Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore O13 คู่มือบริหารงประมาณรร.ชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา

O13 คู่มือบริหารงประมาณรร.ชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา

Description: O13 คู่มือบริหารงประมาณรร.ชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา

Search

Read the Text Version

คู่มือการปฏิบัติการ งานบริหารงานงบประมาณ โรงเรียนชมุ ชนบ้านฟ่อนวทิ ยา สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 1 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

2 การบรหิ ารงบประมาณ การบริหารและการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี นนิติบุคคล มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ให้โรงเรียนจดั การศึกษาอยา่ งเป็น อิสระ คล่องตัว สามารถบรหิ ารการจัดการศกึ ษาไดส้ ะดวด รวดเร็ว มีประสทิ ธภิ าพแ2ละมีความรับผดิ ชอบ โรงเรียนนิติบุคคล นอกจากมีอานาจหนา้ ที่ตามวตั ถุประสงคข์ ้างตน้ แล้ว ยงั มีอานาจหน้าท่ีตามที่กฏระเบยี บ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารจัดการและขอบเขตการปฏิบัติหน้าท่ีของโรงเรียนขั้นพื้นฐานท่ีเป็นนิติบุคคล สงั กดั เขตพืน้ ท่กี ารศึกษา พ.ศ 2546 ลงวันท่ี 7 กรกฏาคม พ.ศ. 2546 กฎหมายการศึกษาแห่งชาติ และกฎหมายระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ จึงกาหนดให้ โรงเรยี นนติ บิ คุ คลมีอานาจหน้าท่ี ดังนี้ 1. ให้ผ้อู านวยการโรงเรียนเปน็ ผู้แทนนิติบุคคลในกิจการทั่วไปของโรงเรียนทีเ่ กย่ี วกับบคุ คลภายนอก 2. ใหโ้ รงเรยี นมีอานาจปกครอง ดูแล บารงุ รักษา ใชแ้ ละจัดหาผลประโยชนจ์ ากทรพั ย์สินทม่ี ผี ู้บรจิ าคให้ เว้นแต่การจาหน้ายอสังหาริมทรพั ย์ท่ีมีผบู้ ริจาคให้โรงเรียน ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานของโรงเรยี น 3. ให้โรงเรียนจดทะเบียนลิขสิทธหิ์ รือดาเนินการทางทะเบียนทรัพย์สินต่างๆ ที่มีผู้อุทิศให้หรือโครงการซื้อ แลกเปลย่ี นจากรายไดข้ องสถานศกึ ษาให้เปน็ กรรมสิทธขิ์ องสถานศึกษา 4. กรณีโรงเรียนดาเนินคณดีเป็นผู้ฟ้องร้องหรือถูกฟ้องร้อง ผู้บริหารจะต้องดาเนินคดีแทนสถานศกึ ษาหรือ ถกู ฟ้องร่วมกับสถานศึกษา ถา้ ถูกฟ้องโดยมิไดด้อยู่ในการปฏิบัตริ าชการ ในกรอบอานาจ ผู้บริหารต้อง รบั ผิดชอบเป็นการเฉพาะตวั 5. โรงเรยี นจัดทางบดลุ ประจาปีและรายงานสาธารณะทุกสนิ้ ปงี บประมาณ งบประมาณท่สี ถานศึกษานามาใชจ้ ่าย

3 1. แนวคดิ การบริหารงานงบประมาณของสถานศึกษามุ่งเน้นความเป็นอิสระ ในการบริหารจัดการมีความคล่องตัว โปร่งใส ตรวจสอบได้ ยดึ หลกั การบรหิ ารมุ่งเนน้ ผลสมั ฤทธแิ์ ละบริหารงบประมาณแบบมงุ่ เนน้ ผลงาน ให้มีการจัดหา ผลประโยชน์จากทรัพย์สิทของสถานศึกษา รวมท้ังจัดหารายได้จากบริการมาใช้บริหารจัดการเพ่ือประโยชน์ทาง การศกึ ษา ส่งผลให้เกดิ คณุ ภาพทดี่ ขี ึ้นต่อผเู้ รียน 2. วัตถุประสงค์ เพื่อใหส้ ถานศกึ ษาบริหารงานด้านงบประมาณมีความเป็นอสิ ระ คลอ่ งตัว โปรง่ ใสตรวจสอบได้ 2.1 เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลผลิต ผลลัพธ์เป็นไปตามขอ้ ตกลงการใหบ้ ริการ 2.2 เพ่อื ให้สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการทรัพยากรที่ได้อย่างเพยี งพอและประสทิ ธิภาพ 3. ขอบขา่ ยภารกจิ 3.1 กฎหมาย ระเบยี บ และเอกสารท่เี กี่ยวข้อง 1. พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และที่แกไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี 2) 2. พระราชบญั ญตั บิ รหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. 2546 3. ระเบยี บว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2545 4. หลักสตู รการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 5. แนวทางการกระจายอานาจการบรหิ ารและการจดั การศกึ ษาและสถานศึกษาตามกฎกระทรวง กาหนด หลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารกระจายอานาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ. 2550 รายจา่ ยตามงบประมาณ จาแนกออกเป็น 2 ลกั ษณะ 1. รายจา่ ยของส่วนราชการและรฐั วิสาหกิจ - งบบคุ ลากร - งบดาเนินงาน - งบลงทุน - งบเงนิ อดุ หนนุ - งบร่ายจ่ายอืน่ งบบุคลากร หมายถึง รายจ่ายที่กาหนดให้จ่ายเพ่ือการบริหารงานบุคคลภาครัฐ ได้แก่รายจ่ายท่ีจ่ายใน ลักษณะเงนิ เดือน ค่าจา้ งประจา ค่าจ้างชว่ั คราว และคา่ ตอบแทนพนักงานราชการ รวมถงึ ราจจ่ายที่กาหนดให้จา่ ย จากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะราจจ่ายดงั กลา่ งบดาเนนิ งาน หมายถึง รายจ่ายที่กาหนดให้จา่ ยเพอ่ื การบรหิ ารงานประจา ได้แก่ รายจา่ ยทจี่ า่ ยใน ลกั ษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และค่าสาธารณูปโภค รวมถึงราจ่ายที่กาหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใด ในลกั ษณะรายจ่ายดังกลา่ ว งบลงทุน หมายถึง รายจา่ ยท่ีกาหนดใหจ้ ่ายเพอื่ การลงทนุ ได้แก่ รายจ่ายท่ีจ่ายในลักษณะค่าครุภณั ฑ์ ค่า ที่ดินและส่งิ ก่อสรา้ ง รวมถึงรายจ่ายทกี่ าหนดให้จา่ ยจากงบรายจ่ายอืน่ ใดในลกั ษณะรายจ่ายดังกล่าว งบดาเนนิ งาน หมายถึง รายจา่ ยทก่ี าหนดให้จ่ายเพือ่ การบริหารงานประจา ไดแ้ ก่ รายจา่ ยท่ีจ่ายใน

4 ลักษณะคา่ ตอบแทน คา่ ใช้สอย ค่าวสั ดุ และค่าสาธารณูปโภค รวมถงึ รายจา่ ยที่กาหนดใหจ้ ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใด ในลักษณะรายจา่ ยดังกล่าว งบลงทุน หมายถึง รายจ่ายท่ีกาหนให้จ่ายเพื่อการลงทุน ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าครุภัณฑ์ ค่า ทด่ี ินและส่งิ กอ่ นสร้าง รวมถึงรายจ่ายท่ีกาหนดใหจ้ ่ายจากงบรายจา่ ยอนื่ ใดในลักษณะรายจ่ายดงั กล่าว งบเงินอุดหนุน หมายถึง รายจ่ายที่กาหนดให้จ่ายเป็นค่าบารุงหรือเพ่ือช่วยเหลือสนั บสนุนงานของ หน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญหรือหน่วยงานของรฐั ซ่ึงมิใชส่ ่วนกลางตาม พ.ร.บ. ระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดิน หน่วยงานในกากับของรัฐ องค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมถึงเงินอุดหนุน งบ พระมหากษัตริย์ เงนิ อดุ หนุนศาสนา งบรายจ่ายอ่ืน หมายถึง รายจ่ายที่ไม่เข้าลักษณะประเภทงบรายจ่ายใดงบรายจ่ายหนึ่ง หรือรายจ่ายที่ สานักงานงบประมาณกาหนดให้ใช้จา่ ยในงบรายจ่ายนี้ เช่น เงินราชการลับ เงินค่าปรบั ที่จ่ายคนื ให้แก่ผู้ขายหรอื ผู้ รบั จา้ ง ฯลฯ อัตราเงนิ อดุ หนนุ รายหวั นักเรียนตอ่ ปีการศกึ ษา ระดับก่อนประถมศกึ ษา 1,700 บาท ระดบั ประถมศึกษา 1,900 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ 3,500 บาท ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 3,800 บาท การจดั สรรเงินอุดหนนุ รายหวั นกั เรยี น แบง่ การใช้ตามสดั สว่ น ด้านวิชาการ : ด้านบริหารทัว่ ไป : สารอง จ่ายทง้ั 2 ดา้ นคอื 1. ด้านวิชาการ ใหส้ ดั ส่วนไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 นาไปใชไ้ ด้ในเรือ่ ง 1.1 จัดหาวสั ดุและครุภณั ฑ์ทจ่ี าเป็นตอ่ การเรียนการสอน 1.2 ซอ่ มแซมวสั ดอุ ปุ กรณ์ 1.3 การพฒั นาบุคลาการด้านการสอน เชน่ ส่งครูเข้าอบรมสมั มนา 2. ดา้ นบริหารทว่ั ไป ใหส้ ัดส่วนไม่เกนิ รอ้ ยละ 30 นาไปใชไ้ ด้ในเรื่อง 2.1 คา่ วัสดุ ครภุ ัณฑแ์ ละคา่ ท่ดี นิ สิ่งก่อสร้าง ค่าจา้ งช่ัวคราวท่ีไม่ใช่ปฏิบตั กิ ารสอนคา่ ตอบแทน คา่ ใช้ สอย 2.2 สารองจา่ ยนอกเหนอื ดา้ นวิชาการและดา้ นบริหารทัว่ ไป ให้สัดส่วนไม่เกนิ รอ้ ยละ 20 นาไปใชใ้ น เร่อื งงานตามนโยบาย เงินอดุ หนนุ ปจั จัยพื้นฐานสาหรับนกั เรยี นยากจน 1. เปน็ เงินทีจ่ ัดสรรใหแ้ ก่สถานศึกษาท่ีมีนักเรยี นยากจน เพื่อจัดหาปัจจัยพ้ืนฐานที่จาเป็นต่อการดารงชวี ติ และ เพมิ่ โอกาศทางการศึกษา เป็นการช่วยเหลือนักเรียนนที่ยากจน ช้ันป.1 ถึง ม.3 ให้มโี อกาสไดร้ บั การศึกา ในระดบั ทีส่ ูงขึน้ (ยกเวน้ สถานศึกษาสงั กดั สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ) 2. นักเรยี นยากจน หมายถึง นกั เรียนท่ีผ้ปู กครองมรี ายได้ตอ่ ครวั เรือน ไมเ่ กิน 40,000 บาท 3. แนวการใช้ ให้ใชใ้ นลักษณะ ถัวจ่าย ในรายการตอ่ ไปน้ี 3.1 คา่ หนงั สอื และอุปกรณ์การเรียน 3.2 คา่ เสื้อผา้ และวัสดเุ คร่อื งแต่งกายนักเรยี น 3.3 ค่าอาหารกลางวนั (จ้างเหมา )

5 3.4 ค่าพาหนะในการเดินทาง (เงินสด) 3.5 กรณีจา่ ยเป็นเงินสด โรงเรียนแตง่ ต้งั กรรมการ 3 คน ร่วมกันจา่ ยเงินโดยใชใ้ บสาคัญรับเงินเปน็ หลักฐาน 1.1 รายจา่ ยงบกลาง 1. เงนิ สวัสดกิ ารค่ารกั ษาพยาบาล/การศกึ ษาบุตร/เงนิ ชว่ ยเหลอื บตุ ร 2. เงนิ เบีย้ หวัดบาเหนจ็ บานาญ 3. เงินสารอง เงินสมทบ และเงินชดเชยข้าราชการ 4. เงินสมทบของลกู จา้ งประจา 2. รายจ่ายงบกลาง หมายถงึ รายจ่ายท่ตี ั้งไว้เพ่อื จัดสรรใหส้ ่วนราชการและรฐั วสิ าหกจิ โดยทั่วไปใช้จา่ ย ตามรายการดังต่อไปน้ี 1. “เงินเบ้ียหวัดบาเหนจ็ บานาญ” หมายความวา่ รายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจา่ ยเป็นเงินบานาญ ข้าราชการ เงินบาเหน็จลูกจ้างประจา เงินทาขวัญข้าราชการและลูกจ้าง เงินทดแทนข้าราชการวิสามัญ เงินค่า ทดแทนสาหรบั ผูไ้ ดร้ ับอันตรายในการรักษาความม่นั คงของประเทศ เงนิ ชว่ ยพเิ ศษขา้ ราชการบานาญเสยี ชีวติ เงินสงเคราะห์ผู้ประสบภยั เนอื่ งจากการชว่ ยเหลอื ข้าราชการ การปฏิบัติงานของชาติหรือการปฏิบัติตามหน้าท่ีมนุษยธรรม และเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบ้ียหวัด บานาญ 2. “เงนิ ชว่ ยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง และพนกั งานของรฐั ” หมายความว่า รายจา่ ยท่ีตัง้ ไว้เพ่ือ จ่ายเป็นเงินสวัสดิการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ ได้แก่ เงินช่วยเหลือ การศกึ ษาของบุตร เงินช่วยเหลอื บุตร และเงนิ พิเศษในการณตี ายในระหว่างรับราชการ 3. “เงินเล่อื นขั้นเลอื่ นอนั ดับเงนิ เดอื นและเงนิ ปรบั วฒุ ิขา้ ราชการ หมายความว่ารายจ่ายท่ตี ัง้ ไว้ เพื่อจ่ายเป็นเงินเล่อื นข้ันเล่อื นอันดบั เงินเดอื นข้าราชการประจาปี เงนิ เล่อื นขั้นเล่ือนอันดับเงนเดือนข้าราชการท่ีไดร้ ับ เลอ่ื นระดบั และหรอื แตง่ ต้ังใหด้ ารงตาแหนง่ ระหว่างปีและเงินปรบั วุฒิข้าราชการ 4. “เงินสารอง เงนิ สมทบ และเงินชดเชยของขา้ ราชการ” หมายความว่า รายจ่ายท่ตี ้ังไวเ้ พ่ือ จา่ ยเป็นเงนิ สารอง เงินสมทบ และเงนิ ชดเชยทรี่ ัฐบาลนาส่งเขา้ กองทนุ บาเหนจ็ บานาญข้าราชการ 5. “เงินสมทบของลูกจ้างประจา” หมายความวา่ รายจ่ายทต่ี ัง้ ไว้เพ่ือจ่ายเปน็ เงินสมทบท่ี รัฐบาลนาส่งเขา้ กองทนุ สารอง เลยี้ งชีพลกู จ้างประจา 6. “ค่าใช้จ่ายเกีย่ วกบั การเสด็จพระราชดาเนและตอ้ นรับประมขุ ต่างประเทศ หมายความวา่ รายจ่ายท่ีต้ังไว้เพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนพระราชภารกิจในการเสด็จพระราชดาเนินภายในประเทศ และหรือ ตา่ งประเทศ และคา่ ใช้จา่ ยในการต้อนรับประมขุ ต่างประเทศที่มายาเยือนประเทศไทย 7. “เงินสารองจา่ ยเพ่อื กรณีฉกุ เฉินหรอื จาเป็น” หมายความวา่ รายจา่ ยทตี่ ั้งสารองไว้เพือ่ จดั สรรเปน็ คา่ ใช้จ่ายในกรณฉี กุ เฉนิ หรอื จาเปน็ 8. “ค่าใช้จา่ ยในการดาเนนิ การรกั ษาความมนั่ คงของประเทศ” หมายความวา่ รายจ่ายทต่ี ง้ั ไว้ เพือ่ เป็นคา่ ใช้จา่ ยในการดาเนนิ งานรกั ษาความม่ันคงของประเทศ 9. “เงินราชการลับในการรกั ษาความม่นั คงของประเทศ” หมายความวา่ รายจา่ ยท่ีต้ังไว้เพอ่ื เบิกจา่ ยเปน็ เงินราชการลบั ในการดาเนนิ งานเพื่อรักษาความม่ันคงของประเทศ 10. “คา่ ใช้จา่ ยตามโครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดาริ” หมายความวา่ รายจ่ายทต่ี ้ังไวเ้ พ่อื

6 เปน็ ค่าใช้จา่ ในการดาเนนิ งานตามโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ 11. “ค่าใช้จ่ายในการราษาพยาบาลขา้ ราชการ ลกู จ้าง และพนกั งานของรฐั ” หมายความวา่ รายจ่ายที่ตั้งไว้เป็นค่าใชจ้ ่ายในการชว่ ยเหลอื คา่ รักษาพยาบาลขา้ ราชการ ลกู จา้ งประจา และพนักงานของรัฐ เงินนอกงบประมาณ 1. เงินรายไดส้ ถานศึกษา 2. เงนิ ภาษีหัก ณ ทีจ่ า่ ย 3. เงินลูกเสือ เนตรนารี 4. เงินประกันสัญญา 5. เงินบริจาคทม่ี วี ตั ถปุ ระสงค์ เงินรายได้สถานศกึ ษา หมายถงึ เงินรายได้ตามมาตรา 59 แหง่ พ.ร.บ. การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซ่งึ เกดิ จาก 1. ผลประโยชนจ์ ากทรัพยส์ ินทเี่ ป็นราชพัสดุ 2. ค่าบริการและค่าธรรมเนียม ท่ีไม่ขัดหรอื แย้งนโยบาย วตั ถปุ ระสงค์และภารกิจหลักของสถานศกึ ษา 3. เบยี้ ปรับจากการผิดสญั ญาลาศกึ ษาต่อและเบย้ี ปรับการผิดสญั ญาซื้อทรัพยสินหรอื จา้ งทาของจากเงนิ งบประมาณ 4. ค่าขายแบบรูปรายการ เงนิ อุดหนนุ อปท. รวมเงินอาหารกลางวนั 5. ค่าขายทรัพย์สินที่ไดม้ าจากเงินงบประมาณ งานพสั ดุ “การพสั ดุ” หมายความวา่ การจดั ทาเอง การซื้อ การจ้าง การจา้ งที่ปรึกษา การจ้างออกแบบและ ควบคมุ งาน การแลกเปลย่ี น การเชา่ การควบคมุ การจาหน่าย และการดาเนนิ การอื่นๆ ท่ีกาหนดไวใ้ นระเบยี บน้ี “พัสด”ุ หมายความวา่ วัสดุ ครภุ ัณฑ์ ท่ดี นิ และส่งิ กอ่ สร้าง ทกี่ าหนดไว้ในหนังสือ การจาแนกประเภท รายจ่ายตามงบประมาณของสานกั งบประมาณ หรือการจาแนกประเภทรายจา่ ย ตามสัญญาเงนิ กูจ้ ากตา่ งประเทศ “การซื้อ” หมายความว่า การซือ้ พสั ุทกุ ชนดิ ท้ังทีม่ ีการติดต้งั ทดลอง และบริการทีเ่ กี่ยวเนอื่ งอนื่ ๆ แต่ไม่ รวมถึงการจัดหาพสั ดใุ นลกั ษณะการจา้ ง “การจ้าง” ให้หมายความรวมถงึ การจ้างทาของและการับขนตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ และ การจา้ งเหมาบริการ แตไ่ ม่รวมถงึ การจา้ งลูกจา้ งของสว่ นราชการตามระเบยี บของกระทรวงการคลัง การบั ขนในการ เดนิ ทางไปราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางไปราชการ การจ้างทปี่ รึกษ การจา้ งออกแบบและ ควบคมุ งาน และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอบข่ายภารกิจ 1. กฎหมาย ระเบยี บ และเอกสารท่เี ก่ยี วข้อง 2. ระเบยี บสานักนายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพ่มิ เตมิ 3. ระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยการพัสดดุ ว้ ยวิธกี ารทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ พ.ศ. 2549

7 4. แนวทางการปฏบิ ัตติ ามระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรี ว่าด้วยการพัสดุดว้ ยวธิ ีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 หน้าที่และความรบั ผดิ ชอบ 1. จดั วางระบบและปฏบิ ัตงิ านเกี่ยวกับจดั หา การซ้ือ การจ้าง การเก็บรักษา และการเบิกพสั ดุ การควบคุม และการจาหน่ายพสั ดใุ ห้เปน็ ไปตามระเบียบทเี่ กยี่ วข้อง 2. ควบคุมการเบิกจา่ ยเงนิ ตามประเภทเงนิ ให้เป็นไปตามแผนปฏบิ ัตริ าชการรายปี 3. จดั ทาทะเบียนที่ดนิ และส่งิ ก่อสร้างทุกประเภทของสถานศึกษา 4. ประสานงานและวางแผนในการใชพ้ นื้ ท่ีของสถานศกึ ษา ให้เป็นไปตามแผนพัฒนาการศึกษา 5. กาหนดหลักเกณฑว์ ิธกี ารและดาเนนิ การเกยี่ วกบั การจดั หาประโยชน์ที่ราชพสั ดกุ ารใช้และการขอใช้อาคาร สถานที่ของสถานศึกษาใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายและระเบียบท่ีเกย่ี วข้องควบคุมดู ปรบั ปรุง ซอ่ มแซม บารงุ รักษาครภุ ัณฑ์ ให้อย่ใู นสภาพเรียบรอ้ ยต่อการใชง้ านและพฒั นาอาคารสถานที่ การอนุรกั ษ์พลังงาน การรักษาสภาพแวดลอ้ ม และระบบสาธารณปู โภคของสถานศกึ ษาให้เป็นระเบยี บและสวยงาม 6. จัดเวรยามดูแลอาคารสถานที่ของสถานศกึ ษาใหป้ ลอดภยั จากโจรภัย อัคคภี ัยและภยั อื่นๆ 7. จดั วางระบบและควบคมุ การใช้ยานพาหนะ การเบิกจ่ายน้ามันเชอ้ื เพลงิ การบารงุ รักษาและการพัสดตุ า่ งๆ ที่เก่ยี วกบั ยานพาหนะของสถานศึกษาให้เปน็ ไปตามระเบียบทเ่ี กีย่ วข้อง 8. ให้คาแนะนา ชแ้ี จง และอานวยความสะดวกแกบ่ คุ ลากรในสถานศึกษาเก่ียวกับงานในหน้าที่ 9. เกบ็ รกั ษาเอกสารและหลกั ฐานต่างๆ ไวเ้ พื่อการตรวจสอบและดาเนนิ การทาลายเอกสารตามระเบียบท่ี เกี่ยวขอ้ ง 10. ประสานงานและใหค้ วามร่วมมอื กับหน่วยงานตา่ งๆ ท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา 11. เสนอโครงการและรายงานการปฏิบตั งิ านในหนา้ ทีต่ ามลาดับขัน้ 12. ปฏบิ ตั ิอืน่ ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย สวสั ดกิ ารและสิทธิประโยชน์ 1. คา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ 1.1 กฎหมายและระเบียบทีเ่ กี่ยวข้อง 1.2 พระราชกฤษฎกี าค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพ่มิ เติม 1.3 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าดว้ ยการเบิกค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ พ.ศ. 2550 2. ค่าใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ การอนุมัติเดนิ ทางไปราชการ ผู้มอี านาจอนุมัติใหเ้ ดินทางไปราชการ อนมุ ัตริ ะยะเวลาในการเดนิ ทาง ลว่ งหนา้ หรือระยะเวลาหลงั เสรจ็ ส้นิ การปฏิบตั ริ าชการได้ตามความจาเปน็ 3. การนับเวลาเดินทางไปราชการเพอ่ื คานวณเบ้ยี เลย้ี ง กรณีพักค้าง 3.1 ใหน้ ับ 24 ช่วั โมงเปน็ 1 วนั 3.2 ถา้ ไม่ถึง 24 ช่วั โมงหรือเกิน 24 ชั่วโมง และส่วนท่ีไม่ถงึ หรอื เกิน 24 ช่ัวโมง นบั ได้เกิน 12 ชั่วโง ให้ถือเปน็ 1 วัน 4. การนบั เวลาเดนิ ทางไปราชการเพอื่ คานวณเบยี้ เลย้ี งเดินทาง กรณีไม่พักค้าง

8 4.1 หากนับได้ไม่ถงึ 24 ชัว่ โมงและสว่ นท่ีไม่ถึงนบั ได้เกนิ 12 ชว่ั โมง ใหถ้ อื เป็น 1วนั 4.2 หากนับได้ไม่เกนิ 12 ชวั่ โมง แต่เกนิ 6 ชัว่ โมงขน้ึ ไป ให้ถือเปน็ ครึ่งวัน 5. การนับเวลาเดนิ ทางไปราชการเพื่อคานวณเบ้ียเลย้ี งเดินทาง 6. กรณีลากจิ หรือลาพักผอ่ นกอ่ นปฏบิ ัตริ าชการ ให้นบั เวลาต้งั แตเ่ รม่ิ ปฏบิ ตั ิราชการเปน็ ต้นไป 7. กรณีลากิจหรือลาพักผอ่ นหลงั เสรจ็ สิ้นการปฏบิ ตั ิราชการ ใหถ้ ือวา่ สิทธใิ นการเบกิ จ่ายเบ้ียเล้ียงเดินทางส้นิ สดุ ลงเมอ่ื สน้ิ สุดเวลาการปฏิบตั ริ าชการ 8. หลกั เกณฑก์ ารเบิกคา่ เชา่ ท่พี ักในประเทศ การเบิกค่าพาหนะ 1. โดยปกตใิ ห้ใช้ยานพาหนะประจาทางและให้เบิกค่าพาหนะโดยประหยัด 2. กรณีไม่มยี านพาหนะประจาทาง หรอื มแี ต่ต้องการความรวดเร็ว เพ่อื ประโยชนแ์ ก่ทางราชการ ให้ ใชย้ านพาหนะอืน่ ได้ แต่ต้องช้ีแจงเหตุผลและความจาเปน็ ไวใ้ นหลักฐานขอเบิกคา่ พาหนะนน้ั 3. ขา้ ราชการระดับ 6 ข้นึ ไป เบกิ ค่าพาหนะรบั จา้ งได้ ในกรณีต่อไปน้ี 3.1 การเดินทางไป-กลับ ระหว่างสถานทีอ่ ยู่ ท่ีพัก หรือสถานที่ปฏิบตั ริ าชการกับสถานี ยานพาหนะประจาทาง หรอื สถานทจ่ี ัดพาหนะท่ีใชเ้ ดนิ ทางภายในเขตจงั หวดั เดียวกัน 3.2 การเดนิ ทางไป-กลับ ระหว่างสถานท่ีอยู่ ที่พัก กับสถานที่ปฏิบัตริ าชการภายในเขตจงั หวดั เดยี วกัน วนั ละไมเ่ กิน 2 เที่ยว 3.3 การเดนิ ทางไปราชการในเขตกรงุ เทพมหานคร กรณเี ปน็ การเดินทางขา้ มเขตจังหวัด ให้เบกิ ตามอัตราทกี่ ระทรวงการคลงั กาหนด คือ ใหเ้ บิกตามทีจ่ า่ ยจริง ดังน้ี ระหวา่ งกรุงเทพมหานครกับเขต จังหวัดตดิ ต่อกรุงเทพมหานคร ไมเ่ กนิ เทยี่ วล่ะ 400 บาท เดินทางขา้ มเขตจงั หวัดอืน่ นอกเหนือกรณี ดงั กล่าวข้างต้นไมเ่ กนิ เที่ยวละ 300 บาท 3.4 ผู้ไมม่ ีสิทธิเบิก ถ้าต้องนาสมั ภาระในการเดนิ ทาง หรอื สิ่งของเครื่องใชข้ องทางราชการไปดว้ ย และเปน็ เหตใุ ห้ไมส่ ะดวกทจี่ ะเดินทางโดยยานพาหนะประจาทาง ให้เบิกคา่ พาหนะรับจ้างได้(โดยแสดง เหตผุ ลและความจาเป็นไว้ในรายงานเดนิ ทาง) 3.5 การเดนิ ทางลว่ งหน้า หรอื ไม่สามารถกลับเมื่อเสร็จส้นิ การปฏบิ ตั ริ าชการเพราะมเี หตุส่วนตัว (ลากิจ - ลาพักผ่อนไว)้ ใหเ้ บิกคา่ พาหนะเทา่ ท่ีจา่ ยจริงตามเสน้ ทางท่ีไดร้ ับคาส่ังใหเ้ ดินทางไปราชการ กรณมี ีการเดินทางนอกเส้นทางในระหวา่ งการลานั้น ใหเ้ บิกค่าพาหนะไดเ้ ท่าทจี่ ่ายจรงิ โดยไม่เกินอัตราตาม เส้นทางท่ีได้รบั คาสงั่ ใหเ้ ดนิ ทางไปราชการ 3.6 การใช้ยานพาหนะสว่ นตวั (ให้ขออนญุ าตและไดร้ บั อนุญาตแลว้ ) ใหไ้ ด้รับเงินชดเชย คือ รถยนตก์ โิ ลเมตรละ 4 บาท ค่าใช้จา่ ยในการฝึกอบรม

9 การฝึกอบรม หมายถงึ การอบรม ประชมุ /สมั มนา (วชิ าการเชิงปฏิบตั ิการ) บรรยายพเิ ศษ ฝกึ งาน ดู งาน การฝึกอบรม ประกอบดว้ ย 1. หลกั การและเหตุผล 2. โครงการ/หลักสตู ร 3. ระยะเวลาจดั ที่แน่นอน 4. เพ่ือพฒั นาหรือเพิม่ ประสทิ ธิภาพในการปฏบิ ตั งิ าน ค่ารกั ษาพยาบาล ค่ารักษาพยาบาล หมายถงึ เงนิ ทีส่ ถานพยาบาลเรียกเกบ็ ในการรกั ษาพยาบาลเพ่ือให้รา่ งกายกลับสู่สภาวะ ปกติ (ไม่ใชเ่ ป็นการป้องกนั หรือเพ่ือความสวยงาม) 1. ระเบียบและกฎหมายทเี่ กยี่ วข้อง 1.1 พระราชกฤษฎกี าเงนิ สวัสดกิ ารเกีย่ วกบั การรักษาพยาบาล พ.ศ. 2523 และแก้ไขเพ่มิ เติม( 8 ฉบับ) 1.2 ระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยการเบกิ จ่ายเงนิ สวสั ดกิ ารเกย่ี วกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2545 2. ผู้ทม่ี สี ทิ ธิรับเงนิ ค่ารักษาพยาบาล คอื ผ้มู สี ทิ ธและบคุ คลในครอบครัว 2.1 บิดา 2.2 มารดา 2.3 คสู่ มรสทช่ี อบดว้ ยกฎหมาย 2.4 บุตรทช่ี อบด้วยกฎหมาย ซึ่งยังไม่บรรลนุ ติ ิภาวะ หรือบรรลนุ ติ ภิ าวะแลว้ แตเ่ ป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมอื นคนไร้ความสามารถ(ศาลสง่ั ) ไมร่ วมบตุ รบญุ ธรรมหรือบุตรซ่ึงได้ยกเปน็ บุตรบญุ ธรรมบุคคล อน่ื แลว้ 3. ผูม้ สี ิทธิ หมายถึง ขา้ ราชการ ลกู จ้างประจา ผุ้รับเบ้ียหวดั บานาญ และลูกจ้างชาวตา่ งประเทศซง่ึ ได้รับ ค่าจ้างจากเงินงบประมาณ ค่ารักษาพยาบาบ แบ่งเปน็ 2 ประเภท ประเภทไขน้ อก หมายถึง เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของทางราชการโดยไม่ไดน้ อนพกั รกั ษาตวั นาใบเสรจ็ รบั เงนิ มาเบิกจา่ ย ไม่เกนิ 1 ปี นับจากวนั ท่ีจา่ ยเงนิ ประเภทไข้ใน หมายถึง เขา้ รบั การรักษาในสถานพยาบาลของเอกชน หรอื สถานพยาบาลของทาง ราชการ สถานพยาบาลเอกชน ใชใ้ บเสรจ็ รบั เงนิ นามาเบกิ จา่ ยเงิน พร้อมใหแ้ พทยร์ บั รอง “หากผ้ปู ว่ ยมิได้เจ้ารับ การรักษาพยาบาลในทันทีทันใด อาจเปน็ อนั ตรายถึงชวี ิต” และสถานพยาบาลทางราชการ ใชห้ นงั สือรบั รองสิทธิ กรณยี ังไม่ไดเ้ บกิ จ่ายตรง การศกึ ษาบุตร คา่ การศึกษาของบุตร หมายความว่า เงนิ บารุงการศกึ ษา หรอื เงินคา่ เล่าเรียน หรอื เงินอน่ื ใดท่ีสถานศึกษา เรยี กเกบ็ และรฐั ออกให้เป็นสวัสดิการกบั ขา้ ราชการผมู้ ีสทิ ธิ

10 1. ระเบียบและกฎหมายทเ่ี ก่ียวข้อง 1.1 พระราชราชกฤษฎกี าเงนิ สวสั ดิการเกยี่ วกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. 2523 1.2 ระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการเบกิ จ่ายเงินสวสั ดกิ ารเก่ียวกับการศกึ ษาของบุตร พ.ศ. 2547 1.3 หนังสือเวยี นกรมบญั ชกี ลาง กค 0422.3/ว 161 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 เร่อื ง ประเภท และอัตราเงนิ บารุงการศึกษาในสถานศึกษาของทางราชการ และคา่ เล่าเรียนในสถานศกึ ษาของเอกชน และกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0422.3/ว 226 ลงวนั ท่ี 30 มถิ ุนายน 2552 เรื่องการเบกิ งนิ สวัสดิการ เกยี่ วกบั การศึกษา่ ของบุตร 2. ผู้ท่ีมีสิทธิรบั เงินค่าการศึกษาของบุตร 2.1 บตุ รชอบโดยกฎหมายอายไุ ม่เกนิ 25 ปบี รบิ ูรณ์ ในวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี ไมร่ วมบุตรบุญ ธรรม หรือบุตรซ่ึงไดย้ กให้เป็นบุตรบุญธรรมคนอ่นื แล้ว 2.2 ใช้สิทธิเบกิ ได้ 3 คน เว้นแต่บตุ รคนท่ี 3 เปน็ ฝาแฝดสามารถนามาเบิกได้ 4 คน 2.3 เบกิ เงินสวสั ดกิ ารเก่ียวกบั ศึกษาบุตรภายใน 1 ปี นบั ตั้งแตว่ ันเปิดภาคเรยี นของแต่ละภาค จานวนเงนิ ทีเ่ บกิ ได้ 1. ระดับอนุบาลหรอื เทียบเทา่ เบิกได้ปลี ะไมเ่ กิน 4,650 บาท 2. ระดับประถมศึกษาหรือเทียบเทา่ เบกิ ได้ปีละไม่เกนิ 3,200 บาท 3. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย/หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพ(ปวช.) หรือ เทยี บเทา่ เบกิ ได้ปีละไม่เกนิ 3,900 บาท 4. ระดบั อนุปริญญาหรือเทียบเท่า เบิกได้ปลี ะไมเ่ กนิ 11,000 บาท คา่ เช่าบ้าน 1. ระเบียบและกฎหมายที่เกีย่ วข้อง 1.1 พระราชกฤษฎกี าคา่ เช่าชา้ นข้าราชการ พ.ศ. 2550 1.2 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบกิ จา่ ยเงินคา่ เชา่ บ้าน พ.ศ. 2549 2. สทิ ธกิ ารเบิกเงนิ ค่าเช่าบ้าน 2.1 ไดร้ บั คาส่ังใหเ้ ดนิ ทางไปประจาสานกั งานใหม่ในตา่ งทอ้ งที่ เวน้ แต่ 2.1.1 ทางราชการได้จดั ที่พักอาศัยใหอ้ ยู่แล้ว 2.1.2 มีเคหสถานเปน็ ของตนเองหรือคสู่ มรส 2.1.3 ไดร้ ับคาสัง่ ใหเ้ ดินทางไปประจาสานักงานใหม่ในต่างท้องทตี่ ามคาร้องขอของตนเอง 2.2 ขา้ ราชการผูไ้ ด้รบั คาสง่ั ให้เดินทางไปประจาสานกั งานในท้องทที่ รี่ ับราชการครง้ั แรกหรือท้องที่ท่ีกลับเขา้ รบั ราชการใหม่ ใหม้ ีสิทธไิ ด้รับเงินคา่ เชา้ บา้ น (พระราชกฤษฎีกาเชา่ บา้ น 2550 (ฉบบั ที่ 2) มาตรา 7) 2.3 ข้าราชการมีสทิ ธไิ ดร้ ับเงินค่าเชา่ บา้ นตัง้ แตว่ นั ทเ่ี ช่าอยจู่ รงิ แตไ่ ม่ก่อนวันทร่ี ายงานตัวเพ่ือเขา้ รบั หนา้ ที่ (พระราชกฤษฎีกาคา่ เช่าบา้ น 2547 มาตรา 14) 2.4 ขา้ ราชการซึ่งมีสิทธิได้รบั เงินค่าเช่าบ้านไดเ้ ชา่ ซ้ือหรือผ่อนชาระเงินกู้เพ่ือชาระราคาบา้ นท่ีคา้ งชาระอยู่ ในท้องทีท่ ี่ไปประจาสานักงานใหม่ มีสิทธนิ าหลักฐานการชาระคา่ เช่าซ้ือหรอื ค่าผ่อนชาระเงินกฯู้ มา เบกิ ได้ (พระราชกฤษฎีกาคา่ เช่าบา้ น 2547 มาตรา 17)

11 คาจากัดความ แผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หมายถึง แผนแสดงรายละเอียดการปฎิบัติงาน และแสดงรายละเอยี ดการใช้จ่ายงบประมาณรายจา่ ยตามแผนการปฏิบัตงิ านของโรงเรยี นชุมชนบ้านฟ่อนวทิ ยา ในรอบปงี บประมาณ การใช้จ่ายงบประมาณ หมายถึง การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของโรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา เพื่อ ดาเนินตามแผนการปฏบิ ตั งิ านในรอบปี การจัดสรรงบประมาณ หมายถึง การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจาปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพ่ิมเติม ให้ส่วนราชการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพัน ท้ังนี้ อาจ ดาเนนิ การโดยใชก้ ารอนุมัตเิ งินประจางวดหรอื โดยวิธีการอ่ืนใดตามทส่ี านกั งบประมาณกาหนด เป้าหมายยุทธศาสตร์ หมายถึง ผลสัมฤทธ์ิที่การใช้จ่ายงบประมาณต้องการจะใหเ้ กิดต่อนักเรียน บุคลากร โรงเรียนชุมชนบา้ นฟ่อนวิทยา แผนการปฏิบัติงาน หมายถึง แผนการปฏิบัติงานของโรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา” ในรอบ ปงี บประมาณ แผนการใช้จ่ายงบประมาณ หมายถึง แผนแสดงรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายสาหรับ โรงเรียนชุมชนบ้านฟอ่ นวทิ ยา เพ่อื ดาเนินงานตามแผนการปฏิบตั ิงานในรอบปงี บประมาณ โครงการ หมายถึง โครงการทก่ี าหนดข้นึ เพ่ือใช้จา่ ยเงินเปน็ ไปตามในระหวา่ งปงี บประมาณ งบรายจา่ ย หมายถึง กลุ่มวัตถปุ ระสงค์ของรายจา่ ย ทก่ี าหนดใหจ้ า่ ยตามหลกั การจาแนกประเภทรายจ่าย ตามงบประมาณ จาแนกงบรายจา่ ยตามหลกั จาแนกประเภทงบประมาณตามงบรายจ่าย ดงั นี้ งบบุคลากร หมายถึง รายจ่ายที่กาหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคลภาครัฐ ได้แก่ รายจ่ายในลักษณะ เงินเดือน ค่าจ้างประจา ค่าจ้างช่ัวคราว และค่าตอบแทนพนักงานราชการ รวมถึงรายจ่ายที่กาหนดให้จ่ายจากงบ รายจา่ ยอ่นื ในลกั ษณะดังกลา่ ว งบดาเนินงาน หมายถึง รายจ่ายที่กาหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจา ได้แก่รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะ คา่ ตอบแทน ค่าใช้สอย คา่ วัสดุ คา่ สาธารณูปโภค งบลงทุน หมายถึง รายจ่ายที่กาหนดให้จ่ายเพ่ือการลงทุน ได้แก่ รายจ่ายในลักษณะ ค่าครุภัณฑ์ ค่าที่ดิน และสง่ิ ก่อสร้าง งบเงินอุดหนุน หมายถึง รายจ่ายที่กาหนดให้จ่ายเป็นค่าบารุง หรือเพ่ือช่วยเหลือสนุบสนุนการดาเนินงาน ของหนว่ ยงานองค์กรตามรัฐธรรมนญู หรือหน่วยงานของรัฐซ่ึงมิใช่ส่วนราชการส่วนกลางตามพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการแผน่ ดนิ หน่วยงานในกากบั ของรัฐองค์การมหาชน รฐั วิสาหกจิ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น สภาตาบล องค์การระหว่างประเทศบิติบุคคล เอกชนหรือกิจการอันเป็นสาธารณประโยชน์ รวมถึง เงินอุดหนุนงบ พระมหากษตั รยิ ์ เงินอุดหนุนการศาสนา และรายจ่ายทีส่ านกั งบประมาณกาหนดให้จ่ายในงบรายจ่ายน้ี งบรายจ่ายอ่ืน หมายถึง รายจ่ายที่ไม่เข้าลักษณะประเภทงบรายจ่ายใดงบรายจ่ายหนึ่ง หรือรายจ่ายท่ี สานกั งบประมาณกาหนดใหใ้ ช้จา่ ยในงบรายจ่ายนี้ เชน่ (1) เงินราชการลบั

12 (2) เงนิ ค่าปรับทีจ่ ่ายคืนให้แกผ่ ขู้ ายหรอื ผรู้ ับจา้ ง (3) ค่าจ้างที่ปรึกษาเพ่ือศึกษา วิจัย ประเมินผล หรือพัฒนาระบบต่างๆซึ่งมิใช่เพื่อการจัดหา หรือปรับปรุง ครุภัณฑ์ท่ีดินหรอื ส่งิ กอ่ สรา้ ง (4) ค่าใชจ้ ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศช่ัวคราว (5) ค่าใชจ้ า่ ยสาหรบั หนว่ ยงานองคก์ รตามรัฐธรรมนญู (สว่ นราชการ) (6) ค่าใช้จ่ายเพื่อชาระหนีเ้ งนิ กู้ (7) ค่าใชจ้ ่ายสาหรบั กองทนุ หรือเงนิ ทนุ หมุนเวียน หน้าที่ความรับผิดชอบ ฝ่ายการบริหารงานงบประมาณ บุคลากรในฝ่ายการบริหารงานงบประมาณ ปฏิบัติหน้าท่ีหัวหน้ากลุ่มบริหารงบประมาณ มีหน้าที่ดูแล กากับติดตาม กล่ันกรอง อานวยความสะดวก ให้คาแนะนาปรึกษาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในกลุ่ม บรหิ ารงบประมาณ ตามขอบข่ายและภารกิจการบริหารงบประมาณ ปฏิบัติหน้าที่ที่เก่ียวข้องกับการจัดระบบบริหาร องค์กรการประสานงานและให้บริการสนับสนุน ส่งเสริมให้ฝ่ายบริหารงบประมาณต่างๆ ในโรงเรียนสามารถบริหาร จัดการและดาเนินการตามบทบาทภารกิจ อานาจหน้าท่ีด้วยความเรียบร้อยตลอดจนสนับสนุนและให้บริการข้อมูล ข่าวสาร เอกสาร ส่ือ อุปกรณ์ทางการศึกษาและทรัพยากรท่ีใช้ในการจัดการศึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของแต่ละฝ่ายงาน เพือ่ ใหฝ้ ่ายงานบริหารจดั การได้อย่างสะดวกคล่องตวั มคี ณุ ภาพและเกิดประสิทธผิ ล ขอบขา่ ยกลมุ่ การบรหิ ารงบประมาณ มีดังน้ี 1. การจัดทาแผนงบประมาณและคาขอต้ังงบประมาณเพือ่ เสนอตอ่ เลขาธิการคณะกรรมการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ผรู้ ับผดิ ชอบมี หนา้ ท่ีรบั ผดิ ชอบปฏิบัติงานดงั น้ี 1) จัดทาข้อมูลสารสนเทศทางการเงินของสถานศึกษา ได้แก่ แผนช้ันเรียน ข้อมูลครูนักเรียน และ สง่ิ อานวยความสะดวกของสถานศกึ ษา โดยความรว่ มมือของสานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา 2) จัดทากรอบงบประมาณรายจ่ายลว่ งหนา้ และแผนงบประมาณ 3) เสนอแผนงบประมาณขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพ่ือใช้เป็นคา ขอตงั้ งบประมาณตอ่ สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา 2. การจัดทาแผนปฏิบัติการใชจ้ ่ายเงนิ ตามท่ีได้รบั จดั สรรงบประมาณจากสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พน้ื ฐานโดยตรง บุคลากรในฝ่ายการบริหารงานงบประมาณ หน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติงานและผู้รับผิดชอบโครงการฯ ดงั น้ี 1) จัดทาแผนปฏิบัติการประจาปแี ละแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายใตค้ วามร่วมมือของสานักงาน เขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา 2) ขอความเห็นชอบแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณต่อคณะกรรมการสถานศึกษา ขน้ั พื้นฐาน

13 3. การอนุมัตกิ ารใชจ้ ่ายงบประมาณทไี่ ด้รับจดั สรร มีหน้าที่รับผิดชอบเสนอโครงการดงั นี้ - ผู้อานวยการสถานศึกษาอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณตามงาน/โครงการที่กาหนดไว้ในแผนปฏิบัติ การประจาปี และแผนการใชจ้ า่ ยเงินภายใต้ความร่วมมือของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 4. การขอโอนและการขอเปลีย่ นแปลงงบประมาณ มีหนา้ ทร่ี บั ผิดชอบปฏบิ ัติงานดังนี้ 1) ตรวจสอบรายละเอียดรายการงบประมาณที่จาเป็นต้องขอโอนหรือเปล่ียนแปลงเช่นเดียวกับ สถานศึกษาประเภทท่ี 1 เสนอความเห็นชอบคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน แล้วเสนอ ขอโอนหรือ เปล่ยี นแปลงรายการงบประมาณต่อสานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา เพอ่ื ดาเนินการต่อไป 5. การรายงานผลการเบิกจา่ ยงบประมาณ มีหนา้ ที่รับผดิ ชอบปฏิบัตงิ านดงั นี้ 1) รายงานผลการดาเนินงาน ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจาปี ไปยังสานักงานเขต พ้ืนท่กี ารศึกษา 6. การตรวจสอบ ติดตามและรายงานการใชง้ บประมาณ มี หนา้ ท่ีรับผดิ ชอบปฏบิ ัตงิ านดังนี้ 1) จดั การให้มีการตรวจสอบและติดตามให้ กลุม่ ฝ่ายงาน ในสถานศึกษา รายงานผลการปฏิบัติงาน และผลการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อจัดทารายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณตามแบบท่ีสานัก งบประมาณกาหนด และจัดส่งไปยังสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาทุกไตรมาส ภายในระยะเวลาท่ีสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศกึ ษากาหนด 2) จัดทารายงานประจาปีที่แสดงถึงความสาเร็จในการปฏิบัติงาน และจัดส่งให้สานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาภายในระยะเวลาทีส่ านักงานเขตพ้ืนที่การศึกษากาหนด 7. การตรวจสอบ ตดิ ตามและรายงานการใชผ้ ลผลติ จากงบประมาณ มหี นา้ ท่รี บั ผดิ ชอบปฏบิ ัติงานดังนี้ 1) ประเมินคณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ านตามที่ได้รบั มอบหมาย 2) วางแผนประเมินประสิทธภิ าพ และประสทิ ธผิ ลการดาเนนิ งานของสถานศึกษา 3) วิเคราะห์และประเมินความมีประสิทธิภาพ ประหยัด และความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากรของ หนว่ ยงานในสถานศกึ ษา 8. การระดมทรพั ยากรและการลงทุนเพื่อการศกึ ษา มีหน้าท่ีรับผิดชอบปฏิบัติงานดงั น้ี 1) วางแผน รณรงค์ ส่งเสริมการระดมทุนการศึกษาและทุนเพ่ือการพัฒนาการศึกษาให้ดาเนินงาน ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล คุ้มคา่ และมคี วามโปร่งใส 2) จัดทาข้อมูลสารสนเทศ และระบบการรับจ่ายทุนการศึกษาและเพื่อการพัฒนาการศึกษาให้ ดาเนนิ งานไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพและเกิดประสิทธิผล คมุ้ คา่ และมีความโปรง่ ใส 3) สรุป รายงาน เผยแพร่ และเชิดชูเกียรติผู้สนับสนุนทุนการศึกษาและทุนเพ่ือการพัฒนา สถานศกึ ษา โดยความชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน 9. การบรหิ ารจัดการทรัพยากรเพ่ือการศกึ ษา มีหนา้ ท่รี ับผิดชอบปฏิบตั งิ านดังน้ี 1) จัดทารายการทรัพยากรเพ่อื เปน็ สารสนเทศได้แกแ่ หล่งเรียนรูภ้ ายในสถานศึกษา แหล่งเรียนร้ใู น ท้องถิ่นทั้งที่เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งเรียนรู้ที่เป็นสถานประกอบการ เพ่ือการรับรู้ของ บคุ ลากรในสถานศึกษา นักเรยี นและบคุ คลท่วั ไปจาไดเ้ กิดการใชท้ รัพยากรรว่ มกนั ในการจัดการศึกษา 2) วางระบบหรือกาหนดแนวปฏบิ ัตกิ ารใช้ทรัพยากรร่วมกันกับบุคคล หน่วยงานรฐั บาลและเอกชน เพอื่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3) กระตุ้นให้บุคคลในสถานศึกษาร่วมใช้ทรัพยากรภายในและภายนอก รวมท้ังให้บริการการใช้ ทรพั ยากรภายในเพอ่ื ประโยชนต์ ่อการเรยี นรแู้ ละสง่ เสรมิ การศึกษาในชมุ ชน

14 4) ประสานความร่วมมือกับผู้รับผิดชอบแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรท่ีมนุษย์สร้าง ทรพั ยากรบคุ คลที่มีศกั ยภาพให้การสนบั สนนุ การจัดการศึกษา 5) ดาเนินการเชิดชูเกียรติบุคคลและหน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชน ที่สนับสนุนการใช้ทรัพยากร รว่ มกันเพ่ือการศกึ ษาของสถานศึกษา 10. การวางแผนพัสดุ มหี นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบปฏบิ ตั ิงานดงั น้ี 1) การวางแผนพัสดลุ ว่ งหน้า 3 ปี ใหด้ าเนนิ การตามกระบวนการของการวางแผนงบประมาณ 2) การจัดทาแผนการจัดหาพัสดุให้ฝ่ายที่ทาหน้าท่ีจัดซื้อจัดจ้างเป็นผู้ดาเนินการ โดยให้ฝ่าย ที่ต้องการใช้พัสดุ จัดทารายละเอียดพัสดุท่ีต้องการ คือรายละเอียดเก่ียวกับปริมาณ ราคา คุณลักษณะเฉพาะ หรือ แบบรปู รายการและระยะเวลาที่ต้องการนี้ต้องเป็นไปตามแผนปฏิบัติการประจาปี (แผนปฏิบัติงาน) และตามที่ระบุไว้ ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจา่ ยประจาปี สง่ ให้ฝ่ายที่ทาหน้าที่จัดซื้อจดั จ้างเพ่ือจัดทาแผนการ จดั หาพัสดุ 3) ฝ่ายท่ีจัดทาแผนการจดั หาพสั ดุทาการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดจากฝ่ายท่ีต้องการใช้พสั ดุโดยมี การสอบทานกับแผนปฏิบัติงานและเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี และความ เหมาะสมของวิธีการจัดหาว่าควรเป็นการซื้อ การเช่าหรือการจัดทาเองแล้วจานาข้อมูลท่ีสอบทานแล้วมาจัดทา แผนการจดั หาพสั ดใุ นภาพรวมของสถานศึกษา 11. การกาหนดแบบรูปรายการหรือคุณลกั ษณะเฉพาะของครภุ ัณฑห์ รือสง่ิ กอ่ สรา้ งทีใ่ ช้เงินงบประมาณเพื่อสนอง ตอ่ เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน มหี น้าท่ีรบั ผิดชอบปฏบิ ตั ิงานดังนี้ 1) กาหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะเพ่ือประกอบการขอตั้งงบประมาณ ส่งให้ สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา 2) กรณีท่ีเป็นการจัดหาจากเงินนอกงบประมาณให้กาหนดแบบรูปรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะ ได้โดยให้พิจารณาจากแบบมาตรฐานก่อนหากไม่เหมาะสมก็ให้กาหนดตามความต้องการโดยยึดหลักความโปร่งใส เป็นธรรมและเป็นประโยชนก์ บั ทางราชการ 12. การจดั หาพสั ดุ มหี นา้ ท่ีรบั ผิดชอบปฏิบัติงานดงั นี้ 1) การจัดหาพสั ดุถือปฏบิ ัติตามระเบยี บว่าดว้ ยการพสั ดขุ องสว่ นราชการและคาสงั่ มอบอานาจของ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน 2) การจดั ทาพัสดถุ อื ปฏิบัตติ ามระเบยี บกระทรวงศึกษาวา่ ดว้ ยการให้สถานศึกษารับจดั ทา รับบริการ 13. การควบคุมดแู ล บารุงรกั ษาและจาหนา่ ยพัสดุ มหี น้าท่ีรบั ผิดชอบปฏบิ ัตงิ านดงั นี้ 1) จัดทาทะเบียนคุมทรพั ย์สนิ และบัญชีวสั ดุไมว่ ่าจะได้มาดว้ ยการจัดหาหรือการรับบริจาค 2) ควบคุมพสั ดุให้อยูใ่ นสภาพพรอ้ มการใชง้ าน 3) ตรวจสอบพัสดุประจาปี และให้มีการจาหน่ายพัสดุท่ชี ารดุ เสือ่ มสภาพหรอื ไม่ใช้ในราชการ อีกตอ่ ไป 4) พสั ดทุ ี่เปน็ ที่ดนิ หรอื สง่ิ ก่อสรา้ ง กรณีท่ไี ด้มาด้วยเงนิ งบประมาณให้ดาเนนิ การขึ้นทะเบียน เป็น ราชพสั ดุ กรณที ่ีได้มาจากการรบั บรจิ าคหรือจากเงนิ รายไดส้ ถานศึกษาให้ขึ้นทะเบียนเปน็ กรรมสิทธข์ิ องสถานศกึ ษา 14. การรับเงนิ การเกบ็ รักษาเงนิ และการจ่ายเงิน มีหนา้ ท่รี ับผดิ ชอบปฏบิ ัตงิ านดงั น้ี

15 1) การปฏิบัติเก่ียวกับการรับเงิน และการจา่ ยเงินใหป้ ฏิบัตติ ามระเบียบที่กระทรวงการคลังกาหนด คอื ระเบียบการเก็บรักษาเงนิ และการนาเงินส่งคลังในหน้าท่ีของอาเภอ พ.ศ. 2520 โดยสถานศึกษาสามารถกาหนด วธิ ีปฏิบตั ิเพม่ิ เติมไดต้ ามความเหมาะสมแตต่ อ้ งไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบดงั กลา่ ว 2) การปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรักษาเงินให้ปฏิบัติตามระเบียบท่ีกระทรวงการคลังกาหนด คือระเบียบการเก็บรักษาเงนิ และการนาเงินสง่ คลังในส่วนของราชการ พ.ศ. 2520 โดยอนุโลม 15. การนาเงนิ สง่ คลัง มหี นา้ ท่รี ับผดิ ชอบปฏบิ ตั งิ านดังนี้ 1) การนาเงินส่งคลังให้นาส่งต่อสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาภายในระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ตาม ระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนาเงินส่งคลังในหน้าที่ของอาเภอพ.ศ. 2520 หากนาส่งเป็นเงินสดให้ต้ัง คณะกรรมการนาสง่ เงินดว้ ย 16. การจัดทาบัญชีการเงิน มหี น้าทรี่ ับผดิ ชอบปฏบิ ัตงิ านดังนี้ 1) ให้จัดทาบัญชีการเงินตามระบบที่เคยจัดทาอยู่เดิม คือ ตามระบบท่ีกาหนดไว้ในคู่มือการบัญชี หน่วยงานย่อย พ.ศ. 2515 หรอื ตามระบบการควบคมุ การเงินของหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2544 แลว้ แตก่ รณี 17. การจัดทารายงานทางการเงินและงบการเงิน มีหนา้ ทรี่ ับผิดชอบปฏบิ ตั งิ านดงั น้ี 1) จัดทารายงานตามที่กาหนดในคู่มือการบัญชีสาหรบั หน่วยงานย่อย พ.ศ. 2515 หรือ ตามระบบ การควบคุมการเงนิ ของหนว่ ยงานย่อยพ.ศ. 2515 แลว้ แต่กรณี 2) จัดทารายงานการรับจ่ายเงินรายได้สถานศึกษา ตามที่สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พ้ืนฐานกาหนด คือ ตามประกาศสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานว่าด้วยหลักเกณฑ์ อัตราและวิธีการนา เงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาท่ีเป็นนิติบุคคลรายได้สถานศึกษาไป จา่ ยเป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการจดั การของสถานศกึ ษาที่เปน็ นิติบุคคลในสงั กดั เขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษา 18. การจัดทาและจดั หาแบบพมิ พบ์ ัญชี ทะเบียนและรายงาน มหี นา้ ท่รี บั ผิดชอบปฏิบัตงิ านดงั นี้ 1) แบบพิมพ์บัญชี ทะเบียนและแบบรายงานให้จัดทาตามแบบที่กาหนดในคู่มือการบัญชีสาหรับ หนว่ ยงานยอ่ ย พ.ศ. 2515 หรือตามระบบการควบคุมการเงินของหน่วยงานย่อย พ.ศ. 2544