Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวยหุ้นด้วยกราฟ

รวยหุ้นด้วยกราฟ

Published by DPD E-Lidrary, 2020-06-21 10:45:56

Description: รวยหุ้นด้วยกราฟ

Search

Read the Text Version

คาํ นาํ นักลงทุนในบานเรา สามารถแบงออกเปน 2 กลุมใหญๆโดยแบงตามวิธีคิดและ วิธีการลงทุน ไดแก นักลงทุนระยะยาว ( Value Investors ) โดยนักลงทุนประเภทนี้จะ ลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในรูปเงินปนผล และมูลคาของหุนในอานาคต ไมคอยให ความสําคญั กบั ราคาหุนที่ข้ึนๆลงๆในแตละวนั เทา ไรนกั สวนนักลงทุนอีกประเภทหนึ่งคือ นักลงทุนระยะส้ันถึงกลาง ( Technical Investors ) เปนนักลงทุนที่หวังผลตอบแทนในรูปผลตางของราคาหุน ( Price gaining ) นักลงทุนประเภทนี้ จะใหค วามสําคญั กับราคาหุนมากกวา เงินปน ผล เนื้อหาของหนังสือเลมน้ีถูกออกแบบมาสําหรับนักลงทุนประเภท technical investors โดยแบงเน้อื หาออกเปน 3 สวน ไดแก สว นที่ 1 ความรเู บ้ืองตน ในการวเิ คราะหห ุน ดวยเทคนคิ ( technical analysis ) สวนที่ 2 ความรเู รอ่ื ง Elliott Wave สวนที่ 3 แนะนาํ โปรแกรม RicherStock ขอ แนะนําในการใชห นงั สือเลมนี้ใหเกดิ ประโยชนสูงสดุ ผอู านหรือผูใชหนังสือเลมน้ี ควรอานและทําความเขา ใจในหมวดที่ 1 และ หมวดท่ี 2 กอนตามลําดับ หลังจากเขาใจ พ้ืนฐานดานเทคนิคแลว ขอแนะนําใหอานหมวดที่ 3 ตอไป ซึ่งเปนหมวดที่แนะนํา โปรแกรม RicherStock ซ่งึ เปนโปรแกรมสําเรจ็ รปู ในการวิเคราะหหุนดานเทคนิค และเปน โปรแกรมท่ีชวยใหนักลงทุนบริหารความเส่ียงในการลงทุนและสรางความม่ันใจในการ ลงทุนมากยิ่งขน้ึ ดวยความปรารถนาดี RicherStock.com [email protected]

สาสรารบบัญัญ สว นที่ 1 ความรเู บ้อื งตนในการวิเคราะหห ุนดา นเทคนิค (Basic Technical Analysis) วฎั จกั ร (Cycle) รายละเอียดของสภาวะตางๆ แนวโนม ทิศทางราคาหนุ (Trend) แนวโนม ขาข้นึ (uptrend) แนวโนมขาลง (downtrend) แนวโนมทรงตัว (sideway) คา เฉล่ยี เคลอ่ื นที่ (Moving Average) ประโยชนของ Moving Average เคลด็ ลบั ในการพชิ ิตหุน รายละเอยี ดของเคลด็ ลบั ในการพิชิตหนุ 1.เลือกหนุ พื้นฐานดี (Fundamental Analysis) 2. เขาตลาดใหถกู จังหวะ 3. ตดั ขาดทนุ 4. ปลอยใหราคาหนุ วงิ่ 5. เลน ตามกระแส 6. อยาซอ้ื เฉล่ีย ถา ราคาหนุ ตก

สว นที่ 2 ความรเู รื่อง คลน่ื อเี ลยี ต (Elliott Wave Theory) Elliott Wave Basic Impulse Pattern Corrective Pattern Suggestion สว นที่ 3 แนะนาํ โปรแกรม RicherStock เก่ียวกับโปรแกรม Richerstock เร่ิมตน ที่ www.richerstock.com หนา login การใชงานกราฟหนุ (Stock Chart) เมนู Chart Type เมนู Time เมนู Lower Indicator-1 เมนู Lower Indicator-2 เมนู Lower Indicator-3 เมนู “ ตารางเครื่องหมายซอื้ ขาย ” กตกิ าการเลนหนุ วิธเี ลนหนุ ใหปลอดภยั ดวยกราฟ richerstock วิเคราะหกราฟหนุ และวธิ กี ารเลน หนุ ใหป ลอดภยั ฟงกชน่ั คนหาหุน สามเหลย่ี มกลวง





ความรูเบอ้ื งตนในการวิเคราะหหนุ ดานเทคนิค Basic Technical Analysis วฏั จักร (Cycle) ถาหากคุณรูวาราคาหุนมีพฤติกรรมอยางไร ขึ้นเม่ือไหร ลงเม่ือไหร แนนอนทีเดียววา คุณยอมมีชัยไปกวาครึ่งแลว แตปญหาท่ีพบเจอน้ันคือ เราไมรูรูปแบบ (pattern) ของราคาหุนอยางถูกตองรอยเปอรเซ็นต เนื่องจากราคาหุนมันข้ึนลงตามจิตวิทยาการลงทุน มันไมมีสูตรสําเร็จ เหมอื นสูตรคณิตศาสตรท ่ัวไป แตก ใ็ ชวา เราจะไมส ามารถคาดคะเนรปู แบบ (pattern) ราคาหนุ ไดเสีย ทเี ดยี ว มีนักวิเคราะหท้ังไทยและเทศไดเฝาดูรูปแบบ (pattern) ของราคา หุนหลายรอ ยตัวหรืออาจจะหลายพันตัวแลวตงั้ ขอสรุปวา pattern ราคาหุน มนั เปน วัฏจักร ( CYCLE ) รูปแบบ ( pattern ) ราคาหุนมันมีพฤติกรรมเปนวัฏจักร (cycle) ท่ี ประกอบดวย 4 สภาวะ ( state ) ซึ่งผมขออนุญาตเปรียบเทียบวัฏจักร (cycle) ที่วานี้ใหดูงายขึ้น โดยเปรียบเทียบกับการเดินทางดวยเคร่ืองบิน ดงั น้ี

รายละเอียดของสภาวะตา งๆ 1. เตรียมพรอม เปนชวงท่ีเคร่ืองมีความพรอมสูง นํ้ามันเต็มถัง ขุมพลังมหาศาล พรอมท่ีจะทะยานข้ึน ถา เปรยี บเทียบกบั ราคาหนุ แลวความหมายมันเปน ดังนี้

Ø มีการเก็บสะสมหุน เพราะผูท่ีซื้อเก็บสะสมคิดวาชวงนี้ราคาหุนถูก การท่ีนักลงทุนมองวาหุนท่ีมีราคาถูกนั้น มีวิธีการดูไดหลายอยาง เชนหากใชขอมูลพื้นฐานของหุน ( fundamental analysis ) ก็ สามารถดูไดจากอัตราสวนทางการเงินเชน P/E ratio, P/BV ratio, Dividend yield เปนตน แตถาพิจารณาดานเทคนิค ( technical analysis ) นกั ลงทุนก็จะมองวา ณ เวลานั้น หุน ตวั ทเ่ี ราพจิ ารณาน้ัน ถกู ขายออกมามากเกนิ ไปหรอื ไม ( oversold ) Ø ชว งนีจ้ ะมีการซอื้ การขายเกดิ ขึ้นเปน ระยะๆหลายๆรอบ Ø รอขา วดี ขา วปลอ ย หรือขา วลือ เปนตวั เรงกระทงุ หนุ ใหทะยานขึ้น 2.ทะยานข้ึน เปน ชว งทเ่ี ครือ่ งทะยานขน้ึ จากลานวิ่ง ลอเครื่องบินเริ่มพับเก็บ ชวงน้ีนักบิน ตอ งอดั กําลงั เครอ่ื งเตม็ ทีเ่ พ่ือเอาชนะแรงโนมถวงของโลก เปรียบกับการซื้อ ขายหุน ชว งนเ้ี ปน ดังนี้ Ø Demand หรือความตอ งการในการซ้ือหุนมีมาก ราคาเทา ไหรก ซ็ ้อื Ø Demand จะมากกวา Supply ทาํ ใหร าคาหนุ ทะลแุ นวตา น ( resistance ) ขนึ้ ไป

Ø ชว งขณะทร่ี าคาหนุ ทะลแุ นวตาน จะเปนท่ีนาสนใจของนักลงทนุ อน่ื ๆ ทําใหเกดิ demand มากยง่ิ ข้นึ 3.รักษาระดับ เมื่อเครอ่ื งทะยานข้ึนบนทองฟา ไดร ะดับเพดานบินทีป่ ลอดภัยแลว เคร่ืองก็จะ ทาํ การบนิ รักษาระดบั เปรยี บกับการเลน หุนไดดังนี้ Ø เมือ่ ราคาหุนไดขึ้นมาถงึ จดุ ท่นี กั ลงทนุ ตา งก็เริ่มมีความคิดตรงกันวา ราคาเรม่ิ สูงหรอื แพงแลว กจ็ ะทยอยขายกนั ออกมา Ø มีนกั ลงทุนบางคนหรอื บางกลุมทย่ี งั มคี วามเช่ือวา ราคาหุนนาจะวิ่ง ข้นึ ไปไดอกี ก็จะทยอยรบั ซื้อหนุ ไว Ø ชวงนจี้ ะมีการซ้ือการขายเกดิ ขนึ้ เปน รอบ Ø บางคร้ังชว งนี้อาจจะใชเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห แตก็มีบาง เหมอื นกันที่ชว งน้ีอาจจะกินเวลาแคว นั เดียว Ø ชวงน้ีเปนชวงทตี่ อ งใหความระวังและความสนใจเปนอยางยิง่ เพราะ ถาราคาหุนมันไมสามารถทะยานหรือไตระดับขึ้นไปไดอีกนักเก็ง กําไรทเ่ี ขาตลาดชว งน้กี เ็ ริ่มปลอ ยหุนออกมาเพื่อไปเลน ตัวอนื่

4.ลดระดับ เ มื่อใกลถ งึ จุดหมายนกั บินก็เร่ิมลดระดับการบินใหตา่ํ ลง เพอ่ื ลงจอดยงั ลาน บินตามที่หมาย เปรียบการเลน หุนไดด ังน้ี Ø เม่ือราคาหนุ มาถึงจดุ สงู และมีการ ซือ้ ขาย (Trade) กนั หลายรอบทาํ ใหน ักลงทุนท่ีเขา มาซือ้ หนุ ชว งน้ีเรม่ิ เกดิ ความกังวล ระสาํ่ ระสา ย หงุดหงิด และเม่ือราคาหุนขยับข้ึนมาบา งก็เริ่มขายออกมา Ø เมื่อราคาหุนผา นแนวรับลงมา จะเกิด Supply มากกวา Demand ทาํ ใหเกิดการเทขายกนั ออกมามาก Ø อตั ราการลงของราคาหุนจะลงเรว็ กวา อตั ราการข้ึนของราคาหนุ ในชว งท่รี าคาหุนทะยานขน้ึ

รปู ที่ 1. ตัวอยา งวฏั จักรราคาหุน ชว งตรยี มพรอ ม : ชวงนี้มีการซ้ือขายกันท่ีหมายเลข 1,2,3,4 โดยเสนตรงดานบนท่ีเชื่อมระหวางจุด 1,3,5 เรียกวา แนวตาน ( resistance ) สวนเสนลาง คือเสน แนวรับ ( support ) ซง่ึ การซอ้ื ขายในชวง นจี้ ะอยรู ะหวางแนวรบั และแนวตาน

ชว งทะยาน : เมือ่ มีขา วดี หรือขาวลือ หรือขาวปลอย เขา ชว งรักษาระดับ มาในตลาด จะทําใหเกิด demand อยางมาก ทําใหราคาหุนทะลุแนวตานท่ีจุด 5 ข้ึนไป และ ทะยานข้ึนไปเรื่อยๆ เม่ือราคาหุนมาที่จุด 6 ตอนน้ีแหละสําคัญเหมือนกัน เพราะนักลงทุน หรือนักเก็งกําไร เริ่มมองเห็นความแรงของหุน ตวั น้ี และกลัววา ตนเองจะเขาซ้ือชาไป หรอื ศัพท ท่เี ซยี นหุน ทงั้ หลายเรียกว ตกขบวนรถไฟ ก็เลย พากันเฮโลกนั เขามากันอยางสนุกสนาน : เม่ือราคาหุนทะยานมาถึงจุด 8 นักลงทุนก็ เริ่มขายหุน และอีกเชนกัน ก็มีนักลงทุนบางคน หรือบางกลุมที่ยังมีความเช่ือวาราคาหุนนาจะ ไปไดอีก ก็เลยต้ังแถวรอซ้ือเมื่อราคาหุนตกลง มา ลักษณะน้ีจะเกิดการซ้ือขายหลายรอบ ทีเดียว คอื ระหวางจุด 8,9,10,11,12,13,14 เกิด แนวตานและแนวรับ เม่ือราคามันไมสามารถ ทะลุแนวตานไปไดอยางท่ีคาดคิด นักลงทุนท่ี เงินรอน หรือนักลงทุนท่ีเลนส้ันรอไมไหว ก็เร่ิม ขายหุนทิ้ง นักลงทุนกลุมท่ีรอไมไหวก็จะเปน กลุมท่ีจะเจาะลูกโปรงท่ีมันอัดลมแนนมานาน

ชว งลดระดับ ใหระเบิดออกมา หมายถึงทําใหนักลงทุนอ่ืนๆ เกดิ อาการตระหนกตกใจ รีบขายหุนออกตามๆ กัน ทําให Supply มากกวา Demand ราคาหุน กเ็ ลยทะลผุ านแนวรบั ทีจ่ ุด 15 ลงมา : เมอื่ เกดิ อาการตกใจและนักลงทนุ เร่ิมเทขาย หุนออกมา บางคนกก็ ําไร บางคนกข็ าดทุน แตก็ ตองขายเพราะมันเกิดอาการ panic และขอให จําใหขึ้นใจวา อาการตกใจมันรายแรงกวา อาการดีใจ การเทขายหนุ ของนกั ลงทนุ จะเทขาย หุนโดยใชเวลาอันรวดเร็วกวาการทะยอยซอื้ หุน ดงั น้ันนกั ลงทนุ ทกุ ทา นคงมองภาพรวมของราคาหนุ วามันมีพฤติกรรม อยางไรไดพอสมควร เม่ือคุณรูวัฏจักร (cycle)ของราคาหุนแลว ก็จะทําให คุณ Ø รสู ภาวะของตลาด ( market sate ) ณ เวลานัน้ ๆ Ø เขาหรือออกจากตลาดไดอยา งเหมาะสม Ø ทําการซือ้ หรอื ขายหุนไดอยา งมน่ั ใจ Ø ไมเกดิ อาการหวาดผวา

แนวโนม ทิศทางราคาหุน ( TREND ) Trend คือกราฟท่ีแสดงความเคล่ือนไหวของราคาหุนซ่ึงมีทิศทางท่ีเรา สามารถจะคาดคะเนไดกรณีท่ีราคาหุนไรทิศทางไมมีรูปแบบจะไมเรียกวา Trend ตามปกติจะมี 3 ลักษณะไดแ ก Ø Uptrend ( แนวโนมขาข้ึน ) Ø Downtrend ( แนวโนมขาลง ) Ø Sideway ( แนวโนม ทรงตวั ) แนวโนม ขาขึ้น (Uptrend) รูปที่ 2 – แสดงรูปแบบราคาหุน แบบ uptrend

ลกั ษณะ uptrend คือกราฟที่มีทศิ ทางข้ึนโดยราคาตํ่าของกราฟของวนั ลา สดุ จะสงู กวาราคาต่าํ ของวนั ทผ่ี า นมา และถา ลากเสนเช่อื มระหวางจดุ ราคา ต่าํ กจ็ ะไดเสนตรงที่มีทิศทางข้ึน ท้ังนก้ี ารลากเสน uptrend line นั้น จุด lower ควรมีตง้ั แต 2 จดุ ข้ึนไป แนวโนม ขาลง ( Downtrend ) รปู ที่ 3- แสดงรปู แบบราคาหนุ แบบ downtrend

ลกั ษณะ Downtrend คอื กราฟที่มีทศิ ทางลงโดยราคาสูงของกราฟของวนั ลาสดุ จะ ต่ํากวา ราคาสูงของวนั ท่ีผานมา และถา ลากเสนเชอื่ มระหวา งจดุ สงู กจ็ ะไดเ สน ตรงที่มี ทิศทางลง ทั้งนี้การลากเสน downtrend line นน้ั จดุ higher ควรมีตัง้ แต 2 จดุ ข้ึนไป แนวโนม ทรงตัว (Sideway) รูปท่ี 4- แสดงรปู แบบราคาหนุ แบบ sideway Sideway เปน ชวงพกั ไมวา จะเปนการพกั ในชวงขาขนึ้ หรือการพักในชวง ขาลงกไ็ ด เปรยี บเสมือนเวลาคนเดินหรอื ว่ิงข้นึ ทางชนั เม่อื วิ่งไปไดสักระยะหน่ึง

ก็เร่ิมหมดแรงและเปลี่ยนจากการว่ิงมาเปนการเดินเพ่ือเปนการพักใหหาย เหนอื่ ยกอ นที่จะวง่ิ ตอไป ในชวง sideway บางคร้ังเราก็เรียกวา trading range ไดเหมือนกัน เพราะชวงน้ีจะมีการซ้ือขายมี demand และ supply ตอบสนองกัน ดังน้ัน ลักษณะของ sideway จงึ มีทศิ ทางออกไปทางแนวราบ

คาเฉลยี่ เคลอื่ นที่ MOVING AVERAGE เปนการนําเอาราคาของหุนยอนหลังตามจํานวนวันท่ีเราตองการ พิจารณา นาํ มาหาคาเฉลย่ี เพ่อื ดทู ศิ ทางของราคาหนุ ณ วนั ทเ่ี ราพิจารณา เชน MA10 หมายถึง ราคาหุนยอนหลังจากวันที่เรากําลังพิจารณาไป 10 วัน เปน การนาํ เอาราคาแตละวนั มาเฉลีย่ กนั เหตทุ ่เี รยี กวาคาเฉล่ียเคลื่อนท่ีก็เพราะใน วนั ถดั ไปคาเฉลี่ยก็จะเปลยี่ นไปเชน กนั จาํ นวนวันที่นํามาหาคาเฉลี่ยเปนที่นิยมกันไดแก MA5, MA12, MA26, MA75, MA200 จํานวนวันจะบงบอกวาเปนการพิจารณาราคาในระยะสั้น กลาง หรอื ระยะยาว ทัง้ นก้ี ารเลือกใชคา MA น้ันขึ้นอยูกับนักลงทุนแตละคน ไมจาํ เปนตอ งใชคาตามทฤษฎี ซ่ึงบางคร้ังเราอาจจะใช MA5, MA15, MA30 ก็ได MA5, MA12, MA26 เปนเสนคาเฉลยี่ ระยะสั้น MA 75 เปน เสน คา เฉล่ยี ระยะกลาง MA200 เปน เสน คา เฉลย่ี ระยะยาว วธิ กี ารหาคาเฉลยี่ เคลอ่ื นทีน่ ยิ มทํากัน 2 แบบคือ 1.) Simple Moving Average ( SMA ) เปน การใหน้าํ หนักการเฉล่ีย เทาๆกัน

2.) Exponential Moving Average ( EMA ) เปนการใหน้ําหนกั ราคา คอ นมาทางเวลาใกลปจจุบันมากกวาราคาในชวงอดีต สวนสตู รการหา คา เฉลี่ยแบบ simple หรือ exponential โปรแกรมวเิ คราะหห ุนสว นใหญ ก็สามารถคาํ นวณและแสดงกราฟพรอมเสน MAได เชนโปรแกรม MetaStock แตสิ่งที่ผมอยากใหรับรูก็คอื การนํามนั ไปใชทาํ นาย หนุ มากกวาครบั ประโยชนของ Moving Average A.) สามารถบอกสภาวะตลาดไดวาเปน ภาวะตลาดกระทิง ( Bullish State) หรอื ภาวะตลาดหมี (Bearish State) โดยสงั เกตจากการเรียงตัวของเสน MA A.1) สภาวะตลาดกระทงิ ( Bullish State ) รปู ที่ 5 แถบเงาสีแดง แสดงสภาวะตลาดกระทิง ( Bullish State ) โดย สังเกตจากเสนคาเฉล่ียที่มีการเรียงตัวของเสน MA10(cyan) MA20 (blue) MA30 (red) โดยทีเ่ สน MA ระยะสั้นจะอยบู นสดุ และเสน MA ระยะยาวจะอยู ลางสุด ซึ่งในที่น้ีการเรียงตัวจากบนมาลางของเสน MA คือ MA10, MA20, MA30

รปู ท่ี 5- แสดงรปู แบบราคาหุน ภาวะกระทิงโดยใช Moving Average พจิ ารณา A.2 ) สภาวะตลาดหมี ( Bearish State ) รูปที่ 6 สภาวะท่ีเปนแถบสีแดงเปนสภาวะตลาดหมี (Bearish State) โดยสังเกตจากเสนคาเฉลี่ยที่มีการเรียงตัวของเสน MA26 (blue), MA12 (magenta) , MA5 (cyan) โดยทีเ่ สน MA ระยะยาวจะอยูบนสุด และเสน MA ระยะสั้นจะอยูลางสุด ซึ่งในที่นี้การเรียงตัวจากบนมาลางของเสน MA คือ MA26, MA12, MA5

รปู ที่ 6- แสดงรูปแบบราคาหนุ ภาวะตลาดหมีโดยใช Moving Average พจิ ารณา B.) สามารถใชเ สน MA ชว ยในการตดั สินใจซอ้ื หรอื ขายหนุ ได B,1 ) สัญญาณซื้อ ( Buy Signal ) เมื่อราคาหุนทะลุและอยูเหนือเสน MA เปนสัญญาณซื้อ จากตัวอยาง กราฟรูปที่-7 ใช MA26 วันเปนตัวพิจารณา เมื่อราคาหุนทะลุผานเสน MA26 และอยเู หนือเสน MA26 ได ลกั ษณะนเ้ี กดิ สญั ญาณซือ้ โดยทเ่ี ราสามารถเขาซื้อ หนุ ณ ระดับราคาจุดตัดไดแ ลย

รปู ที่ 7- แสดงการใชเ สน คา moving average ชวยในการกําหนดจุดซือ้ B.2 ) สัญญาณขาย ( Sell Signal ) เม่ือราคาหนุ ทะลุและอยูใตเสน MA จะเปนสญั ญาณขาย จากตัวอยา งรูปท-ี่ 8 เราใช MA26 วันเปน ตัวพจิ ารณา เม่อื ราคาหุน ทะลุผานเสน MA26 และอยูใ ต เสน MA26 ลงมา ลักษณะนี้เกดิ สัญญาณขายโดยท่ีเราควรจะขายหุนออก ณ ระดบั ราคาจุดตัดไดแลย

รปู ท่ี 8- แสดงการใชเสนคา moving average ชวยในการหาจุดขาย C).ใชเปน สัญญาณเตอื นวาจะเกิดการเปล่ียนแปลงของราคาหุนที่ รนุ แรง รปู ท่ี 9- แสดงการใชเสนคา moving average เตือนลว งหนา การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง

จากรูปที่ 8 เสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ MA5,MA12,MA26 มาบรรจบกัน ซึ่ง มันกาํ ลังสอื่ วา จะเกดิ เหตุการณท่ีรุนแรง (กวาปกติ ) ตัวอยางในรูปเสน MA ทั้ง สามเสนมาบรรจบกัน หลงั จากนั้นราคามนั ก็ดงิ่ ลงอยา งมาก การท่ีเสน คา เฉลี่ยเคล่ือนท่ีท้ัง 3 เสนมาบรรจบกันนั้น มันมีความหมาย วานักลงทุนกําลังตัดสินใจวา ราคาหุนมันจะว่ิงขึ้น หรือ ว่ิงลง ซ่ึงในดาน จติ วทิ ยาแลว กาํ ลงั บอกวา เหลานักลงทุนกาํ ลังวดั ใจกันวา จะวิง่ ตอ หรือจะขาย ท้ิง สําหรับนักลงทุนบางคน ก็จะใชเสนคาเฉลียเคลื่อนที่ ( moving average ) เพยี งตวั เดียวเปนเคร่ืองมอื ชว ยในการตัดสนิ ใจซือ้ หรือ ขายหนุ ซึ่งก็ เปน ทนี่ า พอใจในระดบั หนง่ึ เคล็ดลบั ในการพชิ ิตหุน เคล็ดลบั ในการเอาชนะตลาดหุน และสามารถทาํ เงนิ ในตลาดไดอยางนา พอใจ แตใ นความเปน จรงิ แลว นักลงทุน ( investors ) สวนมากจะรูและเขาใจ กฎ หรือเคล็ดลับนั้นๆ แตสุดทายแลวก็ไมสามารถทําตามเคล็ดลับนั้นได ดงั น้ันหากเรายึดเคล็ดลับหรือวิธีการลงทุน ท่ีเราคิดวาเปนรูปแบบ ( model ) ที่เหมาะสมกบั ตวั เราแลว ขอให ยดึ ถอื และปฏบิ ตั ิตามเคล็ดลับใหได -เลอื กหนุ พื้นฐานดี – -เขา ตลาดใหถกู จังหวะ- -ตัดขาดทนุ ถาหนุ ไมว ่ิง-

-ปลอยใหร าคาหนุ วงิ่ ถา ยงั มกี าํ ไร- -เลน ตามกระแส เพราะทวนกระแสมีแตเ จบ็ - -อยาซอ้ื เฉลยี่ ถาราคาหนุ ตก เพราะจาํ ทําใหย่ิงถลําลึก- เคล็ดลบั ทง้ั 6 ขอ น้ีรับรองไดว าสามารถเอาชนะตลาดไดแนนอน เพราะ ตวั มันเองคอนขาง simple มาก แตส่ิงที่ยากท่ีสุดก็คือตัวนักลงทุนนั่นเองที่ไม สามารถปฏิบัติตามกฎได ดังนั้นนักลงทนุ ตองมีความพรอมในการเลนหุน ส่ิงท่ี นักลงทนุ ควรมี หรอื ตองมคี อื - ตอ งมคี วามรูเร่ืองการลงทุน และ ความรเู รอ่ื ง Technical Analysis พอสมควร - ตองมวี นิ ัย ( discipline ) ในการลงทนุ รายละเอียดของเคลด็ ลับในการพิชิตหุน 1.) เลอื กหุน พน้ื ฐานดี (Fundamental Analysis ) คุณทราบหรือไมวาคุณจะซ้ือหุนตัวไหน ซื้อดวยเหตุผลอะไร บางทาน ลงทุนระยะยาว ก็จะซื้อหุนท่ีมีพื้นฐานดี ซื้อแลวซ้ือเลยเก็บใสเซฟ ไมตองมา คอยนง่ั ดรู าคาหนุ ท่มี นั ขึ้นๆลงๆในแตละวัน หรอื แตล ะสัปดาห สําหรบั นกั ลงทนุ ในบานเราที่จําแนกออกเปน 2 กลุมใหญๆคือ กลุมนัก ลงทุนระยะยาว ( Value Investors ) มีประมาณ 30% สวนนักลงทุนอีกกลุม หน่งึ เปนนกั ลงทนุ ระยะส้นั ( Technical Investors ) มีประมาณ 70%

การที่เราเลือกหุนที่มีพ้ืนฐานดี อยางนอยที่สุดเราก็สามารถลดความ เส่ียงในการซอื้ -ขายหุนตวั นน้ั ๆได เนือ่ งจากหุนท่ีมีพ้ืนฐานดีสวนใหญราคาหุน จะไมหวือหวามาก ราคาหุนมีรูปแบบการข้ึน และ ลง และมีทิศทางที่เรา สามารถทํานายได การเลอื กหุนทีม่ พี ื้นฐานดี ( Fundamental Analysis ) ควรดูปจจยั ดังน้ี KEY Meaning งบการเงิน Financial บอกสถานภาพของบรษิ ัทๆนัน้ วามีสุขภาพแข็งแรง หรือ Statement ปว ยเปนโรครายแรงหรือเปลา อันนต้ี องใชเวลาศึกษา เพราะ financial statement analysis เปนวชิ าที่ยาก พอี ี เรโช วชิ าหนง่ึ ของการเงิน P/E ratio Price- Earning Ratio พบี ี เรโช เปนตวั เลขอัตราสว นระหวาง ราคาหุน ณ วนั ทเี่ รา P/BV ratio ตองการซ้อื หารดวย กําไรตอ หนุ ของหนุ ตัวนั้นๆ แนนอน P/E ratio ยิง่ ตาํ่ กย็ ่ิงดี เพราะวา มันหมายถึง ราคาหุนตวั นนั้ ไมแ พง โดยท่ัวไปจะดูกันท่ี P/E=10 Price-Book Value ratio Book Value คอื ราคาเริ่มตน ตอ หุนในการจัดสรรหนุ ตอนตน หรอื ตอนเริ่มทาํ ธุรกิจ P/BV ยง่ิ ต่าํ กย็ ่งิ ดี แสดง

วา หนุ ตัวนัน้ ๆ มรี าคาถกู ยิ่งหากถา P/BV ratio ต่าํ กวา 1 นัน่ หมายถึงวา เราสามารถซ้ือหุนตัวน้ันไดถกู วา ผู กอ ตั้งบริษัทเสยี อีก ประเภทของธุรกจิ ประเภทของธรุ กิจ เปนแบบไหน กิจการสามารถยง่ั ยืน Business Type อยไู ดช ่วั ลูก ชว่ั หลานหรอื ไม เม่อื เลือกหนุ ท่ีมีพ้ืนฐานดีไดดั่งใจที่ตองการแลว ข้ันตอนตอไป คือเราก็ เลอื กหุนพน้ื ฐานดตี วั นนั้ ๆ มาเลน ระยะสัน้ ถึง ปานกลางกันดกี วา ( วธิ ีนีจ้ ะตาง จากนักลงทุนระยะยาวที่เรียกวา ( intrinsic value investor ) สวนทานใดท่ี ตอ งการลงทนุ ระยะยาวก็ไมวากัน เพียงแตถาคุณเปนนักลงทุนระยะยาวก็คง ไมมคี วามจําเปนทจ่ี ะตองคอยเฝา ดูราคาหุนเปนประจาํ การเลือกหุนพื้นฐานดมี าเลน ระยะสนั้ -กลาง จะเปนเกราะปองกันใหเรา อกี ช้นั หนึ่ง กรณที ี่หนุ ตัวน้นั เกิดผันผวนดา นราคา 2.) เขา ตลาดใหถูกจงั หวะ จรงิ ๆ แลว การเขาตลาดหนุ กเ็ หมือนกับเขาตลาดสด คาํ ถามคือวาคณุ จะ ไปจายตลาดในตอนกลางวันหรือกลางคืน แนนอนถาคุณไปตลาดสดตอน กลางคนื คุณจะหาซ้ืออะไรไดบา งครบั ? กอนท่คี ุณจะเขาซือ้ หุนตวั ใดตัวหนง่ึ นั้น คุณตอ งรูใหแนชัดมากทส่ี ดุ เทา ท่ี จะรูไดว า หุนที่จะซื้อ หรอื ขายนนั้ อยูใน status ไหน เปน ชวงขน้ึ ( Bullish ) หรอื ชวงลง ( Bearish ) หรือ ทรงๆ ( Sideway ) การท่ีคุณเขา ตลาด หรือเขา trade

ผิดจงั หวะ แนนอน เรม่ิ ตนก็ผดิ แลว ดงั น้นั ชว งนถ้ี อื วา สาํ คัญยิง่ นัก เขาตลาดถูก จงั หวะ ก็มีชัยไปกวา คร่งึ แลว สถานะ (status) ของราคาหนุ แบง เปน 3 ชวงคอื · Bullish State ( ภาวะตลาดกระทงิ ) · Sideway State ( ภาวะตลาดทรงตวั ) · Bearish State ( ภาวะตลาดหมี ) Bullish State ( ภาวะตลาดกระทิง ) รปู ที 10 - แสดงภาวะกระทงิ bullish ของหุน BIG-C

จากรูปท่ี 10 : ราคาหุนของ BIGC ชวงนี้เปนชวงขาขึ้น หรือเรียกวา bullish state มีสิ่งที่ควรสังเกตุคือ เสนคา เฉลี่ย MA12 จะอยูเหนือ MA26 ตลอดชว ง และเมือลากเสน trend line ระหวางจุดตาํ่ ของราคา เสน trend line มีแนวโนมทแยงข้นึ Sideway State ( ภาวะตลาดทรงตัว ) รปู ท่ี 11- แสดงภาวะทรงตวั ( sideway ) ของหนุ BIG-C

จากรปู ที่ 11: ชว งนีเ้ ปนชว ง sideway โดยท่รี าคาหุน มแี นวโนมข้นึ และลง สลบั กนั เปนระยะ สังเกตุจากการลากเสน trend line เช่ือมระหวางจุดสูงของ ราคา 1 เสน และลากเสนเช่ือมระหวา งจุดตํ่าของราคาอีก 1 เสน เราจะเห็นวา ราคาหนุ มันข้นึ ๆลงๆในชวงนี้ Bearish State ( ภาวะตลาดหมี ) รปู ที่ 12- แสดงภาวะตลาดหมี ( bearish state ) ของหนุ BIG-C จากรปู ท่ี 11: เปน ชว ง Bearish State หรือขาลงน่นั เอง ทช่ี ว งนี้ เสน คาเฉลีย่ MA12 จะอยตู ่ํากวา เสน คา เฉล่ยี 26 เกอื บตลอดชว ง ซง่ึ จะตรงขา มกบั ชว ง Bullish State และหากเราลากเสนเช่ือมระหวา งจุดสูงของราคาก็จะเกดิ เปนเสน ตรงท่ีมีแนวโนม ลง

3.) ตัดขาดทุน ถาคณุ เขาตลาดผิดจังหวะโดยราคาหุนมนั ลงตํา่ กวา ราคาท่ีซ้ือมา แลว จะแกป ญหาอยา งไร มีหลายทานคดิ แบบนี้ “ ไมเปนไร หนุ มตี ก ก็ตองมีขนึ้ “ “ ไมก ลา ขาย เพราะราคามนั ตาํ่ มาก “ \" ขายตอนนีก้ ลัวเสียฟอรม \" เหตผุ ลมีอีกมากมายที่กลาวไมหมด เอาเปนวา ทุกๆคํากลาวนั้น อยูใน สถานะเหมือนกัน คือ ขาดทนุ ทนี ห้ี ากขาดทุนแลว ควรทําอยางไร อนั นี้สเิ ปนสิ่ง ที่นาคิดนา ยดึ ถือเปนหลกั ปฏบิ ตั ิ นักลงทนุ ระดับมืออาชีพสว นใหญเขามีกติกาในใจที่คอนขางเหมือนกัน คือ ตัดขาดทุน STOP LOSS หรือ CUT LOSS แตจะตางกันตรงท่ีแตละทาน อาจจะตดั ขาดทนุ ไมเ ทา กนั ซ่ึงเทา ทพี่ บเห็นบอ ยก็มี 3% 5% 10% การเลนหุน ก็เหมือนกบั การทาํ ธุรกิจท่ัวๆไป คือ มีความเสี่ยง เมือ่ เรามน่ั ใจวาเราเขาตลาด หรอื ซ้ือหุน ในจังหวะที่เหมาะสมแลว แต เหตกุ ารณมนั กลบั ยอนศรสวนความคดิ เรา โดยราคาหนุ ที่เราซ้ือกลับลวงลง ดงั น้ันหาก เราปองกันความเสยี่ งในระดับท่ีเราสามารถรับ ได หรือไมกระทบกบั port ของเรามากนกั เรา กค็ วรจะรบี ดําเนนิ การทันที นั่นคือ ตอ ง stop losses ทนั ทที รี่ าคามันลงมาถงึ ระดับ target ทตี่ ้ัง ไว

ตัวอยา งเชน เราซอื้ หนุ ABC 1,000 หนุ หุนละ 200 บาท ราคาซอ้ื ไมร วม คา broker เทา กับ 200,000 บาท เราตง้ั stop losses ไวท ี่ 5% ดังน้นั หาก มูลคา เงินของเราลดลงเหลอื 190,000 บาท เราตอ งรกั ษาวินัยอยา งเครง ครัด โดยการการขายหุนน้ันเสียทันที ขอ แนะนํา จากรูปท่ี 9,10,11 เราก็พอจะมองออกแลววา การเขา ตลาดน้ัน ควรจะเขา ชว งไหนผมมขี อ แนะนําดงั น้ี 1. คณุ ตองเขา ตลาดในชวงทต่ี ลาดเปนชวงขาขึน้ ( BULLISH STATE ) เพราะในชว งนซี้ อื้ หนุ อยา งไร กม็ ี กําไร 2. ถาตลาดอยูใ นชว ง sideway คุณก็สามารถทาํ กาํ ไรได ในชวงส้ัน แตก ต็ องซ้อื ขายเรว็ และระวงั 3. ถาไมม ่นั ใจ อยา เขาตลาดในชว งขาลง ( BEARISH STATE ) เพราะอัตราการลงของราคาจะเร็วกวาอัตรา การขึน้ นัน่ หมายถงึ วา คุณจะมีความเส่ียงคอ นขางมาก แตถา หากคุณมีเวลาเฝามันไดท งั้ วัน อันน้กี ส็ ามารถทํา กาํ ไรชวงสัน้ ๆ ไดเหมอื นกัน

รปู ภาพแสดงการตัดขาดทุน ถาคุณเขาตลาด(ผิดจังหวะ) ที่ตําแหนง เลข 1 และราคาหุนไดด่ิงลงมาจากวันท่ี คุณซื้อ กรณีท่ีเราตั้งตัวเลขขาดทุนท่ี ระดบั ทคี่ ณุ ยอมรบั ได เม่ือราคาหุนตกลง มายังตําแหนงเลข 2 คุณตองตัดขาย ขาดทุนทันที เพื่อควบคุมการขาดทุน มากกวา น้ี 4.) ปลอ ยใหร าคาหุน วิง่ ตามทีไ่ ดแ นะนําวา การเขาตลาดควรเขาตลาดชวงที่เปนขาขน้ึ Bullish State ถาหุน ทเ่ี ราซอื้ มกี ําไร เราก็ควรปลอ ยใหห ุนมันวิ่งไปเรอื่ ยๆ อยาเพิ่งขาย มนั ออกไป เพราะ

- ในชวงขาขึน้ จะมีการปรับฐาน ( Retracement ) เปนระยะๆ แตห ลงั retrace แลว มันก็จะ rebound ขน้ึ ซึ่งอตั ราการขน้ึ หรอื เดง ( Rebound ) มนั จะ เร็วกวา อัตราการลง ( Retrace ) - ในแงก ารวิเคราะหหนุ ที่ซบั ซอนยงิ่ ข้ึน โดยอาศยั Elliot Wave Analysis พบวา ชว งขาขึน้ จะฟอรมตวั เปนลกู คล่ืนจําวน 3 ลูก สวนชวงขาลง มันจะ ฟอรมตัวเปน ลูกคล่นื 2 ลกู ดงั นน้ั หากลูกคลนื่ ที่อยูในชว งตลาดขาขึ้นกาํ ลงั ฟอรมตวั ลกู ที่ 1 และคณุ ก็เขาตลาดชว งน้พี อดี ดงั น้ันคุณยงั สามารถถอื หุนนั้น ไปไดจนถงึ ราคาหุน ณ ลกู คลื่นที่ 5 ได และมกี าํ ไรสูงสุด น่สี ิเรยี ก “ Let The Profit Run “

ปลอยใหราคาหนุ ว่งิ กรณีทคี่ ุณเขาตลาดถูกจงั หวะทตี่ ําแหนงเลขท่ี 1 และคุณกร็ วู าคุณเขา ตลาดชวงท่ีเปน Bullish State และมันเปน ชวงทีเ่ พิ่งเร่ิมตนของ state น้ี เมอื่ ราคาหนุ ขยับข้ึนมาที่ตาํ แหนงเลขที่ 2 คณุ อยาเพ่ิงรบี รอ นขายหุนท้ิงออกไป เพราะตาํ แหนงที่ 2 คุณก็ยงั มีกาํ ไร และมีโอกาสทจ่ี ะมีกําไรตอ ไปดว ย เพราะ ราคาหุน มนั จะขนึ้ เปนลูกคลนื่ 3 ลกู ( ตามสถติ ิ ) ดังน้นั รอใหราคาหนุ มนั ข้นึ ไปท่ีตําแหนง เลขท่ี 3 กอ นคอ ยขายหุน ออกไป คณุ จะรูไ ดอยางไรวา ราคาหนุ มนั มาถึงจดุ ยอดหรือยัง เรื่องน้มี นั มี ทฤษฎีท่สี ามารถ forecast ได คอื Elliott Wave Theory 5.) เลน ตามกระแส สุภาษิตที่มีความหมายดีๆมีมากมาย และหน่ึงในนั้นที่สามารถนํามา apply กับตลาดหุนไดก็คือ “หลิวลูลม “ หรืออีกสํานวนหน่ึง “ เขาเมืองตา หล่ิว ใหหลิ่วตาตาม “ ความหมายมันคือ พยายามทําตัวใหกลมกลืน อยาไป ฝน สถานการณ เชนกัน เมื่อหุนขึ้น คุณก็เขาไปซื้อ เมื่อหุนตก อยาทําตัวเปน คนเกงดวยการซื้อสวนทางตลาด เพราะมันเสี่ยง การเลนหุน ตามกระแสมนั กม็ หี ลายรูปแบบ แตท ี่เห็นชัดเจนเปนรูปธรรม ก็พอจะแบง ออกไดเ ปน 2 รูปแบบดวยกนั คอื

1. เลนตาม SET INDEX คือเราตองพิจารณา pattern ของ SET ดวย วาเปน state ไหน และโปรดอยาลืมวาควรเขาตลาดในชวง Bullish State เม่ือ พิจารณา SET แลว กม็ าพิจารณาเลือกเลน หนุ ทีเ่ ราสนใจ ซึง่ วธิ ีการเลือกหุนน้ัน ขอใหพิจารณาตามเคล็ดลับขอท่ี 1. เม่ือเลือกหุนไดแลว ก็มาพิจารณาวา trend ของราคาหุนตวั ท่เี ราเลือกนน้ั มันเหมือนกับ trend ของ SET หรือไม ถา เหมอื นกนั ก็เขา เลนเลย อยา งนีเ้ รียกวาเลนตามกระแส SET INDEX 2. ไมเ ลน ตาม SET INDEX เปนการเลนหนุ โดยดู pattern ของหุนที่เรา เลือกโดยไมไดอิงหรือพิจารณาใหนํ้าหนักกับ SET INDEX มากนัก เปนการ วิเคราะหเฉพาะหุนนั้นๆวามันอยูใน state ไหน การเขาซื้อหรือขาย ก็ใหดู จงั หวะใหดี แตกรณีเลน แบบน้ี ไมแรงเทา กับวิธตี ามกระแส SET INDEX 6.) อยา ซ้อื เฉลย่ี ถาราคาหุนตก หลายคนมีวิธีการเฉลี่ยราคาหุนตอนชวงราคาหุนตก โดยการซื้อหุนตัว เดยี วกันหลายรอบในชว งขาลง เพื่อเฉลย่ี ตนทนุ ที่ซอื้ แพงไป ใหมีราคาเฉล่ียถูก ลง อนั น้แี ลว แต style ของนักเลนหุน แตท่ีแนๆคือ ราคาหุนมันกําลังตก แสดง วา หุนตัวน้ันมันตองผิดปกติ หรือมีขาวไมดี หรืออะไรอีกมากมายท่ีเราไมรู ความไมร นู ส่ี คิ อื ความเสีย่ ง แลว มคี ําถามตอวา คุณจะหยุดเฉล่ยี ซ้อื เมือ่ ไหร

ขอ แนะนํา แทนที่จะซื้อเฉล่ียราคาหุนชวงขาลง คุณนาจะตัดขาดทุนดีกวา เพราะ การตดั ขาดทนุ จะทําใหเรา - สามารถ Control ตน ทุนได - ไมตองหมกมนุ กับราคาหุนมากนัก - ไมเ สียอารมณต ลอดหลายชว งเวลา - นอนหลับไดเ ต็มอิ่ม



ทฤษฏี Elliott Wave สรา งข้ึนโดย Ralph Nelson Elliott ซ่ึงเขาได พฒั นามาจาก Down Theory โดยเน้อื หาบทสรุปของทฤษฎนี ีค้ ือ Pattern ของ ราคาหุนมนั จะมีพฤตกิ รรมเปน ลักษณะลูกคลื่น ซึง่ สามารถแจงรายละเอียดใน หลักการไดดังนี้ ถามแี รงกระทํายอมมีแรงโตตอบ ซ่งึ อนมุ านในการเลน หนุ คอื เม่อื หุนมขี ึน้ มันก็ตองมีลง และเมื่อมันลงถึงจุดนิ่งแลว มันก็พรอ มท่ีจะขน้ึ ในรอบตอไป ซ่งึ ภาษานักวิเคราะหหุน ท้งั หลายเขาเรียกวาหนุ รบี าวน ( rebound ) และหุน ปรบั ฐาน ( retrace ) Elliott Wave ประกอบดว ยลูกคล่นื ในขาขน้ึ 5 ลูก ( 1- 2-3-4-5) และลูกคลื่นในขาลง 3 ลกู (a-b-c) ในชวงขาข้ึนเรา เรยี กวา Impulse สว นขาลงเราเรียกวา Correction ในหน่งึ รอบหรอื cycles ของ Elliott Wave น้นั จะเปน series ของ impulse และ correction จากนิยามขางตนสามารถแสดงดวยกราฟดังขางลาง และแนะนําวา คุณตอ งจํา pattern นเ้ี อาไวใหแ มนยาํ wave 1,2,3,4,5,a,b,c

รูปที่ 13- แสดงรูปแบบมาตรฐานของ Elliott Wave จากกราฟรูปที่-13 จะเห็นวาจุดสูงสุดของรอบจะอยูที่คลื่นลูกท่ี 5 สวน จุดเร่ิมตนคือคล่ืนลูกที่ 1 ในชวงท่ีหุนเปนขาข้ึน การขึ้นยังไมแรงเทาที่ควร เพราะนักลงทุนหรือนักเลนหุนตางคอยดูเชิงซึ่งกันและกัน ราคาหุนก็จะไต ขนึ้ มาทีค่ ล่ืนลกู ที่ 1 หลงั จากนัน้ ก็จะมนี กั เลนหุน บางกลุม ทคี่ อยจงั หวะขายหุน โดยที่หวังกาํ ไรไมมากนัก หรือ อยางนอยก็ขาดทุนไมมาก ทําใหหุนปรับฐาน( retrace ) ลงมาเลก็ นอยทค่ี ล่ืนลกู ที่ 2 หลงั จากราคาหนุ ไดปรบั ฐานมาที่คล่ืนลูกท่ี 2 แลว ในชวงนี้เอง volume การซื้อขายเร่มิ มากขน้ึ ทําใหน ักเลนหนุ อ่นื ๆมองเห็นแนวโนม ทิศทางของหุนตัว น้ี จึงเริ่มเขาซื้อหุนดวย volume ท่ีมาก ทําใหราคาหุนปรับตัว ( rebound ) สูงข้นึ มาก โดยทฤษฏแี ลว คลนื่ ลูกท่ี 3 จะเปนคลืน่ ลกู ที่ยาวที่สดุ

ราคาหุน ปรบั ตัวมาท่ีคลื่นลูกท่ี 3 ทําใหน กั เลน หุน มีกําไรเปนกอบเปนกํา จึงเรม่ิ ทยอยขายหุนออกมา ราคาหุนก็เริ่ม retrace มาที่คลื่นลูกท่ี 4 การปรับ ฐานของราคาหนุ มาท่ีคล่ืนลกู ท่ี 4 น้ี ดูเหมอื นวา มนั นา จะหยุดขึน้ ตอ ไป แตท้ังน้ี ยังมนี ักเลนหนุ บางกลมุ ท่ตี กขบวนรถไฟ และยังมคี วามเช่ือวาหุนตัวน้ีสามารถ วง่ิ ตอได จงึ เขา ไลซ ื้ออกี รอบหน่งึ ทาํ ใหหุนสามารถวิ่งตอไปไดจนถึงคล่ืนลูกท่ี 5 แตโ ดยพฤติกรรมแลว คลืน่ ลูกท่ี 5 จะมีขนาดส้ันกวาลูกท่ี 3 เน่ืองจากความ กลาๆกลัวๆของนักเลนหุนทําใหตัดขาย หรือทํากําไรเพียงเล็กนอยก็เพียงพอ แลว เม่ือราคาหุนปรบั ตวั มาทจ่ี ดุ สูงสุดคือคล่ืนลูกที่ 5 แลว และมีการขายทํา กาํ ไรกนั ออกมา ทําใหราคาหุนปรับฐานลงมาท่ีคล่ืน a, การขายรอบนี้นักเลน หุนจะประสานเสียงหรือรวมมือรวมใจกันขายหุนออกมาปริมาณมาก หรือ บางคร้ังเกดิ panic เล็กๆ เม่อื หนุ ปรบั ฐานมาทคี่ ลื่น a นักเลน หุน บางคนจะมอง วาราคาหนุ มนั ถูกลงจึงเขา ซือ้ ทาํ ใหร าคาหนุ rebound เลก็ นอ ยไปท่คี ล่ืนลูกที่ b แตก ารขึ้นครง้ั นี้มนั ขึ้นไมแรง เพราะมนั ยังไมสามารถเอาชนะใจคนอื่นๆได พอ ขึน้ ไมแรงก็ขายดีกวา ทําใหมีการขายหุนกนั ออกมาทาํ ใหร าคาหุนปรบั ฐานลงท่ี คลน่ื c หลังจากจบคลื่น c แลวก็ถือวามันครบรอบหรือ cycle ของหุนอยาง สมบูรณ ผมขอทวนนะครับ คล่ืน Elliott Wave ประกอบดวยหุนขาข้ึน ( impulse) คลน่ื ลกู ท่ี 1,2,3,4,5 สว นหุนขาลง ( correction ) มีคล่ืนลูก a,b,c

การเขาใจพฤติกรรมของหุนโดยอาศัยหลัก Elliott Wave จะทําใหเรารู สถานะและแนวโนม ของมัน ทาํ ใหเรามีความมนั่ ใจมากขึน้ ในการ trade จากที่กลาวขางตนเปนเพียง Basic Concept เทาน้ัน แตมันยังมีความ ซบั ซอนมากกวา นี้ โดยทห่ี นุ ขาข้ึนลูกที่ 1,2,3,4,5 สามารถรวบเปนคลื่นลูกท่ี 1 และหนุ ขาลง a,b,c สามารถรวบเปน คลน่ื ลกู ที่ 2 ได เชน กราฟรูปท1่ี 4 -15 รปู ท่ี 14-แสดงความซับซอนเพ่ิมข้นึ ของ Elliott Wave

รปู ที่ 15 - แสดงความซบั ซอนของ Elliott Wave อกี แบบหนง่ึ การทห่ี ุนมนั rebound หรอื retrace นน้ั ถามวามันจะข้ึนไปถึงไหน และ มันจะลงมาถึงไหน ตรงจุดนี้ก็มีทฤษฎีที่อธิบายไดเชนกันน่ันคือ Fibonacci Numbers ซ่ึงเปนเนื้อหาท่ีสามารถเขียนเปนหนังสือหรือคูมือเปนเลมหนา ประมาณ 1 นิ้วได ซ่ึงผมไมสามารถนํามาอธิบายในที่น้ีได แตก็ขอนําเอาผล ของมันมาใชเลยดกี วาครบั

Fibonacci Numbers เปน ตวั เลขทเ่ี กดิ ขน้ึ มาพรอมกับธรรมชาติ เปนตัว เลขท่ีเรยี กไดว า มหัศจรรยเ ลยทีเดียว ตัวเลขท่เี ราสามารถนํามาใชไดเ ลยมดี งั นี้ แบบทศนิยม แบบเปอรเซน็ ต 0.236 23.60 % 0.382 38.20 % 0.500 50.00 % 0.618 61.80 % 0.764 76.40 % 1.000 100.00 % 1.382 138.20 % 1.618 161.80 % 2.618 261.80 % 4.236 423.60 % หลายคนคงพอจะคนุ กบั ตวั เลขพวกน้บี างนะครับ อยา งนอ ยนักวิเคราะห หนุ หลายสังกดั ก็นยิ ม หรอื พูดถึงกันมากเชน หุนกําลังปรับฐานลงมาในระดับ 38.20% ซึ่งก็คือแนวรับที่นักวิเคราะหจะทํานายไดวาราคาหุนมันมีแนวรับที่ ระดับราคาเทาไหร

เราลองมาดตู ัวอยา งการใชง าน Fibonacci Numbers รูปท่ี 16- แสดงการใช Fibonacci ในการหาราคาแนวรับ จากกราฟราคาหุน ( รูปท่ี 15 ) เปนตัวอยางของหุน BBL เมื่อราคาหุน มันข้นึ จากจุดท่ี 1 ไปจดุ ท่ี 2 และมันก็ปรับฐาน retrace ลงมา ทีนี้หากเราไมมี วชิ าตดิ ตวั ถามวาราคาหนุ มนั ควรจะลงมาเทาไหรก็ไมสามารถจะคาดคะเนได แตห ากเรามีวิชาตดิ ตวั คุณคงบอกไดน ะครับวาแนวรบั มนั ควรจะอยูที่ไหน

ถา เราใช Fibonacci หาแนวรบั ก็จะไดแ นวรับหลายระดับไดแก แนวรับท่ี 23.6% , 38.2%, 50.0%, 61.80% ในทีน่ ีแ้ นวรับมันหยุดท่ี 50% ที่ราคาใกลๆ 48 และหลังจากนั้นมนั ก็ rebound ขน้ึ ตอไป แนน อนครับเราคงไมไ ดใ ชเ จา Fibonacci Numbers เพยี งอยางเดียวมา วิเคราะหหุน ถาจะใหดีเราควรนําเอา indicators ตัวอื่นๆมาวิเคราะหดวย เชน กัน ตัวอยางรูปท่ี 16 เปนการนําเอา indicator เชน MACD ( Oscillator ) มา ประกอบในการวิเคราะห เพ่อื หาวา คล่ืนของ ELLIOTT มันวิ่งไปถึงคลื่นลูกที่ 5 หรือ ยัง ซึ่งจะสังเกตุเห็นวาเสนสีแดงท่ีลากเชื่อมระหวางจุด 3 และ 5 มีทิศทางข้ึน ในขณะที่เสนแดงที่ลากเช่ือมระหวางจุดยอดของ MACD มีทิศทางลง ลักษณะน้ี เรียกวาเกิด divergence คือมันมีทิศทางสวนทางกัน เชนนี้ก็จะสามารถ forecast ไดว า กราฟหนุ ไดม าถึงจุดสงู สุดคลนื่ ลกู ที่ 5 แลว รปู ที่ 17- การใช indicator เขน MACD ชวยในการหาจุดยอดของ wave-5

ชว งขาข้ึนประกอบดว ยคลนื่ 1,2,3,4,5 สังเกตวาคล่ืนลูกที่ 2,4 เปนคลื่น ชว งปรับฐานยอย สวนคลนื่ 1,3,5 เปนคล่นื rebound แตถามองเปน Channel แลว ภาพรวมมนั เปน Uptrend ลักษณะของคล่ืนลูกท่ี 2 จะปรับฐานโดยจะไมตํ่ากวาจุดเริ่มตนของ คลน่ื ลกู ท่ี 1

การปรับฐานคลื่นลูกที่ 2 น้ันเกิดจากการขายเพื่อหนีตนทุน เน่ืองจาก กอนการเกิดคล่ืนลูกท่ี 1 มันผาน downtrend มากอน ทําใหพอหุนมีการ rebound ข้ึนมาที่ลูกคลืน่ ที่ 1 ได นักเลนหนุ บางกลมุ ก็ยอมขายขาดทุนออกมา ทําใหราคาหุน ตก และปรบั ฐานเปนคลนื่ ลกู ที่ 2 การ form ตัวคล่นื ลกู ที่ 3 นน้ั จะสังเกตไุ ดจากยอดของคล่นื ลกู ที่ 1จะเปน แนวตานทส่ี ําคญั หากมันไมส ามารถทะลุผานจุดนี้ไปได น่ันแสดงวาคลื่นลูกท่ี 3 นนั้ มันมปี ญหา หรอื ผดิ พลาด แตถาลกู คลนื่ สามารถทะลุผานแนวตานน้ี ไป ไดแ สดงวาการ form ตวั เปน คลนื่ ลกู ที่ 3 นา จะสมบรู ณ

สวนมากแลวคลื่นลกู ท่ี 3 จะเปนคลื่นที่แรงท่ีสุด ดังนั้นหากราคาหุนมัน ทะลุยอดของคลน่ื ลกู ที่ 1 พรอ มทัง้ เกิด Gap กระโดดอยูเหนือยอดคล่ืนลูกที่ 1 ได ยอมแสดงถึงทศิ ทางของหุนกําลังเขาสู Bullish state อยา งคกึ คัก สาเหตุทค่ี ลนื่ ลูกที่ 3 เปนคล่นื ลูกที่รอนแรงทสี่ ดุ นนั้ ก็เพราะวา นักเลนหุน ตา งกม็ องเห็นทิศทาง ของมนั อกี ท้ังยงั เกดิ gap ของราคาหุน ดว ย ทําใหนักเลน หุนที่พลาดโอกาสซ้ือ ณ จุดต่ําสุดนั้น ตองรีบกระโดดเขามารวมวงดวย เพ่ือ ปอ งกนั ไมใ หต วั เองตองตกขบวน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook