ภาคเทคโนโลยสี ื่อสารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั นเรศวร
ระบบการจดั การเรียนการสอนบนเครือขา่ ย Learning Management System on Networks เรียบเรยี งโดย นางสาวศศวิ ิมล ปรเี ปรม
คำ�นำ� การเรียบเรยี งเอกสารประกอบการสอนรายวิชา 374415 ระบบการ จัดการเรยี นการสอนบนเครือขา่ ย Learning Management System on Networks เปน็ ส่วนหน่ึงของการจัดการเรียนการสอนในรายวชิ าเทคโนโลยี สอ่ื ส่งิ พมิ พ์ เรยี บเรียงโดยนิสิตหลกั สตู รศลิ ปศาสตร์บณั ฑิต เทคโนโลยีสื่อสารการ ศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร ผู้เรียบเรยี งหวังวา่ การเรียบเรยี งครง้ั น้มี ปี ระโยชนต์ ่อผู้สนใจไม่มากกน็ อ้ ย ศศวิ มิ ล ปรเี ปรม ผ้จู ัดท�ำ
สารบญั เรอ่ื ง หนา้ บทที่ 1 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 1 ความหมาย ของระบบการเรยี นการสอนบนเครือขา่ ย 2 OSI Model 3-4 การออกแบบการเรียนการสอน 4-10 การออกแบบการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ น่ิง 5 บทที่ 2 การบริหารจัดการเรียนการสอนบนระบบเครือข่าย Elearning 11 ความหมายของระบบจดั การเรยี นการสอน 12 องคป์ ระกอบหลกั ของระบบจัดการเรยี นการสอน 13-14 ลกั ษณะของระบบจดั การเรยี นรู้การสอน 15 ระบบจัดการเรียนการสอน กรณีศกึ ษาการใช้ Moodle LMS 16-18 การใชง้ านระบบจดั การเรียนการสอน 18 บทที่ 3 การประยุกต์ใช้บทเรียนบนระบบเครอื ขา่ ย 19 บทท่ี 4 การพฒั นาส่ือการเรยี นรู้ผา่ นระบบเครือข่าย 23 รูปแบบของ ADDIE Moodel บรรณานุกรม 29
บทท่ี 1 ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ 1 บทท่ี 1 ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์
2 บทท่ี 1 ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ บทท่ี 1 ของระบบการเรยี นการสอนบนเครอื ขา่ ย ระบบคอมพวิ เตอร์ (Computer System) ในการใช้คอมพวิ เตอร์ท�ำ งานแล้ว ใหไ้ ด้ผลลัพธอ์ อกมาตามความต้องการของผู้ใช้งานน้ัน ย่อมต้องมีองคป์ ระกอบทเ่ี รยี ก วา่ ระบบคอมพิวเตอร์เขา้ มาเก่ยี วข้องเสมอ ระบบคอมพวิ เตอรป์ ระกอบดว้ ยอปุ กรณ์ อิเลก็ ทรอนกิ สห์ ลายประเภททำ�งานร่วมกนั โดยมีคำ�สั่งหรอื ทเี่ รียกว่าโปรแกรมเปน็ ตวั สั่งการให้อปุ กรณเ์ หล่าน้นั ทำ�งานไดต้ ามทมี่ นษุ ยต์ ้องการ ดังนน้ั เมื่อกล่าวถึงระบบ คอมพิวเตอรส์ ่ิงสำ�คญั ของระบบจงึ ไดแ้ ก่ ฮาร์ดแวร(์ hardware) ซอฟตแ์ วร์(software) และบคุ ลากร(Peopleware) นน่ั คอื เครอื่ งคอมพวิ เตอรจ์ ะทำ�งานได้ตอ้ งประกอบดว้ ย องคป์ ระกอบ 3 ประการ คือ 1. ฮารด์ แวร์ (Hardware) 2. ซอฟแวร์ (Software) 3. พเี พลิ แวร์ (People Ware) OSI Model OSI เป็นระบบเปดิ ( Open System ) ท่ีอนุญาตใหร้ ะบบทมี่ ีความแตกต่างกัน สามารถสือ่ สารระหว่างกนั ได้ กลา่ วคือ มาตรบานแบบจำ�ลอง OSI ทจ่ี ดั ทำ�ขน้ึ มาน้ัน กเ็ พ่อื วตั ถปุ ระสงค์ให้ระบบที่มีความแตกตา่ งกนั สามารถ สอ่ื สารกันไดด้ ว้ ยการ ใชม้ าตรบานการส่ือสารทเ่ี ป็นสากล โดย ไมม่ ีความจำ�เปน็ ท่ีจะ ต้องไปเปล่ยี นแปลงฮารด์ แวร์หรอื ซอฟต์แวรใ์ ด ๆ อย่างไรกต็ าม แบบจำ�ลอง OSI ไมใ่ ช่ โปรโตคอล ดังทห่ี ลายคนเขา้ ใจ กันแต่เป็นเพยี งแบบจ�ำ ลองแนวความคิด ท่อี อกแบบมา เพอ่ื สรา้ งความเข้าใจในสถาปตั ยกรรมเครือขา่ ย และปัจจุบนั กไ็ ดม้ กี ารน�ำ โมเดลนีม้ าเปน็ แบบจำ�ลองทางสถาปตั ยกรรมหลกั ส�ำ หรบั การ สอ่ื สารในระดบั สากล
บทที่ 1 ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ 3 1. layer 1 (physical layer) เป็นลักษณะทางกายภาพของการติดต่อระหว่าง อุปกรณ์ เชน่ ระดบั แรงดนั ไฟฟา้ กระแส อปุ กรณ์เชือ่ มต่อ ซ่ึงจะเป็นการเชอ่ื มตอ่ ระหว่าง node กับ node ในเครือข่ายเดียวกัน 2.layer 2 (data link layer) เป็นสว่ นของการกำ�หนดขอบเขต การเขา้ รหัส รวม ไปถงึ กลไกการป้องกัน เช่น CRC จะเปน็ การแจ้งจำ�นวนbits ซ้ำ� เพอ่ื ป้องกันการสง่ bits ซ้ำ� ๆ กัน ซ่งึ จะทำ�ให้เกิดลำ�ดบั ของสัญญาณท่ียาวเกินไป 3. layer 3 (network layer) ลกั ษณะของ network จะถกู กำ�หนด เพือ่ ทจ่ี ะ แนใ่ จได้ว่าขอ้ มูลจะถูกส่งไปตามเส้นทางท่ีได้กำ�หนด 4. layer 4 (transport layer) จะเปน็ การก�ำ หนดชอ่ งทางการติดต่อระหว่าง node 2 node ทีต่ อ้ งการ 5.layer 5 (session layer) เมือ่ การติดตอ่ ระหว่าง node 2 node ไดเ้ กดิ ขนึ้ ก็ จะเรมิ่ มีการรบั สง่ สัญญาณการทำ�งาน 6.layer 6 (presentation layer) ถา้ 2 node ทกี่ ำ�ลังติดต่อกนั ใช้รูปแบบของ ข้อมลู ท่ีต่างกนั เช่น ASCII, extended 16-bit code layer นจ้ี ะทำ�การแปลงรูปแบบ ขอ้ มลู เพื่อใหส้ ามารถเข้ากันได้ 7.layer 7 (application layer) เปน็ ส่วนของการกำ�หนด application inter- face ในการแสดงผล ไมม่ ีความเก่ยี วข้องกับข้นั ตอนการติดตอ่ สอ่ื สาร การออกแบบการเรยี นการสอน การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอีเลิร์นนงิ ในบทนจี้ ะกล่าวถงึ การออกแบบ การเรียนการสอนแบบอีเลิรน์ นิ่ง โดยเริม่ จาก (1) การออกแบบ เรยี นการสอน (2) การ ออกแบบการเรยี นการสอน : ADDIE Model (3) การออกแบบการเรียนการสอน อเี ลริ น์ นงิ และ (4) ตวั อย่างการออกแบบการเรียนการสอนอเี ลริ น์ นิ่งท่นี า่ สนใจ
4 บทท่ี 1 ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 1. การออกแบบการเรยี นการสอน (Instructional design) ความหมายของการออกแบบ เป็นการถา่ ยทอดรูปแบบจากความคดิ ออกมาเปน็ ผลงาน ทีผ่ อู้ ่นื สามารถมองเหน็ รับรู้ หรอื สมั ผัสได้ การออกแบบตอ้ งใช้ศาสตร์แห่งความคิด และศิลปร์ ว่ มกนั เพ่ือสร้างสรรค์ สิง่ ใหม่ หรอื ปรบั ปรุงพัฒนาสงิ่ เดิมใหด้ ีขนึ้ มีการใช้การ ออกแบบในทกุ ๆ ด้าน เช่น การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ การออกแบบสนิ ค้า การออกแบบ โฆษณาประชาสัมพนั ธ์ รวมถึงการออกแบบการเรียนการสอน การออกแบบการเรียนการสอน จึงเป็นกระบวนการวางแผนการเรียนการสอนอยา่ งมี ระบบ โดยมี การวิเคราะหอ์ งค์ประกอบการเรยี นรู้ ทฤษฎกี ารเรยี นการสอน สอ่ื กิจกรรม การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ รวมถึง การประเมนิ ผล เพื่อใหผ้ สู้ อนสามารถถา่ ยทอดความรสู้ ู่ผูเ้ รียนผู้ เรียนเกดิ การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ผู้สอนท่ีมีประสบการณก์ ารสอนอยา่ งดจี ะสามารถใช้ประสบการณ์ และความร้คู วาม สามารถของ ตนเอง ในการคิด ในการเลอื กวิธีการสอน สอื่ การสอน และกิจกรรมการ เรยี น ทําให้คุณภาพของการเรยี น การสอนแตกตา่ งกนั ไปตามความสามารถของผู้สอน แต่ละคน การออกแบบการเรยี นการสอนจะเปน็ แนวทาง ท่ีผู้สอนทกุ คนต้องออกแบบ การสอนของตนได้ การออกแบบการเรยี นการสอนจะช่วยให้ผสู้ อนวางแผนการสอนอยา่ งมีระบบ เพื่อ ให้การจัด การสอนบรรลุจดุ มุง่ หมาย และประสบความสาํ เรจ็ ผสู้ อนต้องพจิ ารณาหลกั การในการออกแบบ การเรียนการสอน คือ 1. การออกแบบและพฒั นาการเรียนการสอนนเ้ี พอื่ ใคร ใครเป็นผ้เู รียน หรือกลมุ่ เปา้ หมาย ควรมีความเขา้ ใจและรจู้ กั ลกั ษณะของกล่มุ ผู้เรยี นทเ่ี ปน็ เปา้ หมายใน การเรยี นอีเลริ ์นนงิ่ 2. ต้องการใหผ้ เู้ รียนเรยี นอะไร มคี วามรู้ความเข้าใจ และ/หรือ มีความ สามารถอะไร ผู้สอนจึงต้อง กําหนดจุดมุง่ หมายของการเรียนการสอนใหช้ ดั เจน
บทที่ 1 ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร ์ 5 3. ผ้เู รยี นจะเรยี นร้เู นื้อหาวิชานั้น ๆ ไดด้ ีทส่ี ุดอยา่ งไร ควรใชว้ ิธีการและ กจิ กรรมการเรียนรู้อะไร ท่จี ะชว่ ยใหผ้ เู้ รียนเรียนรู้ได้ และมสี ิ่งใดทีต่ ้องคํานึงถึงบา้ ง 4. เมอ่ื ผู้เรยี นเขา้ สกู่ ระบวนการเรียน จะทราบได้อย่างไรว่าผูเ้ รยี นมีการ เรยี นรเู้ กิดข้ึน และประสบ ผลสําเร็จในการเรยี นรู้ จะใชว้ ิธีใดประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผู้ เรยี น สรปุ ได้ว่า การออกแบบการเรียนการสอน ควรมกี ารวางแผนเพ่อื พิจารณาวา่ ผเู้ รียนเป็นใคร มคี ุณลกั ษณะพืน้ ฐานอยา่ งไร กําหนดจุดมงุ่ หมายในการสอนครง้ั น้ัน อยา่ งไร จะใช้วิธีการสอนและกจิ กรรม การเรยี นรู้ และวธิ ีการประเมนิ ผลการเรียนอะไร บา้ ง จึงจะสามารถทําใหก้ ารสอนน้นั บรรลเุ ปา้ หมาย คือ ภายหลงั เรียนแลว้ รู้ เข้าใจ จดจาํ นําไปใช้ ทาํ ได้ สรา้ งสรรค์ สงิ่ ใหม่ไดเ้ ป็นต้น แสดงภาพสอ่ื ที่ควรพจิ ารณา ในการ ออกแบบการสอนดังภาพด้านล่าง การออกแบบการเรยี นการสอนอีเลริ ์นน่งิ (Instructional design for e- Learning) การออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลริ น์ นงิ มไิ ด้แตกต่างจากการออกแบบ การเรยี นการสอนทไี่ ด้ กล่าวมาข้างตน้ โดยสามารถกระทาํ ไดเ้ ช่นเดียวกับการออกแบบ การเรียนการสอนในห้องเรยี นปกติ ท้ังน้ี ผู้สอนแบบอีเลริ ์นน่ิงนอกจากจะมีความ สามารถในการสอื่ สารการสอนเช่นเดียวกบั การสอนห้องเรยี นปกตแิ ล้ว ยงั ต้องมีความ รคู้ วามสามารถเข้าใจและมีความสามารถอย่างดีในการเลือกใช้เคร่ืองมอื การสอนจาก ระบบ บริหารจัดการเรยี นการสอน และเคร่ืองมือทางอินเทอร์เนต็ เพ่ือเปน็ เคร่ืองมอื ใน การส่อื สารปฏิสัมพันธท์ าง การเรยี น เน่อื งจากผู้เรยี นและผูส้ อนมิไดพ้ บกนั แบบเผชิญ หน้าแบบห้องเรยี นปกติ
6 บทที่ 1 ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ การออกแบบระบบการเรียนการสอนเปน็ กระบวนการ มขี ั้นตอนในการวางแผนอยา่ ง เปน็ ระบบ เพ่อื ใหไ้ ด้ระบบการเรยี นการสอนทดี่ ี สําหรบั การออกแบบระบบการเรยี น การสอนแบบอีเลริ น์ นงิ่ จําเป็นตอ้ ง ได้รับความร่วมมอื จากแหลง่ ทรพั ยากรที่มากกวา่ การ จัดการเรียนการสอนในห้องเรียนปกติ รปู แบบระบบ การเรียนการสอนจงึ มสี ว่ นสําคญั ในการดําเนนิ การเพือ่ ประสานกับกลุม่ บุคคลทเ่ี ป็นแหลง่ ทรพั ยากรและช่วย ดาํ เนินการ ใหก้ ารเรยี นการสอนอีเลิรน์ นงิ เกดิ ข้นึ ได้ การจดั การเรียนการสอนอเี ลริ น์ นิงน้ันมคี วามแตกต่างไปจากการจัดการเรียนการ สอนในห้องเรยี น ปกติ เนือ่ งจากผู้เรียนและผสู้ อนอาจความแตกตา่ งกนั ในเร่ืองของเวลา และสถานที่ ผู้ท่ีจัดการเรียนการสอน อีเลริ น์ นงิ จงึ จําเปน็ ต้องมคี วามเข้าใจลักษณะและ ธรรมชาติของการเรียนการสอนทางไกลท่ีใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารดา้ น คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเปน็ สอื่ กลาง ซ่ึงผเู้ รยี นมกั คาดหวงั การไดร้ ับ ปฏิสัมพันธ์ จากผสู้ อน รวมถึงการตอบสนองความแตกตา่ งรายบุคคลท่มี ากกว่าในห้องเรยี นปกติ ตลอดจน ต้องมคี วามเข้าใจเกีย่ วหลกั การการศกึ ษาทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต ทฤษฎกี าร สอ่ื สาร ทฤษฎกี ารเรียนรู้ ทฤษฎรี ะบบ และรปู แบบระบบการเรียนการสอน เพ่ือเป็นฐาน ในการออกแบบการเรยี นการสอนอีเลริ น์ นงิ่ ได้ อีกทง้ั การออกแบบการสอน มิได้เป็นการเนน้ ที่การถ่ายโอนความรู้ (Transfer of knowledge) จากผสู้ อนไป ยังผูเ้ รยี นเทา่ นน้ั การเรยี นการสอนแบบอีเลิรน์ น่งิ จาํ เป็น ต้องคาํ นึงถงึ การออกแบบการสอนท่เี นน้ ผเู้ รยี น เปน็ สําคัญซ่ึงประกอบดว้ ยการเรียนตาม อตั ราความกา้ วหน้ารายบคุ คล การมปี ฏิสมั พนั ธ์ในการเรยี นการสอน เป็นสาํ คัญ และ สภาพแวดล้อมทางการเรียนรูผ้ า่ นอินเทอรเ์ น็ตด้วย
บทที่ 1 ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7 สาํ หรบั การจัดการเรยี นการสอนอเี ลิรน์ นิงนัน้ แบบจําลองการออกแบบการเรียน การสอนอีเลิร์นนงิ สามารถนาํ หลกั การพืน้ ฐานในการออกแบบการเรยี นการสอน คือ แบบจาํ ลอง ADDIE Model ทัง้ องคป์ ระกอบ 5 ขนั้ ตอนคอื การวิเคราะห์ การออกแบบ การพฒั นา การนําไปใช้ และการประเมนิ ผล มาเป็นแนวทาง เพอ่ื การออกแบบการเรยี น การสอนอีเลริ น์ นงิ ได้เชน่ เดยี วกับการสอนในห้องเรยี นปกติ มีรายละเอียดและ ตวั อยา่ ง ดังนี้ 1. การวิเคราะห์ ในการออกแบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลิร์นนงิ่ ควรดาํ เนินการ วเิ คราะห์ รายละเอียด 5 ด้าน 1.1 วิเคราะห์ความจาํ เป็น - จดั การเรียนการสอนเอีเลิร์นนิงในหลกั สูตร รายวิชา หรือเน้อื หาอะไร - จัดการเรียนการสอนแบบอเี ลริ น์ นิงเต็มรปู แบบ หรอื แบบผสมผสาน หรือเสริมการเรยี นการสอน 1.2 วิเคราะหเ์ น้ือหา หรอื กจิ กรรมการเรยี นการสอน - การแบ่งเน้อื หาเป็นหัวขอ้ ใหญ่ และหวั ข้อย่อย ๆ เพื่อให้มคี วามชดั เจน กาํ หนดเลอื กกจิ กรรมการเรียนการสอนท่เี หมาะสมทีจ่ ะให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรูอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ 1.3 วเิ คราะหผ์ ู้เรียน - ข้อมลู ผู้เรยี น เช่น ระดับชนั้ อายุ ความร้พู น้ื ฐาน เพอ่ื ใหไ้ ดบ้ ทเรียนท่ีมี คุณภาพ และเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย 1.4 วเิ คราะห์วตั ถปุ ระสงค์ - กําหนดวตั ถุประสงค์ทางด้านพทุ ธพิ ิสยั คอื พฤติกรรมเกย่ี วกับความ รู้ ความเขา้ ใจ ด้านจิตพิสัย คอื พฤตกิ รรมเกี่ยวกับความร้สู กึ คา่ นิยมทัศนคติ และด้าน ทกั ษะพิสยั คือ พฤติกรรมเกีย่ วกบั การกระทําหรือการปฏิบตั ิ - ระดบั ชั้น อายุ ความรู้พ้ืนฐาน เพอื่ ให้ไดบ้ ทเรยี นทม่ี คี ณุ ภาพและเหมาะ สมกับกลมุ่ เปา้ หมาย
8 บทท่ี 1 ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 1.5 วิเคราะห์สภาพแวดล้อม - อุปกรณส์ นบั สนุนการเรียนร้ขู องผูเ้ รียน เช่น เครอ่ื งอุปกรณ์ คอมพวิ เตอรแ์ มข่ ่าย จาํ นวนเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ในสถาบนั ระบบจัดการสอน - จํานวนผ้เู รยี นท่มี ีคอมพวิ เตอรอ์ ุปกรณ์คอมพวิ เตอรพ์ กพา สามารถเขา้ ถึงอินเทอรเ์ นต็ ความเร็ว 2. ออกแบบ - การเขียนผงั งาน การออกแบบ storyboard เพอ่ื จัดลาํ ดบั ความสมั พนั ธข์ อง เนื้อหาแต่ละสว่ นบทดาํ เนนิ เร่ือง และการออกแบบบทเรียน ภาพ ข้อความ เสยี ง หรอื มัลตมิ เี ดีย กิจกรรมการเรยี น การกําหนด ปฏิสมั พันธก์ ารเรยี น และการประเมนิ ผล - การนําตัวบทเรียนท่ีผ่านการออกแบบและวเิ คราะหจ์ ากขัน้ วเิ คราะห์มาพัฒนา เปน็ การเรยี นอีเลริ ์นนิง - การออกแบบหนา้ จอภาพ (screen design) การจดั พนื้ ทแ่ี ละองค์ประกอบของ จอภาพเพอื่ ใช้ ในการนาํ เสนอเน้อื หา ภาพ กราฟกิ เสียง สี ตัวอกั ษร และส่วนประกอบ อน่ื ๆ ให้เหมาะสม กับการเรยี นร้ขู องผู้เรียน 3. พฒั นา ข้นั พัฒนาเป็นข้ันตอนของการลงมอื ปฏิบัตกิ ารสรา้ งบทเรยี นตามผลการ ออกแบบ จากขน้ั ตอนทีส่ อง ขัน้ ตอนนเี้ ป็นขนั้ ตอนทต่ี ้องอาศยั ผ้มู ีความเชย่ี วชาญหลาย ด้าน เชน่ นักออกแบบ คอมพวิ เตอรก์ ราฟิก นักคอมพิวเตอรผ์ ู้ดูแลและจดั การระบบการ จัดการเรียนการสอน (LMS :learnin management System) เชน่ 1. ตวั อักษรของเนือ้ หาขอ้ ความภาษาไทยและภาษาอังกฤษควรใช้ตัวหัว กลม แบบธรรมดา หน่ึงหน้าจอควรมเี นอื้ หา ไมเ่ กิน 8 -10 บรรทัดและควรใช้ลักษณะ เหมือนกนั รูปแบบเดยี วตลอดหนึ่งบทเรยี น
บทท่ี 1 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 9 2. ภาพกราฟกิ ควรใช้ภาพการต์ ูน ภาพวดี ที ัศน์ ภาพล้อเสมอื นจรงิ ท่ี เป็นภาพ เคลือ่ นไหว 2 มิติ (animation) และ 3 มติ ิ (3 D animation) จาํ นวน 1 ถงึ 3 ภาพภายในหนงึ่ หนา้ จอ และภาพพนื้ หลงั (ถ้าม)ี ควรใช้ภาพลายนาํ้ สีจางลักษณะ เดยี วกนั ตลอดหนึง่ บทเรยี น 3. สีทป่ี รากฏในจอภาพและสขี องตัวอักษรข้อความไม่ควรใช้เกินจํานวน 3 สี โดยคํานึงถงึ สีพืน้ หลังประกอบดว้ ย 4. สอ่ื ชัน้ นาํ ในการนาํ ทาง (navigational aids) ควรเลือกใชส้ ัญ รปู (icon) แบบปมุ่ รูปภาพ, แบบ รปู ลูกศรพรอ้ มทงั้ อธบิ ายข้อความสั้น ๆ ประกอบ สัญลกั ษณ์หรอื แสดง ข้อความ hypertext และใชเ้ มนูแบบ ปุ่ม (button), แบบ Pop Up ท่ีแสดง สญั ลักษณส์ ื่อความหมายไดเ้ ข้าใจชดั เจน 5. ปัจจัยสนบั สนุนเพ่ือใหง้ านตอ่ การพฒั นาบทเรียนเชน่ การเลือกใช้ ระบบบริการจดั การ เนือ้ หา (CMS: content management System) แหล่งสนบั สนนุ การเรยี นรู้ การใช้เครอ่ื งมอื สอื่ สาร ปฏิสัมพันธ์ 4. นําไปใชก้ ารนาํ เสนอการเรยี นผา่ นระบบบริหารจัดการเรียนการสอนเผยแพร่ บนระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (network) และสูก่ ารนาํ ไปจดั การเรยี นการสอนจริง 5. ประเมิน การประเมนิ การวเิ คราะห์ การประเมนิ การออกแบบ การประเมนิ การพฒั นา และการประเมนิ เมือ่ นําไปใช้จรงิ ของระบบ อเี ลริ น์ นิง โดยกระทําระหวา่ งดาํ เนนิ การ คอื การประเมนิ ระหว่าง ดาํ เนินงาน (formative evaluation) และประเมิน ภายหลงั การดาํ เนนิ งาน (summative evaluation) การประเมินจะทําใหผ้ ู้พัฒนาทราบ ข้อมลู เพ่อื การปรบั ปรุงแกไ้ ขขอ้ บกพร่องในขนั้ ตอนต่าง ๆ
10 บทท่ี 1 ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ การนําแบบจาํ ลอง ADDIE เพ่ือการออกแบบการเรยี นการสอนอเี ลิรน์ นงิ สู่การ ปฏิบัตนิ ้นั นอกจาก จะดําเนนิ การตามขนั้ ตอนตามแบบจําลองแลว้ การใหค้ วามสําคญั ขน้ั ตอนต่าง ๆ ในแบบจําลอง ADDIE นั้น ผเู้ ขียนเองแบ่งเป็นสดั สว่ นท่ีไม่เทา่ กัน โดยให้ ความสําคญั กับ 3 ลาํ ดับแรก คอื การวิเคราะห์ การนําไปใช้ และการประเมนิ ในสดั สว่ น ทีเ่ ท่ากนั คือร้อยละ 33 ลาํ ดับถดั มา คอื การพฒั นารอ้ ยละ 23 และลําดบั สดุ ท้าย คือ การ ออกแบบร้อยละ 10 แบบจําลองการออกแบบการสอน ADDIE น้ี สามารถนํามาใชเ้ พ่อื การออกแบบ การเรยี นการสอน แบบอเี ลริ ์นนิงโดยกว้าง ๆ ทผี่ ้ปู ระสงคจ์ ะพฒั นาอเี ลริ ์นนิงสามารถ ใช้เปน็ แนวทางในการพฒั นา หรอื ไปขยา รายละเอียดในแตล่ ะข้ันตอนเพื่อการพฒั นาอี เลริ ์นนิงตามหลกั การที่ถกู ตอ้ งต่อไป
บทท่ี 2 การบรหิ ารจดั การเรยี นการสอนบนระบบเครอื ข่าย Elearning 11 บทท่ี 2 การบรหิ ารจดั การเรียนการสอน บนระบบเครือขา่ ย Elearning
12 บทท่ี 2 การบริหารจดั การเรยี นการสอนบนระบบเครือข่าย Elearning บทท่ี 2 การบรหิ ารจัดการเรียนการสอนบนระบบเครือขา่ ย Elearning ความหมายของระบบบรหิ ารการเรียนการสอน (Learning Management System)นั้นได้มนี กั วิชาการกล่าวไวด้ ังน้ี คือ ประกอบ คปุ รัตน์ ได้ให้ความหมายของ LMS วา่ เปน็ ระบบจดั การการเรยี นการสอนออนไลน์ หรอื e-Learning เปน็ ซอฟต์แวร์ท่ี ชว่ ยในระบบจัดการหอ้ งเรียนเสมอื น ท�ำ ใหส้ ถาบนั การศกึ ษาหรือแหลง่ จัดการเรยี นการ สอนสามารถให้ผู้เรยี นไดม้ ี Login และ Password เพ่อื มีสทิ ธิเข้าเรยี น สามารถจัดการ เลอื กสรรรายวิชาที่จะเรียน มบี นั ทึกเกี่ยวกบั เวลาและข้อมลู การเข้าเรียน และการท�ำ รายงานผลใหก้ บั ระบบการศกึ ษาหรอื การฝกึ อบรมน้นั ๆ กติ ตพิ งษ์ พมุ่ พวง ได้ใหค้ วามหมายของ LMS วา่ เปน็ ระบบจัดการการเรียนผา่ น เครอื ข่ายมเี คร่ืองมอื และส่วนประกอบทสี่ �ำ คญั สำ�หรบั ผสู้ อน ผเู้ รยี นและผดู้ แู ลระบบ ไดแ้ ก่ ระบบการจดั การรายวิชา ระบบการจดั การสร้างเนอื้ หา ระบบบรหิ ารจดั การผู้ เรียน ระบบส่วนการจดั การขอ้ มูลบทเรยี นและระบบเครือ่ งมือชว่ ยจัดการสอื่ สารและ ปฏสิ ัมพันธแ์ ละจดั กระบวนการเรยี นรไู้ ดแ้ ก่ การสอ่ื สาร Chat e-Mail Webboard การเขา้ ใช้ การเก็บข้อมูลและการรายงานผล เปน็ ต้น ชัยวรตั น์ ไชยพจน์พานิช ไดใ้ ห้ความหมายของ LMS วา่ เป็นซอฟทแ์ วรบ์ ริหาร จัดการรายวิชาท่รี วบรวมเครอื่ งมือ ซง่ึ ออกแบบไวเ้ พือ่ อำ�นวยความสะดวกแก่ผใู้ ช้งาน ในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ โดยมจี ดุ ประสงคเ์ พอ่ื ช่วยสนบั สนนุ ผู้ใช้งาน 4 กล่มุ คือ ผเู้ รยี น (Student) ผ้สู อน (Instructor) เจา้ หนา้ ท่ีทะเบยี น (Registration) และผู้ ดแู ลระบบ (Administrator) ซึ่งเครอ่ื งมอื และระดบั ของสทิ ธใิ นการเข้าใช้ทจี่ ดั หาไวใ้ ห้จะ มคี วามแตกต่างกนั ไปตามแต่การใชง้ านของแต่ละกลุ่ม
บทท่ี 2 การบรหิ ารจดั การเรยี นการสอนบนระบบเครอื ขา่ ย Elearning 13 ดงั นัน้ สรปุ ได้ว่า Learning Management System หรือ LMS เป็นระบบการ จดั การเก่ียวกับการบริหารการเรียน ในรปู แบบ e-Learning เพอ่ื จัดการกบั การใช้คอร์ส แวร์ (Courseware) ในรายวชิ าตา่ งๆ ระหว่างผ้สู อน (Instructors) ผเู้ รียน (Learn- ers) เจ้าหน้าทที่ ะเบยี น (Registrator) และผ้ดู แู ลระบบ (Administrator) โดยออกแบบ ระบบเพอื่ เป็นซอฟต์แวร์ท่ที �ำ หน้าท่ี บรหิ ารจดั การเรยี นการสอนผา่ นเว็บ จะประกอบ ด้วยเคร่อื งมืออำ�นวยความสะดวก เชน่ โปรแกรมจะทำ�หนา้ ท่ี ตรวจสอบการเข้ามาใช้บท เรยี น เนือ้ หา กิจกรรมต่าง ๆ ตารางเรียน ไปรษณียอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ห้องสนทนา กระดาน ถามตอบ การทำ�แบบทดสอบ เป็นตน้ และองคป์ ระกอบที่ส�ำ คญั คอื การเก็บบนั ทึก ข้อมลู กิจกรรมการเรียนของผู้เรียนไวบ้ นระบบเพื่อผ้สู อนสามารถน�ำ ไปวเิ คราะห์ติดตาม และประเมินผลการเรยี นการสอนได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ องค์ประกอบของระบบบริหารการเรยี นการสอน (Learning Management System) องคป์ ระกอบของ LMS ประกอบดว้ ย 5 ส่วน ดงั นี้ 1) ระบบจดั การหลกั สูตร (Course Management) กลมุ่ ผ้ใู ชง้ านแบง่ เป็น 3 ระดับ คอื ผเู้ รยี น ผ้สู อน และผบู้ รหิ ารระบบ โดยสามารถเขา้ ส่รู ะบบจากทไ่ี หน เวลาใด ก็ได้ โดยผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต ระบบสามารถรองรบั จ�ำ นวน ผู้ใช้ และ จ�ำ นวนบท เรยี นได้ ไม่จำ�กัด โดยขึ้นอยกู่ บั ฮาร์ดแวรแ์ ละ /หรือ ซอฟทแ์ วร์ทใ่ี ช้ และระบบสามารถ รองรับการใช้งานภาษาไทยอยา่ งเตม็ รปู แบบ 2) ระบบการสร้างบทเรยี น (Content Management) ระบบประกอบดว้ ย เครอ่ื งมอื ในการช่วยสรา้ งเนื้อหา ระบบสามารถใชง้ านได้ดีทัง้ กับบทเรียนในรูป Text - based และบทเรียนใน รูปแบบ Streaming Media
14 บทที่ 2 การบรหิ ารจัดการเรยี นการสอนบนระบบเครือข่าย Elearning 3) ระบบการทดสอบและประเมินผล (Test and Evaluation System) มีระบบคลงั ข้อสอบ โดยเป็นระบบการส่มุ ขอ้ สอบสามารถจบั เวลาการท�ำ ขอ้ สอบและ การตรวจขอ้ สอบอัตโนมัติ พรอ้ มเฉลย รายงานสถิติ คะแนน และสถติ ิการเขา้ เรียนของ นักเรียน 4) ระบบสง่ เสรมิ การเรยี น (Course Tools) ประกอบดว้ ยเครอื่ งมอื ต่างๆ ทใ่ี ชส้ ่ือสารระหวา่ ง ผเู้ รยี นกับผู้สอน และ ผูเ้ รยี นกบั ผ้เู รยี น ไดแ้ ก่ เว็บบอร์ด (Web board) และ หอ้ งสนทนา (Chatroom) โดยสามารถเก็บขอ้ มูลเหล่านีไ้ ด้ 5) ระบบจัดการขอ้ มลู (Data Management System) ประกอบดว้ ย ระบบจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ ผู้สอนมีเนอ้ื ทเี่ กบ็ ข้อมลู บทเรียนเป็นของตนเอง โดยได้ เน้ือที่ตามทผ่ี ้ดู ูแลระบบก�ำ หนดให้ ดงั นัน้ สรุปไดว้ ่า องค์ประกอบของ LMS ประกอบดว้ ย 5 ส่วน คอื ระบบ จดั การหลักสูตร (Course Management) มกี ล่มุ ผ้ใู ช้งานแบ่งเป็น 3 ระดับ คอื ผเู้ รยี น ผ้สู อน และผบู้ รหิ ารระบบระบบการสร้างบทเรียน (Content Management) ระบบ ประกอบด้วย เคร่ืองมือในการช่วยสรา้ งเนอื้ หา Content ระบบการทดสอบและ ประเมินผล มีระบบคลงั ข้อสอบ ระบบสง่ เสรมิ การเรยี น ประกอบดว้ ยเครื่องมอื ตา่ งๆ ท่ี ใชส้ อื่ สารระหวา่ งผูเ้ รียนกับผู้สอนและผู้เรียนกับผเู้ รียน ได้แก่ เวบ็ บอรด์ และ หอ้ งสนทนา ระบบจดั การขอ้ มลู ประกอบด้วย ระบบจัดการไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
บทท่ี 2 การบรหิ ารจดั การเรียนการสอนบนระบบเครือข่าย Elearning 15 ลกั ษณะของระบบการจัดการเรยี นการสอน ระบบจดั การเรยี นการสอน (ระบบ LMS) สามารถจ�ำ แนกลกั ษณะแบ่งออกเปน็ 2 กลุ่ม คอื กลุ่มท่หี น่ึง แบ่งตามลกั ษณะธุรกิจ และกลมุ่ ท่สี องแบง่ ตามการทำ�งาน ราย ละเอยี ดดงั นี้ ระบบจัดการเรยี นการสอนหรอื ระบบ LMS ท่ใี ช้ในปจั จุบันมหี ลากหลาย เชน่ Blackboard Desire2Leam Moodle, ATutor แตไ่ ม่วา่ จะเปน็ ระบบ LMS ใดกส็ ามา รถจําแนกได้อยา่ งน้อย 3 ลกั ษณะ 1.ระบบ LMS ทมี่ ีบริษัทผพู้ ฒั นาเป็นเจ้าของ (Commercial LMS) มีการขาย ระบบ LMs พรอ้ มบรกิ าร โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายเป็นรายปี เช่น Blackboard WebCT Desire2Learn เป็นตน้ 2.ระบบ LMS แบบเปดิ เผยรหัส (Open Source LIMS) เช่น TCU-LMS, Moo- dle, ATube Claroline เป็นตน้ 3. ระบบ LMS ทีอ่ นญุ าตใหเ้ ฉพาะสถาบันสมาชกิ นาํ ไปใช้ โดยสมาชิกจะตอ้ งเสีย คา่ สมาชิกและรว่ มในกจิ กรรมตา่ ง ๆ เช่น Sakai Project เป็นต้น 4. จาํ แนกเครอื่ งมอื ในระบบ LMS ตามการทาํ งานของผูใ้ ช้งานระบบ สามา รถจําแนกระบบ LMS ได้ 3 ลักษณะดว้ ยกัน ดังนี้ 1. การรองรบั การทาํ งานของผู้ใช้ผูด้ แู ลระบบ ไดแ้ ก่ (1) การนํารายวชิ า เข้า (2) การจดั การฐานขอ้ มลู นกั เรียน (3) การสํารองข้อมูล เปน็ ต้น 2. การรองรับการทํางานของผู้สอน (อาจารยแ์ ละผชู้ ่วยสอน) ได้แก่ (1) การนําส่ือการเรียนเข้า ระบบ (2) การตดิ ตามพฤตกิ รรมการเรยี นของนกั เรยี น (3) การ สอื่ สารกบั นักเรียน/กล่มุ นกั เรยี น (เคร่อื งมอื ประกาศ, ปฏิทินของรายวชิ า) (4) การสรา้ ง แบบทดสอบ (5) การให้ขอ้ มลู ปอ้ นกลบั (6) การประเมินผล
16 บทท่ี 2 การบรหิ ารจัดการเรียนการสอนบนระบบเครือข่าย Elearning 3. การรองรับการทํางานของผูเ้ รยี น ได้แก่ (1) เครอ่ื งมอื ชว่ ยสง่ เสรมิ การ คิดและการเรียนรู้ (2) เคร่อื งมอื ช่วยการทํางาน (My working space, calendar, my note, my bookmark เป็นตน้ ) (3) การดูสถติ ิ การเรียน คะแนนสอบ (4) การสอื่ สาร กับอาจารย์เพือ่ น (5) การสง่ การบ้านและเกบ็ ข้อมลู การบ้าน ระบบจัดการเรียนการสอน: กรณศี กึ ษาการใช้ Moodle LMS การจดั การเรยี นการสอนแบบอีเลริ ์นนิงนน้ั การจดั การห้องเรยี นเสมอื นเปน็ เรือ่ ง ท่ีสําคัญ เพราะการเรยี น กรสอนจะเกดิ ขนึ้ ได้อย่างเปน็ ระบบท่ีจะต้องมกี ารใชซ้ อฟต์แวร์ ประยกุ ตส์ ําหรบั จดั การเรียนการสอน สารจดั ทําเอกสาร ตดิ ตามและรายงานผลการเรยี น ห้องเรยี นและกิจกรรมการสอื่ สารอีเลิร์นนิง ซ่งึ ระบบ เus ดงั กลา่ วทน่ี ิยมใชม้ ากท่ีสดุ คอื Moodle (Modular Object-Oriented Dynamic Learning Environment) Moodle เปน็ ระบบการจดั การเรยี นการสอนแบบซอฟทแ์ วรเ์ ปดิ เผยรหัส ที่ได้ รับความนิยมกนั อย่าง กวา้ งขวาง มีการนาํ ไปใช้งานมากกว่า 200 ประเทศท่ัวโลก ติด ต้ังระบบ Moodle LMS ในเซิร์ฟเวอรม์ ากกว่า 46.000 เซริ ฟ์ เวอร์ มรี ายวิชามากกวา่ 3 ล้านรายวิชา ทําให้ Moodle ไดร้ ับการพัฒนาโปรแกรมอยา่ งต่อเนือ่ ง และรวดเรว็ การนาํ ระบบ Moodle LMS มาใชเ้ พ่ือการเรยี นการสอนอเี ลิร์นนิงกันอยา่ งแพร่ หลายโดยเฉพาะใน ประเทศไทยมีการใช้งาน Moodle LMS ถงึ รอ้ ยละ 90 ในทนี่ ้ีจงึ ขอ แนะนาํ Moodle LMS เปน็ กรณศี ึกษา โดยองค์ประกอบทีส่ าํ คญั ของ Moodle LMS มี ดงั นี้ 1 เครื่องมอื ในการนําเสนอเนื้อหา Disseminate tools เครือ่ งมอื ในการนําเสนอ เนือ้ หา ขอ้ มลู ขา่ วสาร ความรู้ในรูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ แบบนําเสนอความรโู้ ดยตรง (Tu- torial) แบบจาํ ลองสถานการณ์ (Simulation) แบบทดสอบและฝกึ ปฏบิ ตั ิ (Drill and Practice) แหล่งทรัพยากรเพ่ิมเตมิ ในรูปแบบของไฟล์ เฟลเดอร์
บทที่ 2 การบรหิ ารจัดการเรยี นการสอนบนระบบเครือข่าย Elearning 17 2. เครื่องมือในการสื่อสาร (Communication tools) เพือ่ ใช้งานทงั้ กบั ระหว่าง ผเู้ รียนและ ผ้สู อน ทัง้ ในรูปแบบระหวา่ งบุคคล บุคคลกับกล่มุ หรือภายในกลุม่ ท้งั การ ส่ือสารแบบทางเดียว (ประกาศ ข่าว) และแบบสองทาง (แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ ) มี กลุ่มยอ่ ย คือ เครอื่ งมือทร่ี องรบั การส่ือสารแบบประสาน เวลา (Synchronous com- munication tools) คือ รองรับการสื่อสารในเวลาเดยี วกนั เคร่อื งมอื ดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Chat, Private message และเครอ่ื งมอื ท่ีรองรบั การสือ่ สารแบบไมป่ ระสานเวลา (Asynchronous Communication tools) เครือ่ งมอื ดงั กลา่ วไดแ้ ก่ wiki, blog, fo- rum, และ assignment เป็นต้น 3 เครื่องมอื สนบั สนนุ การเรยี น (support tools) เครอ่ื งมือสนับสนุนการเรียน (Support tools) เครอ่ื งมือท่ีรองรับใหผ้ เู้ รียนไดล้ งมอื ปฏิบตั ิ การปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง หรือ การปฏบิ ตั ิเปน็ กลมุ่ เพื่อใหเ้ กิดการเรยี นรู้ และเข้าใจเนื้อหาจาก ตรง เห็นผลจากการ ลงมอื ปฏิบตั ิ เครอ่ื งมือดังกล่าวได้แก่ workshop, lesion, wiki, blog 4. เคร่ืองมือประเมินผลการเรียน (Assessment tools) เคร่อื งมือในการตรวจ ประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจของผู้เรียน ทั้งการประเมินระหว่างการเรยี น (formative assessment) และการประเมนิ รวบยอด Summative assessment) โดยมกี ารให้ ข้อมูลปอ้ นกลับแกผ่ ู้เรยี น รวมถงึ เครอ่ื งมอื ในการประมวลผลขอ้ มูล ตใหกับผ้สู อน เชน่ สถติ ิการเรียน คะแนน เคร่ืองมอื ดังกล่าวได้แก่ assignment, quiz, choice, blog และ รวมอนๆ ท่ีสามารถตรวจประเมนิ ได้จาก assignment เชน่ database, feedback, forum, Workshop,Y, และ survey (ใช้ในกรณวี ัดประเมินเจตคติ) เป็นตน้
18 บทท่ี 2 การบรหิ ารจดั การเรยี นการสอนบนระบบเครือข่าย Elearning 5. เครื่องมือจดั สภาพแวดล้อมทางการเรียน (Environment system) เครอ่ื ง มอื ที่เปน็ สภาพแวดล้อมในการเรียน การควบคมุ ผ้เู ข้าสู่ระบบ การตรวจสอบสทิ ธิในการ ใชร้ ะบบ และการทาง ร้องหลงั อื่น ๆ เช่น การป้องกันความลม้ เหลว การสาํ รองข้อมลู การฟนื้ คืนสภาพ ฯลฯ โดยผู้ดแู ลระบบ (Admin) จะเป็นผ้ตู ั้งค่าตา่ ง ๆ ให้เป็นพนื้ ฐาน เป็นตน้ ผู้ใช้งานในระบบบรหิ ารจดั การ การจดั การเรียนการสอนบนเวบ็ สำ�หรบั ผู้ใช้งานในระบบ LMS นัน้ สามารถทจ่ี ะแบ่งไดเ้ ปน็ 3 กล่มุ คือ 1. กล่มุ ผูบ้ รหิ ารระบบ (Administrator) ท�ำ หนา้ ท่ีในการตดิ ต้ังระบบ LMS การ ก�ำ หนดคา่ เริ่มต้นของระบบ การสำ�รองฐานขอ้ มลู การก�ำ หนดสทิ ธ์ิการเปน็ ผู้สอน 2. กลุ่มอาจารยห์ รอื ผ้สู ร้างเน้อื หาการเรียน (Instructor / Teacher): ทำ�หน้าท่ี ในการเพม่ิ เนื้อหา บทเรียนตา่ งๆ เข้าระบบ อาทิ ข้อมูลรายวชิ า ใบเน้อื หา เอกสาร ประกอบการสอน การประเมินผ้เู รยี นโดยใชข้ อ้ สอบ ปรนยั อัตนยั การใหค้ ะแนน ตรวจ สอบกจิ กรรมผู้เรยี น ตอบคำ�ถาม และสนทนากบั นกั เรยี น 3. กลมุ่ ผูเ้ รียน (student/Guest): หมายถึงนักเรียน นกั ศึกษา ท่ีสมัครเขา้ เรยี น ตามหวั ขอ้ ต่างๆ รวมทั้งการท�ำ แบบฝึกหดั ตามท่ีได้รับมอบหมายจากผู้สอน โดยอาจารย์ สามารถท�ำ การแบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นได้ และสามารถตงั้ รหสั ผา่ นในการเขา้ เรียนแตล่ ะวิชาได้
บทท่ี 3 การประยกุ ตใ์ ช้บทเรยี นบนระบบเครอื ข่าย 19 บทท่ี 3 การประยุกต์ใชบ้ ทเรยี น บนระบบเครือขา่ ย
20 บทที่ 3 การประยกุ ตใ์ ช้บทเรียนบนระบบเครอื ขา่ ย บทท่ี 3 การประยุกตใ์ ช้บทเรียนบนระบบเครือขา่ ย การประยุกตใ์ ชบ้ ทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนในการเรียนการสอน โดยทัว่ ไป ครู ผู้สอนมักจะกาํ หนดขั้นตอนพอสังเขป ดังนี้ 1. ขั้นเตรียมการ 2. ขน้ั ดาํ เนนิ การสอน 3. ข้ันสรุป 4. ขันประเมนิ ผล 1. ข้นั เตรยี มการ ในข้นั เตรียมการนคี้ รูผสู้ อนจะต้องดําเนนิ การตา่ งๆ ดังนี้ 1) แจ้งสังเขปเนื้อหาครูผูส้ อนจะต้องแจ้งสังเขปเนอ้ื หาใหผ้ ูเ้ รยี นทราบ ว่า จะเรียนรู้เน้ือหาในเร่ืองอะไร หวั ขอ้ อะไรบา้ ง 2) แจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ให้ผ้เู รียนได้ทราบ เก่ียวกับจดุ ประสงค์ การ เรียนรู้น้ีขอให้กลับไปศึกษาในหวั ขอ้ เตรียมความพร้อม การแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ น้ี และหลังจากทรี่ ับประสบการณก์ ารเรียนร้แู ลว้ ผู้เรียนจะมีการเปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรม เช่นใดบ้าง เช่น เร่อื งคอมพวิ เตอร์เบ้ืองต้น หลังจากทผ่ี ู้เรียนได้ศึกษาประวัตคิ อมพวิ เตอร์ แล้วผูเ้ รยี นสามารถเล่าประวัติของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3) ตรวจสอบพน้ื ฐานของผเู้ รียนโดยการทําแบบทดสอบก่อนเรยี น ผล ท่ีไดจ้ าก การทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรียน จะบอกพนื้ ฐานของผู้เรยี นว่าผู้สอนควรทจี่ ะจัด ประสบการณ์ สอนอย่างไรใหเ้ หมาะสมการระดบั พื้นฐานความร้เู ดินของผเู้ รียน หาก พบว่าผูเ้ รียนมพี ื้น ฐานความรใู้ นเรียนท่จี ะสอนน้อย ครูกค็ วรทจี่ ะจดั เตรียมบทเรียน คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน และสอ่ื การสอนอืน่ ๆ ตลอดจนกิจกรรมและวิธีการสอน ใหม้ ี เนือ้ หาและวธิ กี ารสอนที่ สอดคลอ้ งกับพื้นฐานผเู้ รียน ในนัยเดยี วกันหากพบวา่ ผเู้ รียนมี พ้นื ฐานในระดับดแี ล้ว ผู้สอนก็ควรทีจ่ ะกําหนดเน้อื หาและวธิ ีการสอนใหส้ อดคล้องกบั พ้นื ฐานผู้เรียนเช่นกัน
บทที่ 3 การประยกุ ต์ใช้บทเรยี นบนระบบเครอื ขา่ ย 21 2. ข้ันดาํ เนินการสอน ในสว่ นการดําเนินการสอน ครูผ้สู อนจะได้ดําเนินการสอนตามการเตรยี มความ การและเตรียมการสอนท่ีได้กลา่ วผา่ นมา การสอนโดยท่ัวไปครูสามารถทีจ่ ะทาํ การสอน ได้ ท้ังครูเปน็ ศูนยก์ ลาง Teacher Center หรอื นกั เรียนเปน็ ศูนย์กลาง Student Cen- ter ก็ได้ 1) Teacher Center ครูผสู้ อนเปน็ ศนู ยก์ ลาง เปน็ วธิ ีสอนทค่ี รผู สู้ อนเป็น ผู้ ดาํ เนนิ กิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นหลัก เช่น การวางแผน และดาํ เนินการกิจกรรม ต่าง ๆ ตามแผน โดยท่ีผูเ้ รยี นไม่มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรียนการสอนหรือมีนอ้ ยมาก เป็นการสื่อสารจากครผู ู้สอนแบบทางเดียว One Way จากครถู งึ ผเู้ รยี น Teacher to Student การสอนในรปู แบบนี้เช่น วิธสี อนแบบบรรยาย แบบทธิต แบบใชค้ ําถาม ใช้ เอกสารประกอบคาํ สอน เป็นต้น 2) Student Center ผเู้ รยี นเปน็ ศนู ย์กลาง เป็นวธิ ีการสอนทผ่ี ู้เรียน เป็นผูป้ ฏิบัติ กจิ กรรม คน้ ควา้ หาความรู้ด้วย มีปฏสิ มั พันธร์ ะหวา่ งเพ่ือนในชน้ั เรยี นและ ในสังคมการ เรยี น Student to Student โดยครูเปน็ อํานวยการควบคมุ ดําเนนิ การ ประสานงาน ขอ้ เสนอแนะ ตอบคาํ ถาม สง่ เสรมิ เสริมแรงให้กําลังใจ และใหค้ าํ แนะ นําช่วยเหลอื เมื่อ ปญหา วิธีสอนแบบนชี้ ว่ ยใหน้ ักเรยี นได้เผชิญประสบการณก์ ารเรยี น รู้พรอ้ ม เพ่ือนเรียนและตัวเอง ตัวอยา่ งเชน่ การเรียนรู้แบบรว่ มมือ การเรียนร้แู บบเขน รา้ น วธิ สี อนแบบแบง่ กลุ่มทาํ กิจกรรม แบบบทบาทสมมติ แบบทดลอง เป็นต้น วธิ ีสอนแบบผ้เู รยี นเปน็ ศนู ย์กลาง Student Center น้มี คี วามเหมาะสมมาก สําหรบั การประยกุ ตใ์ ช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพราะอปุ กรณ์ Tablet PC นี้ สามารถ เคลอ่ื นยา้ ยไปในทกุ ที่ทุกเวลา ไมจ่ ําเป็นต้องจดั กจิ กรรมการเรยี นรูใ้ นช้นั เรียน พรอ้ มท่จี ะ นาํ บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน ไปเผชิญประสบการณก์ ารเรยี นรจู้ ริงได้ เชน่ วิชาพชื ผัก สวนครวั วชิ าประวตั ิศาสตร์ โดยทผ่ี เู้ รยี นสามารถนาํ บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ ช่วยสอนไปใช้ เรยี นในสวนครวั หรอื ในอทุ ยานประวตั ิศาสตร์ โดยมคี รผู ู้สอนคอยกํากับ การเรยี นรไู้ ด้
22 บทที่ 3 การประยุกตใ์ ชบ้ ทเรียนบนระบบเครอื ขา่ ย 3. ข้ันสรปุ จากทผ่ี เู้ รียนไดร้ ับประสบการณ์การเรียนรจู้ ากบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน แลว้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการเรยี นร้ใู นช้ันเรียน หรือการเผชญิ ประสบการณก์ ารเรียนรู้ จาก สถานการณ์จรงิ ก็ตาม หลงั จากนน้ั ผสู้ อนจะตอ้ งทําการสรปุ เน้ือหาการเรยี นรู้ ตอบ คาํ ถาม และแกป้ ญั หาให้ผู้เรยี นเม่ือผเู้ รยี นออกไปพบปัญหาตา่ ง ๆ ทั้งนเ้ี พื่อใหผ้ เู้ รยี นน้ัน ได้เกดิ ความเขา้ ใจ และเกิดความจดจําทถ่ี าวร 4. ขนั ประเมนิ ผล ในขั้นประเมนิ ผลนม้ี ีความจาํ เปน็ เปน็ อย่างยงิ่ เพราะการประเมินจะช่วยครผู ู้ สอน ใหท้ ราบวา่ หลังจากทผ่ี เู้ รียนทีไ่ ด้รับประสบการณ์การเรยี นรู้แลว้ ผ้เู รยี นนั้นได้มี การ เปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรตู้ ามเกณฑท์ ่กี าํ หนดไว้ หรอื ไม่ อย่างไร หากผเู้ รียนไม่ผ่านตามเกณฑ์ทีก่ าํ หนดไว้ก็จะได้ทาํ การสอนซ่อมเสริมใน เนอ้ื หา ส่วนทไี่ ม่ผ่านดังกล่าวน้ันเอง
บทท่ี 4 การพัฒนาสือ่ การเรยี นรู้ผา่ นระบบเครือข่ายรูปแบบของ ADDIE Moodel 23 บทที่ 4 การพฒั นาสอ่ื การเรยี นร้ผู า่ น ระบบเครือขา่ ยรูปแบบของ ADDIE Moodel
24 บทท่ี 4 การพัฒนาสื่อการเรยี นรู้ผ่านระบบเครอื ข่ายรูปแบบของ ADDIE Moodel บทที่ 4 การพัฒนาสือ่ การเรยี นรู้ผ่านระบบเครือขา่ ย การพัฒนาบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนตามรูปแบบ ADDIE Model การพฒั นาสอื่ ตามรูปแบบ ADDIE Model เปน็ การออกแบบและพัฒนาส่อื อยา่ ง ครบ วงจรสามารถนาํ มาประยกุ ต์ใชไ้ ดก้ บั การพฒั นาส่อื ในทกุ ๆ สื่อได้อยา่ งหลากหลาย และก็ สามารถนาํ มาประยุกตใ์ ช้เพื่อการออกแบบและพัฒนาบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน ได้ (ADDIE Instructional Design Model, 2557). ดังนี้ 1) การวิเคราะห์ (A: Analysis) 2) การออกแบบ (D: Design) 3) การพัฒนา (D: Development) 4) การทดลองใช้ (I: Implementation) 5) การประเมินผล (E: Evaluation) ภาพ แสดงขน้ั ตอนการพัฒนาคอมพวิ เตอร์ตามรูปแบบ ADDIE Model
บทท่ี 4 การพัฒนาส่ือการเรยี นร้ผู ่านระบบเครือขา่ ยรปู แบบของ ADDIE Moodel 25 เม่ือพจิ ารณารูปแบบการสอน ADDIE Model ทอ่ี าศัยวธิ ีการระบบเป็น หลกั การออกแบบบทเรยี นคอมพวิ เตอร์โดยสรุป 5 ขัน้ ตอน (ADDIE Instructional Design Model, 2557) จะมีรายละเอยี ดแต่ละขนั้ ตอนดังต่อไปนี้ 1) การวเิ คราะห์ (Analysis) ประกอบด้วยข้ันตอนตา่ งๆ ดงั นี้ 1.1 ) วเิ คราะห์วัตถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ศกึ ษาเนือ้ หาวชิ า และ วตั ถุประสงค์เชงิ พฤติกรรม วิชาเทคโนโลยีและสอื่ สารการศกึ ษา ตามหลกั สตู รการศึกษา มหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและสอื่ สารการศึกษา 1.2 ) การวเิ คราะหผ์ ู้เรยี น (Audience Analysis) ผเู้ รียนเปน็ นสิ ิต หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑติ สาขาเทคโนโลยแี ละส่ือสารการศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ทีเ่ รยี นในวชิ าเทคโนโลยีและส่ือสารการศกึ ษา มีทกั ษะการใช้งาน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในระดบั พ้ืนฐานได้ 1.3 ) การวิเคราะห์เทคโนโลยที ่ใี ช้ในบทเรยี น (Technology Analy- sis) ผวู้ จิ ยั ได้ศกึ ษารูปแบบของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ซง่ึ จะต้องใช้ เทคโนโลยี Adobe Captivate จะประกอบด้วย 3 ส่วน ดงั นี้ 1) สอ่ื สาํ หรบั นําเสนอ (Presentaton Media) หมาย ตวั บท เรียนทีน่ าํ เสนอด้วยขอ้ ความภาพ วดิ โี อ อธิบายเนอื้ หาบทเรยี น 2) การปฏสิ มั พันธ์ (Interactivity) หมายถึง การโต้ เกิดขึ้น ระหวา่ งผเู้ รียนกบั บทเรยี น ผูว้ จิ ยั ได้พัฒนาโปรแกรมใหผ้ เู้ รยี นไดท้ าํ แบบ และสามารถดู ผลลัพธ์ได้ 3) ส่วนสนับสนุนการเรียนการสอน (Course s การบรกิ ารต่างๆ ท่มี อี ยใู่ นเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ (Social Media) เพ่ือสนับสนุนการ การสอน ผูว้ จิ ัยจะได้ ประยุกตใ์ ช้ Social Media เพอ่ื ให้ผเู้ รียนได้ติดตอ่ ส่อื สารกนั ได้ 1.4 ) การวิเคราะหเ์ นือ้ หา (Content Analysis) โดยอาศัย วตั ถปุ ระสงค์ เชงิ พฤติกรรมของบทเรยี นในขน้ั ตอนที่ผ่านมาเป็นแนวทางในการรวบรวม เน้ือหา ให้ สอดคลอ้ งกับความต้องการมากที่สดุ โดยอาศยั ผเู้ ชย่ี วชาญด้านการสอน เป็นผู้ วเิ คราะห์ หรือเป็นผู้ตรวจสอบเนอ้ื หากอ่ นทจ่ี ะนาํ ไปสรา้ งเป็นบทเรียนคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน
26 บทท่ี 4 การพฒั นาส่อื การเรยี นรูผ้ ่านระบบเครือขา่ ยรูปแบบของ ADDIE Moodel 1.5 ) การวเิ คราะหช์ อื่ (Media Analysis) ทาํ การพจิ ารณาเลือกสอ่ื ประกอบบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนโดยการใชแ้ บบสอบถามความเหมาะสมของสือ ตอ่ การเรยี น ซึ่งเป็นการตัดสินใจเลอื กส่ือให้สอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์และเนอ้ื หาบท เรียน 2) การออกแบบ (Design) ประกอบด้วยขัน้ ตอนตา่ งๆ ดงั นี้ 2.1) การออกแบบบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน สามารถแยกเป็น 6 ข้นั ตอนดงั นี้ 1) ขั้นศกึ ษาข้อตกลงและรับหมอบหมายงาน ผูเ้ รยี นต้อง ผ่านทาง So- cial Media และรับหมอบหมายงานแล้ว ครูผูส้ อนจะช่วยจัดกลุ่มผ้เู รยี นตามวิธกี ารเรียน แบบรวม 2) ขนั้ การจดั กลุ่มผู้เรียน เม่ือผู้เรียนได้ศึกษาข้อตกลงเทคนิค STAD เพือ่ ปอ้ งกันปญั หาความไมเ่ ทา่ เทยี มกันในการแบ่งกลุ่ม 3) ขั้นการสอบกอ่ นเรยี น คณะผ้ศู ึกษาไดส้ ุ่มขอ้ สอบกอ่ น ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม และนําขอ้ สอบกอ่ นเรยี นมาใหผ้ ้เู รียนสอบ และทําการสอบในชั้นเรียนเน่อื ง จากข้อจาํ กัดทางด้านเวลาในการศึกษา และควบคมุ ระยนไดม้ ีการช่วยเหลอื ในเวลา ทําขอ้ สอบก่อนเรียนและบนั ทกึ ผลข้อมลู คะแนนของเรยี นตามวัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ พา การ ควบคมุ การสอบในชนั้ เรยี น ไม่ให้ผูเ้ รียนได้มีการชว่ ยเหลือในเวลาทาํ ผ้เู รียน 4) ขน้ั การศึกษาบทเรยี น พนบน Tablet PC มีข้อความ ภาพเคล่อื นไหว และวดิ โี อประกอบคาํ บรรยาย ในผูส้ อนจะช้ีนาํ ใหเ้ รยี นร้ผู ่าน อา่ นของกจิ กรรมระหวา่ ง เรยี นจะมีคาํ ถามใหผ้ ้เู รียนได้อภิปราย มีการควบคุมในการสอบไม่ให้ผูเ้ รียนได้ชว่ ยเหลือ กนั 5) ขัน้ การสอบหลงั เรยี น เนือ้ หาจบทุกบทแลว้ ผ้เู รยี นจะต้องทาํ แบบ ทดสอบหลงั เรียงตามวตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ หลังจากทผี่ ู้เรียนไดเ้ รียน พฤตกิ รรม โดยครูผสู้ อน จะทาํ การควบคมุ การสอบในชนั้ เรยี น และเมือ่ สอบหลังเรียน เสร็จแล้วระบบจะบันทึก ขอ้ มลู คะแนนของผเู้ รียน
บทท่ี 4 การพฒั นาส่ือการเรยี นร้ผู ่านระบบเครอื ข่ายรปู แบบของ ADDIE Moodel 27 6) ขน้ั การรายงานและสรุปผลคะแนน ขอ้ มูลรายงานคะแนนกอ่ นเรียนระหว่าง เรียน หลังเรยี น กจิ กรรมระหวา่ งเรยี น คะแนนระบบจะแสดง ความกา้ วหน้าทาง การ เรียนท่ีเป็นรายบุคคลและรวมเป็นคา่ เฉลยี่ ของกลุ่ม เมือ่ กลมุ่ ใดได้ คะแนนความกา้ วหนา้ ทางการเรยี นสูงสุดจะได้รบั การยกย่องยอมรบั และได้รับรางวัล ผา่ นทาง Social Media 6.1) การออกแบบหน้าจอภาพ (Screen Design) โดยการจัดพนื้ ท่ี ของ จอภาพของ Tablet PC มีขอ้ จาํ กัดจงึ ตอ้ งออกแบบใหเ้ ปน็ สดั ส่วนในการนําเสนอภาพ ปมุ่ ควบคุมบทเรียนและส่วนอืน่ ๆ ทจี่ าํ เป็นสาํ หรับการนาํ เสนอบทเรยี น ซง่ึ มาเป็นส่วน สําคัญยิ่งสาํ หรบั บทเรยี นท่จี ะช่วยเร้าความสนใจของผเู้ รียนใหต้ ดิ ตามโดยไม่เกดิ ความ เมื่อยล้าหรอื เบ่อื หนา่ ยโดยงา่ ย นอกจากจะเปน็ การเรา้ ความคล่องตวั สามารถใชบ้ ทเรยี น ความรู้ทางดา้ นเรยี นแล้ว การจัดหน้าจอภาพทีด่ จี ะช่วยให้ผเู้ รียนเกิดความคุ้นเคย และ มารถใช้บทเรียนได้โดยไมม่ ีอุปสรรคใดๆ ซึง่ หน้าจอภาพจะต้องเป็นผ้ทู ี่มี ตานศิลปะและ มีความเขา้ ใจตอ่ ความสามารถในการแสดงผลภาพของเคร่อื งคอมพิวเตอร์พอสมควร 3.) การพัฒนา (Development) ประกอบดว้ ยขน้ั ตอนต่างๆ จํานวน ขนั้ ตอน ดังน้ี 3.1) การเตรยี มการ (Preparation) ต้องเตรยี มวสั ดตุ ่างๆเชน่ ภาพ ข้อความและเสียง โดยจดั หาจากแหล่งตา่ งๆ หรือใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอรส์ ร้าง ขนึ้ มา แลว้ เก็บบันทึกไวก้ อ่ นเพอ่ื นาํ ไปใชพ้ ัฒนาบทเรียนในขนั ตอ่ ไป 3.2) การสร้างบทเรยี น (Develop the Lesson) หลงั จากการเตรียม และเตรยี มโปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ีใ่ ชป้ ระกอบบทเรยี นแลว้ ขอ้ ความภาพ เสียง ดาํ เนนิ การสรา้ งบทเรียนคอมพวิ เตอร์ตามบทดําเนินเรือ่ งทล่ี ะเฟรมๆ จนครบทกุ เฟรม โดยใช้ ซอฟต์แวรค์ อมพวิ เตอรห์ รือระบบนิพนธบ์ ทเรียน หลังจากน้นั จะเป็นการเชื่อมโยง ความ สัมพันธ์ระหวา่ งเน้ือหาแตล่ ะเฟรมเข้าด้วยกนั ตามผังงานทอี่ อกแบบไว้ในขัน้ ตอน แรก จัดรปู แบบการนาํ เสนอเขียนโปรแกรมการจดั การบทเรยี นและจดั หน้าจอภาพตามท่ี ออกแบบไว้ ในขน้ั ตอนนจ้ี ึงเปน็ การใช้ข้อมลู ท่ีเตรยี มการมาทงั้ หมดในขน้ั ตอนแรก
28 บทที่ 4 การพฒั นาสื่อการเรียนร้ผู ่านระบบเครือข่ายรูปแบบของ ADDIE Moodel เพอื่ สรา้ งบทเรยี นคอมพิวเตอร์ รวมทง้ั การสรา้ งคําถามระหวา่ งบทเรียน แบบทดสอบ การ ประเมินผลคะแนนและการจัดการฐานข้อมูลขั้นต้นตามลกั ษณะของบทเรยี นท่ี วเิ คราะห์ เนือ้ หามาต้งั แต่ข้นั ตอนแรก 3.3) การทําเอกสารประกอบบทเรียน (Documentation) โดยจดั ทํา เปน็ ค่มู ือการใช้งาน เปน็ การชแ้ี นะให้ผู้เรียนทราบถงึ ข้อแนะนาํ ตา่ งๆ รวมถึงแผนการ เรยี นรู้ (Learning Map) เพื่อแนะแนวทางการเรียน 4). การทดลองใช้ (Implementation) เมอ่ื ได้บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ย สอน สมบูรณ์แลว้ ข้นั ต่อไปเปน็ การนําบทเรียนนน้ั ไปทดลองใชก้ บั กลมุ่ เปา้ หมาย โดยการ ทดลองใชก้ ล่มุ ยอ่ ย (Small-aroup Implementation) เปน็ การทดลองใช้บทเรียนที่ พฒั นาข้นึ กบั ผ้เู รียน กลุ่มเปา้ หมายประมาณ 6-10 และแก้ไขปรบั ปรงุ จนเป็นทพี่ อใจแล้ วการทาํ ลองใชง้ านบทเรียนนจ้ี ะขอกลา่ วอย่างละเอยี ดในหัวขอ้ การหาการทดลองใชก้ ลมุ่ ยอ่ ย (Small-group พัฒนาขนึ้ กบั ผูเ้ รยี น กลุ่มเปาหมา จงึ นาํ ไปใช้ การทําลองใชง้ านบา ประสิทธิภาพตอ่ ไป 5). การประเมนิ ผล (Evaluation) การประเมนิ ประสทิ ธิภาพบทเรียนโดยทาํ การ ทดลองใชภ้ าคสนาม (Field Test) กบั นักเรยี นทไ่ี ม่ใช่กลุ่มทดลองเพอื่ ทาํ การประเมิน ผลบทเรยี นซึ่งวธิ กี าร ประเมนิ ผลบทเรยี น คือ การหาประสิทธภิ าพ (E11 E2) ซ่ึงสามา รถทาํ ได้โดยการ เปรยี บเทยี บคะแนนเฉลยี่ ของผ้เู รยี นที่ไดจ้ ากแบบฝึกหัดระหว่างเรยี น และคะแนนเฉลีย่ จากแบบทดสอบหลังเรียน ซ่งึ จะได้กล่าวตอ่ ไปในหวั ขอ้ การศกึ ษาหา ประสิทธิภาพ บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนตอ่ ไป
บรรณนุกรม 29 บรรณานุกรม
30 บรรณนุกรม บรรณานุกรม จินตวีร์ คล้ายสังข์ และประกอบ กรณกี จิ . (2552), PEDAGOGY-BASED HYBRID LEARNING : จาก แนวคิดสู่การปฏิบัติ. วารสารครศุ าสตร์ ชวาล แพรตั กุล (มปป), เทคนิคการวดั ผล. พิมพค์ รงั้ ท่ี 3. กรงุ เทพฯ : สำ�นักพิมพ์วฒั นาพานิช. ชยั ยงค์ พรหมวงศ์, สมเชาว์ เนตรประเสริฐ, สดุ า สนิ สกุล. ระบบส่อื การสอน. คณะครุศาสตรจ์ ุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั , 2520 ถนอมพร เลาหจรสั แสง. รายงานวิจยั เร่ืองการบรณาการเทคโนโลยี e-Learning ประเภทเกมในช้นั เรยี น สถานบริการเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม.่ (2550). ถนอมพร เลาหจรัสแสง, The Study and Modification of Open Source Game- BasedLearning Engines with the Development of Game-Based Learning Prototypes for Higher Education, สํานกั บรกิ ารเทคโนโลย ี สารสนเทศ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่. (2551). ถนอมพร เลาหจรัสแสง และ อไุ รวรรณ หาญวงค์ การบรู ณาการเทคโนโลยี e-Learning ประเภทเกมในช้นั เรยี น : Integrating Game-Based e-Learning Technology in Classroom Setting รายงานวจิ ัยนําเสนอในการประชมุ ทางวิชาการ คร้งั ที่ 45 มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร,์ 30 มกราคม 2 กมุ ภาพันธ์ 2550. ทิศนา แขมมณี. (2547). 14 วธิ สี อนสาํ หรบั ครมู อื อาชพี . กรงุ เทพฯ : สาํ นกั พิมพ์แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บรรณนกุ รม 31 ทศิ นา แขมมณ.ี (2548). รปู แบบการเรียนการสอน: ทางเลอื กที่หลากหลาย, กรงุ เทพฯ : ส�ำ นกั พมิ พ์ แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ทศิ นา แขมมณ.ี (2545). ศาสตร์การสอน องค์ความรูเ้ พอื่ การจดั กระบวนการเรยี นรทู้ ่มี ีประสิทธภิ าพ จฬุ าลงกรณ์, กรงุ เทพฯ ทศิ นา แขมมณี. (2550), ศาสตรก์ ารสอน. พมิ พค์ รง้ั ที่ 6. กรงุ เทพฯ: สํานักพิมพแ์ หง่ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. ภาสกร เรืองรอง คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน : ภาสกร เรอื งรอง, 2558 208 1. จิราภรณ์ โฉมแดง, ผู้วาดภาพประกอบ. I. ชอ่ื เร่อื ง. ฐาปนีย์ ธรรมเมธา, อีเลริ น์ นงิ : จากทฤษฎสี ู่การปฏิบัติ : e-Learning: from thery to practice โครงการมหาวทิ ยาลัยไซเบอรไ์ ทย, ส�ำ นักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กรุงเทพ: 2557. ทองจนั ทร์ หงสล์ ดารมภ.์ (2550), การเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นหลกั (Problem-Based Learning). เอกสารประกอบการประชมุ เชงิ ปฏิบัตกิ าร เรอ่ื ง การเรยี นรโู้ ดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน (Problem- Based Learning), สํานกั งานคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา, 25-26.
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: