดี ข. แผ่นดิสก์ค. ฮาร์ดดิสก์ ง. แฟลชไดร์ฟ5. อุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลในข้อใดที่สามารถถ่ายโอนได้ง่ายและพกพาสะดวกก. แผ่นซีดี ข. แผ่นดิสก์ค. ฮาร์ดดิสก์ ง. แฟลชไดร์ฟ
6. เทป เป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลประเภทใดก. ข้อมูลเสียง ข. ข้อมูลภาพค. ข้อมูลภาพและเสียง ง. ข้อมูลตัวอักษร7. การนาเสนอข้อมูลสารสนเทศในข้อใดที่ง่ายต่อการเปรียบเทียบข้อมูล หรือการตัดสินใจก. การนาเสนอข้อมูลแบบตารางข. การนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิค. การนาเสนอด้วยการแสดงรูปภาพง. การนาเสนอด้วยการเขียนรายงานแบบบรรยา8. การบันทึกเว็บไซต์ ไว้ใน My Favorite มีประโยชน์อย่างไรก. ค้นหาข้อมูลที่ใช้บ่อยๆ ได้สะดวกข. คัดลอกข้อมูลได้เป็นจานวนมากค. ค้นหาข้อมูลที่เป็นปัจจุบันได้ง่ายง. คัดกรองข้อมูลได้ง่าย9. ข้อใดเป็นหัวใจสาคัญของการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศก. จัดเก็บให้มีปริมาณมากที่สุดข. จัดเก็บข้อมูลเก่าๆ ให้ได้มากที่สุดค. จัดเก็บข้อมูลให้เป็นระบบ และนามาใช้ได้ง่ายง. จัดเก็บข้อมูลโดยการทาสาเนาถาวรด้วยพิมพ์เป็นเอกสาร10. การประมวลผลข้อมูลในขั้นตอน Input มีลักษณะอย่างไรก. รวบรวมข้อมูลเพื่อรอประมวลผลข. นาข้อมูลที่ได้รับมาประมวลผลค. เรียงลาดับหรือเปรียบเทียบข้อมูลง. ประมวลผลให้อยู่ในรูปของตารางหรือแผนภูมิ
1. ง6. ก1. ง6. ก1. ง6. ก1. ง6. ก1. ง6. ก
วจิ ัยในชัน้ เรียน รายงานผลการใช้บทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพอ่ื พัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี น วชิ าคอมพิวเตอร์และการบารุงรกั ษา เรือ่ ง หลักการ ทางานคอมพิวเตอร์ ของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 (ปวช) ปกี ารศกึ ษา 2560 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จัดทาโดย วา่ ทีร่ ้อยตรีสมพงษ์ ตระการศภุ กร ตาแหน่งพนักงานราชการ สานกั งานบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ชือ่ เรือ่ ง : รายงานผลการใชบ้ ทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนเพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น วชิ า ระบบปฏบิ ัตกิ ารเบอื้ งต้น เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 (ปวช) ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ผวู้ ิจัย : ว่าที่ร้อยตรสี มพงษ์ ตระการศภุ กรปีที่ศึกษา : 2560 รายงานผลการใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนเพอื่ พัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน วชิ าระบบปฏบิ ัติการเบอ้ื งต้น เร่อื ง การจัดการขอ้ มูลและสารสนเทศ ของนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 (ปวช.) ปีการศกึ ษา 2560 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จังหวัดเชียงใหม่มีวตั ถุประสงคค์ ือเพือ่ พัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น เรอ่ื ง การจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ ของนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5(ปวช.) ทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนกั เรยี นท่ีเรยี นด้วยบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน เรื่อง การจดั การขอ้ มูลและสารสนเทศ และเพ่ือศึกษาความคดิ เหน็ ของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5(ปวช.) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ท่ีมตี ่อการใช้บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน เร่ือง การจดั การข้อมูลและสารสนเทศ กล่มุ เป้าหมายที่ใชใ้ นการศึกษาเป็นนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5 (ปวช.) ภาคเรียนท่ี 2ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จานวน 20 คน เป็นชาย 8 คน หญงิ 12 คน เคร่อื งมอื ที่ใช้ในการศึกษาคร้ังนี้คือ บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน เรือ่ ง การจดั การข้อมูลและสารเสนทเทศ 1 บทเรยี นแผนการจัดการเรยี นรู้จานวน 1 แผน สาหรับประกอบการสอน 2 ชวั่ โมง แบบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เรื่องการจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ จานวน 10 ขอ้ และแบบประเมนิ ความคดิ เหน็ จานวน 1 ฉบับ 10 ขอ้ หาประสิทธิภาพของบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนโดยใช้เกณฑม์ าตรฐาน 80/80 วิเคราะห์หาค่าเฉล่ีย ( x ) สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.) และคา่ ร้อยละ(Percentage)ความเป็นมาและความสาคัญของปญั หา เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ ได้เข้ามบี ทบาทที่เก่ียวกับชวี ิตประจาวนั และกลายเป็นสงิ่ ทส่ี าคญั ของมนษุ ย์มากขึน้ คอมพิวเตอร์มีบทบาทในทกุ วงการทุกอาชพี ซ่ึงจะพบได้ว่าในหนว่ ยงานตา่ งๆไดน้ าคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ มาใชเ้ พอ่ื ใหเ้ กิดประโยชน์ เกดิ ความสะดวกสบายในการดาเนินงาน และทาให้เกิดประสิทธภิ าพสงู ในสถานศึกษาส่วนใหญ่ไดจ้ ัดหาไว้ เพอ่ื ในการจดั การเรียนการสอน และจดั การศึกษาท่มี ีการพัฒนาโปรแกรมตา่ งๆ ให้มีคุณภาพสงู ขึน้ ในปัจจุบันการจัดการเรยี นการสอนทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพน้นั จะตอ้ งประกอบดว้ ยวัตถุประสงค์อย่างหนงึ่ ก็คอื จะตอ้ งปลกู ฝันใหน้ กั เรียนมคี วามรู้ฝ่ายเรยี น และสามารถศกึ ษาค้นคว้า หาความรู้ได้ด้วยตนเองนัน้ มีหลายวธิ ี ซึ่งการเรยี นผ่านบทเรยี นคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนเป็นอีกสว่ นหน่ึงหรืออกี แนวทางหน่ึงท่จี ะช่วยทีจ่ ะทาให้ผเู้ รียนมีความรู้อิสระ ในการเลอื กเนือ้ หาในการเรียนรซู้ งึ่ สามารถ กาหนดเสน้ ทางในการเรียนร้ขู องตนเองได้ตามความสนใจและความถนัดของผู้เรยี น เปน็ การส่งเสรมิ การเรยี นแบบผู้เรยี นเปน็ ศนู ยก์ ลางด้วย ดงั นนั้ ทางผ้วู จิ ัย จึงได้เหน็ ความสาคญั ของการเรียนการสอนด้วยการโดยใชส้ อื่ เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจดั การเรยี นการสอน จงึ ไดน้ าบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิท์ างการเรียนโดยโปรแกรมAdobe captivate เร่ืองการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5(ปวช.) โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแจ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่ ซ่ึงเป็นรายวชิ าท่นี ักเรียนจะต้องทาการศกึ ษาค้นควา้ เพอ่ืทาการเรยี นและใหบ้ ทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนอกี ท้ังยงั ชว่ ยใหน้ ักเรียนไปปฏบิ ตั ิ สามารถนาไปศึกษาและฝึก
ปฏิบัตงิ านดว้ ยตนเอง ได้ซึง่ จะทาให้นักเรยี นเกดิ ทักษะการเรยี นรดู้ ้วยตนเองนอกเวลาเรียนไดเ้ นน้ การฝึกทาความเขา้ ใจกบั เนือ้ หาสาระดว้ ยตนเอง อกี ท้ังยังช่วยสง่ เสรมิ ใหบ้ ทเรียนมคี วามนา่ สนใจมากขึน้ เพือ่ พฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรยี น ในการแกป้ ัญหาหลาย ๆ ประการ การสอนโดยบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน เป็นแนวทางในการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นให้มีประสิทธภิ าพมากยิง่ ข้นึวตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือพฒั นาบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เร่อื ง การจัดการขอ้ มูลและสารสนเทศนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 5 สาขาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชยี งใหม่ 2. เพอื่ ศกึ ษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรยี นท่ีเรียนดว้ ยบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน เรอ่ื ง การจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ ของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ 3. เพอ่ื ศึกษาความคิดเหน็ ของนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 สาขาคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่สมมตุ ฐิ านของการศึกษา 1. ผู้เรยี นมบี ทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เรอ่ื งการจัดการข้อมลู และสารสนเทศของนกั เรียนชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 6 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ 2. ผู้เรียนมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นหลงั เรยี น โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนเรื่องการจัดการ ขอ้ มูลและสารสนเทศสูงข้นึ กว่าก่อนเรียน 3. นักเรยี นมีความคิดเห็นการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน เรอ่ื งการจดั การขอ้ มูลและ สารสนเทศในระดับดีมากขอบเขตของการศกึ ษา 1. กลุ่มเป้าหมายในการวิจยั ในชนั้ เรียน นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 สาขาคอมพวิ เตอรธรุ กิจ หอ้ ง 1 จานวน 20 คน โรงเรยี นราช ประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 ซึ่งผวู้ ิจัยได้ เลอื กแบบเจาะจง 2. เนอ้ื หา / สาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ 3 เร่ืองการจัดการข้อมูล และสารสนเทศ 3. ตัวแปร ได้แก่ ตัวแปรต้น คือ บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนเร่ือง การจดั การขอ้ มลู และสารสนเทศ ตวั แปรตาม คือ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เรอ่ื งการจดั การ ข้อมลู และสารสนเทศ
วธิ ดี าเนนิ การ ดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ใู หก้ บั เดก็ นักเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน เร่ือง การจดั การขอ้ มลู และสารสนเทศจานวน 2 ช่ัวโมง กับนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์31 อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชียงใหม่ ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 จานวน 20 คน โดยดาเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูลดังนี้ 1.ทดสอบกอ่ นเรยี น กบั นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 20 คน เปน็ การกลมุ่ เปา้ หมายโดยใช้แบบทดสอบก่อนเรยี น เพื่อวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน จานวน 10 ขอ้ 2. ดาเนนิ การสอน โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน เร่อื ง การจัดการขอ้ มูลสารสนเทศ กบันกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 20 คน ตรงตามหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 จานวน 2 ชั่วโมง 3. แบบทดสอบหลังเรยี น หลังจากทีไ่ ด้ดาเนินตรงตามแผนการจัดเรียนรู้แลว้ ก็ดาเนนิ การทดสอบโดยใช้แบบทดสอบหลังเรยี นเพื่อวดั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น แล้วนาคะแนน ทง้ั หมดมาวิเคราะหต์ ่อไป 4. เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นโดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน เรอ่ื ง การจัดการขอ้ มูลสารสนเทศ ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 จานวน 20 คน จากคะแนนทดสอบก่อนเรียนและทดสอบหลงั เรียนผลการวิเคราะห์ข้อมูล รายงานการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในรายวิชาระบบปฏิบัติการเบื้องต้น เรื่องการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 มีวัตถุประสงดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ของนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชียงใหม่ 2. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการจดั การข้อมูลและสารสนเทศ นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจมีประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจต่อการเรยี นบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
กลุ่มเป้าหมายทีใ่ ช้ในการศึกษาคือ นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จานวน 20 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 12คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 1 บทเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ จานวน 10 ข้อและแบบประเมินความคิดเห็น 1 ฉบับ จานวน 10 ข้อวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉล่ีย ( x ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ(Percentage) ในการศึกษาครงั้ นศี้ ึกษาได้แบ่งการวิเคราะห์ผลออกได้ 3ตอนดงั นี้ ตอนที่ 1 การหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ตอนที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตอนที่ 3 ความคิดเหน็ ของนกั เรียนที่เรียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรือ่ ง การจดั การข้อมูลและสารสนเทศ การทดลองคร้ังที่ 1 ขั้นทดลองหาประสิทธิภาพหนึ่งต่อหนึ่ง (1:1) นาบทเรียนไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 1 คน ซึ่งคัดเลือกจากนักเรียนเก่งปานกลาง แล้วนามาหาประสิทธิภาพ ความเหมาะสมของเนื้อหาและเวลาที่ใช้ เพื่อนาไปปรบั ปรงุ แก้ไข จากการทดลองหาประสทิ ธิภาพ ผลปรากฏว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ยังไม่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ได้ประสิทธิภาพเท่ากับ66.66/76.66 (ภาคผนวก ค) เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างยากเกินไป บางคร้ังการอธิบายเนื้อหาในบทเรียนไมม่ ีความชดั เจน จึงไดป้ รับปรงุ เน้อื หาให้งา่ ยขนึ้ และได้เพิ่มเตมิ รูปภาพให้สอดคล้องกบั เนอื้ หา การทดลองคร้ังที่ 2 ข้ันทดลองหาประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็ก (1:3) นาบทเรียนไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560จานวน 3 คน เป็นนักเรียนเก่ง 1 คน ปานกลาง 1 คนและอ่อน 1 คน หาประสิทธิภาพ และพิจารณาข้อบกพร่องแล้วนาไปปรับปรุงแก้ไขอีกครั้งหนึ่ง พบว่ายังไม่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ได้ประสิทธิภาพเท่ากบั 73.33/84.44 (ภาคผนวก ค) เนื่องจากแบบทดสอบยากและเปน็ การวิเคราะห์มากเกินไปจึงไดท้ าการปรบั ปรงุ ขอ้ สอบให้มีความเหมาะสมกับระดับผู้เรยี นมากขนึ้ การทดลองครั้งที่ 3 ขั้นทดลองหาประสิทธิภาพภาคสนาม (1:15) นาบทเรียนไปทดลองใช้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560จานวน 20 คน แล้วหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ผลปรากฏว่า บทเรียน มี
ประสิทธิภาพเท่ากบั 81.66/86.66 (ภาคผนวก ค) แล้วจึงนาไปทดลองใช้จริงกับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560ตารางที่ 1 แสดงประสิทธิภาพของของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (N= 20)กก คะแนนN=20 ระหว่างเรยี น หลงั เรียน 10 10รวม 245 260รอ้ ยละ 81.66 86.66 จากตาราง 1 พบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศของนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.66/86.66 แสดงว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานท่กี าหนด คือ 80/80 ตอนที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมลู และสารสนเทศ ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตารางที่ 2 ผลการเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมลู และสารสนเทศ ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 (N = 19)รวม กอ่ นเรยี น หลงั เรียน ความก้าวหน้าคา่ เฉลี่ย 233 318 85คา่ ร้อยละ 5.97 8.15 2.18ค่าสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน 21.80 59.74 81.54 1.02 0.83
จากตาราง 2 พบว่า ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นโดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรือ่ ง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 21.80 โดยมีคะแนนก่อนเรียนร้อยละ 59.74 และมีคะแนนหลังเรียนร้อยละ 81.54 โดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนทีส่ ร้างขนึ้ สง่ ผลให้ผู้เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนทีส่ งู ขนึ้ สว่ นค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานทไ่ี ด้จากคะแนนก่อนเรียนสูงกว่าคะแนนหลงั เรียนโดยมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนก่อนเรียน เท่ากับ 1.02 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนหลังเรียน เท่ากับ 0.83 จะเห็นได้ว่าก่อนเรียนผู้เรียนมีความสามารถแตกต่างกัน แต่หลังจากเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแล้วพบว่าความสามารถของผู้เรยี นแตกต่างกนั น้อยลง ตอนที่ 3 ความคิดเห็นของนกั เรียนที่เรียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรือ่ ง การจดั การข้อมลู และสารสนเทศตารางที่ 3 ค่าเฉล่ีย ( x ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) จากการประเมินความคิดเห็นของนักเรียนต่ อ ก า ร เ รี ย น ด้ ว ยบทเรี ยนคอมพิวเตอร์ช่ วยสอนเรื่อง การจัดการข้อมู ลและสารสนเทศ(N = 15) ผลการประเมิน รายการ ระดบั1. การเรียนวิชานีท้ าให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างชัดเจน ( x ) (S.D.) คุณภาพ 4.77 0.43 ดมี าก2. เนือ้ หาวิชาน้มี คี วามสาคัญต่อการนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ 4.49 0.51 ดี3. เทคนิคการจดั การเรียนรู้สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.79 0.41 ดมี าก4. ส่อื การเรียนการสอนหลากหลายและช่วยให้นักเรยี นเกิดการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์ 4.62 0.54 ดมี าก5. กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ กระบวนการคิดและความแตกต่างระหว่างบคุ คล 4.72 0.51 ดมี าก6. กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ให้นักเรียนได้ปฏิบัติดว้ ยตนเอง 4.82 0.39 ดมี าก7. นักเรยี นมีโอกาสในการคิดแกป้ ัญหาและตดั สนิ ใจดว้ ยตนเอง 4.87 0.34 ดมี าก8. กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้นกั เรียนมีวินัย มีคณุ ธรรมและมีความรับผิดชอบ 4.82 0.39 ดมี าก
ตารางที่ 3 (ต่อ)ค่าเฉลย่ี ( x ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) จากการประเมินเจตคติของนกั เรียนต่อก า ร เ รี ย น ด้ ว ยบทเรี ยนคอมพิ วเตอร์ ช่ วยสอนเรื่ อง การจั ดการข้ อมู ลและสารสนเทศ(N = 20) รายการ ผลการประเมิน ระดับ9. ผลการประเมินนกั เรียนก่อนและหลงั เรียนไดน้ าไปใช้ ในการปรับปรุงการเรียนการสอน ( x ) (S.D.) คุณภาพ10. นักเรยี นมีความพอใจในบรรยากาศการเรียนรู้และมี 4.90 0.31 ดมี าก ความสุขกับการเรยี นวิชาน้ี 4.49 0.60 ดีคา่ เฉลีย่ รวม 4.73 0.44 ดีมาก จากตาราง 3 พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 4.73 เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่ารายการที่มีคะแนนเฉล่ียมากทีส่ ุด คือ ผลการประเมินนักเรียนก่อนและหลังเรียนได้นาไปใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอน มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 4.90 รองลงมา ได้แก่นักเรยี นมีโอกาสในการคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจดว้ ยตนเอง มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.87 และกิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้นักเรียนไดป้ ฏิบัติด้วยตนเอง,กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้นักเรียนมีวินัย มีคุณธรรมและมีความรับผิดชอบ มีคะแนนเฉลีย่ เท่ากับ 4.82 ตามลาดบัสรุปผล 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.66/86.66 แสดงว่าบทเรียนมีประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานท่กี าหนด คือ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 21.80 โดยมีคะแนนก่อนเรียนร้อยละ 59.74 และมีคะแนนหลังเรียนร้อยละ 81.54 โดยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้นส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ได้จากคะแนนก่อนเรียนสงู กว่าคะแนนหลังเรียนโดยมีค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนก่อนเรียน เท่ากบั 1.02และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคะแนนหลังเรียน เท่ากับ 0.83 จะเห็นได้ว่าก่อนเรียนผู้เรียนมีความสามารถแตกต่างกัน แตห่ ลังจากเรียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแล้วพบว่าความสามารถของผู้เรยี นแตกต่างกนั น้อยลง
3. ความคิดเหน็ ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ พบว่า นักเรียนมีคิดเห็นการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดบั ดมี ากอภิปรายผล 1. รายงานการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จากการทดลองพบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.66/86.66 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (เผชญิ กิจระการ, 2544 : 44-51) และเปน็ ไปตามสมมุติฐานท่ีต้ังไว้ จึงถอืว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจดั การข้อมูลและสารสนเทศ มีประสทิ ธิภาพและเหมาะสมในการนาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ภูมรินทร์ แสนไชยสุริยา(2546 : 46) ได้ทาการวิจัยเพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย โครงสร้างของบทเรียนเป็นแบบเพื่อการสอน (TutorialInstruction) มีการจัดเนื้อหาแบบเรียงลาดับ ผลการศึกษาพบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อสอนเรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ (ช 0249)สาหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 89.00/91.58 ซึ่งสงู กว่าเกณฑ์ที่ต้ังไว้ข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะการนาผลการศึกษาไปใช้1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ท่ีสร้างข้ึนเป็นบทเรียนสาหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 หากจะนาชดุ การสอนไปใช้สอนในระดับช้ันอืน่ ผสู้ อนควรพจิ ารณาเน้อื หาและความยากง่าย ปรบั ปรุงใหเ้ หมาะสมกับผ้เู รยี น2. ก่อนการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ผู้สอนควรศึกษารายละเอียด และขั้นตอนในการใช้บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน ให้เข้าใจเสยี ก่อน แล้วจงึ นาไปใชใ้ นการเรียนการสอน เพ่ือใหผ้ ู้เรียนได้เข้าใจเนอื้ หาและได้รับประโยชน์จากการเรยี นการสอนมากที่สุด3. ผู้เรียนบางคนยังขาดทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ทาให้การเรยี นการสอนเป็นไปอย่างล่าช้า ดังนั้นจึงควรจัดสอนความรู้พื้นฐานให้ผเู้ รยี นกลมุ่ นัน้ ก่อนเพ่อื ให้การจัดการเรียนการสอนเปน็ ไปอย่างตอ่ เน่อื งและพร้อมกัน
4. ในการจัดการเรียนการสอนหากไม่มีอุปกรณ์และ โปรแกรมท่ีจาเป็นต่อการใช้ บทเรยี นจะเปน็ อุปสรรคต่อการเรียน อุปกรณ์ที่ต้องมีในเครื่อง ได้แก่ Sound Card ลาโพงท่ีทาให้เกิดเสียง หากผู้เรียนใช้พร้อมกันหลายเครือ่ งควรใช้หฟู งั เพอ่ื ไมใ่ ห้เกดิ การรบกวน ห้องเรยี นอนื่5. ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน ครูตอ้ งเปลีย่ นบทบาทจากการพูด บอกออกคาสั่ง มาเป็นผใู้ ห้ความช่วยเหลือ ผู้จดั ประสบการณ์ท่เี อ้อื อานวยให้ผูเ้ รียน ไดค้ ดิ ค้นหาคาตอบ อภปิ รายถกเถียง เกดิ ความคดิ รวบยอด บรรลุการเรยี นรู้ตามผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวงั อกี ทั้งครูควรเปน็ ผู้เสรมิ สร้างความเป็นประชาธิปไตย ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้เรียน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งจะทาให้ผเู้ รยี นจดจาได้นาน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา1. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรียน2. บทเรียนคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน3. แบบประเมินความคดิ เหน็ ของนักเรียน แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นกอ่ นเรยี น- หลงั เรียนคาชี้แจง ให้ขีดเคร่อื งหมายกากบาท ลงในช่องสเ่ี หลย่ี มทีต่ รงกับตัวอกั ษร ก ข ค หรือ ง ที่เปน็ คาตอบทีถ่ กู ต้องทีส่ ดุ หรอื เหมาะสมทีส่ ดุ เพียงคาตอบเดยี ว ในกระดาษคาตอบ-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ข้อใดจัดเป็นข้อจากัดของข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์ก. นาเสนอข้อมูลด้วยส่ือที่หลากหลายข. ติดต่อส่ือสารข้อมูลกันโดยไม่มีขีดจากัดค. มีความรวดเร็วในการนาเสนอผลงานง. ข้อมูลมีจานวนมหาศาล และคัดกรองได้ง่าย2. การตรวจสอบข้อมูลในเรื่องเดียวกัน ควรจะปฏิบัติอย่างไรก. เลือกข้อมูลที่เพื่อนเลือกตรงกันข. เลือกข้อมูลที่เกิดขึ้นในปัจจุบันค. เลือกข้อมูลที่มีแหล่งอ้างอิง มีความน่าเชื่อถือง. เลือกข้อมูลที่แปลมาจากภาษาต่างประเทศ3. ข้อใดเป็นการบันทึกข้อมูลในหน่วยความจาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ก. Floppy Disk ข. Flash Driveค. CD - ROM ง. Hard Disk4. อุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลในข้อใดที่ไม่นิยมใช้ในปัจจุบันก. แผ่นซีดี ข. แผ่นดิสก์ค. ฮาร์ดดิสก์ ง. แฟลชไดร์ฟ5. อุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลในข้อใดที่สามารถถ่ายโอนได้ง่ายและพกพาสะดวกก. แผ่นซีดี ข. แผ่นดิสก์ค. ฮาร์ดดิสก์ ง. แฟลชไดร์ฟ
6. เทป เป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลประเภทใดก. ข้อมูลเสียง ข. ข้อมูลภาพค. ข้อมูลภาพและเสียง ง. ข้อมูลตัวอักษร7. การนาเสนอข้อมูลสารสนเทศในข้อใดที่ง่ายต่อการเปรียบเทียบข้อมูล หรือการตัดสินใจก. การนาเสนอข้อมูลแบบตารางข. การนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิค. การนาเสนอด้วยการแสดงรูปภาพง. การนาเสนอด้วยการเขียนรายงานแบบบรรยา8. การบันทึกเว็บไซต์ ไว้ใน My Favorite มีประโยชน์อย่างไรก. ค้นหาข้อมูลที่ใช้บ่อยๆ ได้สะดวกข. คัดลอกข้อมูลได้เป็นจานวนมากค. ค้นหาข้อมูลที่เป็นปัจจุบันได้ง่ายง. คัดกรองข้อมูลได้ง่าย9. ข้อใดเป็นหัวใจสาคัญของการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศก. จัดเก็บให้มีปริมาณมากที่สุดข. จัดเก็บข้อมูลเก่าๆ ให้ได้มากที่สุดค. จัดเก็บข้อมูลให้เป็นระบบ และนามาใช้ได้ง่ายง. จัดเก็บข้อมูลโดยการทาสาเนาถาวรด้วยพิมพ์เป็นเอกสาร10. การประมวลผลข้อมูลในขั้นตอน Input มีลักษณะอย่างไรก. รวบรวมข้อมูลเพื่อรอประมวลผลข. นาข้อมูลที่ได้รับมาประมวลผลค. เรียงลาดับหรือเปรียบเทียบข้อมูลง. ประมวลผลให้อยู่ในรูปของตารางหรือแผนภูมิ
1. ง6. ก1. ง6. ก1. ง6. ก1. ง6. ก1. ง6. ก
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: