Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัย การสร้างหนังสือเสริมประสบการณ์การอ่านเรื่องสั้น วิจัย

วิจัย การสร้างหนังสือเสริมประสบการณ์การอ่านเรื่องสั้น วิจัย

Published by wanna7634, 2021-09-23 10:55:01

Description: การสร้างหนังสือเสริมประสบการณ์การอ่านเรื่องสั้น

Search

Read the Text Version

วิจยั ในช้นั เรียน เรือ่ ง การสร้างหนงั สือสง่ เสรมิ การอ่านรายวิชาภาษาไทยเพอ่ื พฒั นา ทกั ษะการอา่ นของชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ผวู้ จิ ยั นางสาววรรณภรณ์ ทิพยส์ อน ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ

2 ชื่องานวิจัย การสร้างหนงั สอื ส่งเสริมการอา่ นรายวิชาภาษาไทยเพ่อื พัฒนาทกั ษะการอา่ น ของช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ช่อื ผู้วจิ ยั นางสาววรรณภรณ์ ทพิ ย์สอน กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย บทคัดยอ่ การศึกษาวจิ ยั ครัง้ น้ี มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อพัฒนาการสรา้ งหนังสอื สง่ เสริมการอา่ น โดยการใช้ กจิ กรรมการอ่านเรื่องสนั้ ที่มภี าพประกอบ และทาแบบฝึกหดั เกีย่ วกบั เน้ือเร่ือง กลุ่มทดลองเป็น นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 28 คน โดยให้นักเรยี นแต่งเร่ืองข้นึ เอง และให้นกั เรียน ระบายสภี าพประกอบ หลงั จากนัน้ ใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หัดเก่ียวกับเรอื่ งที่อ่าน จากน้ันวิเคราะหผ์ ล คะแนนโดยใช้วิธกี ารหาคา่ เฉลยี่ และค่าร้อยละพร้อมทั้งให้นักเรียนทาแบบประเมินหนังสอื สง่ เสรมิ การ อา่ น ผลการศึกษาปรากฏวา่ จากการศึกษาและวิเคราะหก์ ารประเมนิ ความคดิ เหน็ ในการสรา้ ง หนงั สือสง่ เสริมการอ่าน สาหรับนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 (จากตารางที่ 1 ) แสดงให้เหน็ ว่า โดยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก โดยระดบั คะแนนเฉลี่ย ( X ) ได้ 3.61 และผลการหาประสทิ ธิภาพ ของหนงั สือสง่ เสริมการอ่าน หลังจากนักเรียนไดท้ าแบบฝึกหัดท้ายบท โดยเฉลี่ยคดิ เป็นร้อยละ 86.76 โดยมีคะแนนเฉลีย่ 60.74

3 การสร้างหนงั สือส่งเสรมิ การอา่ นรายวชิ าภาษาไทยเพอ่ื พัฒนา ทักษะการอา่ นของช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ความสาคญั และท่ีมา การเรียนการสอนที่ใช้อยูใ่ นปจั จุบนั มวี ตั ถปุ ระสงคป์ ระการหนง่ึ คือ มงุ่ ปลูกฝังใหน้ ักเรียน ได้ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น การปลกู ฝงั ให้นักเรยี นรักการอ่านจงึ มีความจาเปน็ หนังสอื หรอื หอ้ งสมุดจึงเป็นครคู นท่ี สองของนกั เรยี น ครจู งึ จาเป็นตอ้ งจัดหาแหลง่ คน้ ควา้ หาความรู้ใหน้ ักเรยี นแทนการเปน็ ผู้บอก เป็นผู้ พดู หรือทากิจกรรมต่างๆเสยี เอง ดงั นั้นการจัดทาหนังสือเสริมประสบการณ์เพ่ือส่งเสรมิ การเรยี นให้แก่ นักเรยี นจงึ มคี วามจาเป็นในการจดั การเรียนการสอนในปจั จุบัน ทางเลือกทค่ี าดว่าจะแก้ปญั หา ผ้จู ดั ทาได้ศึกษาสภาพปญั หาเกย่ี วกบั การเรยี นการสอนกลุ่มวชิ าภาษาไทย พบว่านักเรียน ขาดทกั ษะในการศกึ ษาคน้ คว้าหาความรูด้ ้วยตนเอง หนงั สอื สาหรับอ่านและศึกษาค้นคว้าบางเนือ้ หามี ไม่เพียงพอกบั ความต้องการของนกั เรียน นักเรยี นบางสว่ นยังมสี มรรถภาพในการอา่ นไม่ดีพอ นักเรียนบางสว่ นยังไม่มีนสิ ัยรักการอ่าน เม่อื รู้สภาพปัญหาแล้ว กน็ าข้อมลู ท่ีได้มาเป็นแนวทางในการ จัดทาหนังสอื เสรมิ การอ่าน พอจะสรปุ ได้วา่ หนงั สือสง่ เสรมิ การอ่าน หมายถึงหนังสือท่จี ัดขน้ึ โดยมี วตั ถปุ ระสงคเ์ ป็นไปในทางส่งเสรมิ ใหผ้ ูอ้ า่ นเกิดทกั ษะในการอา่ นและมนี ิสัยรักการอา่ นมากยง่ิ ขนึ้ จดุ มงุ่ หมาย 1. นักเรียนสามารถศกึ ษาหาความรดู้ ้วยตนเอง 2. อา่ นแล้วเกดิ ความสนกุ สนานเพลิด และเกิดความซาบซึง้ ในคณุ ค่าของภาษา 3. ชว่ ยเสรมิ สรา้ งทักษะและนสิ ัยรักการอา่ น 4. ชว่ ยเพ่ิมพูนความรูค้ วามเข้าใจในสิง่ ทีเ่ รียนรู้ตามหลักสูตรใหก้ ว้างขวางข้ึน ตวั แปรท่ีศึกษา 1. หนงั สอื ส่งเสรมิ การอ่าน 2. คะแนนจากแบบฝึกหดั 3. แบบประเมนิ หนังสือส่งเสรมิ การอ่านสาหรบั นักเรยี น

4 กรอบแนวคิดในการวิจัย การวิจยั ครัง้ นเี้ ปน็ การจดั ทาหนงั สือสง่ เสริมการอา่ น สาหรบั ใหน้ กั เรียนศึกษาหาความรู้ด้วย ตนเอง และเพ่อื ให้นกั เรียนเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน เกิดความซาบซ้งึ ในคุณคา่ ของภาษา อกี ทั้ง ยังเปน็ การชว่ ยเสรมิ สรา้ งทักษะและนสิ ยั รกั การอ่านให้กบั นกั เรียน ผูว้ ิจัยได้จัดทาหนงั สอื ส่งเสริมการ อ่านวิชาภาษาไทย โดยใช้หนังสือที่มรี ปู ภาพประกอบและแบบฝกึ หดั ท่ีหลากหลายเพือ่ ช่วยพัฒนาการ อา่ น ได้ทาการคะแนนจากการทาแบบฝึกหดั เพ่ือศกึ ษาพัฒนาการของนักเรียนหลงั จากท่ีไดม้ ีการ อา่ นว่านักเรียนมีความแตกตา่ งหรอื พฒั นาข้ึนหรอื ไม่ ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รับ 1. ไดห้ นงั สือส่งเสรมิ การอ่าน ที่จะช่วยพัฒนาการอ่านวชิ าภาษาไทยนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที ี่ 2 2. ไดแ้ นวทางในการฝกึ ใหน้ กั เรียนมคี วามรับผิดชอบ กระตือรือรน้ และมีนสิ ยั รักการอ่าน มากข้นึ ขอบเขตของการวจิ ัย ในการศึกษาวิจยั ครง้ั นีเ้ ปน็ การสรา้ งหนังสือสง่ เสริมการอา่ น โดยใชก้ จิ กรรมการอา่ น การ เขียน ทกั ษะทางศลิ ปะ เพ่อื พัฒนาการอ่านภาษาไทยของนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 และได้ กาหนดขอบเขตของการวิจยั ไวด้ งั น้ี 1.ประชากร ประชากรท่ใี ชใ้ นการศกึ ษา คือนกั เรยี นโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ทีกาลงั ศึกษาอยใู่ นระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ในภาคเรยี นที่ 1 ประจาปีการศึกษา 2564 จานวน 28 คน 2. เนอื้ หาทีใ่ ช้ในการสร้างหนังสอื สง่ เสรมิ การอ่านเป็นเร่อื งสน้ั ทีม่ ีคาศัพท์ท่ีเหมาะสมกับ นกั เรยี นในระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2

5 วธิ ดี าเนนิ การวจิ ัย ระยะเวลาในการดาเนินงาน 1 พฤษภาคม 2564 – 30 กันยายน 2564 วัน เดอื น ปี กิจกรรม หมายเหตุ 1-31 พฤษภาคม 2564 - ศึกษาสภาพปญั หาและวเิ คราะหห์ าแนวทางแก้ปญั หา 1 – 30 มถิ ุนายน 2564 - เขยี นเคา้ โครงงานวิจยั ในชัน้ เรียน ผวู้ ิจัยบนั ทกึ - ศึกษาการสรา้ งหนงั สอื เสริมประสบการณก์ ารอ่าน ผวู้ จิ ัยบันทึก 1 – 31 กรกฎาคม 2564 - วเิ คราะหผ์ เู้ รยี นและวเิ คราะห์เนอ้ื หา ผู้วจิ ัยบันทึก 1 – 31 สงิ หาคม 2564 - ออกแบบเคร่ืองมอื ทจี่ ะใชใ้ นงานวจิ ยั 1 – 30 กนั ยายน 2564 - ทาหนังสือทดลองใช้กบั นักเรยี นกลุ่มตวั อยา่ ง - เก็บรวบรวมข้อมลู และวิเคราะหข์ อ้ มูล - สรุป และอภิปรายผล - จัดทารูปเลม่ เคร่อื งมือทใ่ี ช้ในการวิจัย 1. หนงั สือส่งเสรมิ การอา่ นวิชาภาษาไทย 2. แบบประเมินหนังสือส่งเสรมิ การอ่านสาหรบั นักเรยี น ขนั้ ตอนการดาเนนิ การ การสร้างหนงั สอื สง่ เสริมการอ่าน และวธิ ีการดาเนนิ การศึกษาคน้ ควา้ การศึกษา คน้ ควา้ น้ี เปน็ การสร้างหนงั สือสง่ เสริมการอา่ น ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2 วิธีดาเนนิ การตามลาดับดงั น้ี 1. ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง 2. เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการทดลอง 3. วธิ สี ร้างเครอื่ งมือ 4. การดาเนินการทดลอง 5. การวิเคราะห์ขอ้ มูล 6. สถติ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล

6 1. ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชาการท่ีใช้ในการทดลองคร้งั นค้ี ือ นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ปีการศึกษา 2564 จานวน 28 คน 2. เคร่อื งมือทใ่ี ช้ในการทดลอง เครื่องมือท่ีใช้ในการทดลองมีดังตอ่ ไปน้ี 2.1 หนงั สือส่งเสริมการอา่ นวิชาภาษาไทย 2.2 แบบประเมินหนังสอื ส่งเสรมิ การอ่านสาหรบั นกั เรยี น 3. วธิ สี รา้ งเครื่องมือในการทดลอง 3.1 การสร้างหนงั สือเสรมิ การอา่ นเรื่องส้ัน ผจู้ ดั ทาไดด้ าเนนิ การสรา้ งเคร่อื งมอื ตามลาดับต่อไปนี้ 3.1.1 ศึกษาวธิ สี รา้ งหนังสอื ส่งเสริมการอา่ นจากตาราเอกสารของ สถาบนั พัฒนา ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา กรมวชิ าการ 3.1.2 ศึกษาปัญหา แนวคดิ และโครงสรา้ ง 1. ผูจ้ ัดทาได้ศึกษาสภาพปญั หาเกย่ี วกับการเรยี นการสอนกลุ่มวชิ า ภาษาตา่ งประเทศ พบวา่ มปี ัญหาด้านการสอนภาษาไทยดังนี้ - นักเรยี นขาดทกั ษะในการศึกษา - หนังสอื สาหรับอ่านและศึกษาคน้ ควา้ บางเน้ือหามีไมเ่ พยี งพอกับ ความตอ้ งการของนักเรยี น - นักเรยี นบางส่วนยงั มีสมรรถภาพในการอา่ นไมด่ ีพอ - นกั เรยี นบางส่วนยังไมม่ ีนิสยั รกั การอ่าน เมื่อรูส้ ภาพปัญหาแล้วก็นาเอาขอ้ มูลท่ีได้มาเปน็ แนวทางในการจัดทาหนังสือส่งเสรมิ การอา่ นดังนี้ 2. ผู้จดั ทาได้ศึกษาแนวคดิ ในการทาหนังสือสง่ เสริมการอ่าน พอจะสรุปได้ ว่า หนงั สือส่งเสริมการอา่ น หมายถึงหนังสือท่จี ดั ทาขน้ึ โดยมวี ัตถุประสงคเ์ ปน็ ไปในทางส่งเสรมิ ให้ ผู้อ่านเกดิ ทักษะในการอ่าน และมีนสิ ยั ในการรักการอ่านมากย่ิงขน้ อาจเป็นหนงั สอื สารคดี เรอ่ื งสน้ั ฯลฯ ท่ีมลี กั ษณะไม่ขดั ตอ่ วัฒนธรรมประเพณแี ละศลี ธรรมอนั ดีงาม ให้ความรู้ มีคติ และมีประโยชน์ ผ้จู ัดทาไดน้ าแนวคิดนี้มาจัดทาโครงการการจดั ทาหนังสอื ส่งเสริมการอ่าน ดงั น้ี

7 ภาพประกอบ 1 โครงสร้างการจดั ทาหนังสอื สง่ เสรมิ การอ่าน โครงสร้างการจดั ทาหนงั สอื สง่ เสริมการอา่ น 1. ศกึ ษาสภาพปัญหาการเรียนกลมุ่ วชิ าภาษาไทย 2. วเิ คราะห์ข้อมลู เนอื ้ หา 3. วางแผนการทาหนงั สอื รูปแบบ โครงสร้างประกอบ 5. ประเมินผลการใช้ 4. จดั ทาหนงั สอื สง่ เสริมการอา่ น 3.1.3 สรา้ งหนงั สือสง่ เสรมิ การอ่านจานวน 1 เล่ม ใชเ้ วลา 6 ชว่ั โมง 3.1.4 ผจู้ ัดทาได้แสดงขนั้ ตอนการสรา้ งหนงั สือสง่ เสริมการอ่าน ดงั รายละเอยี ด ต่อไปนี้

8 ภาพประกอบ 2 ขนั้ ตอนการสร้างหนงั สอื ส่งเสรมิ การอ่าน ขนั้ ตอนการสร้างหนงั สอื สง่ เสริมการอา่ น 1. ขนั้ การสร้างเคร่ืองมอื 1.1 ศกึ ษาสภาพปัญหา เอกสารทีเ่ กย่ี วข้อง 1.2 ศกึ ษาวธิ ีสร้างหนงั สอื สง่ เสริมการอา่ น 1.3 เลอื กเรื่อง 1.4 สร้างหนงั สอื สง่ เสริมการอา่ น 3.2 การสรา้ งแบบประเมนิ ผลหนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ นเรอื งสนั้ ผู้จัดทาไดด้ าเนินการสร้างแบบประเมนิ หนงั สือส่งเสริมการอา่ นดงั น้ี 3.2.1 ศึกษาแบบประเมนิ หนงั สือส่งเสริมการอ่าน 3.2.2 การสรา้ งแบบประเมินหนังสือสง่ เสรมิ การอ่าน 3.2.3 การสร้างแบบประเมินความคิดเห็นของนักเรยี นท่ีมีตอ่ การสอนโดยใช้ หนงั สอื ส่งเสรมิ การอ่าน ในการสร้างแบบประเมินความคดิ เหน็ ของนักเรยี นที่มตี ่อการสอนโดย ใช้หนงั สือสง่ เสรมิ การอา่ น ผู้จดั ทาได้ลาดบั การสรา้ งตามข้นั ตอนต่อไปน้ี 3.2.3.1 ศึกษาแบบสอบถามความคิดเหน็ ของนกั เรยี นของ Likert 3.2.3.2 การสรา้ งแบบประเมินความคิดเห็นของนักเรียนมีลกั ษณะ เปน็ มาตราส่วนประมาณค่าตามวธิ กี ารของ Likert ซ่งึ มี 5 ระดับ คือ เหมาะสมมากที่สดุ เหมาะสมมาก เหมาะสมปานกลาง เหมาะสมน้อย เหมาะสมน้อย ท่สี ุด 3.2.3.3 แบบประเมินความคิดเห็นของนกั เรียนที่ผ้จู ดั ทาสรา้ งขึน้ ถาม ครอบคลุมองคป์ ระกอบของหนังสือสง่ เสรมิ การอ่าน ดงั น้ี

9 แบบประเมินหนังสือสง่ เสรมิ การอา่ นสาหรบั นกั เรยี น กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยชั้น ม.2 คาชี้แจง โปรดกาเครอ่ื งหมาย / ลงในชอ่ งว่างทตี่ รงกบั ความคิดเห็นของนักเรยี นซงึ่ มี 5 ระดับคือ เหมาะสมมากที่สุด ให้ 5 คะแนน เหมาะสมมาก ให้ 4 คะแนน เหมาะสมปานกลาง ให้ 3 คะแนน เหมาะสมน้อย ให้ 2 คะแนน เหมาะสมน้อยท่ีสดุ ให้ 1 คะแนน ระดบั ความ ข้อความ คิดเห็น 543 2 1 1. ขนาด รูปเลม่ ตัวอักษรเหมาะสม สะดวกตอ่ การ นาไปใช้ 2. รปู ภาพเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง 3. เนื้อเร่อื งสนกุ ชวนตดิ ตาม 4. เนื้อหาไมย่ าก ไมซ่ ับซ้อน อ่านเขา้ ใจ ง่าย 5. ช่วยให้เกดิ ความกระตอื รือรน้ 6. นักเรียนได้รับประโยชน์จากเรอื่ งท่ี อ่าน 7. นกั เรียนสนุกสนานเพลิดเพลนิ กบั เรอ่ื งท่ีอา่ น 8. นักเรียนอ่านแล้วจับใจความไม่ได้ 9. เล่าเรือ่ งท่ีอ่านได้อย่างมน่ั ใจ 10. นาความรทู้ ี่ได้จากการอา่ นไปประยุกต์ใชก้ ับ ตนเอง ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………….............................................................................

10 3.2.3.4 กาหนดเกณฑใ์ นการใหค้ ะแนนความคดิ เห็นของนักเรยี นทีม่ ตี อ่ การเรยี น โดยใช้หนงั สอื สง่ เสริมการอา่ นตามเกณฑ์ ดังนี้ เหมาะสมมากทสี่ ดุ ระดับคะแนนเฉลี่ย 4.50 – 5.00 เหมาะสมมาก ระดับคะแนนเฉล่ยี 3.50 – 4.49 เหมาะสมปานกลาง ระดบั คะแนนเฉลยี่ 2.50 – 3.49 เหมาะสมน้อย ระดับคะแนนเฉล่ีย 1.50 – 2.49 เหมาะสมน้อยทส่ี ดุ ระดับคะแนนเฉลีย่ 1.00 – 1.49 3.2.3.5 พมิ พ์แบบประเมนิ ความคิดเหน็ ของนักเรยี นฉบบั สมบรู ณ์ จานวน 41 ชุด สรปุ ไดว้ า่ เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ในการศกึ ษา ทดลองครั้งน้ี ประกอบดว้ ย เครอื่ งมือ 2 ฉบับ ดงั ภาพประกอบ ทดลอง ภาพประกอบ 3 แสดงเครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการ เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในการทดลอง หนงั สอื สง่ เสริมการอา่ น แบบประเมนิ ความคิดเห็นของนกั เรียน ที่มตี อ่ หนงั สอื สง่ เสริมการอา่ น 4. การดาเนนิ การทดลอง ผจู้ ดั ทาได้ทาหนังสือสง่ เสรมิ การอ่านไปทดลองกบั นกั เรยี นช้ัน ม. 2 รวม 28 คน ในปีการศึกษา 2564 ภาคเรยี นท่ี 1 ก่อนทผี่ ้จู ัดทาจะนาหนงั สือสง่ เสรมิ การอ่านไปใชน้ ้ัน ได้ชี้แจงให้นกั เรยี นทราบ ขนั้ ตอนใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั เสยี ก่อน เพื่อไมใ่ หเ้ กิดปัญหา และขอ้ บกพร่อง มรี ายละเอยี ดดังน้ี 4.1 ช้แี จงวตั ถปุ ระสงค์ วธิ ใี ช้หนงั สือส่งเสรมิ การอา่ นแกน่ ักเรยี นให้เขา้ ใจขน้ั ตอน กอ่ น

11 4.2 ขน้ั ประกอบกิจกรรม โดยให้นกั เรียนมีบทบาทในการปฏิบัติ เพ่อื บรรลุถึง จดุ ประสงค์ท่วี างไว้ 4.3 ขน้ั สรุป เปน็ การสรปุ ความเข้าใจของนักเรียนในเร่ืองนั้น 4.4 ขน้ั ทาแบบฝึกหัดท้ายบท 5. การวเิ คราะห์ข้อมลู ผูจ้ ัดทาไดท้ าการวิเคราะหข์ ้อมลู ดงั ต่อไปนี้ 5.1 หาคา่ สถติ พิ ื้นฐาน ไดแ้ ก่ คา่ คะแนนเฉลยี่ (x) ของคะแนนท่ีได้จากการตรวจ แบบฝึกหดั 5.2 วเิ คราะหค์ วามคดิ เห็นของนักเรยี น การเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ในการสรา้ งหนังสือส่งเสรมิ การอา่ น เรื่อง นิทานสอนใจ สาหรบั นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 /1 จดั เสนอตามลาดับดังน้ี 1. ผลการประเมนิ ความคดิ เหน็ ของนักเรยี นในการสร้างหนังสอื ส่งเสริมการอา่ น เรื่อง นิทาน สอนใจสาหรับนกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 1.1 ผลการประเมินความคิดเห็นของนักเรยี นในการสรา้ งหนงั สอื สง่ เสริมการอ่าน เรอ่ื ง นิทานสอนใจสาหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2/1 ดา้ นเน้อื หา และการดาเนินเร่อื ง (ดงั ตาราง 1) 2. ผลการหาประสทิ ธภิ าพหนังสือส่งเสรมิ การอ่าน เรอ่ื ง นทิ านสอนใจสาหรบั นกั เรยี นชั้น มธั ยมศึกษาปีที่ 2/1 2.1 ผลการหาประสิทธิภาพหนงั สือส่งเสรมิ การอ่าน เรื่อง นทิ านสอนใจสาหรับ นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2/1 ขัน้ ที่ 1 (ดงั ตาราง 2) 2.2 ผลการหาประสิทธิภาพหนังสือส่งเสริมการอ่าน เร่ือง นิทานสอนใจสาหรับ นักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2/1 ขั้นที่ 2 (ดังตาราง 3)

12 6. ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล 1. ผลการประเมินความคดิ เห็นของนักเรยี นในการสรา้ งหนังสอื ส่งเสรมิ การอา่ น เร่อื ง นิทาน สอนใจ สาหรับนักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 ตาราง 1 ผลการประเมินความคิดเหน็ ของนักเรียนในการสร้างหนงั สอื สง่ เสริมการอ่าน เรอื่ ง นทิ านสอนใจ สาหรบั นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 รายการประเมนิ Lazy Nemo (x) 1. ขนาด รูปเลม่ ตวั อักษรเหมาะสม สะดวกต่อการนาไปใช้ 2. รูปภาพเหมาะสมกบั เนือ้ เร่อื ง 4.05 3. เนื้อเรอ่ื งสนกุ ชวนตดิ ตาม 3.68 4. เนอื้ หาไมย่ าก ไม่ซบั ซ้อน อา่ นเข้าใจงา่ ย 5. ช่วยให้เกิดความกระตือรือรน้ 3.63 6. นกั เรยี นได้รบั ประโยชนจ์ ากเร่ืองทอี่ า่ น 4.29 7. นักเรียนสนกุ สนานเพลดิ เพลินกับเรือ่ งท่ีอ่าน 3.73 8. นักเรียนอา่ นแลว้ จับใจความไม่ได้ 3.80 9. เลา่ เรอ่ื งที่อ่านได้อยา่ งมน่ั ใจ 3.76 10. นาความรู้ท่ไี ดจ้ ากการอา่ นไปประยุกตใ์ ชก้ บั ตนเอง 1.98 3.49 เฉลี่ย 3.68 3.61 จากตาราง 1 แสดงใหเ้ ห็นว่า การประเมนิ ความคิดเหน็ ของนักเรยี นในการสรา้ งหนังสือส่งเสริมการ อ่านเรือ่ งสน้ั เรอ่ื ง นิทานสอนใจ โดยรวมอยู่ในระดบั ดี ( X = 3.61 ) โดยทาการประเมินในเรอื่ ง ขนาด รปู เล่ม ตัวอกั ษรเหมาะสม สะดวกต่อการนาไปใช้ อยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( x = 4.05 ) รูปภาพเหมาะสมกบั เน้ือเรอ่ื ง อยใู่ นระดับเหมาะสมมาก ( X = 3.68 ) เนื้อเรือ่ งสนุก ชวนติดตาม อยู่ในระดบั เหมาะสมมาก ( x = 3.63 )

13 เนือ้ หาไม่ยาก ไมซ่ ับซ้อน เขา้ ใจง่าย อยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( x = 4.29 ) ช่วยให้เกดิ ความกระตือรือรน้ และรักการอา่ นมากขนึ้ อยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( x = 3.73 ) นกั เรยี นได้รับประโยชนจ์ ากเรื่องที่อ่าน อยู่ในระดบั เหมาะสมมาก ( x = 3.80 ) นกั เรียนสนุกสนานเพลดิ เพลินกบั เร่ืองทีอ่ ่าน อยใู่ นระดับเหมาะสมมาก ( x = 3.76 ) นักเรยี นอา่ นแล้วจบั ใจความไมไ่ ด้ อยู่ในระดบั เหมาะสมนอ้ ย ( x = 1.98 ) เลา่ เร่ืองท่ีอ่านได้อย่างมน่ั ใจ อย่ใู นระดับเหมาะสมปานกลาง ( x = 3.49 ) นาความรู้ทีไ่ ด้จากการอา่ นไปประยกุ ตใ์ ช้กับตนเอง ( x = 3.68 ) 2. ผลการหาประสิทธภิ าพหนังสอื สง่ เสรมิ การอา่ น เร่ือง นิทานสอนใจ สาหรบั นักเรยี นชั้น มธั ยมศึกษาปีท่ี 2/1 ขนั้ ท่ี 1 ใช้กลุ่มตัวอย่าง จานวน 28 คน เพอื่ ตรวจสอบหาข้อบกพร่องของหนังสือสง่ เสริม การอ่าน ในด้านตา่ งๆ โดยการสังเกตและสอบถามจากกลมุ่ ตัวอยา่ ง ทั้ง 28 คน หลังจากให้กลมุ่ ตัวอยา่ งทดลองใช้หนงั สอื สง่ เสรมิ การอ่าน พบข้อบกพรอ่ งและขอ้ คดิ เห็นในการวาดรูปใหส้ วยงาม การแปลความหมายของคาน้อย ขนาดและรูปเล่มควรใหญ่กว่านี้รปู ภาพเยอะเกนิ ไป ควรมีภาพเล็ก ลง เร่ืองอา่ นเข้าใจง่ายดี ควรทาให้มหี น้าน้อยลง เนื้อเรื่องควรยาวกวา่ นแ้ี ละเลม่ เลก็ กวา่ น้ี อยากให้มี นิทานภาษาไทยเยอะๆ สนุกมาก แตไ่ มอ่ ยากไดแ้ บบฝึกหัด ตาราง 2 ข้อบกพร่องและแนวทางการแกไ้ ข ในการหาประสทิ ธิภาพหนังสอื ส่งเสริมการอ่าน เรือ่ ง นทิ านสอนใจ สาหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 ข้นั ท่ี 1

14 ขอ้ บกพร่องและความคดิ เห็น แนวทางการแกไ้ ข 1. วาดรปู ใหส้ วยงาม 1. ให้ครูศิลปะเปน็ ผู้วาดภาพ 2. การแปลความหมายของคาน้อย 2. เพม่ิ การแปลความหมายให้มากขึน้ 3. ขนาดรปู เล่มเล็ก 3. เพ่ิมขนาดรูปเล่ม 4. ภาพใหญ่ 4. ลดขนาดของภาพ 5. หนา้ เยอะเกินไป 5. ลดหน้ากระดาษ 6. เนอื้ เรอ่ื งสัน้ 6. ขยายเนือ้ เรื่อง 7. สรปุ ผลการศึกษาวจิ ยั จากการศึกษาและวเิ คราะห์การประเมินความคดิ เห็นในการสร้างหนงั สอื สง่ เสรมิ การอ่าน เรอ่ื ง นิทานสอนใจ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 (จากตารางที่ 1 ) แสดงใหเ้ ห็นวา่ โดยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก โดยระดบั คะแนนเฉล่ีย ( X ) ได้ 3.61 และผลการหาประสิทธภิ าพ ของหนงั สือสง่ เสริมการอา่ น หลงั จากนักเรียนได้ทาแบบฝกึ หัดท้ายบท โดยเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 86.76 โดยมีคะแนนเฉลี่ย 60.74

15 8. อภปิ รายผลการศึกษา จากการสร้างหนังสือสง่ เสริมการอา่ น เร่ือง นทิ านสอนใจ สาหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2/1 ในคร้งั น้สี ามารถอภิปรายผลได้ดังน้ี 1. พบวา่ ผลหนงั สอื สง่ เสรมิ การอ่าน เรื่อง นิทานสอนใจ สาหรบั นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 ท่ีผู้จดั ทาได้ทาขึ้นน้ี สามารถช่วยพัฒนาการอ่านและชว่ ยเสริมสรา้ งทกั ษะและนิสยั รักการอ่าน นกั เรยี นไดร้ บั ประโยชน์ สนกุ สนานเพลิดเพลนิ อ่านจบั ใจความได้ และเลา่ เรื่องท่ีอ่านได้อยา่ งมัน่ ใจ รวมท้งั ยังนาความรู้ท่ไี ดจ้ ากการอา่ นไปประยุกต์ใชก้ ับตวั นกั เรียน โดยดูได้จากผลการประเมินความ คิดเหน็ ของนักเรยี น ในการสร้างหนงั สอื ส่งเสรมิ การอา่ น เร่ือง นทิ านสอนใจ 2. จากการวเิ คราะห์ผลการทาแบบฝึกหดั ท้ายบท พบว่าโดยรวมนักเรยี นสามารถทา แบบฝึกหดั ได้โดยมคี ะแนนเฉลย่ี 60.74 จาก คะแนนเต็ม 70 คะแนน 3. จะเห็นได้วา่ จากการทนี่ ักเรียนไดม้ โี อกาสอ่านเรื่องส้ัน จะช่วยใหน้ ักเรยี นมกี ารพัฒนาการ อ่าน และเสรมิ สรา้ งทักษะและนสิ ัยรักการอา่ นมากขึ้น 9. ข้อเสนอแนะ 1. ในการสร้างหนงั สือส่งเสริมการอ่านอาจจะใชเ้ นื้อหาหลายเร่ืองที่มากกว่าเร่ืองเดียว โดย อาจจะหาเร่ืองอน่ื ๆมาเพ่ิมขนึ้ เพ่อื ท่ีจะหาเรื่องสนั้ ภาษาไทยมาเพมิ่ ใหน้ กั เรียน เพอ่ื ช่วยพฒั นาทักษะ การอ่านภาษาไทยใหไ้ ด้ผลดีท่ีสุด 2. ในการวิจัยคร้งั ต่อไปอาจลดปริมาณของกลมุ่ ตัวอย่างลงและ อาจเจาะจงทาการวิจยั กลุม่ นกั เรียนท่ีขาดทักษะในการอ่านเรื่องส้ัน เพื่อหาแนวทางในการชว่ ยเหลือและแก้ไขต่อไป

16 ภาคผนวก

17 แบบประเมนิ หนงั สอื สง่ เสรมิ การอา่ นสาหรบั นักเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทยชั้น ม.2 เร่อื ง นทิ านสอนใจ คาชแี้ จง โปรดกาเครอ่ื งหมาย / ลงในช่องวา่ งทตี่ รงกับความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นซึ่งมี 5 ระดับคือ เหมาะสมมากทีส่ ดุ ให้ 5 คะแนน เหมาะสมมาก ให้ 4 คะแนน เหมาะสมปานกลาง ให้ 3 คะแนน เหมาะสมนอ้ ย ให้ 2 คะแนน เหมาะสมน้อยทส่ี ุด ให้ 1 คะแนน ข้อความ ระดบั ความคิดเห็น 1. ขนาด รปู เล่ม ตัวอักษรเหมาะสม สะดวกตอ่ การนาไปใช้ 5 432 1 2. รปู ภาพเหมาะสมกับเนอ้ื เรอื่ ง - 3. เน้ือเร่ืองสนุก ชวนติดตาม 10 26 2 3 1 4. เนื้อหาไม่ยาก ไมซ่ ับซอ้ น อ่านเขา้ ใจง่าย 2 5. ชว่ ยให้เกิดความกระตอื รอื รน้ 8 14 16 2 - 6. นักเรยี นได้รบั ประโยชนจ์ ากเรอ่ื งทอ่ี า่ น 1 7. นกั เรยี นสนุกสนานเพลิดเพลินกับเรอ่ื งทอ่ี ่าน 14 10 9 5 1 8. นกั เรียนอ่านแลว้ จับใจความไมไ่ ด้ - 9. เล่าเรอ่ื งทีอ่ า่ นได้อย่างมั่นใจ 23 9 7 2 19 10. นาความรู้ทไ่ี ด้จากการอา่ นไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ตนเอง 1 9 19 7 5 - 13 12 12 3 11 14 11 5 1 5 5 11 5 17 15 3 13 7 16 5 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………

18 แบบประเมินหนังสอื สง่ เสรมิ การอ่านสาหรบั นกั เรยี น กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยชัน้ ม.2 เรื่อง นิทานสอนใจ คาชแี้ จง โปรดกาเครื่องหมาย / ลงในชอ่ งวา่ งท่ตี รงกบั ความคิดเหน็ ของนักเรียนซึง่ มี 5 ระดับคอื เหมาะสมมากท่สี ุด ให้ 5 คะแนน เหมาะสมมาก ให้ 4 คะแนน เหมาะสมปานกลาง ให้ 3 คะแนน เหมาะสมน้อย ให้ 2 คะแนน เหมาะสมน้อยทสี่ ดุ ให้ 1 คะแนน ขอ้ ความ ระดับความคดิ เห็น x 5432 1 4.05 - 3.68 1. ขนาด รูปเลม่ ตัวอกั ษรเหมาะสม สะดวกตอ่ การนาไปใช้ 50 104 6 6 1 3.63 2 4.29 2. รูปภาพเหมาะสมกับเน้อื เร่ือง 40 56 48 6 - 3.73 1 3.80 3. เนอื้ เร่อื งสนกุ ชวนตดิ ตาม 70 40 27 10 1 3.76 - 1.98 4. เน้ือหาไม่ยาก ไมซ่ ับซอ้ น อ่านเขา้ ใจง่าย 115 36 21 4 19 3.49 1 3.68 5. ช่วยให้เกดิ ความกระตอื รอื รน้ 45 76 21 10 - 6. นกั เรียนได้รบั ประโยชนจ์ ากเรอ่ื งทอี่ า่ น 65 48 36 6 7. นักเรยี นสนุกสนานเพลดิ เพลนิ กบั เรือ่ งทีอ่ า่ น 55 56 33 10 8. นักเรยี นอ่านแลว้ จับใจความไม่ได้ 5 20 15 22 9. เล่าเรอื่ งท่ีอา่ นได้อย่างมัน่ ใจ 25 68 43 6 10. นาความรู้ท่ไี ด้จากการอา่ นไปประยกุ ตใ์ ช้กับตนเอง 65 28 48 10 ข้อเสนอแนะ - วาดรูปให้สวยกว่าน้ี - คาแปลควรมากกว่าน้ี - ขนาดและรปู เล่มควรให้ใหญ่กว่านี้ เนื้อหาไม่ซับซ้อนและยากเกนิ ไป - เขียนไดด้ ี - รูปภาพเยอะเกนิ ไป - ควรมีรูปภาพเล็กลง - ระบายสมี ากไป - ควรทาใหม้ หี นา้ น้อยลง - เรอ่ื งอ่านเข้าใจงา่ ยดี

19 - เน้ือเรื่องควรให้ยาวกวา่ นี้และเลม่ เลก็ กว่าน้ี - เน้อื เร่อื งควรตน่ื เตน้ มากกว่าน้ี - ทาอีกหลายๆเลม่ - เนื้อหาควรมากกวา่ นี้ - น่าจะมอี ีก - อยากใหม้ ีนิทานภาษาไทยเยอะๆ สนกุ มาก แต่ไมอ่ ยากไดแ้ บบฝึกหดั ตารางคะแนนแบบฝกึ หดั ท้ายบทหนังสือส่งเสริมการอ่านวิชาภาษาไทย ของนกั เรยี นม. 2 เลขท่ี คะแนนเตม็ ( 70 ) รอ้ ยละ 1 50 71.43 2 62 88.58 3 61 87.15 4 59 84.29 5 52 74.29 6 50 71.43 7 62 88.58 8 63 90.00 9 62 88.58 10 63 90.00 11 65 92.86 12 65 92.86 13 64 91.43 14 67 95.72 15 59 84.29 16 63 90.00 17 63 90.00 18 58 82.86 19 59 84.29 20 59 84.29 21 63 90.00 22 62 88.58 23 50 71.43 24 61 87.15 25 51 72.86 26 68 97.15 27 50 71.43 28 61 87.15

20