Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกหัด7 นางสาว สโรชา ทัพภูธร ออกแบบภายในปี3 ภาคปกติ 4631071141127

แบบฝึกหัด7 นางสาว สโรชา ทัพภูธร ออกแบบภายในปี3 ภาคปกติ 4631071141127

Published by sarocha14343, 2022-08-08 19:45:49

Description: แบบฝึกหัด7 นางสาว สโรชา ทัพภูธร ออกแบบภายในปี3 ภาคปกติ 463107114112

Search

Read the Text Version

แบบฝึกหดั 7 1.จงบอกประเภทของเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 1.1 ใชข้ นาดกายภาพทางภมู ิศาสตรข์ องเครือข่ายเป็นเกณฑ์ แบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทดงั นี้ 1.1.1 เครอื ข่ายทอ้ งถ่นิ (LAN: Local Area Network) 1.1.2 เครอื ข่ายในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) 1.1.3 เครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง (WAN: Wide Area Network) 1.2 ใชล้ กั ษณะหนา้ ท่ีการทางานของคอมพวิ เตอรใ์ นเครือข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทดงั นี้ 1.2.1 เครอื ขา่ ยแบบเทา่ เทียม (Peer-to-Peer Network) 1.2.2 เครอื ข่ายแบบผใู้ ชบ้ รกิ ารและผใู้ หบ้ รกิ าร (Client-Server Network) 1.3 ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็นเกณฑส์ ามารถแบ่งไดด้ งั นี้ คอื 1.3.1 เครอื ขา่ ยสาธารณะ (Internet) 1.3.2 เครอื ข่ายสว่ นบคุ คล (Intranet) 1.3.3 เครอื ขา่ ยรว่ ม (Extranet) 2.ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรามารถจาแนกไดก้ ่ีประเภทอะไรบา้ ง ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรส์ ามารถจาแนกได้ 3 ประเภท คอื 1.ประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอรแ์ บ่งตามขนาดกายภาพทางภมู ศิ าสตร์ 2.ประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอรแ์ บง่ ตามหนา้ ท่ีของคอมพิวเตอร์ 3.ประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอรแ์ บ่งตามระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู

3.ประเภทเครอื ข่ายท่ใี ชข้ นาดทางกายภาพของเครอื ขา่ ยเป็นเกณฑแ์ บง่ ก่ีประเภท อะไรบา้ งจงอธิบาย ใชข้ นาดทางกายภาพของเครือข่ายเป็นเกณฑ์ แบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทดงั นี้ 1.LAN (Local Area Network) : ระบบเครอื ขา่ ยระดบั ทอ้ งถ่ิน เป็นระบบเครือข่ายท่ีใชง้ านอย่ใู นบรเิ วณ ท่ีไม่กวา้ งนัก อาจใช้อยู่ภายในอาคารเดียวกันหรืออาคารท่ีอยู่ใกล้กัน เช่น ภายในมหาวิทยาลัย อาคาร สานกั งาน คลงั สินคา้ หรือโรงงาน เป็นตน้ การส่งขอ้ มลู สามารถทาไดด้ ว้ ยความเรว็ สงู และมีขอ้ ผิดพลาดนอ้ ย ระบบเครอื ข่ายระดบั ทอ้ งถ่ินจงึ ถกู ออกแบบมาใหช้ ว่ ยลดตน้ ทนุ และเพ่อื เพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน และใช้ งานอปุ กรณต์ ่าง ๆ รว่ มกนั 2.MAN (Metropolitan Area Network) : ระบบเครือข่ายระดบั เมือง เป็นระบบเครือข่ายท่ีมีขนาดอยู่ ระหวา่ ง Lan และ Wan เป็นระบบเครือขา่ ยท่ีใชภ้ ายในเมืองหรือจงั หวดั เท่านนั้ การเช่อื มโยงจะตอ้ งอาศยั ระบบ บริการเครือข่ายสาธารณะ จึงเป็นเครือข่ายท่ีใชก้ บั องคก์ ารท่ีมีสาขาห่างไกลและตอ้ งการเช่ือมสาขาเหล่านนั้ เขา้ ดว้ ยกัน เช่น ธนาคาร เครือข่ายแวนเช่ือมโยงระยะไกลมาก จึงมีความเร็วในการส่ือสารไม่สงู เน่ืองจากมี สญั ญาณรบกวนในสาย เทคโนโลยีท่ีใชก้ บั เครือข่ายแวนมีความหลากหลาย มีการเช่ือมโยงระหว่างประเทศ ดว้ ยชอ่ งสญั ญาณดาวเทียม เสน้ ใยนาแสง คล่ืนไมโครเวฟ คลนื่ วิทยุ สายเคเบิล 3.WAN (Wide Area Network) : ระบบเครือข่ายระดบั ประเทศ หรือเครือข่ายบริเวณกวา้ ง เป็นระบบ เครือข่ายท่ีติดตงั้ ใชง้ านอย่ใู นบริเวณกวา้ ง เช่น ระบบเครือข่ายท่ีติดตงั้ ใชง้ านท่วั โลก เป็นเครือข่ายท่ีเช่ือมต่อ คอมพิวเตอรห์ รอื อปุ กรณท์ ่ีอย่หู ่างไกลกนั เขา้ ดว้ ยกนั อาจจะตอ้ งเป็นการตดิ ต่อสื่อสารกนั ในระดบั ประเทศ ขา้ ม ทวีปหรือท่วั โลกก็ได้ ในการเช่ือมการติดต่อนนั้ จะตอ้ งมีการต่อเขา้ กบั ระบบส่ือสารขององคก์ ารโทรศพั ทห์ รือ การส่ือสารแห่งประเทศไทยเสียก่อน เพราะจะเป็นการส่งขอ้ มลู ผ่านสายโทรศพั ทใ์ นการติดต่อส่ือสารกันโดย ปกติมีอัตราการส่งขอ้ มูลท่ีต่าและมีโอกาสเกิดขอ้ ผิดพลาด การส่งขอ้ มูลอาจใชอ้ ุปกรณใ์ นการส่ือสาร เช่น โมเดม็ (Modem) มาชว่ ย

4.ประเภทเครือข่ายท่ีใชล้ กั ษณะหนา้ ท่ีการทางานของคอมพิวเตอรใ์ นเครือข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งไดก้ ่ี ประเภท อะไรบา้ งจงอธิบาย ใชล้ กั ษณะหนา้ ท่ีการทางานของคอมพิวเตอรใ์ นเครือข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทดงั นี้ 1. Peer-to-Peer Network หรือเครอื ขา่ ยแบบเท่าเทยี ม เป็นการเช่ือมตอ่ เคร่ืองคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ดว้ ยกนั โดยเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ แตล่ ะเคร่อื ง จะสามารถแบ่งทรพั ยากรตา่ งๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟลห์ รอื เคร่อื งพิมพซ์ ง่ึ กนั และ กนั ภายในเครือข่ายได้ เคร่อื งแตล่ ะเคร่อื งจะทางานในลกั ษณะท่ีทดั เทียมกนั ไม่มีเคร่อื งใดเคร่อื งเครื่องหนง่ึ เป็น เคร่ืองหลักเหมือนแบบ Client / Server แต่ก็ยังคงคุณสมบัติพืน้ ฐานของระบบเครือข่ายไวเ้ หมือนเดิม การ เช่ือมตอ่ แบบนมี้ กั ทาในระบบท่มี ีขนาดเลก็ ๆ เชน่ หนว่ ยงานขนาดเลก็ ท่มี ีเครือ่ งใชไ้ ม่เกิน 10 เคร่อื ง การเช่อื มตอ่ แบบนีม้ ีจดุ ออ่ นในเร่อื งของระบบรกั ษาความปลอดภยั แตถ่ า้ เป็นเครอื ขา่ ยขนาดเลก็ และเป็นงานท่ไี ม่มีขอ้ มลู ท่ี เป็นความลบั มากนกั เครอื ขา่ ยแบบนี้ กเ็ ป็นรูปแบบท่ีน่าเลอื กนามาใชไ้ ดเ้ ป็นอย่างดี 2. Client-Server Network หรือเครือข่ายแบบผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ เป็ นระบบท่ีมีเคร่ือง คอมพิวเตอรท์ ุกเครื่องมีฐานะการทางานท่ีเหมือน ๆ กัน เท่าเทียมกันภายในระบบ เครือข่าย แต่จะมีเคร่ือง คอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งหน่งึ ท่ที าหนา้ ท่ีเป็นเครอ่ื ง Server ท่ที าหนา้ ท่ีใหบ้ รกิ ารทรพั ยากรตา่ ง ๆ ใหก้ บั เครอ่ื ง Client หรือเคร่ืองท่ีขอใชบ้ ริการ ซ่ึงอาจจะตอ้ งเป็นเครื่องท่ีมีประสิทธิภาพท่ีค่อนขา้ งสูง ถึงจะทาใหก้ ารใหบ้ ริการมี ประสิทธิภาพตามไปดว้ ย ขอ้ ดีของระบบเครือข่าย Client - Server เป็นระบบท่ีมีการรกั ษาความปลอดภยั สงู กวา่ ระบบแบบ Peer To Peer เพราะว่าการจดั การในดา้ นรกั ษาความปลอดภยั นนั้ จะทากนั บนเคร่อื ง Server เพยี งเครอื่ งเดยี ว ทาใหด้ แู ลรกั ษางา่ ย และสะดวก มีการกาหนดสิทธิการเขา้ ใชท้ รพั ยากรตา่ ง ๆใหก้ บั เครอ่ื งผขู้ อ ใชบ้ รกิ าร หรือเครื่องClient 5.ประเภทเครอื ขา่ ยท่ีใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็นเกณท์ มีอะไรบา้ งจงอธิบาย ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็นเกณฑส์ ามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทคอื 1. อินเทอรเ์ น็ต (Internet) เครือข่ายสาธารณะ เป็นเครือข่ายท่ีครอบคลมุ ท่วั โลก ซ่งึ มีคอมพิวเตอรเ์ ป็น ลา้ นๆเคร่ืองเช่ือมต่อเขา้ กบั ระบบและยงั ขยายตวั ขึน้ เร่ือย ๆ ทุกปี อินเทอรเ์ น็ตมีผใู้ ชท้ ่วั โลกหลายรอ้ ยลา้ นคน และผูใ้ ชเ้ หล่านีส้ ามารถแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสารกนั ไดอ้ ย่างอิสระ โดยท่ีระยะทางและเวลาไม่เป็นอุปสรรค

นอกจากนีผ้ ใู้ ชย้ งั สามารถเขา้ ดขู อ้ มลู ต่าง ๆ ท่ีถกู ตีพิมพใ์ นอินเทอรเ์ น็ตได้ อินเทอรเ์ น็ตเช่ือมแหล่งขอ้ มลู ต่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกันไม่ว่าจะเป็นองคก์ รธุรกิจ มหาวิทยาลัย หน่วยงานของรฐั บาล หรือแมก้ ระท่งั แหล่งขอ้ มูลบุคคล องคก์ รธุรกิจหลายองคก์ รไดใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ตช่วยในการทาการคา้ เช่น การติดต่อซือ้ ขายผ่านอินเทอรเ์ น็ตหรืออี คอมเมิรช์ (E-Commerce) ซ่งึ เป็นอีกช่องทางหน่งึ สาหรบั การทาธรุ กิจท่ีกาลงั เป็นท่ีนิยม เน่ืองจากมีตน้ ทนุ ท่ีถกู กว่าและมีฐานลกู คา้ ท่ีใหญ่มาก ส่วนขอ้ เสียของอินเทอรเ์ น็ตคือ ความปลอดภัยของขอ้ มลู เน่ืองจากทุกคน สามารถเขา้ ถึงขอ้ มลู ทุกอย่างท่ีแลกเปล่ียนผ่านอินเทอรเ์ น็ตได้ อินเทอรเ์ น็ตใชโ้ ปรโตคอลท่ีเรียกว่า “TCP/IP (Transport Connection Protocol/Internet Protocol)” ในการส่ือสารขอ้ มลู ผ่านเครือข่าย ซ่ึงโปรโตคอลนีเ้ ป็น ผลจากโครงการหน่ึงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โครงการนีม้ ีช่ือว่า ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ในปี ค.ศ.1975 จดุ ประสงคข์ องโครงการนีเ้ พ่ือเช่ือมต่อคอมพิวเตอรท์ ่ีอย่หู ่างไกล กนั และภายหลงั จึงไดก้ าหนดใหเ้ ป็นโปรโตคอลมาตรฐานในเครือข่ายอินเทอรเ์ น็ต ในปัจจบุ นั อินเทอรเ์ น็ตได้ กลายเป็นเครอื ขา่ ยสาธารณะ ซง่ึ ไมม่ ีผใู้ ดหรอื องคก์ รใดองคก์ รหน่งึ เป็นเจา้ ของอยา่ งแทจ้ รงิ การเช่อื มต่อเขา้ กบั อินเทอรเ์ น็ตตอ้ งเช่ือมต่อผ่านองคก์ รท่ีเรียกว่า “ISP (Internet Service Provider)” ซ่ึงจะทาหนา้ ท่ีใหบ้ ริการใน การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเทอรเ์ น็ต น่นั คอื ขอ้ มลู ทกุ อย่างท่ีสง่ ผ่านเครือขา่ ย ทกุ คนสามารถดไู ด้ นอกเสียจากจะมี การเขา้ รหสั ลบั ซง่ึ ผใู้ ชต้ อ้ งทาเอง 2. อินทราเน็ต (Intranet) หรอื เครือขา่ ยสว่ นบคุ คล เป็นเครอื ขา่ ยสว่ นบคุ คลท่ีใชเ้ ทคโนโลยีอินเทอรเ์ น็ต เช่น เว็บ, อีเมล, FTP เป็นตน้ อินทราเน็ตใชโ้ ปรโตคอล TCP/IP สาหรบั การรบั สง่ ขอ้ มลู เช่นเดียวกบั อนิ เทอรเ์ นต็ ซ่งึ โปรโตคอลนีส้ ามารถใชไ้ ดก้ บั ฮารด์ แวรห์ ลายประเภท และสายสญั ญาณหลายประเภท ฮารด์ แวรท์ ่ีใชส้ รา้ ง เครือข่ายไม่ใช่ปัจจัยหลักของอินทราเน็ต แต่เป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ีทาให้อินทราเน็ตทางานได้ อินทราเน็ตเป็น เครือข่ายท่ีองคก์ รสรา้ งขึน้ สาหรบั ใหพ้ นกั งานขององคก์ รใชเ้ ท่านนั้ การแชรข์ อ้ มลู จะอยู่เฉพาะในอินทราเน็ต เท่านนั้ หรอื ถา้ มีการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู กบั โลกภายนอกหรอื อนิ เทอรเ์ นต็ องคก์ รนนั้ สามารถท่จี ะกาหนดนโยบาย ได้ ในขณะท่ีการแชรข์ อ้ มูลอินเทอรเ์ น็ตนัน้ ยังไม่มีองคก์ รใดท่ีสามารถควบคุมการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ได้ เม่ือ เช่ือมต่อเขา้ กับอินเทอรเ์ น็ต พนักงานบริษัทของบริษัทสามารถติดต่อส่ือสารกับโลกภายนอกเพ่ือการคน้ หา ข้อมูลหรือทาธุรกิจต่าง ๆ การใช้โปรโตคอล TCP/IP ทาให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้เครือข่ายจากท่ีห่างไกลได้ (Remote Access) เช่น จากท่ีบา้ น หรือในเวลาท่ีตอ้ งเดินทางเพ่ือติดต่อธุรกิจ การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินทราเน็ต โดยการใชโ้ มเด็มและสายโทรศัพท์ ก็เหมือนกับการเช่ือมต่อเขา้ กับอินเทอรเ์ น็ต แต่แตกต่างกันท่ีเป็นการ เช่ือมต่อเขา้ กบั เครือข่ายสว่ นบุคคลแทนท่ีจะเป็นเครือข่ายสาธารณะอย่างเช่นอินเทอรเ์ น็ต การเช่ือมต่อกนั ได้

ระหว่างอินทราเน็ตกับอินเทอรเ์ น็ตถือเป็นประโยชนท์ ่ีสาคญั อย่างหน่งึ ระบบการรกั ษาความปลอดภยั เป็นส่ิงท่ี แยกอินทราเนต็ ออกจากอินเทอรเ์ น็ต เครือขา่ ยอินทราเน็ตขององคก์ รจะถกู ปกปอ้ งโดยไฟรว์ อลล์ (Firewall) ซง่ึ อาจจะเป็นไดท้ ั้งฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวรท์ ่ีทาหนา้ ท่ีกรองข้อมูลท่ีแลกเปล่ียนกันระหว่างอินทราเน็ตและ อินเทอรเ์ นต็ เม่อื ทงั้ สองระบบมีการเช่ือมตอ่ กนั ดงั นนั้ องคก์ รสามารถกาหนดนโยบายเพ่ือควบคมุ การเขา้ ใชง้ าน อินทราเน็ตได้ อินทราเน็ตสามารถสนองความตอ้ งการของผใู้ ชใ้ นองคก์ รไดห้ ลายอย่าง ความง่ายในการตพี ิมพ์ บนเว็บทาใหเ้ ป็นท่ีนิยมในการประกาศข่าวสารขององคก์ ร เช่น ข่าวภายในองคก์ ร กฎ ระเบียบ และมาตรฐาน การปฏิบตั ิงานต่าง ๆ เป็นตน้ หรือแมก้ ระท่งั การเขา้ ถึงฐานขอ้ มลู ขององคก์ รก็ง่ายเช่นกนั ผใู้ ชส้ ามารถทางาน รว่ มกนั ไดง้ า่ ย และมีประสทิ ธิภาพมากขนึ้ 3. เอ็กสท์ ราเน็ต (Extranet) หรือเครือข่ายร่วม เป็นเครือข่ายก่ึงอินเทอรเ์ น็ตก่ึงอินทราเน็ต กล่าวคือ เอ็กสท์ ราเน็ตคือเครือข่ายท่ีเช่ือมต่อระหว่างอินทราเน็ตของสององคก์ ร ดงั นนั้ จะมีบางสว่ นของเครือข่ายท่ีเป็น เจา้ ของร่วมกนั ระหว่างสององคก์ รหรือบริษัท การสรา้ งอินทราเน็ตจะไม่จากดั ดว้ ยเทคโนโลยี แต่จะยากตรง นโยบายท่ีเก่ียวกบั การรกั ษาความปลอดภยั ของขอ้ มลู ท่ีทงั้ สององคก์ รจะตอ้ งตกลงกนั เช่น องคก์ รหน่งึ อาจจะ อนญุ าตใหผ้ ใู้ ชข้ องอกี องคก์ รหน่งึ ลอ็ กอินเขา้ ระบบอนิ ทราเนต็ ของตวั เองหรือไม่ เป็นตน้ การสรา้ งเอ็กสท์ ราเน็ต จะเนน้ ท่ีระบบการรกั ษาความปลอดภัยขอ้ มูล รวมถึงการติดตัง้ ไฟรว์ อลลห์ รือระหว่างอินทราเน็ตและการ เขา้ รหสั ขอ้ มลู และสงิ่ ท่สี าคญั ท่ีสดุ ก็คือ นโยบายการรกั ษาความปลอดภยั ขอ้ มลู และการบงั คบั ใช้