ประวัติศาสตร์ ๗หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ความขัดแย้งและความร่วมมือของโลก ในครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๒๐ ถงึ ปัจจบุ ัน จุดประสงค์การเรียนรู้ • วเิ คราะห์ผลของการเปลยี่ นแปลงทนี่ าไปสคู่ วามร่วมมือและความขัดแยง้ ในคริสต์ศตวรรษท่ี ๒๐ ตลอดจนความ พยายามในการขจัดปญั หาความขัดแย้งได้
ความขดั แยง้ ในครสิ ต์ศตวรรษที่ ๒๐ ถึงปจั จบุ ัน สงครามโลกคร้งั ที่ ๑ (ค.ศ.๑๙๑๔-๑๙๑๙) • มีชนวนมาจากเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์อาร์ชดุ๊ก ฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ มกุฎราชกุมารแห่งจักรวรรดิ ออสเตรยี -ฮังการแี ละพระชายา ขณะเสด็จเยือนกรุงซาราเยโว เมืองหลวงของแคว้นบอสเนียเมื่อวันที่ ๒๘ มิถนุ ายน ค.ศ.๑๙๑๔ • ทาให้เกิดความขัดแย้งข้ึนระหว่างรัฐบาลออสเตรีย-ฮังการีกับเซอร์เบีย และขยายตัวกลายเป็นสงครามไป ยังดินแดนส่วนตา่ งๆ ของโลกในท่สี ุด อาร์ชดกุ๊ ฟรานซิส เฟอรด์ นิ านด์และพระชายา ขณะเสดจ็ เยอื นกรุงซาราเยโว เมอื งหลวงของบอสเนียเมอื่ ค.ศ. ๑๙๑๔
สงครามโลกคร้ังท่ี ๑ (ค.ศ.๑๙๑๔-๑๙๑๙) สาเหตขุ องสงคราม ๑. ลทั ธชิ าตินยิ ม ๒. ลัทธจิ กั รวรรดนิ ิยม ๓. ลทั ธนิ ยิ มทหาร ๔. การแบ่งเปน็ ๒ ฝ่าย กล่มุ สนธสิ ัญญาไตรภาคี กลมุ่ สนธิสัญญาพนั ธมิตรไตรภาคี
สงครามโลกครัง้ ที่ ๑ (ค.ศ.๑๙๑๔-๑๙๑๙) เป็นสงครามในสนามเพลาะ ลกั ษณะการรบในสงคราม มีการแข่งขันกันประดษิ ฐ์และผลิตอาวธุ ยธุ โธปกรณใ์ หมๆ่ ของประเทศคูส่ งคราม สว่ นใหญร่ บกัน มีอานาจในการทาลายล้างสูงหลาย ในพื้นท่ีของทวีปยุโรป มีทง้ั การรบ ประเภท เชน่ เครอื่ งบนิ ตอ่ สู้ รถถงั หุ้ม ทางอากาศ ทางบก และทางเรือ เกราะ เรือดาน้า ปนื กล แก๊สพิษ ซงึ่ ร่วมรบกนั อยา่ งเปน็ เอกภาพ เป็นต้น โดยใชร้ ะยะเวลาในการรบยาวนาน ถึง ๔ ปี
สงครามโลกครง้ั ท่ี ๑ (ค.ศ.๑๙๑๔-๑๙๑๙) ความเสียหายจากสงคราม สภาพความเสียหายของประเทศในยุโรปภาย หลงั จากสงครามโลกคร้งั ท่ี ๑ ยตุ ิลง ซง่ึ ตอ้ งใช้ มที หารเสียชวี ิตจากสงครามประมาณ ๑๓ ลา้ นคน บาดเจบ็ กวา่ ๒๐ ล้านคน เวลานานในการฟืน้ ฟใู ห้กลบั มาดดี ังเดมิ และอกี กว่า ๙ ลา้ นคนต้องทุพพลภาพ มพี ลเรือนเสียชีวิตประมาณ ๙ ลา้ นคน และอีก ๙ ลา้ นคนเสยี ชีวติ โดยตรงในสงคราม มีทรัพย์สนิ ท่เี สียหายจากสงครามในประเทศต่างๆ รวมกนั เปน็ มูลค่ากวา่ ๓๐๐,๐๐๐ ลา้ นดอลลาร์สหรฐั และระบบเศรษฐกิจของประเทศตา่ งๆ ตอ้ งพงั พนิ าศ จักรวรรดิย่งิ ใหญ่ ๔ จกั รวรรดิของยุโรป ล่มสลายลง
สงครามโลกคร้งั ที่ ๑ (ค.ศ.๑๙๑๔-๑๙๑๙) ผลของสงคราม • เกิดการจัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติ (The League of Nations) ข้ึนเพื่อทาหน้าท่ีประสานผลประโยชน์และ แกไ้ ขข้อขดั แยง้ ระหวา่ งประเทศ นับเป็นองคก์ ารระหวา่ งประเทศองค์การแรกของโลก • เกิดประเทศข้ึนใหมใ่ นยุโรปตะวนั ออก ๗ ประเทศ ได้แก่ เชโกสโลวะเกีย โปแลนด์ ฮังการี บัลแกเรีย โรมาเนีย แอลเบเนีย และยโู กสลาเวยี การประชุมสันติภาพท่ีกรุงปารีส ค.ศ. ๑๙๑๙ ของฝ่าย พันธมิตร และมีการทาสนธิสัญญาแวร์ซาย ซึ่งส่วนหนึ่งได้ระบุ ให้มีการก่อต้ังองค์การสันนิบาตชาติขึ้นตามแนวคิดหลักการ ๑๔ ข้อของประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน
สงครามโลกครงั้ ที่ ๒ (ค.ศ.๑๙๓๙-๑๙๔๕) • ชนวนสงครามเกิดขึน้ เมือ่ เยอรมนีบกุ โปแลนดใ์ นวนั ที่ ๓ กนั ยายน ค.ศ.๑๙๓๙ ทาให้อังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งสนบั สนุนโปแลนด์ประกาศสงครามตอ่ เยอรมนี • สงครามในยโุ รปจึงขยายตัวและภายในระยะเวลาอนั สน้ั นานาประเทศกถ็ กู ดงึ ให้เข้ารว่ มในสงคราม รวมถงึ ญ่ีปนุ่ และสหรัฐอเมริกาด้วย แผนทยี่ ุโรปในช่วงสงครามโลกครง้ั ที่ ๒
สงครามโลกคร้ังท่ี ๒ (ค.ศ.๑๙๓๙-๑๙๔๕) สาเหตุของสงคราม ความไม่เป็ นธรรมของ ความล้มเลวของ สนธิสัญญาสันตภิ าพ องค์การสันนิบาตชาติ การขยายตวั ของลทั ธิฟาสซิสต์ การมบี ทบาทมากขนึ้ ของลทั ธนิ ิยม และลทั ธินาซี ทหารและการแข่งขนั ทางเศรษฐกจิ
สงครามโลกคร้ังที่ ๒ (ค.ศ.๑๙๓๙-๑๙๔๕) การรบในสงคราม ค.ศ.๑๙๓๙ ค.ศ.๑๙๔๑ ค.ศ.๑๙๔๑ • เยอรมนีบุกครองยโุ รปไดท้ ้งั หมด • เยอรมนีบุกสหภาพโซเวยี ต • ญี่ป่ ุนบุกยดึ สิงคโปร์ซ่ึงเป็นฐาน • ญี่ป่ ุนบุกโจมตีอ่าวเพิร์ลท่ีหมู่เกาะ ยกเวน้ องั กฤษ ทพั สาคญั ขององั กฤษ ฮาวาย ทาใหส้ หรัฐอเมริกาประกาศ สงครามกบั ญ่ีป่ ุน ค.ศ.๑๙๔๔ ค.ศ.๑๙๔๕ • ฝ่ ายพนั ธมิตรยกพลข้ึนบกในวนั ดี-เดย์ • เยอรมนียอมแพแ้ ละยตุ ิสงครามในทวปี ยโุ รป • สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดปรมณูถล่มเมืองฮิโระชิ มะและนะงะซะกิ ทาใหญ้ ่ีป่ ุนยอมแพ้ สงครามจึง ยตุ ิลง
สงครามโลกคร้งั ที่ ๒ (ค.ศ.๑๙๓๙-๑๙๔๕) ผลของสงคราม • ประเทศมหาอานาจยุโรปสญู เสยี สถานภาพความเป็นประเทศมหาอานาจ สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต กลายเปน็ ประเทศอภิมหาอานาจทมี่ ีบทบาทและอทิ ธพิ ลในยโุ รป • การแข่งขนั กันขยายอิทธพิ ลและอดุ มการณ์ทางการเมอื งของสหรฐั เอมรกิ าและสหภาพโซเวยี ต ทาใหย้ โุ รป ถกู แบง่ ออกเปน็ ๒ สว่ น คือ ยโุ รปตะวนั ตกกับยุโรปตะวันออก • ประเทศพนั ธมิตรท่ชี นะสงครามจัดการพจิ ารณาความผดิ ของผู้นาพรรคนาซที ี่เมอื งนเู รมเบริ ์ก ประเทศเยอรมนี และตัดสนิ วา่ ผ้นู าพรรคนาซีมคี วามผดิ ด้วยการกอ่ อาชญากรรมต่อสนั ตภิ าพและก่อสงคราม และพิจารณาว่า องค์การของพรรคนาซีเป็นองคก์ ารอาชญากรสงคราม • มกี ารจดั ต้ังองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ขึน้ เพ่อื เป็นองค์การระหวา่ งประเทศ ทาหนา้ ที่รักษา สันตภิ าพและเสริมสรา้ งความร่วมมือระหว่างประเทศระดับโลก
สงครามเยน็ (ค.ศ.๑๙๔๕-๑๙๙๑) • หลังจากสิน้ สดุ สงครามโลก สหรัฐอเมรกิ าเข้ามาช่วยเหลอื ยโุ รปตะวันตกในการฟนื้ ฟู ประเทศและขดั ขวางการขยายอทิ ธิพลของสหภาพโซเวยี ต • ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองและอุดมการณ์ระว่างกลุ่มประเทศ ประชาธิปไตยที่นาโดยสหรัฐอเมริกา กับกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ที่นาโดยสหภาพ โซเวียต กลายเป็นสงครามเย็นทขี่ ยายขอบเขตไปยังพืน้ ที่ตา่ งๆ ท่วั โลก
สงครามเย็น (ค.ศ.๑๙๔๕-๑๙๙๑) การเรมิ่ ขึ้นของสงคราม สงครามเย็นเกิดขึ้นอย่างชัดเจนใน ค.ศ.๑๙๔๗ เม่ือเกิดสงครามกลางเมืองกรีซ ซึ่งมีผลให้สหรัฐอเมริกา ประกาศหลักการทรูแมน (Truman Doctrine) มีสาระสาคัญ คือ การช่วยเหลือประเทศต่างๆ ที่ถูกลัทธิ คอมมิวนิสต์คุกคาม และพรอ้ มใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดา้ นกาลังอาวุธและการเงนิ แก่ประเทศน้ันๆ ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส ทรูแมน ลงนามในแผนการมาร์แชลล์ อนมุ ัตใิ ห้ความช่วยเหลอื แก่ประเทศต่างๆ ในยุโรปตะวันตกที่ได้รับความ เสยี หายจากสงคราม
สงครามเยน็ (ค.ศ.๑๙๔๕-๑๙๙๑) วธิ ีการรบในสงคราม • ประเทศคู่รบในสงครามเยน็ ไมใ่ ช้อาวธุ ทาสงคราม • วกิ ฤตการณค์ รง้ั สาคญั ในสงครามเยน็ เชน่ กนั อยา่ งเปดิ เผย แตม่ ีการสะสมกาลงั อาวุธและ การปิดกนั เบอรล์ นิ สงครามเกาหลี วิกฤตการณ์ กาลงั รบควบคู่ไปกับการต่อสู้ด้วยวธิ ีการแข่งขนั ขปี นาวธุ ที่ควิ บา การบุกเชโกสโลวะเกีย สงคราม แยง่ ชิงอานาจและอิทธิพลในด้านตา่ งๆ เชน่ ดา้ น เวยี ดนาม เป็นตน้ การทตู ด้านการทหาร ด้านการโฆษณาชวนเชอ่ื เป็นตน้
สงครามเย็น (ค.ศ.๑๙๔๕-๑๙๙๑) การผ่อนคลายความตึงเครียดของสงคราม ค.ศ.๑๙๖๙-๑๙๗๙ สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตปรับเปล่ียนนโยบายจากการแข่งขันกัน ค.ศ.๑๙๗๕ ขยายอานาจและสะสมอาวุธมาเป็นการสร้างความสัมพันธ์ต่อกันและร่วมมือกันใน ด้านเศรษฐกิจ การค้า สังคม และวัฒนธรรม ทาให้บรรยากาศตึงเครียดของสงคราม ผ่อนคลายลง กลมุ่ ประเทศค่ายโลกเสรีและคา่ ยโลกคอมมิวนิสต์จัดการประชุมเพ่ือความมั่นคง และความร่วมมือกันในยุโรป หรือ ซีเอสซีอี เน้นการเคารพในอานาจอธิปไตยของนานา ประเทศ และแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยสันติวิธี แต่ภาวะสงครามเย็นกลับมา อีกครั้งใน ค.ศ. ๑๙๗๙ เม่ือสหภาพโซเวียตบุกอัฟกานิสถาน เพื่อครอบครองอ่าว เปอร์เซียและแหลง่ น้ามันดบิ ในตะวันออกกลาง
สงครามเย็น (ค.ศ.๑๙๔๕-๑๙๙๑) การส้นิ สดุ ของสงครามเย็น ค.ศ.๑๙๘๕ ค.ศ.๑๙๘๙ ประธานาธิบดีมีฮาอิล กอร์บาชอฟ ปฏิรูป ประเทศยุโรปตะวันออกเคล่ือนไหว แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต โดยไม่มีการ สหภาพโซเวียตให้เป็นประชาธิปไตยมากข้ึน และ ขัดขวางจากสหภาพโซเวยี ต เนน้ การดาเนนิ นโยบายรว่ มมอื กบั นานาประเทศเพ่ือ แก้ปัญหาต่างๆ ค.ศ.๑๙๘๕-๑๙๘๙ ค.ศ.๑๙๙๐ เกิดการประชุมเจรจาหลายคร้ังระหว่าง ค.ศ.๑๙๙๑ สหรัฐอเมริกากับสภาพโซเวียต และตกลงกันลด กาลังอาวุธนิวเคลียร์ และหาแนวทางยุติความ ขัดแยง้ ทางการเมืองร่วมกนั กาแพงเบอร์ลินถกู ทาลาย สหภาพโซเวียตลม่ สลาย สงครามเย็นสิ้นสดุ ลง
สงครามเย็น (ค.ศ.๑๙๔๕-๑๙๙๑) • สหหลังรสัฐิ้นอสเมุดสริกงคารตา้อมงเดย็นาเนสหินรนฐั โอยเบมอารภกิยิมาโดกหนลยาโาออยยาาบเนศปาัายย็นจกขปหรอรลองะังปบเทสรคศงะวคอเาทรภมศามิ มรห่วเายมอ็นมาือนใานจอเพงยีคง์กปารระรเทะหศเวด่ายี งวปใรนะโลเทกศต่างๆ • โดยเฉพาะองค์การสหประชาชาตแิ ละองคก์ ารนาโต
องคก์ ารสหประชาชาติ (United Nation : UN) • ก่อต้ังในช่วงช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ ๒ เม่ือผู้แทนจากประเทศจีน สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต และ อังกฤษ ได้ประชุมร่วมกันเพอ่ื วางแนวทางในการจัดต้ังองค์การระหว่างประเทศขึ้น • ผู้แทนจาก ๕๐ ประเทศได้ประชุมร่วมกันเพ่ือร่างกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ ทาให้องค์การ สหประชาชาติกอ่ ตงั้ ขึน้ อย่างเป็นทางการในวันท่ี ๒๔ ตุลาคม ค.ศ.๑๙๔๕ เม่อื กฎบัตรไดร้ บั สตั ยาบันจากชาติ ต่างๆ ทล่ี งนามในกฎบตั รเป็นสว่ นใหญ่ องคก์ ารสหประชาชาติ มีสานักงานใหญอ่ ยทู่ ี่นครนวิ ยอรก์ ประเทศสหรฐั อเมริกา
วัตถุประสงค์หลักขององคก์ ารสหประชาชาติ มจี ุดมุ่งหมาย ๔ ประการ คือ ประการท่ี ๑ ประการที่ ๒ ประการที่ ๓ ประการท่ี ๔ รักษาสนั ติภาพ พัฒนาความสัมพนั ธ์ รว่ มมอื แกป้ ัญหาระหว่าง เป็นศนู ย์กลางในการสรา้ ง และความม่นั คงของโลก ฉันมิตรระหวา่ งประเทศ ประเทศและสง่ เสรมิ สมานฉันทใ์ นการดาเนนิ นโยบายของชาติต่างๆ การเคารพสทิ ธมิ นษุ ยชน
แนวทางการดาเนนิ งานขององคก์ ารสหประชาชาติในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี ๒๑ การพฒั นา การสง่ เสริมสทิ ธิ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื และการลด มนุษยชน ประชาธิปไตย ประเทศในทวีป ความยากจน แอฟริกา และธรรมาภบิ าล (good governance) การธารงสันตภิ าพ การพิทักษ์ การคุ้มครอง การเพ่มิ ความเขม้ แข็ง และความมั่นคง สิง่ แวดลอ้ มโลก ผทู้ อี่ ่อนแอหรอื ให้แกส่ หประชาชาติ และการลดอาวธุ ผทู้ ี่เสยี เปรยี บ
สหภาพยุโรป (Eropean Union : EU) • สหภาพยุโรปสถาปนาอย่างเป็นทางการในต้นทศวรรษ ๑๙๙๐ สืบเน่ืองมาจากการดาเนินงานขององค์กร ความรว่ มมือในยโุ รปท่กี ่อตง้ั มาก่อน • มกี ารทาสนธสิ ญั ญาก่อต้ังสหภาพยโุ รปขน้ึ ท่เี มอื งมาสตริกต์ ประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ เม่ือ ค.ศ.๑๙๙๓ • สมาชกิ ร่วมกอ่ ตั้งมี ๑๕ ประเทศ ปัจจบุ ันมีสมาชิก ๒๘ ประเทศสานักงานใหญ่ตัง้ อยู่ท่ีกรงุ บรัสเซลส์ ประเทศ เบลเยยี ม และมีคาขวญั ประจาองค์กรวา่ “United in Diversity” สภายโุ รป ทเ่ี มอื งสตราสบูร์ก ประเทศฝรง่ั เศส มีหน้าท่ีหลกั ในการตรวจสอบและบญั ญตั ิกฎหมายของสหภาพ ยุโรปโดยสว่ นใหญ่จะใช้อานาจร่วมกบั คณะมนตรแี ห่งสหภาพยโุ รป
วตั ถุประสงคห์ ลกั ของสหภาพยุโรป เพอ่ื รว่ มมือกนั สร้างเอกภาพในการดาเนินนโยบายดา้ นการเมอื ง เศรษฐกจิ การเงนิ สังคม วัฒนธรรม ความมั่นคง และการต่างประเทศ โดยคาดหวังว่าจะนาไปสู่การสร้างสหรัฐยุโรป (United States of Europe) หรือยุโรปท่ีไร้ พรมแดนอย่างแทจ้ ริงในอนาคต กลไกการบรหิ ารและแนวทางดาเนนิ งานของสหภาพยุโรป รัฐสภา คณะมนตรี คณะกรรมา ธนาคาร ศาลยตุ ิธรรม ธิการ กลาง มตี วั แทนประจาอย่ตู ามประเทศต่างๆ และในหน่วยงานระหว่างประเทศอนื่ ๆ
ใน ค.ศ.๒๐๐๙ ได้มีการบังคับใช้สนธิสัญญาลิสบอน เพ่ือรองรับการทางานขององค์กรท่ีมี สมาชกิ เพมิ่ มากขึ้นและเพ่อื ยกระดบั ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อันมีผลตอ่ สหภาพยุโรปดังน้ี ยกระดบั ความโปรง่ ใสและความเปน็ ประชาธปิ ไตย เพม่ิ ศักยภาพภายใน สรา้ งคณุ คา่ และความเป็นปกึ แผ่นภายใน เนน้ การเปน็ ผู้นาในระดับโลก
องค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) • เปน็ องคก์ ารระหว่างประเทศในช่วงหลังสงครามโลกครั้งท่ี ๒ • พัฒนามาจากความตกลงทั่วไปวา่ ดว้ ยพกิ ดั อัตราศลุ กากรและการค้า หรอื แกตต์ • WTO ได้กอ่ ต้ังขนึ้ อยา่ งเปน็ ทางการในวนั ท่ี ๑ มกราคม ค.ศ.๑๙๙๕ หลังจากการเจรจาการค้ารอบอรุ ุกวยั จบลง • มีสมาชิกเร่ิมแรก ๘๑ ประเทศ และปัจจุบันมีสมาชิกทง้ั ส้นิ ๑๖๑ ประเทศ องค์การการค้าโลก (WTO) มสี านักงานใหญ่ ตัง้ อยู่ท่ีนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอรแ์ ลนด์
วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ขององค์การการค้าโลก • เปดิ เสรกี ารค้าระหวา่ งประเทศอย่างค่อยเปน็ ค่อยไปตามความพรอ้ มและระดบั การพฒั นาของประเทศสมาชิก โดยมีกติกากาหนดให้ปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษแก่ประเทศกาลังพัฒนาเพื่อสนับสนุนให้เข้าร่วมในระบบการค้า พหุภาคี ดงั นน้ั ประเทศสมาชกิ มพี ันธะที่จะตอ้ งปฏบิ ัติตนภายใต้กรอบความตกลงตา่ งๆ ขององคก์ าร ศุภชัย พานชิ ภกั ดิ์ อดตี รองนายกรฐั มนตรแี ละรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงพาณิชยข์ องประเทศไทย ขณะน้ัน ไดล้ งนามในการประชมุ รอบอรุ กุ วัย ซึ่งได้มีความตกลงใหม้ กี ารจัดตงั้ องค์การการค้าโลกข้ึน
การดาเนนิ งานขององคก์ ารการคา้ โลก • องคก์ ารการค้าโลกทาหนา้ ทเ่ี ก่ียวกับขอ้ ตกลงดา้ นการค้าระหว่างประเทศ เปน็ เวทีสาหรบั การเจรจาตกลง ตอ่ รอง และขจัดขอ้ พพิ าทในเงอ่ื นไขและกฎเกณฑท์ างการค้าและการบริการระหว่างประเทศสมาชิก โดยต้องดแู ลความตกลง ๓ ประการ ได้แก่ ความตกลงท่ัวไปวา่ ด้วย ความตกลงท่วั ไปวา่ ดว้ ย ความตกลงท่วั ไปว่าดว้ ยการคา้ พิกัดอตั ราศุลกากร และการคา้ การคา้ ภาคบรกิ าร เกยี่ วกบั ทรพั ย์สนิ ทางปัญญา • องค์การการค้าโลกยงั ทาหนา้ ทค่ี อยติดตามสถานการณก์ ารค้าระหวา่ งประเทศและจัดตงั้ ให้มีการทบทวนนโยบาย การค้าของประเทศสมาชิกอย่างสม่าเสมอ • องคก์ ารการค้าโลกจะจดั ประชุมระดบั รัฐมนตรอี ยา่ งน้อยทกุ ๆ ๒ ปี เพ่อื ทบทวนปัญหาในการปฏบิ ัติตามขอ้ ผูกพัน ของสมาชิก คณะมนตรีใหญ่ คณะมนตรี และคณะกรรมาธกิ ารต่างๆ
สมาคมประชาชาติแหง่ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้หรอื อาเซียน (Association of Sountheast Asian Nation : ASEAN) • ก่อต้ังข้นึ โดยปฏญิ ญากรงุ เทพ เมอ่ื วนั ท่ี ๘ สงิ หาคม ค.ศ. ๑๙๖๗ • พัฒนามาจากสมาคมอาสา (ASA) • มีประเทศสมาชิกร่วมก่อตง้ั ๕ ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีประเทศ สมาชกิ ทัง้ สนิ้ ๑๐ ประเทศ • จะขยายขอบเขตเปน็ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี นภายใน ค.ศ. ๒๐๑๕ • มีคาขวัญประจาองคก์ รวา่ หนึ่งวสิ ัยทศั น์ หน่งึ เอกลักษณ์ หนงึ่ ประชาคม
สมาคมประชาชาติแหง่ เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตห้ รอื อาเซยี น (Association of Sountheast Asian Nation : ASEAN) วตั ถปุ ระสงค์หลักของอาเซยี น ๑.ส่งเสริมความร่วมมอื ๒.สง่ เสริมสนั ติภาพ ๓.สง่ เสริมความร่วมมือ และความชว่ ยเหลอื และความม่ันคงของภูมภิ าค ระหว่างอาเซยี นกับตา่ งประเทศ ทางด้านเศรษฐกิจ และองค์กรระหวา่ งประเทศ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ เทคโนโลยี และการบรหิ าร
สมาคมประชาชาติแหง่ เอเชยี ตะวันออกเฉียงใตห้ รืออาเซียน (Association of Sountheast Asian Nation : ASEAN) การดาเนินงานของอาเซยี น • การประกาศใช้กฎบัตรอาเซียน • อาเซียนมีสานัก เลขาธิการ • รูปแบบการพัฒนาของอาเซียน เม่ือ ค.ศ.๒๐๐๘ ทาให้การ อาเซียนเป็นศูนย์กลางในการ เป็นไปในทศิ ทางเดยี วกบั สหภาพ ดาเนินงานของอาเซียนเป็นไป ติดต่อระหว่างประเทศสมาชิก ยุโรป คือ ดาเนินการตาม ๓ เสา ภ า ย ใ ต้ ก ฎ ห ม า ย เ ดี ย ว กั น แ ล ะ แ ล ะ มี ส า นั ก ง า น อ า เ ซี ย น หลกั ได้แก่ น า ไ ป สู่ ก า ร เ ป็ น ป ร ะ ช า ค ม แ ห่ ง ช า ติ ท า ห น้ า ที่ ป ร ะ ส า น เศรษฐกิจอาเซยี นใน ค.ศ.๒๐๑๕ กิจการอาเซยี นในประเทศนน้ั ๆ ดา้ นการเมือง ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นสังคม และความมนั่ คง และวัฒนธรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: