หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 กฎหมายทรพั ยส์ ิน ทางปัญญา
1. ความหมายและลกั ษณะของทรพั ยส์ ินทางปัญญา ทรพั ยส์ ินทางปัญญา (Intellectual property) หมายถึง ผลงานอันเกิ ดจากการประดิ ษฐ์คิ ดค้นหรือ สร้างสรรค์ของมนุษย์ซ่ึงเน้ นท่ี ผลผลิ ตของสติ ปั ญญาและ ความชานาญ โดยไม่คานึงถึงชนิ ดของการสร้างสรรค์หรือ วิธีในการแสดงออก
ทรพั ย์สินทางปัญญาสามารถแบง่ ออกได้ 2 ลกั ษณะหลกั คือ ลิขสิทธ์ิ หมายถึง งานหรอื ความคิดสรา้ งสรรคใ์ นสาขา วรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีงานภาพยนตร์ หรืองานด้าน อื่นใดในแผนกวิทยาศาสตร์ รวมทงั้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ งานฐานขอ้ มลู ทรพั ย์สินทางอุตสาหกรรม เป็น ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษยท์ ่ีเกี่ยวกบั สินค้าอุตสาหกรรม แบ่งออกได้เป็ น สิทธิบตั ร เครื่องหมายการค้า การออกแบบ อตุ สาหกรรมความลบั ทางการค้า และสิ่งบง่ ชี้ทางภมู ิศาสตร์
2. ลิขสิทธ์ิลิขสิทธ์ิ (Copyright) หมายถึง สิทธ์ิแต่เพียงผู้เดียวในการทาซ้า ดดั แปลง เผยแพร่ อนุญาตให้ผู้อ่ืนใช้สิทธ์ิในงานที่ตนสร้างสรรค์ขึ้น ผสู้ ร้างสรรคไ์ ด้รบั ความค้มุ ครองงานสรา้ งสรรคโ์ ดยตนเอง หรือลิขสิทธ์ิโดยทนั ที นับตงั้ แต่ผสู้ รา้ งสรรคไ์ ด้สร้างผลงาน ขึน้ โดยไม่ต้องจดทะเบยี น
วรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม งานดนตรี
โสตทศั นวสั ดุ ภาพยนตร์ สิ่งบนั ทึกเสียง นักแสดง
คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 2189/2548 การวาดภาพนกของโจทกท์ ่ี 1 ให้แก่ บ. ตงั้ แต่แรกในปี 2515 จนถึงวนั ที่ 18 ธนั วาคม 2521 เป็ นช่วงเวลาท่ี พ.ร.บ. ค้มุ ครอง วรรณกรรมและศิลปกรรมฯ มีผลใช้บงั คับอยู่ การท่ีโจทก์ท่ี 1 กล่าวอ้างในคาฟ้ องว่า ข้อตกลงวาดภาพนกดงั กล่าวเป็นการจ้างแรงงานโดยไม่มีข้อสญั ญาให้ลิขสิทธ์ิตกแก่โจทกท์ ี่ 1 นัน้ ย่อมมีผลให้ลิขสิทธ์ิในงานศิลปกรรมภาพวาดนัน้ ตกเป็นลิขสิทธ์ิของผ้จู ้างตามมาตรา 12 (ข) แห่ง พ.ร.บ. ดงั กล่าวมิใช่ลิขสิทธ์ิตกเป็นของโจทกท์ ่ี 1 แต่อย่างใด
3. สิทธิบตั รและอนุสิทธิบตั ร สิทธิบัตร (Patent) หมายถึง หนังสือสาคญั ที่รฐั ออกให้เพ่ือ ค้มุ ครองการประดิษฐ์ การออกแบบ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ห รื อ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อรรถประโยชน์ ที่มีลักษณะตามที่ กฎหมายกาหนด
สิทธิ บตั รจะคุ้มครองงาน 1. การประดิษฐ์ (Invention) ใน 2 ลกั ษณะ คือ หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกบั ลกั ษณะ อ ง ค์ป ร ะ ก อ บ โ ค ร ง ส ร้ า ง ห รื อ ก ล ไ ก ข อ ง ผลิตภณั ฑ์ รวมทงั้ กรรมวิธีในการผลิต การเกบ็ รกั ษา หรือการปรบั ปรงุ คุณภาพของผลิตภณั ฑ์ ให้ดีขึ้นหรือทาให้เกิดผลิตภณั ฑ์ใหมท่ ่ีแตกต่าง ไปจากเดิม
2. การออกแบบผลิตภณั ฑ์ (Product design) หมายถึง ความคิ ดสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปร่าง ลกั ษณะภายนอกของผลิตภณั ฑ์ องค์ประกอบของ ลวดลาย หรือสีของผลิตภณั ฑ์ ซ่ึงสามารถใช้เป็ น แบบสาหรับการผลิ ตเชิ งอุตสาหกรรม รวมทัง้ หตั ถกรรมได้
4. เครอื่ งหมายการค้า 1. เคร่ืองหมายการค้า (Trade Mark) เครอ่ื งหมายทใ่ี ชเ้ ป็นทห่ี มายเกย่ี วขอ้ งกบั สนิ คา้ เพ่อื แสดงวา่ สนิ คา้ ท่ี เคร่ืองหมายการค้า ใช้เคร่อื งหมายนัน้ แตกต่างกบั สนิ คา้ ท่ใี ช้เคร่อื งหมายการคา้ ของ บคุ คลอน่ื หมายถึง เคร่ืองหมาย สญั ลกั ษณ์ หรือตรา ที่ใช้กบั สินค้าหรือบริการ รู้จกั กนั ดีในช่ือ 2. เคร่ืองหมายบริการ (Service Mark) ย่ีห้อ โลโก้ แบรนด์ ซ่ึงเคร่ืองหมายการค้า เครอ่ื งหมายทใ่ี ชเ้ ป็นทห่ี มายหรอื เกย่ี วขอ้ งกบั การบริการ เพอ่ื แสดง แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ว่าบรกิ ารท่ใี ชเ้ คร่อื งหมายนัน้ แตกต่างกบั บรกิ ารทใ่ี ชเ้ คร่อื งหมาย บรกิ ารของบุคคล 3. เครอ่ื งหมายรบั รอง (Certification Mark) เครอ่ื งหมายทเ่ี จา้ ของเครอ่ื งหมายรบั รองใชเ้ ป็นทห่ี มายหรอื เกย่ี วขอ้ งกบั สนิ คา้ และบรกิ ารของบุคคลอน่ื 4. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) เคร่ืองหมายการค้าหรือเคร่ืองหมายบริการท่ีใช้โดยบริษัทหรือ รฐั วสิ าหกจิ ในกลุม่ เดยี วกนั
คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2538 แม้ท่ีกล่องบรรจสุ ินค้าผงหมึก และฉลากปิ ดข้างขวดบรรจุสินค้าผงเหลก็ ที่จาเลยท่ี 1 นาเข้ามาจาหน่ายจะมีคาว่า MITA ซ่ึงเป็ นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ท่ี 1 ท่ีได้จดทะเบียนไว้ในประเทศไทยสาหรบั สินค้า เครอื่ งถ่ายเอกสาร สิทธิในเคร่ืองหมายการค้าจดทะเบยี นของโจทกท์ ่ี 1 เป็นสิทธิแต่ผเู้ ดียว เพ่ือใช้เครื่องหมายการค้านัน้ สาหรบั สินค้าจาพวกที่ได้จดทะเบียนไว้เพื่อระบุว่าสินค้านัน้ เป็นของโจทกท์ ี่ 1 และแยกแยะให้เหน็ ว่าสินค้าของโจทกท์ ่ี 1 แตกต่างจากสินค้าของผ้ผู ลิต อ่ืนเท่านัน้ หาได้รวมไปถึงสิทธิแต่ผ้เู ดียวท่ีจะผลิตสินค้า ขายหรือมีไว้เพื่อขายซ่ึงสินค้าที่ ผลิตขึ้นนัน้ อนั เป็ นสิทธิของผ้ทู รงสิทธิบตั รการประดิษฐ์ไม่ จากข้อความที่ระบุข้างกล่อง และขวดบรรจสุ ินค้าที่จาเลยที่ 1 จาหน่ายอย่างชดั เจน
5. ส่ิงบง่ ชี้ทางภมู ิศาสตร์ สิ่งบง่ ชี้ทางภมู ิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) เป็ นทรัพย์สิ นทางปัญญาประเภทหนึ่ งซ่ึงจะ เกิ ดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความเช่ือมโยง (Links) ระหว่างปัจจยั ทางธรรมชาติกบั ทรพั ยากรมนุษย์ กล่าวคือชุมชนหรือบุคคลในท้องถิ่นนั้น ๆ ได้ อาศยั ลกั ษณะเฉพาะที่มีอยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์ ตามธรรมชาติ
ส่ิงบง่ ชี้ทางภมู ิศาสตร์ อาจแบง่ ได้เป็น 2 ลกั ษณะ คือ ส่ิงบง่ ชี้ทางภมู ิศาสตรโ์ ดยตรง (Direct Geographical Indication) เป็นช่ือทางภมู ิศาสตรท์ ี่เก่ียวข้องกบั สินค้านัน้ ๆ โดยตรง เช่น ไชยา นครชยั ศรี สิ่งบง่ ชี้ทางภมู ิศาสตรโ์ ดยอ้อม (Indirect Geographical Indication) หรือสิ่ งอ่ืนใดที่ไม่ใช่ชื่อทางภูมิ ศาสตร์ ซ่ึงใช้เพื่อบ่งบอกแหล่งภูมิ ศาสตร์อันเป็ น แหล่งกาเนิดหรอื แหล่งผลิตของสินค้า เช่นรปู องคพ์ ระปฐมเจดีย์ รปู อนุสาวรียย์ ่าโม
6. แผนผงั ภมู ิของวงจรรวม แบบผงั ภมู ิ คือ แบบ แผนผงั หรือภาพที่ทาขึ้นไม่ว่า จะปรากฏในรปู แบบใดหรือวิธีใดเพ่ือให้เหน็ ถึงการจดั วางให้ เป็ นวงจรรวม จากคานิ ยามดงั กล่าวจะเห็นได้ว่า แบบของ วงจรไฟฟ้าที่ได้ออกแบบขึน้ มาหรือที่เรียกว่า Layout Design และตวั ชุดหน้ากากหรือแผ่นบงั (Mark Work) ซึ่งเป็ นตวั ต้นแบบท่ีใช้ในการสร้างให้เกิดแบบผงั ภมู ิกจ็ ดั ว่าอยู่ในข่ายท่ี จะได้รบั ความค้มุ ครองตามกฎหมายนี้ด้วยเช่นกนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: