พุทธ ศาสนสภุ าษิตคาสอนในพระพุทธศาสนามอี งค์ 9 ประการ ท่เี รยี กว่า นวังคสัตถุศาสน์ ไดแ้ ก่ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ คาถา อทุ าน อิติวตุ ตกะชาดก อัพภตู ธรรม และ เวทัลละ พุทธศาสนสุภาษติ ไดม้ าจากเนอ้ื หาท่ีปรากฎอยู่ในคาสอนดังกลา่ ว ท่มี ีอยูเ่ ปน็ จานวนมาก เป็นเนือ้ ความสน้ั ๆ ที่ทรงคุณคา่ ให้ขอ้ คิด ข้อเตอื นใจ ใหผ้ ูท้ ่ีได้ศึกษาแล้ว มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ และยึดถอื เปน็ หลักธรรมประจาใจ เพ่ือนาไปประพฤติปฏิบัติ ในแนวทางทถ่ี กู ท่ีควร ตรงทาง อนั จะนาไปส่คู วามสขุ ความเจรญิ งอกงามในชวี ติ ของตน แลว้ ยังเป็นการเสริมสร้างสนั ติสุข ในสังคมโลกอีกด้วย พทุ ธศาสนสุภาษิต ณ ท่นี ไี้ ด้แบง่ ออกเป็นหมวดตา่ ง ๆ เพือ่ ใหส้ ดวกแกก่ ารศึกษา และนาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีระบบ อตั ตวรรค - หมวดตน อตฺ ตา หเว ชิตํ เสยฺโย ชนะตนนั่น แหละ เป็นดี อตฺ ตา สุทนฺโต ปรุ ิสสสฺ โชติ ตนท่ีฝกึ ดี แลว้ เปน็ แสงสว่างของบุรษุ อตฺต นา ว กตํ ปาปํ อตตฺ นา สงกฺ ลิ ิสสฺ ติ ตนทาํ บาปเอง ยอ่ มเศรา้ หมองเอง อตตฺ ตถฺ ปัญ ญฺ า อสุจี มนสุ ฺสา มนุษย์ผเู้ ห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด
อตตฺ าน ญฺเจ ปิยํ ชญญฺ า รกเฺ ขยฺย นํ สุรกฺขิตํ อตฺตานญเฺ จ ตถา กยริ า ยถญญฺ มนสุ าสติ ถ้า รูว้ า่ ตนเป็นทีร่ กั กค็ วรรักษาตนนัน้ ใหด้ ี ถ้าพราํ่ สอนผู้อนื่ ฉันใด ก็ควรทาํ ตนฉนั นั้น สุ ทนโฺ ต วต ทเมถ อตฺตา หิ กริ ทุทฺทโม ผู้ ฝกึ ตนดี ควรฝึกผู้อื่น ไดย้ ินว่าตนแลฝกึ ยาก อตฺตา นํ ทมยนตฺ ิ สุพฺพตา ผปู้ ระพฤตดิ ี ย่อมฝกึ ตน ทุ คคฺ า อุทฺธรถตตฺ านํ ปงฺเก สนโฺ นว กญุ ชฺ โร จง ถอนตนขึน้ จากหล่ม เหมอื นช้างตกหล่มถอนตนข้นึ ฉะนั้น อตฺ ตานเมว ปฐมํ ปฏิ รูเป นิเวสเย อถญฺญมนสุ าเสยฺย น กลิ สิ ฺเสยยฺ ปณฑฺ ิโต บัณฑิต พงึ ต้งั ตนไวใ้ นคุณอันสมควรกอ่ น สอนผ้อู ื่นภายหลัง จึงไม่มวั หมอง อปั ปมาทวรรค - หมวดไม่ประมาท อปปฺ มาท ญฺจ เมธาวี ธนํ เสฏฺฐวํ รกฺขติ ปราชญ์ ย่อมรักษาความไมป่ ระมาทไว้ เหมือนทรพั ยอ์ นั ประเสรฐิ อปฺปม ตตฺ า น มยี นตฺ ผไู้ ม่ประมาท ยอ่ มไม่ตาย อปฺปม ตโฺ ต หิ ฌายนฺโต ปปฺโปติ วปิ ลุ ํ สุขํ ผู้ ไมป่ ระมาทพินจิ อยู่ ยอ่ มถึงสุขอนั ไพบูลย์ อปปฺ มาโท อมตํ ปทํ ความไมป่ ระมาท เป็นทางไม่ตาย อปฺปม ตโฺ ต ปมตเฺ ตสฺ สุตเฺ ตสุ พหชุ าคโร อพลสสฺ วํ สฆี สฺโส หติ ฺวา ยาติ สเุ มธโส คน มีปญั ญาดไี ม่ประมาทในเม่ือผู้อื่นประมาท มกั ตนื่ ในเม่ือผู้อืน่ หลับ ย่อม ละทงิ้ คนน้ัน เหมอื นมา้ ฝีเท้าเร็ว ทิ้งม้าไม่มกี ําลงั ไป ฉะนนั้ อุ ฏฐฺ านวโต สตมิ โต สุ จกิ มฺมสสฺ นสิ มมฺ าการิโน สญฺญตสฺส จ ธมมฺ ชีวิโน อปปฺ มตฺตสสฺ ยโสภวิ ฑฒฺ ติ ยศ ยอ่ มเจรญิ แก่ผ้มู ีความหมั่น มสี ติ มี การงานสะอาด ใคร่ครวญแล้วทํา ระวังดแี ล้ว เปน็ อยูโ่ ดยธรรม และไม่ประมาท กัม มวรรค - หมวดกรรม
สา นิ กมฺมานิ นยนตฺ ิ ทุคคฺ ตึ กรรม ช่วั ของตนเอง ยอ่ มนาํ ไปสูท่ คุ คติ สกุ รํ สาธนุ า สาธุ ความดี อันคนดที าํ ง่าย สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ ความดี อันคนชั่วทาํ ยาก ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตวฺ า นานตุ ปปฺ ติ ทํา กรรมใดแล้วไม่รอ้ นใจภายหลัง กรรมท่ที าํ นัน้ แลเปน็ ดี น ตํ กมมฺ ํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา อนุตปฺปติ ทาํ กรรมใดแล้วร้อนใจภายหลัง กรรมทท่ี าํ แล้วน้นั ไมด่ ี ยา ทสิ ํ วปเต พชี ํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ กลยฺ า ณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ บุคคล หว่านพชื เช่นใด ยอ่ มไดผ้ ลเช่นน้นั ผู้ ทํากรรมดี ย่อมไดผ้ ลดี ผู้ทาํ กรรมชว่ั ย่อมได้ผลชวั่ นิ สมมฺ กรณํ เสยฺโย ใครค่ รวญก่อนแล้วจึงทําดกี ว่า รกเฺ ข ยยฺ อตตฺ โน สาธํุ ลวณํ โลณตํ ยถา พงึ รักษาความดขี องตนไว้ ดังเกลอื รกั ษาความเค็ม นาน ตฺถกามสฺส กเรยยฺ อตถฺ ํ ไม่พงึ ทาํ ประโยชน์แกผ่ มู้ ุ่งความ พนิ าศ อติ สีตํ อตอิ ณุ หฺ ํ อตสิ ายมิทํ อหุ อิ ติ วสิ ฏฺ ฐฺ กมมฺ นเฺ ต อตฺถา อจฺเจนตฺ ิ มาณเว ประโยชน์ ทั้งหลายยอ่ มลว่ งเลยคน ผทู้ อดทงิ้ การงาน ด้วย อา้ งวา่ หนาวนัก ร้อนนกั เย็นเสยี แล้ว อถ ปาปานิ กมมฺ านิ กรํ พาโล น พชุ ฺฌติ เส หิ กมเฺ มหิ ทมุ ฺเมโธ อคคฺ ิทฑโฺ ฒว ตปฺปติ เมอ่ื คนโง่มปี ญั ญาทราม ทํากรรมชั่วอยกู่ ไ็ ม่รู้สกึ เขา เดือดรอ้ นเพราะกรรมของตน เหมือนถกู ไฟไหม้ โย ปุพเฺ พ กรณยี านิ ปจฺฉา โส กาตมุ จิ ฺฉติ วรณุ กฏฐฺ ํ ภญฺโชว ส ปจฺฉา อนุตปปฺ ต ผู้ ใดปรารถนาทํากิจทค่ี วรทํากอ่ นในภายหลังผู้ นั้นยอ่ มเดือดรอ้ นในภายหลัง ดุจมาณพ (ผปู้ ระมาทแลว้ รีบ) หักไมก้ มุ่ ฉะน้นั
สเจ ปุพฺเพกตเหตุ สขุ ทุกขฺ ํ นคิ จฉฺ ติ โป ราณกํ กตํ ปาปํ ตเมโส มญุ จฺ เต อิณํ ถ้า ประสบสขุ ทุกข์ เพราะบุญบาปทท่ี ําไวก้ ่อนเป็นเหตุ ชือ่ ว่าเปลอ้ื งบาปเก่าท่ที าํ ไว้ ดุจเปลื้องหน้ี ฉะน้ัน สขุ กามานิ ภตู านิ โย ทณฺเฑน น หึสติ อตตฺ โน สุขเมสาโน เปจจฺ โส ลภเต สุขํสตั ว์ ทัง้ หลายยอ่ มตอ้ งการความสุข ผใู้ ดแสวงหาสุขเพือ่ ตน ไม่ เบยี ดเบียนเขาด้วยอาชญา ผู้นนั้ ละไปแลว้ ยอ่ มได้สุข
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: