Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปการอ่านหนังสือ

สรุปการอ่านหนังสือ

Description: สรุปการอ่านหนังสือ

Search

Read the Text Version

หนงั สอื ด้านการศึกษาท่สี นใจ ครเู พื่อศษิ ยส์ ร้างหอ้ งเรียนกลบั ทาง : ศ.นพ.วจิ ารณ์ พานิช ISBN 978-616-91531-4-6 ผ้เู ขยี น ศ.นพ.วิจารณ์ พานชิ ที่ปรึกษา คณุ ปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร บรรณาธกิ าร คุณรตั นา กติ ิกร ออกแบบรูปเล่ม ทีมแบก็ อพั พมิ พโ์ ดย มลู นิธสิ ยามกมั มาจล ๑๙ ถนนรชั ดาภเิ ษก แขวงจตจุ กั ร เขตจตุจกั ร กรงุ เทพฯ ๑๐๙๐๐ โทรศพั ท์ : ๐ ๒๙๓๗ ๙๙๐๑-๗ โทรสาร : ๐ ๒๙๓๗ ๙๙๐๐ เวบ็ ไซต์ : www.scbfoundation.com พมิ พ์ครัง้ ที่ ๒ มถิ ุนายน ๒๕๕๖ จำนวน ๕,๐๐๐ เลม่ พิมพท์ ี่ บริษัท เอส.อาร์.พริน้ ต้งิ แมสโปรดักส์ จำกัด http://www.gotoknow.org/blogs/posts , www.classstart.org , coursera (www.coursera.org) ๑. มผี ู้เขยี นเร่ืองราวของการกลบั ทางห้องเรยี นมากมายในอนิ เทอร์เนต็ เชน่ ตวั อยา่ งจาก http://learning.blogs.nytimes.com/2011/12/08/five-ways-to-flip-your-classroom- with-the-new-york-times/ ๒. จากบนั ทกึ น้ี http://www.gotoknow.org/blogs/posts/502394จะเห็นวา่ ClassStart คือเครอ่ื งมอื จำพวกเดียวกันกบั Moodle นน่ั เอง คือ เป็น Learning Management System ๓. บันทกึ ชดุ นเ้ี ขยี นแบบตีความและ AAR หรอื Personal Reeflction ไมไ่ ดแ้ ปลตรงตวั จาก หนังสอื หลายส่วนเป็นความร้สู กึ ของผมทเี่ กดิ ขึน้ จากการอ่านหนงั สอื การอ่านบนั ทึกชดุ นจ้ี ะไม่ เหมือนกบั การอ่านหนังสือ Flip Your Classroom โดยตรง เมอื่ หอ้ งเรียนของผมกลับทาง : การเรียนร้จู งึ ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งท่อี ดึ อัดอีกตอ่ ไป ดร.เดชรัต สุขกำเนดิ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ห้องเรยี นกลบั ทางในระบบชนั้ เรียนออนไลน์ ของไทย ClassStart.org ดร.จนั ทวรรณ ปยิ ะวัฒน์ คณะวทิ ยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ กลบั ทางหอ้ งเรียนคณิตศาสตร์ ดร.สุพศิ ฤทธแ์ิ กว้ ผู้อำานวยการศนู ย์บรกิ ารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยวลัยลักษณ์ ครูเพือ่ ศษิ ย์ สรา้ งห้องเรียนกลบั ทาง หนังสือเล่มนช้ี ่วยให้ความคิดเรอื่ งข้อจำกัดในการทำ Flipped Classroom แต่ก่อนอื่นคนท่ี ไมเ่ คยไดย้ ินคำนีจ้ ะงงไปเสียก่อน ขอขยายความเพิ่มเติม Flipped Classroom หรอื ห้องเรียนกลับ ทางคือการให้เอาเน้ือหาบทเรียนไปเป็นหน้าท่ีของนักเรียนในการไปศึกษา และเรามาแลกเปล่ียน ลงมือปฏิบัติรวมถึงทำการบ้านกันที่โรงเรียน หนังสือเล่มน้ีจะตอบคำถามพวก เด็กไม่มี Smartphone ทำยังไง ครูจะต้องลงทุนลงแรงอัดคลิปกันจริงจังเลยหรือเปล่า คำตอบของหนังสือ เล่มน้ีทำให้รู้สึกว่า Flipped Classroom กล่าวคือเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ปรับทิศทาง ใหม่จากเดิมท่ีนักศึกษาต้องเข้าช้ันเรียนเพ่ือฟังคำบรรยาย และกลับไปทำแบบฝึกหัดหรือทบทวน ความร้ทู ่ีบา้ น (หอพกั ) มาเปน็ วิธีที่นกั ศึกษาจะต้องไปหาความรู้จากภายนอกห้องเรียนไม่ว่าจะเป็น ห้องสมดุ แหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ หรือการใช้ Search engine เช่น Google Yahooหรอื เว็บไซตต์ า่ งๆ เช่น Youtube รวมถึง Facebook ที่เหมาะกับนักศึกษายุคปัจจุบัน หลังจากนั้นนักศึกษาจะได้ ประมวลผลการเรียนรู้ แล้วนำมาใช้เป็นโจทย์ปัญหาในชั้นเรียนเพราะฉะน้ันบรรยากาศในช้ันเรียน จะเป็นการนำเสนอความรดู้ ้วยตัวนักศึกษาเอง ผ่านการระดมสมอง การร่วมกันแก้ปัญหาและการ ทำแบบฝึกหัด” และความก้าวหน้าอย่างหนึ่งของการกลับทางห้องเรียนคือให้นักเรียนน่ันเองเป็น ผ้สู รา้ งเน้ือหาสำหรับทำวิดที ัศน์ หรือสำหรบั เอาไปลงในช่องทางการส่ือเนอ้ื หาตา่ งๆ เช่น ในบล็อก Podcast กระบวนการเชน่ นี้เรยี กวา่ Student-Created Content เท่ากับเป็นช่องทางใหน้ ักเรยี น สอนผู้อ่ืน ซึ่งถือเป็นช่องทางการเรียนรู้ท่ีดีท่ีสุดตามที่ระบุในLearning Pyramid ห้องเรียนกลับ ทางเป็นเรอ่ื งที่ทกุ ฝ่ายจะต้องชว่ ยกันขจัดปัญหาและอปุ สรรคข้อพิสจู น์สุดทา้ ยคือผลสมั ฤทธ์ใิ นการ เรยี นของนักเรยี นท้ังชนั้

เปา้ หมายของการเรียนแบบกลับทางคอื สร้างสภาพการเรียนรู้ท่ีนกั เรยี นได้เรียนรู้เท่าเทยี ม กัน (Equitable) ตามธรรมชาติของนกั เรยี นท่ีแตกตา่ งกนั ซึง่ หมายความว่านักเรียนตอ้ งใช้เวลา และความพยายามแตกตา่ งกนั แต่ครูและหอ้ งเรียนจะชว่ ยให้นกั เรยี นทกุ คนเรียนบรรลุเป้าหมาย เท่าเทียมกนั ในเวลาเรยี นจุดสำคญั คอื ต้องส่ือสารกับพ่อแม่ผู้ปกครองทั้ง โดยจดหมายและโดย การประชุมผปู้ กครอง เพือ่ ให้ผู้ปกครองได้มีสว่ นรว่ มในการดูแลไดอ้ ีกทางหน่ึงซงึ่ การเรียนแบบ กลับทาง และเรียนให้รู้จริง เปดิ ช่องให้เด็กหัวไวเรียนเร็ว ไดเ้ รียนเพ่อื บรรลุเป้าหมายท่ที ้าทายของ ตนดว้ ยสำหรบั ครูเพ่ือศษิ ย์คำถามที่สำคญั ที่สุดคอื “อะไรคอื สงิ่ ทีด่ ีท่สี ุดสำหรับศิษย”์ จงทำสง่ิ นัน้ องคป์ ระกอบของหอ้ งเรยี นกลบั ทางและเรยี นให้รูจ้ รงิ • กำหนดวัตถุประสงคข์ องการเรียนรใู้ หช้ ัดเจน • ไตรต่ รองว่าวตั ถุประสงค์สว่ นไหนควรเรียนแบบลงมอื ทำ หรอื Inquiry • สว่ นไหนควรเรยี นแบบรับถ่ายทอด • ให้แนใ่ จว่านักเรียนเขา้ ถึงวิดที ัศนเ์ พ่อื เรยี นสาระวิชา • สร้างกิจกรรมให้นักเรียนลงมอื ทำเพ่อื เรียนรใู้ นช้นั เรยี น • สร้างวธิ สี อบหลายวิธีเพื่อพสิ จู น์ว่านกั เรียนบรรลุผลสมั ฤทธติ์ ามวัตถุประสงค์ ในแต่ละ บทเรยี น ห้องเรียนแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ จะเปล่ียนไปจากที่เราคุ้นเคยโดยส้ินเชิง ICT (AI) จะเข้ามา รับภาระเรื่องง่ายๆ แทนครู ครูจะต้องยกระดับไปทำหน้าที่ท่ีมีคุณค่าสูงข้ึน คือเป็น “ครูฝึก” ให้ การเรียนรู้ของศษิ ยก์ า้ วสู่การ “ปลกู ปญั ญา” (Higher Order Thinking/Learning) ใหแ้ ก่ศิษย์ การกลับทางห้องเรียนของไทยอาจจะไม่สามารถทำได้ด้วยการเปล่ียนแปลงการเรียนการ สอนคร้ังเดียวทั้งหมด เพราะด้วยวัฒนธรรมการเรียนรู้ท่ียังติดกับการรับความรู้จากผู้สอนและ ทักษะและหน้าท่ีความรับผิดชอบของผู้สอนท่ีจะเปล่ียนไปจากเดิมในการจัดการเรียนการสอนใน รูปแบบใหม่นี้ แต่ผู้สอน จะสอนน้อยลงได้จริงหากมีการวางแผนการเรียนการสอนไว้เป็นอย่างดี และจัดเตรียมเอกสารเนื้อหาแบบฝึกหัดและกิจกรรมการเรียนรู้ให้พร้อมก่อนเปิดเรียนผู้สอนจะ พบว่าหน้าท่ีความรับผิดชอบและทักษะของตนจะไม่เหมือนก่อน เมื่อเร่ิมต้น กลับทางห้องเรียน ผู้สอนควรจดัหาหรือสร้างวีดิโอคลิปท่ีจะนำมาเป็นเนื้อหาการเรียนรู้ให้เสร็จก่อนทั้งหมดแล้ว กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับคลิปวีดิโอที่จะใช้หลังจากนั้นผู้สอนจะนำไฟล์เอกสาร และคลิปวีดิโอขึ้นเก็บไว้บนเว็บไซต์ ClassStart อย่างเป็นระบบ ดังน้ันจะเห็นได้ว่าผู้สอนจะต้อง เปิดใจรับการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศและมีความสามารถในการเรียนรู้เทคโนโลยี สารสนเทศใหม่ๆ ก่อนแต่ความยากนั้นอยู่ที่การกระตุ้นให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาความรู้ท่ีวางไว้บน เว็บไซต์จากที่บ้านมาก่อนท่ีจะเข้าชั้นเรียนเพื่อที่ผู้สอนจะได้ใช้เวลาในชั้นเรียนเพ่ือกิจกรรมการ เรียนรู้ต่างๆ โดยผู้สอนควรจะเร่ิมต้นชั้นเรียนด้วยการให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสรุปเน้ือหาท่ีได้ ศึกษามาหรือให้มีการจัดสอบย่อยเน้ือหาก่อนเร่ิมเข้าสู่กิจกรรมการเรียนรู้ หรือผู้สอนอาจจะ

คัดเลือกบันทึกการเรียนรู้เด่น ๆ ในชั้นเรียน ClassStart มาแลกเปล่ียนกันในห้องเรียนจริงก็ได้จะ ยง่ิ ทำใหผ้ ู้เรียนเกดิ ความภาคภูมิใจและเปน็ แรงเสริมอยา่ งดใี นการเรียนรู้ต่อไป ท่สี ำคัญท่ีสุดคือนักเรียนเห็นว่าการเรียนแบบนี้ (๑) สือ่ สารด้วยภาษาเดยี วกนั กบั ภาษาของ นักเรียน (๒) สอนให้นักเรียนรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง (๓) มีความยืดหยุ่น เปิดโอกาสให้ นักเรยี นได้เรยี นตามความเร็วของตนเอง ดงั นั้นการเรียนรู้ในอนาคต คนเราจะเรียนด้วยตนเองมากขึ้นเรือ่ ย ๆ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง มีปัจจัยสำคัญคือผู้เรียนต้องมีวินัยควบคุมตนเองได้กำกับการเรียนรู้ของตนเองให้ต่อเนื่องได้ คนเราจึงต้องการ ว - วินัยในตนเองควบคุมตนเองได้ รวมเป็นต้องมีทักษะท่ีเป็นหัวใจ ๔ ประการ คือ ๓ ร ๑ ว ได้แก่ ทักษะในการปลูกฝังแรงบันดาลใจในการเรียนรู้แก่ตนเอง ทักษะในการเรียนรู้ ทักษะในการร่วมมือ และการมีวินัยในตนเองจากแนวทางการริเริ่มดำเนินการจัดการห้องเรียน กลับทางที่นำเสนอมาในบทความนี้และการร่วมแรงร่วมใจของภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทย ClassStart จะสามารถเป็นดั่ง“นาวาปัญญา” หรือเรือข้ามฟากท่ีจะนำพาเยาวชนไทยจำนวนนับ สิบล้านคน ค่อย ๆ ก้าวข้ามผ่านระบบการศึกษาในแบบศตวรรษที่ 20 ไปยังศตวรรษท่ี 21 ได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพเพราะความรู้ในปัจจุบันนีม้ ีอยู่อย่างมหาศาลในโลกออนไลน์และสืบค้นได้ง่าย ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศท้งั ฮารด์ แวร์และซอฟต์แวร์อันทรงประสิทธิภาพตอ่ การเรียนรู้ เปา้ หมาย ของการเรียนการสอนจึงไม่ได้อยู่ท่ีเน้ือหาความรู้ท่ีผู้เรียนจะได้รับอีกต่อไป หากแต่เป็นทักษะการ เรียนรู้ตลอดชีวิต ของผู้เรียน และผู้สอนจึงไม่ได้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ แก่ผู้เรียนอีกแล้ว หากแต่ เป็นผู้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้และจุดประกายการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับผู้เรียนด้วยการเรียน การสอนแบบกลับทางผู้สอนจึงต้องเข้าใจและพร้อมเข้าสู่ยุคของการเปล่ียนแปลงนี้โดยไม่ใช่ยัด เยียดหรือปิดก้ันเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีทรงประสิทธิภาพในการเรียนรู้เหล่านี้ หากแต่เป็นการ ออกแบบวัฒนธรรมการเรียนการสอนใหม่ที่ให้อำนาจแก่นักเรียนโดยนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศ มาเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง และน่ีคือกุญแจแห่งการสร้างเยาวชนคุณภาพ ของไทยเพอ่ื การกา้ วเขา้ สู่ตลาดแรงงานโลก เน้อื หาในเล่ม คำนิยม คุณหญงิ กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา นบั เป็นทน่ี ่าชืน่ ชมยินดีที่ มลู นธิ สิ ยามกมั มาจล ท่ที ำงานร่วมกับโรงเรียนและครูท่ัวประเทศ เพื่อปลูกฝังปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีโอกาสได้สัมผัสปัญหาความทุกข์ยากของผู้เรียนจึงได้ สนบั สนุนการเผยแพรห่ นังสืออันมีคุณค่านส้ี โู่ รงเรียนท่ัวประเทศ เพ่ือเปน็ พลงั ใจ เปน็ ต้นแบบให้กับ ครูรวมทั้งกระตุ้นเตือนให้สังคมได้ร่วมผลักดันการปฏิรูปการศึกษาเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เยาวชน อย่างแท้จริง คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา

คำนิยม อาจารยป์ ระภาภัทร นิยม ผเู้ ขียนขอกราบขอบพระคุณต่อเสียงสะทอ้ นซ่ึงก้องกังวานจากหนังสือเล่มน้ี ที่น่าจะโดนใจ ครยู คุ ใหมท่ ัง้ หลายมากทส่ี ดุ คอื ประโยคที่ว่า “มอบอำนาจเหนือการเรยี นให้แกน่ ักเรียน” โดยมีคำอธิบายของครูต้นแบบว่า “ครูต้องไม่มองเด็กเป็นคนที่ออ่นแอต้องการให้เปิดกะโหลก กรอกวิชา” อีกตอ่ ไปแตต่ ้องมองว่า เขาเป็นมนุษย์ท่ีมีศักยภาพในการเรียนรู้โดยท่ีแต่ละคนมีลักษณะจำเพาะของตนเอง ที่ต้องการ การเรียนรู้ท่ีเหมาะสม และนี่เองคือการที่คุณหมอถ่ายทอดให้เรารู้อย่างตรงไปตรงมา แล้วแต่ครู ทั้งหลายจะตระหนักได้จากจิตวิญญาณของครเู อง รองศาสตราจารย์ ประภาภัทร นิยม คำนำมลู นธิ ิ มูลนิธิสยามกัมมาจล จึงหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เน้ือหา และแง่มุมความคิด ของศาสตราจารย์ นายแพทย์วิจารณ์ พานิช รวมทั้งประสบการณ์ตรงของอาจารย์ทั้ง 3 ท่าน ที่ได้สะท้อนไว้หนังสือ เล่มนี้จะช่วยจุดประกายให้กับคุณครูผู้มีหัวใจเพื่อศิษย์ทุกท่าน ได้นำไปปรับ-ประยุกต์ ใช้ให้ เหมาะสมกบั บริบทของตัวเอง และเกิดผลกบั ศษิ ยผ์ ู้เป็นทรี่ ักของทกุ ทา่ นตอ่ ไป มูลนธิ สิ ยามกัมมาจล คำนำผเู้ ขียน ผมเช่ือว่า ในไม่ช้าการเรียนส่วนใหญ่ ในทุกระดับ จะเปล่ียนไปเป็นการเรียนแบบ “กลับ ทางห้องเรียน” น้ี แนวโน้มนี้จะเป็นไปทั่วโลกผมขอขอบคุณ คุณปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร และคุณ รัตนา กิติกร แห่งมูลนิธิ สยามกัมมาจล ท่ีเห็นคุณค่าของการสร้างห้องเรียนกลับทาง และจดั พิมพ์ หนังสือเล่มเล็กน้ีออกเผยแพร่ เพ่ือประโยชน์วงกว้างในสังคมไทยในการยกระดับการเรียนรู้ของ เด็กไทย ส่สู ภาพ “รจู้ รงิ ” วิจารณ์ พานิช บทท่ี 1 เร่ิมจากการทำงานในหน้าทคี่ รสู อน ผู้เขียนท้ัง ๒ ท่านนี้ได้ค้นพบวิธีเรียนรู้แบบกลับทางคือเรียนวิชาที่บ้าน ทำาการบ้านที่ โรงเรียนหรือรับถ่ายทอดความรู้ที่บ้านแล้วมาสร้างความรู้ต่อยอดจากวิชาท่ีรับถ่ายทอดมาให้เป็น ความรู้ทสี่ อดคลอ้ งกบั ชวี ติ ทำให้เกดิ การเรยี นร้ทู ่มี พี ลังเกดิ ทกั ษะทเ่ี รียกวา่ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่๒1 บทที่ 2 หอ้ งเรียนกลบั ทางเป็นอยา่ งไร เวลาของครูจะใช้สำหรับมีปฏิสัมพันธ์สองทางกับศิษย์ทำให้เด็กท่ีเรียนช้าหรือหัวช้าได้รับ การเอาใจใส่ ครูจะไม่ยืนอยู่หน้ากระดานดำท่ีหน้าช้ันอีกต่อไปแต่จะเดินไปเดินมาในชั้นเพื่อ ชว่ ยเหลือลกู ศษิ ยท์ ม่ี ีปญั หา

บทที่ 3 ทำไมจึงควรกลับทางห้องเรยี น ครูเพ่ือศิษย์ต้องทำมากกว่า การกลับทางห้องเรียน การกลับทางห้องเรียนเป็นเครื่องมือ อย่างหนึ่งสำหรับช่วยให้ศิษย์เกิดการเรียนรู้ที่ดี ย้ำคำว่า “อย่างหนึ่ง” เพราะการเรียนรู้ท่ีดียังมี ปจั จัยอืน่ ๆ อกี หลากหลายประการ หรือกล่าวอีกนัยหน่ึงว่าการเป็นครูท่ีดีต้องทำมากกว่าการกลับ ทางห้องเรยี น บทที่ 4 วธิ ดี ำเนนิ การกลับทางห้องเรยี น ครูต้องไม่หลงเข้าใจผิดว่าส่วนสำคัญท่ีสุดในการเรียนแบบกลับทางห้องเรียนอยู่ที่วิดีทัศน์ ตรงกันข้ามเวลาสำคัญที่สุดของการเรียนแบบน้ีอยู่ท่ีเวลาเรียนในห้องเรียนครูจะต้องประเมิน คุณค่าของเวลาช่วงนี้และออกแบบแลว้ ปรับปรุงแล้วเพื่อให้เปน็ เวลาท่ีมคี ุณค่าต่อการเรียนรู้สงู สุด ของเดก็ คอื เกดิ การเรียนรู้ในมิตทิ ่ลี ึกและเชือ่ มโยงมากกว่าการเรยี นแบบเดิม บทท่ี 5 ห้องเรียนกลับทางและเรยี นใหร้ ้จู รงิ การเรียนแบบรู้จริง ช่วยเพ่ิมผลสัมฤทธ์ิของเด็ก เพิ่มความร่วมมือระหว่างนักเรียนเพ่ิม ความมั่นใจตนเองของนักเรียนและช่วยให้โอกาสนักเรียนได้แก้ตัวในการเรียนรู้ให้บรรลุผลสัมฤทธ์ิ หากพลาดในรอบแรก บทท่ี 6 ลกั ษณะของหอ้ งเรยี นกลบั ทางและเรียนให้รจู้ ริง ในหอ้ งเรียนแบบเดิม นักเรียนนั่งฟงั รับคำาส่ัง และรับถ่ายทอดแล้วตอบข้อสอบเพื่อพิสูจน์ ว่าตนได้เรียนรู้สภาพเช่นน้ีได้ผลต่อเด็กส่วนน้อยเด็กอีกจำนวนหนึ่งหมดความสนใจและหลุดไป จากกระบวนการเรียนรู้ แตใ่ นห้องเรียนแบบกลบั ทางและเรยี นใหร้ ู้จรงิ นักเรยี นรับผดิ ชอบต่อการเรยี นของตนเองการเรยี น ไม่ใช่ส่ิงท่ีกระทำาต่อนักเรียนแต่กลายเป็นส่ิงที่นักเรียนเป็นเจ้าของเป็นผู้กระทำา และจะเป็น ทักษะทีต่ ดิ ตวั ตลอดไป บทที่ 7 วิธีดำเนินการ ในชั้นเรียน จะมีช่วงเวลา “คำถามและคำาตอบ”ที่สนุกสนานและมี คุณค่าต่อการเรียนรู้อย่างยิ่งโดยนักเรียนอาจเรียนคนเดียวหรือเรียนเป็นกลุ่ม และเป็นการทำงานร่วมกับครูเป็นช่วงเวลาท่ีครูได้เรียนรู้สูงมากได้มีโอกาสสังเกตความเข้าใจผิด ของเด็กและแก้ไขเสีย เป็นกติกา การเรียนที่ทำให้นักเรียนท่ีในห้องเรียนปกติเล่ือนลอยจากการ เรยี น ไมเ่ คยพดู ไม่เคยถามครู ต้องมสี ่วนต้ังคำถาม และช่วยกันหาคำตอบ บทที่ 8 คำถาม – คำตอบ ลักษณะสำคญั ท่สี ดุ ของหอ้ งเรยี นกลบั ทางคอื กลับทางจุดสนใจจากตวั ครู และการสอนของครไู ปทต่ี ัวเด็กและการเรยี นของเดก็

บทที่ 9 สรุป (จบ) ครูที่ดีคือครูท่ีเรียนรู้ปรับปรงุ การทำหน้าท่ีครขู องตนอยตู่ ลอดเวลาคู่มือ เรียนรู้ของครูที่ดที ส่ี ุดเล่มหนึ่งเป็นคู่มือเรยี นรเู้ พื่อปฏริ ูปห้องเรียน บทที่ 10 การเรียนรู้สมัยใหม่ต้องกลับทางการเรียนรู้ :เรียนท่ีบ้าน ทำการบ้านที่ โรงเรียน การเรียนร้สู มัยใหมต่ ้องหาทางใชป้ ระโยชน์จาก ICT ให้มากที่สุดเท่าทีจ่ ะทำ ไดโ้ ดยเฉพาะอย่างยง่ิ ใช้ตรงึ ความสนใจของนกั เรียนอยู่กับเรื่องที่เป็นประโยชน์ซ่งึ จะ ช่วยให้นักเรียนไม่โดนดึงดูดไปใช้เวลากับเรื่องไม่เป็นเร่ืองหรือเร่ืองเสื่อมเสีย (อบายมุข) บทที่ 11 ปฏวิ ัตหิ ้องเรยี น ห้องเรียนแห่งศตวรรษท่ี ๒๑จะเปล่ียนไปจากท่ีเราคุ้นเคยโดยส้ินเชิง ICT (AI) จะเข้ามา รับภาระเร่ืองง่ายๆ แทนครูครูจะต้องยกระดับไปทำาหน้าท่ีที่มีคุณค่าสูงข้ึนคือเป็น “ครูฝึก” ให้ การเรยี นร้ขู องศษิ ยก์ า้ วส่กู าร “ปลูกปัญญา”(Higher Order Thinking/Learning) ใหแ้ กศ่ ิษย์ การนำหอ้ งเรยี นกลับทางไปประยกุ ตใ์ ช้ • เมอ่ื หอ้ งเรยี นของผมกลบั ทาง :การเรยี นรู้จงึ ไม่ใช่เร่อื งทีอ่ ดึ อัดอกี ตอ่ ไป ดร.เดชรัต สขุ กำเนิด ผมยอมรับว่า หลายครง้ั ผมก็เผลอคิดไปว่า ในเม่อื ห้องเรยี นยงั กลบั ทางได้แลว้ สังคมไทของ เราจะเริ่มกลับทางได้บ้างไหม? เราพรอ้ มที่จะลดทอนความเหล่ือมล้ำในดลุ อำนาจในสังคมที่กดทับ พลังสร้างสรรค์ร่วมกันของพวกเราแล้วหรือยัง? เราพร้อมที่จะมุ่งสร้าง “พลัง” ร่วมกันเพื่อพา สังคมไทยไปเผชิญกับโอกาสและความท้าทายมากมายในอนาคตแล้วหรือยัง? เรามีส่ือ พ้ืนท่ี และ กระบวนการเรยี นรู้ “ร่วมกัน” มากพอและหลากหลายพอหรอื ไม่? ผมยอมรับว่า ณ วันน้ี ผมยงั ไม่ มีคำตอบแต่ไม่แน่นะ ศ.วิจารณ์อาจมีคำตอบให้กับเราในหนังสือเล่มหน้าของท่าน และผมก็พร้อม ที่จะเป็นกรณีศึกษาหน่ึงในหนังสือเล่มน้ัน ไม่ว่าจะในฐานะของกรณีศึกษาท่ีสำเร็จหรือล้มเหลวก็ ตามมารว่ มกันกบั กลบั ทางห้องเรียน และกลับทางสงั คมไทยของเรา กบั ทา่ นศ.วจิ ารณก์ ันนะครับ • ห้องเรยี นกลับทางในระบบช้ันเรียนออนไลน์ของไทย ClassStart.org ดร.จนั ทวรรณ ปิยะวัฒน์ สำหรับหอ้ งเรยี นกลับทางแลว้ น้ัน เน้อื หาบทเรยี นจะถูกกำหนดให้ผู้เรยี นไดศ้ ึกษามากอ่ น นอกหอ้ งเรียน แลว้ ผูส้ อนจะเรม่ิ ต้นกจิ กรรมการเรยี นรูใ้ นหอ้ งเรยี นด้วยการบรรยายสรุป และเน้น การตั้งคำถามจากเนอ้ื หาเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเจาะลกึ ในประเดน็ ที่ตอ้ งใช้ความพยายาม พอสมควรในการทำความเข้าใจ

• กลับทางหอ้ งเรียนคณติ ศาสตร์ ดร.สพุ ิศ ฤทธแ์ิ กว้ จากการสอนผ่านไป 2 สัปดาห์ ผมพบสิ่งใหม่หลายอย่าง พบว่าผมได้มีโอกาสเรียนรู้ พฤติกรรมการเรียนการเสาะแสวงหาความรู้ของนักศึกษาท่ีไปค้นคว้าเอกสารมา และเชิญชวนให้ เพ่ือนได้เข้าไปเรียนรู้ศึกษาด้วย ในช้ันเรียนหลังจากท่ีผมนาเข้าสู้บทเรียนเชิงเน้ือหาในแต่ละเร่ือง แล้วเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ต้องการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนโดยการแสดงวิธีแก้ปัญหาโจทย์ ประมาณ 4-5 ข้อ หน้าชั้นเรียน โดยนักศึกษาอาสาสมัครเหล่านี้ผลัดกันมาแสดงวิธีทำ ให้เพื่อนดู โดยจะได้รับคะแนนทุกครั้งหากที่มีการตอบถูก มีนักศึกษาบางคนที่มีความรู้พ้ืนฐานมาผิดผมก็ถือ โอกาสแก้ไข ซ่ึงเพื่อนร่วมชั้นเรียนก็ได้เรียนรู้ด้วย และใช้โอกาสนี้ขยายผล เร่ือง learn unlearn relearn ให้นักศึกษาทราบด้วยผมยอมรับว่าเหน่ือยเพ่ิมข้ึน แต่ก็สนุกกับการได้คอยติดตามชี้แนะ นักศึกษาผ่าน classstart และรอคอยผลสัมฤทธิ์ท่ีจะเกิดข้ึนจากการปรับทิศทางห้องเรียนของ รายวิชาน้ี หนงั สอื เลม่ น้ี เพ่ือ “ครู”เปน็ การทำงานอยา่ งผสมผสานอันเปน็ การรบั ช่วงระหว่างนักคิด กบั นักปฏิบตั ทิ ล่ี งตัวโดยเรมิ่ จากประสบการณ์จรงิ ของนกั ปฏิบัตทิ ่ไี ดล้ งมอื ทำลงมอื เขียน ด้วยภาษา ทเี่ ข้าใจงา่ ย จงึ กระจ่างชดั เป็นขัน้ ตอนเออ้ื ต่อการประยกุ ต์ใช้ และได้รับการถอดเปน็ บทเรียนที่ เช่ือมโยงหลกั คิดและวิธปี ฏบิ ตั ิ กระตนุ้ ใหเ้ กิดการคิดสร้างสรรคต์ ่อยอดอย่างไม่รจู้ บครทู ด่ี ีคือครทู ่ี เรยี นรู้ปรบั ปรงุ ดังนนั้ การทำหน้าที่ครูตอ้ งมคี วามกระตอื รอื ร้นอยู่ตลอดเวลาและหนังสือเลม่ นีค้ ือ คมู่ อื เรยี นรู้ของครูท่ีดีที่สุดเลม่ หนึ่งเปน็ คมู่ อื เรยี นรู้เพื่อปฏิรูปหอ้ งเรียน นางสาวสุปราณี ศรีสะอาด รหสั นกั ศกึ ษา 62052505010 ครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสตู รและการเรียนการสอน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook