Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กฎหมายทั่วไปฯ-08

กฎหมายทั่วไปฯ-08

Published by pond_moku, 2022-05-17 08:14:32

Description: กฎหมายทั่วไปฯ-08

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 8 กฎหมายเกี่ยวกบั การ ป้องกนั ผลกระทบต่อ ส่ิงแวดล้อมจากการ ผลิตและการบริการ

1. พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ส่ิงแวดล้อม หมายถึง ส่ิงต่าง ๆ ที่มีลกั ษณะทางกายภาพ และชีวภาพที่อย่รู อบตวั มนุษย์ ซึ่งเกิดขึน้ โดยธรรมชาติและส่ิงท่ีมนุษย์ ได้ทาขนึ้ คุณภาพสิ่งแวดล้อม หมายถึง ดุลยภาพของ ธรรมชาติ ซ่ึงได้แก่ สตั ว์ พืช และทรพั ยากรธรรมชาติต่างๆ และส่ิงที่ มนุษยไ์ ด้ทาขนึ้

สาระสาคญั ของพระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรกั ษาคณุ ภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติพ.ศ. 2535 มีดงั นี้ ก ำ ห น ด สิ ท ธิ ข อ ง กำรรกั ษำมำตรฐำน ประชำชนในกำรร่วมกนั คณุ ภำพสง่ิ แวดลอ้ ม ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ รั ก ษ ำ คุณภำพสงิ่ แวดลอ้ ม กำรควบคมุ มลพษิ ก ำ ห น ด โ ค ร ง ก ำ ร ท่ี ต้ อ ง จั ด ท ำ ร ำ ย ง ำ น วิเครำะห์ผลกระทบ สงิ่ แวดลอ้ ม

คำพพิ ำกษำศำลฎกี ำท่ี 861/2540 เม่อื พจิ ำรณำตำมพระรำชบญั ญตั สิ ่งเสรมิ และ รกั ษำคณุ ภำพสงิ่ แวดลอ้ มแห่งชำติ พ.ศ. 2535 มำตรำ 6 เพอ่ื ประโยชน์ในกำรรว่ มกนั ส่งเสรมิ และรกั ษำคุณภำพ สง่ิ แวดล้อมของชำติ บุคคลอำจมีสิทธแิ ละหน้ำท่ีดงั ต่อไปน้ี (1) กำรได้รบั ทรำบขอ้ มูลและข่ำวสำรจำกทำง รำชกำรในเร่อื งเกย่ี วกบั กำรส่งเสรมิ และรกั ษำคุณภำพสง่ิ แวดล้อมเว้นแต่ “ประกอบเหตุผลในกำรประกำศใช้ พระรำชบญั ญัติฉบบั น้ีคอื ‘(1) ส่งเสรมิ ประชำชนและองค์กำรเอกชนให้มีส่วนร่วมในกำรส่งเสริมและรกั ษำ คุณภำพสงิ่ แวดล้อม’ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั รฐั ธรรมนูญแห่งรำชอำณำจกั รไทย พุทธศกั รำช 2534 มำตรำ 48 ทวิ ‘บุคคลย่อมมสี ทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ทรำบขอ้ มูลหรอื ขำ่ วสำรจำกหน่วยรำชกำร หรอื หน่วยงำนของรฐั หรือรฐั วสิ ำหกจิ เพอ่ื กำรตรวจสอบกำรปฏบิ ตั หิ น้ำทข่ี องขำ้ รำชกำรหรอื พนกั งำนของรฐั ในเมอ่ื กำรนนั้ มหี รอื อำจจะมผี ลกระทบต่อ กำรดำรงชวี ติ ของตน ทงั้ น้ีตำมทก่ี ฎหมำยบญั ญตั ิ’ คดนี ้ีปรำกฏว่ำเมอ่ื โจทกท์ งั้ เจด็ ได้ขอทรำบขอ้ มลู และขำ่ วสำร ตำมคำขอทำ้ ยฟ้องขอ้ 4 จำกจำเลยท่ี 3 แต่จำเลยท่ี 3 ไมใ่ หค้ วำมรว่ มมอื และไมแ่ จง้ เหตขุ ดั ขอ้ งว่ำเป็นขอ้ มลู หรอื ขำ่ วสำรทถ่ี อื วำ่ เป็นควำมลบั เกย่ี วขอ้ งกบั กำรรกั ษำควำมมนั่ คงแห่งชำตหิ รอื เขำ้ ขอ้ ยกเวน้ ข้ออ่นื ทไ่ี ม่ตอ้ งเปิดเผย แต่อย่ำงใดจึงเป็นกำรกระทบสทิ ธิโจทก์ทงั้ เจ็ดแล้ว โจทก์ทงั้ เจ็ดจึงมอี ำนำจฟ้องจำเลยท่ี 3 ท่ีศำลอุทธรณ์ พพิ ำกษำมำนนั้ ศำลฎกี ำเหน็ พอ้ งดว้ ยเป็นบำงสว่ น”

2. พระราชบญั ญตั ิการสาธารณสขุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไข เพิ่มเต1ิม 2 กาหนดให้มีการจดั การส่ิง ค ว บ คุ ม อ า ค า ร ห รื อ ส่ ว น ข อ ง ปฏิกลู มูลฝอยและมูลฝอย อาคาร ท่ีมีสภาพชารดุ ทรดุ โทรม จนอาจเป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ ในพืน้ ท่ี 3 ค ว บ คุม มิ ใ ห้ มี ก า ร ก่ อ เ ห ตุ ราคาญที่ อาจก่ อให้ เกิ ด ค ว า ม เ ดื อ ด ร้ อ น แ ก่ ผู้ อ ยู่ อาศยั ในบริเวณใกล้เคียง

3. พระราชบญั ญตั ิผงั เมือง พ.ศ. 4. 5. 2562 1. 2. 3. การรบั ฟังความคิดเหน็ กาหนดผงั เมอื งรวม สรา้ งความสอดคล้อง เพิ่มแผนผงั แสดงพืน้ ที่สีเขียว ต้องจัดให้มีกำรรับฟั ง กำหนดผงั เมืองรวม ผัง สรำ้ งควำมสอดคลอ้ ง เพิ่มแผนผังแสดงแหล่ง ในผงั เมืองเฉพำะให้มีแผนผัง ควำมคิดเห็น และกำรมี เมืองเฉพำะ ให้มีกำร กนั ของผงั เมอื ง ทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละ แสดงพ้ืนท่ีสีเขียวและพ้ืนท่ี สว่ นรว่ มของประชำชน ทบทวนทุก 5 ปีหรือใน ส่ิง แ ว ด ล้อ ม แ ผ น ผัง อ นุ ร ัก ษ์ มีข้อ ก ำ ห น ด เ ก่ี ย ว กับ กรณที ม่ี คี วำมจำเป็น แสดงผงั น้ำ และแผนผงั อำคำรทจ่ี ะใหป้ ฏบิ ตั หิ รือไม่ให้ อ่นื ๆ ทจ่ี ำเป็น ปฏบิ ตั ิ

4. พระราชบญั ญตั ิวตั ถอุ นั ตราย พ.ศ. 2535 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และท่ีแก้ไข เพ่ิมเติม เป็ นกฎหมายท่ีควบคมุ วตั ถทุ ่ีก่อให้เกิดอนั ตราย เช่น วตั ถรุ ะเบิดได้ วตั ถไุ วไฟ วตั ถมุ ีพิษ วตั ถทุ ี่ทาให้เกิดโรค วตั ถทุ ี่ มีกมั มนั ตรงั สี วตั ถกุ ดั กร่อนวตั ถทุ ี่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทางพนั ธุกรรม วตั ถทุ ่ีก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งวตั ถอุ นั ตรายบางชนิ ดอาจก่อให้เกิดอนั ตรายอย่าง รา้ ยแรงต่อมนุษย์ และส่ิงแวดล้อม



5. กฎหมายที่เกี่ยวกบั ทรพั ยากรธรรมชาติและการ ค้มุ ครอง ความหลากหลายทางชีวภาพ ประเทศไทยมกี ฎหมำยควบคุมกำรใช้ พระรำชบญั ญตั แิ ร่ พ.ศ. 2510 เป็นบทบญั ญตั เิ กย่ี วกบั กำรอนุญำต ทรพั ยำกรธรรมชำตหิ ลำยฉบบั เพ่อื รกั ษำ หรอื กำรใหส้ ทิ ธเิ ก่ยี วกบั แร่ต่ำง ๆเช่น กำรสำรวจแร่ กำรทำเหมอื ง กำร ให้เกิดควำมอุดมสมบูรณ์ไว้ให้เกิดควำม ร่อนแร่ กำรขุดแร่รำยย่อย กำรเก็บรกั ษำแร่ กำรประกอบธุรกิจแร่กำร ยงั่ ยนื เชน่ ครอบครองแร่ กำรแต่งแร่ กำรประกอบโลหกรรม กำรนำเขำ้ และส่งออก แร่ ตลอดจนวำงแนวทำงด้ำนผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อมท่ีเกิดจำกกำร ประกอบกจิ กำรและควำมปลอดภยั ของคนงำน

พระรำชบญั ญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และท่แี ก้ไขเพมิ่ เตมิ แม้จะเป็นบทบญั ญัตเิ พ่อื จูงใจให้เกดิ กำรสำรวจหรอื ผลติ ปิโตรเลยี มเพมิ่ เตมิ จำกแหล่งปิโตรเลยี มเพอ่ื กำรนำทรพั ยำกรปิโตรเลยี มมำใชป้ ระโยชน์แต่ยงั มบี ทบญั ญตั ิเกย่ี วกบั กำรจดั กำร ดำ้ นสง่ิ แวดลอ้ ม โดยกำหนดใหผ้ รู้ บั สมั ปทำนมหี น้ำทร่ี บั ผดิ ชอบในกำรรอ้ื ถอนสงิ่ ปลูกสรำ้ ง วสั ดุ อุปกรณ์ และสงิ่ อำนวยควำม สะดวกในกำรสำรวจผลติ เกบ็ รกั ษำหรอื ขนสง่ ปิโตรเลยี ม เพอ่ื รกั ษำสภำพแวดลอ้ มจำกกำรผลติ

พระรำชบัญญัติน้ำบำดำล พ.ศ. 2520 และท่ี แก้ไขเพมิ่ เตมิ เพ่อื ควบคุมกำรเจำะน้ำบำดำล และ ใชน้ ้ำบำดำลใหเ้ ป็นไปตำมหลกั วชิ ำกำร ป้องกันกำร ขำดแคลนและควำมเสยี หำยต่อทรพั ยำกรธรรมชำติ สง่ิ แวดลอ้ ม และสขุ ภำพของประชำชน

พระรำชบัญญัติกำรประมง พ.ศ. 2490 และ ฉบับแก้ไขเพ่ิมเติม เพ่ือควบคุมกำรประมงจำก ควำมรู้เท่ำไม่ถึงกำรณ์ท่ีใช้วตั ถุมีพิษเพ่ือทำกำร ประมงอนั อำจเป็นอนั ตรำยแก่ผูบ้ รโิ ภคและสัตว์น้ำ ประกอบกบั กำรอนุรกั ษ์สตั ว์น้ำบำงชนิดท่ีมคี ุณค่ำ ในทำงเศรษฐกจิ ไม่ใหถ้ ูกจบั จนเกนิ ปรมิ ำณท่สี มควร จนไม่มีเหลือสำหรับแพร่พันธุ์ หรือนำม ำใช้ ประโยชน์ไดอ้ กี ต่อไป

พ.ร.บ. ป่ำไม้ พ.ศ. 2485 ซ่งึ ควบคุมกำรทำไม้ และกำรเกบ็ ของป่ำ กำรขนยำ้ ยไม้ และกำรแปรรปู ไม้ พ.ร.บ. ป่ำสงวนแห่งชำติ พ.ศ. 2507 เพ่อื รกั ษำ สภำพป่ ำไม้ ของป่ ำ หรอื ทรพั ยำกรธรรมชำติอ่นื ๆและ หำ้ มมใิ หบ้ ุคคลยดึ ถอื ครอบครอง ทำประโยชน์หรอื อยู่ อำศยั ในเขตป่ำสงวน

พ.ร.บ. อุทยำนแห่งชำติ พ.ศ. 2504 เพ่อื รกั ษำสภำพของพ้นื ทอ่ี ุทยำนใหอ้ ุดม สมบูรณ์สงวนไวใ้ ห้คงอยู่ในสภำพธรรมชำตเิ พ่อื กำรศกึ ษำและร่นื รมย์ของประชำชน ใหเ้ ป็นเขตอุทยำนแห่งชำติ ภำยในเขตอุทยำนแห่งชำติ หำ้ มกระทำกำรต่ำง ๆ อำทิ กำรยดึ ถอื ครอบครองทด่ี นิ กำรเกบ็ ของป่ำชนิดต่ำง ๆและกำรนำสตั วอ์ อกไป

พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสตั ว์ป่ ำ พ.ศ. 2535 เพ่อื เพมิ่ ควำมเขม้ งวดในกำรคุ้มครองสัตว์ ป่ำสงวนและสตั วป์ ่ำคุม้ ครอง และเพอ่ื ควบคุมกำร นำเข้ำและส่งออกสัตว์ป่ ำเพ่ือกำรค้ำ ตำม พนั ธกรณีทไ่ี ทยมภี ำยใต้อนุสญั ญำว่ำด้วยกำรคำ้ ระหวำ่ งประเทศซง่ึ ชนดิ สตั วป์ ่ำและพชื ป่ำทใ่ี กลส้ ญู พนั ธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora : CITES) ทค่ี วบคุมกำรคำ้ พชื และสตั วป์ ่ำท่ใี กลจ้ ะ สญู พนั ธุ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook