POLITICAL ASEAN DEVELOPMENT การพฒั นา ในกล่มุ ประเทศ อาเซยี น SOCIETY ENVIROMENT ECONOMY
ด้านการเมอื ง เมยี นมาร์ นบั แต่ มนิ อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสดุ ของกองทัพพม่า ‘ตัดมาดอว์’ ทําการรัฐประหารยดึ อํานาจรัฐบาลพลเรือนทมี าจากการ เลือกตังเมือวันที 1 กุมภาพันธ์ 2021 ก็ได้พาประเทศทีกําลังจะมอี นาคตทดี ีกลับเขา้ สหู่ ุบเหวแหง่ หายนะอีกครัง หนึง เหมือนทีเคยเปนมาแล้วระหว่างป 1962-2010 และดเู หมือนว่าจะยงั ไม่มีหนทางใดทีจะฟนฟูความเสียหาย เหล่านันให้กลับดีขึนมาได้อีกเลย การรัฐประหารของ มิน อ่อง หล่าย ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชนเปนจาํ นวนมาก ทังทเี ปนชนชาติพม่าและ กลุ่มชาติพันธุ์ เรมิ ต้นการต่อสู้โดยสันติวิธี รวมตัวกันประท้วงในรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงการจบั อาวุธขนึ ต่อสู้ ประสาน สมทบกับกองกําลังของกลุ่มชาติพันธุ์ทีเคยต่อสู้หาหันกับตัดมาดอว์มาตลอดประวัติศาสตรส์ มยั ใหมข่ องพมา่ สถานการณจ์ ะเปนอยา่ งไรต่อ ? ล่าสุด กองทัพอ้างว่าจะต้องใช้เวลามากกว่านีเพือสร้างเสถียรภาพในประเทศ โดยในการแถลงผ่านสือของทางการ พล.อ.อาวุโส มนิ อ่อง หล่าย หัวหน้ารัฐบาลทหารเมียนมา ได้กล่าวโทษว่าปญหาความไม่สงบทเี กิดขึนมาจากกล่มุ ติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทีเขาเรียกว่า \"ผู้ก่อการร้าย\" และ \"รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ\" ปญหาความไมส่ งบนีรวมทัง การระบาดของโควิด-19 ทําให้ไม่สามารถดําเนินแผนการสรา้ งสันติภาพตาม \"ฉันทามติ 5 ขอ้ \" ทเี กิดขึนในที ประชุมสุดยอดผนู้ ําอาเซียนวาระพิเศษเพือยุติความรุนแรงในเมียนมาหลังเกิดเหตุรัฐประหาร ซงึ รวมถึงการยตุ ิ ความรุนแรง และการเจรจากับฝายทเี กียวข้องเพือนาํ ไปสู่สันติภาพในเมียนมา
ด้านการเมอื ง เมยี นมาร์ สาํ หรับสถานการณ์ล่าสุด ทัวโลกออกมาต่อต้านการกระทาํ ของทหารเมียนมา โดยทาํ เนียบขาว ของสหรัฐฯ รายงานว่า “สหรัฐฯ ต่อต้านความพยายามใดๆก็ตาม ทีจะเปลียนแปลงผลการเลือกตัง และขัดขวาง ประชาธิปไตยในเมียนมา” ฝงออสเตรเลีย รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ มาริส เพย์น กล่าวว่า “กองทัพต้องเคารพกฎหมาย และแก้ไข ปญหาด้วยกรอบของกฎหมาย รวมถึงต้องปล่อยตัวผู้นาํ ทีจบั กุมตัวมาโดยทันที” ส่วนกระทรวงต่างประเทศของ อินเดียแถลงการณ์ว่า “อินเดียสนับสนุนการเปลียนผ่านเปนประชาธิปไตยของเมียนมามาโดยตลอด และ เหตุการณ์ในครังนีเปนเรืองน่ากังวลใจมาก” สถานการณ์ล่าสุดต้องติดตามกันต่อไปว่าด้วยแรงกดดันจากนานาชาติ จะทาํ ให้กองทัพเมียนมามีปฏิกริยาใดๆ หรือไม่ ขณะทีเรืองความปลอดภัยของอองซาน ซูจี ตอนนียังเปนคําถามอยู่ เพราะยังไม่มีใครรู้เลยว่า เธอเปน ตายร้ายดีอย่างไรในเวลานี นักการทูตระดับอาวุโสของอังกฤษเปดเผยกับผู้สือข่าวว่า ผลการก่อรัฐประหารส่งผลให้สถานการณ์ในเมียนมาไม่ อาจกลับไปเปนเหมือนเดิมได้ โดยนายพลมิน อ่อง หล่าย จะหาทางขัดขวางนางอองซาน ซูจี ผู้นาํ ฝาย ประชาธิปไตย เพือสถาปนาตนเองขึนเปนประธานาธิบดี นอกจากนี เจา้ หน้าทีการทูตของอังกฤษยังกล่าวถึงอีกหลายประเด็น รวมถึงความเสียงทีจะนาํ ไปสู่การประท้วง ต่อต้านรัฐประหารจนถึงขันเสียเลือดเสียเนือ หลังเมือวันเสาร์ทีผ่านมา ประชาชนชาวเมียนนับหมืนคนมารวมตัว กันในเมืองย่างกุ้ง เพือเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจี
ด้านการเมือง เมยี นมาร์ นกั การทตู ระดับอาวโุ สของอังกฤษเปดเผยกับผสู้ อื ขา่ วว่า ผลการก่อรฐั ประหารสง่ ผลใหส้ ถานการณใ์ นเมยี นมาไมอ่ าจ กลับไปเปนเหมอื นเดิมได้ โดยนายพลมนิ อ่อง หล่าย จะหาทางขดั ขวางนางอองซาน ซจู ี ผนู้ าํ ฝายประชาธิปไตย เพอื สถาปนาตนเองขนึ เปนประธานาธิบดี นอกจากนี เจา้ หนา้ ทกี ารทตู ของอังกฤษยงั กล่าวถึงอีกหลายประเด็น รวมถึงความเสยี งทจี ะนาํ ไปสกู่ ารประทว้ งต่อ ต้านรฐั ประหารจนถึงขนั เสยี เลือดเสยี เนอื หลังเมอื วันเสารท์ ผี า่ นมา ประชาชนชาวเมยี นนบั หมนื คนมารวมตัวกันใน เมอื งยา่ งก้งุ เพอื เรยี กรอ้ งใหป้ ล่อยตัวนางซจู ี สภา SPDC ได้ประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหม่ ในป 2551 และกําหนดใหม้ กี ารเลือกตังทวั ไปใน พ.ศ. 2553 แต่พรรค ฝายค้าน NLD ของนางอองซาน ซจู ี ไมเ่ หน็ ด้วยกับรฐั ธรรมนญู ทยี งั มเี นอื หาไมเ่ ปนประชาธิปไตย ทางพรรคจงึ ประทว้ ง โดยไมเ่ ขา้ รว่ มจดทะเบยี นตังพรรคการเมอื งและดําเนนิ กิจกรรมทางการเมอื งด้วย ในขณะทนี ายพลเต็งเสง่ ลาออกจากราชการทหารแล้วตังพรรคการเมอื งชอื “พรรคสหสามคั คีและการพฒั นา” (Union Solidarity and Development Party : USDP) เพอื สง่ สมาชกิ ลงสมคั รเลือกตังทวั ไป และในปเดียวกันนนั เองได้มกี ารประกาศเปลียน ชอื ประเทศเปน “สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมาร”์ (The Republic of Union of Myanmar) ตามประกาศใน รฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหมข่ องพมา่ นนั เอง
ด้านเศรษฐกิจ สถานการณเ์ ศรษฐกิจของเมยี นมาร์ - ธนาคารโลกชีสถานการณ์ความขัดแย้งในการเข้ายึดครองอํานาจนนั ทําใหเ้ ศรษฐกิจเมยี นมารข์ ยายตัว เพียง 3% ในปทผี า่ นมาและมแี นวโน้มทีจะเติบโตในระดับเดียวกันในป 2566 ซึงห่างไกลจากระดับทเี คย เปนอยู่ก่อนทีจะเกิดรัฐประหารในปพ.ศ. 2564 - หน่วยงานด้านการพัฒนาระดับโลกประเมนิ ว่าระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเมยี นมารย์ งั คงตากว่า ระดับทเี คยเปนมาก่อนทจี ะเกิดการระบาดของโควิด-19และการยึดอํานาจของกองทพั มากกว่า10%รวม ทังประชากรกว่า40%มีรายได้ตากว่าเส้นแบ่งความยากจนทาํ ให้เกิดอัตราการว่างงานมากขึน เกิดภาวะคน เมียนมาร์ไหลออกจากประเทศ ซึงสถานการณ์ทังหมดเปนผลจากการทํารัฐประหารใน2ปทผี ่านมา
การพฒั นาเศรษฐกิจได้รเิ รม่ จากการเปนระบบตลาดเสรี ดา้ นเศรษฐกจิ ป 2429-2491 ในยคุ อาณานคิ มของสหราชอาณาจกั รมาเปนระบบเศรษฐกิจแบบผสม ป 2505-2531 เปนระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนยิ ม ป 2531-ปจจบุ นั หลังจากการเปลียนแปลงทางการเมอื ง SPDC กําหนดใหใ้ ชร้ ะบบเศรษฐกิจ แบบกลไกตลาดและปฏิรปู มาตราการต่างๆเพอื แก้ไขปญหาสภาพเศรษฐกิจที ตกตารวมถึงสรา้ งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ก่อนทจี ะกําหนดแผน พฒั นาเศรษฐกิจได้มนี โยบายเรง่ พฒั นาโครงสรา้ งสาธารณปู โภคพนื ฐาน ภายในประเทศเพอื รองรบั การพฒั นาเศรษฐกิจและการลงทนุ จากต่างประเทศ และเนน้ ความรว่ มมอื กับประเทศเพอื นบา้ นทมี ชี ายแดนติดต่อกันได้แก่ จนี ลาว และไทย เพอื รองรบั การเจรญิ เติบโตภาคเกษตรกรรมและภาคบรกิ ารหรอื การ ทอ่ งเทยี ว อยา่ งไรก็ตามแผนพฒั นาเศรษฐกิจในอดีตจะมงุ่ เนน้ การพฒั นาการเกษตรและ อตุ สาหกรรมภายใต้การปกครองของ SPDC ในป 2532-2534 เศรษฐกิจเรมิ มกี ารขยบั ตัวดีขนึ เล็กนอ้ ยหลังจากติดลบกันต่อเนอื งยาว 3 ป แผนพฒั นาฉบบั ท1ี (2535-2538) GDPเพมิ อยทู่ 7ี .5% แผนพฒั นาฉบบั ท2ี (2539-2543) GDPเพมิ อยทู่ 8ี .5% แผนพฒั นาฉบบั ท3ี (2544-2548) GDPเพมิ อยทู่ 1ี 0.5% แผนพฒั นาฉบบั ท1ี (2549-2553) GDPเพมิ อยทู่ 8ี % รฐั บาลเมยี นมารไ์ ด้ดําเนนิ นโยบายเศรษฐกิจเสรี โดยใหเ้ อกชนมสี ว่ นรว่ มในการ ผลิตรวมทงั เปดประเทศใหม้ กี ารค้าเพมิ มากขนึ
ดา้ นเศรษฐกจิ นโยบายการค้า สง่ เสรมิ การเพมิ ผลผลิตทางการเกษตร โดยการเพมิ พนื ทกี ารเพาะปลกู ทาํ ใหผ้ ลผลิต 1 และการสง่ ออกของพชื เศรษฐกิจบางชนดิ เพมิ ขนึ เชน่ อ้อย ดอกทานตะวัน แต่นโยบาย ดังกล่าวยงั ไมส่ ามารถดําเนนิ การได้อยา่ งเต็มทเี นอื งจากรฐั บาลเมยี นมารย์ งั คงควบคมุ ราคาพชื ทางเศรษฐกิจหลัก เชน่ อ้อยและขา้ วอยู่ 2 สง่ เสรมิ การผลิตเพอื ทดแทนการนาํ เขา้ เชน่ นามนั และกระดาษ เพอื ลดการขาดดลุ ทางการค้าและรกั ษาเงนิ ทนุ สาํ รองระหว่างประเทศ ขยายภาคอตุ สาหกรรมการผลิตใหม้ คี วามหลากหลายมากขนึ โดยรฐั บาลมกี ารสง่ เสรมิ 3 รฐั วิสาหกิจในการผลิตสนิ ค้า เชน่ เครอื งจกั ร อปุ กรณส์ อื สาร สงิ ทอ รวมทงั ยานพาหนะ แต่รฐั บาลไมไ่ ด้ใหก้ ารสนบั สนนุ ในด้านนตี ่อภาคเอกชนหรอื นกั ลงทนุ ต่างชาติ
ด้านสงั คมของประเทศเมยี นมาร์ เกษตรกรรมถือวา่ เปนอาชพี หลักของชาวเมยี นมาร์ เขตเกษตรกรรมคือบรเิ วณดนิ ดอนสามเหลียมปาก แมน่ าํ เอยาวดแี ละแมน่ าํ สะโตงปลกู ขา้ วเจา้ ปอกระ เจา้ อ้อยและพชื เมอื งรอ้ นอืนๆดา้ นการทําเหมอื งแร่ ภาคกลางตอนบนมนี าํ มนั ปโตรเลียมภาคตะวนั ออก เฉียงเหนอื ขุดแรห่ นิ สงั กะสแี ละภาคตะวนั ออกเฉียง ใต้ทําเหมอื งดบี ุกการทําปาไมม้ กี ารทําปาไมส้ กั ทาง ภาคเหนอื สง่ ออกขายและล่องมาตามแมน่ าํ เอยาวดี เขา้ สยู่ า่ งก้งุ ดา้ นอุตสาหกรรมกําลังมกี ารพฒั นาอยู่ บรเิ วณตอนล่างของประเทศเชน่ ยา่ งก้งุ
นบั ตังแต่ป 2543 ปาไมใ้ นเมยี นมารถ์ กู แผว้ ถางในอัตราเรง่ และในระยะ 30 ป ด้านสิงแวดล้อม ระหวา่ งป 2533–2563 เมยี นมารส์ ญู เสยี พนื ทีปาราว 27% โดย 1 ใน 3 มาจาก ประเทศเมียนมาร์ การลักลอบตัดไมเ้ พอื การพาณชิ ย์ รฐั บาลเมยี นมารไ์ ด้ตระหนกั ถึงปญหา และเพอื เปนการปองกันสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติมใิ หถ้ กู ทําลาย ดงั นนั ในป 2557 รฐั บาลเมยี นมารเ์ รมิ หนั มาเอาจรงิ กับการปราบปรามการตัดไมท้ ําลายปา ออกประกาศหา้ มการสง่ ออกไมส้ กั ในปาธรรมชาติแต่ชว่ งหลังมานี รฐั บาลเมยี นมารผ์ อ่ นคลายคําสงั หา้ มอนญุ าตใหข้ าย หรอื สง่ ออกไมซ้ ุงทีอยูใ่ น สต๊อกได้ รวมทังไมท้ ีเกิดจากการปลกู ปา รายงานขององค์กรอนรุ กั ษ์ปา ธรรมชาติจซี ี (GlobalConservation : GC) แหง่ เมอื งซานฟรานซสิ โก สหรฐั อเมรกิ า ระบุวา่ จนถึงป 2561อุทยานแหง่ ชาติอลองดอวก์ ัสสป (AleungdawKathapa National Park) ในเมอื งโมนยวา เขตซะไกง์ ซงึ เปน อุทยานสตั วป์ าขนาดใหญท่ ีสดุ ในเมยี นมาร์ ครอบคลมุ เนอื ทีกวา่ 150,000 เฮกตาร์ (915,000ไร)่ และเปนทีอยูอ่ าศัยของชา้ ง และสตั วป์ าอีกหลากหลาย ชนดิ มเี จา้ หนา้ ทีรกั ษาปาคอยดแู ลเพยี ง 12 คน อุทยานแหง่ ชาติอลอง ดอวก์ ัสสปสญู เสยี ปาประมาณ 80% จากการลักลอบตัดไม้ แต่โชคยงั ดที ีรอบ อุทยานราว 60% เปนแนวหนา้ ผาภเู ขาสงู ชนั ราว 2,000 ฟุต ทําใหป้ าดา้ นนี รอดพน้ จากการถกู ทําลาย มานานหลายทศวรรษ อยา่ งไรก็ตามสถานการณด์ า้ น สงิ แวดล้อมทรพั ยากรธรรมชาติของเมยี นมารใ์ นอนาคตก็ยงั คงนา่ เปนหว่ ง
LAOS ลาว
การเมอื งการปกครอง สปป.ลาว ปกครองดว้ ยระบอบสงั คมนยิ ม มปี ระธานประเทศเปนประมุขและจอมทัพ โดยมพี รรค ประชาชนปฏิวตั ิลาว (LPRP) เปนองค์กรการเมอื งสงู สดุ ในการบรหิ ารประเทศ ภาพรวมการเมอื งลาวยงั คงมี เสถียรภาพ ภายใต้การนาํ ของนายบุนยงั วอละจดิ ประธานประเทศและ ดร.ทองลนุ สสี ลุ ิด นายกรฐั มนตรี • ฝายบรหิ าร ประกอบด้วย ๑. ประธานประเทศ ดาํ รงตําแหนง่ ประมุขแหง่ รฐั และจอมทัพ วาระ ๕ ป มาจากการเลือกตังของสภาแหง่ ชาติ โดยไดร้ บั คะแนนเสยี ง ไมน่ อ้ ยกวา่ สองในสามของสมาชกิ สภาทีเขา้ ประชุม มหี นา้ ทีลงนามประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู และกฎหมาย แต่งตัง/ถอดถอน นายก รฐั มนตรแี ละคณะรฐั มนตรี รวมทังเจา้ แขวงและตําแหนง่ สาํ คัญในกองทัพโดยคําแนะนาํ ของนายกรฐั มนตรใี หส้ ตั ยาบนั หรอื ยกเลิก สญั ญาทีทํากับรฐั อืนโดยความเหน็ ชอบจากสภาแหง่ ชาติ โดยทัวไปประธานประเทศเปนบุคคลเดยี วกับผนู้ าํ พรรค คณะรฐั มนตรมี หี นา้ ทีบรหิ ารประเทศตามนโยบายพรรค คณะรฐั มนตรชี ุดปจจุบนั จดั ตังเมอื วนั ที ๒๐ เมษายน ๒๕๕๙ โดยหวั หนา้ ฝาย บรหิ ารคือนายกรฐั มนตรี ซงึ มาจากการแต่งตังของประธานประเทศ โดยผา่ นความเหน็ ชอบของสภาแหง่ ชาติ วาระของรฐั บาล เท่ากับวาระของสภาแหง่ ชาติ ประมุขแห่งรฐั นายบุนยงั วอละจดิ ( H.E. Mr. Bounnhang Vorachith) นายกรฐั มนตรี นายทองลนุ สสี ลุ ิด (H.E. Mr. Thongloun Sisoulith) การบรหิ ารท้องถินของ สปป.ลาว มี ๓ ระดบั คือ แขวง (เทียบเท่าจงั หวดั ) เมอื ง (เทียบเท่าอําเภอ)และบา้ น (เทียบเท่าหมูบ่ า้ น ผู้ บรหิ ารสงู สดุ ในแต่ละระดบั ไดแ้ ก่ เจา้ แขวง เจา้ เมอื ง และ นายบา้ น ตามลําดบั
การเมอื งการปกครอง • ฝายนติ ิบญั ญตั ิ เปนระบบสภาเดยี ว (Unicameral) คือสภาแหง่ ชาติ (National Assembly) มสี มาชกิ ตามรฐั ธรรมนญู ๑๔๙ คน สมาชกิ ปจจุบนั มจี าํ นวน ๑๔๙ คน เปนผชู้ าย ๑๐๘ คน ผหู้ ญงิ ๔๑ คน วาระ ๕ ป การเลือกตังทัวไปล่าสดุ เมอื ๒0 มนี าคม ๒๕๕๙ มกี าร ประชุมสามญั ปละ ๒ ครงั สภาแหง่ ชาติมหี นา้ ทีออกกฎหมาย แก้ไขรฐั ธรรมนญู ตรวจสอบการทํางานของรฐั บาลและฝายตลุ าการ รบั รอง แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาเศรษฐกิจ สงั คม และ งบประมาณตามรฐั ธรรมนญู การแต่งตังประธานประเทศ นายกรฐั มนตรี คณะรฐั มนตรี ประธานสภาศาลประชาชนสงู สดุ และอัยการประชาชนสงู สดุ จะต้องไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากสภาแหง่ ชาติ พรรคการเมอื ง มพี รรคเดยี วคือ พรรคประชาชนปฏิวตั ิลาว (Lao People's Revolutionary Party (LPRP) เปนองค์กรทางการเมอื งทีมอี ํานาจสงู สดุ ตามแนวทางมารก์ ซ-์ เลนนิ บรหิ ารประเทศมาตังแต่ป ๒๕๑๘ จนถึงปจจุบนั มบี ทบาท สาํ คัญในการกําหนดทิศทาง นโยบาย และยุทธศาสตรท์ กุ ดา้ นของประเทศ รวมถึง คัดเลือกและเสนอชอื ผดู้ าํ รงตําแหนง่ สาํ คัญทางการ เมอื งและกองทัพ เชน่ ประธานประเทศ นายกรฐั มนตรแี ละคณะรฐั มนตรี เปนต้น ประธานสภาแหง่ ชาติ : นางปานี ยาท่อตู้ เลขาธกิ ารพรรค : นายบุนยงั วอละจดิ ฝายตลุ าการ ประกอบดว้ ยศาลประชาชนสงู สดุ และอัยการประชาชนสงู สดุ ระบบศาลมี ๓ ชนั คือ ศาลประชาชนเขตหรอื ศาลชนั ต้น ศาล ประชาชนแขวง/นครหลวงเวยี งจนั ทน์ ซงึ ทําหนา้ ทีเปนทังศาลชนั ต้นและศาลอุทธรณ์ และศาลประชาชนสงู สดุ หรอื ศาลฎีกา ขอ้ มูลเศรษฐกิจ (๒๕๖๑) ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ๑๘,๑๓๑ ล้านเหรยี ญสหรฐั ฯ รายไดเ้ ฉลียต่อหวั ต่อป ๗,๙๒๐ เหรยี ญสหรฐั ฯ
การพขฒัองน'ปาดระา้ เนทกศาลราเวม'อื ง นายกคนใหมก่ ับความหวังของประเทศลาว วันที 30 ธ.ค.2565 นายพันคํา วพาวัน นายก รัฐมนตร สปป.ลาว ไดป้ ระกาศลาออกจากตาํ แหน่ง โดยมีการแตง่ ตัง ดร.สอนไซ สพี นั ดอน รองนายก รัฐมนตร สปป.ลาว ให้เข้ามารับตาํ แหนง่ นายก รัฐมนตรคนใหมแ่ ทน กอ่ นหนา้ นปี ระมาณเดอื น สิงหาคม 2565 ทผี า่ นมา มีกระแสขา่ วจากวงใน แพร่กระจายออกมาสโู่ ลกภายนอก วา่ เกิดกระแส ความไมพ่ อใจในบทบาทการนาํ ของนายพันคํา วพา วัน ค่อนขา้ งมาก โดยประเด็นหลกั เกิดขึนจากไม่ สามารถแก้ไขปญหาเศรษฐกจิ และปากท้องของ ประชาชนได้ LAOS
โดยดําเนนิ นโยบายเศรษฐกิจแบบสงั คมนยิ ม และดึงดดู การลงทนุ จากต่าง ตังแต่ป พ.ศ. 2518 และเรมิ ปฏิรปู ระบบ ประเทศใหเ้ ขา้ มาลงทนุ ในลาวมาก เศรษฐกิจเสรี เมอื ป 2529 โดยการใช้ “นโยบาย ขนึ ในป 2554-2558 สปป.ลาว จะ จนิ ตนาการใหม”่ (NEM : New Economic อยใู่ นชว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกิจและ Mechanism) เนน้ ความสาํ คัญของระบบราคาที สงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที 7 และได้ตัง เปนไปตามกลไกตลาด และการบรหิ ารในเชงิ เปา ไว้ว่าจะนาํ พาประเทศออกมา ธุรกิจมากขนึ โดยมงุ่ สรา้ งความสมั พนั ธ์ทาง จากบญั ชรี ายชอื ประเทศทพี ฒั นา เศรษฐกิจกับต่างประเทศ นอ้ ยทสี ดุ (Least Developed ด้านเศรษฐกิจ Countries : LDCs) ใหไ้ ด้ภายในป เศรษฐกิจของประเทศลาวเจรญิ เติบโตขนึ อยา่ ง 2563 รวดเรว็ โดยรฐั บาลลดการควบคมุ จากสว่ นกลาง และกระต้นุ การลงทนุ ของเอกชนตังแต่ พ.ศ. 2529 ลาวเปนประเทศทผี ลิตพลังงานและสง่ ไปขายให้ จนี เวียดนาม และไทยแต่ก็ยงั เปนประเทศที ยากจนทสี ดุ ในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ Laos Economy จากขอ้ มลู ผลิตภัณฑม์ วลรวมประชาชาติ (GDP) ของ ลาว ตังแต่ป 2545-2553 พบว่ามกี ารเติบโตอยา่ งต่อเนอื ง นอกจากนมี ลู ค่าการ สง่ ออก-นาํ เขา้ ของ สนิ ค้าต่างๆ ก็มมี ลู ค่าเพมิ ขนึ อยา่ งต่อเนอื งเชน่ เดียวกัน ซงึ แสดงใหเ้ หน็ ถึงกิจกรรมทาง เศรษฐกิจของลาว ว่า กําลังมกี ารเจรญิ เติบโตและพรอ้ มเปดรบั ความเปลียนแปลง ทาง เศรษฐกิจ นอกจากนแี ล้วการทมี ลู ค่า การสง่ ออก-นาํ เขา้ เพมิ ขนึ สง่ ผลต่อการจา้ งงานและรายได้ของประชาชนภายในประเทศ
ด้านเศรษฐกิจ ลาวมที รพั ยากรทอี ดุ มสมบรู ณม์ ากมาย ไมว่ ่าจะเปนผนื ปา และพนื ทที าํ การเกษตรขนาดใหญ่ รวมทงั มแี รธ่ าตตุ ่างๆ เชน่ ดีบกุ ยปิ ซมั ตะกัว เหล็ก ถ่านหนิ อัญมณี และนามนั ไปจนถึงเหมอื งแรท่ องคํา นอกจากนนั ยงั มแี หล่งนาทใี ชส้ าํ หรบั ผลิต ไฟฟาสง่ ออกทสี รา้ งรายได้ใหป้ ระเทศเปนอยา่ งมาก จดุ แข็ง-จดุ อ่อน สนิ ค้านาํ เขา้ ทสี าํ คัญ : รถจกั รยานยนต์ และสว่ นประกอบเครอื งใช้ ไฟฟา เครอื งอปุ โภคบรโิ ภค จดุ แขง็ : สนิ ค้าสง่ ออกทสี าํ คัญ : ไมซ้ งุ ไมแ้ ปรรปู ผลิตภัณฑไ์ ม้ สนิ แร่ เศษ มที รพั ยากรธรรมชาติหลากหลาย และอดุ มสมบรู ณ์ โดย โลหะ ถ่านหนิ เสอื ผา้ สาํ เรจ็ รปู เฉพาะนาและแรช่ นดิ ต่างๆ ตลาดนาํ เขา้ ทสี าํ คัญ : ไทย จนี เวียดนาม สงิ คโปร์ ญปี นุ จดุ อ่อน ; ออสเตรเลีย เยอรมนั ระบบสาธารณปู โภคพนื ฐานยงั ไมไ่ ด้รบั การพฒั นาเทา่ ทคี วร ตลาดสง่ ออกทสี าํ คัญ : ไทย เวียดนาม ฝรงั เศส ญปี นุ เยอรมนั พนื ทสี ว่ นใหญเ่ ปนทรี าบสงู และภเู ขา การคมนาคมไม่ สหรฐั อเมรกิ า สะดวก ไมม่ ที างออกทะเล Laos Economy
ด้านสงิ แวดล้อม สาํ หรบั การอนุรกั ษ์สงิ แวดล้อมของลาวนัน ได้เรมิ มคี วามตืนตัวขนึ เมอื ลาวได้ลงนามรบั รองอนุสญั ญา สหประชาชาติวา่ ด้วยการเปลียนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ (UNFCCC) เมอื วนั ที 4 เมษายน 1995 อนุสญั ญานีมเี ปาหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่ การทําใหป้ รมิ าณก๊าซเรอื นกระจกมอี ัตราคงที เน้นการปรบั ตัวของระบบนิเวศ ความมนั คงทางอาหาร และการพฒั นาเศรษฐกิจอยา่ งยงั ยนื อีกทังยงั มกี ารลงนามในพธิ สี ารเกียวโต เมอื วนั ที 6 กมุ ภาพนั ธ์ 2003 ผลจากการลงนาม ในสนธสิ ญั ญาทังสองฉบบั นีทําใหล้ าวต้องดาํ เนินการเพอื ลดอัตราการปล่อยก๊าซเรอื นกระจกลง สาํ หรบั ลาวนัน มอี งค์กรทีสนับสนุนการปฏิบตั ิงานสง่ เสรมิ สงิ แวดล้อม ได้แก่ Department of Environment (DoE) อยูภ่ ายใต้สงั กัดกระทรวงทรพั ยากรนาํ และสงิ แวดล้อม และยงั มกี ารตัง สาํ นักงานทีดแู ลเรอื ง climate change โดยเฉพาะด้วยในป 2008
ด้านสงิ แวดล้อม อีกเรอื งราวทีสาํ คัญคือ ลาวจดั เตรยี มเรอื งการจดั การสงิ แวดล้อมมาเปนเวลานาน และลาวได้พยายามอาศัยประเด็นสงิ แวดล้อมในการเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มกับกิจการระหวา่ งประเทศ เรมิ จากการลงนามในสนธสิ ญั ญา การกําหนดแผนยุทธศาสตรร์ ะดับชาติ จนถึงการประชุมระดับชาติ ตังแต่ป 2009 เปนต้นมา และเรมิ เหน็ ผลชดั เจนขนึ ตังแต่ต้นป 2012 โดยทีลาวเองพยายามจะเน้นแก้ปญหา เชงิ นโยบายและขอความรว่ มมอื ผู้ลงทนุ ประกอบธุรกิจในลาวใหป้ ฏิบตั ิตามกรอบด้านสงิ แวดล้อมทีลาวได้เคยวางไว้ มากกวา่ ทีจะปล่อยใหเ้ กิดปญหาก่อนแล้วค่อยสง่ เรอื งขนึ ศาล เพราะจะก่อใหเ้ กิดความวุน่ วาย แมว้ า่ ลาวจะมลี ักษณะเปนประเทศทีเรยี กกันวา่ “landlock” คือ ไมม่ ที างออกทะเล และล้อมรอบไปด้วยประเทศอืนๆ แต่ลาวก็พยายามจะสรา้ งโอกาสจากการ landlock ใหเ้ ปน “landlink” คือ เปนตัวเชอื มโยงภมู ภิ าค สงิ ทีกล่าวมาขา้ งต้นดเู หมอื นจะราบรนื แต่ก็ไมร่ าบเรยี บนัก เพราะยงั มอี ีกหลายปญหาทีลาวยงั ต้องแก้ไข ไมว่ า่ จะเปนเขอื นทีจนี สรา้ งกันแมน่ าํ โขง หรอื อยา่ งเขอื นทีขนึ ชอื ลือชาอยา่ งไซยะบุรี หรอื แมแ้ ต่การสง่ เสรมิ การลงทนุ จากต่างชาติภายในประเทศของตนมากขนึ ประเด็นเหล่านี เปนสงิ ทีรฐั บาลลาวอาจจะต้องขบคิด และพจิ ารณาถ่วงดลุ ระหวา่ งปญหาเศรษฐกิจกับปญหาสงิ แวดล้อมเชน่ เดียวกับประเทศในล่มุ นําโขงอืนๆ ทัวไปวา่ จะเลือกการพฒั นา เศรษฐกิจหรอื การอนุรกั ษ์สงิ แวดล้อมมาก่อน
สาํ รวจรถไฟลาว-จนี เปลียน Land Lock เปน Land Link ทอ่ หายใจบนทดี ินตาบอด การเกิดขนึ ของรถไฟความเรว็ สงู ของลาว-จนี เพอื ต้องการพฒั นาประเทศทีมสี ภาพเปนเพยี งแค่เมอื ง ผา่ น จงึ เปนรทู ีต่อท่อลมหายใจของประเทศทีอยูใ่ นภมู ภิ าคทีเสมอื นทีดนิ ตาบอด เพราะไมม่ พี นื ทีติดทะเล เปนการพลิก จาก Land Lock สู่ Land Link เปนความหวงั ของการพฒั นาประเทศจากระบบโลจสิ ติกส์ สปป.ลาวมจี ุดเดน่ เรอื ง ทรพั ยากร แรธ่ าตหุ ายาก และสนิ ค้าดา้ นการเกษตร จาํ นวนมากทีเปนทีต้องการของจนี เชน่ แรเ่ หล็ก ทองแดง ยางพารา มนั สาํ ปะหลัง รวมถึงการลงทนุ ดา้ นสมั ปทานแรธ่ าตใุ นอนาคต โครงการรถไฟความเรว็ สงู เสน้ ทางเวยี งจนั ทน-์ คณุ หมงิ ถือเปนการพฒั นาประเทศดา้ นตะวนั ตก ผลพลอยไดข้ องประเทศไทยในอนาคต จะมกี ารพฒั นาระบบการขนสง่ เชอื มจาก สปป.ลาว-ไทย ออกสทู่ ะเล ท่าเรอื แหลมฉบงั และจากไทยสู่ สปป.ลาว ซงึ ถือเปนการเชอื มอาเซยี นเขา้ ดว้ ยกัน โดยขบวนรถโดยสารทําความเรว็ ได้ 160 กิโลเมตรต่อชวั โมง และขบวนรถสนิ ค้า 120 กิโลเมตรต่อชวั โมง ค่าตัวโดยสารยงั ถือถกู กวา่ หลายประเทศ มคี ่า โดยสารปจจุบนั จากกรงุ เวยี งจนั ทนไ์ ปยงั หลวงพระบางอยูท่ ี 242,000 กีบ (ราว 537 บาท) แต่สามารถชว่ ยยน่ ระยะเวลาการเดนิ ทางจากเดมิ ทีต้องใชเ้ วลาเดนิ ทางโดยรถยนต์ประมาณ 6-8 ชวั โมง เหลือเพยี ง 2 ชวั โมงเศษ และยงั ชว่ ยลดการปล่อยมลพษิ จากรถยนต์ไดอ้ ีกดว้ ย
สงั คมและวัฒนธรรม ประเทศลาว ประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะภาคพนื ทวปี เชน่ ลาว ไทย กัมพูชา พมา่ มี ลักษณะรว่ มทางวฒั นธรรมทีเหมอื นกัน ไมว่ า่ จะเปนความเชอื ศาสนา ภาษา กล่มุ ชาติพนั ธ์ และวถิ ี ชวี ติ เนอื งจากในสมยั โบราณวฒั นธรรมไมไ่ ดถ้ กู จาํ กัดดว้ ยอาณาเขตและพรมแดนของชาติพนั ธุท์ ี ไมไ่ ดป้ รากฏชดั เชน่ สงั คมปจจุบนั ทีทําใหค้ นต้องกําหนดชาติพนั ธุข์ องตัวเอง ลักษณะของกล่มุ ชน ในอดตี คงอยูใ่ นระดบั เผา่ พนั ธุ์ ทีถือวา่ มวี ฒั นธรรมรว่ มกันในทางภาษา และลักษณะทาง วฒั นธรรมอืนๆ เชน่ องค์การทางการเมอื ง เศรษฐกิจ สงั คม แต่มไิ ดถ้ กู รวบรวมจดั ระเบยี บบูรณา การเปนสว่ นเดยี วกันโดยองค์กรการปกครองมศี ูนยก์ ลางทีเปนรฐั และปราศจากพรมแดนทางการ เมอื งทีกําหนดเขตแนน่ อนตายตัวเหมอื นรฐั ประชาชาติ สาํ นกึ และความเชอื เกียวกับเผา่ พนั ธุข์ องผคู้ นในอุษาคเนย์ สะท้อนใหเ้ หน็ ทัศนคติ โลกทรรศนข์ อง ผคู้ นในแถบนี ทีมไิ ดแ้ ยกตัวเองอยูอ่ ยา่ งโดดเดยี ว แต่มกี ารติดต่อสงั สรรค์ สมั พนั ธก์ ันมาตลอด เวลายาวนานตังแต่ยุคทีก่อนประวตั ิศาสตร์ จนไมน่ า่ เชอื วา่ จะมเี ผา่ พนั ธุห์ รอื ชนชาติใดในปจจุบนั ที อ้างไดว้ า่ เปนกล่มุ ชนทีไมเ่ คยผสมผสานกับผคู้ นต่างเผา่ พนั ธุห์ รอื ดาํ รงเอกลักษณท์ างวฒั นธรรม ของตนไวไ้ ด้ โดยปราศจากอิทธพิ ลของวฒั นธรรมเพอื นบา้ น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมทาง ภมู ศิ าสตรท์ ีเปนผนื แผน่ ดนิ เดยี วกันของอุษาคเนย์ นอกจากนี ยงั มหี ลักฐานทางโบราณคดยี นื ยนั วา่ มกี ารติดต่อกันระหวา่ งผคู้ นภายในภาคพนื ทวปี กับ ผคู้ นภายนอกทังทางบก ทางทะเลมาตลอด อยา่ งนอ้ ยไมต่ ําวา่ 2,500 ปมาแล้ว
ประเทศอนิ โดนเิ ซยี
การพฒั นาดา้ นการเมอื ง ช่วงปลายยุคระเบียบใหม่ (Orde Baru) โดยการนาํ ของนายพลซูฮารโ์ ต ( พ.ศ. 2510-2541 ) เต็มไปด้วยปญหาและความขัดแย้ง ประชาชนไม่มีสิทธเิ สรภี าพทีจะแสดงความคิดเหน็ ใดๆ เพราะอํานาจส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มคนกลุ่มเดียว เหตุการณ์การประท้วงของนักศึกษามหาวิทยาลัยตรศี ักติ (พฤษภาคม 1998 ) อํานาจเหล่านีก็เลยต้องถึงจุดจบในทีสุดเปนการล่ม สลายลงของการปกครองทีเรยี กว่ายุคระเบียบใหม่ (Orde Baru)และเปนการหมดอํานาจลงของซูฮารโ์ ตทีมีมาทังหมด 32 ป หลังลงจากอํานาจของซูฮารโ์ ต คนทีเข้ามารบั อํานาจแทนคือ นายยูซุฟ ฮาบิบี (พ.ศ. 2541-2542 ) ถือได้ว่าเปนเหมือนผู้สืบทอด อํานาจของซูฮารโ์ ต ฮาบิบีดาํ รงตําแหน่งนันก็ได้ประสบกับปญหาหลายประการ เช่น ประชาชนการเรยี กรอ้ งใหป้ ฏิรูปการเมืองใหเ้ ปน ประชาธปิ ไตย สิงสาํ คัญคือฮาบิบีเองไม่มีฐานทางการเมืองมาสนับสนุนอย่างจรงิ จัง กล่าวคือพรรคโกลคาร์ (GOLKAR) ของอดีต ประธานาธบิ ดีซูฮารโ์ ตก็ไม่ได้ใหก้ ารสนับสนุน กองทัพก็ไม่ใหก้ ารสนับสนุนด้วยเช่นกัน ทําใหด้ ูเหมือนว่าสถานะของฮาบิบีในตําแหน่ง ประธานาธบิ ดีอยู่ในสภาพไม่มีความมันคงมากนัก จนกระทังเขาต้องลงจากตําแหน่ง แต่สิงหนึงทีนานาชาติใหก้ ารยอมรบั และชืนชมใน ตัวฮาบิบีเกียวกับการจัดการกับการแก้ปญหาความขัดแย้งในติมอรต์ ะวันออก โดยใหเ้ สรภี าพกับชาวติมอรต์ ะวันออกว่าจะเปนเอกราช หรอื เลือกทีจะอยู่กับอินโดนีเซยี ต่อไป ซงึ ท้ายทีสุดชาวติมอรต์ ะวันออกก็ต้องการเปนอิสระ ฮาบิบีจึงใหเ้ อกราชแก่ติมอรต์ ะวันออก ( 20 พ.ค. 2545 ) หลังจากนันอับดูรร์ าหม์ าน วาฮิด (พ.ศ.2542-2544) ก้าวเข้ามาเปนประธานาธบิ ดี แม้จะพ่ายแพ้การเลือกตังใหแ้ ก่ นางเมกาวาตี ซูการโ์ นบุตรี แต่เหตุผลทีทําใหว้ าฮิด ได้ขึนเปนประธานาธบิ ดีเปนผลมาจากการรวมคะแนนการเลือกตังของเขาเข้ากับพรรคการเมือง อืน
การพฒั นาด้านเศรษฐกิจ ด้านทรพั ยากรมนษุ ย์ ในป 2011 รฐั บาลอินโดนเี ซยี จงึ ไดจ้ ดั ทํา “แผนแมบ่ ทพฒั นาเศรษฐกิจ การมปี ระชากรจาํ นวนมหาศาลในประเทศทําใหเ้ กิดความต้องการซอื อินโดนเี ซยี 2011-2025” หรอื ทีมชี อื ยอ่ วา่ แผน “MP3EI” ขนึ เพอื เปน ภายในทีสงู มาก เกิดเปนตลาดขนาดใหญภ่ ายในประเทศ และจาํ นวน ประชากรทีมากนกี ็จะกลายเปนแรงงานสาํ คัญสาํ หรบั การพฒั นาประเทศ แนวทางในการพฒั นาประเทศ โดยมุง่ สรา้ งใหอ้ ินโดนเี ซยี กลายเปน ศักยภาพดา้ นแรงงานของอินโดนเี ซยี เกิดขนึ จากการทีปจจุบนั ประชากร ประเทศทีมขี นาดเศรษฐกิจใหญต่ ิดอันดบั 1 ใน 10 ของโลก ภายในป สว่ นใหญย่ งั มอี ายุนอ้ ย โดยประชากรมากกวา่ 50% มอี ายุตํากวา่ 29 ป 2025 เนอื งจากรฐั บาลของอินโดนเี ซยี เหน็ วา่ เปาหมายนจี ะสามารถ ทําใหม้ กี ารคาดการณว์ า่ จาํ นวนแรงงานในประเทศจะเพมิ ขนึ ทกุ ปไมต่ ํา สาํ เรจ็ ไดจ้ ากปจจยั สาํ คัญทีสนบั สนนุ อินโดนเี ซยี ใหเ้ กิดการพฒั นา 3 กวา่ 2 ล้านคน สง่ ผลใหอ้ ินโดนเี ซยี เปนประเทศหนงึ ในภมู ภิ าคอาเซยี นที ปจจยั คือ ปจจยั ดา้ นทรพั ยากรมนษุ ย์ ปจจยั ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติ มคี ่าแรงตํา และในชว่ งป 2020–2030 จะกลายเปนปทีมจี าํ นวน ประชากรวยั ทํางานเพมิ ขนึ สงู สดุ ในชว่ งนี อินโดนเี ซยี จงึ มโี อกาสจาก และปจจยั ดา้ นภมู ศิ าสตร์ การมแี รงงานและกําลังการผลิตจาํ นวนมาก ด้านภมู ศิ าสตร์ จากปจจยั สนบั สนนุ เหล่านี ทําใหก้ ารวางแผน ดด้า้านนททรรพั พั ยยาากกรรธธรรรรมมชชาาตติ ิ เศรษฐกิจ MP3EI ไดว้ างกลยุทธใ์ หม้ กี าร จากการทีอินโดนเี ซยี เปนประเทศหมูเ่ กาะที อินโดนเี ซยี ถือเปนประเทศทีมคี วามหลากหลายในการผลิตสนิ ค้า ประกอบไปดว้ ยเกาะนอ้ ยใหญจ่ าํ นวนมากทีสดุ พฒั นาโครงสรา้ งทางเศรษฐกิจทีสาํ คัญ เพอื โภคภัณฑ์มากทีสดุ ประเทศหนงึ ในโลก และเปนประเทศทีมี ในโลก ทําใหอ้ ินโดนเี ซยี มพี นื ทีติดต่อกับเสน้ นาํ ไปสกู่ ารพฒั นาตามแผนทีวางไวใ้ น 3 เรอื ง ทางเดนิ ทะเลทีมกี ารเคลือนไหวมากทีสดุ และ คือ 1. การพฒั นาศักยภาพทางเศรษฐกิจใน 6 ทรพั ยากรธรรมชาติจาํ นวนมาก ทีสามารถผลิตและสง่ ออกเปนอันดบั ติดต่อกับเสน้ ทางหลักในการขนสง่ สนิ ค้าทาง เขตเศรษฐกิจทีสาํ คัญ 2. สรา้ งการเชอื มต่อ ต้นๆ ของโลกไดเ้ ชน่ กัน อาทิ นาํ มนั ปาล์ม โกโก้ ดบี ุก นกิ เกิล อลมู เิ นยี ม ทางเศรษฐกิจทังภายในและภายนอกประเทศ และยงั เปนผนู้ าํ ของโลกในการผลิตเหล็ก ทองแดง และการทําประมงอีก ทะเลของในโลกไดโ้ ดยตรง และ 3. สรา้ งความเขม้ แขง็ ดา้ นทรพั ยากร ดว้ ย ขณะทีทรพั ยากรธรรมชาติดา้ นพลังงาน อินโดนเี ซยี ถือเปน มนษุ ย์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ประเทศทีมพี ลังงานสาํ รองจาํ นวนมหาศาล มตี ําแหนง่ เปนผสู้ ง่ ออก ถ่านหนิ อันดบั ที 2 ของโลก และมพี ลังงานความรอ้ นใต้พภิ พสาํ รองมาก ทีสดุ ในโลกดว้ ยเชน่ กัน
การพฒั นาดา้ นสงั คม ดา้ นชวี ติ ความเปนอยู่ การอพยพยา้ ยถนิ ฐาน ฐานะความเปนอยู่ของประชากรมีความแตก เพือคลีคลายความหนาแน่นของประชากรในบางแห่งและเพือ ต่างกันมาก ส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างยากจน กระจายให้เกิดความสมดุลของประชากร รฐั บาลจึงได้มีการ หลังจากอินโดนีเซียได้ประกาศเอกราช เมือป อพยพย้ายถินฐาน เช่น ย้ายผู้ทีชอบทําการกสิกรรมให้ไปอยู่ใน พ.ศ. 2488 ก็ได้เรมิ พัฒนาประเทศในหลาย ภูมิภาคทีมีคนอยู่น้อย เปนต้น รฐั บาลได้ให้ความช่วยเหลือใน ด้าน โดยตังหน่วยงานของรฐั ขึนหลายแห่ง การย้ายถินฐาน โดยจัดหาทีดิน บ้าน รวมทังโรงเรยี นระดับ ประถม และมัธยม การสาธารณสุขและสิงจาํ เปนขันมูลฐาน มีหน่วยงานทีสาํ คัญคือ กระทรวงกิจการ เช่น ถนน สหกรณ์ ศาลาประชาชน ศาสนสถาน และอุปกรณ์ ของสังคม การเกษตร เปนต้น นอกจากหน่วยงานของรฐั แล้วยังมีองค์การ โดยเกาะชวาซึงเปนทีตังเมืองหลวงมีประชากรหนาแน่นและ และสมาคมต่าง ๆ ทีพยายามเข้าช่วยเหลือ แก้ปญหาของสังคมอยู่เปนจาํ นวนมาก โดย ส่วนใหญ่ได้รบั การศึกษาสูง มีฐานะดี เปนคนมุสลิมทีไม่ ยึดหลักขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติ เครง่ ครดั มาก เนืองจากพระพุทธศาสนาได้เข้ามารุง่ เรอื งอยู่ “ระบบโกตองโรยอง”ได้แก่ การช่วยเหลือซึง จนเปนศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา นอกจากนีเกาะชวายัง เปนศูนย์ทางวัฒนธรรม โดยความเชือในปจจุบัน ประมุขของ กันและกัน รฐั หรอื ประธานาธิบดีต้องเปนคนชวา รฐั บาลจึงมีนโยบายทีจะ พยายามอพยพคนชวาไปอยู่ในติมอรต์ ะวันออก (ก่อนแยกตัว เปนอิสระ) สุมาตราเหนือ (เฉพาะทีอาเสร)ี สุลาเวสีและกาลิ มันตัน
พฒั นาดา้ นสงิ เเวดลอ้ ม อินโดนีเซยี มีกฎหมายและนโยบายเกียวกับการ จัดการขยะมากมายหลายฉบับ และได้มีการ ด้านการจัดการปญหามลพิษทางอากาศ การจัดการปญหาด้านปาไม้ ปรบั ปรุงเพือใหเ้ กิดการบูรณาการมากยิงขึนใน ช่วง 5 ปทีผ่านมา ทีสาํ คัญคือกฤษฎีกาของ รฐั บาลอินโดนีเซยี ประกาศใช้กฎหมายเพือควบคุมและลดมลพิษทาง เมือวันที 29 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ในการ ประธานาธบิ ดีว่าด้วยการจัดการขยะมูลฝอยใน อากาศไว้หลายฉบับตังแต่ป ค.ศ. 1995 กฎหมายสาํ คัญสองฉบับคือ จัดการประชุม “การส่งเสรมิ การจัดซอื จัดจ้างสี ครวั เรอื น ค.ศ. และ กฤษฎีกาของประธานาธบิ ดี กฎหมายควบคุมมลพิษทางอากาศ ค.ศ. 1999 ทีว่าด้วยการควบคุม เขียว ( GPP) ทัวประเทศ” กระทรวงสิง ว่าด้วยการจัดการขยะทะเล ค.ศ. 2018 หรอื มลพิษทางอากาศ ระบุมาตรฐานคุณภาพอากาศ มาตรฐานการปล่อย แวดล้อมและปาไม้ของอินโดนีเซยี ได้นาํ เสนอกฎ แผนปฏิบัติการขยะพลาสติกทางทะเลแหง่ ชาติ มลพิษทางอุตสาหกรรมและยานยนต์ และดัชนีมาตรฐานมลพิษ และ ข้อบังคับเกียวกับการจัดซอื จัดจ้างทีเปนมิตรต่อ (ซงึ เปนผลใหม้ ีการตังเปาหมายว่าอินโดนีเซยี จะ กฎหมายสิงแวดล้อม ค.ศ. 2006 ส่วนในทางปฏิบัตินัน มีนโยบาย สิงแวดล้อมซงึ ครอบคลุมสินค้า 3 รายการ ต้องลดขยะพลาสติกใหไ้ ด้ 70% ภายในป ค.ศ. พลังงานแหง่ ชาติทีได้กําหนดเปาหมายเกียวกับพลังงานไว้ภายในป ได้แก่ กระดาษถ่ายเอกสาร หลอดไฟ และ 2025 และยุติปญหามลภาวะพลาสติกใหไ้ ด้ ค.ศ. 2025 และแผนแม่บทการอนุรกั ษ์พลังงานแหง่ ชาติ ซงึ ส่งเสรมิ โรงแรมสีเขียว การประชุมดังกล่าวจัดขึนโดย อย่างสินเชิงภายในป ค.ศ. 2040 ด้วยการ การผลิตพลังงานสะอาด นอกจากนี ประธานาธบิ ดีโจโก วิโดโด ได้ให้ กระทรวงสิงแวดล้อมและปาไม้ของอินโดนีเซยี เปลียนผ่านไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในการ คํามันสัญญาว่าจะจัดการกับปญหาหมอกควันทีเกิดจากไฟปาใหไ้ ด้ โดย รว่ มกับโครงการพัฒนาการและวัดการผลิตและ จัดการพลาสติก ประกาศ Peatland Conversion Moratorium ปค.ศ. 2015 และ การบรโิ ภคอย่างยังยืนสาํ หรบั สังคมเศรษฐกิจ จัดตังหน่วยงานฟนฟูปาพรุ ขึนในป ค.ศ. 2016 ในปถัดมารฐั บาลได้ คารบ์ อนตําในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางและ ด้านการจัดการขยะ กําหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษสาํ หรบั รถยนต์ประเภทใหม่ (ประเภท กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมใหม่ (โครงการ มูลฝอย M, N และ O) และกําหนดมาตรการควบคุมการปล่อยมลพิษทาง Advance SCP) กฎข้อบังคับด้าน GPP ที อากาศจากพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น การหา้ มเผาในพืนทีสาธารณะ เพิงเปดตัวกําลังบังคับใช้อยู่ในหน่วยงานภาครฐั และการเผาทางเกษตรกรรม และมีการจูงใจใหภ้ าคเอกชนนาํ ไปใช้ด้วยเช่นกั น
SINGAPORE Presented by :
POLITICAL DEVELOPMENT ในปจจุบนั สาธารณรฐั สงิ คโปรเ์ ปนประเทศทีถือไดว้ า่ มเี สถียรภาพทางการเมอื งสงู เปน อยา่ งยงิ ที เปนเชน่ นีก็สบื เนืองมาจากศักยภาพในการประกอบสรา้ ง การธารงรกั ษา และผกู ขาด อานาจทางการ เมอื งมาอยา่ งต่อเนือง ยาวนานของพรรคกิจประชาชน (PAP) เมอื เดือนธนั วาคม 1965 มกี าร ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยแบบรฐั สภาแมแ่ บบอังกฤษเปนสภาเดียว มรี ฐั ธรรมนูญเปนกฎหมาย สงู สดุ มปี ระธานาธบิ ดเี ปนประมุข คราวละ 6 ปและนายกรฐั มนตรเี ปนหวั หน้ารฐั บาล คราวละ 5 ป การปกครองประกอบดว้ ย 3 ฝายเพอื ถ่วงดลุ อํานาจ ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรี ฮาลิมะฮ์ ยากบู ประธานาธบิ ดสี งิ คโปร์ 1. ฝายบรหิ าร: นายกรฐั มนตรแี ละคณะรฐั มนตรบรหิ ารประเทศ 2. รฐั สภา: สภาเดยี ว ใชร้ ปู แบบตามระบบ The Westminster system ของอังกฤษ 3. ตลุ าการ: อยูภ่ ายใต้ระบบสาธารณะรฐั อํานาจตลุ าการเปนอิสระ และฝายนติ ิบญั ญตั ิแบง่ ออกเปน 2 ระดบั คือ ศาลชนั ต้นกับศาลฎีกา
ECONOMY ขนาดเศรษฐกิจของสงิ คโปรว์ ดั จากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Products : GDP) ป 2549 ประมาณ 1.3 แสนล้านดอลลารส์ หรฐั ฯ สงู เปนอันดบั 3 ในอาเซยี น รอง จากอินโดนเี ซยี และไทย แต่สงิ คโปรม์ จี าํ นวนประชากรนอ้ ยทีสดุ ในภมู ภิ าคเพยี ง 4.5 ล้านคน ทําใหร้ าย ไดเ้ ฉลียของประชากรวดั จาก GDP ต่อหวั สงู ถึง 29,474 ดอลลารส์ หรฐั ฯ สงู กวา่ ไทยเกือบ 10 เท่า ภาคบรกิ ารมคี วามสาํ คัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสงิ คโปร์ โดยมบี ทบาทใน GDP มภี าค บรกิ ารทีสาํ คัญ เชน่ ค้าสง่ ค้าปลีก การขนสง่ ภัตตาคารและโรงแรม การเงินการธนาคาร เปนต้น รอง ลงมา ไดแ้ ก่ ภาคอุตสาหกรรม ทีเหลือเปนภาคอืนๆ อาทิ ก่อสรา้ ง เกษตรกรรม และประมง สงิ คโปรม์ ี โครงขา่ ยเสน้ ทางคมนาคมขนสง่ ทีมปี ระสทิ ธภิ าพ สงิ คโปรน์ บั เปนหนงึ ในประเทศทีมกี ารขนสง่ ทางนาํ ระหวา่ งประเทศมากทีสดุ ในโลก เปนผนู้ าํ ดา้ นการต่อและซอ่ มแซมเรอื ขณะทีสนามบนิ ชางฮีของ สงิ คโปร์ (Changi Airport) ไดร้ บั การยอมรบั ใหเ้ ปนหนงึ ในศูนยก์ ลางการบนิ สาํ คัญในภมู ภิ าค เอเชยี แปซฟิ ก นอกจากนี สงิ คโปรย์ งั เปนศูนยก์ ลางดา้ นการเงินแหง่ หนงึ ของโลก การค้าเงินในตลาด แลกเปลียนเงินตราระหวา่ งประเทศของสงิ คโปรม์ มี ูลค่าสงู เปนอันดบั 4 ของโลก รองจากลอนดอน นวิ ยอรก์ และโตเกียว ปจจุบนั บรษิ ัทธุรกิจขา้ มชาติต่างๆ ไมน่ อ้ ยกวา่ 7,000 แหง่
SOCIETY การพฒั นาทางดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม สภาพสงั คมในปจจุบนั สภาพความเปนอยูข่ อง ลิตเติลอินเดยี (LITTLE INDIA) เปนยา่ นคนอินเดยี ที มศี าลเจา้ และมสั ยดิ รวมอยูด่ ว้ ย ชาวสงิ คโปรอ์ ยูใ่ นสภาวะ คนสงิ คโปรเ์ ปนพหสุ งั คม ประกอบดว้ ยคน เรง่ รบี ในการเดนิ ทางและการทํางาน ชวี ติ ประจาํ วนั สว่ น หลายเชอื ชาติ ไมว่ า่ จะเปน จนี อินเดยี มาเลย์ ใหญอ่ ยูก่ ับงาน เมอื หลังเลิกงาน ใชเ้ วลานอกบา้ นเพอื รบั และอืนๆ อยูร่ ว่ มกันดว้ ยความสงบสขุ ไมค่ ่อย ประทานอาหารหรอื พกั ผอ่ นโดยการเดนิ ซอื ของหรอื ดหู นงั มปี ญหาความขดั แยง้ ทางเชอื ชาติดงั เชน่ ประ ฟงเพลง สว่ นการพกั ผอ่ นในชว่ งสดุ สปั ดาหน์ ยิ มไปสวน เทศอืนๆ สว่ นใหญพ่ กั อาศัยทีแฟลตสงู ตาม สาธารณะ ชายหาด หรอื เกาะเซนโตซา ประชากรสงิ คโปรม์ ี ความหลากหลายทางเชอื ชาติ อีกทังสว่ นใหญย่ งั ยดึ ถือ ยา่ นต่างๆ ไดแ้ ก่ 1.อาหรบั สตรที ธรรมเนยี มปฏิบตั ิดงั เดมิ ทําใหส้ งิ คโปรม์ วี ฒั นธรรมหลาก (ARAB STREET) และกัมปง กีลาม หลายทังทางดา้ นอาหาร การแต่งกาย ตลอดจนการเซน่ (KAMPONG GLAM) เปนยา่ นมาเลย์ ไหวว้ ญิ ญาณบรรพบุรษุ และความเชอื ในองค์เทพเจา้ ที มุสลิม 2. ไชนา่ ทาวน์ (CHINA TOWN) แตกต่างกันไป ชาวจนี สว่ นมากบูชาเจา้ แมก่ วนอิม ธดิ าแหง่ เปนแหล่งธุรกิจของชาวจนี ซงึ มวี ดั ศรมี ารอิ ัม ความสขุ กวนอูเทพ เทพเจา้ แหง่ ความยุติธรรม รวมถึง มนั ต์ (SRI MARIAMMAN TEMPLE) เทพเจา้ จนี องค์อืน ๆ ขณะทีชาวฮินดบู ูชาเทพเจา้ แหง่ ดวง ของอินเดยี ตังอยูใ่ กล้ๆ วดั จนี กลางไชนา่ อาทิตย์ เปนต้น ทาวน์
ENVIRONMENT สายไฟทังหมดชองสงิ ค์โปรนนั อยูใ่ ต้ดนิ ในขณะทีต้นไมร้ มิ ถนนบา้ นเรามกั ถกู บนั ยอด เพราะไปชนสายไฟ แต่ทีสงิ คโปรไ์ มต่ ้องกังวลกับปญหานี เพราะสายไฟหรอื สายเคเบลิ ทกุ ชนดิ ถกู นาํ ลงใต้ดนิ ทังหมด คณุ รคิ บอกวา่ นคี ือตัวเลือกทีดที ีสดุ สาํ หรบั การแก้ ปญหาต้นไมใ้ นเมอื งกับสายไฟ จรงิ อยูท่ ีการนาํ สายไฟลงดนิ ใชง้ บประมาณสงู แต่การ เก็บสายไฟไวบ้ นดนิ ก็ใชง้ บประมาณดแู ลสงู ไมต่ ่างกัน ไมว่ า่ จะเปนเรอื งของการซอ่ มแซม หรอื การดแู ลตัดแต่งต้นไม้ ยงั ไมน่ บั รวมปญหาทีเกิดขนึ บอ่ ยกวา่ เมอื งปลอดรถยนต์แหง่ แรกในประเทศ ในเมอื งเต็งกาห์ ทีบนถนนจะไมม่ รี ถวงิ แต่ให้ ไปวงิ เสน้ ทางใต้ดนิ แทน เพอื ปองกันมลพษิ จากท่อไอเสยี ลอยขนึ สชู่ นั บรรยากาศ สง่ เสรมิ การเดนิ ทางดว้ ยจกั รยานและขนสง่ รถไฟฟา มที างสาํ หรบั จกั รยานและรถไฟฟาดี ๆ ผคู้ นสามารถเดนิ ทางขา้ มเมอื งไดส้ ะดวก เปนวธิ ที ีลดการเกิดมลพษิ ใหน้ อ้ ยทีสดุ แก้ปญหาขอ้ จาํ กัดของพนื ทีดว้ ยการออกแบบ สงิ คโปรก์ ็ไมต่ ่างจากกรงุ เทพฯ คือมี พนื ทีจาํ กัด หลายครงั นกั ออกแบบต้องเผชญิ ปญหาวา่ อยากปลกู ต้นไม้ แต่ไมร่ จู้ ะไป หาทีปลกู ตรงไหน ปญหานแี ก้ไดด้ ว้ ยการวางแผนและการออกแบบทีดี สถาปนกิ และ รกุ ขกรจะทํางานรว่ มกันตังแต่ขนั ตอนการออกแบบอาคาร
OVERALL OF SINGAPORE ประเทศสงิ คโปรโ์ ดยรวมนนั เปนศูนยก์ ลางพาณชิ ยส์ าํ คัญของโลกแหง่ หนงึ โดยเปน ศูนยก์ ลางการเงินใหญส่ ดุ เปนอันดบั สี เศรษฐกิจซงึ เปนโลกาภิวฒั นแ์ ละมคี วามหลากหลาย อาศัยการค้าเปนหลัก โดยเฉพาะอยา่ งยงิ การผลิต ซงึ คิดเปนประมาณ 30% ของจดี พี ขี อง สงิ คโปร์ ซงึ สงิ คโปรม์ รี ายไดต้ ่อหวั สงู สดุ เปนอันดบั สามของโลก และประเทศสงิ คโปรไ์ ดร้ บั การจดั อันดบั สงู ในแง่การศึกษา สาธารณสขุ และความสามารถการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกิจ แม้ สงิ คโปรจ์ ะมคี วามหลากหลาย แต่เชอื ชาติเอเชยี มมี ากทีสดุ 75% ของประชากรเปนชาวจนี โดยมชี นกล่มุ นอ้ ยทีสาํ คัญ เชน่ ชาวมลายู ชาวอินเดยี และชาวยูเรเชยี สงิ คโปรม์ ภี าษาราชการ สภี าษา คือ ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู ภาษาจนี กลาง และภาษาทมฬิ และประเทศสนบั สนนุ พหุ วฒั นธรรมนยิ มผา่ นนโยบายทางการต่าง ๆ อีกดว้ ย
กั ม พู ช า !
การพฒั นาทางการเมอื ง การเมอื งในระบบรฐั สภาของราชอาณาจกั รกัมพชู ามวี ิวิฒนาการทางการเมอื งในระบบรฐั สภาในระยะเวลา กว่า 70 ป (ค.ศ. 1954 - ปจจบุ นั ) มคี วามเปนไปอยา่ งไมร่ าบรนื หลังจากการได้รบั เอกราชจากฝรงั เศส เนอื งจากมี การ เปลียนแปลงระบบและโครงสรา้ งของระบบการเมอื งรฐั สภาหลายครงั จากปญหาและอปุ สรรคทงั ในและนอก รฐั สภามากมาย จนกระทงั นานาชาติได้เขา้ ไปจดั ระบบการเมอื งรฐั สภาใหก้ ับกัมพชู าเมอื ค.ศ. 1993 การเปลียนแปลงทางการเมอื งของกัมพชู านบั ตังแต่ปค.ศ.1970ทาํ ใหก้ ัมพชู ากลายเปนประเทศทมี สี งคราม กลาง เมอื งเหมอื นกับในลาวและในเวียดนามขณะเดียวกันก็เปนการขยายสมรภมู ขิ อง“สงครามเวียดนาม”เขา้ มาใน กัมพชู า อีกด้วย ในป ค.ศ. 1970 นายพลลอน นอล ได้สถาปนาสาธารณรฐั เขมรและกําหนดใหเ้ รยี กชอื ประเทศว่า “รฐั กัมพชู า” แล้วสถาปนาตนเองขนึ ดํารงตําแหนง่ ประธานาธิบดี การบรหิ ารประเทศเปนไปแบบเผด็จการทหาร เบด็ เสรจ็ เกิด ปญหาทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ในกองทพั ของกัมพชู า ต่อมามกี ารเปลียนแปลงอีกครงั ในยคุ เขมรแดง เรอื งอํานาจ กองกําลัง ลัทธิคอมมวิ นสิ ต์กัมพชู า ซงึ หลังจากบกุ ยดึ กรงุ พนมเปญและโค่นล้มอํานาจระบอบลอน นอล ได้สาํ เรจ็ ได้เปลียนชอื ประเทศมาเปนกัมพชู าประชาธิปไตย (ค.ศ. 1975-1979) เขมรแดงถือเปนตัวแทนความสาํ เรจ็ ของพรรคการเมอื ง ฝายคอมมวิ นสิ ต์ในกัมพชู าจากนนั ได้มกี ารสถาปนาชอื ประเทศใหมว่ ่า “สาธารณรฐั ประชาชนกัมพชู า” โดยมี นายเฮง สมั รนิ เปนประธานาธิบดี และนายฮนุ เซน เปนนายกรฐั มนตรี ในทา้ ยทสี ดุ สภาแหง่ ชาติได้ยกเลิกรฐั ธรรมนญู 1993 และประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู 1993 โดยเปลียนชอื ประเทศจาก “สาธารณรฐั ประชาชนกัมพชู า” มาเปน “รฐั กัมพชู า”ใน ทสี ดุ ถือเปนการปดฉากระบบสาธารณรฐั แบบสงั คมนยิ มในกัมพชู าและการถอดถอนอิทธิพลของเวียดนามรฐั แหง่ กัมพชู า
การพัฒนาทางเศรษฐกิจ รฐั บาลกัมพชู ามนี โยบายสนบั สนนุ ใหม้ กี ารลดภาษีนาํ เขา้ สนิ ค้าวัตถดุ ิบทใี ช้ ในการผลิตแอลกอฮอล์ เพอื ฆา่ เชอื ใชใ้ นด้านสาธารณสขุ ในชว่ งสถานการณ์ โควิด 19 เพอื ใหผ้ ผู้ ลิตในประเทศสามารถผลิตสนิ ค้าเพอื ตอบสนองความ ต้องการในประเทศได้ ซงึ การลดภาษีนาํ เขา้ นจี ะเปนโอกาสใหก้ ล่มุ ผผู้ ลิต สนิ ค้าในกล่มุ ดังกล่าวสามารถสง่ ออกได้มากขนึ ในชว่ งนี สาํ หรบั กล่มุ สนิ ค้าทไี ด้รบั การลดภาษีนาํ เขา้ และภาษีสรรพสามติ อาทเิ ชน่ สนิ ค้าทใี ชเ้ ปนวัตถดุ ิบในการผลิตสนิ ค้าอาหาร เครอื งดืม และอตุ สาหกรรม สงิ ทอ
ตัวอยา่ ง นโยบาย กล่มุ สนิ ค้าทไี ด้ลดภาษีนาํ เขา้ กล่มุ สนิ ค้าทไี ด้ลดภาษีสรรพสามติ 1.กล่มุ สนิ ค้าทเี ปนวัตถดุ ิบในการผลิตสนิ ค้าอาหาร 1.สนิ ค้าประเภทนามนั ทใี ชใ้ นอตุ สาหกรรมสงิ ทอ และเครอื งดืมและระบบ Solarได้ลดภาษีนาํ เขา้ เครอื งล้างจาน และจกั รยานยนต์ ลดภาษีนาํ จากรอ้ ยละ 7 เหลือรอ้ ยละ 0 เขา้ จากรอ้ ยละ 10 เหลือรอ้ ยละ 0 2.สนิ ค้าอปุ กรณแ์ ละเครอื งจกั รดัดแปลงทใี ชใ้ น 2.สนิ ค้าเครอื งใชไ้ ฟฟาในบา้ น ประเภทต้เู ยน็ ตู้ การผลิตสนิ ค้าต่าง ๆ เปนต้น ลดภาษีนาํ เขา้ จาก แช่ ลดภาษีนาํ เขา้ จากรอ้ ยละ 10 เหลือรอ้ ยละ รอ้ ยละ 15 เหลือรอ้ ยละ 0 5 3.สนิ ค้าทเี ปนอปุ กรณแ์ ละเครอื งจกั รดัดแปลง 3.สนิ ค้าประเภทนามนั เครอื งทใี ชก้ ับเครอื งจกั ร สาํ คัญทใี ชใ้ นการผลิตสนิ ค้าต่างๆเปนต้น จาํ นวน อตุ สาหกรรม ลดภาษีนาํ เขา้ จากรอ้ ยละ 25 60 รายการ ลดภาษีนาํ เขา้ จากรอ้ ยละ 15 เหลือ เหลือรอ้ ยละ 0 รอ้ ยละ 7 4.สนิ ค้าประเภทแอลกอฮอล์ฆา่ เชอื โรคทใี ชใ้ น 4.สนิ ค้าประเภทเอทลิ แอลกอฮอล์เกลือและ ด้านสาธารณสขุ ลดภาษีนาํ เขา้ จากรอ้ ยละ 35 เครอื งประดับนงุ่ หม่ ลดภาษีนาํ เขา้ จากรอ้ ยละ เหลือรอ้ ยละ 0 35 เหลือรอ้ ยละ 7 5.สนิ ค้าประเภทเอทลิ แอลกอฮอล์ไมแ่ ปลงสภาพ 5.สนิ ค้าประเภทผงโกโก้ เอทลิ แอลกอฮอล์ และ ทมี รี ะดับแอลกอฮอล์ตังแต่ 80% ขนึ ไป ลด cookers ลดภาษีนาํ เขา้ จากรอ้ ยละ 35 เหลือ ภาษีนาํ เขา้ จากรอ้ ยละ 35 เหลือรอ้ ยละ 15 รอ้ ยละ 15
การพฒั นาสงั คมของกัมพชู า รฐั บาลกัมพชู ามนี โยบายทสี าํ คัญต่างๆ ซงึ ล้วนแล้วแต่มจี ดุ มงุ่ หมาย 3. การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ยแ์ ละสงั คม (Human and social ใหก้ ัมพชู าก้าวเดินไปสกู่ ารพฒั นาและความเจรญิ ก้าวหนา้ ทมี นั คง development) และยงั ยนื ในปนกี ็เชน่ กัน เพอื ใหก้ ารดําเนนิ งานในแผนงานต่างๆ 3.1 ลดความยากจนและความเหลือมลาทางสงั คม (Poverty and เปนไปอยา่ งต่อเนอื ง รฐั บาลกัมพชู าจงึ ใหค้ วามสาํ คัญอยา่ งสงู สดุ ต่อ Inequality) ลดความยากจนใหเ้ หลือนอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 20 ของจาํ นวน การกําหนดยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาสงั คมของประเทศ เพอื มงุ่ ขจดั ประชากรทงั หมด ความยากจน ยกระดับคณุ ภาพชวี ิตและความเปนอยขู่ องประชาชน 3.2 การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ โดยเฉพาะด้านการศกึ ษาและ โดยเฉพาะในพนื ทชี นบทใหด้ ีขนึ โดยแผนพฒั นาสงั คมแหง่ ชาติของ สาธารณสขุ (Education,health, water and sanitation) บรรลเุ ปา ประเทศกัมพชู า(National Strategic Development Plan - NSDP) หมายการพฒั นาแหง่ สหสั วรรษของสหประชาชาติ (Cambodia's ชว่ งระหว่างป พ.ศ. 2557 - 2561 จะเปนกรอบในการดําเนนิ Millennium Development Goals - CMDGs) นโยบายสาํ คัญต่างๆ โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ 8 ประการ สรปุ สาระสาํ คัญ 3.3 พฒั นาสงั คมและวัฒนธรรม (Socio-cultural development) ได้ ดังนี รกั ษาวัฒนธรรมและมรดกทางวัฒนธรรมเขมร 1. ยดึ หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) โดยมงุ่ เนน้ 4. สรา้ งเสรมิ สภาพแวดล้อมทเี อืออํานวยต่อการพฒั นาประเทศ เสถียรภาพทางการเมอื ง พฒั นาภาคเอกชนและสนบั สนนุ การสรา้ ง (Environment) โดยมเี ปาหมายในการเพมิ พนื ทปี าไมใ้ หไ้ ด้รอ้ ยะ 60 งานโดยมงุ่ พฒั นาและนาํ ประเทศไปสกู่ ารเติบโต การลดอัตราการ ของพนื ทปี ระเทศ ว่างงาน ความเทา่ เทยี มกัน และความมปี ระสทิ ธิภาพ รวมทงั เกือกลู 5. ประเด็นอืนๆ (Crosscutting issues) ซงึ เกียวขอ้ งกับเพศสภาพ ต่อการปฏิรปู ทางการเมอื ง และความรว่ มมอื กันอยา่ งเปนระบบ สงิ แวดล้อม และทรพั ยากร ธรรมชาติ เพอื สนบั สนนุ การสง่ ออก ระหว่างพรรครว่ มรฐั บาล สนิ ค้าและการสรา้ งงานในประเทศหลังเกิดปญหา 2. วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (Science and technology) สรา้ ง วิกฤตการณท์ างเศรษฐกิจ โดยการสรา้ งค่านยิ มด้านสทิ ธิของแรงงาน แรงงานทมี ที กั ษะ เพอื รองรบั การเขา้ สกู่ ารเปนประชาคมอาเซยี น และการปกปองสงิ แวดล้อมผา่ น การค้าระหว่างประเทศภายใต้กรอบ Trans-Pacific Partnership (TPP) นนั ประกอบไปด้วยขอ้ ตกลง รอบด้านทงั สนิ ค้า บรกิ ารและการลงทนุ
การพฒั นาทางสงิ เเวดลอ้ ม สาํ หรบั ปญหาสงิ แวดล้อมของกัมพชู านนั เราอาจระบไุ ด้ชดั เจนเลยว่า เปนผลกระทบจากการเปลียนแปลง ภมู อิ ากาศ (Climate Change) ซงึ เปนประเด็นรอ้ นแรงมากๆ ในโลกปจจบุ นั ของเรา ชนดิ ทไี มม่ ใี ครไมร่ จู้ กั สาํ หรบั เรอื งโลกรอ้ นในกัมพชู านนั เราจะเหน็ ปรากฏการณท์ เี กิดขนึ หลายๆ อยา่ งทคี ล้ายๆ กับหลายประเทศ เชน่ นาทว่ ม ภัยแล้ง ฟาผา่ และทสี าํ คัญคือ เชอื โรคในเขตรอ้ น สาํ หรบั นาทว่ มนนั ก็เกิดจากสองสาเหตคุ รบั คือ ปรมิ าณนาในแมน่ าโขงกับโตนเลสาป และปรมิ าณฝนตกชกุ จากพายุ ซงึ เกิดขนึ ในพนื ทหี ลายจงั หวัดของกัมพชู า ถ้าทา่ นมแี ผนทกี ัมพชู าลองหยบิ ขนึ มา จะเหน็ ได้ชดั ว่า จงั หวัดทเี กิดนาทว่ มจะเปนพนื ทรี อบโตนเลสาป อาทิ Siam Reap, Kampong Tom, Kampong Chheang, Kampong Speu ฯลฯ และพนื ทที แี มน่ าโขงไหลผา่ น อาทิ Stung Treng, Kratie, Kampong Cham ฯลฯ สาํ หรบั ปญหาฟาผา่ นนั ผมว่าเปนเรอื งทนี า่ สนใจมาก คณะกรรมการระดับชาติว่าด้วยการจดั การภัยพบิ ตั ิเปด เผยตัวเลขของผเู้ สยี ชวี ิตเพราะถกู ฟาผา่ ว่ามจี าํ นวนถึง 140 คน ในป 2009 เพมิ ขนึ จากป 2008 ถึง 50% (ป 2008 มจี าํ นวน 95 คน)ซงึ คณะกรรมการดังกล่าวก็ลงความเหน็ ว่า ทเี กิดฟาผา่ มากขนึ นนั เปนเพราะ โลก มอี ณุ หภมู สิ งู ขนึ และปาไมถ้ กู ทาํ ลายมากขนึ นนั เอง
สมาชกิ ม.6/3 ลาว เมยี นมาร์ สงิ คโปร์ อินโดนเิ ซยี กัมพูชา วาสกุ าญจน์ #1 ภาณนิ นชุ #15 สริ ภิ ัสสร # 33 ณฐั ณชิ า#2 วสวุ ี #35 (การพฒั นาดา้ นสงั คม) (ขา่ วดา้ นการเมอื ง) (รวบรวม,ทําสไลด)์ (ขา่ วดา้ นการพฒั นาดา้ นสงิ แวดล้อม) (การพฒั นาดา้ นสงิ แวดล้อม) พราวพชิ ชา #11 สภุ ัควนั #22 ธชั นนั #39 กันติชา #10 ยศี #43 (ขา่ วดา้ นสงิ แวดล้อม) (ขา่ วดา้ นสงิ แวดล้อม) (ขา่ ว,การพฒั นาดา้ นสงิ แวดล้อม) (ขา่ วดา้ นการพฒั นาดา้ นสงั คม) (การพฒั นาดา้ นการเมอื ง) สทุ ธภา #12 อภิชญา #30 พรพชร #41 ชญั ญา #27 ภัทรนนั ท์ #44 (ขา่ วดา้ นการเมอื ง) (ขา่ ว,การพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ) (การพฒั นาดา้ นสงั คม) (การพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ) (ภาพโดยรวมของประเทศ) ปุญญศา #13 ภัทรวรรณ #32 ญาณศิ า #51 พชิ ชานนั ท์#42 ชุติกาญจน์ #47 (การพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ) (ขา่ ว,การพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ) (ขา่ ว,การพฒั นาดา้ นการเมอื ง) (ขา่ วการพฒั นาดา้ นการเมอื ง) (การพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ) ฝนนที #20 บุญสติ า #53 วชั ราวดี #52 วชั รศิ า #48 (การพฒั นาดา้ นการเมอื ง) (การพฒั นาดา้ นสงั คม) (การพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ) (การพฒั นาดา้ นสงั คม) นรมน #21 (การพฒั นาดา้ นสงิ แวดล้อม) บวั บูชา #24 (การพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ)
แหล่งอ้างอิง ลาว เมยี นมาร์ สงิ คโปร์ อินโดนเิ ซยี กัมพูชา (ขา่ วด้านสงิ แวดล้อม) (การพฒั นาด้านเศรษฐกิจ) (การพฒั นาด้านเศรษฐกิจ) (การพฒั นาด้านเศรษฐกิจ) (การพฒั นาด้านเศรษฐกิจ) https://thestandard.co/laos-china-railway-land-link/ https://www.asean- https://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศสิงคโปร์ https://thaipublica.org/2013/01/indonesia-mp3ei-2/ https://www.wice.co.th/2021/01/14/cambodia-tax- http://tic.car.chula.ac.th/tic-news/item/36466-2015- info.com/asean_members/myanmar_economics.html# adjustment/ 01-27-01-25-04 :~:text=เมียนมาร์เปน,พืชเมอื งรอ้ นอืนๆ (การพฒั นาด้านการเมอื ง) (การพฒั นาด้านการเมอื ง) https://miu.isit.or.th/box/AEC/4/พมา่ .pdf (การพฒั นาด้านการเมอื ง) (ขา่ วด้านการเมอื ง) https://youtu.be/iPFOQlPGqYk https://so07.tci- https://prachatai.com/journal/2011/06/35615 https://youtu.be/DtZX7OluM thaijo.org/index.php/RJL/article/download/476/372/1759 https://so05.tci- #12https://thaipublica.org/2023/01/new-prime- (การพฒั นาด้านสงั คม) thaijo.org/index.php/RJPJ/article/download/244476/ minister-of-laos/ (การพฒั นาด้านการเมอื ง) (การพฒั นาด้านสงิ แวดล้อม) 168694/870141 http://www.dooasia.com/info-indonesia/สภาพทาง (การพฒั นาด้านเศรษฐกิจ) https://plus.thairath.co.th/topic/spark/102745 https://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศสิงคโปร์ สังคมอนิ โด/ (การพฒั นาด้านสงิ แวดล้อม) https://www.bbc.com/thai/international-62378654 https://www.asean- https://workpointtoday.com/explainer-myanmar/ (การพฒั นาด้านสงั คม) (การพฒั นาด้านสงิ แวดล้อม) https://www.google.co.th/url? info.com/asean_members/lao_economics.html https://www.infoquest.co.th/2021/64380 sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=&ved= https://www.bbc.com/thai/articles/c3g11vv0eypo https://edoc.parliament.go.th/getfile.aspx? https://www.sac.or.th/databases/southeastasia/su https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parlia https://www.google.co.th/url? id=611307&file=กว่าจะมาเปน...สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี bject.php?c_id=8&sj_id=66 ment_parcy/ewt_dl_link.php? sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=&ved=2ahUK (การพฒั นาด้านการเมอื ง) นมาร.์ docx&download=1 nid=77017&filename=index Ewigj7zbsNP_Ah https://thaipublica.org/2022/02/sustainability4all06 https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/ac/ewt (การพฒั นาด้านสงิ แวดล้อม) / https://www.sdgmove.com/2021/04/17/sdg- (การพฒั นาด้านสงั คม) _dl_link.php?nid=3876&filename=parsystem2 insight-neighbour-watch-indonesia-rights-for- http://tic.car.chula.ac.th/tic-news/item/36466-2015- clean-air/#footnote11 https://www.thai-german- https://www.neda.or.th/home/uploads%20- (การพฒั นาด้านสงั คม) 01-27-01-25-04 cooperation.info/th/indonesia-launches-green- %20Copy/news/29201582819-bp0pX1M3.pdf public-procurement-gpp-nationwide-promotion/ https://www.bbc.com/thai/articles/c3g11vv0eypo (การพฒั นาด้านสงั คม) https://projecttt563.wordpress.com/%E0%B8%AD% E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E% E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81% E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B %E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9 7%E0%B8%A8%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8% B2%E0%B8%8A/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8 %8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%AB%E0%B 8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B 8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: