จากตารางที่ 1 ความคิดสร้างสรรค์จะพาไปสู่หนทางที่แปลกใหม่ สามารถต่อยอดออกไปได้ หลากหลาย กล่าวคือ ก่อนที่จะตัดสินใจทำหรือเลือกสิ่งใดนั้น จะต้องมีความคิดและมุมมองที่ดีอย่าง หลากหลายรอบด้าน แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเห็นความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ เพราะการคิด สร้างสรรค์ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว และบางครั้งความคิดสร้างสรรค์มักจะแตกต่างและไม่ สอดคล้องกบั ความเหน็ ของคนส่วนใหญ่ บางคนคิดว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องเพ้อฝันไมม่ ีสาระ ซึ่งทัศนะ คติเหล่านี้เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความคิดสร้างสรรค์เป็นทั้ง ความคิดที่จริงจังต้องการความลุ่มลึก และขณะเดียวกันการคิดสร้างสรรค์เป็นความคิดที่ยืดหยุ่นไม่ตายตัว (ประพนั ธ์ศริ ิ สเุ สารัจ, 2556) 4. องคป์ ระกอบของความคิดสรา้ งสรรค์ Guilford (1967) นักจติ วิทยาชาวอเมรกิ นั ได้อธิบายและกำหนดองค์ประกอบของความคดิ สรา้ งสรรค์ ว่าเป็นความสามารถของสมองที่มีความคิดแบบอเนกนัย (Divergent Thinking) คือความคิดหลากหลาย ทิศทางหลายแง่มุม คิดได้กว้างไกล ซึ่งลักษณะความคิดเช่นนี้ จะนำไปสู่การคิดประดิษฐ์สิ่งแปลกใหมร่ วมถงึ การคดิ คน้ พบวิธกี ารแก้ปญั หาได้สำเร็จอกี ด้วย โดยความคิดแบบอเนกนัยประกอบไปดว้ ย 1. ความคดิ รเิ รมิ่ (Originality) 2. ความคล่องในการคดิ (Fluency) 3. ความยืดหยนุ่ ในการคดิ (Flexibility) 4. ความคดิ ละเอยี ดละออ (Elaboration) ความคิดริเริ่ม (Originality) คือ มีความคิดที่แปลกใหม่ต่างจากคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป และแตกต่าง จากความคิดธรรมดาความคดิ ริเริ่มอาจเกดิ จากการคดิ จากเดิมที่มีอยู่แล้วให้แปลกแตกต่างจากที่เคยเห็นหรือ สามารถพลิกแพลงใหก้ ลายเป็นสิง่ ทไ่ี มเ่ คยคาดคดิ หรืออาจเปน็ การนำเอาความคิดเก่ามาปรงุ แตง่ ผสมผสานจน เกิดเปน็ ของใหม่ ความคลอ่ งในการคิด (Fluency) คอื ปริมาณการคดิ ทไ่ี มซ่ ้ำกันในเรอื่ งเดยี วสามารถคิดหาคำตอบได้ อย่างคล่องแคล่วว่องไว รวดเรว็ และได้คำตอบมากที่สดุ ในเวลาท่ีจำกัดโดยไมซ่ ้ำแบบกันเลยโดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดงั น้ี 1) ความคล่องทางด้านถ้อยคำ (Word Fluency) เป็นความสามารถในการใช้ถ้อยคำอย่าง คล่องแคล่วหลากหลาย ใช้ประโยชน์ไดแ้ ละไม่ซ้ำแบบผูอ้ ่นื 2) ความคดิ คล่องทางด้านการโยงสัมพันธ์ (Associational Fluency) เปน็ ความสามารถท่ีจะ คิดหาถ้อยคำทเ่ี หมอื นกันได้มากทีส่ ุดเทา่ ท่ีจะมากได้ภายในเวลาท่กี ำหนด 3) ความคล่องทางดา้ นการแสดงออก (Expression Fluency) เปน็ ความสามารถในการใช้วลี หรือประโยค กล่าวคือ สามารถทจ่ี ะนำคำมาเรียงกนั อย่างรวดเร็วเพือ่ ให้ไดป้ ระโยคทต่ี อ้ งการ 4) ความคล่องในการคดิ (Ideational Fluency) เป็นความสามารถในการคิดค้นสิ่งทตี่ ้องการ ภายในเวลาที่กำหนด เช่น ใช้คิดหาประโยชน์ของก้อนอิฐให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจเป็น 5 นาที หรอื 10 นาที ความยดื หย่นุ ในการคิด (Flexibility) คอื มคี วามสามารถในการคิดหาคำตอบไดห้ ลายทศิ ทาง ไม่คิด แบบน้กี ย็ ดื หยนุ่ ไปคิดอกี แบบหนง่ึ ได้ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท ดังน้ี มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมอื ง จังหวดั ฉะเชิงเทรา
1) ความคดิ ยืดหยุ่นท่ีเกิดข้นึ ได้ (Spontaneous Flexibility) เป็นความสามารถทีจ่ ะพยายาม คิดได้หลายทางอยา่ งอิสระ ตวั อย่างของคนท่มี ีความคิดยืดหยุ่นในดา้ นน้ีจะคิดได้วา่ ประโยชน์ของหนังสอื พิมพ์มี อะไรบา้ ง ความคิดของผู้ยดื หยุน่ สามารถจัดกลุม่ ได้หลายทิศทางหรือหลายด้าน เช่น เพ่อื รู้ขา่ วสารเพ่ือโฆษณา สินค้า เพื่อธุรกจิ ฯลฯ ในขณะที่คนทีไ่ ม่มีความคิดสร้างสรรค์จะคิดได้เพียงทิศทางเดยี ว คือ เพื่อรับรู้ข่าวสาร เท่าน้นั 2) ความคิดยืดหยุ่นทางด้านการดัดแปลง (Adaptive Flexibility) เป็นความสามารถในการ ดัดแปลงความรู้หรือประสบการณ์ให้เกิดประโยชน์หลาย ๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาผู้ที่มีความ ยืดหย่นุ จะคิดดดั แปลงได้ไมซ่ ้ำกนั ความคิดละเอียดละออ (Elaboration) คือ การคิดได้ในรายละเอียดเป็นขั้นตอน เพื่อขยายหรือ ตกแต่งความคิดหลักให้ได้ความหมายที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นยังรวมไปถึงการเชื่อมโยงสัมพันธ์สิ่งต่าง ๆ อย่างมี ความหมาย สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ หากปราศจากความละเอยี ดละออแล้ว ก็ไม่อาจ ทำให้เกดิ ผลงานหรอื ผลผลิตสร้างสรรค์ขน้ึ มาได้ ความละเอียดลออขึน้ อย่กู ับองคป์ ระกอบหลายอย่าง เชน่ เพศ อายุ ประสบการณ์ และความสามารถการนำความคิดในรายละเอยี ดมาเพ่ิมเติมเสรมิ แตง่ ความคิดในครั้งแรก จะช่วยทำให้ได้ความหมายสมบรู ณย์ ่ิงขึ้นรวมทั้งการต่อเติมเสรมิ แต่งและตดั สง่ิ ทีไ่ มเ่ หมาะสมไมถ่ ูกต้องออกไป Guilford (1967) ได้แบ่งสมรรถภาพสมองออกเป็น 3 มิติ ได้แก่ เนื้อหาที่คิด (Contents) วิธีการคิด (Operations) และผลของการคิด (Products) 1) เนื้อหาที่คิด (Contents) หมายถึง สิ่งเร้าหรือขอ้ มลู ต่าง ๆ และประสบการณท์ ี่สมองรับรู้ ที่สมอง รบั เขา้ ไปคดิ มี 4 ประเทภ ได้แก่ ภาพ สัญลักษณ์ ภาษา และพฤติกรรม 2) วิธีการคิด (Operations) หมายถงึ ลกั ษณะกระบวนการทำงานของสมองแบบตา่ ง ๆ โดยเริ่มตงั้ แต่ การตีความเนื้อหา สะสมความรู้ข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในรูปแบบความจำ รวมถึงการคิดเพื่อตอบสนองซึ่งแบ่ง ออกเป็นการคิดแบบเอกนัย (Convergent Thinking) การคิดแบบอเนกนัย (Divergent Thinking) และการ ประเมนิ ผล 3) ผลของการคิด (Products) เป็นผลของกระบวนการจัดกระทำของความคิดกับข้อมูลเนื้อหาผลิต ของความคิดออกมาเปน็ รปู แบบตา่ ง ๆ การแปลงรปู ของสมอง 5. ประเภทของความคดิ สร้างสรรค์ ประพนั ธศ์ ริ ิ สุเสารัจ (2556) ไดแ้ บ่งประเภทของความคดิ สร้างสรรค์โดยแบ่งออกเปน็ 4 ประเภทดังนี้ ความคิดสร้างสรรค์ประเภทความเปลี่ยนแปลง (Innovation) คือ การค้นพบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรอื การคิดหาวธิ ีการทางออกใหม่ โดยเปลยี่ นแปลงไปจากส่ิงเดิม ๆ ที่ใช้การไม่ได้แล้ว หรือใช้ประโยชน์ไม่ได้ ให้เป็นสงิ่ ใหม่ ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ความคิดใหม่ เป็นการคดิ โดยภาพรวมมากกว่าแยกเป็นส่วนย่อย หรือเรียกว่า “นวตั กรรม” ทเ่ี ปน็ การเอาสงิ่ ประดษิ ฐ์ใหมม่ าใช้หรือความคิดใหม่ เพือ่ ใหก้ ารดำเนินงานมีประสทิ ธภิ าพยงิ่ ข้นึ ความคิดสร้างสรรคป์ ระเภทสงั เคราะห์ (Synthesis) คือ การผสมผสานแนวคิดจากแหล่งต่าง ๆ เข้า ด้วยกันจนเกิดเป็นแนวคิดใหมท่ ี่มีคุณค่า เป็นการนำสิง่ หนึ่งไปผสมผสานกับส่ิงหนึ่งจนเกิดเป็นผลิตภัณฑใ์ หม่ ด้วยวิธีการใหม่ รูปแบบใหม่ เช่น การทำการสื่อสารโฆษณาบนที่จับบีทีเอส เมื่อนำเอากระดาษที่สกรีนลาย นาฬิกามาแปะตามที่จับ ลักษณะที่จะเห็นเหมือนเป็นนาฬิกาใหค้ นได้ลองใส่ ผู้โดยสารท่ีเอามือคล้องไปจับจะ รู้สึกเหมือนว่าได้ลองสวมใส่นาฬิกาแบบจริง เกิดเป็นความคิดสร้างสรรค์ให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจในตัว ผลิตภณั ฑ์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหนา้ เมอื ง อำเภอเมอื ง จังหวดั ฉะเชิงเทรา
ความคิดสรา้ งสรรคป์ ระเภทต่อเนอ่ื ง (Extension) คอื การผสมผสานกนั ระหวา่ งความคดิ สรา้ งสรรค์ ประเภทเปลี่ยนแปลงกับความคิดสร้างสรรค์ประเภทสังเคราะห์ คือ เป็นโครงสร้างหรือกรอบที่ได้กำหนดไว้ กวา้ ง ๆ แต่ความตอ่ เนือ่ งเป็นรายละเอียดทจ่ี ำเป็นในการปฏิบตั งิ าน เชน่ การออกสื่อโฆษณาทกุ ๆ ปี ซึ่งในแต่ ละปีหรือแต่ละแคมเปญจะมกี ารปรับปรงุ และใช้ความคิดสร้างสรรคอ์ ย่างตอ่ เนื่อง เพื่อตอบโจทย์กับคอนเซป็ (Concept) ของผลิตภณั ฑ์บริษัททมี่ มี าชา้ นาน ความคิดสร้างสรรค์ประเภทลอกเลียน (Duplication) คือ ลักษณะการจำลองหรือการ ลอกเลยี นแบบความคดิ จากความสำเรจ็ อน่ื ๆ โดยอาจปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดมิ เพียงเล็กน้อย แต่ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบบเดิมอยู่ 6. กระบวนการส่ือสารทางโฆษณา ประกายวัล ศรจี นิ ดา (ออนไลน์) ได้จัดทำเน้ือหาสำหรับเปน็ บทเรียนเก่ียวกับกระบวนการส่ือสารทาง โฆษณา ซึ่งในการทำงานด้านการสร้างสรรค์โฆษณานนั้ สิ่งสำคัญประการแรกทนี่ กั เขียนบทโฆษณา จะต้องทำ ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการสื่อสารโดยภาพรวมก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงองค์ประกอบ ทั้งหมดใน กระบวนการสื่อสาร และสามารถนำเอาองค์ประกอบนั้นวิเคราะห์ออกมาตามแนวทางการ สื่อสารของการ โฆษณา เพอื่ ท่ีจะช่วยให้การกำหนดแนวความคิดและการทำงานด้านการสร้างสรรคม์ ี ประสทิ ธภิ าพสอดคล้อง ตามวัตถุประสงค์ทางการโฆษณา 1. องค์ประกอบของกระบวนการสือ่ สาร ดังที่กล่าวไปแล้วว่า การโฆษณา ถือว่าเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง ที่มีวัตถุประสงค์เพ่ือ การตลาด ดังนั้น ในการเขียนบทโฆษณาจึงจำเป็นท่ีจะต้องทำความเข้าใจในกระบวนการสือ่ สาร พื้นฐานของ มนุษย์ เพื่อให้เป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจในกระบวนการสื่อสารทางการโฆษณาท่ี ถูกต้อง และสามารถ นำไปใชใ้ นการวางแผนการโฆษณาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ โดยท่วั ไปแลว้ ในกระบวนการสอื่ สารมีองค์ประกอบ ที่สำคัญ 4 ประการ ได้แก่ ผู้ส่งสาร (Sender) สาร (Message) ช่องทางการสื่อสารหรือสื่อ (Channel or Media) และ ผู้รับสาร (Receiver) โดย องค์ประกอบทั้ง 4 นี้ มีส่วนสำคัญในการกำหนดความสำเรจ็ ของการ ส่อื สารท่จี ะทำให้ผู้รับสารเกิดความตระหนกั มีทัศนคตแิ ละพฤติกรรมไปในแนวทางที่ผู้ส่งสารตัง้ ใจ โดย ปรมะ สตเวทนิ (2546) ไดน้ ำเอาแนวความคิดของ Harold Lasswell (1984) มาเขยี นเปน็ แบบจำลองกระบวนการ ส่ือสาร หรือ SMCR Model ได้ดงั น้ี ภาพที่ 1 องคป์ ระกอบของกระบวนการส่ือสาร ที่มา: Harold Lasswell (1984) ผู้ส่งสาร (Sender) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกระบวนการสื่อสาร มีคำศัพท์หลายคำที่ใช้ใน ความหมายของผู้ส่งสารที่มีลักษณะใกล้เคียงกนั เช่น ต้นแหล่งข้อมูลข่าวสาร (Information Source) แหล่ง สาร (Source) ผู้เข้ารหัส (Encoder) ผู้พูด (Speaker) หรือผู้เล่าเรื่อง (Generator) เป็นต้น นักวิชาการได้ให้ คำนิยามของผู้ส่งสารไว้ว่า หมายถึง บุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มคี วามคิด มี ความต้องการ มีความตั้งใจทีจ่ ะสง่ ข่าวสาร อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติ ความเชื่อ และอื่นๆ ไป ยังผู้รับสาร ดังนั้น ผู้ส่งสารจึงเป็น องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบอื่น ๆ ทั้งการเลือก ข้อมูลข่าวสารที่จะถ่ายทอดไป การเลือก วิธีการ และช่องทางที่จะทำให้สารไปถึงผู้รับสาร รวมทั้งการ เลือกและกำหนดผู้รับสารที่จะเป็นผู้รับข้อมูล มหาวิทยาลยั ราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมอื ง จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
ข่าวสาร โดยมีวตั ถุประสงค์เพื่อตอ้ งการให้เกิดการ เปลย่ี นแปลงในระดับใดระดับหนงึ่ หรือในด้านใดด้านหนึ่ง กับบุคคลที่ตนสื่อสารด้วย เช่นการเปลี่ยนแปลง การรับรู้ การเปลี่ยนแปลงความเชือ่ ทัศนคติและพฤติกรรม ของบุคคล กลมุ่ หรอื สงั คม เป็นต้น สาร (Message) คือ ผลผลิตของผู้ส่งสารที่ถ่ายทอดความคิด, ความรู้สึก, ความต้องการ, ข่าวสาร และ วัตถุประสงค์ของตนที่ปรากฏออกมา (actual physical product of the source) ในรูปของรหัส (code) เช่นเมื่อเราพูดถึงสารสารก็คือสิ่งที่เราพูด เมื่อเราเขียนสารก็คือสิ่งที่เราเขียน เมื่อเราแสดง กิริยา ท่าทาง สารก็คือกิริยาท่าทาง เมื่อเราอ่านหนังสือพิมพ์ สารก็คือข่าว (News) และข้อความใน หนังสือพิมพ์ (Information) ช่องทางการสื่อสารหรือสื่อ (Channel or Media) คือ พาหนะที่นำพาข่าวสารจากผู้ส่งสารไปยัง ผู้รับสาร ดังนั้นจึงอาจหมายถึงประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ที่รับรู้ความหมายจากสิ่งต่าง ๆ ได้แก่ การ มองเหน็ การได้ยิน การดมกล่นิ การสมั ผัส และการลมิ้ รส เปน็ ตน้ ซง่ึ จำแนกได้ 3 ประเภทใหญ่ คอื สอ่ื มวลชน ส่ือเฉพาะกิจ และสือ่ บคุ คล ผู้รับสาร (Receiver) เนื่องจากผู้รับสารเป็นบคุ คลที่มีความสำคัญมากในเรื่องการสื่อสารดังคำที่ว่า การสื่อสารจะมีความหมายอย่างไร จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้รับสารว่าจะเลือกรับสารหรือ เลือกจะตีความต่อข่าวสารนั้นอย่างไร มีคำเรียกผู้รับสารหลายคำ เช่น Receiver, Decoder, Listener, Audience หรือ Mass Audience เปน็ ตน้ จากกระบวนการสื่อสาร SMCR Model นั้น หากนำมาพิจารณาในแนวทางของการโฆษณา จะ สามารถนำเอาแนวความคดิ ด้านการสอ่ื สารทางการตลาดเข้าไป สามารถพิจารณาได้ ดังน้ี ผู้ส่งสาร หมายถึง ผู้โฆษณา (Advertiser) ซึ่งก็คือหน่วยงานที่ต้องการส่งข้อมูล ทางการโฆษณา โดยมีเปา้ หมายทางการตลาด ซงึ่ ตามความเข้าใจโดยท่วั ไปก็คือบรษิ ัทผู้เปน็ เจ้าของ สนิ คา้ หรือบริการท่ีทำการ โฆษณานั่นเอง เช่น บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย โอลดิ้ง จ ากัด บริษัท โอสถสภา จำกัด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษทั โทเทลิ แอคเซส คอมมนู เิ คชัน่ จำกัด (มหาชน) เป็นตน้ หรืออาจะจะเป็นลักษณะของรายชื่อ ผลติ ภัณฑ์ทีท่ ำการโฆษณาก็ได้ เช่น ลกั ส์ อิชติ นั ฟารม์ เฮา้ ส์ ใกลช้ ิด สมูทอี เปน็ ต้น ภาพท่ี 2 ตัวอย่างผสู้ ง่ สารทางการโฆษณา ท่ีมา: http://www.elfms.ssru.ac.th/prakaikavin_sr/file.php/1/Copy/Copy04.pdf สาร หมายถึง แนวความคิดหลัก เนื้อหา หรือสิ่งที่ปรากฏในชิ้นงานโฆษณา (Advertisement Concept) เป็นสาระหรือประเด็นหลักของเนื้อหาที่ผู้โฆษณาตั้งใจจะส่งให้ผู้บริโภค เป้าหมายนั่นเอง เช่น ต้องการสื่อใหเ้ ห็นถงึ ความอร่อยทห่ี าอะไรมาแทนไมไ่ ด้ ความสะดวกรวดเรว็ ใน การใชช้ วี ติ ความคุม้ คา่ ทไี่ ด้จาก การเลือกใชส้ นิ คา้ เปน็ ต้น มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
ภาพที่ 3 สารหรือแนวคดิ หลกั ของงานโฆษณาแบรนดว์ ีตา้ ทต่ี อ้ งการส่อื ถึงการบรหิ าร เสนห่ ข์ องผ้หู ญิงเพือ่ ให้ ตัวเองดูดแี ละเกิดความมน่ั ใจ สื่อ หมายถึง สื่อที่ใช้ในการโฆษณา (Advertising Media) และช่องทางการสื่อสาร ทางการโฆษณา (Advertising Communication) สอ่ื ทีใ่ ช้ในการโฆษณาเป็นพาหนะที่จะนำสารโฆษณาไปยงั ผ้บู ริโภคเป้าหมาย ซึ่งในอดีตนั้นสื่อที่นิยมใช้ทางการโฆษณามีลักษณะเป็นสื่อมวลชน (Mass Media) อันประกอบไปด้วย ส่ือ โทรทัศน์ วทิ ยุ นติ ยสาร หนงั สือพมิ พ์ ป้ายโฆษณา เปน็ ตน้ ภาพท่ี 4 ตัวอยา่ งของสอื่ ท่ใี ช้ในการโฆษณาในลักษณะของสื่อมวลชน ที่มา: http://www.elfms.ssru.ac.th/prakaikavin_sr/file.php/1/Copy/Copy04.pdf แต่ในปจั จุบนั มกี ารใช้ช่องทางอนื่ ๆ มาใช้ในการสื่อสารทางการโฆษณานอกจากการใช้ สอื่ มวลชน จึง มีลักษณะเป็นช่องทางการสื่อสารทางการโฆษณา (Advertising Communication) เพื่อให้เข้าถึง กลุ่มเป้าหมายได้อย่างเข้าถึงตามพฤติกรรมการเปลีย่ นแปลงของผู้บริโภคที่เปล่ียนไป ที่ใช้เป็นชอ่ งทางในการ สื่อสารใหเ้ ขา้ ถงึ ผบู้ ริโภคมากยง่ิ ขน้ึ อาทิ ลฟิ ท์ ปา้ ยรถเมล์ ตูโ้ ทรศัพท์ สะพานลอย บันไดเลื่อน เปน็ ตน้ หรือสื่อ โฆษณาทางสื่อดิจิทัลต่าง ๆ เช่น โฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ Facebook Instagram Twitter หรือจะเป็น สอ่ื โฆษณาผ่านเวบ็ ไซต์ที่บคุ คลทั่วไปนิยม เช่น YouTube เป็นตน้ ผู้รบั สาร หมายถงึ ผู้บรโิ ภคเป้าหมาย (Target Groups) ซง่ึ เป็นกลุ่มเป้าหมายหรอื ผู้ท่ี คาดหวังจะให้ เป็นลกู ค้า ให้บรรลวุ ัตถุประสงค์ทางการตลาด อนั ประกอบไปด้วย อายุ เพศ การศกึ ษา ชนชนั้ ทางสังคม ที่จะ มผี ลตอ่ การตัดสินใจซือ้ ของ เชน่ กลมุ่ วัยรนุ่ ชายท่ีชอบความเร็วและสมรรถนะของเครือ่ งยนต์ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ พรอ้ มลุยไปในทุกสถานการณ์ ดงั ตัวอย่างการโฆษณารถกระบะของยหี่ อ้ มติ ซูมชิ ิ ดังภาพที่ 5 มหาวิทยาลยั ราชภฏั ราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
ภาพท่ี 5 ตัวอย่างการโฆษณาทเ่ี ข้าถงึ ผรู้ บั สารที่เป็นกลมุ่ เป้าหมาย จากองค์ประกอบทั้ง 4 ของกระบวนการสื่อสารทางการโฆษณานั้น จะพบว่า บทโฆษณาจะอยู่ใน องค์ประกอบในสว่ นที่เป็น สาร ซึ่งคือแนวความคิดหลัก เนื้อหาที่ปรากฏในชิ้นงานโฆษณา (Advertisement Concept) ซ่ึงนกั เขยี นบทโฆษณาจะต้องทำการสร้างสรรคช์ ิ้นงานโฆษณาออกมาให้ สามารถดึงดูดความสนใจ กลุม่ เปา้ หมายและเกดิ ประสิทธผิ ลกบั งานโฆษณาใหไ้ ด้ 7. สือ่ โฆษณาออนไลนค์ ืออะไร โอเคเนชันดอทเน็ต (2557: ออนไลน์) ไดอ้ ธิบายเกี่ยวกับสื่อโฆษณาออนไลน์ไวด้ งั น้ี สอ่ื โฆษณาออนไลน์ คือ สื่อที่แพรห่ ลายและเป็นสอ่ื ท่รี วดเร็วผ่านสงั คมออนไลน์ที่ขยายใหญ่ขึ้น และ เติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง ยุคนี้ได้นิยามไว้ว่า การหยุดอยู่กับที่คือการเดินถอยหลัง นั่นเอง หลายๆ แบรนด์จึง พยายามพัฒนาสินค้าของตัวเองและหาเทคนิคการทำการตลาดแบบใหม่ๆ ที่สามารถดึงดูดลูกค้าให้เขา้ มาซ้อื สินค้าของตนเองได้ และหนึ่งในน้ันคือการใช้ สื่อโฆษณาออนไลน์ การทำการตลาดผ่านอินเตอร์เนต็ คือการทำให้คนนบั ล้านคนที่เชื่อมต่อกันเห็นสินค้าบริการของคุณมากขึ้นและหนึ่งในน้ันคือกลุ่มเป้าหมายของคุณ อาจจะแค่ 1- 5% เท่านนั้ ซ่ึงดแู ลว้ ไมม่ ากมายอะไร แตถ่ า้ เทยี บกับจำนวนคนทเี่ ล่นอินเตอร์เน็ตจรงิ ๆ ถอื ว่าสงู และเป็นทีน่ า่ ทำ การตลาดอย่างยงิ่ จดุ เดน่ ของ ส่อื โฆษณาออนไลน์ คอื มตี น้ ทนุ ท่ถี กู กว่า ไมต่ อ้ งหาพนักงาน ไมต่ ้องเสยี ค่าเช่าที่ ไม่ต้อง เฝา้ หน้ารา้ นตลอด 24 ชม ดังน้ันต้นทนุ ในการขายสนิ ค้าจงึ มาทุ่มอยู่ที่ ส่อื โฆษณาออนไลนเ์ ปน็ อย่างแรก 8. ประเภทของสอื่ โฆษณาออนไลน์บน Google Ads สื่อโฆษณาออนไลน์แบบ Display Ads คือ สื่อโฆษณาที่น่าสนใจรูปแบบหนึ่ง เพราะมีทั้งรูปภาพ วดี ีโอ ภาพนงิ่ ภาพเคล่ือไหว เหมาะกบั การทำโฆษณาแบบ cpm เพราะกระตุ้นการคลิกได้ดกี ว่าทางอื่น มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชิงเทรา
ภาพที่ 6 ส่อื โฆษณาแบบ Display Ads ท่มี า: https://www.startupnow.in.th/google-ads/ประเภทท่ี_2_Display_Ads Display Ads เปรียบได้กับสื่อโฆษณาออฟไลน์ประเภทภาพโปสเตอร์ตามสถานที่ต่าง ๆ หรือ ป้าย แบนเนอรท์ ่ีเราเห็นเวลาขบั รถบนทางดว่ น ในโลกออนไลนถ์ ้าเป็นสมยั ก่อนเราสามารถทำไดโ้ ดยออกแบบแบน เนอร์โฆษณานำเสนอสินค้าหรือบริการ จากนั้นก็นำไปฝากโฆษณากับเว็บไซต์ที่มีชื่เสียง ที่มีคนเข้าเว็บเป็น จำนวนมาก เพอื่ ทเ่ี วลาท่ีคนเข้าเว็บเหล่านัน้ จะไดเ้ ห็นโฆษณาสินค้าหรอื บริกาารของเรานั่นเอง โดยที่เวลาเรา ติดต่อโฆษณาและจ่ายค่าพื้นท่ีโฆษณาเราก็ตอ้ งติดตอ่ โดยตรงกบั เว็บไซต์ดงั ๆ เหล่านั้นเอง แต่ในปัจจุบัน เรา สามารถทำ Display Ads ได้ง่ายมากขึน้ ไม่มีความจำเป็นท่ีเราจะต้องไปติดต่อเว็บต่าง ๆ ด้วยตัวเองแลว้ เรา สามารถทำการโฆษณาผ่าน Google Ads ได้เลย เพราะGoogle เป็นพาร์ทเนอร์กับเวบ็ ไซต์ดงั ๆ มากมายทัว่ โลก อย่างในภาพตัวอย่างภาพที่ 6 จะเป็นเว็บไซต์ของ thailandexhibition.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมข้อมูลการจัดงานอีเวนต์ งานแสดงสินค้าทั่วประเทศ จะเห็นว่าในเว็บนี้จะมีการแบ่งส่วนพื้นที่ เอาไว้ใหเ้ ป็นพื้นทีส่ ำหรับการโฆษณาแบนเนอรข์ อง Google Ads โดยเฉพาะ นอกเหนือจากน้ี ในการโฆษณา แบบ Display Ads เราสามารถเจาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเราจริง ๆ ได้ เช่น โรงแรมของเราอยู่ในพัทยา เรา สามารถตั้งคา่ โฆษณา Display Ads ของเราใหข้ ้นึ เฉพาะหน้าเว็บไซตท์ ี่มีคำวา่ พัทยาได้ดว้ ยเชน่ กนั การโฆษณา แบบนี้ เหมาะกับธรุ กจิ หลากหลายประเภททสี่ ำคัญคือเราต้องมภี าพถ่ายสนิ ค้า (หรือภาพสถานท่ีกรณีที่เราเป็น ร้าน โรงแรม โชว์รูม) ที่สวยงามน่าเชื่อถือ รวมถึงมีการออกแบบแบนเนอร์ที่สวยงามน่าสนใจ ดูน่าเชื่อถือ ดู เป็นมืออาชีพ มคี ำโฆษณาท่ีเปน็ Copy Right อยา่ งดี ทง้ั น้ีเพอ่ื ดงึ ดูดใหค้ นทเ่ี หน็ แบนเนอรเ์ กดิ ความสนใจอยาก คลิกเขา้ ไปดูรายละเอียดนน่ั เอง มฉิ ะนนั้ แล้วตอ่ ใหค้ ุณยงิ โฆษณาและกูเกล้ิ นำเสนอแบนเนอร์โฆษณาของคุณบน เว็บไซตท์ ่ีใหญ่มาก ๆ แต่แบนเนอร์คุณไม่สวย ดูไม่น่าเชอื่ ถือ การโฆษณาของคุณก็จะไม่ประสบความสำเร็จซ่ึง จะมคี นสนใจคลกิ เข้าเยย่ี มชม สื่อโฆษณาออนไลน์แบบ Search ads คือ เป็นวิธีโฆษณาที่หลายคนรู้จักกนั ดี นั่นก็คือการโฆษณา กับผลการค้นหาของGoogle เป็นวิธีที่เป็นที่นยิ มมากสุดเลย เพราะในโลกยุคปัจจุบนั เวลาที่คนต้องการอะไร มากกวา่ 90% เลยจะ Search หาขอ้ มลู หาร้านค้า หาผู้ผลิต ผา่ นทาง Google เป็นอันดับแรก มหาวิทยาลัยราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหนา้ เมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
ภาพท่ี 7 ส่อื โฆษณาแบบ Search Ads ทีม่ า: https://www.startupnow.in.th/google-#ประเภทท่ี _1_Search_Ads วิธีการ Search ของคนทัว่ ไปก็มีหลายแบบ ไดแ้ ก่ • เสิร์ชเป็นประเภทสินค้า เช่น กล้องวงจรปิด แฟชั่นผู้หญิง รองเท้าวิ่ง ชุดว่ายน้ำ อุปกรณ์ปฐม พยาบาล เป็นต้น • คน้ หาบรกิ าร เช่น รับกำจัดปลวก บริการจดั เลย้ี งนอกสถานที่ ร้านล้างรถบรกิ ารดปี ทมุ ธานี ฯลฯ • เสริ ์ชหาวิธีแก้ปญั หา อย่างเชน่ วิธกี ำจัดแมลงสาบ ผมรว่ งต้องทำอยา่ งไร เปน็ ตน้ • สืบคน้ ขอ้ มลู เรื่องตา่ ง ๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ งกับสินค้าหรือบริการ เชน่ ประโยชน์ของน้ำมันดอกทานตะวัน เคลือบเงารถดหี รือไม่ เป็นตน้ ซึ่งถ้าเรามีการทำ Google Ads แบบ Search Ads โดยกำหนดคียเ์ วริ ์ดให้เป็นคำเหล่านี้ เวลาที่มีคนเ Search คำ Keywords ดังกล่าว Google ก็จะแสดงเว็บไซต์เราเป็นอันดับแรก ๆ ของการค้นหา ในหน้าแรก ของ Google กจ็ ะช่วยใหก้ ลมุ่ เป้าหมายเขา้ ถึงสนิ ค้าหรอื บรกิ ารของเราได้งา่ ยขึ้น เรว็ ขนึ้ ชว่ ยเพิ่มโอกาสในการ ปดิ การขายและเพ่มิ ยอดขายได้อย่างดี เพราะตามสถิติแล้วคนมักจะตัดสินใจซ้ือจากบรษิ ัททอ่ี ยู่ในลำดับต้น ๆ ของผลการค้นหา การโฆษณาแบบ Search Adsนี้ จึงเหมาะกับธุรกิจแทบทุกประเภท แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดก็คือ การ เลือกใช้ Keywords ที่ถูกต้อง คือ นอกจากจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจ สินค้า บริการของเราแล้ว ยังจะต้อง ครอบคลุมการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ซึ่งในการกำหนด Keywords นี้ ว่าต้องใช้เครือ่ งมอื ใน การวเิ คราะห์วางแผนคยี เ์ วริ ด์ เพราะคำทเี่ ราคดิ อาจไม่ใชค่ ำท่คี นสว่ นใหญ่ใช้ในการค้นหาก็ได้ สื่อโฆษณาออนไลน์แบบ Google search คือ การค้นหาคือสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับการเติบโตของ เวบ็ ไซต์ทีม่ ากขน้ึ ดังน้นั ห้องสมุดออนไลนข์ นาดใหญจ่ ำเป็นต้องพ่งึ เครือ่ งมือในการค้นหาอยา่ ง search engine เช่น google, yahoo, bing เปน็ ตน้ และเป็นชอ่ งทางในการทำการตลาดบนหน้าแรกของ Google ทีม่ ีทง้ั แบบ pay per click ที่เรียกว่า Google AdWords และบริการรับทำ SEO ที่ง่าย และถูกกว่าการลงโฆษณา AdWords ซึ่งสามารถเจาะกลมุ่ เป้าหมายไดม้ ากแต่ต้องมีการลงทุนนดิ หนอ่ ย มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหนา้ เมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชิงเทรา
สื่อโฆษณาออนไลน์ YouTube Ads / Video Ads เราสามารถยิงโฆษณาผ่านบัญชี Google Ads เพราะทาง Google เป็นเจ้าของ YouTube เช่นกัน และถ้าเราอยากที่จะยิงโฆษณา YouTube Ads เราก็ จะต้องมีบัญชีโฆษณาGoogle Ads และเราก็ตอ้ งทำการยงิ โฆษณาโดยสร้างแคมเปญผ่านบัญชีโฆษณา Google Ads ภาพท่ี 8 สอ่ื โฆษณาออนไลน์ YouTube Ads / Video Ads ทมี่ า: https://www.startupnow.in.th/google-#ประเภทที่ _1_Search_Ads การยิงโฆษณา YouTube Ads ก็แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ (ภาพที่ 9) ในคอลัมน์แรกที่เป็น Ad Format ให้สังเกตที่เป็นสี่เหลี่ยมสีแดง นั่นคือตำแหน่งที่แอดหรือโฆษณาของเราจะแสดงผลให้หน้าจอของ YouTube • Display Ads คือเป็นแบนเนอร์โฆษณาท่ีด้านขวามือของหน้าจอ ลกั ษณะเหมือนกบั Display Ads ของ Google Ads ในข้อ 2 เน้นรปู ภาพ • Overlay Ads จะเป็นแบนเนอร์โฆษณาบนหน้าจอคลิปวีดีโอเลย โดยคนดูสามารถกดปิดได้ เรา สามารถใสร่ ปู ภาพเลก็ ๆ ได้ แตส่ ว่ นใหญจ่ ะเนน้ เปน็ คำโฆษณามากกวา่ • Skippable Video Ads คนที่เล่น YouTube บ่อย ๆ น่าจะคุ้นชินกับการโฆษณาประเภทนี้ที่สดุ เพราะเปน็ คลปิ โฆษณาทจี่ ะเลน่ ก่อนวีดีโอหลกั ท่ีเรากดเขา้ ไปดู โดยทาง YouTube จะบังคับให้คน ดกู ่อน 5 วนิ าทีแรก หลงั จากนั้นคนดกู ็สามารถเลือกได้วา่ จะดูโฆษณานน้ั ต่อหรือจะกด Skip Ads ไปเพื่อเข้าสู่วีดีโอหลัก นอกจากนี้ยังมี Video Ads แบบที่มาคั่นระหว่างที่เล่นวีดีโอหลักก็มี หลกั การคล้าย ๆ การตัดเข้าช่วงโฆษณาของรายการทีวี • Non-skippable Video Ads การแสดงผลเหมือนกันกับ Skippable Video Ads ต่างกันที่ ลักษณะน้ี คนดจู ะไมส่ ามารถกด skip ได้ ตอ้ งดจู นจบคลิป จึงนยิ มตัดต่อให้คลิปมีขนาดสั้น ๆ ไม่ เกนิ 15-20 วินาทเี ทา่ นนั้ เนอื้ หากระชบั เข้าใจง่าย เพ่ือไมค่ นดรู ูส้ กึ รำคาญและรสู้ ึกไมด่ กี ับแบรนด์ • Bumper Ads เป็น Non-skippable Video Ads ท่มี คี วามยาวแค่ 6 วินาที • Sponsor Cards จะปรากฏเปน็ แถบท่ีดา้ นขวาของคลปิ วีดโี อ (ดตู ำแหน่งในภาพท่ี 9) โดยจะเลือก แสดงเป็นสนิ คา้ หรือบริการทีม่ ีความเกี่ยวข้องกบั เน้อื หาของวีดโี อ มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหนา้ เมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
ภาพที่ 9 การยิงโฆษณา YouTube Ads ก็แบง่ ออกเป็นหลายรปู แบบ ท่ีมา: https://www.startupnow.in.th/google-#ประเภทท่ี _3_YouTube_Ads_Video_Ads สื่อโฆษณา Shopping Ads คือ การแสดงผลโฆษณาในลักษณะของหน้าต่างรายการสินค้าให้เรา เลือกช้อปปิ้งได้ทันที ข้อดีของโฆษณาแบบนี้นอกจากตำแหน่งการแสดงผลที่ดีมาก ๆ คือ จะมีการแสดงผล ก่อนที่จะเป็นลิงค์ของเว็บไซต์เสียอีก ทำให้เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และยังอำนวย ความสะดวกในการซื้อด้วยการลิงค์ไปยังหน้าช้อปปิ้งของเว็บไซต์ธุรกิจของเราได้เลย จึงช่วยได้อย่างมากใน เรือ่ งของการสร้างยอดขาย แตอ่ ย่างไรก็ตาม ข้อควรร้สู ำหรับคนทีต่ ้องการจะทำโฆษณาแบบ Shopping Ads คือ ไม่ใชท่ กุ เว็บไซต์จะสามารถทำได้ การจะโฆษณาแบบ Shopping Ads มีเงื่อนไขทีเ่ ราตอ้ งทำใหค้ รบทั้ง 2 เงือ่ นไขนีเ้ สยี กอ่ น เราถงึ จะมายงิ โฆษณาแบบ Shopping Ads นน่ั ก็คอื มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมอื ง จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
ภาพท่ี 10 Shopping Ads • เงื่อนไขที่หนึ่ง เราจะต้องมีเว็บไซต์ที่เป็น E-Commerce Website กล่าวคือเว็บไซต์ของเรา จะต้องตดิ ต้ังระบบตะกรา้ สินค้าออนไลน์สำหรับให้ลกู ค้าสามารถเลือกชอ้ ปปิง้ ผ่านเว็บไซต์ของเรา ได้ • เงื่อนไขที่สอง เราจะต้องไปสมัคร Google Merchant Center ให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะ Google Merchant Center เป็นเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการอัพโหลดข้อมูลร้านค้า สินค้า ของเราไปยงั Google กไ็ ปลงทะเบียนใหเ้ รียบรอ้ ย โดยสามารถเขา้ ไปลงทะเบยี นสมัครรา้ นค้าได้ท่ี หน้า Google Merchant Center ใน Official Website ของ Google สื่อโฆษณา Apps Ads อาจจะไม่ได้เปน็ ท่ีนิยมมากนกั ในกลุ่มธุรกิจ SMEs หรือ สินค้าทั่วไป เพราะ App Ads จะเหมาะกบั ธรุ กิจที่มแี อพพลิเคชัน ดงั นน้ั ในช่วงแรก ๆ คนจงึ ยังไมค่ อ่ ยใช้โฆษณาแบบน้ีเทา่ ไหร่ แต่ ในช่วงปีที่ผ่านมาที่ธุรกิจขนาดใหญ่หลาย ๆ เจ้าเริ่มนิยมสร้างแอพพลิเคชั่นของธุรกิจตัวเอง เช่น Central, Tops Supermarket, 7-11 เป็นต้น การโฆษณา App Ads จึงเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแอพฯใน ไอโฟน หรือแอนดรอยด์ โดยวัตถุประสงค์หลกั ของการโฆษณาแอพก็คือต้องการให้คนทำการติดต้ังแอพ ของ เราเยอะ ๆ น่ันเอง จากทกี่ ล่าวมาท้ังหมดก็จะเป็น 5 ประเภทของกเู ก้ิลแอดท่เี ราสามารถยงิ โฆษณาผ่านบัญชกี ูเก้ิลแอดได้ เลย อยากให้ทุก ๆ ท่านไปปรับใช้ดูกบั ธุรกจิ ของตนเอง มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหนา้ เมือง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ฉะเชิงเทรา
บรรณานุกรม สขิลา บณุ ยรัตพนั ธ.ุ์ (2560). ผลกระทบของการได้รบั อทิ ธพิ ลทางจิตวิทยาของลกู ค้าและการสอ่ื สารทาง การตลาด แบบไดร้ บั การสนบั สนุนของผู้มีอิทธิพลออนไลนท์ ีม่ ีต่อการตอบสนองตอ่ การสือ่ สารทาง การตลาดของลูกคา้ . การค้นควา้ อสิ ระทย่ี งั ไม่ได้ตพี มิ พ์, คณะพาณชิ ยศาสตร์และการบญั ชี, มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. ธีรพล จวิ๋ เจริญ. (2560). อิทธิพลของการโฆษณาผ่านสือ่ โซเชยี ลมีเดยี ส่งผลต่อการรบั ร้ตู ราสนิ ค้าของ ลกู ค้าเขตกรงุ เทพมหานคร: กรณศี ึกษากลมุ่ ธรุ กจิ ยานยนต์. บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั กรงุ เทพ. อารี พันธ์มณี. (2546). จติ วิทยาสรา้ งสรรคก์ ารสอน. กรงุ เทพฯ: สำนกั พมิ พ์ใยใหมเอดดูเคท. รมย์ชลี เลาหสัจจาพร. (2563). รปู แบบการโฆษณาทางเฟซบุ๊กกบั ความต้งั ใจซอื้ สนิ ค้าออนไลน์ของ ลูกค้ากรุงเทพมหานคร. วารสารระบบสารสนเทศดา้ นธุรกจิ (JISB). 6(1), 52-68. นันทวัน โรจน์วัชรเสวี. (2561). ปจั จัยด้านตราสินคา้ ของเวบ็ ไซตร์ ้านคา้ ออนไลนท์ ส่ี ่งผลต่อการตัดสินใจซอ้ื สินคา้ ออนไลนใ์ นบริบทของสภาวะสารสนเทศเกินขีดจำกัด. วารสารระบบสารสนเทศด้านธุรกิจ (JISB). 4(2), 6-19. ชยั นนั ท์ เพ็ชรอำไพ. (2552). องคป์ ระกอบที่มอี ทิ ธพิ ลต่อการรบั รูค้ ณุ ค่าตราสนิ ค้า ออนไลนข์ องลกู ค้าในธุรกิจ E-Marketplace ของประเทศไทย. วิทยาลัยนวตั กรรม มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์,:ม.ป.ท. ชัยนนั ท์ ธนั วารชร. (2561). การโฆษณาสนิ คา้ ผา่ นเครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ทม่ี ีผลต่อความตงั้ ใจซื้อ กรณีศกึ ษา ร้าน ฟาร์ม ดีไซน์ไทยแลนด์. วารสารระบบสารสนเทศด้านธรุ กิจ (JISB). 4(1), 51-69. ณัฐพล พฤกษวันประสตุ . (2561). ปจั จยั ที่ส่งผลต่อการตดั สนิ ใจปิดกัน้ โฆษณาดิจิทัล ในประเทศไทย: กรณศี กึ ษายูทปู . มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์:ม.ป.ท. ทบิ ดี ทัฬหกรณ์ และธีรวัฒน์ จนั ทึก. (2561). ปจั จัยสคู่ วามสำเรจ็ ของผูป้ ระกอบการเชงิ สร้างสรรค์ ในยคุ เศรษฐกิจสร้างสรรค์. E-Journal, Silpakorn University, สาขามนษุ ยศาสตร์ สงั คมศาสตร์ และ ศลิ ปะ, 11(1), 396-410. ประกายกาวลิ ศรจี นิ ดา. (2550) กลยุทธ์การสรา้ งสรรค์โฆษณา. เอกสารประกอบการสอน สาขาวิชา การโฆษณา คณะนเิ ทศศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษมบณั ฑติ . ประพันธศ์ ิริ สเุ สารจั . (2556). การพฒั นาการคิด ฉบับปรับปรุงใหม่. กรุงเทพฯ : บสิ ซเ่ี ดย์. ปรมะ สตเวทนิ . (2546) หลกั นเิ ทศศาสตร.์ กรุงเทพฯ : สำนักพิมพแ์ ห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . Guilford, J. P. (1950). Creativity. American Psychologist, 5(9), 444–454. Westcott, A.M. and J. A. Smith. (1967). Creative Teaching of Mathematics in the Elementary School. Boston : Allyn and Bacon, inc. Rodgers, S., & Thorson, E. (2000). The interactive advertising model: How users perceive and process online ads. Journal of interactive advertising, 1(1), 41-60. Doney, P. M., & Cannon, J. P. (1997). An examination of the nature of trust in buyer–seller relationships. Journal of marketing, 61(2), 35-51. Butler, J. K., & Cantrell, R. S. (1984). A Behavioral Decision Theory Approach to Modeling Dyadic Trust in Superiors and Subordinates. Psychological Reports, 55, 19–28. มหาวทิ ยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
Yang, K. C., Huang, C. H., & Tsai, C. W. (2015, August). Applying Reinforcement Theory to Implementing a Retargeting Advertising in the Electronic Commerce Website. Proceedings of the 17th International Conference on Electronic Commerce 2015, Seoul, Republic of Korea. Kim, M., & Ohk, K. (2016). A Study of the Effect of Retargeting Advertising. Asia-pacific Proceedings of Applied Science and Engineering for Better Human Life, 9, 17- 20. Rodgers, S., & Thorson, E. (2000). The interactive advertising model: How users perceive and process online ads. Journal of interactive advertising, 1(1), 41-60. Zeff, R. L., & Aronson, B. (1999). Advertising on the Internet. USA: John Wiley & Sons. Guilford, J.P. (1967). The Nature of Human Intelligence, New York: McGraw-Hill. มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมอื ง จังหวดั ฉะเชิงเทรา
ตอนท่ี 4 เทคนคิ การบรหิ ารสนิ ค้าสำหรบั ร้านค้าออนไลนโ์ ดยใช้เครือ่ งมอื ดิจทิ ลั (Product Management Techniques for Online Business) 1 ร้านค้าออนไลน์ คอื อะไร ร้านคา้ ออนไลน์ คือ ธรุ กิจท่ีมีชอ่ งทางการขายสินค้า หรอื บริการตา่ งๆ บนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือ ช่องทางออนไลน์อื่นๆ รวมถึงมีการโฆษณา เผยแพร่ข้อมูลสินค้า โดยร้านค้าออนไลน์อาจจะมีมีหนา้ ร้านจรงิ หรอื ไมม่ หี น้าร้านจรงิ ก็ได้ ปัจจยั หลกั ที่ทำให้การขายออนไลน์เป็นชอ่ งทางทีน่ ่าสนใจ 1. การพัฒนาของเทคโนโลยี การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีและความเรว็ ของอนิ เทอร์เน็ตในปัจจุบัน นี้เป็นไปอย่างก้าวกระโดด รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ออกมาแข่งขันกันมากมาย รวมทั้งอัตราค่าบริการ เช่น อินเทอร์เน็ต มีอัตราที่ถูกลงซึ่งแตกต่างกับสมัยก่อน ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้มากกว่าในอดีต เม่ื อ ผบู้ ริโภคสามารถเข้าถงึ ช่องทางออนไลนไ์ ดง้ ่าย ซง่ึ เปน็ การเพิม่ โอกาสใหก้ ับธุรกิจในการขยายช่องทางการขาย สินค้าไดม้ ากขึ้น 2. ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ในปัจจุบันผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบาย และมี เวลาจำกัดจากสภาพแวดล้อมที่รีบเร่ง ผู้บริโภคจึงหันมาให้ความสนใจช่องทางการซื้อขายที่มีความสะดวก รวดเร็ว นอกจากนี้ ผู้บริโภคหนั มาติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น ทำ ให้เปน็ โอกาสของผปู้ ระกอบการร้านคา้ ออนไลน์ให้เข้าถงึ ลกู ค้าได้มากข้นึ ประโยชนข์ องการมีร้านคา้ ออนไลน์ ประโยชน์ของการมีร้านค้าออนไลน์สามารถมองได้เป็น 2 ด้าน ได้แก่ ประโยชน์ต่อผู้บริโภค และ ประโยชนต์ ่อผปู้ ระกอบการหรือธรุ กจิ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ประโยชนข์ องการมีรา้ นคา้ ออนไลน์ทีม่ ตี ่อลูกคา้ 1.1 ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและสั่งซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา กล่าวคือ ร้านค้าออนไลน์จะเปิด ตลอด 24 ชั่วโมง ลกู ค้าสามารถเข้ามาดูขอ้ มูลหรือส่งั ซื้อไดต้ ามเวลาทีส่ ะดวก 1.2 ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น เพราะลูกค้าไม่ต้องออกเดินทางเพื่อมาซื้อสินคา้ และการซือ้ ของออนไลน์โดยส่วนใหญ่จะมีบรกิ ารจดั สง่ ให้ถงึ บ้าน ลกู คา้ สามารถรอรับของทบี่ ้านไดเ้ ลย 1.3 มีระบบการชำระเงินท่ีสะดวกและงา่ ยขึน้ ในการซ้อื ขายสนิ คา้ รวมทัง้ มีหลักฐานท่ีชัดเจน เชน่ หลกั ฐานการโอน เปน็ ต้น 1.4 ลูกคา้ สามารถเปรยี บเทียบราคาไดง้ ่ายผ่านการซื้อขายออนไลน์ กล่าวคอื ลูกค้าสามารถ ทำได้แค่การกดค้นหาสนิ คา้ ประเภทเดยี วกันก็จะสามารถเปรียบเทยี บราคาของร้านต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลสินค้าและบริการ ตลอดจนข้อมูลบริษัท เพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่ตรงตามความ ตอ้ งการมากที่สดุ 2. ประโยชน์ต่อผู้ประกอบการหรอื ธรุ กจิ ในด้านของเจ้าของธรุ กิจหรือผู้ประกอบการ การขายของออนไลนจ์ ะชว่ ยให้การประกอบธุรกิจง่ายข้ึน ดังน้ี มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหนา้ เมือง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
2.1 ไม่จำเป็นต้องมหี น้ารา้ น 2.2 ไมต่ อ้ งน่ังเฝา้ ร้าน 2.3 ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการมีหน้าร้านทั่วไป เนื่องจากไม่ต้องมีค่าเช่าที่ ค่าก่อสร้าง ค่า ตกแต่งร้าน เปน็ ต้น 2.4 ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานจำนวนมาก กล่าวคือสามารถทำคนเดียวได้ เนื่องจากมี กระบวนการไม่ยุ่งยาก เช่น การตรวจยอดสั่งซื้อ จัดหาสินค้า ลงข้อมูลและนำเสนอสินค้า ตอบคำถาม ลูกคา้ เป็นต้น 2.5 ไมจ่ ำเปน็ ต้องสง่ั สนิ คา้ ทีจ่ ะจำหน่ายมาจดั เกบ็ ไว้ลว่ งหน้า 2.6 เพม่ิ ชอ่ งทางในการขายสินคา้ ร้านค้าออนไลนเ์ ปน็ ตวั เลือกที่ช่วยเพม่ิ ช่องทางในการขาย ท่ดี ี มคี วามเสีย่ งน้อย และไม่ตอ้ งลงทนุ สูง 2.7 เข้าถงึ ลูกคา้ ไดง้ ่ายและจำนวนมาก กลา่ วคอื ผ้ซู อื้ สามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าและบริการ ไดท้ วั่ ทุกมุมโลก ชอ่ งทางการขายสินค้าออนไลน์ ช่องทางการขายและการนำเสนอสินค้าสำหรับรา้ นคา้ ออนไลน์ มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ โดย ขนึ้ อย่กู บั ความต้องการของผูข้ าย ประเภทสนิ คา้ จุดประสงค์ โดยช่องทางการขายในประเทศไทยท่ีนิยม แบ่ง ออกเปน็ 3 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 1. สอ่ื สงั คมออนไลน์ (Social Media) เป็นช่องทางการทำการตลาดออนไลนท์ ค่ี นสามารถเขา้ ถึงสินค้า ของร้านค้าได้โดยง่าย และเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Facebook, Line และ Instagram เป็นต้น โดยแต่ละ ช่องทางมรี ปู แบบการใช้งาน วัตถุประสงค์ และกล่มุ ผ้ใู ชง้ านทแี่ ตกต่างกนั 2. ช่องทางที่เป็นสื่อกลางการติดต่อซื้อขายสินค้าหรอื บริการ (E-marketplace) กล่าวคือ เป็นตลาด กลางที่รวบรวมสินค้าและร้านค้าจำนวนมากมาย ไว้ในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เช่น Shopee Lazada และ Kaidee.com เปน็ ตน้ ผู้ประกอบการหรือคนท่ัวไปสามารถนำข้อมลู ธรุ กิจและข้อมูลสินค้าไปใส่ ไวต้ ลาดกลางนีไ้ ด้ ปจั จบุ นั ชอ่ งทางดงั กล่าวถือว่าเปน็ ช่องทางรูปแบบใหม่ท่ีปรับเปล่ียนกระบวนของการซื้อขาย และตอบสนองพฤตกิ รรมของผบู้ ริโภคในปจั จบุ ันไดเ้ ปน็ อยา่ งดี 3. ค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ (E-trailer) และเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญ เชน่ เว็บไซตข์ องแบรนด์ตา่ งๆ หรอื เวบ็ ไซตข์ องรา้ นคา้ ปลกี หา้ งสรรพสินค้าตา่ งๆ ความหมายของการบรหิ ารสนิ คา้ การบริหารสินค้า หมายถึง กระบวนการในการจัดหาสินค้าให้ตรงกับความต้องการ โดยพิจารณาใน เรอื่ งความหลากหลาย คุณสมบตั ิ คณุ ภาพสนิ คา้ ที่ลกู ค้าต้องการ ปรมิ าณหรือจำนวนสินค้าท่ีเพียงพอต่อความ ต้องการของลูกค้า รวมถึงสถานที่จำหน่าย เวลาที่เหมาะสม รวมทั้งการนำเสนอสินค้าแก่ลูกค้า เพื่อบรรลุ เปา้ หมายทางดา้ นการเงินของธรุ กิจ ความหมายของการบรหิ ารสินคา้ สำหรับร้านค้าออนไลน์ การบริหารสินค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ ก็คือ การวางแผนและบริหารจัดการสินค้าเพื่อให้ตรงกับ ความต้องการลูกค้า โดยคำนึงเรือ่ งความหลากหลาย จำนวนสินคา้ ทจ่ี ะสง่ั มาจำหน่าย รวมท้งั การเลือกชอ่ งทาง การจำหน่าย และรูปแบบนำเสนอสินค้าทเ่ี หมาะสม เพ่อื บรรลุเปา้ หมายทางด้านการเงนิ ของธุรกจิ ปัญหาในการบริหารสนิ คา้ ของผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
1. การเลือกสนิ คา้ ทจี่ ะจำหนา่ ยให้ตรงความต้องการลูกค้า บ่อยคร้งั ท่ีสนิ คา้ บางร้านค้าขายไมด่ ี เพราะ สินค้าในร้านท่มี าจำหน่ายไม่ตรงตามความต้องการของลูกค้า 2.สินค้าเหมือนกับร้านอื่นๆ ไม่แตกต่าง สินค้าท่ีมีจำหนา่ ยในรา้ นค้าออนไลนบ์ างครั้งจะเป็นสินค้าท่ี เหมอื นกบั ร้านค้าออนไลน์อ่ืนๆ ไม่มคี วามแตกต่าง จึงเกดิ การแข่งขนั ราคา ทำใหร้ า้ นคา้ ออนไลนม์ กี ำไรที่ลดลง ดังนั้น ร้านค้าออนไลน์สามารถทำได้ คือการสร้างความแตกต่างในด้านอื่นๆ เช่น การให้บริการ การนำเสนอ สินคา้ เป็นต้น 3. ปัญหาการมีสนิ ค้าไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายหรือปัญหาสินค้าคงเหลือมมี ากเกนิ ไป ทั้ง 2 ปัญหานี้ อาจเกิดขึ้นได้หากร้านค้าออนไลน์ไมม่ ีการวางแผนในเรื่องการสัง่ ซื้อ ปริมาณสินค้า โดยพิจารณาถึงกิจกรรม ต่างๆของทางรา้ นค้า และปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น ฤดูกาล ความนิยมของผู้บรโิ ภค หรือเหตุการณ์สำคัญอืน่ ๆ ซ่ึง ปญั หาเหลา่ นี้จะส่งผลตามมาคือ หากรา้ นคา้ มีสินค้าไม่เพยี งพอต่อการจำหน่ายก็จะทำใหร้ ้านค้าเสียโอกาสใน การขาย หรอื หากร้านค้ามสี นิ คา้ คงเหลอื มมี ากเกนิ ไป อาจทำให้เกิดปญั หาขาดสภาพคลอ่ งทางการเงนิ และเพิ่ม ค่าใช้จา่ ยจากการจัดเก็บ 4. ปญั หาลูกค้าไมพ่ อใจเนอ่ื งจากสินคา้ ทไี่ ด้รับไม่ตรงกบั ในรปู ปญั หาน้เี กิดจากการนำเสนอสินค้า การ ใช้รปู สินค้าท่ีไม่ตรงกบั สนิ ค้าจริง ซึ่งทำให้ลกู คา้ เกิดความไม่พอใจ ความสำคญั ของการบริหารสนิ ค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ 1. ร้านค้าออนไลน์สามารถคัดเลือกสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า หากร้านค้าออนไลน์มี การบรหิ ารสนิ ค้าท่ีดีจะทำให้สามารถคัดเลือกสินค้าที่มาจำหน่ายในร้านค้าได้ตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้า เปา้ หมาย 2.ร้านคา้ ออนไลนไ์ มส่ ญู เสยี โอกาสในการขายจากการท่ีมสี นิ ค้าไม่เพียงพอตอ่ การจำหนา่ ย การมีสนิ ค้า ไมเ่ พยี งพอต่อการจำหน่าย จัดได้ว่าเปน็ ปัญหาทีม่ ีผลกระทบตอ่ ทกุ ธรุ กิจ เพราะทำใหเ้ สยี โอกาสในการขาย ซ่ึง ปัญหาเหลา่ นีจ้ ะหมดไปหากมีการบริหารสนิ ค้าที่ดี กล่าวคือ การที่ร้านค้ามกี ารวางแผนปริมาณการสั่งซื้อ ผลิต ในปริมาณที่เหมาะสม โดยพิจารณาเรื่องสถานการณ์ โปรโมชั่นในขณะนั้น ความนิยม และปัจจัยอื่นๆ ทำให้ สามารถวางแผนการสง่ั ซื้อหรือผลิตสินค้า รา้ นคา้ ออนไลน์อาจทำการจดบนั ทึกสนิ ค้าเข้าออก ซ่ึงทำให้เจ้าของ ร้านทราบยอดสนิ ค้าคงเหลือไดต้ ลอดเวลา และสามารถวางแผนการสงั่ ซื้อหรือผลิตและพยากรณย์ อดขาย เพ่ือ เตรยี มการสง่ั ซ้อื หรอื ผลิตใหเ้ พยี งพอกับความตอ้ งการของลูกค้า 3.สามารถลดปัญหาสินค้าคงเหลือมมี ากเกินไป ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนและขาดสภาพคล่องในการทำ ธุรกิจ สาเหตุของการมีสินค้าคงเหลือมมี ากเกินไป อาจเกิดขึ้นไดจ้ ากการไม่มกี ารวางแผนสนิ คา้ ล่วงหนา้ ไม่มี การตรวจนับสนิ ค้าคงเหลือ ไม่มกี ารแบ่งหมวดสินค้าให้ชัดเจน การทีร่ า้ นคา้ มีการบริหารสินค้าท่ีดีจะสามารถ ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะหากร้านมีการวางแผนปริมาณการสั่งซื้อ สั่งผลิต เพื่อจำหน่ายในปริมาณท่ี สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละช่วง หรือแม้แต่การจัดการสินค้าคงเหลือส่วนเกินด้วยโปรโมชั่นต่างๆ ก็ สามารถช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ 4.การนำเสนอสินค้ามคี วามน่าสนใจและสร้างความแตกตา่ งใหก้ ับสินคา้ บางครง้ั เรามกั จะพบว่าสินค้า ในโลกออนไลนเ์ ปน็ สินค้าท่ีไมม่ ีความแตกต่าง ประกอบกับการซ้อื ขายสินคา้ ผา่ นโลกออนไลน์ ลูกคา้ ไม่สามารถ จับต้องสินค้าได้ ลูกค้าทำได้เพียงอ่านข้อมูลสินค้าเพื่อนำมาพิจารณาว่าตรงกับความต้องการหรือไม่ ดังน้ัน หากร้านค้ามีการบริหารสินค้าที่ดีจะสามารถทำให้ร้านค้าออนไลน์มีรูปแบบการนำเสนอและเนื้อหาการ นำเสนอทนี่ ่าสนใจ ไม่วา่ จะเป็น ขอ้ มูลสนิ คา้ ขา่ วสารทเ่ี ป็นประโยชนเ์ ช่อื มโยงกับสินคา้ ก็สามารถทำให้สินค้า น่าสนใจมากขึ้น มหาวิทยาลยั ราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหนา้ เมือง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
5.สามารถสร้างความภักดีใหก้ ับรา้ นค้าออนไลนไ์ ด้ ในสงั คมออนไลน์ คนนิยมแสดงความคิดเห็นอย่าง ตรงไปตรงมา บางครั้งอาจจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของรา้ นคา้ ออนไลนไ์ ด้ และหากลูกค้าคนอื่นๆที่มาเห็น ข้อความเหล่านั้นก็อาจเกิดความไม่มั่นใจในสินค้าและบริการของร้านค้าด้วยเช่นกัน หากร้านค้าออนไลน์ สามารถบริหารจัดการคัดเลือกสนิ คา้ มาจำหน่ายเพียงพอและตรงกับความต้องการ มีการตรวจสอบคณุ ภาพ สนิ คา้ การนำเสนอสนิ ค้าในรปู แบบท่ีนา่ สนใจ ในช่องทางที่ลกู คา้ สามารถเขา้ ถึงไดง้ ่าย จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และม่ันใจในการซื้อของจากร้านค้าน้ัน ตลอดจนมีความภกั ดีท่อี ยากจะซอื้ กบั รา้ นค้าเดิมตอ่ ไป จากความสำคัญทั้ง 5 ประการข้างต้น นำไปสู่ความสำคัญข้อสุดท้าย คือ การบริหารสินค้าสำหรับ รา้ นคา้ ออนไลน์ท่ดี จี ะสามารถลดต้นทุน สรา้ งยอดขาย สร้างกำไร ใหก้ ับรา้ นคา้ ออนไลนไ์ ดอ้ ย่างง่ายดาย ขั้นตอนในการบรหิ ารสินค้าสำหรบั รา้ นคา้ ออนไลน์ ขนั้ ตอนในการบริหารสนิ ค้าสำหรบั รา้ นค้าออนไลน์เบ้อื งต้น ประกอบไปดว้ ย 1. การวางแผนธรุ กจิ หากเรามคี วามคดิ อยากเรมิ่ ตน้ ทำธรุ กจิ ออนไลน์ สง่ิ สำคญั ทผ่ี ้เู รมิ่ ตน้ ธรุ กจิ ควรทำ คือ การวางแผนธุรกิจ ซึ่งการวางแผนนั้นควรกำหนดให้ครอบคลุมและลงรายละเอียดให้ชัดเจนในแต่ละด้าน ของการทำธุรกจิ ดังนี้ 1.1 การประเมนิ สินค้าของร้านค้าตนเอง หากสินค้าท่ีมีเป็นสินค้าใหม่ในตลาด และมั่นใจวา่ สินคา้ นัน้ มีประโยชนแ์ ละเป็นท่ตี ้องการของตลาด ใหท้ ำการสำรวจตลาดเป็นลำดบั แรก เพ่ือเปน็ การประเมินใน เบ้ืองต้นวา่ สนิ คา้ จะเป็นท่ีต้องการและได้รับความนิยมหรอื ไม่ และผู้ประกอบการควรตัดสนิ ใจเริ่มขายสินค้านี้ หรือไม่ 1.2 การวิเคราะห์ตลาดและคแู่ ขง่ เปน็ การช่วยประเมินโอกาสของร้านค้าออนไลน์ว่ามีความ เป็นไปได้หรือไม่ หากเราพิจารณาแล้วยังพอเห็นช่องว่างของตลาด โดยที่สามารถคาดการณ์ได้ว่ามีความ ต้องการสนิ ค้านี้ และยงั ไม่มคี แู่ ข่ง ถือเปน็ จุดเริม่ ตน้ ทีด่ ีที่จะนำสนิ คา้ นน้ั เขา้ ไปในตลาดออนไลน์ 1.3 การสรรหาผู้ผลิต กรณที มี่ กี ารส่งั ผลติ เพ่ือมาจำหน่าย ผูป้ ระกอบการควรคัดเลือกผู้ผลิต สนิ ค้าทีม่ คี ณุ ภาพในตน้ ทนุ ท่ีเหมาะสม เพ่อื ให้ไดส้ ินคา้ ท่คี ณุ ภาพดีและต้นทนุ ไม่สงู มากนัก ทงั้ นี้ ผปู้ ระกอบการ ควรสรรหาผู้ผลิตหลายราย เพื่อป้องกันกรณีฉุกเฉินที่ผู้ผลิตรายหนึ่งไม่สามารถผลิตได้ เราก็ยังสามารถ เปลี่ยนไปให้ผผู้ ลิตอกี รายผลิตได้ เพอ่ื ไม่ให้สนิ คา้ ขาดตลาด ซึ่งสง่ ผลตอ่ รายไดข้ องธุรกจิ 1.4 การวางแผนการเงิน ธุรกิจร้านค้าออนไลน์จะประสบความสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่การ วางแผนและควบคุมการเงิน เพราะต้นทุนนัน้ ไมไ่ ดม้ เี พยี งแตต่ น้ ทนุ ของสินค้าเท่านั้น แตย่ ังมีคา่ ขนส่ง ค่าบรรจุ ภัณฑ์ คา่ การตลาด และอ่นื ๆ หากเรามกี ารวางแผนการเงนิ ท่ดี ี มกี ารคดิ คำนวณตน้ ทุนของสินค้าและบริการท่ี ถูกต้อง กำหนดงบประมาณการตลาดให้เหมาะสม รวมทั้งวางแผนเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ กจ็ ะช่วยใหก้ ารดำเนนิ ธรุ กิจออนไลน์นนั้ มีสภาพคล่องและมกี ำไรไดใ้ นทส่ี ดุ 2. การเลือกระบบการบริหารร้านคา้ ออนไลน์ ผูป้ ระกอบการร้านคา้ ออนไลน์ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ การทำธุรกิจออนไลน์ เครื่องมอื ทีจ่ ำเป็นในการขายสนิ ค้า การเลือกใชเ้ ว็บไซต์ ระบบการชำระเงนิ ให้เหมาะสม กับธุรกิจ เช่น หากต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์ที่จัดการง่าย ก็ควรเลือกใช้ร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูปจากผู้ ให้บริการที่น่าเชื่อถือ มีระบบบริหารจัดการร้านค้าที่มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขายที่เหมาะสม มี ระบบชำระเงนิ ท่ปี ลอดภยั มีการการนั ตีเพ่ือเพ่ิมความมั่นใจตอ่ ทัง้ ผซู้ ้ือและผู้ขาย มกี ารบริการหลังการขายที่ดี รวมทง้ั สามารถตดิ ต่อไดง้ ่ายเพื่อสอบถามขอ้ สงสยั หรอื แกไ้ ขปญั หาใหร้ า้ นค้าได้อย่างรวดเร็ว 3. การบรหิ ารจัดการการขนสง่ ระบบการขนสง่ ท่มี ีประสิทธิภาพตอ้ งประกอบด้วย 3 องค์ประกอบท่ี สำคัญ คือ ถกู ต้อง รวดเรว็ และสามารถตรวจสอบได้ รา้ นคา้ ออนไลนค์ วรเลอื กระบบขนส่งทคี่ รบองค์ประกอบ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
ขา้ งตน้ เพื่อปอ้ งกันความผดิ พลาด ความเสียหาย และความไมพ่ อท่อี าจจะเกิดข้ึนกับลูกค้า ทำให้เกดิ ผลเสียต่อ รา้ นคา้ ออนไลน์ 4. การสร้างร้านค้าออนไลน์ให้โดดเด่น การทำให้ร้านค้ามีความโดดเด่นแตกต่างจากร้านค้าอื่นๆ สามารถทำได้งา่ ยๆ ดงั นี้ 4.1 การต้งั ช่ือร้านค้าออนไลนข์ องเราให้จดจำงา่ ย และสรา้ งจดุ เด่น 4.2 การออกแบบโลโก้ของร้านค้าออนไลนใ์ ห้มีเอกลักษณ์ น่าจดจำ แสดงตัวตนของร้านค้า และที่สำคญั ต้องไปในโทนเดยี วกับหนา้ ร้านค้าออนไลน์ จะช่วยใหล้ กู ค้าจำได้มากขนึ้ 4.3 การจัดเตรียมขอ้ มูลสนิ ค้าใหพ้ รอ้ ม ไมว่ ่าจะเปน็ รปู ภาพ รายละเอยี ดของสนิ คา้ ทีค่ รบถ้วน และราคาขายที่ถูกต้อง หากลกู คา้ ตอ้ งการซื้อสินค้าแตไ่ ม่พบข้อมูลสนิ ค้าที่จำเป็น ลกู คา้ อาจจะตัดสินใจไปซื้อ รา้ นอนื่ ได้ในทันที 4.4 ตอ้ งศกึ ษาเร่อื งการทำการตลาดออนไลนท์ ่สี ำคัญ และทำความเข้าใจในแตล่ ะเครอ่ื งมือว่า การทำเครือ่ งมอื รูปแบบไหนเหมาะกบั ธรุ กจิ ของเรา รวมทั้งการเลือกชอ่ งทางการทำการตลาดให้ตรงกลุ่มลูกค้า เปา้ หมายดว้ ย 2. หลักการสำคัญของการบริหารสนิ ค้าสำหรบั ร้านค้าออนไลน์ หัวใจแหง่ ความสำเร็จของรา้ นคา้ ออนไลน์ หลกั การเปรยี บเสมือนหวั ใจที่ผู้ประกอบการสามารถยึดถือ ไวเ้ ปน็ แนวทางในการบริหารสนิ ค้าออนไลน์ หากมีความเข้าใจในหลกั การที่ดีจะทำให้ผูป้ ระกอบการเลือกใช้วิธี และเทคโนโลยีอันหลากหลายเพื่อก่อให้เกิดความสำเร็จของตน หลักการสำคัญของการบริหารสินค้าสำหรับ ร้านค้าออนไลน์ประกอบด้วย 2 สว่ นใหญ่ๆ 1. การบริหารสินค้าขาซือ้ เข้า หมายถึง การบริหารจัดการใหม้ ีสินค้าที่ดีตอบสนองความต้องการของ ลูกค้า ขายตอ่ แล้วมีกำไร และมสี ินค้าพร้อมขายทนั เวลาอยตู่ ลอด 2. การบริหารสินค้าขาขายออก หมายถึง การบริหารจัดการให้สินค้าเข้าถึงลูกค้า และมีความดึงดดู มากพอท่ีจะกระตุ้นการตดั สนิ ใจซ้ือของลูกคา้ ไดส้ ำเร็จ 3. ปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ การบรหิ ารสินค้าสำหรับรา้ นคา้ ออนไลน์ การเปิดร้านออนไลนไ์ ม่ใช่ตวั ยืนยันความสำเร็จท่ียั่งยืน เพราะมีตัวอยา่ งรา้ นค้าออนไลน์ระดับโลกซึ่ง เข้ามาทำตลาดในเมอื งไทยแล้วปิดตวั ลงไปเช่นกัน ผู้ประกอบการควรเรียนรู้ปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารสินค้า สำหรับรา้ นค้าออนไลนซ์ งึ่ จะนำไปสคู่ วามสำเรจ็ อย่างยัง่ ยนื อาทิเช่น ขีดความสามารถขององคก์ ร ซึ่งเป็นปจั จัย ภายในของตัวองค์กรเองและปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการบริหารสินค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ของธุรกิจเช่น คู่แข่ง supplier ลูกค้า การเมือง สภาพเศรษฐกจิ สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม หรือ กฎหมาย ซึ่งเรียกไดว้ า่ เป็นสภาวะแวดล้อมท่ีส่งผลตอ่ ความสำเร็จไดเ้ ชน่ กนั เคร่อื งมือที่เรยี บงา่ ยชนดิ หนึง่ ภาคธุรกิจนยิ มใช้วิเคราะห์ปัจจัยหรอื สภาวะแวดลอ้ มตา่ งๆ ทมี่ ีผลต่อการ บริหารสินค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์คือ การวิเคราะห์ SWOT ซึ่งสามารถนำไปใช้วิเคราะห์โดยอาศัยมุมมอง ดังนี้ 1. มมุ มอง 2 ด้านแรก คือ ปัจจัยท่ีสง่ ผลแงบ่ วกต่อธุรกจิ และปจั จัยแง่ลบต่อธรุ กิจ 2. มุมมอง 2 ด้านที่เหลือ คือ มองปัจจัยสภาพแวดล้อมภายในองค์กร และปัจจัยสภาพแวดล้อม ภายนอกองค์กร มหาวิทยาลัยราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชิงเทรา
เม่ือเอามาประกอบเขา้ ดว้ ยกนั จะแบง่ ได้ 4 สว่ นคอื 1. S: Strength หรือจุดแข็ง คือ ข้อได้เปรียบขององค์กรที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายในองค์กร ซ่ึง ต้องเป็นสิ่งที่คู่แข่งในตลาดสามารถเลียนแบบได้ยากและส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กร เช่น การมี แหลง่ วตั ถุดบิ ทีด่ ี 2. W: Weakness หรอื จุดอ่อน คือข้อเสยี เปรยี บ หรอื ปญั หาขอ้ บกพรอ่ งที่เกิดมาจากสภาพแวดล้อม ภายในองค์กรที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรจะต้องหาวิธีแนว ทางการแกไ้ ขปญั หา เช่น การขาดองคค์ วามรูใ้ นการพฒั นาบรรจภุ ณั ฑท์ ม่ี ีมาตรฐาน 3. O: Opportunity หรือโอกาส คือความเป็นไปได้ทางธุรกิจขององค์กร ซึ่งก็คือสภาพแวดล้อม ภายนอกองค์กรท่ีเอ้ือประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กร เช่น การเตบิ โตของเทคโนโลยีและจำนวนผู้ใช้ อินเทอรเ์ น็ตทำให้การซ้อื ขายสนิ ค้าทางช่องทางออนไลน์ทำไดง้ ่ายและเป็นที่นิยม 4. T: Threats หรืออุปสรรค คือความเสี่ยง ภัยคุกคาม ข้อจำกัด ขององค์กร หรือสภาพแวดล้อม ภายนอกองค์กรทสี่ ่งผลผลเสียต่อการดำเนินธรุ กิจขององค์กร ตวั อยา่ ง เช่น ทัศนคติของลกู ค้าที่อาจมีความไม่ เชอื่ ถอื ในคณุ ภาพสินค้าหากขายแบบออนไลน์ การวิเคราะห์ SWOTจะทำให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสมองรอบด้านถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหาร สินค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ ซึ่งท้ายที่สุดจะสามารถสรุปได้ว่ากิจการควรนำสิ่งใดจากจุดแข็งมาแข่งขัน ซึ่ง สามารถเชื่อมโยงกับโอกาส ทราบถึงจุดอ่อนซึ่งสามารถกำจัดและทราบถึงความเสี่ยงซึ่งสามารถกำหนด มาตรการลดความเสี่ยงนั้นไดอ้ ย่างละเอียดรอบคอบ ลูกค้าไม่ใชพ่ ระเจา้ ? ลูกค้าคือผู้ที่ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการและตอบสนองความต้องการอย่าง แท้จริง การศึกษาทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งจึงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารสินค้าสำหรับร้านค้า ออนไลน์และเกี่ยวข้องกับประสบผลสำเร็จอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการศึกษาทำความเข้าใจลูกค้า หากเป็น ร้านค้าออฟไลน์แบบดั้งเดิมผู้ประกอบการสามารถใช้วิธีสังเกตทักทายพูดคุยสอบถาม เพื่อทราบปัญหา ความเห็น ความพึงพอใจ และทราบความต้องการของลูกค้าได้ทันที แต่ปัจจุบันการค้าขายสินค้าในระบบ ออนไลน์ซ่ึงผ้ซู ื้อและผ้ขู ายอาจมีโอกาสพบปะกนั ซ่งึ หน้านอ้ ยลงนน้ั สามารถใชว้ ธิ กี ารศึกษาและทำความเข้าใจ ลูกค้าโดยการค้นหาข้อมูลคอื 1. Who: ลูกคา้ อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ทำงานอะไร รายไดเ้ ท่าไหร่ รูปแบบการดำเนินชวี ติ 2. What: Pain point หรอื ปัญหาของลูกคา้ ทเี่ ราจะเข้าไปชว่ ยแก้ ส่ิงทต่ี อ้ งการคืออะไร 3. Why: เหตผุ ลทล่ี ูกค้าซอื้ สินคา้ และอะไรเปน็ ตัวขดั ขวางการซอ้ื สินคา้ 4. How: จะเข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร ด้วยส่ืออะไร ด้วยวิธีการอะไร ซึ่งเป็นไปได้หากทราบวิถีชีวิต (lifestyle) ของลูกคา้ ดา้ นวธิ กี ารที่จะได้มาซงึ่ ข้อมลู ของลกู คา้ สามารถทำการสรุปอยา่ งงา่ ยได้ 3 วธิ ี วิธีที่ 1 การค้นหาจากแหล่งข้อมูลฟรีที่น่าเชื่อถือ คือ การSearchค้นข้อมูลข่าวสาร จากสื่อและ แหล่งขอ้ มูลท่นี ่าเชื่อถือ ทันสมัย ถกู ต้อง สมบรู ณ์ วิธีที่ 2 การค้นหาจากแหล่งข้อมูลท่ีตอ้ งสมัครสมาชิกหรือมีค่าใช้จ่าย คือ Google, Facebook, line, twitter, Instagram มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชิงเทรา
วิธีที่ 3 การวิจัยที่จัดทำขึ้นเอง คือการวิจัยตลาด เช่น การสนทนากลุ่ม ( Focus group interview), การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interview), การทำวิจัยเชิงสำรวจ ( Survey Research) หรือ การเก็บขอ้ มูลลกู คา้ จากฝา่ ยต่างๆ ขององค์กร ความลม้ เหลวของสินค้าเพราะสามารถทราบความต้องการของลูกค้าและจัดหาสนิ ค้าท่ีตรงตามความต้องการ ได้อย่างแท้จ สินคา้ แบบไหนที่ใชส่ ำหรับลกู คา้ หลังจากการศกึ ษาทำความเข้าใจลูกคา้ อย่างลกึ ซึ้งแล้วผู้ประกอบการสามารถลงมือพัฒนาหรือจัดหา สินค้าที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าโดยจับคู่ความต้องการของลูกค้ากับสิ่งที่สินค้ามอบให้ (Product attribute) เพือ่ ให้กลายเป็นสินค้าในฝนั ของลกู คา้ อยา่ งแท้จรงิ การพัฒนาสินค้าเพื่อขายนั้นไม่จำเป็นต้องทำขึ้นเองทั้งหมดแต่สามารถจัดซื้อจัดหามาได้แต่จำเป็น อยา่ งย่ิงท่ีตอ้ งเป็นไปตามความตอ้ งการของลูกคา้ ไม่ใช่ผขู้ าย นอกจากนี้การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับตัวสินค้า คือปัจจัยท่ีช่วยเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรที่ มองข้ามไม่ได้ตัวอย่างความรู้เกี่ยวกับสินค้าเบื้องต้นที่ผู้ประกอบการควรทราบคือ ส่วนประกอบ รูปร่าง น้ำหนัก วิธีการใช้ สีสัน หน้าตาสินค้า อายุการเก็บ อายุการใช้งาน วิธีใช้งาน วิธีการทิ้งเป็นต้นโดยสามารถ แบ่งเป็น 1. Feature คือ คณุ สมบตั ิของสินค้า เชน่ ดีไซน์เรยี บหรู นำ้ หนกั เบา ทำด้วยเนื้อผา้ ชั้นดี 2. Advantage คือ จุดเด่นของสินค้าที่เหนือกว่าคู่แข่ง เช่น ถูกกว่า หอมกว่า ภาพลักษณ์ของตรา สินค้าดกี วา่ 3. Benefit คือ ประโยชน์สำหรับลูกค้า เช่น ให้ความคุ้มค่า ให้ความรวดเร็ว ใช้แล้วท้ิงง่ายไม่ทำลาย สง่ิ แวดลอ้ ม ในกรณีที่ผู้ประกอบการมีสินค้ามากกว่า1ชนิดควรคำนึงถึง Product mix หรือส่วนประสมของ ผลิตภัณฑ์ของธุรกิจที่นำเสนอต่อลูกค้า เช่น สินค้าทั้งหมดสอดคล้องกันเอามาขายแล้วเสริมให้เกิดยอดซื้อ ที่มากขึ้นหรือไม่ ขายเครื่องประดับกับเสื้อผ้า ขายครีมทาผิวกับโฟมล้างหน้า เพราะการกระทำการนำเสนอ สนิ คา้ หรือกิจกรรมทางการตลาดจะเปน็ ไปอยา่ งคมุ้ ค่า ในกรณีที่ผู้ประกอบการมีสินค้ามากกว่า1ชนิดควรคำนึงถึง Product mix หรือส่วนประสมของ ผลิตภัณฑ์ของธุรกิจที่นำเสนอต่อลูกค้า เช่น สินค้าทั้งหมดสอดคล้องกันเอามาขายแล้วเสริมให้เกิดยอดซื้อ ที่มากขึ้นหรือไม่ ขายเครื่องประดับกับเสื้อผ้า ขายครีมทาผิวกับโฟมล้างหน้า เพราะการกระทำการนำเสนอ สนิ คา้ หรอื กิจกรรมทางการตลาดจะเปน็ ไปอยา่ งคุ้มคา่ 1. ระยะแนะนำ: สนิ ค้าไม่เป็นที่รูจ้ กั การผลิตขายน้อย ราคาคอ่ นขา้ งสูง อาจขาดทนุ ในระยะแรก เน้น การเข้าถงึ ลกู ค้าใหเ้ ยอะทสี่ ดุ 2. ระยะเจริญเติบโต: สินค้าเริ่มเป็นที่รู้จัก ยอดขายเพิ่มรวดเร็ว ต้องบริหารให้สินค้าห้ามขาดสต๊อก ร้านค้าควรจัดหาสินค้าแบบเดียวกันแต่หลากหลาย กำไรเริ่มมีปริมาณมากขึ้นซึ่งถือเป็นชว่ งกอบโกย ควรทำ การตลาดใหเ้ กดิ การใช้ ซอื้ ซำ้ 3. ระยะอิม่ ตวั : สินคา้ มียอดเพิ่มข้นึ ในอัตราถดถอย การแข่งขนั สูง มีคู่แขง่ มาก ราคาลดลง กำไรยังมี แต่ค่อยๆ ลดลง ร้านค้าควรระวังเรื่องการบริหารสต๊อกไม่ให้ต้นทุนจม พร้อม ลดงบประมาณtการตลาดลง เหลอื แค่ รกั ษาสว่ นแบง่ การตลาด (Market share) มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหนา้ เมือง อำเภอเมอื ง จังหวดั ฉะเชิงเทรา
4. ระยะถดถอย: ยอดขายสินค้าเร่มิ ตก ไม่มีลกู คา้ ใหม่ หรอื มีสนิ ค้าทดแทนทำให้ยอดขายตก สินคา้ อยู่ ได้ด้วยลูกค้ากลุ่มเดิม กำไรมีปริมาณน้อยลง ร้านค้าต้องระวังระดับของสต๊อกที่สั่ง อาจพิจารณาเลิก ขาย (Delist) หรอื ปรบั รูปโฉมใหม่ (Re-launch, Rejuvenation) การจดั ซือ้ จัดหาสนิ คา้ เพื่อขาย การจัดซื้อจัดหาสินค้าเพื่อขายซึ่งครอบคลุมการซื้อวัตถุดิบเข้ามาผลิตสินค้าเองและการซื้อสินค้า สำเรจ็ รปู เข้ามาขายอีกทอดหนงึ่ สามารถใช้หลกั 6 R คอื 1. Right Source คือ แหล่งขาย (ผู้ขาย) ถูกต้อง ผู้ขายน่าเชื่อถือ ปกติมักต้องเปรียบเทียบผู้ขาย มากกว่า1เจ้า 2. Right Quality คือ คุณภาพสินค้าถูกต้อง ตรงตามข้อกำหนด ได้แก่มาตรฐานสินค้า (Product specification) ซึง่ มาตรฐานทต่ี งั้ ไวค้ วรเป็นไปความต้องการของลกู ค้าด้วย 3. Right Quantity คือ ปริมาณสินค้าถูกต้อง ปริมาณสินค้าต้องเพียงพอต่อความต้องการขายออก และเหมาะสม เพอ่ื ปอ้ งกันสตอ๊ กจม 4. Right Time คือ จงั หวะเวลาถกู ต้อง เป็นการไดร้ บั สนิ ค้าท่สี ่งั ซอ้ื ตามเวลาท่ีคาดหวงั ไว้ 5. Right Price คือราคาสินค้าถกู ตอ้ ง ซึ่งไมใ่ ชร่ าคาที่ถกู ต้องที่สุดแตเ่ ป็นราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพ สินคา้ ซงึ่ เวลานำไปผลติ หรือขายตอ่ แลว้ ต้องมกี ำไร 6. Right Place มีสถานที่จัดเก็บของสินค้าที่เหมาะสม มีคลังที่จัดเก็บสินค้าเหมาะสม วัตถุดิบและ สนิ คา้ ไมเ่ สียหาย การจัดซอื้ จดั หาสนิ คา้ เพ่ือขายซ่ึงครอบคลุมการซ้ือวัตถดุ ิบเขา้ มาผลิตสนิ ค้าเองและการซื้อสินค้าสำเร็จรูปเข้า มาขายอีกทอดหนึ่ง สามารถใช้หลัก 6 R คือ อย่างต่อเนื่อง โดยAmazon มีศูนย์จัดเก็บและบรรจุสินค้า (fulfillment center) อยทู่ ่วั ประเทศ หากผู้ประกอบการขายสินค้าของตนผ่านผู้ให้บริการ Platform แบบ Marketplace ลักษณะ เชน่ เดยี วกับ Amazon กม็ กั จะมีบรกิ ารบริหารจัดการสตอ๊ กควบคู่ไปกบั การส่งสนิ ค้าให้ลกู ค้าปลายทาง โดยมี ขอ้ ดีใน 3 ประเด็นคอื 1. ประหยัดเวลา มีพนักงานช่วยบรรจุกล่องพัสดุและดแู ลสต๊อกสินค้าให้ผู้ประกอบการเลย ช่วยลด ตน้ ทุนด้านขนส่งทจ่ี ะสง่ ไปถงึ มอื ลูกค้าปลายทาง 2. มักมีบริการCustomer Support เช่น การที่ลูกค้าปลายทางสามารถคืนสินค้าของผู้ประกอบการ กบั ผู้ให้บริการ Platform โดยตรงซงึ่ ง่ายตอ่ การบริหารจัดการของผปู้ ระกอบการ 3. ได้รบั การสนบั สนุนส่งเสรมิ การขายจากเจ้าของ Platform เชน่ การใหส้ ิทธิพิเศษต่างๆ ในการขาย สินค้าออนไลนใ์ น Platform ในด้านขอ้ เสียและข้อควรระวังผ้ปู ระกอบการควรระมัดระวังใน 2 ประเด็นคอื 1. ค่าใช้จ่าย ผู้ประกอบการต้องเสียค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ให้บริการ Platform ในการเก็บสินค้า บริหาร จดั การ และสง่ ถึงมอื ลกู ค้าซ่ึงจะมขี ้อกำหนดและราคาแตกต่างกนั ไป 2. ตน้ ทนุ อาจจม เนอ่ื งจากสินค้าท่ีใช้บรกิ ารอาจประสบภาวะขายไมไ่ ดแ้ ละตอ้ งเกบ็ รักษาในคลังสินค้า ของผู้ใหบ้ ริการ Platform นัน้ ๆ ผปู้ ระกอบการจึงควรทบทวนระดบั สต๊อกและผลกั ดนั สินค้าให้ขายออกไปเช่น การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การขายเพือ่ ป้องกันปัญหาตน้ ทุนจม เสน้ ทางเดนิ ของลกู คา้ มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหนา้ เมอื ง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
สำหรับการบรหิ ารสนิ คา้ ขาขายออกสิง่ ท่ีผู้ประกอบการตอ้ งทำความเข้าใจคือกระบวนการตัดสินใจซื้อ ของลกู คา้ ซ่ึงประกอบดว้ ย 5 ขัน้ ตอนดังน้ี 1. เกดิ ปัญหาหรือเกิดความตอ้ งการ ปัญหากับคนเราเป็นสิ่งคู่กัน เมื่อมีสิ่งกระตุ้นมากระทบมนุษย์จึงเกดิ ปัญหาขึ้น เช่นท้องว่าง รู้สึกหิว จากนั้นจึงเกิดความต้องการในสินคา้ หรือการบรกิ ารเพื่อแกไ้ ขปัญหาน้ันโดยสิ่งกระตุ้นอาจเป็นสิง่ กระตุ้นจาก ปัจจัยภายในเช่นรู้สึก ร้อน หนาว กระหายน้ำ ป่วย เป็นต้น หรือสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น โฆษณาออนไลน์ หรือ Notification ของโทรศพั ทม์ อื ถือ 2. รวบรวมข้อมูล เมอื่ ไดท้ ราบถงึ ความตอ้ งการในสนิ คา้ หรือบริการแล้ว ลำดบั ขน้ั ตอ่ ไปลกู ค้าก็จะทำการแสวงหาข้อมูล เพื่อใชป้ ระกอบการตดั สินใจ จากแหล่งตา่ งๆ โดยหากเป็นการใช้ส่อื ออนไลน์สงิ่ ทีง่ ่ายท่ีสุดสำหรับลูกค้าคือการ ใช้ Search engine 3. เปรยี บเทยี บทางเลอื ก เมื่อพบสินค้าหรือทางเลือกต่างๆแล้ว ลูกค้าก็จะประเมินทางเลือก โดยลูกค้าจะมีเกณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ ตดั สินใจ เชน่ ราคา ระยะทาง สะดวก ความเชื่อมน่ั คุณสมบัตสิ นิ คา้ เป็นตน้ 4. ตดั สินใจซอื้ เมื่อเปรียบเทียบทางเลือกแล้ว ลูกค้าก็จะเข้าสู่ในขั้นของการตัดสินใจซื้อ ในด้านต่างๆ เช่น ร้านค้า อะไร brand อะไร ปริมาณเท่าไหร่ ซื้อตอนไหน และใช้วิธกี ารชำระเงินอย่างไร 5. ประเมนิ ผล ไมว่ ่าจะรตู้ วั หรือไมก่ ็ตาม ลูกคา้ จะมกี ารประเมินผลส่ิงท่ีทำการซ้ือไป โดยจะเทยี บระหว่างคุณค่าของ สนิ ค้าทไี่ ด้รบั กับความคาดหวัง หากมากกวา่ หรือเทา่ กันกจ็ ะมีความพึงพอใจเกิดข้ึน เมื่อรู้กระบวนการตัดสินใจของลูกค้าผู้ประกอบการสามารถนำ หลัก Customer journey หรือเส้นทางเดิน ของลกู ค้าคอื มุมมองของผู้ขายว่าจะสร้างกจิ กรรมประเภทใดขน้ึ มาเพือ่ ทำให้ลกู ค้าเดินตามทางท่ผี ู้ประกอบการ ได้วางเอาไวเ้ ป็นข้ันๆ โดยควรเร่มิ จาก 1. รจู้ กั เป็นการเข้าถึงลกู ค้าและทำให้ลูกค้ารวู้ ่ามีสินค้าของผู้ประกอบการวางจำหน่ายอยู่ เช่นการลง โฆษณาใน YouTube 2. พิจารณา เป็นการทำให้ลูกค้าเริ่มพิจารณาสินค้าของผู้ประกอบการวางจำหน่ายอยู่ เช่นการ ออกแบบเนือ้ หาของคลิปโฆษณาใน Youtube นั้นใหต้ รงกับปัญหาของกลุ่มลูกค้าและเสนอทางเลือกเป็นการ ซ้ือสินคา้ ของผู้ประกอบการเพือ่ แกป้ ญั หา 3. เปรียบเทียบ เป็นการทำให้สินค้าของผู้ประกอบการเข้าไปเป็นตัวเลือกหนึ่งของลูกค้าเช่น การใช้ บริการ Google Adwords เพื่อทำให้เว็บไซต์ของผู้ประกอบการอยู่ในอันดับต้นเมื่อลูกค้าใช้ Key word เกี่ยวกับสินค้า Search ใน Google 4. ตัดสินใจซื้อ เป็นการที่ผู้ประกอบการทราบว่าสิ่งใดจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อของ ลูกคา้ ได้ เช่น การแจก codeลดราคาเพอื่ เร้าความร้สู กึ ใหล้ กู ค้าตัดสนิ ใจซอ้ื ในเวลาท่กี ำหนด 5. ภักดี เป็นการโน้มน้าวให้ลูกคา้ รกั และชอบในตัวสินค้า เกิดการซื้อซ้ำ และอยากบริโภคสินค้าของ ผู้ประกอบการตลอดไป เช่นการเชิญชวนให้ลูกค้า Review สินค้าผ่านระบบอีเมล หรือการแจกแต้มออนไลน์ ใหล้ กู ค้าสะสมเป็นส่วนลดในการซอ้ื สินคา้ ครั้งถดั ไป มหาวิทยาลัยราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหนา้ เมือง อำเภอเมอื ง จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
โดยสรุปเมื่อผู้ประกอบการทำความเข้าใจกระบวนการตัดสินใจของลูกค้าแล้วจะสามารถเลือกใ ช้ เครื่องมือออนไลนใ์ นรูปแบบต่างๆ เพื่อการโน้มน้าวให้ลูกค้าเดินตามเส้นทางเดินของลูกค้า หรือ Customer journey ที่ได้วางแผนไว้ โดยสามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและยังผลสำเร็จแก่ ธุรกจิ มากท่ีสดุ กรณศี กึ ษาผูป้ ระกอบการร้านอาหารทีข่ ายสินค้าผ่านชอ่ งทางออนไลน์ ผูป้ ระกอบการรา้ นคา้ เชน่ รา้ นอาหารในปัจจุบันมีจำนวนมากมายมหาศาล การทำให้รา้ นค้าและสินค้า ของตนเองโดดเดน่ เพียงพอเพื่อแขง่ ขนั ไดต้ ้องอาศยั หลกั การท่ถี ูกต้องมาประยกุ ตใ์ ช้ ด้านสินค้า ควรศกึ ษาทำความเข้าใจในตวั สินคา้ ประวัตเิ บอ้ื งหลัง ลกั ษณะของตัวสนิ ค้า จากนน้ั สามารถนำมา พัฒนา ปรับปรงุ เพ่ือสร้างจดุ เดน่ ของตัวสนิ ค้าให้แตกต่างกบั คู่แข่งขนั เพ่ือเชอ่ื มโยงกับความตอ้ งการของลูกค้า ในตลาดเป้าหมายเช่นนำสินค้า หรือ วัตถุดิบจากต่างชาติมาปรับให้เข้ากับความต้องการและรสนิยมของคน ไทย กระบวนการก่อนนำสินคา้ ออกจำหนา่ ยจำเป็นที่จะต้องอาศัยการวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของลกู ค้าที่ เป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารสินค้าและการคัดเลือกสรรหาวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพและอยู่ในช่วงราคาที่ลูกคา้ ต้องการ และสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้อำนวยความสะดวก เพิ่มความรวดเรว็ และลดตน้ ทนุ ในการจัดซ้ือสรร หาสนิ คา้ อาทิ บรกิ ารของ Google Drive ,Line, และ internet banking นอกจากนี้การบริหารจดั การสินคา้ ในขาขายออกไปสูล่ ูกค้าไมไ่ ด้จำกดั อยู่แค่ธรุ กิจที่อย่บู นโลกออนไลน์ อย่างเดียวเท่านั้น ธุรกิจที่มีหน้าร้านเช่นร้านอาหารก็สามารถเปิดตัวเป็นร้านค้าออนไลน์โดยอาศัยช่องทาง โซเชียลมีเดียเช่น Facebook, twitter, Instagram, Line ในการทำให้ลูกค้ารู้จักธุรกิจ การโฆษณาเช่น การ ยิง Ad ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การส่งเสริมการขาย เช่น การแจ้ง Promotion ประจำเดือน การเป็น ชอ่ งทางในการส่งั ซ้ือสนิ คา้ เชน่ การเข้าร่วมกับ Platform marketplace เชน่ Lineman และการเป็นช่องทาง สรา้ งความภักดใี ห้กับลกู ค้าในการShareและReviewสินคา้ 4. ประเภทและการแบ่งหมวดหมู่ของสินค้า สินค้าทขี่ ายออนไลนน์ ัน้ สามารถขายไดท้ กุ อย่าง อยา่ งไม่มขี ้อจำกัด ข้นึ อยู่กบั ความพึงพอใจและเช่ือใจ กันระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย แต่เราสามารถแบ่งกลุ่มสินค้าตามลักษณะทางกายภาพ สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. การแบ่งกลุ่มสินคา้ สำหรับรา้ นคา้ ออนไลน์ตามลักษณะทางกายภาพ 1.1 กลุ่มบริการ เช่น ตั๋วเครื่องบินเพื่อการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ การจอง โรงแรมทพ่ี ัก หรอื การซอื้ Voucher ลดราคาโรงแรม สปา คอร์สออนไลน์เพอ่ื การศกึ ษา เปน็ ตน้ 1.2 กลุ่มสินค้า สามารถแบ่งได้ในเบื้องต้น 2 ลักษณะ ได้แก่ สินค้าที่จับต้องได้ เช่น เสื้อผ้า ของใช้อุปโภค บริโภค เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เฟอร์นิเจอร์ รถยนต์ ที่อยู่อาศัย อุปกรณ์ IT และสินค้าที่จับต้อง ไม่ได้ ได้แก่ กลุ่มสินค้าประเภท digital เช่น Application ต่างๆ, โปรแกรมคอมพิวเตอร์, เพลง , ภาพยนตร์, รปู ภาพ, VDO, Item ในเกม online เปน็ ตน้ 2. การแบง่ กลุ่มสนิ ค้าสำหรับร้านคา้ ออนไลนต์ ามพฤติกรรมการซ้ือของลกู คา้ 2.1 สินค้าสะดวกซื้อ (Convenience Goods) คือ กลุ่มสินค้าที่สามารถกินหรือใช้ใน ประจำวันทีม่ ีราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย สะดวกในการซื้อโดย และไม่ต้องใช้ความพยายามในการเดินเลือกซ้ือ มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครินทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหน้าเมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชิงเทรา
หรอื เปรียบเทยี บกอ่ นซอ้ื เช่น ผงซกั ฟอก สบู่ ผ้าอนามยั เปน็ ตน้ ลักษณะทีแ่ สดงใหเ้ หน็ ว่าเป็นสนิ คา้ สะดวกซ้ือ ไดแ้ ก่ · เป็นสินค้าไม่คงทนถาวร (Non-durable products) และเป็นสินค้าที่โดยปกติใช้อยู่เป็นประจำและซื้อ บอ่ ยๆ เปน็ สินค้าทรี่ าคาไม่แพง เป็นสินคา้ ท่ีผซู้ ้ือมกั จะซื้อโดยตราสนิ ค้าท่ีเคยซ้ือเป็นประจำ เป็นสินค้าท่ีผู้ ซื้อมีนิสัยและการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็วและง่ายๆ โดยไม่ต้องมีการเปรียบเทียบคุณภาพและราคากับตรา สินคา้ ทมี่ กี ารแข่งขัน เป็นสินค้าท่ีมลี ักษณะเน้นหนักถึงความสะดวก ซ่งึ ลูกคา้ จะหาซ้ือไดจ้ ากร้านค้าปลีกแทบ ทุกประเภทโดยท่ัวไป 2.2 สินค้าเปรียบเทียบซื้อ (Shopping goods) เป็นสินค้าที่ผู้ซื้อต้องการเลือกสรรก่อนซื้อ และจะเปรียบเทียบคุณสมบัติต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เช่น ราคา รูปแบบ แหล่งที่ขาย หรือผู้ผลิต ก่อนการ ตัดสินใจซื้อ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน คอมพิวเตอร์ ลักษณะที่แสดงให้เห็นวา่ เปน็ สินคา้ เปรียบเทียบซือ้ ได้แก่ • เป็นสนิ คา้ ประเภทคงทนถาวร (Durable Goods) และอายุการใชง้ านนาน • เป็นสนิ คา้ ทม่ี ีราคาคอ่ นข้างสูง • เป็นสนิ คา้ ท่ีลูกค้าจำเป็นตอ้ งคำนึงถงึ ตราสนิ ค้า คุณภาพ ประโยชนก์ ารใช้เป็นอันดับแรก และราคา • เป็นสินค้าที่ลูกค้ามักจะใช้เวลานานในการตัดสนิ ใจซือ้ เพราะตอ้ งใช้ความพินิจพิเคราะห์ และเปรียบเทียบในการซื้อ นอกจากนี้ สนิ คา้ เปรยี บเทยี บซอ้ื สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภทยอ่ ยๆ ไดด้ ังน้ี 2.2.1 สนิ คา้ เปรยี บเทยี บซ้ือแบบเดยี วกัน (Homogeneous Shopping Goods) คอื สนิ ค้าที่ มีรูปแบบเดียวกัน คล้ายกัน มาตรฐานเดียวกันในรูปทรงขนาดคุณสมบัติ ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อโดย เปรยี บเทียบคณุ สมบตั ิ และอรรถประโยชนห์ ากเทา่ กันจะตัดสินดว้ ยราคา 2.2.2 สนิ ค้าเปรียบเทียบซอ้ื ท่ีต่างแบบกัน (Heterogeneous Shopping Goods) คือ สินค้า ที่มีคุณลักษณะต่างกัน คล้ายกัน รูปแบบ สี ขนาด คุณสมบัติ การรับประกัน เป็นต้น ผู้บริโภคจะตัดสินใจซ้ือ โดยเปรียบเทียบ ความแตกตา่ งทไ่ี มเ่ หมือนสนิ คา้ ยี่ห้ออ่ืน 2.2.3 สินค้าเจาะจงซื้อ (Specialty Goods) สินค้าประเภทนี้เป็นสินค้าที่ลูกค้าตอ้ งใช้ความ พยายามอย่างมากในการแสวงหาและมีความตั้งใจซื้อ การจะใช้สินค้าอื่นมาทดแทนยังตอ้ งอาศัยเวลาในการ ตัดสินใจนานกว่าจะซื้อ หรือมีความลังเลและคิดอยู่นานที่จะยอมรับสินค้าทดแทนนั้น เช่น นาฬิการาคาแพง รถยนต์รุน่ พเิ ศษ เสอ้ื ผ้าแบบพเิ ศษทำจากต่างประเทศ ผา้ ลกู ไม้สวิส ฯลฯ ซงึ่ ล้วนแตม่ ลี ักษณะเดน่ เป็นพิเศษซ่ึง สามารถบ่งบอกระดบั ผู้ใช้ รสนิยมผใู้ ช้ ตลอดจนสถานะของผู้ใช้ เป็นสินค้าท่ีเกิดจากความรู้สกึ พอใจเป็นพิเศษ ลูกค้าจะมีความจงรกั ภักดีต่อตราสนิ คา้ ในระดบั ท่ีสูงมากกว่าสนิ ค้าประเภทอน่ื จะมีความรู้สึกวา่ “ถา้ ไมใ่ ช่ย่ีห้อ น้ี ฉันจะไมใ่ ชเ้ ด็ดขาด” 2.2.4 สินคา้ ไม่แสวงซ้อื (Unsought Goods) เปน็ สินค้าใหมท่ เ่ี พ่งิ วางตลาด หรอื เป็นสินค้าท่ี มีราคาสงู เกนิ อำนาจซ้ือของลูกคา้ แตล่ ะคน หรือลกู คา้ คนน้นั ไมเ่ หน็ ความสำคญั หรอื ไมเ่ หน็ วา่ มีความจำเป็นต่อ ชวี ิต ซึ่งแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื (1) สินค้าเป็นท่ีรู้จักแต่ยังไม่มีความต้องการซื้อ (Regularly unsought goods) เพราะผู้บรโิ ภคยงั ไม่ เขา้ ใจหรอื เหน็ ประโยชนท์ ี่จะไดร้ บั เชน่ ประกันชีวติ มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหนา้ เมอื ง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
(2) สินค้าใหม่ ยังไม่เป็นที่รู้จัก (New product unsought goods) เป็นสินค้าที่ลูกค้ามิไดร้ ู้จักหรือมี ความรู้เกี่ยวกับสินค้าประเภทนีม้ าก่อน หรืออาจจะรู้จักมาบ้างแต่มิได้ใหค้ วามสนใจท่ีจะต้องแสวงรู้ ลักษณะ ของสินค้าประเภทนีม้ กั จะเป็นสนิ ค้าใหม่ๆ ทอ่ี อกสตู่ ลาด หรอื เป็นสนิ คา้ ใหมท่ ี่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยผู้ผลิตจะ เป็นผปู้ ระดิษฐค์ ิดคน้ ขึ้นมาแลว้ นำออกสู่ตลาดโดยใช้ความพยายามในการส่งเสรมิ การตลาดสงู เช่น ทุ่มโฆษณา ประชาสัมพันธเ์ พือ่ แนะนำการตลาด และในขณะเดียวกัน การจัดจำหนา่ ยก็จะกระจายออกไปเพื่อให้ผู้บริโภค ได้รจู้ ักผ่านตาและตระหนกั วา่ ยังมสี นิ คา้ ประเภทนเ้ี พมิ่ เข้าสตู่ ลาด 5. แนวทางในการเลอื กซอ้ื สนิ ค้าสำหรบั รา้ นค้าออนไลน์ 1. ความหลากหลายของสินค้าในร้านค้าออนไลน์ คือ ประเภทสินค้าทีม่ ีจำหน่ายอย่างหลากหลาย ทั้งขนาด ราคา และคุณภาพ เพื่อให้ลกู ค้าสามารถมีทางเลอื กทำใหซ้ ้ือได้ตามความตอ้ งการ เช่น ขายกระเป๋า แตม่ ีหลายสี หลายรุ่น หลายราคา 2. ความสนใจของกลุ่มลูกคา้ เจ้าของร้านควรตามเทรนปัจจุบนั วา่ อะไรกำลังเป็นเรอ่ื งราวที่พูดถึงกัน ในสังคมออนไลน์ ละครเร่อื งอะไรกำลังอยู่ในกระแสนิยม reviewer คนไหนกำลงั เปน็ ท่ีนิยม หรือกระแสอะไร กำลังนยิ ม เช่น กระแสออกกำลงั กาย กระแสรักสุขภาพ กระแสลดโลกร้อน เปน็ ตน้ หากเราเขา้ ถึงความสนใจ ของกลุ่มลกู คา้ ได้ เรากจ็ ะสามารถเลือกสินคา้ ไดต้ รงใจกับกลุ่มเป้าหมาย 3. ภาพพจนข์ องรา้ น เปน็ สง่ิ จำเป็นในการตัดสนิ ใจที่ทำให้ลกู คา้ เลือกเข้ามาหน้ารา้ นค้าออนไลน์ของ เรา ถ้าภาพพจน์ของร้านเป็นแนวน่ารักสดใส กลุ่มลูกค้าที่เข้าก็จะเป็นคนมองโลกในแง่ดี มีความเป็นเด็กใน ตัวเอง และชอบสิ่งของโทนสีสดใส เช่นกัน ดังนั้น สินค้า หน้าร้าน และกลุ่มลูกค้าต้องไปในทิศทางเดียวกัน หรือทีเ่ รียกวา่ การคมุ โทนของร้าน 6. วิธีการสั่งซือ้ สนิ ค้าสำหรบั รา้ นคา้ ออนไลน์ 1. กำหนดวัตถุประสงค์ของการสั่งซื้อที่ชัดเจน หากเราต้องการขายสินค้าตามกระแสนิยม น่ัน หมายความว่าผขู้ ายต้องติดตามศกึ ษาแนวโนม้ ของสินคา้ ท่ีเราสนใจตลอดเวลา และสามารถพยากรณอ์ นาคตได้ ด้วยวา่ กระแสนีจ้ ะคงอยยู่ าวนานแคไ่ หน เราซื้อสนิ ค้าเหลา่ นน้ั ด้วยวตั ถปุ ระสงค์ใด เช่น ซ้ือเพ่ือใหร้ ้านเราอยใู่ น กระแสนิยม หรือซื้อเพ่ือจัดโปรโมชั่น ถา้ หากต้องการความมนั่ คงในธุรกิจออนไลน์ระยะยาว การศึกษาวิถีทาง ของตลาดและการพยากรณ์กระแสนิยมที่แม่นยำจะนำไปสู่การเติบโตอย่างมีเสถยี รภาพ 2. พจิ ารณาแหลง่ สินค้าท่ีสำคัญ แหล่งซอื้ สินคา้ สง่ ผลต่อคุณภาพสินค้า และตน้ ทนุ ของสนิ ค้า เราควร มีการเปรยี บเทียบแหลง่ ซื้อสินคา้ จากแหลง่ ต่างๆ ใหร้ อบคอบ และถี่ถ้วนก่อนการตัดสนิ ใจซือ้ ไม่วา่ จะเป็นการ ซอ้ื จากแหลง่ ขายสง่ เช่น ประตูน้ำ สำเพ็ง หรอื จะเปน็ แหล่งรับผลิตสนิ ค้า รบั สง่ั ทำ เช่น สถานที่รับผลิตสินค้า หรือ โรงงานผลิตขนาดใหญ่ โดยเราควรศึกษาข้อมูลที่สำคัญๆ ในการสั่งซื้อ เช่น ระยะเวลาในการผลิต ระยะเวลาในการจดั สง่ รวมถึงการหาขอ้ มลู ประวัติของร้านคา้ ว่า เคยมีปัญหากับร้านคา้ อ่ืนๆ หรอื ไม่ ก่อนทเ่ี รา จะตดั สนิ ใจเลอื กแหล่งซือ้ สนิ คา้ ของเรา 3. ประมาณการจำนวนสนิ ค้าได้แม่นยำ การสัง่ ซอื้ สินคา้ ในจำนวนท่ีถูกต้อง ตรงกับความต้องการของ กลุ่มเป้าหมาย ต้องมีการคาดคะเนยอดขายที่คาดว่าจะเกิดขึ้น รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่จะส่งผลต่อการกำหนด ปริมาณการส่ังซอ้ื หากเราคาดคะเนได้ถูกต้องและสัง่ สินค้าได้พอดี ก็จะลดภาระการจดั เก็บสินค้าตอ่ ไป 4. ซื้อในจังหวะที่เหมาะสม บางช่วงจังหวะของตลาด ราคาซื้อจะขึ้นลงได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัจจยั การผลติ สงู ข้ึน การข้ึนค่าแรง ค่าน้ำมนั หรอื คา่ วัตถดุ ิบของสินคา้ ทเี่ ราต้องการ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรุพงษ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
ดังน้ันเราควรคาดการณศ์ กึ ษาตลาดท่เี ราจะซอื้ ใหร้ อบคอบกอ่ นการตดั สินใจซอ้ื 7. รูปแบบและเทคนคิ การนำเสนอสำหรับร้านคา้ ออนไลน์ รูปแบบการนำเสนอสินค้าสำหรับร้านคา้ ออนไลน์มีดว้ ยกันหลายวิธี แตว่ ิธที ผ่ี ูป้ ระกอบการนิยมใช้กัน คือ การนำเสนอด้วยวิดีโอภาพนง่ิ การรีววิ ด้วยผมู้ อี ทิ ธิพล การนำเสนอโดยมงุ่ เน้นเนือ้ หา 1. การนำเสนอด้วยวิดีโอ 2. ภาพนิ่ง 3 Infographic 4. การรีวิวด้วยผูม้ อี ิทธิพล (Influencer) 5. การนำเสนอโดยมุ่งเนน้ เนอื้ หา ภาพน่ิง เป็นภาพที่นำเสนอสินค้าหรือร้านเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจหลักสำคัญคือต้องมีการถ่ายภาพใน มมุ มองทห่ี ลากหลายและตอ้ งเปน็ มุมมองท่ีผู้บรโิ ภคอยากเห็น เช่น ภาพเห็นสนิ คา้ แบบทงั้ ช้ิน หรือบางจดุ ท่เี ป็น จดุ เดน่ ไม่ได้หมายความวา่ จะมีเพยี งแคภ่ าพเดียว อาจมี 3-4 ภาพกไ็ ด้ ข้ึนอยู่กบั ว่าผู้ขายอยากนำเสนอจุดขาย ใดของสินค้า ข้อควรระวังกค็ ือภาพน่ิงมนั ไมม่ ีเสียง ต้องมีคำอธิบายใต้ภาพเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กบั ลูกค้า มากขึ้นโดยข้อความที่ใช้ต้องบอกเล่าถึงเรื่องราวของผลิตภัณฑ์หรือตั้งคำถามเพื่อดึงดูดความสนใจหรือตัว ขอ้ ความน้นั อาจจะบอกถึงผลประโยชน์ทจ่ี ะใหก้ ับผบู้ รโิ ภค Infographic คือการนำข้อมูลหรือความรู้มาสรุปเป็นสารสนเทศ ในลักษณะของข้อมูล ภายในภาพ นั้นอาจ ประกอบดว้ ย สญั ลักษณ์ กราฟ แผนภูมิ ไดอะแกรม แผนท่ี การนำเสนอดว้ ยวดิ ีโอ การนำเสนอด้วยวิดีโอเป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างมากเพราะได้เห็นทั้งภาพได้ยินทั้งเสียงเห็นอารมณ์ ความรสู้ ึก ช่วยกระตุ้นให้ผบู้ รโิ ภคเกดิ ความสนใจในตัวสนิ ค้าไดง้ ่ายขึน้ โดยวิดโี อน้ันจะเป็นวิดีโอที่ร้านถ่ายทำ เองหรือเปน็ การจา้ งมอื อาชพี มาถา่ ยทำข้นึ อยกู่ บั ความเหมาะสมของแต่ละร้าน การรีวิวด้วยผูม้ อี ทิ ธิพล (Influencer) การนำเสนอด้วยการใช้การรีวิวก็เป็นอีกหนึ่ง การนำเสนอที่มีผู้นิยมใช้กันอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการใช้ดารา เนต็ ไอดอล หรอื ลูกคา้ ท่ีเป็นผ้ทู ่เี คยซอื้ หรอื เคยใช้สนิ ค้ามายืนยนั วธิ นี จี้ ะชว่ ยสรา้ งความน่าเช่ือให้กบั รา้ นเราได้ การนำเสนอโดยมงุ่ ทเี่ น้อื หา การนำเสนอโดยมุ่งที่เนื้อหาคือการชูจุดเด่นด้านคุณภาพของสินค้าหรือการมีผลการวิจัยมายืนยันมา รองรบั ว่าสินคา้ ของเราดี ใชแ้ ล้วเห็นผลจริง มีรางวลั ยนื ยนั ผลวิจยั รับรอง สิง่ เหล่านกี้ จ็ ะชว่ ยให้ลูกค้าเกิดความ นา่ เชือ่ ถอื และตดั สนิ ใจได้ง่ายข้ึน หลกั การนำเสนอสนิ ค้าสำหรบั ร้านคา้ ออนไลน์ หัวใจสำคัญของการนำเสนอสนิ ค้าออนไลน์ คอื 1. ร้จู กั ลูกค้าและพฤติกรรมลูกคา้ 2. รจู้ ักสนิ ค้าของตนเอง 3. รจู้ กั การใช้เนื้อหา (Content) ในการนำเสนอ และเลอื กใช้ช่องทางออนไลนท์ เี่ หมาะสม มหาวิทยาลัยราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวดั ฉะเชงิ เทรา
รจู้ ักลูกคา้ และพฤตกิ รรมลูกค้า การท่ีผปู้ ระกอบการรู้จักลกู ค้าและเขา้ ใจพฤติกรรมลูกค้า จะทำใหร้ วู้ า่ ควรจะสอื่ สารกับลูกค้าอย่างไร รปู แบบใด ผา่ นชอ่ งทางใดจงึ จะเหมาะสม การเรยี นรูพ้ ฤติกรรมลูกคา้ เริ่มไดจ้ ากคำวา่ customer journey คือ ขนั้ ตอนพฤติกรรมลกู คา้ ในการเลือกซอ้ื สินค้าตั้งแต่กอ่ นจะซอ้ื ไปยงั หลังซอ้ื ซ่ึงประกอบไปดว้ ย 4 ขน้ั ดงั นี้ ขนั้ ที่ 1 การรู้จกั กับสินคา้ (Awareness) ขน้ั ที่ 2 การค้นหาขอ้ มูลสนิ ค้า (Search) ข้ันท่ี 3 การตัดสินใจซ้อื สินคา้ (Purchasing) ขนั้ ที่ 4 การบอกต่อ (Share) ขั้นท่ี 1 การรู้จักกับสินค้า (Awareness) ร้านค้าออนไลน์ควรทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าและ ร้านค้าของเรา อาจทำได้โดยการโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ให้ลูกค้าได้มีโอกาสรู้จักกบั ร้านค้าและสินค้า เช่น ถา้ คุณเปิดร้านอาหาร อาจดำเนินการสร้าง Facebook page Instagram หรอื ชอ่ งทางอนื่ ๆ อาจจะเป็นการไป เปน็ พนั ธมติ รกับเวบ็ ไซตท์ ่ีคนรู้จกั เยอะอย่แู ล้ว เช่น เวบ็ ไซต์แนะนำรา้ นอาหาร หรอื สถานทท่ี อ่ งเทย่ี ว ขั้นที่ 2 การค้นหาข้อมูลสินค้า (Search) เมื่อลูกค้าได้รู้จักสินค้าหรือร้านค้าแล้ว ลูกค้าจะ ต้องการอยากทราบข้อมลู โดยการคน้ หาข้อมูลของสนิ คา้ หรือร้านค้าออนไลน์ ดงั นั้นสิง่ ที่ร้านค้าออนไลน์ควรให้ ความสำคัญคือ การทำให้ลูกค้าสามารถหาข้อมูลของร้านค้าและสนิ ค้าเจอ เช่น เมื่อลูกค้าสนใจซื้อสินค้าชนิด ไหน แล้วไปกดคน้ หาใน google โดยปกติ คนทว่ั ไปจะสนใจ website ท่ี search เจอเป็นอนั ดับตน้ ๆ และก็จะ กดเข้าไปดู ดังนั้นหากคุณมีหน้าร้านออนไลน์บนเว็บไซต์ควรทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาร้านค้าออนไลน์เจอ นอกจากนีส้ ่งิ ทต่ี อ้ งใหค้ วามสำคญั อกี ประการ คอื การให้ข้อมูลครบถว้ น เช่น ราคา คณุ สมบัติ วิธีการจัดส่ง การ ชำระเงิน เปน็ ตน้ ข้ันท่ี 3 การตัดสินใจซ้อื สนิ คา้ (Purchasing) รา้ นค้าออนไลน์ควรมีการวางแผนว่าทำอย่างไร ใหล้ กู ค้าตัดสินใจซือ้ สนิ คา้ รา้ นค้าของเราหรือแบรนด์เรา เชน่ การทำเนือ้ หาท่ีน่าสนใจ มีการทำโปรโมชัน่ มกี าร รวี วิ สนิ ค้าโดยผมู้ ีอทิ ธิพล การรีววิ สินคา้ ให้เห็นความแตกต่างระหว่างกอ่ นใชแ้ ละหลังใช้ เป็นต้น ขั้นท่ี 4 การบอกต่อ (Share) ในช่องทางออนไลน์ ความคิดเห็น หรือข้อมูลต่างๆ สามารถ กระจายหรือเผยแพร่ไปในวงกว้างได้อยา่ งรวดเร็ว ดังนั้น ในขั้นตอนนี้จึงเป็นขั้นตอนที่ร้านค้าออนไลน์ควรให้ ความสำคญั เพราะจะนำไปสกู่ ารบอกต่อร้านคา้ ของคณุ ซึง่ จะทำใหร้ า้ นของคุณเขา้ ถงึ ลูกค้าไดจ้ ำนวนมากและ เกิดผลดีต่อธุรกิจ แนวทางง่ายๆ ในขั้นนี้ คือ การสนับสนุนให้ลูกค้าแชร์ต่อโดยอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษ เพ่ือ บอกตอ่ กับเพื่อน การมกี จิ กรรมพิเศษให้ลกู คา้ ร่วมสนุก สร้าง content สำหรับสนิ ค้าหรือรา้ นคา้ ให้น่าสนใจให้ ลูกคา้ อยากแชร์ต่อ หรือมีช่องทางที่สามารถแชร์ต่อไปยงั สือ่ สังคมออนไลนไ์ ด้อยา่ งง่ายๆได้ รู้จักสินคา้ ของร้านค้าตนเอง ลูกค้ามักจะมีกระบวนการการตัดสินซื้อผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไม่เหมือนกัน ซึ่งโดยปกติสินค้า สามารถแบ่งได้ออกเปน็ หลายประเภท แต่ในท่นี ี้ขอแบ่งประเภทสินคา้ ออกเป็น 2 ประเภทง่ายๆ ได้แก่ 1. สินค้าประเภทที่มีความเกี่ยวพันสูง (High Involvement ) คือ สินค้าที่ลูกค้ามักจะหา ข้อมูลและตอ้ งใช้ความคดิ ไตร่ตรองก่อนการตัดสินใจซ้อื ค่อนขา้ งมาก ลูกค้ามกั จะหาขอ้ มูลเพอ่ื สร้างความมั่นใจ กอ่ นการตัดสนิ ใจซ้อื โดยสว่ นใหญ่แลว้ จะเปน็ สินคา้ ทมี่ รี าคาสูงและเปน็ สินค้าทลี่ กู คา้ ซื้อไมบ่ อ่ ย วธิ ีงา่ ยๆ ของการนำเสนอสนิ คา้ ประเภทน้ี คือ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหนา้ เมอื ง อำเภอเมือง จงั หวดั ฉะเชิงเทรา
• ให้ขอ้ มูลความรเู้ ก่ยี วกับตวั สนิ คา้ น้ันๆ อย่างชัดเจน ครบถ้วน • เลือกช่องทาง และการติดต่อที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือและเชื่อมั่น เช่น ชอ่ งทาง website • มกี ารนำเสนอถงึ การมบี ริการหลงั การขาย 2. สินค้าประเภททม่ี ีความเกีย่ วพันต่ำ (Low Involvement) สินคา้ ประเภททไ่ี ม่จำเป็นต้องมี การหาข้อมูลหรือคดิ ไตร่ตรองกอ่ นการซอ้ื มากนกั ลูกคา้ สามารถตัดสินใจซอื้ สนิ ค้าได้ทันที โดยสว่ นใหญ่จะเป็น สนิ คา้ ราคาไม่สูงและเป็นสินคา้ ทลี่ ูกค้าซอื้ บ่อย • วธิ งี ่ายๆ ของการนำเสนอสนิ คา้ ประเภทน้ี คือ • การนำเสนอผลติ ภณั ฑใ์ ห้โดดเด่นนา่ สนใจ และสรา้ งความแตกต่างใหก้ บั สนิ ค้า • มีชอ่ งทางการจดั จำหนา่ ยอยา่ งทวั่ ถงึ ซือ้ ง่าย มีช่องทางตดิ ตอ่ ชัดเจน การแข่งขนั ด้านราคา หรอื โปรโมชน่ั 3. รู้จักการใช้เนื้อหาในการนำเสนอและเลือกใช้ช่องทางออนไลน์ที่เหมาะสมหลักการการ เลอื กเคร่ืองมือการนำเสนอในช่องทางออนไลน์ • ต้องเหมาะสมในการเข้าถงึ กลุม่ เป้าหมายหลัก • เหมาะสมกบั ประเภทของสินค้า • เหมาะสมกับขอ้ มลู ที่ตอ้ งการจะสือ่ สารไปยงั ลูกค้า เอกสารอ้างองิ Thai Moocs. หลักสูตรเทคนิคการบริหารสินค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ . สืบค้นจาก lms.thaimooc.org มหาวิทยาลัยราชภฏั ราชนครนิ ทร์ www.rru.ac.th 422 ถนนมรพุ งษ์ ตำบลหนา้ เมือง อำเภอเมอื ง จงั หวดั ฉะเชิงเทรา
Search