ท่ากระบใ่ี ชใ้ นโอกาสพิเศษตา่ งๆ – ทา่ นงั่ คุกเขา่ และเดินเขา่ - ๑.เร่ืองที่จะทาการฝึก : การใชก้ ระบี่สาหรบั นายทหาร “ทา่ นงั่ คกุ เขา่ และเดินเขา่ ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชใ้ นโอกาสเขา้ เฝา้ พระมหากษตั รยิ แ์ ละพระบรมวงศานุวงศท์ กุ พระองค์ รูปทหี่ นง่ึ รปู ที่สอง รปู ทส่ี าม ่ทากระบี่ใช้ในโอกาสพิเศษต่างๆ – ่ทานั่ง ุคกเข่าและเดินเข่า- ๔.การปฏบิ ตั ิ : ผู้ปฏบิ ตั จิ ะปฏิบัตติ ่อจากท่าน่ังพับเพียบ ใช้มือซ้ายจับฝักกระบ่ี (ในลักษณะเหมือนท่ายกกระบี่) ถงุ มืออยรู่ ะหวา่ งอุ้งมอื กับฝักกระบี่ (รูปที่หน่ึง) จากน้ันยกฝักกระบ่ีขึ้นให้ฝักกระบ่ีอยู่ระหว่างน้ิวหัวแม่มือกับนิ้ว ท้ังสี่ (ทาบไปกับฝักกระบี่) โดยปลายฝักกระบ่ีชี้ไปข้างหลังสัมผัสกับพ้ืน พร้อมกับนามือขวาตบบนหัวช้าง ให้อุ้งมือขวาสัมผัสหัวช้างนิ้วทั้งห้าเรียงชิดติดกัน ลาตัวตั้งตรง สายตามองไปข้างหน้าในแนวระดับ (รูปที่สอง) หลังจากนั้นลดมือขวามาอยู่ข้างลาตัว (ในลักษณะการฟันมือ) โดยที่มือขวาท้ิงด่ิงไม่สัมผัสข้างขานิ้วท้ังห้าเรียง ชดิ ตดิ กนั (รูปที่สาม) ๓๒ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ท่ากระบใ่ี ช้ในโอกาสพิเศษต่างๆ - ทา่ กระบใี่ นทา่ ยืนยามถวายพระบรมศพ - ๑.เรือ่ งทจ่ี ะทาการฝึก : การใช้กระบส่ี าหรบั นายทหาร “ท่ากระบใ่ี นทา่ ยืนยามถวายพระบรมศพ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกันของหน่วยทหารมหาดเล็ก ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชใ้ นโอกาสยนื ยามถวายพระบรมศพเพอ่ื เป็นการถวายพระเกยี รตแิ ละความจงรักภกั ดี ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “เปน็ คาๆ\" ใช้คาบอก “ยนื ยามถวายพระบรมศพ, ทา” ๕.การปฏิบัติ : แบง่ ออกเป็น ๔ ตอน รูปที่หน่ึง รปู ที่สอง “ ืยนยามถวายพระบรมศพ, ทา” ตอนทห่ี นึ่ง ห้วงที่หนึง่ ห้วงทส่ี อง ตอนทีส่ อง ตอนท่ีหนึ่ง : เม่ือได้ยินคาบอก “ยืนยามถวายพระบรมศพ, ตอนที่หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่าเรียบอาวุธ คาบอก “เ ็ปนคาๆ” จังหวะหนึ่ง ตอนทส่ี อง : (ในระหวา่ งการปฏบิ ัติใหผ้ ู้ปฏบิ ัตินับ ๑ - ๘) ่ทา ืยนยามถวายพระบรมศพ เมื่อได้ยินคาบอก “ยนื ยามถวายพระบรมศพ, ตอนทส่ี อง” ห้วงท่ีหนึ่ง (ในระหว่างปฏิบัติให้นับ ๑ - ๔) : ให้ผู้ปฏิบัติเปิดข้อศอกขวาตามธรรมชาติ มือขวาท่ีจับ กระบ่ียงั คงอยรู่ ะดบั ปาก กระบท่ี ี่ต้ังฉากกับพื้นจะขนานกบั พน้ื ปลายกระบี่ชีไ้ ปทางซ้าย ห้วงท่ีสอง (ในระหว่างปฏิบัติให้นับ ๕ - ๘) : ให้ผู้ปฏิบัติม้วนข้อมือขวาลง ปล่อยให้ปลายกระบี่ช้ีลง ตัง้ ฉากกับพืน้ (เมือ่ นับ ๖ กระบ่จี ะต้งั ฉากกับพ้ืนพอดี) (รูปท่ีหนงึ่ ) แล้วใช้มือขวาลดกระบี่ลงเมื่อปลายกระบี่จรดพ้ืน กึ่งกลางระหว่างปลายเท้าทั้งสองข้าง หันโกร่งกระบ่ีไปทางด้านขวา มือขวาที่จับกระบ่ีในลักษณะกาให้เปล่ียนเป็น น้ิวทั้งห้าเหยียดตึงเรียงชิดติดกัน ปลายน้ิวชี้ไปทางด้านซ้าย ข้อศอกขวาเปิดตามธรรมชาติ พร้อมกันนั้นให้ใช้มือ ซ้ายยกฝักกระบี่ นาปลายฝักกระบ่ีวางด้านหลังห่างจากแนวส้นเท้าประมาณหนึ่งคืบ ฝักกระบ่ีจะเอนเอียงไป ดา้ นหนา้ มอื ซ้ายอยบู่ ริเวณข้างขาซา้ ยยงั คงจบั ในลักษณะคบี เชน่ เดมิ (รูปทีส่ อง) ๓๓โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ตอนท่ีสาม ตอนทสี่ ่ี “ ืยนยามถวายพระบรมศพ, ทา” ตอนที่สาม : เมื่อได้ยินคาบอก “ยืนยามถวายพระบรมศพ, ตอนที่สาม” ให้ผู้ปฏิบัติละมือซ้ายจากฝักกระบี่มาตบ หลังมอื ขวาให้ทบั เสมอกัน นิว้ ท้ังห้าเหยยี ดตงึ เรยี งชิดติดกัน ปลายน้วิ ชีไ้ ปทางดา้ นขวา ขอ้ ศอกซา้ ยเปดิ ตามธรรมชาติ คาบอก “เป็นคาๆ” ตอนทส่ี ี่ : (ในระหว่างการปฏบิ ตั ิให้ผู้ปฏบิ ตั นิ ับ ๑ - ๘) เมื่อได้ยินคาบอก “ยืนยามถวายพระบรมศพ, ตอนที่สี่” ให้ผู้ปฏิบัติผลักโกร่งกระบ่ีไปด้านหน้าจนแขนท้ัง สองข้างเหยียดตึง มือท้ังสองเปลี่ยนจากนิ้วท้ังห้าเหยียดตึงเป็นการกุมลงบนโกร่งกระบี่ พร้อมกันน้ันให้ก้มศีรษะลง ประมาณ ๔๕ องศา หมายเหตุ : การปฏิบตั ิในตอนที่หน่งึ ตอนทส่ี อง และตอนท่สี ่ี ใหป้ ฏิบตั อิ ย่างชา้ และต่อเนอ่ื งยกเวน้ การปฏบิ ตั ิตอนท่ีสาม ให้ปฏิบัตอิ ยา่ งแข็งแรง ่ทายืนยามถวายพระบรมศพ ๓๔ โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ทา่ กระบ่ีใชใ้ นโอกาสพิเศษต่างๆ - ท่ากระบใ่ี นทา่ เลิกยนื ยามถวายพระบรมศพ - ๑.เรื่องท่จี ะทาการฝึก : การใชก้ ระบ่ีสาหรับนายทหาร “ทา่ กระบ่ใี นทา่ เลกิ ยนื ยามถวายพระบรมศพ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสยนื ยามถวายพระบรมศพเพื่อเปน็ การถวายพระเกียรตแิ ละความจงรักภกั ดี ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “เปน็ คาๆ\" ใช้คาบอก “เลกิ ยนื ยามถวายพระบรมศพ, ทา” ๕.การปฏบิ ัติ : ทา่ กระบใี่ นทา่ เลิกยืนยามถวายพระบรมศพ แบง่ การปฏบิ ัตอิ อกเปน็ ๔ ตอน ตอนทห่ี นงึ่ ตอนที่สอง “เ ิลก ืยนยามถวายพระบรมศพ, ทา” ตอนท่ีหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “เลิกยืนยามถวายพระบรมศพ, ตอนท่ีหน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือทั้งสองดึง คาบอก “เ ็ปนคาๆ” โกร่งกระบี่เข้าหาลาตัวจนกระบ่ีตั้งฉากกับพ้ืน พร้อมกันนั้นให้เงยศีรษะข้ึนจนสายตามองตรงในแนวระดับ เม่ือกระบ่ตี ง้ั ฉากกับพน้ื แลว้ มือทง้ั สองขา้ งท่จี บั กุมพานโกรง่ กระบีใ่ หเ้ ปลยี่ นเป็นนิ้วท้ังห้าเหยียดตรงเรียงชิดติดกัน ่ทาเ ิลกยืนยามถวายพระบรมศพ ข้อศอกทงั้ สองข้างเปิดตามธรรมชาตอิ ยใู่ นลกั ษณะของท่ายืนยามถวายพระบรมศพตอนท่สี าม ตอนท่ีสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “เลิกยืนยามถวายพระบรมศพ, ตอนท่ีสอง” ให้ผู้ปฏิบัติละมือซ้ายจากท่ีวางบน มือขวาไปตบบริเวณฝักกระบ่ีข้างขาซ้าย แล้วยกฝักกระบี่มาวางบนพ้ืนติดโคนนิ้วก้อยเท้าซ้าย ฝักกระบ่ีต้ังตรง จบั ในลกั ษณะคบี อยู่ในลักษณะของท่ายืนยามถวายพระบรมศพตอนท่ีสอง ๓๕โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์
รูปทหี่ นง่ึ รปู ทีส่ อง รปู ทหี่ นึง่ รปู ทส่ี อง รูปทสี่ าม “เลิก ืยนยามถวายพระบรมศพ, ทา” ห้วงทหี่ นึง่ หว้ งท่ีสอง ตอนทส่ี าม ตอนทีส่ ี่ คาบอก “เ ็ปนคาๆ” ตอนทสี่ าม : (ในระหว่างการปฏบิ ัตใิ หผ้ ปู้ ฏิบัตนิ บั ๑ - ๘) เม่ือไดย้ ินคาบอก “เลิกยืนยามถวายพระบรมศพ, ตอนท่ีสาม” ่ทาเ ิลกยืนยามถวายพระบรมศพ ห้วงที่หน่ึง : (ในระหว่างปฏิบัติให้นับ ๑ - ๔) ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาจับกระบ่ียกข้ึนจนมือขวาอยู่ ระดับปาก ขอ้ ศอกขวาเปดิ ขนานกบั พืน้ (รูปท่ีหน่ึง) จากน้ันม้วนข้อมือขวาขึ้นให้กระบ่ีขนานกับพื้น ปลายกระบ่ี ชี้ไปทางซา้ ย (รูปท่สี อง) หว้ งท่สี อง : (ในระหว่างปฏิบตั ใิ ห้นับ ๕ - ๘) ให้ผู้ปฏบิ ัตบิ ดิ ขอ้ ศอกขวาจนแขนท่อนบนแนบชิดติด ลาตัว ปลายกระบี่ช้ีข้ึนตั้งตรง โกร่งกระบ่ีอยู่ระดับจมูก อยู่ในลักษณะของท่ายืนยามถวายพระบรมศพ ตอนทีห่ น่งึ ตอนทสี่ ี่ : เมอื่ ไดย้ ินคาบอก “เลกิ ยืนยามถวายพระบรมศพ, ตอนท่สี ่ี” ให้ผู้ปฏบิ ตั ิ ปฏิบัตทิ า่ วันทยาวุธ หมายเหตุ : การปฏิบัติในตอนที่หนึ่ง ตอนท่ีสอง และตอนที่สี่ให้ปฏิบัติอย่างแข็งแรง ยกเว้นการปฏิบัติในตอนท่ีสาม ใหป้ ฏิบัติอย่างช้าและต่อเนอื่ ง ๓๖ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ท่าน่ังคุกเขา่ วันทยหตั ถ์ ๑.เรื่องท่ีจะทาการฝกึ : การใชก้ ระบ่ีสาหรบั นายทหาร “ทา่ น่ังคุกเขา่ วนั ทยหัตถ”์ ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสปฏิบัติหน้าที่รักษาการณ์และยามถวายพระเกียรติ กรณีเม่ือพระมหากษัตริย์หรือ พระบรมวงศานวุ งศ์ทุกพระองคเ์ สด็จฯ ผ่านในระยะใกล้ ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “เป็นคาๆ” ใช้คาบอก “นง่ั คกุ เข่า, ทา” ๕.การปฏบิ ัติ : ท่าน่งั คุกเข่าวนั ทยหัตถ์จะปฏบิ ตั ติ ่อจากท่าวันทยหัตถ์ รปู ทีห่ นึ่ง รูปทส่ี อง จังหวะหน่ึง จังหวะสอง จงั หวะสาม “ ่นัง ุคกเ ่ขา, ทา” จังหวะหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “นั่งคุกเข่าจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติดึงเท้าซ้ายไปด้านหลังเล็กน้อย คาบอก “เ ็ปนคาๆ” โดยไมเ่ สียลักษณะทา่ ทาง สน้ เท้าซ้ายเปิด หักข้อมือซ้ายไปด้านหลังเพ่ือให้ฝักกระบ่ีเฉียงไปด้านหลังขนานกับขาซ้าย ท่อนล่าง มือซ้ายยังคงจับฝักกระบี่ในลักษณะคีบเช่นเดิม มือขวาปฏิบัติท่าวันทยหัตถ์ สายตามองตรงไปด้านหน้า ่ทานั่ง ุคกเ ่ขา ัวนทย ัหต ์ถ ในแนวระดบั ในกรณที ผ่ี ู้ปฏิบัติ ปฏิบตั ิทา่ แลขวาหรอื แลซา้ ยอยู่ ใหส้ ะบัดหน้ามองตรงกอ่ นปฏิบัติจงั หวะหน่ึง จังหวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “น่ังคุกเข่าจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติดึงเท้าซ้ายไปด้านหลังอีกเล็กน้อย เพื่อสะดวกต่อการน่ังคุกเข่า แล้วคุกเข่าซ้ายลงให้ขาขวาท่อนบนและล่างต้ังฉากกัน แขนซ้ายเหยียดตึงข้างขาซ้าย ท่อนบน มือซ้ายยังคงจับฝักกระบ่ีในลักษณะคีบ ปลายฝักกระบ่ีวางบนพ้ืนบริเวณหลังแนวเท้าท้ังสองข้าง มือขวา ปฏบิ ตั ิทา่ วันทยหตั ถ์ ลาตวั ตัง้ ตรง สายตามองตรงไปดา้ นหน้าในแนวระดับ จังหวะสาม : เมื่อได้ยินคาบอก “น่ังคุกเข่าจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติท่ายกอกจากน้ันสะบัดหน้าไปในทิศทางท่ี พระมหากษตั รยิ ์หรือพระบรมวงศานุวงศเ์ สดจ็ ฯ ส่วนอื่นๆ ของรา่ งกายอยใู่ นลกั ษณะเดิม หมายเหตุ : เมื่อผู้ปฏิบัติอยู่ในท่านั่งคุกเข่าวันทยหัตถ์ สามารถปฏิบัติในท่าแลขวาและแลซ้าย ได้โดยการปฏิบัติท่ายกอก และสะบัดหนา้ ไปในทศิ ทางทีพ่ ระมหากษตั รยิ ์หรอื พระบรมวงศานวุ งศเ์ สด็จฯ ๓๗โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ทา่ นัง่ คุกเข่าคู่วนั ทยหตั ถ์ ๑.เรือ่ งท่ีจะทาการฝกึ : การใช้กระบสี่ าหรับนายทหาร “ทา่ น่ังคกุ เขา่ ควู่ ันทยหตั ถ์” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสปฏิบัติหน้าท่ีรักษาการณ์และยามถวายพระเกียรติ กรณีเมื่อพระมหากษัตริย์หรือ พระบรมวงศานวุ งศ์ทุกพระองค์เสด็จฯ ผา่ นในระยะใกล้ ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “เปน็ คาๆ” ใช้คาบอก “เข่าค,ู่ ทา” “เ ่ขา ู่ค, ทา” รูปทหี่ น่ึง รปู ทส่ี อง รปู ท่สี าม คาบอก “เป็นคาๆ” ๕.การปฏบิ ตั ิ : ท่านงั่ คกุ เข่าคู่วันทยหัตถ์จะปฏิบัติต่อจากท่านั่งคุกเข่าวันทยหัตถ์ เม่ือได้ยินคาบอก “เข่าคู่, ทา” ให้ผู้ปฏิบัติดึงเท้าขวาไปด้านหลัง วางหัวเข่าขวาลงบนพื้นเสมอกับหัวเข่าซ้าย ขาและเท้าทั้งสองข้างแนบชิด ติดกัน ส่วนอื่นๆ ของร่างกายอยใู่ นลักษณะเดิม หมายเหตุ : เม่ือผู้ปฏบิ ตั ิอยูใ่ นท่านงั่ คกุ เขา่ คู่วันทยหตั ถ์ สามารถปฏิบตั ใิ นทา่ แลขวาและแลซ้ายได้โดยการปฏบิ ตั ิทา่ ยกอก และสะบัดหนา้ ไปในทิศทางทพี่ ระมหากษัตรยิ ์หรือพระบรมวงศานุวงศเ์ สดจ็ ฯ ่ทา ่นัง ุคกเ ่ขา ู่ค ัวนทย ัหต ์ถ ๓๘ โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ทา่ เลิกน่ังคกุ เข่าวันทยหตั ถ์ ๑.เรือ่ งที่จะทาการฝกึ : การใชก้ ระบ่สี าหรับนายทหาร “ท่าเลกิ นงั่ คกุ เขา่ วนั ทยหัตถ์” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกันของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสปฏิบัติหน้าท่ีรักษาการณ์และยามถวายพระเกียรติ กรณีเมื่อพระมหากษัตริย์ หรอื พระบรมวงศานวุ งศท์ ุกพระองค์เสด็จฯ ผ่านในระยะใกล้ ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “เปน็ คาๆ” ใชค้ าบอก “เลิกน่งั คกุ เข่า, ทา” ๕.การปฏบิ ตั ิ : ท่าเลิกนัง่ คกุ เขา่ วนั ทยหตั ถ์ แบง่ การปฏิบัตอิ อกเป็น ๓ จงั หวะ ทา่ เร่มิ ต้น จังหวะทีห่ นงึ่ จงั หวะสอง รูปทหี่ นงึ่ รปู ท่ีสอง รูปท่สี าม ่ทาเลิกนั่งคุกเ ่ขาวันทยหัต ์ถ คาบอก “เ ็ปนคาๆ” “เ ิลกน่ัง ุคกเ ่ขา, ทา” (รอสญั ญาณอ๊ึบ) จังหวะสาม จังหวะหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “เลิกนั่งคุกเข่าจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าขวากลับมาวาง ณ ตาแหน่งเดิม ขาท่อนบนและขาท่อนล่างตั้งฉากกัน อยู่ในท่าคุกเข่าวันทยหัตถ์ ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย อยู่ในลักษณะเดิม จังหวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “เลิกนั่งคุกเข่าจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติลุกขึ้นยืนโดยเท้าซ้ายยังคงอยู่ ดา้ นหลังเล็กนอ้ ย โดยไม่เสยี ลกั ษณะทา่ ทาง สน้ เท้าซ้ายเปิดในลักษณะการย้ังตัว ลาตัวต้ังตรงสายตามองตรงไป ด้านหน้าในแนวระดบั สว่ นอน่ื ๆ ของรา่ งกายยงั คงอย่ใู นลกั ษณะเดมิ เม่ือส้ินสุดสัญญาณ “อ๊ึบ” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวาในลักษณะการอัดส้นเท้า อย่างแขง็ แรง อยใู่ นลักษณะท่าวันทยหัตถ์ จังหวะสาม : เมื่อได้ยินคาบอก “เลิกน่ังคุกเข่าจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดหน้าไปในทิศทางท่ี พระมหากษตั รยิ ห์ รอื พระบรมวงศานวุ งศ์เสดจ็ ฯ ส่วนอื่นๆ ของร่างกายอยใู่ นลักษณะเดิม หมายเหตุ : เมื่อผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่าแลขวาหรือแลซ้ายในท่านั่งคุกเข่าวันทยหัตถ์อยู่ จะปฏิบัติท่าเลิกน่ังคุกเข่าวันทยหัตถ์ ให้สะบัดหน้ามาอยู่ในทิศทางตรงหน้า ในขั้นตอนของการลุกขึ้นยืนในจังหวะหนึ่ง และสะบัดหน้ากลับไปในทิศทาง เดิม ในจังหวะสาม เม่ือผูป้ ฏิบตั ิ ปฏิบัตเิ พยี งคนเดียวไมต่ อ้ งรอสัญญาณ “อ๊ึบ” ๓๙โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์
“น่ัง ุคกเ ่ขา, ทา” ท่าเลกิ น่งั คุกเขา่ ควู่ ันทยหัตถ์ คาบอก “เป็นคาๆ” ๑.เรือ่ งทจี่ ะทาการฝกึ : การใช้กระบสี่ าหรบั นายทหาร “ท่าเลิกนงั่ คกุ เขา่ ควู่ ันทยหตั ถ์” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ ่ทาเลิกน่ังคุกเข่าวันทยหัต ์ถ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสปฏิบัติหน้าที่รักษาการณ์และยามถวายพระเกียรติ กรณีเม่ือพระมหากษัตริย์ หรอื พระบรมวงศานุวงศท์ กุ พระองค์เสดจ็ ฯ ผ่านในระยะใกล้ ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “เปน็ คาๆ” ใชค้ าบอก “นั่งคกุ เขา่ , ทา” ๕.การปฏิบตั ิ : ท่าเลิกน่งั คุกเขา่ คูว่ ันทยหัตถ์จะปฏิบัติต่อจากทา่ น่ังคุกเข่าคู่วนั ทยหัตถ์ จงั หวะหนง่ึ จังหวะหน่ึง : เมอื่ ไดย้ ินคาบอก “นง่ั คกุ เข่า, ทา” ใหผ้ ู้ปฏบิ ตั ินาเท้าขวากลับมาวาง ณ ตาแหน่งเดิม ขาท่อนบน และขาทอ่ นล่างตัง้ ฉากกัน อยู่ในทา่ คุกเขา่ วันทยหัตถ์ สว่ นอื่นๆ ของรา่ งกายอยู่ในลกั ษณะเดิม หมายเหตุ : เมอ่ื ผปู้ ฏิบัตอิ ยู่ในท่าน่ังคุกเขา่ วนั ทยหัตถ์ สามารถปฏิบัตใิ นท่าแลขวาและแลซา้ ยไดโ้ ดยการปฏบิ ตั ิท่ายกอก และสะบดั หนา้ ไปในทิศทางที่พระมหากษัตรยิ ์หรอื พระบรมวงศานุวงศเ์ สด็จฯ ๔๐ โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ท่ายกอก ๑.ความเป็นมา : ท่ายกอกเปน็ ท่าฝกึ พระราชทาน สืบเน่ืองมาจากการที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ต้ังแต่เม่ือคร้ังยังทรงดารงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสังเกตและทอดพระเนตรเห็นเหล่าบรรดาทหารหลายนาย มีบุคลิกลักษณะที่ ไม่สง่าผ่าเผย มักจะยืนค่อมตัว ไม่ยืดอก และปลายคางเชิด จึงพระราชทานคาสอน พร้อมท้ัง ทรงพระเมตตาแสดงพระองค์เป็นตัวอย่าง ด้วยการยืดอก เก็บคาง และสะบัดหน้าไปยังผู้รับการเคารพ ซึ่งท่ายกอกน้ีสามารถนาไปปฏิบัติประกอบกับทุกท่าการฝึกในขั้นตอนสุดท้ายของแต่ละท่าได้ ในระยะแรกทรง เรียกท่าการฝึกนแ้ี บบลาลองว่า “ทา่ แกเ้ ขนิ ” ตอ่ มาพระราชทานชือ่ ท่าน้วี า่ “ท่ายกอก” ๒.เร่ืองท่ีจะทาการฝึก : การใช้กระบี่สาหรบั นายทหาร “ทา่ ยกอก” ๓.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผน เดียวกันของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ ๔.ประโยชน์ : ทา่ ยกอกใชป้ ฏิบตั ิเพ่อื ใหท้ หารมลี ักษณะอกผายไหลผ่ ่ึง ดูสงา่ งาม พรอ้ มทจี่ ะปฏบิ ตั ใิ นท่าอ่ืนๆ ตอ่ ไป ๕.คาบอก : เปน็ คาบอก “เป็นคาๆ” ใช้คาบอก “ยก, อก” “ยก, อก” คาบอก “เป็นคาๆ” ท่ายกอก (ดา้ นหนา้ ) ทา่ ยกอก (ด้านข้าง) ๖.การปฏิบัติ : เมื่อได้ยินคาบอก “ยก” เป็นการเตือนให้ผู้ปฏิบัติเตรียมพร้อม ในการปฏิบัติต่อไป เม่ือได้ยิน ่ทายกอก คาบอก “อก” ให้ผู้ปฏิบัติยกหน้าอกขึ้นในลักษณะกระตุกหน้าอกให้ผ่ึงผาย ซ่ึงมิใช่การยกไหล่ หรือ สูดลมหายใจเข้า จากน้ันเม่ือได้ยินคาบอก “อึ๊บ” ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดหน้าไปทางผู้รับการเคารพ (ในลักษณะการ กดั กราม) ไปในทิศทางตรงหน้า ทางขวา หรอื ทางซ้ายให้แขง็ แรง ส่วนอน่ื ๆ ของรา่ งกายอยู่ในลักษณะเดิม ๔๑โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์
“ยก, อก” หมายเหตุ กรณีปฏิบัติต่อจากท่าวันทยหัตถ์ เมื่อผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่าวันทยหัตถ์อยู่ ให้ปฏิบัติท่ายกอก คาบอก “เป็นคาๆ” เมื่อพระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เสด็จฯ ผ่านกรณีปฏิบัติท่าวันทยหัตถ์อยู่ ให้ปฏิบัติ ่ทายกอก ในท่ายกอก และให้สะบัดหน้ารับส่งไปในทิศทางท่ีพระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จะเสด็จฯ ผา่ น เพ่ือใหเ้ กิดความแข็งแรงเพมิ่ มากขนึ้ กรณีถวายงานพระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในท่ามือเปล่าให้ผู้ปฏิบัติตบเท้า เข้าหาพระมหากษัตริย์หรอื พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองคต์ ามทิศทางที่พระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ทกุ พระองคป์ ระทับอยู่ เม่ือผู้ปฏิบตั ชิ ดิ เทา้ เรยี บร้อยแล้วให้ปฏิบัติท่ายกอก ตามแบบฝึก หลังจากนั้นจึงปฏิบัติ ในท่าวันทยหัตถ์ เม่ือยกมือขวาปฏิบัติท่าวันทยหัตถ์เรียบร้อยแล้ว ให้ปฏิบัติท่ายกอกและสะบัดหน้าไปทางท่ี พระมหากษตั รยิ ์หรอื พระบรมวงศานวุ งศท์ กุ พระองค์ประทับ แล้วถวายรายงานต่อไป กรณีถวายรายงานในท่าอาวุธ ให้ผู้ปฏิบัติปฏิบัติท่าคอนอาวุธตบเท้าเข้าหาพระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ตามทิศทางที่พระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ประทับอยู่ เม่ือผู้ปฏิบัติชิดเท้าลดปืนลงมาอยู่ในท่าเรียบอาวุธเรียบร้อยแล้วให้ปฏิบัติท่ายกอกตามแบบฝึก จากนั้นปฏิบั ติ ท่าวั นทยาวุ ธและยกอกแล้ วสะบัดหน้าไปทิศทางที่ พระมหากษัตริ ย์ หรื อพระบรมวงศานุ วงศ์ ทกุ พระองคป์ ระทับอย่แู ล้วถวายรายงานต่อไป กรณีถวายรายงานด้วยท่ากระบ่ี ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่าดมกระบ่ีกึ่งขวาหันตบเท้าวิ่งเข้าหา พระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ตามทิศทางที่ประทับอยู่เมื่อทาท่าหยุดจากการว่ิง เรียบร้อยแล้วให้ปฏิบัติท่าวันทยาวุธ เมื่อลดกระบี่ลงเรียบร้อยแล้วให้ปฏิบัติท่ายกอกและสะบัดหน้าไปทิศทางที่ พระมหากษัตริยห์ รอื พระบรมวงศานุวงศท์ ุกพระองค์ประทบั อยู่ แลว้ ถวายรายงานตอ่ กรณีการปฏิบัติของท่ายกอกประกอบท่าอาวุธ ให้ปฏิบัติท่าวันทยาวุธให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงปฏิบัติ ท่ายกอกตามแบบฝึก จากน้ันให้สะบัดหน้ารับ - ส่งพระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทจี่ ะเสดจ็ ฯ ผา่ นดว้ ยความแข็งแรง ๔๒ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ท่าเรยี บธง “แถว - ตรง” ๑.เร่ืองทจ่ี ะทาการฝึก : ทา่ ธงชัยเฉลมิ พล “ท่าเรียบธง” คาบอก “แ ่บง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกันของ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ ท่าเ ีรยบธง ๓.ประโยชน์ : ท่าเร่ิมต้นของพลธง และใช้สาหรับการถวายความเคารพพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้าหลาน เธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์, พระเจ้าหลานเธอพระองค์ เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์, พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอทิตยาทร กิติคุณ, ผแู้ ทนพระองค์, เอกอัครราชทูตต่างประเทศ ๔.คาบอก : เป็นคาบอก ”แบ่ง” ใช้คาบอก “แถว - ตรง” ทา่ เรยี บธง ๕.การปฏิบัติ ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาจับคันธงในลักษณะคีบ โดยน้ิวหัวแม่มืออยู่ด้านใน น้ิวท้ังส่ีเรียงชิดติดกัน อยู่ด้านนอก ปลายนิ้วช้ีลงพ้ืน แขนขวาเหยียดตึง แบะข้อศอกขวาออกเล็กน้อยในลักษณะของท่าตรง โคนธงอยู่บริเวณปลายนว้ิ กอ้ ยเทา้ ขวา ธงตง้ั ตรงแนบชิดติดข้างลาตวั และร่องไหลข่ วา มือซา้ ยจบั กระบ่ีหันฝ่ามือ เข้าหาลาตัว นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านใน น้ิวอ่ืนเรียงชิดติดกันทาบไปกับฝักกระบี่ด้านนอกในลักษณะคีบ ส่วนอ่ืนๆ ของร่างกายอยใู่ นลักษณะของท่าตรง ๔๕โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ทา่ ยกธง ๑.เรื่องทีจ่ ะทาการฝึก : ท่าธงชัยเฉลมิ พล “ทา่ ยกธง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ถวายความเคารพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟ้าจฬุ าภรณว์ ลยั ลักษณ์อคั รราชกมุ ารี ๔.คาบอก : ใชค้ าบอก “ยก - ธง” ๕.การปฏบิ ตั ิ : แบ่งออกเป็น ๓ จังหวะ ทา่ เรมิ่ ตน้ จงั หวะหนง่ึ จงั หวะสอง จงั หวะสาม “ยก - ธง” จงั หวะหนงึ่ : เมอ่ื ไดย้ นิ คาบอก “ยกธงจังหวะ - หนึง่ ” ใหผ้ ู้ปฏิบตั ิยกมอื ซา้ ยขน้ึ มาจบั คนั ธง บริเวณแนวหัวไหล่ขวา ในลักษณะการอบหันฝ่ามือเข้าหาลาตัว นิ้วทั้งส่ีเรียงชิดติดกัน ข้อศอกซ้ายเปิดขนานกับพื้น ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ่ทายกธง อยใู่ นลักษณะเดมิ จังหวะสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “ยกธงจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงหลวมในลักษณะเดิม พรอ้ มกันน้นั ใช้มือขวายกคันธงขน้ึ จนมอื ขวาอยแู่ นวระดบั เข็มขัด แบะขอ้ ศอกขวาออกดา้ นข้างเล็กน้อย คันธงตั้งตรง ส่วนอื่นๆ ของรา่ งกายอยใู่ นลักษณะเดิม จังหวะสาม : เม่ือได้ยินคาบอก “ยกธงจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงให้แน่นในลักษณะเดิม พร้อมกันนั้นเล่ือนมือขวาลงตามคันธงจนแขนขวาเหยียดตึงและจับคันธงในลักษณะคีบ น้ิวหัวแม่มืออยู่ด้านใน น้วิ ทง้ั ส่เี รียงชิดตดิ กนั อยู่ด้านนอก ปลายนวิ้ ชลี้ งพื้น ๔๖ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์
ทา่ เรียบธงจากท่ายกธง ๑.เรือ่ งท่จี ะทาการฝกึ : ท่าธงชยั เฉลมิ พล “ทา่ เรียบธงจากทา่ ยกธง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้เลิกถวายความเคารพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้า ลกู เธอเจา้ ฟ้าจฬุ าภรณ์วลยั ลกั ษณ์อัครราชกมุ ารี ๔.คาบอก : ใชค้ าบอก “เรียบ - ธง” ๕.การปฏิบัติ แบง่ ออกเปน็ ๓ จังหวะ จังหวะหนง่ึ จงั หวะสอง จงั หวะสาม จังหวะหนึ่ง : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบธงจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติเลื่อนมือขวาข้ึนตามคันธง “เ ีรยบ - ธง” จนถงึ แนวระดับเขม็ ขดั ในลักษณะการจบั เช่นเดมิ สว่ นอ่ืนๆ ของรา่ งกายอยใู่ นลักษณะเดิม จังหวะสอง : เมอ่ื ได้ยินคาบอก “เรียบธงจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงหลวมในลักษณะเดิม ท่าเ ีรยบธงจาก ่ทายกธง พรอ้ มกนั นนั้ ใช้มอื ขวาลดคันธงลงจนโคนธงสมั ผัสพ้นื บริเวณปลายนวิ้ กอ้ ยเท้าขวา มือซ้ายยังคงอยู่ในลักษณะ เชน่ เดิม สว่ นอืน่ ๆ ของรา่ งกายอยู่ในลักษณะเดิม จังหวะสาม : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบธงจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดมือซ้าย (ในลักษณะการฟันมือ) มาจับกระบี่หันฝ่ามือเข้าหาลาตัว นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านใน น้ิวทั้งสี่เรียงชิดติดกันทาบไปกับฝักกระบี่ด้านนอก ในลกั ษณะคีบอย่างแข็งแรง กลบั มาอยู่ในลักษณะของทา่ เรยี บธง ๔๗โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ทา่ เตรียมลดธง ๑.เร่ืองทีจ่ ะทาการฝึก : ท่าธงชยั เฉลมิ พล “ทา่ เตรียมลดธง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้สาหรบั การถวายความเคารพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิพระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็นท่า เตรียมการปฏิบัติลดธงเพื่อถวายความเคารพ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวฯ ๔.คาบอก : ใช้คาบอก “เตรยี ม - ลดธง” ๕.การปฏิบตั ิ : แบ่งออกเป็น ๕ จงั หวะ ่ทาเต ีรยมลดธง “เต ีรยม - ลดธง” ทา่ เรมิ่ ต้น จงั หวะหนง่ึ จังหวะหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “เตรียมลดธงจังหวะ - หนึ่ง” ให้ผู้ปฏิบัติยกมือซ้ายขึ้นมาจับคันธงบริเวณ แนวหัวไหล่ขวา ในลักษณะการอบหันฝ่ามือเข้าหาลาตัว น้ิวท้ังสี่เรียงชิดติดกัน ข้อศอกซ้ายเปิดขนานกับพื้น สว่ นอน่ื ๆ ของรา่ งกายอยูใ่ นลกั ษณะเดมิ ๔๘ โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
จงั หวะสอง จังหวะสาม จังหวะส่ี จงั หวะห้า จังหวะสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “เตรียมลดธงจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงหลวมในลักษณะ “เต ีรยม - ลดธง” เดิมพร้อมกันน้ันใช้มือขวายกคันธงขึ้นจนมือขวาอยู่แนวระดับเข็มขัด แบะข้อศอกขวาออกด้านข้างเล็กน้อย คนั ธงตง้ั ตรง ส่วนอื่นๆ ของร่างกายอยู่ในลกั ษณะเดมิ จังหวะสาม : เมื่อได้ยินคาบอก “เตรียมลดธงจงั หวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงให้แน่นในลักษณะ เดิม พร้อมกันนั้นเล่ือนมือขวาลงตามคันธงจนแขนขวาเหยียดตึงและจับคันธงในลักษณะคีบ น้ิวหัวแม่มือ อยู่ด้านใน นิว้ ท้งั สีเ่ รยี งชดิ ติดกันอย่ดู า้ นนอก ปลายนว้ิ ชีล้ งพน้ื จังหวะสี่ : เม่อื ได้ยนิ คาบอก “เตรียมลดธงจงั หวะ - ส”ี่ ให้ผู้ปฏิบตั ิ ปฏิบตั ทิ ่าก่ึงขวาหนั จังหวะหนงึ่ จังหวะห้า : เมื่อได้ยินคาบอก “เตรียมลดธงจังหวะ - ห้า” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวาในลักษณะ การอดั ส้นเทา้ อย่างแข็งแรง พร้อมกนั นน้ั ใหส้ ะบัดหน้าไปทางซ้าย ๔๕ องศา (ทิศเดิมกอ่ นปฏิบตั ิท่ากึง่ ขวาหนั ) ท่าเต ีรยมลดธง ๔๙โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ท่าเรยี บธงจากทา่ เตรียมลดธง ๑.เร่อื งทีจ่ ะทาการฝกึ : ทา่ ธงชยั เฉลิมพล “ท่าเรียบธงจากทา่ เตรียมลดธง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้สาหรับเลิกถวายความเคารพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิพระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช ๔.คาบอก : ใชค้ าบอก “เรียบ - ธง” ๕.การปฏบิ ัติ : แบ่งออกเป็น ๕ จงั หวะ “เ ีรยบ - ธง” จงั หวะหนึง่ จงั หวะสอง ่ทาเ ีรยบธงจาก ่ทา ่ทาเต ีรยมลดธง จังหวะหน่ึง : เม่อื ไดย้ ินคาบอก “เรยี บธงจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่ากึ่งซ้ายหันจังหวะหน่ึง ส่วนอ่ืนๆ ของร่างกายอยใู่ นลกั ษณะเดิม จังหวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบธงจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าขวามาชิดเท้าซ้ายในลักษณะ การอัดสน้ เท้าอยา่ งแขง็ แรง สายตามองตรงไปข้างหนา้ ในแนวระดบั ส่วนอ่นื ๆ ของร่างกายอยใู่ นลกั ษณะเดิม ๕๐ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์
จงั หวะสาม จงั หวะส่ี จงั หวะห้า จงั หวะสาม : เมื่อได้ยินคาบอก “เรยี บธงจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติเลื่อนมือขวาข้ึนตามคันธงจนถึงแนวระดับ “เ ีรยบ - ธง” เข็มขดั ในลักษณะการจบั เชน่ เดมิ ส่วนอื่นๆ ของร่างกายอยู่ในลกั ษณะเดิม จังหวะสี่ : เมื่อได้ยินคาบอก “เรียบธงจังหวะ - ส่ี” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงหลวมในลักษณะเดิม ท่าเ ีรยบธงจาก ่ทาเต ีรยมลดธง พร้อมกันนั้นใช้มือขวาลดคันธงลงจนโคนธงสัมผัสพื้นบริเวณปลายน้ิวก้อยเท้าขวา มือซ้ายยังคงอยู่ในลักษณะ เชน่ เดมิ สว่ นอ่นื ๆ ของร่างกายอยู่ในลกั ษณะเดมิ จังหวะห้า : เมื่อได้ยินคาบอก “เรียบธงจังหวะ - ห้า” ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดมือซ้าย (ในลักษณะการฟันมือ) มาจับกระบ่ีหันฝ่ามือเข้าหาลาตัว นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านใน นิ้วทั้งส่ีเรียงชิดติดกันทาบไปกับฝักกระบี่ด้านนอก ในลักษณะคบี อยา่ งแข็งแรง กลับมาอยใู่ นลกั ษณะของท่าเรยี บธง ๕๑โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์
ทา่ ลดธง ๑.เรอื่ งที่จะทาการฝึก : ท่าธงชัยเฉลมิ พล “ทา่ ลดธง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชถ้ วายความเคารพสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั ฯ หรือประมขุ ตา่ งประเทศทมี่ าเยอื นอย่างเป็นทางการ ๔.คาบอก : ใชค้ าบอก “ลด - ธง” ด้านหนา้ ดา้ นขา้ ง “ลด - ธง” ๕.การปฏิบัติ : ท่าลดธงเป็นท่าท่ีปฏิบัติต่อจากท่าเตรียมลดธง เม่ือได้ยินคาบอก “ลด - ธง” ให้ผู้ปฏิบัติ ใช้มือขวายกคันธงข้ึนมาด้านหลังอย่างช้าๆ โดยให้เลื่อนมือขวาประคองคันธงจนแขนขวาเหยียดตึง ่ทาลดธง จับคันธงในลักษณะคีบ พร้อมกันนั้นลดศอกซ้ายลงอย่างช้าๆ จนเกือบแนบชิดติดลาตัว มือซ้ายค่อยๆ ลดคนั ธงไปดา้ นหน้าจนคันธงขนานกับพื้น สายตามองตรงไปด้านหน้าในแนวระดับ ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย อยู่ในลกั ษณะเดมิ หมายเหตุ : ๑.กรณีลดธงมีเพลงประกอบ ให้ผู้ปฏิบัติลดธงอย่างช้าๆ ธงจะขนานกับพ้ืนพอดี เม่ือเพลงบรรเลงได้ครึ่งเพลง หรือเม่ือพระมหากษัตริย์ เสด็จฯ ผ่าน จากน้ันดงึ ธงขึ้นอยา่ งช้าๆ จนกลบั มาอยูใ่ นลักษณะของท่าเตรียมลดธง (เพลงสามารถบรรเลงจบก่อนปฏิบัติ ทา่ เตรยี มลดธงเรยี บรอ้ ยได้) ๒.กรณลี ดธงไม่มเี พลงประกอบ เมื่อไดย้ ินคาบอก “วนั ทยา - วธุ ” ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั ิ ปฏิบตั ิท่าลดธงจนธงขนานกบั พ้นื ไม่ชา้ และเรว็ จนเกนิ ไป เมือ่ ไดย้ นิ คาบอก “เรยี บ” ใหผ้ ูป้ ฏิบตั ิ ปฏบิ ัติทา่ เตรยี มลดธงจากท่าลดธง ไมช่ ้าและเรว็ จนเกนิ ไป เมื่อไดย้ ินคาบอก “อาวุธ” ให้ผปู้ ฏิบัติ ปฏิบัตทิ า่ เรียบธงจากท่าเตรียมลดธง ๕๒ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์
ท่าเตรียมลดธงจากทา่ ลดธง ๑.เรอื่ งทจ่ี ะทาการฝึก : ทา่ ธงชัยเฉลิมพล “ท่าเตรียมลดธงจากทา่ ลดธง” ๒.ความมงุ่ หมาย : เพอ่ื ใหป้ ฏิบัตไิ ดถ้ ูกต้องตามแบบฝึกและเปน็ ระเบียบแบบแผนเดียวกันของหน่วยทหารมหาดเล็ก ราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้เลิกถวายความเคารพสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวฯ หรือประมขุ ต่างประเทศท่ีมาเยือนอย่างเป็นทางการ ๔.คาบอก : ใช้คาบอก “เตรยี ม - ลดธง” ทา่ ลดธง ทา่ เตรยี มลดธง “เต ีรยม - ลดธง” ๕.การปฏิบตั ิ : เมื่อไดย้ ินคาบอก “เตรยี ม - ลดธง” ให้ผปู้ ฏบิ ัติใช้มือซ้ายยกธงพร้อมกับเปิดข้อศอกซ้ายข้ึนอย่าง ท่าเต ีรยมลดธงจาก ่ทาลดธง ช้าๆ พร้อมกันนั้นใช้มือขวาค่อยๆ ลดคันธงลง จนคันธงตั้งตรงแนบชิดติดลาตัวและร่องไหล่ขวา ข้อศอกซ้ายจะ เปิดขนานกับพ้นื พอดี ส่วนอ่ืนๆ ของรา่ งกายอยู่ในลักษณะเดิม ๕๓โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ท่าเชญิ ธง ๑.เรื่องที่จะทาการฝึก : ท่าธงชยั เฉลิมพล “ท่าเชิญธง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกันของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสเชิญธงออกจากแถว เช่น การเชิญธงในการเปล่ียนกองรักษาการณ์ หรอื การรบั พระราชทานธงชยั เฉลิมพลจากพระมหากษัตรยิ ์ รปู ทหี่ น่งึ รูปทสี่ อง ่ทาเชิญธง ๔.การปฏิบตั ิ เม่ือไดย้ ินคาบอก “หน้า” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบตั ิทา่ ยกธง (รปู ทห่ี น่ึง) เม่ือได้ยินคาบอก “เดิน” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายผลักคันธงไปด้านหน้า คันธงทามุมกับลาตัว ประมาณ ๒๐ องศา ข้อศอกซ้ายเปิดขนานกับพ้ืน พร้อมกันนั้นใช้มือขวาผลักคันธงไปด้านหลัง แขนเหยียดตึง มือท้ังสองข้างยังคงจับคันธงในลักษณะเดิม พร้อมกันน้ันให้เตะเท้าซ้ายไปข้างหน้า ขาเหยียดตึง ปลายเท้างุ้ม แล้วตบเท้าซ้ายลงกับพ้ืนเต็มฝ่าเท้าอย่างแข็งแรง ในลักษณะของท่าเดิน สวนสนาม (รปู ทีส่ อง) เมื่อได้ยินคาบอก “แถว - หยุด” ให้ผู้ปฏิบัติตบเท้าขวาลงกับพ้ืนเต็มฝ่าเท้าอย่างแข็งแรง ในลกั ษณะยงั้ ตวั หยุด จากนั้นนาส้นเท้าซ้ายมาชิดส้นเท้าขวาในลักษณะการอัดส้นเท้าอย่างแข็งแรง พร้อม กนั นน้ั ใช้มอื ซา้ ยดงึ คันธงเข้าหาลาตัว ธงตง้ั ตรงแนบชดิ ตดิ ขา้ งลาตัวและร่องไหลข่ วา ศอกซ้ายเปิดขนาน กับพนื้ มือขวานาคนั ธงมาอยูข่ ้างลาตัวดา้ นขวากลบั มาอยูใ่ นลกั ษณะของทา่ ยกธง จากน้ันให้ปฏิบัติท่าเรียบ ธงจากทา่ ยกธง ๕๔ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์
ท่าแบกธง ๑.เร่ืองทจี่ ะทาการฝกึ : ทา่ ธงชยั เฉลิมพล “ทา่ แบกธง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้สาหรบั การเชญิ ธงในการเดินสวนสนาม ๔.คาบอก : ใชค้ าบอก “แบก - อาวุธ” ๕.การปฏบิ ัติ : แบ่งออกเปน็ ๕ จงั หวะ จงั หวะหนง่ึ จงั หวะสอง จังหวะหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “แบกอาวุธจังหวะ - หนึ่ง” ให้ผู้ปฏิบัติยกมือซ้ายขึ้นมาจับคันธง “แบก - อาวุธ” บริเวณแนวหัวไหล่ขวา ในลักษณะการอบหันฝ่ามือเข้าหาลาตัว นิ้วท้ังสี่เรียงชิดติดกัน ข้อศอกซ้ายเปิด ขนานกบั พืน้ สว่ นอ่นื ๆ ของร่างกายอยใู่ นลักษณะเดิม ท่าแบกธง จังหวะสอง : เมอื่ ไดย้ ินคาบอก “แบกอาวุธจงั หวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงหลวมในลักษณะเดิม พร้อมกันนั้นใช้มือขวายกคันธงข้ึนจนมือขวาอยู่แนวระดับเข็มขัด แบะข้อศอกขวาออกด้านข้างเล็กน้อย คนั ธงต้งั ตรง สว่ นอ่นื ๆ ของรา่ งกายอยู่ในลักษณะเดมิ ๕๕โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
จงั หวะสาม จังหวะส่ี จงั หวะหา้ “แบก - อาวุธ” จังหวะสาม : เม่ือได้ยินคาบอก “แบกอาวุธจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงให้แน่น ในลักษณะเดิม พร้อมกันนั้นเลื่อนมือขวาลงตามคันธงจนแขนขวาเหยียดตึงและจับคันธงในลักษณะคีบ ่ทาแบกธง นิว้ หัวแมม่ อื อยู่ดา้ นใน นว้ิ ท้งั สเ่ี รียงชิดติดกนั อยู่ดา้ นนอก ปลายนวิ้ ชี้ลงพน้ื จังหวะสี่ : เมื่อได้ยินคาบอก “แบกอาวุธจังหวะ - สี่” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาดันคันธงไปด้านหน้า ทามุมประมาณ ๖๐ องศา แขนขวาเหยียดตงึ ส่วนอ่ืนๆ ของร่างกายอย่ใู นลักษณะเดิม จังหวะห้า : เม่ือได้ยินคาบอก “แบกอาวุธจังหวะ - ห้า” ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดมือซ้าย (ในลักษณะการฟันมือ) มาจับกระบ่ีหันฝ่ามือเข้าหาลาตัว น้ิวหัวแม่มืออยู่ด้านใน นิ้วทั้งส่ีเรียงชิดติดกันทาบไปกับฝักกระบ่ีด้านนอก ในลกั ษณะคบี อยา่ งแขง็ แรง หมายเหตุ : ในขณะเคลอ่ื นท่ี มือซ้ายที่จับกระบ่ีในลักษณะคีบให้เปลี่ยนเป็นการอบ ยกเว้นนิ้วชี้ให้ทาบไปกับ ฝกั กระบี่ ๕๖ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ทา่ เรยี บธงจากทา่ แบกธง ๑.เรอ่ื งท่จี ะทาการฝกึ : ท่าธงชัยเฉลิมพล “ทา่ เรยี บธงจากทา่ แบกธง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกันของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : เป็นท่าเรยี บธงจากทา่ แบกธง ๔.คาบอก : ใช้คาบอก “เรียบ - อาวธุ ” ๕.การปฏบิ ตั ิ : แบง่ ออกเปน็ ๕ จังหวะ จงั หวะหนึง่ จังหวะสอง “เ ีรยบ - อา ุวธ” จังหวะหน่ึง : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - หนึ่ง” ให้ผู้ปฏิบัติยกมือซ้ายขึ้นมาจับคันธง ท่าเ ีรยบธงจาก ่ทาแบกธง บรเิ วณแนวหวั ไหลข่ วา ในลักษณะการอบหันฝา่ มือเขา้ หาลาตัว นิว้ ท้งั สี่เรียงชิดติดกัน ข้อศอกซ้ายเปิดขนานกับพื้น สว่ นอ่ืนๆ ของร่างกายอยู่ในลกั ษณะเดมิ จังหวะสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาดึงคันธงเข้าหาลาตัว ธงตั้งตรงแนบชดิ ติดข้างลาตวั และรอ่ งไหล่ขวา ส่วนอื่นๆ ของรา่ งกายอย่ใู นลักษณะเดิม ๕๗โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์
จังหวะสาม จงั หวะสี่ จงั หวะหา้ “เ ีรยบ - อา ุวธ” จังหวะสาม : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติเลื่อนมือขวาขึ้นตามคันธงจนถึง แนวระดบั เขม็ ขัด ในลกั ษณะการจบั เชน่ เดมิ ส่วนอนื่ ๆ ของร่างกายอยูใ่ นลกั ษณะเดิม ท่าเ ีรยบธงจาก ่ทาแบกธง จังหวะส่ี : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - ส่ี” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับคันธงหลวมในลักษณะเดิม พร้อมกันนั้นใช้มือขวาลดคันธงลงจนโคนธงสัมผัสพื้นบริเวณปลายนิ้วก้อยเท้าขวา โคนธงอยู่บริเวณปลาย นิ้วกอ้ ยเท้าขวา ธงตัง้ ตรงแนบชิดตดิ ขา้ งลาตัวและรอ่ งไหล่ขวา ส่วนอ่ืนๆ ของร่างกายอย่ใู นลักษณะเดิม จังหวะห้า : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - ห้า” ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดมือซ้าย (ในลักษณะการฟันมือ) มาจับกระบ่ีหันฝ่ามือเข้าหาลาตัว น้ิวหัวแม่มืออยู่ด้านใน น้ิวทั้งสี่เรียงชิดติดกันทาบไปกับฝักกระบี่ด้านนอก ในลักษณะคบี อยา่ งแขง็ แรง กลับมาอยู่ในลักษณะของทา่ เรียบธง ๕๘ โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ทา่ แสดงการเคารพและเลกิ แสดงการเคารพขณะเคล่ือนท่ี ๑.เรอื่ งท่ีจะทาการฝึก : ทา่ ธงชัยเฉลมิ พล “ทา่ แสดงการเคารพและเลิกแสดงการเคารพขณะเคลอ่ื นท”ี่ ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชแ้ สดงการเคารพในระหวา่ งเคลื่อนที่ ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “ผสม” ใช้คาบอก “ทางขวาระวัง, วันทยา - วุธ” จังหวะหนงึ่ จงั หวะสอง คาบอก “ผสม” “ทางขวาระวัง, วันทยา - ุวธ” ๕.การปฏบิ ัติ : ท่าเคารพธงขณะเคล่ือนท่ี แบง่ การปฏิบัติออกเป็น ๓ ขั้นตอน ่ทาแสดงการเคารพ ๕.๑ หว้ งเตรยี มเคารพ และเลิกแสดงการเคารพขณะเค ื่ลอน ่ที จงั หวะหน่งึ เม่ือได้ยินคาบอก “ระวัง, จังหวะ” ในขณะท่ีเท้าซ้ายตกถึงพ้ืน ให้ก้าวเท้าขวาเดิน ตอ่ ไปในลาดบั การเดนิ ของเท้า เมื่อไดย้ ินคาบอก “หนึง่ ” ในขณะท่ีเท้าซา้ ยตกถึงพน้ื อีกครั้ง ให้ก้าวเท้าขวาเดิน ต่อไปแล้วยกมือซ้ายขึ้นมาจับคันธง บริเวณแนวหัวไหล่ขวา ในลักษณะการอบหันฝ่ามือเข้าหาลาตัว นิ้วทั้งส่ี เรียงชดิ ตดิ กนั ข้อศอกซ้ายเปิดขนานกับพื้น จังหวะสอง เม่ือได้ยินคาบอก “จังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติก้าวเท้าซ้ายเดินต่อไป พร้อมกันนั้น ใช้มือขวาดึงคนั ธงเขา้ ข้างลาตวั คันธงตง้ั ตรง ๕๙โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์
คาบอก “ผสม” “ทางขวาระวัง, วันทยา - ุวธ” จังหวะหน่ึง จงั หวะสอง ่ทาแสดงการเคารพ ๕.๒ หว้ งเคารพ และเ ิลกแสดงการเคาพขณะเค ืล่อน ่ที จงั หวะหน่งึ เม่ือได้ยินคาบอก “แลขวาทาจังหวะ” ในขณะท่ีเท้าซ้ายตกถึงพื้นให้ก้าวเท้าขวาเดินต่อไป ในลาดับการเดินของเท้า เม่ือได้ยินคาบอก “หน่ึง” ในขณะท่ีเท้าซ้ายตกถึงพ้ืนอีกคร้ัง ให้ก้าวเท้าขวา เดินต่อไป ใช้มือซ้ายจับคันธงหลวมในลักษณะเดิม พร้อมกันน้ันใช้มือขวายกคันธงขึ้นจนมือ ขวา อยู่แนวระดับเข็มขดั แบะข้อศอกขวาออกดา้ นข้างเลก็ น้อย คนั ธงตั้งตรง จังหวะสอง เมื่อได้ยินคาบอก “จังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติก้าวเท้าซ้ายเดินต่อไป แล้วใช้มือซ้ายจับคันธง ให้แน่นในลักษณะเดิม เล่ือนมือขวาลงตามคันธงจนแขนขวาเหยียดตึง พร้อมกับสะบัดหน้าไป ทางขวา อย่างแขง็ แรง ๖๐ โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
จงั หวะหน่งึ จังหวะสอง จังหวะสาม จงั หวะสี่ คาบอก “ผสม” “ทางขวาระวัง, วันทยา - ุวธ” ๕.๓ หว้ งเลกิ เคารพ ่ทาแสดงการเคารพ จงั หวะหนึ่ง และเลิกแสดงการเคารพขณะเค ื่ลอน ่ที เมื่อได้ยินคาบอก “แลตรงจังหวะ” ในขณะท่ีเท้าซ้ายตกถึงพ้ืน ให้ผู้ปฏิบัติก้าวเท้าขวา เดินต่อไปตามลาดับการเดินของเท้า เม่ือได้ยินคาบอก “หนึ่ง” ในขณะที่เท้าซ้ายตกถึงพ้ืนอีกคร้ัง ให้ก้าวเท้าขวาเดินต่อไป ให้ผู้ปฏิบัติเลื่อนมือขวาขึ้นตามคันธงจนอยู่แนวระดับเข็มขัด แบะข้อศอกขวา ออกดา้ นข้างเลก็ น้อย คนั ธงตั้งตรง จังหวะสอง เมื่อได้ยินคาบอก “แลตรงจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติก้าวเท้าซ้ายเดินต่อไป ใช้มือขวา ลดคันธงลงจนแขนขวาเหยียดตึง พร้อมกนั น้ันใหส้ ะบัดหน้ามองตรงอย่างแข็งแรง จังหวะสาม เมื่อได้ยินคาบอก “แลตรงจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติก้าวเท้าขวาเดินต่อไป พร้อมกันน้ัน ให้ใชม้ อื ขวาผลักคนั ธงไปดา้ นหนา้ จนคนั ธงเอียงทามมุ กบั ลาตวั ๖๐ องศา จงั หวะส่ี เม่ือได้ยินคาบอก “แลตรงจังหวะ - ส่ี” ให้ผู้ปฏิบัติก้าวเท้าซ้ายเดินต่อไป พร้อมกันน้ัน ให้สะบัดมือซ้าย (ในลักษณะการฟันมือ) มาจับกระบ่ี ในลักษณะการอบ นิ้วชี้ให้ทาบไปกับฝักกระบ่ี อยา่ งแขง็ แรง ๖๑โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์
โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก ภาคผนวก โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ธงพระอิสรยิ ยศ
ภาคผนวก โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก พระราชบัญญัติธง พ.ศ.๒๕๒๒ หมวด ๒ ธงพระอสิ รยิ ยศ มาตรา ๖ ธงสาหรบั องคพ์ ระมหากษตั รยิ ์ ไดแ้ ก่ ๑.ธงมหาราชใหญ่ มลี ักษณะเปน็ รปู สี่เหลยี่ มจัตุรัส พืน้ ธงสีเหลอื ง มรี ปู ครุฑพา่ ห์สแี ดงอยตู่ รงกลาง ธงมหาราชใหญ่ ๒.ธงมหาราชน้อย แบ่งตามความยาวออกเป็นสองตอน ตอนต้นมีลักษณะและสีอย่างเดียวกับธงมหาราชใหญ่ แต่กว้างไมเ่ กิน ๖๐ เซนติเมตร ตอนปลายมีลักษณะเป็นชายต่อสีขาวแปลงเป็นรูปธงยาวเรียว โดยให้ปลายสุดกว้างครึ่งหน่ึง ของตอนตน้ ปลายธงตดั เปน็ แฉกรปู หางนกแซงแซว ลึก ๓ ใน ๘ สว่ นของความยาวของผืนธง ความยาวของผืนธงเป็น ๘ เท่า ของความกว้างของตอนต้น ธงน้ีถ้าชักขึ้นแทนธงมหาราชใหญ่หมายความว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้งดการยิงสลุต ถวายคานับ มาตรา ๗ ธงสาหรบั องค์สมเด็จพระราชินี ได้แก่ ๑.ธงราชินีใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า กว้าง ๒ ส่วน ยาว ๓ ส่วนพ้ืนธงสีเหลือง ตอนต้น ๒ ใน ๓ ส่วน ของความยาวของผืนธงเหมือนธงมหาราชใหญ่ ตอนปลายตัดเป็นแฉกรูปหางนกแซงแซว ลึก ๑ ใน ๓ ส่วนของความยาว ของผนื ธง ๒.ธงราชินีน้อย มีลักษณะและสีอย่างเดียวกับธงมหาราชน้อย เว้นแต่ชายต่อเป็นสีแดง ธงนี้ถ้าชักข้ึนแทน ธงราชินใี หญ่ หมายความว่าทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหง้ ดการยงิ สลุตถวายคานับ ธงราชนิ ใี หญ่ ** หมายเหตุ คดั มาเฉพาะ หมวด ๒ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก มาตรา ๘ ธงสาหรบั องคส์ มเดจ็ พระบรมราชชนนี ไดแ้ ก่ ๑.ธงบรมราชวงศ์ใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหล่ียมผืนผ้า กว้าง ๒ ส่วน ยาว ๓ ส่วน พื้นธงสีเหลือง ปลายธง ตัดเป็นแฉกรูปหางนกแซงแซว ลึก ๑ ใน ๓ ส่วนของความยาวของผืนธง ที่ตรงกลางตอนต้น ๒ ใน ๓ ส่วนของผืนธง เป็นรูปส่ีเหลี่ยมจัตุรัสสีขาบ มีขนาดกว้างยาวคร่ึงหน่ึงของความกว้างของผืนธง ภายในรูปส่ีเหล่ียมจัตุรัสสีขาบมีรูปมงกุฎ ขัตติยราชนารีประดิษฐานบนพานแว่นฟ้า ๒ ช้ันเหนือตั่ง และมีตั่งลดต้ังฉัตรกลีบบัว ๕ ช้ัน อยู่สองข้าง รูปเหล่านี้ เป็นสเี หลืองเขม้ ๒.ธงบรมราชวงศ์น้อย แบง่ ตามความยาวออกเป็นสองตอน ตอนตน้ มลี กั ษณะและสอี ยา่ งเดียวกบั ตอนต้นของธง บรมราชวงศ์ใหญ่ แต่กว้างไม่เกิน ๖๐ เซนติเมตร ตอนปลายมีลักษณะเป็นชายต่อสีแดงแปลงเป็นรูป ธงยาวเรียว โดยให้ปลายสดุ กวา้ งครง่ึ หนง่ึ ของตอนตน้ ปลายธงตดั เป็นแฉกรูปหางนกแซงแซว ลึก ๓ ใน ๘ ส่วนของความยาวของผืนธง ความยาวของผืนธงเป็น ๘ เทา่ ของความกวา้ งของตอนตน้ ธงนถ้ี า้ ชกั ขน้ึ แทนธงบรมราชวงศใ์ หญ่ หมายความวา่ โปรดเกล้าฯ ให้งดการยงิ สลตุ ถวายคานับ ธงบรมราชวงศ์ใหญ่ มาตรา ๙ ธงสาหรบั องคส์ มเด็จพระยุพราช ไดแ้ ก่ ๑.ธงเยาวราชใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหล่ียมจัตุรัส พ้ืนธงมีสองสี รอบนอกสีขาบ รอบในสีเหลืองกว้างยาว คร่งึ หนึง่ ของรอบนอกมีรปู ครุฑพา่ หส์ แี ดงอยตู่ รงกลาง ๒.ธงเยาวราชน้อย แบ่งตามความยาวออกเป็นสองตอน ตอนต้นมีลักษณะและสีอย่างเดียวกับธงเยาวราชใหญ่ แต่กว้างไม่เกิน ๖๐ เซนติเมตร ตอนปลายมีลักษณะเป็นชายต่อสีขาวแปลงเป็นรูปธงยาวเรียวโดยให้ปลายสุดกว้างครึ่งหนึ่ง ของตอนต้น ปลายธงตัดเป็นแฉกรูปหางนกแซงแซวลึก ๓ ใน ๘ ส่วนของความยาวของ ผืนธง ความยาวของผืนธง เป็น ๘ เท่า ของความกว้างของตอนต้น ธงน้ีถ้าชักข้ึนแทนธงเยาวราชใหญ่ หมายความว่าโปรดเกล้าฯ ให้งดการยิงสลุต ถวายคานับ ธงเยาวราชใหญ่ โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ภาคผนวก มาตรา ๑๐ ธงสาหรับองค์พระวรชายาแหง่ สมเดจ็ พระยุพราช ไดแ้ ก่ ๑.ธงเยาวราชใหญ่ฝ่ายใน มีลักษณะเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้ากว้าง ๒ ส่วน ยาว ๓ ส่วน ตอนต้น ๒ ใน ๓ ส่วน ของความยาวของผืนธงเหมือนธงเยาวราชใหญ่ ตอนปลายเป็นสีขาบตัดเป็นแฉกรูปหางนกแซงแซวลึก ๑ ใน ๓ ส่วน ของความยาวของผืนธง ๒.ธงเยาวราชน้อยฝ่ายใน มีลักษณะและสีอย่างเดียวกับธงเยาวราชน้อย เว้นแต่ชายต่อเป็นสีแดง ธงนีถ้ ้าชักขึ้นแทนธงเยาวราชใหญ่ฝ่ายใน หมายความวา่ โปรดให้งดการยงิ สลุตถวายคานบั ธงเยาวราชใหญ่ฝ่ายใน มาตรา ๑๑ ธงสาหรับองค์พระราชโอรส สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอหรือสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอแห่งพระมหากษัตริย์ ทกุ รัชกาล ได้แก่ ๑.ธงราชวงศ์ใหญ่ฝ่ายหน้า มีลักษณะเป็นรูปสี่เหล่ียมจัตุรัส พื้นธงสีขาบ มีด วงกลมสีเหลือง ขนาดเสน้ ผ่าศนู ย์กลางยาวคร่งึ หนึง่ ของความกว้างของผืนธงอยตู่ รงกลางของผนื ธง ภายในดวงกลมมีรปู ครุฑพา่ ห์สแี ดง ๒.ธงราชวงศ์น้อยฝ่ายหน้า แบ่งตามความยาวออกเป็นสองตอน ตอนต้นมีลักษณะและสีอย่างเดียวกับ ธงราชวงศ์ใหญ่ฝ่ายหน้า แต่กว้างไม่เกิน ๖๐ เซนติเมตร ตอนปลายมีลักษณะเป็นชายต่อสีขาวแปลงเป็นรูปธงยาวเรียว โดยใหป้ ลายสดุ กวา้ งครง่ึ หนงึ่ ของตอนต้น ปลายธงตดั เปน็ แฉกรปู หางนกแซงแซวลึก ๓ ใน ๘ ส่วนของความยาวของผืนธง ความยาวของผืนธงเป็น ๘ เท่า ของความกว้างของตอนต้น ธงน้ีถ้าชักขึ้นแทนธงราชวงศ์ใหญ่ฝ่ายหน้า หมายความว่า โปรดให้งดการยิงสลุตถวายคานบั ธงราชวงศใ์ หญฝ่ า่ ยหน้า โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก มาตรา ๑๒ ธงสาหรับองค์พระราชธิดา สมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ หรือสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ แหง่ พระมหากษัตรยิ ์ทกุ รัชกาล ไดแ้ ก่ ๑.ธงราชวงศ์ใหญ่ฝ่ายใน มีลักษณะเป็นรูปสี่เหล่ียมผืนผ้ากว้าง ๒ ส่วน ยาว ๓ ส่วน ตอนต้น ๒ ใน ๓ ส่วน ของความยาวของผืนธงเหมือนธงราชวงศ์ใหญ่ฝ่ายหน้า ตอนปลายเป็นสีขาบตัดเป็นแฉกรูปหางนกแซงแซว ลึก ๑ ใน ๓ สว่ นของความยาวของผนื ธง ๒.ธงราชวงศ์น้อยฝ่ายใน มีลักษณะและสีอย่างเดียวกับธงราชวงศ์น้อยฝ่ายหน้า เว้นแต่ชายต่อเป็นสีแดง ธงนถี้ ้าชักข้นึ แทนธงราชวงศใ์ หญฝ่ ่ายใน หมายความว่าโปรดให้งดการยิงสลุตถวายคานบั ธงราชวงศ์ใหญฝ่ ่ายใน โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ธงชยั เฉลมิ พล
ภาคผนวก โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก ธงไชยเฉลิมพล หรอื ธงชัยเฉลมิ พล เสมือนตัวแทนจากพระมหากษัตริย์และเป็นธงประจาหน่วยทหารท่ีได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ธงชัยเฉลิมพลถือเป็นสิ่งศักด์ิสิทธ์ิสูงสุดของทหาร เป็นเกียรติยศของหน่วยทหารนั้นๆ เมื่อเวลาเข้าสู่สนามรบ ทหารท้ังปวงต้องพิทักษ์รักษาธงชัยเฉลิมพลของหน่วยตนไว้ด้วยชีวิต ธงชัยเฉลิมพลจึง เป็น เคร่อื งยึดเหน่ยี วจิตใจทหารนาความองอาจ กล้าหาญ แห่งหมู่ทหารทง้ั ปวง ให้เข้าต่อส้ขู า้ ศึกศตั รใู ห้ไดช้ ัยชนะกลบั มา ความหมายของธงชัยเฉลิมพล ความหมายสาคญั ของธงชัยเฉลิมพล มี ๓ ประการ คอื - ผนื ธง หมายถงึ ชาติ - บนยอดธงบรรจพุ ระพุทธรปู หมายถงึ พทุ ธศาสนา - เส้นพระเจ้า ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวฯ หมายถึง องค์พระมหากษตั ริย์ การปฏบิ ัติต่อธงชัยเฉลิมพลทุกข้ันตอน ต้องเป็นไปตามพิธีการ ระเบียบแบบแผนที่วางไว้อย่างเข้มงวดกวดขัน ในโอกาสที่จะเชิญธงชัยเฉลิมพลออกนอกที่ตั้งปกติหรือไปเข้าร่วมพิธีสาคัญ จะต้องเป็นพิธีการที่มีความสาคัญเก่ียวกับ ทหารซ่ึงเป็นเกียรติยศของหน่วยและเชิดหน้าชูตาของหน่วยด้วย เช่น พิธีกระทาสัตย์ปฏิญาณตนของทหาร และไปราชการสนามหรอื สงคราม ๑.ประเภทธงชยั เฉลมิ พล ตามพระราชบัญญัติธง พ.ศ.๒๕๒๒ ได้กาหนดประเภทของธงชัยเฉลิมพลไว้ ๓ ชนิด คือ ธงชัยเฉลิมพล ของทหารบก ธงชยั เฉลิมพลของทหารเรอื และธงชัยเฉลิมพลของทหารอากาศ ซงึ่ มีลักษณะดังน้ี ธงชัยเฉลมิ พลของทหารบก ธงชยั เฉลิมพลของหนว่ ยทหารบก ธงชัยเฉลิมพลของทหารบก มีลักษณะอย่างเดียวกับธงชาติ แต่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ ๗๐ เซนติเมตร ตรงกลางของผืนธงมีอุณาโลมทหารบกและมีชื่อหน่วยทหารสีแดงขลิบริมสีเหลือง เป็นแถวโค้งโอบใต้ อุณาโลมทหารบก ผืนธงมุมบนด้านที่ติดกับคันธงมีรูปพระมหามงกุฎและเลขหมายประจารัชกาลของพระมหากษัตริย์ ที่พระราชทานเป็นตัวเลขไทยสีเหลือง ภายใต้พระมหามงกุฎมีพระปรมาภิไธยย่อสีแดง ขลิบริมสีเหลืองรัศมีสีฟ้า ขอบธงด้านที่ติดกับคันธงมีเกลียวเชือกสีแดงสลับดา ด้านอื่นมีแถบจีบสีเหลือง กว้าง ๒ เซนติเมตร ธงชัยเฉลิมพล ของหนว่ ยทหารในกองบญั ชาการทหารสูงสุด มลี ักษณะอย่างเดียวกับธงชยั เฉลมิ พลของทหารบกตามวรรคหนึง่ โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์
ภาคผนวก ธงชัยเฉลมิ พลของหนว่ ยทหารเรือ ธงชยั เฉลิมพลของทหารเรอื ธงชัยเฉลิมพลของทหารเรือ มีลักษณะอย่างเดียวกับธงชาติ แต่ตรงกลาง ของผืนธงมีรูปจักรแปดแฉก แฉกของจักรเวียนไปทางซ้ายและมีสมอสอดวงจักร ภายใต้พระมหามงกุฎ รูปเหล่านี้เป็นสีเหลือง ขอบธงด้านท่ี ติดกับคันธง มีเกลียวเชือกสีแดงหาก จะกล่าวอีกนัยหนึ่งแล้ว ธงน้ีก็มีลักษณะอย่างเดียวกันกับธงฉานนั่นเอง ธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหารอากาศ ธงชยั เฉลิมพลของทหารอากาศ ธงชัยเฉลิมพลของทหารอากาศ มีลักษณะอย่างเดียวกับธงชาติ แต่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ ๗๐ เซนติเมตร ตรงกลางของผืนธงมีดวงกลมสีฟ้ามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยาว ๒ ใน ๓ ส่วนของความกว้าง ของผืนธง ภายในดวงกลมอุณาโลมทหารอากาศ และมีชื่อหน่วยทหารสีแดงขลิบริมสีเหลืองเป็นแถวโค้งโอบใต้ ดวงกลมสีฟ้า ผืนธงมุมด้านบนท่ีติดกับคันธงมีรูปพระมหามงกุฎและเลขหมายประจารัชกาลของ พระมหากษัตริย์ ที่พระราชทานเป็นตัวเลขไทยสีเหลือง ภายใต้พระมหามงกุฎมีพระปรมาภิไธยย่อสีแดงขลิบริมสีเหลืองรัศมีสีฟ้าขอบธง ดา้ นทีต่ ดิ กบั คันธงมเี กลียวเชอื กสีแดงสลับดา ด้านอื่นมแี ถบจบี สเี หลอื งกว้าง ๒ เซนตเิ มตร โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์
ภาคผนวก ธงชยั เฉลมิ พลทหารมหาดเลก็ รักษาพระองค์ ธงชยั เฉลิมพลของหน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ การเชญิ ธงชยั เฉลิมพลทหารมหาดเลก็ รกั ษาพระองค์ของทหารมหาดเล็กกองเกียรตยิ ศเม่ือเสด็จพระราชดาเนิน ในการพระราชพิธใี นวังหลวง อย่างไรกต็ าม ในมาตรา ๑๔ พระราชบญั ญตั ิธง พ.ศ. ๒๕๒๒ วรรค ๒ ไดก้ าหนดใหห้ น่วยทหารมหาดเล็ก รักษาพระองค์ซงึ่ มีธงชัยเฉลมิ พลของทหารบกแล้ว จะมีธงชยั เฉลิมพลของหน่วยทหารมหาดเลก็ รักษาพระองค์เพิม่ ขน้ึ อกี หน่ึงธงกไ็ ด้ ธงน้มี ีลักษณะอยา่ งเดยี วกับธงชาติ แตก่ ว้าง ๗๐ เซนติเมตร ยาว ๑๐๕ เซนติเมตร ตรงกลางของผืนธงมีรูป สี่เหลยี่ มผนื ผ้าสีแดงกวา้ ง ๓๕ เซนตเิ มตร ยาว ๕๒.๕ เซนติเมตร ภายในรูปสีเ่ หลย่ี มผืนผา้ นีม้ รี ูปชา้ งเผอื กทรงเครื่องยืน แท่นหนั หนา้ เขา้ หาคันธง ผืนธงมุมบนดา้ นทต่ี ิดกบั คันธงมีรูปพระมหามงกฎุ และเลขหมายประจารัชกาลของ พระมหากษัตรยิ ์ท่ีพระราชทานเป็นตวั เลขไทยสเี หลอื ง ภายใตพ้ ระมหามงกุฎมีพระปรมาภไิ ธยย่อสเี หลือง และมชี ื่อ หน่วยทหารสีเหลอื งเป็นแถวโคง้ โอบใต้พระปรมาภไิ ธยย่อ ขอบธงด้านท่ตี ิดกบั คันธงมเี กลยี วเชอื กสีแดงสลับดา ดา้ นอ่ืนมีแถบจบี สเี หลอื ง กว้าง ๒ เซนตเิ มตร ธงน้ีพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั ไดเ้ ริ่มพระราชทานใหห้ น่วยทหารมหาดเลก็ รักษาพระองค์ เมือ่ พ.ศ.๒๔๙๖ โดยหนว่ ยทหารหนว่ ยแรกทีไ่ ดร้ บั พระราชทานคือ กรมทหารราบท่ี ๑ มหาดเลก็ รักษาพระองค์ ธงชยั เฉลิมพล เป็นธงประจาหน่วยทหารที่ได้รบั พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวฯ ธงชัยเฉลมิ พลถอื เป็นส่ิงศกั ด์ิสิทธิ์สงู สุดของทหาร ทท่ี หารทกุ คนต้องเคารพสกั การะ และพทิ ักษร์ ักษาไว้ดว้ ยชีวิต การปฏิบัติต่อธงชยั เฉลมิ พลทกุ ขน้ั ตอน ต้องเปน็ ไปตามพิธกี าร ระเบยี บแบบแผนท่ีวางไว้อยา่ งเขม้ งวดกวดขนั ในโอกาสท่จี ะเชญิ ธงชยั เฉลมิ พลออกประจาที่ จะตอ้ งเป็นพธิ กี ารทีม่ คี วามสาคญั เกี่ยวกบั เกยี รติยศและเชิดหนา้ ชตู าเทา่ นั้น เช่น พธิ ีกระทาสตั ย์ปฏญิ าณตนของทหาร และไปราชการสงคราม เปน็ ตน้ โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก ธงชยั เฉลมิ พล เริ่มมใี นกองทัพบก เดิมจาแนกออกเป็น ๒ ชนิด คอื ชนดิ ท่ี ๑ ธงชัยประจากองทัพ อันได้แก่ ชนิดที่ ๒ ธงชยั เฉลมิ พลประจากองทหาร ธงจุฑาธุชธิปไตย และธงไพชยนต์ธวชั ธงจุฑาธุชธิปไตย นับเป็นธงชัยเฉลิมพลประจากองทัพธงแรกของไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า- เจ้าอยู่หัว ได้ทรงสร้างข้ึน พระราชทานแก่กองทัพไทยเม่ือปี พ.ศ.๒๔๑๘ เพ่ือแทนพระองค์ไปในกองทัพท่ียกไปปราบ พวกฮ่อทเ่ี ขา้ มาก่อการจลาจลในแคว้นหัวพนั ทั้งหา้ ท้งั หก และแควน้ สบิ สองปันนาของไทยในครง้ั นน้ั ธงมหาไพชยนต์ธวัช พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างข้ึนเมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๕๕ เพอ่ื พระราชทานใหเ้ ปน็ ธงชยั เฉลิมพลประจากองทพั อีกธงหนึ่ง คู่กับธงจุฑาธุปธปิ ไตย สาหรับธงชัยเฉลิมพลประจากองทหาร องค์พระมหากษัตริย์จะโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพระราชทานแก่ หน่วยทหารจานวนคราวละหลายธง และในคราวหน่ึงๆ ธงจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน จะผิดกันในส่วนท่ีเป็นนามหน่วย เทา่ น้นั โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก ธงชัยเฉลิมพล ได้เข้าประกอบพิธีสาคัญทางศาสนา ในพระราชพิธีตรึงหมุด ธงชัยเฉลิมพล โดยองค์พระมหากษัตริย์ ทรงประกอบพธิ ีนี้ในพระอโุ บสถวัดพระศรรี ตั นศาสดาราม ท่ามกลางพระสงฆ์ทรงสมณศักด์ิช้ันผู้ใหญ่ พระมหากษัตริย์ทรง ตรึงธงแต่ละผืนติดกบั ด้ามธง โดยทรงตอกค้อนเงินลงบนตะปูทองเหลืองอย่างแน่น ธงหน่ึงมีรูตะปูประมาณ ๓๒ - ๓๕ ตัว ที่ส่วนบนของคนั ธง จะมลี กั ษณะเปน็ ป่มุ โลหะกลึงกลมสีทองภายในกลวง ปุ่มกลมนั้นทาเป็น ฝาเกลยี วปิด - เปิดได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงบรรจุเส้นพระเจ้า พร้อมด้วยพระพุทธรูปท่ีได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ช่ือพระยอดธงลงในปุ่มกลมแล้วทรงปดิ ฝาเกลียวขันแน่น ทรงเจิมแปง้ กระแจะจันทนท์ ยี่ อดธงทุกคัน พระสงฆ์สวดชัยมงคล คาถา ต้งั แต่เริ่มพธิ ีจนจบพธิ ี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงกระทาพิธีพระราชทานธงชัยเฉลิมพลให้กับหน่วยทหารต่างๆ ทุกกรมกอง ทหาร ทุกคนระลึกอยู่เสมอว่าธงชัยเฉลิมพลจะปลิวสะบัดอย่างสง่างาม เป็นม่ิงขวัญของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป ตราบเท่าทปี่ ระเทศไทยดารงคงความเป็นเอกราชอยู่ได้ เปน็ หน้าที่ของทหารทีจ่ ะต้องระวังรักษาธงชัยเฉลิมพลไว้ด้วยความ เคารพรักและเทิดทูนไว้อย่างสูงย่ิง เพราะธงชัยเฉลิมพลย่อมเป็นเกียรติยศของหน่วยทหารน้ันๆ เม่ือเวลาเข้าสู่สงคราม ทหารท้งั ปวง ต้องพิทกั ษร์ กั ษาธงชัยเฉลมิ พลของหน่วยตนไวด้ ว้ ยชวี ติ ธงชยั เฉลิมพลจงึ เปน็ เคร่ืองนาความองอาจ กล้าหาญ แหง่ หม่ทู หารทั้งปวง ใหเ้ ขา้ ต่อสขู้ า้ ศกึ ศตั รใู ห้ได้ชัยชนะกลบั มา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานธงชัยเฉลิมพลประจากองทหาร ท่ีใช้ในสงครามต่างๆ และหน่วยทหารที่ได้รับพระราชทานนาไปเป็นมิ่งขวัญแก่เหล่าทหารหาญในสมรภูมิน้ันๆ มีดังนี้ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างข้ึนเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๑ จานวน ๒ ธง เพ่ือใช้ในสงครามโลกครั้งที่ ๑ พระราชทานแก่กองทหารบกรถยนต์ และกองบินทหารบกของไทย ท่ีส่งไปร่วมรบ กับฝ่ายสมั พนั ธมิตร ในทวีปยุโรป ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเม่ือปี พ.ศ.๒๔๘๓ เพ่ือใช้ในสงครามกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย เดช ได้โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งขน้ึ พระราชทานแกห่ น่วยทหารไทยในสงครามเกาหลี และสงครามเวยี ดนาม โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก หมวดธงประจากอง ธงชยั เฉลิมพลในรัชกาลที่ ๕ สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชกาลท่ี ๕ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม พ.ศ.๒๔๓๔ (ร.ศ.๑๑๐) เป็นธงพื้นสีต่างๆ ตามแต่ทหารจะเห็นสมควร ท่ีมุมธงข้างบนมีแพรแดงเป็นรูปธงโตหนึ่งในหกส่วนของธงใหญ่ มีรูปช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่น ท่ีพื้นธงนอกจากธงช้างที่มุมมีตราสาหรับกองทหารนั้น เป็นธงสาหรับใช้เม่ือมีการรับเสด็จในเวลามีพระราชพิธีใหญ่สาหรับ เกียรติยศตามท่ีจะโปรดเกล้าฯ ให้รับและใช้เม่ือกองทหารจะไปปราบศัตรูก็ใช้ธงน้ีไปในกองทัพด้วย ธงนี้ใช้มาจนถึง พ.ศ.๒๔๔๐ จึงเลิกโดยพระราชบัญญัติธง รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๖ การยกเลิกธงชัยเฉลิมพลครั้งน้ีมิได้หมายความว่าเลิกใช้ธงเฉลิม พลโดยส้ินเชิง เพียงแต่เลิกแบบธงชยั เฉลมิ พลทใ่ี ช้ใน พ.ศ.๒๔๓๔ เท่าน้ัน กองทหารท้ัง ๓ เหล่าทัพของไทย สมัยต่อมามีธงชัย เฉลิมพลประจากองตน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะเสด็จพระราชดาเนินทรงตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล และบรรจุเส้นพระเจ้า ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระราชทานธงให้แก่กองทหารที่มีอัตรากาลังพลต้ังแต่ กองพนั ขึน้ ไปทย่ี ังไมม่ ีธงในโอกาสอันสมควร มีประเพณีของทหารใหม่ท่ีจะต้องทาพธิ กี ระทาสัตย์ปฏญิ าณต่อธงชัยเฉลิมพลของ กองทหารที่ตนประจาราชการอยู่ และในวันที่ ๒๕ มกราคม ซ่ึงเป็นวันกองทัพไทย จะมีพิธีกระทาสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัย เฉลิมพลของกองทหารทั้ง ๓ เหล่าทัพเป็นประจาทุกปี ลักษณะของธงชัยเฉลิมพลมีกาหนดไว้ใน พระราชบัญญัติธง แต่เรียกช่อื วา่ ธงประจากองทัพบก ธงประจากองทหารเร่อื ง ธงประจากองทหารอากาศ ขอให้ดรู ายละเอียดในหวั ขอ้ น้ันๆ ธงประจากองทหารบก พ.ศ.๒๔๓๕ ถึงรัชกาลท่ี ๕ โปรดให้เปลี่ยนธงสาหรับพระองค์ใหม่ ใช้ธงพ้ืนนอกสีแดงพ้ืนในสีขาบ กลางเป็นรูปโล่ตราแผ่นดิน มีจักรและตรีไขว้กันอยู่บนโล่ มหาพิชัยมงกุฎอยู่บนจักรี มีเครื่องสูง ๗ ช้ัน ๒ ข้าง ดังกล่าวมาแล้วในหมวดธงประจาพระองค์ แทน ส่วนธงประจาแผ่นดินคงใช้ไอยราพตอย่างรัชกาลที่ ๔ ต่อมา พ.ศ.๒๔๓๒ โปรดให้เปลี่ยนตราธงประจากองทหารบก ต่างๆ ที่ใช้อยู่ในเวลาน้ันเป็นธงตราแผ่นดินบนพื้นผ้าแดง ได้พระราชทานแก่กองทหารเม่ือ พ.ศ.๒๔๓๕ คือกองทหารม้าใน (ม้าหลวง) กองทหารปืนใหญน่ อก (ปืนใหญ่หลวง) กองทหารราบในมหาดเลก็ กองทหารราบนอกรกั ษาพระองค์ กองทหารราบ นอกลอ้ มวัง กองทหารราบนอกฝีพาย รวม ๖ กอง โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์
ภาคผนวก ธงประจากองทหารบก พ.ศ.๒๔๕๑ พ.ศ.๒๔๕๑ เม่ือทาการพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก โปรดให้เปลี่ยนธงประจากองทหารบกใหม่ ใช้ธงรูปช้างเผือก ทรงเครื่องยืนแท่นบนพ้ืนแดง ท่ีมุมธงข้างหน้าช้างมีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ จ. สีเหลืองแก่ ป. สีน้าเงิน ร. สีแดง และมรี ัศมจี ลุ มงกุฎสเี หลอื งอยูเ่ บอื้ งบน เปน็ ธงประจากองทหารบก กรมตา่ งๆ รวม ๑๒ กรม ธงประจากองทหารบก พ.ศ.๒๔๕๔ ถึงรัชกาลท่ี ๖ เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๔ โปรดให้เปลี่ยนธงประจากองทหารบกใหม่ ใช้ธงรูปช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่น บนพ้ืนแดง ท่ีมุมธงข้างหน้าช้างมีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ วปร. สีน้าเงินมีรัศมีและพระมหาพิไชยมงกุฎเบ้ืองบนสีเหลือง ได้พระราชทานแก่ทหารบกกองต่างๆ เมื่องานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เข้าใจว่าธงน้ีใช้ต่อมาจนสิ้นรัชกาล ถงึ รัชกาลพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว คงจะเปลย่ี นอักษรพระปรมาภไิ ธยยอ่ ทม่ี ุมธงบนหนา้ ชา้ งตามรชั กาล ธงประจากองทหารบก พ.ศ.๒๔๗๙ พ.ศ.๒๔๗๙ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล มีการออกพระราชบัญญัติธงฉบับใหม่เม่ือวันท่ี ๒๖ พฤศจิกายน เรียกว่า พระราชบัญญัติธง พุทธศักราช ๒๔๗๙ กาหนดลักษณะธงประจากองทหารบกว่า มีลักษณะ และสัณฐานอย่างเดียวกับธงไตรรงค์ แต่ที่ศูนย์กลางธงเป็นรูปอุณาโลมทหารบก ธงน้ีเรียกอีกอย่างหน่ึงว่า “ธงชัยเฉลิมพล” โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์
ภาคผนวก ธงประจากองทหารบก พ.ศ.๒๔๘๒ พ.ศ.๒๔๘๒ ได้มีกฎกระทรวงกลาโหมออกตามความใน พระราชบัญญัติธง พุทธศักราช ๒๔๗๙ กาหนดลวดลาย ลักษณะส่วนประกอบธงประจากองทหารบก ดังน้ี -ยอดคันธง เป็นซุ้มเรือนแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปภายใน ทาด้วยโลหะสีเหลืองใต้ฐานซุ้มชิดกับมุมบนของธง ด้านเสามีแถบธงชาติเป็นโบหกู ระต่ายหอ้ ยชายทง้ั สองข้าง มีสว่ นยาวเลยมุมธงดา้ นล่าง ชายแถบทัง้ สองเปน็ ครยุ -พน้ื ธงมุมบนด้านคันธง มีพระมหามงกฎุ และเลขหมายประจารัชกาลสีเหลือง ภายใต้มีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ สีแดง ขลบิ รมิ สีเหลือง รศั มสี ีฟา้ -ก่งึ กลางธงมรี ูปเหมือนตราหน้าหมวกทหารบกสีเหลือง แต่สว่ นทีเ่ ปน็ รปู จกั รสขี าว ลายจักรสเี หลือง ช่องระหว่างซ่ีจกั ร อกั ษร ตลอดจนเคร่อื งหมายข้นึ ระหว่าง “สละชพี ” กบั “เพื่อชาติ” และพื้นอุณาโลมสีแดง กับแจ้งนาม กองทหารด้วยอักษรสแี ดง ขลิบริมสเี หลอื ง เปน็ แถวโค้งโอบใต้รูปดังกลา่ ว -รอบคันธง ตอนท่ีตรงกับแถบธง เป็นสีแดงรอบคันธง ริมชายธงด้านชิดเสาเป็นเกลียวเชือกแดงสลับดา ส่วนรมิ ชายธงด้านอน่ื ๆ เปน็ แถบสเี หลอื งแกมเขยี ว กว้าง ๒ เซนติเมตร ต่อมา พ.ศ.๒๕๐๕ ได้มีประกาศกระทรวงกลาโหม ลงวันที่ ๒๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ออกตาม ความในพระราชบัญญตั ิธง พุทธศักราช ๒๔๗๙ ว่าด้วยวัตถุท่ีทาเป็นลวดลาย ในพื้นธง และส่วนประกอบธงเป็นประจากองทหาร โดยให้ยกเลิกกฎกระทรวงกลาโหม ซ่ึงออกตาม ความ ในพระราชบญั ญัติธง พทุ ธศักราช ๒๔๗๙ ลงวนั ที่ ๒๖ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๔๘๒ แลว้ ใชข้ อ้ ความตามประกาศใหม่น้แี ทน คือ -ยอดคนั ธง เป็นซุม้ เรือนแกว้ ประดษิ ฐานพระพทุ ธรูปภายใน ทาดว้ ยโลหะสีทอง -คันธง ระหว่างซุ้มเรือนแก้วกับมุมบนของธง มีแถบธงชาติผูกเป็นโบหูกระต่ายห้อยชายทั้งสองยาว เลย มุมธงด้านลา่ ง ปลายชายแถบทง้ั สองเป็นครุย -พื้นธงมุมบนด้านคันธง มีพระมหามงกุฎและเลขหมายรัชกาลสีเหลือง ภายใต้มีอักษรพระปรมาภิไธยย่อสีแดง ขลิบริมสีเหลอื ง รัศมีสีฟ้า -พน้ื ธงมนี ามกองทหาร อกั ษรย่อสแี ดง ขลบิ รมิ สีเหลอื ง เป็นแถวโคง้ โอบใตร้ ูปอุณาโลมทหารบก -คันธงตอนที่ตรงกับธง มีสักหลาดสีแดงต่อกับริมธงหุ้มรอบคันธง มีหมุดทาด้วยโลหะสีทอง ๕ หมุด หมุดท่ี ๑ เป็นรูปประเทศไทย หมุดท่ีสองเป็นรูปเสมาธรรมจักร หมุดที่สามเป็นรูปพระปรมาภิไธยย่อ หมุดท่ีสี่เป็นรูปรัฐธรรมนูญ หมดุ ต่อไปเปน็ รปู เคร่อื งหมายกองทัพบก หมดุ ท่ี ๑ อยู่บนสุด หมุดต่อไปเรยี งลงมาตามลาดบั -ริมธงด้านชดิ คนั ธงมเี กลียวเชือกสแี ดงสลับดา ด้านอื่นมแี บสีเหลืองกว้าง ๒ เซนติเมตร ท้ังน้ีให้มีส่วนและขนาด พองาม ธงนยี้ ังใช้อยใู่ นปัจจุบัน โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์
ภาคผนวก ธงราชกระบ่ียุทธ และธงพระครฑุ พา่ ห์ ความเป็นมา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจาเดิมแต่ได้พระบรมราชาภิเษกแล้ว ในวันท่ี ๑๓ มกราคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๙ (พ.ศ.๒๔๕๓) เสด็จฯ ไปทรงสมโภชพระปฐมเจดีย์และพระราชมณเทียร ณ พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม มีพระภิกษุสงฆ์น้อมนาของโบราณ ทาด้วยฝีมืออันดีวิจิตรย่ิงนักมาถวายเพิ่มพูนพระบารมีในปีต้นแห่งรัชสมัย คือแผ่น สัมฤทธ์ิรูป พระกระบ่ีธุชพระครุฑพ่าห์ ซึ่งพระกลั่นเจ้าอธิการวัดพระประโทนขุดได้ท่ีพระประโทน เป็นของโบราณคร้ังพระปฐมเจดีย์ เป็นนครราชธานี พระยาสุนทรบุรีศรีพิไชยสงคราม (ชม) ข้าหลวงเทศาภิบาลสาเร็จราชการมณฑลนครไชยศรี เป็นผู้นาทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ใหส้ มเด็จพระเจา้ พระบรมวงศเ์ ธอเจ้าฟ้ากรมหลวงนรศิ รานวุ ัตติวงศ์ ทรงคดิ เครื่องประกอบเป็นธงพระกระบี่ธุช พระครุฑพ่าห์น้อยขึ้น พระยาอนุรักษ์ราชมณเทียร (หม่อมราชวงค์ปุ้ม) เป็นผู้จัดทาแล้วทันงาน พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ในวันท่ี ๒๕ มีนาคม รัตนโกสนิ นทร์ศก ๑๒๙ ซึ่งเป็นวันตั้งน้าวงด้ายเร่ิมการพระราชพิธีโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งราวไว้ข้างพระแท่นมณฑลสาหรับจะได้เชิญ ขนึ้ ผูกเสาพระแทน่ มณฑล เขา้ พระราชพิธตี ่อไป พร้อมกบั พระกฤษ์จุดเทยี นไชย วนั ท่ี ๑๑ มนี าคม รตั นโกสิทร์ศก ๑๒๙ เวลาเช้า ๔ โมง ๕๒ นาที ๕๖ วินาที ไดพ้ ระฤกษ์ สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอกรมพระ ยาวชิรญาณโรรส ทรงเทียนนมัสการพระพุทธชินสีห์ในพระอุโบสถแล้ว ทรงจุดเทียนทองเงินท่ีโต๊ะทองทรงจารึกคาถาท่ีด้านหลัง พระกระบ่ีธชุ และพระครฑุ พ่าห์ พระสงฆ์ ๕ รูป มพี ระอรยิ กระวี (เซ่ง) เป็นประธานสวดชัยมงคล พราหมณ์เป่าสังข์ กรมพระแสงในขับไม้ บณั เฑาะว์ เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์ดุรยิ ดนตรี โหรบูชาเทวดา ทศี่ าลเทวดาบูชาฤกษ์ กนั ต้งั อยู่หน้าพระอโุ บสถ หลวงญาณปรีชา (รอ้ ง) กรมราชบัณฑติ เจรญิ รอยพระหัตถ์ จารึกดว้ ยเหลก็ จารต่อไป เสรจ็ แล้วพระมหาราชครู พธิ พี ราหมณ์ เจิมจุณธงพระกระบ่ีธุชพระครุฑพ่าห์ เจา้ พนกั งานเชญิ ธงกลับสพู่ ระบรมราชวงั คร้ันรุ่งข้ึนวันที่ ๒๖ มีนาคม เวลาเข้าพระฤกษ์จุดเทียนไชย พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงดารงราชานุภาพ เสนาบดี กระทรวงมหาดไทย ทรงนาศรเครอื่ งสมั ฤทธศิ์ ีรษะเป็นนาคราช ๓ เศยี ร มสี ายและลูกพร้อม ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเป็นของพระรุ่งเจ้าอธิการ วดั หนองตานวล ท้องทีก่ ิง่ ตาคลี อาเภอพยุหคีรี ไดจ้ ากเขาชอนเด่ือพรมแดนเมอื งชลบรุ ี พระนครละโว้ เปน็ ฝมี อื โบราณ อนั ประณีต และไม่ มีรอยมือจับหรือสิ่งใดที่จะส่อให้เห็นว่า จะได้ทาขึ้นสาหรับเทวรูปถือ จึงเห็นว่าศรน่ีน่าจะได้สร้างข้ึนไว้สาหรับการพิธีตามลัทธิพราหมณ์ เช่น ใช่ชุบน้าทาน้ามนต์ ฤาแช่งน้าสาบานอย่างทาน้าพระพิพัฒน์สัตยาเป็นต้น ท้ังปลายลูกสรมีรูปวชิระ ประหนึ่งว่าราวกับจาทาขึ้นไว้ สาหรบั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั พระองค์น้ี เป็นส่ิงท่ีสูงสมควรจะเข้าพิธีต่อไป ประจวบกับเวลาท่ีได้โปรดเกล้าฯ ให้เชิญธงพระกระบ่ี ธุชพระครฑุ พา่ หน์ อ้ ยขึ้นผูกเสา พระแท่นมณฑล จึงทรงหลง่ั น้าพระมหาสงั ขแ์ ละทรงเจมิ ธงและศรโบราณแลว้ เจา้ พนกั งานเชิญธงกระบ่ีธุช พระครฑุ พา่ หน์ ้อยผูกเสาพระแทน่ มณฑลดา้ นหน้า พระกระบี่ธุชพระครฑุ พา่ หใ์ หญ่ของเดิมผูกเสาพระแท่นมณฑลด้านหลัง เชิญศรข้ึนวาง ในพระแท่นมณฑล พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ตั้งแต่เช้าวันน้ีและใช้ใน พระราชพิธีอื่นต่อไป พระราชทานนามศรโบราณว่า “พระแสงศร กาลงั ราม” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพัดครฑุ งานรัชมงคลแก่พระรุ่งเจ้าอธิการ และพระราชทานเงินตราแก่ศิษย์เป็นบาเหน็จ ตามสมควร ภาพธงชยั พระครฑุ พ่าหส์ ารบั ใหญ่ โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118