การจดั การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็ นฐาน (Brain based Learning : BBL) ศตวรรษที่ 21 นางสาวอภสั ราวดี เมืองแกว้ รหสั 5806510018
การจัดกระบวนการเรี ยนรู้โดยใช้สมองเป็ นฐาน (Brain-basedlearning) ในศตวรรษท่ี 21 เร่ิมเด่นชัดและ มีความสาคัญเป็นอย่างมาก เป็ นท่ีรู้จักในวงการการศึกษาไทย รวมไปถึงบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองท่ีสรรหาความแปลกใหม่ทางการศึกษาสาหรับลูก แม้แต่กระทรวงศึกษาธิการเองก็มีนโยบายให้มีการจดั การศึกษาในแนวทางน้ีเป็นแนวทางหลกั ท่ีใชใ้ นโรงเรียน
ความหมายของการจดั การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็ นฐาน การเรียนรู้โดยใชส้ มองเป็ นฐาน เป็นแนวความคิดของนกั ประสาท วิทยาและนักการศึกษา กลุ่มหน่ึงท่ีสนใจการทางานของสมองมา ประสานกบั การจดั การศึกษา โดยนาความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั สมองมา ใชเ้ ป็ นเคร่ืองมือในการออกแบบการจดั การเรียนรู้ เพื่อพฒั นาศกั ยภาพ สูงสุดในการเรียนรู้ของมนุษยแ์ ต่ละช่วงดงั น้นั การจดั การเรียนรู้โดยใช้ สมองเป็ นฐาน หมายถึง แนวการจดั การเรียนรู้ที่เน้นผูเ้ รียนเป็ นสาคญั ตามหลกั การของสมองกบั การเรียนรู้ การเรียนรู้ตอ้ งใชท้ ุกส่วนท้งั การ คิด ความรู้สึกและการลงมือปฏิบัติไปพร้อม ๆ กัน ซ่ึงเป็ นการสรุป ความรู้เกี่ยวกบั การเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้ตามหลกั การเรียนรู้โดยใชส้ มองเป็นฐาน ทฤษฎีท่ี 1 การเรียนรู้อยา่ งมีความสุข เดก็ แตล่ ะคนตอ้ งไดร้ ับการยอมรับวา่ เป็นมนุษยท์ ่ีมีหวั ใจ เดก็ มีสิทธ์ิท่ีจะเป็นตวั ของตวั เองไม่เหมือนใคร เช่น 1. เปิ ดโอกาสใหเ้ ดก็ ไดเ้ ลือกแนวทางในการเรียนรู้ของตนเองตามความถนดั และความสนใจ 2. เรียนรู้จากง่ายไปหายาก 3. วธิ ีการเรียนรู้ตอ้ งสนุกสนานไม่น่าเบ่ือ ทฤษฎีท่ี 2 การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม รูปแบบการถา่ ยทอดความรู้ เช่น 1. การเรียนรู้เป็นกลุ่ม 2. ใชค้ าถามเป็นส่ือการเรียนรู้ใหค้ ิด 3. การจาลองสถานการณ์ 4. เนน้ ใหเ้ ดก็ ทากิจกรรมและสร้างผลงาน
ทฤษฎีการเรียนรู้ตามหลกั การเรียนรู้โดยใชส้ มองเป็นฐาน (ต่อ) ทฤษฎีที่ 3 การเรียนรู้เพือ่ พฒั นากระบวนการคิด1. การคิดเชิงวิเคราะห์ มีความสามารถในการจาแนก แยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆและหาความสัมพนั ธ์เชิงเหตุผลระหวา่ งองคป์ ระกอบเหล่าน้นั เพ่ือคน้ หาสภาพความเป็นจริงหรือส่ิงสาคญั ของส่ิงท่ีกาหนดให้2. การคิดเปรียบเทียบ มีความสามารถในการพิจารณาเปรียบเทียบไดส้ องลกั ษณะคือ การเทียบเคียงความเหมือนและหรือความแตกต่างระหว่างส่ิงหน่ึงกบั ส่ิงอ่ืน ๆตามเกณฑ์ ทฤษฎีที่ 4 การเรียนรู้เพ่ือพฒั นาสุนทรียภาพและลกั ษณะนิสัย ศิลปะดนตรีกีฬา โดยควรจะมีความสอดแทรกหลกั การของความเหมือน หลกั การของความแตกต่าง หลกั การของความเป็นฉนั เช่น การผอ่ นคลายทางอารมณ์ทาใหเ้ กิดการเรียนรู้ที่ดีข้ึน
ทฤษฎีการเรียนรู้ตามหลกั การเรียนรู้โดยใชส้ มองเป็นฐาน (ต่อ) ทฤษฎีที่ 5 การเรียนรู้เพ่ือพฒั นาสุนทรียภาพและลกั ษณะนิสัย การฝึ กฝนกายวาจา ใจ 1. สอนโดยใชอ้ ุทาหรณ์แลว้ ต้งั คาถามใหเ้ ดก็ ตอบ แลว้ ใหเ้ ดก็ สรุปดว้ ยตวั เอง 2. สอนโดยใชก้ ารแฝงสาระ การพูดคุยถามความเห็นไม่ใช่ให้เด็กจาในส่ิงที่สั่งฟัง ในส่ิงท่ีพดู
ข้นั ตอนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใชส้ มองเป็นฐาน วิมลรัตน์ สุ นทรโรจน์ (วิมลรัตน์ สุ มทรโรจน์. 2550 ; อ้างอิงมาจากนิราศ จนั ทรจิตร. 2553 : 339-341) จึงไดเ้ สนอกรอบในการจดั กิจกรรมตามลาดบัข้นั ตอนการเรียนรู้ ดงั น้ี 1. ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน เป็ นข้นั ท่ีครูวางแผนในการสนทนากับนักเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมใหเ้ ขา้ ใจในสิ่งท่ีจะเรียน และสามารถเช่ือมโยงไปสู่เร่ืองท่ีจะเรียนได้ 2. ข้นั ตกลงกระบวนการเรียนรู้ เป็นข้นั ท่ีครูและนกั เรียนตกลงร่วมกนั วา่ นกั เรียนจะตอ้ งทากิจกรรมใดบา้ ง อยา่ งไร และจะมีวธิ ีวดั และประเมินผลอยา่ งไร 3. ข้นั เสนอความรู้ใหม่ เป็ นข้นั ท่ีครูจะตอ้ งเช่ือมโยงประสบการณ์การต่าง ๆมาสร้างองคค์ วามรู้ใหม่ คือ การสอนหรือการสร้างความคิดรวบยอดให้แก่นกั เรียน จนเกิดความรู้ความเขา้ ใจในสิ่งท่ีเรียน
4. ข้นั ฝึกทกั ษะ เป็นข้นั ท่ีนกั เรียนเขา้ กลุ่มแลว้ ร่วมมือกนั เรียนรู้ และสร้างผลงานในข้นั น้ีคาว่า ฝึ กทกั ษะ หมายถึง การวิจยั การฝึ กปฏิบตั ิการทดลอง การสังเกตจากส่ิงแวดลอ้ มแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ การทาแบบฝึ กการวาดภาพ และการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ จนประสบผลสาเร็จไดผ้ ลงานออกมา (ผลงานควรชดั เจนน่าสนใจ ไม่ใช่ใส่กระดาษ A4 หรือกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แต่ควรเป็ นกระดาษขนาดใหญ่ เช่นกระดาษปรู๊ฟ ใช้นาเสนออาจเป็ นการเขียนธรรมดาหรือแผนผงัความคิด 5. ข้นั แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็ นข้นั ที่ตวั แทนแต่ละกลุ่มที่ได้จากการจับสลาก ออกมาเสนอผลงาน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
6. ข้นั สรุปความรู้ เป็ นข้นั ท่ีครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้แลว้ใหน้ กั เรียนทาใบงานเป็ นรายบุคคล แลว้ เปล่ียนกนั ตรวจโดยครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลย แลว้ ให้นักเรียนแต่ละคนปรับปรุงผลงานตนเอง ให้ถูกตอ้ งครูรับทราบแลว้ เกบ็ ผลงานไวใ้ นแฟ้มสะสมงานของตนเอง 7. ข้นั กิจกรรมเกม เป็ นข้นั ท่ีครูจดั ทาขอ้ สอบมาให้นักเรียนทาเป็ นรายบุคคลโดยไม่ซกั ถามกนั ส่งเป็นกลุ่มแลว้ เปลี่ยนกนั ตรวจเป็นกลุ่ม โดยครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มหาค่าคะแนนเฉล่ีย บอกครูบนั ทึกไวแ้ ลว้ ประกาศผลเกม กลุ่มใดไดค้ ะแนนเฉล่ียสูงท่ีสุดเป็นกลุ่มชนะเลิศ
รูปแบบการเรียนรู้แบบ BBL• https://www.youtube.com/watch?v=hI5pPoql 4aI
สรุป สรุปไดว้ ่า การจดั การเรียนรู้ตามหลกั การเรียนรู้โดยใชส้ มองเป็นฐาน คือแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ตามหลกั การสมองกบัการเรียนรู้บนความคิดพ้ืนฐาน 3 ดา้ น คือ ดา้ นอารมณ์เป็ นส่วนสาคญั ในการเรียนรู้ทุกข้นั ตอน ดา้ นการเรียนรู้ตอ้ งใชท้ ุกส่วนท้งั การคิด ความรู้สึกและดา้ นการลงมือปฏิบตั ิไปพร้อม ๆ กนั จึงเป็ นการเรียนรู้ที่ดีท่ีสุดสู่กระบวนการและลีลานาไปสู่การสร้างแบบแผนอย่างมีความหมาย โดยใช้กระบวนการเรียนพฒั นาผลการเรียนรู้
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: