Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทอาขยานภาษาไทย ป.1-ม.3

บทอาขยานภาษาไทย ป.1-ม.3

Published by benjawan jannam, 2019-10-21 00:57:06

Description: บทอาขยานภาษาไทย ป.1-ม.3

Search

Read the Text Version

บทอาขยานภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ – ๓ บทหลัก - แมวเหมียว - ฝนตกแดดออก - กาดา - รกั ษาป่า - เดก็ น้อย - วิชาหนาเจ้า บทเลอื ก - นข่ี องของเธอ - รักเมอื งไทย - ไกแ่ จ้ - สกั วา - ความดีความชั่ว - ตั้งไขล่ ้ม ต้มไขก่ นิ

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ – ๖ บทหลกั - พระอภัยมณี ตอน สุดสาครเข้าเมอื งการะเวก - สยามานสุ สติ - วิชาเหมอื นสนิ คา้ - สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสังข์ - ขุนชา้ งขุนแผน ตอน กาเนิดพลายงาม - โคลงโลกนิติ บทเลือก - พฤษภกาสร - ปากเปน็ เอก เลขเปน็ โท หนงั สือเปน็ ตรี ชั่วดีเป็นตรา - ไทยรวมกาลังตงั้ มนั่ - ตนเปน็ ท่พี ึ่งแห่งตน - ผูร้ ู้ดีเป็นผเู้ จริญ - ผู้ชนะ - เปน็ มนุษย์หรือเป็นคน - วถิ ีเด็กไทย - ฟงั ใดได้รูเ้ รื่อง - ดวงตะวัน

ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑-๓ บทหลัก - นริ าศภเู ขาทอง - โคลงโลกนติ ิ - โคลงสุภาษติ นฤทุมนาการ - บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศกรรมา - อศิ รญาณภาษิต - บทพากยเ์ อราวัณ บทเลือก - รามเกียรติ์ ตอน ศึกอนิ ทรชติ - บพุ การี - อย่าเห็นกงจกั รว่าเปน็ ดอกบวั - วฒั นธรรม - พอใจให้สุข - พระสุริโยทัยขาดคอช้าง - พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนนี างผีเสื้อ - พระอภยั มณี ตอน อุศเรนตเี มอื งผลึก - พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณี ตเี มอื งใหม่

บทอาขยานชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๓ บทหลัก แมวเหมียว แมวเอ๋ย แมวเหมียว รูปรา่ ง ประเปรยี ว เปน็ หนกั หนา รอ้ งเรยี ก เหมยี วเหมยี ว ประเดีย๋ วก็มา เคลา้ แข้ง เคล้าขา นา่ เอ็นดู รู้จกั เอารัก เข้าต่อตั้ง ค่าค่า ซ้านัง่ ระวังหนู ควรนบั ว่ามนั กตัญญู พอดู อย่างไว้ ใส่ใจเอย ทัด เปรียญ ฝนตกแดดออก ฝนตกแดดออก นกกระจอกแปลกใจ โผผินบินไป ไม่รูห้ นทาง ไปพบมะพร้าว นกหนาวครวญคราง พ่มี ะพร้าวใจกว้าง ขอพักสักวนั ฝกตกแดดออก นกกระจอกพักผอ่ น พอหายเหนอื่ ยอ่อน บินจรผายผัน ขอบใจพี่มะพรา้ ว ถึงคราวชว่ ยกัน นา้ ใจผกู พนั ไมล่ มื บุญคุณ ฐะปะนีย์ นาครทรรพ กาดา กาเอย๋ กาดา รู้จารูจ้ ักรกั เพ่อื น ได้เหย่ือเผือ่ แผไ่ มแ่ ชเชือน รีบเตอื นพวกพ้องร้องเรียกมา เกลอื่ นกลุ้มรุมล้อมพร้อมพรัก นา่ รกั นา้ ใจกระไรหนา จงเผือ่ แผแ่ นะ่ พ่อหนจู งดกู า มันโอบอารรี ักดนี กั เอย นายแก้ว

รักษาปา่ นกเอย๋ นกน้อยน้อย บินลอ่ งลอยเป็นสขุ ศรี ขนขาวราวสาลี อากาศดไี มม่ ภี ยั ทุกทศิ เจ้าเท่ยี วทอ่ ง ฟ้าสที องอันสดใส มปี ่าพาสุขใจ มตี น้ ไม้มลี าธาร ผู้คนไมม่ โี รค นับเปน็ โชคสุขสาราญ อากาศไรพ้ ิษสาร สัตว์ชน่ื บานดนิ ชน่ื ใจ คนสตั ว์ไดพ้ ึ่งป่า มารักษาปา่ ไม้ไทย สนิ้ ปา่ เหมอื นสิน้ ใจ ช่วยปลูกใหมไ่ วท้ ดแทน นภาลัย สวุ รรณธาดา เดก็ นอ้ ย เดก็ เอย๋ เด็กนอ้ ย ความรู้เรายังดอ้ ยเรง่ ศกึ ษา เมื่อเตบิ ใหญ่เราจะได้มีวชิ า เปน็ เครอื่ งหาเล้ียงชีพสาหรับตน ได้ประโยชนห์ ลายสถานเพราะการเรยี น จงพากเพยี รไปเถดิ จะเกดิ ผล ถึงลาบากตรากตรากจ็ าทน เกิดเป็นคนควรหมน่ั ขยันเอยฯ ไมป่ รากฏชื่อผูแ้ ตง่ วิชาหนาเจ้า เกิดมาเปน็ คน หนงั สอื เปน็ ต้น วชิ าหนาเจ้า ถ้าแมน้ ไม่รู้ อดสูอายเขา เพื่อนฝงู เยาะเย้า วา่ เง่าวา่ โง่ ลางคนเกิดมา ไม่รู้วิชา เคอะอยู่จนโต ไปเปน็ ข้าเขา เพราะเขาเงา่ โง่ บา้ งเป็นคนโซ เทยี่ วขอก็มี ถา้ รูว้ ิชา ประเสรฐิ หนกั หนา ชูหน้าราศี จะไปแห่งใด มคี นปราณี ยากไร้ไมม่ ี สวัสดีมงคล ไมป่ รากฏนามผู้แตง่

บทอาขยานชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑-๓ บทเลือก นขี่ องของเธอ น่ีของของเธอ นัน่ ของของฉัน มนั สบั เปลยี่ นกัน ฉนั คนื ใหเ้ ธอ นี่ของของเธอ ทีท่ าตกไว้ ฉันนเ้ี ก็บได้ นามาใหเ้ ธอ ฉันท์ ขาวิไล รักเมืองไทย คนไทยน้ดี ี เปน็ พเ่ี ปน็ นอ้ ง เมอื งไทยเมืองทอง เป็นของคนไทย คนไทยเข้มแข็ง รว่ มแรงร่วมใจ รกั ชาตยิ ิ่งใหญ่ ไทยสามัคคี ธงไทยไตรรงค์ เป็นธงสามสี ทัง้ สามส่ิงน้ี เปน็ ที่บูชา สแี ดงคอื ชาติ สีขาวศาสนา น้าเงนิ งามตา พระมหากษัตรยิ ์ไทย เรารักเพื่อนบา้ น ไมร่ านรุกใคร เมือ่ ยามมภี ัย รว่ มใจปอ้ งกัน เรารักท้องถ่ิน ทากนิ แบง่ ปัน ถิน่ ไทยเรานนั้ ชว่ ยกันดูแล นภาลยั สุวรรณธาดา ไก่แจ้ ไกเ่ อย๋ ไกแ่ จ้ ถึงยามขันขนั แซก่ ระช้นั เสยี ง โก่งคอเรอ่ื ยร้องซ้องสาเนียง ฟงั เพียงบรรเลงวังเวงดัง ถา้ ตัวเราเหล่านี้หมั่นนกึ ถึงคณุ ครผู ู้ฝกึ สอนสัง่ ไมม่ ากนกั สกั วันละสองครั้ง คงต้ังแต่สขุ ทุกวนั เอยฯ หมอ่ มเจา้ ประภากร สกั วา สกั วาหวานอ่ืนมหี ม่ืนแสน ไม่เหมอื นแมน้ พจมานท่ีหวานหอม กลิ่นประเทยี บเปรียบดวงพวงพยอม อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม แม้นล้อลามหยามหยาบไม่ปลาบปล้ืม ดงั ดดู ดื่มบอระเพด็ ตอ้ งเขด็ ขม ผ้ดู ไี พร่ไม่ประกอบชอบอารมณ์ ใครฟงั ลมเมนิ หนา้ ระอาเอย พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงบดนิ ทรไพศาลโสภณ

ความดีความชัว่ ปลกู ตน้ ขา้ วเกดิ เมล็ดข้าวดงั เขาว่า ปลกู ถ่ัวงาเกิดถั่วงาเปน็ แมน่ ม่นั ปลูกอย่างไรได้ผลอย่างเดียวกัน ตามพชื พนั ธ์ุหวา่ นลงจงเขา้ ใจ แมค้ วามชัว่ ปลูกลงคงได้ช่ัว ความดีคงไม่กลั้วคุ้มตวั ได้ ปลกู ความดผี ลดมี ีทวั่ ไป ความช่วั ไซร้อย่าปลกู เป็นถกู เอย หม่อมเจา้ พิจิตรจริ าภา เทวกุล ตัง้ ไขล่ ้มตม้ ไขก่ ิน ต้ังเอ๋ยตั้งไข่ จะตัง้ ไยไข่กลมก็ล้มสนิ้ ถึงวา่ ไขล่ ้มจะตม้ กนิ ถา้ ตกดนิ เสียก็อดหมดฝีมอื ต้งั ใจ เรานี้ จะดีกว่า อุตสา่ ห์ อ่านเขียน เรียนหนังสือ ทัง้ วชิ าสารพัดเพยี รหัดปรอื อยา่ ดึงดอ้ื ต้งั ไข่ร่าไรเอย ฯ สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ .........................................

บทอาขยานชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ – ๖ บทหลกั พระอภัยมณี ตอน สุดสาครเข้าเมืองการะเวก บัดเดยี๋ วดงั หงา่ งเหง่งวงั เวงแว่ว สะดงุ้ แล้วเหลียวแลชะแงห้ า เหน็ โยคขี ่ีรุ้งพุง่ ออกมา ประคองพาขนึ้ ไปจนบนบรรพต แลว้ สอนว่าอยา่ ไวใ้ จมนุษย์ มนั แสนสดุ ลกึ ล้าเหลอื กาหนด ถงึ เถาวัลย์พนั เกย่ี วที่เล้ยี วลด ก็ไม่คดเหมือนหน่งึ ในน้าใจคน มนุษยน์ ้ที ่รี ักอยสู่ องสถาน บดิ ามารดารกั มกั เปน็ ผล ที่พ่งึ หน่งึ พ่ึงไดแ้ ต่กายตน เกดิ เป็นคนคดิ เห็นจึงเจรจา แมใ้ ครรักรักมง่ั ชงั ชงั ตอบ ใหร้ อบคอบคิดอา่ นนะหลานหนา ร้สู ง่ิ ไรไมส่ รู้ ู้วิชา ร้รู ักษาตวั รอดเป็นยอดดี จงสตู้ ามไปเอาไม้เทา้ เถิด จะประเสริฐสมรักเป็นศักดศ์ิ รี พอเสรจ็ คาสาแดงแจ้งคดี รปู โยคีหายวบั ไปกบั ตา พระสนุ ทรโวหาร (ภ่)ู สยามานสุ สติ ใครรานใครรกุ ดา้ ว แดนไทย ไทยรบจนสุดใจ ขาดด้ิน เสยี เน้ือเลือดหลั่งไหล ยอมสละ สิ้นแล เสียชีพไป่เสยี สนิ้ ชือ่ ก้องเกยี รตงิ าม หากสยามยั้งอยยู่ ง้ั ยนื ยง เราก็เหมือนอยูค่ ง ชพี ดว้ ย หากสยามพนิ าศลง ไทยอยู่ ได้ฤา เรากเ็ หมอื นมอดมว้ ย หมดสิ้นสกลุ ไทย พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว

วิชาเหมือนสินคา้ วิชาเหมอื นสินค้า อันมีคา่ อย่เู มืองไกล ต้องยากลาบากไป จึงจะไดส้ นิ ค้ามา จงต้ังเอากายเจา้ เป็นสาเภาอนั โสภา ความเพียรเปน็ โยธา แขนซา้ ยขวาเป็นเสาใบ นิว้ เป็นสายระยาง สองเทา้ ต่างสมอใหญ่ ปากเปน็ นายงานไป อัชฌาสัยเป็นเสบียง สติเป็นหางเสือ ถือทา้ ยเรอื ไวใ้ ห้เท่ยี ง ถือไว้อยา่ ให้เอียง ตัดแล่นเล่ียงข้ามคงคา ปัญญาเปน็ กล้องแก้ว ส่องดแู ถวแนวหินผา เจ้าจงเอาหูตา เปน็ ล้าต้าฟังดลู ม ขึ้เกียจคอื ปลารา้ ย จะทาลายให้เรอื จม เอาใจเปน็ ปนื คม ยิงระดมให้จมไป จงึ จะไดส้ นิ ค้ามา คือวิชาอันพสิ มยั จงหมน่ั ม่นั หมายใจ อยา่ ได้คร้านการวิชา ไมป่ รากฏชื่อผ้แู ต่ง

สงั ข์ทอง ตอน กาเนิดพระสงั ข์ เมอ่ื นัน้ พระสังข์ซอ่ นอยูก่ ร็ ู้สิ้น พระแมไ่ ปปา่ เปน็ อาจณิ ในจติ คิดถวิลทกุ เวลา จะใคร่ออกช่วยพระแมเ่ จ้า สงสารผ่านเกล้าเปน้ หนกั หนา เหนอ่ื ยยากลาบากกายา กลับมาจนค่าแล้วร่าไร ไม่ว่าลูกนอ้ ยเป็นหอยปู อมุ้ ชูชมชิดพิสมยั พระคณุ ลา้ ลบภพไตร จะออกใหเ้ หน็ ตัวก็กลวั การ ไก่ปา่ พาฝูงมากนิ ขา้ ว ของพระแมเ่ จา้ อยฉู่ าวฉาน คยุ้ เขยี่ เร่ยี รายท้ังดินดาน พระมารดามาเหน็ จะรา่ ไร เยี่ยมลอดสอดดูทง้ั ซา้ ยขวา จะเหน็ ใครไปมากห็ าไม่ ออกจากสังข์พลนั ทนั ใด ฉวยจบั ไมไ้ ดไ้ ลต่ ี กอบเกบ็ ขา้ วหกที่ตกดนิ ผนั ผินลอยลบั ขยับหนี เหลืยวดูผู้คนชนนี จะหนีเขา้ สงั ขก์ าบงั ตน หงุ ข้าวหาปลาไว้ทา่ แม่ ดูแลจัดแจงทุกแห่งหน ชว่ ยขับไกป่ า่ ประสาจน สาละวนเลน่ พลางไมห่ ่างดู พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ขนุ ช้างขนุ แผน ตอน กาเนดิ พลายงาม แม่รักลูกลูกกร็ อู้ ยูว่ า่ รกั คนอ่ืนสกั หมน่ื แสนไมแ่ ม้นเหมือน จะกนิ นอนวอนวา่ เมตตาเตอื น จะจากเรอื นรา้ งแม่ไปแต่ตัว แม่วันทองของลกู จงกลับบ้าน เขาจะพาลวา้ วนุ่ แมท่ นู หัว จะกม้ หนา้ ลาไปมไิ ด้กลัว แม่อย่ามวั หมองนกั จงหักใจ ฯ นางกอดจูบลูบหลงั แล้วสั่งสอน อานวยพรพลายนอ้ ยละห้อยไห้ พอ่ ไปดศี รีสวสั ดกิ์ าจดั ภัย จนเตบิ ใหญ่ยง่ิ ยวดไดบ้ วชเรยี น ลกู ผชู้ ายลายมอื น้นั คอื ยศ เจ้าจงอตส่าหท์ าสม่าเสมียน แลว้ พาลกู ออกมาขา้ งทา่ เกวยี น จะจากเจียนใจขาดอนาถใจ ลกู กเ็ เลดแู ม่แมด่ ลู กู ต่างพันผกู เพียงว่าเลือดตาไหล สะอ้ืนร่าอาลาด้วยอาลัย แลว้ แขง็ ใจจากนางตามทางมมา เหลียวหลังยังเหน็ แมเ่ ขม้น แม่กเ็ หน็ ลกู นอ้ ยละหอ้ ยหา แตเ่ หลียวเหลียวเลีย้ วลบั วับวญิ ญาณ์ โอ้เปล่าตาต่างสะอ้ืนยนื ตะลึง ฯ พระสนุ ทรโวหาร (ภ่)ู

โคลงโลกนติ ิ เสียสิ้นสงวนศักด์ไิ ว้ วงศห์ งส์ เสยี ศักดิ์สู้ประสงค์ สิ่งรู้ เสยี รู้เร่งดารง ความสัตยไ์ ว้นา เสียสตั ย์อยา่ เสยี สู้ ชพี ม้วยมรณา ความร้ดู ูยง่ิ ล้า สนิ ทรัพย์ คดิ ค่าควรเมืองนบั ย่ิงไซร้ เพราะเหตจุ กั อยู่กบั กายอาต-มานา โจรจกั เบนี ยบ่อได้ เร่งร้เู รยี นเอา เว้นวิจารณว์ ่างเว้น สดับฟัง เวน้ ทถ่ี ามอนั ยัง ไป่รู้ เวน้ เล่าลิขติ สัง- เกตวา่ งเว้นนา เวน้ ดังกล่าวว่าผู้ ปราชญไ์ ด้ฤๅมี สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร ...........................................

บทอาขยานช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ – ๖ บทเลือก พฤษภกาสร พฤษภกาสร อกี กญุ ชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สาคญั หมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายส้ินทั้งอินทรีย์ สถติ ท่ัวแต่ชั่วดี ประดบั ไว้ในโลกา จาก กฤษณาสอนนอ้ ง ของ สมเดจ็ กรมพระยาปรมานชุ ิตชิโนรส ปากเป็นเอก เลขเปน็ โท หนงั สอื เป็นตรี ช่วั ดเี ปน็ ตรา ปากเปน็ เอกเหมอื นเสกมนตรใ์ ห้คนเชือ่ ฉลาดเหลือวาจาปรชี าฉาน จะกล่าวถอ้ ยรอ้ ยคาไมร่ าคาญ เปน็ รากฐานเทดิ ตนพ้นลาเค็ญ เลขเป็นโทโบราณท่านสง่ั สอน เรง่ สังวรเวีย่ ไวใ้ ช่วา่ เลน่ การคานวณควรชานาญคณู หารเป็น ช่วยใหเ้ ดน่ ดนี กั หนาร้ทู ่าคน หนังสอื เป็นตรวี ชิ าปัญญาเลิศ เรียนไปเถดิ รไู้ วไ้ ม่ไร้ผล ยามยากแสนแค้นคบั ไม่อบั จน ได้เลีย้ งตนดว้ ยวิชาหาทรพั ยท์ วี ช่วั ดเี ป็นตราประทบั ไว้กับโลก ยามวิโยคชพี ยับลับร่างหนี ท่ศี นู ย์แท้ก็แตต่ ัวสว่ นช่ัวดี คงเป็นท่ีลือทว่ั ชวั่ ฟ้าดิน ท่านผหู้ ญงิ สมโรจน์ สวัสดกิ ุล ณ อยุธยา ไทยรวมกาลัง ไทยรวมกาลังต้ังมนั่ จะสามารถปอ้ งกันขนั แข็ง ถึงแมว้ า่ ศัตรผู มู้ แี รง มายุทธ์แยง้ ก็จะปลาตไป ขอแต่เพยี งไทยเราอยา่ ผลาญญาติ ร่วมชาติร่วมจติ เป็นข้อใหญ่ ไทยอยา่ มงุ่ ร้ายทาลายไทย จงพรอ้ มใจพรอ้ มกาลงั ระวงั เมือง ให้นานาภาษาเขานยิ ม ชมเกยี รตยิ ศฟูเฟือ่ ง ชว่ ยกนั บารุงความรงุ่ เรือง ใหช้ ื่อไทยกระเด่ืองทั่วโลกา ชว่ ยกนั เต็มใจใฝ่ผดุง บารุงท้งั ชาติศาสนา ใหอ้ ย่จู นสิน้ ดนิ ฟา้ วฒั นาเถดิ ไทย, ไชโย ! พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หัว

ตนเป็นที่พึง่ แกต่ น เราเกิดมาทั้งทีชีวิตหนึ่ง อย่าหมายพงึ่ ผใู้ ดใหเ้ ขาหยนั ควรคะนึงพึ่งตนทนกัดฟนั คดิ บากบัน่ ตงั้ หนา้ มานะนา อย่าหยามเหยียดพาลหาว่างานต่า กสกิ ิจพณิชยการงานมเี กยี รติ เชิญเลือกทาตามถนัดอยา่ ผลดั วนั หรอื จะชอบวชิ าอุตสาหกรรม เอาปัญญาเป็นแรงมุ่งแขง่ ขัน ผลจะบรรลุสู่ประตชู ยั เอาดวงใจเป็นทนุ หนนุ นาหนา้ คอยเปิดอ้ายิ้มรบั ไมข่ บั ไส เอาความเพียรเป็นยานประสานกนั แหลมทองไทยพรอ้ มจะชว่ ยอานวยเอย จาก บทประพนั ธ์อธิบายสุภาษิต เงนิ และทองกองอยู่ประตหู นา้ ทรัพย์ในดินสินในนา้ ออกคลา่ ไป ของ เพมิ่ สวสั ดิ์วรรณกจิ ผู้รู้ดเี ป็นผเู้ จริญ มวลมนุษยผ์ ู้เปรื่อง ปรีชา เช่ยี วแฮ เพราะใครใฝ่ศกึ ษา สงิ่ รู้ รู้กิจผดิ ชอบหา เหตสุ อด สอ่ งนา น่แี หละบคุ คลผู้ เพียบดว้ ยความเจรญิ เสาะวทิ ยาไม่ห่างเหิน มวลผูช้ ปู รีชา รดู้ าเนินตามเหตผุ ล ผดิ ชอบกอบไมเ่ กนิ ผดิ ชอบมพี จิ ารณย์ ล พิพฒั นพ์ ้นจักพรรณนา ชือ่ ว่าปรชี าดี จงใฝ่ใจการศึกษา ผนู้ ้ันจักพลนั ดล ปรงุ ปรชี าให้เชยี่ วชาญ มปี ญั ญาไมส่ มฐาน ควรเราผู้เยาวว์ ยั กอบวิจารณใ์ ช้ปัญญา อบรมบ่มวทิ ยา พระยาอุปกิตศิลปสาร (น่ิม กาญจนาชวี ะ) ขน้ั นี้จักชวี้ า่ ต้องหดั ดดั สนั ดาน

ผู้ชนะ เม่อื ทาการส่ิงใดดว้ ยใจรกั ถึงงานหนักก็เบาลงแลว้ ครง่ึ หน่ึง ดว้ ยใจรักเปน็ แรงทเี่ ร้ารงึ ใหม้ ุ่งม่ันฝนั ถึงซง่ึ ปลายทาง เม่ือทาการสงิ่ ใดใจบากบนั่ ไมไ่ หวหว่ันอุปสรรคเปน็ ขวากขวาง ถึงเหนื่อยยากพากเพียรไมล่ ะวาง งานทกุ อยา่ งเสร็จเพราะกล้าพยายาม เมื่อทาการสิ่งใดใจจดจ่อ. คอยเติมต่อตัง้ จิตไม่คดิ ขาม ทาดว้ ยใจเป็นชวี ติ คอยติดตาม บงั เกิดผลงอกงามตามต้องการ เมอ่ื ทาการสิง่ ใดใคร่ครวญคดิ เหน็ ถูกผดิ แกไ้ ขให้พน้ ผ่าน ใชส้ มองตรองตริคดิ พจิ ารณ์ ปรากฏงานกา้ วไกลไม่ลาเค็ญ ความสาเรจ็ จะว่าใกลก้ ็ใช่ท่ี จะว่าไกลฤากม็ อี ยใู่ หเ้ หน็ ถา้ จริงจังตง้ั ใจไม่ยากเย็น แล้วจะเป็นผชู้ นะตลอดกาล บญุ เสรมิ แก้วพรหม เปน็ มนษุ ยห์ รือเปน็ คน เปน็ มนษุ ย์ เปน็ ได้ เพราะใจสูง เหมือนหนึ่งยงู มีดี ทแี่ ววขน ถ้าใจตา่ เป็นได้ แตเ่ พยี งคน ยอ่ มเสยี ที ที่ตน ได้เกดิ มา ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ ถา้ มคี รบ ควรเรียก มนสุ สา เพราะทาถูก พูดถูก ทกุ เวลา เปรมปรดี า คืนวนั ศุขสนั ต์จิ ริง ใจสกปรก มืดมัว และรอ้ นเรา่ ใครมีเขา้ ควรเรียก ว่าผีสิง เพราะพดู ผิด ทาผดิ จิตประวงิ แต่ในสิ่ง นาตัว กลัว้ อบาย คดิ ดเู ถดิ ถ้าใครไมอ่ ยากตก จงรีบยก ใจตน รบี ขวนขวาย ให้ใจสงู เสียได้ กอ่ นตัวตาย กส็ มหมาย ท่เี กิดมา อย่าเชอื นเอย พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภกิ ขุ)

วิถเี ดก็ ไทย เด็กเอย๋ เด็กไทย ต้ังใจศึกษา เตบิ ใหญ่ภายหน้า วิชาเลีย้ งตน แสงแหง่ ปัญญา มคี ่ามากล้น ส่องทางให้คน พน้ ความลาเคญ็ คิดดีทาดี ไมม่ ียากเขญ็ ชีวิตร่มเย็น เปน็ สุขกายใจ ขยนั สรรคส์ ร้าง อยู่อยา่ งเป็นไทย รเู้ ก็บร้ใู ช้ ทาในสิ่งดี ดารงเอกลกั ษณ์ มีศกั ด์มิ ศี รี เสน่ห์ประเพณี มีอยคู่ ไู่ ทย ควรเหน็ คุณค่า รกั ษาเอาไว้ มีความภูมใิ จ ในชาติของเรา ม่ิงขวญั กิตตวิ รรณกร ฟังใดได้รเู้ รือ่ ง ฟังใดได้รเู้ รือ่ ง ก็ปราดเปรอื่ งปรชี าชาญ เปรียบสน้ิ ชนิ น้าตาล รรู้ สหวานซาบซ่านใน วิชาทรามจะงามไฉน ฟงั ใดไมร่ ู้ความ ไปร่ ้รู สหมดทง้ั มวล เปรยี บจวกั ตักใดใด ชติ บุรทตั ดวงตะวัน หนง่ึ เท่านนั้ เยย่ี มฟ้าน่าพิศวง เด่นดารงเป็นหลักจกั รวาล ดวงเอย๋ ดวงตะวัน อีกฤดวู นเวยี นเปล่ียนผนั ผา่ น ทาหน้าทีไ่ ม่ลาเอยี งแสนเท่ียงตรง ใครนกึ คร้านดูตะวนั เร่งหม่นั เอย แยกทวิ าราตรใี ห้มีอยู่ ยตุ ธิ รรมสจุ ริตนิจกาล ฐะปะนีย์ นาครทรรพ

บทอาขยานชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑-๓ บทหลกั นริ าศภูเขาทอง มาถงึ บางธรณีทวีโศก ยามวิโยคยากใจใหส้ ะอน้ื โอ้สุธาหนาแน่นเปน็ แผ่นพน้ื ถงึ ส่ีหมน่ื สองแสนทงั้ แดนไตร เมื่อเคราะห์รา้ ยกายเราก็เทา่ นี้ ไม่มที พ่ี สธุ าจะอาศัย ลว้ นหนามเหนบ็ เจ็บแสบคบั แคบใจ เหมือนนกไร้รังเรอ่ ยู่เอกาฯ ถึงเกร็ดยา่ นบ้านมอญแต่ก่อนเก่า ผ้หู ญิงเกล้ามวยงามตามภาษา เดยี๋ วนมี้ อญถอนไรจกุ เหมอื นตกุ๊ ตา ทัง้ ผัดหน้าจับเขม่าเหมอื นชาวไทย โอส้ ามญั ผนั แปรไม่แท้เทยี่ ง เหมอื นอยา่ งเยย่ี งชายหญงิ ทิ้งวิสยั นี่หรอื จติ คิดหมายมหี ลายใจ ทจ่ี ิตใครจะเปน็ หนง่ึ อยา่ พึงคิดฯ ถงึ บางพูดพูดดีเป็นศรีศักด์ิ มคี นรกั รสถ้อยอร่อยจติ แม้นพดู ชัว่ ตัวตายทาลายมิตร จะชอบผดิ ในมนุษยเ์ พราะพูดจาฯ สุนทรโวหาร (ภ่)ู

โคลงโลกนิติ พระสมทุ รสุดลึกลน้ คณนา สายดิง่ ทิง้ ทอดวา หย่งั ได้ เขาสูงอาจวดั วา กาหนด จิตมนษุ ย์นไี้ ซร้ ยากแท้หยั่งถงึ ฯ  ก้านบวั บอกลึกต้ืน ชลธาร มรรยาทสอ่ สนั ดาน ชาติเชอ้ื โฉดฉลาดเพราะคาขาน ควรทราบ หยอ่ มหญ้าเห่ียวแห้งเรือ้ บอกร้าย แสลงดิน  โคควายวายชีพได้ เขาหนัง เป็นสง่ิ เปน็ อนั ยัง อยู่ไซร้ คนเดด็ ดบั สูญสงั - ขารร่าง เปน็ ช่ือเปน็ เสียงได้ แต่รา้ ย กับดี  เพอ่ื นกนิ สนิ ทรัพยแ์ ล้ว แหนงหนี หาง่าย หลายหมืน่ มากได้ เพอ่ื นตาย ถา่ ยแทนชี วาอาตม์ หายาก ฝากผไี ข้ ยากแทจ้ ักหา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชานศุ ร

โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ ๑. เพราะความดที ่ัวไป ผูใ้ ด ใดเฮย ทาดีไป่เลอื กเวน้ รอบขา้ ง การชอบ ธรรมนา แตผ่ กู ไมตรีไป กลบั ซอ้ งสรรเสรญิ ทาคณุ อดุ หนุนใน ไรศ้ ตั รปู องมล้าง ๓. เพราะถามฟงั ความก่อนตดั สินใจ ยินคดมี เี ร่ืองนอ้ ย ใหญ่ไฉน ก็ดี ยงั บล่ งเหน็ ไป เด็ดดว้ น ฟังตอบขอบคาไข คิดใคร่ ครวญนา หอ่ นตัดสินหว้ นหว้ น เหตุดว้ ยเบาความ ๔. เพราะคดิ เสียก่อนจงึ พูด พาทีมีสติรงั้ รอคดิ รอบคอบชอบแลผิด ก่อนพร้อง คาพูดพ่างลิขิต เขียนรา่ ง เรยี งแฮ ฟงั เพราะเสนาะตอ้ ง โสตทั้งหา่ งภัย ๗. เพราะขอโทษบรรดาทีไ่ ด้ผิด ใดกจิ ผดิ พลาดแล้ว ไป่ละ ลมื เลย หย่อนทฐิ มิ านะ อ่อนนอ้ ม ขอโทษเพ่อื คารวะ วายบาด หมางแฮ ดีกวา่ ปดออ้ มคอ้ ม คิดแกโ้ ดยโกง พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั

บทเสภาสามัคคเี สวก ตอน วิศวกรรมา อนั ชาตใิ ดไรศ้ านติสขุ สงบ ตอ้ งมวั รบราญรอนหาผ่อนไม่ ณ ชาติน้นั นรชนไม่สนใจ ในกิจศลิ ปะวิไลละวาดงาม แตช่ าติใดรุง่ เรืองเมืองสงบ ว่างการรบอริพลอันลน้ หลาม ยอ่ มจานงศิลปาสง่างาม เพือ่ อรา่ มเรืองระยับประดบั ประดา อนั ชาตใิ ดไรช้ ่างชานาญศิลป์ เหมือนนารินไรโ้ ฉมบรรโลมสง่า ใครๆ เหน็ ไม่เปน็ ท่จี าเริญตา เขาจะพากันเยย้ ใหอ้ บั อาย ศลิ ปกรรมนาใจใหส้ ร่างโศก ช่วยบรรเทาทุกข์ในโลกใหเ้ หือดหาย จาเรญิ ตาพาใจใหส้ บาย อีกร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ แมผ้ ใู้ ดไม่นยิ มชมสิ่งงาม เม่ือถึงยามเศร้าอรุ านา่ สงสาร เพราะขาดเคร่อื งระงับดับราคาญ โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ เพราะการช่างน้ีสาคญั อันวิเศษ ทกุ ประเทศนานาท้ังนอ้ ยใหญ่ จงึ ยกย่องศลิ ปกรรม์น้ันทั่วไป ศรีวิไลวิลาศดีเปน็ ศรีเมือง พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หวั อิศรญาณภาษิต ชายขา้ วเปลือกหญงิ ข้าวสารโบราณว่า น้าพ่ึงเรือเสอื พึ่งป่าอัชฌาสัย เรากจ็ ิตคิดดูเลา่ เขากใ็ จ รักกันไวด้ กี วา่ ชงั ระวงั การ ผู้ใดดีดีตอ่ อย่าก่อกจิ ผใู้ ดผดิ ผอ่ นพกั อยา่ หักหาญ สบิ ดกี ไ็ มถ่ งึ กบั ก่ึงพาล เปน็ ชายชาญอย่าเพ่อคาดประมาทชาย รักสน้ั นั้นอย่าให้รู้อยู่เพียงส้ัน รกั ยาวนนั้ อย่าให้เย่นิ เกินกฎหมาย มิใช่ตายแต่เขาเราก็ตาย แหงนดฟู ้าอยา่ ให้อายแกเ่ ทวดา อยา่ ดถู ูกบุญกรรมว่าทาน้อย น้าตาลย้อยมากเม่อื ไรได้หนักหนา อยา่ นอนเปลา่ เอากระจกยกออกมา ส่องดูหน้าเสยี ทีหนึ่งแลว้ จึงนอน หมอ่ มเจา้ อิศรญาณ

บทพากย์เอราวัณ อนิ ทรชิตบิดเบอื นกายิน เหมือนองค์อมรินทร์ ทรงคชเอราวัณ เผอื กผ่องผวิ พรรณ ชา้ งนมิ ิตฤทธิแรงแข็งขนั โสภาเศียรหน่ึงเจ็ดงา สีสังขส์ ะอาดโอฬาร์ สระหนึ่งย่อมมี ดอกหนึง่ แบ่งบาน สามสบิ สามเศยี ร เจ็ดองค์โสภา ด่งั เพชรรัตนร์ ูจี อีกเจ็ดเยาวมาลย์ ชาเลอื งหางตา งาหน่ึงเจ็ดโบกขรณี ทุกเกศกญุ ชร เจด็ กออุบลบันดาล พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั กอหน่ึงเจด็ ดอกดวงมาลย์ มกี ลีบไดเ้ จด็ กลีบผกา กลีบหนง่ึ มีเทพธิดา แนง่ นอ้ ยลาเพานงพาล นางหน่งึ ย่อมมบี ริวาร ลว้ นรปู นริ มติ มายา จบั ระบารารา่ ยส่ายหา ทาทดี ังเทพอปั สร มวี ิมานแกว้ งามบวร ดังเวไชยนั ต์อมรินทร์

บทอาขยานช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑-๓ บทเลอื ก รามเกยี รติ์ ตอน ศึกอินทรชติ บุษเอยบุษบกแก้ว สแี ววแสงวบั ฉายฉาน หา้ ยอดเห็นเยีย่ มเทยี มวิมาน แก้วประพาฬกาบเพชรสลบั กนั ชั้นเหมชอ่ หอ้ ยลว้ นพลอยบษุ ย์ บลั ลงั ก์ครฑุ ลายเครอื กระหนกค่ัน ภาพรายพ้นื รูปเทวญั คนธรรพค์ ่นั เทพกินนร เลื่อนเมฆลอยมาในอากาศ อาไพโอภาสประภสั สร ไขแสงแข่งสีศศธิ ร อมั พรเอ่ียมพน้ื โพยมพราย ด่งั พระจนั ทรเ์ ดนิ จรสอ่ งดวง แลเฉิดลอยช่วงจารัสฉาย ดาวกลาดดาษเกลือ่ นเรียงราย เรว็ คล้ายรีบเคลือ่ นเลอ่ื นลอย สมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช บุพการี ไปม่ ีเลยทา่ น สวา่ งหล้า ใครแทนพ่อแมไ่ ด้ มืดหม่น คือคูจ่ ันทร์สรุ ียศ์ รี น่ิงน้าตาไหล ฯ สน้ิ ทา่ นทั่วปฐพี บนสวรรค์ หมองมิ่งขวัญซ่อนหนา้ กราบไหว้ อบร่า หอมฤา พ่อแม่เสมอพระเจา้ ทา่ นใหห้ มดเสมอ ฯ ลกู นง่ิ น้อมมิง่ ขวญั ไฉนสนอง น้าตาตา่ งรสสคุ ันธ์ สงั่ ฟ้า หอมค่าน้าใจไซร้ ดูดด่มื กี่หล้าฤาสลาย ฯ ถงึ ตายเกดิ ใหม่ซ้า เหยยี บลงใดแล คุณพ่อแม่ทัง้ สอง คา่ ไร้ น้านมท่ีลูกรอง คลคู่ ใจนา หวานใหมใ่ นชาติหนา้ เพ่ือให้ขวัญขลัง ฯ รอยเทา้ พ่อแม่ได้ อังคาร กลั ยาณพงศ์ เพยี งแค่ฝุ่นธุลผี ง กราบรอยทา่ นมิง่ มง- กายสิทธิใ์ ส่เกล้าไว้

อยา่ เห็นกงจักรว่าเปน็ ดอกบัว อย่า นิยมส่ิงรา้ ยชอบ ชมชว่ั เห็น สนุกทกุ ข์ถงึ ตวั จึ่งรู้ กง จกั รวา่ ดอกบัว บอกรบั เร็วแฮ จักร พัดเศียรร้องอู้ จง่ึ รผู้ ิดตน เห็น สนกุ กลบั ทุกข์ทน อย่า นิยมสิง่ ทุกข์ จกั ร พดั ตนจงึ รู้ตัว กง จกั รวา่ บวั จน ชอบกรรม ช่ัวนา โทษไว้ วา่ โอ้เราน้ชี ัว่ นกึ ชอบ เป็น อกตญั ญูทา ดัง่ นี้กรรมสนอง ดอก บวั ยว่ั เนตรนา เปน็ อกตญั ญมู วั หมอง บัว กลบั เป็นจกั รได้ บัว ผิดปองเป็นจกั รไป พระยาอุปกติ ศลิ ปสาร (น่ิม กาญจนาชวี ะ) วา่ โอต้ ัวเรานัน้ ดอก บวั ยว่ั จิตจอง

วฒั นธรรม ในโลกน้ีมีอะไรเป็นไทยแท้ ของไทยแน่นน้ั หรือคอื ภาษา ซงึ่ ผลดิ อกออกผลแตต่ น้ มา รวมเรยี กว่าวรรณคดไี ทย อนึง่ ศลิ ป์งามเดน่ เป็นของชาติ เชน่ ปราสาทปรางคท์ องอนั ผ่องใส อีกดนตรีราร่ายลวดลายไทย อวดโลกไดไ้ ทยแท้อยา่ งแน่นอน และอยา่ ลืมจิตใจแบบไทยแท้ เชื่อพอ่ แมฟ่ ังธรรมคาส่ังสอน กาเนดิ ธรรมจรยิ าเป็นอาภรณ์ ประชากรโลกเห็นเราเปน็ ไทย แล้วยังมปี ระเพณีมรี ะเบียบ ซงึ่ ไมม่ ีท่ีเปรียบในชาตไิ หน เปน็ ของร่วมรวมไทยให้คงไทย นแ่ี หละประโยชนใ์ นประเพณี ไดร้ ู้เชน่ เห็นชัดสมบตั ชิ าติ เหลอื ประหลาดล้วนเหน็ เป็นศักด์ิศรี ลว้ นไทยแทไ้ ทยแน่ไทยเรามี สง่ิ เหล่านคี้ ือวฒั นธรรม หมอ่ มหลวงปิน่ มาลากลุ พอใจใหส้ ุข กจ็ งยอมเป็นเพียงลดาขาว จงเป็นดาวดวงแจ่มแอรม่ ตา แม้มไิ ด้เปน็ ดอกกหุ ลาบหอม ก็จงรกั เป็นโนรที ่หี รรษา แมม้ ไิ ดเ้ ปน็ จนั ทรอ์ ันสกาว จงเปน็ ธาราใสทไ่ี หลเยน็ จงพอใจจอมปลอกทีแ่ ลเห็น แมม้ ิได้เปน็ หงสท์ ะนงศกั ดิ์ ก็จงเป็นวนั แรมที่แจ่มจาง แมม้ ิไดเ้ ปน็ น้าแมค่ งคา จงเปน็ พงออ้ สะบัดไม่ขัดขวาง จงเปน็ นางที่มีใชไ่ ร้ความดี แม้มิไดเ้ ปน็ มหาหิมาลัย กาเนดิ ชาตดิ ที รามตามวถิ ี แมม้ ิได้เป็นวนั พระจนั ทร์เพ็ญ ในสงิ่ ทเี่ ราเป็นเชน่ นัน้ เทอญ แมม้ ไิ ดเ้ ปน็ ตน้ สนระหง ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ แม้มไิ ด้เป็นนุชสดุ สะอาง อันจะเปน็ สงิ่ ใดไม่ประหลาด ถือสนั โดษบาเพญ็ ให้เดน่ ดี

พระสรุ โิ ยทยั ขาดคอชา้ ง บังอรอคั เรศผู้ พิสมยั ท่านนา นามพระสุริโยทยั เอกอ้าง ทรงเครอ่ื งยุทธพิไชย เช่นอปุ -ราชแฮ เถลิงคชาธารคว้าง ควบเข้าขบวนไคล ฯ โรมรัน กนั เฮย พลไกรกองน่าเรา้ คชไท้ ชา้ งพระเจา้ แปรประจญั หลงั แลน่ เตลิดแฮ สารทรงซวดเซผนั หวดิ ทา้ ยคชาธาร ฯ เตลงขบั คชไล่ใกล้ กระษตั รยี ์ ย่งิ ล้า นงคราญองค์เอกแก้ว มลายพระ-ชนม์เฮย มานมนัสกัตเวที สะอึกสูด้ ัสกร ฯ เกรงพระราชสามี ฉาดฉะ ขับคเชนทรเขน่ ค้า หรบุ ด้ิน ศพสู่ นครแฮ ขุนมอญร่อนง้าวฟาด พจนผ์ ู้สรรเสริญ ฯ ขาดแลง่ ตราบอรุ ะ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั โอรสรีบกันพระ สูญชีพไปส่ ญู ส้นิ

พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณหี นนี างผเี สอ้ื พระโฉมยงองค์อภยั มณีนาถ เพลนิ ประพาสพิศดูหมู่มจั ฉา เหลา่ ฉลามล้วนฉลามตามกนั มา ค่อยเคลอื่ นคลาคล้ายคล้ายในสายชล ฉนากอยูค่ ฉู่ นากไมจ่ ากคู่ ขึ้นฟอ่ งฟพู ่นฟองละอองฝน ฝูงพมิ พาพาฝงู เข้าแฝงวน บา้ งผดุ พ่นฟองน้าบา้ งดาจร กระโหเ้ รยี งเคยี งกระโห่ขึน้ โบกหาง ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน มังกรเกีย่ วเลย้ี วบอดกอกมังกร ประชุมซอ่ นแฝงชลขึ้นวนเวียน ฝงู มา้ นา้ ทาทา่ เหมือนมา้ เผ่น ขนึ้ ลอยเลน่ เลยี้ วลดั ฉวดั เฉวยี น ตะเพยี นทองลอ่ งน้านาตะเพียน ดาษเดยี รดเู พลนิ จนเกนิ มา เห็นละเมาะเกาะเขาเขียวชอ่มุ โขดตะคมุ่ เคียงเคียงเรียงรกุ ขา จะเหลยี วซ้ายสายสมุทรสดุ สายตา จะแลขวาควันคลุ้มกลุ้มโพยม จะเหลยี วดูสุริยแ์ สงเข้าแฝงเมฆ ใหว้ ิเวกหวาดองค์พระทรงโฉม ฟงั สาเนียงเสียงคลนื่ ดังครืน้ โครม ย่งิ ทุกข์โทมนัสในฤทยั ทวี พระอภยั มณี ตอน อุศเรนตีเมืองผลึก สงสารสุดอศุ เรนเมือ่ รู้สกึ ทรวงสะทกึ แทบจะแยกแตกสลาย พอเหน็ องคพ์ ระอภยั ย่งิ ให้อาย จะใคร่ตายเสยี ให้พ้นก็จนใจ คลาพระแสงแฝงองค์ที่ทรงเหน็บ เขากเ็ ก็บเสียเม่อื พบสลบไสล ใหอ้ ัดอ้ันตันตึงตะลึงตะไล พระอภัยพิศดูก็รทู้ ี จึงสุนทรออ่ นหวานชาญฉลาด เราเหมือนญาตกิ นั ดอกน้องอยา่ หมองศรี เม่อื แรกเร่มิ เดมิ ก็ไดเ้ ป็นไมตรี เจา้ กบั พเ่ี ลา่ ก็รักกันหนกั ครัน มาขดั ข้องหมองหมางเพราะนางหน่ึง จนได้ถงึ รบสเู้ ปน็ ค่ขู ัน อันวสิ ัยในพิภพแมน้ รบกนั กห็ มายมน่ั จะใคร่ไดช้ ัยชนะ ซงึ่ ครัง้ น้ีพี่พาเจา้ มาไว้ หวังจะได้สนทนาวิสาสะ ให้น้องหายคลายเคืองเร่อื งธุระ แลว้ ก็จะรกั กนั จนวันตาย ทงั้ กาป่นั บรรดาโยธาทัพ จะคนื กลบั ใหไ้ ปเหมือนใจหมาย ท้ังสองข้างอย่ตู ามความสบาย เชญิ ภิปรายโปรดตรัสสัตยส์ ญั ญา พระสนุ ทรโวหาร(ภ่)ู

พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีตเี มืองใหม่ วิเวกหวีดกรีดเสียงสาเนยี งสน่นั คนขยั้นยืนขงึ ตะลึงหลง ใหห้ วิววาบซาบทรวงตา่ งง่วงงง ลมื ณรงคร์ บสเู้ ง่ียหูฟงั พระโหยหวนครวญเพลงวังเวงจิต ใหค้ นคิดถึงถ่ินถวิลหวัง วา่ จากเรือนเหมือนนกมาจากรัง อยขู่ ้างหลังก็จะแลชะแงค้ อย ถงึ ยามค่าย่าฆ้องจะรอ้ งไห้ รา่ พไิ รรัญจวนหวนละหอ้ ย โอย้ ามดกึ ดาวเคลือ่ นเดือนก็คลอ้ ย นา้ ค้างย้อยเย็นฉ่าที่อมั พร หนาวอารมณ์ลมเรอ่ื ยเฉื่อยเฉอื่ ยชืน่ ระรวยร่ืนรินรินกลิ่นเกสร แสนสงสารบ้านเรือนเพื่อนทน่ี อน จะอาวรณ์อา้ งว้างอยวู่ ังเวง พระสนุ ทรโวหาร(ภ่)ู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook