ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ เสนอ คุณครู จนั ทนา ลัยวรรณา จัดทาโดย นาย วิวรรธน์ รตั นเชิดชูวงศ์ เลขที่ 29 ระดับชั้น ปวช.2/1 สาขาวิชา คอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ รายงานนี้เปน็ ส่วนหนง่ึ ของวชิ า เศรษญศาสตรเ์ บ้อื งตน้ (2200-1001) ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2562 วิทยาลยั เทคนคิ จันทบุรี
คานา รายงานเลม่ นี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเศรษฐศาสตร์ จัดทาขึ้นเพ่ือเป็นแนวทางความรู้ศึกษาเพิ่มเติมให้กับรุ่น น้องได้สืบต่อกัน และเน้ือหาดังกล่าวสามารถที่จะนาไปใช้งานได้จริงผู้จัดทาได้นาเน้ือหาดังกล่าวมารวบรวม เพ่อื ใหไ้ ด้ความรู้ความเขา้ ใจท่ีรวดรดั ทีส่ ุด จดั ทาโดย นายววิ รรธน์ รัตนเชิดชวู งศ์
สารบัญ หนา้ 1.ประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ 1-2 2.เมอื งหลวงของประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ 2-4 3.ภาษาราชการ 4-6 4.ดอกไมป้ ระจาชาติ 6-7 5.เศรษฐกิจในประเทศเนเธอร์แลนด์ 7-10 6.การเมอื งการปกครอง 10-12
1 ประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ เนเธอร์แลนด์ หรือท่ีมักเรียกกันว่า ฮอลแลนด์ (อังกฤษ: Holland) หรือ ฮอลันดา หรือ วิลันดา เป็น ประเทศองค์ประกอบ (constituent country) ของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประกอบด้วยสิบสองจังหวัด ในยุโรปตะวันตก และสามเกาะในแคริบเบียน เนเธอร์แลนด์ส่วนท่ีอยู่ในทวีปยุโรปมีอาณาเขตทิศเหนือและ ตะวันตกจดทะเลเหนือ ทิศใต้จดประเทศเบลเยียม และทิศตะวันออกจดประเทศเยอรมนี และมีพรมแดนทาง ทะเลร่วมกับเบลเยียม เยอรมนีและสหราชอาณาจักร ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกๆของโลกท่ีมี รัฐสภาจากการเลือกต้ัง และปกครองด้วยประชาธิปไตยระบบรัฐสภา จัดระเบียบเป็นรัฐเด่ียว เมืองหลวงของ ประเทศเนเธอร์แลนด์ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ คือ อัมสเตอร์ดัม ทว่า ท่ีทาการรัฐบาลตั้งอยู่ท่ีกรุงเฮกประ เทศเนเธอร์แลนด์ทั้งหมดมักเรียกว่า \"ฮอลแลนด์\" ซ่ึงในการใช้อย่างเข้มงวดจะหมายความถึงจังหวัดนอร์ท ฮอลแลนด์และเซาท์ฮอลแลนด์เท่านั้น ถือกันว่าการใช้แบบแรกน้ันไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นทางการข้ึนอยู่กับ บริบท ทว่า เป็นทย่ี อมรบั กันท่ัวไปเมื่อหมายถงึ ฟุตบอลทีมชาติ ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศท่ีมีพ้ืนท่ีต่า โดย 20% ของพื้นที่อยู่ และ 21% ของประชากรอาศัยอยู่ ต่ากว่าระดับน้าทะเล และ 50% ของพ้ืนท่ีอยู่สูงกว่าระดับน้าทะเลไม่เกินหนึ่งเมตร[8][9] ซ่ึงลักษณะเด่นนี้เป็น ทม่ี าของช่ือประเทศ ในภาษาดตั ช์ อังกฤษและภาษาอืน่ ของยโุ รปอกี หลายภาษา ชื่อประเทศหมายถึง \"แผ่นดิน ตา่ \" หรือ \"กลมุ่ ประเทศแผน่ ดินต่า\" พนื้ ท่ีสว่ นใหญ่ทอี่ ยู่ตา่ กว่าระดบั นา้ ทะเลเกิดจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งเกิดจากการ สกัดพีต (peat) อย่างกว้างขวางและมีการควบคุมไม่ดีหลายศตวรรษทาให้พ้ืนผิวต่าลงหลายเมตร แม้ในพื้นท่ี น้าทว่ มถึง การสกัดพตี ยังดาเนนิ ตอ่ ไปโดยการขุดลอกพื้นท่ี ตั้งแต่ปลายครสิ ต์ศตวรรษท่ี 16 เริ่มมีการฟื้นสภาพ ท่ีดนิ และปัจจุบนั มีการสงวนพนื้ ทโ่ี พลเดอร์ (polder) ขนาดใหญ่ด้วยระบบการระบายน้าท่ีซับซ้อนซึ่งมีท้ังพนัง คลองและสถานีสูบ พื้นท่ีเกือบ 17% ของประเทศเป็นพ้ืนท่ีท่ีเกิดจากการถมทะเล พื้นที่บริเวณกว้างของ เนเธอร์แลนด์เกิดจากชะวากทะเลของแม่น้าสาคัญของทวีปยุโรปสามสายและลาน้าแตกสาขาเกิ ดเป็น สามเหล่ียมปากแม่น้าไรน์–เมิซ–ซเกลดะ (Rhine–Meuse–Scheldt delta) พื้นท่ีส่วนใหญ่ของประเทศเป็นท่ี ราบ ยกเว้นเนินเขาทางตะวันออกเฉยี งใต้และเทือกเขาเตย้ี ๆ หลายเทือกทางตอนกลาง
2 ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นสมาชิกก่อตั้งของสหภาพยุโรป จี-10 นาโต้ องค์การเพ่ือความร่วมมือทาง เศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) องค์การการค้าโลก และเป็นส่วนหน่ึงของสหภาพเศรษฐกิจไตรภาคีเบเน ลักซ์ ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นท่ีต้ังขององค์การห้ามอาวุธเคมี และศาลระหว่างประเทศห้าศาล ได้แก่ ศาล อนุญาโตตุลาการถาวร ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ศาลอาญาระหว่างประเทศ คณะตุลาการอาญาระหว่าง ประเทศสาหรับอดีตยูโกสลาเวียและคณะตุลาการพิเศษสาหรับเลบานอน สี่ศาลแรกต้ังอยู่ในกรุงเฮก เช่นเดียวกับยูโรโปล สานักข่าวกรองอาชญากรรมของสหภาพยุโรป และยูโรจัสต์ สานักความร่วมมือทางตุลา การ ทาให้กรุงเฮกไดร้ ับสมญาว่า \"เมอื งหลวงกฎหมายโลกประเทศเนเธอร์แลนด์ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสมอิง ตลาด โดยอยู่ในอันดับที่ 17 จาก 177 ประเทศในดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ในปี 2554 เป็นประเทศท่ีมี รายได้ต่อหัวสูงสุดเป็นอันดับท่ี 10 ของโลก ในเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน OECD จัดให้เนเธอร์แลนด์เป็น ประเทศ \"ทม่ี คี วามสขุ ท่ีสุด\" ในโลก ซงึ่ สะท้อนถงึ มาตรฐานการครองชพี ทสี่ ูง เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองแห่งสายน้าท่ีรู้จักกันดีแห่งหนึ่งของโลกเพราะถ้าหากพูดถึงประเทศ เนเธอร์แลนด์ ก็มักจะนึกไปถึงพ้ืนท่ีค่อนประเทศท่ีอยู่ต่ากว่าระดับน้าทะเล และเมืองที่เต็มไปด้วยลาคลองนับ รอ้ ยสายและเมอื งท่มี คี ลองมากทสี่ ดุ ในประเทศก็ไม่พน้ เมืองหลวงอยา่ งอมั สเตอรด์ ัมน่นั เอง อัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองหลวงท่ีมีประชากรกว่า 1.5 ล้านคนนับว่ามากที่สุดในประเทศ ถึงแม้ว่าศูนย์กลาง ราชการทั้งหมดจะย้ายไปท่ีกรุงเฮกแล้วก็ตาม แต่ตัวเมืองก็ยังคงเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้าท่ีสาคัญ ท่ีสุดในประเทศอยู่
3 ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้า Amstel เริ่มก่อต้ังเมืองราว ค.ศ. 12 ชื่อเมืองน้ันก็นามาจากชื่อแม่น้า Amstel รวมกับคาว่า Dam ที่หมายถึงเข่ือนของแม่น้า Amstel จึงกลายเป็นชื่อเมือง Amstelreadamme และแผลง ลงมาอัมสเตอร์ดัมแบบทุกวันน้ี โดยแต่เดิมอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ก่อนจะเติบโตขึ้น เรื่อยๆ ในฐานะเมอื งท่าที่สาคัญของยุโรปเหนอื และเข้าสู่ยุคทองใน ค.ศ. 17 เมืองมพี ัฒนาการค้าท่ีโดดเด่นกว่า เมอื งอ่ืนๆ ในยุคเดียวกัน จึงทาให้ท่ีน่ีกลายเป็นเมืองท่าท่ีสาคัญที่สุดในโลกแห่งหน่ึง และยังเป็นศูนย์กลางทาง การเงินและการค้าเพชรของโลกอีกด้วย ต่อเน่ืองมาจนในค.ศ. 19 อัมสเตอร์ดัมได้มีการพัฒนาและขยายเมือง ออกไปจนใหญข่ นึ้ มากกวา่ เดมิ หลายเท่า ปัจจุบันในเมืองมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง ท้ังคลองต่างๆ พิพิธภัณฑ์หลากหลาย หรือโบสถ์และ ย่านร้านค้าอีกหลายแห่ง รวมถึงคลองที่สร้างใน ค.ศ. 17 และสิ่งก่อสร้างที่สร้างใน ค.ศ. 19 ได้ถูกขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้อีกด้วย ซึ่งประมาณว่าในหน่ึงปีจะมีนักท่องเท่ียวมาเยือนท่ีน่ีกว่า 4 ล้าน คนเลยทีเดียว เนื่องจากอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ท่ีสุดแห่งหน่ึงของยุโรป มีอาคารมากกว่า 7,000 หลงั ทีไ่ ด้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารประวัติศาสตร์ ดังนั้นแทบทุกแห่งใจกลางเมือง จึงเปรียบเสมือน ท่ีนักท่องเที่ยวย้อนยุคในตัวอยู่แล้ว หกรวมสะพานอีกกว่า 400 แห่งที่เช่ือมเกาะต่างๆ เข้าด้วยกันแล้ว อมั สเตอร์ดัมก็เปรียบเสมอื นเมอื งประวัตซิ าสตร์ทั้งเมืองเลย และยงั มสี ถานทท่ี อ่ งเทีย่ วทไ่ี ดร้ ับความนิยมจากนกั ท่องมากหลายอาทิเช่น พิพธิ ภณั ฑแ์ ห่งชาติแหง่ อัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum) เป็นสถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะของจิตรกรชาวดัตช์ท่ีใหญ่ที่สุดในโลก เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมมา นานนบั 10 ปแี ล้ว เม่อื มาถึง ส่ิงแรกท่สี ะดุดตาเลยกค็ ือตวั อักษร “I amsterdam” ผคู้ นมักจะมาเซลฟ่ีก่อนเข้า ไปเทยี่ วชมงานศลิ ปะภายใน ซึ่งด้านในมจี ดั แสดงผลงานของเหลา่ จติ รกรมากมาย เช่น ผลงานของ
4 Rembrandt, Frans Hals, และ Johannes Vermeer ซึง่ มมี ากกว่า 8,000 ผลงาน ใครที่ชอบงานศิลปะ อย่า ลืมไปเทย่ี วกันนะคะ สามารถไปเยย่ี มชมงานศลิ ปะของจิตรกรในดวงใจของเราได้เลย คลองในอัมสเตอร์ดัม (Canal Cruise, Amsterdam) กิจกรรมยอดฮิตเมื่อมาเท่ียวท่ีอัมสเตอร์ดัม คือ การล่องเรือเพ่ือชมบรรยากาศ และสถาปัตยกรรมอัน สวยงามของเมอื ง มไี กดค์ อยแนะนาสถานที่สาคญั ๆ ให้เราฟัง ปัจจุบันท่ีเมืองนี้มีคลองมากกว่า 165 แห่ง ใช้ใน การขนส่งและค้าขาย จนได้รับเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ (UNESCO) ว้าวๆ ไฮโซสุดๆ ถ้าใครได้มาเท่ียว ต้อง ลองสักครั้งนะคะ มาล่องเรอื ชิวๆ ชมบรรยากาศ ถ่ายรปู สวยๆ สองฝ่งั คลอง แคค่ ิดแลว้ ฟินสดุ ๆ ภาษาราชการ ภาษาดัตช์ (Nederlands) เป็นภาษากลุ่มเจอร์แมนิกตะวันตกที่มีคนพูดเป็นภาษาแม่ประมาณ 23 ล้าน คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม ภาษาดัตช์เป็นภาษาราชการในประเทศ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ประเทศซูรินาม และดินแดนโพ้นทะเลของเนเธอร์แลนด์ในแถบแคริบเบียนอัน ได้แก่ อารบู า ซนิ ตม์ าร์เตนิ และกอื ราเซา ภาษาดัตช์มีความใกล้เคียงมากที่สุดกับภาษาอาฟรีกานส์ซึ่งเป็นภาษาที่มีท่ีมาจากภาษาดัตช์ในประเทศ แอฟรกิ าใตใ้ นศตวรรษท่ี 17 และภาษาเยอรมนั ตา่ ในประเทศเยอรมนตี อนเหนือ ชื่อเรียก คาว่า \"ดตั ช\"์ (Dutch) เปน็ คาคณุ ศพั ท์ในภาษาองั กฤษทีห่ มายถงึ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นคาท่ีมีรากศัพท์ เดยี วกับคาภาษาเยอรมนั วา่ \"ด็อยทช\"์ (deutsch) และคาภาษาดตั ช์ \"เดาท์ซ\" (duits) ซ่งึ ในปัจจุบันเป็น
5 คาคุณศัพท์ที่หมายถึงประเทศเยอรมนี คานี้มีท่ีมาจากรากศัพท์ในภาษาเจอร์แมนิกด้ังเดิมว่า *þeudō ซึ่ง หมายถึงกลมุ่ ชน ในยคุ กลาง คาน้ีได้กลายมาเป็นคาเรียกแทนชนชาติและภาษาของตนเองในภาษาเจอร์แมนิก ตะวันตกต่างๆ เช่น diutsch ในภาษาเยอรมันสูงยุคกลาง และ duutsc หรือ dietsc ในภาษาดัตช์ยุคกลาง โดยมคี วามหมายในลกั ษณะ \"ภาษาของประชา\" ท่ีไม่ใช่ภาษาละติน ในภาษาอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 15-16 คา ว่า Dutch ในภาษาอังกฤษยังคงมีความหมายถึง \"เยอรมัน\" ในความหมายอย่างกว้าง (ท่ีรวมถึงเนเธอร์แลนด์) ก่อนทจี่ ะมีความหมายเจาะจงถึงเนเธอร์แลนด์หลังจากที่สาธารณรฐั ดตั ช์กลายเป็นรัฐเอกราช[1] คาเรียกภาษาดัตช์ในภาษาดัตช์ในปัจจุบันคือ \"เนเดอร์ลันดส์\" (Nederlands) ในประเทศเบลเยียมบางคร้ังจะ เรยี กภาษาดตั ชท์ ใ่ี ชใ้ นแฟลนเดอส์ว่า \"ฟลามส\"์ (Vlaams; ภาษาเฟลมิช) สทั วทิ ยา เสยี งหยุด เพดานออ่ น ก้อง /g/ เปน็ หน่วยเสียงทีม่ ีใชเ้ ฉพาะในคายืมจากภาษาต่างประเทศ เช่น goal หรือ เป็นหน่วยเสียงย่อย ของเสียงไม่ก้อง /k/ หากว่าอยู่ติดกับเสียงพยัญชนะก้องอื่น เช่น zakdoek [zɑgduk] (ผ้าเชด็ หน้า)[3]:7 เสียง /s, z, t/ หากวา่ อยูห่ น้าเสียง /j/ แล้ว จะกลายเป็นเสียงเพดานแขง็ [ʃ, ʒ, c] ตามลาดบั เสียงเหล่านี้ อาจมีปรากฎในลักษณะหน่วยเสียงในคายืมเช่นกัน เช่น chique [ʃik] และ jury [ʒyri] โดยสามารถวิเคราะห์ ในเชงิ สัทวิทยาไดว้ ่าเป็นหนว่ ยเสยี งเดียวกบั เสียงควบ /sj/ และ /zj/ ตามลาดบั [3]:7 เสียงพยญั ชนะระเบิด ไม่กอ้ ง ในภาษาดัตช์ /p, t, k/ ในภาษาดตั ชม์ ลี กั ษณะเป็นเสียงไมพ่ น่ ลม (เสยี งสถิ ลิ ) ภาษาดัตช์ลดเสียงก้อง (devoicing) ของเสียงพยัญชนะสุดท้ายของคา เช่น หน่วยเสียง /d/ และ /z/ จะ ออกเสยี งเปน็ [t] และ [s] ตามลาดับ การลดเสยี งก้องนี้สามารถสังเกตได้โดยการเปรียบเทียบการออกเสียงรูป เอกพจน์และพหูพจน์ของหน่วยศัพท์เดียวกัน เช่น huizen (บ้าน) ในรูปพหูพจน์ เอกพจน์กลายเป็น huis เช่นเดียวกับ duiven (นกพิราบ) เอกพจน์กลายเป็น duif ในกรณีอ่ืนๆ โดยเฉพาะ p/b และ d/t แม้จะ คงรูปพยัญชนะในเอกพจน์แต่ก็ยังมีการลดเสียงก้องเหมือนเดิม อาทิ baarden (เครา) รูปเอกพจน์คือ baard แตอ่ ่านเหมือน baart หรืออีกตวั อยา่ งหนง่ึ ribben (ซ่ีโครง) รูปเอกพจนค์ อื rib แตอ่ ่านเหมือน rip บ่อยคร้ังท่ีพยัญชนะต้นของคาถัดไปก็ถูกลดเสียงก้องไปด้วย เช่น het vee (วัวควาย) ออกเสียงเป็น / (h)ətfe/ การลดเสียงก้องในกรณีเช่นน้ีถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงในบางภูมิภาค (อาทิ อัมสเตอดัม, ฟรีสลันด์) ท่ี ซ่ึงหน่วยเสียง /v/, /z/ และ /ɣ/ กาลังจะสูญหาย ในทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ หน่วยเสียงเหล่าน้ียังคง ออกเสียงไดอ้ ย่างถูกตอ้ งในตาแหนง่ ก่งึ กลางของคา
6 ภาษาดัตช์เป็นภาษาที่ออกเสียงเน้นหนัก (stress) บนตาแหน่งของคา การเน้นหนักสามารถปรากฏได้ทุก แห่งในคาคาหน่ึง แต่โดยปกติแล้วจะเน้นที่ต้นคา ในคาประสมก็มักจะมีการเน้นระดับรองอยู่ด้วย มีเพียงบาง กรณเี ท่านั้นที่การเน้นหนกั ใช้แยกแยะความแตกตา่ งของความหมาย ตัวอย่างเช่น vóórkomen (ปรากฏ) และ voorkómen (ป้องกัน) การใส่เครื่องหมายเน้นหนัก (´) ในภาษาดัตช์น้ันไม่จาเป็นต้องกระทา ไม่ได้เป็นข้อ ปฏบิ ตั ิ แตบ่ างครัง้ ก็แนะนาให้ใช้ ดอกไม้ประจาชาติ ดอกทิวลปิ (Tulip) ดอกไม้เมืองหนาวออกดอกในฤดูใบไม้ผลิ ในปัจจุบันมีการผสมพันธุ์ ทิวลิปมากกว่า 100 ชนิด เราจะเห็น ทุ่งทิวลิปคุ้นตาตามหนังสือท่องเที่ยว และกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฮอลแลนด์ ใครที่เคยไปเยือน ประเทศนตี้ ้องเคยไปเทีย่ วสวนเคอเคนฮอฟ ชานเมืองลซิ เซ่ (Lisse) ซง่ึ เปน็ แหล่งปลกู ทิวลิปที่ใหญ่และสาคัญยิ่ง ของฮอลแลนด์ เมืองลิซเซ่อยหู่ า่ งจากอัมสเตอรด์ มั เพยี ง 29 กโิ ลเมตร ดอกทวิ ลปิ มีต้นกาเนดิ ทปี่ ระเทศตุรกี เปน็ ดอกไมป้ า่ ทข่ี น้ึ เองในธรรมชาติ สมัยโบราณเจ้าหน้าท่ีตุรกีได้นา ดอกทิวลิป มามอบให้กับทูตเวียนนา เพ่ือไปปลูกยังประเทศออสเตรีย แต่มีคนสวนชาวฮอลแลนด์นากลับมา ปลูก และเพาะพันธ์ุ และผสมพันธ์ุใหม่จนเกิดเป็นหลากหลายสี และหลายพันธ์ุ การผสมพันธ์ุ ดอกไม้ท่ีไม่ เป็นไปตามธรรมชาติน้ัน จึงขัดต่อหลักศาสนา และถูกห้าม จึงทาให้หัวทิวลิปน้ันมีราคาแพง คนรวยในสังคม ชั้นสูงจึงจะมีเงินซื้อมาปลูก และมีราคาแพงมากจนถูกห้ามปลูก ในอังกฤษ จากนั้นการเพาะพันธุ์ทิวลิป ได้รับ การยอมรับและรัฐบาลสนับสนุน และเป็นสินค้าส่งออกทีสาคัญอย่างหนึ่งของ เนเธอร์แลนด์ ทิวลิปมากกว่า ครึ่ง ส่งไปจาหน่ายที่อเมริกามีความหมายถึงการตกหลุมรักหัวปักหัวปา ความรักท่ีฉาบฉวยและจึดจางอย่าง รวดเร็ว ทิวลิปสแี ดง \"อยากใหโ้ ลกรูว้ า่ ฉันรกั เธอ\" สเี หลือง มีหางเสียงเศร้าๆ ว่า \"ฉันหมดหวังในรักเธอแล้วหรือ ไร\" ทวิ ลิปหลากสใี นช่อเดยี วกันหมายความวา่ \"ดวงตาแสนสวยของเธอทาใหฉ้ ันคลัง่ ไคล้\"
7 ทม่ี าของช่ือ แม้ว่าทิวลิปจะเป็นดอกไม้ที่ทาให้นึกถึงฮอลแลนด์ แต่ท้ังดอกไม้และชื่อมีที่มาจากจักรวรรดิเปอร์เชีย ทิว ลิปหรือ “lale” (จากเปอร์เชีย لاله, “lâleh”) เช่นเดียวกับท่ีเรียกกันในตุรกี เป็นดอกไม้ท้องถิ่นของตุรกี , อิหร่าน, อัฟกานิสถาน และบางส่วนของเอเชียกลาง แม้ว่าจะไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้นาทิวลิปเข้ามาทาง ตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปแต่ท่ีสาคัญคือตุรกีเป็นผู้ทาให้ทิวลิปมีช่ือเสียงที่น่ัน เร่ืองท่ีเป็นที่ยอมรับกันก็ คือ Oghier Ghislain de Busbecqไปเป็นราชทูตของสมเด็จพระจักรพรรดิเฟอร์ดินานด์ท่ี 1 แห่งโรมันอัน ศักดิ์สิทธ์ิในราชสานักของสุลต่านสุลัยมานมหาราชแห่งจักรวรรดิออตโตมันในปี ค.ศ. 1554 Busbecq บรรยายในจดหมายถงึ ดอกไมต้ า่ งๆ ทเ่ี ห็นทีร่ วมท้งั นารซ์ ิสซสั ดอกไฮยาซินธ์ และทวิ ลปิ ที่ดูเหมือนจะบานในฤดู หนาวท่ีดูเหมือนผิดฤดู (ดู Busbecq, qtd. in Blunt, 7) ในวรรณคดีเปอร์เชียท้ังสมัยโบราณและสมัยใหม่ต่าง ก็ใหค้ วามสนใจกับดอกไมช้ นิดนี้ คาว่า “tulip” ที่ในภาษาอังกฤษสมัยแรกเขียนเป็น “tulipa” หรือ “tulipant” เข้ามาในภาษาอังกฤษ จากฝร่ังเศสท่ีแผลงมาจากคาว่า “tulipe” และจากคาโบราณว่า “tulipan” หรือจากภาษาลาตินสมัยใหม่ “tulīpa” ทมี่ าจากภาษาตุรกี “tülbend” หรือ “ผ้ามัสลิน” (ภาษาอังกฤษว่า “turban” (ผ้าโพกหัว) บันทึก เป็นคร้ังแรกในภาษาอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 16 และอาจจะมาจากภาษาตุรกีอีกคาหน่ึงว่า “tülbend” ก็ เป็นได)้ เศรษฐกิจในประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ ภมู ปิ ระเทศและภมู ิอากาศ เนเธอรแ์ ลนดต์ ัง้ อยู่บริเวณตะวันตกของทวีปยุโรป มีพื้นท่ีประมาณ 41,526 ตารางกิโลเมตร ทิศเหนือจรด ทะเลเหนือ ทิศใต้จรดเบลเยียมและเยอรมนี ทิศตะวันออกจรดเยอรมนี เมืองหลวงคือกรุงอัมสเตอร์ดัม โดย กรุงเฮกเป็นทตี่ ้ังของหนว่ ยราชการ ภมู อิ ากาศอยู่ในเขตอบอุ่น ในฤดูร้อนอากาศไม่ร้อนจัด อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 25 องศาเซลเซียส ฤดู หนาวอากาศไม่หนาวจดั โดยเฉลยี่ อุณหภมู ปิ ระมาณ 0-3 องศาเซลเซียส ฝนตกตลอดทัง้ ปี ข้อมลู การค้า-การลงทุน เนเธอร์แลนด์มีระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีความแข็งแกร่งใน ภาคอุตสาหกรรมการเกษตร เศรษฐกิจมีขนาดใหญเ่ ปน็ อนั ดับ ท่ี 16 ของโลก และอับดับที่ 6 ของสหภาพยุโรป ผลิตภณั ฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ทีป่ ระมาณ 600,000 ล้านยโู ร และเปน็ ผู้สง่ ออกสินค้าใหญ่เป็นอนั ดบั ท่ี 5
8 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรขนาดใหญ่อนั ดบั ที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ เนเธอร์แลนดม์ คี วาม แข็งแกร่งในสาขาเกษตร อาหารและเคร่ืองดื่ม เคมภี ณั ฑ์ พลังงาน เทคโนโลยี การจดั การนา้ และ Logistics การค้าระหว่างประเทศเป็นพื้นฐานสาคัญของเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ คู่ค้าสาคัญของเนเธอร์แลนด์ได้แก่ ประเทศในสหภาพยโุ รป อาทิ เยอรมนี เบลเยียม อังกฤษ และฝรั่งเศส สินค้าส่งออกที่สาคัญได้แก่ อาหารสัตว์ ปศุสัตว์ สินค้าเกษตร เครื่องด่ืมและยาสูบ น้ามัน เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง มูลค่าการส่งออกปี 2555 เท่ากบั 429,717 ล้านยโู ร สว่ นมลู ค่าการนาเข้าปี 2555 เทา่ กบั 389,449 ล้านยโู ร บรษิ ัทตา่ งชาติมากกว่า 5,000 บริษัทมีสาขาในเนเธอร์แลนด์ โดยบริษัทจากเอเชียมากกว่า 300 บริษัทใช้ เนเธอร์แลนดเ์ ป็นทตี่ ้งั สานักงานใหญใ่ นภมู ภิ าคยุโรป บริษัทข้ามชาติของเนเธอร์แลนด์ท่ีรู้จักกัน โดยท่ัวไป อาทิ Shell, Unilever, ING, Heineken, Phillips เหตุผลท่ีบริษัทส่วนใหญ่ต้ังสานักงานใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ที่สนับสนุนการประกอบธุรกิจ สิทธิพิเศษทางภาษีต่างๆ และ เครอื ข่ายสนธสิ ญั ญาทางภาษกี ับประเทศต่างๆ ทวั่ โลก ความสามารถด้านภาษาของชาวดตั ช์ โครงสร้างพ้ืนฐาน ท่ีเพยี บพรอ้ มและคุณภาพชวี ติ และความเปน็ อยู่ที่ดี เนเธอร์แลนด์เป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 และเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในสหภาพยุโรป (รองจากเยอรมนี และสหราชอาณาจักร) โดยในปี 2555 การค้าระหว่างไทยกับเนเธอร์แลนด์ มีมูลค่ารวม 165,036 ล้านบาท (4,000 ล้านยโู ร) ลดลงจากปี 2554 ประมาณรอ้ ยละ 3.8 โดยไทยส่งออกมลู คา่ 129,005 ล้านบาท และนาเข้า มูลค่า 36,031 ล้านบาท ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 92,974 ล้านบาท สินค้าส่งออกท่ีสาคัญของไทยไป เนเธอร์แลนด์ คือ ช้ินส่วนคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบแผงวงจรไฟฟ้า เคร่ืองใช้ไฟฟ้าและ ส่วนประกอบอื่นๆ คือแผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและ ส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ผลติ ภัณฑ์อาหารอ่นื ๆ กฎระเบียบการทาธรุ กิจ ชาวต่างชาตแิ ละบรษิ ทั ตา่ งชาตทิ ี่จะประกอบธุรกิจในเนเธอร์แลนด์ต้องจดทะเบียนกับหอการค้าในท้องถิ่น ทีป่ ระกอบธุรกจิ โดยเนเธอร์แลนดไ์ มม่ ขี อ้ จากัดวา่ บริษัทต่างชาติจะประกอบธุรกิจโดยเปิดสานักงานสาขาหรือ ตั้งบริษัทลูก (subsidiary) และหากจะจดทะเบียนจัดตั้งองค์กรที่เป็นนิติบุคคลมีรูปแบบหลักท่ีบริษัทต่างชาติ นิยมดาเนินการคือการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจากัด (BV) และบริษัทมหาชนจากัด (NV) โดย BV กาหนดให้มี ทุนจดทะเบียนขั้นต่า 90,000 ยูโร และทุนชาระแล้วขั้นต่า 1 ยูโรเซนต์ สาหรับ NV จะต้องมีทุนจดทะเบียน ขน้ั ตา่ 225,000 ยูโรและทุนชาระแล้ว 45,000 ยูโร ทั้งนี้ ท้ังBV และ NV มีเง่ือนไขในการจดทะเบียนให้มีผู้ถือ ห้นุ ในบริษัทอย่างน้อย 1 คน และมีกรรมการบริษัทอย่างนอ้ ย 1 คน การควบกิจการกบั บริษัทจดทะเบยี นเนเธอรแ์ ลนดไ์ มจ่ าเปน็ ตอ้ งไดร้ บั อนุญาตจากทางการเนเธอร์แลนด์แต่ ต้องแจง้ Authority for Consumers and Markets (www.acm.nl) ซ่ึงจะตรวจสอบวา่ การควบกจิ การขัด
9 ตอ่ การแขง่ ขันเสรีและส่งผลกระทบต่อผบู้ ริโภคหรือไม่ และจะตอ้ งปฏิบัตติ ามกฎหมายที่กาหนดแนวทางการ ควบกิจการ โดยเฉพาะการปกป้องสทิ ธิของแรงงาน ซงึ่ จะตอ้ งการหารอื กบั สหภาพแรงงานหรือพนักงานของ บรษิ ทั ทจ่ี ะถกู ควบกิจการ ภาษีเงินได้นิติบุคคลเก็บร้อยละ 20 สาหรับรายได้ไม่เกิน 200,000 ยูโร และร้อยละ 2.5 สาหรับรายได้ท่ี เกนิ 200,000 ยูโร โดยบริษทั สามารถกาหนดปงี บประมาณของตนเองได้ และหารอื กับกรมสรรพากรเพื่อหารือ เก่ียวกับการกาหนดวิธีการคานวณภาษีได้ก่อนการลงทุน (การคิดภาษีจากยอดขายหรือจากค่าใช้จ่าย) อัตรา ภาษีหัก ณ ท่ีจ่ายสาหรับเงินปันผลเท่ากับร้อยละ 15 แต่ยกเว้นไม่เก็บภาษีเงินปันผลของสานักงานสาขาของ บริษัทต่างชาติที่ส่งกาไรกลับบริษัทแม่ และไม่มีการเก็บภาษีสาหรับรายได้จากดอกเบี้ย ค่าลิขสิทธิ์ และ เครอื่ งหมายสนิ ค้า บริษัทจะต้องมีผู้ตรวจบัญชีหากเข้าเง่ือนไข 2 ใน 3 ของหลักเกณฑ์ดังน้ี 1) ทรัพย์สินมากกว่า 6 ล้านยูโร 2) ยอดขายเกินกวา่ 12 ล้านยโู รและ 3) มีพนกั งานมากกว่า 49 คน การนาเข้าสินค้า ไม่ต้องเสียภาษีศุลกากรและเสียภาษีมูลค่าเพ่ิมในอัตราร้อยละ 0 กรณีนาเข้าไป เนเธอร์แลนด์เพื่อส่งออกไปนอกสหภาพยุโรป ท้ังน้ี การนาสินค้าเข้าคลังสินค้าในเนเธอร์แลนด์สามารถชะลอ การชาระภาษมี ลู ค่าเพม่ิ หรอื ไดร้ ับภาษมี ูลคา่ เพ่ิมคืนในกรณที ่ีมีสานกั งานในเนเธอร์แลนด์ ภาพรวมเศรษฐกจิ เนเธอรแ์ ลนดป์ ี 2560 และแนวโนม้ ปี 2561 ตามคาดการณ์ของ CPB (Netherlands Bureau for Economic Analysis) เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ในปี 2560 เติบโตขึ้นร้อยละ 3.2 ซ่ึงเป็นอัตราการเติบโตสูงที่สุดและเป็นคร้ังแรกที่เกินร้อยละ 3 นับแต่วิกฤติ การเงินเม่อื ปี 2550 และถอื วา่ อย่ใู นเกณฑด์ ีมากสาหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีปัจจัยมากจากการขยายตัว ของการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก โดยคู่ค้าสาคัญของเนเธอร์แลนด์ ได้แก่ เยอรมนี เบลเยี่ยม จีน สหราชอาณาจกั ร และฝร่ังเศส นอกจากนน้ีอัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 6 ในปี 2559 เหลือร้อยละ 4.9 ซ่ึงเป็นตวั เลขต่าสดุ นับต้ังแตป่ ี 2550 เช่นกนั ออีกท้ังตัวเลขทางเศรษฐกิจอ่ืน ๆ ก็แสดงถึงเสถียรภาพ อาทิ ดุล การคลังของรัฐบาลอยทู่ ี่รอ้ ยละ 0.5 และหน้สี าธารณะลดเหลือรอ้ ยละ 56 ของ GDP เนเธอร์แลนเป็นหน่ึงในประเทศท่ีจะได้รับผลกระทบจาก Brexit มากที่สุด โดย CPB เคยประเมินว่า Brexit อาจจะส่งผลให้ GDP ของเนเธอร์แลนด์ลดลงถึงร้อยละ 1.2 หรือมากกว่าภายในปี 2573 เนื่องจาก เนเธอร์แลนด์มีความสัมพันธ์ทางเศรษกิจใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 รองจาก เยอรมนี ในปี 2558 การส่งออกของเนเธอร์แลนด์ไปสหราชอาณาจักรมีมุลค่ากว่า 2 หมื่นล้านยูโรหรือคิดเป็น สัดส่วนร้อยละ 3 ของ GDP และประมาณร้อยละ 9 ของการส่งออกท้ังหมดของเนเธอร์แลนด์ ดังนั้น ผลประโยชน์ท่ีสาคัญของเนเธอร์แลนด์ในการเจรจา Brexit จึงอยู่ท่ีการจัดทาทางการค้ากับสหราชอาณาจัหร เพือ่ รกั ษาระดับความสมั พันธ์ทางเศรษฐกิจทีใ่ กล้เคียงกบั ปจั จุบันมากทสี่ ุด ตลอดจนการคมุ้ ครองสทิ ธิของ
10 พลเมืองของชาวดัตช์ในสหราชอาณาจักร ซ่ึงมีมากถึง 73,000 คน และภาคเอกชนดัตช์ที่ลงทุนและทาธุรกิจ กับสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการขุดเจาะพลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต และ การเกษตร รวมถึงรักษาผลประดยชน์ของเนเธอร์แลนด์เก่ียวกับบริษัทข้ามชาติที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง เนเธอรแ์ ลนด์-สหราชอาณาจักร อาทิ กลมุ่ Royal Dutch Shell หรอื กลุม่ Unileve สาหรับแนวโน้มทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ในปี 2561 CPB ประเมินว่าการส่งออกและการบริโภคท่ี ขยายอย่างต่อเน่ืองกอปรกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะส่งผลให้เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ยัง เติบโตต่อเนื่องในปี 2561 ท่ีอัตราร้อยละ 3.1 อัตราการว่างงานจะลดเหลือร้อยละ 4.9 ขณะที่ดุลการคลังของ รัฐบาลคงตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และหน้ีสาธารณะจะลดเหลือร้อยละ 56 ของ GDP โดย CPB ประเมินว่าอัตรา การเตบิ โตของเศรษฐกิจเนเธอรแ์ ลนดจ์ ะเร่มิ ชะลอตวั ในปี 2562 ท่ีรอ้ ยละ 2.3 ทั้งน้ีนโยบายทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ในระยะต่อไปจะยังมีจุดเน้นเรื่องการส่งเสริมนวัตกรรมเพ่ือ การพัฒนาที่ย่ังยืนและการตอบสนองความท้าทายทางสังคมใน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ พลังงานและความย่ังยืน นา้ เกษตรและอาหาร และเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนการส่งเสริมธุรกิจ Start-ups และ SMEs ซ่ึงเป็นตัวจักร สาคญั ในการสง่ เสรมิ นวัตกรรมและเศรษฐกิจของเนเธอรแ์ ลนด์ การเมอื งการปกครอง วนั ที่ได้รบั เอกราช 23 มกราคม พ.ศ. 2122 วันประกาศใช้รฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2358 ระบบกฏหมาย กฎหมายบ้านเมืองนาหลักกฎหมายของฝรงั่ เศสมาใช้ มกี ารนาเอากฎจากศาลโลกมาใช้ร่วม พรรคการเมอื ง พรรค Christian Democratic Appeal (CDA) พรรค Christian Union Party พรรค Democrats 66 (D66) พรรค Green Left Party พรรค Labor Party (PvdA) พรรค Party for Freedom (PVV) พรรค Party for the Animals (PvdD) พรรค People's Party for Freedom and Democracy (เสรีนิยม) (VVD) พรรค Reformed Political Party of SGP พรรค Socialist Party และยังมีพรรคยอ่ ยอน่ื ๆอีกมากมาย
11 เนเธอร์แลนด์ (the Netherlands) หรือท่ีมักเรียกกันว่า ฮอลแลนด์ (Holland) มีช่ืออย่างเป็นทางการคือ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (Kingdom of the Netherlands) มีรากศัพท์มาจากคาว่า Neder” หรือ ต ่า เน่ืองจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นท่ีราบลุ่ม และพื้นท่ีประมาณหน่ึงในส่ีของประเทศต่ากว่า ระดบั นา้ ทะเล เนเธอร์แลนด์ได้ปรับพนื้ ท่โี ดยการสบู นา้ ออกจากทะเลสาบและทางน้าต่างๆ เพ่ือให้ใช้ประโยชน์ ได้ เนเธอร์แลนด์จึงมีเข่ือน ทางระบายน้า และสถานีสูบน้าจานวนมาก เพ่ือป้องกันไม่ให้พ้ืนที่ประมาณ ครงึ่ หน่งึ ของประเทศประสบภาวะอุทกภัย เนเธอร์แลนด์จึงมีสิ่งก่อสร้างด้านวิศวกรรมการจัดการน้าท่ีมีขนาด ใหญท่ ส่ี ดุ ในโลก เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศยโุ รปตะวันตกขนาดเล็ก มีพื้นที่ 41,528 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 16.3 ล้าน คน เปน็ ประเทศหน่ึงท่ีมีประชากรหนาแน่นมากท่ีสุดในโลก มีอัตราส่วนประชากร 387 คน ต่อพื้นที่ 1 ตาราง กิโลเมตร ประชากรเกือบครึ่งหนงึ่ หรือประมาณ 7 ลา้ นคนอาศัยอยู่ในส่ีเมืองทางภาคตะวันตกของประเทศ คือ อัมสเตอรด์ มั เฮก รอตเตอรด์ มั และอูเทรค บริเวณนเี้ รียกว่า แลนดส์ ตดั มชี าวต่างชาตโิ ยกยา้ ยเข้าไปต้ังถิ่นฐาน ในเนเธอรแ์ ลนด์ประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศในยุโรป ตุรกี โมร็อกโก เนเธอร์แลนด์แอนไท ลิส และอารูบา (ดินแดนโพ้นทะเลของเนเธอร์แลนด์) อินโดนีเซีย และชูรินาเม (ประเทศอดีตอาณานิคมของ เนเธอร์แลนด์) กรงุ อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ขณะท่ีกรุงเฮกเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ สถานทูต ต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ รวมท้ังพระราชวังซ่ึงเป็นท่ีประทับของสมเด็จพระราชินีนาถแห่ง เนเธอร์แลนด์ กรุงเฮกถือได้ว่าเป็น เมืองหลวงแห่งกฎหมายและยุติธรรมระหว่างประเทศของโลกโดยเป็น ศูนย์กลางของการศึกษาด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นสถานท่ีท่ีต้ังขององค์การด้านกฎหมายและ ยุติธรรมระหว่างประเทศ อาทิ The International Court of Justice , The International Criminal Tribunal for the Former Yugoslavia, The Court of Arbitration, The Iran – U.S. Claims Tribunal, The Hague Conference of Private International Law, The Organization for the Prohibition on Chemical Weapons และ The International Criminal Courtการเมอื งภายในประเทศ เนเธอร์แลนด์มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาโดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ปัจจุบันคือสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ ทรงมีพระราชอานาจในเชิงพิธีการ อย่างไรก็ดี ทรงมีพระราช อานาจดา้ นการเมืองท่ีเป็นประเพณีสบื ทอดกนั มาของพระราชวงศ์ออเรนจ์ คือ สมเด็จพระราชินีนาถทรงเป็นผู้ แต่งตั้งผู้สรรหานายกรัฐมนตรี (Formateur) ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป (เน่ืองจากระบบการเลือกต้ังแบบ สัดส่วน โดยถอื วา่ ทัง้ ประเทศเป็นเขตเดยี ว ทาให้ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภา จึง ตอ้ งมกี ารเจรจาระหวา่ งพรรคการเมืองต่างๆ เพ่ือจดั ตัง้ รฐั บาล และผู้ดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรี) และสมเด็จ พระราชินีนาถเบียทริกซ์ทรงเป็นผู้แถลงนโยบายของรัฐบาลในพิธีเปิดสมัยการประชุมรัฐสภาประจาปี หรือ Speech from the Throneรฐั สภาเนเธอร์แลนด์ ประกอบด้วย 2 สภา คือ วฒุ สิ ภา (First Chamber) มี
12 สมาชิกจานวน 75 คน มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมโดยสภาจังหวัด 12 แห่ง มีวาระการดารงตาแหน่ง 4 ปี และสภาผู้แทนราษฎร (Second Chamber) มีสมาชิกจานวน 150 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจาก ประชาชน มวี าระการดารงตาแหน่ง 4 ปี สภาผแู้ ทนราษฎรมีอานาจในการเสนอร่างกฎหมาย ขณะท่ีวุฒิสภามี หน้าท่ีให้ความเห็นชอบหรือยับยั้งร่างกฎหมายซึ่งเสนอโดยสภาผู้แทนราษฎรเม่ือวันท่ี 23 กุมภาพันธ์ 2553 รัฐบาลชดุ ก่อนของเนเธอร์แลนด์ ภายใต้การบริหารงานของนาย Jan Balkenende นายกรัฐมนตรี ได้ลาออก จากตาแหน่งและประกาศยุบสภา เนื่องจากเกิดความเห็นขัดแย้งเร่ืองการคงกองกาลังทหารเนเธอร์แลนด์ใน อัฟกานิสถาน ระหว่างพรรค Christian Democrat Appeal (CDA) ของนาย Balkenende ซึ่งต้องการให้มี การขยายเวลาการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป กับพรรค Partij van de Arbeid (PvdA) ซึ่งต้องการให้ถอนกองกาลัง ทหารออกจากอัฟกานิสถานตามกาหนดเดิมในเดือนสิงหาคม - ธันวาคม 2553 แม้ว่าท้ังสองฝ่ายจะพยายาม เจรจาเพ่ือหาทางออกร่วมกันมานานกว่า 4 เดือน โดยได้มีการประชุมร่วมกันถึง 17 ครั้ง แต่ก็ไม่ประสบ ผลสาเร็จและทาใหพ้ รรค PvdA ประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรครว่ มรฐั บาล เนเธอร์แลนด์ได้จัดการเลือกต้ังทั่วไปในวันที่ 9 มิถุนายน 2553 และเมื่อวันท่ี 29 กันยายน 2553 พรรค การเมืองเนเธอร์แลนด์ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดต้ังรัฐบาลผสม ซ่ึงมีที่นั่งในสภาจานวน 76 ที่น่ังจากจานวน ท้ังหมด 150 ที่นัง่ ประกอบด้วยผู้แทนจากพรรค People’ s Party for Freedom and Democracy (VVD) จานวน 31 ท่ีน่ัง พรรค Party for Freedom (PVV) จานวน 24 ที่นั่ง และพรรค Christian Democrat Appeal (CDA) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรี Jan Balkenende จานวน 21 ที่น่ัง โดยนาย Mark Rutte หัวหน้าพรรค VVD ดารงตาแหน่งนายกรัฐมนตรี นาย Uri Rosenthal พรรค VVD ดารง ตาแหน่งรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการต่างประเทศ และนาย Ben Knapen พรรค CDA ดารงตาแหน่งรัฐมนตรี ชว่ ยวา่ การกระทรวงการต่างประเทศ ดแู ลกจิ การยุโรปและความรว่ มมือระหว่างประเทศ
บรรณานกุ รม https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9 4%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B9%8C https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9 7%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%B8%A3 %E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C https://www.angelstartravel.com/content- detail.php?data=%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8% 95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%A1Amsterdam. html
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: