Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานวิทยาศาตร์1 ว22201

โครงงานวิทยาศาตร์1 ว22201

Published by kajankew135, 2021-07-25 16:39:50

Description: โครงงานวิทยาศาตร์1 ว22201 ม.2

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน รายวชิ าโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1 รหสั ว22201 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ครผู ู้สอน นางสาวสายพณิ ไขค่ าํ ตําแหนง่ ครูชํานาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นขนุ ยวมวทิ ยา สํานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาแม่ออ่ งสอน กระทรวงศกึ ษาธิการ

3 กจิ กรรมท่ี 1www.kroobannok.com ทดสอบก่อนเรียน

4 บัตรแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ความรู้เบือ้ งต้นเกยี่ วกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ www.kroobannok.com ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 รหัสวิชา ว21102 หน่วยการเรียนรู้ โครงงานวิทยาศาสตร์ คะแนนเต็ม 10 คะแนน จานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งที่สุดและทาเครื่องหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ 1. ขอ้ ใดมีความหมายตรงกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์มากที่สุด ก. บทความ ข. รายงาน ค. งานวจิ ยั เล็กๆ ง. แฟ้ มสะสมผลงาน 2. ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตรงกบั ขอ้ ใด ก. การทดลองท่ีมีการบนั ทึกขอ้ มลู ข. การสร้างเคา้ โครงเพื่อทาการทดลอง ค. การทาบทปฏิบตั ิการทางวิทยาศาสตร์ ง. การทากิจกรรมวทิ ยาศาสตร์โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 3. ส่ิงใดมีความเก่ียวขอ้ งกบั การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์มากท่ีสุด ก. การพฒั นาผลงานเก่ียวกบั วทิ ยาศาสตร์ ข. การแกป้ ัญหาเรื่องใดเรื่องหน่ึงที่เป็นปัญหา ค. การศึกษาเร่ืองราวตา่ งๆที่เก่ียวกบั วทิ ยาศาสตร์ ง. การปฏิบตั ิกิจกรรมทดลองในหอ้ งวทิ ยาศาสตร์ 4. คุณคา่ และความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ที่มีความเด่นชดั ท่ีสุดคือขอ้ ใด ก. การพฒั นากระบวนการคิด ข. การนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ค. การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ง. การส่งเสริมความรู้ ความสามารถ

5 5. นกั เรียนจะไดร้ ับประโยชน์อะไรจากการทาโครงงานมากที่สุด ก. ไดร้ ับการยกยอ่ งจากผอู้ ื่น ข. ไดป้ ระสบการณ์จากการทดลอง ค. ไดค้ น้ พบผลงานทางวทิ ยาศาสตร์ใหม่ๆ ง. ไดฝ้ ึกการนาเอาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา www.kroobannok.com 6. โครงงานประเภทใดที่เกี่ยวขอ้ งกบั ความคิดสร้างสรรคม์ ากที่สุด ก. ประเภทสารวจ ข. ประเภททดลอง ค. ประเภททฤษฎี ง. ประเภทส่ิงประดิษฐ์ 7. การกาหนดตวั แปรที่มีความเด่นชดั เป็นลกั ษณะของโครงงานประเภทใด ก. ทฤษฎี-ส่ิงประดิษฐ์ ข. สิ่งประดิษฐ์-ทดลอง ค. ทฤษฎี-สารวจรวบรวม ง. สารวจรวบรวม-ทดลอง 8. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรื่อง “การศึกษาวงจรชีวติ ของผ้งึ ” เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทใด ก. ประเภทสารวจ ข. ประเภททฤษฎี ค. ประเภททดลอง ง. ประเภทสิ่งประดิษฐ์ 9. โครงงานวทิ ยาศาสตร์แบง่ ออกเป็ นก่ีประเภท ก. 5 ประเภท ข. 4 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 2 ประเภท 10. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เป็ นการกระทาในขอ้ ใด ก. เป็นการศึกษาทดลองวทิ ยาศาสตร์ ข. เป็นการกระทาเพ่อื ออกแบบการทดลอง ค. เป็นการศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ เทจ็ จริงจากตารา ง. เป็นการกระทาเพ่ือแกป้ ัญหาหรือขอ้ สงสัย

6 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง ความรู้เบือ้ งต้นเกยี่ วกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ www.kroobannok.com ชื่อ – สกุล........................................................ช้นั ......................เลขท่ี........................ ข้อท่ี ตัวเลอื ก กขคง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนที่ได.้ ................คะแนน

7 กจิ กรรมที่ 2www.kroobannok.com ศึกษาบตั รเนือ้ หา

8 บตั รเนือ้ หา เร่ือง ความรู้เบอื้ งต้นเกยี่ วกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ www.kroobannok.com ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มีผใู้ หค้ วามหมายโครงงานวิทยาศาสตร์ไวห้ ลายท่าน พร้อมแลว้ ศึกษากนั ไดเ้ ลยครับ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ถือเป็นงานวจิ ยั ในระดบั นกั เรียน เพราะเป็นการศึกษาเร่ืองราว ทางวทิ ยาศาสตร์ที่นกั เรียนสนใจโดยใชว้ ธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์เป็นแนวทางในการศึกษา และแกป้ ัญหา มีการวางแผนที่จะศึกษาภายในขอบเขตของระดบั ความรู้ ระยะเวลา และอุปกรณ์ที่มีอยู่ และลงมือศึกษา สารวจ ทดลอง เพื่อรวบรวมข้อมูล แล้วนามา ประมวลผลจนได้ข้อสรุปออกมาเป็ นผลงานท่ีมีความสมบูรณ์ในตัวเอง โครงงาน วิทยาศาสตร์จึงเป็ นกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้นกั เรียนไดเ้ รียนรู้ ฝึ กฝนการใชท้ กั ษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการแกป้ ัญหา รวมท้งั การพฒั นาเจตคติทางวิทยาศาสตร์ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2544 : 1) โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เป็ นกิจกรรมที่เนน้ กระบวนการ โดยผเู้ รียนเป็นผคู้ ิดคน้ วางแผน ลงมือปฏิบตั ิตามแผนที่วางไว้ อาศยั เครื่องมือ เครื่องจกั ร และวสั ดุอุปกรณ์ในการปฏิบตั ิ เพือ่ ให้โครงงานสาเร็จ ภายใตค้ าแนะนา การกระตุน้ ความคิด กระตุน้ การทางานจาก ครูผสู้ อนหรือผเู้ ช่ียวชาญ ครูผดู้ ูแลโครงงานจะอานวยความสะดวกในการทาโครงงาน ช้ีแนะแนวทางแกป้ ัญหาที่เกิดข้ึนจากการทาโครงงาน ตลอดท้งั ติดตาม การวดั และประเมินผลโครงงานดว้ ย (ยทุ ธ ไกยวรรณ์,2544 :10)

www.kroobannok.com 9 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เป็ นการจดั การเรียนรู้แบบหน่ึงท่ีทาใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้ดว้ ยตนเอง ไดป้ ฏิบตั ิจริงในลกั ษณะของการศึกษา สารวจ คน้ ควา้ ทดลอง ประดิษฐค์ ิดคน้ ดว้ ยตนเอง โดยมีครูเป็นผคู้ อยกระตุน้ แนะนาและใหค้ าปรึกษาอยา่ งใกลช้ ิด ในการจดั กิจกรรม การเรียนรู้ โครงงาน หมายถึงกระบวนการทางานที่ผเู้ รียนทาดว้ ยตนเองตามจุดประสงค์ ท่ีกาหนด แลว้ เสนอผลงานต่อผสู้ อน (ชาตรี เกิดธรรม, 2547 : 5) โครงงานวทิ ยาศาสตร์ หมายถึง การศึกษาเพ่อื คน้ พบขอ้ ความรู้ใหม่ ส่ิงประดิษฐใ์ หมๆ่ ดว้ ยตวั นกั เรียนเอง โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์อนั ประกอบไปดว้ ย วธิ ีการ ทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ตลอดจนการเป็นผมู้ ีเจตคติ ทางวทิ ยาศาสตร์ แลว้ เสนอผลการศึกษาในแบบการเขียนโครงงาน โดยมีครูอาจารย์ และผเู้ ช่ียวชาญเป็นผใู้ หค้ าปรึกษา ตามบทบาทของโครงงาน ข้นั ตอนการทาโครงงาน และประเภทของโครงงาน (พิมพนั ธ์ เดชะคุปต,์ 2548 : 71-72) โครงงานวิทยาศาสตร์ หมายถึง การศึกษาเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงเพ่ือตอบคาถามหรือปัญหาท่ี สงสัยของผูค้ ิดทาโครงงาน โดยมีการวางแผนอยา่ งมีข้นั ตอนตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลงานที่มีความสมบรู ณ์โดยผศู้ ึกษาหรือผเู้ รียนเป็ นผทู้ ี่ลงมือศึกษาดว้ ยตนเอง ครูหรือผเู้ ชี่ยวชาญเป็ นเพียงผใู้ ห้คาแนะนา หรือใหแ้ นวทางการศึกษา โดยในการศึกษาน้นั ตอ้ งคานึงถึงขอบเขตจากดั เช่น ระยะเวลาในการศึกษา ความพร้อมเร่ืองวสั ดุอุปกรณ์ สถานที่ และระดบั ความรู้ ความสามารถของผเู้ รียนหรือผทู้ ่ีศึกษา (ภิญญดา อยสู่ าราญ,2548 : 3) โครงงานวทิ ยาศาสตร์ หมายถึง การเรียนโดยผา่ นกิจกรรมท่ีเกิดจากความสนใจการศึกษา คน้ ควา้ และปฏิบตั ิจริงของผเู้ รียนท่ีมีการจดั ระบบ และกระบวนการในการเรียนรู้ทาง วทิ ยาศาสตร์ของผเู้ รียนเพ่อื ใหไ้ ดค้ าตอบที่ตนเองตอ้ งการเรียนรู้อยา่ งลึกซ้ึง ซ่ึงทุกข้นั ตอน จากประสบการณ์จริงดว้ ยตนเองหรือกลุ่มสนใจของผเู้ รียน (ถวลั ย์ มาศจรัส, 2549 : 16)

10 คุณค่าและความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1. นกั เรียนจะมีความสานึกและรับผดิ ชอบในการศึกษาหาความรู้ดา้ นตา่ งๆ ดว้ ยตนเอง มากข้ึน 2. นกั เรียนมีโอกาสไดพ้ ฒั นาและแสดงออกถึงความสามารถตามศกั ยภาพดว้ ยตนเอง 3. นกั เรียนไดม้ ีโอกาสศึกษาคน้ ควา้ และเรียนรู้ในเร่ืองท่ีตนเองสนใจไดล้ ึกซ้ึงมากข้ึนไป กวา่ ที่ไดเ้ รียนรู้จากหลกั สูตรปกติ 4. นกั เรียนใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ 5. นกั เรียนไดเ้ ป็นผมู้ ีปรีชาญาณ สามารถคิดริเร่ิม และผลิตผลงานใหม่ๆ ทางวทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงผลงานใหม่ๆ จะเกิดข้ึนไดจ้ ากแนวคิดของนกั เรียนเอง 6. นกั เรียนอาจเป็นผสู้ ร้างชื่อเสียงใหก้ บั ตนเองและส่วนรวมได้ 7. นกั เรียนอาจจะไดเ้ ป็นนกั วิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ และไดม้ าช่วยกนั พฒั นาประเทศใน อนาคต 8. สร้างความสมั พนั ธ์อนั ดีระหวา่ งครูกบั นกั เรียนใหม้ ีโอกาสทางานร่วมกนั มีความใกลช้ ิด กนั มากข้ึน 9. สร้างความสัมพนั ธ์ระหวา่ งโรงเรียนกบั ชุมชนใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจที่ดียง่ิ ข้ึน และช่วย กระตุน้ ชุมชนใหส้ นใจดา้ นวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยมี ากข้ึน www.kroobannok.com

www.kroobannok.com 11 ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ โครงงานแบง่ ตามลกั ษณะของกิจกรรมไดเ้ ป็น 4 ประเภท คือ 1. โครงงานประเภทสารวจ รวบรวมขอ้ มูล 2. โครงงานประเภทการทดลอง 3. โครงงานประเภทพฒั นาหรือประดิษฐ์ 4. โครงงานประเภททฤษฎี หลกั การ หรือแนวคิด 1. โครงงานประเภทสารวจ รวบรวมข้อมูล เป็นกิจกรรมการศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู จากธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มตา่ ง ๆ มีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ศึกษาหาความรู้ที่มีอยใู่ นธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม โดยวธิ ีสารวจและรวบรวมขอ้ มลู แลว้ นามาจดั กระทาและนาเสนอในรูปแบบใหม่ เพ่อื ใหเ้ ห็น ลกั ษณะความสมั พนั ธ์ในเร่ืองที่ตอ้ งการจะศึกษาไดช้ ดั เจนยง่ิ ข้ึน อาจทาไดห้ ลายลกั ษณะ เช่น การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การเกบ็ ตวั อยา่ งวสั ดุมาวเิ คราะห์ในหอ้ งทดลอง การจาลองธรรมชาติ เพ่อื สงั เกตและศึกษารวบรวมขอ้ มลู 2. โครงงานประเภททดลอง เป็นการศึกษาหาคาตอบของปัญหาใดปัญหาหน่ึง โดยการออกแบบ ทดลอง และดาเนินการทดลองเพื่อหาคาตอบ ของปัญหาท่ีตอ้ งการทราบ มีข้นั ตอนการดาเนินงาน ประกอบดว้ ย การกาหนดปัญหา การต้งั สมมุติฐาน การออกแบบการทดลอง ซ่ึงอาจตอ้ ง มีการควบคุมตวั แปรตา่ ง ๆ ที่อาจมีผลต่อตวั แปรที่ศึกษา และการสรุปผลการทดลอง โครงงาน ประเภทการทดลองน้ีอาจแบ่งยอ่ ยลงไดอ้ ีก ตามสาขาต่าง ๆ เช่น ประเภทแกป้ ัญหาส่ิงแวดลอ้ ม ประเภทการเกษตร ประเภทเคมี ประเภทฟิ สิกส์ ประเภทชีววทิ ยา ฯลฯ 3. โครงงานประเภทพฒั นาหรือประดษิ ฐ์ โครงงานประเภทน้ีอาจเป็นการพฒั นา หรือการประดิษฐ์ เครื่องมือเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ตา่ ง ๆ ใหใ้ ชง้ านไดต้ ามวตั ถุประสงค์ โดยอาศยั ความรู้หรือหลกั การ ทางวทิ ยาศาสตร์มาประยกุ ตใ์ ช้ อาจเป็ นการประดิษฐส์ ่ิงใหม่ ๆ ที่ยงั ไม่เคยมีมาก่อน หรือปรับปรุง ของเดิมใหใ้ ชง้ านไดด้ ียงิ่ ข้ึน รวมท้งั อาจเป็นการเสนอหรือสร้างแบบจาลองทางความคิด เพอื่ แกป้ ัญหาใดปัญหาหน่ึง

12 4. โครงงานประเภททฤษฎี หลกั การ หรือแนวคิด เป็นโครงงานที่เสนอแนวคิดใหม่ ๆ ในการอธิบาย เรื่องใดเรื่องหน่ึงอยา่ งมีเหตุผล โดยใชห้ ลกั การทางวทิ ยาศาสตร์หรือทฤษฎีสนบั สนุน หรือหากเป็น การอธิบายปรากฏการณ์เก่าในแนวใหม่ อาจเสนอในรูปของคาอธิบายสูตรหรือสมการ โดยมีขอ้ มูล www.kroobannok.com อ่ืนหรือทฤษฎีอ่ืนสนบั สนุน โครงงานประเภทน้ีผทู้ าตอ้ งมีพ้ืนฐานความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ เป็นอยา่ งดี จะตอ้ งศึกษาคน้ ควา้ เรื่องราววทิ ยาศาสตร์ที่เกี่ยวขอ้ งมาก จึงจะสร้างคาอธิบาย หรือทฤษฎีได้ ตัวอย่างโครงงานประเภทต่างๆ ประเภทของโครงงาน ช่ือโครงงาน โครงงานประเภทสารวจ รวบรวมขอ้ มูล - การสารวจสตั วใ์ นทอ้ งถ่ิน - การสารวจพชื สมุนไพรในทอ้ งถ่ิน - การศึกษามลพษิ ของสิ่งแวดลอ้ ม - การศึกษาการเจริญเติบโตของตวั ออ่ นของผ้งึ โครงงานประเภททดลอง - ขิงชะลอการบดู - เซลลไ์ ฟฟ้ าพลงั ดิน - การเจริญเติบโตของพชื ในสนามแมเ่ หล็ก - การทดลองใชผ้ กั ตบชวาในการกาจดั น้าเสีย โครงงานประเภทพฒั นาหรือประดิษฐ์ - การปลูกพืชโดยไม่ใชด้ ิน - เทคนิคการปลูกพืชสมุนไพร - เคร่ืองเตือนอคั คีภยั ระบบความดนั - กลจกั รพลงั งานแสง โครงงานประเภททฤษฎี หลกั การ หรือแนวคิด - การศึกษาคน้ ควา้ ตารายาแผนโบราณ - การพสิ ูจน์ความจริงของทฤษฎีอะตอม - การผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสตั ว์ - การผลิตแท่งเช้ือเพลิงสีเขียว

13 กจิ กรรมท่ี 3www.kroobannok.com ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตามบตั รกจิ กรรม

14 บตั รกจิ กรรมที่ 1 เร่ือง ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ www.kroobannok.com กล่มุ ท.ี่ ...... ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1 คะแนนเต็ม 5 คะแนน คะแนนทไี่ ด้.........คะแนน จุดประสงค์ของกจิ กรรม บอกความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ คาส่ัง ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั คน้ ควา้ ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. ....... ....... .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. .................................................................. ....... .......

15 บัตรกจิ กรรมที่ 2 เร่ือง คุณค่าและความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ www.kroobannok.com กลุ่มท.่ี ...... ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 คะแนนเตม็ 5 คะแนน คะแนนทไ่ี ด้.........คะแนน จุดประสงค์ของกจิ กรรม บอกคุณคา่ และความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ คาสั่ง ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั อภิปรายเก่ียวกบั คุณคา่ และความสาคญั ของโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ แลว้ เขียนสรุปลงในแผนผงั ความคิดท่ีกาหนดให้ …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… คุณค่า และความสาคญั ของโครงงาน …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… ……………………………

www.kroobannok.com 16 บัตรกจิ กรรมท่ี 3 เรื่อง ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มท.่ี ...... ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 คะแนนเตม็ 5 คะแนน คะแนนทไี่ ด้.........คะแนน จุดประสงค์ของกจิ กรรม จาแนกประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ คาสั่ง ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั ศึกษาคน้ ควา้ ในเร่ืองตา่ งๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบง่ ออกไดเ้ ป็นก่ีประเภท ประเภทใดบา้ ง ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................ 2. ใหย้ กตวั อยา่ งชื่อโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทต่างๆ มาประเภทละ 2 ชื่อ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภท........................................................................................ ชื่อโครงงานวทิ ยาศาสตร์.......................................................................................... ชื่อโครงงานวทิ ยาศาสตร์.......................................................................................... โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภท........................................................................................ ชื่อโครงงานวทิ ยาศาสตร์.......................................................................................... ชื่อโครงงานวทิ ยาศาสตร์.......................................................................................... โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภท........................................................................................ ชื่อโครงงานวทิ ยาศาสตร์.......................................................................................... ช่ือโครงงานวทิ ยาศาสตร์.......................................................................................... โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภท........................................................................................ ช่ือโครงงานวทิ ยาศาสตร์.......................................................................................... ชื่อโครงงานวทิ ยาศาสตร์..........................................................................................

17 บตั รกจิ กรรมท่ี 4 เร่ือง ความแตกต่างของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทต่างๆ www.kroobannok.com กลุ่มท.ี่ ...... ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1 คะแนนเตม็ 5 คะแนน คะแนนทไี่ ด้.........คะแนน จุดประสงค์ของกจิ กรรม บอกความแตกต่างของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทต่างๆได้ คาส่ัง ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั วเิ คราะห์โครงงานท่ีกาหนดใหเ้ ป็ นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทใด โดยใหน้ กั เรียนเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องประเภทโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ที่ ชื่อโครงงาน ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ สารวจ ทดลอง ประดิษฐ์ ทฤษฎี 1 ทฤษฎีโลกกลมแบน 2 การศึกษาวสั ดุที่ใชล้ ่อและไลแ่ มลงวนั ทอง 3 การประดิษฐเ์ คร่ืองห่อผลไม้ 4 การเปลี่ยนเพศปลาหางนกยงู โดยใชไ้ รแดง 5 การสารวจหินในทอ้ งถ่ิน 6 โครงงานเกษตรทฤษฎีใหมเ่ พอ่ื พอ่ หลวง 7 เครื่องกลนั่ น้าพลงั งานแสงอาทิตย์ 8 การลดปริมาณคาร์บอนมอนอกไซด์ 9 การสารวจกลุ่มเมฆบนทอ้ งฟ้ า 10 การอธิบายทฤษฎีอวกาศแนวใหม่ 11 การประดิษฐ์เคร่ืองสูบน้าพลงั ลม 12 เปลือกไขไ่ ล่มด 13 การทากระดาษจากกาบกลว้ ย 14 กล่องมหศั จรรย์ 15 การสารวจพืชมีพษิ ในทอ้ งถิ่น

18 กจิ กรรมท่ี 4www.kroobannok.com ตอบคาถาม จากบตั รคาถาม

www.kroobannok.com 19 บตั รคาถาม เร่ือง ความรู้เบอื้ งต้นเกย่ี วกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ คาสั่ง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง (20 คะแนน) 1. ใหน้ กั เรียนเขียนสรุปความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามความเขา้ ใจของนกั เรียน (4คะแนน) ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 2. ใหน้ กั เรียนเขียนอธิบายคุณค่าและความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ (4 คะแนน) ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 3. ใหน้ กั เรียนศึกษาหวั ขอ้ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ต่อไปน้ีวา่ เป็นประเภทใด เหตุใดจึงเขา้ ใจเช่นน้นั (8 คะแนน) 3.1 การอธิบายทฤษฎีอวกาศแนวใหม่ (4 คะแนน) ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 3.2 การสกดั สีจากพชื สมุนไพร (4 คะแนน) ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 4. โครงงานวทิ ยาศาสตร์แตล่ ะประเภทมีความแตกตา่ งกนั อยา่ งไร (4 คะแนน) 1.1 ......................................................................................................................................... 1.2 ......................................................................................................................................... 1.3 ......................................................................................................................................... 1.4 .........................................................................................................................................

20 กจิ กรรมที่ 5 www.kroobannok.com ทดสอบหลงั เรียน

21 บตั รแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง ความรู้เบือ้ งต้นเกย่ี วกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ www.kroobannok.com ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1 รหสั วิชา ว21102 หน่วยการเรียนรู้ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ คะแนนเตม็ 10 คะแนน จานวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดและทาเคร่ืองหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ 1. นกั เรียนจะไดร้ ับประโยชนอ์ ะไรจากการทาโครงงานมากท่ีสุด ก. ไดร้ ับการยกยอ่ งจากผอู้ ื่น ข. ไดป้ ระสบการณ์จากการทดลอง ค. ไดค้ น้ พบผลงานทางวทิ ยาศาสตร์ใหมๆ่ ง. ไดฝ้ ึกการนาเอาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์มาใชใ้ นการแกป้ ัญหา 2. ขอ้ ใดมีความหมายตรงกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์มากท่ีสุด ก. บทความ ข. รายงาน ค. งานวจิ ยั เล็กๆ ง. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เป็นการกระทาในขอ้ ใด ก. เป็นการศึกษาทดลองวทิ ยาศาสตร์ ข. เป็นการกระทาเพื่อออกแบบการทดลอง ค. เป็นการศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ เทจ็ จริงจากตารา ง. เป็นการกระทาเพื่อแกป้ ัญหาหรือขอ้ สงสยั 4. โครงงานวทิ ยาศาสตร์แบง่ ออกเป็ นก่ีประเภท ก. 5 ประเภท ข. 4 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 2 ประเภท 5. โครงงานประเภทใดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ความคิดสร้างสรรคม์ ากที่สุด ก. ประเภทสารวจ ข. ประเภททดลอง ค. ประเภททฤษฎี ง. ประเภทส่ิงประดิษฐ์

22 6. คุณคา่ และความสาคญั ของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ที่มีความเด่นชดั ท่ีสุดคือขอ้ ใด ก. การพฒั นากระบวนการคิด ข. การนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ค. การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ง. การส่งเสริมความรู้ ความสามารถ www.kroobannok.com 7. สิ่งใดมีความเก่ียวขอ้ งกบั การทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์มากที่สุด ก. การพฒั นาผลงานเก่ียวกบั วทิ ยาศาสตร์ ข. การแกป้ ัญหาเรื่องใดเร่ืองหน่ึงที่เป็นปัญหา ค. การศึกษาเร่ืองราวตา่ งๆที่เกี่ยวกบั วทิ ยาศาสตร์ ง. การปฏิบตั ิกิจกรรมทดลองในหอ้ งวทิ ยาศาสตร์ 8. การกาหนดตวั แปรที่มีความเด่นชดั เป็นลกั ษณะของโครงงานประเภทใด ก. ทฤษฎี-สิ่งประดิษฐ์ ข. ส่ิงประดิษฐ์-ทดลอง ค. ทฤษฎี-สารวจรวบรวม ง. สารวจรวบรวม-ทดลอง 9. ความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์ตรงกบั ขอ้ ใด ก. การทดลองท่ีมีการบนั ทึกขอ้ มลู ข. การสร้างเคา้ โครงเพือ่ ทาการทดลอง ค. การทาบทปฏิบตั ิการทางวิทยาศาสตร์ ง. การทากิจกรรมวทิ ยาศาสตร์โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 10. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง “การศึกษาวงจรชีวติ ของผ้งึ ” เป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทใด ก. ประเภทสารวจ ข. ประเภททฤษฎี ค. ประเภททดลอง ง. ประเภทสิ่งประดิษฐ์

23 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง ความรู้เบอื้ งต้นเกยี่ วกบั โครงงานวทิ ยาศาสตร์ www.kroobannok.com ชื่อ – สกุล........................................................ช้นั ......................เลขที่........................ ข้อท่ี ตัวเลอื ก กขคง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน คะแนนที่ได.้ ................คะแนน

www.kroobannok.com 24 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2544). โครงงานวทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว กรมวชิ าการ. (2545). คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพอ์ งคก์ ารรับส่งสินคา้ และพสั ดุภณั ฑ.์ . ศูนยพ์ ฒั นาหลกั สูตร. (2544). เอกสารชุดเทคนิคการจัดกระบวนการเรียนรู้ทผ่ี ้เู รียน สาคญั ทส่ี ุด “โครงงาน”. กรุงเทพมหานคร : กรมวชิ าการ. ชาตรี เกิดธรรม. (2547). 272 แนวคิดโครงงานวิทยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พเ์ บน็ พบั ลิชชิง. . (2547). เทคนิคการสอนแบบโครงงาน. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พช์ มรมเดก็ . ถวลั ย์ มาศจรัส และ มณี เรืองขา. (2549). แนวการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน (project) เพอ่ื พฒั นาการเรียนรู้ผ้เู รียน. กรุงเทพมหานคร : ธารอกั ษร. ประดิษฐ์ เหล่าเนตร์. (2542). เทคนิคการสอนและการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พเ์ ซ็นเตอร์ ดีสคฟั เวอรี. พมิ พนั ธ์ เดชะคุปต,์ พเยาว์ ยนิ ดีสุข และ ราเชน มีศรี. (2548). การสอนคิดด้วยโครงงาน. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ภิญญดา อยสู่ าราญ. (2548). โครงงานวทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : ศนู ยส์ ่งเสริมอาชีวะ. ยทุ ธ ไกยวรรณ์. (2544). เทคนิคการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนวชิ าโครงงานระดบั มัธยมศึกษา. กรุงเทพมหานคร : พฒั นาคุณภาพวชิ าการ. วมิ ลศรี สุวรรณรัตน์ และ มาฆะ ทิพยศ์ รี. (2544). โครงงานวทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : พฒั นาคุณภาพวชิ าการ. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2536). แบบฝึ กกจิ กรรมวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ว 017 โครงงานวทิ ยาศาสตร์กบั คุณภาพชีวติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว. สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน. (2551). หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. สุวทิ ย์ มลู คา และ อรทยั มลู คา. (2550). 20วธิ ีจัดการเรียนรู้เพอ่ื พฒั นาคุณธรรมจริยธรรมค่านิยม การเรียนรู้ โดยการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง. พิมพค์ ร้ังที่ 6. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพภ์ าพพมิ พ.์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook