Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เนื้อหาหน่วยที่ 9 ภาคจ่ายไฟ และการปรับแต่งเครื่องรับวิทยุ

เนื้อหาหน่วยที่ 9 ภาคจ่ายไฟ และการปรับแต่งเครื่องรับวิทยุ

Published by pond_moku, 2020-07-29 21:41:01

Description: เนื้อหาหน่วยที่ 9 ภาคจ่ายไฟ และการปรับแต่งเครื่องรับวิทยุ

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 9 เร่ือง ภาคจา่ ยไฟ และการปรับแตง่ เคร่ืองรบั วิทยุ ผู้สอน ครูปทั มาพร อุทาจันทร์

ภาคจ่ายไฟ และการปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ 9.1 ภาคจ่ายไฟเคร่ืองรับวิทยุ ภาคจ่ายไฟ หรือแหล่งจ่ายกาลงั (Power Supply) เป็ นส่วนที่สาคญั ต่อการทางานของอุปกรณ์และวงจรไฟฟ้าชนิด ต่างๆ โดยทาหน้าที่จ่ายกาลังไฟฟ้าชนิดไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current Electricity ; DC) ออกมา อยู่ในรูปแรงดันไฟฟ้า กระแสตรง (DCV) และกระแสไฟฟ้ากระแส ตรง (DCA) จ่ายไปเล้ียงระบบการทางานในส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์และวงจรไฟฟ้า ช่วยให้อุปกรณ์และวงจรไฟฟ้าเหล่าน้ันสามารถทางานได้ แหล่งจ่ายกาลงั ท่ีถูกผลิตออกมาใชง้ านมีมากมายหลายชนิดหลาย รูปแบบ และหลายวงจรทางาน การเลือกนามาใช้งานจะตอ้ งเลือกให้มีความเหมาะสมกบั ความตอ้ งการกาลงั ไฟฟ้า (Electrical Power) ของอุปกรณแ์ ละวงจรไฟฟ้าเหลา่ น้นั การผลิตวงจรแหล่งจ่ายกาลงั ชนิดไฟฟ้ากระแสตรง สามารถผลิตข้ึนมาไดจ้ ากวสั ดุทางไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ หลายชนิด มลี กั ษณะวสั ดุอุปกรณ์และวงจรทางานแตกต่างกนั ไปหลายรูปแบบ แตม่ หี นา้ ที่ในการทางานเหมอื นกนั คอื ตอ้ ง จ่ายกาลงั ไฟฟ้าส่งไปเล้ียงระบบทางานต่างๆ ของอุปกรณ์และวงจรไฟฟ้าท้ังระบบ สิ่งสาคญั ท่ีแหล่งจ่ายกาลงั ตอ้ งให้กาเนิด ออกมา โดยจะตอ้ งให้กาเนิดกาลงั ไฟฟ้าข้ึนมา มีกาลงั ไฟฟ้าเพียงพอต่อความตอ้ งการใชง้ านของอุปกรณ์และวงจรไฟฟ้าแต่ละ ชนิด แหล่งจ่ายกาลงั ที่นามาใช้งานกับเครื่องรับวิทยุ เป็ นประเภทแหล่งจ่ายกาลงั ไฟฟ้ากระแส ตรง (DC Power Supply) ชนิดท่ีนิยมใชง้ านแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ชนิด ไดแ้ ก่ 1. ชนิดใช้แบตเตอรี่ (Battery) หรือถ่านไฟฉาย เป็ นแหล่งจ่ายกาลงั ไฟฟ้ากระแสตรง ที่สามารถนามาตอ่ ใช้งานได้ โดยตรง โดยเลอื ก ชนิด ขนาด และคา่ แรงดนั ไฟฟ้าที่เหมาะสมมาต่อใชง้ านไดท้ นั ที 2. ชนิดใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั (Alternating Current Electricity ; AC) ที่จ่ายมาตามสายไฟฟ้า โดยนามาแปลงค่าให้เป็ นไฟฟ้า กระแสตรง (DC) ไดอ้ อกมาเป็นแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง (DCV) และกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DCA) มกี าลงั ไฟฟ้าตามตอ้ งการ แหล่งจ่ายกาลงั ชนิดน้ีนิยมเรียกว่า แหล่งจ่ายกาลงั ชนิดเชิงเส้น (Linear Power Supply) ถูกสร้างไวใ้ นรูปแหล่งจ่ายกาลงั อะแดป เตอร์ (Adapter Power Supply) ลกั ษณะแหลง่ จา่ ยกาลงั ใชง้ านกบั เคร่ืองรับวทิ ยุ แสดงดงั รูปท่ี 9.1 (ก) ถา่ นไฟฉาย (ข) แหล่งจา่ ยกาลงั อะแดปเตอร์ รูปท่ี 9.1 แหล่งจ่ายกาลงั ใชง้ านกบั เคร่ืองรับวิทยุ

จากรูปท่ี 9.1 แสดงแหล่งจ่ายกาลงั ใช้งานกับเคร่ืองรับวิทยุ รูปที่ 9.1 (ก) เป็ นถ่านไฟฉาย อยู่ในรูปแหล่งจ่าย กาลงั ไฟฟ้ากระแสตรง จา่ ยแรงดนั ไฟฟ้าออกมาคงที่ตามชนิดของถ่านไฟฉายที่ผลติ มาใชง้ าน ขนาดของถา่ นไฟฉายแตกต่าง กนั จะจ่ายกาลังไฟฟ้าออกมาได้แตกต่างกนั ไป ถ่านไฟฉายขนาดเล็กจ่ายกาลงั ไฟฟ้าออกมาได้น้อยใช้งานได้ไม่ทน ถ่านไฟฉายขนาดใหญจ่ า่ ยกาลงั ไฟฟ้าออกมาไดม้ ากใชง้ านไดท้ นทานกว่า ส่วนรูปท่ี 9.1 (ข) เป็นแหลง่ จ่ายกาลงั อะแดปเตอร์ มรี ูปร่างแตกตา่ งกนั ไป สามารถจา่ ยแรงดนั ไฟฟ้าและกาลงั ไฟฟ้า ออกมาแตกตา่ งกนั ข้นึ อย่กู บั การผลิตและความตอ้ งการในการใชง้ าน ขนาดเล็กจา่ ยกาลงั ไฟฟ้าออกมาไดน้ อ้ ย และขนาดใหญ่ จ่ายกาลงั ไฟฟ้าออกมาได้มาก การเลอื กนามาใชง้ านตอ้ งคานึงถึงท้งั ค่าแรงดนั ไฟฟ้าและกาลงั ไฟฟ้าใหถ้ ูกตอ้ งพอเหมาะกับ อปุ กรณแ์ ละวงจรไฟฟ้าแต่ละชนิด 9.2 แหล่งจ่ายกาลงั ชนดิ เชิงเส้น แหล่งจ่ายกาลงั ชนิดเชิงเส้น สร้างไวใ้ นรูปแหล่งจ่ายกาลงั อะแดปเตอร์ เป็นแหล่งจ่ายกาลงั ชนิดท่ีนิยมใชง้ านใน เคร่ืองรับวิทยุ แหล่งจ่ายกาลงั จะมีขนาดเล็ก เพราะเครื่องรับวิทยุท่ีผลิตมาใช้งานใช้กาลงั ไฟฟ้าในการทางานไม่มาก แหลง่ จา่ ยกาลงั ชนิดน้ีถอื เป็นชนิดพ้ืนฐานทีใ่ ชค้ วามถี่แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ทีป่ ้อนเขา้ มา ไปใชใ้ นการแปลงสญั ญาณจาก แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ให้เป็นแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง ตามค่าแรงดนั ไฟฟ้าตามตอ้ งการ หลกั การทางานของแหล่งจ่าย กาลงั ชนิดเชิงเสน้ แสดงดงั รูปท่ี 9.2 ++ ++ ++++ 0 0 0 0 + -- -- DCV รูปที่ 9.2 หลกั การทางานของแหล่งจา่ ยกาลงั ชนิดเชิงเสน้ จากรูปท่ี 9.2 แสดงหลกั การทางานของแหล่งจ่ายกาลงั ชนิดเชิงเส้น การทางานของวงจรอธิบายไดด้ งั น้ี นาแหลง่ จา่ ย แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั 220 V ที่ใชต้ ามบา้ น จา่ ยให้หมอ้ แปลงกาลงั ชนิดลดแรงดนั ไฟฟ้า ลดระดบั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ให้ต่าลงเหลอื อย่ใู นระดบั ตามตอ้ งการ ส่งตอ่ ให้วงจรไดโอดเรียงกระแส (Diode Rectifier) ตดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ออกไป ซีกหน่ึง อาจเป็ นซีกบวกหรือซีกลบก็ได้ เหลือแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับจ่ายออกมาซีกเดียวอย่างต่อเน่ือง อยู่ในรูป แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงพลิ้ว (Ripple DC Voltage) และส่งต่อให้วงจรกรอง (Filter) แปลงให้เป็ นแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง (DCV) ทร่ี าบเรียบนาไปใชง้ านได้ แหลง่ จา่ ยกาลงั ชนิดเชิงเสน้ ทีผ่ ลติ มาใชง้ านมีดว้ ยกนั หลายแบบ มีลกั ษณ์โครงสรา้ งและวงจร ทางานทแี่ ตกตา่ งกนั ไป ดงั น้ี  แหล่งจา่ ยกาลงั ชนิดเชิงเส้นแบบคร่ึงคลื่น (Half Wave Linear Power Supply)  แหลง่ จา่ ยกาลงั ชนิดเชิงเส้นแบบเต็มคลนื่ (Full Wave Linear Power Supply)  แหลง่ จ่ายกาลงั ชนิดเชิงเสน้ แบบบริดจ์ (Bridge Linear Power Supply)  แหล่งจ่ายกาลงั ชนิดเชิงเสน้ แบบจ่ายไฟฟ้า 3 เอาตพ์ ุต (3 Output Linear Power Supply)

1. แหล่งจ่ายกาลังชนิดเชิงเส้นแบบครึ่งคลื่น เป็นแหล่งจ่ายกาลงั ที่ใชไ้ ดโอดทาหนา้ ท่ีเรียงกระแสเพยี งตวั เดียว ตดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ออกไปซีกหน่ึง (ซีกบวกหรือซีกลบก็ได)้ เหลือแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ซีกเดียวจ่ายออกเอาต์พตุ แบบคร่ึงคล่ืน วงจรแหล่งจา่ ยกาลงั ชนิดเชิงเสน้ แบบคร่ึงคลืน่ แสดงดงั รูปที่ 9.3 + จากรูปท่ี 9.3 แสดงแหล่งจ่ายกาลงั ชนิด ++ ++ 0 เชิงเส้นแบบคร่ึงคลื่น แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลับ 00 -- 220 V ส่งผ่านเข้าหม้อแปลงกาลัง T แปลง 1 D 2 3 T แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ลดตา่ ลงเหลือ 6 V ท่ี  6VAC +C 220VAC 0VAC - RL ผ่า นไดโ อ ด D ทา ห น้า ที่ตัดแร งดันไฟฟ้ า ก ร ะแส ส ลับซี กล บ ท้ิ งไป ที่  จ่ายผ่าน S แรงดนั ไฟฟ้ากระแส ตรงพล้ิวไปใหต้ วั เก็บประจุ C รูปที่ 9.3 แหลง่ จ่ายกาลงั ชนิดเชิงเสน้ แบบคร่ึงคลน่ื ทาการกรอง สัญญาณไดแ้ รงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงทคี่ ่อนขา้ งเรียบ ที่  ใกลเ้ คียงแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่ออกมา ส่วนพล้ิว ทเ่ี กิดตรงส่วนบนจะนอ้ ยลงเม่อื ใชต้ วั เกบ็ ประจุ C มคี า่ ความจมุ ากข้ึน 2. แหล่งจ่ายกาลังชนิดเชิงเส้ นแบบเต็มคล่ืน เป็ นแหล่งจ่ายกาลังท่ีใช้ไดโอดทาหน้าท่ีเรียงกระแส 2 ตัว ตดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ออกไปซีกหน่ึง (ซีกบวกหรือซีกลบกไ็ ด)้ เหลือแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ซีกเดียวจา่ ยออกเอาต์พุต แบบเต็มคลนื่ วงจรแหล่งจ่ายกาลงั ชนิดเชิงเสน้ แบบเตม็ คลืน่ แสดงดงั รูปที่ 9.4 + จากรูปที่ 9.4 แสดงแหล่งจ่ายกาลังชนิด + + ++++ 0 เชิงเส้นแบบเต็มคล่ืน แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลับ 00 -- T1 D1 23 220 V ส่งผ่านเขา้ หมอ้ แปลงกาลงั T ชนิดมีแท็ปก +C ลาง แปลงแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ลดต่าลงเหลือ 6 220VAC 6VAC - V ท่ี  ผ่านไดโอด D1 และ D2 ตดั แรงดันไฟฟ้า 0VAC 6VAC S RL กระแส สลบั ซีกลบท้ิงไปที่ จ่ายผ่านแรงดนั ไฟฟ้า D2 กระแสตรงพลวิ้ ไปใหต้ วั เกบ็ ประจุ C ทาการ รูปที่ 9.4 แหล่งจ่ายกาลงั ชนิดเชิงเส้นแบบเต็มคลื่น กรองสัญญาณ ไดแ้ รงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงทค่ี อ่ นขา้ งเรียบท่ี  ใกลเ้ คยี งแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่ ส่วนพล้ิวที่ เกิดตรงส่วนบนจะนอ้ ยลงกว่าแบบคร่ึงคลื่น และจะเรียบมากข้นึ เม่ือใชต้ วั เก็บประจุ C มีค่าความจุมากข้นึ 3. แหล่งจ่ายกาลังชนิดเชิงเส้นแบบบริดจ์ เป็ นแหล่งจ่ายกาลงั ท่ีใช้ไดโอดทาหน้าที่เรียงกระแส 4 ตัว ตดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ออกไปซีกหน่ึง (ซีกบวกหรือซีกลบก็ได้) เหลอื แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ซีกเดียวจ่ายออกเอาตพ์ ุต แบบเต็มคล่ืน วงจรแหล่งจ่ายกาลงั ชนิดเชิงเส้นแบบบริดจ์ แสดงดงั รูปท่ี 9.5

++ ++++ + จากรูปท่ี 9.5 แสดงแหล่งจ่ายกาลงั ชนิด 0 0 0 เชิงเสน้ แบบบริดจ์ แรงดนั ไฟฟ้ากระแส สลบั 220 V -- 2 3 D2 D1 + ส่งผ่านเขา้ หม้อแปลงกาลงั T แปลงแรงดันไฟฟ้า T1 C - กระแสสลบั ลดต่าลงเหลือ 6 V ที่  ผ่านไดโอด D1 220VAC 6VAC RL และ D2 กาหนดให้แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ซีกบวก จ่ายออกท่ี  และไดโอด D3 และ D4 กาหนดให้ 0VAC S แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ซีกลบจา่ ยผา่ น RL ไดด้ า้ น D3 D4 รูปท่ี 9.5 แหล่งจ่ายกาลงั ชนิดเชิงเส้นแบบบริดจ์ บนเป็ นศักย์บวกท่ี  เกิดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงพลิ้วเต็มคล่ืน จ่ายไปให้ตัวเก็บประจุ C ทาการกรองสัญญาณ ได้ แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงท่ีค่อนขา้ งเรียบ  ใกลเ้ คียงแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่ ส่วนพลิ้วท่ีเกิดตรงส่วนบนจะ นอ้ ยลงกว่าแบบคร่ึงคล่ืน 4. แหล่งจ่ายกาลงั ชนดิ เชิงเส้นแบบจ่ายไฟฟ้า 3 เอาต์พตุ เป็นแหล่งจา่ ยกาลงั ที่ใชไ้ ดโอดทาหนา้ ที่เรียงกระแส 4 ตวั กาหนดให้จ่ายแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงชนิด 3 ข้วั (+, กราวด์,–) ออกเอาต์พุต ไดแ้ รงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ซีกเดียวจ่ายออก เอาตพ์ ตุ แบบเต็มคลื่นแตล่ ะข้วั วงจรแหล่งจา่ ยกาลงั ชนิดเชิงเสน้ แบบจ่ายไฟฟ้า 3 เอาตพ์ ุต แสดงดงั รูปท่ี 9.6 + จากรูปท่ี 9.6 แสดงแหล่งจ่ายกาลงั + + ++++ 0 ชนิดเชิงเส้นแบบจ่ายไฟฟ้าออก 3 เอาต์พุต 00 -- T1 D2 2 3 + แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั 220 V ส่งผ่านเขา้ หมอ้ D3 D1 + C1 RL1 แปลงกาลงั Tแปลงแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ลด 6VAC ต่าลงเหลือ 6 V ที่  ผ่านไดโอด D1 และ D2 0VAC - GND กาหนดให้แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ซีกบวกจ่าย RL2 ออกที่  บน และไดโอด D3 และ D4 กาหนด ให้ 220VAC 6VAC + - - 1 D4 C2 ++ 23 0 00 แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ซีกลบจ่ายออกท่ี  -- ---- - ล่างเกิดแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง รูปที่ 9.6 แหล่งจา่ ยกาลงั ชนิดเชิงเสน้ แบบจา่ ยไฟฟ้า 3 เอาตพ์ ุต พลว้ิ เตม็ คลน่ื จ่ายไปให้ตวั เก็บประจุ C1 และ C2 ทาการกรองสัญญาณ ไดแ้ รงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงท่ีคอ่ นขา้ งเรียบที่  ใกลเ้ คียง แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่ท้งั ข้วั บวก (+) และข้วั ลบ (-) ออกมา มีข้วั ด้านบนเป็ นบวก (+) เทียบกบั กราวด์ มีข้วั ดา้ นลา่ งเป็นลบ (-) เทียบกบั กราวด์ (GND) ข้วั กราวด์ (GND) จะมีข้วั เป็นท้งั บวกและลบ () 9.3 เคร่ืองมือและการเตรียมเครื่องมือใช้ในการปรับแต่งเครื่องรับวิทยุ เคร่ืองรับวิทยุมีความเกี่ยวขอ้ งกับความถ่ีวิทยุค่าต่างๆ การจะนาเคร่ืองรับวิทยุไปใช้งานให้สามารถรับสัญญาณ สถานีวิทยุได้ชดั เจนดีและรับสถานีวิทยุได้ครบทุกช่องสถานี ข้ึนอยู่กบั การปรับแต่ง (Alignment) เครื่องรับวิทยุให้ถูกตอ้ ง ก่อนการใช้งาน การปรับแต่งเคร่ืองรับวิทยุจึงถือเป็นส่วนสาคญั ส่วนหน่ึงก่อนท่ีจะนาเครื่องรับวิทยุไปใชง้ าน การปรับแต่ง เครื่องรับวิทยุจะตอ้ งประกอบดว้ ยเครื่องมือท่ีใช้ในการปรับแต่ง และการปรับเตรียมเคร่ืองมือเหล่าน้นั ให้พร้อมใช้งานมี รายละเอียด ดงั น้ี

1. เครื่องมือทจ่ี าเป็ นในการปรับแต่งเคร่ืองรับวิทยุ ประกอบดว้ ย 1. ไขควงชุดปรับแต่งที่ไม่เป็นโลหะ (ไขควงพลาสตกิ ) 2. ดิจทิ ลั มลั ตมิ ิเตอร์ 3. เคร่ืองกาเนิดสญั ญาณวิทยุ (RF Signal Generator) 4. สายสัญญาณโคแอกเชียล และข้วั ตอ่ ใชง้ านเครื่องกาเนิดสญั ญาณวทิ ยุ 5. สายอากาศแบบบ่วง (Loop Antenna) ทาจากลวดทองแดงอาบน้ายาฉนวน เบอร์ 20 S.W.G. พนั 20 รอบ เส้นผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 8 เซนตเิ มตร 6. แหลง่ จา่ ยแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงชนิดปรับค่าได้ 0 - 30 V 7. เคร่ืองรับวิทยุ AM / FM เคร่ืองดีใชเ้ ป็ นเคร่ืองตน้ แบบในการปรับเปรียบเทียบ 2. การเตรียมเคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการปรับแต่งให้พร้อมก่อนการใช้งาน ทาดงั น้ี 1. เคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยุ ประกอบสายสัญญาณเข้าเครื่องกาเนิดสัญญาณวิทยุ ปลายอีกด้านของ สายสัญญาณต่อเขา้ สายอากาศแบบบ่วง นาสายอากาศแบบบ่วงไปวางห่างจากสายอากาศเคร่ืองรับวิทยุประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร ปรับเลอื่ นให้เหมาะสมในขณะใช้งาน เปิดเคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยุทิ้งไวป้ ระมาณ 1 - 2 นาทกี ่อนการใช้งานทุก คร้ัง (ในการปรบั แต่งบางตาแหน่งไม่จาเป็นตอ้ งใชง้ าน) 2. ดจิ ิทลั มลั ติมเิ ตอร์ ปรบั ไปที่ยา่ น ACV หรือ DCV แลว้ แต่ตาแหน่งของการปรบั แตง่ ตอ่ สายวดั สีแดงเขา้ ข้วั บวก (+) ของมลั ติมิเตอร์ และต่อสายวดั สีดาเขา้ ข้วั ลบ (-) ของ มลั ติมเิ ตอร์ นาไปวดั คา่ ตามตาแหน่งท่ตี อ้ งการ 3. เคร่ืองรบั วิทยทุ ่ีตอ้ งการปรับแต่ง ตอ้ งอยู่ในสภาพปกติสามารถรับสญั ญาณสถานีวทิ ยกุ ระจายเสียงได้ บา้ งบางสถานี หรือขณะปรับหมุนหาคลื่นวิทยุมีสญั ญาณเสียงดงั ออกลาโพง การตดิ ต้งั เคร่ืองมือในตาแหน่งตา่ งๆ แสดงดงั รูปท่ี 9.7 - DCV + - ACV + 10-15 . IF รูปที่ 9.7 การใชเ้ คร่ืองมือตาแหน่งต่างๆ ในการวดั และปรับแตง่ เครื่องรับวิทยุ 9.4 การปรับแต่งเครื่องรับวทิ ยุ AM การปรับแต่งเครื่องรับวิทยุ AM มีส่วนท่ีตอ้ งปรับแต่งอยู่ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกภาคจูน IF เป็นส่วนที่ความถ่ีใช้ งานของเคร่ืองรับวทิ ยุ AM ตอ้ งการใหผ้ ่านไปไดม้ ีค่าความถ่ี 455 kHz เพียงความถเี่ ดียว ซ่ึงจะตอ้ งปรับแตง่ ที่ภาคจูน IF ทุก

ตาแหน่งให้ตอบสนองตอ่ ความถ่ี 455 kHz พอดี และส่วนทส่ี องภาคคอนเวอร์เตอร์ จะตอ้ งปรับแตง่ ให้ภาคคอนเวอร์เตอร์รับ คลืน่ สถานีวิทยุ AM ไดค้ รอบคลมุ ย่านความถ่สี ถานีวทิ ยุ AM ท้งั หมด รับคลืน่ สถานีวิทยุ AM ไดค้ รบทกุ สถานี 9.4.1 การปรับแต่งภาค IF เคร่ืองรับวิทยุ AM แบบใช้เครื่องมือ การปรับแตง่ วธิ ีน้ีทาได้ ดงั น้ี 1. ต่อเคร่ืองมือเขา้ วงจรเคร่ืองรับวิทยุ AM ทีจ่ ะปรบั แตง่ แสดงดงั รูปท่ี 9.8 455 kHz + 1 kHz ACV 2.5 V - ACV + 10-15 . T1 IFT1 IFT2 IFT3 L1 IF1 IF2 T2 RF L2 L3 TC1 VC1 VC2 TC2 LO (ก) ตาแหน่งการตอ่ เคร่ืองมอื และคา่ ที่ใชง้ าน C L2 T2 AM TC1 VC1 IFT1 IFT2 IFT3 GND TC2 VC2 (ข) ตาแหน่งหมอ้ แปลง LO และหมอ้ แปลง IF บนแผ่นวงจรพมิ พ์ รูปท่ี 9.8 การใชเ้ ครื่องมือในการปรับแตง่ และการวดั เครื่องรับวิทยุ AM ภาค IF 2. หมุนป่ มุ C วาริเอเบลิ หาสถานีวิทยุใหแ้ ผ่นโลหะ 2 ชุดทบั ซ้อนกนั หรือแยกจากกนั (เลอื กอย่างใดอยา่ ง หน่ึง) เปิดเครื่องรบั วิทยุ AM ที่จะปรับแตง่ ให้ทางาน เร่งโวล่มุ ปรับความดงั เสียงไปประมาณคร่ึงหน่ึง ขณะน้ีตอ้ งไม่ไดย้ ิน เสียงใดๆ ออกมาจากเคร่ืองรับวิทยุ AM ทีป่ รบั แต่ง หากยงั มีเสียงดงั ออกลาโพง ให้บดั กรีสายไฟเส้นท่ีต่อ VC2 ออก 3. นาสายอากาศแบบบ่วงต่อเขา้ กบั เคร่ืองกาเนิดสญั ญาณวิทยุ มาว่างให้ห่างจากสายอากาศเครื่องรบั วทิ ยุ AM ที่ปรับแต่งประมาณ 10 - 15 ซม. ปรับเครื่องกาเนิดสญั ญาณวิทยุไปที่ตาแหน่งผสมคลื่นเสียงภายในเคร่ือง (INT.MOD) คือ ผสมสัญญาณเสียง 1 kHz เขา้ กบั ความถี่ 455 kHz แบบ AM ส่งออกมาที่สายอากาศแบบบว่ ง ปรบั เร่งความแรงสัญญาณส่งออกจาก เคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยปุ ระมาณคร่ึงหน่ึง ขณะน้ีควรไดย้ ินเสียงตืด๊ ดงั ออกลาโพงเครื่องรับวิทยุ AM ตลอดเวลา กรณีทเี่ สียง

ดงั เบา ให้ปรบั เลื่อนระยะห่างของสายอากาศแบบบ่วงให้เขา้ ใกลม้ ากข้นึ หรือไปปรบั เร่งความแรงสญั ญาณส่งออกจากเคร่ือง กาเนิดสัญญาณวทิ ยมุ ากข้นึ ก็ได้ ใหไ้ ดย้ นิ เสียงดงั ออกลาโพงพอเหมาะ 4. ใช้ไขควงพลาสติกปรับหม้อแปลง IFT3 ไปมา ขณะปรับให้ฟังเสียงที่ดังออกลาโพง และดูค่า แรงดนั ไฟฟ้าที่วดั ไดจ้ ากมิเตอร์ ACV ปรับ IFT3 ไปท่ีตาแหน่งเสียงดงั แรงท่ีสุดท่ีชัดเจนไม่เพ้ียน หรือดูที่มิเตอร์ ACV แสดง คา่ สูงสุด 5. ยา้ ยไขควงพลาสติกมาปรับหม้อแปลง IFT2 ให้ได้เสียงดังออกลาโพงแรงมากข้ึน หรือมิเตอร์ ACV แสดงคา่ แรงดนั สูงข้ึนอกี ปรับใหค้ วามดงั และคณุ ภาพของเสียงดที ี่สุด 6. ยา้ ยไขควงพลาสติกมาปรับหมอ้ แปลง IFT1 ให้ได้เสียงดงั ออกลาโพงแรงท่ีสุด หรือมิเตอร์ ACV แสดง คา่ แรงดนั สูงสุด ปรับให้ความดงั และคุณภาพของเสียงดที ส่ี ุด 7. ปรับแต่งซ้าที่หมอ้ แปลง IFT ทุกตวั ตามข้นั ตอนที่ 4 ถึง 6 ใหม่อีกคร้ังเพื่อให้แน่ใจว่าการปรับแต่ง ถกู ตอ้ ง และไดค้ ุณภาพเสียงดีทสี่ ุด 9.4.2 การปรับแต่งภาค IF เคร่ืองรับวทิ ยุ AM แบบไม่ใช้เคร่ืองมือ การปรับแตง่ วธิ ีน้ีใชเ้ พยี งไขควงตวั เดยี ว หรือจะใชม้ ลั ติมเิ ตอร์ต้งั ย่าน ACV วดั คร่อมลาโพงร่วมดว้ ยก็ได้ ลาดบั ข้นั ตอนการปรับแต่งทาได้ ดงั น้ี 1. เปิ ดเครื่องรับวิทยุ AM ที่จะปรับแต่ง ให้รับสถานีใดสถานีหน่ึงได้ หมุนป่ ุมปรับ C วาริเอเบิลไปมาให้ ตรงสถานีน้นั จริงๆ มเี สียงดงั ออกมาชดั เจน 2. ใช้ไขควงพลาสติกปรับหมอ้ แปลง IFT3 หมุนไปในทางที่มีเสียงของสถานีวิทยุ AM ดงั ออกลาโพงแรง ที่สุด ยา้ ยไขควงมาปรับหมอ้ แปลง IFT2 ไปในทางท่ีมีเสียงของสถานีวิทยุ AM ดงั ออกลาโพงแรงมากข้ึน และยา้ ยไขควงมา ปรับหมอ้ แปลง IFT1 ไปในทางท่มี เี สียงของสถานีวิทยุ AM ดงั ออกลาโพงแรงมากทีส่ ุด และเสียงมคี วามชดั เจน 3. ปรับแต่งซ้าตามข้นั ตอนที่ 2 อีกคร้ัง เพอื่ ใหแ้ น่ใจว่าการปรับแตง่ ถกู ตอ้ งและไดค้ ุณภาพเสียงดที ่สี ุด 9.4.3 การปรับแต่งภาคคอนเวอร์เตอร์เคร่ืองรับวิทยุ AM แบบใช้เครื่องมือ การปรบั แตง่ วิธีน้ีทาได้ ดงั น้ี 1. ตอ่ เครื่องมือเขา้ วงจรเครื่องรับวิทยุ AM ที่จะปรบั แต่ง แสดงดงั รูปที่ 9.9 ACV 2.5 V - ACV + 10-15 . T1 IF T2 L1 VC2 TC2 RF L2 L3 LO TC1 VC1 (ก) ตาแหน่งการตอ่ เคร่ืองมอื และค่าทใี่ ชง้ าน

T1 L1 L2 L3 AM C VC1 IFT1 IFT2 IFT3 GND TC1 VC2 T2 TC2 (ข) ตาแหน่งอปุ กรณท์ ี่ตอ้ งปรับแต่ง รูปท่ี 9.9 การใชเ้ ครื่องมือในการปรบั แตง่ และการวดั เครื่องรับวทิ ยุ AM ภาคคอนเวอร์เตอร์ 2. หมุน C วาริเอเบิลปรับเปล่ียนสถานีวิทยุ AM ให้แผ่นโลหะ 2 ชุดทบั ซ้อนกนั สนิท หรือดูที่หนา้ ปัด เครื่องรบั วทิ ยุ AM หมุนใหเ้ ขม็ ช้ีไปที่เลข 530 kHz หรือใกลเ้ คยี ง 3. วางสายอากาศแบบบว่ งที่ตอ่ กบั เครื่องกาเนิดสัญญาณวทิ ยุ มาวางห่างจากสายอากาศเคร่ืองรับวิทยุ AM ท่ตี อ้ งการปรับแต่งประมาณ 10 - 15 ซม. ปรบั เคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยุไปท่ตี าแหน่งผสมคลื่นเสียงภายในเคร่ือง (INT. MOD) ปรับความถ่ีคลื่นพาห์ให้ได้ประมาณ 530 kHz และปรับความแรงสัญญาณวิทยุส่งออกมาจากเครื่องกาเนิดสัญญาณวิทยุมี ความแรงพอประมาณ ขณะน้ีเครื่องกาเนิดสัญญาณวิทยุทาหนา้ ทีเ่ ป็ นสถานีส่งวิทยุ AM มีความถ่ี 530 kHz ผสมสัญญาณเสียง 1 kHz 4. ใชไ้ ขควงพลาสตกิ ปรับแกนเฟอร์ไรตท์ ่ีกระป๋ อง T2 (สีแดง) ไปมาจนได้ยินเสียงต้ืดดงั ออกลาโพง ปรับ ไปตาแหน่งทไ่ี ดเ้ สียงดงั แรงและชดั เจนท่ีสุด หรือตาแหน่งท่ีมเิ ตอร์ ACV แสดงค่าแรงดนั ไฟฟ้าสูงสุด 5. ยา้ ยไขควงพลาสตกิ ไปปรับแต่งขดลวด L2, L3 ท่ีวางอยูบ่ นแกนเฟอร์ไรต์ ของหมอ้ แปลง T1 เมือ่ ถอดสลกั ยึดขดลวด L2, L3 ออก ขดลวด L2, L3 สามารถเคล่ือนที่ได้ ใชไ้ ขควงพลาสติกเขี่ยเล่ือนขดลวด L2, L3 ไปมาบนแกนเฟอร์ไรต์ ปรับไปตาแหน่งทไ่ี ดย้ นิ เสียงตืด๊ ดงั แรงมากข้ึนและชดั เจนที่สุด ใส่สลกั ยึดขดลวด L2, L3 ใหแ้ น่นไม่ใหเ้ คลอ่ื นท่ี 6. ปรับเคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยุให้มีความถ่ีคลื่นพาห์ให้ได้ประมาณ 1,600 kHz ปรับความแรงสัญญาณ วทิ ยุทีส่ ่งออกมาจากเครื่องกาเนิดสญั ญาณวทิ ยมุ ีความแรงพอประมาณ ขณะน้ีเครื่องกาเนิดสัญญาณวิทยทุ าหนา้ ทีเ่ ป็นสถานีส่ง วิทยุ AM มคี วามถี่ 1,600 kHzผสมสัญญาณ เสียง 1 kHz 7. หมุน C วาริเอเบิลปรับเปล่ียนสถานีวิทยุ AM ให้แผ่นโลหะ 2 ชุดแยกจากกันหมด หรือดูท่ีหน้าปัด เคร่ืองรับวิทยุ AM หมุนใหเ้ ข็มช้ีไปท่ีเลข 1,600 kHz หรือใกลเ้ คียง 8. ใช้ไขควงพลาสติกไปปรับที่ตวั C ทริมเมอร์ TC2 ไปมา ปรับไปตาแหน่งที่ไดย้ ินเสียงตื๊ดดงั แรงและ ชดั เจนทสี่ ุด 9. ยา้ ยไขควงพลาสติกมาปรับที่ C ทริมเมอร์ TC1 ไปมา ปรับไปตาแหน่งท่ีได้ยินเสียงต๊ืดดงั แรงและ ชดั เจนทส่ี ุดเชน่ เดียวกนั 10. หมนุ C วาริเอเบลิ ของเครื่องรับวิทยุ AM ท่ที าการปรับแต่งทดลองรับสถานีวิทยตุ ่างๆ ดจู ากความถีต่ ่า ไปหาความถส่ี ูง หรือจากความถีส่ ูงไปหาความถต่ี ่า ถา้ ยงั รับไดไ้ ม่ดีใหท้ าการปรับแต่งใหมต่ ามลาดบั ข้นั ตอนท่ี 2 ถึง 8 อีก คร้ งั

9.4.4 การปรับแต่งภาคคอนเวอร์เตอร์เครื่องรับวิทยุ AM แบบไม่ใช้เครื่องมือ การปรบั แต่งวธิ ีน้ีใชเ้ พยี งไขควงตวั เดียว หรือจะใชม้ ลั ติมิเตอร์ต้งั ย่าน ACV วดั คร่อมลาโพงร่วมดว้ ยก็ได้ ลาดบั ข้นั ตอนการปรบั แตง่ ทาได้ ดงั น้ี 1. นาเครื่องรับวิทยุ AM เครื่องตน้ แบบมาเปิ ดรับฟังสถานีวิทยุ AM ทางดา้ นความถ่ีต่าควรเป็นสถานีท่ี ต่าสุดทรี่ ับได้ อย่ปู ระมาณ 540 kHz 2. หมุน C วาริเอเบิล ของเคร่ืองรับวิทยุ AM เคร่ืองที่ทาการปรับแต่งไปทางย่านความถี่ต่าให้แผ่นโลหะ 2 ชุดทบั ซอ้ นกนั หรือดูที่หนา้ ปัดเครื่องรบั วิทยุ AM ทที่ าการปรับแตง่ ให้เข็มช้ีใกลเ้ คียงกบั เครื่องตน้ แบบ 3. ใช้ไขควงพลาสติกปรับแกนเฟอร์ไรต์ท่ีกระป๋ อง T2 (สีแดง) ไปมาจนได้ยินเสียงสถานีเดียวกนั กับ เคร่ืองตน้ แบบ ปรบั ไปตาแหน่งทไี่ ดเ้ สียงดงั แรงและชดั เจนทีส่ ุด หรือตาแหน่งทีม่ ิเตอร์ ACV แสดงคา่ แรงดนั ไฟฟ้าสูงสุด 4. ยา้ ยไขควงพลาสตกิ ไปปรบั แต่งขดลวด L2, L3 ท่ีวางอย่บู นแกนเฟอร์ไรต์ ของหมอ้ แปลง T1 เมื่อถอดสลกั ยึดขดลวด L2, L3 ออก ใชไ้ ขควงพลาสติกเขี่ยเลื่อนขดลวด L2, L3 ไปมาบนแกนเฟอร์ไรต์ ปรับไปตาแหน่งท่ีได้เสียงสถานี เดียวกนั กบั เคร่ืองตน้ แบบดงั แรงข้นึ อีกและชดั เจนที่สุด ใส่สลกั ยึดขดลวด L2, L3 ให้แน่นไมใ่ หเ้ คล่อื นท่ี 5. หมุนเปลีย่ นความถข่ี องเคร่ืองรบั วิทยุ AM เครื่องตน้ แบบ ไปทางความถส่ี ูงสุด อยู่ประมาณ 1,600 kHz 6. หมุน C วาริเอเบลิ ของเครื่องรับวิทยุ AM เคร่ืองท่ที าการปรับแต่งไปทางย่านความถ่ีสูงให้แผ่นโลหะ 2 ชุดแยกจากกนั เกือบหมด หรือดทู ี่หน้าปัดเครื่องรับวทิ ยุ AM ท่ีทาการปรบั แตง่ ให้เข็มช้ีใกลเ้ คยี งกบั เครื่องตน้ แบบ 7. ใช้ไขควงพลาสติกปรับท่ีตัว C ทิมเมอร์ TC2 ไปมาจนได้ยินเสียงสถานีวิทยุสถานีเดียวกันกับ เคร่ืองตน้ แบบ ปรบั ไปตาแหน่งท่ีไดเ้ สียงดงั แรงและชดั เจนท่ีสุด 8. ยา้ ยไขควงพลาสติกไปปรับที่ C ทริมเมอร์ TC1 ไปมา ปรับไปตาแหน่งที่ได้ยินเสียงสถานีวิทยุสถานี เดียวกนั กบั เครื่องตน้ แบบดงั แรงข้ึนอีกและชดั เจนทส่ี ุด 9. หมนุ C วาริเอเบลิ ของเครื่องรับวทิ ยุ AM ทที่ าการปรับแต่งทดลองรับสถานีวิทยตุ ่างๆ ดจู ากความถ่ีต่า ไปหาความถ่ีสูง หรือจากความถส่ี ูงไปหาความถต่ี ่า ถา้ ยงั รับได้ไม่ดีให้ทาการปรับแต่งใหม่ตามลาดบั ข้นั ตอนที่ 1 ถึง 8 อีก คร้ ัง 9.5 การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ FM การปรับแตง่ เคร่ืองรบั วิทยุ FM กรณีท่เี คร่ืองรบั วิทยเุ ป็นรุ่นท่ใี ชอ้ ุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์หลายชนิด (D, TR, FET) และ ไมไ่ ดใ้ ช้ IC เป็นเครื่องรบั วทิ ยุ FM มีส่วนทีต่ อ้ งปรบั แต่งอยู่ 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนแรกภาคเรโชดีเทกเตอร์ ปรบั ใหส้ ัญญาณความถี่ IF 10.7 MHz ผ่านเรโชดีเทกเตอร์ได้ถูกตอ้ ง ส่วนสองภาคจนู IF เป็ นส่วนท่ีความถ่ีใช้งานของเคร่ืองรับวิทยุ FM ตอ้ งการให้ ผ่านไปได้มีค่าความถ่ี 10.7 MHz เพียงความถเี่ ดยี ว ซ่ึงจะตอ้ งปรับแต่งที่ภาคจูน IF ทุกตาแหน่งให้ตอบสนองต่อความถี่ 10.7 MHz พอดี และส่วนที่สามภาคฟร้อนเอนด์ จะตอ้ งปรับแต่งให้ภาค ฟร้อนเอนด์รับคลื่นสถานีวิทยุ FM ได้ครอบคลุมย่าน ความถสี่ ถานีวทิ ยุ FM ท้งั หมด รับคลนื่ สถานีวทิ ยุ FM ไดค้ รบทกุ สถานี 9.5.1 การปรับแต่งภาคเรโชดเี ทกเตอร์เคร่ืองรับวทิ ยุ FM การปรับแต่งวธิ ีน้ีทาได้ ดงั น้ี 1. ตอ่ เครื่องมอื เขา้ วงจรเคร่ืองรบั วิทยุ FM ทจ่ี ะปรบั แต่ง แสดงดงั รูปที่ 9.10

T4 T5 DCV 2.5 V 10.7 MHz - DCV + 1 1 nF T4 2 DCV 2.5 V Q4 3 T5 - DCV + รูปท่ี 9.10 การใชเ้ คร่ืองมอื ในการปรบั แตง่ และการวดั เคร่ืองรับวิทยุ FM ภาคเรโชดีเทกเตอร์ 2. ปรบั เคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยุ ไปที่ยา่ นความถ่ี 10.7 MHz ในตาแหน่งไม่ผสมสญั ญาณเสียง (UNMOD) ปรบั ความแรงสัญญาณวทิ ยสุ ่งออกมาจากเครื่องกาเนิดสญั ญาณวทิ ยุมีความแรงประมาณคร่ึงหน่ึง 3. ต้งั มลั ติมิเตอร์ท่ีตาแหน่ง DCV ประมาณ 2.5 V. นาสายบวกไปวดั คร่อมจุด  สายลบไปวดั คร่อมจุด  4. ใช้ไขควงพลาสติกปรับหม้อแปลง T4 ไปมา พร้อมสังเกตท่ีตาแหน่งมิเตอร์ DCV ท่ีแสดงค่า แรงดนั ไฟฟ้าออกมา ปรับ T4 ไปทีต่ าแหน่งมิเตอร์ DCV แสดงค่าแรงดนั ไฟฟ้าสูงสุดออกมา ขณะน้ีวงจรเรโชดีเทกเตอร์ให้การ ตอบสนองความถ่ี IF 10.7 MHz พอดี ทาใหค้ วามถี่ IF 10.7 MHz ผา่ นไดโอดท้งั สองตวั ไปออกทจ่ี ุด  และ  สูงสุด 5. ยา้ ยมลั ติมเิ ตอร์โดยนาสายบวกมิเตอร์วดั ทีจ่ ุด  สายลบวดั เทยี บกบั กราวด์ (หรืออาจสลบั ข้วั สายวดั ของมิเตอร์ได)้ 6. ใช้ไขควงพลาสติกปรับหม้อแปลง T5 ไปมา พร้อมสังเกตท่ีตาแหน่งมิเตอร์ DCV ท่ีแสดงค่า แรงดนั ไฟฟ้าออกมา ปรบั T5 ไปทีต่ าแหน่งมเิ ตอร์ DCV แสดงคา่ แรงดนั ไฟฟ้าที่ 0 V พอดี ขณะน้ีวงจรเรโชดเี ทกเตอร์ ทางาน ถูกตอ้ งแลว้ 9.5.2 การปรับแต่งภาค IF เครื่องรับวิทยุ FM การปรบั แต่งวธิ ีน้ีทาได้ ดงั น้ี 1. ตอ่ เครื่องมือเขา้ วงจรเครื่องรบั วทิ ยุ FM ทจี่ ะปรับแต่ง แสดงดงั รูปท่ี 9.11

10.7 MHz DCV 2.5 V 1 nF IFT1 IFT2 IFT3 1 - DCV + T1 RF IF1 IF2 2 AFT 3 L1 L2 VC1 TC1 LO L3 VC2 TC2 รูปที่ 9.11 การใชเ้ ครื่องมือในการปรับแตง่ และการวดั เคร่ืองรับวทิ ยุ FM ภาค IF 2. เตรียมเคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยุโดยปรับค่าความถ่ีไปท่ีความถี่ 10.7 MHz ในตาแหน่งไม่ผสม สัญญาณเสียง (UNMOD) ปรับความแรงสัญญาณวิทยุส่งออกมาจากเคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยุมีความแรงเล็กน้อยให้ เหมาะสมกบั การใชง้ าน 3. ต้งั มลั ตมิ เิ ตอร์ทต่ี าแหน่ง DCV ประมาณ 2.5 V นาสายบวกไปวดั คร่อมจดุ  สายลบวดั ท่จี ุดกราวด์ 4. ใช้ไขควงพลาสติกปรับหม้อแปลง IFT3 ไปมา พร้อมสังเกตท่ีตาแหน่งมิเตอร์ DCV ท่ีแสดงค่า แรงดนั ไฟฟ้าออกมา ปรับ IFT3 ไปตาแหน่งท่ีวดั คา่ แรงดนั ไฟฟ้าไดส้ ูงสุด 5. ยา้ ยไขควงพลาสติกไปปรับหม้อแปลง IFT2 ไปมา พร้อมสังเกตที่ตาแหน่งมิเตอร์ DCV ท่ีแสดงค่า แรงดนั ไฟฟ้าออกมา ปรบั IFT2 ไปตาแหน่งที่วดั คา่ แรงดนั ไฟฟ้าไดส้ ูงสุด 6. ยา้ ยไขควงพลาสติกไปปรับหมอ้ แปลง IFT1 ไปมา พร้อมสังเกตท่ีตาแหน่งมิเตอร์ DCV ท่ีแสดงค่า แรงดนั ไฟฟ้าออกมา ปรบั IFT1 ไปตาแหน่งท่ีวดั คา่ แรงดนั ไฟฟ้าไดส้ ูงสุด ระดบั แรงดนั ไฟฟ้าทวี่ ดั ไดจ้ ากมลั ติมิเตอร์ตอ้ งเพิ่ม มากข้นึ เป็นลาดบั ในการปรับตวั IFT แตล่ ะตาแหน่ง หากการปรับแต่งไมค่ อ่ ยมผี ล หรือระดบั แรงดนั ไฟฟ้าไมเ่ ปลีย่ นแปลง จะตอ้ งลดระดบั ความแรงของสัญญาณความถ่ี IF 10.7 MHz ที่ป้อนออกมาจากเครื่องกาเนิดสัญญาณวิทยุให้นอ้ ย ลงเป็นลาดบั จนกวา่ การปรบั แตง่ จะไดผ้ ลดี 7. ปรับแต่งซ้าท่ีหมอ้ แปลง IFT3, IFT2 และ IFT1 ตามข้นั ตอนที่ 4 ถึง 6 ใหม่อีกคร้ัง เพ่ือให้แน่ใจว่าการ ปรับแต่งถูกตอ้ ง 9.5.3 การปรับแต่งภาคฟร้อนเอนด์เคร่ืองรับวิทยุ FM การปรบั แต่งวธิ ีน้ีทาได้ ดงั น้ี 1. ต่อเครื่องมอื เขา้ วงจรเครื่องรบั วิทยุ FM ทจี่ ะปรับแตง่ แสดงดงั รูปที่ 9.12

10-15 . IFT1 IFT2 IFT3 DCV 2.5 V T1 RF IF1 IF2 1 - DCV + AFT L1 L2 VC1 TC1 2 3 LO L3 VC2 TC2 รูปที่ 9.12 การใชเ้ ครื่องมอื ในการปรับแตง่ และการวดั เครื่องรับวทิ ยุ FM ภาคฟร้อนเอนด์ 2. วางสายอากาศแบบบว่ งที่ตอ่ กบั เครื่องกาเนิดสญั ญาณวิทยุ มาวางห่างจากสายอากาศเครื่องรับวิทยุ FM ที่ตอ้ งการปรับแตง่ ประมาณ 10 - 15 ซม. ปรบั เคร่ืองกาเนิดสัญญาณวิทยุไปทต่ี าแหน่งไม่ผสมคล่นื เสียงภายในเคร่ือง (UNMOD) ปรบั ความถี่คลืน่ พาห์ไปที่ความถ่ี 108 MHz และปรับความแรงสัญญาณวิทยุส่งออกมาจากเครื่องกาเนิดสญั ญาณวิทยุมีความ แรงเล็กนอ้ ยให้เหมาะสมกบั การใชง้ าน ขณะน้ีเครื่องกาเนิดสญั ญาณวิทยุทาหนา้ ที่เป็ นสถานีส่งวิทยุ FM มีความถี่ 108 MHz ส่งออกมา 3. ต้งั มลั ติมเิ ตอร์ท่ตี าแหน่ง DCV ประมาณ 2.5 V นาสายบวกไปวดั คร่อมจุด  สายลบวดั ท่ีจุดกราวด์ 4. หมุน C วาริเอเบลิ ปรับเปลี่ยนสถานีวิทยุ FM ให้แผน่ โลหะ 2 ชุดแยกจากกนั เกือบหมด หรือดทู ห่ี นา้ ปัด เครื่องรบั วิทยุ FM หมุนใหเ้ ขม็ ช้ีไปท่เี ลข 108 MHz 5. ใช้ไขควงพลาสติกปรับท่ี C ทริมเมอร์ TC2 ไปมา พร้อมสังเกตท่ีตาแหน่งมิเตอร์ DCV ที่แสดงค่า แรงดนั ไฟฟ้าออกมา ปรับให้ได้ค่าแรงดนั ไฟฟ้าสูงสุด หากปรับไม่ค่อยมีผลหรือระดบั แรงดนั ไฟฟ้ าไม่เปลี่ยนแปลง ตอ้ ง เพ่ิมหรือลดระดบั ความแรงของสัญญาณที่ป้อนออกมาจากเครื่องกาเนิดสัญญาณวิทยุเป็นลาดับ จนกว่าการปรับแต่งจะ ไดผ้ ลดี 6. ยา้ ยไขควงพลาสติกมาปรับที่ C ทริมเมอร์ TC1 ไปมา พร้อมสังเกตท่ีตาแหน่งมิเตอร์ DCV ท่ีแสดงค่า แรงดนั ไฟฟ้าออกมา ปรับให้ไดค้ ่าแรงดนั ไฟฟ้าสูงสุด 7. เปลย่ี นความถีเ่ คร่ืองกาเนิดสญั ญาณวิทยไุ ปท่คี วามถี่ 88 MHz ป่ มุ ปรับอืน่ ๆ ของเคร่ืองกาเนิดสัญญาณ วิทยคุ งเดมิ ไวไ้ ม่ตอ้ งปรับแต่ง 8. หมุน C วาริเอเบิลปรับเปล่ียนสถานีวิทยุ FM ให้แผ่นโลหะ 2 ชุดซ้อนกนั เกือบหมด หรือดูท่ีหน้าปัด เครื่องรับวทิ ยุ FM หมุนให้เข็มช้ีไปทเ่ี ลข 88 MHz 9. ใช้ไขควงพลาสติกปรับที่หม้อแปลง T1 ไปมา พร้อมสังเกตที่ตาแหน่งมิเตอร์ DCV ท่ีแสดงค่า แรงดนั ไฟฟ้าออกมา ปรับให้ไดค้ า่ แรงดนั ไฟฟ้าสูงสุด 10. หมนุ C วาริเอเบลิ ของเครื่องรับวิทยุ FM ท่ีทาการปรับแต่งทดลองรับสถานีวิทยุต่างๆ ดูจากความถ่ีต่า ไปหาความถี่สูง หรือจากความถ่ีสูงไปหาความถีต่ ่า ถา้ ยงั รับไดไ้ ม่ดีใหท้ าการปรับแต่งใหม่ตามลาดบั ข้นั ตอนที่ 2 ถึง 9 อีก คร้ งั

9.6 บทสรุป ภาคจ่ายไฟ หรือแหล่งจ่ายกาลงั เป็นส่วนสาคญั ต่อการทางานของอุปกรณ์และวงจรไฟฟ้าชนิดต่างๆ โดยทาหนา้ ท่ีจ่ายกาลงั ไฟฟ้าชนิดไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ออกมา อยใู่ นรูปแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง (DCV) และ กระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DCA) จา่ ยไปเล้ยี งระบบการทางานในส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์และวงจรไฟฟ้า ช่วยให้ อปุ กรณ์และวงจรไฟฟ้าเหล่าน้นั สามารถทางานได้ แหลง่ จ่ายกาลงั ท่ีถูกผลติ ออกมาใชง้ านมีมากมายหลายชนิด หลายรูปแบบ และหลายวงจรทางาน การเลือกนามาใช้งานจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับความตอ้ งการ กาลงั ไฟฟ้าของอุปกรณ์และวงจรไฟฟ้าน้นั แหล่งจ่ายกาลังที่ใช้งานกับเคร่ืองรับวิทยุ แบ่งออกได้เป็ น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดใช้แบตเตอร่ี หรือ ถา่ นไฟฉายสามารถนามาตอ่ ใชง้ านไดโ้ ดยตรง และชนิดใชไ้ ฟฟ้ากระแสสลบั (AC) โดยนามาแปลงค่าให้เป็น ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ก่อนนาไปใชง้ าน การปรับแต่งเครื่องรับวิทยุ ถือเป็นส่วนสาคญั ของนาเคร่ืองรับวิทยไุ ปใช้งาน แบ่งการปรับแต่ง ออกเป็น การปรับแต่งเคร่ืองรับวทิ ยุ AM มีส่วนที่ตอ้ งปรับแตง่ อยู่ 2 ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนแรกภาคจูน IF ส่วนที่สอง ภาคคอนเวอร์เตอร์ และการปรับแต่งเคร่ืองรับวิทยุ FM มีส่วนท่ีตอ้ งปรับแต่งอยู่ 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนแรกภาค เรโชดีเทกเตอร์ ส่วนสองภาคจนู IF ส่วนที่สามภาคฟร้อนเอนด์