Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore General knowledge about computers

General knowledge about computers

Published by rujirat.empia, 2020-05-26 23:38:51

Description: General knowledge about computers

Search

Read the Text Version

General knowledge about computers ความรู้ท่วั ไปเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์

: : Meaning of Computer คอมพิ วเตอร์ เปน็ อุปกรณ์ทพ่ี ัฒนาขึน้ เพ่ือชว่ ยในการทางานทีเ่ กนิ กวา่ ความสามารถของมนุษย์จะทาได้ เช่น การคานวณตัวเลข การควบคุมเคร่อื งจักร การจดั เกบ็ ข้อมูลสารสนเทศ คอมพิวเตอรท์ ่ีมีการใชง้ านกันอยา่ งแพร่หลายในปจั จบุ ัน เรยี กวา่ PC (Personal Computer) หมายถงึ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

: : Meaning of Computer ➢ ขนั้ ตอนการทางานของคอมพิ วเตอร์ • รับข้อมูล (Input) Input Process Output • ประมวลผล (Process) Storage • แสดงผลลพั ธ์ (Output) • จัดเก็บข้อมลู (Storage)

: : Meaning of Computer ➢ ข้อดขี องคอมพิ วเตอร์ • ความเรว็ (Speed) • ความเชอื่ ถอื ได้ (Reliable) • ความถูกตอ้ งแมน่ ยา (Accurate) • เกบ็ ขอ้ มูลจานวนมาก (Store massive mounts of information) • ยา้ ยข้อมลู ได้รวดเร็ว (Move information)

: : Types of Computer ➢ ประเภทของคอมพิ วเตอร์ จาแนกออกได้เป็น 5 ชนดิ โดยพิจารณาจาก ความสามารถในการเก็บขอ้ มูล และ ความเร็วในการประมวลผล เป็นหลกั ดังน้ี 1. Super Computer 2. Mainframe Computer 3. Mini Computer 4. Workstation 5. Micro Computer or Personal Computer

: : Types of Computer 1. เคร่ืองคอมพิวเตอรป์ ระสิทธภิ าพสูง เหมาะสาหรบั การรับและแสดงผล Super จานวนมาก ใชใ้ นงานวิเคราะห์ และคานวณด้านวิทยาศาตร์ Computer

: : Types of Computer 2. เครอื่ งคอมพิวเตอรข์ นาดใหญ่ เปน็ เครอื่ งคอมพิวเตอรร์ าคาสูง มัก Mainframe อย่ทู ศี่ นู ยค์ อมพิวเตอร์หลัก ขององคก์ ร และต้องอยใู่ นห้องท่มี ีการ Compute ควบคุมอณุ หภูมิและมกี ารดแู ลรักษาเปน็ อยา่ งดี

: : Types of Computer 3. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ขนาดกลางนิยมใชใ้ นส่วนของธุรกจิ ขนาดใหญ่ Mini เช่น ระบบการจองหอ้ งพักในโรงแรมขนาดใหญ่ การควบคุม Computer เครื่องจักรในโรงงานอตุ สาหกรรม

: : Types of Computer 4. ลักษณะคล้าย PC แตต่ ่างกนั ทส่ี มรรถนะ Workstation จะประมวลผล Workstation เรว็ กว่า สว่ นใหญใ่ ชง้ านเก่ยี วกบั ตวั เลขทางสถิติระดับสงู งานด้าน กราฟฟกิ หรือใชเ้ ป็นเคร่อื ง Server สาหรบั เกบ็ ข้อมลู

: : Types of Computer 5. เครอ่ื งคอมพิวเตอรข์ นาดเลก็ เครอ่ื งคอมพิวเตอรใ์ ช้งานท่ัว ๆ ไป จะ Micro เรยี กว่า “เครอ่ื งคอมพิวเตอร์สว่ นบุคคล Personal Computer (PC)” Computer ซ่งึ เรยี กรวมทง้ั เคร่อื ง Desktop, Notebook หรือ Laptop และ or Personal PDA Computer

: : Evolution of computers ➢ ววิ ฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ ลูกคดิ (Abacus) เป็นเคร่ืองคานวณเคร่ืองแรก ที่มนุษย์ได้ประดิษฐ์คิดค้น ข้ึนมา โดยชาวจนี และยังมีใช้งานอยูใ่ นปจั จุบัน มีลักษณะต่าง ๆ ออกไป ลักษณะ ลกู คดิ ของจนี ซึง่ มีตวั นบั รางบน สองแถว

: : Evolution of computers ➢ วิวัฒนาการของคอมพิ วเตอร์ แทง่ เนเปียร์ (Napier’s rod) เป็นเครื่องมือท่ีประกอบด้วยแท่งไม้ตีเส้นเป็น ตารางคานวณหลาย ๆ แท่ง เอาไว้ใช้สาหรับคานวณ แต่ละแท่งจะมีตัวเลขเขียน กากบั ไว้ เมื่อต้องการผลลัพธ์ก็หยิบแท่งท่ีได้ระบุตัวเลขแต่ละหลักมาอ่านกับแท่ง ดรรชนี (index) ทีมีตวั เลข 0-9 จะได้คาตอบ

: : Evolution of computers ➢ ววิ ฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ ไม้บรรทัดคานวณ (Slide Rule) คิดค้นโดย วิลเลี่ยม ออทเตรด โดยนาอัลกอริทึมของเนเปียร์มาเขียนเป็น สเกลบนแท่งไม้ เพื่อใช้ในการคานวณ เครอื่ งคานวณของปาสคาล (Pascal’s Pascaline Calculator) คิดคน้ โดยเบลส ปาสคาล ถอื วา่ เปน็ เครอื่ งคานวณใช้เฟอื งเคร่ืองแรก

: : Evolution of computers ➢ วิวฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ เครื่องคานวณของไลปนิซ (The Leibniz Wheel) คิดค้นโดย กอตต์ฟรีด วิลเฮล์ม ไลบ์นิช (Gottfried Wilhelm Leibniz) ได้ทาการปรับปรุงเคร่ือง คานวณของปาสคาลใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพดกี ว่าเดิม โดยมีการปรับฟนั เฟอื งใหม่ ให้ มีความสามารถคณู และหารได้ (แตเ่ ดิมทาได้เฉพาะการบวกและการลบเท่านั้น)

: : Evolution of computers ➢ ววิ ฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ เครื่องผลตา่ งของแบบเบจ (Babbage's Difference Engine) คิดค้นโดย ชาร์ลส แบบเบจ (Charles Babbage) เปน็ เครอื่ งคานวณทม่ี ี ฟนั เฟอื งจานวนมาก และ สามารถคานวณคา่ ของตารางได้อัตโนมัตแิ ลว้ ส่ง ผลลัพธไ์ ปตอกลงบนแปน้ พิมพ์

: : Evolution of computers ➢ ววิ ฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ เคร่ืองวิเคราะห์ของแบบเบจ (Babbage’s Analytical Engine) ต่อมาได้ พัฒนาเครือ่ งวเิ คราะห์ ซงึ่ จะประกอบดว้ ย • หน่วยความจา ซึ่งกค็ อื ฟนั เฟอื ง • หนว่ ยคานวณ ทส่ี ามารถบวก ลบ คูณ หาร ได้ • บตั รปฏบิ ัติ คล้าย ๆ บตั รเจาะรูใชเ้ ป็นตัวเลือกว่าจะคานวณอะไร • บตั รตวั แปร ใชเ้ ลอื กวา่ จะใชข้ อ้ มูลจากหน่วยความจาใด • ส่วนแสดงผล คือ เครอ่ื งพิมพ์ หรือเครื่องเจาะบัตร บุคคลทน่ี าแนวคดิ ของแบบเบจมาสร้างเคร่ือง กค็ ือ ลกู ชายของแบบเบจ ชื่อ เฮนรี่ (Henry) ในปี 1910

: : Evolution of computers ➢ ววิ ฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ จากการคานวณด้วยเคร่ืองวิเคราะห์น้ีมีลักษณะใกล้เคียงกับส่วนประกอบของ คอมพิวเตอรใ์ นปจั จบุ ัน จงึ ทาให้ ชารล์ ส แบบเบจ (Charles Babbage) ไดร้ ับ การยกยอ่ งวา่ เป็น “บิดาแห่งคอมพิวเตอร”์

: : Evolution of computers ➢ ววิ ัฒนาการของคอมพิ วเตอร์ ABC เครอื่ งคานวณขนาดเลก็ ท่ใี ช้หลอดสูญญากาศ

: : Evolution of computers ➢ วิวฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ Mark I เครื่องคานวณอเิ ลก็ ทรอนกิ สข์ องไอบเี อม็

: : Evolution of computers ➢ ววิ ฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ ENIAC เครอื่ งคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก

: : Evolution of computers ➢ ววิ ฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ ยุคท่ี 1 (ยุคหลอดสูญญากาศ) ใช้เทคโนโลยีหลอดสูญญากาศ (Vacuum tube technology) ในยุคน้ีเริ่มต้ังแต่ปี ค.ศ. 1951 – 1958 “ตัวเครื่องใหญ่ ใชก้ าลังไฟสงู เกดิ ความรอ้ นสูง”

: : Evolution of computers ➢ ววิ ัฒนาการของคอมพิ วเตอร์ ยคุ ที่ 2 (ยุคทรานซิสเตอร์) เทคโนโลยที รานซสิ เตอร์ (Transistors technology) • มีขนาดเล็กกวา่ หลอดสญู ญากาศ • มีความจาทส่ี งู กวา่ • ไมเ่ สียเวลาในการวอรม์ อพั • ใชพ้ ลงั งานต่า

: : Evolution of computers ➢ วิวฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ ยุคท่ี 3 (ยคุ วงจรรวม) มีการพัฒนาเปน็ แผงวงจรรวม (Integrated Circuits : IC) เปน็ วงจรไมโครอิเล็กทรอนิกส์ มขี นาดเลก็ และบาง น่าเชือ่ ถือมากกว่า ความเรว็ สงู ข้นึ และทาให้ขนาดของคอมพิวเตอร์เล็กลง

: : Evolution of computers ➢ วิวฒั นาการของคอมพิ วเตอร์ ยุคท่ี 4 (ยคุ วีแอลเอสไอ) เปน็ ยุคของวงจร (Large-Scale Integration: LSI) เป็นวงจรรวมประกอบด้วยวงจรอิเลก็ ทรอนิกส์หลายพันวงจรไว้บนแผงซลิ กิ อน ซง่ึ เป็นชิปขนาดเล็ก และถกู นามาใช้เปน็ ชิปหนว่ ยความจา

: : Composition of computer system ➢ องค์ประกอบของระบบคอมพิ วเตอร์ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบทส่ี าคัญ ดงั นี้ • ฮารด์ แวร์ (Hardware) • ซอฟตแ์ วร์ (Software) • บคุ ลากร (People ware) • ขอ้ มูล (Data) • การสอ่ื สาร (Communication)

: : Composition of computer system ➢ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) เป็นองคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์ทส่ี ามารถจบั ตอ้ งได้ ซึ่งเป็นสว่ นสาคญั ในการประมวลผลคาสั่งเพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ที่ผู้ใช้ตอ้ งการ

: : Composition of computer system ➢ ซอฟต์แวร์ (Software) คอื กลมุ่ ของคาสัง่ ท่กี าหนดการทางานของฮาร์ดแวร์ เพื่อควบคุมคอมพิวเตอร์ให้ สามารถทางานได้ตามวัตถุประสงค์ โดยแบง่ ได้ 2 ประเภท 1. ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System software) ทาหนา้ ทีค่ วบคุมการทางานของ ฮาร์ดแวรต์ า่ ง ๆ ใหส้ ามารถทางานรว่ มกนั ได้ ได้แก่ OS (Operating System) , Driver, BIOS , Firmware

: : Composition of computer system ➢ ซอฟตแ์ วร์ (Software) 2. ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ (Application software) ถูกพัฒนาข้นึ เพ่ือการ ทางานตามวัตถปุ ระสงคข์ องผ้ใู ชง้ าน

: : Composition of computer system ➢ บคุ ลากร (People ware) บุคคลท่มี สี ว่ นเกีย่ วข้องกับการทางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เชน่ ผูจ้ ดั การ ระบบ (System Manager) นักวเิ คราะห์ระบบ (System Analysis) ผ้เู ขียน โปรแกรม (Programmer) ผู้ใช้โปรแกรม(User) เป็นต้น

: : Composition of computer system ➢ ข้อมลู (Data) ขอ้ มูลมีหลากหลายชนดิ ได้แก่ 1. ข้อมลู เชงิ ตวั เลข (Numeric Data) เชน่ จานวนเตม็ หรือ จานวนจรงิ 2. ขอ้ มลู เชิงข้อความ (Text Data) เช่น อักขระ หรอื ข้อความ 3. ข้อมูลเสียง (Audio Data) เช่น ไฟล์เพลงชนดิ ต่าง ๆ MP3,WAV 4. ข้อมลู ภาพ (Image Data) เชน่ ไฟลภ์ าพชนิดต่าง ๆ JPG,PNG,GIF 5. ข้อมลู ภาพเคลอ่ื นไหว (Video Data) เช่น ไฟลว์ ีดโี อชนดิ ต่าง ๆ MP4

: : Composition of computer system ➢ การสอื่ สาร (Communication) คือการทางานของคอมพิวเตอร์หลายเครอ่ื งท่ีมกี ารแลกเปลย่ี นข้อมูลกัน เกดิ เป็น เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer network) ทาใหก้ ารประยุกต์การใชง้ านมี ความหลากหลาย และเกิดประโยชน์เพ่ิมมากขึ้น

: : Working principles & calculations in computers ➢ หลกั การทางานของคอมพิ วเตอร์ การทางานของคอมพิวเตอรป์ ระกอบด้วยหน่วยสาคัญ 5 หน่วย ไดแ้ ก่ 1. หนว่ ยรบั เขา้ (Input Device) 2. หนว่ ยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) 3. หนว่ ยความจาหลัก (Main Memory) 4. หนว่ ยความจารอง (Virtual Memory) 5. หนว่ ยสง่ ออก (Output Device)

: : Working principles & calculations in computers ➢ หน่วยรบั เขา้ (Input Device) เป็นสว่ นที่มีหน้าที่รบั คาสง่ั หรอื ขอ้ มูลจากผูใ้ ช้งาน หรือ สิง่ แวดล้อม เขา้ สู่ คอมพิวเตอร์ เพ่ือนาไปประมวลผลตอ่ ไป Mouse Keyboard Microphone Webcam Fingerprint reader Barcode reader

: : Working principles & calculations in computers ➢ หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) คือสว่ นที่แปลงคาสงั่ แล้วทาการประมวลผลคาส่งั เพ่ือใหไ้ ดผ้ ลลัพธต์ ามที่ผ้ใู ชง้ าน ต้องการ ซึ่ง CPU มีองค์ประกอบหลัก 3 สว่ น ดังนี้ 1. หน่วยความจาภายใน (Internal Memory) 2. วงจรหนว่ ยควบคมุ (Control Unit : CU) 3. วงจรหนว่ ยคานวณและเปรียบเทยี บ (Arithmetic and Logics Unit : ALU )

: : Working principles & calculations in computers ➢ หนว่ ยความจาหลกั ( Main Memory ) ทาหนา้ ทเี่ ก็บขอ้ มูลทีร่ อทาการประมวลผล และเกบ็ ผลลัพธ์ทไี่ ด้จากการประมวล ใน ระหวา่ งทีร่ อสง่ ไปยังหน่วยแสดงผลลพั ธ์ประเภทของหน่วยความจา Ram Rom

: : Working principles & calculations in computers ➢ หน่วยความจารอง ( Virtual Memory ) เปน็ หนว่ ยความจาไม่ลบเลือน หรอื แหลง่ เกบ็ ข้อมูลถาวร โปรแกรม และข้อมลู จะ ถกู จดั เกบ็ ไวห้ ลงั จากปิดเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ส่วนมากไมโครคอมพิวเตอร์แบบ ตั้งโต๊ะจะมที ้ังฮารด์ ดิสก์ไดฟ์ และออปติคัลดสิ กไ์ ดฟ์

: : Working principles & calculations in computers ➢ หน่วยสง่ ออก (Output Device) คืออปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ที่ใช้สาหรบั แสดงผลการทางาน หรือผลลพั ธท์ ีไ่ ด้หลงั จากท่ี คอมพิวเตอรป์ ระมวลผลขอ้ มลู เป็นท่เี รยี บรอ้ ยแล้ว Monitor Printer Speaker Scanner

: : Working principles & calculations in computers ➢ หลักการทางานของคอมพิ วเตอร์ Input Process Output Storage

END


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook