Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบเศรษฐกิจของประเทศเดนมาร์ก

ระบบเศรษฐกิจของประเทศเดนมาร์ก

Published by ยลดา ศรีแก้ว, 2020-02-13 02:18:22

Description: ระบบเศรษฐกิจของประเทศเดนมาร์ก

Search

Read the Text Version

ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศเดนมารก์ จดั ทาโดย นางสาวยลดา ศรแี ก้ว เลขที่ 23 นกั ศึกษาระดบั ชน้ั ปวช.2/1 แผนกคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ เสนอ ครูจนั ทนา ลยั วรรณา วิทยาลยั เทคนคิ จนั ทบุรี ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษาท่ี 2562

คานา รายงานเลม่ น้จี ดั ทาขนึ้ เพอ่ื เป็นส่วนหน่ึงของวิชาเศรษฐศาสตร์ ชัน้ ปวช.2 เพื่อให้ไดศ้ ึกษาหาความรู้ใน เร่ืองระบบเศรษฐกิจของประเทศเดนมารก์ และได้ศกึ ษาอย่างเข้าใจเพอื่ เปน็ ประโยชนก์ ับการเรียน ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานเลม่ น้จี ะเปน็ ประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรยี น นกั ศกึ ษา ที่กาลงั หาขอ้ มูลเรื่อง น้ีอยู่ หากมขี อ้ แนะนาหรอื ขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผ้จู ดั ทาขอน้อมรับไวแ้ ละขออภยั มา ณ ที่นีด้ ้วย นางสาวยลดา ศรีแกว้

สารบญั หน้า เรื่อง ก ข คานา 1 สารบัญ 2 ประวัติศาสตร์ 3 การเมอื งการปกครอง 4 ภูมิศาสตร์ 5 การแบง่ เขตการปกครอง 6 ประชากรศาสตร์ 7 เศรษฐกิจ 8 9 - ดชั นวี ดั ทางเศรษฐกจิ ของเดนมารก์ 10 การศกึ ษา 10 การคมนาคม 10 วัฒนธรรม 11 - ภาษา - สกุลเงนิ บรรณานุกรม

ประวตั ิของประเทศเดนมาร์ก ประวัตศิ าสตร์ของเดนมาร์กเริม่ ต้งั แต่ท่ีชนชาติเดนส์ (Denes) อพยพโยกยา้ ยถิ่นฐานมาจากสวีเดน ใน ปลายศตวรรษที่ 9 หวั หนา้ นกั รบไวก้งิ ชอื่ ว่า Hadregon รบจนไดช้ ัยชนะเหนอื คาบสมุทรจตั แลนด์ จากนน้ั ราชวงศข์ องเดนมาร์กไดเ้ รมิ่ ตน้ ข้นึ ในตน้ ศตวรรษท่ี 10 โดย บตุ รชายของ Hadregon ข้ึนครองราชย์มีนามว่า กอร์ม เดอะ โอลด์ ในยคุ ต่อมา คอื ยุคของบตุ รชายของ กอร์ม เดอะ โอลด์ ซงึ่ มีช่ือวา่ ฮาราลด์ บลูทูธ รบได้ชยั ชนะขยาย เขตแดนจนครอบคลุมพน้ื ทเ่ี ดนมาร์กในปัจจุบัน และพื้นที่สว่ นใหญข่ องประเทศในแถบทะเลบอลตกิ ตลอดจน องั กฤษ และในยุคน้เี องท่ีเดนมารก์ เปลีย่ นมานับถือศาสนาคริสต์ ระบบสมบูรณาญาสทิ ธริ าชยข์ องเดนมารก์ ได้เรม่ิ ตน้ ข้นึ เมื่อปี พ.ศ. 1528 และได้เปลยี่ นแปลงการ ปกครอง มาเปน็ ระบอบประชาธิปไตยเมื่อปี พ.ศ. 2392 ซงึ่ เป็นปที ีร่ ฐั ธรรมนูญ ฉบับแรกไดถ้ กู รา่ งขนึ้ ราชอาณาจักรเดนมาร์ก เคยครอบคลุมถึงสวีเดนและนอร์เวย์ จนกระท่งั สวเี ดนแยกตวั ออกไป เมอ่ื ปี พ.ศ. 2066 และเดนมารก์ สูญเสียนอรเ์ วย์ใหแ้ ก่สวเี ดน ภายใตส้ นธิสญั ญา Kiel เม่อื ปี พ.ศ. 2357 ภายหลังสงครามนโปเลียนยตุ ลิ ง ในช่วงสงครามโลกครง้ั ที่ 1 ระหวา่ งปี พ.ศ. 2457 – 2461 เดนมารก์ ไดด้ าเนนิ นโยบายเปน็ กลาง และเม่อื ปี พ.ศ. 2482 ในชว่ งตน้ ของสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 เดนมารก์ ไดป้ ระกาศ ความเป็นกลาง อย่างไรกด็ ี เดนมาร์กถูกกองทพั เยอรมัน เขา้ ยดึ ครอง เมื่อวนั ท่ี 9 เมษายน พ.ศ. 2483 ซีง่ นาไปสู่การรวมตวั ของขบวนการตอ่ ตา้ น ของประชาชนชาวเดนมาร์ก โดยตลอดช่วงสงคราม ฝา่ ยเยอรมันได้ ตอบโต้ ดว้ ยการเขา้ ปกครองเดนมารก์ โดยตรง จนกระทง่ั วนั ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 เดนมารก์ ถูก ปลดปลอ่ ย โดยกองกาลงั พันธมิตร และภายหลังสงครามโลกคร้ังท่ี 2 เดนมาร์กได้รับรอง ความเป็นเอกราช ของไอซ์แลนด์ ซึง่ ได้ประกาศตัวเปน็ เอกราชเม่อื ปี พ.ศ. 2487 และตอ่ มาเดนมารก์ ไดใ้ หส้ ทิ ธิในการปกครองตนเอง แก่หมเู่ กาะแฟโร และเกาะกรีนแลนด์ เม่ือปี พ.ศ. 2491 และปี พ.ศ. 2522 ตามลาดบั จากน้นั ในปี พ.ศ. 2496 รัฐธรรมนญู เดนมารก์ ได้รับการแกไ้ ข ซึ่ง สง่ ผลให้ มีบทบญั ญตั ิใหม่ ทสี่ าคัญ ๆ ในเรอื่ งต่าง ๆ อันไดแ้ ก่ ใหร้ ัชทายาทสตรี มสี ิทธิขน้ึ ครองราชสมบตั ิ กาหนดใหร้ ัฐสภา มเี พยี งสภาเดยี ว และให้ประชาชนชาวเดนมารก์ ชายและหญิง ทม่ี อี ายุครบ 18 ปี บริบรู ณ์ มี สทิ ธิออกเสียงเลือกต้ังได้ ปัจจุบัน เดนมาร์กเปน็ ราชอาณาจักร โดยมพี ระมหากษตั รยิ ์เป็นประมุข ภายใตร้ ะบอบรัฐธรรมนญู คอื สมเดจ็ พระราชนิ ีนาถมาร์เกรเธอ ท่ี 2 แหง่ เดนมารก์ ซง่ึ เสดจ็ ข้นึ ครองราชย์ เม่ือวนั ท่ี 15 มกราคม พ.ศ. 2515 และทรงเปน็ ประมุขแห่งเดนมารก์ ลาดับที่ 52

การเมืองการปกครอง สมเด็จพระราชนิ ีนาถมารเ์ กรเธอท่ี 2 พระประมขุ พระองคป์ ัจจุบันของราชอาณาจักรเดนมาร์ก เจ้าชายเฟรเดอรกิ องคร์ ัชทายาทแหง่ เดนมาร์ก เดนมารก์ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรฐั สภา โดยมีพระมหากษัตรยิ ์เป็นประมขุ ของ ประเทศภายใตร้ ัฐธรรมนูญ สมเด็จพระบรมราชนิ นี าถมาเกรเธที่ 2 ทรงเปน็ สมเด็จพระราชินนี าถและเป็นพระ ประมขุ ของราชอาณาจักรเดนมาร์ก และมวี า่ ท่อี งค์รัชทายาทคอื เจา้ ชายเฟรเดอรกิ มกฎุ ราชกุมารแหง่ เดนมาร์ก วา่ ที่สมเดจ็ พระราชาธบิ ดพี ระองค์ตอ่ ไปของเดนมาร์ก รฐั สภาเดนมาร์ก (The Forketing) เปน็ ระบบรฐั สภาเดียว มสี มาชิกสภาจานวน 179 คน มาจากการเลอื กต้ัง (รวมผ้แู ทนจากหม่เู กาะแฟโร 2 คน และกรนี แลนด์ 2 คน) มวี าระการดารงตาแหนง่ 4 ปี โดยมีนายกรัฐมนตรี และคณะรฐั มนตรี ทาหน้าทใ่ี นการบริหารประเทศ และนายกรฐั มนตรมี ีอานาจในการยบุ สภา ระบบการเมอื งของเดนมารก์ เป็นการเมืองแบบหลายพรรคการเมือง ทีแ่ ตล่ ะพรรคการเมอื งจะได้รบั เลือกเปน็ ตัวแทนเข้าไปในรัฐสภา ซึ่งรฐั บาลเดนมาร์กมกั จะตอ้ งบรหิ ารงานได้ โดยไดร้ บั การสนบั สนุนจากเสียงสว่ นน้อย ในสภาอยา่ งนอ้ ยหนึ่งพรรคเสมอ จึงหมายความว่าการเมืองของเดนมาร์กนั้นเปน็ การเมืองแบบใช้พรรคร่วม นน่ั เอง ต้ังแต่ พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) เป็นตน้ มา ไม่มีพรรคการเมอื งของเดนมาร์กพรรคใดทีส่ ามารถ ครอบครองเสยี งขา้ งมากในสภาเพยี งพรรคเดียวไดเ้ ลย

ภมู ิศาสตร์ เดนมาร์กแต่เดมิ เป็นดนิ แดนท่ีมีทรัพยากรธรรมชาตินอ้ ย พนื้ ท่ตี ลอดชายฝง่ั เปน็ สนั ทรายกว้างใหญ่ พืน้ ทีส่ ่วนอ่นื เกดิ จากธารน้าแข็งและหนองนา้ เดนมารก์ ตัง้ อยู่ระหว่างทะเลบอลตกิ และทะเลเหนอื ล้อมรอบ ดว้ ยพน้ื น้าเกือบท้งั หมด ภมู ิประเทศประกอบด้วยคาบสมุทร Jutland (Jylland) และเกาะตา่ งๆอีก 406 เกาะ ในจานวนนี้ 76 เกาะมผี ้อู ย่อู าศัย เกาะใหญท่ ีส่ ุดคอื Zealand (Sjælland), Funen (Fyn), Lolland และ Bornholm เกาะ Bornholm จะอยู่ในทะเลบอลติกทางด้านตะวันออกของประเทศ เกาะอืน่ ๆสว่ นใหญ่จะเปน็ เกาะทมี่ ีขนาดเลก็ มาก ทม่ี ผี ู้อยอู่ าศัยเพยี งเล็กน้อยหรอื ไมม่ ีเลย เกาะขนาดใหญจ่ ะเช่อื มต่อกันดว้ ยสะพาน สะพาน Øresund เชอื่ มต่อเกาะ Zealand กบั ประเทศสวีเดน สะพาน Great Belt เชือ่ มตอ่ เกาะ Funen กบั เกาะ Zealand และสะพาน Little Belt เชอ่ื มตอ่ คาบสมุทร Jutland กับเกาะ Funen เรือเฟอร์รีแ่ ละ เคร่อื งบินจะใชเ้ พือ่ การเดนิ ทางไปยงั เกาะเลก็ ๆ เมืองหลวงหลักคอื โคเปนเฮเกน (อย่บู นเกาะ Zealand) Århus, Aalborg, Esbjerg (อยบู่ นคาบสมุทร Jutland) และ Odense (อยูบ่ นเกาะ Funen) พืน้ ท่เี กือบ ทั้งหมดเป็นท่ีราบไมม่ ีภูเขา นอกจากหมเู่ กาะแฟโร และเกาะกรนี แลนด์ซ่ึงเป็นดนิ แดนโพน้ ทะเลจะมีทงั้ ท่รี าบ สงู และภเู ขาสูง ภมู ปิ ระเทศมที ี่ราบสูงเพยี งเล็กน้อย สว่ นใหญเ่ ปน็ ทร่ี าบ มคี วามสงู เฉลยี่ จากระดบั นา้ ทะเลเพยี ง 31 เมตร จุดทอี่ ยู่สงู ทส่ี ุดตามธรรมชาตคิ อื เนนิ เขา Møllehøj อยทู่ ่คี วามสงู 170.86 เมตร[2] เนินเขาอ่ืนๆใน บริเวณ Århus ตะวนั ตกเฉยี งใต้ คือ Yding Skovhøj ที่ 170.77 เมตร และ Ejer Bavnehøj ท่ี 170.35 เมตร ขนาดผืนน้าบนผืนดนิ คอื 210 ตารางกิโลเมตร ในเดนมารก์ ตะวนั ออก และ 490 ตาราง กิโลเมตร ในเดนมารก์ ตะวันตก ช่องแคบออร์ซึนด์ (Oresund) ทางตะวันออกของประเทศ เปน็ ชอ่ งแคบระหว่างเกาะ Zealand และ ประเทศสวีเดน เดนมาร์กมอี านาจมากในการควบคุมทางผา่ นช่องแคบน้ี สามารถเรยี กเก็บภาษีจากผูผ้ ่านเขา้ ออกได้

การแบง่ เขตการปกครอง การแบง่ เขตการปกครองแบบเก่าของเดนมารก์ มีทัง้ หมด 13 มณฑล (270 เทศบาลนคร) และอีก 3 เทศบาลนครทีไ่ ม่ข้ึนกับมลฑลใด พ.ศ. 2513 - พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 1970 - ค.ศ. 2006)[4] ก่อนการปฏริ ปู เขต การปกครอง พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) 1. โคเปนเฮเกน (องั กฤษ:Copenhagen เดนมารก์ :København, เทศบาลนครที่ไม่ข้ึนกับมฑลใด) 2. เฟรดเดอรกิ สเบริ ก์ (Frederiksberg) (เทศบาลนครทไ่ี มข่ น้ึ กบั มฑลใด) 3. โคเปนเฮเกน เค้าท์ตี้ (Copenhagen County) หรือ (Københavns Amt) 4. เฟรดเดอริกสบ์ อรก์ (Frederiksborg) 5. Roskilde 6. เวสซีแลนด์ (West Zealand) หรือ (Vestsjælland) 7. สตอร์สตอร์ม (Storstrøm) 8. ฟูเนน (Funen) หรือ (Fyn) 9. South Jutland (Sønderjylland) 10. ไรบ์ (Ribe) 11. เวจเล (Vejle) 12. Ringkjøbing 13. ไวบอรก์ (Viborg) 14. นอร์ทจทั แลนด์ (North Jutland) (Nordjylland) 15. เมอื งออร์ฮูส Aarhus (Århus) 16. บอรน์ ฮอลม์ (Bornholm) (เทศบาลนครที่ไมข่ นึ้ กับมณฑล ใด)

ประชากรศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2556ประเทศเดนมารก์ มปี ระชากรราว 5,602,628 ล้านคน ส่วนใหญ่มีเชือ้ สายเดนมารก์ ร่วมกับชาวพ้ืนเมืองของกรีนแลนด์และแฟโร ภาษาเดนมารก์ เปน็ ภาษาทางการของประเทศ โดยใชร้ ว่ มกบั ภาษากรีนแลนดแ์ ละภาษาแฟโรในกรีนแลนดแ์ ละหมู่เกาะแฟโรตามลาดับ ภาษาเยอรมันเป็นภาษาชนกลุ่ม น้อยที่ไดร้ ับความคมุ้ ครอง ใชใ้ นพ้นื ทต่ี ิดชายแดน ภาษาอังกฤษเป็นภาษาตา่ งประเทศทส่ี าคัญ ร้อยละ 83 ของ ประชากรเปน็ สมาชิกของครสิ ตจักรเอวาเจลคิ ัลลเู ธอรันแหง่ เดนมารก์ ซงึ่ เป็นศาสนาประจาชาติ

เศรษฐกิจ เดนมาร์กคอื หนง่ึ ในประเทศทใี่ ช้ระบบเศรษฐกิจแบบเสรนี ิยม นอกจากน้ยี งั เป็นรฐั สวสั ดกิ ารขนาด ใหญท่ มี่ สี วสั ดกิ ารแก่ประชาชนมากมาย อีกทงั้ ยงั ตดิ อันดบั ประเทศท่ีมรี ายได้เข้าประเทศในอันดบั ต้น ๆ ของ โลกอกี ด้วย ประสทิ ธภิ าพทางการตลาดของเดนมาร์กก็อยู่ในระดับสูง นอกจากนมี้ าตรฐานการอยอู่ าศัยของ เดนมารก์ ก็อยูส่ ูงกวา่ มาตรฐานเฉล่ียของยโุ รป[7][8] รวมทง้ั มกี ารคา้ ขายเสรจี านวนมากภายในประเทศ เดนมารก์ มีตัวเลขของผลิตภัณฑม์ วลรวมตอ่ ประชากรสงู กวา่ ประเทศในแถบยโุ รปท่วั ไป และสงู กว่า สหรฐั อเมรกิ าประมาณ 15 – 20 เปอร์เซ็น ท้งั นี้ยงั เป็นประเทศท่มี กี ารแข่งขนั ทางธรุ กิจสูงตามรายงานของการ ประชมุ เศรษฐกจิ โลกประจาปี พ.ศ. 2551 (World Economic Forum 2008), ไอเอ็มดี (IMD) และ หนังสอื พมิ พ์ ดิอีโคโนมิสต์ (The Economist)[9] และเดนมาร์กก็ยงั เปน็ สมาชิกของธนาคารโลก ตลาดแรงงาน ของเดนมารก์ เปน็ ตลาดที่มกี ารเปล่ยี นแปลงไปมาได้มากที่สุดในยโุ รปตามการจัดลาดับของโออีซีดี (OECD) ซงึ่ เป็นผลมาจากนโยบายสวสั ดิการของรฐั ทใี่ ห้ตลาดแรงงานทีย่ ดื หยุ่น ซง่ึ จะส่งผลใหต้ ลาดแรงงานในประเทศ สามารถวา่ จ้าง ไลอ่ อก หรืองานใหมไ่ ด้อยา่ งงา่ ยดาย ทาใหแ้ รงงานในประเทศไมต่ อ้ งกงั วลเรือ่ งตกงาน และยัง เปน็ ประเทศที่สามรถขายหรอื หาซ้ือสนิ ค้าได้อยา่ งง่ายดาย โดยส่ิงตา่ ง ๆ เหลา่ น้เี ป็นผลมาจากลทั ธิเสรนี ยิ มท่ี เปิดกวา้ งทางธุรกจิ มากมายในยุคทศวรรษที่ 1990 สกลุ เงินของเดนมารก์ คอื โครเนอเดนมาร์ก ซึง่ อตั รา แลกเปล่ยี นของสกุลเงินของเดนมาร์กถอื ว่ามัน่ คงโดยอยู่ราว ๆ 7.45 โครเนอตอ่ 1 ยโู ร และเมือ่ เร็ว ๆ นอี้ ัตรา แลกเปลี่ยนของโครเนอเดนมารก์ กับดอลลาร์สหรัฐ อย่ทู ี่ 5.75 โครเนอตอ่ 1 ดอลลาร์ สนิ คา้ สง่ ออกมากกวา่ 70 เปอร์เซน็ ตส์ ่งออกไปยังประเทศในสหภาพยโุ รป ส่วนสนิ คา้ สง่ ออกทส่ี าคัญคือ อาหารสตั ว์ ผลิตภณั ฑ์เคมี ผลิตภัณฑจ์ ากนม ช้ินส่วนเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ปลา เฟอรน์ ิเจอร์ หนงั สตั ว์ เคร่ืองจกั ร เน้อื สัตว์ นา้ มนั และกา๊ ซ ธรรมชาติ และน้าตาล ส่วนขนาดของเศรษฐกจิ ของเดนมาร์ก ใหญเ่ ป็นอันดับที่ 11 จาก 162 ประเทศ ถูก จดั ทาขน้ึ โดยหนังสือพมิ พ์ เดอะ วอลสตรีท เจอรน์ ับ

ดชั นีชี้วัดทางเศรษฐกิจของเดนมารก์ ผลติ ภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ 208.5 พนั ลา้ นดอลลารส์ หรฐั ฯ (GDP) 37,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ GDP รายบคุ คล อัตราการเจริญเติบโตของ GDP ร้อยละ -0.4 อัตราสว่ น GDP ต่อภาคการผลติ ภาคเกษตร รอ้ ยละ 1.3 ภาคอตุ สาหกรรม รอ้ ยละ 22.1 ภาคบรกิ าร รอ้ ยละ 76.6 สินคา้ นาเข้าทสี่ าคัญของเดนมาร์ก ได้แก่ เคร่อื งจักรกลและไฟฟ้า พลงั งานน้ามนั ยานพาหนะ เหลก็ และเหลก็ กลา้ พลาสตกิ เภสชั กรรม ปลาและผลติ ภณั ฑป์ ลาทะเล สินค้าส่งออกทส่ี าคญั คอื เคร่อื งจกั รกล เหล็กและเหล็กกล้า ยาและเภสชั กรรม อปุ กรณท์ างสายตา ผลิตภณั ฑ์จากนมและเนือ้ สตั ว์ ปลาและอาหาร ทะเล ประเทศคู่คา้ นาเข้าสาคญั ของเดนมารก์ คือ เยอรมนี รอ้ ยละ 20.8 สวเี ดน รอ้ ยละ 13.6 เนเธอร์แลนด์ รอ้ ยละ 7.1 อังกฤษ รอ้ ยละ 6.3 จีน รอ้ ยละ 6.3 และนอรเ์ วย์ รอ้ ยละ 5.8 สว่ นประเทศคคู่ ้าส่งออกสาคัญคือ เยอรมนี ร้อยละ 16.9 สวเี ดน รอ้ ยละ 13.2 เนเธอรแ์ ลนด์ รอ้ ยละ 4.9 สหรฐั อเมริกา ร้อยละ 5.5 ฝร่งั เศส ร้อย ละ 4.4 นอรเ์ วย์ ร้อยละ 5.7 และอังกฤษ ร้อยละ 9.9 เดนมาร์กเปน็ ตลาดส่งออกสาคญั อนั ดับท่ี 50 ของไทย ซงึ่ การส่งออกจากไทยมแี นวโนม้ ท่ีดแี ละมกี าร ขยายตวั อย่างตอ่ เนื่อง แตผ่ ลจากการที่ไทยประสบปญั หาอทุ กภัยในช่วงปลายปี 2554 และปัญหาวิกฤตหิ น้ี ยุโรป ทาใหก้ ารสง่ ออกเริ่มชะลอตวั และลดลง ทั้งนี้ ในรอบ 8 เดือนแรกของปี 2555 ปริมาณการคา้ ระหว่าง ไทยและเดนมาร์กมมี ลู คา่ รวมท้ังส้ิน 521 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ เป็นการส่งออกจากไทยไปยังเดนมาร์ก 323 ล้าน เหรยี ญสหรัฐฯ และไทยนาเขา้ จากเดนมารก์ มลู คา่ 197 ล้านเหรียญสหรฐั ฯ โดยสนิ ค้าส่งออกสาคัญจากไทยไป ยังเดนมารก์ คือ อญั มณแี ละเครอ่ื งประดบั แผงควบคมุ วงจรไฟฟ้า รองเท้าและชน้ิ ส่วน เสอื้ ผา้ เคร่ืองนงุ่ หม่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรปู เครือ่ งใชบ้ นโตะ๊ อาหารและครัวเรอื น สินคา้ ทีไ่ ทยนาเขา้ จากเดนมาร์กได้แก่ เคร่ืองจักรกลและไฟฟา้ และสว่ นประกอบ ผลติ ภณั ทย์ าและอุปกรณท์ างการแพทย์ เคมภี ัณฑ์ เป็นต้น

การศกึ ษา ระบบการศกึ ษาของเดนมาร์กเปน็ ระบบทจี่ ะจัดหาสถานศึกษาใหน้ กั ศึกษาทง้ั ระดับประถมศกึ ษา มัธยมศกึ ษา หรือในระดบั อุดมศกึ ษา ซึง่ นักศกึ ษาไม่จาเปน็ ตอ้ งหาสถานศึกษาเอง สว่ นเกณฑร์ ะยะเวลาใน การศึกษาน้ัน เดนมารก์ กาหนดไวอ้ ย่างต่า 10 ปี ทัง้ นีร้ วมถงึ โรงเรยี นเอกชนหรือการศึกษาทบ่ี ้านด้วย 99% ของนกั เรยี นมีการศกึ ษาระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษา 86% มีการศกึ ษาระดับมธั ยมศกึ ษา 46% ม่งุ ไปยงั การศึกษาใน ระดบั ทสี่ ูงกวา่ ซึง่ วทิ ยาลยั และมหาวทิ ยาลัยทุกแหง่ ในเดนมาร์กล้วนไม่มคี ่าใชจ้ า่ ย เดนมาร์กมโี อกาสทาง การศกึ ษามากมายรวมท้งั มกี ารศกึ ษาหลายชอ่ งทางใหศ้ ึกษาซึ่งรวมถงึ โรงเรียนเตรียมเขา้ อดุ มศกึ ษา (โรงเรียน สอนในระดบั ทสี่ งู กว่าระดับมัธยมศึกษาแต่ต่ากว่าระดบั อุดมศึกษา) ในเดนมาร์กมมี หาวทิ ยาลัยมากมาย แห่งท่ี เกา่ แก่และใหญ่ทสี่ ดุ คือ มหาวิทยาลยั โคเปนเฮเกนทก่ี ่อตง้ั ในปี ค.ศ. 1479

การคมนาคม ทางด้านการคมนาคมของเดนมาร์กที่โดดเด่นที่สุดกค็ อื สะพานโอเรซอนด์ ท่ีเชือ่ มทางหลวงยุโรปสาย อี 20 ระหวา่ งโคเปนเฮเกน, เดนมารก์ ไปยงั มาลโม, สวีเดน โดยเป็นสะพาน – อุโมงค์ มีทงั้ ทางสาหรบั รถยนต์ และทางรถไฟ และระบบสะพานเกรตเบลต์ท่เี ช่อื มระหวา่ งเกาะซแี ลนด์และเกาะฟเู นน ทางทะเลก็มีท่าเรือ โคเปเฮนเกน มาลโม ซึ่งกอ่ นการสร้างสะพานโอเรซอนด์ ทา่ เรือแห่งน้ีใช้เป็นเสน้ ทางหลักในการไปมาระหว่าง สวีเดนและเดนมาร์ก ซึง่ ปจั จบุ นั นี้ท่าเรือข้ามฝากระหว่างสองเมอื งนี้ได้ลดความสาคัญลงไปแลว้ เปน็ ผลมาจาก การสรา้ งสะพานโอเรซอนด์น่ันเอง ส่วนการคมนาคมทางรางของเดนมาร์กดาเนนิ การโดยการรถไฟแหง่ เดนมารก์ (Danish State Railways) สาหรบั ขบวนรถไฟโดยสาร สว่ นการเดนิ รถไฟบรรทุกสินคา้ ดาเนนิ การ โดยบริษทั แรลลอิ อน (Railion) การควบคมุ การจราจรทางรถไฟท้ังระบบควบคุมโดย บานด์ แดนมารก์ นอกจากน้ีในกรุงโคเปนเฮเกนเองก็มีระบบรถไฟฟา้ ใตด้ นิ ขนาดเล็กให้บรกิ ารและยังมบี รกิ ารรถไฟชานเมอื งดว้ ย สายการบนิ แหง่ ชาตขิ องเดนมารก์ คอื สายการบนิ สแกนดเิ นเวยี นแอร์ไลน์ซิสเตม็ ซ่งึ เปน็ สายการบนิ แห่งชาติ ร่วมกันของสามประเทศคือ นอรเ์ วย์, สวีเดน และเดนมารก์ สนามบนิ ทใ่ี หญ่ท่สี ดุ ของประเทศคอื สนามบนิ โคเปนเฮเกน และยงั เป็นสนามบินหลักทใ่ี หญ่ทสี่ ดุ ของสายการบินแห่งชาติ ทางทะเลมบี ริการเรอื เฟอร์ร่ี ระหว่างเกาะแฟโรกับกรุงโคเปนเฮเกนและประเทศเพื่อบ้านเช่น สวเี ดน, นอรเ์ วย์ และเยอรมนี เป็นต้น สว่ น รถยนตข์ องเดนมาร์กจากทมี่ รี ถจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) อยทู่ ั้งหมด 1,389,547 คัน เพ่มิ ข้ึนมาเปน็ 2,020,013 คัน ใน พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) แตแ่ ม้กระนน้ั ภาษขี องการจดทะเบยี นรถยนต์กย็ งั คงสูง ลิ่วอยู่เชน่ เดมิ ทป่ี ระมาณ 180% และมาตรฐานรถยนต์ของเดนมาร์กได้รับการยอมรบั วา่ เป็นมติ รกบั สิ่งแวดลอ้ มสูงดว้ ย

วฒั นธรรม ฮันส์ คริสเตยี น แอนเดอร์เซน เป็นทีร่ จู้ ักทว่ั ไปนะฐานะนักแตง่ นทิ านอนั โดง่ ดงั ของเดนมาร์ก จาก นทิ านหลาย ๆ เรอ่ื งของเขา เชน่ พระราชากับชุดลอ่ งหน (The Emperor’s New Clothes), เงอื กนอ้ ยผจญ ภยั (The Little Mermaid) และ ลูกเป็ดข้เี หร่ (The Ugly Duckling) ฯลฯ จากน้ียงั มี นกั เขียนรางวัลโนเบล คาเรน บลกิ เซน, เฮนรกิ พอนทอปพแิ ดน นักฟิสกิ สร์ างวัลโนเบล นีลส์ บอร์ นกั วาดการ์ตูนล้อเลียน วิกเตอร์ บอรจ์ และนกั ปรัชญา ซอร์เรน เคยี ร์เกการด์ ท้งั หมดลว้ นสร้างชอ่ื เสียงใหแ้ ก่ตนเองและประเทศเดนมารก์ ใน ระดับตา่ งประเทศท้งั สน้ิ ในกรงุ โคเปนเฮเกนล้วนมีสถานท่ที ่สี วยงามและนา่ สนใจมากมายเชน่ สวนทโิ ว ลี พระราชวังอาเมเลียนเบิร์ก (ทพ่ี านักของพระราชวงศเ์ ดนมาร์ก) พระราชวังครสิ เตยี นเบิร์ก มหาวิหาร โคเปนเฮเกน ปราสาทโรเซนเบริ ์ก โรงละครโอเปร่า โบสถเ์ ฟดเดอร์รกิ พพิ ิธภัณฑโ์ ทรวารล์ ดเ์ ซน และรูป แกะสลักนางเงือก ฯลฯ สว่ นนครทีใ่ หญ่อนั ดบั สองของประเทศคือ เมอื งอาร์เธอร์ ซงึ่ เปน็ เมืองเก่าแกท่ ีก่ อ่ ตัง้ ขน้ึ ใน และเปน็ เมอื งทีเ่ ก่าแกท่ ี่สดุ ของประเทศดว้ ย ซงึ่ เป็นที่ต้ังของมหาวิหารทใ่ี หญท่ ่สี ดุ ของประเทศและใหญ่ที่สุด เป็นอนั ดบั ท่ี 2 ของภมู ิภาคยุโรปเหนอื เดนมาร์กยังเปน็ ประเทศผ้นู าทางดา้ นการเปลย่ี นแปลงทางสังคม เหมอื นกบั ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียอืน่ ๆ เชน่ การออกกฎหมายให้สอ่ื ลามกเปน็ ส่ิงถกู กฎหมายหรอื การ ออกกฎหมายให้ผู้รักร่วมเพศสามารถสมรสกันได้อยา่ งถูกตอ้ งตามกฎหมาย ภาษา ชาวเดนมารก์ สว่ นใหญใ่ ช้ภาษาเดนมารก์ เปน็ ภาษาแม่ ซึ่งเปน็ ภาษาในกลุม่ ภาษาเจอรแ์ มนิกเหนือ (หรอื ภาษาสแกนดิเนเวีย) ซึง่ เป็นกล่มุ ยอ่ ยของกลมุ่ ภาษาเจอร์แมนิก สาขาของภาษาตระกูลอนิ โด- ยโู รเปยี น ภาษาเดนมาร์กเป็นภาษาทางการภาษาเดยี วของเดนมาร์ก และเปน็ ภาษาทางการหนงึ่ ในสองภาษา ของเกาะกรนี แลนด์และหมเู่ กาะแฟโร ซ่ึงมฐี านะเปน็ ดนิ แดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก นอกจากนีภ้ าษา เดนมาร์กยงั พูดกนั ในหมชู่ นกลุม่ นอ้ ยทางตอนเหนอื ของประเทศเยอรมนี และในประเทศไอซแ์ ลนด์ ภาษา เดนมาร์กเป็นภาษาต่างประเทศภาษาทส่ี อง (รองจากภาษาอังกฤษ) ทม่ี ีการเรียนการสอนกนั ใน สถาบันการศกึ ษาแพรห่ ลายทสี่ ุด

บรรณานกุ รม http://globthailand.com/market/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%A1 %E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81/ https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80% E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B 8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook