4. การเปล่ียนแปลงทางสังคม เชน่ ประชากรมจี านวนมากขนึ้ ทาใหม้ กี ารแขง่ ขันกัน สงู เกิดความขัดแย้ง (Class Conflict) เพม่ิ มากขึน้ อันเปน็ ปัญหาทม่ี นุษยต์ ้องหาวิธกี าร สรา้ งระเบยี บ เพ่ือแก้ไขความยงุ่ ยากดังกลา่ ว ดงั นั้น วัฒนธรรมของมนุษยย์ อ่ ม เปล่ยี นแปลงไปดว้ ย เมอ่ื เกดิ ความขดั แยง้ ทางความคดิ ตามหลกั ประชาอธปิ ไตยคนในสงั คมมีสิทธชิ มุ นุม แต่ต้องโดยสงบแต่ถ้าเกิดความว่นุ วายก็ตอ้ งออกกฎหมายเพื่อควบคมุ ใหเ้ กิดความสงบซึ่ง สังคมในอดตี มักใชส้ นั ติวธิ กี ารประนีประนอม แตกต่างจากปจั จุบัน 51
5. การแลกเปล่ียนวฒั นธรรมจากสังคมอื่น ซง่ึ เกิดจากความเจริญในด้านการส่ือสารการ คมนาคมติดต่อถึงกนั เป็นอย่างสะดวกรวดเร็วการแลกเปล่ยี นวัฒนธรรมจากสังคมอื่นจงึ เป็นไปอย่างกว้างขวาง แฟชั่นการแตง่ กาย จะเหน็ ได้ว่าปัจจบุ ัน แฟชน่ั การแตง่ กาย เปลีย่ นไปอย่างรวดเรว็ มาก เพราะความ เจริญกา้ วหนา้ ของการสื่อสารนน่ั เอง 52
การรบั ประทานอาหาร 53
เพลง / ดนตรี 54
6. การพัฒนาการความรูแ้ ละเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงทางทศั นคตคิ วามเช่ือแบบเดิมหนั ไปนิยมแบบใหม่ เพ่อื ต้องการให้เปน็ ผู้ทเี่ รยี กว่า ทนั สมยั ไม่ล้าหลัง มกี ารปรับปรุงแนวคดิ ใหม่ ๆ อยู่เสมอ 55
7. วัฒนธรรมอาจเปลีย่ นแปลงได้เนื่องจากความประสงค์ของผมู้ อี านาจ วัฒนธรรมสมัยจอมพล ป.พบิ ูลสงคราม มอี านาจในช่วงสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 สมยั นั้น ห้ามคนไทยกนิ หมาก ห้ามหญิงนุ่งโจงกระเบน และชายหญงิ ออกจากบา้ นตอ้ ง สวมหมวกจงึ มีเพลงเชิญชวนเกดิ ข้นึ โดยกรมโฆษณาการ (กรมประชาสมั พันธ์) เพอื่ ให้ทดั เทียมชาตติ ะวนั ตก 56
8. การมองเห็นประโยชนแ์ ละความจาเป็นของส่ิงนัน้ ๆ ทาให้รบั เอาวฒั นธรรมนัน้ ๆ มา ใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ เมื่อประชาชนมากข้นึ มีความจาเป็นต้องอาศยั การผลิตแบบอตุ สาหกรรม การใช้ เครอ่ื งจักรช่วยในการผลิตตามระบบโรงงาน (Factory System) 57
จากสาเหตดุ ังกล่าวทัง้ 8 ขอ้ จะเห็นวา่ วัฒนธรรมจะมกี ารเปลีย่ นแปลง ไปตามกาลเวลา สภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมอื ง การศกึ ษา เทคโนโลยใี หม่ ๆ การเพ่ิมของประชากร ฯลฯ มีส่วนทาใหส้ ภาพแวดลอ้ ม สภาพจิตใจความเชื่อ ทัศนคติเปล่ยี นแปลงไป วัฒนธรรมจงึ ตอ้ งเปล่ียนแปลงปรับปรงุ เพือ่ สอดคลอ้ ง ตามไปดว้ ย ในการวิเคราะหถ์ งึ สาเหตทุ ี่ทาใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลง แบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ปัจจัย คอื 58
1. ปจั จัยภายนอก 1.1 การหลั่งไหลเขา้ มาของวฒั นธรรมตะวันตก หรือวฒั นธรรม สมัยใหม่ ซง่ึ เปน็ วฒั นธรรมท่เี รียบง่าย ไม่สลบั ซับซอ้ น สง่ ผลใหเ้ กิดการเรียนรู้ และรับวฒั นธรรมตะวนั ตกเขา้ มา 59
1.2 การเปรยี บเทียบวฒั นธรรมตะวันตกท่ีไมซ่ บั ซอ้ น กบั วฒั นธรรมดังเดมิ ของ ท้องถ่นิ ซง่ึ สลบั ซับซอ้ น ลกึ ซง้ึ เข้าใจไดย้ าก สง่ ผลให้ละเลยและหลงลืมวัฒนธรรม ดั้งเดมิ เดก็ ยุคใหมห่ ลงลืมวฒั นธรรมมารยาทไทยซึง่ เปน็ ส่งิ ดีงามไป แต่กลบั ไป เลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตก 1.3 ความเจรญิ ทางเทคโนโลยที เ่ี ขา้ มา เช่นการพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ นบั เป็นส่ืออนั สาคัญที่ทาให้ชุมชนไดร้ ับข่าวสารเรือ่ งราวตา่ ง ๆ เกิดการเรียนรู้ ยอมรบั และปรับเปลี่ยน วฒั นธรรมท้องถิน่ โดยมงุ่ ความทนั สมยั ไม่คานงึ ถึงรากฐานวฒั นธรรมและประเพณดี ัง้ เดมิ 60
2. ปจั จยั ภายใน 2.1 ความเจรญิ ทางด้านสงั คมและชมุ ชน จังหวดั ได้มกี ารวางแผนโครงการ ดา้ นต่าง ๆ ทาใหท้ ้องถน่ิ เกดิ ความเจริญ มคี วามสะดวกสบายในดา้ นต่าง ๆ 2.2 เมื่อสังคมและชมุ ชนมกี ารขยายตัวอยา่ งขวางขวางผูค้ นหันไปสนใจ เศรษฐกจิ มากขึ้น เกิดการแข่งขนั ทาให้เกิดการหลงลมื กิจกรรมดา้ นวัฒนธรรมทอ้ งถ่ิน 2.3 ความไม่เข้าใจในวฒั นธรรมท้องถิน่ ดงั เดมิ ไม่ไดศ้ กึ ษา ทาให้ยากต่อ การปฏิบตั แิ ละขาดความกลา้ ในการปฏิบัตติ ามวฒั นธรรม รวมถึงการแตง่ กาย ภาษา พดู ขนบธรรมเนียมประเพณี 61
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ในชุมชนเมอื ง
1. การเปล่ียนแปลงในเร่ืององค์ประกอบและขนาดของชมุ ชนเมือง 1.1 ชาติพันธ์ุ : เดมิ มเี จ้านาย/ขนุ นางไทย ตา่ งชาติเข้ามา 1.2 พืน้ ฐานการศกึ ษา : ประถม มัธยม อุดมศึกษา 1.3 การประกอบอาชพี : ธุรกจิ ผู้บรหิ าร ทนาย 1.4 เศรษฐกิจและสงั คม : รายได้ ทรพั ยส์ ิน 63
2. การเปลยี่ นแปลงในเรอื่ งระบบความสัมพนั ธข์ องชมุ ชนเมอื ง 2.1 การเปลี่ยนแปลงการจัดระเบยี บสงั คม โครงสรา้ งชนชน้ั : ฝ่ายปกครอง และ ฝ่ายทถ่ี กู ปกครอง เชน่ เจา้ ขุนนาง ไพร่ ทาส 2.2 การเปลยี่ นแปลงลกั ษณะความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบุคคลของคนในเมือง : สมาชกิ ในชมุ ชนจะรจู้ กั กนั เปน็ ไปได้น้อยมาก 64
2.3 โครงสร้างและหน้าทค่ี รอบครวั ในเมอื ง เช่น - ขนาดและองค์ประกอบของครัวเรอื น : ขนาดใหญ่(บา้ น) เจ้า ขุนนาง - หนา้ ทีค่ รอบครัว : มกี ารแบง่ แยกหน้าที่ทางาน - ความสัมพนั ธใ์ นครอบครัวในเมอื ง : (อดตี ) ชายมกั เปน็ ใหญ่ ลูกๆตอ้ งเคารพ บิดามารดา (ปัจจุบัน)อานาจของสามที ่มี ตี ่อภรรยาจะลดลงในบางครอบครวั อานาจควบคุมสมาชกิ ในครอบครัวรุน่ อาวุโสลดน้อยลง - แบบแผนของการเกดิ และการแตกสลายของครอบครัว คือ การเลอื กคู่ครองและ การหยา่ รา้ ง เดิมผปู้ กครองเลือกคใู่ ห้ และปัจจบุ นั การแตกหกั กนั งา่ ยกวา่ เดมิ 65
3.1 ลักษณะการเปล่ยี นแปลงของสถาบนั ทางสังคมและวฒั นธรรมในเมอื ง เชน่ วดั การเปลี่ยนแปลงรูปลกั ษณ์ของเมือง การพัฒนาการของสถาบันสงั คมเฉพาะอยา่ ง 3.2 การเปลย่ี นแปลงระบบความรู้ประยุกต์วทิ ยาและระบบความคดิ เช่น ความรู้ ทางด้านการแพทย์แผนไทย ประวตั ิศาสตร์ ฯลฯ มักอา้ งอิงกบั พทุ ธศาสนา 66
การเปลีย่ นแปลงทางสังคมและ วัฒนธรรมในชุมชนชนบท 67
การเปลย่ี นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรมในชมุ ชนชนบท 1. การเปล่ยี นแปลงในเรือ่ งองคป์ ระกอบและขนาดของชมุ ชนชนบท เช่น การประกอบ อาชีพเกษตรกรรม เชน่ การทานา ทาไร่ เล้ยี งสัตว์ ฯลฯ 68
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวฒั นธรรมในชุมชนชนบท (ต่อ) 2. การเปลีย่ นแปลงในลักษณะระบบความสมั พนั ธข์ องคนในชุมชน เชน่ - เดมิ คนในชนบทจะผกู พนั กันเหนียวแน่นดว้ ยสายสมั พนั ธ์ 4 ประการ คือ การมีศาสนา การมถี ิน่ ฐาน การมสี ายเลือด และอาชีพเดียวกัน - เดมิ มกี ารแลกเปล่ยี นสนิ คา้ กนั มีการผลิตเพอ่ื บรโิ ภคในครัวเรอื น ปัจจุบันผลิตเพอ่ื การค้า 2.1 การเปลยี่ นแปลงการจดั ระเบยี บสงั คม โครงสรา้ งชนชน้ั เป็นแบบเครอื ญาติ 2.2 รปู แบบและหนา้ ทค่ี รอบครัว : จากครอบครวั ขยายเป็นครอบครัวเดยี่ ว 3. การเปล่ยี นแปลงลักษณะทางวฒั นธรรม เชน่ เดิมใชป้ ุ๋ยชีวภาพ ปลูกผกั กินเอง ทาอาหาร ทางเอง ปจั จุบัน ปลกู เพอ่ื ขาย ใช้ปุ๋ยเคมี ซือ้ อาหารถุง 69
นกั ศกึ ษาจะพบสิง่ ตอ่ ไปน้ไี ด้ในสังคมแบบใดมากกวา่ กัน รายการ สงั คมชนบท สังคมเมอื ง 1. อธั ยาศัยไมตรี ต้อนรบั ขับสคู้ นแปลกหน้า 2. การนับถือยาเกรงเจา้ หน้าทปี่ กครอง 3. การทาบญุ ทาทานและบวชเรียน 70 4. การทามาหากนิ ที่ตอ้ งอาศยั ธรรมชาติ 5. การเอารดั เอาเปรยี บ ฉวยโอกาส 6. การหาความสขุ สนกุ สาราญทางโลก 7. โอกาสในการศึกษาเล่าเรียน 8. การเสี่ยงโชคผจญภยั ในโอกาสต่างๆ
ใครตัง้ ใจฟงั ขอให้ได้ A (Thank you so much)
Search