Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกเสริมทักษะ ชุดที่ 3 ฝึกหัดแต่งคำประพันธ์

แบบฝึกเสริมทักษะ ชุดที่ 3 ฝึกหัดแต่งคำประพันธ์

Published by ศิริชัย คชวงษ์, 2020-08-16 04:38:44

Description: ชุดที่ 3 ฝึกหัดแต่งคำประพันธ์

Search

Read the Text Version

แบบฝึกทักษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | ก ชุดท่ี 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพนั ธ์ แบบฝกึ เสริมทักษะ กากรแาตร่งคแำปตระพง่ นั คธ์ ปำรปะเภรทกะาพพยนัย์ านธี ๑์ ๑ ๓ชดุ ที่ ปรฝะเึกภหทัดแกตา่งพคยำปย์ ราะพนนั ี ธ์ โรงเรียนไทยรัฐวทิ ยา ๒๐ (บา้ นหนองมะคา่ โมง) ชอ่ื -สกลุ …………………………………………………………………………ช้ัน…………………เลขท…ี่ ………….

แบบฝึกทักษะการแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | ก ชุดที่ 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพนั ธ์ คำนำ เอกสารฉบับนี้ เป็นเอกสารของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี ชุดที่ 3 ฝึกหัดแต่งคำประพันธ์ น้ีได้จัดทำขึ้นให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พุทธศักราช 2551 ซ่ึงประกอบด้วยแบบฝึกเสริม ทักษะจำนวน 3 ชดุ ดงั นี้ ชุดที่ 1 ฝกึ คดิ เขียนคำคล้องจอง ชุดท่ี 2 ฝกึ คิดลองคำสัมผัส ชุดท่ี 3 ฝกึ หัดแต่งคำประพันธ์ แบบฝึกเสริมทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ชุดท่ี 3 ฝึกหัดแต่ง คำประพันธ์ แบบฝึกเสริมทักษะชุดนี้ถือเป็นส่ือการเรียนรู้รูปแบบหน่ึงที่มีความสำคัญต่อการจัดการ เรียนรู้ จะช่วยให้นักเรียนมีพัฒนาการทางภาษาเข้าใจในบทเรียน ซ่ึงจะช่วยให้นักเรียนมคี วามร้คู วาม เข้าใจเก่ียวกับการเลือกใช้คำมาแต่งคำประพันธ์และสามารถเลือกใช้คำได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตาม แบบแผนฉันทลักษณ์ ดีข้ึน ขณะเดียวกันนักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้เรื่อง การแต่ง คำประพนั ธ์ พัฒนาสู่การแตง่ เพลงพน้ื บ้านสพุ รรณบรุ ี และเกิดความภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างย่ิงว่าแบบฝึกเสริมทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ชุดที่ 3 ฝึกหัดแต่งคำประพันธ์ เล่มน้ีจะช่วยพัฒนาทักษะการแต่งกาพย์ยานี 11 ของนักเรียนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และนกั เรียนมคี วามสขุ กับการปฏิบัตกิ ิจกรรม ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำ และให้ความอนุเคราะห์ในการจดั ทำแบบฝกึ ทักษะเล่มนี้จนสำเรจ็ ด้วยดี คณะผู้จัดทำ

แบบฝกึ ทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | ข ชดุ ที่ 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพันธ์ สารบัญ คำนำ หนา้ สารบญั ก คำชแ้ี จงในการใช้แบบฝึกเสริมทกั ษะ ข คำชแ้ี จงสำหรบั ครู 1 คำช้ีแจงสำหรับนักเรียน 2 สาระที่ 4 หลกั การใช้ภาษาไทย 3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่ือง แตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ าน1ี 1 4 ใบความรู้ เรื่อง กาพยย์ านี 11 และกลวิธกี ารแตง่ 5 แบบฝึกเสริมเสริมทกั ษะท่ี 3.1 อ่านคำประพนั ธ์ 6 แบบฝกึ เสรมิ ทักษะท่ี 3.2 เตมิ คำใหส้ ัมพนั ธ์ 11 แบบฝึกเสริมทกั ษะท่ี 3.3 เติมวรรคตอนให้ถกู ต้อง 12 แบบฝกึ เสริมทักษะท่ี 3.4 แตง่ กาพย์ยานี 11 13 แบบฝึกเสริมทักษะท่ี 3.5 เรยี งเปน็ กาพยย์ านี 11 14 แบบฝึกเสริมทักษะที่ 3.6 แตง่ กาพย์ยานี 11 ตามหัวข้อทก่ี ำหนดให้ 15 แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง แตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพยย์ าน1ี 1 16 ภาคผนวก 17 บรรณานกุ รม 19 20

แบบฝึกทกั ษะการแต่งคำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 1 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพนั ธ์ คำช้แี จงในการใช้แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 รายวิชาภาษาไทย มีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี ตามหัวข้อเรื่อง เนื้อหาท่ีแตกต่าง กนั โดยมีแบบฝกึ เสริมทกั ษะทัง้ หมด 3 ชดุ ดังรายละเอียดตอ่ ไปนี้ ชดุ ท่ี 1 ฝึกคิดเขียนคำคลอ้ งจอง ชุดท่ี 2 ฝกึ คดิ ลองคำสมั ผสั ชุดท่ี 3 ฝกึ หัดแต่งคำประพนั ธ์ โครงสร้างของแบบฝึกเสริมทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี แต่ละชุด ประกอบด้วย  มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชวี้ ัด  แบบทดสอบก่อนเรยี น  ใบความรู้  แบบฝึกเสริมทักษะ  แบบทดสอบหลงั เรียน  เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น  เฉลยแบบฝกึ เสริมทักษะ

แบบฝึกทกั ษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 2 ชดุ ที่ 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพันธ์ คำชี้แจงสำหรบั ครู การใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 มีคำช้ีแจงสำหรับครู ดงั นี้ 1. ศกึ ษาสาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนเรยี นร้แู ละตวั ชี้วัด เนอ้ื หาและข้นั ตอนการจัด กิจกรรมต่างๆ ในแผนการจัดการเรียนรู้ให้เขา้ ใจ 2. จดั เตรยี มสื่อ วสั ดุ อุปกรณ์ ท่ใี ชใ้ นการจัดการเรยี นรใู้ ห้พรอ้ มก่อนจดั การเรยี นรู้ 3. ครูดำเนินจดั กิจกรรมการเรียนรูต้ ามลำดบั ข้ันตอนในแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังนี้ 3.1 ครบู อกจุดประสงค์การเรียนร้ใู หน้ กั เรยี นได้ทราบ 3.2 วดั และประเมนิ ผลหลังจากการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 4. ใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น

แบบฝกึ ทักษะการแต่งคำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 3 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพนั ธ์ คำชแี้ จงสำหรับนกั เรยี น แบบฝึกเสริมทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 เล่มน้ีเป็นแบบฝึกทักษะท่ีใช้ ประกอบการเรียน นักเรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง ตามคำแนะนำในการใช้เอกสารและปฏิบัติ กิจกรรมแต่ละขั้นตอน ซึ่งจะทำให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความรู้และ ความเขา้ ใจ ในการแต่งกาพยย์ านี 11 โดยปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอน ดงั น้ี 1. ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น แลว้ ตรวจคำตอบท่เี ฉลยไวท้ า้ ยเอกสาร 2. ศกึ ษาเนื้อสาระ วา่ เมื่อจบบทเรยี นนแ้ี ล้ว นักเรียน ไดเ้ รียนรู้อะไรบา้ ง และเกดิ ผลกับ นักเรียนอย่างไร 3. ศกึ ษาแบบฝึกเสรมิ ทักษะและฝึกทำกจิ กรรมตามที่กำหนดไว้ 4. เม่อื นกั เรยี นมีปัญหาตอนใดเก่ียวกับเรือ่ งท่ีศึกษาน้รี ีบขอคำแนะนำหรือปรึกษาครผู สู้ อน ทนั ที 5. ขอใหน้ กั เรยี นปฏิบัติกจิ กรรมในแต่ละหนา้ ด้วยความต้งั ใจและสนกุ สนานกบั บทเรียน 6. ทำแบบทดสอบหลังเรยี นเพ่ือวดั ความรู้ความเข้าใจอีกคร้งั หนึง่

แบบฝกึ ทกั ษะการแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 4 ชุดที่ 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพนั ธ์ สาระท่ี 4 หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นอ่านคำประพันธ์ได้ถูกต้อง 2. นกั เรยี นเติมคำใหส้ มั พนั ธ์ไดถ้ กู ต้อง 3. นักเรียนเติมวรรคตอนใหถ้ ูกต้อง 4. นักเรยี นแตง่ กาพยย์ านีได้ถูกตอ้ ง 5. นกั เรยี นเรียงเป็นกาพย์ยานีไดถ้ ูกตอ้ ง 6. นกั เรียนแตง่ กาพยย์ านตี ามหวั ขอ้ ท่กี ำหนดใหไ้ ดถ้ กู ต้องเรียบรอ้ ย และแสดงถงึ ความคดิ สร้างสรรค์ได้

แบบฝกึ ทักษะการแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 5 ชดุ ที่ 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพันธ์ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่ือง แตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยาน1ี 1 คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนทำเครือ่ งหมาย  เลอื กคำตอบทีถ่ ูกท่ีสดุ เพียงคำตอบเดียว 1. คำในขอ้ ใดมีความหมายว่า “นกั ปราชญ์” 8. “กราบไหวพ้ ระไตรรัตน์ ..........................” ข้อความในข้อใดเตมิ ในวรรคหลัง แล้ว ก. เทวนิ ทร์ ข. บณั ฑติ ถูกตอ้ งท้ังเนอื้ ความและฉนั ทลกั ษณ์ ก. เทพไทป้ อ้ งผองภัยพาล ค. ปกั ษา ง. อสรู ข. ตอ่ เกยี รตกิ อ้ งซอ้ งประสาน ค. เอกราชชาตสิ ยาม 2. ขอ้ ใดมีสมั ผสั อกั ษรเหมือนกับคำว่า “วอ่ งไว” ง. พรพพิ ัฒนเ์ ลศิ สนอง ก. ว่ายน้ำ ข. วนุ่ วาย 9. “ฉตั รแก้วปกใจ........ ธ เทิดศาสน์แผน่ ดนิ ......... ป่าดนิ มิสน้ิ งาม ทุก........เขตพระเมตตา” ค. วิ่งเรว็ ง. วดั ใจ ควรเติมข้อความใดใหไ้ ด้เนื้อความถูกต้อง ก. ราษฎร์ สยาม ยาม 3. คำใดที่มเี สยี งวรรณยกุ ตเ์ หมือนคำวา่ “ย้มิ แย้ม” ข. ราษฎร์ สถาน นาม ค. ราษฎร์ สยาม คาม ก. เกร้ียวกราด ข. หน้าร้อน ง. ราษฎร์ สถาน คาม ค. ทอ้ งฟา้ ง. ผู้กลา้ 10. “พอเพียงเลยี้ งชพี ได้ พ่อทำให้เปน็ แบบอย่าง” ขอ้ ใดคอื สัมผสั บงั คบั ของกาพย์ยานี 4. “โครงการไม่วา่ งเว้น พ่อมุ่งเน้นดับทุกขเ์ ข็ญ” ขา้ งตน้ คำท่ีขีดเส้นใตเ้ ป็นเสยี งวรรณยุกตใ์ ด ก. พอ – เพยี ง ข. เพียง – เสียง ก. จตั วา – โท ข. เอก – โท ค. เป็น – แบบ ง. ได้ – ให้ ค. ตรี – ตรี ง. โท – เอก คะแนนเต็ม 10 คะแนน 5. “ฉนั ไปโรงเรียน อา่ น..............หนงั สอื ” ควร เติมคำคล้องจองใด ก. เขียน ข. ออก ค. ฟงั ง. ดู 6. ขอ้ ใดเป็นคำคล้องจองของคำวา่ “เศรษฐกจิ พอเพียง” ก. หลอ่ เลยี้ งไทย ข. ไทยชว่ ยไทย ค. เพ่ือคนไทย ง. พีน่ อ้ งไทย 7. “วารที ่ไี หลหลงั่ คือมนต์ขลงั แหง่ ภผู า” จากกาพยย์ านีขา้ งตน้ คำใดทม่ี คี วามหมาย เหมือนกบั คำวา่ “สายชล” ก. ภูผา ข. มนต์ขลงั ค. ไหลหลงั่ ง. วารี

แบบฝกึ ทกั ษะการแต่งคำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 6 ชุดท่ี 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพันธ์ ใบความรู้ เรอ่ื ง กาพยย์ านี และกลวธิ กี ารแต่ง กาพย์ยานี ราตรี โพธิ์เต็ง (2551, หน้า 230) กล่าวถึงลกั ษณะบงั คับของกาพย์ยานี 11 ไวด้ ังน้ี 1. คณะ กาพย์ยานี มีคณะดังนี้ บทหนึ่งมี 2 บาท บาทหน่ึงมี 2 วรรค วรรคแรกมี 5 คำ วรรคหลัง 6 คำ รวมเป็น 11 คำ บาทแรกเรียกว่า บาทเอก บาทที่สอง เรียกว่าบาทโท จะต้องแต่งให้ จบในบาทโทเสมอ 2. สัมผัส สัมผัสบังคับ คือ คำสุดท้ายของวรรคท่ี 1 ส่งสัมผัสไปยังคำท่ี 3 ของวรรคท่ี 2 หรือ บางครั้งอาจเล่ือนไปเป็นคำท่ี 1 หรือ 2 ก็ได้ คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 (ในบาทเอก) ส่งสัมผัสไปยังคำ สดุ ท้ายของวรรคที่ 3 (ในบาทโท) คำสดุ ท้ายของวรรคท่ี 4 ใบบทท่ี 1 จะส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของ วรรคที่ 2 ในบทท่ี 2 ตอ่ (เรยี กวา่ สัมผสั ระหวา่ งบท) สัมผัสเช่ือมระหว่างบทในกรณีท่ีแต่งเกินกว่าหน่ึงบท ต้องส่งสัมผัสเช่ือม คือ คำสุดท้ายของ วรรคที่สองในบาทโท ส่งสัมผัสเช่ือมกับคำสุดท้ายของวรรคที่ 2 ในบาทเอกของบทต่อไปสัมผัสในไม่ บังคับ นยิ มเช่นเดยี วกบั กลอน แผนผัง OOOOO OOOOOO บาทเอก 1 บท OOOOO OOOOOO บาทโท OOOOO OOOOOO OOOOO OOOOOO สมั ผัสระหวา่ งบท บาทเอก 1 บท บาทโท ตัวอย่างคำประพนั ธ์ สิบเอ็ดคำจำอย่าคลาย วรรคหลังหกยกแสดง กาพยย์ านีลำนำ ไมส่ ำคัญอย่าระแวง วรรคหนา้ ห้าคำหมาย ใหถ้ ูกต้องตามวธิ ี ครุลหุนนั้ สัมผัสตอ้ งจดั แจง (หลกั ภาษาไทย : กำชัย ทองหลอ่ )

แบบฝกึ ทกั ษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 7 ชุดท่ี 3 ฝกึ หัดแต่งคำประพันธ์ ตวั อย่างคำประพันธ์ ทรงเรอื ตน้ งามเฉดิ ฉาย พายอ่อนหยับจับงานงอน พระเสด็จโดยแดนชล ลว้ นรูปสตั ว์แสนยากร ก่งิ แกว้ แพรว้ พรรณราย สาครล่นั ครน่ั ครน้ื ฟอง นาวาแน่นเปน็ ขนดั เรอื ริ้วทวิ ธงสลอน (กาพยเ์ ห่เรือ เหช่ มกระบวนเรือ : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์) จากแผนผงั และตวั อยา่ งกาพย์ยานี อธิบายลักษณะสัมผัสนอกหรอื สัมผัสบงั คับของกาพย์ยานี ได้ ดงั นี้  คำสุดท้ายของวรรคที่ 1 ส่งสัมผัสไปยังคำที่ 3 ของวรรคท่ี 2 หรือบางครั้งอาจเล่ือนไป เป็นคำท่ี 1 หรือ 2 ก็ได้  คำสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี 2 (ในบาทเอก) ส่งสัมผสั ไปยังคำสดุ ทา้ ยของวรรคที่ 3 (ในบาทโท)  คำสุดท้ายของวรรคท่ี 4 ใบบทที่ 1 จะส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคท่ี 2 ในบทที่ 2 ตอ่ (เรยี กว่า สัมผัสระหวา่ งบท) 2.1 สัมผัสนอก บังคับไว้ดังนี้ ตัวอย่าง ลักษณะบังคับตามแผนผังของกาพย์ยานี และ ตัวอยา่ งประกอบสองบท ดงั นี้ บาทเอก วรรคที่ 1 สัมผัสระหว่างวรรค บาทโท OOOOO วรรคที่ 2 วรรคท่ี 3 OOOOO OOOOOO สมั ผสั ระหวา่ งบท วรรคที่ 4 OOOOO OOOOO OOOOOO OOOOOO OOOOOO 2.2 สัมผัสใน คือ สัมผัสระหว่างวรรค เป็นสัมผัสไม่บังคับจะมีหรือไม่มีก็ได้ ไม่ถือเป็น ข้อบังคับและไม่เคร่งครัดมากนัก แต่ถ้ามีก็จะทำให้กาพย์ยานีมีความไพเราะมากข้ึนการเล่นสัมผัสใน นิยมดังน้ี คือ วรรคที่ 1 คำท่ี 2 สัมผัสกับคำที่ 3 หรือคำท่ี 4 วรรคท่ี 2 คำที่ 3 สัมผัสกับคำท่ี 4 หรือ คำท่ี 5 วรรคท่ี 3 และวรรคท่ี 4 กเ็ ช่นเดียวกัน สัมผสั ในจะมีทัง้ สัมผัสอักษรและสัมผัสสระ เชน่

แบบฝกึ ทกั ษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 8 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หัดแต่งคำประพันธ์ รอนรอนอ่อนอัสดง พระสรุ ยิ งเย็นยอแสง ชว่ งดังนำ้ คร่ังแดง แฝงเมฆเขาเงาเมรุธร (กาพย์เห่เรือ : เจา้ ฟา้ ธรรมธเิ บศร์) นอกจากน้ี ยงั สามารถเล่นสมั ผัสสระและสัมผัสอกั ษร เพ่อื ความไพเราะไดอ้ ีกด้วย ดงั ตัวอยา่ ง ลิงค่างครางโครกครอก ฝูงจ้งิ จอกออกเหา่ หอน ชะนวี เิ วกวอน นกหกร่อนนอนรงั เรียง อา้ ปากร้องซ้องแซ่เสียง ลูกนกยกปีกป้อง เล้ยี งลูกอ่อนปอ้ นอาหาร แมน่ กปกปกี เคียง เคยี งคลงึ เคล้าเยาวมาลย์ สงสารนอ้ งหมองพักตรา ภูธรนอนเนนิ เขา ตกยากจากศฤงคาร (กาพยพ์ ระไชยสุริยา : สุนทรภู่) การแบง่ คำภายในวรรคเพ่ือให้เกดิ สัมผัสในมีลักษณะคลา้ ยกับกลอน ตามปกตกิ าพยย์ านี แต่ ละวรรคแบง่ เปน็ 2 ห้วง วรรคหนา้ ทมี่ ี 5 คำ จะแบง่ ออกเป็นห้วงแรก 2 คำ หว้ งหลงั 3 คำ และวรรค หลังซ่ึงมี 6 คำ แบ่งออกเป็น 2 ห้วงเชน่ กัน แตง่ หว้ งละ 3 คำ 3. ความไพเราะในเชิงลีลาของกาพย์ยานี บารมี ถาวระ (2541, หน้า 64-67) ได้กล่าวถึง ความไพเราะในเชิงลีลาของกาพย์ วา่ ในการแต่งกาพย์ยานใี หม้ ีความไพเราะมีหลักและข้อคำนึงในการ แตง่ ดังน้ี การใช้คำรับส่งสัมผัส ถ้าสามารถใช้คำท่ีมีเสียงวรรณยุกต์ต่างกันจะไพเราะกว่าคำที่มีเสียง วรรณยกุ ตเ์ หมอื นกนั และคำจบบาทไมค่ วรใช้คำทีม่ รี ูปวรรณยกุ ต์ 3.1 จังหวะของคำแต่ละวรรค การแบ่งช่วงจังหวะของคำในแต่ละวรรค ต้องใช้ให้ เหมาะสมสอดคลอ้ งกับจงั หวะการอ่านคำประพนั ธช์ นิดนั้นและถา้ ให้คำรบั ส่ง สัมผัสในของแตล่ ะวรรค ถกู ตอ้ ง ลงจงั หวะในการอา่ น จะชว่ ยใหก้ าพย์มคี วามไพเราะมายงิ่ ข้นึ เชน่ - จังหวะในการอ่านกาพยย์ านีใช้จังหวะ 3 – 3 (ในวรรคหน้า) และ 3 – 3 (ในวรรคหลัง) ดังตวั อยา่ ง OO/OOO OOO/OOO OO/OOO OOO/OOO เรอื ชัย ไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริง ย่งิ อย่างลม เสยี งเสา้ เร้าระดม หม่ ทา้ ยเยนิ่ เดินค่กู ัน (กาพยเ์ ห่เรอื : เจ้าฟ้าธรรมธเิ บศร์)

แบบฝกึ ทกั ษะการแต่งคำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 9 ชุดที่ 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพันธ์ จากตัวอยา่ งคำว่า ชัย-ไว ในวรรคที่ 1 คำวา่ จริง-ยิ่ง ในวรรคที่ 2 คำว่า เส้า-เร้า ในวรรคท่ี 3 และคำว่า เย่ิน-เดิน ในวรรคท่ี 4 เป็นสัมผัสในประเภทสัมผัสสระ ที่จะช่วยให้เสียงของกาพย์ยานี ไพเราะข้ึนถ้าออกเสียงอา่ นดงั ๆ จะบอกได้ทันทวี ่าลงจังหวะตรงคำใด จึงกล่าวได้ว่าสัมผัสในของกาพย์ จะมคี วามสมั พันธก์ ับการกำหนดจังหวะในการอ่านกาพย์ชนิดน้ันด้วย การเลือกใช้คำในแตล่ ะวรรคจึง ไม่ควรเลือกใช้คำสองพยางค์ที่ต้องอ่านแยกคำเพ่ือให้ลงจังหวะถูกต้องแต่ทำให้การอ่านคำนั้นไม่ ถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียง ซ่ึงไม่นิยมแยกเสียงของคำหลายพยางค์และจะทำให้ขาดความ ไพเราะไปดว้ ย ดงั ตวั อยา่ ง เมือ่ ดวงจติ จากไกล สุดจะอาลยั แก้วพี่ (กาพยเ์ ห่เรอื : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์) กาพย์ข้างต้นถ้าจะอ่านให้ถูกจังหวะจะต้องอ่านแยกคำว่า ดวงจิต และ อาลัย ออกจากกัน เป็น เม่ือดวง / จิตจากไกล สุดจะอา / ลัยแก้วพ่ี ทำให้ไม่ถูกหลักการอ่านคำและถ้าไม่แยกคำก็จะทำ ให้ลงจงั หวะผิด การใช้คำในลักษณะดงั กลา่ วจงึ ไม่เพราะและไม่ควรใช้ 3.2 การใช้สัมผัสใน สัมผัสในของกาพย์ยานีก็เหมือนกับคำประพันธ์ชนิดอ่ืนที่มีใช้ทั้ง สมั ผสั สระและสมั ผัสอักษร สมั ผัสในของกาพยย์ านที ่เี ป็นสมั ผัสสระน้ันถา้ มีควรให้อยรู่ ะหว่างจังหวะคำ คือให้เปน็ คำสุดท้ายของช่วงจังหวะหนา้ กบั คำแรกของชว่ งจงั หวะถดั ไป ดงั ตวั อยา่ ง สายหยดุ พดุ จีบจีน เจา้ มสี ิน พ่มี ีศักดิ์ ทัง้ วงั เขาชังนกั แต่พีร่ กั เจา้ คนเดยี ว (กาพย์เห่เรอื : เจ้าฟา้ ธรรมธิเบศร์) จากตัวอย่างกาพย์ยานีข้างบน คำสัมผสั สระในวรรคทหี่ นึ่งและวรรคที่สาม คือคำว่า หยุด-พุด และคำวา่ วงั -ชงั ส่วนสัมผัสใน ถ้าไม่ใช่ช่วงลงจังหวะการอ่าน ก็จะมีกวีส่วนมากนิยมใช้สัมผัสอักษร อาจจะ เปน็ สมั ผัสชิดหรือสัมผสั คน่ั ก็ได้และสัมผสั อักษรยงั ใช้ในช่วงลงจังหวะการอ่านของคำก็ได้ 3.3 เสยี งของคำทา้ ยวรรค กาพย์ยานีจะไม่จำกัดเสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค จะใช้เสียงวรรณยุกต์ใดก็ได้ตามท่ีผู้แต่ง เหน็ สมควรวา่ ไพเราะ ส่วนคำท้ายบทถา้ ใช้คำที่มีเสียงจัตวาในอักษรสงู กจ็ ะสามารถทำให้กาพย์ยานี มี ความไพเราะขึ้นโดยเฉพาะการอา่ นเอ้ือนเสียง

แบบฝกึ ทักษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 10 ชุดท่ี 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพนั ธ์ กลวธิ ีในการแตง่ กาพย์ยานี 11 กาพย์ยานี 11 มวี ิธีทีแ่ ตง่ แล้วทำให้ไพเราะได้ ประหยัด แม่นสุข (2557, หน้า 39-40) ดงั นี้ 1. นยิ มใช้สัมผัสในเหมือนกลอน ทงั้ สมั ผสั พยัญชนะ และสัมผสั สระ เรียนทกุ ขจ์ ากทกุ ขแ์ ท้ ใช้พา่ ยแพ้แตเ่ พ่มิ เพียร ทุกขด์ นื่ ทกุ ขด์ าษเดยี ร คอื ดวงเทียนทิพย์หทัย ทกุ ขร์ ้อนจะสอนเธอ ผู้พบเจอประจกั ษ์ใจ ทุกขเ์ ข็ญทุกขเ์ ข่นใคร ทุกขไ์ ฉนในทกุ ขน์ นั้ (กำไรจากรอยเทา้ : ศวิ กานท์ ปทมุ สตู )ิ 2. ถ้าจะให้ไพเราะย่ิงขึ้นควรจะให้คำสุดท้ายของวรรคที่ 3 สัมผัสกับคำท่ี 1 หรือ 2 หรือ 3 ของวรรคที่ 4 นอกเหนอื ไปจากท่บี งั คับในวรรคท่ี 1 และ 2 ของแตล่ ะบท 3. คำสุดทา้ ยของบท ห้ามใช้คำตายหรอื คำท่ีมรี ปู วรรณยุกต์ ดงั ตอ่ ไปน้ี เรอ่ื ยเรือ่ ยมาเรยี งเรียง นกบนิ เฉยี งไปท้ังหมู' ตัวเดยี วมาไร้คู่ เหมอื นพอ่ี ยู่เพยี งเอกา อกสะทอ้ นอ่อนใจขา้ รำ่ รำ่ ใจรอนรอน โถแกว้ ตามาหมางเมิน ดวงใจไยหนหี น้า (กาพย์เหเ่ รือ : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์) 4. กาพย์ยานี 11 มีจังหวะท่ีดำเนินช้า จึงนิยมแต่งในความพรรณนา เช่น ชมนก ชมไม้ พรรณนาความสวยงามของธรรมชาติ ภูมิประเทศต่างๆ พรรณนาอารมณ์โศก คร่ำครวญ หรือใช้แต่ง บทสวด บทสรภัญญะทใี่ ช้ในบทละคร

แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 11 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพันธ์ แบบฝกึ เสริมทกั ษะที่ 3.1 อา่ นคำประพนั ธ์ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนอ่านคำประพนั ธ์ต่อไปนี้ แล้วทายคำตอบให้ถูกต้อง และแตง่ คำประพนั ธ์ ทายปญั หาจำนวน 2 บท มีรปู ภาพประกอบพร้อมเฉลยคำตอบ ตวั อย่าง ฉนั นี้มีสองหู ตอ้ งเกย่ี วอยกู่ บั สองขา หลายใบซ้อนงามตา หิ้วพกพาไปไดไ้ กล สำหรบั ใสอ่ าหาร ทง้ั คาวหวานใชถ้ ูกใจ คิดได้ตอบเร็วไว คอื อะไรไทยนิยม เฉลย........ปนิ่ โต………  ผลฉันไมเ่ ล็กนัก ใบหยกั หยกั เนื้อสกุ หวาน ออกผลตลอดกาล เปน็ อาหารไดอ้ ย่างดี ผดั แกงหรอื ส้มตำ อร่อยลำ้ ค่ามากมี เขียวเหลอื งคือผวิ สี ช่ือฉันนคี้ ืออะไร ………………………………….  ชอื่ ฉนั นั้นบอกสี แต่ไม่มีสีท่ฉี ัน มีท้ังเปรีย้ วหวานมัน เปลอื กออ่ นน้นั เขยี วขจี ยามสุกเปลือกสเี หลอื ง คนทง้ั เมืองกนิ ไดด้ ี ขา้ วเหนยี วค่เู ขา้ ที ผลฉนั นคี้ ืออะไร ………………………………….  ฉันนม้ี ที ุกภาค หาไมย่ ากมีท่วั ไทย มเี นือ้ สีขาวใส ผลกใ็ หญ่ดูน่ากนิ เนอ้ื ฉนั เหมือนขา้ วสาร รสเปรีย้ วหวานมีทั้งสิ้น ปตั ตาเวียหวานติดล้ิน ใครได้กินลองทายดู ………………………………….  ฉันนมี้ ีสีข่ า ทกุ เวลาอยใู่ นบ้าน คนเลีย้ งมาชา้ นาน ชว่ ยทำงานได้อย่างดี กนิ ปลาเปน็ อาหาร เห็นหนูผ่านไมร่ อรี จัดการทันทว่ งที เปน็ สัตว์ดคี ืออะไร ………………………………….  ฉนั นีช้ อบกนิ หญ้า หน้าคล้ายมา้ ทำงานดี นิทานเล่าขานมี วา่ ฉนั น้ีโงจ่ งึ ตาย อดหญ้ากินน้ำคา้ ง ทำตามอยา่ งจ้ิงหรดี ใช้ อยา่ เชอื่ ใครงา่ ยงา่ ย คิดชอื่ ได้ตอบเร็วพลัน ………………………………….

แบบฝกึ ทกั ษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 12 ชุดท่ี 3 ฝกึ หดั แต่งคำประพันธ์ แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะที่ 3.1 อา่ นคำประพนั ธ์ (ต่อ) แตง่ กาพยย์ านี ทายคำถาม จำนวน 2 บท ตดิ รปู ภาพ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ ................................................................ เฉลยคำตอบ........................................... เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 4 – 5 ข้อ ได้ระดับ 3 หมายถึง ดี 2 – 3 ข้อ ได้ระดับ 2 หมายถึง พอใช้ 0 – 1 ข้อ ได้ระดับ 1 หมายถงึ ปรับปรงุ

แบบฝึกทกั ษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 13 ชดุ ที่ 3 ฝกึ หดั แต่งคำประพนั ธ์ แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะที่ 3.2 เตมิ คำใหส้ ัมพันธ์ คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นเตมิ คำทีก่ ำหนดใหล้ งในช่องว่างใหส้ ัมผัสถกู ต้อง และมีใจความสัมพนั ธก์ ับ ขอ้ ความเดิม เรียนรำ่ ชาวนา ล้ำเลศิ เติบใหญ่ อวยชัย 1. พระคุณแม่ ......................... แสนประเสริฐกวา่ ใครใคร 2. เล้ียงลูกจน ......................... บ่มนสิ ัยเปน็ คนดี 3. ส่งให้ได้ .............................. เพอ่ื ไดน้ ำทางชีวี 4. เม่ือถึงวนั ปใี หม่ ขอ .........................ใหโ้ ชคดี 5. ตะวนั ลับขอบฟ้า เห็น.........................เดินจูงควาย เตมิ คำท่เี หมาะสมลงในชอ่ งว่างให้สัมผัสถกู ตอ้ ง และมใี จความสมบรู ณ์ 6. น้ำตกจาก......................... ไหลลงมาดังซ่าซา่ น 7. ผลไมข้ องไทยน้ี ม.ี ................เงาะ พทุ รา 8. ดอกไมท้ เ่ี บ่งบาน แหลง่ ................ของแมลง 9. พากเพียร.......................... จะได้ดีในวนั หนา้ 10. ชงโคโยทะกา .....................หอมชนื่ ใจ เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 8 – 10 ขอ้ ได้ระดับ 3 หมายถงึ ดี 5 – 7 ข้อ ได้ระดับ 2 หมายถงึ พอใช้ 0 – 4 ข้อ ได้ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง

แบบฝกึ ทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 14 ชดุ ที่ 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพนั ธ์ แบบฝกึ เสรมิ ทักษะท่ี 3.3 เตมิ วรรคตอนให้ถกู ต้อง คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเตมิ วรรคตอนให้ถกู ต้องตามรูปแบบการเขียนกาพย์ยานี และมคี วามหมายสัมพันธก์ บั ข้อความเดมิ  ทะเลแสนงามตา โค้งขอบฟา้ จรดกัน ......................................... สอ่ งสว่างกลางชลา  .......................................... เกดิ เป็นคนงามเพราะแต่ง ความดีมีฤทธ์แิ รง ช่วยเติมแต่งใหค้ นงาม เรยี งขอ้ ความทีก่ ำหนดให้ เปน็ รูปแบบกาพย์ยานี ๑๑ ท่ีถูกตอ้ ง  ตวั ฉันนี้รบั นำ้ ตา ชมพดู ูสวยดี ใตด้ วงตาสองข้างมี ฉันอย่บู นใบหน้า ........................................... .............................................. ...................................................... ..............................................  สเี ขยี วแดงชมพู ใครทายถกู ลองคดิ ดู ทุกคนรู้จกั ฉันดี ผลฉนั คล้ายจมูก ........................................... .............................................. ....................................................... ..............................................  นกั เลงรอ้ งเพลงพลาง เอาหลงั นัง่ เอียงอิง ตรงหน้าต่างไขวห่ ้างหย่งิ มือถือฉ่งิ ตีดังดัง ........................................... .............................................. ...................................................... .............................................. เกณฑ์การประเมิน คะแนนเต็ม 10 คะแนน 4 – 5 ข้อ ได้ระดับ 3 หมายถึง ดี 2 – 3 ข้อ ได้ระดับ 2 หมายถึง พอใช้ 0 – 1 ขอ้ ได้ระดับ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ

แบบฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 15 ชดุ ที่ 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพนั ธ์ แบบฝกึ เสริมทักษะที่ 3.4 แต่งกาพย์ยานี 11 คำชี้แจง ให้นักเรยี นแตง่ กาพยย์ านี จำนวน 1 บท ให้สอดคล้องตรงกับภาพ วนั ลอยกระทง เรอื่ ง........................................................... .......................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... เกณฑ์การประเมนิ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เขียนตรงภาพกำหนด มสี มั ผัสถูกต้อง และใชค้ ำเหมาะสม ได้ระดบั 3 หมายถงึ ดี เขียนตรงภาพกำหนด มสี ัมผัสถกู ต้อง ไดร้ ะดบั 2 หมายถึง พอใช้ เขยี นตรงภาพกำหนด ได้ระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ

แบบฝึกทกั ษะการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 16 ชดุ ที่ 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพนั ธ์ แบบฝึกเสริมทกั ษะที่ 3.5 เรยี งเปน็ กาพย์ยานี 11 คำช้ีแจง ให้นกั เรียนนำขอ้ ความท่กี ำหนดให้เรียงเป็นกาพย์ยานีให้ถูกต้องตามรปู แบบ ววั ขอเข้าโรงมา้ จึงตดิ หาท่รี ม่ วัวส่นั งกั ทกุ ขร์ ะทม เห็นมา้ ยอมแบ่งปนั ววั พบความสบาย ก็อยากได้มากกว่าน้ัน คนื หนึ่งฝนตกหนัก ใหร้ ่ืนรมยเ์ ช่นม้ามี คร่งึ กายากย็ ินดี ยอมแบ่งทใ่ี หว้ ัวพลัน ยง่ิ กระช้นั เบียดเขา้ ไป ม้ามใี จอารี คนื หน่ึงฝนตกหนกั ..................................................... ...................................................... ..................................................... วัวขอเขา้ โรงม้า ..................................................... ...................................................... ..................................................... ววั พบความสบาย ..................................................... ....................................................... ..................................................... เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เติมวรรคถกู ตอ้ ง 7 – 9 วรรค ได้ระดบั 3 หมายถงึ ดี เติมวรรคถกู ตอ้ ง 3 – 6 วรรค ไดร้ ะดบั 2 หมายถงึ พอใช้ เตมิ วรรคถกู ต้อง 0 – 2 วรรค ไดร้ ะดับ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง

แบบฝึกทักษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 17 ชุดที่ 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพนั ธ์ แบบฝกึ เสริมทักษะท่ี 3.6 แต่งกาพย์ยานีตามหัวข้อท่ีกำหนดให้ คำชีแ้ จง ให้นักเรียนแต่งกาพยย์ านีตามหัวข้อที่กำหนดให้ 3 หวั ขอ้ เลือกเพยี ง 1 หวั ขอ้ เขยี นไม่นอ้ ยกวา่ 2 บท ให้ถกู ต้องตามรูปแบบฉนั ทลักษณ์   ครู พอ่ แม่ เพอ่ื น เร่อื ง........................................................... .......................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... .......................................................................... ........................................................................... เกณฑ์การประเมนิ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เขียนตรงภาพกำหนด มสี มั ผสั ถกู ตอ้ ง และใช้คำเหมาะสม ไดร้ ะดบั 3 หมายถึง ดี เขยี นตรงภาพกำหนด มสี ัมผสั ถูกต้อง ได้ระดบั 2 หมายถึง พอใช้ เขยี นตรงภาพกำหนด ได้ระดบั 1 หมายถึง ปรับปรุง

แบบฝกึ ทักษะการแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 18 ชุดที่ 3 ฝกึ หดั แต่งคำประพนั ธ์ แบบทดสอบหลังเรยี น เรือ่ ง แตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยาน1ี 1 คำช้แี จง ให้นกั เรียนทำเคร่อื งหมาย  เลอื กคำตอบท่ีถกู ทีส่ ดุ เพยี งคำตอบเดียว 1. คำใดทมี่ ีเสยี งวรรณยุกตเ์ หมือนคำว่า “ยม้ิ แย้ม” 8. “พอเพยี งเลย้ี งชีพได้ พ่อทำใหเ้ ป็นแบบอยา่ ง” ขอ้ ใดคอื สัมผัสบังคับของกาพย์ยานขี า้ งตน้ ก. เกรย้ี วกราด ข. หนา้ ร้อน ก. พอ – เพยี ง ข. เพียง – เสียง ค. ทอ้ งฟา้ ง. ผกู้ ลา้ ค. เปน็ – แบบ ง. ได้ – ให้ 2. “โครงการไม่ว่างเว้น พอ่ มงุ่ เน้นดบั ทกุ ข์เข็ญ” 9. “กราบไหว้พระไตรรัตน์ ............................” คำที่ขีดเสน้ ใตเ้ ปน็ เสยี งวรรณยุกตใ์ ด ขอ้ ความในข้อใดเติมในวรรหลัง แลว้ ถกู ต้องทงั้ เนอ้ื ความและฉันทลกั ษณ์ ก. จตั วา – โท ข. เอก – โท ก. เทพไทป้ ้องผองภยั พาล ข. ตอ่ เกยี รติก้องซ้องประสาน ค. ตรี – ตรี ง. โท – ตรี ค. เอกราชชาตสิ ยาม ง. พรพพิ ัฒนเ์ ลศิ สนอง 3. คำในข้อใดมคี วามหมายว่า “นักปราชญ์” 10. “ฉตั รแกว้ ปกใจ........ ธ เทิดศาสน์แผ่นดนิ ......... ก. เทวินทร์ ข. บณั ฑติ ปา่ ดนิ มสิ นิ้ งาม ทุก........เขตพระเมตตา” ควรเติมข้อความใดใหไ้ ดเ้ นอื้ ความถกู ตอ้ ง ค. ปักษา ง. อสูร ก. ราษฎร์ สยาม ยาม ข. ราษฎร์ สถาน นาม 4. ข้อใดเป็นคำคล้องจองของคำวา่ ค. ราษฎร์ สยาม คาม ง. ราษฎร์ สถาน คาม “เศรษฐกิจพอเพียง” คะแนนเตม็ 10 คะแนน ก. หล่อเลยี้ งไทย ข. ไทยช่วยไทย ค. เพ่ือคนไทย ง. พี่น้องไทย 5. “วารที ี่ไหลหลั่ง คอื มนตข์ ลังแห่งภผู า” จากกาพยย์ านีข้างต้นคำใดทม่ี คี วามหมาย เหมือนกบั คำวา่ “สายชล” ก. ภผู า ข. มนตข์ ลัง ค. ไหลหล่งั ง. วารี 6. ขอ้ ใดมสี มั ผสั อกั ษรเหมอื นกับคำว่า “วอ่ งไว” ก. ว่ายนำ้ ข. วนุ่ วาย ค. วง่ิ เรว็ ง. วัดใจ 7. “ฉนั ไปโรงเรียน อา่ น..............หนังสอื ” ควร เติมคำคล้องจองใด ก. เขียน ข. ออก ค. ฟงั ง. ดู

แบบฝกึ ทักษะการแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 19 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หัดแต่งคำประพนั ธ์ ภาคผนวก

แบบฝกึ ทักษะการแต่งคำประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 20 ชุดท่ี 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพนั ธ์ แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอื่ ง แตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพยย์ าน1ี 1 คำช้ีแจง ให้นักเรียนทำเคร่ืองหมาย  เลือกคำตอบทถ่ี ูกทีส่ ดุ เพียงคำตอบเดยี ว 1. คำในขอ้ ใดมคี วามหมายวา่ “นักปราชญ์” 8. “กราบไหว้พระไตรรตั น์ ............................” ข้อความในข้อใดเตมิ ในวรรหลงั แลว้ ก. เทวนิ ทร์ ข. บัณฑิต ถกู ต้องทง้ั เน้อื ความและฉันทลักษณ์ ก. เทพไท้ป้องผองภัยพาล ค. ปักษา ง. อสูร ข. ต่อเกยี รตกิ อ้ งซ้องประสาน ค. เอกราชชาตสิ ยาม 2. ข้อใดมีสมั ผัสอกั ษรเหมอื นกับคำวา่ “ว่องไว” ง. พรพพิ ัฒน์เลิศสนอง ก. วา่ ยน้ำ ข. วนุ่ วาย 9. “ฉตั รแกว้ ปกใจ........ ธ เทดิ ศาสน์แผน่ ดนิ ......... ปา่ ดนิ มสิ ้นิ งาม ทุก........เขตพระเมตตา” ค. วงิ่ เร็ว ง. วดั ใจ ควรเตมิ ข้อความใดใหไ้ ด้เนื้อความถกู ตอ้ ง ก. ราษฎร์ สยาม ยาม 3. คำใดท่ีมีเสยี งวรรณยกุ ต์เหมือนคำวา่ “ยิ้มแยม้ ” ข. ราษฎร์ สถาน นาม ค. ราษฎร์ สยาม คาม ก. เกรีย้ วกราด ข. หนา้ ร้อน ง. ราษฎร์ สถาน คาม ค. ทอ้ งฟา้ ง. ผกู้ ล้า 10. “พอเพยี งเลี้ยงชพี ได้ พ่อทำให้เปน็ แบบอยา่ ง” ขอ้ ใดคือสมั ผสั บังคับ 4. “โครงการไม่วา่ งเวน้ พ่อมุ่งเนน้ ดับทกุ ขเ์ ข็ญ” ของกาพยย์ านขี ้างต้น ก. พอ – เพียง คำที่ขดี เสน้ ใตเ้ ป็นเสยี งวรรณยุกตใ์ ด ข. เพียง – เสียง ค. เป็น – แบบ ก. จตั วา – โท ข. เอก – โท ง. ได้ – ให้ ค. ตรี – ตรี ง. โท – ตรี คะแนนเต็ม 10 คะแนน 5. “ฉนั ไปโรงเรียน อ่าน..............หนังสอื ” ควร 10 คะแนน เติมคำคล้องจองใด ก. เขยี น ข. ออก ค. ฟงั ง. ดู 6. ข้อใดเปน็ คำคล้องจองของคำวา่ “เศรษฐกิจพอเพยี ง” ก. หลอ่ เลย้ี งไทย ข. ไทยชว่ ยไทย ค. เพือ่ คนไทย ง. พ่นี อ้ งไทย 7. “วารีที่ไหลหลัง่ คือมนตข์ ลงั แห่งภผู า” จากกาพย์ยานี ขา้ งตน้ คำใดท่มี ีความหมาย เหมือนกับคำว่า “สายชล” ก. ภูผา ข. มนต์ขลงั ค. ไหลหลั่ง ง. วารี

แบบฝึกทกั ษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 21 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หดั แต่งคำประพันธ์ เฉลยแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะท่ี 3.1 อ่านคำประพนั ธ์ เฉลยทายคำถามกาพยย์ านี 11 1. มะละกอ 2. มะมว่ ง 3. สม้ โอ 4. แมว 5. ลา แตง่ กาพย์ยานี 11 ทายคำถาม จำนวน 2 บท ตดิ รปู ภาพ ฉันนี้อย่ใู นบา้ น ชอบอยูร่ ้านงานเสริมสวย คนจนและคนรวย ให้ฉันช่วยเสรมิ ความงาม ใครใครท่ีมผี ม มกั นยิ มใชท้ ุกยาม ผมเรียบไม่รุ่มรา่ ม ตอบใหง้ ามคืออะไร เฉลยคำตอบ...........หนงั สอื .................... (ขึ้นอยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน)

แบบฝกึ ทักษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 22 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพนั ธ์ เฉลยแบบฝกึ ทักษะ (ต่อ) แบบฝึกเสริมทักษะที่ 3.2 เติมคำใหส้ มั พนั ธ์ 1. พระคุณแม่ .......ลำ้ เลศิ ........ แสนประเสรฐิ กวา่ ใครใคร 2. เล้ียงลกู จน .......เตบิ ใหญ่..... บ่มนสิ ยั เปน็ คนดี 3. สง่ ใหไ้ ด้ .......เรียนรำ่ ............. เพอื่ ไดน้ ำทางชวี ี 4. เม่อื ถงึ วันปีใหม่ ขอ ......อวยชยั ...........ใหโ้ ชคดี 5. ตะวันลบั ขอบฟ้า เหน็ .....ชาวนา....................เดนิ จงู ควาย 6. นำ้ ตกจาก.....ฟากฟ้า............ ไหลลงมาดังซา่ ซ่าน 7. ผลไม้ของไทยนี้ มี.....สาล่ี...........เงาะ พทุ รา 8. ดอกไมท้ ี่เบ่งบาน แหลง่ .......ผสาน.........ของแมลง 9. พากเพียร......เรยี นทุกปี........ จะได้ดีในวันหนา้ 10. ชงโคโยทะกา ............มะลิลา............หอมช่นื ใจ (ขอ้ 6 – 10 ขึ้นอยู่กบั ดุลยพินิจของครผู ูส้ อน) แบบฝึกเสริมทกั ษะที่ 3.3 เติมวรรคตอนใหถ้ ูกต้อง  ทะเลแสนงามตา โค้งขอบฟา้ จรดกัน .....มองนภาแสนสขุ สนั ต์...... ส่องสว่างกลางชลา  .....ไกง่ ามเพราะมีขน............ เกิดเป็นคนงามเพราะแตง่ ความดมี ีฤทธิ์แรง ชว่ ยเตมิ แตง่ ใหค้ นงาม  ตวั ฉนั นรี้ บั น้ำตา ชมพดู สู วยดี ใต้ดวงตาสองข้างมี ฉนั อยู่บนใบหนา้ ฉนั อยู่บนใบหนา้ ใต้ดวงตาสองข้างมี ชมพูดสู วยดี ตัวฉันนี้รับนำ้ ตา  สเี ขยี วแดงชมพู ใครทายถูกลองคดิ ดู ทุกคนรจู้ ักฉนั ดี ผลฉนั คลา้ ยจมูก ผลฉนั คล้ายจมกู ใครทายถูกลองคิดดู สเี ขยี วแดงชมพู ทุกคนรจู้ ักฉนั ดี  นักเลงรอ้ งเพลงพลาง เอาหลงั นง่ั เอียงอิง ตรงหน้าต่างไขว่หา้ งหย่ิง มือถือฉ่ิงตีดงั ดงั นักเลงร้องเพลงพลาง ตรงหนา้ ต่างไขวห่ า้ งหย่งิ เอาหลังนั่งเอียงอิง มอื ถือฉง่ิ ตดี ังดงั (ขอ้ 1 – 2 ข้ึนอยู่กบั ดุลยพินจิ ของครูผู้สอน)

แบบฝึกทกั ษะการแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 23 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพนั ธ์ เฉลยแบบฝกึ ทักษะ (ต่อ) แบบฝึกเสรมิ ทักษะที่ 3.4 แตง่ กาพยย์ านี 11 คำตอบข้นึ อยู่กับดลุ ยพนิ ิจของครผู ูส้ อน แบบฝึกเสริมทกั ษะที่ 3.5 เรยี งเป็นกาพยย์ านี 11 คืนหนึ่งฝนตกหนัก ววั สั่นงกั ทุกขร์ ะทม จงึ คิดหาท่รี ม่ ใหร้ ่ืนรมยเ์ ชน่ มา้ มี ววั ขอเข้าโรงมา้ ครึง่ กายากย็ ินดี มา้ มใี จอารี ยอมแบง่ ที่ใหว้ ัวพลนั ววั พบความสบาย ก็อยากได้มากกว่านัน้ เห็นมา้ ยอมแบง่ ปัน ย่งิ กระชน้ั เบยี ดเขา้ ไป แบบฝกึ เสริมทักษะท่ี 3.6 แต่งกาพยย์ านี 11 ตามหัวข้อทก่ี ำหนดให้ คำตอบขนึ้ อยู่กับดุลยพินิจของครผู สู้ อน

แบบฝึกทักษะการแตง่ คำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี 11 ห น้ า | 24 ชุดท่ี 3 ฝกึ หัดแตง่ คำประพนั ธ์ แบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง แต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยาน1ี 1 คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนทำเครอ่ื งหมาย  เลือกคำตอบที่ถูกทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว 1. คำใดท่ีมเี สียงวรรณยุกตเ์ หมือนคำวา่ “ยม้ิ แย้ม” 8. “พอเพียงเล้ยี งชพี ได้ พ่อทำใหเ้ ปน็ แบบอย่าง” ขอ้ ใดคอื สมั ผัสบงั คบั ของกาพยย์ านีขา้ งต้น ก. เกรี้ยวกราด ข. หน้าร้อน ก. พอ – เพยี ง ค. ทอ้ งฟา้ ง. ผู้กล้า ข. เพียง – เสียง ค. เปน็ – แบบ 2. “โครงการไม่วา่ งเวน้ พ่อมงุ่ เนน้ ดับทกุ ข์เข็ญ” ง. ได้ – ให้ 9. “กราบไหวพ้ ระไตรรตั น์ ............................” คำทีข่ ดี เส้นใต้เปน็ เสยี งวรรณยุกตใ์ ด ข้อความในขอ้ ใดเติมในวรรครับหลงั แลว้ ถกู ต้องท้งั เนื้อความและฉันทลักษณ์ ก. จัตวา – โท ข. เอก – โท ก. เทพไทป้ ้องผองภัยพาล ข. ต่อเกยี รติก้องซอ้ งประสาน ค. เอก – ตรี ง. โท – ตรี ค. เอกราชชาตสิ ยาม ง. พรพพิ ฒั น์เลิศสนอง 3. คำในข้อใดมคี วามหมายว่า “นักปราชญ์” 10. “ฉตั รแกว้ ปกใจ........ ธ เทดิ ศาสนแ์ ผ่นดนิ ......... ปา่ ดนิ มสิ ้นิ งาม ทุก........เขตพระเมตตา” ก. เทวนิ ทร์ ข. บัณฑติ ควรเตมิ ข้อความใดใหไ้ ดเ้ น้ือความถูกตอ้ ง ก. ราษฎร์ สยาม ยาม ค. ปักษา ง. อสูร ข. ราษฎร์ สถาน นาม ค. ราษฎร์ สยาม คาม 4. ขอ้ ใดเป็นคำคลอ้ งจองของคำว่า ง. ราษฎร์ สถาน คาม “เศรษฐกิจพอเพียง” คะแนนเต็ม 10 คะแนน ก. หลอ่ เลี้ยงไทย ข. ไทยช่วยไทย 10 คะแนน ค. เพ่อื คนไทย ง. พนี่ ้องไทย 5. “วารีที่ไหลหลั่ง คอื มนตข์ ลงั แหง่ ภูผา” จากบทกลอนขา้ งตน้ คำใดที่มคี วามหมาย เหมือนกบั คำว่า “สายชล” ก. ภูผา ข. มนตข์ ลงั ค. ไหลหลั่ง ง. วารี 6. ขอ้ ใดมสี มั ผสั อักษรเหมือนกับคำวา่ “วอ่ งไว” ก. วา่ ยนำ้ ข. วนุ่ วาย ค. วิ่งเร็ว ง. วัดใจ 7. “ฉนั ไปโรงเรียน อา่ น..............หนงั สือ” ควร เตมิ คำคลอ้ งจองใด ก. เขยี น ข. ออก ค. ฟงั ง. ดู

แบบฝึกทักษะการแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภทกาพยย์ านี 11 ห น้ า | 25 ชดุ ท่ี 3 ฝกึ หดั แตง่ คำประพนั ธ์ บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานพทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ : กระทรงศึกษาธกิ าร. กำชัย ทองหล่อ. (2554). หลักภาษาไทย. กรุงเทพฯ : อมรการพิมพ.์ บรรจง ชาครตพิ งศ.์ (2551). เคล็ดลับการแต่งคำประพันธ์ : โคลง ร่าย ฉนั ท์ กาพย์ กลอน. กรุงเทพฯ : ดอกหญา้ . บารมี ถาวระ. (2541). ลักษณะคำประพันธไ์ ทย. นครศรีธรรมราช : สถาบนั ราชภฏั นครศรธี รรมราช. ปฤษณา แจ้มแจ้ง. (2554). การพัฒนาทักษะการแตง่ คำประพนั ธ์ของนกั เรียนช้ันประถมศึกษา ปที ่ี 5 โดยใชช้ ุดการสอนการแตง่ คำประพนั ธต์ ามแนววัฏจักรการเรียนร.ู้ วทิ ยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑติ สาขาการศึกษาและการสอน (ประถมศกึ ษา) มหาวทิ ยาลยั ทักษิณ. ประหยัด แม่นสขุ . (2557). การพฒั นาแบบฝึกทกั ษะการเขยี นรอ้ ยกรอง (กาพยย์ านี 11) กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6. ปริญญานิพนธ์ การศกึ ษามหาบัณฑติ สาขาวชิ าการพัฒนาหลกั สตู รและการเรียนการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภฏั อุบลราชธาน.ี ยทุ ธ โตอดิเทพย์. (2552). ค่มู ือเรียนเขยี นกลอน. กรงุ เทพฯ : แมค่ าผาง. เยาวดี วบิ ูลยศ์ รี. (2545). การวัดและการสร้างแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์. กรงุ เทพฯ : สำนกั พิมพจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เยาวลักษณ์ ชาตสิ ขุ ศริ ิเดช. (2553). เรยี งถ้อย ร้อยกรอง. กรุงเทพฯ : อักษรเจรญิ ทัศน์. สำลี รักสทุ ธี. (2554). คู่มือการจดั ทำสอ่ื นวัตกรรมและแผนประกอบสื่อนวัตกรรม. กรงุ เทพฯ : พัฒนาศึกษา. สุคนธ์ สินธพานนท์. (2551). นวัตกรรมการเรยี นการสอนเพ่อื พัฒนาคุณภาพของเยาวชน. กรงุ เทพฯ : เทคนปิ รน้ิ ติง้ . เสนีย์ วลิ าวรรณ และชัยวัฒน์ สแี ก้ว. (2549). หลักการใช้ภาษาไทย ช่วงชั้นท่ี 2. กรงุ เทพฯ : วฒั นาพานิช จำกดั .