Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปก-ผสาน

ปก-ผสาน

Published by chothip5560, 2020-06-26 00:12:33

Description: ปก-ผสาน

Search

Read the Text Version

1 จุดประสงค์การเรียนรู้ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ วชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตันและทอมสัน เมื่อนกั เรียนไดป้ ฏบิ ตั ิกิจกรรมท้งั หมดในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั จนครบทุกกิจกรรมแลว้ นกั เรียนควรจะสามารถ 1. ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) 1.1 นกั เรียนสามารถบอกความหมายของอะตอมและอธิบายแบบจาลองอะตอม ของดอลตนั ไดถ้ กู ตอ้ ง 1.2 นกั เรียนสามารถอธิบายแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ไดถ้ ูกตอ้ ง 2. ด้านทักษะกระบวนการ (P) 2.1 นกั เรียนสามารถสืบคน้ ขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มูล แลว้ นาความรู้ไปใชใ้ นการเขียนและ สร้างแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั ไดถ้ ูกตอ้ ง 2.2 นกั เรียนสามารถปฏบิ ตั ิงานกลุ่มตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายได้ 3. ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 3.1 ความสนใจใฝ่ รู้ 3.2 ความมีระเบียบวนิ ยั 3.3 มีความมุ่งมน่ั ในการทางาน

2 คาแนะนาการใช้ ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของดอลตันและทอมสัน 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรูน้ ้ีใชเ้ วลาเรียน 1 ชว่ั โมง 2. นกั เรียนจะไดร้ ับเอกสารจากครูผสู้ อน ดงั น้ี 2.1 ใบความรู้ท่ี 1.1 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั 2.2 ใบงานที่ 1.1 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั 2.3 แบบบนั ทกึ ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั 2.4 ใบความรูท้ ่ี 1.2 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของทอมสนั 2.5 ใบงานที่ 1.2 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของทอมสนั 2.6 แบบบนั ทกึ ใบงานท่ี 1.2 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของทอมสนั 2.7 ใบกิจกรรมที่ 1.1 เร่ือง การสรา้ งแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั 2.8 แบบบนั ทึกกิจกรรมท่ี 1.1 เรื่อง การสร้างแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และ ทอมสนั 2.9 กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียนหลงั เรียน 2.10 วสั ดุอุปกรณ์ 2.10.1 ดินน้ามนั ( 3 สี) 3 กอ้ น/กลุ่ม 2.10.2 แผน่ กระดาษแขง็ ขนาด A 4 1 แผน่ /กลุ่ม 2.10.3 กล่องพลาสตกิ แผน่ กระดาษแขง็ ขนาด A 4 1 กล่อง/กลุ่ม 2.10.4 ปากกาเคมี 2 ดา้ ม/กลุ่ม 2.10.5 สีไม้ 1 กล่อง/กลุ่ม

3 คาแนะนาสาหรับนกั เรียน 1. กิจกรรมท่ีนกั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิ 1.1 ก่อนเรียนนกั เรียนตอ้ งศกึ ษาคูม่ ือนกั เรียนใหเ้ ขา้ ใจ 1.2 ขณะเรียนนกั เรียนตอ้ งปฏิบตั กิ ิจกรรมแต่ละกิจกรรมท่ีกาหนดตามลาดบั ต้งั แต่ หนา้ แรกจน หนา้ สุดทา้ ย ไม่ควรขา้ มข้นั ตอน 1.3 นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนจานวน 10 ขอ้ โดยไม่ดูเฉลยก่อน จนกวา่ จะ ทา แบบทดสอบครบท้งั หมด แลว้ จึงตรวจคาตอบจากแบบเฉลย 1.4 การทากิจกรรมตามใบกิจกรรม ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ี 1.1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั ใบงานที่ 1.2 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของทอมสนั และใบกิจกรรม ท่ี 1.2 เรื่อง การสรา้ งแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั โดยใหค้ วามร่วมมือและปฏบิ ตั ิ กิจกรรมกลุ่มดว้ ยความต้งั ใจ 1.5 นกั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมของชุดกิจกรรมการเรียนรูต้ ามลาดบั เม่ือเสร็จแลว้ ทา แบบทดสอบหลงั เรียนจานวน 10 ขอ้ โดยในการเรียนรูจ้ ากชุดกิจกรรมการเรียนรู้แตล่ ะกลุ่มอาจใช้ เวลาไม่เท่ากนั ได้ 2. การประเมินผลการเรียนรู้ จะประเมินโดยครูผสู้ อน จากการตรวจผลการปฏิบตั ิงานจาก ชุด กิจกรรม แบบบนั ทึกพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิงานกลุ่ม และแบบทดสอบหลงั เรียน 2.1 นกั เรียนที่มีคะแนนการประเมินรวม ร้อยละ 80 ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ าร ประเมิน 2.2 นกั เรียนท่ไี ม่ผา่ นการประเมินตอ้ งพฒั นาการเรียนรู้ใหม่ตามกิจกรรมทคี่ รูช้ีแนะ เพม่ิ เติมแลว้ ประเมินผลใหม่

4 แนวความคดิ หลกั อะตอม มาจากภาษากรีกวา่ “atomos” ซ่ึงแปลวา่ “แบ่งแยกอีกไม่ได”้ หมายความวา่ อะตอม คือ หน่วยยอ่ ยทเี่ ลก็ ท่ีสุดซ่ึงไม่สามารถแบ่งใหเ้ ล็กลงไปไดอ้ ีก แนวความคดิ ดงั กล่าวน้ีไดจ้ ากนกั ปราชญช์ าวกรีก ช่ือ ดิโมคริตสุ (Demokritos) แบบจาลองอะตอมของดอลตัน คือแบบจาลองอะตอมที่เสนอโดยนายจอหน์ ดอลตนั นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวองั กฤษ โดยกล่าววา่ อะตอมมีลกั ษณะเป็นทรงกลม มี ขนาดเลก็ มากและไม่สามารถแบง่ แยกไดอ้ ีก แบบจาลองอะตอมของทอมสัน คือแบบจาลองอะตอมทเ่ี สนอโดยนายเจ.เจ. ทอมสนั นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวองั กฤษ โดยกล่าวว่า อะตอมมีลกั ษณะเป็ นทรงกลม ประกอบดว้ ยโปรตอนซ่ึงมีประจุบวกและอิเลก็ ตรอนซ่ึงมีประจุลบ กระจายอยทู่ ว่ั ไป อยา่ งสม่าเสมอ และในอะตอมท่เี ป็นกลางทางไฟฟ้าจะมีจานวนโปรตอนเท่ากบั จานวนอิเล็กตรอน

5 แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตันและทอมสัน จานวน 10 ข้อ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งที่สุด 1. นกั วทิ ยาศาสตร์ในสมยั โบราณมีความเช่ือเก่ียวกบั อะตอมอยา่ งไร ก. อะตอมแบ่งแยกไม่ได้ ข. อะตอมมีขนาดเล็กท่ีสุด ค. ไม่มีอนุภาคองคป์ ระกอบภายในอะตอม ง. ถูกทุกขอ้ 2. อะตอมมาจากภาษากรีก ท่แี ปลวา่ อยา่ งไร ก. อนุภาค ข. ส่วนทเี่ ล็กๆ ค. แบ่งแยกอีกได้ ง. แบง่ แยกอีกไมไ่ ด้ 3. นกั วทิ ยาศาสตร์ทเี่ สนอแบบจาลองอะตอมเป็นคนแรก คือขอ้ ใด ก. นีล โบร์ ข. จอหน์ ดอลตนั ค. เซอร์โจเซฟ จอหน์ ทอมสนั ง. ลอร์ดเออร์เนสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด 4. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. แบบจาลองอะตอมคอื มโนภาพที่สร้างข้นึ โดยอาศยั ขอ้ มลู จากการทดลองซ่ึงอาจถกู หรือผิดกไ็ ด้ ข. นกั วทิ ยาศาสตร์ท่ีเสนอแนวคิดวา่ อะตอมไม่เลก็ ที่สุดแต่ยงั มีอิเลก็ ตรอนเลก็ กวา่ คอื ดอลตนั ค. แนวคิดของดอลตนั ทว่ี า่ อะตอมของธาตุชนิดเดียวกนั จะมีสมบตั ิเหมือนกนั ปัจจุบนั ยงั ถูกตอ้ ง ง. เมื่อดูอะตอมดว้ ยกลอ้ งจลุ ทรรศน์สนามไอออนกาลงั ขยาย 750,000 เทา่ จะสามารถมองเห็น อะตอมได้

6 5. ขอ้ ใดไม่ใช่แบบจาลองอะตอมของดอลตนั ก. อะตอมมีขนาดเลก็ แบง่ แยกไมไ่ ด้ ข. อะตอมของธาตุชนิดเดียวดนั มีสมบตั ิเหมือนกนั ค. น้าหนกั ของธาตุทร่ี วมกนั คอื น้าหนกั ของอะตอม ง. อะตอมของธาตุต่างชนิดกนั มีมวลนิวตรอนเทา่ กนั ได้ 6. ขอ้ ใดสนบั สนุนวา่ อะตอมไม่ใช่อนุภาคทีเ่ ล็กท่สี ุด ก. การคน้ พบไอโซโทป ข. การคน้ พบธาตกุ มั มนั ตรังสี ค. การคน้ พบสารประกอบชนิดต่าง ๆ ง. การคน้ พบอิเล็กตรอน นิวตรอนและโปรตอน 7. เหตใุ ดแบบจาลองอะตอมของดอลตนั จงึ ไม่เป็ นทยี่ อมรับในปัจจบุ นั ก. เพราะมีการคน้ พบโปรตอนและอิเลก็ ตรอน ข. เพราะอิเลก็ ตรอนเคล่ือนทีต่ ามรูปร่างของออร์บิทลั ค. เพราะอิเล็กตรอนเคล่ือนท่รี อบนิวเคลียสเป็ นระดบั ช้นั ง. เพราะโปรตอนอยรู่ ่วมกนั ในนิวเคลียส ส่วนอิเล็กตรอนเคล่ือนที่รอบนิวเคลียส 8. การทดลองของทอมสนั ทาใหท้ ราบส่ิงใด ก. โปรตอน ข. นิวตรอน ค. โพซิตรอน ง. อิเลก็ ตรอน 9. จากผลการทดลองใดท่ที าใหท้ อมสนั สรุปวา่ รังสีแคโทดมีอนุภาคที่มีประจไุ ฟฟ้า ก. รงั สีเบนเขา้ หาข้วั บวกของสนามไฟฟ้า ข. รงั สีเบนจากแนวเสน้ ตรงเมื่อผา่ นสนามไฟฟ้า ค. รงั สีพงุ่ เป็นเสน้ ตรงจากแคโทดกระทบฉากเรืองแสง ง. หาอตั ราส่วนประจุตอ่ มวลของทุกรงั สีทเี่ กิดจากแก๊สทุกชนิดเป็ นคา่ เดียวกนั 10. ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ งตามแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ก. จานวนอิเล็กตรอนเท่ากบั จานวนโปรตอน ข. อะตอมเป็นอนุภาคทไี่ ม่เป็นกลางทางไฟฟ้า ค. อะตอมประกอบดว้ ยอิเลก็ ตรอนและโปรตอน ง. อิเลก็ ตรอนมีประจุไฟฟ้าลบ โปรตอนมีประจไุ ฟฟ้าบวก

7 ใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตัน จุดประสงค์การเรียนรู้ อธิบายความหมายของอะตอมและแบบจาลองอะตอมของดอลตนั ได้ อะตอม มาจากภาษากรีกวา่ “atomos” ซ่ึงแปลวา่ “แบ่งแยกอีกไม่ได”้ หมายความวา่ อะตอม คอื หน่วยยอ่ ยท่เี ลก็ ทีส่ ุดซ่ึงไม่สามารถแบง่ ใหเ้ ล็กลงไปไดอ้ ีก แนวความคดิ ดงั กล่าวน้ีได้ จากนกั ปราชญช์ าวกรีก ชื่อ ดิโมคริตุส (Demokritos) เนื่องจากอะตอมมีขนาดเล็กมากจึงยงั ไม่เคยมีใครมองเห็นดว้ ยตาเปล่า แมแ้ ต่ใชก้ ลอ้ ง จุลทรรศนอ์ ิเลก็ ตรอน กย็ งั ไม่สามารถมองเห็นอะตอมได้ จนในปัจจุบนั ไดม้ ีการพฒั นากลอ้ ง จลุ ทรรศนส์ นามไอออนทมี่ ีกาลงั ขยายสูงถึง 750,000 เทา่ จงึ สามารถถ่ายภาพปลายเขม็ ของธาตุ รีเนียม (Rhenium) ซ่ึงเชื่อกนั วา่ เป็นภาพของอะตอมได้ แมว้ า่ จะถ่ายภาพท่เี ช่ือวา่ เป็ นอะตอมได้ แต่จากภาพถ่ายดงั กล่าวก็ยงั ไม่สามารถบอกรายละเอียดภายในอะตอมได้ การทีอ่ ะตอมมีขนาดเลก็ มากจนไม่สามารถมองเห็นได้ การศึกษาเก่ียวกบั อะตอมจึงใช้ วธิ ีการสนั นิษฐาน โดยใชข้ อ้ มูลตา่ ง ๆ ท่ไี ดจ้ ากการทดลอง นามาสรา้ งมโนภาพหรือแบบจาลอง ของอะตอมข้ึนมา แบบจานองอะตอมมีหลายแบบ แตล่ ะแบบไดถ้ ูกกาหนดข้นึ มาโดยอาศยั การ ทดลองเป็นหลกั ในข้นั แรกมีขอ้ มูลเกี่ยวกบั อะตอมจานวนนอ้ ย ลกั ษณะของแบบจาลองอะตอมก็ เป็นอยา่ งหน่ึง เม่ือมีขอ้ มูลเพมิ่ ข้นึ จนแบบจาลองน้นั ไม่สามารถอธิบายขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการศึกษา ใหม่ ๆ กจ็ าเป็นตอ้ งมีการแกไ้ ขแบบจาลองอะตอม ดงั น้นั แบบจาลองอะตอมจงึ ไดม้ ีการพฒั นา และเปลี่ยนแปลงไปไดเ้ รื่อย ๆ แมก้ ระทงั่ ในปัจจบุ นั แบบจาลอง คือ มโนภาพที่สร้างข้นึ โดยอาศยั ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการทดลอง แบบจาลอง ทางวทิ ยาศาสตร์ เป็นมโนภาพทีน่ กั วทิ ยาศาสตร์ สร้างข้ึน เพอ่ื บอกลกั ษณะของสิ่งทีม่ องไม่เห็น เช่น อะตอม แบบจาลองสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อขอ้ มูลจากการทดลองเปลี่ยนแปลงไป รูปท่ี 1.1 ภาพถ่ายปลายเขม็ ของธาตุรีเนียม ทมี่ า : http:// www.scimath.org.th, 2555

8 แบบจาลองอะตอมของดอลตนั นกั วทิ ยาศาสตร์ทเ่ี สนอแบบจาลองเป็นคนแรก คอื จอห์น ดอลตัน (Jhon Dalton) โดยเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกบั ทฤษฎีอะตอมไวใ้ นปี พ.ศ. 2346 ซ่ึงมีขอ้ ความท่ีสาคญั สรุปได้ ดงั น้ี 1. ธาตุประกอบดว้ ยอนุภาคขนาดเลก็ เรียกวา่ อะตอม ซ่ึงแบ่งแยกไม่ไดแ้ ละสรา้ งข้ึนหรือ ทาลายใหส้ ูญหายไปไม่ได้ 2. อะตอมเดียวกนั จะมีมวลเท่ากนั มีสมบตั ิเหมือนกนั แตจ่ ะแตกตา่ งจากอะตอมของ ธาตุอื่น ๆ 3. สารประกอบเกิดจากการรวมตวั กนั ของอะตอมของธาตุต่างชนิดกนั ดว้ ยอตั ราส่วน ของจานวนอะตอมคงท่ีเป็นเลขลงตวั นอ้ ย ๆ 4. อะตอมของธาตสุ องชนิดอาจรวมตวั กนั ดว้ ยอตั ราส่วนตา่ ง ๆ กนั เกิดเป็ น สารประกอบไดห้ ลายชนิด แบบจาลองอะตอมของดอลตนั ใชอ้ ธิบายเก่ียวกบั กฎทรงมวลสารสมั พนั ธไ์ ด้ จงึ เป็นท่ี ยอมรับกนั ในสมยั น้นั และทาใหน้ กั วทิ ยาศาสตร์เริ่มหนั มาสนใจศกึ ษาเก่ียวกบั อะตอมมากข้นึ ต่อมาเม่ือการศึกษาไดพ้ ฒั นามากข้นึ พบขอ้ มูลเก่ียวกบั อะตอมมากข้นึ ขอ้ มลู ใหม่ ๆ เหล่าน้ี บางประการกไ็ ม่สอดคลอ้ งกบั แนวความคดิ ของดอลตนั เช่น พบวา่ อะตอมไม่ใช่หน่วยทเี่ ลก็ ทสี่ ุด อะตอมยงั สมารถมอี นุภาคยอ่ ย ๆ ลงไปไดอ้ ีก อะตอมของธาตุชนิดเดียวกนั ก็อาจไม่ จาเป็นตอ้ งมีสมบตั ิต่าง ๆ เหมือนกนั ทุกประการ เช่น มีมวลตา่ งกนั ได้ นอกจากน้ีขอ้ มูลบาง เรื่องก็ไม่สามารถอธิบายไดโ้ ดยแนวความคิดของดอลตนั เช่น ปรากฏการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในหลอด รงั สีแคโทด นกั วทิ ยาศาสตร์คนตอ่ ๆ มาจงึ ไดพ้ ยายามเสนอแบบจาลองอะตอมชนิดใหม่ รูปที่ 1.2 ภาพแบบจาลองอ.ะตอม รูปท่ี 1.3 ภาพดอลตนั ของดอลตนั ท่ีมา : http:// www.proma.ac.th, 2555 ทมี่ า : http://www.scimath.org.th, 2555

9 ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) นกั เรียนสามารถบอกความหมายของอะตอมและอธิบายแบบจาลองอะตอม ของดอลตนั ไดถ้ กู ตอ้ ง คาชี้แจง : จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ งและสมบรู ณ์ 1. อะตอม หมายถึง ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2. แบบจาลองอะตอม หมายถึง ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 3. ทฤษฎีอะตอมของดอลตนั มีสาระสาคญั อยา่ งไร จงอธิบาย ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 4. ทฤษฎีอะตอมของดอลตนั มีขอ้ จากดั ในการอธิบายเกี่ยวกบั โครงสรา้ งอะตอมอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 5. นกั เรียนคดิ วา่ แบบจาลองอะตอมที่สร้างข้นึ มาน้นั สามารถปรบั ปรุงหรือเปล่ียนแปลงไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………….

10 ใบความรู้ท่ี 1.2 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของทอมสัน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ อธิบายความหมายของอะตอม แบบจาลองอะตอมของทอมสนั ได้ แบบจาลองอะตอมของทอมสัน รูปท่ี 1.4 ภาพหลอดรังสีแคโทด ในปลายคริสตศ์ ตวรรษท่ี 19 ไดม้ ีการคน้ พบรังสี ทมี่ า : http:// www.scimath.org.th, ชนิดหน่ึง ซ่ึงเรียกวา่ รงั สีแคโทด ( cathode ray) ที่ไดจ้ าก 2555 การทดลองของนกั วทิ ยาศาสตร์ช่ือ Julius Plicker ซ่ึงใช้ หลอดแกว้ ที่สูบอากาศออก และมอี ิเลก็ โตรด 2 อนั อยู่ คนละขา้ ง (แอโนดเป็ นข้วั ไฟฟ้าบวก และแคโทดเป็ น ข้วั ไฟฟ้าลบ)ของหลอดแกว้ และตอ่ ไปยงั ไฟฟ้าท่มี ีศกั ยส์ ูง ทาใหเ้ กิดรงั สีข้นึ ภายในหลอดแกว้ เรียกวา่ รังสีแคโทด ทมี า : www.scimat.org.th และเรียกหลอดแกว้ ชนิดน้ีวา่ หลอดรังสีแคโทด ในปี พ.ศ. 2429 ออยเกน โกลดไ์ ตน์ รูปท่ี 1.5 ภาพหลอดรังสีแคโทด นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวเยอรมนั ไดด้ ดั แปลงหลอด ทมี่ า : http:// www.scimath.org.th, 2555 รงั สีแคโทด โดยเจาะรูตรงกลางข้วั แอโหนดและ แคโทด เลื่อนข้วั ท้งั สองมาไวเ้ กือบตรงกลาง รูปท่ี 1.6 ภาพหลอดรังสีแคโทด หลอด รวมท้งั เพมิ่ ฉากเรืองแสงทป่ี ลายท้งั สอง กบั อนุภาคบวก ดา้ นของหลอด ทมี่ า : http:// www.scimath.org.th, 2555 เม่ือผา่ นกระแสไฟฟ้าเขา้ ไปในหลอด ปรากฏวา่ มีจดุ สวา่ ง เกิดข้นึ บนฉากเรืองแสงท้งั สองดา้ น ซ่ึงเกิดจากรังสีที่ไปกระทบกบั ฉากเรือง แสงบริเวณดา้ นหลงั แคโทดตอ้ งมีอนุภาคท่ีเป็น ประจบุ วก เมื่อทาการทดลองกบั แก๊สอีกหลาย ชนิด พบวา่ อนุภาคท่มี ีประจบุ วกเหล่าน้ีมี อตั ราส่วนของประจุต่อมวล (e/m) ไม่คงท่ี นอกจากน้ียงั พบวา่ ถา้ บรรจุแกส๊ ไฮโดรเจนไวใ้ นหลอดรงั สีแคโทด จะไดอ้ นุภาค ท่มี ีประจไุ ฟฟ้าบวกเทา่ กบั ประจไุ ฟฟ้าลบ และ เรียกอนุภาคบวกทเี่ กิดจากแกส็ ไฮโดรเจน วา่ โปรตอน

11 และในปี พ.ศ. 2440 ไดม้ ีผทู้ าการทดลอง เก่ียวกบั รังสีแคโทดน้ี โดยคน้ พบวา่ มีอนุภาคทม่ี ีประจุ ไฟฟ้าลบ ซ่ึงต่อมาเรียกวา่ \"อิเลก็ ตรอน“ จากรงั สีแคโทด เขาผนู้ ้ีคือ เซอร์โจเซฟ จอห์น ทอมสนั ( Sir Joseph John Thomson ) ไดท้ าการทดลองเก่ียวกบั การนาไฟฟ้าของ กา๊ ซโดยใชห้ ลอดรงั สีแคโทด ดว้ ยวธิ ีการดงั น้ี ของ หลอดแกว้ และตอ่ ไปยงั ไฟฟ้าทมี่ ีศกั ยส์ ูง ทาใหเ้ กิดรังสี ข้นึ ภายในหลอดแกว้ เรียกวา่ รังสีแคโทด รูปที่ 1.7 ภาพทอมสัน ทมี่ า : http:// www.nobleprize.org, 2555 1. บรรจุกา๊ ซชนิดหน่ึงไวใ้ นหลอดรังสี รูปท่ี 1.8 ภาพหลอดรังสีแคโทด แคโทดซ่ึงต่อกบั เครื่องสูบเอาอากาศออกเพอื่ ให้ ที่ดดั แปลงแลว้ ภายในมีความดนั ต่า ตอ่ ข้วั ท้งั สองเขา้ กบั เครื่อง กาเนิดไฟฟ้าศกั ยส์ ูง ทแ่ี ผน่ แอโนดเจาะรูตรงกลาง ทม่ี า : http:// www.rmuphysics.com, 2555 มีแผน่ ฉากเรืองแสงซ่ึงเคลือบดว้ ย ZnS วางท่ี ปลายหลอด เมื่อครบวงจร จะปรากฏเห็นจุดสวา่ ง บนฉากเรืองแสง 2. ทดลองเอาสนามไฟฟ้ามาตอ่ ระหวา่ ง หลอดรังสีแคโทดและไดพ้ บวา่ รงั สีน้ีเบนเขา้ หา ข้วั บวกของสนามไฟฟ้า แสดงวา่ รงั สีน้ีตอ้ งมี ประจุลบอยา่ งแน่นอน จึง เรียกวา่ รังสีแคโทด รูปที่ 1.9 ภาพหลอดรังสีแคโทดท่ีมี ข้วั ไฟฟา้ ในหลอดเพมิ่ ข้ึนอีกสองข้วั ท่ีมา : http:// www.rmuphysics.com, 2555

12 3. ทดลองบรรจกุ ๊าซชนิดอ่ืน ๆ เขา้ ไปในหลอดรังสีแคโทด รวมท้งั เปลี่ยนชนิดของ โลหะที่ใชเ้ ป็นแคโทดก็ยงั พบวา่ จะไดร้ งั สีทีป่ ระกอบไปดว้ ยอนุภาคทม่ี ีประจุลบมาตกทฉ่ี าก เรืองแสงเสมอ นอกจากน้ีเขายงั สามารถคานวณอตั ราส่วนของประจุต่อมวลของอิเล็กตรอน วา่ มีคา่ คงท่ี ������ ของอิเลก็ ตรอน = 1.76 x 108 คูลอมบต์ อ่ กรมั ������ จากการทดลองน้ีทาใหท้ อมสนั คดิ วา่ อะตอมของธาตทุ กุ ชนิดตอ้ งประกอบดว้ ย อนุภาคทมี่ ีประจลุ บ เรียกวา่ อเิ ล็กตรอน ทอมสนั ไดเ้ สนอแบบจาลองอะตอมข้นึ ใหม่ ดงั น้ี \" อะตอมมีลกั ษณะเป็ นรูปทรงกลมประกอบด้วย อนุภาคทีม่ ปี ระจบุ วก และมอี ิเลก็ ตรอนซ่ึงมีประจไุ ฟฟ้า ลบ อะตอมโดยปกตอิ ยู่ในสภาพเป็ นกลางทางไฟฟ้า ซึ่ง ทาให้ท้ังสองประจุนี้มีจานวนเท่ากนั และกระจายอยู่ รูปท่ี 1.10 ภาพแบบจาลองอะตอม ทว่ั ไปอย่างสมา่ เสมอภายในอะตอม โดยมกี ารจดั เรียงที่ ของทอมสัน ทาให้อะตอมมสี ภาพเสถยี รมากทสี่ ุด\" ทม่ี า : http:// www.satriwit3.ac.th, 2555 นกั วทิ ยาศาสตร์จงึ สรุปผลของการศกึ ษาทดลองไดว้ า่ อะตอมเป็ นกลางทาง ไฟฟ้าต้องประกอบด้วยอนุภาคที่มปี ระจุบวก หรือโปรตรอน และอเิ ลก็ ตรอนซ่ึงเป็ น อนุภาคทมี่ ปี ระจลุ บ แตแ่ บบจาลองอะตอมของทอมสนั น้ียงั ไม่สามารถอธิบายขอ้ สงสยั บางอยา่ งได้ เช่น ประจไุ ฟฟ้าบวก อยกู่ นั ไดอ้ ยา่ งไรในอะตอม และ ไม่สามารถอธิบายคุณสมบตั อิ ื่นๆ ของอะตอม ตวั อยา่ งเช่น สเปกตรัมท่ีแผอ่ อกมาจากธาตุ จงึ มีนกั วทิ ยาศาสตร์รุ่นตอ่ มา คน้ ควา้ และทดลองเพอื่ หาขอ้ เทจ็ จริงตอ่ มา และปัจจบุ นั กไ็ ดท้ ราบวา่ แบบจาลองน้ีไม่ ถูกตอ้ ง

13 ในปี พ.ศ. 2451 รอเบริ ์ต แอนดรูส์ มิลลิ รูปที่ 1.11 ภาพการทดลอง หยดน้ามนั มลิ ลิแกน แกน นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวอเมริกนั ไดท้ าการทดลองที่ ทม่ี า : http:// www.satriwit3.ac.th, 2555 เรียกวา่ การทดลองหยดน้ามนั ของมิลลิแกน เพอ่ื หา ค่าประจขุ องอิเล็กตรอนโดยการพน่ ละอองน้ามนั ไป ในภาชนะหยดน้ามนั จะร่วงผา่ นรูลงไป โดยหยด น้ามนั เหล่าน้นั จะถูกทาให้ มีประจไุ ฟฟ้าเกิดจากรังสี การเคล่ือนท่ขี องหยดน้ามนั ภายในช่องวา่ งระหว่าง แผน่ โลหะทมี่ ีประจุบวกและลบ จะมีท้งั การตกลงไป และลอยข้ึนตามความโนม้ ถ่วงและสนามไฟฟ้าที่ เกิดข้นึ สงั เกตดูไดจ้ ากกลอ้ งจุลทรรศน์ หยดน้ามนั เหล่าน้ีเม่ือปรับสนามไฟฟ้าใหเ้ หมาะสมจนแรงจากสนามไฟฟ้าเท่ากบั แรงจากน้าหนกั ของหยดน้ามนั หยดน้ามนั จะลอยนิ่งอยเู่ นื่องจากสมดุลระหวา่ งแรงท้งั สอง จงึ สามารถคานวณหาค่าประจุไฟฟ้าทแ่ี ฝงอยบู่ นยอดน้ามนั ซ่ึงก็คือประจุของ อิเลก็ ตรอน ซ่ึงพบวา่ อิเล็กตรอนมีประจุเทา่ กบั 1.60 x 10-19 คูลอมบ์ และคานวณหา มวลไดเ้ ทา่ กบั 9.11 x 10-28 กรมั ซ่ึงมีค่านอ้ ยมาก จากการทดลองของทอมสนั ������ ของอิเลก็ ตรอน = 1.76 x 108 คูลอมบต์ อ่ กรัม ������ จากการทดลองของมิลลิแกน = 1.6 x 10-19 คูลอมบ์ ประจขุ องอิเลก็ ตรอน (e) = 1.6 x 10-19 ดงั น้นั มวลของอิเลก็ ตรอน 1.76 x 108 = 9.1 x 10-28 กรัม ( 1 ตวั )

14 ใบงานที่ 1.2 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของทอมสัน จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) 1. นกั เรียนสามารถอธิบายแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ได้ 2. นกั เรียนสามารถคานวณหาคา่ ประจตุ ่อมวลของอิเล็กตรอนได้ 1. รงั สีแคโทด คอื …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….. 2. อะตอมทกุ ชนิดมีอนุภาคทมี่ ีประจุลบ เรียกวา่ …………………..………………………………… และอนุภาคท่ีมีประจุบวกเรียกวา่ ………………………………………………………………… 3. จากผลการทดลองหลอดรงั สีแคโทด ทอมสนั เสนอแบบจาลองอะตอมไดด้ งั น้ี ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 4. จงบอกขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 5.ในการทดลองของทอมสนั เกี่ยวกบั หลอดรังสีแคโทด พบวา่ ไม่วา่ จะใชแ้ กส๊ อะไรบรรจใุ น หลอดรังสีแคโทดจะไดค้ า่ ของประจุต่อมวล = 1.7 ×108 คูลอมบต์ อ่ กรมั จงหามวลของอิเล็กตรอน ในหน่ึงอะตอมของออกซิเจน กาหนดประจขุ องอิเลก็ ตรอน = 1.6 × 10-19 คูลอมบ์ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………

15 ใบกจิ กรรม ที่ 1.1 เร่ือง การสร้างแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสัน จดุ ประสงค์ของกิจกรรม ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) นกั เรียนสามารถสืบคน้ ขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มูล แลว้ นาความรูไ้ ปใชใ้ นการเขยี นและสร้าง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั ไดถ้ กู ตอ้ ง อุปกรณ์ ท่ี รายการ จานวน/กล่มุ 3 กอ้ น 1 ดินน้ามนั ( 3 สี) 1 แผน่ 2 กระดาษแขง็ ขนาด A4 2 ดา้ ม 3 ปากกาเคมี 1 กล่อง 4 กล่องพลาสตกิ วธิ ีทา 1. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั ได้ 2. จากอุปกรณ์ท่ีกาหนดให้ นกั เรียนออกแบบและสรา้ งแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั ไดล้ งในกระดาษ A4 3. บนั ทกึ ผลและตอบคาถามทา้ ยกิจกรรม 4. นาเสนองานกล่มุ หนา้ ช้นั เรียนโดยนกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ประเมินผลงานตนเอง และผลงานเพอ่ื น

16 แบบบนั ทกึ ใบกจิ กรรมท่ี 1.1 เรื่อง การสร้างแบบจาลองอะตอมของดอลตันและทอมสัน รายชื่อสมาชิกกลุ่ม……………………………………. ………………………………………………..เลขที่……….ประธาน ………………………………………………..เลขท่ี………. ………………………………………………..เลขท่ี………. ………………………………………………..เลขท่ี……….เลขานุการ จุดประสงค์ของกิจกรรม ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) นกั เรียนสามารถสืบคน้ ขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มูล แลว้ นาความรูไ้ ปใชใ้ นการเขยี นและสรา้ ง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั ไดถ้ กู ตอ้ ง คาชีแ้ จง 1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามใบกิจกรรมท่ี 1.1 เร่ือง การสรา้ ง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั โดยใชเ้ วลา 20 นาที 2. บนั ทกึ ผลการทากิจกรรมลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรม บันทึกผลหลังกจิ กรรม 1. วาดภาพแบบจาลองอะตอมของดอลตนั ท่ีนกั เรียนสรา้ งข้ึน

17 2. จากแบบจาลองอะตอมของดอลตนั ทสี่ รา้ งข้นึ มีลกั ษณะเป็ นอยา่ งไร จงอธิบาย ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 3. วาดภาพแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ท่นี กั เรียนสรา้ งข้นึ 4. จากแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ท่ีสรา้ งข้นึ มีลกั ษณะเป็ นอยา่ งไร จงอธิบาย ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………

18 แบบทดสอบหลงั เรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้วิชาเคมี 1 ชุดที่ 1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสัน จานวน 10 ข้อ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบทถี่ ูกตอ้ งท่สี ุด 1. ขอ้ ใดไม่ใช่แบบจาลองอะตอมของดอลตนั ก. อะตอมมีขนาดเล็กแบง่ แยกไมไ่ ด้ ข. อะตอมของธาตชุ นิดเดียวดนั มีสมบตั เิ หมือนกนั ค. น้าหนกั ของธาตทุ ่รี วมกนั คอื น้าหนกั ของอะตอม ง. อะตอมของธาตุตา่ งชนิดกนั มีมวลนิวตรอนเท่ากนั ได้ 2. ขอ้ ใดสนบั สนุนวา่ อะตอมไม่ใช่อนุภาคท่ีเล็กท่ีสุด ก. การคน้ พบไอโซโทป ข. การคน้ พบธาตกุ มั มนั ตรังสี ค. การคน้ พบสารประกอบชนิดตา่ ง ๆ ง. การคน้ พบอิเล็กตรอน นิวตรอนและโปรตอน 3. เหตุใดแบบจาลองอะตอมของดอลตนั จึงไม่เป็ นทีย่ อมรับในปัจจุบนั ก. เพราะมีการคน้ พบโปรตอนและอิเลก็ ตรอน ข. เพราะอิเล็กตรอนเคล่ือนที่ตามรูปร่างของออร์บทิ ลั ค. เพราะอิเลก็ ตรอนเคล่ือนท่รี อบนิวเคลียสเป็ นระดบั ช้นั ง. เพราะโปรตอนอยรู่ ่วมกนั ในนิวเคลียส ส่วนอิเลก็ ตรอนเคลื่อนทีร่ อบนิวเคลียส 4. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. แบบจาลองอะตอมคือมโนภาพท่ีสร้างข้นึ โดยอาศยั ขอ้ มลู จากการทดลองซ่ึงอาจถกู หรือผิดกไ็ ด้ ข. นกั วทิ ยาศาสตร์ที่เสนอแนวคดิ วา่ อะตอมไม่เลก็ ทส่ี ุดแต่ยงั มีอิเล็กตรอนเลก็ กวา่ คือ ดอลตนั ค. แนวคดิ ของดอลตนั ทีว่ า่ อะตอมของธาตุชนิดเดียวกนั จะมีสมบตั เิ หมือนกนั ปัจจุบนั ยงั ถูกตอ้ ง ง. เมื่อดูอะตอมดว้ ยกลอ้ งจลุ ทรรศนส์ นามไอออนกาลงั ขยาย 750,000 เท่าจะสามารถมองเห็น อะตอมได้

19 5. การทดลองของทอมสนั ทาใหท้ ราบสิ่งใด ก. โปรตอน ข. นิวตรอน ค. โพซิตรอน ง. อิเลก็ ตรอน 6. จากผลการทดลองใดท่ที าใหท้ อมสนั สรุปวา่ รังสีแคโทดมีอนุภาคทีม่ ีประจไุ ฟฟ้า ก. รงั สีเบนเขา้ หาข้วั บวกของสนามไฟฟ้า ข. รังสีเบนจากแนวเสน้ ตรงเมื่อผา่ นสนามไฟฟ้า ค. รังสีพงุ่ เป็นเสน้ ตรงจากแคโทดกระทบฉากเรืองแสง ง. หาอตั ราส่วนประจุตอ่ มวลของทกุ รงั สีที่เกิดจากแกส๊ ทกุ ชนิดเป็ นคา่ เดียวกนั 7. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ งตามแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ก. จานวนอิเล็กตรอนเท่ากบั จานวนโปรตอน ข. อะตอมเป็นอนุภาคทไ่ี ม่เป็นกลางทางไฟฟ้า ค. อะตอมประกอบดว้ ยอิเล็กตรอนและโปรตอน ง. อิเลก็ ตรอนมีประจไุ ฟฟ้าลบ โปรตอนมีประจไุ ฟฟ้าบวก 8. นกั วทิ ยาศาสตร์ในสมยั โบราณมีความเชื่อเก่ียวกบั อะตอมอยา่ งไร ก. อะตอมแบง่ แยกไม่ได้ ข. อะตอมมีขนาดเลก็ ที่สุด ค. ไม่มีอนุภาคองคป์ ระกอบภายในอะตอม ง. ถูกทุกขอ้ 9. อะตอมมาจากภาษากรีก ที่แปลวา่ อยา่ งไร ก. อนุภาค ข. ส่วนท่เี ล็กๆ ค. แบ่งแยกอีกได้ ง. แบง่ แยกอีกไมไ่ ด้ 10.นกั วทิ ยาศาสตร์ทีเ่ สนอแบบจาลองอะตอมเป็นคนแรก คือขอ้ ใด ก. นีล โบร์ ข. จอหน์ ดอลตนั ค. เซอร์โจเซฟ จอหน์ ทอมสนั ง. ลอร์ดเออร์เนสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด

20 บรรณานุกรม . โครงสร้างอะตอม. สืบคน้ เมื่อเมษายน 1, 2555, จาก http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet3/atom/structure/modelrut.htm. . ธาตุและตารางธาตุ. สืบคน้ เม่ือเมษายน 1, 2555, จาก http://www.rsc.org/Education/Teachers/Resources/periodictable/scientists/newlands.htm. ธาตุและตารางธาตุ. สืบคน้ เม่ือเมษายน 3, 2555, จาก http://www.rmutphysics.com/charud/virtualexperiment/virtual2/periodic/periodic2/table60.html. วรี ะชาติ สวนไพรินทร์. มปป. เคมี สารและสมบตั ขิ องสาร วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 ตามหลักหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ภมู บิ ณั ฑิตการพมิ พ.์ ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั . 2550. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน และเพิ่มเติมเคมี 1. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว. ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั . 2553. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน และเพ่ิมเตมิ เคมี 1. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี กระทรวงศกึ ษาธิการ. 2553. หนังสือเรียน รายวิชาเพ่มิ เติม เคมี ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4-6 เล่ม 1กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐาน 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว. สาราญ พฤกษส์ ุนทร. 2550. เคมพี ื้นฐาน ม.4-6 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 2551. กรุงเทพมหานคร: บริษทั ธนธชั การพมิ พ์ จากดั . อะตอมและตารางธาตุ. สืบคน้ เมื่อเมษายน 1, 2555, จาก http://www.neutron.rmutphysics.com/. อะตอมและตารางธาตุ. สืบคน้ เม่ือเมษายน 1, 2555, จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Henry_Moseley. http:// www.nobleprize.org http:// www.proma.ac.th http:// www.rmuphysics.com http:// www.satriwit3.ac.th http://www.scimath.org.th

21 ภาคผนวก

22 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ วชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 1 เรื่อง แบบจาลองอะตอมของดอลตันและทอมสัน จานวน 10 ข้อ 1. ง 6. ง 2. ง 7. ก 3. ข 8. ง 4. ก 9. ก 5. ง 10.ข ทาถูกหรือเปล่า จะ๊ เปิ ดหน้าต่อไป ได้เลยจะ๊

23 แนวการบนั ทกึ ใบงานที่ 1.1 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของดอลตัน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของอะตอมและอธิบายแบบจาลองอะตอม ของดอลตนั ไดถ้ ูกตอ้ ง คาชี้แจง : จงตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ งและสมบรู ณ์ 1. อะตอม หมายถึง อนุภาคที่เลก็ ทสี่ ุดของธาตุ ท่ยี งั แสดงสมบตั ิของธาตไุ ด้ 2. แบบจาลองอะตอม หมายถึง แบบจาลองอะตอม คือ มโนภาพท่สี รา้ งข้ึนมาโดยอาศยั ขอ้ มูลจากการทดลอง ซ่ึงอาจถูกหรือผดิ ก็ได้ 3. ทฤษฎีอะตอมของดอลตนั มีสาระสาคญั อยา่ งไร จงอธิบาย 1. ธาตุประกอบดว้ ยอนุภาคขนาดเลก็ เรียกวา่ อะตอม 2. อะตอมเดียวกนั จะมีมวลเท่ากนั มีสมบตั เิ หมือนกนั แตจ่ ะแตกต่างจากอะตอม ของธาตุอ่ืน ๆ 3. สารประกอบเกิดจากการรวมตวั กนั ของอะตอมของธาตตุ ่างชนิดกนั ดว้ ยอตั ราส่วน ของจานวนอะตอมคงทเ่ี ป็นเลขลงตวั นอ้ ย ๆ 4. อะตอมของธาตสุ องชนิดอาจรวมตวั กนั ดว้ ยอตั ราส่วนตา่ ง ๆ กนั เกิดเป็ น สารประกอบไดห้ ลายชนิด 4. ทฤษฎีอะตอมของดอลตนั มีขอ้ จากดั ในการอธิบายเก่ียวกบั โครงสรา้ งอะตอมอยา่ งไร พบวา่ อะตอมไม่ใช่หน่วยทเี่ ลก็ ทีส่ ุด อะตอมยงั สมารถมอี นุภาคยอ่ ย ๆ ลงไปไดอ้ ีก อะตอมของธาตุชนิดเดียวกนั กอ็ าจไม่จาเป็ นตอ้ งมีสมบตั ติ า่ ง ๆ เหมือนกนั ทุกประการ เช่น มีมวลตา่ งกนั ได้ 5. นกั เรียนคิดวา่ แบบจาลองอะตอมที่สร้างข้นึ มาน้นั สามารถปรับปรุงหรือเปล่ียนแปลงได้ หรือไม่ เพราะเหตุใด แบบจาลองสามารถเปล่ียนแปลงได้ เม่ือขอ้ มูลจากการทดลองเปลี่ยนแปลงไป

24 แนวการบันทกึ ใบงานที่ 1.2 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของทอมสัน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ได้ 2. นกั เรียนสามารถคานวณหาค่าประจุต่อมวลของอิเลก็ ตรอนได้ คาชี้แจง : จงตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ งและสมบรู ณ์ 1. รังสีแคโทด คอื รงั สีทีม่ ีประจลุ บ พงุ่ ออกจากข้วั ไฟฟ้าแคโทดไปยงั แอโนด 2. อะตอมทกุ ชนิดมอี นุภาคทม่ี ีประจุลบ เรียกวา่ อิเลก็ ตรอน และอนุภาคทม่ี ีประจบุ วกเรียกวา่ โปรตอน 3. จากผลการทดลองหลอดรังสีแคโทด ทอมสนั เสนอแบบจาลองอะตอมไดด้ งั น้ี อะตอมมีลกั ษณะเป็นรูปทรงกลมประกอบดว้ ยอนุภาคที่มีประจุบวก และมอี ิเล็กตรอนซ่ึงมีประจุ ไฟฟ้าลบ อะตอมโดยปกติอยใู่ นสภาพเป็ นกลางทางไฟฟ้า ซ่ึงทาใหท้ ้งั สองประจุน้ีมีจานวนเท่ากนั และกระจายอยทู่ ว่ั ไปอยา่ งสม่าเสมอภายในอะตอม โดยมีการจดั เรียงท่ีทาใหอ้ ะตอมมีสภาพเสถียร มากท่สี ุด 4. จงบอกขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสนั แบบจาลองอะตอมของดอลตนั อธิบายวา่ ตอม คอื อนุภาคทเี่ ล็กทส่ี ุดของธาตุ และ แบ่งแยกไม่ได้ ส่วนแบบจาลองอะตอมของทอมสนั อธิบายวา่ อะตอมไม่ใช่อนภาคท่เี ล็กทส่ี ุดของ ธาตุ เพราะในอะตอมยงั ประกอบดว้ ยอนุภาคท่มี ีประจุบวก และมีอิเลก็ ตรอนซ่ึงมีประจไุ ฟฟ้าลบ 5. ในการทดลองของทอมสนั เกี่ยวกบั หลอดรังสีแคโทด พบวา่ ไม่วา่ จะใชแ้ กส๊ อะไรบรรจุใน หลอดรังสีแคโทดจะไดค้ ่าของ = 1.7 ×108 คูลอมบต์ อ่ กรัม จงหามวลของอิเล็กตรอนในหน่ึง อะตอมของออกซิเจน กาหนดประจุของอิเลก็ ตรอน = 1.6 × 10-19คูลอมบ์ ������ ของอิเลก็ ตรอน = 1.76 x 108 คูลอมบต์ อ่ กรัม ������ = 1.6 x 10-19 คูลอมบ์ = 1.6 x 10-19 ประจขุ องอิเล็กตรอน (e) ดงั น้นั มวลของอิเลก็ ตรอน 1.76 x 108 = 9.1 x 10-28 กรมั ( 1 ตวั )

25 แนวการบันทกึ กจิ กรรมที่ 1.1 เร่ือง การสร้างแบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสัน บนั ทึกผลหลงั กจิ กรรม 1. วาดภาพแบบจาลองอะตอมของดอลตนั ท่นี กั เรียนสร้างข้ึน 2. จากแบบจาลองอะตอมของดอลตนั ที่สรา้ งข้นึ มีลกั ษณะเป็ นอยา่ งไร จงอธิบาย แบบจาลองอะตอมของดอลตนั เป็น ทรงกลมทม่ี ีขนาดเลก็ ที่สุด ซ่ึงแบง่ แยกไม่ได้ - ธาตปุ ระกอบดว้ ยอนุภาคขนาดเลก็ เรียกวา่ อะตอม - อะตอมเดียวกนั จะมีมวลเทา่ กนั มีสมบตั เิ หมือนกนั แตจ่ ะแตกต่างจากอะตอมของธาตอุ ่ืน ๆ - สารประกอบเกิดจากการรวมตวั กนั ของอะตอมของธาตตุ ่างชนิดกนั ดว้ ยอตั ราส่วนของ จานวน อะตอมคงทเ่ี ป็นเลขลงตวั นอ้ ย ๆ - อะตอมของธาตสุ องชนิดอาจรวมตวั กนั ดว้ ยอตั ราส่วนต่าง ๆ กนั เกิดเป็ นสารประกอบ ไดห้ ลายชนิด

26 3. วาดภาพแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ทีน่ กั เรียนสรา้ งข้ึน 4. จากแบบจาลองอะตอมของทอมสนั ท่สี ร้างข้นึ มีลกั ษณะเป็ นอยา่ งไร จงอธิบาย อะตอมมีลกั ษณะเป็นรูปทรงกลมประกอบดว้ ยอนุภาคที่มีประจบุ วก และมอี ิเลก็ ตรอนซ่ึง มีประจไุ ฟฟ้าลบ อะตอมโดยปกติอยใู่ นสภาพเป็ นกลางทางไฟฟ้า ซ่ึงทาใหท้ ้งั สองประจุน้ีมีจานวน เท่ากนั และกระจายอยทู่ ว่ั ไปอยา่ งสม่าเสมอภายในอะตอม โดยมีการจดั เรียงทีท่ าใหอ้ ะตอมมีสภาพ เสถียรมากที่สุด

27 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ วชิ าเคมี 1 ชุดที่ 1 เร่ือง แบบจาลองอะตอมของดอลตนั และทอมสัน จานวน 10 ข้อ 1. ง 6. ก 2. ง 7. ข 3. ก 8. ง 4. ก 9. ง 5. ง 10. ข ไชโย สอบผา่ นแลว้ ! เก่งจงั เลย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook