หน่วยท่ี 13 ลกู เสือกบั ความรู้ เรื่องศิลปะประยกุ ต์
เครอื่ งหมายวิชาพิเศษ วิชาศิลปประยกุ ต์ ลกั ษณะเคร่ืองหมาย เป็นรูปไข่ ยาว 4 ซม. กวา้ ง 3.5 ซม. มเี คร่อื งหมายรปู ปืน จานสวี างซ้อนพ่กู นั สเี หลอื งทอง ทาดว้ ยผา้ สขี าบขลบิ สีเหลอื งทอง มอี กั ษร ล.ว. อยู่ทร่ี มิ ด้านล่าง ผูท้ ่สี อบผ่านใหป้ ระดบั เคร่อื งหมาย ตดิ ทอ่ี กเสอ้ื เหนือกระเป๋ าดา้ นขวา
ประโยชน์ของศิลปะประยกุ ต์ ศิลปะ ตามความหมายในพจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2554 หมายถงึ ฝีมอื ฝีมอื ทางการชา่ ง การแสดงออกซง่ึ อารมณ์สะเทอื นใจใหป้ ระจกั ษเ์ หน็ ศิลปะประยกุ ต์ หมายถงึ การนาความรทู้ างฝีมอื ทางการชา่ ง และการแสดงออกต่างๆ มาปรบั ใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์ ศิลปะทุกแขนง เป็นสงิ่ ทบ่ี ่งบอกถงึ ขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละสงั คม การดาเนิน ชวี ติ ของมนุษยท์ ุกขนั้ ตอนจะตอ้ งเกย่ี วขอ้ งกบั ศลิ ปะทงั้ สน้ิ นอกจากศลิ ปะต่างๆ กจ็ ะมกี ารปรบั ปรุง เปล่ยี นแปลงไปตามยุคสมยั เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกบั สงั คมทเ่ี ป็นอยู่ ทเ่ี ราเรยี กว่า ศิลปะประยุกต์ ซ่งึ การรจู้ กั ประยกุ ตศ์ ลิ ปะต่างๆ มาใชน้ นั้ จะก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ดงั ตอ่ ไปน้ี
ประโยชน์ของศลิ ปะประยกุ ต์ 1.ประโยชน์ต่อตนเอง 2.ประโยชน์ต่องานด้านศิลปะและวฒั นธรรม ศลิ ปะเป็นสง่ิ ทส่ี รา้ งสรรคข์ น้ึ มา เพอ่ื การพฒั นาและบง่ บอกถงึ ความเจรญิ กา้ วหน้า ของสงั คม และจะสบื ทอดต่อไปเป็นวฒั นธรรม ศลิ ปะไม่ใช่สงิ่ ทท่ี าขน้ึ มาเพ่ือการทาาลาย ไมใ่ ชส่ งิ่ ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความไมเ่ ป็นระบบระเบยี บของคนหรอื สงั คม
การเลือกใช้สีในการเขียนภาพ การรจู้ กั ใชส้ กี บั งานศลิ ปะต่างๆ จงึ มคี วามจาเป็น และสาคญั เพราะจะทาให้ งานนนั้ ออกมาตรงกบั ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค แม่สีและการผสมสี แมส่ ี หมายถงึ สที เ่ี กดิ จากวสั ดทุ ม่ี สี ใี นตวั เอง สามารถนาไปใชร้ ะบาย ยอ้ ม หรอื ทาวตั ถุต่างๆ ใหเ้ ป็นสไี ด้ แมส่ มี ี 3 สี คอื 1. สนี ้าเงนิ 2. สเี หลอื ง 3. สแี ดง เมอ่ื นาแมส่ ที งั้ 3 มาจบั คผู่ สมกนั กจ็ ะเกดิ เป็นสี ต่างๆ คอื
การเลอื กใชส้ ใี นการเขยี นภาพ เมอ่ื นาสที ไ่ี ดใ้ หมไ่ ปผสมกบั แมส่ ที งั้ 3 สี กจ็ ะไดส้ ใี หม่ คอื แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คอื 1. สีอ่นุ ไดแ้ ก่ เหลอื ง สม้ เหลอื ง สม้ แดงสม้ แดง มว่ ง และมว่ งแดง 2. สีเยน็ ไดแ้ ก่ น้าเงนิ น้าเงนิ มว่ ง เขยี ว เขยี วออ่ น และเขยี วแก่
การเลอื กใชส้ ใี นการเขยี นภาพ สีท่ีตดั กนั สเี หลอื ง ตรงขา้ มกบั สมี ว่ ง ความหมายของสี สสี ม้ เหลอื ง ตรงขา้ มกบั สนี ้าเงนิ มว่ ง สขี าว หมายถงึ ความบรสิ ทุ ธิ ์ เรยี บรอ้ ย เบกิ บาน สสี ม้ ตรงขา้ มกบั สนี ้าเงนิ สเี หลอื ง หมายถงึ ความสวา่ ง กวา้ งขวาง สดใส สแี ดงสม้ ตรงขา้ มกบั สเี ขยี วแก่ สเี ขยี วอ่อน หมายถงึ ความเยน็ สบาย และความสดชน่ื สแี ดง ตรงขา้ มกบั สเี ขยี ว สมี ว่ ง หมายถงึ ความเศรา้ ความลกึ ลบั สเี ขยี วออ่ น ตรงขา้ มกบั สแี ดงมว่ ง สแี ดง หมายถงึ ความต่นื เตน้ ความน่ากลวั สดี า หมายถงึ ความเศรา้ สลด
ศิลปะการประยกุ ตต์ วั อกั ษร 2 รปู แบบอาลกั ษณ์ การออกแบบตวั อกั ษร 1 รปู แบบทางราชการ 3 รปู แบบสมเดจ็ กรมพระนริศ 4 รปู แบบประดิษฐ์
ศลิ ปะการประยกุ ตต์ วั อกั ษร ขนาดและสดั ส่วนของตวั อกั ษร 1. แบบเตม็ ตวั 2. แบบตวั ครึ่ง 3. แบบคร่งึ ตวั
ศลิ ปะการประยกุ ตต์ วั อกั ษร สามารถนามาใชใ้ นการออกแบบเพ่อื ประโยชน์ต่างๆ ไดต้ ามลกั ษณะของงาน แต่ลักษณะของการออกแบบและประดิษฐ์ตวั อกั ษรนัน้ ไม่จาเป็นจะต้องยึดรูปแบบ ตายตวั แต่ตอ้ งคานึงถงึ หลกั เกณฑข์ องความสงู ท่เี ป็นมาตรฐาน เพ่อื การอ่านงา่ ยและ เหน็ ชดั เจนดงั น้ี คอื
ศลิ ปะการประยกุ ตต์ วั อกั ษร ขนั้ ตอนการประดิษฐต์ วั อกั ษร 1. การตีเส้นบรรทดั เม่อื ตอ้ งการจะออกแบบตวั อกั ษร ให้มีขนาดความสูงเท่าใด ก็ต้องตีเส้นกาหนดบรรทดั เพ่อื ท่ีจะให้ตวั อกั ษรทุกตวั มขี นาดเท่ากนั โดยจะต้อง เวน้ ไวส้ าาหรบั เขยี นสระหรอื วรรณยุกตด์ ว้ ย 2. กาหนดขนาดความกว้างของตวั อกั ษร เพ่อื ให้ เหมาะสมกบั หน้ากระดาษหรอื พน้ื ทท่ี จ่ี ะเขยี นตวั อกั ษร โดยนับจานวนตวั อกั ษรทงั้ หมดในแต่ละแถว แล้วขดี เสน้ แบ่งชอ่ งตวั อกั ษรและชอ่ งไฟ
ศลิ ปะการประยกุ ตต์ วั อกั ษร 3. ร่างตวั อกั ษรลงในช่องที่ขีดไว้ โดยใชด้ นิ สอ เ พ่ือ ส ะ ด ว ก แ ก่ ก า ร ล บ ใ น ก ร ณี ท่ีเ ขีย น ผิด ห รือ ตอ้ งการปรบั ปรงุ 4. ลงเส้นด้วยน้าหมึกหรือสีตามที่ต้องการ หลงั จากออกแบบจนสวยงามเป็นทพ่ี อใจแลว้ ก็ ลงเส้นหนักหรอื สี เสรจ็ แล้วลบเสน้ บรรทัดและ เสน้ รา่ งออก กจ็ ะไดต้ วั อกั ษร ดงั ภาพ
ศิลปะการเขียนภาพการต์ นู วสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีใช้ในการเขียนภาพการต์ นู 1. ปากกาเขยี นแบบ 2. ปากกาสปีดบอลล์ 3. ปากกาคอแรง้ 4. พกู่ นั 5. ดนิ สอ 6. ยางลบ
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู เส้นและภาพท่ีใช้ในการเขียนการต์ นู 1. เส้น
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู 2. ภาพต่างๆ ที่ช่วยในการเขียนการต์ นู
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู 3. การประกอบเส้นและรปู รา่ ง
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู เส้นและภาพท่ีใช้ในการเขียนการต์ นู 1. การแสดงอารมณ์ของการต์ นู
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู 2. กิริยาท่าทางของการต์ นู
ศลิ ปะการเขยี นภาพการต์ นู
ศิลปะการสร้างห่นุ จาลอง ห่นุ จาลอง คอื การสรา้ งผลงาน 3 มติ ิ ทท่ี าเลยี นแบบของจรงิ โดยมขี นาดเทา่ กบั หรอื เลก็ และ ใหญ่กวา่ ของจรงิ เพอ่ื ใชป้ ระโยชน์ต่างๆ ดงั น้ี 1. เพอ่ื ศกึ ษาโครงสรา้ งและรปู ทรงของผลงาน 2. เพ่อื ศึกษาข้อบกพร่องและปรบั ปรุงแก้ไขส่วนต่างๆ กอ่ นทจ่ี ะสรา้ งงานนนั้ ขน้ึ มาจรงิ ๆ 3. เพ่อื ใช้ในการศึกษาแทนของจรงิ ในกรณีท่ีของจริงมี ขนาดใหญ่โตมาก หรอื อยไู่ กลมากไมส่ ะดวกทจ่ี ะไปศกึ ษา 4. เพอ่ื ใชแ้ ทนของจรงิ ในกรณที ข่ี องจรงิ มรี าคาแพงมาก 5. เพอ่ื ทดลองใชว้ สั ดแุ ละวธิ กี ารผลติ ก่อนผลติ จรงิ
ศลิ ปะการสรา้ งหุน่ จาลอง 3. หนุ่ ทม่ี ขี นาดเทา่ ของจรงิ 4. หนุ่ เพอ่ื ทดสอบผลติ ภณั ฑ์ ประเภทของห่นุ จาลอง 1. ประเภทแสดงรายละเอยี ด 2. ประเภทใชท้ ดสอบลกั ษณะ
ศลิ ปะการสรา้ งหุน่ จาลอง วสั ดทุ ่ีใช้ในการทาห่นุ จาลอง 1. กระดาษ 2. ไม้ 3. พลาสตกิ 4. ปนู ปลาสเตอร์ 5. โลหะตา่ งๆ 6. วสั ดุอน่ื ๆ เชน่ ฟองน้า พรม เศษผา้ เป็นต้น
ศิลปะในการจดั สวน เป็นศลิ ปะอยา่ งหน่ึงทเ่ี ป็นการเลยี นแบบธรรมชาติ เพอ่ื ใชเ้ ป็นสถานทพ่ี กั ผอ่ น และเป็นสงิ่ ประดบั อาคารสถานทใ่ี หส้ วยงามเพมิ่ ขน้ึ ซง่ึ ลกั ษณะการจดั สวนทด่ี ี ไดแ้ ก่ 1. สะดวกแก่ผมู้ าพกั ผอ่ น มถี นนและทางเดนิ ทส่ี ะดวกสบาย 2. สะดวกแก่การดแู ลรกั ษา บรเิ วณทเ่ี ป็นสวนนนั้ จะตอ้ งไดร้ บั การดแู ล รกั ษาอยา่ งสม่าเสมอ 3. เป็นพน้ื ทท่ี น่ี ้าทว่ มไมถ่ งึ และมกี ารระบายน้าทด่ี ี
ศลิ ปะในการจดั สวน การปลกู ต้นไม้ ตน้ ไมท้ จ่ี ะนาามาปลกู ในบรเิ วณทจ่ี ะตกแต่งเป็นสวนนนั้ ควรมีขนาด ลักษณะและประเภท ให้เหมาะสมกับสวนและ วตั ถุประสงคข์ องเจา้ ของ โดยทว่ี ตั ถุประสงคข์ องการปลูกตน้ ไม้ ในสวนนนั้ จะแตกตา่ งกนั ออกไป
ศลิ ปะในการจดั สวน สนามหญ้า หญา้ ทป่ี ลกู ในสวนมปี ระโยชน์เพอ่ื ความสวยงาม และใชค้ ลุมดนิ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี หญา้ ทน่ี ิยม ปลกู กนั ไดแ้ ก่ หญา้ ญป่ี ่นุ หญา้ นวลจนั ทร์ หญา้ นวลน้อย เป็นตน้ โดยจะตอ้ งมกี ารปรบั พน้ื ดนิ ให้ เหมาะสม
ศลิ ปะในการจดั สวน การตกแต่งสวนด้วยวสั ดอุ ื่นๆ นอกจากการปลกู หญา้ และตน้ ไมแ้ ลว้ ในการตกแต่งสวนอาจจะจดั ตกแต่ง ดว้ ยวสั ดุอน่ื ๆ ไดอ้ กี เชน่ หนิ รากไมห้ รอื ตอไม้ บอ่ น้า ทางเดนิ เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: