Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติบุคคลสำคัญ เล่ม 1A

ประวัติบุคคลสำคัญ เล่ม 1A

Published by Natthaphat Maphon, 2021-03-01 09:24:12

Description: l

Search

Read the Text Version

Ç\"Õõ¡ÒíùÃÁÒʹ‹Ù \" เสนอตอ ครูวฒุ ิชยั เช่อื มประไพ โรงเรยี นมธั ยมวดั หนองแขม สังกัดสาํ นักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษา เขต 1

ก วรี กรรมสู่ \"ตาํ นาน\" สมาชิก นายกรนทร์ กาญจนะ ม.5.3 เลขที 1 นายกฤตกานต์ พวงมาลยั ม.5.3 เลขที 2 นายชลนที อาภาแสงสว่าง ม.5.3 เลขที 3 นายณฐั พชั ร์ มาพล ม.5.3 เลขที 4 นายปรญญา มะลิพันธ์ ม.5.3 เลขที 6 นายพฤฒนิ นั ท์ พมุ่ พันธุ์ ม.5.3 เลขที 7 นายภมู ินทร์ สุทธิธรรม ม.5.3 เลขที 8 นายมงคล กระถินทอง ม.5.3 เลขที 9 นายวัลลภ เกิดธนัชพร ม.5.3 เลขที 12 เสนอ ครูวุฒิชัย เชือมประไพ โรงเรยนมัธยมวัดหนองแขม สํานักงานเขตพนื ทีการศกึ ษา เขต 1

ข คาํ นาํ หนังสือเล่มนีเปนส่วนหนึงของวิชา ส ๓๒๑๗๔ วิชา ประวัติศาสตร์ ชันมัธยมศึกษาปที ๕ โดยมีจุดประสงค์ เพือ การศึกษาความรู้ทีได้จากเรืองบุคคลสําคัญในประเทศไทย ซึงหนังสือเล่มนีมีเนือหาเกียวกับพระราชกรณียกิจ ตลอด จนการนําไปประยุกต์ใช้ ของบุคคลสําคัญหลายๆท่าน อัน แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในทรงงานของพระองค์ เพือสดุดีวีรกรรมของบุคคลหลายๆท่าน ผู้จัดทาํ ได้เลือก หัวข้อนีในการทาํ รายงาน เนืองมา จ า ก เ ป น เ รื อ ง ที น่ า ส น ใ จ ร ว ม ถึ ง เ ป น ก า ร เ ทิ ด พ ร ะ เ กี ย ร ติ วี ร กษัตริย์ไทยและความมานะของบรรพบุรุษผู้จัดทําจะต้อง ขอขอบคุณ ครูวุฒิชัย เชือมประไพ ผู้ให้ความรู้ แนวทาง การศึกษาและให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอดผู้จัดทําหวัง ว่ารายงานฉบับนีจะให้ความรู้ และเปนประโยชน์แก่ผู้อ่าน ทุก ๆ ท่าน คณะผู้จัดทํา

ค สารบัญ รายชือสมาชกิ หน้า คาํ นํา สารบัญ ก พระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว ข สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิตพิ ระบรมราชินีนาถ ค พระบาทสมเดจ็ พระปนเกลา้ เจา้ อย่หู วั 1 กรมพระราชวงั บวรวไชยชาญ 2 สมเด็จพระศรพชั รนทราบรมราชนิ ีนาถพระบรมราชชนนีพันปหลวง 3 พระวภาคภูวดล 4 พ่อขนุ ศรอนิ ทราทติ ย์ 5 พ่อขนุ รามคําแหงมหาราช 6 พระมหาธรรมราชาที 1 7 สมเด็จพระรามาธิบดที ี 1 8 พระบรมไตรโลกนาถ 9 สมเด็จพระศรสุรโยทัย 10 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช 11 สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช 12 พระบามสมเด็จพระพทุ ธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช 13 พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลัย 14 พระบาทสมเดจ็ พระนงั เกล้าเจา้ อยู่หวั 15 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจา้ อย่หู ัว 16 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อย่หู ัว 17 อา้ งองิ ออนไลน์ 18 19 20 21

1 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว ครังดาํ รงตาํ แหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยาม มกุฎราชกุมาร ในด้านการสาธารณสุขโปรดให้สร้างโรพยาบาล สมเด็จพระยุพราชขึนเพือให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บปวยในถิน ทุรกันดาร พระองค์ทรงเปนองค์นายกกิตติมศักดิของมูลนิธิ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เมือวันที 11 สิงหาคม พ.ศ. 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเงินจํานวน 100 ล้าน บาท ซึงเปนรายได้จากการจาํ หน่าสมุดไดอารีภาพการ์ตูนฝ พระหัตถ์ เพือสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช คณแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

2 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติพระบรม ราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปหลวง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ พระบรมราชินีนาถ ทรงปฏิบัติ พระราชภารกิจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิงภารกิจในการส่ง เสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเปนอยู่ของบุคคลผู้ยากไร้ และ ประชาชนในชนบทห่างไกล ได้โดยเสด็จพระราชดาํ เนินพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทัวทุกหนแห่งในแผ่นดินไทยนีโครงการทีมี สาขาขยายกว้างขวางไปทัวประเทศโครงการหนึงก็คือ โครงการ ส่งเสริมศิลปาชีพ ซึงในภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อ ตัง เปนรูปมูลนิธิ พระราชทานนามว่า\"มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ พิเศษในพระบรมราชินูปถัมภ์\" เมือวันที 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 และเมือ พ.ศ. 2528 ได้เปลียนชือ เปน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติพระบรมราชินีนาถ อันเปนการส่งเสริม อาชีพและขณะเดียวกันยังอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพืนบ้านที มีความงดงามหลายสาขา เช่น การปนการทอ การจักสาน เปนต้น

3 พระบาทสมเดจ็ พระปนเกล้าเจา้ อยูห่ วั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยูห่ วั เปนโอรสองค์ที 76 ทรงเปนพระโอรส องคเ์ ลก็ ของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว ซึงทรงประสตู แิ ด่ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชนิ ีนารถ นับว่าเปนพระราชโอรสองค์เลก็ สดุ ประสตู ิ เมอื วนั ที 8 พฤศจิการยน พ.ศ. 2436 ตรงกับวนั พุธ แรม 14 คาํ เดือน 11 ปมะเส็ง ทรงพระนามเดมิ ว่า \" เจ้าฟาชายประชาธปิ กศกั ดเิ ดช กรมหลวง สโุ ขทัยธรรมราชา \" เมือทรงมพี ระชนมายไุ ด้ 12 พรรษา พระองคไ์ ดเ้ ข้าศกึ ษา ในวิทยาลัยทหารบก ณ ประเทศอังกฤษจนจบและไดเ้ สดจ็ กลบั มารบั ราชการใน รชั กาลที 6 ซึงเปนพระเชษฐาธิราชของพระองค์ โดยได้รบั ยศเปนนายพนั โท ทหารบกมตี าํ แหน่งเปนราชองครักษ์ และผบู้ งั คบั การโรงเรยี นนายรอ้ ยชัน ประถม ต่อมาภายหลังไดเ้ ลอื นตาํ แหน่งเปนลาํ ดับจนเปนนายพนั เอก มตี าํ แหน่ง เปนปลดั กรมเสนาธกิ ารทหารบก ก่อนขนึ ครองราชสมบัติมีตาํ แหน่งเปนผู้ บัญชาการกองพลทหารราบที 2 เมอื ได้เสดจ็ ขนึ ครองราชย์แลว้ โปรดแตง่ ตงั สภาอิ รัฐมนตรขี นึ ให้มีหน้าทีใหค้ าํ ปรึกษาราชการและบริหาร การเมือง โปรดใหร้ ่วมการศึกษาวทิ ยุคมนาคมกบั ต่าง ประเทศ พระองค์เริมจดั งบประมาณของประเทศขึน เพราะขณะนันไดเ้ กิดเศรษฐกิจตกตําทวั โลก พระองค์ เรมิ ตน้ ตัดทอนงบประมาณแผน่ ดินเปนครงั แรก เหตุการณ์นีเปนมูลเหตุของการปฎวิ ัตใิ น ปพ.ศ. 2475 ประองค์ทรงตดั ทอนรายจา่ ยของพระองคเ์ อง ข้าราชการทรี ับราชการทจี นล้นงานกใ็ ห้ออกจาก กระทรวงทบวงกรมตา่ งๆ เปนจาํ นวนมาก

4 กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ กรมพระราชวังบวรวิไชย ชาญ ทรงเปนเจ้านายทีมีความ สามารถหลายด้าน ด้านาฏกรรม ทรงพระปรีชา เล่นหุ่นไทย หุ่นจีน เชิดหนัง และงิว ด้านการช่าง ทรงชาํ นาญเครืองจักรกล ทรง ต่อเรือก าปน ทรงท าแผนทีแบบ สากล ทรงสนพระทัยในแร่ธาตุ ถึงกับทรงสร้างโรงถลุงแร่ไว้ใน พระราชวังบวรสถานมงคล เมือ พ.ศ. 2426 ทรงได้รัประกาศนีย บัตรจากฝรังเศสในฐานะผู้ เชียวชาญสาขาวิชาช่าง เมือพระบาทสมเด็จพระปนเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ไม่ได้ทรงแต่งตังผู้ใดขึนดาํ รง ตําแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เพราะในขณะ นันพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ คือ เจ้าฟาจุฬาลงกรณ์ ยังทรงพระ เยาว์เพียง 12 พรรษา ทําให้เสียงต่อการถูกแย่งชิงราชบัลลังก์ ฝายเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึงถูกสงสัยมาตังแต่ ครังพระบาทสมเด็จพระปนเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงพระชนม์ว่าคิดจะ ชิงราชสมบัติจึงได้เสนอให้ทรงแต่งตังพระองค์เจ้ายอดยิงเปนกรม พระราชวังบวรสถานมงคล แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้า อยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตังพระองค์เจ้ายอดยิง เปน กรมหมืนบวร วิไชยชาญ เมือ พ.ศ. 2410

5 สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปหลวง สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันป หลวง ทรงสนพระทัยในการพัฒนาสตรีและทรงมีพระราชดําริว่า ความรุ่งเรืองของบ้านเมืองย่อมอาศัยการศึกษาเล่าเรียนทีดี ดังนัน ในป พ.ศ. 2444 จึงทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตัง โรงเรียนส าหรับเด็กหญิงแห่งทีสองขึนในกรุงเทพมหานคร ทรง พระราชทานชือว่า“โรงเรียนสตรีบาํ รุงวิชา” และในป พ.ศ. 2447 ทรงเปดโรงเรียนส าหรับกุลธิดาของข้าราชสํานักและบุคคลชันสูง คือ “โรงเรียนสุนันทาลัย” ให้การอบรมด้านการบ้าการเรือน กิริยา มารยาท และวิชาการต่าง ๆ อีกทังทรงจ่ายเงินเดือนครู และค่า ใช้สอยต่าง ๆ ส าหรับเปนค่าเล่าเรียนแก่กุลบุตรกุลธิดาของ ข้าราชการใหญ่น้อยและราษฎรอีก เปนจาํ นวนมาก ทรงบริจาค พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ตังโรงเรียน ทรงมีความห่วงใยความ เจ็บไข้ได้ปวยของราษฎรและทหารเปนอย่างยิง โดยทรงสนับสนุน การก่อตังโรงพยาบาลศิริราชซึงนับว่าเปนโรงพยาบาลแห่งแรก ของประเทศไทย และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ ตังโรงเรียน แพทย์ผดุงครรภ์ขึนในโรงพยาบาลแห่งนีส าหรับเปนสถานศึกษา วิชาพยาบาลและผดุงครรภ์ของสตรี

6 พระวิภาคภูวดล การท าแผนทีแบบตะวันตกในประเทศไทย เริมตังแต่นาย แมคคาร์ทีเข้ารับราชการไทย ได้ใช้ หลักมูลฐานขนาดมิติทรงวงรี เอเวอเรสต์ ใน การสาํ รวจท าแผนทีตลอดมา ชือทรงวงรี \"เเวอเรสต์\" มาจากชือของนายพันเอกเอเวอเรสต์ นายทหารช่าง ชาวอังกฤษ ผู้เปนหัวหน้าสถาบันการแผนทีอินเดีย ในสมัยทีอินเดีย ยังขึนกับอังกฤษการท าแผนทีซึงได้จัดทําก่อนสถาปนาเปน กรม แผนทีเริมแรกในตอนปลาย พ.ศ. ๒๔๒๔ เปนการส ารวจสาํ หรับ วางแนวทางสายโทรเลข ระหว่างกรุงเทพฯ และมะละแหม่ง (Moulmein) ผ่านระแหง (ตาก) ในการนี นายแมคคาร์ทีได้ทาํ การสํารวจสามเหลียมเล็ก โยงยึดกับสายสามเหลียมของอินเดีย ทียอดเขา ซึงอยู่ทางตะวันตกของระแหงไว้ ๓ แห่ง งานแผนทีทีใช้ สาํ รวจ มีการวัดทางดาราศาสตร์ และการวางหมุดหลักฐานวง รอบ (traverse)

7 พอ่ ขุนศรอี ินทราทิตย์ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์เปนปฐมกษัตริย์ แห่งอาณาจักรสุโขทัย หรือราชวงศ์ พระร่วงมีพระนามเดิมว่า พ่อขุนบาง กลางหาว แห่งเมืองบางยาง พระองค์ ทรงร่วมกับพระสหายพ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด ช่วยกันรวบรวมคนไทย ยึดเมืองสุโขทัยจากขอมสมาดโขลญลํา พง ซึงเข้าครอบครองเมืองสุโขทัยอยู่ ขณะนันจนเปนผลสาํ เร็จ และตังเมือง สุ โ ข ทั ย เ ป น ร า ช ธ า นี พ่ อ ขุ น บ า ง ก ล า ง หาว ทรงได้รับการสถาปนาจากพ่อขุน ผาเมืองขึนเปนกษัตริย์ ทรงพระนาม ว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงมี พระมเหสีพระนามว่า พระนางเสือง มี พระราชโอรสทีครองราชย์ต่อจาก พระองค์อยู่ 2 พระองค์ คือ พ่อขุนบาน เมือง และพ่อขุนรามคําแหง พ ร ะ ร า ช ก ร ณี ย กิ จ 1. ทรงก่อตังอาณาจักรสุโขทัย โดยพระองค์ทรงรวบรวมผู้คนยึดอํานาจจาก ขอม เปนผลสําเร็จ และทรงสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยเปนราชธานี ทาํ ให้คนไทยมี อิสรภาพ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อํานาจขอมต่อไป 2. ทําศึกสงครามเพือปองกันและขยายอาณาเขต ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดได้ นํากองทัพเข้ามารุกรานเมืองตาก ซึงเปนเมืองชายแดนของอาณาจักร สุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ได้นํา ไพร่พลออกต่อสู้กับกองทัพขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ทีเมืองตาก โดยมีพ่อขุน รามคาํ แหง ตามเสด็จพระราชบิดาไปในการศึกครังนี การทาํ ศึกครังนีพ่อขุนศรีอินทรา ทิตย์ได้ทรงทาํ ยุทธหัตถีกับขุนสามชนปรากฏว่าช้างพระทีนังของพ่อขุนศรีอิน ทราทิตย์ตืนหนีข้าศึก ขุนสามชนไล่ตามทัน พ่อขุนรามคาํ แหง จึงเข้าแก้ไข สถานการณ์ โดยการไสช้างพระทีนังของพระองค์เข้าช่วย พระราช บิดา จนกระทังขุนสามชนหนีพ่ายไป นับว่าชัยชนะครังนีเปนชัยชนะจากการ ทํายุทธหัตถีครังแรกในประวัติศาสตร์ของชาติไทย 3. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงส่งทูตไปลังกาพร้อมกับคณะทูตเมือง นครศรีธรรมราช เพือขอพระพุทธสิหิงค์และอัญเชิญมาไว้สักการะที อาณาจักรสุโขทัย

8 พอ่ ขุนรามคําแหงมหาราช พ่อขุนรามคําแหงมหาราชทรงเปนพระมหากษัตรยิ ์ พระองค์ที 3 แหง่ อาณาจักรสโุ ขทยั พระองค์เปนพระ ราชโอรสของพ่อขนุ ศรีอินทราทิตย์กบั นางเสือง เมอื พระองคม์ ีพระชนมายุ 19 พรรษา ทรงออกรบร่วมกับพระ ราชบิดา ในครังนัน พอ่ ขนุ รามคาํ แหง ชนช้างชนะขนุ สาม ชน เจา้ เมืองฉอดได้ พ่อขุนศรอี นิ ทราทติ ย์ จึง พระราชทานพระนามวา่ ‘รามคาํ แหง’ หมายถงึ รามผู้ กลา้ หาญ ตอ่ มาทรงขึนครองราชยส์ มบตั สิ บื ต่อจาก พ่อขุนบานเมอื งซงึ เปนพระเชษฐา พ่อขุนรามคาํ แหง มหาราช ทรงสรา้ งความมงั คงใหแ้ กอ่ าณาจักรสโุ ขทยั พระราชกรณียกิจ1) ด้านการปกครองทรงปกครองราษฎรอยา่ งใกล้ชิดจนเรยี กกนั มาวา่ การปกครองแบบ พอ่ ปกครองลูก โดยทรงเอาพระทัยใสท่ ุกขข์ องราษฎรดว้ ยการ แขวนกระดงิ ไวเ้ พอื ใหร้ าษฎรทเี ดอื ดรอ้ นมาสันกระดงิ รอ้ งทกุ ข์ และทรงไต่สวนตัดสินคดี ดว้ ยพระองค์เอง และทรงสร้างความมันคงใหอ้ าณาจักรสโุ ขทยั โดยขยายอาณาเขตของ สโุ ขทัยออกไปอยา่ งกว้างขวาง2) ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมทรงส่งเสรมิ การนับถอื พระพทุ ธศาสนาโดยนิมนตพ์ ระสงฆน์ ิกายเถรวาทลทั ธิลังกาวงศจ์ ากนครศรธรรมราช มาอยูท่ สี โุ ขทัย จัดให้มีการเทศนาสังสอนประชาชนทุกวนั พระ และทรงสรา้ งวดั หลาย แหง่ เช่น วดั มหาธาตุ ทรงวางรากฐานการนับถอื พระพุทธศาสนา ทําให้พระพทุ ธศาสนา เปนศาสนาของรัฐไทยสมัยต่อๆ มาใน พ.ศ. 1826 ทรงประดิษฐอ์ กั ษรไทยหรอื ลายสือ ไทยทําให้คนไทยมอี ักษรทเี ปนเอกลกั ษณ์ของชาติใชม้ าจนปจจุบนั 3) ด้านเศรษฐกจิ ทรงให้ตังเตาเผาเพอื ผลิตเครอื งสังคโลก ทังเพือใชใ้ นสโุ ขทยั และส่งไปขายยงั ตา่ งถนิ ยงั ทรงใหส้ รา้ งทํานบกกั เก็บนํา เรยี กว่า สรดี ภงส์ เพอื แกป้ ญหาขาดแคลนนําในตวั เมือง สุโขทัย และทรงส่งเสรมิ การค้าดว้ ยการไมเ่ รียกเกบ็ ภาษีผ่านดา่ น (จังกอบ) จากพอ่ คา้ ทีเขา้ มาค้าขายทาํ ใหก้ ารค้าเติบโต ทรงสรา้ งความสัมพนั ธท์ างการทูตและ วัฒนธรรมกับแว่นแควน้ ต่างๆ เช่น เปนพนั ธมิตรกับพญามงั ราย แห่งอาณาจักรล้านนา และพญางาํ เมอื งแห่งอาณาจกั รพะเยา และทรงสง่ ฑูตไปประเทศจีนเปนครังแรกเมือ พ.ศ.1835 และเมอื พ.ศ.1836 ทตู จากจนี ได้เดินทางมาตอบแทนการส่งทูตไปของไทย นับเปนคณะทูตจนี ชุดแรกทีไดเ้ ดินทางมายงั สุโขทัย และเชอื กันวา่ สุโขทยั รับวิธีการทาํ เครอื งสังคโลกมาจากจนั

9 พระมหาธรรมราชาที 1 พระยาลิไทยทรงเลือมใสในพระพุทธศาสนาเป นอย่างมากนโยบายการ ปกครองทีใช้ศาสนา เปนหลักรวมความเปนปกแผ่นจึงเปนนโยบายหลักในรัช สมัยนี ด้วยทรงด าริว่าการจะขยายอาณาเขตต่อไปเช่นเดียวกับในรัชกาล พ่อขุนรามค าแหง พระอัยกา ก็จักต้องน าไพร่พลไปล้มตายอีกเปนอันมาก พระองค์จึงทรงมีพระราชประสงค์ทีจะปกครองบ้านเมืองเช่นเดียวกับ พระเจ้าอโศกมหาราชทีทรงปกครองอินเดียให้เจริญได้ด้วยการส่งเสริม พระพุทธศาสนา และสังสอนชาวเมืองให้ตังอยู่ในศีลธรรมอันจะเปนวิธีรักษา เมืองให้ยังยืนอยู่ได้ทรงสร้างเจดีย์ทีเมืองนครชุม(กาํ แพงเพชร) ผนวชใน พระพุทธศาสนาเมือ พ.ศ.1905 ทีวัดปามะม่วงการทีทรงออกผนวช นับว่าท าความมันคงให้พุทธศาสนามากขึน ดังกล่าวแล้วว่า หลังรัชสมัยพ่อขุนรามค าแหงมหาราชแล้วบ้านเมืองแตกแยก วงการสงฆ์เองก็แตกแยก แต่ละส า นักแต่ละเมืองก็ปฏิบัติแตกต่างกันออกไป เมือผู้น าทรงมีศรัทธาแรงกล้าถึง ขันออกบวช พสกนิกรทังหลายก็คล้อยตามหันมาเลือมใสตามแบบอย่าง พระองค์ กิตติศัพท์ของพระพุทธศาสนาในสุโขทัยจึงเลืองลือไปไกล พระสงฆ์ ชันผู้ใหญ่หลายรูปได้ออกไปเผยแพร่ธรรมในแคว้นต่าง ๆ เช่น อโยธยา หลวงพระบาง เมืองน่าน แม้แต่พระเจ้ากือนาธรรมิกราชแห่งอาณาจักรล้าน นาก็นิมนต์พระสุมณเถระจากสุโขทัยไปเพือเผยแพร่ธรรมทีล้านนา

10 สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี 1 สมเด็จพระรามาธิบดีที 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรง สถาปนากรุงศรีอยุธยาเปนราชธานีเมือวันศุกร์ ขึน 6 ค ่า เดือน 5 ปขาล จุลศักราช 712 ตรงกับวันที 4 มีนาคม พ.ศ. 1893 ชีพ่อพราหมณ์ถวายพระนามว่า สมเด็จพระรามาธิบดี แล้วโปรดให้ขุนหลวงพะงัว ซึง เปนพระเชษฐาของพระมเหสีเปน สมเด็จพระ บรมราชาธิราชเจ้า ไปครองเมืองสุพรรณบุรี ส่วนพระราเมศวร รัชทายาทให้ไปครองเมืองลพบุรี ตรากฎหมาย สมเด็จพระรามาธิบดีที 1 ทรงประกาศใช้กฎหมายถึง 10 ฉบับ

11 พระบรมไตรโลกนาถ สสมมเเดด็จ็จพพรระะบบรรมมไไตตรรโโลลกกนนาาถถ หหรรือือ สสมมเเดด็จ็จพพรระะรราาเเมมศศววรรบบรรมม ไไตตรรโโลลกกนนาาถถบบพพิติตรร มมีพีพรระะนนาามม เเดดิมิมวว่า่า สสมมเเดด็จ็จพพรระะรราาเเมมศศววรร หหมมาายยถถึงึง \"\"พพรระะพพุทุทธธเเจจ้า้า\"\" หหรรือือ \"\"พพรระะออิศิศววรร\"\"พพรระะรราาชชสสมมภภพพทที ี ออยยุธุธยยาาเเมมือือปปพพ..ศศ..11997744แแตต่ ่ เเตติบิบโโตตแแลละะมมีชีชีวีวิติตใในนววัยัยเเยยาาวว์ท์ที ี พพิษิษณณุโุโลลกก โโดดยยเเปปนนพพรระะรราาชชโโออรรสสขขอองงสสมมเเดด็จ็จพพรระะบบรรมมรราาชชาาธธิบิบดดีทีที ี22 ((เเจจ้า้าสสาามมพพรระะยยาา))กกับับพพรระะรราาชชธธิดิดาาขขอองงพพรระะมมหหาาธธรรรรมมรราาชชาาทที ี22 แแหห่ง่งสสุโุโขขททัยัย พพรระะอองงคค์จ์จึงึงเเปปนนเเชชือือสสาายยรราาชชววงงศศ์ส์สุพุพรรรรณณบบุรุรีแีแลละะ รราาชชววงงศศ์พ์พรระะรร่ว่วงง ใในนชช่ว่วงงแแรรกกขขอองงกกาารรคครรอองงรราาชชยย์เ์เปปนนพพรระะมมหหาา กกษษัตัตรริยิย์ร์รัชัชกกาาลลทที ี88แแหห่ง่งกกรรุงุงศศรรีอีอยยุธุธยยาากก็เ็เสสดด็จ็จมมาาปปรระะททับับทที ี ออยยุธุธยยาา ออีกีกคครรึงึงหหนนึ งึ งเเสสดด็จ็จมมาาปปรระะททับับททีพีพิษิษณณุโุโลลกก เเชชือือวว่า่าคคงงเเปปนนไไปป เเพพือือกกาารรคคววบบคคุมุมดดูแูแลลหหัวัวเเมมือืองงททาางงดด้า้านนเเหหนนื อื อ แแลละะคคาานนออําํานนาาจจขขอองง ออาาณณาาจจักักรรททาางงเเหหนนือือคคือือออาาณณาาจจักักรรลล้า้านนนนาาซซึงึงกกาํ ําลลังังมมีคีคววาามมเเขข้ม้ม แแขข็ง็งแแลละะตต้อ้องงกกาารรแแผผ่อ่อําํานนาาจจลลงงมมาาททาางงใใตต้ ้ใในนยยุคุคขขอองงพพรระะเเจจ้า้าตติ ิ โโลลกกรราาชช

12 สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ใน พ.ศ. ๒๐๙๑ หลงั จากที สมเดจ็ พระมหาจักรพรรดิ เสด็จขึนครองราชยไ์ ดไ้ ม่นาน นัก พรเจ้าหงสาวดีตะเบ็งชะเว ตีทราบข่าวการผลดั เปลียน แผน่ ดินใหม่ จงึ คดิ จะเขา้ มา โจมตี เพราะคิดวา่ ทางกรุง ศรอี ยุธยาคงยงั ไมท่ ันตังตัว และกองทพั คงไมเ่ ขม้ แขง็ พอ พระเจ้าหงสาวดีตะเบ็งชะเวตี ไดค้ ุมกําลังพลประมาณ ๓แสน คน ยกเขา้ มาทางด่านเจดยี ์ สามองค์ เมือเห็นพม่ายกทัพใหญเ่ ข้ามา สมเดจ็ พระมหมาจักรพรรดิได้ ออกไปตังทพั รอขา้ ศกึ ทีทุ่งภู่เขาทองและดว้ ยความเปนห่วงพระ สวามแี ละรวู้ ่าศึกครงั นีคงใหญ่หลวงนักเพราะทางฝายพม่ามกี ําลัง มากกวา่ สมเดจ็ พระศรสี รุ โิ ยทัยจงึ ปลอมพระองคเ์ ปนชายโดยมีพระ ราเมศวรและพระมหินทราธิราชพระราชโอรสตามเสดจ็ ไปในกองทัพ ครังนีด้วย พระเจา้ แปรแมท่ ัพฝายพม่าซงึ ตังค่ายอย่ทู ีทุง่ มะขาม หยอ่ งไดล้ ่อใหก้ องทพั ของไทยเขา้ มาในวงลอ้ มแลว้ ซ่มุ โจมตจี น กองทัพไทยแตกกระเจิงไม่เปนขบวน ในขณะเดียวกัน พระเจ้าแปร เหน็ ว่ากาํ ลงั ไดเ้ ปรียบ จงึ ไสชา้ งของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิอยา่ ง กระชันชิด สมเดจ็ พระศรีสุรโิ ยทยั เห็นพระสวามีเสียทแี ก่ข้าศกึ เกรง วา่ พระสวามีจะได้รับอันตราย ดว้ ยพระนําทยั ทีเดด็ เดียวกลา้ หาญ และดว้ ยความรักจงึ รีบไสชา้ งพระทนี ังเขา้ ไปขวางศตั รูอยา่ ง รวดเรว็ เปนจงั หวะเดียวกบั ทีพระเจ้าแปรใช้พระแสงของ้าว

13 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในป พ.ศ. 2135 พระเจ้านันทบุเรง โปรดให้พระมหาอุปราชา นํากองทัพ ทหารสองแสนสีหมืนคน มาตีกรุงศรีอยุธยาหมายจะชนะศึกในครังนี สมเด็จ พระนเรศวรทรงทราบว่าพม่าจะยกทัพใหญ่มาตี จึงทรงเตรียมไพร่พล มีกาํ ลังหนึงแสนคนเดินทางออกจากบ้านปาโมกไปสุพรรณบุรี ข้ามนําตรงท่า ท้าวอู่ทองและตังค่ายหลวงบริเวณหนองสาหร่าย เช้าของวันจันทร์ แรม 2 คาํ เดือนยี ปมะโรง พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกา ทศรถทรงเครืองพิชัยยุทธ สมเด็จพระนเรศวรทรงช้าง นามว่า เจ้าพระยาไช ยานุภาพ ส่วนสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงช้างนามว่า เจ้าพระยาปราบไตร จักร ช้างทรงของทังสองพระองค์นันเปนช้างชนะงา คือช้างมีงาทีได้รับการ ฝกให้รู้จักการต่อสู้มาแล้วหรือเคยผ่านสงครามชนช้าง ชนะช้างตัวอืนมาแล้ว ซึงเปนช้างทีกาํ ลังตกมัน ในระหว่างการรบจึงวิงไล่ตามพม่าหลงเข้าไปใน แดนพม่า มีเพียงทหารรักษาพระองค์และจาตุรงค์บาทเท่านันทีติดตามไป ทัน สมเด็จพระนเรศวรทอดพระเนตรเห็นพระมหาอุปราชาทรงพระคชสาร อยู่ในร่มไม้กับเหล่าเท้าพระยา จึงทราบได้ว่าช้างทรงของสองพระองค์หลง ถลาํ เข้ามาถึงกลางกองทัพ และตกอยู่ในวงล้อมข้าศึกแล้ว แต่ด้วยพระ ปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร ทรงเห็นว่าเปนการเสียเปรียบ ข้าศึกจึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วตรัสถามด้วยคุ้นเคยมาก่อนแต่วัยเยาว์ว่า \"พระเจ้าพีเราจะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทํายุทธหัตถีด้วยกัน ให้ เปนเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินทีจะได้ยุทธ หัตถีแล้ว

14 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เปนพระราชโอรสในสมเดจ็ พระเจ้าปราสาททองและพระนางศริ ิ ธดิ าต่อมาภายหลงั ถกู ยกเปนพระราชเทวี ซงึ เปนพระขนิษฐาต่างมารดาของพระเจา้ ปราสาททอง เสด็จพระบรมราชสมภพ เมือวันจันทร์ เดอื นยี ปวอก พ.ศ. 2175 และทรงมีพระขนิษฐารว่ ม พระมารดาคือ สมเดจ็ พระเจา้ น้องนางเธอ เจ้าฟาศรสี วุ รรณ กรมหลวงโยธาทิพ หรือพระราช กลั ยาณี มพี ระนมอยู่พระองค์หนึง คือ เจา้ แมว่ ัดดสุ ิต ซึงเปนญาติหา่ งๆ ของพระเจา้ ปราสาท ทองเช่นกัน สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช ทรงเปนพระอนุชาในสมเดจ็ เจ้าฟาไชย และยังทรงมี พระอนุชาตา่ งพระมารดาอกี ได้แก่ เจ้าฟาอภัยทศ เจ้าฟาน้อย พระไตรภวู นาทิตยวงศ์ พระองค์ ทอง และพระอนิ ทราชา พระราชกรณียกิจ 1. การคา้ ขายกบั ต่างประเทศในรชั กาลสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช การค้าขายกบั ต่าง ประเทศมคี วามเจริญรงุ่ เรอื งมาก ทรงพระ กรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ อ่ เรอื กาํ ปนหลวงเพือ ทําการคา้ ขายกบั เมืองท่าต่างๆ ในต่างประเทศที กรงุ ศรอี ยธุ ยาทาํ การคา้ ขายด้วย จงึ ทําใหก้ รุง ศรีอยธุ ยากลายเปนศนู ย์กลางการคา้ ขายกบั ชาวต่างประเทศ 3. การเจริญสมั พันธไมตรีกับฝรงั เศสได้จดั 2. การสรา้ งเมืองลพบุรเี ปนราชธานี คณะทูตไปฝรงั เศส ในปพทุ ธศักราช 2228 ได้ส่ง เนืองจากรชั สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ เจ้าพระยาโกษาธบิ ด(ี ปาน) พรอ้ มคณะ เดนิ ทาง สรา้ งเรือกําปนโดยนําสินคา้ ไปขายเองกับเมืองท่า ไปฝรังเศส นําพระราชสาสน์ไปถวายสมเดจ็ พระ ตา่ งๆ ในต่างประเทศขณะนันไปขายทีประเทศจนี เจา้ หลุยสท์ ี 14 และได้สง่ กุลบุตร 12 คน ไปศึกษา และญปี ุน ซึงมชี าติฮอลนั ดาไปทาํ การค้าขายด้วย ทาํ ใหฮ้ อลันดาไมพ่ อใจ มกี ารยึดเรอื โปรตเุ กส ใน วิชา ณ ประเทศฝรงั เศส ขณะนันขนสินคา้ ของไทยในอ่าวตังเกยี จงึ มีขอ้ พิพาทกับไทย ขณะนันไทยทาํ สงครามกับพม่าอยู่ ฮอลันดาจงึ ยกกําลงั เรอื รบเข้าปดอ่าวไทย และ ยึดจบั เรอื กําปนของไทยไปทาํ ลายเปนจาํ นวนมาก จนในทสี ุดต้องยินยอมทําสัญญากบั ฮอลันดา จงึ ทําใหไ้ ทยไมต่ ้องเสียสทิ ธสิ ภาพนอกอาณาเขตใน ขณะนันจากสาเหตุดงั กล่าว ทฮี อลนั ดาไดท้ าํ กับ ไทยในครงั นันจึงทําใหส้ มเดจ็ พระนารายณ์ มหาราชเกรงว่ากรงุ ศรีอยธุ ยาจักไม่ปลอดภยั จงึ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองลพบุรีเปนราชธานี

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 15 สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช หรอื สมเดจ็ พระเจา้ กรงุ ธนบรุ ี ทรงมพี ระนามเดิมว่า \"สิน” พระราชสมภพเมือวันอาทิตยท์ ี ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๒๗๗ พระราชบิดาเปนชาวจีนแต้จิว ชอื \"นายไหฮอง” ไดส้ มรสกับหญงิ ไทยชือ”นางนกเอียง” ในชว่ ง รัชสมยั พระเจา้ อยหู่ ัวบรมโกศ (สมเด็จพระธรรมราชาธิราชที ๓) ซงึ เจา้ พระยาจกั รไี ดข้ อไปอปุ การะเปนบุตรบุญธรรมตังแต่ ครงั เยาว์วยั ต่อมาเมืออายุครบ ๑๓ ป เจ้าพระยาจกั รีไดน้ ําตวั เดก็ ชายสิน ไปถวายตัวเปนมหาดเล็ก ในสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว บรมโกศ ครัน พ.ศ. ๒๓๐๑ สมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัวบรมโกศเสดจ็ สวรรคต สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั อุทุมพรเสด็จขนึ ครองราชย์ได้ ๓ เดอื นเศษ ก็ถวายราชสมบตั แิ ก่สมเดจ็ พระเชษฐาธิราช \"สมเด็จพระบรมราชาที ๓” (สมเดจ็ พระเจา้ เอกทัศน์) สมเด็จ พระเจ้าเอกทศั น์ทรงโปรดเกล้าฯ ใหน้ ายสินมหาดเลก็ รายงาน เปนขา้ หลวงเชิญท้องตราพระราชสีห์ไปชําระความทีหวั เมอื ง ฝายเหนือซงึ ปฏิบัตริ าชการได้รบั ความดีความชอบมากจงึ ทรง พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้เปนหลวงยกกระบัตร เมืองตาก ช่วย ราชการพระยาตากครันพระยาตากถึงแก่กรรม กท็ รงโปรดให้ เลือนเปน \"พระยาตาก ปกครองเมอื งตาก พระราชกรณียกิจสาํ คัญของสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช 1.การก้เู อกราช เมือป พ.ศ. 2309 พมา่ ยกทัพมาตีกรุงศรอี ยธุ ยา ในสมัยพระเจา้ เอกทศั และไดเ้ สยี กรงุ แก่พมา่ เปนครังที 2 ใน พ.ศ. 2310 เหตกุ ารณ์ในกรงุ ศรอี ยุธยาขณะนันเกิด ความระสําระสาย ทหารพม่าไดล้ ้อมกรุงศรอี ยธุ ยาไว้ พระยาตากเหน็ วา่ คงสูพ้ ม่าไมไ่ ด้แล้ว จึงนําทหารจาํ นวนหนึงตฝี าวงลอ้ มพมา่ ออกมา และได้รวบรวมกาํ ลังอย่ทู ีเมอื งจันทบุรี แลว้ ยกทพั กลับไปตีพมา่ ทีกรงุ ศรอี ยุธยา ทัพของพระยาตากสามารถตพี มา่ จนแตกพา่ ยไป พระยาตากสามารถรวบรวมผคู้ นกอบกกู้ รุงศรีอยุธยากลับคนื มาจากพมา่ ได้ภายในเวลา 7 เดือน 2. การสรา้ งและสถาปนากรงุ ธนบรุ เี ปนเมอื งหลวง หลงั จากได้กอบกกู้ รุงศรยี ธุ ยากลับคนื จากพมา่ ไดแ้ ล้ว พระองคท์ รงเหน็ ว่าทางกรงุ ศรีอยธุ ยาถกู พมา่ เผาผลาญเสียหายมากและ ยากทีจะฟนฟูให้เจรญิ เหมอื นเดมิ ได้ พระองคจ์ งึ ยา้ ยเมืองหลวงมาอยู่ทีกรุงธนบรี แลว้ ทรงปราบดาภเิ ษกขึนเปนพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามวา่ พระบรมราชาธิราชที 4 ครอง กรุงธนบุรีอยู่ 15 ปนับวา่ เปนกษตั ริยพ์ ระองคเ์ ดียวทีปกครองกรุงธนบรุ ี 3. พระองค์ยงั ไดข้ ยายอาณาเขตโดยตีเวียงจันทน์ได้และอัญเชิญพระแก้วมรกตมา ประดษิ ฐานไวท้ ีเมอื งหลวง ทรงทาํ นุบํารุงศาสนาและทรงสง่ เสรมิ ให้คนแตง่ หนังสอื ต่าง ๆ ขนึ เพราะหนังสือตาํ ราอันมคี ่าถูกพม่าเผาไปเกอื บหมด ทรงเอาใจใส่ดูแลทกุ ขส์ ขุ ของ ราษฎรเปนอยา่ งดีแมว้ า่ จะต้องทาํ สงครามกับพม่าตลอดเวลาก็ตาม

16 พ ร ะ บ า ม ส ม เ ด็ จ พ ร ะ พุ ท ธ ย อ ด ฟ า จุ ฬ า โ ล ก ม ห า ร า ช พระบาทสมเดจ็ พระปรโมรรุ าชามหาจกั รบี รมนารถ พระพทุ ธยอดฟาจุฬาโลก (20 มีนาคม พ.ศ. 2280 — 7 กันยายน พ.ศ. 2352) เปนพระมหากษตั รยิ ไ์ ทย รชั กาลที 1 ในราชวงศ์จกั รี เสดจ็ พระราชสมภพเมือ วันพุธ เดือน 4 แรม 5 คํา ปมะโรงอฐั ศก เวลา 3 ยาม ตรงกบั วนั ที 20 มนี าคม พ.ศ. 2279 (นับแบบปจจบุ นั พ.ศ. 2280) ปราบดาภเิ ษกเปนปฐมกษตั รยิ แ์ หง่ กรุง รัตนโกสนิ ทร์ เมอื วนั ที 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ขณะมี พระชนมพรรษาได้ 45 พรรษา และทรงยา้ ยราชธานี จากฝงธนบุรมี าอยู่ฝงพระนคร และโปรดเกลา้ ฯ ให้ สรา้ งพระบรมมหาราชวังเปนทีประทับ พระราชกรณียกจิ ทีสาํ คัญ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจฬุ าโลกมหาราช ทรงสถาปนากรงุ เทพมหานคร (หรือกรุง รตั นโกสินทร์) เปนราชธานี และทรงสถาปนาราชวงศ์จักรีปกครองราชอาณาจกั รไทยเมอื 6 เมษายน พ.ศ. 2325 (วนั จกั ร)ี ภายหลงั การเสดจ็ เสวยราชย์แล้ว พระองคท์ รงมีพระราชกรณีกิจที สําคญั ยิง คอื การปองกนั ราชอาณาจกั รใหป้ ลอดภัยและทรงฟนฟูวัฒนธรรมไทยอนั เปนมรดก ตกทอดมาตงั แต่สมยั สโุ ขทัยและอยุธยา การทไี ทยสามารถปกปองการรุกรานของขา้ ศึกจนประสบ ชยั ชนะทกุ ครัง แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความเข้มแข็งของพระองคใ์ นการบญั ชาการรบอย่างมีประสทิ ธิภาพ โดยเฉพาะอยา่ งยิงสงครามกับพมา่ ใน พ.ศ. 2328 ทีเรียกว่า \"สงครามเก้าทัพ\" นอกจากนีพระองค์ ยงั พบว่ากฎหมายบางฉบบั ทีใช้มาตงั แต่สมยั อยธุ ยาไม่มคี วามยตุ ธิ รรม จงึ โปรดเกล้าโปรด กระหมอ่ มให้มกี ารตรวจสอบกฎหมายทมี ีอยทู่ ังหมด เสรจ็ แล้วใหเ้ ขยี นเปนฉบบั หลวง 3 ฉบบั ประทับ ตราราชสหี ์ คชสหี ์ และบวั แกว้ ไว้ทกุ ฉบับ เรยี กวา่ \"กฎหมายตราสามดวง\" สําหรับใช้เปนหลักในการ ปกครองบา้ นเมอื ง การสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทร์ พระราชกรณียกิจประการแรกทีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราชทรงจดั ทาํ เมอื เสด็จขนึ ครองราชย์ คือการโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อม ใหต้ ังกรุงรตั นโกสนิ ทร์เปนราชธานีใหม่ ทาง ตะวนั ออกของแมน่ ําเจา้ พระยา แทนกรุงธนบุรี ดว้ ยเหตผุ ลทางด้านยุทธศาสตร์ เนืองจาก กรงุ ธนบุรตี งั อยู่บนสองฝงแมน่ ํา ทาํ ให้การลําเลยี งอาวธุ ยทุ ธภณั ฑ์ และการรกั ษาพระนครเปนไปได้ ยาก อีกทงั พระราชวงั เดมิ มีพืนทจี ํากัด ไม่สามารถขยายได้ เนืองจากตดิ วดั อรณุ ราชวรารามราช วรมหาวิหารและวดั โมลีโลกยารามราชวรวิหาร ส่วนทางฝงกรงุ รัตนโกสินทร์นันมคี วามเหมาะสม กวา่ ตรงทมี ีพนื แผ่นดินเปนลกั ษณะหวั แหลม มีแมน่ ําเปนคเู มืองธรรมชาติ มชี ยั ภูมิเหมาะสม และ สามารถรบั ศกึ ได้เปนอย่างดี

17 พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ พุ ท ธ เ ลิ ศ ห ล้ า น ภ า ลั ย ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัยได้รับการยกย่องว่า เปนยุคทองของวรรณคดี สมัยหนึงเลยทีเดียว ด้านกาพย์กลอนเจริญสูงสุด จนมี คํากล่าวว่า \"ในรัชกาลที 2 นัน ใครเปนกวีก็เปนคนโปรด\" กวีทีมีชือเสียงนอกจากพระองค์เองแล้ว ยังมีกรมหมืน เจษฎาบดินทร์ (รัชกาลที 3) สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส สุนทรภู่ พระยาตรัง และนาย นรินทรธิเบศร์(อิน) เปนต้น พระองค์มีพระราชนิพนธ์ที เปนบทกลอนมากมาย ทรงเปนยอดกวีด้านการแต่งบท ละครทังละครในและละครนอก มีหลายเรืองทีมีอยู่เดิม และทรงนํามาแต่งใหม่เพือให้ใช้ในการแสดงได้ เช่น รามเกียรติ อุณรุท และอิเหนา โดยเรืองอิเหนานี เรือง เดิมมีความยาวมาก ได้ทรงพระราชนิพนธ์ใหม่ตังแต่ต้น จนจบ เปนเรืองยาวทีสุดของพระองค์ วรรณคดีสโมสร ในรัชกาลที 6 ได้ยกย่องให้เปนยอดบทละครรําทีแต่งดี ยอดเยียมทังเนือความ ทาํ นองกลอนและกระบวนการ เล่นทังร้องและรํา นอกจากนียังมีละครนอกอืน ๆเช่น ไกรทอง สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ หลวิชัยคาวี มณีพิชัย สังข์ ศิลปชัยได้ทรงเลือกเอาของเก่ามาทรงพระราชนิพนธ์ขึน ใหม่บางตอน และยังทรงพระราชนิพนธ์บทพากย์โขนอีก หลายชุด เช่น ชุดนางลอย ชุดนาคบาศ และชุดพรหมา สตร์ ซึงล้วนมีความไพเราะซาบซึงเปนอมตะใช้แสดงมา จนทุกวันนี พระราชกรณียกิจ ด้านการปกครองพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ด้านการปกครองโดยยังคงรูปแบบการปกครองแบบเดิม แต่มีการตังเจ้านายทีเปนเชือพระ วงศ์เข้าดูแลบริหารงานราชการตามหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมพระคลัง ทรงพระกรุณาโปรด เกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมืนเจษฎาบดินทร์เปนผู้กาํ กับดูแล เปนต้น ส่วนด้านการออก และปรับปรุงกฎหมายในการปกครองประเทศทีเอือประโยชน์แก่ประชาชนมากขึน ได้แก่ พระ ราชกําหนดสักเลก โดยพระองค์โปรดให้ดาํ เนินการสักเลกหมู่ใหม่ เปลียนเปนปละ 3 เดือน ทาํ ให้ ไพร่สามารถประกอบอาชีพได้ นอกจากนียังมีการออกกฎหมายว่าด้วยสัญญาทีดินรวมถึง พินัยกรรมว่าต้องทาํ เปนลายลักษณ์อักษร และกฎหมายทีสาํ คัญทีพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ กําหนดขึน คือ กฎหมายห้ามซือขายสูบฝน ด้านเศรษฐกิจพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้าน เศรษฐกิจ ทีสาํ คัญคือการรวบรวมรายได้จาการค้ากับต่างประเทศ ซึงในสมัยนีได้มีการเรียก เก็บภาษีอากรแบบใหม่คือ การเดินสวนและการเดินนา การเดินสวนเปนการแต่งตังเจ้า พนักงานไปสาํ รวจพืนทีเพาะปลูกของราษฎร เพือคิดอัตราเสียภาษีอากรทีถูกต้อง ทําให้เกิด ความยุติธรรมแก่เจ้าของสวน ส่วนการเดินนาคล้ายกับการเดินสวน แต่ให้เก็บหางข้าวแทน แทนการเก็บภาษีอากร

18 พระบาทสมเด็จพระนังเกล้าเจ้าอยู่หัว เมือครังทีทรงกาํ กับราชการกรมท่า (ในสมัยรัชกาลที 2)ได้ทรงแต่งสาํ เภาบรรทุก สินค้าออกไปค้าขายในต่างประเทศมีรายได้เพิมขึนในท้องพระคลังเปนอันมากพระราชบิดา ทรงเรียกพระองค์ว่า \"เจ้าสัว\" เมือรัชกาลที2 เสด็จสวรรคต มิได้ตรัสมอบราชสมบัติแก่ผู้ ใด ขุนนางและพระราชวงศ์ต่างมีความเห็นว่าพระองค์ (ขณะทรงดาํ รงพระราชอิสริยยศ เปนกรมหมืนเจษฏาบดินทร์)ขณะนันมีพระชนมายุ 37 พรรษา ทรงรอบรู้กิจการบ้านเมืองดี ทรงปราดเปรืองในทางกฎหมาย การค้าและการปกครอง จึงพร้อมใจกันอัญเชิญครอง ราชย์เปนรัชกาลที 3 พระราชกรณียกิจ ด้านความมันคง พระองค์ได้ทรงปองกันราชอาณาจักรด้วยการส่งกองทัพไปสกัดทัพ ของเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ ไม่ให้ยกทัพเข้ามาถึงชานพระนครและขัดขวางไม่ให้ เวียงจันทน์เข้าครอบครองหัวเมืองอีสานของสยาม นอกจากนี พระองค์ทรงประสบความ สาํ เร็จในการทาํ ให้สยามกับญวนยุติการสู้รบระหว่างกันเกียวกับเรืองเขมรโดยทีสยามไม่ได้ เสียเปรียบญวนแต่อย่างใด ด้านการคมนาคม ในรัชสมัยของพระองค์ใช้ทางนําเปนสาํ คัญ ทังในการสงครามและ การค้าขาย คลองจึงมีความสําคัญ มากในการย่นระยะทางจากเมืองหนึงไปอีกเมืองหนึง จึง โปรดฯให้มีการขุดคลองขึน เช่น คลองบางขุนเทียน คลองบางขนาก และ คลองหมาหอน ด้านการศึกษา ทรงทาํ นุบาํ รุงและสนับสนุนการศึกษา โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์ เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท แต่งตําราเรียนภาษาไทยขึนเล่มหนึงคือ หนังสือจินดามณี โปรดเกล้าฯ ให้ผู้รู้นําตาํ ราต่าง ๆ มาจารึกลงในศิลาตามศาลารอบพุทธาวาสวัดพระเชตุพน วิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ปนตังไว้ตามเขามอและเขียนไว้ตามฝาผนังต่าง ๆ มีทัง อักษรศาสตร์ แพทยศาสตร์ พุทธศาสนศึกษา โบราณคดี ฯลฯ เพือเปนการเผยแพร่วิชาการ สาขาต่าง ๆ จึงอาจกล่าวได้ว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเปนมหาวิทยาลัยแห่งแรก ของกรุงสยาม ด้านการทํานุบํารุงพระพุทธศาสนา พระองค์ทรงเลือมใสในพระพุทธศาสนามาก และได้ ทรงสร้างพระพุทธรูปมากมายเช่น พระประธานในอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามราช วรมหาวิหาร วัดเฉลิมพระเกียรติ วัดปรินายก และวัดนางนอง ทรงสร้างวัดใหม่ขึน 3 วัด คือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร วัดเทพธิดารามวรวิหารและวัดราชนัดดารามวรวิหาร ทรงบูรณ ปฏิสังขรณ์ วัดเก่าอีก 35 วัด เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึงสร้างมาแต่รัชกาลที 1 วัด อรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เปนต้น

19 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมือ พ.ศ. 2411 พระองค์ทรงคาํ นวณว่า จะสามารถเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้ใน ประเทศสยาม ณ หมู่บ้านหว้ากอ ตําบล คลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระองค์จึงโปรดให้ตังพลับพลาเพือเสด็จ พระราชดําเนินทอดพระเนตรสุริยุปราคา ทีตาํ บลหว้ากอ ซึงเมือถึงเวลาทีพระองค์ ทรงคาํ นวณก็เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงดังที ทรงได้คํานวณไว้ พระองค์เสด็จประทับ อยู่ทีหว้ากอเปนระยะเวลาประมาณ 9 วัน จึงเสด็จกลับกรุงเทพมหานคร พระราชกรณียกิจ ด้านกฎหมาย ได้มีพระบรมราชโองการ หรือ ประกาศ กฎหมายต่าง ๆ ออกมา เปน จาํ นวนมากเพือความผาสุก และให้ความเปนธรรมแก่อาณาประชาราษฎร์ อาทิ การลดภาษี อากร ลดหย่อนค่านา ยกเลิกการเก็บอากรตลาด เปลียนเปนเก็บภาษีโรงร้านเรือนแพจากผู้ ค้าขายรายใหม่ ประกาศมิให้ตกข้าวแก่ชาวนา ออกพระราชบัญญัติกาํ หนดใช้ค่าทีดินให้ ราษฎรเมือมีการเวนคืน ออกประกาศเตือนราษฎรให้รอบคอบในการทํานิติกรรม และที สาํ คัญประการหนึง คือ ทรงออกกฎหมาย กําหนดลักษณะของผู้ทีจะถูกขายเปนทาสให้เปน ธรรมยิงขึน โปรดเกล้า ฯ ให้ยกเลิกกฎหมายเดิมทีให้ สิทธิบิดา มารดา และสามีในการขาย บุตรและภรรยา และตราพระราชบัญญัติใหม่ให้การซือขายทาส เปนไปด้วยความยินยอม ของเจ้าตัวทีจะถูกขายเปนทาสเท่านัน ด้านการดําเนินนโยบายต่างประเทศ ได้ทรงสร้างสัมพันธไมตรีกับชาติตะวันตก โดยยึด หลักการประนีประนอมด้วยวิถีทางการทูต ได้ทรงทาํ สัญญาทางไมตรีและการค้าในลักษณะ ใหม่ กับอังกฤษเปนชาติแรก คือ สนธิสัญญาเบาริง เมือพุทธศักราช ๒๓๙๘ และกับชาติอืน ๆ ในลักษณะ เดียวกันในเวลาต่อมา ในด้านเศรษฐกิจการค้า ได้โปรดให้ยกเลิกระบบการค้าแบบผูกขาดของทางราชการ ไทย แต่เดิม และแบบบรรณาการกับจีน พระองค์ได้มีพระราชดาํ ริปรับปรุงระบบเงินตราของ ไทยให้ได้ มาตรฐาน โปรดเกล้า ฯ ให้ตังโรงกษาปณ์ขึนเพือผลิตเหรียญเงินขนาดต่าง ๆ ใช้ แทนเงินพดด้วง ประกาศพิกัดอัตราแลกเปลียนเงินเพือช่วยให้การแลกเปลียนซือขายสินค้า ได้คล่องและเปนสากลขึน ในด้านการทหาร ได้โปรดให้มีการจัดระเบียบทหารใหม่ และมีการฝกทหาร ตามแบบ อย่างตะวันตก ตลอดจนได้โปรดให้มีตํารวจนครบาลขึนเปนครังแรก

20 พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ จุ ล จ อ ม เ ก ล้ า เ จ้ า อ ยู่หั ว พระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชสมภพเมือวันที 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เปนพระราชโอรสในพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทีประสูติแต่ พระนางเธอ พระองค์เจ้ารําเพยภมราภิรมย์ (ในรัชกาลที 6 ได้มีการสถาปนาพระบรมอัฐิ เปนสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี) ครัง นันพระบรมวงศานุวงศ์เสนาบดีเข้าชือกัน กราบบังคมทูลว่า ทุกวันนีเจ้าฟาก็ไม่มีเหมือน แต่ก่อน ขอให้ยกขึนเปนเจ้าฟาอย่างสมัยก่อน จึงพระราชทานพระนามว่า เจ้าฟา จุฬาลงกรณ์ ถึงวันที 21 มีนาคม พ.ศ. 2404 จึงได้รับพระราชทานสุพรรณบัฏจารึก พระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟา จุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามกุฎ บุรุษย รัตนราชรวิวงศ์ วรุตมพงศบริพัตร สิริวัฒน ราชกุมาร แล้วโปรดเกล้าฯ ให้ตังเจ้ากรมเปน หมืนพิฆเนศวรสุรสังกาศ พระราชกรณียกิจทีสําคัญของรัชกาลที 5 ได้แก่ ทรงพระกรุณาโปรด เกล้าฯ ให้มีการเลิกทาสและไพร่ในประเทศไทย การปองกันการเปน อาณานิคมของจักรวรรดิฝรังเศสและจักรวรรดิอังกฤษ ได้มีการประกาศ ออกมาให้มีการนับถือศาสนาโดยอิสระในประเทศ โดยบุคคลศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลามสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างอิสระ นอกจากนีได้มี การนําระบบจากทางยุโรปมาใช้ในประเทศไทย ได้แก่ระบบการใช้ธนบัตร และเหรียญบาท ใช้ระบบเขตการปกครองใหม่และได้มีการสร้างรถไฟ สาย แรก คือ กรุงเทพฯ ถึง อยุธยา ลงวันที 1 มีนาคม ร.ศ.109 ซึงตรงกับ พุทธศักราช 2433 นอกจากนีได้มีงานพระราชนิพนธ์ ทีสาํ คัญ การก่อตัง การประปา การไฟฟา ไปรษณีย์โทรเลข โทรศัพท์ การสือสาร การรถไฟ ส่วนการคมนาคม ให้มีการขุดคลองหลายแห่ง พระราชกรณียกิจด้านสังคม ทรงยกเลิกระบบไพร่ โดยให้ไพร่เสียเงินแทน การถูกเกณฑ์ นับเปนการเกิดระบบทหารอาชีพในประเทศไทย นอกจากนี พระองค์ยังทรงเลิกทาสแบบค่อยเปนค่อยไป เริมจากออกกฎหมายให้ลูก ทาสอายุครบ 20 ปเปนอิสระ จนกระทังออกพระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) ซึงปล่อยทาสทุกคนให้เปนอิสระและห้ามมีการซือ ขายทาส

อา้ งองิ คอ์ อนไลน์ พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E 0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0% E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81 %E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%8 9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8% AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7 สมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ิติพระบรมราชินนี าถพระผรมราชชนนีพนั ปหลวง HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E 0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0% E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89 %E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8 1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%8C_%E0%B8%9E%E0%B8% A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8 %B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B 8%B2%E0%B8%96_%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0 %B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%8A%E 0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E 0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87 พระบาทสมเดจ็ พระปนเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E 0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0% E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81% E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89 %E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A B%E0%B8%B1%E0%B8%A7 กรมพระราชวังบวรวไิ ชยชาญ HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0 %B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E 0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%A3% E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B8%8A %E0%B8%B2%E0%B8%8D สมเด็จพระศรีพชั รนิ ทราบรมราชินนี าถพระบรมราชชนนพี ันปหลวง HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E 0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0% E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%8A %E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B 2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8% 8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8 %96_%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0% B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0 %B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0 %B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87

อา้ งองิ คอ์ อนไลน์ พระวิภาคภูวดล HTTP://GEOMATICS-TECH.BLOGSPOT.COM/2013/07/SURVEYING-AND- EXPLORING-IN-SIAM.HTML พ่อขนุ ศรอี ินทราทิตย์ HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0 %B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E 0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2% E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C พอ่ ขุนรามคําแหงมหาราช HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/SITE/PHANTHICHA477/BTH-THI-2-BUKHKHL- SAKHAY-SMAY-SUKHOTHAY/2-PHXKHUN-RAMKHAHAENG-MHARACH พระมหาธรรมราชาที 1 HTTPS://WWW.WIKIWAND.COM/TH/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E 0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3% E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%97% E0%B8%B5%E0%B9%88_1 สมเดจ็ พระรามาธิบดีที 1 HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0% B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B 8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8 %9A%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_1 พระบรมไตรโลกนาถ HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/SITE/BUKHKHLSAKHAYNIPRAWATISASTR/PHX KHUN-RAMKHAHAENG-MHARACH สมเดจ็ พระศรีสรุ ิโยทัย HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/SITE/CHOTIROSMEESANG/PRAWATI-PHRA- SU-RI-YO-THAY สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0% B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B 8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8 %A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช HTTPS://WWW.PATTAYA.GO.TH/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0% B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0% B9%80%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0% B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0% B8%81/ พระบามสมเด็จพระพทุ ธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0 %B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0 %B8%94%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0 %B8%AC%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0 %B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A

อา้ งองิ คอ์ อนไลน์ สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/SITE/PHRARACHPRAWATI09/HOME/PRAWATI- SMDEC-PHRA-NARAYN-MHARACH พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0 %B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0 %B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0 %B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2 พระบาทสมเด็จพระนงั เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0 %B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0 %B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0 %B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0 %B8%B1%E0%B8%A7 พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0 %B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0 %B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0 %B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0 %B8%A7 พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หัว HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0 %B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0 %B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0 %B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0 %B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0 %B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7

Ç\"Õõ¡íÒùÃÁÒʹ‹Ù \" วีรกรรมของทัง 20 พระองค์ทาํ ใหเ้ หน็ ได้ว่า พระองคม์ คี วามรกั ชาตบิ า้ นเมอื งและประชาชน ของตนเองและแต่ละพระองคไ์ ดแ้ สดงความ กลา้ หาญออกมาเพือประเทศเพือประโยชน์ของ รุ่นลูกรุน่ หลานตอ่ ไป ราคาเลม ละ 99 บาท


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook