49 วดั อุณหภูมิทุก 2-4 ชม. เช็ดตวั ลดไข้ทุกวธิ ี หำกผ้ปู ่ วยมีไข้สูง จะท ำให้กำรเผำผลำ - เพมิ่ ขนึ้ และเพม่ิ ควำมดนั ในกะโหลกศีรษะมำกยงิ่ ขนึ้ - ประเมนิ และบนั ทกึ สั ำณชีพ รวมถงึ อำกำรเปลยี่ นแปลงทำงระบบประสำท อย่ำงน้อยทุก 2-4 ช่ัวโมง - ดูแลให้ได้รับสำรน้ ำทำงหลอดเลือดด ำ และได้รับอำหำรตรงตำมแผนกำรรักษำ - ดูแลให้ผ้ปู ่ วยได้รับประทำนอำหำรอย่ำงเพยี งพอ ซ่ึงเป็ นอำหำรที่มีแคลอร่ีสูง โปรตนี สูง กำรพยำบำล - จดั ให้ผู้ป่ วยนอนในห้องเงยี บๆ ลดกำรกระตุ้นทำงแสงเสียง หลกี เลย่ี งผูกมดั - จดั ให้ผ้ปู ่ วยนอนศีรษะสูง 15-30 องศำ และให้ยำระงบั อำกำร ปวดเกร็งกล้ำมเนื้อบริเวณ คอดูแลให้ยำปฏิชีวนะตรงตำมแผนกำรรักษำ - เตรียมไม้กดลนิ้ และ Airway ไว้ให้พร้อมท่ีโต๊ะข้ำงเตยี งใน รำยท่มี อี ำกำรชัก - เตรียมอุปกรณ์กำรให้ออกซิเจนไว้ให้พร้อม ในรำยที่มปี ั หำ ในกำรหำยใจหรือชัก ท่เี ป็ นสำเหตุ
นางสาวจุฑารัตน์ รักษายศ เลขที่ 6 sec.2 611770100150009 การพยาบาลผู้ป่ วยระบบทางเดนิ ปัสสาวะในระยะวกิ ฤต กลไกการเกดิ ไตวายเฉียบพลนั ระยะปัสสาวะนอ้ ย คือหลอด ฝอยไตเส่ือมสมรรถภาพ กลไก ปัสสาวะไม่เกิน 400 cc/วนั •เรนินเขา้ กระแสเลือดทาใหแ้ องจิ พบไดใ้ นภาวะ shock แคทที โอเทนซิโนเจน เป็น แองจิโอเทน โคลามีนหลง่ั เขา้ กระแสเลือด ซิน แลว้ เปลี่ยนเป็น 2 ทาใหห้ ลอด มากข้ึน หลอดเลือดแดงหดรัด เลือดหดตวั เลือดเล้ียงไตลดลง ตวั ทาใหเ้ ลือดเล้ียงไตลดลง •เกิดการไหลลดั ของเลือดจากผวิ ไตเขา้ สู่แกนไต ระยะที่ 1 ปัสสาวะนอ้ ย (oliguria) •เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด • การเสียสมดุลของน้าและโซเดียม •การลดการทางานท่ีไต ความดนั ต่า ชีพจรเบาเร็วขบั น้าออกลดลง •การอุดก้นั ของหลอดฝอยไต สบั สน ซึม •เสียสมดุลกรดด่าง เกิดภาวะกรดเกิน ไตดูด กลบั HCO3 ไดน้ อ้ ย จึงหายใจเร็ว เกร็ง กระตุก •เสียสมดุลโปแตสเซียม ทาให้ K ในเลือด สูง เกิดอาการอ่อนแรง หายใจลาบาก •เสียสมดุล Ca, P, Mg สูญเสียการขบั อิเลค็ โทรไลต์ P, Mg ในเลือดสูง Ca ตกตะกอนในเน้ือเยอ่ื ต่างๆทาให้ Ca ใน เลือกต่า •การคง่ั ของยเู รียคลื่นไส้อาเจียน •การติดเช้ือ
51 โรคแทรกซ้อน ระยะที่ 2 ปัสสาวะมาก (Diuresis) •ปัสสาวะมากกวา่ 400 cc จนมากกวา่ •ของเสียคงั่ น้าเกิน ความดนั โลหิตสูง 1500 cc ไตเร่ิมฝ้ื นตวั เลือดเป็นกรด สมดุลกรดด่าง โลหิตจาง •กลไก หวั ใจลม้ เหลว •ระยะเร่ิมปัสสาวะมาก อตั ราการกรอง เพ่มิ ขบั น้าแต่ไม่ขบั ของเสีย หลอดฝอยไต อยใู่ นระยะซ่อมแซม •ระยะปัสสาวะมาก มากกวา่ 1500 cc/ วนั กการกรองเกือบปกติ •หลอดฝอยไตทาหนา้ ที่ได้ แตส้ ่วนตน้ ยงั ไม่สมบูรณ์ ปัสสาวะมากสูญเสีย NA,K •ขาดน้า •Na ในเลือดต่า ผวิ แหง้ เป็นตะคริว • K ต่า กลา้ มเน้ืออ่อนแรง อาเจียน หายใจลาบาก ระยะท่ี 3 ระยะฟ้ื นตวั (Recovery) • ระยะที่ไตฟ้ื นตวั หลอดเลือดอยใู่ นเกณฑป์ กติ หลอด ฝอยไตยงั ไม่สมบูรณ์ ปัสสาวะเขม้ ขน้ และเป็นกรดใชเ้ วลา 6-12 เดือน การดูแลรักษา 1.การควบคุมใหเ้ ลือดมาเล้ียงไต MAP สูงกวา่ 80 mmHg 2.หลีกเลี่ยงการใชย้ าท่ีเป็นพิษต่อไต เช่น Aminoglycoside 3.. ใหส้ ารอาหารท่ีเพยี งพอ (25-30 kcaVKg / d) โปรตีน 40 • g / day 4. ป้องกนั volume overload
52 ไตวายเร้ือรัง (CHRONIC KIDNEY DISEASE / CHRONIC RENAL FAILURE) สาเหตุ เกณฑ์การวนิ ิจฉัย •พยาธิสภาพที่ไต Chronic Glomerulonephritis •โรคของหลอดเลือด (rena ARTERY STENOSIS) ความดนั โลหิตสูง •การติดเช้ือกรวยไตอกั เสบ •ความผดิ ปกติ แต่กาเนิดโรคอ่ืน ๆ เบาหวาน SLE •ขาด K เร้ือรัง 1.ไตผดิ ปกตินานเกิน 3 เดือน • 1.1 พบ Albumin ใชค้ ่า Albumin excretion rate (AER) wa Albumin-to-creatinine ratio มากกวา่ 30 มก / 24 ชม. 2. eGFR นอ้ ยกวา่ 60 มล / นาที /1.73 ตร. เมตรนานติดต่อกนั เกิน 3 เดือน ผลกระทบจากไตวายเรื้อรัง อาการท่ีเก่ียวขอ้ ง อาการเตือนท่ีสาคญั ซึมแมึนงง คนั ตาม 1. ปัสสาวะบ่อยกลางคืน 1. ระบบและหลอดเลือดหวั ใจภาวะความ ตวั เบ่ืออาหาร หรอื ปัสสาวะนอ้ ย ดนั โลหิตสูงภาวะหวั ใจลม้ เหลวภาวะเยอื่ คล่ืนไส้ อาเจียน 2. ปัสสาวะขดั สะดดุ หุม้ หวั ใจอกั เสบ 3. ปัสสาวะมีเลือดปน 2. ระบบทางเดินหายใจน้าท่วมปอด น้าหนกั ลด ร่วมกบั หวั ใจลม้ เหลว 4. บวมใบหนา้ หลงั เทา้ 3. ระบบประสาทอาการคง่ั ของเสียส่งผล ต่ออาการทางระบบประสาท 5. ปวดบน้ั เอวหรอื หลงั 4. ระบบทางเดินอาหารภาวะยรู ีเมียส่งผล ใหค้ ลื่นไส้อาเจียนเบ่ืออาหาร 5. ระบบเลือดโลหิตจากผลจากการสร้าง Erythropoietin 6. ภาวะภูมิ ตา้ นทานต่า 7. ระบบกลา้ มเน้ือกระดูก
53 Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis: CAPD ข้อบ่งชี้ในการทา CAPD ขอ้ หา้ มในการทา CAPD ❖ ผปู้ ่วย CKD ระยะท่ี 5 • มีรอยโรคบรเิ วณผิวหนงั หนา้ - มีอาการของ Uremia ทอ้ งท่ีไม่สามารถวางสายได้ - ภาวะนา้ เป็นท่ีรกั ษาไม่ไดด้ ว้ ยการ - กาจดั นา้ และเกลือหรอื ยาขบั • มีผงั ผืดภายในช่องทอ้ งไม่ ปัสสาวะ สามารถวางสายได้ - ทพุ โภชนาการ (Serum • มีสภาพจิตบกพรอ่ งอย่างรุนแรง albumin <3.5 g / dl) ซง่ึ อาจกระทบตอ่ การรกั ษาดว้ ย ❖ ตอ้ งการทา CAPD 0 วธิ ี CAPD ❖ ไมส่ ามารถทาทางออกของเลือด • มีส่ิงแปลกปลอมในช่องทอ้ ง เพ่อื ทา HD ได้ เช่น Vascular graft , ❖ ผปู้ ่วยท่ีทนการทา HD ไมไ่ ดเ้ ช่น Ventriculos CHF, CAD Peritoneal shunt (รอ ❖ ผปู้ ่วยเดก็ 4เดือน) • ไสเ้ ล่ือน (รอ 6 สปั ดาห์ ช่อง • Gastrostomy การให้ ติดต่อระหว่างช่องทอ้ งกบั อาหารทางสายท่ีใสผ่ ่านหนา้ อวยั วะนอกช่องทอ้ ง ทอ้ ง,Colostomy เป็น • นา้ หนกั มากกวา่ 90 กก. หรอื ทวารชนิดลาไสใ้ หญ่ , Ileostomy เป็นทวาร BMI>35 เทียมลาไสเ้ ลก็ • มีขอ้ จากดั ดา้ นรูปรา่ ง • โรคลาไสอ้ กั เสบเรอื้ รงั • ภาวะทพุ โภชนาการรุนแรง • การติดเชือ้ ท่ีผนงั ชอ่ งทอ้ งและ • ไม่สามารถทนารใส่นา้ ยาใน ผิวหนงั บรเิ วณต่าแหน่งท่ีจะทา ชอ่ งทอ้ งได้ การวางสาย Tenckhoff • Recurrent diverticulitis (ลาไสใ้ หญ่ ทะลซุ า้ )
54 หลกั การของ CAPD ใส่น้ายาเขา้ ช่องทอ้ ง ใชเ้ วลาประมาณ 10 นาที ทิ้งน้ายาไวใ้ นช่องทอ้ ง ประมาณ 4 -6 ชวั่ โมง ปล่อยน้ายาในช่องทอ้ งออก ใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที ของเสียและน้าส่วนเกินจาก เลือดเขา้ สู่ยา ข้นั ตอนการล้างไตทาง การเปล่ียนถงุ นา้ ยา ช่องท้องแบบต่อเนื่อง •ปกติแพทยส์ ่งั ทา 4-5 ครงั้ ต่อวนั •ผปู้ ่ วยทาการลา้ งวนั ละ 3-6 คร้ังโดย โดยเรม่ิ 6.00 น 12.00 น. 18.00 น. การเปลี่ยนถ่ายน้ายา 3 ข้นั ตอนทา 22.00 น. หากทาเกิน 5 ครง้ั ใหเ้ รม่ิ ท่ี ต่อเน่ืองเป็ นวงจร 6.00 น. และทาจนครบตามแผนการ 1.ข้นั ถ่ายน้ายาออก (Drain) ถ่าย รกั ษาสามารถทาท่ีบา้ นในพนื้ ท่ี น้ายาคา้ งไวใ้ นช่องทอ้ ง 20 นาที สะอาดไมเ่ ส่ียงตอ่ การติดเชือ้ เปล่ียน 2. ข้นั เติมน้ายาใหม่ (1) ข้นั เติมน้ายา ถงุ นา้ ยาใชเ้ วลา 30 นาที / ครงั้ ใหม่แทนท่ีของเดิมนาน 10-15 นาที 3. ข้นั การพกั ทอ้ ง (repression) การคงคา้ งน้ายาเพ่ือใหเ้ กิดการฟอก 4-6 นชม
55 การพยาบาล การพยาบาล •ระยะพกั ทอ้ ง (1-2 สปั ดาห)์ •ไมใ่ หแ้ ผลโดน •ระยะหลงั พกั ทอ้ ง•หม่นั ตรวจสอบสาย นา้ •หา้ มเปิดแผลเอง-ลดกิจกรรมท่ีทาใหเ้ หง่ือ ทาความสะอาดตอ้ งไดร้ บั การยืนยนั จาก ออก•งดใสเ่ สือ้ ผา้ รกั เกินไป•หากปวกบวมมีไข้ แพทยว์ า่ แผลแหง้ สนิทถงึ จะอาบนา้ ได-้ หรอื บวมสว่ นตา่ งๆของรา่ งกายใหไ้ ปพบแพทย์ หา้ มโดยแปง้ ทาครมี บรเิ วณช่องทางออก จากดั นา้ ด่ืม•เล่ียงกิจกรรมท่ีเพ่ิมแรงดนั ในช่อง ของสายติดพลาสเตอรเ์ พ่อื กนั การดงึ รง้ั ทอ้ ง•ตดั ไหม 7-10 วนั หากมีเลือดออกนา้ ร่วั ซมึ ใหพ้ บแพทย์ การพยาบาลระยะลา้ งไตทางช่องทอ้ ง Perfect exit site •สีเดียวกบั ผวิ หนงั หรอื อาจมีสี •มกั เรม่ิ ลา้ งในสปั ดาหท์ ่ี 4 •เนน้ การลา้ งมือ คลา้ ขนึ้ •อาจพบคราบนา้ เหลือง Medical hand washing •ประเมินนา้ ยา (crust) ปรมิ าณเล็กนอ้ ยหลดุ และจดบนั ทกึ •รกั ษาความสะอาดส่ิงแวดลอ้ มเฝา้ ลอกงา่ ยนอ้ ยกวา่ สปั ดาหล์ ะครงั้ ระวงั อาการแทรกซอ้ นนา้ ออกนอ้ ยนา้ เกินตดิ เชือ้ ความดนั โลหติ ต่าบวม•ออกกาลงั กายรบั ประทาน Good exit site อาหารพกั ผอ่ นพบแพทยต์ ามนดั แนะนาช่งั นา้ หนกั ทกุ •Exit siteมีสีเดียวกบั ผิวหนงั หรอื สี วนั ไมค่ วรขขนึ้ เกิน 0.5 กก / วนั หา้ มยกของหนกั เกิน คลา้ หรอื สีชมพอู อ่ นความกวา้ ง 6 กก.. ประมาณ 1-2 มม. •อาจพบคราบ การปรเมนิ ลกั ษณะแผล EXIT SITE นา้ เหลืองเกิดขนึ้ ไม่เกิน 3 ครงั้ / สปั ดาห์ ไม่มีอาการปวด, บวม, แดงและไมม่ ี external exudates Equivocal exit site •Exit site มีสีชมพเู ขม้ หรอื สีแดง ความกวา้ งประมาณ 2-3 มม. แต่ไม่ เกิน 13 มม. •อาจพบคราบนา้ เหลืองทกุ 1-2 วนั หรอื มีสะเก็ดนา้ เหลืองท่ีบางครง้ั ยาก ต่อการลอก •ไมม่ ีอาการปวด, บวม, หรอื หนอง ไหลออกจากแผล
56 การปรเมนิ ลกั ษณะแผล EXIT SITE Acute infection •exit site มีอาการปวดบวมร้อนผวิ หนงั มี Chronic infection สีแดงเส้นผา่ ศูนยก์ ลางมากกวา่ 13 มม. •exit site ระยะเวลาเป็นนานกวา่ 4 •ผวิ หนงั คลุม sinus นอ้ ยกวา่ 25% สัปดาห์ •อาจพบคราบเลือดหรือหนองไหลออกมาเอง •อาจจะมีอาการปวดหรือไมป่ วดก็ได้ ติดบนผา้ กอซหรือกดออกมาได้ •ผวิ หนงั มีสีแดงคลา้ ย acute exit •มีคราบน้าเหลืองติดแน่นลอกยาก site infection แต่สีจางกวา่ -ถา้ มี •อาจมีติ่งเน้ือยน่ื ออกมานอก sinus อาการปวด, บวม, แดงแสดงวา่ มีภาวะ •ระยะเวลาในการติดเช้ือนอ้ ยกวา่ 4 สัปดาห์ acute infection ร่วมดว้ ย
ปริมาณในระบบไหลเวยี นลดลง ทาใหป้ ริมาณ เลือดไหลกลบั สู่หวั ใจลดลง ปริมาณเลือดท่ี หวั ใจบีบออก แต่ละคร้ัง ลดลง cardiac output ลดลงทาให้ การไหลเวยี นของเลือด และ การกาซาบของเน้ือเยอื่ ไม่เพียงพอ เนือ้ เย่ือขาดออกซเิ จน
นางสาวจุฑารัตน์ รักษายศ เลขท่ี 6 sec. 2 611770105071009
กลไกของระบบการไหลเวยี นเลือดบกพร่อง กา -การไหลเวยี นของเลือดที่ออกจากเวนตริเคิล ป ซา้ ยไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกายบกพร่อง -การไหลเวยี นของเลือดท่ีเขา้ สู่เวนตริเคิลซา้ ย บกพร่อง Cardiogengic shock การประเมินสภาพ มีการลดลงของcardiac output • คลื่นไฟฟ้า และTissue perfusionไดแ้ ก่ หวั injury ใจเตน้ เร็ว>100/min หายใจเร็ว branch ลึก ผวิ หนงั เยน็ GSCเปล่ียน • ภาพถ่ายรัง SB<80-90mmhgหรือmean arterial blood pressureลดลง pulmon หรือมากกวา่ หรือเท่ากบั 30mmhg • การตรวจ b PRแคบ arteria acidosi จากภาวะm necrosis
ารบีบตวั ของหวั ใจไม่มี 58 ประสิทธิภาพ สาเหตุ าหวั ใจ MI,Myocardial การรักษา New left bundle รักษาแบบประคบั ประคอง h block และarrhythmia การรักษาดว้ ยยา เพ่อื พยงุ corperfusion ได้ งสีทรวงอกพบ แกjdobutamine, dopamine, norepinephrine naryedema/congestion onary และ systemic blood chemistry และ al blood gas มกั พบภาวะ is พบ cardiac enzyme สูง myocardial
สาเหตุ ชอ็ กจากภาวะ 1.การไดร้ ับบาดเจบ็ ของไขสนั เลือด se หลงั ส่วนบนคือกระดูกสนั หลงั ส่วนคอ (C-spine) 2.ไดร้ ับยาระงบั ความรู้สึกทาง ไขสนั หลงั ในระดบั ท่ีสูง (high block) 3. ภาวะเครียดทางอารมณ์ 4. ปวดอยา่ งรุนแรง ช็อกจากระบบประสาท neurogenic shock Distributive shockหรือ Vasogenic shock
59 ชอ็ กจากภูมิแพอ้ ยา่ งฉบั พลนั anaphylactic shock ะการติดเช้ือในกระแส eptic shock
นางสาวจุฑารัตน์ รักษายศ เลขท่ี 6 Sec.2 6117701001009 60 การฟื้ นคืนชีพ CARDIAC LIFE SUPPORT ห่วงโซ่การรอดชีวติ ภาวะหวั ใจหยุดเต้นนอกโรงพยาบาล (Out of Hospital Cardiac Arrest) ทปtหชเหh่ว่นลวัeตยงอทEุเทใดหีmห(่ีภล1Eeร้ยัือarก้อขgrาl/งeอyรขnโงปtcทอสoyรครถAะCวา1เcามaน6tมliิน6lทv)9คaี่เกtวeิดามหกพผดาิ่บวรปงวสทกา่ ัญไี่ต2มญิดท่หหาาณารกยือชาใหรีจพปาห(ยรหาใะยจาเมกใเฮจินีอกหคDเโเพคดล่วeรอื่ ยfื่นง่ือiทเทbรหงาr็ี่ววiั3กAlใl(ากEaEจรtาDaiฟรor้ื นlนnมy)คาาใืนช้ ห่วงท่ี 5 การสืบคน้ หาสาเหตุและการ ใหเ้ ร่ิมทาการช่วยเหลือ รักษาต่อเนื่องท่ี โดยทาซีพีอาร์ (Early ผหตช(แEพ่ปู่อว้่วm่ยเงวทนเทeยหย่ือrเ่ีฉg์พล4งeุกือจื่อกnเาอใcฉากหyยรินหา่สก้Mงน่งาeรต่วd่อยicอแมโอแaรพตุปยีคlงา่่ลวกทพงาะรยเยมปดณผ์ า็พาน้เู้บ์แชนรรลา่ีย้อะละวมบซทชทบ่ึงีมา้งทัญแลาใะน CPR) โดยทนั ที Services) ภาวะหวั ใจหยุดเต้นในโรงพยาบาล (In-Hospital Cardiac Arrest: IHCA)
61 การทา CPR D > Danger ? R > Response ? C > Call for help and start Chest compression Steps of BLS : C>A>B 1.นงั่ คุกเข่าขา้ งผปู้ ่ วย C : circulation • คลา carotid pulse 10 sec ( ยกเวน้ Hypothermia 30-60 sec ) Start CPR • นง่ั คุกเข่าขา้ งผปู้ ่ วย • วางสนั มือขา้ งหน่ึงตรงกลางหนา้ อกผปู้ ่ วย บริเวณคร่ึงล่าง ของกระดูกหนา้ อก • แขน 2 ขา้ งเหยยี ดตรงในเเนวดิ่ง กดหนา้ อกลึก 5-6 ซม. • กดดว้ ยอตั ราเร็ว 100-120 คร้ัง/นาที • สลบั คนป๊ัมตอนท่ีครบ 5 cycle ใหส้ ญั ญาณ/ประเมินชีพจร • ทกุ ครง้ั ท่ีกด เม่ือปล่อยเเรงกด อยา่ ใหม้ ือลอยจากกระดกู
62 A : Airway Trauma : open airway : remove foreign body Jaw thrust Non-Trauma : Head tilt chin lift. B : Breathilng เป่ าลมเขา้ ปอดท้งั สองขา้ งมองจากการเคลื่อน ข้ึนลงของหนา้ อกใชเ้ วลา 1 วนิ าทีต่อคร้ัง อตั ราการกดหนา้ อก : การช่วยหายใจ 30 : 2 Automatic External Defibrillator : AED 5 ป = เปิ ด - แปะ - แปล - เปร้ียง - ป๊ัม • ทนั ทีท่ี AED มาถึงใหเ้ ร่ิมเปิ ดสวชิ ตท์ นั ที • ติดเเผน่ กระตุกหวั ใจที่หนา้ อกผปู้ ่ วย • เคร่ืองเเนะนาชอ็ ค กดป่ ุมชอ็ ค • เคร่ืองไม่เเนะนาใหช้ ็อคใหก้ ดหนา้ อกต่อ • หา้ มเเตะตวั ผปู้ ้วยเม่ือกดป่ ุมช็อค ป้องกนั Airway obtruction หา้ มนอนหงาย ตอ้ งจดั ท่าใหc้ lear airway
63 Shockable Un- Shockable ใช้ AED ทาการ shock ใช้ AED ไม่ได้ ไม่มีสัญญาณชีพ เป็นกลุ่ม un-shock ใหท้ าการ chest compressions+ Drug for resuscitations ยา อยา่ งเดียว Adrenaline Cordarone (Aminodarone) กลไกออกฤทธ์ิ : กระตุน้ a-adrenergic receptor มีผลเพิ่มความดนั โลหิตจากการหด กลไกออกฤทธ์ิ : antiaarrhymic dug ตวั ของหลอดเลือด กระตุน้ มีผลกระตุน้ การ ลด automaticity ของ sinus node ทา บีบตวั ของหวั ใจและกระตุน้ อตั ราการเตน้ ให้ เตน้ ชา้ ลง ของหวั ใจ ขอ้ บ่งใช้ : cardiac arrest and SE : Hypertension Tachycardia recurrent VF\\VF ที่ไม่ตอบสนองต่อ Supraventricular tachycardia deficrillation และยา adrenaline ขอ้ หา้ มใช้ : severe hypotension pregnancy ขอ้ ควรระวงั 1. ขณะ drip ไม่ควรใหย้ า 2. Betablocker ,digoxin ,diltiazem : เพ่ิม risk bradycardia ,AV block 3.Warfarin : เพิ่ม risk bleeding 4. ใหย้ าไม่เกิน 2,200 mg in 24 hr.
64 A>B>C>D 1.คล่ืนหวั ใจ 2.Open airway 3. EKG 4. AED > Tachycardia > รีบ ช็อก AED > chest compressions Start ยา Pt. arrest Adrenaline 1mg/ 2 cycle ถา้ shock ให้ cordarone นวดหวั ใจนานๆ acidosis sodium ประเมินตาเเหน่ง ETT เขา้ Trachea ใชว้ ดั Quality CPR บอกภาวะ ROSC Non invasive Cardiac support Pump ส่วนมากใชบ้ นรถ
65
Search