Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บัญชีเงินได้นิติบุคคล-09

บัญชีเงินได้นิติบุคคล-09

Published by anuthidadarote, 2021-08-31 01:34:26

Description: บัญชีเงินได้นิติบุคคล-09

Search

Read the Text Version

คำว่ำ “ตรำสำร” ตำมประมวลรษั ฎำกรหมำยถึง เอกสำรท่ีต้องเสีย อำกรแสตมป์ ตำมท่ีกำหนดไว้ในบัญชีอัตรำอำกรแสตมป์ ซ่ึงปัจจุบันมี ทงั้ หมด 28 ลกั ษณะตรำสำร เช่น ตรำสำรเช่ำที่กบั โรงเรือน เช่ำซื้อทรพั ยส์ ิน จ้ำงทำของ ก้ยู ืมเงิน ฯลฯ อำกรแสตมป์ เป็ นภำษีอำกรท่ีจดั เกบ็ จำกกำรกระทำ ตรำสำร โดยคำว่ำ “กระทำ” หมำยควำมว่ำ กำรลงลำยมือชื่อตำมบทบญั ญตั ิ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิ ชย์ 153

กำรจดทะเบียนโอนหรือก่อตัง้ สิทธิใดๆ เก่ียวกบั อสงั หำริมทรพั ยโ์ ดยมีค่ำตอบแทนต้องเสีย อำกรแสตมป์ เป็นตวั เงินในฐำนะใบรบั ตำมลกั ษณะ ตรำสำร 28 (ข) แห่งบญั ชีอตั รำอำกรแสตมป์ ท้ำย หมวด 6 ลกั ษณะ 2 แห่งประมวลรษั ฎำกร สำหรบั จำนวนเงินตงั้ แต่ 200 บำทขึ้นไปทุก 200 บำท หรือ เศษของ 200 บำท เสียค่ำอำกรแสตมป์ 1 บำท 154

กรณีผ้รู บั ค่ำตอบแทนต้องเสียภำษีธุรกิจเฉพำะเงินได้ท่ีได้รบั ยกเว้นภำษีมีอย่หู ลำยกรณีที่สำคญั ๆ ได้แก่ กำรยกเว้นตำมมำตรำ 42 แห่ง ประมวลรษั ฎำกรกำรยกเว้นตำมกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 126 กำรยกเว้นตำม พระรำชกฤษฎีกำ ฉบบั ต่ำงๆ เป็นต้น 1. เงินได้จำกกำรขำยอสงั หำริมทรพั ย์ ทงั้ นี้เฉพำะกรณีท่ีอสงั หำริมทรพั ยต์ ำมข้อ (1), (2) หรือ (3) ได้จดทะเบียน กำรได้มำซึ่งอสงั หำริมทรพั ยภ์ ำยใน พ.ศ. 2540 และขำยทรพั ยส์ ินนัน้ ภำยหลงั จด ทะเบียนไม่น้อยกว่ำ 1 ปี (ไม่เกิน 31 ธนั วำคม 2550 ตำมกฎกระทรวงฉบบั ท่ี 126 พ.ศ. 2509 ออกตำมควำมในประมวลรษั ฎำกรว่ำด้วยกำรยกเว้นรษั ฎำกร ข้อ 2 (41) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 206 พ.ศ. 2540 155

2. กำรขำยอสงั หำริมทรพั ยท์ ี่ขำยภำยหลงั ได้มำเกินกว่ำ 5 ปี ได้รบั ยกเว้น ภำษีธุรกิจเฉพำะ (3.3%) เว้นแต่จะเป็ นกำรขำยของผู้ได้รบั อนุญำต จดั สรรท่ีดินตำม พ.ร.บ.กำรจดั สรรท่ีดิน พ.ศ. 2543 3. เงินได้จำกกำรขำยอสงั หำริมทรพั ยอ์ นั เป็ นมรดกหรืออสงั หำริมทรพั ยท์ ่ี ได้รบั จำกกำรให้โดยเสน่หำท่ีตงั้ อยู่นอกเขตกรงุ เทพมหำนคร เทศบำล สุขำภิบำล หรือเมืองพทั ยำหรือกำรปกครองท้องถิ่นอื่นท่ีมีกฎหมำย จดั ตัง้ ขึ้นโดยเฉพำะ ทัง้ นี้ เฉพำะเงินได้จำกกำรขำยในส่วนที่ไม่เกิน 200,000 บำท ตลอดปี ภำษีนัน้ 4. เงินได้จำกกำรโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หำริมทรพั ย์ ให้แก่บตุ ร โดยชอบด้วยกฎหมำยของตนโดยไม่มีค่ำตอบแทน บุตรชอบ ด้วยกฎหมำยดงั กล่ำวไม่รวมถึงบตุ รบญุ ธรรมด้วย 156

5. เงินได้จำกกำรโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หำริมทรพั ย์ โดยไม่มีค่ำตอบแทนให้แก่มลู นิธิชยั พฒั นำ 6. เงินได้จำกกำรโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หำริมทรพั ย์ โดยไม่มีค่ำตอบแทนให้แก่มูลนิ ธิส่งเสริมศิลปำชีพในสมเดจ็ พระนำงเจ้ำ สิริกิต์ิ พระบรมรำชินีนำถ 7. เงินค่ำทดแทนตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรเวนคืนอสงั หำริมทรพั ย์ ทงั้ นี้ เฉพำะท่ีดินท่ีต้องเวนคืน และอสงั หำริมทรพั ยอ์ ่ืนบนท่ีดินที่ต้องเวนคืน 8. เงินได้เท่ำที่ได้จ่ำยเป็นดอกเบีย้ เงินก้ยู ืม สำหรบั กำรก้ยู ืมเงินเพ่ือซื้อ เช่ำ ซื้อ หรือสร้ำงอำคำรที่อยู่อำศยั โดยจำนองอำคำรที่ซื้อหรือสร้ำงเป็ นประกนั กำรก้ยู ืมนัน้ ตำมจำนวนท่ีจ่ำยจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บำท 157

9. เงินได้เท่ำท่ีได้จ่ำยเป็ นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ธนำคำรหรือสถำบนั กำรเงินอื่น บริษทั ประกนั ชีวิต สหกรณ์ หรือนำยจ้ำงสำหรบั กำรก้ยู ืมเงิน เพ่ือซื้อเช่ำซื้อ หรือสร้ำงอำคำรที่อยู่อำศยั โดยจำนองอำคำรท่ีซื้อหรือ สร้ำงเป็ นประกนั กำรก้ยู ืมนัน้ ซึ่งรวมถึงอำคำรพร้อมท่ีดินด้วย เฉพำะ ส่วนที่เกิน 10,000 บำท แต่ไม่เกิน 40,000 บำท ทงั้ นี้ ตำมหลกั เกณฑแ์ ละ วิธีกำรท่ีอธิบดีกำหนด 10.เงินได้จำกกำรโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หำริมทรพั ยใ์ น โครงกำรพฒั นำลุ่มน้ำป่ ำสกั อนั เนื่องมำจำกพระรำชดำริ จงั หวดั ลพบุรี และจงั หวดั สระบรุ ี 11.เงินได้จำกกำรโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หำริมทรพั ย์ ใน โครงกำรเข่ือนคลองท่ำด่ำนอนั เนื่องมำจำกพระรำชดำริ จงั หวดั นครนำยก 158

12. ยกเว้นภำษีเงินได้สำหรบั กำรขำย แลกเปล่ียน ให้โอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิ ครอบครองในอสงั หำริมทรพั ย์ให้แก่ส่วนรำชกำรหรือรฐั วิสำหกิจที่มิใช่ บริษัทหรือห้ำงห้นุ ส่วนนิ ติบุคคลไม่ถือว่ำเป็ นกำรขำยตำมมำตรำ 39 แห่ง ประมวลรษั ฎำกร 13.กำรให้ กำรโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หำริมทรพั ย์โดย ไม่มีค่ำตอบแทน 14.กำรแลกเปล่ียนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หำริมทรพั ย์กบั ส่วนรำชกำร หรือรฐั วิสำหกิจท่ีมิใช่บริษทั หรือห้ำงห้นุ ส่วนนิ ติบุคคลเฉพำะ ในกรณีที่ส่วนรำชกำร หรือรฐั วิสำหกิจนัน้ มิได้มีกำรจ่ำยค่ำตอบแทน เป็นอย่ำงอื่นนอกจำกอสงั หำริมทรพั ยท์ ี่แลกเปล่ียนนัน้ 159

15.ผ้มู ีเงินได้ท่ีได้รบั เงินได้พึงประเมินจำกกำรขำยอสงั หำริมทรพั ย์ตำม มำตรำ 4 (6) แห่งพระรำชกฤษฎีกำออกตำมควำมในประมวลรษั ฎำกร ว่ำด้วยกำรขำยอสงั หำริมทรพั ยท์ ี่เป็นทำงกำรค้ำหรือหำกำไร (ฉบบั ที่ 342) พ.ศ. 2541 ซ่ึงได้ถกู หักภำษีเงินได้ ณ ที่จ่ำยตำมมำตรำ 50 (5) แห่ง ประมวลรษั ฎำกร และได้เสียภำษีธรุ กิจเฉพำะไว้แล้ว 16.เงินได้จำกกำรโอนกรรมสิทธ์ิในท่ีดินให้แก่สถำบนั อุดมศึกษำเอกชน และกำรบริจำคอสงั หำริมทรพั ย์ให้แก่สถำบนั อุดมศึกษำเอกชน ตำม พระรำชบญั ญตั ิสถำบนั อุดมศึกษำเอกชน พ.ศ. 2546 ทงั้ นี้ สำหรบั กำร โอนกรรมสิทธ์ิในท่ีดินตงั้ แต่วนั ที่ 31 ตลุ ำคม พ.ศ. 2546 เป็นต้นไป 17.เงินได้จำกกำรโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสงั หำริมทรพั ย์ โดยไม่มีค่ำตอบแทนให้แก่สภำกำชำดไทย 160

บคุ คลตำมที่ระบไุ ว้ในช่องที่ 3 ของบญั ชีอตั รำอำกรแสตมป์ เช่น ผใู้ ห้เช่ำ ผโู้ อน ผใู้ ห้กู้ ผรู้ บั ประกนั ภยั ฯลฯ ถ้ำตรำสำรทำขึน้ นอกประเทศ ให้เป็นหน้ำท่ีของผ้ทู รง ตรำสำรคนแรกในประเทศเป็นผเู้ สียอำกรภำยใน 30 วนั นับแต่วนั ท่ีได้รบั ตรำสำรนัน้ ตวั ๋ เงินท่ีย่ืนให้ชำระเงิน มิได้ปิ ดแสตมป์ บริบรู ณ์ ผรู้ บั ตวั ๋ จะเสียอำกรและใช้สิทธิไล่เบีย้ จำกผมู้ ีหน้ำท่ีเสียอำกร หรอื หกั ค่ำอำกรจำกเงินที่จะชำระกไ็ ด้ ผมู้ ีหน้ำที่เสียอำกร ตำมท่ีระบไุ วใ้ นบญั ชีอตั รำอำกรแสตมป์ อำจตกลงให้ค่กู รณีอีกฝ่ ำยหน่ึง เป็นผเู้ สียอำกรแทนตนกไ็ ด้ เว้นแต่กรณีตำมข้อ 2 161

วิธีกำรเสียอำกรแสตมป์ สำหรบั กำรทำตรำสำร เรียกว่ำ “ปิ ด แสตมป์ บริบรู ณ์” ซึ่งหมำยควำมว่ำ 1. ในกรณีแสตมป์ ปิ ดทบั คือกำรได้เสียอำกรโดยปิ ดแสตมป์ ทบั กระดำษ ก่อนกระทำหรือในทนั ทีท่ีทำตรำสำรเป็ นรำคำไม่น้อยกว่ำอำกรท่ีต้อง เสียและได้ขีดฆ่ำแสตมป์ นัน้ แล้ว หรือ 2. ในกรณีแสตมป์ ดนุ คือกำรได้เสียอำกรโดยใช้กระดำษมีแสตมป์ ดุนเป็ น รำคำไม่น้อยกว่ำอำกรท่ีต้องเสียและขีดฆ่ำแล้ว หรือโดยยื่นตรำสำรให้ พนักงำนเจ้ำหน้ำท่ีประทบั แสตมป์ ดุน และชำระเงินเป็ นจำนวนไม่น้อย กว่ำอำกรท่ีต้องเสียและขีดฆ่ำแล้ว หรือ 162

3. ในกรณีชำระเป็นตวั เงิน คือกำรได้เสียอำกรเป็นตวั เงิน เป็นรำคำไม่น้อย กว่ำอำกรท่ีต้องเสียตำมบทบญั ญตั ิในหมวดอำกรแสตมป์ หรือตำม ระเบียบที่อธิบดีจะได้กำหนดโดยอนุมตั ิรฐั มนตรี กำรปิ ดแสตมป์ บริบรู ณ์ตำมข้อ 1. และ 2. ดงั กล่ำวข้ำงต้น อธิบดีมี อำนำจสงั่ ให้ปฏิบตั ิตำมที่กำหนดในข้อ 3. แทนได้ คือ กำหนดให้เสีย อำกรเป็ นตวั เงิน เช่น กรณีตวั ๋ แลกเงิน เชค็ ใบรบั รำงวลั สลำกกินแบ่ง ใบรบั เก่ียวกบั อสงั หำริมทรพั ย์ ใบรบั เกี่ยวกบั ยำนพำหนะ ตรำสำรตวั ๋ สญั ญำใช้เงินเฉพำะที่บริษทั เงินทนุ หรือบริษทั เครดิตฟองซิเอรเ์ ป็นผอู้ อกตวั ๋ จ้ำงทำของ เฉพำะท่ีรฐั บำล องคก์ ำรของรฐั บำลเป็นผวู้ ่ำจ้ำงและมีสินจ้ำงตงั้ แต่ 200,000 บำท ขึน้ ไป ก้ยู ืมเงินหรือกำรตกลงให้เบิกเงินเกินบญั ชีจำกธนำคำร กรมธรรมป์ ระกนั ภยั ตวั ๋ สญั ญำใช้เงิน เลตเตอรอ์ อฟเครดิต ฯลฯ 163

ยกเว้นอำกรตำมประมวลรษั ฎำกร ยกเว้นตำมพระรำชกฤษฎีกำ ยกเว้นอำกร ยกเว้นตำมคำสงั่ ของหวั หน้ำคณะปฏิวตั ิท่ี 79/2515 ยกเว้นตำมกฎหมำยอื่นๆ ควำมรบั ผิดทำงแพ่ง ควำมรบั ผิดทำงอำญำ 164

วิธีกำรคำนวณอำกรแสตมป์ จำกกำรขำยอสงั หำริมทรพั ย์ XX 1. รำยรบั จำกกำรขำยอสงั หำริมทรพั ย์ และยกให้ผอู้ ่ืน (ถือว่ำขำย) XX 2. รำคำประเมินทุนทรพั ย์ ในกำรจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม XX เป็ นค่ำอำกรแสตมป์ 165

หลกั กำรบนั ทึกบญั ชีอำกรแสตมป์ บญั ชีค่ำกรแสตมป์ จดั เป็ นบญั ชีค่ำใช้จ่ำย ซ่ึงอยู่ในหมวดท่ี 5 ดงั นัน้ จึง สำมำรถบนั ทึกบญั ชีดงั นี้ เดบิต ค่ำอำกรแสตมป์ XX เครดิต เงินสด/เงินฝำกธนำคำร XX ให้ผ้ขู อเสียอำกรแสตมป์ ย่ืนตรำสำรนัน้ ต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำท่ีเพื่อเสีย อำกรภำยใน 15 วนั นับแต่วนั ที่ต้องปิ ดแสตมป์ บริบูรณ์ กใ็ ห้อนุมตั ิให้เสียเพียง อำกรตำมอตั รำในบญั ชีท้ำยหมวดอำกรแสตมป์ วนั ท่ี 31 มกรำคม 2558 นำยฉัตรซื้อเบีย้ ประกนั ภยั พ.ร.บ.สำหรบั รถยนต์นัง่ ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ท่ีนัง่ แบบไม่เต็มปี (144 วนั ) โดยมีเบี้ย ประกนั แบบเฉล่ียรำยวนั 700 บำท 166

เบยี้ ประกนั ภยั แบบเฉล่ียรำยวนั = 700 X 144 365 = 276.16 บำท อำกรแสตมป์ = 2 บำท หมำยเหตุ : กรมธรรม์ประกนั ภยั ทุก 250 บำท หรือเศษของ 250 บำท แห่งเบี้ย ประกนั ภยั ดงั นัน้ 276 บำท จึงต้องเสียอำกรแสตมป์ เท่ำกบั 2 บำท 167

โจทยป์ ระกอบ รำคำประเมินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้ำง 5 ล้ำนบำท ผ้ขู ำยถือครอง อสังหำริมทรัพย์ดังกล่ำวเกิ น 5 ปี หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้ำนเกิ น 1 ปี โดยมี ค่ำธรรมเนียมกำรโอน 0.01% ของรำคำประเมิน คิดเป็ นค่ำธรรมเนียมกำรโอน 500 บำท (ยกเว้นกำรขำยเฉพำะที่ดินเปล่ำท่ีมิใช่ท่ีดินตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรจดั สรรให้คิด ค่ำธรรมเนียมกำรโอน 2% ตำมปกติ ตำมมติคณะรฐั มนตรีเมื่อวนั ท่ี 29 มีนำคม 2553) กำรคำนวณค่ำอำกรแสตมป์ รำคำขำยอสงั หำริมทรพั ย์ 5,000,000 บำท ค่ำอำกรแสตมป์ 25,000 บำท (คิดอตั รำ 0.5% ของรำคำซื้อขำย หรอื รำคำประเมิน แล้วแต่รำคำใดจะสงู กวำ่ ) 168

แสตมป์ เป็นเอกสำรท่ีต้องเสียอำกรแสตมป์ ตำมที่กำหนดไว้ใน บญั ชีอตั รำอำกรแสตมป์ ซ่ึงปัจจบุ นั มีทงั้ หมด 28 ลกั ษณะตรำสำร อำกร แสตมป์ เป็นภำษีอำกรท่ีจดั เกบ็ จำกกำรกระทำตรำสำรโดยคำว่ำ กระทำ หมำยควำมว่ำ กำรลงลำยมือช่ือตำมบทบญั ญตั ิแห่งประมวลกฎหมำย แพ่งและพำณิชย์ ซึ่งระบตุ รำสำรท่ีต้องเสียอำกรแสตมป์ ซ่ึงผ้มู ีหน้ำท่ีใน กำรเสียอำกรแสตมป์ ต้องทำควำมเข้ำใจในวิธีกำรเสียอำกร กำรขอเสีย อำกรเป็นตวั เงิน กำรขีดฆ่ำอำกร กำรยกเว้นอำกร กำรลดอำกร กำรขอ คืนเงินอำกร และกฎหมำยเกี่ยวกบั อำกรแสตมป์ และบญั ชีอตั รำอำกร แสตมป์ เป็นต้น 169


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook