Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์ศิลป์

ประวัติศาสตร์ศิลป์

Published by ห้องสมุดประชาชน, 2020-04-24 21:31:40

Description: ประวัติศาสตร์ศิลป์

Search

Read the Text Version

ประวตั ิศาสตรศ์ ลิ ป์ Art History ตนั ติกร เพช็ รออ่ น



ศลิ ปกรรมสมัยก่อน ประวตั ิศาสตร์

ศิลปกรรมสมยั กอ่ นประวตั ิศาสตร์ คอื ช่วงเวลาท่มี นษุ ยย์ ังไมม่ ตี วั อกั ษรจดบนั ทกึ เร่ืองราวของสงั คม นักโบราณคดเี ป็นผ้ศู ึกษาเรอ่ื งราวของสมยั ก่อน ประวัตศิ าสตร์เป็นหลักโดยศกึ ษาจากซากพิมพด์ กึ ดาบรรพ์หรอื พมิ พห์ ินโบราณสถาน โบราณวตั ถุ โครงกระดูก สง่ิ ของเคร่ืองใช้ ภาพวาดตามผนังหรอื บนสงิ่ ของต่างๆเป็นตน้ โดยสมยั ก่อนประวตั ิศาสตรม์ ี การแบง่ เปน็ ยุคยอ่ ย คือ ยคุ หินกบั ยคุ โลหะท้งั น้ยี คุ หนิ ยงั มี การแบ่งออกเปน็ ยุคหนิ เกา่ ยคุ หนิ กลางและยคุ หนิ ใหมส่ ว่ นยคุ โลหะก็มกี าร แบ่งเปน็ ยคุ สาริดกบั ยคุ เหล็ก

มนษุ ย์เกิดขึ้นเมอื่ ใด เชอ่ื วา่ มีมนุษย์เกิดข้นึ เมอื่ ประมาณ 59,000 ปี กอ่ นคริสตกาล แตถ่ ึงอย่างไร ก็มีหลักฐานท่ี แนน่ อนอย่วู ่า ประมาณ 15,000 ปี ก่อนคริสตกาลมนษุ ยเ์ รม่ิ สรา้ งงานศิลปกรรมในถ้าแลว้

ภาพเขียนสมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ท่ี ถา้ ลาสกวั (Lascaux) ฝร่งั เศส







• The Venus of Wilendorf • Age: Around 25,000 BCE • Material: Oolitic Limestone • Found: Wilendorf (Austria) in 1908 • Present Location: Naturhistorisches Museum in Vienna (Austria) • Length: 10.6cm • Width: 5.7cm • Depth: 4.5cm

สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)หรือ แนวหินต้งั ประเทศอังกฤษ

สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)หรือ แนวหินต้งั ประเทศอังกฤษ

ศิลปกรรมสมัย ประวัตศิ าสตร์

ศลิ ปกรรมสมยั ประวตั ิศาสตร์

• สมัยประวตั ิศาสตร์ คอื ชว่ งเวลาท่ีมี หลกั ฐานท่ีเป็นลายลักษณ์อักษรบอกเล่าเรือ่ งราวของสงั คมนนั้ ๆอกั ษรน้ันอาจเปน็ ตัวอักษรของชน ชาติ อื่นก็ได้ แตน่ ามาใชบ้ นั ทึกคาพูดเปน็ เร่ืองราวของสงั คมตนโดยสมยั ประวตั ิศาสตร์มี การแบ่งเป็นสมยั ยอ่ ย คือ สมัยโบราณ สมัยกลาง สมยั ฟ้ืนฟศู ลิ ปวทิ ยาการ สมัยใหมแ่ ละหลงั สมยั ใหมห่ รอื สมยั ปจั จุบัน ตามเหตุผลการจาแนกยุคสมยั ดงั นน้ี กั เรียนจึงตอ้ งเขา้ ใจว่าสมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตรแ์ ละสมัยประวตั ิศาสตรข์ อง สังคมแตล่ ะสงั คม (หรือประเทศ) จะเร่มิ ต้นไมต่ รงกนั ขนึ้ อยู่กบั เงอื่ นไขการมี ตัวอักษรบันทกึ เรอ่ื งราวของแต่ละ สงั คมนอกจากนนั้ การแบง่ และกาหนดสมยั ยอ่ ยในสมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตรก์ ย็ ังมคี วามแตกตา่ งกนั เน่อื งจากแตล่ ะ ภูมภิ าคต่างกม็ พี ัฒนาการแตกตา่ งกันไป

ศลิ ปกรรมเมโสโปเตเมยี เมโสโปเตเมยี เปน็ คาภาษากรกี แปลวา่ ทร่ี ะหวา่ งแม่นา้ ดินแดนทช่ี าวกรกี เรียกวา่ เมโสโปเตเมียน้ี ตัง้ อยู่ในลมุ่ นา้ ไทกรสี - ยูเฟรตสิ เปน็ สว่ นหนึ่งของ “ดินแดนรปู พระจนั ทรเ์ ส้ียวอันอดุ มสมบรู ณ์” ซึ่งเป็นดินแดนรูปครง่ึ วงกลมผนื ใหญ่ที่ทอดโคง้ ข้นึ ไปจากฝ่ังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและอ่าวเปอร์เซยี

ศิลปกรรมซเู มอเรียน เปน็ ชนชาตแิ รกทีส่ ร้างความเจริญขึ้นในบรเิ วณเมโสโปเตเมยี เข้ามาอยู่ทางตอนลา่ ง ของแม่นา้ ไทกริสและยเู ฟรตสิ สนั นษิ ฐานวา่ อาจจะอพยพมาจากเอเชียกลาง มาสู่ดนิ แดนเมโสโปเตเมยี เมือ่ ประมาณ 3,500 ปกี ่อนคริสตกาล บริเวณทีเ่ ข้ามาตอนแรกคือ แควน้ ซูเมอร์ ซ่ึงอยู่ทางตอนใต้สดุ ของ เมโสโปเตเมยี ตดิ กบั อ่าวเปอร์เซยี

ตวั อักษร เปน็ ตวั อกั ษรเครื่องหมาย หรอื เรียกวา่ “อกั ษรรปู ลิ่ม” หรอื “อักษรคูนฟิ อรม์ ”

ซกิ กูแรต (Ziggurat) หรือ วหิ ารรูปรา่ งคล้ายพรี ะมิด ทาเปน็ ช้นั ๆสร้างข้นึ ด้วยอฐิ ไว้เปน็ บชู าเทพเจ้า ซ่งึ มีการนบั เทพเจา้ หลายองค์

ศลิ ปกรรมสมัยบาบิโลน 3,000 B.C.

ประตูอิชทาร์ (Ishtar Gate) จัดแสดงอยทู่ ่ี Pergamon Museum in Berlin แสดงศลิ ปกรรมบาบโิ ลนทผี่ สานทง้ั ประติมากรรมและสถาปตั ยกรรมใชโ้ ครงสร้างทางศลิ ปกรรมระบบประตโู คง้

ประตมิ ากรรมกระเบื้องเซรามคิ รปู สตั ว์บนสถาปตั ยกรรม สรา้ งประมาณ 604 - 562 B.C.

สวนลอยแห่งบาบโิ ลน (The Hanging Garden of Balylon) สถาปตั ยกรรมท่โี ดดเด่นและการเอาชนะธรรมชาตขิ องชาวบาบโิ ลนโดยการใชช้ ลประทาน

สวนลอยแหง่ บาบโิ ลน (The Hanging Garden of Balylon)

ภาพเมอื งของชาวบาบิโลนในจติ นาการจากหนังเร่อื ง อเลก็ ซานเดอรม์ หาราช ชาตนิ กั รบ

ประตมิ ากรรมสลกั หินภาพนนู ต่าและจารึกอกั ษรลิ่มเปน็ กฎหมายของฮัมมรู าบี

ศลิ ปกรรมอียปิ ต์ 3,000 – 1,085 B.C.

อกั ษรภาพเฮียโรกริฟคิ (Hieroglyph) อกั ษรอียปิ ต์โบราณ เปน็ อักษรภาพอยา่ งหนึ่งของอียปิ ต์โบราณ

กระดาษปาปิรสั กระดาษชนิดน้ที าจากตน้ กกปาปริ สั ซึ่งงอกงามอดุ มอย่ตู ามลมุ่ แมน่ า้ ไนล์ ประเทศอิยปิ ต์

ภาพจติ รกรรมฝาผนงั จากสุสานแสดงภาพผ้ชู ายกาลงั ลา่ นกชายเลนบงึ

ภาพ “สตั วป์ กี ในบึงนา้ ” 1,500 B.C.

ประตมิ ากรรมตกแตง่ บลั ลงั ก์ ฟาโรห์ตูตันคาแมน 1,360 B.C.

เซรามคิ รปู ฮิปโปโปเตมสั เคลอื บสีเขยี วขุ่นเขยี นลายรูปนกตน้ กกและดอกบวั แสดงวา่ ผ้ทู าอาศยั อยู่ตามแมน่ า้

รปู สลักหนิ ฟาโรห์กบั ราชนิ ี แสดงลกั ษณะรปู แบบท่มี ่งั คงในกรอบแทง่ หิน ภายใต้ความเชื่อท่จี ะใหอ้ ยู่ไดท้ นนานถงึ วนั สน้ิ โลก

มาสตาบา (Mastaba) หรือปิรามดิ แบบช้นั ท่ี ซัคการา สรา้ งสมยั ฟาโรห์โซเซอร์ (2,750 B.C. )

ปิรามิด (Pyramid)แหง่ กเิ ซห์ ต้ังอยู่ใกลก้ รุงไคโร (2,700 – 2,200 B.C.) ปริ ามดิ ท่สี งู ทีส่ ุดเปน็ ของฟาโรหค์ ูฟู (Khufu) ความสูง 481 ฟตุ ฐานดา้ นละ 775 ฟตุ ใชห้ นิ ประมาณ 2.3 ลา้ นก้อน หนกั ก้อนละ 2.5 ตนั ครอบคลมุ พน้ื ท่ี 32.5 ไร่

วหิ ารสกดั หน้าผาฟาโรหร์ ามซสี ที่ 2 ท่ีอาบู ซมิ เบล ดา้ นหนา้ มีรปู สลักขนาดใหข้ องพระองค์ 4 รปู ความสงู 60 ฟตุ

นกั โบราณคดีเช่อื ว่า มหาสฟงิ ซ์ แหง่ กิซา่ เป็นอนสุ าวรยี ์ของ ฟาโรห์คาเฟร ขนาด ความสูง 66 ฟุต ยาว 240 ฟตุ

ศลิ ปกรรมแบบ กรกี - โรมนั

ศิลปกรรมแบบกรกี 800 B.C. - 146 ศลิ ปกรรมของกรกี จะยดึ ม่นั ในเหตผุ ลและความสมบูรณข์ องมนษุ ย์ ต่างจากพวกอิยปิ ตแ์ ละเมโสโปเตเมยี ทีใ่ ช้ศิลปกรรมไปในทางบชู า เซน่ สรวง เกี่ยวกับศาสนา พวกกรีก ถอื วา่ รา่ งกายของมนษุ ยเ์ ป็นความงามตาม ธรรมชาติดุจเชน่ เดียวกับภเู ขา ต้นไม้ สายน้า ดังน้นั ศลิ ปกรรมของชาวกรกี จงึ แสดงถึงความสมบรู ณข์ องร่างกาย มนษุ ย์อย่างชดั เจน งานประติมากรรมภาพคนจะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ กลา้ มเน้ือและอวยั วะตา่ ง ๆ ใหส้ มบรู ณท์ สี่ ุด ปราศจากเครอื่ งนุ่มหม่

วหิ ารพาร์เธนอน ( Pathenon ) ต้งั อย่บู นสว่ นบนของอะโคโปลสิ ท่กี รุงเอเธนส์ 448 – 432 B.C.

วหิ ารพารเ์ ธนอน ( Pathenon )

วหิ ารพารเ์ ธนอน ( Pathenon )

เนนิ เขาอะโคโปลสิ แหง่ เอเธนส์ ( Acropolis )

โรงมหรสพกลางแจง้ อิพิดาอรุ ุส (Epidaurus Theatre) สรา้ งเม่อื 350 ปีกอ่ น ค.ศ.

โรงมหรสพกลางแจง้ อิพดิ าอรุ สุ (Epidaurus Theatre)

Venus de Milo ( 130 - 100 B.C.) Height 203 cm. Paris, Louvre Museum.

Nike of Samothrace เทพไี นกแ้ี ห่งซาโมเทรซ 190 B.C. Height 244 cm. Paris, Louvre Museum.



ศิลปกรรมแบบโรมนั 509 B.C. - 476 อิทรัสคัน เปน็ ชนชาตทิ อี่ ยูบ่ นแหลมอิตาลกี อ่ นโรมัน พวกเขามีความเป็นนักรบช้ันยอดในขณะเดียวกันก็ เป็นศลิ ปนิ ชั้นเยย่ี มดว้ ย ลกั ษณะงานทางสถาปัตยกรรมนยิ มวางผังเป็นรูปแบบสเ่ี หล่ยี มงา่ ย ๆ ใชโ้ ครงสร้างแบบวาง พาด มีการนาอิฐมาก่อสรา้ ง มกี ารสรา้ งทอ่ ส่งน้า ทอ่ ระบายน้า ภายหลงั พฒั นาจนมปี ระตโู ค้ง เพดานโค้ง เมอ่ื อทิ รสั คนั เสื่อมอานาจลง พวกโรมนั กเ็ รืองอานาจและเข้าปกครองแหลมอิตาลีแทน โรมนั อาจไดช้ ือ่ วา่ ยง่ิ ใหญท่ างการทหาร แตท่ างดา้ นศิลปกรรมกลับอย่ภู ายใตอ้ ิทธพิ ลของกรกี และอิทรัสคัน ศลิ ปะของพวกโรมนั นั้น คานึงถึงประโยชน์ใช้สอยต่อสาธารณชนมากกวา่ ความงดงาม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook