วทิ ยาลยั เทคนคิ หนองคาย แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกจิ วิชา สารสนเทศเพอ่ื การเรยี นรู้ รหัสวิชา 3000-1607 รหสั 3000-1607 วชิ าสารสนเทศเพ่ือการเรียนรู้ ทฤษฎี 0 ช่ัวโมง ปฏบิ ตั ิ 2 ช่ัวโมง 1 หน่วยกติ จุดประสงคร์ ายวิชา เพอื่ ให้ 1. มีความร้คู วามเข้าใจเก่ยี วกบั แหล่งเรยี นรู้ สารสนเทศ การใช้สารสนเทศในการเรยี นรู้ และตาํ รงชีวติ 2. มที กั ษะในการสบื ค้นสารสนเทศด้วยเทคโนโลยจี ากแหล่งสารสนเทศท่หี ลากหลาย อย่างเป็ นสากล 3. สามารถคัดเลอื ก รวบรวม วเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะห์สารสนเทศ เพ่ือสร้างนวตั กรรม ทางวิชาการ และวิชาชีพ 4. มเี จตคตแิ ละกจิ นิสยั ท่ดี ใี นการใช้สารสนเทศเพ่ือพัฒนาการเรยี นร้แู ละการปฏบิ ตั งิ าน สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความร้เู ก่ยี วกบั แหล่งการเรยี นรู้ สารสนเทศและการใช้สารสนเทศ 2. สบื ค้นสารสนเทศด้วยเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบสากล 3. คดั เลือกสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ได้ตรงตามความต้องการ 4. ประยุกต์ใช้ความร้แู ละทกั ษะในการใช้สารสนเทศสกู่ ารปฏบิ ตั ดิ ้านวชิ าการและวิชาชีพ คาอธิบายรายวิชา ปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกบั สารสนเทศ แหล่งการเรยี นรู้ การสบื ค้นสารสนเทศ การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ การประยุกต์ใช้สารสนเทศเพ่ือการศกึ ษา ค้นคว้า และสร้างนวัตกรรมทาง วชิ าการและวิชาชีพ
วทิ ยาลัยเทคนคิ หนองคาย แผนกวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ วิชา สารสนเทศเพ่อื การเรียนรู้ รหสั วิชา 3000-1607 หน่วยท่ี 6 การสบื คน้ สารสนเทศด้วยระบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ หวั ขอ้ เรือ่ ง (Topics) 1. ลักษณะรปู แบบของการสบื ค้นด้วยระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 2. การสบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบฐานข้อมลู 3. การสบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบโอแพค 4 การสบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบอนิ เตอร์เนต็ แนวคิด (Main Idea) การสบื ค้นสาระสนเทศด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เป็นการสบื ค้นท่ไี ด้รับความนยิ มกนั อย่างแพร่หลาย ในปัจจุบัน เพราะผ้ใู ช้บริการสามารถสบื ค้นสาระสนเทศได้ทกุ รปู แบบทง้ั ตวั อกั ษร ข้อความ รปู ภาพ เสยี งและภาพเคล่อื นไหว ข้อมูลท่ไี ด้กท็ นั สมัยและรวดเรว็ ซ่งึ การสบื ค้นในลกั ษณะน้จี ะมี การสบื ค้นอยู่ 3 รปู แบบคอื การสบื ค้นด้วยระบบฐานข้อมูล การสบื ค้นด้วยระบบโอแพค และการ สบื ค้นด้วยระบบอนิ เตอร์เนต็ ซ่ึงแต่ละรปู แบบอาจมวี ิธที ่แี ตกต่างกนั บ้าง แต่กม็ จี ุดม่งุ หมาย เดียวกนั คอื ตอบสนองความต้องการของผ้ใู ช้ ให้สามารถนาํ สาระสนเทศไปใช้ประโยชนไ์ ด้อย่าง หลากหลายและต่อเน่อื ง สมรรถนะย่อย (Element Competency) สบื ค้นสารสนเทศด้วยเทคโนโลยอี ย่างเป็นระบบ วุตถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (Behavioral Objective) 1. อธบิ ายลักษณะรปู แบบของการสบื ค้นด้วยระบบอเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ด้ 2. สบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบฐานข้อมูลได้ 3. สบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบโอแพคได้ 4. สบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบอนิ เตอรเ์ นต็ ได้
วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ วิชา สารสนเทศเพอ่ื การเรียนรู้ รหสั วิชา 3000-1607 หน่วยที่ 6 การสบื คน้ สารสนเทศดว้ ยระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ เน้ อื หาสาระ (Content) การสบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ป็นระบบการสบื ค้นท่เี ป็นท่นี ยิ มกนั อย่างแพร่หลาย ในปัจจุบันและกาํ ลงั จะมาแทนท่กี ารสบื ค้นด้วยระบบมือ ( Manual System ) ท้งั หมด การ สบื ค้นแบบน้จี ะใช้วธิ กี ารสบื ค้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีหลากหลายรปู แบบและหลากหลาย วธิ กี ารดังท่จี ะได้กล่าวต่อไป 6.1 ลกั ษณะรูปแบบของการสืบคน้ ดว้ ยระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ การสบื ค้นด้วยคอมพิวเตอรจ์ ะมลี กั ษณะการสบื ค้นอยู่ 3 รปู แบบ คอื 1. การสบื ค้นด้วยระบบฐานข้อมูล 2. การสบื ค้นด้วยระบบโอแพค (OPAC) 3. การสบื ค้นด้วยระบบอนิ เทอรเ์ นต็ การสบื ค้นแต่ละรปู แบบ อาจมีวธิ กี ารท่แี ตกต่างกนั แต่มจี ุดมุ่งหมายเดียวกนั คือการสนองความ ต้องการของผ้ใู ช้ให้สามารถได้ข้อมูลสารสนเทศตรงตามความต้องการ แล้วนาํ ไปใช้ประโยชน์ได้ อย่างหลากหลายและต่อเน่ืองต่อไปตามรายละเอยี ด ดงั น้ี รปู ท่ี 6.1 การสบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบอนิ เทอร์เนต็ ( ท่มี า : www.polsci.chula.ac.th)
วทิ ยาลยั เทคนคิ หนองคาย แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ วชิ า สารสนเทศเพอื่ การเรียนรู้ รหัสวชิ า 3000-1607 หน่วยที่ 6 การสืบค้นสารสนเทศดว้ ยระบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 6.2 การสบื คน้ สารสนเทศดว้ ยระบบขอ้ มูล ฐานข้อมูล (Database) คือแหล่งรวบรวมสารสนเทศท่สี มั พันธก์ นั แล้วบันทกึ จดั เกบ็ ไว้อย่าง เป็นระบบในคอมพิวเตอร์ เกบ็ ข้อมลู ได้จาํ นวนมาก สามารถเข้าไปพัฒนาปรบั ปรงุ ให้ทนั สมยั ได้ มี การสง่ั โดยแสดงผลทางหน้าจอคอมพิวเตอรแ์ ละสามารถพิมพ์ข้อมูลทางเคร่อื งพิมพ์ได้ จงึ สามารถ สบื ค้นได้สะดวกรวดเรว็ พร้อม ๆ กนั หลายคนหรอื หลาย ๆ สถานท่ี ปัจจุบนั แหล่งสบื ค้นแบบน้ี มี เร่อื งให้บรกิ ารฟรแี ละเสยี ค่าใช้จ่าย โดยทว่ั ไปจะแบ่งเป็น 3 บรกิ าร คือ 6.2.1 การบรกิ ารฐานขอ้ มูลออนไลน์ ( Online database) งานบรกิ ารฐานข้อมูลออนไลน์เป็นฐานข้อมลู ท่ใี ช้ระบบเครอื ข่ายเช่ือมต่อแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ซ่งึ เป็นฐานข้อมูลท่อี งคก์ รบริษทั เอกชนต่าง ๆ จดั ทาํ ข้ึน ผ้ใู ช้บรกิ ารต้องเสยี ค่าใช้จ่ายในการสบื ค้น ข้อมูลตามเง่ือนไขท่ผี ู้บริการกาํ หนดไว้ ผผู้ ลิต ชื่อฐานขอ้ มูล ขอ้ มูลทใี่ หบ้ ริการ Dialog lnformation Service ERIC (Educational การศึกษา Resources Bowker lnformation Center บรรณานุกรมหนังสอื FAO Bip (Book in Print การเกษตร Maxwell online AGRIS วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี ORBIT Search Service 6.2.2 การบรกิ ารฐานขอ้ มูลออนไลน์ ( Online database) ฐานข้อมลู สาํ เรจ็ รปู หรือซีดี-รอม (CD-ROM) ย่อมาจากคาํ ว่า (Compact Disc-Read Only Memory) เป็นฐานข้อมูลท่จี ดั ทาํ ข้นึ จาํ หน่ายหรือเผยแพร่ให้กบั ผู้ท่สี นใจ โดยบนั ทกึ ข้อมลู ลงในแผ่นซีดีแล้วให้ดจู ากคอมพิวเตอร์ในลกั ษณะต่างๆเช่นเปิ ดดไู ด้ทนั ทตี ิดต้งั ก่อนการ เรียกใช้งานหรอื ไม่ต้องติดต้ังก่อนเรยี กใช้งานกไ็ ด้ ฐานข้อมูลประเภทน้ีกาํ ลงั เป็นท่นี ยิ มเพราะมี ความสะดวกรวดเรว็ ในการค้นข้อมลู และค่าบริการไม่แพง
วทิ ยาลยั เทคนิคหนองคาย แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิชา สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ รหสั วิชา 3000-1607 หนว่ ยที่ 6 การสืบคน้ สารสนเทศดว้ ยระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ รปู ท่ี 6.2 ตัวอย่างฐานข้อมูลสาํ เรจ็ รปู หรือซดี ี-รอม (CD-ROM) (ท่มี า : www.fa-rung.com/myimage/cd2.gif) ตวั อย่างที่ 2 ฐานขอ้ มูลแบบซีดี-รอม ผูผ้ ลติ สถานทใี่ หบ้ รกิ าร ชอื่ ฐานขอ้ มูล ขอ้ มูลทใี่ หบ้ รกิ าร มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร ์ AORICOLA การเกษตร มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ยา คณะเภสชั จฬุ าฯ DRUG INFORMATION สาระสงั เขป บรรณานุ กรม คณะเภสชั เชยี งใหม่ หอ้ งสมุดเอไอที LISA 6.2.3 ฐานขอ้ มูลทหี่ อ้ งสมุดและแหล่งการเรยี นรูต้ า่ งๆ ฐานข้อมลู ท่หี ้องสมดุ และแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ สร้างข้นึ เอง เป็นฐานข้อมลู ท่แี ต่ละแหล่งเรยี นร้ซู ่งึ เป็นแหล่งใหญ่ ๆ เช่น ห้องสมุดอุดมศกึ ษา สร้างข้ึนเอง โดยมีการประสานความร่วมมอื สร้าง เครอื ข่าย เพ่ือใช้ทรพั ยากรสารสนเทศร่วมกนั ในระดับภมู ิภาค เรยี กว่า Pulinet ส่วนกลาง เรยี กว่า Thailinet ตวั อย่าง คอื ฐานข้อมลู เทคโนโลยีสารสนเทศ ของสาํ นกั บรรณสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ะรรมมาธริ าช สารสนเทศท่ใี ห้บริการ คอื “เทคโนโลยีสารสนเทศ” เป็นต้น
วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย แผนกวิชาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วิชา สารสนเทศเพอ่ื การเรียนรู้ รหัสวิชา 3000-1607 หนว่ ยท่ี 6 การสืบคน้ สารสนเทศดว้ ยระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รปู ท่ี 6.3 ตวั อย่างการค้นคว้าฐานข้อมูลท่หี ้องสมดุ (ท่มี า: http://www.lidrary.kku.ac.th/information/images/slide//03.jpg) 6.3 การสบื คน้ สารสนเทศดว้ ยระบบโอแพค ระบบโอแพค เป็นระบบการสบื ค้นสารสนเทศ โดยใช้โปรแกรมสาํ เรจ็ รปู หรอื โปรแกรมอตั โนมตั ิ ผ่านคอมพิวเตอร์ ซ่งึ รายละเอยี ดและการใช้ทกุ อย่าง เช่นเดียวกบั บัตรรายการ แต่มปี ระสทิ ธภิ าพ และค้นข้อมูลได้รวดเรว็ กว่า จะให้บริการเฉพาะทรพั ยากรสารสนเทศของห้องสมุดหรอื แหล่ง สารสนเทศน้นั ๆโปรแกรมสาํ เรจ็ รปู น้ใี นปัจจุบันมหี ลากหลายรปู แบบ หลานราคาข้นึ อยู่กบั ความ เหมาะสมหรอื งบประมาณของแต่ละแหล่งการเรียนรู้ แต่ท่เี ป็นท่รี ้จู กั กนั โดยทว้ั ไป เช่น นวสาร 2000, CDS/ISIS,Vtlslnnopac,Ulib และอ่นื ๆ เป็นต้น รปู ท่ี 6.4 การสบื ค้นด้วยระบบโอแพค (ท่มี า: http://www.copper.msu.ac.th/)
วทิ ยาลัยเทคนิคหนองคาย แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ วชิ า สารสนเทศเพ่ือการเรยี นรู้ รหัสวชิ า 3000-1607 หนว่ ยที่ 6 การสืบคน้ สารสนเทศด้วยระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ 6.4 การสบื คน้ สารสนเทศดว้ ยระบบอนิ เตอรเ์ น็ต อนิ เทอรเ์ นต็ (internet) คือ ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ โดยเช่ือมโยงข้อมูล ต่างๆ (Computer Network) ท่ใี หญ่ท่สี ดุ เป็นเทคโนโลยกี ารส่อื สารชนิดต่าง ๆ หรือสาย เคเบิล ท่สี ามารถส่อื สารสบื ค้นได้ตลอดเวลา และสามารถส่งั ข้อมลู ได้ทกุ รปู แบบ เช่น ตวั เลข ตวั อกั ษร รปู ภาพ กราฟิ ก เสยี ง ภาพเคล่อื นไหวหรอื มัลติมเิ ดีย (Multimedia) และข้อมลู ท่ไี ด้ จากอนิ เทอรเ์ นต็ สามารถถ่ายข้อมลู บนั ทกึ พิมพ์ออกมาเป็นรายงานได้ การเข้าถึงสารสนเทศด้วยระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ผ้ใู ช้ต้องเช่ือมต่อคอมพิวเตอรก์ บั ระบบ เครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ โดยอาศยั โปรแกรมต่าง ๆ ท่มี มี ากมายและหลากหลายสาขาวิชา ส่วนใหญ่ เป็นเครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ โดยอาศยั โปรแกรมต่าง ๆ ท่มี ีมากมายและหลากหลายสาขาวชิ า ส่วน ใหญ่เป็นเครอื ข่ายสาธารณะท่สี ถานท่ศี กึ ษาหรือหน่วยงานต่าง ๆ จัดทาํ ข้อมลู ข้ึน และเผยแพร่เข้าสู ระบบเครือข่าย เพ่ือให้ผ้ใู ช้ใช้งานได้ สะดวกและรวดเรว็ การเข้าถึงข้อมลู ในอนิ เทอรเ์ นต็ ได้จาก 2 วธิ ี คอื 1. หาในเวบ็ ไซต์ ซ่งึ ให้ข้อมูลโดยตรง ผู้ใช้ต้องทราบท่อี ยู่ของผ้ใู ช้บริการข้อมลู แล้ว พิมพ์ช่ือเวบ็ ไซต์ลงไปท่ี URL (Uniform Resource Location) ท่อี ยู่บนอนิ เทอรเ์ นต็ ของ หน่วยงานน้นั กจ็ ะได้ข้อมลู ตามท่ตี ้องการ เช่น กรมอาชีวศกึ ษา ช่ือเวฐ็ ไซต์ http://www.moe.go.th เป็นต้น 2. หาเวบ็ ไซต์ ผ่านเวบ็ ไซต์ค้นหา โดยตรง คือ การค้นหาสามารถสนเทศในกรณที ่ไี ม่ ทราบว่าข้อมลู ท่ตี ้องการท่เี วบ็ ไซต์ใด ซ่ึงเวบ็ ไซตป์ ระเภทน้ีมอี ยู่ 3 ประเภท คือ (1) เวบ็ ไซต์พจนาณกุ รม (Directory) เป็นเวบ็ ไซตท์ ่รี วบรวมรายช่ือเวบ็ ไซต์ ต่าง ๆ ไว้มากมาย ส่วนใหญ่จะให้ข้อมลู ท่วั ไป ท่จี ะค้นหาว่า ข้อมูลใดอยู่เวบ็ ไซต์ใด เช่น Yahoo Sanook และอ่นื ๆ
วิทยาลยั เทคนคิ หนองคาย แผนกวิชาคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ วชิ า สารสนเทศเพ่อื การเรียนรู้ รหัสวชิ า 3000-1607 หน่วยท่ี 6 การสบื ค้นสารสนเทศดว้ ยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (2) เวบ็ ไซตก์ ารค้รหาข้อมูล (Search Enging) เป็นเวฐ็ ไซต์ท่มี กี ารจดั ข้อมูลไว้เป็นหมวดหมู่ น่าสนใจและน่าเช่ือถือจากบคุ บลและหน่วยงสน ต่างๆผู้ใช้จะได้ข้อมลู ท่ตี รงประเดน็ เช่น Google , Hotbot และอ่นื ๆ รปู ท่ี 6.6 เวบ็ ไซตก์ ารค้นหาข้อมลู (Google Search Enging) (ท่มี า : www.oer.lincoln.ac.uk/files/2012/03/google-Screen.jpg) (3) เวฐ็ ไซตท์ ่ที าํ งานร่วมกบั หลายๆ กลไกลหรือเรียกว่า Meta Search Engine ผ้ใู ช้สามารถ เข้าถึงเวบ็ ไซต์ต่างๆ ได้อย่าง รวดเรว็ และจะค้นหาได้หลายๆ อย่างในเวลาเดียวกนั ผลลัพธท์ ่จี ะ ได้มีจาํ นวนมากผู้ใช้มีสทิ ธเ์ ลอื กในส่งิ ท่ตี ้องการได้ เช่นGoogle,Yahoo! และอ่นื ๆ ตวั อย่างท่ี 3 การสบื ค้นอนิ เทอรเ์ นต็ ช่ือเวบ็ ไซต์ หน่วยงาน/สารสนเทศท่บี ริการ สาํ นักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา http://www.moe.go.th จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั http://www.vec.go.th ธนาคารแห่งประเทศไทย http://www.chula.ac.th สาํ นกั งานตาํ รวจแห่งชาติ http://www.bot.or.th หอสมุดแห่งชาติ http://www.police.go.th http://www.nlt.go.th
วทิ ยาลัยเทคนคิ หนองคาย แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ วชิ า สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ รหสั วิชา 3000-1607 หน่วยที่ 6 การสบื คน้ สารสนเทศดว้ ยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ รปู ท่ี 6.7 การสบื ค้นในอนิ เทอรเ์ นต็ เข้าถึงเวบ็ ไซต์ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ท่มี า : www.oer.lincoln.uk/files/2012/03/google-screen.jpg) 6.4.1 ฐานขอ้ มูลทหี่ อ้ งสมุดและแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ งๆ ในปัจจุบันถอื ว่า อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นแหล่งข้อมูลท่ใี หญ่ท่สี ดุ เกบ็ รวบรวมสารสนเทศไว้ อย่างมหาศาลเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ ท่สี ารมารถสบื ค้นข้อมไู ด้สะดวก รวดเรว็ และ ตลอด 24 ช่ัวโมง รปู ท่ี 6.8 ตวั อย่างการสบื ค้นข้อมูลจากอนิ เทอร์เนต็ (ท่มี า : www.spu.ac.th/business/files/2010/09/IMG_0026.jpg) 6.4.2 ความหมายของอนิ เทอรเ์ น็ต อนิ เทอร์เนต็ (Internet) หมายถึง เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ท่ใี ช้ส่อื สาร และสง่ ข้อมลู เป็นทางบรกิ าร WorldWide Web (www) ท่ชี ่วยให้เช่ือมโยงกบั แหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้ทว่ั โลกผ่าน
วทิ ยาลัยเทคนคิ หนองคาย แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วชิ า สารสนเทศเพื่อการเรยี นรู้ รหสั วิชา 3000-1607 หน่วยท่ี 6 การสบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ โปรโตคอล TCP/IP (นาํ้ ทพิ ย์ วิภาวิน,2548 : 137 ) วธิ กี ารทาํ งานของอนิ เทอรเ์ นต็ เป็น การเช่ือมโยง Web Server ผ่านโปรแกรมแสดงผลข้อมูล ท่เี รียกว่า Web Browser เช่น Internet Explorer 6.4.3 ความหมายของอนิ เทอรเ์ น็ต อนิ เทอรเ์ นต็ (Internet) เป็นเครือข่ายท่พี ฒนามาจากเครือข่ายอาร์พาเนต็ (ARPANET) ซ่งึ เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอรท์ างทหารของกระทรวงกลาโหมประเทศ สหรัฐอเมริกา อาร์พาเนต็ ก่อต้ังข้นึ ในปี พ.ศ.2512 โดยมวี ัตถุประสงคเ์ พ่ือสนับสนุนการวจิ ัย ทางด้านการทหาร รวมท้งั ระบบการส่อื สารด้วยคอมพิวเตอรใ์ ห้ลาํ้ หน้ากว่าสหภาพโซเวยี ต กระทรวงกลาโหมของสหรฐั อเมริกาจงึ ได้วางโครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพ่ือให้เคร่อื ง คอมพิวเตอรแ์ ต่ละเคร่อื งซ่งึ ต่างแบบต่างชนิดกนั สามารตดิ ต่อเช่ือมโยง รบั สง่ ข่าวสารข้อมูลซ่งึ กนั และกนั ได้ตลอดเวลา แม้ว่าเครือข่ายบางสว่ นจะถูกทาํ ลาย เน่ืองจากการโจมตอี ย่างกะทนั หนั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่เี หลอื ต้องทาํ งานต่อไปได้ แนวคดิ ดังกล่าว ทาํ ให้มีการจัดต้งั หน่วยงานข้นึ เพ่ือร่วมมอื กนั ระหว่างมหามทิ ยาลัยต่างๆ ในรฐั แคลิฟอรเ์ นียกบั ฝ่ ายวจิ ยั พัฒนาการทางทหาร เพ่ือพัฒนาระบบส่อื สารและเครือข่ายคอมพิวเตอรภ์ ายใต้โครงการ U.S. Advance Research Projects Agency Network แล้วเรียกระบบเครอื ข่ายว่า ARPANET หรือ อารพ์ าเนต็ ในระบบเร่ิมแรกใช้รปู แบบเช่ือมโยงเครอื ข่ายท่เี รียกว่า NCP (Network Control Protocol) เป็นมาตรฐานการพัฒนารปู แบบและเทคนคิ การเช่ือมโยงซ่งึ ได้ ดาํ เนนิ การต่อมาโดยตลอด จนกระท่งั ปี พ.ศ.2526 ได้ใช้ Protocol แบบพิเศษ คือ TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) หรือ Internet Protocol จัดว่าเป็นส่วนสาํ คญั ในการเช่ือมโยงเครอื ข่ายอาร์พาเนต็ เพราะทาํ ให้ การตดิ ต่อสะดวกรวดเรว็ ย่งิ ข้นึ โยลาํ ดับการพัฒนา ซ่งึ ดาํ เนินการมาถงึ จุดน้ี ทาํ ให้เครอื ข่ายย่อยๆ ท่เี ช่ือมต่อกนั ด้วยเทคนิค Internet Protocol กลายเป็นเครอื ข่ายขนาดใหญ่ ท่เี รียกว่า เครอื ข่ายอเิ ทอรเ์ นต็ (Internet) น่งั เอง (วัลลภ สวสั ด์วิ ัลลภ และ คณะ, 2544 : 77-87) 6.4.4 อนิ เทอรเ์ น็ตในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2530 มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่ และสถาบนั เทคโนโลยีแห่ง เอเชียหรือสถาบนั เอไอที (AIT) ได้รเิ ร่มิ ตดิ ต่อกบั อนิ เทอร์เนต็ ในลกั ษณะการใช้บริการจดหมาย อเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบแลกเปล่ียนเมลเ์ ป็นคร้ังแรก
วทิ ยาลยั เทคนคิ หนองคาย แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ วชิ า สารสนเทศเพอ่ื การเรียนรู้ รหัสวิชา 3000-1607 หน่วยที่ 6 การสืบคน้ สารสนเทศด้วยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ ภายใต้โครงการความร่วมมอื ไทยและออสเตรเลีย (โครงการIDP) เป็นการตดิ ต่อเช่ือมโยงโดย สายโทรศพั ทแ์ ล้วพัฒนาเร่อื ยๆ มาจนถึงปี พ.พศ.2535 คนไทยเร่มิ ค้นุ เคยจากสถาบนั การศกึ ษา มาสปู่ ระชาชน มกี ารเช่ืแมต่อกบั อนิ เทอร์เนต็ โลก จนมาถึงปัจจุบันท่มี ีอตั ราการตบฺ โตเกนิ ร้อย เปอร์เซน็ ต์ 6.4.5 ชอื่ เรอื่ งหรอื โดเมนเนม (Domain Name) เน่อื งจากการตดิ ต่อส่อื สารในระบบอนิ เทอร์เนต็ ใช้โปรโตคอล TCP/IP เพ่ือส่อื สารกนั โดย จะต้องมี IP Address ในการอ้างองิ เสมอ แต่ IP Address น้ถี งึ แม้จะจัดแบ่งเป็นส่วน ๆ แล้ว กย็ ังมอี ปุ สรรคใน การท่ตี ้องจดจาํ ถ้าเคร่อื งอ้างองิ เสมอ แต่ IP จะเป็นเร่อื งยากและอาจสบั สนจาํ ผดิ ได้ แนวทางแก้ปัญหาคอื การ ต้ังช่ือหรอื ตัวอกั ษรข้ึนมาแทนท่ี IP Address ซ่งึ สะดวกในการ จดจาํ มากกว่าเช่น IP Address คือ 203.183.223.6 แทนท่ดี ้วยช่ือ dusit.ac.th ผ้ใู ช้งาน สามารถจดจาํ ช่ือ dusit.ac.th ได้ง่ายกว่าการจาํ ตัวเลข โดเมนท่ไี ด้รับความนิยมกนั ท่วั โลกท่ถี ือว่าเป็นโดเมนสากลมีดังน้ี คอื com ย่อมาจาก Commercial สาํ หรับธุรกจิ edu ย่อมาจาก education สาํ หรบั การศกึ ษา int ย่อมากจาก international Organization สาํ หรบั องค์กรนานาชาติ org ย่อมาจาก Organization สาํ หรบั หน่วยงานท่ไี ม่แสวงหากาํ ไร 6.4.6 การบรกิ ารบนอนิ เตอรเ์ น็ต อนิ เทอร์เนต็ เป้ นบริการสาธารณะท่ใี ห้บรกิ ารข่าวสารข้อมลู อย่างหลากหลาย สว่ นใหญ่จะเป็น บริการท่อี งค์การต่างๆ หรือสถาบันการศกึ ษาจดั ทาํ ข้นึ แล้วเผยแพร่ส่รู ะบบเครอื ข่าย ผู้ใช้สามารถ หาข้อมูลท่ที นั สมยั ได้สะดวกรวดเรว็ โดยต้องมที ่อี ยู่ชัดเจนคอื 1. จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic Mail : e-mail) ผ้ใู ช้สามารถสง่ ข้อความโต้ตอบแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสารกนั ได้ทว่ั โลกเหมือน่างจด หมายถงึ กนั แต่สะดวกรวดเรว็ กว่า โดยต้องมีท่อี ยู่ชัดเจนคือ E-mail Address
วิทยาลยั เทคนิคหนองคาย แผนกวิชาคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ วชิ า สารสนเทศเพือ่ การเรียนรู้ รหัสวชิ า 3000-1607 หนว่ ยที่ 6 การสืบคน้ สารสนเทศดว้ ยระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รปู ท่ี 6.9 ตวั อย่างจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ สข์ อง Gmail.com (ท่มี า : www.oxhow.com) 2. กล่มุ สนทนาเพ่ือแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ( Newsgroup ) ผ้ใู ช้สามารถพูดคุยโต้ตอบ กบั ในเครือข่ายได้หลายลกั ษณะ คือ สนทนาแบบ 2 คน ด้วยการพิมพ์ข้อความโต้ตอบกนั ผ่านจอ ของคอมพิวเตอรโ์ ดยการ ใช้โปรแกรม Talk รปู ท่ี 6.10 การสนทนาแบบ 2 คน ด้วยการพิมพ์ข้อความโต้ตอ (ท่มี า : www.youloo.tumbir.com) สนทนากนั เป็นกล่มุ โดยการพิมพ์ข้อความโต้ตอบกนั คร้งั ละหลายๆ คน แต่ละคนจะเหน็ ข้อความท่แี ต่ละคนพิมพ์ ยกตวั อย่างเช่น Rizom, QuakeNet, IRCnet, และ freenode เป็ นต้ น
วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ วิชา สารสนเทศเพ่ือการเรยี นรู้ รหัสวิชา 3000-1607 หน่วยท่ี 6 การสืบค้นสารสนเทศดว้ ยระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ รปู ท่ี 6.11 สนทนากนั เป็นกล่มุ ด้วยโปรแกรม QuakeNet (ท่มี า: www.teamliquid.net) (3) สง่ ข้อความโดยไม่มีการโต้ตอบ ผ้ใู ช้ส่งข้อความไปตอนไหนกไ็ ด้ ผ้รู บั ไม่จาํ เป็นต้อง เปิ ด เคร่อื งอยู่ ยกตัวอย่างเช่น WeChat, LINE, Snapchat,Whatsapp เป็นต้น (4) บรกิ ารโทรศพั ทผ์ ่านอนิ เทอรเ์ นต็ ผ้ใู ช้สามารถพูดคยุ กนั ได้เหมอื นการใช้โทรศพั ทบ์ ้าน โดยมไี มโครโฟนและการ์ดเสยี งติดต้ังไว้แล้ว หากต้องการพูดแบบเหน็ หน้าและอริ ยิ าบถต้องตดิ ต้งั กล้อง วิดโี อขนาดเลก็ ซ่งึ ต่อกบั การ์ดวีดโิ อ ยกตัวอย่างเช่น Skype, Empathy,Viber เป็นต้น รปู ท่ี 6.12 บรกิ ารโทรศพั ทผ์ ่านอนิ เทอรเ์ นต็ (ท่มี า : https://droidsans.com)
วทิ ยาลยั เทคนิคหนองคาย แผนกวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ วิชา สารสนเทศเพ่อื การเรียนรู้ รหสั วิชา 3000-1607 หนว่ ยที่ 6 การสืบคน้ สารสนเทศดว้ ยระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ 3. กระดานสนทนา (Bulletin Board) ผ้ใู ช้สามารถพูดอธบิ าย ช้ีแจงถงึ ส่งิ ต่าง ๆ ท่ี อยากจะให้ ผู้อ่นื ทราบลงในคอมพิวเตอร์ เพ่ือท่จี ะถ่ายทอดสนทนาแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ซ่งึ กนั และกนั ได้ 4. บรกิ ารข้อมูลข่าวสาร ผ้ใู ช้บรกิ ารสามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารในเร่อื งใดเร่อื งหน่งึ ได้อย่าง หลากหลาย เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนงั สอื พิมพ์ วารสาร ดูตารางเคร่อื งบิน รถไฟ ฯลฯ รปู ท่ี 6.13 บรกิ ารข้อมลู ข่าวสารเก่ยี วกบั การจองตัว๋ เคร่ืองบนิ (ท่มี า : https://brandinside.asia) 5. บรกิ ารเป็นย้ายข้อมลู (File Transfer Protocol : FTP) ผ้ใู ช้สามารถโอนย้ายข้อมูล หรือ โปรแกรมต่าง ๆ ได้ทกุ รปู แบบ ทง้ั ตัวเลข ตวั อกั ษร รปู ภาพ เสยี ง จากคอมพิวเตอรเ์ คร่อื ง หน่งึ ไปยังอกี เคร่อื ง การโอนย้ายขอมลู จากเคร่อื งอ่นื มายงั เคร่อื งตนเอง เรยี กว่า ดาวน์โหลด (Download) สว่ นการเคล่อื นย้าย จากเคร่อื งของตนเองไปยังเคร่อื งอ่นื เรยี กว่า อปั โหลด (Upload) เป็นต้น รปู ท่ี 6.14 การโอนย้ายข้อมลู จากเคร่อื งอ่นื มายังเคร่อื งตนเอง (Download) (ท่มี า : http://th.betdownload.com)
วิทยาลยั เทคนคิ หนองคาย แผนกวิชาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วิชา สารสนเทศเพ่ือการเรยี นรู้ รหสั วชิ า 3000-1607 หนว่ ยท่ี 6 การสบื คน้ สารสนเทศด้วยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ 6. บริการใช้เคร่อื งคอมพิวเตอรอ์ ่นื ได้ (Telnel) คอื การใช้เคร่อื งคอมพิวเตอรข์ องตนเองส่งิ โปรแกรมไปให้เคร่อื งอ่นื ทาํ งานได้โดยไม่ต้องไปยงั เคร่อื งน้นั ๆ 7. บรกิ ารพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E Commerce) คือ บริการซ้อื ของบนอนิ เทอร์เนต็ โดย ขาํ ระ เงนิ ผ่านบัตรเครดิตหรือติดต่อทาํ นติ กิ รรมต่าง ๆ กบั ธนาคารและองค์กรต่าง ๆ ได้ เป็นต้น รปู ท่ี 6.15 บรกิ ารพาณิชย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (ท่มี า : https://stackoverflow.com/)
วทิ ยาลยั เทคนิคหนองคาย แผนกวิชาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วชิ า สารสนเทศเพ่อื การเรยี นรู้ รหสั วิชา 3000-1607 หน่วยที่ 6 การสบื ค้นสารสนเทศด้วยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ 8. บริการค้นหาแฟ้ มและฐานข้อมลู (File and Database Searching) ในเครือข่าย อนิ เทอร์เนต็ จะมแี ฟ้ มข้อมลู และฐานข้อมลู มากมายท่ผี ู้เช่ียวชาญเขียนไว้เป็นโปรแกรมเฉพาะท่ี จาํ นวน ความสะดวกในการค้นหาข้อมูล เช่น Archie, Gopher, Hytelnet,WAIS และ WorldWide Web (www) 6.4.7 World Wide Web (www) WorldWide Web หรือเวบ็ เป็นระบบสบื ค้นข้อมูลข่าวสารบนอนิ เทอร์เนต็ ท่เี รียกว่า บรกิ าร เครือข่ายใยแมงมุม เป็นการนาํ เสนอข้อมลู อเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่มี ีความเช่ือมโยงข้อมลู จากแหล่งหน่งึ ไป ยังอกี แหล่งหน่ึงอย่างอตั โนมตั ิและข้อมลู ท่ไี ด้จะเป็นส่อื ผสม มที ง้ั ตวั เลข ตัวอกั ษร รปู ภาพ และ ภาพเคล่อื นไหว หรอื มัลตมิ ีเดยี การใช้บรกิ าร www ผ้ใู ช้บริการจะต้องมรี ายละเอยี ดต่าง ๆ เพ่ือสบื ค้น ดงั น้ี 1. โปรแกรมสบื ค้นแหล่งข้อมูล ท่เี รยี กว่า Web Browser โปรแกรม Web Browser ถูกออกแบบ และพัฒนาเพ่ืออาํ นวยความสะดวกแก่ผ้ใู ช้ในการค้นหาข้อมูลแบบ Www โปรแกรม Web Browser ท่เี ป็นท่ี นยิ ม ได้แก่ Netscape Navigator, Internet Explorer, Opera, เป็นต้น 2. ท่อี ยู่ของแหล่งข้อมลู ท่เี รยี กว่า URL (Uniform Resource Locator) เน่ืองจาก เวบ็ ไซตท์ ่มี ี อยู่บนเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ มีเป็นจาํ นวนมหาศาล การจะเข้าไปใช้บริการหรอื เย่ียมชม เวบ็ ไซต์เหล่าน้นั ได้ จะต้องทราบ URL ท่บี อกแหล่งท่อี ยู่ของเวบ็ ไซต์น้นั ๆ เช่น หากต้องการจะ เข้าไปท่เี วบ็ ไซตข์ องจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ต้องทราบ URL ซ่งึ กค็ อื http://www.chula.ac.th หน้าแรกของเวบ็ ไซตค์ อื Home Page เม่อื สามารถเปิ ด Home Page ของแต่ละ Web Site ได้กส็ ามารถเลอื กหาข้อมลู จากเวบ็ เพจต่าง ๆ ท่อี ยู่ใน เวบ็ ไซตไ์ ด้ตามต้องการ URL มีสว่ นประกอบ 3 สว่ น ระบโุ ดเมนเนมหรอื ช่ือเคร่ืองท่ตี ้องการเข้าไปอ่านข้อมลู ระบโุ ปรโตคอล http://www.chula.ac.th/index.html ระบุตาํ แหน่งท่เี กบ็ ข้อมูล
วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย แผนกวิชาคอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจ วชิ า สารสนเทศเพอื่ การเรยี นรู้ รหสั วชิ า 3000-1607 หนว่ ยที่ 6 การสืบคน้ สารสนเทศดว้ ยระบบอิเล็กทรอนิกส์ http มาจากคาํ าว่า HypertextTransfer Protocol เป็นโปรโตคอลสาํ หรบั เข้าใช้ อนิ เทอร์เนต็ แบบ www การสบื ค้นข้อมูลแบบเวิลด์ไวดเ์ วบ็ น้นั มีคาํ อยู่ 3 คาํ ท่ผี ู้ใช้งานใหม่ ๆ มกั สบั สน คือคาํ ว่า เวบ็ ไซต์ (Web Site) โฮมเพจ Home page และเวบ็ เพจ (Web Page) (1) เวบ็ ไซต์ คอื แหล่งรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลทง้ั หมดท่เี ป็นเวบ็ เพจและโฮมเพจ เปรียบเสมอื นตัวเล่มวารสาร (2) โฮมเพจ คอื หน้าแรกหรือหน้าหลักของเวบ็ ไซต์ ทาํ หน้าท่เี ป็นปกและสารบัญเป็นท่รี วม การเช่ือมโยงไปยังหน้าเวบ็ เพจต่าง ๆ ของเวบ็ ไซตน์ ้นั ๆ อาจมคี าํ แนะนาํ ในการใช้งาน สรปุ ส่งิ ท่ี น่าสนใจใน เกบ็ ไซต์ มรี ายการหรอื เมนู (Menu) ให้ผ้ใู ช้ได้เลือกค้นหาเจาะลกึ ลงไปเป็นช้ัน ๆ แบ่งย่อยเฉพาะเจาะจงลง ไปท่ลี ะหน้า (3) เวบ็ เพจ คือ หน้าเอกสารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ใช้นาํ เสนอข้อมูลต่าง ๆ ในรปู ส่อื ผสม เวบ็ ไซต์ หน่งึ ๆ อาจมีเวบ็ เพจต้งั แต่ 2-3 หน้า ไปจนถึงเป็นพัน ๆ หน้า เอกสารแต่ละหน้ามีการเช่ือมโยง ไปหาเน้ือหา ท่มี คี วามเก่ยี วข้องกนั ในหน้าเดยี วกนั หรือหน้าอ่นื ๆ สามารถเรียกดูเอกสารอ่นื ท่ที าํ การเช่ือมโยงไว้ได้ ต่อเน่อื งไปเร่อื ย ๆ คล้ายกบั ใยแมงมมุ www จึงถูกขนานนามว่า เครอื ข่ายใย แมงมุม 6.4.8 ประโยชนข์ องอนิ เทอร์เนต็ อนิ เทอร์เนต็ (Internet) มบี ทบาทและอทิ ธพิ ลต่อโลกในปัจจุบนั มาก ในเร่อื งข้อมลู ข่าวสา และ การร้เู ทา่ ทนั การเปล่ยี นแปลงของโลกในทุก ๆ เร่ือง โดยเฉพาะวิธกี ารดาํ เนินชีวติ เพียงแต่เข้า อนิ เทอร์เนต็ ได้ โลกท้งั ใบกอ็ ยู่ในมอื เรา ทง้ั ความรู้ การบริการ และอ่นื ๆ ดังพอสรปุ ได้ ดังน้ี 1. ใช้ติดต่อส่อื สาร 2. สง่ เสริมการศกึ ษา การเรียนทางไกลผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ 3. ใช้สบื ค้นข้อมูลในห้องสมดุ ต่าง ๆ ได้ท่วั โลก 4. สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากแหล่งบริการสารสนเทศได้ 5. ถ่ายโอนแฟ้ มข้อมลู จากแหล่งสารสนเทศได้ 6. แลกเปล่ยี นความร้คู วามคดิ ระหว่างนักวชิ าการและบุคคลอ่นื ท่สี นใจได้ท่วั โลก 7. เกดิ ธรุ กจิ การค้า การโฆษณาทางอนิ เทอรเ์ นต็ อย่างแพร่หลาย หลากหลายท่สี ดุ
วทิ ยาลยั เทคนิคหนองคาย แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธรุ กิจ วชิ า สารสนเทศเพ่อื การเรยี นรู้ รหัสวิชา 3000-1607 หน่วยที่ 6 การสืบคน้ สารสนเทศด้วยระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จบ เน้ อื หา
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: