Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกหัด5 นางสาว สโรชา ทัพภูธร ออกเเบบภายในปี3 ภาคปกติ 4631071141127

แบบฝึกหัด5 นางสาว สโรชา ทัพภูธร ออกเเบบภายในปี3 ภาคปกติ 4631071141127

Published by sarocha14343, 2022-08-02 17:54:40

Description: แบบฝึกหัด5 นางสาว สโรชา ทัพภูธร รหัสนักศึกษา 4631071141127

Search

Read the Text Version

แบบฝึก5 1. องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอรม์ ีอะไรบา้ ง จงอธิบาย 1. คอมพวิ เตอรอ์ ย่างนอ้ ย 2 เคร่ือง ขนึ้ ไป เพ่ือใชใ้ นการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ส่ือสารในลกั ษณะตา่ งๆ ตาม วตั ถปุ ระสงคก์ ารใชง้ าน 2. เน็ตเวริ ค์ การด์ หรอื NIC (Network Interface Card) เน็ตเวิรค์ การด์ เป็นจดุ เช่ือมตอ่ ระหวา่ ง คอมพิวเตอรแ์ ละระบบเครอื ข่าย สว่ นใหญ่จะเรยี กว่า NIC (Network Interface Card) หรอื บางทีเรียกวา่ แลน การด์ (LAN Card) อปุ กรณน์ ีจ้ ะทาหนา้ ท่แี ปลงขอ้ มลู เป็นสญั ญาณท่สี ามารถสง่ ไปตามสายสญั ญาณหรอื ส่อื แบบอ่นื ได้ 3. ส่อื กลางและอปุ กรณส์ าหรบั การรบั สง่ ขอ้ มลู เช่น สายสญั ญาณ สายสญั ญาณท่นี ิยมใชใ้ นระบบ เครอื ข่าย ไดแ้ ก่ สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable), สายคบู่ ิดเกลยี ว (Twisted pair) และเสน้ ใยแกว้ นาแสง (Fiber Optic) เป็นตน้ สว่ นอปุ กรณเ์ ครือข่าย ไดแ้ ก่ Hub, switch, Repeater, Bridge, GatewayและRouter เป็นตน้ 4. โปรโตคอล (Protocol) โปรโตคอลเป็นภาษาท่คี อมพวิ เตอรใ์ ชส้ ่อื สารกนั ผ่านเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ ท่ี สามารถสอื่ สารกนั ไดน้ นั้ จาเป็นตอ้ งใชภ้ าษา หรอื โปรโตคอลเดียวกนั เช่น OSI, TCP/IP, IPX/SPX เป็นตน้ 5. ระบบปฏบิ ตั ิการเครือขา่ ย หรอื NOS (Network Operating System) ระบบปฏิบตั กิ ารเครอื ข่ายจะ เป็นตวั ท่ีคอยจดั การเก่ียวกบั การใชง้ านเครอื ขา่ ยของผใู้ ชแ้ ตล่ ะคน หรอื เป็นตวั จดั การและควบคมุ การใช้ ทรพั ยากรต่างๆ ของเครือข่าย ระบบปฏบิ ตั ิการเครือข่ายท่ีเป็นท่นี ยิ ม เชน่ Windows Server 2007, Windows Server 2008, Novell NetWare, Sun Solaris และ Red Hat Linux เป็นตน้ 2.ลกั ษณะการทางานของคอมพวิ เตอรท์ ่เี ช่ือมต่อในการทางานระบบเครือขา่ ย คอมพวิ เตอรจ์ ะแบง่ เคร่ือง คอมพิวเตอรเ์ ป็น 2 ประเภท คอื ประเภทใดบา้ ง 1.ประเภทท่ีใชเ้ ป็นเซิรฟ์ เวอรข์ องเครอื ข่าย (Server Computer) 2.ประเภทท่ีใชเ้ ป็นเคร่อื งลกู ขา่ ย (Client)

3. ใหน้ กั ศกึ ษาอธิบายหนา้ ท่ีของอปุ กรณเ์ หลา่ นี้ 3.1 แลนการด์ ทาหนา้ ท่ีอะไร แปลงขอ้ มลู เป็นสญั ญาณท่สี ามารถสง่ ไปตามสายสญั ญาณหรือส่อื แบบอ่นื ได้ ปัจจบุ นั นมี้ ีการด์ หลาย ประเภท ซง่ึ ถกู ออกแบบใหใ้ ชก้ บั เครือข่ายประเภทตา่ งๆ เช่น อเี ธอรเ์ น็ตการด์ โทเคนรงิ การด์ เป็นตน้ การด์ แต่ ละประเภทอาจใชไ้ ดก้ บั สายสญั ญาณบางชนิดเท่านนั้ หรอื อาจจะใชไ้ ดก้ บั สญั ญาณหลายชนิด 3.2 ฮบั (Hup) ทาาหนา้ ท่ีอะไร เป็นศนู ยก์ ลางในการกระจาย ขอ้ มลู ไปยงั เครอ่ื งอ่นื ๆ ในระบบเครือข่าย ความเรว็ ของฮบั มีหน่วยเป็น Megabit persecond (Mbps) โดยเรม่ิ ตน้ ท่ี 10 Mbps จนถึงความเรว็ 100 Mbps การท างานของฮบั จะใชว้ ธิ ี แบ่งช่องทางการสง่ ผา่ นขอ้ มลู หรอื กลา่ วไดว้ า่ ฮบั ความเรว็ 10 Mbps ท่ีมีพอรต์ ส าหรบั เช่ือมต่ออยู่ 24 พอรต์ มีเคร่ืองคอมพวิ เตอรต์ อ่ อย่ทู ่แี ตล่ ะพอรต์ และทาาการสง่ ขอ้ มลู อย่ใู นขณะนนั้ ความเรว็ ตอ่ พอรต์ ท่จี ะสามารถ สง่ ขอ้ มลู ไดจ้ ะมคี วามเรว็ เพยี ง 10/24 หรอื 0.416 Mbps เทา่ นนั้ นอกจากนนั้ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ กุ เครอ่ื งท่ี ตอ่ มายงั ฮบั ตวั เดียวกนั ทาใหข้ อ้ มลู ท่สี ง่ ออกมามโี อกาสท่ีจะชนกนั สงู เน่ืองจากอย่ใู นระดบั ของกลมุ่ คอมพิวเตอรท์ ่จี ะสง่ ขอ้ มลู ชนกนั ได้ (Collision Domain) 3.3 รพี ีตเตอร์ (Repeater) ทาหนา้ ท่ีอะไร ใชใ้ นการเช่ือมตอ่ สาย เคเบลิ 2 เสน้ เขา้ ดว้ ยกนั เพ่ือเพิ่มระยะทางการเช่ือมตอ่ ระบบเครอื ข่าย สายสญั ญาณแต่ ละชนิดท่เี ลอื กใช้ จะมคี วามสามารถในการขนสง่ ขอ้ มลู ไปในระยะทางท่ีจากดั ระยะหน่งึ ตาม มาตรฐานของสายสญั ญาณ แต่ละชนิด จากนนั้ สญั ญาณขอ้ มลู จะถกู ดดู กลืนไปตาม สายทาใหส้ ญั ญาณ ขอ้ มลู ออ่ นลง หากตอ้ งการเช่ือมโยงระบบเครือข่ายออกไปไกลเกนิ กวา่ สายสญั ญาณท่ีใชจ้ ะรองรบั ไดจ้ ะตอ้ งใช้ รีพีตเตอรช์ ว่ ยในการขยายสญั ญาณขอ้ มลู 3.4 บรดิ จ์ (Bridge) ทาหนา้ ท่ีอะไร เป็นอปุ กรณเ์ ช่อื มโยงเครอื ข่ายของเครอื ข่ายท่ีแยกจากกนั แตเ่ ดิม บรดิ จไ์ ดร้ บั การออกแบบมาใหใ้ ชก้ บั เครือข่ายประเภทเดียวกนั เชน่ ใชเ้ ช่ือมโยง ระหวา่ งเครอื ขา่ ยอีเธอรเ์ น็ตกบั อีเธอรเ์ นต็ (Ethernet) บรดิ จม์ ีใชม้ า นานแลว้ ตงั้ แตป่ ี ค.ศ. 1980 บรดิ จจ์ งึ เป็นเสมือนสะพานเช่ือมระหวา่ งสองเครือข่าย การติดต่อภายในเครอื ขา่ ย เดียวกนั มีลกั ษณะการสง่ ขอ้ มลู แบบแพรก่ ระจาย ดงั นนั้ จงึ กระจายไดเ้ ฉพาะเครอื ข่าย เดียวกนั เทา่ นนั้ การ

รบั สง่ ภายในเครอื ขา่ ยมีขอ้ กาหนดใหแ้ พก็ เกตท่ีสง่ กระจายไปยงั ตวั รบั ไดท้ กุ ตวั แตถ่ า้ มีการสง่ มาท่อี ยู่ (Address) ตา่ งเครอื ขา่ ยบรดิ จจ์ ะนาขอ้ มลู เฉพาะ แพก็ เกต นนั้ สง่ ใหบ้ รดิ จจ์ งึ เป็นเสมือนตวั แบง่ แยกขอ้ มลู ระหวา่ งเครอื ขา่ ยใหม้ ีการส่อื สารภายใน เครือขา่ ยของตน ไมป่ ะปนไปยงั อกี เครือข่ายหนง่ึ เพ่อื ลดปัญหา ปรมิ าณขอ้ มลู กระจายใน สายส่อื สารมากเกินไป ในระยะหลงั มีผพู้ ฒั นาบรดิ จใ์ หเ้ ช่อื มโยงเครอื ข่ายตา่ งชนิดกนั ได้ เช่น เครอื ขา่ ยอเี ธอรเ์ นต็ กบั โทเกน้ รงิ เป็นตน้ หากมีการเช่อื มต่อเครอื ข่ายมากกวา่ สอง เครือข่ายเขา้ ดว้ ยกนั และเครอื ขา่ ยท่เี ช่ือมตอ่ มีลกั ษณะ ท่ีหลากหลายจะเลอื กเราตเ์ ตอร์ (Router) เป็นอปุ กรณใ์ นการเช่อื มโยง มากกวา่ การใชบ้ รดิ จเ์ ป็นตวั เช่ือมโยงเครอื ขา่ ยเพ่ือ ประสทิ ธิภาพสงู สดุ ในการใชง้ านและความเหมาะสมใน บรบิ ทการใชง้ านท่ีแตกตา่ งกนั 3.5 เราตเ์ ตอร์ (Router) ทาหนา้ ท่ี อะไร ทาหนา้ ท่เี สมือนสะพานสาหรบั เช่ือมต่อเครือขา่ ยทอ้ งถ่นิ หรอื ระบบเครอื ข่ายแลน (Local Area Network) เขา้ กบั ระบบ เครอื ข่ายแวน (Wide Area Network) ขนาดใหญ่ และเม่อื เครอื ข่ายแลนถกู เช่ือมตอ่ เขา้ ดว้ ยกนั โดยใชเ้ ราตเ์ ตอร์ เครอื ขา่ ยแลน แตล่ ะฝ่ังจะยงั คงมีเครือข่ายท่ีเป็นของตนเอง ไม่ เก่ียวขอ้ งกบั เครือข่าย ของอีกฝ่ังหนง่ึ ซง่ึ เป็นประโยชน์ ในการบรหิ ารจดั การเครอื ข่าย ภายใน ซง่ึ การทางานของเราตเ์ ตอรจ์ ะมี ตารางขอ้ มลู ท่เี รยี กวา่ Route Table ชว่ ยอธิบาย วธิ ีการในการสง่ ขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการใหไ้ ปถงึ ปลายทางไดอ้ ย่าง รวดเรว็ โดยตารางขอ้ มลู นี้ จะ ถกู เกบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจาภายในเราตเ์ ตอร์ และจะถกู ปรบั ปรุงขอ้ มลู (Update) เสน้ ทาง การขนสง่ ขอ้ มลู อยตู่ ลอดเวลาเม่อื มีการเปล่ยี นแปลง และจะถกู เพิม่ เตมิ เสน้ ทาง เม่ือมีการ สง่ ขอ้ มลู ไป ยงั ปลายทางท่ใี หม่ๆกระบวนการทางานของเราตเ์ ตอรน์ นั้ จะทาการรบั ขอ้ มลู เป็นแพ็กเกตเขา้ มา ตรวจสอบ แอดเดรสปลายทาง จากนนั้ น ามาเปรยี บเทียบกบั ตารางเสน้ ทางท่ไี ดร้ บั การ โปรแกรมไว้ เพ่ือหาเสน้ ทางท่ีสง่ ตอ่ หากเสน้ ทางท่สี ง่ มาจากอีเทอรเ์ นต็ และสง่ ตอ่ ออกทาง ช่องทางของพอรต์ ท่ีเป็นแบบ Point-to-Point กจ็ ะมี การปรบั ปรุงรูปแบบสญั ญาณใหเ้ ขา้ กบั มาตรฐานใหม่ เพ่ือใหส้ ามารถสง่ ตอ่ ไปยงั เครอื ขา่ ยนนั้ ๆ ได้ ปัจจบุ นั อปุ กรณเ์ ราตเ์ ตอร์ ไดร้ บั การพฒั นาไปมากท าใหก้ ารใชง้ านเราตเ์ ตอรม์ ปี ระสิทธิภาพ โดยเฉพาะ เม่อื เช่ือม อปุ กรณเ์ ราตเ์ ตอรห์ ลายตวั เขา้ ดว้ ยกนั เป็นเครือขา่ ยขนาดใหญ่ เราตเ์ ตอรม์ ีการทางาน อยา่ ง มปี ระสทิ ธิภาพ โดยสามารถหาเสน้ ทางการขนสง่ ขอ้ มลู ท่สี นั้ ท่ีสดุ เลอื กตามความ เหมาะสมและแกป้ ัญหา ท่เี กดิ ขนึ้ เองได้ 3.6 เกตเวย์ (Gateway) ทาหนา้ ท่ีอะไร

เป็นอปุ กรณร์ ะบบเครอื ข่ายท่ีมีความซบั ซอ้ นมากกวา่ เราตเ์ ตอรห์ รอื บรดิ จ์ เพราะอปุ กรณช์ นิดนี้ สามารถเช่ือมตอ่ ระบบเครือขา่ ยท่ีใชโ้ ปรโตคอล (Protocal) ในระดบั Data link และ Network Layer ท่ีแตกตา่ ง กนั ไดม้ ากกวา่ 2 ระบบ ซง่ึ จะทาการอธิบายในบทท่ีเก่ียวกบั สถาปัตยกรรมเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ ซง่ึ การทางาน ของเกตเวยท์ กุ ระดบั ชนั้ จะเป็นไปตามมาตรฐาน ISO/OSI Model เกตเวยส์ ามารถ เปล่ยี นแปลงโปรโตคอลจาก เครอื ขา่ ยหนง่ึ ไปยงั อีกเครือขา่ ยหน่งึ หรอื เปล่ยี นรูปแบบของ ขอ้ มลู ในโปรแกรมประยกุ ตไ์ ด้ 4. สายสญั ญาณท่ีใชเ้ ป็นมาตรฐานในระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอรม์ ีก่ีประเภท อะไรบา้ ง 1. สายคบู่ ิดเกลียว ( twisted pair ) ในแต่ละคขู่ องสายทองแดงซง่ึ จะถกู พนั กนั ตามมาตรฐาน เพ่ือ ตอ้ งการลดการรบกวนจากคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟา้ กบั คสู่ ายขา้ งเคยี งไดแ้ ลว้ ผ่านไปยงั สายเคเบลิ เดยี วกนั หรอื จาก ภายนอกเทา่ นนั้ เน่อื งจากสายคบู่ ิดเกลียวนนั้ มรี าคาไม่แพงมากใชส้ ง่ ขอ้ มลู ไดด้ ี แลว้ นา้ หนกั เบา ง่ายต่อการ ตดิ ตงั้ จงึ ทาใหถ้ กู ใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวางตวั อย่างคือสายโทรศพั ทส์ ายแบบนีม้ ี 2 ชนดิ 2 สายโคแอกเชียล เป็นตวั กลางการเช่ือมโยงท่ีมีลกั ษณะเช่นเดียวกบั สายทีวที ่ีมีการใชง้ านกนั อย่เู ป็น จานวนมากไมว่ า่ จะใชใ้ นระบบเครือขา่ ยเฉพาะท่ี และใชใ้ นการสง่ ขอ้ มลู ระยะท่ีไกลระหวา่ งชมุ สายโทรศพั ท์ หรอื การสง่ ขอ้ มลู สญั ญาณวดี ีทศั น์ ซง่ึ สายโคแอกเชียลท่ใี ชท้ ่วั ไปก็มีอยู่ 2 ชนดิ คือ 50 โอหม์ ซง่ึ ใชส้ ง่ ขอ้ มลู แบบดจิ ิทอล และชนิด 75โอหม์ ซง่ึ ก็จะใชส้ ง่ ขอ้ มลู สญั ญาณอนาลอ็ ก สายโคแอกเชียลมีฉนวนหมุ้ เพ่ือปอ้ งกนั การรบกวนของคล่นื สญั ญาณแมเ่ หล็กไฟฟา้ และกเ็ พ่ือปอ้ งกนั สญั ญาณรบกวนอ่นื ๆ ซง่ึ ก็เป็นสว่ นหนงึ่ ท่ที าให้ สายแบบนมี้ ีชว่ งความถ่ีท่ีสญั ญาณไฟฟ้าสามารถสง่ ผ่านไดก้ วา้ งถงึ 500 Mhz จงึ สามารถสง่ ขอ้ มลู ดว้ ยอตั รา ของการสง่ สงู ขนึ้ 3 เสน้ ใยแกว้ นาแสง( fiber optic ) เป็นการท่ใี ชใ้ หแ้ สงเคล่อื นท่ีไปในทอ่ แกว้ ซง่ึ สามารถสง่ ขอ้ มลู ดว้ ย เป็นอตั ราความหนาแนน่ ของสญั ญาณขอ้ มลู ท่ีสงู มาก ท่ปี ัจจบุ นั ถา้ ใชเ้ สน้ ใยนาแสงกบั ระบบอเี ธอรเ์ นต็ ก็ใชไ้ ด้ ดว้ ยความเรว็ 10 เมกะบิต ถา้ ใชก้ บั FDDI กจ็ ะใชไ้ ดด้ ว้ ยความเรว็ สงู ถึง 100 เมกะบิต

5. โปรโตคอล (Protocol) หมายถึงอะไร ปัจจบุ นั โปรโตคอลใดท่ีนิยมใชท้ ่ีสดุ ปัจจบุ นั โปรโตคอลใดท่ีนิยมใชท้ ่สี ดุ โปรโตคอลคอื ชดุ กฎพืน้ ฐานท่ีอนญุ าตใหใ้ ชข้ อ้ มลู รว่ มกนั ระหวา่ ง คอมพิวเตอรไ์ ด้ สาหรบั สกลุ เงนิ ดิจทิ ลั ชดุ กฎเหลา่ นนั้ คือตวั กาหนดโครงสรา้ งของบลอ็ กเชน ซง่ึ เป็นฐานขอ้ มลู แบบกระจายท่ีชว่ ยใหแ้ ลกเปล่ยี นเงนิ ดจิ ิทลั บนอนิ เทอรเ์ น็ตไดอ้ ยา่ งปลอดภยั ซง่ึ ตวั โปรโตคอลท่นี ยิ มใชใ้ น ปัจจบุ นั คอื TCP/IP หรอื Transfer Control Protocol/Internet Protocolคือเครอื ข่ายโปรโตคอลทีสาคญั มาก ท่ีสดุ เน่ืองจากเป็นโปรโตคอลท่ีใชใ้ นระบบเครอื ข่าย Internet รวมทงั้ Intranet