Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore A5B8B20B-517E-492D-BD29-4BA28D965B62

A5B8B20B-517E-492D-BD29-4BA28D965B62

Published by patinyameeboon, 2021-05-22 19:48:38

Description: A5B8B20B-517E-492D-BD29-4BA28D965B62

Search

Read the Text Version

รอบรูแ้ มลงศัตรูในบา้ นเรอื น ปลวกเปนแมลงศัตรูทสี าํ คญั ตอ่ โครงสร้างของอาคารสิง ก่อสร้างภายในและเปนแมลงศตั รูทสี ําคญั ทางปาไมด้ ว้ ย ความเสียหายที เกดิ จากปลวกนบั เปนมลู คา่ มหาศาล ใน แต่ละปปลวกมีชวี ตความเปนอยู่แบบสงั คม ซึงหมายถงึ มี การแบง่ แยกหนา้ ทกี ันในการทํางานภายในรังเปนวรรณะ ตา่ งๆ ปลวกงาน ทําหนา้ ทใี นการสร้างและซอ่ มแซมรัง หาอาหารและปอน อาหารให้แก่ปลวกวรรณะอืนตลอดจนดู ลไขแ่ ละตัวอ่อน เปนปลวกทเี ปนหมนั ลาํ ตวั มสี ขี าวครมหัวสนี ําตาลไม่มีปก ปลวกทหาร ทําหน้าทีในการปองกนั อันตรายของรังจากศตั รูลาํ ตัวมีสี เขม้ กวา่ ปลวกงาน ไมม่ ปี ก ส่วนหัวและกรามจะขยายใหญ่ มากกวา่ ส่วนอนื จนไมส่ ามารถกินอาหารดว้ ยตวั เองไดต้ ้อง อาศยั ปลวกงานเปนผู้ปอน้ ให้ ปลวกสบื พันธุ์ เปนปลวกชนิดมปี ก ปลวกพวกนีคอื ทเี ราเรยกกนั วา่ “แมลงเมา่ ” เมอื ถงึ ฤดูขยายพนั ธแ์ุ มลงเมา่ จะบนิ ออกจาก รังเพือจับ คแู่ ละหาทีในการสร้างรังใหม่ หลงั จากทีไข่ชุด แรกฟกออกเปนตัวออ่ นแลว้ แมลงเม่าเพศเมยี จะไมท่ าํ หนา้ ทีอืนนอกจากวางไข่เพยี งอยา่ งเดยี ว และกลายเปน นางพญาประจํารัง ส่วนทอ้ งจะคอ่ ยๆขยายใหญข่ ึน จน นางพญาเกอื บจะเคลือนทีไม่ได้ การปองกันกําจัดปลวก ใชส้ ารเคมที มี ีฤทธติ กคา้ งนาน โดรอบแนวคานทงั ภายนอกและภายใน แตล่ ะจุดหา่ งกันประมาณ 1 เมตร แลว้ จงึ อัดนํายาลงสดู่ นิ หลงั จากนนั จงึ ใช้กาวและวสั ดุที เหมาะสมอดุ รูทีเจาะไว้ นอกจากนนั ยงั ต้องอัดนํายาตาม แนววงกบประตู ขอบบวั และตู้บรเวณหอ้ งครัว ใตอ้ า่ งลา้ ง จาน และฉีดพ้นสารเคมีในส่วนโครงหลังคาทีเปนไม้ นางสาวสริ ยากร ชาวนา 620810350

รอบรูแ้ มลงศัตรูในบา้ นเรอื น มด เปนแมลงในวงศ์ Formicidae อนั ดับ Hymenoptera มดมีการสร้างรังเปนอาณาจกั รขนาด ใหญ่ บางรังมีจํานวนประชากรมากถงึ ล้านตวั มีการแบง่ วรรณะกนั ทาํ หน้าทีคอื วรรณะมดงาน เปนมดเพศเมยี เปนหมัน ทาํ หน้าทีหาอาหาร สร้างและซอ่ มแซมรัง ปกปองรังจากศัตรู ดูแลตวั อ่อน และงานอนื ๆ ทวั ไป เปนวรรณะทพี บได้มากทสี ดุ วรรณะสบื พนั ธุ์ เปนมด เพศผู้ และราชินี เพศเมยี มีหนา้ ทีสืบพันธุ์ เนืองจากมด เปนสัตวใ์ นวงศ์ Formicidae จงึ สามารถผลิตกรดมด หรอกรดฟอร์มิกไดเ้ ปนลักษณะเฉพาะของสัตว์ในวงศ์นี มดจะบุกรุกเขา้ มาในอาคารเพอื หาอาหาร เช่นของหวาน และเศษอาหาร จากครัว ห้องรับประทานอาหาร รวมทัง ทเี ก็บอาหาร และถังขยะ การปองกนั กําจดั มด 1. ใช้สารเคมฉี ดี พ่นบรเวณทางเดินของมด 2. ใชส้ ารออกฤทธิช้าผสมเหยือเพอื ล่อมด แล้วนําไปวาง ใกลร้ ังมดหรอบรเวณทมี ดเดนิ ผา่ น มดจะพากนั มาขน เหยือกลบั ไปทีรังเพือใชเ้ ปนอาหารหลงั จากกินเหยือแลว้ ภายใน 1-3 วนั มดจะตายกันหมดรัง นางสาวสริ ยากร ชาวนา 620810350

รอบรูแ้ มลงศัตรูในบา้ นเรอื น แมลงสาบ เปนแมลงทอี ยูใ่ นอนั ดบั Blattodea หรอ Blattaria จัดเปนแมลงทมี วี งจรชีวตไม่สมบูรณ์ คอื ไม่ เปนตัวหนอนและดกั แด้ ปจจบุ นั เปนแมลงทีพบกระจายไป แล้วทัวโลก โดยตดิ ไปกบั ยานพาหนะตา่ งๆพบไดถ้ ึงขนาด บนเครองบนิ โดยสารถือเปนสตั วท์ เี ปนพาหะนาํ โรค แมลงสาบอเมรกัน มีแหลง่ กําเนิดในทวปแอฟรกา เปนแมลงสาบทมี ลี ําตวั ขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 30–40 มลิ ลิเมตร มสี ีนําตาลแดง ปกยาวทังตวั ผแู้ ละตวั เมีย บนิ เก่ง ชอบออกหากินในเวลากลางคนื กลางวนั จะนอนพกั หรอหลบซ่อนตัวตามซอกมุม ใต้ตู้ ชนั เก็บของ ในทีมืด อับ จะพบมากตามโกดงั เกบ็ สนิ คา้ หรอบ้านเรอนทัวไป การปองกันกําจดั แมลงสาบ จะเน้นทีหลกั การสขุ าภิบาลสิงแวดลอ้ ม โดยการรักษา ความสะอาด การกาํ จัดเศษอาหารและเก็บอาหารในที มิดชดิ รวมทังการกําจัดขยะมลู ฝอย และการทําลายแหลง่ เพาะพนั ธ์ุ เชน่ ตามรอยแตกและซอกมุมต่างๆ ชอ่ งใต้ ประตู ช่องระบายอากาศ ฝาท่อนาํ นางสาวสิรยากร ชาวนา 620810350

รอบรูแ้ มลงศัตรูในบา้ นเรอื น ยุงเปนศตั รูร้ายทสี ุดชนิดหนงึ ของมนษุ ย์ เนืองจากเปน พาหะนําเชือโรคทสี าํ คญั หลายชนดิ เชน่ ไขม้ าเลเรย ไข้เหลือง ไข้เลอื ดออก และโรคเทา้ ชา้ ง ยงุ ก้นปล่อง เปนพาหะนําเชอื ไขม้ าเลเรย ชอบวางไขใ่ นแห ลง่ นําสะอาด เช่น ลําธาร แอ่งนาํ สะอาด ในปา หรอตาม ชานเมือง จงึ พบยงุ กน้ ปลอ่ งนอ้ ยมากตามเมอื งใหญ่ เวลา เกาะพักลาํ ตวั ของยุงกน้ ปล่องจะเปนมุมประมาณ 45 องศา กับพืน แต่ขณะดูดกนิ เลอื ดจากคนและสัตว์ลาํ ตัวจะอย่ใู น แนวดงิ ประมาณ 90 องศา ยงุ ลาย เปนพาหะนําเชือไขเ้ ลอื ดออก และไขเ้ หลือง ชอบวาง ไข่ในนาํ สะอาดทขี ังอยใู่ นภาชนะ เชน่ ถ้วยชามแตก ตมุ่ นาํ แต่บางชนิด อาจพบลูกนาํ ในนาํ ทขี งั ตามโพรงไม้ เมอื เปนตัว เต็มวยั จะมขี นบนขาและท้อง เปนสีดาํ สลบั ขาว จงึ ทําใหเ้ หน็ เปนลายดํา-ขาว ท้องปล้องสุดท้ายแหลมหยกั ยงุ นาํ ครํา เปนพาหะนาํ โรคเท้าช้าง ชอบวางไขใ่ นนําเนา่ เพราะมีสารอนิ ทรย์ในปรมาณสงู ซึงเปนแหล่งอาหารที สาํ คัญของลูกนํา ท้องปล้องสดุ ท้ายของตวั เต็มวยั ปลายมน ไม่มสี สี ันพิเศษ ดูดกนิ เลอื ดจากสัตวไ์ ดห้ ลายชนิด แตส่ ่วน ใหญ่ชอบพวกสัตว์ปก หากินเวลากลางคืน ตอนกลางวนั อาจดูดกินเลือดไดบ้ า้ ง ยงุ เหลอื ง เปนพาหะนาํ โรคเทา้ ช้างและไขเ้ หลอื ง ชอบวางไข่ ตามแหลง่ นาํ ทมี พี ชื นาํ เช่น จอกหรอผักตบขนึ ปกคลุมอยู่ ตัวเต็มวยั มสี ีนําตาลหรอดาํ เปนยุงทีมีการแพร่กระจาย ทวั ไป การปองกันกาํ จดั ยุง 1. การเลยี งปลาหางนกยงู ในแหลง่ นาํ จะเปนตัวชว่ ยกนิ ลูก นาํ ยุงให้เหลือน้อยลง ปลาชนิดนจี ะขยายพนั ธ์ุไดด้ แี ละทน ต่อสภาวะเน่าเสยี ของนาํ ไดด้ ีพอสมควร 2. การฉดี พน่ สารเคมีเพือฆา่ ยุงนนั ควรจะกระทาํ ดว้ ยความ ระมัดระวงั เปนอยา่ งยงิ เพราะสารฆา่ แมลงทุกชนิดล้วนมี พิษต่อคนทงั สิน หากใช้โดยขาดความเอาใจใส่อาจเปน อนั ตรายได้ นางสาวสริ ยากร ชาวนา 620810350

รอบรูม้ ลงศัตรูในบา้ นเรอื น แมลงวนั เปน แมลง ใน อันดบั Diptera มบี น อกปลอ้ งที สอง และ ตุ่มปกหนึงคู่ ซงึ ลดรูปจากปกหลัง บนอกปลอ้ งที สาม แมลงวนั บางชนิดไมม่ ปี ก โดยเฉพาะใน superfamily Hippoboscoidea แมลงวนั มอี ย่มู ากมายและพบทัวไปทกุ หนทุกแหง่ เปนแมลง ขนาดเลก็ ถึงขนาดกลาง มีปกเพยี ง 1 คู่ เปนแมลงทมี คี วาม สาํ คัญทางเศรษฐกจิ มาก นอกจากจะสร้างความรําคาญโดย การตอมรบกวนแลว้ แมลงวนั ยงั เปนตวั นาํ โรคทางเดิน อาหารทีสําคัญ โดยทแี มลงวันไมไ่ ดม้ ีบทบาทในวงชพี ของ เชือโรค แต่เปนเพียงการนาํ พาเชือโรคจากแหล่งโรคไปสู่ มนษุ ย์และสตั ว์ แมลงวนั บา้ น เปนแมลงทีพบทวั ไปทกุ แหง่ ของโลก ไม่มสี ีสนั สะดดุ ตา ลําตวั มีสีเทาอ่อนหรอเทาเขม้ ขนาดประมาณ 6-9 มม. มีแถบสเี ขม้ ตามยาว 4 แถบบนด้านหลงั ของส่วนอกตวั เตม็ วยั ของแมลงวนั บ้านไม่กัดคนแตน่ ับเปนพาหะทีสําคัญ ของโรคทอ้ งร่วง อหิวาตกโรค ไข้รากสาดนอ้ ย (ไทฟอยด์) รวมทงั โรคแอนแทรกซด์ ว้ ย แมลงวนั หวั เขียว เปนแมลงวันทมี ีขนาดเท่าหรอใหญ่กวา่ แมลง วนั ธรรมดาเลก็ นอ้ ย ถึงแม้จะมชี อื ว่าแมลงวนั หัวเขียว แตบ่ นส่วนหวั จะ เห็นตารวมสีแดงได้ชดั เจน ลําตัวมสี ีเขยี ว หรอนําเงนิ แวววาวคลา้ ยโลหะ บางชนดิ ชอบวางไข่ตามแผล หรอปลายจมกู ของคน และสตั ว์ ตัวหนอนทฟี กออกมาจาก ไขจ่ ะกินและชอนไชเขา้ ไปในเนอื ทาํ ให้เกดิ เปนเนอื ร้าย นนู หรอบวมขึนได้ การปองกนั กําจัดแมลงวนั อาศยั หลักการเดียวกบั แมลงในเคหสถานชนดิ อนื คือ การ รักษาความสะอาดของชุมชนเปนหลัก โดยการสร้างส้วมให้ ถกู สุขลกั ษณะ การกําจดั ขยะมูลฝอย รวมทังซากสตั วต์ ่างๆ โดยการเผาหรอฝงดินใหล้ ึกพอควร จะช่วยลดแหล่งเพาะ พนั ธุ์ของแมลงวนั ลง การฉดี พ่นสารเคมลี งบนพืนดิน บรเวณทีวางขยะเปนครังคราว จะชว่ ยทําลายหนอน แมลงวนั ทีกําลังจะเขา้ ดักแด้ได้ นางสาวสริ ยากร ชาวนา 620810350

รอบรูแ้ มลงศัตรูในบา้ นเรอื น หมัดเปนตัวเบยี นภายนอกของนกและสตั ว์เลอื ดอุน่ หลาย ชนดิ ชนดิ ทีพบกนั มากไดแ้ ก่ หมดั สุนัข หมัดแมว หมดั หนู และหมัดคน มีขนาดเลก็ ตวั ยาวประมาณ 1.5-4 มม. ไมม่ ปี ก ตวั ลีบแบนทางดา้ นขา้ ง จงึ ทาํ ให้สามารถเคลือน ตวั แทรกไปตามเสน้ ขนของสตั วอ์ าศัยได้ดี กระโดดไดส้ ูง และไกลประมาณ 30 ซม. ตวั เตม็ วยั ของหมัดจะอาศัยดูด เลือดนก คนหรอสัตวเ์ ลียงลูกด้วยนมชนิดอนื เปนอาหาร บางชนดิ ดดู เลือดสตั ว์เพียงชนิดเดยี วแตส่ ่วนใหญ่ไม่ เจาะจงชนดิ ของสัตว์อาศัยมากนกั วงจรชีวตของหมดั จะ ใช้เวลาประมาณ 3 สปั ดาหต์ ัวเต็มวยั จะผสมพันธุ์ต่อเมอื ได้กินเลอื ดแล้วหลงั จากนันตัวเมยี จึงวางไข่ การปองกันกาํ จัดหมัด จะต้องกระทําทงั ในหนูและสัตว์เลยี งโดยการกาํ จัดหนูใน บา้ นเรอนทพี กั อาศยั ด้วยการปองกันไมใ่ หห้ นูเข้าส่อู าคาร ปดหรออดุ ทางเขา้ ออกของหนูดว้ ยวสั ดุทีปองกนั หนูกัด แทะเชน่ คอนกรตหรอตะแกรงโลหะ การเก็บขยะมลู ฝอย ในภาชนะทีมิดชิด และกําจัดขยะอย่าให้เหลอื ค้างไวน้ านๆ เพือขจดั แหลง่ อาหารของหนู ดูแลทําความสะอาด รางระ บายนําและท่อนาํ ทิงอยู่เสมอ เพือไม่ให้เปนชอ่ งทางเดิน หรอทํารังพักอาศัย นางสาวสิรยากร ชาวนา 620810350

รอบรูแ้ มลงศัตรูในบา้ นเรอื น เรอด เปนแมลงขาปลอ้ งทเี ปนปรสิต อยใู่ น Phylum Arthropoda, Class Insecta มชี อื ทางวทยาศาสตร์ วา่ Cimex lectularius เรอดมอี วยั วะคล้ายเกลด็ 1 คู่ อยู่ดา้ นหลงั ของอกปลอ้ ง สุดท้าย หวั สนั หลบอยู่ในอกปลอ้ งแรกซงึ กวา้ ง เรอดจะมี รูปร่างเปนรูปไข่ ตัวแบน ปากเปนแบบเจาะ-ดูด (piercing-sucking type) มีลักษณะโคง้ งอและ สามารถพบั เก็บภายในร่องด้านหนา้ ส่วนหัวได้ ขาของ เรอดเปนแบบขาเกยี ว (clinging leg) ซงึ จะมลี กั ษณะ เดน่ คือ ปลอ้ ง tibia เปนง่าม และขาปลอ้ งสดุ ท้าย คือ claw จะยาวโค้งคล้ายตะขอ นอกจากการกดั ซึงกอ่ ให้ เกดิ ปญหาแล้ว ยงั ไม่ปรากฏวา่ เรอดนําโรคมาสูม่ นุษย์ รอยกัดของเรอดทําใหค้ นั มาก ทงั นเี นืองมาจากนําลาย ของเรอด และอาการคันนนั จะคันอย่หู ลายวนั บางคนก็มี อาการแพม้ าก เหตุทีเรอดไม่นําโรคอาจเปนเพราะลกั ษณะโครงสร้างและ นสิ ยั ของเรอด คอื เรอดไม่สํารอกเอาเลือดทมี นั ดูดเขา้ ไป แลว้ ออกมา และขณะทเี จาะ-ดดู เลอื ดนัน ตัวเรอดจะไม่ ถา่ ยมลู เหมอื นกับตัวมวน การปองกนั และการกาํ จดั เรอด แก้ไข 1. ใช้ สารเดลตาเมทรน (deltamethrin) หรอ ไซเปอร์ เมทรน (cypermethrin) ชนิดนําฉีดตามร่องและรอย แตกของพืนบ้าน พนื เตยี ง 2.เขียขยะฝุนละอองตามร่องและรอยแตกของพนื บา้ น ออกให้หมด 3. ทําความสะอาดหรอนําเครองนอนออกผงึ แดดบ่อยๆ นางสาวสิรยากร ชาวนา 620810350


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook