Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาศาสตร์ 5 ว23101

วิทยาศาสตร์ 5 ว23101

Published by kajankew135, 2021-07-26 01:52:40

Description: วิทยาศาสตร์ 5 ว23101 ครูสายพิณ

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน เรื่อง ลกั ษณะทางพันธกุ รรม รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 5 รหสั ว23101 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 ครูผ้สู อน นางสาวสายพณิ ไข่คาํ ตาํ แหน่ง ครชู าํ นาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นขุนยวมวทิ ยา สาํ นกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาแมอ่ อ่ งสอน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชดุ กจิ กรรมสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 ขน้ั 9 ชดุ ท่ี 1 ลักษณะทางพันธกุ รรม บตั รแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่ือง ลักษณะทางพันธกุ รรม คาชแ้ี จง  ให้นกั เรียนเลอื กคาตอบที่ถูกต้องทีส่ ดุ เพียงข้อเดียว แลว้ ทาเคร่ืองหมายกากบาท () ลงในกระดาษคาตอบ ❖ แบบทดสอบมี 10 ข้อ เวลา 10 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. พนั ธกุ รรม (Heredity) หมายถงึ อะไร ก. การสบื ทอดทายาทของส่งิ มชี วี ติ ข. การกระจายเผ่าพันธุข์ องส่ิงมชี วี ิตโดยคงลกั ษณะเดิมไว้ ค. การถ่ายทอดลกั ษณะของส่ิงมีชวี ิตจากพ่อแม่ไปสลู่ ูกหลาน ง. การคัดเลือกพนั ธ์ุของสง่ิ มีชีวติ โดยอาศยั ธรรมชาตหิ รือมนุษย์ 2. ข้อใดถือเปน็ การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม ก. เอมลี กั ย้มิ เหมือนพ่อ ข. บมี ีผมยาวเหมือนแม่ ค. ซีมแี ผลเปน็ เหมอื นพ่สี าว ง. ดีชอบอาหารรสเคม็ เหมือนป้า 3. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะทางพันธุกรรม ก. ตาบอด ข. ความอว้ น ค. ลกั ษณะสผี ิว ง. การร้องเพลง 4. ลกั ษณะในข้อใดไม่ใช่ลักษณะทางพนั ธุกรรม ก. มีลกั ย้ิม ข. ผมหยกั ศก ค. รอยแผลเปน็ ง. การหอ่ ล้ินได้ 5. ข้อความใดไม่ถูกตอ้ ง เกย่ี วกบั ความแปรผนั ทางพันธุกรรม ก. เกิดข้นึ ไดท้ งั้ จากการรวมกันของยีนและมวิ เทชัน ข. มปี ระโยชนต์ อ่ สงิ่ มชี ีวติ ทั้งแบบอาศยั เพศและแบบไมอ่ าศยั เพศ ค. เกิดจากการสบื พันธ์ุแบบอาศยั เพศได้มากกว่าการสบื พันธุแ์ บบไม่อาศยั เพศ ง. เกดิ ข้นึ เพ่ือให้ได้ลักษณะท่ีเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมท่ีส่ิงมีชีวติ จะตอ้ งเผชญิ ในอนาคต

ชดุ กจิ กรรมสบื เสาะหาความรูแ้ บบ 5 ขั้น 10 ชุดที่ 1 ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม บัตรแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง ลักษณะทางพันธกุ รรม (ต่อ) 6. กาหนดให้ A คือ ตาบอดสี B คือ ตาเปน็ ต้อ C คอื สขี องตา D คอื ช้นั ของหนงั ตา ข้อใดเป็นลกั ษณะทถี่ า่ ยทอดทางพนั ธุกรรม ก. A และ B ข. A และ C ค. A, C และ D ง. A, B, C และ D 7. ลักษณะขอ้ ใดต่อไปนีเ้ ปน็ ความแปรผนั แบบไมต่ ่อเนื่อง ก. หมเู่ ลือด ระดับสตปิ ัญญา ข. สีผวิ ของคน ลกั ษณะเส้นผม ค. การมีลักย้ิม การมหี นังตาชั้นเดียว ง. ความสงู ของคน ความสามารถในการห่อลน้ิ 8. ลักษณะในข้อใดเปน็ ความแปรผันแบบต่อเน่ือง ก. สว่ นสงู น้าหนัก ข. มีลกั ยิ้ม ไม่มีลักยม้ิ ค. ถนดั ซ้าย ถนดั ขวา ง. หอ่ ล้นิ ได้ ห่อล้นิ ไม่ได้ 9. ลักษณะใดในมนุษย์ที่สงิ่ แวดล้อมมีอทิ ธิพลมากกวา่ ลักษณะทางพนั ธกุ รรม ก. หมู่เลือด ข. ตาบอดสี ค. ความดันเลอื ด ง. แนวผมทห่ี น้าผาก 10. ลกั ษณะทางพันธกุ รรมในข้อใดต่อไปนี้ จะไม่เปล่ียนแปลง ไมว่ า่ สง่ิ แวดลอ้ มจะเปน็ อย่างไร ก. ความสงู ข. สติปญั ญา ค. สผี วิ ของคน ง. ลายนิว้ มอื

ชุดกิจกรรมสบื เสาะหาความร้แู บบ 5 ขน้ั 11 ชุดท่ี 1 ลักษณะทางพนั ธุกรรม กระดาษคาตอบ เร่ือง ลักษณะทางพันธกุ รรม รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์พนื้ ฐาน รหสั วิชา ว 23101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ชือ่ – สกลุ ................................................................................................................ คะแนนที่ได้ คะแนนเต็ม ชั้น ............................................... เลขท่ี .................................... 10 ขอ้ ตวั เลือก ง ก ขค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

ชดุ กิจกรรมสบื เสาะหาความรแู้ บบ 5 ขน้ั 12 ชดุ ท่ี 1 ลักษณะทางพนั ธุกรรม บตั รเนอ้ื หาท่ี 1.1 เร่อื ง ลักษณะทางพันธกุ รรม พันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์ (Heredity) หมายถงึ การถ่ายทอดลักษณะของส่งิ มีชีวติ ท่ีถ่ายทอดจากรุ่นหนง่ึ ไปสรู่ นุ่ หนง่ึ หรือเป็น ลักษณะตา่ ง ๆ ของสิ่งมีชีวติ ทถ่ี า่ ยทอดจาก ปู่ ยา่ ตา ยาย พ่อ แม่ ไปยังลูกหลาน เช่น การมลี ักย้ิม ผมหยักศก มหี นังตาชนั้ เดียวหรือสองช้นั เปน็ ต้น โดยลักษณะท่สี ามารถถ่ายทอดจากร่นุ หนึ่งไปยังรนุ่ ต่อ ๆ ไปได้ เรียกวา่ ลกั ษณะทางพันธุกรรม (genetic trait) ภาพที่ 1 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม ที่มา : https://sites.google.com/site/wede012013/neux- bth-reiyn/bth-thi-1-reiyn-ru-ngan-ban พันธุกรรมเปน็ ส่งิ ท่ีทาให้คนเรามลี ักษณะต่าง ๆ ท่ี ภาพที่ 2 ยนี (Gene) แตกตา่ งกนั ไปมากมาย โดยมีหน่วยควบคมุ ทค่ี อยควบคุม ทม่ี า : https://fragilex.org/learn/ prevalencegenetics-and-inheritance/ ลักษณะตา่ ง ๆ เหล่าน้ี ท่เี รยี กว่า ยนี (Gene) โดยยนี น้ีจะ มีอย่เู ปน็ จานวนมากภายในเซลล์แทบทกุ เซลล์ ซ่งึ ยีนแตล่ ะ ยนี ก็จะมีหนา้ ทค่ี อยควบคุมลักษณะทางพันธกุ รรม ลักษณะหนง่ึ ๆไป โดยจะมีทั้งยนี ทคี่ วบคุมลกั ษณะเดน่ และ ยนี ท่คี วบคุมลกั ษณะด้อย แต่ส่วนหนึ่งทที่ าใหล้ ักษณะเรา แตกตา่ งออกไปนอกเหนือพนั ธกุ รรมคอื สิ่งแวดล้อม หรือ สภาพแวดลอ้ ม เชน่ ความอ้วน อาจเกิดจาก สภาพแวดล้อมมากกวา่ พันธุกรรม

ชดุ กจิ กรรมสบื เสาะหาความรแู้ บบ 5 ข้นั 13 ชุดที่ 1 ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ลักษณะทางพนั ธุกรรม ลกั ษณะตา่ ง ๆ ของส่ิงมีชีวิต จะถกู ถา่ ยทอดจากบรรพบรุ ุษไปสรู่ นุ่ ลกู หลาน โดยหนว่ ยพนั ธุกรรมในเซลล์ ทเ่ี รียกว่า ยนี ลักษณะทางพนั ธกุ รรม ไดแ้ ก่ สีนยั นต์ า ชั้นของหนังตา ลักย้ิม สผี ม ลักษณะเสน้ ผม แนวผมที่ หน้าผาก การมีติ่งหู สีผิว การห่อล้นิ สติปัญญา น้าหนัก ความถนัดมือ ฯลฯ นอกจากนบ้ี างลักษณะของสงิ่ มีชวี ิตเปน็ ลักษณะท่ีไมส่ ามารถถ่ายทอดไปยังรนุ่ ต่อไปได้ แต่เป็นลักษณะท่ีเป็น ผลจากพฤตกิ รรมและสิ่งแวดล้อม เช่น รอยแผลเปน็ การศัลยกรรมใบหน้า ภาพท่ี 3 มีลักยิ้ม ภาพท่ี 4 ไม่มีลกั ยิ้ม ภาพที่ 5 ผมตรง ภาพที่ 6 ผมหยักศก ภาพท่ี 7 นยั นต์ าสีเขียว ภาพที่ 8 นัยนต์ าสีฟา้ ภาพที่ 9 มีติ่งหู ภาพที่ 10 ไม่มตี ิ่งหู ภาพท่ี 11 ห่อล้นิ ไม่ได้ ภาพที่ 12 ห่อลิ้นได้

ชุดกจิ กรรมสืบเสาะหาความรแู้ บบ 5 ขั้น 14 ชุดที่ 1 ลกั ษณะทางพันธกุ รรม บตั รเน้ือหาท่ี 1.2 เรือ่ ง ความแปรผันทางพนั ธกุ รรม ความแปรผันทางพันธกุ รรม (Genetic variation) หมายถึง ความแตกตา่ งของลักษณะท่ีพบในกลุม่ สิ่งมชี วี ิตชนิดเดียวกนั เน่ืองจากมีลักษณะพนั ธุกรรม แตกตา่ งกัน ซ่ึงสามารถจาแนกได้เป็น 2 ประเภท ดงั น้ี  ลกั ษณะที่มคี วามแปรผันไม่ต่อเนอ่ื ง (Discontinuous variation) เปน็ ลกั ษณะพันธกุ รรมทส่ี ามารถแยกความแตกตา่ งกันได้อย่างเดน่ ชดั เกดิ จากอทิ ธิพลทางพันธุกรรม เพียงอยา่ งเดียว มักถูกควบคุมด้วยยีนน้อยคู่ เช่น ลักษณะลักยิ้ม (มีลกั ยมิ้ หรือไมม่ ลี กั ยิ้ม) ต่ิงหู (มีต่งิ หหู รือไม่มี ต่ิงหู) หอ่ ล้นิ (ห่อลน้ิ ได้หรือห่อลนิ้ ไม่ได้) เป็นต้น ภาพท่ี 13 หนังตาชนั้ เดียว ภาพที่ 14 หนงั ตาสองช้นั ภาพท่ี 15 ห่อล้ินไม่ได้ ภาพท่ี 16 หอ่ ล้ินได้

ชดุ กจิ กรรมสบื เสาะหาความรู้แบบ 5 ข้นั 15 ชุดท่ี 1 ลักษณะทางพันธกุ รรม ❖ ลกั ษณะทมี่ คี วามแปรผันต่อเนื่อง (Continuous variation) เปน็ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีไม่สามารถแยกความแตกตา่ งได้อย่างเด่นชัด ได้รบั อิทธพิ ลจากพนั ธุกรรม และสิ่งแวดล้อม มักถูกควบคุมดว้ ยยีนหลายคู่ (Polygenes or Multiple genes) เช่น ความสูง น้าหนัก โครงร่าง สผี ิว เป็นตน้ ความสงู ของคน ถ้าเราได้รับอาหารท่ีถูกหลกั โภชนาการ มีการออกกาลงั กายอย่างถูกหลักวิธีและ เหมาะสม จะทาให้เรามีรา่ งกายทสี่ งู ขึ้นได้แม้รนุ่ บรรพบุรุษจะไมส่ ูงก็ตาม ภาพท่ี 17 ลกั ษณะความแปรผนั ทางพนั ธุกรรมแบบต่อเนื่องของสีผวิ ในมนุษย์ ที่มา : http://intranet.americanlaser-medspa.com/skin-type-calculator/ ภาพที่ 18 ลกั ษณะความแปรผนั ทางพันธุกรรม แบบตอ่ เนื่องของสนุ ขั ท่ีมา : https://www.quizcow.com /pups-relationship-status/

ชุดกิจกรรมสบื เสาะหาความรแู้ บบ 5 ข้ัน 16 ชดุ ท่ี 1 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม บัตรกิจกรรมท่ี 1.1 เร่ือง การสารวจลักษณะความแปรผนั ทางพนั ธุกรรม จุดประสงคข์ องกจิ กรรม 1. เพอื่ ศึกษาลักษณะความแปรผันทางพันธุกรรม วัสดุอุปกรณ์ 1. ตลบั เมตร 2. ดนิ สอ หรอื ปากกา 3. บตั รบนั ทึกกิจกรรมท่ี 1.1 เรอ่ื ง การสารวจลักษณะความแปรผันทางพันธกุ รรม ข้ันปฏบิ ตั ิการทากิจกรรม กิจกรรมตอนท่ี  ลกั ษณะทแี่ ปรผนั ตอ่ เนอ่ื ง วธิ ีการดาเนินการ 1. ใหน้ ักเรยี นสารวจความสูงของเพอื่ นในหอ้ งเรียนอยา่ งน้อย 20 คน 2. นาผลการสารวจมาจัดกลมุ่ ความสูง โดยให้แตล่ ะกลมุ่ มชี ่วงห่างกนั 5 เซนติเมตร 3. นับจานวนเพอื่ นที่มีความสูงในกลุ่มเดียวกนั บันทึกผลลงในตารางบันทึกผล 4. วิเคราะหผ์ ลการสารวจโดยการนาผลการบนั ทึกสรา้ งเปน็ กราฟแท่ง 5. สรปุ ผลการทดลองลงใน บัตรบันทกึ กจิ กรรมท่ี 1.1 เรื่อง การสารวจลักษณะความแปรผนั ทาง พนั ธกุ รรม กิจกรรมตอนท่ี ❖ ลกั ษณะท่แี ปรผันไม่ต่อเนือ่ ง วิธกี ารดาเนินการ 1. ใหน้ กั เรยี นกาหนดลักษณะทางพนั ธุกรรมมา 5 ลกั ษณะ 2. ใหน้ กั เรยี นสารวจลักษณะของเพื่อน ในหอ้ งเรยี นอยา่ งน้อย 20 คน ท่มี ลี ักษณะทางพันธุกรรมท่ี แตกต่างกัน 3. นบั จานวนเพื่อนท่ีไดจ้ ากการสารวจ บันทึกผลลงในตารางบันทึกผล 4. วเิ คราะห์ผลการสารวจโดยการนาผลการบันทึกสร้างเปน็ กราฟแท่ง 5. สรปุ ผลการทดลองลงใน บัตรบันทึกกจิ กรรมท่ี 1.1 เรื่อง การสารวจลกั ษณะความแปรผันทาง พนั ธุกรรม

ชดุ กิจกรรมสืบเสาะหาความรแู้ บบ 5 ขนั้ 17 ชุดท่ี 1 ลักษณะทางพันธกุ รรม บตั รบันทกึ กจิ กรรมที่ 1.1 เรื่อง การสารวจลักษณะความแปรผนั ทางพันธกุ รรม ช่ือผู้ทดลอง.........................................................................ชนั้ ...........................เลขที.่ ................. สมาชกิ ภายในกลุ่ม 1. ช่ือ..................................................................................ชนั้ ....................เลขที่...................... 2. ช่ือ..................................................................................ชน้ั ....................เลขท่ี...................... 3. ชื่อ..................................................................................ชน้ั ....................เลขที่...................... 4. ชอ่ื ..................................................................................ชน้ั ....................เลขท่ี...................... 5. ช่ือ..................................................................................ชน้ั ....................เลขท.่ี ..................... กจิ กรรมตอนท่ี  ลกั ษณะที่แปรผันตอ่ เนอื่ ง ตารางบันทึกผล ช่วงความสูง (เซนตเิ มตร) จานวน(คน) 136-140 141-150 151-155 156-160 161-165 166-170 171-175 176-180 มากกวา่ 181

ชุดกิจกรรมสบื เสาะหาความรูแ้ บบ 5 ข้ัน 18 ชดุ ที่ 1 ลักษณะทางพันธุกรรม กราฟแสดงลักษณะทางพันธุกรรมที่แปรผนั ต่อเนื่อง (ให้นักเรียนกาหนดสดั สว่ นกราฟด้วยตนเอง) จานวนนักเรยี น (คน)

ชุดกจิ กรรมสืบเสาะหาความรูแ้ บบ 5 ขนั้ 19 ชดุ ท่ี 1 ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม กิจกรรมตอนที่ ❖ ลกั ษณะทแี่ ปรผนั ไม่ต่อเนอื่ ง ตารางบนั ทึกผล ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทเี่ ลอื กพิจารณา คือ ............................................................................... ลักษณะท่ีปรากฏ จานวน(คน) กราฟแสดงลกั ษณะทางพันธุกรรมท่แี ปรผนั ไม่ต่อเนื่อง (ให้นกั เรียนกาหนดสัดสว่ นกราฟดว้ ยตนเอง) จานวนนกั เรยี น (คน) คาถามทา้ ยกิจกรรม  กราฟที่ไดจ้ ากการวดั ความสงู ของเพื่อนในห้องเรียน มีลักษณะอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ❖ กราฟท่ีไดจ้ ากการสงั เกตลกั ษณะบางประการของเพ่ือนในห้องเรยี น มลี ักษณะอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………  นักเรียนจะใชล้ กั ษณะของกราฟมาอธิบายลักษณะความแปรผนั ทางพันธกุ รรมได้อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชดุ กจิ กรรมสืบเสาะหาความร้แู บบ 5 ขนั้ 20 ชุดท่ี 1 ลักษณะทางพันธุกรรม บตั รแบบฝึกหดั ที่ 1 เร่อื ง ลักษณะทางพันธกุ รรม ช่ือ – สกุล ..................................................................................................... ชน้ั ..................... เลขที่ .................... คาช้ีแจง นักเรียนศึกษาบัตรเน้ือหาที่ 1.1 และ 1.2 แลว้ ตอบคาถามดังตอ่ ไปน้ี ตอนที่  ตอบคาถามดังต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง 1. พนั ธกุ รรมหรือกรรมพนั ธ์ุ (Heredity) หมายถงึ อะไร ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... ....................................................................................... 2. ลกั ษณะทางพันธุกรรม หมายถึงอะไร ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. 3. ความแปรผันทางพนั ธกุ รรม (Genetic variation) สามารถจาแนกไดก้ ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ตอนที่ ❖ นาอกั ษรหนา้ ข้อความดา้ นขวาเตมิ ลงหน้าข้อความด้านซา้ ยท่ีข้อมูลมคี วามสัมพันธก์ นั ............. 1. ยีน A. ลกั ษณะทีไ่ มถ่ า่ ยทอดทางพันธกุ รรม ............. 2. ห่อล้ินได/้ หอ่ ลนิ้ ไม่ได้ B. หนว่ ยควบคมุ ลักษณะทางพันธุกรรม ............. 3. แผลเปน็ C. ลักษณะทมี่ คี วามแปรผนั ต่อเน่ือง ............. 4. มีต่งิ หู/ไมม่ ตี งิ่ หู D. ลกั ษณะทมี่ ีความแปรผันไม่ตอ่ เนื่อง ............. 5. ความสูง ............. 6. สีของดอกไม้ ............. 7. ผมตรง/ผมหยกั ศก

ชดุ กจิ กรรมสบื เสาะหาความรู้แบบ 5 ขน้ั 21 ชุดที่ 1 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม บัตรแบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง ลักษณะทางพนั ธกุ รรม คาช้แี จง  ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องทส่ี ุดเพียงข้อเดียว แล้วทาเคร่ืองหมายกากบาท () ลงในกระดาษคาตอบ ❖ แบบทดสอบมี 10 ข้อ เวลา 10 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. ข้อใดเป็นลักษณะทางพนั ธุกรรม ก. ตาบอด ข. ความอว้ น ค. ลักษณะสผี วิ ง. การรอ้ งเพลง 2. พนั ธกุ รรม (Heredity) หมายถึงอะไร ก. การสืบทอดทายาทของสงิ่ มีชีวิต ข. การกระจายเผา่ พนั ธ์ขุ องสิ่งมชี ีวติ โดยคงลักษณะเดิมไว้ ค. การถ่ายทอดลักษณะของส่ิงมชี วี ติ จากพ่อแม่ไปสลู่ กู หลาน ง. การคัดเลือกพนั ธุ์ของสง่ิ มชี ีวติ โดยอาศยั ธรรมชาตหิ รือมนุษย์ 3. ลักษณะในข้อใดไมใ่ ช่ลักษณะทางพันธุกรรม ก. มีลักยิ้ม ข. ผมหยกั ศก ค. รอยแผลเปน็ ง. การห่อล้นิ ได้ 4. ขอ้ ใดถือเปน็ การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม ก. เอมลี ักยมิ้ เหมือนพ่อ ข. บีมผี มยาวเหมอื นแม่ ค. ซมี แี ผลเปน็ เหมอื นพี่สาว ง. ดชี อบอาหารรสเค็มเหมอื นปา้ 5. ขอ้ ความใดไม่ถูกตอ้ ง เกย่ี วกบั ความแปรผนั ทางพันธุกรรม ก. เกดิ ข้นึ ไดท้ ้งั จากการรวมกันของยีนและมิวเทชัน ข. มปี ระโยชน์ต่อสิ่งมชี วี ิตทัง้ แบบอาศยั เพศและแบบไมอ่ าศยั เพศ ค. เกดิ จากการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศได้มากกวา่ การสืบพันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศ ง. เกดิ ขนึ้ เพื่อให้ได้ลักษณะทเี่ หมาะสมกบั สภาพแวดล้อมท่ีสงิ่ มีชวี ติ จะต้องเผชญิ ในอนาคต

ชุดกจิ กรรมสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 ขนั้ 22 ชดุ ที่ 1 ลกั ษณะทางพันธุกรรม บตั รแบบทดสอบหลังเรียน เรอื่ ง ลักษณะทางพันธกุ รรม (ตอ่ ) 6. กาหนดให้ A คือ ตาบอดสี B คอื ตาเปน็ ต้อ C คอื สขี องตา D คอื ชั้นของหนังตา ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะท่ถี ่ายทอดทางพันธกุ รรม ก. A และ B ข. A และ C ค. A, C และ D ง. A, B, C และ D 7. ลักษณะในข้อใดเป็นความแปรผันแบบตอ่ เน่ือง ก. ส่วนสงู นา้ หนกั ข. มลี ักยมิ้ ไม่มีลักยม้ิ ค. ถนดั ซ้าย ถนัดขวา ง. ห่อล้นิ ได้ ห่อลิ้นไมไ่ ด้ 8. ลักษณะขอ้ ใดต่อไปนเ้ี ป็นความแปรผนั แบบไมต่ ่อเน่ือง ก. หมเู่ ลอื ด ระดับสติปัญญา ข. สีผิวของคน ลักษณะเสน้ ผม ค. การมลี กั ยิ้ม การมีหนังตาชั้นเดยี ว ง. ความสงู ของคน ความสามารถในการห่อล้นิ 9. ลักษณะทางพันธกุ รรมในข้อใดต่อไปนี้ จะไม่เปลี่ยนแปลง ไมว่ ่าส่ิงแวดลอ้ มจะเปน็ อย่างไร ก. ความสงู ข. สตปิ ญั ญา ค. สีผิวของคน ง. ลายน้วิ มอื 10. ลักษณะใดในมนุษย์ที่ส่ิงแวดลอ้ มมอี ิทธพิ ลมากกว่าลักษณะทางพนั ธุกรรม ก. หม่เู ลือด ข. ตาบอดสี ค. ความดนั เลือด ง. แนวผมท่หี นา้ ผาก

ชุดกิจกรรมสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 ขั้น 23 ชุดที่ 1 ลักษณะทางพันธกุ รรม กระดาษคาตอบ เรื่อง ลกั ษณะทางพันธกุ รรม รายวิชาวทิ ยาศาสตร์พ้นื ฐาน รหสั วิชา ว 23101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชือ่ – สกลุ ................................................................................................................ คะแนนที่ได้ คะแนนเตม็ ชั้น ............................................... เลขที่ .................................... 10 ข้อ ตวั เลือก ง ก ขค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

ชุดกจิ กรรมสืบเสาะหาความร้แู บบ 5 ขน้ั 35 ชดุ ท่ี 1 ลกั ษณะทางพันธุกรรม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook