Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการฝึก ว่าด้วยแบบฝึกบุคคลท่าอาวูธ

คู่มือการฝึก ว่าด้วยแบบฝึกบุคคลท่าอาวูธ

Published by DPD E-Lidrary, 2020-05-19 02:47:07

Description: คู่มือการฝึก ว่าด้วยแบบฝึกบุคคลท่าอาวูธ

Search

Read the Text Version

“ติรตเน สกรฏเฺ ฐ จ สมฺพเํ ส จ มมายนํ สกราโชชจุ ิตฺตญจฺ สกรฏฺฐภิวฑฺฒนํ” “ความนบั ถอื รกั ใคร่ในพระรัตนตรัยกด็ ี ในรัฐของตนกด็ ี ในวงศ์ตระกลู ของตนก็ดี มีจิตซ่ือตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครอื่ งทําให้รัฐของตนเจริญย่ิง” โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

สเจ สเจ สรปู ภาโว สุทสสฺ นี โสภโณ สธุ มฺโม ปฏิรูโป สพฺเพ ชนา จริ ฏฐฺ ติ ิกกาเล ถาวรโต กายสขุ ี โหนฺติ มโนรมมฺ า ถ้าหากภาพรวม สวยงาม ถกู ตอ้ ง เหมาะควร ทุกคนทกุ หมู่เหล่า จะได้รบั ความสขุ กาย สบายใจ อย่างถาวร ในระยะยาว โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

พระราชประวตั ิ สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระราโชบายด้านการฝึก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ลาดับที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพ ณ พระท่ีน่ังอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ท่ี ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๕ เมื่อคร้ังทรงมีพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณสถาปนาจากพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นเป็น “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” เมื่อวันท่ี ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ นบั เปน็ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ท่ี ๓ แหง่ สยามประเทศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสนพระราชหฤทัยในกิจการทหารตั้งแต่เม่ือครั้งยังทรงพระเยาว์ทรงมีพระราชวิริยะ อุตสาหะเข้ารับการศึกษา และสาเร็จหลักสูตรทางการทหารท้ังในประเทศ และ ต่างประเทศหลายหลักสูตร ทรงดารงตาแหน่งทางทหารตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับกองพัน, ผู้บังคับกองพัน, ผู้บังคับการกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ และองคผ์ บู้ ัญชาการหน่วยบญั ชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ทรงดารงพระองค์เป็นแบบอย่าง และพระราชทานคาสั่งสอนแก่ข้าราชบริพารทุกหมู่เหล่าด้วยพระองค์เองอยู่เสมอ ซ่ึงข้าราชบริพารในพระองค์ ล้วนสานึกในพระมหากรุณาธคิ ุณ และเทดิ ทนู ยกย่องพระองค์ท่านเป็น“บรมครทู างการทหาร” โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

พระราชประวตั ิ พระราโชบายด้านการฝึก ปรัชญาพระราชทาน ที่ทรงส่ังสอนข้าราชบริพารล้วนมีความลึกซ้ึงถึงแก่นแห่งความรู้ อันเกิดจาก พระราชวิริยะอุตสาหะในการฝึกฝนพระองค์เอง จนเกิดเป็นความรู้อย่างแท้จริง ทรงมีความมุ่งมั่นท่ีจะศึกษาหาความรู้ ด้วยพระองค์เองอยู่เสมอ และเมื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจใดๆ จะทรงปฏิบัติอย่างเต็มขีดความสามารถ และจะไม่ ทรงโปรดความหย่อนยาน ความยวบยาบ หรือความไร้ระเบียบวินัย หากทรงทอดพระเนตรเห็นข้าราชบริพารประพฤติ ปฏบิ ัตติ นไม่เหมาะสม จะทรงมพี ระเมตตาพระราชทานคาสอน และพระราชทานโอกาสใหป้ รับปรงุ ตนเองอย่เู สมอ ความเป็น“บรมครูทางการทหาร” ถูกถ่ายทอดจากหลักปรัชญาท่ีพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และผ้ใู ต้บงั คับบญั ชาในวาระสาคญั ตา่ งๆ ซ่งึ จะขออัญเชญิ ปรัชญาพระราชทานท่สี าคญั ดังตอ่ ไปนี้ ๑.“ปรัชญาทหารมหาดเล็กฯ” พระราชทานให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา และข้าราชบริพารในพระองค์ ไดย้ ึดถือเป็นแนวทางปฏบิ ัติไว้ ๓ ประการ ได้แก่ ๑.๑ ผู้บังคับบัญชา ผู้ปกครองหรือผู้ฝึกทหารมหาดเล็กฯ หากไม่มีความรู้เร่ืองทหารมหาดเล็กฯ จนถึง แกน่ แท้แลว้ จะไปปกครองหรอื ฝึกผู้อน่ื ใหเ้ ป็นทหารมหาดเล็กฯ ที่ดมี ีคณุ ภาพย่อมเปน็ ไปไมไ่ ด้ ๑.๒ ผู้บังคับบัญชา หรือผู้ปกครองทหารมหาดเล็กฯ ต้องรู้จัก พระรตั นตรัย หรอื แกว้ ๓ ประการ คอื แกว้ ดวงที่ ๑ ตอ้ งรู้จักการบังคับบญั ชา (Command) แก้วดวงท่ี ๒ ตอ้ งรูจ้ ักงานอานวยการ (Staff) แกว้ ดวงที่ ๓ ต้องรจู้ ักการฝกึ (Training) ๑.๓ การตั้งเป้าหมาย (Objective) ของการฝึก จะต้องต้ังไว้ใน ระดับมาตรฐานและบวกเพ่ิมข้ึนไปเสมอ (เกินกว่า ๑๐๐%) เม่ือมีปัจจัย (Factor) ใดๆ มากระทบ มาตรฐานอาจจะลดลง ไปบา้ ง แต่ก็ยงั อยใู่ นเกณฑ์มาตรฐานท่ยี อมรบั ได้ โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์

พระราชประวตั ิ พระราโชบายด้านการฝึก ๒.ปรัชญา “การ Simmer หรือการตุ๋นไข่พะโล้” ทรงเปรียบเทียบลักษณะการฝึกอบรมทหารเหมือนกับ การตุ๋นไข่พะโล้ให้มีรสชาติอร่อย แม่ครัวจะต้องนาไข่ต้มมาแกะปอกเปลือก แล้วนาไปตุ๋นในน้าพะโล้ โดยใช้ความร้อน และเวลาทเ่ี หมาะสม นา้ พะโล้จงึ จะค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปยังเนื้อไข่ หากแม่ครัวเร่งรีบเกินไป เม่ือผ่าไข่ออกก็จะเห็นเพียง ภายนอกท่ีมีสีน้าตาลแต่เน้อื ในยังมีสขี าว เนอื่ งจากน้าพะโลย้ ังไม่แทรกซึมเข้าเน้ือไข่อย่างแท้จริง เปรียบเสมือนกับการฝึก หากฝึกอบรมแบบไม่จริงจัง ปฏิบัติแบบยวบยาบ เน้นแต่ภาพลักษณ์ที่ดูสวยงาม แต่ไม่เน้นเนื้อหาสาระ ไม่เคี่ยว ไม่อบ ไมก่ ลัน่ ให้ผูร้ ับการฝกึ ได้มีความรู้อยา่ งแทจ้ รงิ ก็จะไมส่ ามารถนาความรไู้ ปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ได้ ๓.ปรัชญา “มาตรฐานหน่วย ทม.รอ.” สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงดารงตาแหน่งองค์ผู้บัญชาการหน่วย บัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ตั้งแต่เม่ือครั้งยังทรงดารงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งพระองค์ทรงส่ังสอนให้ข้าราชบริพารได้ยึดถือ และรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักด์ิของ ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ที่มีเกียรติประวัติของหน่วยมาอย่างยาวนาน การจะรักษาไว้ซ่ึงเกียรติยศ และเกียรติศักดิ์ของหน่วยได้น้ัน หน่วยจะต้องมีมาตรฐานการฝึกการปฏิบัติที่ถูกต้องเป็นไปตามพระราชประเพณี พระราโชบาย พระราชนิยม และต้องมีความต่อเน่ืองในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับคนรุ่นหลังท่ีเข้ามาถวายงานใหม่ โดยทรงยกตัวอย่างเหมือนผลิตภัณฑ์ย่ีห้อต่างๆ (Brand) ท่ีมีคุณภาพ ก็จะพยายามรักษามาตรฐานผลิตภัณฑ์ของตน เพ่ือให้ผู้บริโภคมีความเช่ือมั่น หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ จึงมีหน้าท่ีในการรักษา “มาตรฐานหน่วย ทม.รอ.” เพ่ือท่ีจะสามารถปฏิบัติหน้าท่ีถวายงานต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สบื ไป ๔. ป รัช ญ า “ ร ถ SIKU” ( SIKU, ซิ กู้ เป็นยี่ห้อรถยนต์ของเล่นจาลองขนาดเล็ก) ที่สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดตั้งแต่เม่ือครั้งยังทรงพระเยาว์ ซึ่งจะทรงเลือกรถ SIKU ช นิดเดียว กัน จานว น หลายๆ คัน และจะทรงทดสอบทุกคันด้วยพระองค์เอง หากรถ SIKU คันใดมิได้มาตรฐาน ระบบขับเคล่ือน ยังไม่ดี เข็นรถแล้วว่ิงไม่ตรงทิศทาง เอียงซ้ายเอียงขวา ก็จะทรงถอดชิ้นส่วนนามาปรับแต่ง ทดสอบจนกว่า จะได้มาตรฐาน เปรียบเสมือนการที่ครูผู้ฝึกสอน จ ะ ต้ อ ง ม่ั น สั ง เ ก ต ใ ห้ ค า แ น ะ น า เ คี่ ย ว เ ข็ ญ ใ ห้ ผู้ รั บ ก า ร ฝึ ก ส า ม า ร ถ เ รี ย น รู้ แ ล ะ ป ฏิ บั ติ ไ ด้ อย่างถูกตอ้ ง ๕.ปรัชญา “รากหญ้า” สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานคาสอนให้ข้าราชบริพาร และผู้ใต้บังคับบัญชา ของพระองค์เรียนรู้ ให้ลึกซง้ึ ถงึ รายละเอียดของแต่ละภารกิจ ให้ถึงในระดับพ้ืนฐานหรือระดับล่าง ท่ีทรงเปรียบเทียบกับ คาว่า “รากหญ้า” คร้ันเม่ือรับราชการจนมีความเจริญก้าวหน้าเป็นผู้บังคับบัญชาแล้ว จะได้ให้คาแนะนา และให้ความ ช่วยเหลือแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ร่วมทุกข์ร่วมสุข พร้อมทั้งดารงตนเป็นแบบอย่างท่ีดี เป็นท่ีเลื่อมใสศรัทธาแก่ ผูใ้ ตบ้ งั คับบัญชา โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

ราชสวสั ด์ิ โบราณว่าเปน็ ขา้ จอมกษตั ริย์ ราชสวัสด์ติ ้องเพียรเรียนรักษา ท่านกาหนดจดไว้ในตารา มมี าแตโ่ บราณชา้ นานครนั หน่ึงวิชาสามารถมีอย่างไร ไมป่ ดิ ไว้ใหท้ ่านทราบทกุ สง่ิ สรรพ์ หนึง่ กลา้ หาญทาการถวายน้ัน มุ่งมัน่ จนสาเร็จเจตนา หนึ่งมไิ ดป้ ระมาทราชกิจ ชอบผิดตรติ รึกหมั่นศกึ ษา หนึ่งสัตยซ์ ื่อถือธรรมจรรยา เหมือนสมาทานศีลไว้มั่นคง หนงึ่ เสง่ยี มเจยี มตวั ไม่กาเรบิ เอื้อมเอิบหยิ่งเย่อเพ้อหลง หนงึ่ อยู่ใกลช้ ิดติดพระองค์ ไมท่ าเทยี มด้วยทะนงพระกรุณา หนึ่งไซร้ไม่ร่วมราชาอาสน์ ด้วยอุบาทว์จญั ไรเป็นหนกั หนา หนึ่งเข้าเฝ้าสังเกตซ่ึงกิจจา ไมใ่ กลไ้ กลไปกวา่ สมควรการ หนึ่งผู้หญิงชาวในไม่พันพัว เล่นหัวผกู รกั สมคั รสมาน หนึ่งสามิภกั ดร์ิ กั ใครใ่ นภูบาล ถงึ ถกู กร้วิ ทนทานไมต่ อบแทน (พระราชนพิ นธใ์ น พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอย่หู ัว รชั กาลท่ี๖)

คานา คู่มือการฝึก ว่าด้วยแบบฝึกบุคคลท่าอาวุธฉบับน้ี ทางโรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (รร.ทม.รอ. น.ทม.รอ.) ได้เรียบเรียงขึ้น เพ่ือใชเ้ ป็นเอกสารอ้างอิง และคู่มือสาหรับการฝึกให้แก่กาลังพลของหน่วย อาทิเช่น หน่วยในพระองค์, หน่วยทหารรักษาพระองค์, หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์, หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ และหน่วยอ่นื ๆ ท่ีมีหน้าที่ถวายพระเกยี รติ ถวายความปลอดภยั แด่องค์พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามหมายพระราชพิธี ราช ประเพณี และพระราชนิยม ซ่ึงท่าทางการปฏิบัตินอกจากจะปฏิบัติด้วยความเข้มแข็ง แข็งแรง สง่างามแล้ว ยังจะต้องแสดงออกซึ่งการถวายพระเกียรติยศอย่างสูงท่ีสุด ท่าการฝึกปฏิบัติในแต่ละท่านับเป็นท่า การฝึกช้ันสูง เปรียบคล้ายกับความงดงามทางวัฒนธรรมของสังคมไทยทางด้านภาษาท่ียกย่องเคารพ ผู้ ท่ี มี อ า วุ โ ส สู ง ก ว่ า ด้ ว ย ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ท่ี แ ส ด ง อ อ ก ถึ ง ก า ร แ ส ด ง ค ว า ม เ ค า ร พ ใ ห้ เ กี ย ร ติ ผู้ ที่ มี อ า วุ โ ส ในลาดับต่างๆ เช่น การใช้คาสุภาพ สาหรับสุภาพชนบุคคลโดยท่ัวไป หรือมีการใช้คาศัพท์เฉพาะ สาหรับพระภิกษุสงฆ์ และคาราชาศัพท์ท่ีใช้เฉพาะสาหรับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ตามลาดับชัน้ ท่าการฝึกท่ีปรากฏอยู่ในคู่มือการฝึกฉบับนี้ ล้วนได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทาน คาส่ังสอนจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ตั้งแต่เม่ือครั้งทรงดารง พระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร องค์ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการ ถวายความปลอดภัย รักษาพระองค์ ดังนั้น หน่วยในพระองค์, หน่วยทหารรักษาพระองค์, หน่วยทหาร มหาดเล็กรักษาพระองค์, หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และหน่วยอื่นๆ สมควรที่จะ ศึกษาทาความเข้าใจ นาไปฝึกกาลังพลให้ปฏิบัติได้ถูกต้อง ได้มาตรฐานตามแบบธรรมเนียมของหน่วย รกั ษาพระองค์สืบไป โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์

โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

สารบัญ หนา้ บทท่ี ๑ บคุ คลทา่ อาวุธ ๑ ๒ - ทา่ เรียบอาวธุ ๓ - ท่ายกอก ๔ - ท่าพักตามปกติ ๕ - ท่าพกั ตามระเบียบ ๖ - ทา่ พกั ตามสบาย ๗ - ทา่ พักแถวและท่าเลกิ แถว ๘ - ท่ายกปืนและท่าปนื ลง ๙ - ทา่ วางปืนและท่าหยิบปืน ๑๐ - ท่าซ้ายหนั ๑๑ - ทา่ ขวาหนั ๑๒ - ทา่ กลบั หลงั หัน ๑๓ - ท่าก่งึ ซ้ายหัน ๑๔ - ท่ากง่ึ ขวาหนั ๑๕ - ท่าวันทยาวุธ ๑๖ - ท่าเรียบอาวธุ จากท่าวันทยาวุธ ๑๗ - ท่าเฉยี งอาวุธ ๑๘ - ทา่ เรียบอาวธุ จากท่าเฉียงอาวธุ ๑๙ - ทา่ เตรยี มใชอ้ าวธุ และทา่ เรียบอาวุธจากทา่ เตรียมใชอ้ าวุธ ๒๐ - ทา่ คอนอาวธุ และท่าเรียบอาวุธจากทา่ คอนอาวธุ ๒๑ - ทา่ แบกอาวธุ ๒๒ - ท่าเรยี บอาวธุ จากทา่ แบกอาวธุ ๒๕ - ทา่ ถอดหมวก - ทา่ สวมหมวก

สารบญั หนา้ - ท่ารับตรวจ ๒๘ - ท่าเลิกรบั ตรวจ ๓๐ - ทา่ ตรวจอาวุธ ๓๒ - ท่าติดดาบ ๓๖ - ท่าปลดดาบ ๓๘ - ท่าบรรจุ ๔๐ - ท่าเลิกบรรจุ ๔๒ - ทา่ จดั สายสะพาย ๔๔ - ทา่ ปรบั สายสะพาย ๔๖ - ทา่ สะพายอาวธุ ๔๘ - ทา่ เรียบอาวุธจากทา่ สะพายอาวุธ ๔๙ - ทา่ สะพายขวาง ๕๐ - ทา่ เรียบอาวธุ จากท่าสะพายขวาง ๕๒ - ทา่ หมอบ ๕๔ - ท่าลุก ๕๖ - ท่าแบกอาวธุ จากทา่ วันทยาวธุ ๕๘ - ท่าวันทยาวธุ จากท่าแบกอาวุธ ๖๐ - ท่าถือปนื ตามเสด็จ ๖๒ - ทา่ เรียบอาวธุ จากท่าถือปนื ตามเสดจ็ ๖๓ - ทา่ ถวายความเคารพจากท่าถอื ปืนตามเสด็จ ๖๔ - ทา่ ถือปนื จากท่าถวายความเคารพ ๖๕ - ท่ารวมอาวุธ ๖๖ - ท่าขยายอาวุธ ๖๘ - ทา่ เปลยี่ นยาม ๗๐ - ทา่ ยืนยามถวายพระบรมศพ ๗๒ - ท่าเลิกยืนยามถวายพระบรมศพ ๗๔

สารบญั หน้า - ทา่ กอดปืนนั่งคกุ เข่า ๗๖ - ท่าเลกิ กอดปนื นัง่ คกุ เขา่ ๗๗ - ท่ายืนยงิ ๗๘ - ท่าเลิกยงิ จากท่ายืนยงิ ๗๙ - ท่านั่งสงู ยิง ๘๐ - ทา่ เลิกยงิ จากท่านั่งสูงยิง ๘๑ - ท่าน่งั ราบยิง ๘๒ - ท่าเลิกยงิ จากท่าน่งั ราบยงิ ๘๓ - ทา่ นง่ั คุกเขา่ ยงิ ๘๔ - ทา่ เลกิ ยิงจากทา่ น่ังคุกเขา่ ยิง ๘๕ - ทา่ นอนยิง ๘๖ - ท่าเลิกยิงจากท่านอนยงิ ๘๗ - ท่ายืนเตรียมแทง ๘๘ - ท่าเรยี บอาวธุ จากทา่ ยนื เตรียมแทง ๘๙ - ท่าหมุนตวั ๙๐ - ท่าพกั ปนื ๙๑ - ทา่ ปนื ลง ๙๒ - ทา่ แทงใกล้ ๙๓ - ท่าแทงไกล ๙๔ - ท่าปดั ซา้ ยแทงใกล้ ๙๖ - ท่าปัดขวาแทงไกล ๙๘ - ทา่ ตีด้วยพานทา้ ยตั้ง ๑๐๐ - ทา่ ตดี ว้ ยพานทา้ ยราบ ๑๐๒ - ท่าอาวุธพระราชทานบรรจุ ๑๒ ขนั้ ตอน ๑๐๔ - ทา่ อาวุธพระราชทานเลกิ บรรจุ ๑๒ ขนั้ ตอน ๑๐๗ - ท่านง่ั คกุ เขา่ รับตรวจ ๑๑๐ - ท่าน่งั คกุ เข่าเลกิ รบั ตรวจ ๑๑๓ - ทา่ ปลดดาบจากทา่ แบกอาวธุ ๑๑๖ - ทา่ ตดิ ดาบจากท่าแบกอาวุธ ๑๑๘

สารบญั หนา้ - ท่ายนื ยามบนรถไฟ ๑๒๐ - ทา่ ปลดดาบจากท่าวนั ทยาวธุ ๑๒๑ - ท่าตดิ ดาบจากทา่ วนั ทยาวุธ ๑๒๓ - ท่าปลดดาบขณะน่ังหนนุ บนรถไฟ ๑๒๕ - ทา่ ตดิ ดาบขณะนง่ั หนนุ บนรถไฟ ๑๒๗ - ท่าชักลอ้ มขณะอยู่บนรถไฟ ๑๒๘ - ทา่ เลกิ ชักลอ้ มขณะอยบู่ นรถไฟ ๑๒๙ บทที่ ๒ การฝึกแถวชดิ ๑๓๖ ๑๓๘ - แถวหน้ากระดานแถวเดี่ยว ๑๓๙ - แถวหน้ากระดานแถวเด่ียวเปดิ ระยะ ๑๔๐ - แถวหน้ากระดานสองแถวขึน้ ไปปดิ ระยะ ๑๔๑ - แถวหน้ากระดานสองแถวขน้ึ ไปเปดิ ระยะ ๑๔๒ - แถวตอนเรียงหนง่ึ ๑๔๓ - แถวตอนเรียงสองขึ้นไป ๑๔๔ - การแยกคู่ขาดของแถวหนา้ กระดาน ๑๔๕ - การแยกคู่ขาดของแถวตอน ๑๔๘ - การนบั ตามปกติ ๑๕๐ - การนับทงั้ แถว ๑๕๓ - การนับตามจานวนทก่ี าหนด ๑๕๔ - การเปล่ยี นรปู แถวหน้ากระดาน - การเปลี่ยนรปู แถวตอน

สารบัญ หนา้ บทที่ ๓ ท่ากายบรหิ ารประกอบอาวธุ ๑๕๗ ๑๕๘ - ท่าขวางอาวุธหนา้ ๑๕๙ - ทา่ กระโดดแยกเท้าเหว่ียงปนื เหนือศรี ษะ ๑๖๐ - ท่าเหวย่ี งปนื ลอดช่องขา ๑๖๑ - ท่าเหวยี่ งปนื ทางข้าง ๑๖๒ - ท่าก้มตัวทางข้าง ๑๖๓ - ทา่ ดนั พื้น ๑๖๔ - ท่าซัดปนื ทางขา้ ง ๑๖๕ - ท่าโยกตวั ทางข้าง ๑๖๖ - ท่ากรรเชียงบก ๑๖๗ - ทา่ เตะสลบั เท้า - ทา่ สลบั เทา้ (Kangaroo)

โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

คาแนะนาการใช้คมู่ ือการฝึก คาแนะนา การใช้คู่มอื การฝึก วา่ ดว้ ยแบบฝกึ บุคคลท่าอาวุธ หน่วยทหารในพระองค์ หน่วยทหารรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และ หน่วย ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ รวมท้ังหน่วยทหารอื่นๆ ท่ีมีหน้าที่ในการถวายความปลอดภัย และถวาย พระเกียรติแด่องค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จาเป็นจะต้องศึกษาพระราช กรณียกิจ พระราชประเพณี แบบธรรมเนียมของทหารรักษาพระองค์ ตลอดจนพระราชนิยม ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และปฏิบัติ ได้อย่างถูกต้องตามกาลเทศะ การจะถวายพระเกียรติยศได้อย่างสูงสุดนั้น กาลังพลทุกนายจะต้องมีพื้นฐานการฝึก การปฏิบัติท่ีถูกต้อง ตามแบบมาตรฐานของหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (น.ทม.รอ.) ท่ีสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร องค์ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย รักษาพระองค์ พระราชทานไว้ต้ังแต่เมื่อครั้งยังทรงดารงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร คู่มือกา รฝึกว่ าด้วย แบบฝึ กบุคค ล ท่าอ าวุธฉ บับ นี้เ ป็นตาร าเอก สารห ลักฐา นอ้าง อิงใน การป ฏิบัติท่ี ถูกต้อ ง ตามแบบธรรมเนียมของทหารรักษาพระองค์ ดังน้ันผู้ฝึกและครูฝึกทหารทุกระดับช้ัน จะต้องหมั่นศึกษา ฝึกทบทวน ด้วยตนเอง จนสามารถปฏิบัติให้ได้เสียก่อน มิใช่แต่เพียงการท่องจาเพื่อนาไปสอนทหารเท่าน้ัน ผู้ฝึกและครูฝึกจะต้อง สามารถแสดงตัวอย่างที่ถูกต้อง ปฏิบัติได้อย่างแข็งแรง และสง่างาม สร้างความเช่ือมั่น ศรัทธาให้แก่ผู้รับการ ฝึก อย่างแท้จริง คู่มือการฝึกประกอบไปด้วยเอกสาร จานวน ๑ เล่ม และสื่อโสตทัศนะในแผ่นบันทึกข้อมูล (DVD) จานวน ๑ แผ่น เนื้อหาเอกสารแบ่งออกเป็น ๓ บท ได้แก่ บุคคลท่าอาวุธ การฝึกแถวชิด และท่ากายบริหาร ประกอบอาวุธ การออกคาส่ังหรือการใช้คาบอกเป็นสิ่งสาคัญในการปฏิบัติท่าต่างๆ แต่ละท่ามีการใช้คาบอกท่ีแตกต่างกัน ซงึ่ ประเภทของคาบอกทก่ี าหนดไว้ในคูม่ ือเลม่ นี้แบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คอื ๑. คาบอกแบ่ง ๒. คาบอกเปน็ คาๆ ๓. คาบอกรวด ๔. คาบอกผสม การใช้คาบอกลักษณะท่ีต่างกันของคาบอกประเภทต่างๆ จะเป็นเครื่องบ่งให้ทราบถึงลักษณะการปฏิบัติของท่า น้นั ๆ แนวทางในการใชน้ า้ เสยี งเพอื่ ส่งั และเขียนไวใ้ ห้เห็นความแตกต่างกนั อย่างเด่นชดั โดยการแสดงเครื่องหมายไว้ โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

คาแนะนาการใช้คมู่ ือการฝึก คาบอกแบ่ง (ภาพที่หน่ึง) เป็นคาบอกที่ใช้เพื่อออกคาสั่ง สาหรับท่าฝึกที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะกาหนดไว้ให้ ปฏิบัติได้เป็นจังหวะเดียวหรือแบ่งเป็นจังหวะๆ ได้ คาบอกแบ่งน้ีผู้ให้คาบอกจะต้องเปล่งเสียงบอกในคาแรกด้วย การลากเสยี งค่อนข้างยาวแล้วเว้นจังหวะไว้เล็กน้อยก่อนท่ีจะเปล่งเสียงบอกในคาหลังด้วยการเน้นเสียงให้หนักและ สั้นการเขียนคาบอกชนิดน้ีจะแสดงไว้ให้เห็นด้วยการใช้เครื่องหมายยัติภังค์ ( - ) ข้ันกลางไว้ระหว่างคาบอกคาหน้า และคาหลัง ตัวอย่างเช่น “ขวา - หนั ” เป็นต้น หัน ขวา ภาพที่หน่ึง แสดงการบอกคาบอก “แบ่ง” คาบอกเป็นคาๆ (ภาพที่สอง) เป็นคาบอกท่ีใช้เพื่อออกคาสั่ง สาหรับท่าฝึกที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ กาหนดให้ปฏิบตั ิแบ่งเปน็ จงั หวะๆ ไว้ (แตส่ ามารถแบ่งการฝกึ ออกเปน็ ตอนๆ ได้) และไม่จาเป็นต้องใช้คาบอกยืดยาว ซง่ึ อาจจะมหี ลายพยางค์ก็ได้ จงึ จาเปน็ ตอ้ งเว้นจงั หวะการบอกไว้เปน็ ตอนๆ หรือคาๆ คาบอกเป็นคาๆ น้ีผู้ให้คาบอก จะต้องเปล่งเสียงบอกทั้งในคาแรกและคาหลัง ด้วยการวางน้าหนักเสียงไว้เท่าๆ กัน โดยเว้นจังหวะระหว่างคาไว้ เล็กน้อย ไม่ต้องลากเสียงยาวในคาแรก และเน้นหนกั ในคาหลัง เหมือนคาบอกแบ่ง การเขียนคาบอกชนิดน้ีจะแสดง ไว้ให้เห็นโดยการใช้เคร่ืองหมายจุลภาค ( , ) ขั้นกลางไว้ระหว่างคาบอกคาหน้าและคาหลัง ตัวอย่างเช่น “ตามระเบียบ, พกั ” เป็นตน้ ภาพท่ีสอง แสดงการบอกคาบอก “เป็ นคาๆ” คาบอกรวด (ภาพท่ีสาม) เป็นคาบอกท่ีใช้เพื่อออกคาส่ังสาหรับท่าฝึกที่ส่วนใหญ่แล้ว มักจะไม่กาหนดให้ ปฏบิ ตั แิ บ่งเป็นจังหวะๆ ไว้ (แต่สามารถแบ่งการฝึกออกเป็นตอนๆ ได)้ และเป็นคาสั่งที่ไม่ยืดยาวหรือมีหลายพยางค์ จึงไม่มีความจาเป็นต้องแบ่งจังหวะการสั่งไว้เป็นตอนๆ หรือคาๆ คาบอกรวดน้ีไม่ว่าจะมีก่ีพยางค์ก็ตาม ผู้ให้คาบอก จะต้องบอกรวดเดยี วจบโดยวางน้าหนักเสียงเป็นระดับเดียว การเขียนคาบอกชนิดนี้จะแสดงไว้ให้เห็นโดยเขียนเป็น คาติดต่อกันท้ังหมดไม่ใช้เครือ่ งหมายใดๆ ทั้งสิน้ ตวั อย่างเช่น “ถอดหมวก” เปน็ ตน้ ภาพที่สาม แสดงการบอกคาบอก “รวด” โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

คาแนะนาการใช้คมู่ ือการฝึก คาบอกผสม (ภาพที่ส่ี) เป็นคาบอกที่มีลักษณะคล้ายคาบอกเป็นคาๆ จะต่างก็ตรงท่ีคาบอกในคาหลัง จะเป็นคาบอกแบ่ง เพราะฉะนั้นคาบอกประเภทน้ีจึงเป็นคาบอกที่ใช้เพื่อออกคาส่ังสาหรับท่าฝึกที่ส่วนใหญ่มักจะ กาหนดให้ปฏิบัติแบ่งเป็นจังหวะๆ ได้ตามลักษณะของคาบอกแบ่งท่ีผสมอยู่ในคาหลังของคาบอกผสมนี้เป็นหลัก คาบอกผสมน้ีผู้ให้คาบอกจะต้องเปล่งเสียงบอกในคาแรกเช่นเดียวกับคาบอกเป็นคาๆ คือ วางน้าหนักเสียงไว้ เทา่ ๆ กนั ส่วนการเปลง่ เสียงในคาบอกห้วงหลังก็คงเปล่งเสียงในลักษณะเดียวกันกับคาบอกแบ่ง คือเปล่งเสียงบอก ในคาแรกด้วยการลากเสียงค่อนข้างยาว แล้วเว้นจังหวะไว้เล็กน้อยก่อนท่ีจะเปล่งเสียงบอกในคาหลังด้วยการเน้น เสียงใหห้ นักและส้นั การเขียนคาบอกชนดิ นจ้ี ะแสดงไว้ให้เห็นโดยใช้เคร่ืองหมายจุลภาค ( , ) ข้ันกลางไว้ระหว่างคา บอกหว้ งแรกและห้วงหลัง ส่วนคาบอกในห้วงหลังคงใช้เครื่องหมายยัติภังค์ ( - ) ข้ันกลางไว้ระหว่างคาบอกคาหน้า และคาหลงั ตวั อยา่ งเช่น “วงิ่ , หนา้ - วง่ิ ” เป็นต้น วิง่ วิง่ หน้า ภาพที่สี่ แสดงการบอกคาบอก “ผสม” ลาดับขั้นตอนในการฝึก สมควรฝึกแบบปิดขั้นตอนจนทหารปฏิบัติได้คล่องแคล่วพอสมควรแล้ว จึงค่อยฝึกแบบเปิดข้ันตอน ซ่ึงการใช้คาบอกในการปฏิบัติแบบปิดข้ันตอนน้ันจะใช้คาบอกที่แตกต่างกับการใช้ คาบอกข้างตน้ ควรศึกษาใหล้ ะเอียดเพ่ือความถูกต้องและเปน็ ระเบยี บแบบแผนเดียวกนั โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์

คาแนะนาการใช้คมู่ อื การฝึก ตารางสรุปชนดิ คาบอกบคุ คลท่าอาวุธ ลาดับ ทา่ คาบอก ชนิดคาบอก ๑ ทา่ เรยี บอาวุธ “แถว - ตรง” แบง่ ๒ ท่ายกอก “ยก, อก” ๓ ท่าพกั ตามปกติ เป็นคาๆ ๔ ทา่ พกั ตามระเบยี บ “พัก” รวด ๕ ทา่ พักตามสบาย “ตามระเบียบ, พัก” ๖ ทา่ พักแถว “ตามสบาย, พกั ” เป็นคาๆ ๗ ทา่ เลกิ แถว เปน็ คาๆ ๘ ทา่ ยกปืน “พกั แถว” ๙ ท่าปนื ลง “เลิกแถว” รวด ๑๐ ท่าวางปนื และท่าหยิบปนื “ยกปืน” รวด ๑๑ ทา่ ซา้ ยหัน “ปืนลง” รวด ๑๒ ทา่ ขวาหัน “วางปืน” และ “หยบิ ปนื ” รวด ๑๓ ทา่ กลบั หลงั หัน “ซ้าย - หัน” รวด ๑๔ ทา่ ก่งึ ซา้ ยหัน “ขวา - หัน” แบ่ง ๑๕ ทา่ ก่ึงขวาหนั “กลบั หลงั - หนั ” แบ่ง ๑๖ ทา่ วนั ทยาวุธ “ก่ึงซ้าย - หัน” แบ่ง ๑๗ ทา่ เรียบอาวุธจากท่าวันทยาวธุ “ก่ึงขวา - หนั ” แบ่ง ๑๘ ทา่ เฉยี งอาวุธ “วนั ทยา - วุธ” แบ่ง ๑๙ ท่าเรยี บอาวธุ จากทา่ เฉยี งอาวธุ “เรียบ - อาวุธ” แบง่ ๒๐ ท่าเตรยี มใช้อาวธุ “เฉียง, อาวธุ ” แบง่ ๒๑ ทา่ คอนอาวธุ “เรียบ, อาวธุ ” เป็นคาๆ ๒๒ ท่าเรยี บอาวุธจากทา่ คอนอาวุธ “เตรียมใชอ้ าวุธ” เปน็ คาๆ “คอน, อาวุธ” รวด “เรียบ, อาวธุ ” เป็นคาๆ เป็นคาๆ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์

ลาดบั ทา่ คาบอก คาแนะนาการใช้คมู่ อื การฝึก ๒๓ ทา่ แบกอาวุธ “แบก - อาวธุ ” ๒๔ ท่าเรียบอาวุธจากทา่ แบกอาวุธ “เรยี บ - อาวธุ ” ชนิดคาบอก ๒๕ ทา่ ถอดหมวก “ถอดหมวก” แบ่ง ๒๖ ทา่ สวมหมวก “สวมหมวก” แบ่ง ๒๗ ทา่ รบั ตรวจ รวด ๒๘ ทา่ เลิกรับตรวจ “รับตรวจ” รวด ๒๙ ทา่ ตรวจอาวุธ “เลกิ รับตรวจ” รวด ๓๐ ท่าติดดาบ “ตรวจ, อาวธุ ” รวด ๓๑ ท่าปลดดาบ ๓๒ ทา่ บรรจุ “ตดิ ดาบ” เปน็ คาๆ ๓๓ ท่าเลกิ บรรจุ “ปลดดาบ” รวด ๓๔ ท่าจัดสายสะพาย “บรรจุ” รวด ๓๕ ทา่ ปรบั สายสะพาย “เลกิ บรรจุ” รวด ๓๖ ทา่ สะพายอาวุธ “จัดสายสะพาย” รวด ๓๗ ท่าเรยี บอาวธุ จากท่าสะพายอาวุธ “ปรับสายสะพาย” รวด ๓๘ ท่าสะพายขวาง “สะพาย, อาวุธ” รวด ๓๙ ท่าเรียบอาวุธจากท่าสะพายขวาง “เรียบ, อาวุธ” ๔๐ ท่าหมอบ “สะพายขวาง” เป็นคาๆ ๔๑ ทา่ ลุก “เรียบ, อาวุธ” เป็นคาๆ ๔๒ ทา่ แบกอาวุธจากทา่ วันทยาวุธ “หมอบ” ๔๓ ทา่ วนั ทยาวธุ จากทา่ แบกอาวุธ รวด “ลุก” เป็นคาๆ “แบก - อาวธุ ” “วนั ทยา - วธุ ” รวด รวด แบง่ แบ่ง โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

คาแนะนาการใช้คมู่ อื การฝึก ตารางสรปุ ชนดิ คาบอกบุคคลทา่ อาวุธ ลาดับ ทา่ คาบอก ชนิดคาบอก เปน็ คาๆ ๔๔ ทา่ ถือปืนตามเสด็จ “ตามเสดจ็ , ถือปืน” เปน็ คาๆ เป็นคาๆ ๔๕ ทา่ เรยี บอาวุธจากท่าถอื ปนื ตามเสด็จ “เรยี บ, อาวุธ” รวด รวด ๔๖ ทา่ ถวายความเคารพ “ถวายความเคารพ, ตรง” รวด รวด ๔๗ ท่าถอื ปนื จากท่าถวายความเคารพ “ถอื ปนื ” เปน็ คาๆ เปน็ คาๆ ๔๘ ทา่ รวมอาวธุ “รวมอาวธุ ” เปน็ คาๆ เปน็ คาๆ ๔๙ ท่าขยายอาวุธ “ขยายอาวธุ ” เป็นคาๆ รวด ๕๐ ท่าเปลยี่ นยาม “เปล่ยี นยาม” เปน็ คาๆ รวด ๕๑ ท่ายืนยามถวายพระบรมศพ “ยืนยามถวายพระบรมศพ, ทา” เปน็ คาๆ รวด ๕๒ ทา่ เลิกยนื ยามถวายพระบรมศพ “เลิกยนื ยามถวายพระบรมศพ, ทา” เปน็ คาๆ รวด ๕๓ ทา่ กอดปืนนั่งคกุ เขา่ “กอดปืนนงั่ คกุ เข่า, ทา” เป็นคาๆ รวด ๕๔ ท่าเลิกกอดปนื นงั่ คุกเขา่ “เลกิ กอดปืนน่งั คกุ เขา่ , ทา” เป็นคาๆ ๕๕ ท่ายืนยิง “ยนื , เตรยี มยงิ ” ๕๖ ทา่ เลิกยงิ จากทา่ ยนื ยิง “เลิกยงิ ” ๕๗ ทา่ น่ังสูงยงิ “น่งั สูงนง่ั , เตรยี มยงิ ” ๕๘ ท่าเลิกยงิ จากท่านงั่ สงู ยงิ “เลิกยงิ ” ๕๙ ท่าน่งั ราบยิง “นัง่ ราบน่ัง, เตรียมยิง” ๖๐ ทา่ เลิกยิงจากท่าน่ังราบยงิ “เลิกยิง” ๖๑ ทา่ น่ังคุกเขา่ ยงิ “นั่งคกุ เข่าน่งั , เตรยี มยงิ ” ๖๒ ทา่ เลิกยงิ จากทา่ น่ังคกุ เข่ายิง “เลกิ ยิง” ๖๓ ท่านอนยงิ “นอน, เตรียมยงิ ” ๖๔ ทา่ เลิกยงิ จากทา่ นอนยงิ “เลกิ ยงิ ” ๖๕ ทา่ ยืนเตรยี มแทง “ยนื , เตรยี มแทง” โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์

คาแนะนาการใช้คมู่ อื การฝึก ลาดับ ทา่ คาบอก ชนดิ คาบอก ๖๖ ท่าเรยี บอาวธุ จากท่ายืนเตรียมแทง “เรียบ, อาวธุ ” เปน็ คาๆ ๖๗ ทา่ หมนุ ตัว “หมนุ ตวั ” รวด ๖๘ ทา่ พักปนื “พักปนื ” เป็นคาๆ ๖๙ ทา่ ปืนลง “ปนื ลง” เป็นคาๆ ๗๐ ท่าแทงใกล้ “แทงใกล้, แทง” ผสม ๗๑ ทา่ แทงไกล “แทงไกล, แทง” ผสม ๗๒ ท่าปัดซ้ายแทงใกล้ “ปัดซา้ ยแทงใกล้, แทง” เปน็ คาๆ ๗๓ ทา่ ปดั ขวาแทงไกล “ปดั ขวาแทงไกล, แทง” เปน็ คาๆ ๗๔ ทา่ ตีด้วยพานทา้ ยต้ัง “ตีด้วยพานทา้ ยตั้ง, กระแทกดว้ ย ผสม ๗๕ ทา่ ตดี ว้ ยพานท้ายราบ พานทา้ ย, ตดี ้วยดาบ - ทา” ผสม “ตดี ้วยพานท้ายราบ, กระแทก ด้วยพานท้าย, ตดี ว้ ยดาบ - ทา” ๗๖ ทา่ อาวุธพระราชทานบรรจุ ๑๒ ข้นั ตอน “บรรจุ” รวด ๗๗ ทา่ อาวุธพระราชทานเลกิ บรรจุ ๑๒ ขนั้ ตอน “เลิกบรรจุ” รวด ๗๘ ทา่ นั่งคกุ เข่ารบั ตรวจ “นงั่ คกุ เขา่ รบั ตรวจ, ทา” ผสม ๗๙ ทา่ นง่ั คุกเข่าเลิกรับตรวจ “น่งั คุกเข่าเลิกรบั ตรวจ, ทา” ผสม ๘๐ ท่าปลดดาบจากทา่ แบกอาวุธ “ปลดดาบ” รวด ๘๑ ทา่ ตดิ ดาบจากทา่ แบกอาวุธ “ตดิ ดาบ” รวด ๘๒ ทา่ ยืนยามบนรถไฟ “ยนื ยาม, ทา” เป็นคาๆ ๘๓ ทา่ ปลดดาบจากทา่ วันทยาวธุ “ปลดดาบ” รวด ๘๔ ทา่ ตดิ ดาบจากท่าวนั ทยาวธุ “ตดิ ดาบ” รวด ๘๕ ท่าปลดดาบขณะนั่งหนุนบนรถไฟ “ปลดดาบ” รวด ๘๖ ทา่ ติดดาบขณะนง่ั หนนุ บนรถไฟ “ตดิ ดาบ” รวด ๘๗ ท่าชักล้อมขณะอยบู่ นรถไฟ “ข้าวต้มมัด” รวด ๘๘ ท่าเลกิ ชักล้อมขณะอยู่บนรถไฟ “เลกิ ขา้ วตม้ มัด” รวด โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์



โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ทา่ เรียบอาวุธ ๑.เรอ่ื งที่จะทาการฝกึ : บุคคลท่าอาวุธ “ท่าเรียบอาวธุ ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ท่าเรียบอาวุธเป็นท่าพ้ืนฐานของการฝึกท่าอาวุธทุกท่า ใช้เป็นท่าแสดงความเคารพนายทหาร ช้นั ประทวน และกรณีผู้ปฏิบัติไม่สวมหมวก ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “แบง่ ” ใช้คาบอก “แถว - ตรง” ๕.การปฏิบัติ : ให้ผู้ปฏิบัติยืนให้ส้นเท้าชิดและอยู่ในแนวเดียวกันปลายเท้าทั้งสองแบะออกไปทางข้างเท่าๆ กัน ปลายเท้าห่างกันประมาณหนึ่งคืบหรือให้ทามุม ๔๕ องศา เข่าเหยียดตรงและบีบเข้าหากัน มือขวาจับ ใต้โครงศูนย์หน้าในลักษณะจับคีบ โดยให้สันปืนอยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับน้ิวชี้ นิ้วอื่นเรียงชิดติดกัน หันหลังมือ ไปด้านหน้าให้แนวปืนต้ังตรงแนบขาขวา ด้ามปืนหันออกไปด้านหน้าวางพานท้ายปืนลงบนพื้นให้แง่หน้าของพาน ท้ายวางเสมอกับปลายนิ้วก้อยของเท้าขวา แขนท้ังสองอยู่ข้างลาตัวในลักษณะงอข้อศอกไว้จนเกิดช่องว่างห่างจาก ลาตัวประมาณหนึ่งฝ่ามือ พลิกข้อศอกออกข้างหน้าเล็กน้อยจนหัวไหล่ท้ังสองข้างตึงและเสมอกัน นิ้วมือซ้ายท้ังห้า เหยยี ดตรงเรียงชดิ ตดิ กนั ใหป้ ลายนว้ิ กลางแตะไว้ตรงกึ่งกลางขาซ้ายท่อนบนประมาณแนวตะเข็บกางเกง เปิดฝ่ามือ ทางด้านนิ้วก้อยออกเล็กน้อย ลาคอและใบหน้าต้ังตรง เก็บคาง สายตามองตรงไปด้านหน้าในแนวระดับ วางนา้ หนักตัวอยบู่ นเท้าทง้ั สองขา้ งเท่าๆ กัน “แถว - ตรง” คาบอก “แบ่ง” ทา่ เรยี บอาวธุ (ด้านหนา้ ) ทา่ เรยี บอาวธุ (ด้านข้าง) ่ทาเ ีรยบอาวุธ โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๑ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ท่ายกอก ๑.ความเป็นมา : ท่ายกอกเป็นท่าฝึกพระราชทาน สืบเน่ืองมาจากการท่ี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ตั้งแต่เมื่อคร้ังยังทรงดารงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสังเกตและทอดพระเนตรเห็นเหล่าบรรดาทหารหลายนาย มีบุคลิกลักษณะที่ ไมส่ งา่ ผ่าเผย มักจะยืนคอ่ มตัว ไม่ยืดอก และปลายคางเชิด จึงพระราชทานคาสอน พร้อมท้ังทรงพระเมตตาแสดง พระองค์เป็นตัวอย่าง ด้วยการยืดอก เก็บคาง และสะบัดหน้าไปยังผู้รับการเคารพ ซ่ึงท่ายกอกนี้สามารถนาไป ปฏิบัติประกอบกับทุกท่าการฝึกในขั้นตอนสุดท้ายของแต่ละท่า ได้ ในระยะแรกทรงเรียกท่าการฝึกน้ี แบบลาลองว่า “ท่าแกเ้ ขิน” ต่อมาพระราชทานชอื่ ทา่ นี้วา่ “ท่ายกอก” ๒.เรือ่ งทีจ่ ะทาการฝึก : บุคคลทา่ อาวธุ “ท่ายกอก” ๓.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๔.ประโยชน์ : เพื่อให้มีบุคลิกลักษณะท่ีสง่าผ่าเผย ไม่ยืนค่อมตัว ใช้ปฏิบัติประกอบกับทุกท่าการฝึกในขั้นตอน สุดทา้ ยของแต่ละท่า ๕.คาบอก : เป็นคาบอก “เป็นคาๆ” ใช้คาบอก “ยก, อก” “ยก, อก” ทา่ ยกอก (ด้านหน้า) ทา่ ยกอก (ดา้ นขา้ ง) คาบอก “เ ็ปนคาๆ” ๖.การปฏิบัติ : เม่ือได้ยินคาบอก “ยก” เป็นการเตือนให้ผู้ปฏิบัติเตรียมพร้อม ในการปฏิบัติต่อไป เม่ือได้ยิน คาบอก “อก” ใหผ้ ู้ปฏบิ ตั ิยกหน้าอกขน้ึ ในลกั ษณะกระตกุ หน้าอกใหผ้ ง่ึ ผาย ซ่ึงมิใช่การยกไหล่หรือสูดลมหายใจเข้า จากนั้นเมื่อได้ยินคาบอก “อึ๊บ” ให้ผู้ปฏิบัติสะบัดหน้าไปทางผู้รับการเคารพ (ในลักษณะการกัดกราม) ไปในทศิ ทางตรงหน้า ทางขวา หรอื ทางซา้ ยให้แข็งแรง ่ทายกอก หมายเหตุ : แบง่ ออกเปน็ ๒ ลกั ษณะ ดงั น้ี ๑.กรณีมีผู้ปฏิบตั ติ ง้ั แต่ ๒ นายขึน้ ไป ให้ผู้ท่ีมีชั้นยศสูงสุดในบริเวณน้ัน เป็นผู้ส่ัง “ยก, อก” ให้ทุกนายปฏิบัติ ท่ายกอกใหพ้ ร้อมเพรียงกันทกุ นาย จากน้นั ส่ัง “อ๊บึ ” ใหส้ ะบดั หน้าไปในทศิ ทางผ้รู บั การเคารพ ๒.กรณีมีผู้ปฏิบัตินายเดียว ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่ายกอก และสะบัดหน้าไปในทิศทางผู้รับการเคารพ อยา่ งแขง็ แรง ๒ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

ท่าพกั “ ัพก” ท่าพกั แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ๑.ทา่ พกั ในแถว ประกอบดว้ ย ๑.๑ ทา่ พกั ตามปกติ ๑.๒ ท่าพกั ตามระเบียบ ๑.๓ ทา่ พักตามสบาย ๒.ท่าพักนอกแถว ประกอบด้วย ๒.๑ ทา่ พักแถว ๒.๒ ท่าเลิกแถว ท่าพักตามปกติ ๑.เร่ืองทจี่ ะทาการฝึก : บุคคลทา่ อาวุธ “ทา่ พักตามปกต”ิ ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : เพ่อื ใหผ้ ู้ปฏบิ ัติผอ่ นคลายอริ ยิ าบถจากการปฏบิ ตั ใิ นบคุ คลทา่ อาวุธ ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “รวด” ใชค้ าบอก “พกั ” ๕.การปฏิบัติ : เมื่อได้ยินคาบอก “พัก” ให้ผู้ปฏิบัติหย่อนเข่าขวาลงเล็กน้อย โดยส่วนอื่นๆ ของร่างกาย อยู่ในลกั ษณะท่าเรียบอาวุธ หมายเหตุ : - เม่ือได้ยินคาบอก “แถว” ให้ผู้ปฏิบัติสูดลมหายใจเข้าปอด เมื่อได้ยินคาบอก “ตรง” ให้กระตุกเข่าขวา กลบั ไปอยู่ในทา่ ตรงอย่างรวดเรว็ และแข็งแรง จากนัน้ ใหป้ ฏบิ ัติทา่ ยกอก - ท่าพักตามปกตินส้ี ามารถเปล่ียนเข่าได้ หา้ มพดู คุยกัน และเปล่ยี นทีย่ นื ของเทา้ ทงั้ สองข้างเปน็ อนั ขาด คาบอก “รวด” ท่าพักตามปกติ ทา่ พกั ตามปกติ (ด้านหน้า) ท่าพกั ตามปกติ (ดา้ นขา้ ง) โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์

ทา่ พักตามระเบยี บ ๑.เรือ่ งท่จี ะทาการฝกึ : บุคคลท่าอาวธุ “ท่าพกั ตามระเบยี บ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : เปน็ ทา่ ทใ่ี ชใ้ นโอกาสรอรบั คาส่ังหรอื ฟังคาชแ้ี จงในลักษณะรปู แถว ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “เปน็ คาๆ” ใช้คาบอก “ตามระเบยี บ, พัก” ๕.การปฏิบัติ: เมื่อได้ยินคาบอก “ตามระเบียบ, พัก” ให้ผู้ปฏิบัติแยกเท้าซ้ายออกไปด้านซ้ายประมาณ ๓๐ เซนติเมตร หรือประมาณครึ่งก้าวอย่างแข็งแรง ในขณะเดียวกันน้ันเลื่อนมือขวาขึ้นมาจับคีบ เหนือโคร่งศูนย์หน้าแล้วผลักปืนเฉียงไปทางด้านหน้าตามแนวของปลายเท้าขวาหรือทามุมกับลาตัว ๔๕ องศา แขนขวาเหยียดตึงพร้อมกับนามือซ้ายไปวางไว้ด้านหลังหันหลังมือแตะไว้ใต้แนวเข็มขัด นิ้วท้ังห้าเหยียด ตรง เรียงชิดติดกันแบะข้อศอกออกไปข้างหน้าเล็กน้อยจนไหล่ตึง ขาทั้งสองข้างเหยียดตึงน้าหนักตัวอยู่บน เท้า ท้ังสองข้าง ยกอกให้สง่าผ่าเผย ไหล่ทั้งสองข้างเสมอกัน ลาคอตั้งตรงสายตามองไปด้านหน้าในระดับสายตา จบั จดุ ใดจุดหนงึ่ ของภูมปิ ระเทศไว้ หมายเหตุ : - เม่ือผู้ปฏบิ ตั ิ ปฏิบัติในทา่ พกั ตามระเบยี บแลว้ ให้ปฏิบัติทา่ ยกอก - เม่ือได้ยินคาบอก “แถว” ให้สูดลมหายใจเข้าสั้นๆ ยกอก และเมื่อได้ยินคาบอก “ตรง” ให้นาเท้าซ้าย มาชิดเท้าขวาอย่างแข็งแรง พร้อมกับใช้มือขวาวาดปืนไปข้างลาตัว แขนขวาเหยียดตึง โดยพานท้ายปืนอยู่ตาแหน่งเดิม ปลายเทา้ ท้ังสองแบะออกไปทางข้างหา่ งกนั ประมาณหน่ึงคืบ หรอื ประมาณ ๔๕ องศา พร้อมกับนาปืนมาชิดข้างขาขวาใน ลกั ษณะการกระชบั ปนื ในขณะเดียวกนั ลดมือซา้ ยลงมาอยู่ขา้ งขาซ้าย จากนั้นเลอื่ นมอื ขวาลงมาจับคีบใตโ้ ครงศูนย์หน้าใน ลกั ษณะท่าเรียบอาวธุ “ตามระเ ีบยบ, ัพก” ่ทาพักตามระเบียบ คาบอก “เ ็ปนคาๆ” ทา่ พกั ตามระเบยี บ (ดา้ นหนา้ ) ท่าพักตามระเบียบ (ด้านหลงั ) ๔ โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

ท่าพักตามสบาย ๑.เรอื่ งท่ีจะทาการฝกึ : บุคคลท่าอาวุธ “ทา่ พกั ตามสบาย” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : เปน็ ท่าทใี่ ชใ้ นการผ่อนคลายอิริยาบถเมือ่ อยู่ในแถวสามารถจดั ระเบียบเคร่ืองแต่งกายได้ ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “เป็นคาๆ” ใช้คาบอก “ตามสบาย, พัก” ๕.การปฏบิ ตั ิ : เมอ่ื ไดย้ นิ คาบอก “ตามสบาย, พัก” ให้ผู้ปฏิบัติหย่อนเข่าขวาลงเล็กน้อยโดยพยายามไม่ให้ส่วน อื่นๆ ของร่างกายมีการเคล่ือนไหวอย่างกะทันหัน เช่นเดียวกับการปฏิบัติท่าพักตามปกติในข้ันตอนแรก จากน้ันอนุญาตให้ผู้ปฏิบัติเคล่ือนไหวอิริยาบถ ห้ามพูดคุยกันถ้าไม่ได้รับอนุญาต ปืนและเท้าข้างใดข้างหนึ่ง จะต้องอยกู่ ับท่ี ห้ามผู้ปฏบิ ตั อิ อกนอกแถว หมายเหตุ : - เม่ือได้ยินคาบอก “แถว” ไม่ว่าผู้ปฏิบัติจะอยู่ในอิริยาบถใดก็ตามให้รีบกลับมายืนในท่าเรียบอาวุธ หย่อนเข่าขวาเล็กน้อย พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าและยกอกให้ผึ่งผาย เมื่อได้ยินคาบอก “ตรง” ให้ผู้ปฏิบัติ กระตุกเขา่ ขวาเขา้ มาอยใู่ นลกั ษณะของทา่ เรยี บอาวุธอย่างรวดเรว็ และแขง็ แรง จากน้นั ให้ปฏบิ ตั ิทา่ ยกอก - หากมีคาสั่งให้จัดเครื่องแต่งกาย (คาบอก “จัดเครื่องแต่งกาย”) ให้ปฏิบัติในท่าถอดหมวก (บุคคลท่าอาวุธ) ตอนที่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงจัดเครื่องแต่งกาย เม่ือจัดเรียบร้อยแล้ว ให้ปฏิบัติท่าสวมหมวก (บุคคลทา่ อาวธุ ) ตอนท่ีสาม คาบอก “เป็นคาๆ” “ตามสบาย, ัพก” ท่าพกั ตามสบาย ท่าพกั ตามสบาย ท่าพักตามสบาย โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ ๕ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์

“ ัพกแถว , เ ิลกแถว” ทา่ พักแถวและท่าเลิกแถว ๑.เรอ่ื งที่จะทาการฝึก : บุคคลท่าอาวธุ “ท่าพักแถว , ทา่ เลกิ แถว” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : -ใช้ในโอกาสการผ่อนคลายอิริยาบถโดยไม่อยู่ในรูปแบบแถวในระยะเวลาไม่นานแต่ยังคง อยู่บรเิ วณใกลท้ ร่ี วมพลพร้อมเรยี กแถว - ใช้ในโอกาสเลกิ จากการฝึกหรือภารกิจ ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “รวด” ใช้คาบอก “พกั แถว , เลิกแถว” ๕.การปฏิบัติ : - เมื่อได้ยินคาบอก “พักแถว” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่าเฉียงอาวุธ จากน้ันปฏิบัติท่ากึ่งขวาหัน โดยไม่ต้องชิดเท้าแล้วตบเท้าซ้ายไปข้างหน้าหนึ่งก้าวพร้อมเปล่งเสียง “เฮ้” วิ่งออกจากแถวอย่างรวดเร็ว และพักอยู่บรเิ วณใกลเ้ คยี ง หรอื พ้นื ทท่ี ี่กาหนด - เมื่อได้ยินคาบอก “เลิกแถว” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่าเฉียงอาวุธ จากน้ันก่ึงขวาหันโดยไม่ต้อง ชดิ เท้า แลว้ ตบเทา้ ซา้ ยไปขา้ งหนา้ หนง่ึ ก้าวพรอ้ มเปลง่ เสยี ง “เฮ้” วิ่งออกจากแถวอย่างรวดเรว็ หมายเหตุ : (ท่าพกั แถว) เมือ่ ได้ยนิ คาบอก “แถว” ใหผ้ ปู้ ฏิบตั เิ ปลง่ เสียง “เฮ้” และรีบกลับมาเข้าแถวท่ีเดิมโดยเร็ว ในรปู แถวเดมิ เม่ือจดั แถวเปน็ รูปแถวเรยี บรอ้ ยแล้ว ใหอ้ ยู่ในท่าเรียบอาวธุ หมายเหตุ : (ท่าเลิกแถว) เมื่อต้องการให้กลับมาอยู่ในรูปแถว ผู้ควบคุมแถวต้องทาการเรียกแถวใหม่โดยสามารถ เปล่ียนรปู แถวได้ คาบอก “รวด” ่ทาพักแถวและ ่ทาเลิกแถว ท่าพักแถว ทา่ เลกิ แถว ๖ โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

ทา่ ยกปนื และทา่ ปนื ลง ๑.เรื่องที่จะทาการฝึก : บุคคลท่าอาวธุ “ท่ายกปืน , ท่าปนื ลง , ทา่ ปืนลง” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชป้ ระกอบทา่ หันและท่ากา้ วทางขา้ ง ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “รวด” ใช้คาบอก “ยกปืน , ปนื ลง” ๕.การปฏิบัติ : - เป็นท่าที่ปฏิบัติต่อจากท่าเรียบอาวุธ เม่ือได้ยินคาบอก “ยกปืน” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาจับคีบ ในลักษณะเดียวกับท่าเรียบอาวุธพร้อมยกปืนข้ึนอย่างแข็งแรง ให้พานท้ายปืนสูงจากพื้นประมาณหน่ึงฝ่ามือ โดยให้ปนื ตั้งตรงแนบชดิ ติดขา้ งขาขวา - เป็นท่าท่ีปฏิบัติต่อจากท่ายกปืน เม่ือได้ยินคาบอกว่า “ปืนลง” ให้ผู้ปฏิบัตินาพานท้ายปืน วางลงกับพื้น ให้หน้าแง่พานท้ายปืนอยู่บริเวณโคนนิ้วก้อยเท้าขวา ปืนต้ังตรงอยู่ในท่าเรียบอาวุธ จากน้ันให้ ปฏบิ ัติทา่ ยกอก “ ืปนลง , ่ทา ืปนลง” คาบอก “รวด” ทา่ ยกปนื (ดา้ นหน้า) ท่ายกปืน (ดา้ นข้าง) ทา่ ปืนลง (ด้านหนา้ ) ทา่ ปนื ลง (ดา้ นขา้ ง) ท่า ืปนลงและ ่ทาปืนลง โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๗ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ท่าวางปนื และท่าหยิบปนื ๑.เรอ่ื งทจี่ ะทาการฝึก : บคุ คลท่าอาวุธ “ท่าวางปนื และท่าหยิบปืน” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสท่ผี ู้ปฏิบตั ิตอ้ งการปฏบิ ัตใิ นทา่ ใดๆ โดยไมใ่ ชอ้ าวธุ ขณะอยใู่ นรูปแถว ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “รวด” ใช้คาบอก “วางปืน” และ “หยบิ ปนื “วาง ืปน” และ “ห ิยบปืน” ๕.๑ การปฏบิ ตั ทิ า่ วางปนื ตอนท่ีสอง ตอนที่หนึ่ง : เม่ือได้ยินคาบอก “วางปืน, ตอนท่ีหนึ่ง” ให้ตบเท้าซ้ายไปข้างหน้า ตอนทีห่ นึง่ ประมาณครึ่งก้าวในลักษณะเตะเท้าจนขา เหยียดตึงแล้วตบเท้าลงบนพื้นเต็มฝ่าเท้า มือขวาพลิกปืนให้โกร่งไกหันไปทางขวา จากน้ันให้ทรุดตัวลงจนเข่าขวาแตะพื้น เข่าซ้ายต้ังข้ึน ลาตัวเอนไปด้านหน้าตาม ธรรมชาติ วางปืนแบนราบไปกับ พื้น แขนซา้ ยเหยียดตรงข้างลาตวั หันฝ่ามือเข้า หาลาตัว สายตามองตรงไปด้านหน้า ปลายมอื ขวาสัมผัสปืนบรเิ วณหูกระวนิ บน ตอนท่ีสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “วางปืน, ตอนท่สี อง” ใหผ้ ปู้ ฏบิ ัติลุกข้ึนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับนาเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวาอย่าง แ ข็ ง แ ร ง ก ลั บ ม า อ ยู่ ใ น ลั ก ษ ณ ะ ท่ า ต ร ง สันพานท้ายปนื อยชู่ ิดนิ้วกอ้ ยเท้าขวา ๕.๒ การปฏิบตั ิท่าหยิบปนื ตอนท่ีหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “หยิบปืน, ตอนที่หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติตบเท้า ซ้าย คาบอก “รวด” ไปข้างหน้าประมาณครึ่งก้าวในลักษณะ เตะเท้าจนขาเหยียดตึงแล้วตบเท้าลงบน ท่าวาง ืปนและ ่ทาห ิยบปืน ตอนท่หี นึ่ง ตอนทสี่ อง พ้ืนเต็มฝ่าเท้า มือ ทั้งสองข้างท้ิงดิ่ง หันฝ่ามือเข้าลาตัว จากน้ันให้ทรุดตัวลง จนเข่าขวาแตะพ้ืน เข่าซ้ายตั้งขึ้น ลาตัว เกือบต้ังตรง แขนซ้ายเหยียดตรง สายตา ม อ ง ไ ป ด้ า น ห น้ า ป ล า ย มื อ ข ว า สั ม ผั ส ปื น บรเิ วณหูกระวินบน ตอนที่สอง : เม่ือได้ยินคาบอก “หยิบปืน, ตอนที่สอง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาจับปืน ลกุ ขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ พรอ้ มกบั นาเท้าซ้ายมา ชิดเท้าขวาอย่างแข็งแรงกลับมาอยู่ในท่า เรยี บอาวุธ ๘ โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

ทา่ หันอยูก่ บั ท่ี ท่าหนั อยูก่ ับที่ แบง่ ออกเป็น ๕ ทา่ ๔.ท่ากึง่ ซา้ ยหัน ๑.ทา่ ซา้ ยหนั ๕.ท่าก่ึงขวาหนั ๒.ท่าขวาหนั ๓.ท่ากลับหลงั หัน ท่าซา้ ยหัน ๑.เร่อื งทจี่ ะทาการฝกึ : บคุ คลทา่ อาวธุ “ทา่ ซ้ายหัน” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชเ้ ปลยี่ นทิศทางของแถวจากทศิ ทางตรงหน้าไปยังทศิ ทางดา้ นซ้าย ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “แบง่ ” ใชค้ าบอก “ซ้าย - หัน” ๕.การปฏิบัติ : แบง่ ออกเปน็ ๒ จังหวะ จังหวะหน่ึง จังหวะสอง “ ้ซาย - ัหน” จังหวะหนึ่ง : เม่ือได้ยินคาบอก “ซ้ายหันจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติในท่ายกปืน บังคับให้ปืนแนบชิด คาบอก “แ ่บง” อยู่กับขาข้างขวาในลักษณะแนวปืนต้ังตรง วางมือซ้ายให้อยู่ในลักษณะของท่าเรียบอาวุธตลอดเวลา เปิดปลายเท้าซ้ายสูงขึ้นจากพ้ืนเล็กน้อยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยู่กับที่ แล้วหมุนตัวไปทางซ้ายจนได้ ท่า ้ซายหัน ๙๐ องศา ด้วยการใช้ส้นเท้าซ้ายเป็นจุดหมุน ในขณะเดียวกันน้ันให้ใช้ปลายเท้าขวากดแน่นไว้กับพ้ืนเพ่ือช่วย ให้มีการทรงตัวได้ดีในระหว่างหมุนตัว แล้วเปิดส้นเท้าหมุนตามไปด้วย โดยพยายามกดปลายเท้าไว้ ณ ที่เดิม ในลักษณะให้ขาเหยยี ดตงึ ส้นเท้าบิดออกด้านนอก ในขณะท่หี มุนตวั ไปนั้นจะต้องพยายามรกั ษาทรวดทรงของลาตวั จังหวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “ซ้ายหันจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าขวามาชิดเท้าซ้ายอย่างแข็งแรง และปฏบิ ตั ใิ นท่าปืนลง จากนน้ั ให้ปฏิบตั ทิ า่ ยกอก หมายเหตุ : เมือ่ ปฏิบตั ิในรูปแถว การอดั สน้ เท้าตอ้ งปฏิบัติใหเ้ กดิ ความแขง็ แรง พร้อมเพรียง เสยี งชดิ เทา้ ต้องเปน็ เสียงเดียวกนั ๙ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

ทา่ ขวาหนั ๑.เร่อื งท่จี ะทาการฝกึ : บุคคลทา่ อาวธุ “ท่าขวาหนั ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชเ้ ปล่ยี นทศิ ทางของแถวจากทศิ ทางตรงหน้าไปยงั ทศิ ทางดา้ นขวา ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “แบ่ง” ใช้คาบอก “ขวา - หัน” ๕.การปฏิบตั ิ : แบง่ ออกเปน็ ๒ จังหวะ “ขวา - ัหน” จงั หวะหน่ึง จังหวะสอง คาบอก “แ ่บง” จังหวะหน่ึง : เม่ือได้ยินคาบอก “ขวาหันจังหวะ - หนึ่ง” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติในท่ายกปืน บังคับให้ปืนแนบชิด อยู่กับขาข้างขวา พยายามให้แนวปืนต้ังตรง วางมือซ้ายให้อยู่ในลักษณะของท่าเรียบอาวุธ ตลอดเวลา เปิดปลายเท้าขวาสูงข้ึนจากพ้ืนเล็กน้อยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยู่กับที่ แล้วหมุนตัวไปทางขวาจนได้ ๙๐ องศา ดว้ ยการใช้ส้นเท้าขวาเป็นจุดหมุน ในขณะเดยี วกนั นั้นใหใ้ ช้ปลายเท้าซา้ ยกดแน่นไว้กับพื้นเพ่ือช่วยให้มี การทรงตัวได้ดีในระหว่างหมุนตัว แล้วเปิดส้นเท้าหมุนตามไปด้วย โดยพยายามกดปลายเท้าไว้ ณ ท่ีเดิม ในลักษณะให้ขาเหยียดตึง ส้นเท้าบิดออกด้านนอก ในขณะที่หมุนตัวไปน้ันจะต้องพยายามรักษาทรวดทรง ของลาตัว จังหวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “ขวาหันจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวาอย่างแข็งแรง และปฏบิ ตั ใิ นท่าปืนลง จากนั้นให้ปฏิบตั ิทา่ ยกอก ่ทาขวาหัน หมายเหตุ : เม่ือปฏิบัติในรูปแถว การอัดส้นเท้าต้องปฏิบัติให้เกิดความแข็งแรง พร้อมเพรียง เสียงชิดเท้าต้องเป็น เสียงเดยี วกนั ๑๐ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์

ทา่ กลับหลังหนั ๑.เร่ืองที่จะทาการฝึก : บคุ คลทา่ อาวุธ “ทา่ หลับหลงั หนั ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชเ้ ปลย่ี นทิศทางของแถวจากทิศทางตรงหน้าไปยังทศิ ทางดา้ นหลัง ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “แบง่ ” ใช้คาบอก “กลบั หลงั - หัน” ๕.การปฏิบตั ิ : แบ่งออกเปน็ ๒ จังหวะ จังหวะหนงึ่ จงั หวะสอง คาบอก “แ ่บง” “ก ัลบห ัลง - ัหน” จังหวะหนึ่ง : เม่ือได้ยินคาบอก “กลับหลังหันจังหวะ - หนึ่ง” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติในท่ายกปืน บังคับให้ปืนแนบ ท่ากลับห ัลงหัน ชิดอยู่กับขาข้างขวา พยายามให้แนวปืนตั้งตรง วางมือซ้ายให้อยู่ในลักษณะของท่าเรียบอาวุธตลอดเวลา เปิดปลายเท้าขวาสูงขึ้นจากพื้นเล็กน้อยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยู่กับท่ี แล้วหมุนตัวไปทางขวาจนได้ ๑๘๐ องศา ด้วยการใชส้ น้ เท้าขวาเป็นจุดหมนุ ขณะเดียวกันน้ันให้เหวี่ยงเท้าซ้ายไปทางซ้ายตามจังหวะการหมุน ตัวและเม่ือหมุนไปได้ ๑๘๐ องศา แล้วให้นาปลายเท้าซ้ายไปแตะพ้ืนไว้ทางด้านหลังในทิศเฉียงไปข้างหลัง ทางซ้าย ส้นเท้าเปิด ขาเหยียดตึง ในขณะท่ีหมุนตัวไปนั้นจะต้องพยายามรักษาทรวดทรงของลาตัว เมื่อหมุนตัว ไปได้ที่แล้วนา้ หนักตวั อยู่บนเทา้ ขวา จังหวะสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “กลับหลังหันจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวาอย่างแข็งแรง และปฏิบัติในท่าปืนลง จากน้นั ใหป้ ฏิบตั ิทา่ ยกอก หมายเหตุ : เม่ือปฏิบัติในรูปแถว การอัดส้นเท้าต้องปฏิบัติให้เกิดความแข็งแรง พร้อมเพรียง เสียงชิดเท้าต้องเป็น เสยี งเดียวกนั ๑๑โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ท่าก่ึงซา้ ยหนั ๑.เร่ืองทจ่ี ะทาการฝึก : บุคคลทา่ อาวุธ “ท่าก่ึงซ้ายหนั ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้เปลีย่ นทิศทางของแถวจากทศิ ทางตรงหนา้ ไปยังทศิ ดา้ นซา้ ย ๔๕ องศา ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “แบง่ ” ใช้คาบอก “กง่ึ ซา้ ย - หัน” ๕.การปฏบิ ัติ : แบง่ ออกเป็น ๒ จงั หวะ “ ่กึง ้ซาย - ัหน” จงั หวะหนึง่ จังหวะสอง คาบอก “แ ่บง” จังหวะหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “กึ่งซ้ายหันจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติในท่ายกปืน บังคับให้ปืนแนบชิด อย่กู ับขาขา้ งขวาในลกั ษณะแนวปนื ตัง้ ตรง วางมอื ซา้ ยให้อยูใ่ นลกั ษณะของทา่ เรียบอาวุธตลอดเวลา เปิดปลายเท้า ่ทา ่ึกง ้ซาย ัหน ซา้ ยสูงขนึ้ จากพืน้ เลก็ นอ้ ยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยู่กับท่ี แล้วหมุนตัวไปทางซ้ายจนได้ ๔๕ องศา ด้วยการ ใช้ส้นเท้าซ้ายเป็นจุดหมุน ในขณะเดียวกันนั้นให้ใช้ปลายเท้าขวากดแน่นไว้กับพ้ืนเพื่อช่วยให้มีการทรงตัวได้ดี ในระหว่างหมุนตัว แล้วเปิดส้นเท้าหมุนตามไปด้วย โดยพยายามกดปลายเท้าไว้ ณ ที่เดิมในลักษณะให้ ขา เหยียดตงึ ส้นเทา้ บิดออกดา้ นนอก ในขณะทีห่ มุนตวั ไปนน้ั จะต้องพยายามรักษาทรวดทรงของลาตัว จังหวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “กึ่งซ้ายหันจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าขวามาชิดเท้าซ้ายอย่างแข็งแรง และปฏบิ ัตใิ นท่าปนื ลง จากนนั้ ให้ปฏบิ ตั ิทา่ ยกอก หมายเหตุ : เมื่อปฏิบัติในรูปแถว การอัดส้นเท้าต้องปฏิบัติให้เกิดความแข็งแรง พร้อมเพรียง เสียงชิดเท้าต้องเป็น เสยี งเดยี วกัน ๑๒ โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์

ทา่ กงึ่ ขวาหนั ๑.เรือ่ งทจ่ี ะทาการฝกึ : บุคคลท่าอาวธุ “ท่ากง่ึ ขวาหนั ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้เปล่ียนทศิ ทางของแถวจากทศิ ทางตรงหนา้ ไปยังทิศดา้ นขวา ๔๕ องศา ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “แบ่ง” ใชค้ าบอก “กง่ึ ขวา - หนั ” ๕.การปฏบิ ัติ : แบ่งออกเป็น ๒ จังหวะ จังหวะหนงึ่ จงั หวะสอง “ ่กึงขวา - หัน” จังหวะหนึ่ง : เม่ือได้ยินคาบอก “ก่ึงขวาหันจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติในท่ายกปืน บังคับให้ปืนแนบชิด คาบอก “แ ่บง” อยู่กับขาขา้ งขวา พยายามให้แนวปืนตั้งตรง วางมือซ้ายให้อยู่ในลักษณะของท่าเรียบอาวุธตลอดเวลา เปิดปลาย เท้าขวาสูงขึ้นจากพ้ืนเล็กน้อยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยู่กับที่ แล้วหมุนตัวไปทางขวาจนได้ ๔๕ องศา ท่า ึ่กงขวาหัน ด้วยการใช้ส้นเท้าขวาเป็นจุดหมุน ในขณะเดียวกันน้ันให้ใช้ปลายเท้าซ้ายกดแน่นไว้กับพ้ืนเพื่อช่วยให้มีการ ทรงตัวได้ดีในระหว่างหมุนตัว แล้วเปิดส้นเท้าหมุนตามไปด้วย โดยพยายามกดปลายเท้าไว้ ณ ท่ีเดิมในลักษณะ ให้ขาเหยียดตงึ ส้นเท้าบดิ ออกด้านนอก ในขณะทห่ี มุนตวั ไปนนั้ จะต้องพยายามรักษาทรวดทรงของลาตัว จังหวะสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “กึ่งขวาหันจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัตินาเท้าขวามาชิดเท้าซ้ายอย่างแข็งแรง และปฏิบัติในท่าปนื ลง จากนั้นใหป้ ฏิบตั ิท่ายกอก หมายเหตุ : เมื่อปฏิบัติในรูปแถว การอัดส้นเท้าต้องปฏิบัติให้เกิดความแข็งแรง พร้อมเพรียง เสียงชิดเท้าต้องเป็น เสยี งเดียวกัน ๑๓โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์

ท่าวันทยาวุธ ๑.เรอื่ งทจ่ี ะทาการฝกึ : บุคคลทา่ อาวุธ “ท่าวนั ทยาวธุ ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชแ้ สดงการเคารพนายทหารช้ันสญั ญาบัตร ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “แบ่ง” ใช้คาบอก “วันทยา - วุธ” ๕.การปฏบิ ตั ิ : แบ่งออกเปน็ ๒ จงั หวะ จงั หวะหนงึ่ จังหวะสอง “ ัวนทยา - วุธ” จงั หวะหนง่ึ : เมื่อไดย้ นิ คาบอก “วันทยาวุธจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวายกปืนในลักษณะคีบข้ึนมาตรงหน้า จากน้นั เปล่ียนเปน็ การอบฝาครอบลากล้องปนื หนั ฝ่ามอื ไปทางซ้าย นิ้วท้ังส่ีเรียงชิดติดกันอยู่ใต้โครงศูนย์หน้าโดยให้ คาบอก “แ ่บง” ปืนทั้งกระบอกตั้งตรงตลอดเวลามาอยู่ที่กึ่งกลางลาตัว ปืนห่างจากลาตัวประมาณหน่ึงฝ่ามือ ด้ามปืนหันช้ีออกไป ในทิศทางตรงหน้า ปลอกลดแสงอยู่แนวระดับสายตา แขนขวาท่อนบนแนบชิดติดลาตัว พร้อมกันน้ันให้ยกมือซ้าย ข้ึนมาเป็นรูปคร่ึงวงกลม นิ้วทั้งส่ีเรียงชิดติดกัน พร้อมตบจับหันฝ่ามือไปทางขวา ตบกระชับฝาครอบลากล้องปืน (กาสายสะพายปืนไว้ด้วย) โดยพยายามไม่ให้กระบอกปืนมีการเคล่ือนไหวใดๆ นิ้วหัวแม่มือของมือซ้ายอยู่ตรง รูที่หกของฝาครอบลากล้องปืน นับจากล่างขึ้นบน น้ิวหัวแม่มือและนิ้วชี้อยู่แนวระดับเดียวกัน แขนซ้ายท่อนบน แนบชิดติดลาตัว น้าหนักปืนทั้งกระบอกอยู่ที่มือซ้าย ส่วนอื่นๆ ของร่างกายยังคงอยู่ในลักษณะของท่าตรง สายตา มองตรงไปดา้ นหนา้ ในแนวระดบั จงั หวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “วันทยาวุธจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือซ้ายจับถือปืนไว้ให้มั่นคงในลักษณะเดิม ปล่อยมอื ขวาจากการจับปืนแล้วสะบดั มือลง (ในลกั ษณะการฟนั มือ) อย่างแข็งแรง โดยให้ปลายนิ้วชี้มือขวาสัมผัสกับ ลาดพานท้ายปืน นิ้วทั้งส่ีเรียงชิดติดกัน ทามุมประมาณ ๔๕ องศา กับพานท้ายปืน น้ิวหัวแม่มืองอ และทาบไปกับ สันพานท้ายปนื แขนขวาเหยียดตงึ ท่า ัวนทยาวุธ หมายเหตุ : -ทา่ ทางขวา, ทางซ้ายวนั ทยาวุธ ยงั คงปฏบิ ัตเิ ช่นเดียวกบั ทา่ ตรงหน้าวันทยาวุธ แต่เพิ่มเติมการปฏิบัติในขณะลด มอื ขวาลงให้สะบดั หนา้ ไปทางขวา หรือทางซ้าย ลักษณะท่าแลขวา หรอื แลซ้าย อย่างแข็งแรง -ในการฝึกไม่ต้องส่ัง “ระวงั ” แตก่ รณแี สดงความเคารพใหม้ คี าว่า “ระวัง” เมื่อได้ยินคาบอก “ระวัง” ให้ปฏิบัติ ทา่ ยกอก -กรณีอยู่เพียงลาพัง ให้ผู้ปฏิบัติ ปฏิบัติท่ายกอก และสะบัดหน้าหลังจากปฏิบัติท่าวันทยาวุธเรียบร้อยแล้ว ทั้งทิศทางตรงหน้า ทางขวา และทางซ้าย -กรณีอยู่เป็นหมู่คณะ (ตั้งแต่ ๒ นายข้ึนไป) หรือรูปแถว ให้ผู้ท่ีมีอาวุโสสูงสุดหรือผู้ควบคุมแถวเป็นผู้สั่ง “ยกอก - อึ๊บ” ให้ผู้ปฏบิ ตั ิทา่ ยกอก หลังจากไดย้ นิ คาบอก “ยกอก” และสะบดั หน้าไปทางผรู้ บั การเคารพ หลังจากได้ยินคาบอก “ อึ๊บ ” ๑๔ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์

ท่าเรยี บอาวธุ จากทา่ วนั ทยาวธุ ๑.เร่ืองทจ่ี ะทาการฝึก : บคุ คลท่าอาวุธ “ทา่ เรียบอาวุธจากท่าวันทยาวุธ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสเลกิ แสดงความเคารพนายทหารชัน้ สญั ญาบตั ร ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “แบง่ ” ใชค้ าบอก “เรียบ - อาวธุ ” ๕.การปฏบิ ตั ิ : แบง่ ออกเป็น ๒ จังหวะ จังหวะหนึ่ง จงั หวะสอง จงั หวะสาม “เรียบ - อาวุธ” จังหวะหนึ่ง : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - หนึ่ง” ให้ผู้ปฏิบัติยกมือขวาขึ้นมาเป็นรูปคร่ึงวงกลม น้ิวทั้งสี่เรียงชิด คาบอก “แ ่บง” ติดกันพร้อมตบจับ หันฝ่ามือไปทางซ้าย ตบกระชับฝาครอบลากล้องปืน (กาสายสะพายปืนไว้ด้วย) บริเวณใต้หู กระวินบน นิ้วหัวแม่มือและน้ิวชี้อยู่แนวระดับเดียวกัน โดยพยายามไม่ให้กระบอกปืนมีการเคล่ือนไหว ใดๆ ท่าเ ีรยบอา ุวธจาก ่ทาวันทยาวุธ แขนขวาท่อนบนแนบชิดติดลาตัว ส่วนอื่นๆ ของร่างกายยังคงอยู่ในลักษณะของท่าตรง สายตามองตรงไป ด้านหนา้ ในแนวระดับ ๑๕ จังหวะสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “เรยี บอาวธุ จงั หวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติละมือซ้ายท่ีจับฝาครอบลากล้องปืนมาจับท่ีปลอก ลดแสงในลักษณะจับคีบด้วยน้ิวหัวแม่มือกับน้ิวทั้งสี่เรียงชิดติดกัน น้ิวทั้งห้าชี้ไปทางด้านขวา ข้อศอกซ้ายเปิด ขนานกับพ้ืน ในขณะเดียวกันใช้มือขวาดึงปืนอัดเข้าร่องไหล่ขวาอย่างแข็งแรง จนกระท่ังปืนมาอยู่แนบชิดข้าง ลาตัวทางด้านขวา กระบอกปืนต้ังด่ิงตั้งฉากกับพื้นดิน ด้ามปืนชี้ไปทางด้านหน้า พร้อมกับเปล่ียนท่าการจับปืน จากการการอบเปน็ การจับด้วยนิ้วทัง้ สี่เรียงชดิ ตดิ กนั อย่ดู ้านนอกและนิ้วหวั แม่มืออยู่ด้านใน น้ิวท้ังห้าช้ีลงด้านล่าง แบะข้อศอกขวาไปด้านหลังจนรู้สึกว่าไหล่ขวาตึง ส่วนอื่นๆ ของร่างกายยังคงอยู่ในลักษณะของท่าตรง สายตา มองตรงไปด้านหน้าในแนวระดบั จังหวะที่สาม : เมื่อได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาลดปืนลงจนกว่าพานท้ายปืน จะวางลงบนพ้ืนตามลักษณะของท่าเรียบอาวุธ โดยไม่ให้กระแทกกับพ้ืน พร้อมกับสะบัดมือซ้าย (ในลักษณะ การฟนั มอื ) กลบั ไปอย่ใู นท่าเรยี บอาวธุ อยา่ งแขง็ แรง จากน้นั ให้ปฏบิ ัติท่ายกอก โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ท่าเฉียงอาวธุ ๑.เรื่องทีจ่ ะทาการฝกึ : บคุ คลท่าอาวุธ “ท่าเฉยี งอาวธุ ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสที่ต้องการเคลอ่ื นทใี่ นระยะไกล ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “เปน็ คาๆ” ใช้คาบอก “เฉยี ง, อาวุธ” “เฉียง, อาวุธ” ตอนทห่ี นึ่ง ตอนทสี่ อง คาบอก “เ ็ปนคาๆ” ตอนที่หนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “เฉียงอาวุธ, ตอนที่หนึ่ง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวายกปืนขึ้นเฉียงผ่านหน้าลาตัว เปล่ียนท่าการจับถือเป็นการการอบน้ิวท้ังสี่เรียงชิดติดกัน หันหลังมือออกนอกลาตัว จนมือขวาอยู่เสมอแนวระดับ ่ทาเฉียงอาวุธ ไหล่ซา้ ย ขอ้ ศอกขวาเปดิ ขนานกบั พน้ื บังคบั ใหก้ ระบอกปนื อยู่ในลกั ษณะทแยงกบั ลาตวั ๔๕ องศา และอยู่ห่างจาก ลาตัวประมาณหนึ่งฝ่ามือ ด้ามปืนช้ีไปด้านหน้า พร้อมกันนั้นยกมือซ้ายข้ึนมาเป็นรูปคร่ึงวงกลม น้ิวท้ัง สี่เรียงชิด ติดกันพร้อมตบจับ หันหลังมือออกด้านนอก ตบกระชับฝาครอบลากล้องปืน (กาสายสะพายปืนไว้ด้วย) บริเวณ กึง่ กลางฝาครอบลากลอ้ งปืน ขอ้ ศอกซา้ ยกางออกเล็กน้อย โดยพยายามไม่ให้กระบอกปนื มีการเคลอื่ นไหวใดๆ ตอนที่สอง : เมื่อได้ยินคาบอก “เฉียงอาวุธ, ตอนท่ีสอง” ให้ผู้ปฏิบัติละมือขวาจากฝาครอบลากล้องไปกาคอปืน ในลักษณะคว่าฝ่ามือลงข้างล่างอย่างแข็งแรง โดยพยายามไม่ให้กระบอกปืนมีการเคล่ือนไหวใดๆ ข้อศอกขวา กางเลก็ น้อย หรอื ใหแ้ นวแขนขวาทอ่ นลา่ งต้งั ฉากกบั แนวปืน ๑๖ โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ท่าเรียบอาวธุ จากท่าเฉยี งอาวธุ ๑.เรอ่ื งทจ่ี ะทาการฝึก : บุคคลทา่ อาวุธ “ทา่ เรยี บอาวธุ จากท่าเฉยี งอาวุธ” ๒.ความมงุ่ หมาย : เพอ่ื ให้ปฏบิ ัตไิ ด้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกันของหน่วยทหารมหาดเล็ก ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใช้ในโอกาสปฏิบตั ทิ ่าเรียบอาวธุ เมอ่ื อยูใ่ นท่าเฉยี งอาวธุ ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “เปน็ คาๆ” ใชค้ าบอก “เรยี บ, อาวุธ” ๕.การปฏบิ ตั ิ : แบง่ ออกเป็น ๒ ตอน ตอนท่ีหนึ่ง ตอนทสี่ อง ตอนท่ีสาม คาบอก “เป็นคาๆ” “เ ีรยบ, อาวุธ” ตอนท่ีหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธ, ตอนที่หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติละมือขวาทามือลักษณะรูปครึ่งวงกลม ่ทาเ ีรยบอา ุวธจาก ่ทาเฉียงอาวุธ น้ิวทั้งส่ีเรียงชิดติดกันพร้อมตบจับ หันหลังมือออกด้านนอก ตบกระชับฝาครอบลากล้องปืน (กาสายสะพายปืน ไว้ด้วย) เหนอื มือซา้ ยในลักษณะการอบ ขอ้ ศอกขวาเปดิ ขนานกับพื้น โดยพยายามไมใ่ ห้กระบอกปืนมกี ารเคลอื่ นไหวใดๆ ๑๗ ตอนท่ีสอง : เมื่อได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธ, ตอนท่ีสอง” ให้ผู้ปฏิบัติละมือซ้ายท่ีจับฝาครอบลากล้องปืนมาจับท่ี ปลอกลดแสงในลักษณะจับคีบด้วยนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วท้ังสี่เรียงชิดติดกัน นิ้วท้ังห้าชี้ไปทางด้านขวา ข้อศอกซ้ายเปิด ขนานกับพ้ืน ในขณะเดียวกันใช้มือขวาดึงปืนอัดเข้าร่องไหล่ขวาอย่างแข็งแรง จนกระท่ังปืนมาอยู่แนบชิดข้างลาตัว ทางด้านขวา กระบอกปืนต้ังดิ่งต้ังฉากกับพ้ืนดิน ด้ามปืนช้ีไปทางด้านหน้า พร้อมกับเปลี่ยนท่าการจับปืน จาก การการอบเป็นการจับด้วยนิ้วทั้งส่ีเรียงชิดติดกันอยู่ด้านนอกและนิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านใน น้ิวท้ังห้าชี้ลงด้านล่าง แบะข้อศอกขวาไปด้านหลังจนรู้สึกว่าไหล่ขวาตึง ส่วนอ่ืนๆ ของร่างกายยังคงอยู่ในลักษณะของท่าตรง สายตา มองตรงไปดา้ นหน้าในแนวระดบั ตอนท่ีสาม : เม่ือไดย้ ินคาบอก “เรียบอาวุธ, ตอนท่ีสาม” ให้ผู้ปฏิบัติใชม้ อื ขวาลดปนื ลงจนกว่าพานทา้ ยปนื จะวางลง บนพื้นตามลกั ษณะของท่าเรยี บอาวธุ โดยไม่ให้กระแทกกบั พนื้ พร้อมกบั สะบดั มอื ซ้าย (ในลกั ษณะการฟันมอื ) กลับไปอยใู่ นท่าเรยี บอาวธุ อยา่ งแข็งแรง จากนน้ั ใหป้ ฏบิ ตั ิท่ายกอก โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

ทา่ เตรยี มใช้อาวุธ / ท่าเรยี บอาวุธจากท่าเตรยี มใชอ้ าวุธ ๑.เรือ่ งท่จี ะทาการฝกึ : บคุ คลทา่ อาวุธ “เตรียมใช้อาวธุ / ทา่ เรยี บอาวุธจากทา่ เตรียมใช้อาวุธ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชเ้ ปน็ ทา่ เริม่ ต้นของทา่ ยิง ๔.คาบอก : เป็นคาบอก “รวด” ใชค้ าบอก “เตรียมใช้อาวธุ ” เปน็ คาบอก “เป็นคาๆ” ใชค้ าบอก “เรยี บ, อาวธุ ” ๕.การปฏบิ ตั ิ ตอนทีห่ นึง่ ตอนท่ีสอง ๕.๑ ท่าเตรียมใชอ้ าวุธ แบง่ ออกเป็น ๒ ตอน ตอนที่หน่ึง : เมื่อได้ยินคาบอก “เตรียมใช้อาวุธ, ตอนที่หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้ ทา่ เตรยี มใช้อาวธุ มือขวายกปืนข้ึนเฉียงผ่านหน้าลาตัว เปล่ียนท่าการจับถือเป็นการการอบน้ิว ท้ังส่ีเรียงชิดติดกัน หันหลังมือออกนอกลาตัว จนมือขวาอยู่เสมอแนวระดับ “เต ีรยมใช้อาวุธ” ไหล่ซ้าย ข้อศอกขวาเปิดขนานกับพ้ืน บังคับให้กระบอกปืนอยู่ในลักษณะ ทแยงกับลาตัว ๔๕ องศา และอยู่ห่างจากลาตัวประมาณหน่ึงฝ่ามือ ด้ามปืน ชี้เฉียงลงด้านล่าง พร้อมกันนั้นยกมือซ้ายข้ึนมาเป็นรูปคร่ึงวงกลม นิ้วท้ังส่ี เรียงชิดติดกันพร้อมตบจับ หันหลังมือออกด้านนอก ตบกระชับฝาครอบลา กล้องปืน (กาสายสะพายปืนไว้ด้วย) บริเวณก่ึงกลางฝาครอบลากล้องปืน ขอ้ ศอกซ้ายกางออกเลก็ น้อย โดยพยายามไมใ่ หก้ ระบอกปนื มีการเคลอื่ นไหวใดๆ ตอนท่ีสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “เตรียมใช้อาวุธ, ตอนท่ีสอง” ให้ผู้ปฏิบัติละ มือขวาจากฝาครอบลากล้อง ทามือลักษณะคีบไปตบจบั สนั พานท้ายปืนอย่าง แข็งแรง น้ิวทั้งส่ีเรียงชิดติดกัน น้ิวก้อยเสมอแผ่นยางรองพาน ท้าย โดยพยายามไม่ให้กระบอกปืนมีการเคล่ือนไหวใดๆ ข้อศอกขวากางเล็กน้อย หรอื ให้แนวแขนขวาท่อนล่างต้งั ฉากกับแนวปืน คาบอก “รวด” ๕.๒ ท่าเรียบอาวุธจากท่าเตรยี มใช้อาวุธ แบ่งออกเปน็ ๒ ตอน ตอนท่ีหน่ึง : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธ, ตอนที่หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติละมือ ท่าเตรียมใช้อาวุธ ตอนทีห่ นง่ึ ตอนทส่ี อง ขวาจากสันพานทา้ ยปืนมาตบจบั ทฝ่ี าครอบลากล้องเหนือมือซ้าย ในลักษณะ การอบ เปิดศอกขวาขนานกับพื้น โดยพยายามไม่ให้กระบอกปืนมีการ ทา่ เรียบอาวธุ จากทา่ เตรยี มใชอ้ าวุธ เคล่ือนไหวใดๆ ตอนทสี่ อง : เม่ือไดย้ ินคาบอก “เรยี บอาวุธอาวุธ, ตอนท่ีสอง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้ มือขวาลดปืนผ่านลาตัวลงจนกว่าพานท้ายปืนจะวางลงบนพื้นตามลักษณะ ของท่าเรียบอาวุธ โดยไม่ให้กระแทกกับพ้ืน พร้อมกับสะบัดมือซ้าย (ในลกั ษณะการฟนั มอื ) กลบั ไปอยใู่ นทา่ เรียบอาวธุ อยา่ งแข็งแรง ๑๘ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ทา่ คอนอาวธุ และท่าเรียบอาวธุ จากท่าคอนอาวธุ “คอน, อาวุธ”, “เ ีรยบ, อาวุธ” ๑.เรอื่ งท่ีจะทาการฝกึ : บุคคลทา่ อาวธุ “ทา่ คอนอาวุธ”, “ท่าเรียบอาวุธจากท่าคอนอาวธุ ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : - ใชใ้ นโอกาสการเคลอื่ นทร่ี ะยะใกล้ - ใช้ในโอกาสปฏบิ ตั ิท่าเรียบอาวธุ เมือ่ อยู่ในทา่ คอนอาวธุ ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “เป็นคาๆ” ใช้คาบอก “คอน, อาวุธ” , “เรยี บ, อาวธุ ” ๕.การปฏิบัติ : เม่ือได้ยินคาบอก “คอน, อาวุธ” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาที่จับถือปืนอยู่ในท่าเรียบอาวุธนั้นมากา รอบบริเวณใต้โครงศูนย์หน้า ในลักษณะหันฝ่ามือเข้าหาลาตัวพร้อมกับยกปืนให้สูงขึ้นจากพื้นใน แนวดิ่ง มากดแนบไว้กบั สะโพกประมาณใต้เข็มขัดเล็กนอ้ ยโดยข้อศอกขวากางออกตามธรรมชาติ แล้วผลักปากลากล้อง ปืนเฉียงออกไปข้างหน้า และพานท้ายปืนชี้เฉียงไปทางด้านหลังให้แนวตัวปืนทามุมกับลาตัว ประมาณ ๑๕ องศา สว่ นอ่ืนๆ ของร่างกายยงั คงอยใู่ นลักษณะทา่ เรยี บอาวธุ เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบ, อาวุธ” ให้ผู้ปฏิบัติเล่ือนมือขวาท่ีกาปืนอยู่ในท่าคอนอาวุธลดปืนต่าลง ไปในแนวดง่ิ อยา่ งแข็งแรง ในขณะเดยี วกันนั้นก็ให้เปลี่ยนมือจากท่ากาปืนใต้โครงศูนย์หน้าไปเป็นการจับปืนใน ท่าเรียบอาวุธ พยายามรักษาแนวปืนให้ต้ังตรงในแนวดิ่ง จากนั้นลดปืนลงจนกว่าพานท้ายปืนจะวางอยู่บนพื้น ในลักษณะทา่ เรียบอาวุธโดยไมก่ ระแทก จากน้ันให้ปฏบิ ัติทา่ ยกอก คาบอก “เป็นคาๆ” ่ทาคอนอาวุธและ ่ทาเ ีรยบอา ุวธจาก ่ทาคอนอา ุวธ ท่าคอนอาวธุ (ด้านหนา้ ) ท่าคอนอาวธุ (ด้านข้าง) ทา่ เรียบอาวุธ (ดา้ นหนา้ ) ทา่ เรียบอาวุธ (ด้านขา้ ง) ๑๙โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ท่าแบกอาวธุ ๑.เรอ่ื งทีจ่ ะทาการฝกึ : บคุ คลท่าอาวธุ “ท่าแบกอาวธุ ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชใ้ นการเดนิ สวนสนามพธิ ตี ่างๆ การเดนิ เปลย่ี นยาม หรอื การเคล่ือนที่ระยะไกล ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “แบง่ ” ใชค้ าบอก “แบก - อาวธุ ” “แบก - อาวุธ” จังหวะหนึง่ จังหวะสอง คาบอก “แ ่บง” จังหวะหนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “แบกอาวุธจังหวะ - หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาท่ีจับปืนอยู่ในท่าเรียบอาวุธ เปลี่ยนมากาปืนบริเวณใต้โครงศูนย์หน้า และยกปืนข้ึนให้เฉียงผ่านหน้าลาตัวในลักษณะม้วนข้อมือให้บิดเข้าหา ท่าแบกอาวุธ ลาตวั โกรง่ ไกปนื ชไ้ี ปดา้ นหลัง แล้วนาพานทา้ ยปืนมาชดิ กบั ตะเขบ็ กางเกงทางด้านขา้ งของโคนขาซ้าย โดยให้มือ ขวานาลากลอ้ งปนื เขา้ ไปในรอ่ งไหล่ซา้ ย ขอ้ ศอกขวาเปิดให้ขนานกับพ้ืน พร้อมกันนั้นใช้ฝ่ามือซ้ายมาตบจับพาน ท้ายปืน แขนซ้ายเหยียดตึง และกระชับไว้ที่ข้างโคนขาซ้ายตรงแนวตะเข็บขากางเกง พร้อมกับใช้อุ้งมือรองจับ ฐานพานท้าย และจับไว้ในลักษณะที่ให้น้ิวหัวแม่มือซ้ายกดสันพานท้ายปืนไว้เหนือฐานสันพานท้ายปืนเล็กน้อย นิ้วทั้งสี่เรียงชิดติดกัน ปลายนิ้วทาบไปตามพานท้ายปืนด้านใน จากน้ันเลื่อนมือขวาท่ีการอบฝาครอบลากล้อง ลงมาอย่แู นวระดับหัวไหล่ซ้าย ขอ้ ศอกยังคงเปิดขนานพน้ื จังหวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “แบกอาวุธจังหวะ - สอง” ให้ผู้ปฏิบัติยกมือซ้ายท่ีกาพานท้ายปืนอยู่น้ัน ขึ้นไปข้างหน้าให้แขนท่อนล่างต้ังฉากกับลาตัวในแนวระดับ และขนานกับพ้ืน ยกปืนข้ึนข้างบนให้ช่องใส่ซอง กระสุนอยู่ประมาณบนบ่าซ้าย แขนซ้ายท่อนบนแนบชิดติดลาตัวเสมอกับแนวแผ่นหลัง พร้อมกัน น้ัน สะบัดมอื ขวา (ในลกั ษณะการฟันมอื ) กลับไปอยู่ในท่าตรงอยา่ งแข็งแรง ๒๐ โรงเรยี นทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์

ทา่ เรียบอาวธุ จากทา่ แบกอาวุธ ๑.เรื่องท่จี ะทาการฝกึ : บคุ คลท่าอาวุธ “ท่าเรียบอาวธุ จากทา่ แบกอาวุธ” ๒.ความมุ่งหมาย : เพอื่ ใหป้ ฏบิ ตั ิไดถ้ กู ต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบยี บแบบแผนเดยี วกนั ของหน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชใ้ นการเดินสวนสนามพธิ ีต่างๆ การเดนิ เปล่ยี นยาม หรอื การเคลื่อนทรี่ ะยะไกล ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “แบ่ง” ใช้คาบอก “เรยี บ - อาวธุ ” ๕.การปฏบิ ตั ิ : แบ่งออกเปน็ ๓ จังหวะ จงั หวะหนึ่ง จงั หวะสอง จงั หวะสาม คาบอก “แ ่บง” “เรียบ - อาวุธ” จงั หวะหนึ่ง : เม่อื ไดย้ ินคาบอก “เรียบอาวธุ จังหวะ - หนงึ่ ” ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั ลิ ดแขนซ้ายท่อนล่างให้ต่าลงมาทางด้านข้าง ่ทาเ ีรยบอา ุวธจาก ่ทาแบกอา ุวธ ซ้ายของลาตัวจนพานท้ายปืนมาวางแนบชิดข้างโคนขาซ้าย แขนซ้ายเหยียดตึง พร้อมกันน้ันให้ยกมือขวามาจับกา รอบฝาครอบลากลอ้ งในลักษณะม้วนข้อ หันหลังมือออกนอกลาตัว ในแนวระดับไหล่ซ้าย ข้อศอกขวาเปิดขนานกับ ๒๑ พืน้ บังคับใหป้ ืนตงั้ ตรงในแนวดงิ่ ตั้งฉากกับพ้ืน จังหวะสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - สอง”ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวายกปืนผ่านหน้าลาตัวจากทางซ้าย มาทางขวาพรอ้ มกบั บิดขอ้ มอื ไปทางขวาเล็กน้อยเพ่ือบังคบั ให้ด้ามปืนชไ้ี ปในทิศทางตรงหน้า พร้อมกันน้ันละมือซ้าย ท่ีจับพานท้ายปืนมาจับท่ีปลอกลดแสงในลักษณะจับคีบด้วยน้ิวหัวแม่มือกับ นิ้วท้ังสี่เรียงชิดติดกัน นิ้วทั้งห้าช้ีไป ทางดา้ นขวา ข้อศอกซา้ ยเปิดขนานกับพืน้ จากนนั้ ใช้มอื ขวาดงึ ปนื อัดเข้าร่องไหล่ขวาอย่างแข็งแรง จนกระท่ังปืนมา อยูแ่ นบชดิ ขา้ งลาตวั ทางด้านขวา กระบอกปืนต้ังด่ิงตั้งฉากกับพ้ืนดิน พร้อมกับเปล่ียนท่าการจับปืนจากการการอบ เป็นการจับดว้ ยนวิ้ ทัง้ สเี่ รยี งชิดตดิ กนั อยู่ด้านนอกและน้ิวหัวแม่มืออยู่ด้านใน น้ิวท้ังห้าช้ีลงด้านล่าง แบะข้อศอกขวา ไปด้านหลังจนรู้สึกว่าไหล่ขวาตึง ส่วนอ่ืนๆ ของร่างกายยังคงอยู่ในลักษณะของท่าตรง สายตามองตรงไปด้านหน้า ในแนวระดับ จังหวะสาม : เมื่อได้ยินคาบอก “เรียบอาวุธจังหวะ - สาม” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวาลดปืนลงจนกว่าพานท้ายปืนจะ วางลงบนพื้นตามลักษณะของท่าเรียบอาวุธ โดยไม่ให้กระแทกกับพื้น พร้อมกับสะบัดมือซ้าย (ในลักษณะ การฟนั มอื ) กลบั ไปอยู่ในทา่ เรียบอาวธุ อยา่ งแขง็ แรง จากนั้นให้ปฏิบัตทิ า่ ยกอก โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์

ทา่ ถอดหมวก ๑.เร่อื งท่ีจะทาการฝึก : บคุ คลท่าอาวุธ “ทา่ ถอดหมวก” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชใ้ นโอกาสเขา้ รว่ มพธิ ที างศาสนา ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “รวด” ใช้คาบอก “ถอดหมวก” ๕.การปฏิบัติ : แบ่งออกเปน็ ๓ ตอน ตอนที่หน่ึง : เม่ือได้ยินคาบอก “ถอดหมวก, ตอนที่หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติเลื่อนมือขวาขึ้นมาจับปืนเหนือโครง ศนู ย์หนา้ ในลกั ษณะการอบ ยกปืนขน้ึ มาอย่ดู ้านหนา้ กงึ่ กลางลาตัวแขนขวาตึง ปากกระบอกปืนอยู่แนวระดับ เข็มขดั พานทา้ ยปนื เฉยี งเข้าหากงึ่ กลางลาตวั พร้อมกันน้ันบิดส้นเท้าซ้ายออกนอกลาตัวโดยใช้ปลายเท้าซ้าย เป็นจุดหมนุ (รูปที่หน่ึง) นาพานท้ายสอดเข้าไปในระหว่างช่องขาท้ังสอง และวางแง่หน้าพานท้ายให้จรดพ้ืน ด้านหลัง ส้นเท้าห่างไปประมาณหน่ึงคืบ มือขวาเปลี่ยนการจับจากการการอบเป็นการคีบ เหนือ โครงศูนยห์ นา้ หันหลงั มอื ออกนอกลาตวั นวิ้ ท้ังสีเ่ รียงชดิ ติดกันชล้ี งพนื้ (รูปท่สี อง) เม่ือสิ้นสุดสัญญาณ “อึ๊บ” ให้ผู้ปฏิบัตินาส้นเท้าซ้ายมาชิดกับส้นเท้าขวาโดยให้ขาท้ังสองข้าง หนีบกระบอกปืนไว้ให้มั่น พร้อมกันน้ันสะบัดมือขวา (ในลักษณะการฟันมือ) มาอยู่ข้างลาตัวอย่างแข็งแรง (รูปที่สาม) “ถอดหมวก” คาบอก “รวด” ่ทาถอดหมวก รปู ทหี่ นึง่ รูปทส่ี อง รูปท่สี าม ตอนท่หี นึง่ ๒๒ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

รปู ทห่ี นง่ึ รูปท่สี อง รูปทส่ี าม ตอนท่ีสอง ตอนท่ีสอง : เม่ือได้ยินคาบอก “ถอดหมวก, ตอนที่สอง” ให้ผู้ปฏิบัติยกแขนซ้ายท่อนล่างขึ้นมาข้างหน้าลาตัว “ถอดหมวก” ในลักษณะงอข้อศอก พร้อมกับพลิกหงายฝ่ามือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ให้นิ้วทั้งส่ีเหยียดตึงและเรียงชิดติดกัน นวิ้ หวั แม่มือตั้งข้ึนขา้ งบนตั้งฉากกับฝ่ามือ แขนซ้ายท่อนล่างขนานกับพ้ืนและต้ังฉากกับลาตัว แขนซ้ายท่อนบน คาบอก “รวด” แนบชดิ ติดลาตวั ข้อศอกเสมอกับแนวแผ่นหลงั พร้อมกันนัน้ ใหย้ กมอื ขวาขึ้นไปจับท่ีกระบังหมวก ใช้นิ้วท้ังสี่ทาบ ไปกับกระบังหมวกด้านบน น้ิวหัวแม่มือทาบอยู่ด้านล่างกระบังหมวกข้อศอกเปิด แขนขวาท่อนบนยื่นไป ทางขวาคอ่ นไปขา้ งหน้าเลก็ น้อย (รูปทห่ี นึง่ ) เม่ือสิ้นสุดสัญญาณ “อ๊ึบ” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวายกหมวกออกจากศีรษะแล้วนามาวางครอบท่ี น้ิวหัวแม่มือซ้ายย่างแข็งแรง หันหน้าหมวกไปทางขวาของลาตัว ขอบกระบังหมวกอยู่แนวโคนนิ้วมือซ้าย มือขวายงั จบั ทีก่ ระบังหมวกในลกั ษณะเดิม ข้อมอื ขวาไมห่ กั และเปน็ แนวเดยี วกบั แขนขวาท่อนลา่ ง (รูปทส่ี อง) เม่ือส้ินสุดสัญญาณ “อึ๊บ” ให้ผู้ปฏิบัติลดมือขวาลงไปอยู่ในลักษณะท่าตรงอย่างรวดเร็ว และแขง็ แรง พรอ้ มกันนน้ั ให้จับขอบหมวกดว้ ยมือซา้ ย (ในลกั ษณะกามือ) (รปู ท่ีสาม) ่ทาถอดหมวก ๒๓โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรกั ษาพระองค์

รปู ทหี่ นงึ่ รปู ทสี่ อง รูปท่สี าม “ถอดหมวก” ตอนทส่ี าม คาบอก “รวด” ตอนทส่ี าม : เมื่อได้ยนิ คาบอก “ถอดหมวก, ตอนท่ีสาม” ให้ผู้ปฏิบัติใช้มือขวามาตบจับบริเวณเหนือโครงศูนย์หน้า ในลักษณะการอบ ยกปืนข้ึนมาอยู่ด้านหน้ากึ่งกลางลาตัวแขนขวาตึง ปากกระบอกปืนอยู่ระดับแนวเข็มขัด พานท้ายปืนเฉียงเข้าหาก่ึงกลางลาตัว พร้อมกันน้ันบิดส้นเท้าซ้ายออกนอกลาตัว โดยใช้ปลายเท้าซ้ายเป็นจุดหมุน (รูปท่หี นง่ึ ) นาพานทา้ ยปนื ไปวางไว้ข้างเท้าขวาในลักษณะท่าเรียบอาวุธ วาดปืนไปข้างลาตัวจนแขนขวาตึง มือขวา เปล่ยี นการจบั จากการการอบเป็นการคบี เหนอื โครงศูนย์หนา้ (รปู ท่ีสอง) เมื่อสิ้นสุดสัญญาณ “อึ๊บ” ให้ผู้ปฏิบัตินาปืนเข้าข้างขาอย่างแข็งแรงแล้วเล่ือนมือขวาลงมาจับ ใต้โครงศูนย์หนา้ ในลักษณะคบี กลับมาอย่ใู นทา่ เรยี บอาวุธ จากนั้นใหป้ ฏิบัติทา่ ยกอก (รปู ทีส่ าม) ่ทาถอดหมวก ๒๔ โรงเรยี นทหารมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรกั ษาพระองค์

ท่าสวมหมวก ๑.เรอ่ื งท่จี ะทาการฝกึ : บุคคลท่าอาวุธ “ท่าสวมหมวก” ๒.ความมุ่งหมาย : เพ่ือให้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามแบบฝึกและเป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน ของ หนว่ ยทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรักษาพระองค์ ๓.ประโยชน์ : ใชใ้ นโอกาสเขา้ รว่ มพิธีทางศาสนา ๔.คาบอก : เปน็ คาบอก “รวด” ใชค้ าบอก “สวมหมวก” ๕.การปฏิบตั ิ : แบง่ ออกเปน็ ๓ ตอน รูปทหี่ นงึ่ รูปทีส่ อง รปู ท่สี าม “สวมหมวก” ตอนทหี่ นึ่ง ตอนที่หนึ่ง : เมื่อได้ยินคาบอก “สวมหมวก, ตอนที่หน่ึง” ให้ผู้ปฏิบัติเลื่อนมือขวาขึ้นมาจับปืนเหนือ คาบอก “รวด” โครงศูนย์หน้าในลักษณะการอบ ยกปืนข้ึนมาอยู่ด้านหน้ากึ่งกลางลาตัวแขนขวาตึง ปากกระบอกปืนอยู่ระดับ แนวเขม็ ขัด พานท้ายปนื เฉยี งเขา้ หากึ่งกลางลาตัว พรอ้ มกันนนั้ บิดส้นเท้าซา้ ยออกนอกลาตัวโดยใช้ปลายเท้าซ้าย ่ทาสวมหมวก เป็นจุดหมุน (รูปท่ีหนึ่ง) นาพานท้ายสอดเข้าไปในระหว่างช่องขาท้ังสอง และวางแง่หน้าพานท้ายให้จรดพ้ืน ดา้ นหลงั สน้ เทา้ ห่างไปประมาณหนึง่ คบื มอื ขวาเปลย่ี นการจับจากการการอบเป็นการคีบเหนือโครงศูนย์หน้า หัน หลังมอื ออกนอกลาตัวน้วิ ท้ังสเ่ี รียงชิดตดิ กันช้ีลงพ้ืน (รูปท่ีสอง) เม่ือสิ้นสุดสัญญาณ “อึ๊บ” ให้ผู้ปฏิบัตินาส้นเท้าซ้ายมาชิดกับส้นเท้าขวาโดยให้ขาท้ังสองหนีบ กระบอกปนื ไว้ให้ม่ัน พร้อมกันนน้ั สะบัดมอื ขวา (ในลกั ษณะการฟนั มอื ) มาอยขู่ า้ งลาตวั อย่างแขง็ แรง (รูปที่สาม) ๒๕โรงเรียนทหารมหาดเลก็ ราชวัลลภรกั ษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเลก็ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook