Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนงานเครื่องยนต์เล็ก

แผนการสอนงานเครื่องยนต์เล็ก

Published by suchart.c, 2020-06-24 05:55:01

Description: unit2

Keywords: หลักการทำงานของเครื่องยนต์

Search

Read the Text Version

61 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 1 สัปดาห์ที่ 1 ชื่อวชิ า งานเคร่ืองยนตเ์ ล็ก จานวน 4 คาบ ชื่อหน่วย ขอ้ มลู ทางเทคนิคและหลกั การทางานเคร่ืองยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลีน ชื่อเร่ือง ขอ้ มลู ทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ล็กแก๊สโซลีน 1. หวั ข้อเร่ือง 1.1 สาระสาคญั 1.2 รายละเอียดทางสมรรถนะของเครื่องยนตเ์ ลก็ แก๊สโซลีน 1.3 หลกั การทางานเคร่ืองยนตแ์ กส๊ โซลีน 4 และ 2 จงั หวะ 1.4 การเปรียบเทียบเคร่ืองยนต์ 4 จงั หวะและ 2 จงั หวะ 2. สาระสาคญั เคร่ืองยนต์เล็กแก๊สโซลีนเป็ นเครื่องตน้ กาลงั ขนาดเล็ก ใชเ้ ป็ นเคร่ืองทุ่นแรงมนุษยแ์ ละสัตว์ สามารถ ดดั แปลงออกแบบใหใ้ ชง้ านไดห้ ลายชนิด การที่จะใชเ้ คร่ืองยนตใ์ ห้คุม้ ค่า คุม้ ราคาน้นั ผูใ้ ชห้ รือแมก้ ระทง่ั ช่างซ่อมเคร่ืองยนตเ์ ลก็ จาเป็นตอ้ งศึกษาหลกั การทางาน วธิ ีการใชท้ ี่ถูกตอ้ ง การบารุงรักษา และรายละเอียด ทางสมรรถนะหรือขอ้ มูลทางเทคนิคของเคร่ืองยนต์ เพื่อนาไปประกอบการใชง้ านและการซ่อมเคร่ืองยนต์ ตลอดจนการจดั ซ้ืออะไหล่เคร่ืองยนตด์ ว้ ย 3. สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ 3.1 บอกความสาคญั ของขอ้ มูลทางเทคนิคของเครื่องยนตไ์ ด้ 3.2 อธิบายหลกั การทางานของเครื่องยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีน 4 จงั หวะได้ 3.3 อธิบายหลกั การทางานของเคร่ืองยนตเ์ ล็กแก๊สโซลีน 2 จงั หวะได้ 3.4 บอกขอ้ เปรียบเทียบของเคร่ืองยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีน 4 จงั หวะและ 2 จงั หวะได้ 4. กจิ กรรมการเรียนการสอน 4.1 ผสู้ อนบรรยายประกอบแผน่ ใส ตามหวั ขอ้ เร่ืองและถามตอบ 4.2 ถาม - ตอบในใบเน้ือหา 4.3 ใหผ้ เู้ รียนทาแบบประเมินการเรียนรู้ประจาหน่วย 4.4 ใหผ้ เู้ รียนฝึกปฏิบตั ิตามใบงาน 4.5 ทดสอบเก็บคะแนนตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.6 สรุปทบทวนเน้ือหาสาระสาคญั

62 5. งานทมี่ อบมายหรือกจิ กรรม 5.1 ขณะเรียน - รับฟังการบรรยายจากครูผสู้ อน - นาเสนอและสาธิตการปฏิบตั ิงานร่วมกนั 5.2 หลงั เรียน - ใหผ้ เู้ รียนทาแบบประเมินการเรียนรู้ที่ 2 ส่ง - ใหผ้ เู้ รียนทาการฝึกปฏิบตั ิงานหรือกิจกรรมที่ไดร้ ับมอบหมาย 6. สื่อการเรียนการสอน 6.1 สื่อสิ่งพมิ พ์ - ใบความรู้ - ใบงาน 6.2 ส่ือโสตทศั น์ - แผน่ ใสประกอบการเรียนการสอน - ของจริง 7. หนังสือ ตารา เอกสารประกอบการสอน สุชาติ ชุมพร เอกสารประกอบการเรียนวชิ า 2101-2104 งานเครื่องยนตเ์ ล็ก 8. การประเมินผล 8.1 จากแบบประเมินการเรียนรู้ประจาหน่วย 8.2 จากการปฏิบตั ิงานของผเู้ รียน 8.3 จากการสงั เกตพฤติกรรม ความสนใจใฝ่ รู้ในการเรียน 8.4 เกณฑก์ ารประเมินผลใชเ้ กณฑ์ 80 เปอร์เซ็นต์ ถา้ นกั เรียนคนใดไม่ผา่ นเกณฑใ์ หซ้ ่อมเสริม และประเมินจนผา่ นเกณฑ์ 9. กจิ กรรมมอบหมาย มอบหมายให้นกั เรียนไปศึกษาใบความรู้ ใบงาน หน่วยที่ 5 ดว้ ยตนเองเพ่ือความพร้อมในการเรียน คร้ังตอ่ ไป

63 ใบเนือ้ หา ช่ือวชิ า งานเครื่องยนตเ์ ลก็ หน่วยท่ี 4 ชื่อหน่วย ขอ้ มลู ทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลีน สัปดาห์ที่ 4 ชื่อเร่ือง ขอ้ มลู ทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ล็กแกส๊ โซลีน จานวน 4 คาบ 4.ข้อมูลทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนต์เลก็ แก๊สโซลนี 4.1 รายละเอยี ดทางสมรรถนะของเครื่องยนต์เลก็ แก๊สโซลนี คู่มือซ่อมเป็ นส่วนหน่ึงท่ีสาคญั มากสาหรับผใู้ ช้และช่าง เป็ นเอกสารท่ีบริษทั ผผู้ ลิตจดั ทาข้ึนมา เพื่อ เป็ นแนวทางในการซ่อมและบารุงรักษาเคร่ืองยนต์รุ่นน้ัน ๆ ให้ถูกวิธีและปลอดภยั ซ่ึงเน้ือหาภายในจะ ครอบคลุมเกี่ยวกบั หลกั การสาหรับการซ่อมและบารุงรักษาเครื่องยนตเ์ ป็นหลกั กราฟแสดงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เลก็ ฮอนด้า GX270T รูปท่ี 4.1 กราฟแสดงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์

64 4.1.1 รายละเอยี ดทางเทคนิคของเคร่ืองยนต์เลก็ แก๊สโซลนี ฮอนด้า รุ่น GX270T รายละเอยี ด รหสั รุ่น GCADT แบบเครื่องยนต์ 4 จงั หวะ, วาลว์ เหนือลูกสูบ, สูบเดียว วางเอียง 250 ปริมาตรกระบอกสูบ 270 ซีซี กระบอกสูบ X ระยะชกั 77 x 58 มม. แรงมา้ สูงสุด 9 แรงมา้ ท่ี 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 1.95 กก.-ม.ท่ี 2,500 รอบต่อนาที อตั ราส่วนกาลงั อดั 7.1 : 1 การสิ้นเปลืองน้ามนั เช้ือเพลิง 230 กรัมต่อแรงมา้ ต อชว่ั โมง ระบบระบายความร้อน พดั ลมดูดอากาศ ระบบจุดระเบิด ทรานซิสเตอร์-แมกนีโต จงั หวะจุดระเบิด 200 ก่อนศนู ยต์ ายบน หวั เทียน BP 6 ES, BPR 6 ES (NGK) W 20 EP-U, W 20 EPR-U (*ND) คาร์บูเรเตอร์ แบบแนวนอน, ลิน้ ปี กผเี ส้ือ กรองอากาศ แบบอ่างน้ามนั ระบบหล่อล ่่น แบบวดิ สาด ความจุน้ามนั เครื่อง 1.1 ลิตร ระบบสตาร์ทเคร่ืองยนต์ เชือกดึงสตาร์ท ระบบดบั เคร่ืองยนต์ ตดั วงจรไฟฟ้ า ลงดิน น้ามนั เช้ือเพลิงท่ีใช้ เบนซินค่าออกเทน 91 ข้ึนไป ความจุถงั น้ามนั เช้ือเพลิง 6 ลิตร

65 4.1.2 สัดส่วนของเคร่ืองยนต์ ฮอนด้า รุ่น GX270T รูปที่ 4.2 แสดงสดั ส่วนของเคร่ืองยนต์ ฮอนดา้ รุ่น GX270T

66 4.1.3 ตาแหน่งทอ่ี ยู่ของหมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขเครื่องยนต์และชื่อรุ่นจะตอกอยู่บนแคร้งเคร่ืองยนต์ สาหรับใช้ดูเพื่อสั่งซ้ืออะไหล่ หรือ สอบถามปัญหาดา้ นเทคนิค ช่ือรุ่น หมายเลขรุ่น หมายเลขเครื่อง รูปท่ี 4.3 แสดงตาแหน่งของหมายเลขเครื่องยนต์ 4.1.4 ข้อมูลพนื้ ฐานเกย่ี วกบั การทางานของเคร่ืองยนต์ 1) ความจุกระบอกสูบ เป็ นค่าท่ีใช้บอกขนาดของเครื่องยนต์ ซ่ึงจะเกี่ยวพนั ถึงปริมาตรความจุของไอดี ท่ีจะถูกดึงเขา้ สู่ภายในเคร่ืองยนต์ (หรือที่ถูกคายออก) โดยทวั่ ไปความจุกระบอกสูบมีหน่วยเป็ นลูกบาศก์ เซนติเมตร (cm.3,cc.) หรือลิตร สูตรการคานวณหาค่าความจุกระบอกสูบ คือ V  π D 2 LN 4 เม่ือ V = ความจุกระบอกสูบ (ลบ.ซม., cm.3, cc) π = 3.14 D = ความโตกระบอกสูบ (ซม., cm.) L = ระยะชกั (ซม., cm.) N = จานวนสูบ - ศูนยต์ ายบน (TDC = Top Dead Center) เป็นจุดสูงสุดของการเคล่ือนที่ของลูกสูบภายในกระบอกสูบ - ศนู ยต์ ายล่าง (BDC = Bottom Dead Center) เป็นจุดต่าสุดการเคลื่อนที่ของลูกสูบภายในกระบอกสูบ - ระยะชกั (Stroke) ระยะทางการเคลื่อนที่ของลูกสูบระหวา่ งจุด TDC และจุด BDC - ความกวา้ งของกระบอกสูบ (Bore) เส้นผา่ ศูนยก์ ลางภายในของกระบอกสูบ

67 ศูนยต์ ายบน ปริมาตรหอ้ งเผาไหม้ ศูนยต์ ายล่าง รูปท่ี 4.4 ปริมาตรกระบอกสูบ 2) อตั ราส่วนการอดั เป็ นตวั ที่บอกถึงสัดส่วนการอดั ตวั ของไอดี ค่าอตั ราส่วนการอดั น้ีเท่ากบั อตั ราส่วน ขนาดห้องเผาไหมต้ ่อขนาดปริมาตรไอเสีย อตั ราส่วนจะเพ่ิมข้ึนตามระดบั ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ สูตร ในการคานวณหาอตั ราส่วนการอดั อตั ราส่วนการอดั = ( ปริมาตรห้องเผาไหม้ + ปริมาตรกระบอกสูบ ) / ปริมาตรกระบอกสูบ 3) กาลงั มา้ ค่าน้ีจะแสดงเป็ นหน่วยแรงมา้ (HP, PS)ยกตวั อยา่ งเช่น 4.5 HP/9000 RPM ก็คือ เคร่ืองยนต์ สามารถสร้างกาลงั ได้ 4.5 HP ในทุก ๆ การทางาน 9000 รอบ 1.0 HP = 75 กก.-ม/วนิ าที คือความพยายามท่ีจะยก ส่ิงของท่ีหนกั 75 กก. ข้ึน 1 เมตร ในเวลา 1 วินาที สูตร ในการคานวณหาคา่ กาลงั มา้ คือ กาลงั มา้  2π FR n 75  60 F = แรงหรือภาระท่ีมากระทา (กก.) R = ความยาวหรือระยะทาง (ม.) n = ความเร็วรอบต่อนาที รูปท่ี 4.5 เปรียบเทียบคา่ กาลงั มา้ PS = Pferde Stake (เมตริก) HP = Horse Power *ในหน่วย SI = KW 4) แรงบิดสูงสุด เป็นค่าแสดงสมรรถนะของเครื่องยนตท์ ี่บอกถึงกาลงั ของเคร่ืองยนต์ และนอกจากน้ียงั พจิ ารณาเป็นแรงบิดท่ีใชข้ บั ลอ้ อีกดว้ ย 5) ประสิทธิภาพทางความร้อน แสดงใหร้ ู้วา่ พลงั งานความร้อนที่ไดจ้ ากการเผาไหมเ้ ช้ือเพลิง สูญเสียไป ในทางใดบา้ งและเหลือใชง้ านมากนอ้ ยเพียงใด ซ่ึงในเคร่ืองยนตน์ ้นั จะเหลือพลงั งานความร้อนไปใชง้ านเป็ น พลงั งานกลเพยี ง30%เทา่ น้นั ส่วนมากจะเป็นความร้อนที่สูญเสียไป เคร่ืองยนตแ์ ก๊สโซลีนและเคร่ืองยนตด์ ีเซล มีความร้อนจากการเผาไหม้ (ท่ีภาระหนกั ) 2,000-2,5000C เครื่องยนตด์ ีเซลคายไอเสียออกประมาณ 6000C ส่วนเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีนคายไอเสียออกประมาณ 9000C จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์ดีเซลใช้ความร้อนเป็ น ประโยชน์มากกวา่ เครื่องยนตแ์ ก๊สโซลีน จึงประหยดั น้ามนั เช้ือเพลิงกวา่

68 4.2 หลกั การทางานเคร่ืองยนต์แก๊สโซลนี 4 และ 2 จังหวะ เครื่องยนตแ์ กส๊ โซลีนเป็นเครื่องจกั รสันดาปภายในท่ีเปล่ียนพลงั งานความร้อนของแก๊สโซลีนไปเป็ น พลงั งานกล ในเคร่ืองยนตช์ นิดน้ีน้ามนั เช้ือเพลิงแก๊สโซลีนจะถูกทาให้เป็ นฝอยละออง โดยคาร์บูเรเตอร์ซ่ึง เป็ นอุปกรณ์ท่ีอาศยั หลกั การของอากาศทาให้กลายเป็ นฝอยละออง ซ่ึงฝอยละอองแก๊สโซลีนจะถูกผสม รวมเขา้ กบั อากาศจนได้เป็ นส่วนผสมไอดีแลว้ จึงถูกดึงเขา้ สู่ห้องเผาไหม้ ไอดีจะถูกอดั โดยการทางานของ ลูกสูบ แลว้ เกิดการเผาไหม้ (หรือการระเบิด) และแก๊สจากการเผาไหมจ้ ะถูกปล่อยออกเป็ นไอเสีย จะไดก้ าลงั งานจากการเกิดการทางาน 4 ข้นั น้ีซ้าไปเรื่อย ๆ เรียกวา่ กลวฏั การทางาน 4.2.1 หลกั การทางานเคร่ืองยนต์แก๊สโซลนี 4 จังหวะ ในแต่ละรอบการทางาน (Cycle) เคร่ืองยนต์ 4 จงั หวะลูกสูบจะเลื่อนข้ึน 2 คร้ัง ลูกสูบเล่ือนลง 2 คร้ัง รวม 4 คร้ัง โดยเพลาขอ้ เหวยี่ งหมุน 2 รอบ ไดง้ าน 1 คร้ัง การท่ีลูกสูบเลื่อนข้ึนลง 4 คร้ัง ทาใหเ้ กิดจงั หวะการทางานข้ึน 4 จงั หวะโดยจงั หวะการทางานท้งั 4 ของ เครื่องยนตแ์ กส๊ โซลีน 4 จงั หวะมีดงั น้ี 1) จังหวะดูด (Intake Stroke) ลิ้นไอดี หวั เทียน ลิ้นไอดีเปิ ด ลิ้นไอเสียปิ ด ลิ้นไอเสีย ลกู สูบ กา้ นสูบ ลิ้นไอดีเร่ิมเปิ ด เพลาขอ้ เหวย่ี ง ลิ้นไอดีปิ ด รูปท่ี 4.6 แสดงลกั ษณะของจงั หวะดูด ลูกสูบเลื่อนลงจากศูนยต์ ายบน (TDC = Top Dead Center) ลิ้นไอดีเปิ ดลิ้นไอเสียปิ ด เกิดสุญญากาศ ภายในกระบอกสูบ ดูดส่วนผสมระหวา่ งน้ามนั เช้ือเพลิงกบั อากาศ หรือเรียกวา่ ไอดี จากคาร์บูเรเตอร์เขา้ บรรจุ ในกระบอกสูบ จนลูกสูบเลื่อนลงถึงศูนยต์ ายล่าง (BDC = Bottom Dead Center) เพลาขอ้ เหว่ยี งหมุนได้ 180 องศา

69 2) จังหวะอดั (Compression Stroke) รูปท่ี 4.7 แสดงลกั ษณะของจงั หวะอดั เมื่อลูกสูบเลื่อนลงจนสุดจงั หวะดูด ลิ้นท้งั คู่ปิ ดสนิท ลูกสูบเล่ือนข้ึนจากศูนย์ตายล่าง อดั ไอดีให้มี ปริมาตรลดลงด้วยอตั ราอดั ประมาณ 1:6 ถึง 1:10 ความดนั ภายในกระบอกสูบประมาณ 6-10 กก./ซม2 จนกระทง่ั ลูกสูบเลื่อนข้ึนใกลจ้ ะถึงศนู ยต์ ายบน เพลาขอ้ เหวย่ี งหมุนได้ 360 องศาเป็นจานวน 1 รอบ 3) จังหวะระเบิดหรือจังหวะงาน (Combustion หรือ Power Stroke) ลิ้นไอดีปิ ด ลิ้นไอเสียปิ ด ลิ้นไอเสียเริ่มเปิ ด รูปท่ี 4.8 แสดงลกั ษณะของจงั หวะระเบิดหรือจงั หวะงาน ก่อนท่ีลูกสูบจะเล่ือนข้ึนถึงศูนยต์ ายบนในจงั หวะอดั เลก็ นอ้ ย ลิ้นท้งั คู่ยงั ปิ ดสนิทอยู่ ประกายไฟจากหวั เทียนจะจุดไอดีให้เกิดการเผาไหมแ้ ก๊ส ความร้อนประมาณ 1,600-2,200 องศาเซลเซียส ความดนั ภายใน กระบอกสูบประมาณ 40-60 กก./ซม.2 แรงดนั ของแก๊สท่ีเกิดจากการเผาไหมจ้ ะผลกั ดนั ใหล้ ูกสูบเล่ือนลง จนกระทง่ั ใกลศ้ ูนยต์ ายล่าง ลิ้นไอเสียจะเปิ ด เพลาขอ้ เหวยี่ งหมุนได้ 540 องศา

70 4) จังหวะคาย (Exhaust Stroke) ลิ้นไอดีปิ ด ลิ้นไอเสียเปิ ด ลิ้นไอเสียปิ ด ลิ้นไอเสียเร่ิมเปิ ด รูปท่ี 4.9 แสดงลกั ษณะของจงั หวะคาย ลูกสูบเล่ือนข้ึนจากศูนยต์ ายล่าง ลิ้นไอดีปิ ดลิ้นไอเสียเปิ ด ขบั ไล่ไอเสียออกจากกระบอกสูบ จนกระทง่ั ลูกสูบเล่ือนข้ึนใกลจ้ ะถึงศูนยต์ ายบน ลิ้นไอดีจะเริ่มเปิ ดเพอ่ื เร่ิมจงั หวะดูดอีกคร้ัง ในขณะที่ลิ้นไอเสียเร่ิมจะปิ ด หลงั ศูนยต์ ายบน จะเห็นวา่ ลิ้นท้งั คูเ่ ปิ ดเกยกนั (Over Lap) ในระยะเวลาส้ันๆสาเหตุท่ีออกแบบเคร่ืองยนตใ์ ห้มี การ Over Lapน้นั เพื่อจะใหไ้ อดีเขา้ มาช่วยขบั ไล่ไอเสียภายในกระบอกสูบออกใหห้ มด เพลาขอ้ เหวี่ยงหมุนได้ 720 องศาเป็นจานวน 2 รอบ 4.2.2 หลกั การทางานเคร่ืองยนต์เลก็ แก๊สโซลีน 2 จังหวะ การทางานของเครื่องยนต์ 2 จงั หวะ ใน 1 กลวฏั ลูกสูบเล่ือนข้ึน 1 คร้ัง เลื่อนลง 1 คร้ังรวม 2 คร้ัง เพลา ขอ้ เหวยี่ งหมุน 1 รอบ หรือ 360 องศา จุดระเบิดหรือไดง้ าน 1 คร้ัง เคร่ืองยนต์ 2 จงั หวะมีโครงสร้างที่แตกต่าง กบั เครื่องยนต์ 4 จงั หวะ การทางานมีท้งั ดา้ นใตแ้ ละดา้ นบนลูกสูบ ไอดีและไอเสียจะไหลผา่ นช่องท่ีกระบอก สูบ (Port) โดยลูกสูบเป็ นตวั ปิ ด-เปิ ดเอง จึงไม่จาเป็ นตอ้ งมีกลไกลิ้น เนื่องจากห้องเพลาขอ้ เหว่ียงบรรจุ น้ามนั เครื่องไม่ได้ จึงตอ้ งหล่อล่ืนเครื่องยนตด์ ว้ ยวธิ ีผสมน้ามนั หล่อลื่น (2T) เขา้ กบั น้ามนั เบนซิน การท่ีลูกสูบเลื่อนข้ึนลง 2 คร้ัง ทาใหเ้ กิดจงั หวะการทางานข้ึน 4 จงั หวะเช่นเดียวกบั เครื่องยนต์ 4 จงั หวะ โดยจงั หวะการทางานของเครื่องยนตแ์ กส๊ โซลีน 2 จงั หวะมีดงั น้ี ช่องไอเสีย 1) ช่วงลูกสูบเลอื่ นขึน้ ลูกสูบเล่ือนข้ึนจากศูนยต์ ายล่าง ไอดีจะถูกอดั ท่ีดา้ นบน ช่องไอดี ลูกสูบ(จงั หวะอดั ) ลูกสูบปิ ดช่องบรรจุและช่องไอเสีย แต่จะ ช่องบรรจุ เปิ ดช่องไอดีขณะเดียวกนั แรงดนั ภายในห้องเพลาขอ้ เหวี่ยงจะ ลดลง ดูดไอดีเขา้ ไปเก็บไวใ้ นห้องเพลาขอ้ เหว่ียง รอให้ไหล ข้ึนไปดา้ นบนลูกสูบ (จงั หวะดูด) ซ่ึงเป็นการเร่ิมจงั หวะดูด รูปที่ 4.10 แสดงลกั ษณะจงั หวะดูดและอดั

ช่องไอดี ช่องไอเสีย 71 ช่องบรรจุ 2) ช่วงลกู สูบเลอ่ื นลง หวั เทียนจุดประกายไฟก่อนศูนยต์ ายบนเล็กน้อย เกิดการ ระเบิดเผาไหมไ้ อดี ผลกั ดนั ใหล้ ูกสูบเลื่อนลง (จงั หวะงาน) เม่ือลูกสูบเล่ือนลงต่อไป ช่องไอเสียจะเปิ ด ช่องไอดีปิ ด ไอเสียที่มีแรงดันสูงก็จะทะลักออก เป็ นการคายไอเสี ย (จงั หวะคาย) รูปที่ 4.11 แสดงลกั ษณะจงั หวะงานและคาย ช่องไอดี ช่องไอเสีย เม่ือลูกสูบเล่ือนลงต่อไปอีก ช่องบรรจุจะเปิ ด แรงดนั ใน ช่องบรรจุ หอ้ งเพลาขอ้ เหวยี่ งที่เกิดจากการเล่ือนลงของลูกสูบ ประกอบ กบั แรงดนั ในห้องเผาไหมล้ ดลง ทาให้เกิดการบรรจุไอดีข้ึน ไปท่ีหอ้ งเผาไหม้ และยงั เป็ นการช่วยขบั ไล่ไอเสียท่ีตกคา้ งอยู่ ในกระบอกสูบและเร่ิมจงั หวะดูดอีกคร้ัง หมุนเวยี นไปเร่ือย ๆ รูปท่ี 4.12 แสดงการบรรจุไอดีเขา้ หอ้ งเผาไหม้ 4.3 การเปรียบเทยี บเครื่องยนต์ 4 จังหวะและ 2 จังหวะ ลาดบั เครื่องยนต์ 4 จังหวะ เคร่ืองยนต์ 2 จังหวะ 1. เพลาขอ้ เหวย่ี งหมุน 2 รอบ 7200 ไดง้ าน 1 คร้ัง -เพลาขอ้ เหวย่ี งหมุน 1 รอบ 3600 ไดง้ าน 1 คร้ัง 2. ชิ้นส่วนมากกวา่ -ชิ้นส่วนนอ้ ย 3. การเผาไหม้ดีกว่า ไม่มีไอเสี ยตกค้างอยู่ -การเผาไหมไ้ ม่คอ่ ยดี มีไอเสียตกคา้ งอยภู่ ายใน ภายในกระบอกสูบ กระบอกสูบมาก 4. สิ้นเปลืองน้ามนั เช้ือเพลิงนอ้ ย เพราะเผาไหม้ -สิ้นเปลืองน้ามนั เช้ือเพลิง สมบรู ณ์กวา่ 5. สิ้นเปลืองน้ามนั หล่อล่ืนน้อยกว่า เพราะใช้ -สิ้นเปลืองน้ามันหล่อลื่น เพราะใช้หล่อล่ืน ในการหล่อลื่นชิ้นส่วนอยา่ งเดียว ชิ้นส่วนและเผาไหมด้ ว้ ย 6. ขนาดใหญ่และน้าหนกั เคร่ืองยนตม์ ากกวา่ -ขนาดเล็กและน้าหนกั เครื่องยนตน์ อ้ ยกวา่ 7. ขนาดกระบอกสูบใหญ่กวา่ -ขนาดกระบอกสูบเลก็ กวา่ 8. ระบายความร้อนไดด้ ี อุณหภูมิเครื่องยนตต์ ่า -ระบายความร้อนไม่ดี อุณหภมู ิเคร่ืองยนตส์ ูง 9. การเร่งเคร่ืองยนตไ์ ่้ชา้ กวา่ -การเร่งเคร่ืองยนตไ์ ดเ้ ร็วกวา่

72 การเปรียบเทยี บเคร่ืองยนต์ 4 จังหวะและ 2 จังหวะ (ต่อ) ลาดบั เครื่องยนต์ 4 จังหวะ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ 10. เสียงเคร่ืองยนตเ์ งียบกวา่ -เสียงเคร่ืองยนตด์ งั กวา่ 11. การทางานเรียบกวา่ -การทางานผดิ พลาดมากกวา่ 12. ลอ้ ช่วยแรงน้าหนกั มากกวา่ -ลอ้ ช่วยแรงน้าหนกั เบา 13. การสตาร์ทเคร่ืองติดยากกวา่ -การสตาร์ทเคร่ืองติดง่ายกวา่ 14. การนาไปใชง้ าน ถา้ เอียงเครื่องยนตม์ าก -การนาไปใชง้ าน เอียงเครื่องยนตไ์ ดม้ ากกวา่ การหล่อล่ืนไม่เพยี งพอ 15. ราคาเครื่องยนตแ์ พงกวา่ -ราคาเครื่องยนตถ์ ูกกวา่ 16. แรงมา้ ต่ากวา่ เมื่อน้าหนกั เท่ากนั -แรงมา้ สูงกวา่ เม่ือน้าหนกั เทา่ กนั 17. การบารุงรักษามากกวา่ -การบารุงรักษานอ้ ยกวา่

73 ใบแบบทดสอบ ชื่อวชิ า งานเคร่ืองยนตเ์ ลก็ หน่วยที่ 4 ช่ือหน่วย ขอ้ มูลทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลีน สัปดาห์ท่ี 4 ชื่อเร่ือง ขอ้ มลู ทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ล็กแก๊สโซลีน จานวน 4 คาบ คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ งและสมบรู ณ์ท่ีสุด 1. จงบอกความสาคญั ของรายละเอียดทางเทคนิคของเคร่ืองยนต์ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2. จงบอกขอ้ มูลพ้ืนฐานการทางานของเคร่ืองยนต์ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 3. จงอธิบายหลกั การทางานของเครื่องยนต์ 4 จงั หวะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 4. จงอธิบายการทางานของเครื่องยนต์ 2 จงั หวะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 5. จงอธิบายการเปรียบเทียบเครื่องยนต์ 4 จงั หวะและ 2 จงั หวะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................

74 ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ใบเฉลยแบบทดสอบ ช่ือวชิ า งานเครื่องยนตเ์ ลก็ หน่วยท่ี 4 ชื่อหน่วย ขอ้ มลู ทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลีน สัปดาห์ที่ 4 ช่ือเร่ือง ขอ้ มลู ทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ล็กแก๊สโซลีน จานวน 4 คาบ คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ งและสมบรู ณ์ท่ีสุด 1. ตอบ เพื่อนาไปประกอบการใชง้ านและการซ่อมเคร่ืองยนต์ ตลอดจนการจดั ซ้ืออะไหล่เคร่ืองยนต์ 2. ตอบ 1.ความจุกระบอกสูบ เป็นค่าท่ีใชบ้ อกขนาดของเครื่องยนต์ 2.อตั ราส่วนการอดั เป็ นตวั ท่ีบอกถึงสัดส่วนการอดั ตวั ของไอดี 3.กาลงั มา้ 4.แรงบิดสูงสุด เป็ นค่าแสดงสมรรถนะของเคร่ืองยนตท์ ่ีบอกถึงกาลงั ของเครื่องยนต์ 5.ประสิทธิภาพทางความร้อน แสดงใหร้ ู้วา่ พลงั งานความร้อนท่ีไดจ้ ากการเผาไหมเ้ ช้ือเพลิง สูญเสียไปในทางใดบา้ งและเหลือใชง้ านมากนอ้ ยเพยี งใด 3. ตอบ เคร่ืองยนต์ 4 จงั หวะลูกสูบจะเล่ือนข้ึน 2 คร้ัง ลูกสูบเล่ือนลง 2 คร้ังรวม 4 คร้ัง เพลาขอ้ เหวี่ยง หมุน 2 รอบ ไดง้ าน 1 คร้ัง โดยจงั หวะการทางานท้งั 4 ของเคร่ืองยนตแ์ กส๊ โซลีน 4 จงั หวะมีดงั น้ี 1.จงั หวะดูด ลูกสูบเล่ือนลงจากศูนยต์ ายบน (TDC = Top Dead Center) ลิ้นไอดีเปิ ดลิ้นไอ เสียปิ ด เกิดสุญญากาศภายในกระบอกสูบ ดูดส่วนผสมระหว่างน้ามนั เช้ือเพลิงกบั อากาศ หรือเรียกวา่ ไอดี จากคาร์บูเรเตอร์เขา้ บรรจุในกระบอกสูบ จนลูกสูบเลื่อนลงถึงศูนยต์ ายล่าง (BDC = Bottom Dead Center) เพลาขอ้ เหวยี่ งหมุนได้ 180 องศา 2.จงั หวะอดั เม่ือลูกสูบเล่ือนลงจนสุดจงั หวะดูด ลิ้นท้งั คู่ปิ ดสนิท ลูกสูบเล่ือนข้ึนจากศูนย์ ตายล่าง อดั ไอดีใหม้ ีปริมาตรลดลงดว้ ยอตั ราอดั ประมาณ 1:6 ถึง 1:10 ความดนั ภายในกระบอกสูบประมาณ 6-10 กก./ซม2 จนกระทงั่ ลูกสูบเลื่อนข้ึนใกลจ้ ะถึงศูนยต์ ายบน เพลาขอ้ เหว่ียงหมุนได้ 360 องศาเป็ นจานวน 1 รอบ 3.จงั หวะระเบิด ก่อนท่ีลูกสูบจะเล่ือนข้ึนถึงศูนยต์ ายบนในจงั หวะอดั เล็กนอ้ ย ลิ้นท้งั คู่ยงั ปิ ด สนิทอยู่ ประกายไฟจากหวั เทียนจะจุดไอดีใหเ้ กิดการเผาไหมแ้ ก๊ส ความร้อนประมาณ 1,600-2,200 องศา เซลเซียส ความดนั ภายในกระบอกสูบประมาณ 40-60 กก./ซม.2 แรงดนั ของแก๊สท่ีเกิดจากการเผาไหมจ้ ะ ผลกั ดนั ใหล้ ูกสูบเล่ือนลง จนกระทง่ั ใกลศ้ ูนยต์ ายล่าง ลิ้นไอเสียจะเปิ ด เพลาขอ้ เหวย่ี งหมุนได้ 540 องศา 4.จงั หวะคาย ลูกสูบเลื่อนข้ึนจากศูนยต์ ายล่าง ลิ้นไอดีปิ ดลิ้นไอเสียเปิ ด ขบั ไล่ไอเสียออกจาก กระบอกสูบ จนกระทงั่ ลูกสูบเล่ือนข้ึนใกลจ้ ะถึงศูนยต์ ายบน ลิ้นไอดีจะเร่ิมเปิ ดเพื่อเร่ิมจงั หวะดูดอีกคร้ัง ในขณะที่ลิ้นไอเสียเร่ิมจะปิ ด หลงั ศูนยต์ ายบน จะเห็นวา่ ลิ้นท้งั คู่เปิ ดเกยกนั (Over Lap) ในระยะเวลาส้ันๆ สาเหตุท่ีออกแบบเคร่ืองยนตใ์ หม้ ีการ Over Lapน้นั เพ่ือจะให้ไอดีเขา้ มาช่วยขบั ไล่ไอเสียภายในกระบอกสูบ ออกใหห้ มด เพลาขอ้ เหวยี่ งหมุนได้ 720 องศาเป็นจานวน 2 รอบ

75 4. ตอบ เคร่ืองยนต์ 2 จงั หวะ ใน 1 กลวฏั ลูกสูบเลื่อนข้ึน 1 คร้ัง เล่ือนลง 1 คร้ังรวม 2 คร้ัง เพลาขอ้ เหวยี่ งหมุน 1 รอบ หรือ 360 องศา จุดระเบิดหรือไดง้ าน 1 คร้ัง 1.ช่วงลูกสูบเลื่อนข้ึน ลูกสูบเล่ือนข้ึนจากศูนยต์ ายล่าง ไอดีจะถูกอดั ท่ีดา้ นบนลูกสูบ(จงั หวะ อดั ) ลูกสูบปิ ดช่องบรรจุและช่องไอเสีย แต่จะเปิ ดช่องไอดีขณะเดียวกนั แรงดนั ภายในหอ้ งเพลาขอ้ เหว่ียงจะ ลดลง ดูดไอดีเขา้ ไปเกบ็ ไวใ้ นหอ้ งเพลาขอ้ เหวย่ี ง รอใหไ้ หลข้ึนไปดา้ นบนลูกสูบ (จงั หวะดูด) ซ่ึงเป็ นการเริ่ม จงั หวะดูด 2.ช่วงลูกสูบเล่ือนลง หวั เทียนจุดประกายไฟก่อนศนู ยต์ ายบนเลก็ นอ้ ย เกิดการระเบิดเผาไหม้ ไอดี ผลกั ดนั ใหล้ ูกสูบเลื่อนลง (จงั หวะงาน) เมื่อลูกสูบเลื่อนลงต่อไป ช่องไอเสียจะเปิ ด ช่องไอดีปิ ด ไอเสีย ท่ีมีแรงดนั สูงกจ็ ะทะลกั ออก เป็นการคายไอเสีย (จงั หวะคาย) เมื่อลูกสูบเลื่อนลงต่อไปอีก ช่องบรรจุจะเปิ ด แรงดนั ในห้องเพลาขอ้ เหวี่ยงท่ีเกิดจากการ เล่ือนลงของลูกสูบ ประกอบกบั แรงดนั ในห้องเผาไหมล้ ดลง ทาใหเ้ กิดการบรรจุไอดีข้ึนไปท่ีห้องเผาไหม้ และยงั เป็นการช่วยขบั ไล่ไอเสียที่ตกคา้ งอยใู่ นกระบอกสูบและเร่ิมจงั หวะดูดอีกคร้ัง หมุนเวยี นไปเรื่อย ๆ 5. ตอบ เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1.เพลาขอ้ เหวย่ี งหมุน 2 รอบ 7200 ไดง้ าน 1 คร้ัง 2.ชิ้นส่วนมากกวา่ 3.การเผาไหมด้ ีกวา่ ไม่มีไอเสียตกคา้ งอยภู่ ายในกระบอกสูบ 4.สิ้นเปลืองน้ามนั เช้ือเพลิงนอ้ ย เพราะเผาไหมส้ มบรู ณ์กวา่ 5.สิ้นเปลืองน้ามนั หล่อล่ืนนอ้ ยกวา่ เพราะใชใ้ นการหล่อลื่นชิ้นส่วนอยา่ งเดียว เคร่ืองยนต์ 2 จังหวะ 1.เพลาขอ้ เหวย่ี งหมุน 1 รอบ 3600 ไดง้ าน 1 คร้ัง 2.ชิ้นส่วนนอ้ ย 3.การเผาไหมไ้ มค่ ่อยดี มีไอเสียตกคา้ งอยภู่ ายในกระบอกสูบมาก 4.สิ้นเปลืองน้ามนั เช้ือเพลิง 5.สิ้นเปลืองน้ามนั หล่อลื่น เพราะใชห้ ล่อลื่นชิ้นส่วนและเผาไหมด้ ว้ ย

76 ใบงาน ช่ือวชิ า งานเครื่องยนตเ์ ล็ก ใบงานท่ี 4 ช่ือหน่วย ขอ้ มลู ทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลีน สัปดาห์ที่ 4 ชื่องาน งานตรวจวดั กาลงั อดั เคร่ืองยนตเ์ ล็กแก๊สโซลีน จานวน 4 คาบ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถตรวจวดั กาลงั อดั ของเคร่ืองยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลีนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามข้นั ตอน 2. สามารถใชเ้ ครื่องวดั กาลงั อดั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. สามารถใชเ้ คร่ืองมือไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เคร่ืองมอื และอุปกรณ์ 1. เคร่ืองมือประจาตวั 5. กาน้ามนั เคร่ือง 2. เคร่ืองยนตเ์ ล็กแก๊สโซลีน 6. ถาดใส่อุปกรณ์ 3. เคร่ืองมือวดั กาลงั อดั 7. ผา้ เช็ดมือ 4. ประแจบอ๊ กซ์หวั เทียน 8. ผงซกั ฟอกหรือน้ายาลา้ งมือ เคร่ืองยนตท์ ่ีนกั ศึกษาใชฝ้ ึกยห่ี อ้ ................................ รุ่น................................... คา่ กาลงั อดั มาตรฐาน.................................................. ลาดบั ข้นั การปฏบิ ตั ิ ตรวจสอบ 1. เตรียมเคร่ืองมือ-อุปกรณ์ 2. อุน่ เครื่องยนตป์ ระมาณ 5-10 นาที 3. ดึงสายไฟแรงสูงออกจากหวั เทียน 4. ถอดหวั เทียนออก - สภาพหวั เทียน ❒ ปกติ เกจวดั แรงอดั ในกระบอกสูบ ❒ สกปรก รูปที่ 4.13 แสดงการวดั กาลงั อดั เคร่ืองยนต์ 5. เปรียบเทียบเกลียวหัวเทียนกบั เกลียวเกจวดั กาลงั อดั แลว้ ใส่เครื่องวดั กาลงั อดั เขา้ แทนที่ 6. ดึงเชือกสตาร์ทเคร่ืองยนตแ์ รง ๆ หลาย ๆ คร้ัง พร้อมกบั - ค่ากาลงั อดั ..................................กก./ซม2 อ่านค่ากาลงั อดั ที่หนา้ ปัดของเกจวดั และจดบนั ทึก

77 ลาดับข้นั การปฏบิ ัติ ตรวจสอบ 7. เปรียบเทียบค่าที่เกจวดั กบั ค่ามาตรฐาน ถา้ กาลงั อดั ต่ากวา่ - สภาพเคร่ืองยนต์ ❒ ปกติ ค่ามาตรฐานใหฉ้ ีดน้ามนั เครื่องเขา้ ไปภายในกระบอกสูบแลว้ ❒ เครื่องหลวม ทาตามข้นั ตอนท่ี 5-6 ใหม่อีกคร้ัง - ถา้ กาลงั อดั ของเคร่ืองยนตเ์ พ่ิมข้ึน แสดงว่าแหวนลูกสูบ สึกหรอ หรือประกอบแหวนลูกสูบผดิ - ถ้ากาลงั อดั ของเคร่ืองยนต์ยงั ต่าอยู่ อาจมีสาเหตุมาจาก วาลว์ คา้ งหรือบ่าวาลว์ ร่ัว และอาจเกิดจากการร่ัวที่ประเก็น 8. ประกอบหวั เทียนเขา้ ใหเ้ รียบร้อย - การประกอบ ❒ เรียบร้อย 9. นาสายไฟแรงสูงเสียบเขา้ กบั หวั เทียน ❒ ไม่เรียบร้อย 10. ทาความสะอาด เกบ็ เคร่ืองมืออุปกรณ์ 11. ทาความสะอาดบริเวณปฏิบตั ิงาน

78 บนั ทกึ .............................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... บนั ทกึ หลงั การสอน สถานศึกษา วทิ ยาลยั เทคนิคน้าพอง แผนกวชิ า ช่างยนต์ คณะวชิ า เครื่องกล รหสั วชิ า 2101-2101 ชื่อวชิ า งานเคร่ืองยนตเ์ ลก็ ช้ัน/กลุ่ม..................ภาคเรียนท.่ี ........./................ หน่วยท่ี 4 เรื่อง ขอ้ มูลทางเทคนิคและหลกั การทางานเครื่องยนตเ์ ลก็ แกส๊ โซลีน รายการ 432 1 1.ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ 1.1 เน้ือหามีความสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1.2 เวลาที่ทากิจกรรมการเรียนรู้ 1.3 การเรียนการสอนแบบเนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาคญั 1.4 ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมแบบบูรณาการ 1.5 การใชส้ ื่อการเรียนการสอน 2.ผลการเรียนของผู้เรียน

79 2.1 คุณธรรม จริยธรรมของผเู้ รียน 2.2 ความสนใจใฝ่ รู้และความร่วมมือในการทากิจกรรมกลุ่ม 2.3 การแสดงความคิดเห็นของผเู้ รียน 2.4 ความมนั่ ใจในการเสนอผลงาน 2.5 ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของผเู้ รียน 3.ผลการสอนของครู 3.1 การวางแผนและความมนั่ ใจในการสอน 3.2 ความราบรื่นของกระบวนการและกิจกรรมการสอน 3.3 เอกสารแหล่งความรู้ และขอ้ มูลสารสนเทศมีเพยี งพอ 3.4 การเรียนการสอนครบตามเน้ือหาหลกั สูตรและทนั เวลา 3.5 มีการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมใหแ้ ก่ผเู้ รียน 4.อนื่ ๆ ...................................................................................................................... .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. รวม หมายเหตุ คะแนน 1 ตอ้ งปรับปรุง , คะแนน 2 พอใช้ , คะแนน 3 ดี , คะแนน 4 ดีมาก สรุป................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ลงช่ือ.............................................ผสู้ อน (...................................................) วนั ท่ี................./..................../...................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook