1หน่วยการเรียนรู้ที่ ดนตรีกับสังคม และวัฒนธรรม รายวิชา ดนตรแี ละนาฏศิลป์ ศ21101 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ครูผสู้ อน...นางสาวมารสิ า เสอื เอ่ียม จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เปรยี บเทยี บการใชอ้ งค์ประกอบดนตรที ีม่ าจากวฒั นธรรมตา่ งกนั ได้ บรรยายบทบาทและอทิ ธิพลของดนตรใี นวัฒนธรรมของประเทศตา่ งๆ ได้ บรรยายอทิ ธิพลของวัฒนธรรมและเหตุการณใ์ นประวัติศาสตรท์ มี่ ีต่อรูปแบบของดนตรใี นประเทศไทยได้
ดนตรใี นวัฒนธรรมต่างประเทศ ดนตรีในวัฒนธรรมอินเดีย • วัฒนธรรมด้านดนตรีของอินเดียจะสัมพันธ์กับเทพเจ้าตามรากฐานและแนวคิดที่เกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยเฉพาะจากคมั ภรี พ์ ระเวท ความสาคญั ของดนตรีอยทู่ ่ีทานอง บันไดเสยี ง จงั หวะและเสยี งหนัก - เบา • บทบาทของดนตรีจะมคี วามสาคัญต่อการบวงสรวงเทพเจ้า ชาวอินเดียเช่ือว่าเสียงดนตรีสามารถใช้ส่ือสารกับเทพเจ้าได้ ขณะเดยี วกันดนตรยี งั มอี ทิ ธิพลตอ่ วิถชี ีวติ ของผคู้ น ทง้ั ใช้บรรเลงในงานพิธกี รรมตา่ งๆ ทางสังคม และใช้สร้างความรื่นเริง ในลักษณะต่างๆ • รปู แบบของดนตรีอินเดีย นอกจากจะพัฒนาในวงวัฒนธรรมของตนแล้ว ยังรับเอาวัฒนธรรมอิสลามและตะวันตกเข้ามา ผสมผสาน ทาให้ดนตรีและเพลงของอินเดียมีความหลากหลาย โดยเคร่ืองดนตรีของอินเดีย นอกจากมีใช้ในอินเดียแล้ว บางชนิดก็แพรก่ ระจายไปยงั ประเทศเนปาล ประเทศพม่า ประเทศไทย ประเทศกัมพชู า ฯลฯ
เครือ่ งดนตรอี ินเดียที่ควรรจู้ กั • ตานปรุ ะ เปน็ เคร่อื งดนตรที มี่ ีบทบาทในการสร้างเสยี งเครอื ทเี่ รยี กกันว่า “เสียงโดรน” (Drone) เสียงของตานปุระ จะช่วยใหน้ ักดนตรคี นอืน่ ๆ ท่ีรว่ มบรรเลงทราบตาแหนง่ จังหวะของเพลง ศลิ ปินอินเดยี มคี วามเชอื่ ว่าเสยี งของตานปุ ระจะช่วยสื่อสารระหว่างมนุษย์กบั เทพเจ้า • ซารังกี เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเคร่ืองสายที่ใช้การสี มีสะพาน หรือหย่องเป็นตาแหน่งให้ศิลปินใช้วางน้ิวกดสาย นยิ มนามาใชบ้ รรเลงประกอบการขบั ร้อง • ซตี าร์ เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่องสายใช้ดีด แต่เดิมซีตาร์มีสายจานวน ๓ สาย ต่อมาได้พัฒนาให้มีจานวนสาย เพมิ่ เป็น ๒๐ สาย สว่ นการจดั เรียงสายมที ง้ั ดา้ นบนและดา้ นลา่ งของตัวเครอ่ื งดนตรี ซีตาร์ เปน็ เครื่องดนตรีประเภทเครอื่ งสายทาให้เกดิ เสยี งด้วยวธิ ีการดีด • ฃเชห์ไน เป็นเครื่องดนตรีประเภทเคร่ืองเป่าท่ีได้รับอิทธิพลจากอาหรับ มีลักษณะเป็นป่ีล้ินคู่ ลาโพงทาด้วยโลหะ มีรเู ปดิ - ปดิ น้ิว เพอ่ื เปล่ียนระดบั เสยี งไปตามทานองเพลง • ตับบล้า เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทกลองมีเสียงดังไพเราะ ศิลปินต้องใช้เทคนิคในการตี เพ่ือให้เกิดเสียงในลักษณะ ต่างๆ ตับบล้ารับหนึ่งมีกลอง ๒ ใบ กลองใบเล็กอยู่ด้านขวาของผู้ตี ทาจากไม้ กลองใบใหญ่อยู่ด้านซ้าย ทาจาก โลหะใหเ้ สียงทุ้มต่า
ดนตรีในวัฒนธรรมต่างประเทศ ดนตรใี นวัฒนธรรมจีน • ดนตรีของชาวจีนมีทั้งท่ีเป็นของราชสานักและของราษฎรทั่วไป สาหรับดนตรีของราชสานักจักรพรรดิจีนทุกราชวงศ์ ใหก้ ารสนับสนนุ รวมท้งั ชนชัน้ สงู ต่างมีค่านิยมในการศึกษาและบรรเลงดนตรี • ลัทธิขงจอ๊ื ที่มีอทิ ธพิ ลอยา่ งมากต่อสังคมจีน ได้ให้ความสาคัญอย่างสูงกับดนตรี โดยมีการนาดนตรีมาบรรเลงประกอบ ในพิธีกรรมของราชสานัก และพิธีสาคญั ๆ หรอื ใช้ประกอบพิธีกรรมบวงสรวงเซ่นไหวเ้ ทพยดาฟา้ ดนิ ตามลทั ธิความเชื่อ • ประเภทของเครื่องดนตรีจีน จัดแบ่งออกเป็น ๘ หมวดหมู่ ตามวัสดุ อุปกรณ์ท่ีนามาใช้ทา เครื่องดนตรี คือ โลหะ หิน ไม้ ดิน หนงั ไม้ไผ่ น้าเต้า และไหม เครื่องดนตรีของจีนที่ควรรู้จัก เชน่
เครือ่ งดนตรจี ีนทีค่ วรรจู้ กั ก่เู จิง ผผิ า • กู่เจิง หรือเจ่ง เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเคร่ืองดีด ลาตัว หรือกล่องเสียงทาด้วยไม้ มีนมพาดสายตามจานวนสาย แต่เดิมกู่เจิงมีสาย ๑๒ สาย ปัจจุบันได้พัฒนาข้ึนจนมี ๑๖ สาย มีระดับเสียง ๓ ช่วงทบ เป็นเคร่ืองดนตรีโบราณท่ี ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉินสามารถใช้บรรเลงเดี่ยว บรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีชนิด อ่ืนๆ หรือบรรเลงร่วมกบั การขบั รอ้ งก็ได้ • หยางฉนิ่ เป็นเครือ่ งดนตรีประเภทเครอื่ งสาย รปู ทรงประกอบด้วยกล่องเสียง มีหลัก หรือหย่องรองรับสายค่ันตาม ขวาง ๔ แถว หยางฉ่ินเป็นเครื่องดนตรีท่ีได้รับอิทธิพลมาจากอาหรับ แต่ได้พัฒนารูปทรงและระบบเสียงตามแบบ จนี ใช้ตปี ระกอบการแสดงอุปรากรรว่ มกบั วงเครอื่ งสาย ประเทศไทยเรยี กหยางฉิ่นว่า “ขิม” และรู้จักมาต้ังแต่สมัย อยธุ ยา ดังปรากฏในชอ่ื เพลงจนี ขิม • ผผิ า เปน็ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายของจีนที่รู้จักกันทั่วไป และยังแพร่กระจายไปสู่ดินแดนประเทศเวียดนาม ประเทศเกาหลี ประเทศมองโกเลียด้วย ผิผามีรูปทรงคล้ายพิณ มี ๔ สาย มีนม ๑๖ อัน ใช้บรรเลงเด่ียว หรือ บรรเลงร่วมกบั เคร่อื งดนตรีชนิดอนื่ ๆ • โซนา เป็นเครือ่ งดนตรีประเภทเปา่ ชนดิ ลิ้นคู่ หรือประเภทปี่ โซนาจะประกอบด้วยเลาป่ีท่ีทาจากไม้และส่วนลาโพง ทาจากโลหะ บนเลาป่ีเจาะรูสาหรับเปิด - ปิด เพื่อบังคับระดับเสียงท้ังสิ้น ๘ รู เป็นรูสาหรับน้ิวค้า ๑ รู รูสาหรับ บังคับระดับเสียง ๗ รู โซนามีเสียงท่ีดังฟังชัดมีบทบาทในการแสดงอุปรากรจีน และยังนิยมนามาใช้บรรเลงเด่ียว และบรรเลงรว่ มกับเครือ่ งดนตรชี นดิ อื่นๆ ในขบวนแหต่ า่ งๆ
ดนตรใี นวัฒนธรรมต่างประเทศ ดนตรใี นวฒั นธรรมกมั พูชา • ดนตรขี องกมั พชู ามบี ทบาทเด่นในฐานะทนี่ ามาใช้ประกอบพิธีกรรมตามความเช่ือพิธีกรรมทางศาสนา สร้างความบันเทิง และใชบ้ รรเลงประกอบการแสดงโขน หนังใหญ่ ละคร และฟอ้ นรา • ประเภทของวงดนตรีกัมพูชา เช่น วงพิณเพียต เป็นวงดนตรีพิธีกรรมที่ใช้ทั้งในราชสานัก ในวัด ในงานพิธีกรรมท่ัวไป วงอารัก เป็นวงดนตรีท่ีใช้ประกอบในงานพิธีกรรมท่ีเก่ียวข้องกับการติดต่อทางวิญญาณ วงการ์ นิยมใช้บรรเลงในงาน มงคลสมรส และวงมโหรี วงอาไย วงเจรยี งจเปย ใชส้ าหรับงานร่ืนเรงิ บนั เทิงทว่ั ไป เปน็ ตน้ • อิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู เป็นปัจจัยที่เป็นรากฐานสาคัญของวัฒนธรรมดนตรีกัมพูชา บรรดาเคร่ืองดนตรี ท่ีเกย่ี วข้องกบั ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูก็ถูกนามาใช้ในงานพธิ ีกรรมทางศาสนาของกมั พชู าด้วย เชน่ สงั ข์ กลอง เป็นตน้
เครื่องดนตรีกัมพูชาที่ควรรจู้ ัก • กระแสมยู หรือพิณนา้ เต้า ปลายด้านหนง่ึ จะติดกล่องเสยี ง หรือกะโหลกทท่ี าจากผลนา้ เตา้ ผ่าครงึ่ ถัดจากกะโหลก ไปด้านบนมีลูกบิด ส่วนปลายอีกด้านของคันพิณมีการเจาะเดือยสาหรับขึงสายพิณ ๑ สาย เชื่อมกับลูกบิด การบังคบั เสียงของกระแสมูยทาได้โดยการควบคุมการเปิด - ปิดของกะโหลกพิณท่ีต้องแนบกับระดับหน้าอกขณะ ดดี ใหส้ ัมพันธก์ ับจังหวะ • เป็ยออ หรอื ปี่ออ้ ในเครอ่ื งดนตรไี ทย ตัวป่ี (เลา) ทาจากไม้รวกปล้องเดยี ว ไม่มขี อ้ เจาะรูสาหรับเปิด - ปิด นิ้วเรียง ตามลาดับด้านหนา้ ๗ รู และมีนิว้ ค้าด้านหลงั ๑ รู เชน่ เดียวกบั ขลยุ่ ส่วนทเี่ ป็นล้นิ ทาดว้ ยไม้ออ้ เหลาจนบางลงและ บบี ให้แบนประกบกันในลักษณะของล้ินแฝดแตอ่ ีกดา้ นหนึง่ ยังมีลกั ษณะกลมอยเู่ พอ่ื ใหส้ อดเข้ากับตวั ของปี่ได้ เสยี ง ของเปย็ ออมีลกั ษณะแหบทมุ้ และกังวาน
ดนตรใี นวฒั นธรรมต่างประเทศ ดนตรใี นวัฒนธรรมเวยี ดนาม • ดนตรีของประเทศเวยี ดนามทมี่ ีชื่อเสียง เป็นผลงานนับต้ังแต่ยคุ สารดิ คือ การสรา้ งกลองโลหะสาริดขนาดใหญ่ ท่ีเรียกว่า “มโหระทกึ ” ใช้ในพธิ กี รรมทางการเกษตร โดยเฉพาะในพิธขี อฝน บา้ งก็ว่านาไปใชใ้ นการตบี อกสัญญาณในการสรู้ บ กลองมโหระทึก วัฒนธรรมดองซอน ประเทศเวียดนามสรา้ งขนึ้ ตงั้ แตย่ ุคสารดิ • ดนตรีของเวียดนาม จะจัดแบ่งเคร่ืองดนตรีออกเป็น ๘ ประเภท คือ หิน โลหะ เส้นใยไหม ไม้ไผ่ ไม้เน้ือแข็ง หนังสัตว์ น้าเต้า และดินเผา มีลักษณะคล้ายกับเคร่ืองดนตรีของจีน เน่ืองจากได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของจีน เคร่ืองดนตรี ของเวียดนามทค่ี วรรจู้ ัก เช่น
เครอื่ งดนตรเี วยี ดนามท่ีควรรจู้ กั ดา่ นตาม เป็นเครือ่ งดนตรีประเภทพณิ ของประเทศเวียดนาม ปัจจบุ ันนยิ มนาไปประสมในวงดนตรอี อร์เคสตราของเวียดนาม • ป่ีเสน เป็นเครื่องดนตรีประเภทเคร่ืองเป่า เลาของปี่เสนทาด้วยไม้ไผ่ ล้ินทาด้วยผิวไผ่หรือโลหะแผ่นบางๆ ลาตัว ของป่ีเจาะรูเปล่ียนเสียงจานวน ๗ รู เมื่อจะเป่า ผู้เป่าต้องอมปลายด้านหนึ่งท่ีเป็นส่วนของลิ้นเข้าไว้ในปาก แล้ว บังคบั ลมออกมา • ปี่ตอ๊ ด เปน็ เครอื่ งดนตรีประเภทเครอื่ งเปา่ เลาของป่ตี อ๊ ดทาดว้ ยไมไ้ ผ่ ลาท่อกว้างประมาณ ๑ เซนติเมตร เม่ือเป่า จะใช้จมูกเป่าลมเข้าไป ดังน้ัน ขณะท่ีเป่าจึงใช้ช่องเสียงแนบกับจมูก จากนั้น จึงเป่าลมเข้าไปภายในให้เกิดเสียง ปตี่ ๊อดนิยมนามาใช้เปา่ ประกอบการรอ้ งเพลงกลอ่ มเดก็ • ด่านตาม เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของเวียดนามประเภทพิณ กล่องเสียงทาด้วยไม้รูปทรงสี่เหล่ียม คันพิณยาว มีสายจานวน ๓ สาย นอกจากการดีดเล่นท่ัวไปแล้ว ยังนิยมนาด่านตามไปประสมในวงดนตรีออร์เคสตรา (Orchestra) ของเวยี ดนามด้วย • ตรืงบาฮนาร เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเคาะของชนเผ่า ทาด้วยไม้ ๑๒ อัน ตีด้วยไม้ท่อน เพ่ือช่วยสร้าง จังหวะในการบรรเลง ซึ่งตัวท่อนทาด้วยไม้ไผ่ หรือแก่นไม้ นามตกแต่งให้ได้เสียงตามต้องการ ปัจจุบันพัฒนาโดย ใชโ้ ลหะแทนไม้ • จ่าง เป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ ของประเทศเวียดนาม ไม่ว่าจะ เป็นชนกลมุ่ นอ้ ยเผ่าเอเดยารายในเตยเงเวียนและชนกล่มุ น้อยเผ่าอื่นๆ แตจ่ า่ งของชนเผ่ามง้ จงั หวดั หา่ ยาง ถอื เป็น เคร่อื งดนตรที ่มี ีเอกลกั ษณ์อนั โดดเดน่ และเป็นเครื่องดนตรีคู่กายคู่ใจของหน่มุ - สาวชาวม้งทใ่ี ชส้ ่ือรกั กัน
ดนตรใี นวฒั นธรรมต่างประเทศ ดนตรีในวัฒนธรรมพมา่ • วัฒนธรรมดนตรขี องพม่า มที ั้งดนตรีแบบแผนท่เี ปน็ ของราชสานกั ดนตรีของราษฎรและดนตรีของกลุ่มชาติ พันธ์ุต่างๆ บทบาทของดนตรีจะถูกนามาใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เพื่อความรื่นเริง ตลอดจนใช้ ประกอบการแสดงดว้ ย • วงดนตรีท่ีสาคัญ คือ วงซายวาย เป็นวงดนตรี เป็นวงดนตรีแบบแผนท่ีรู้จักกันทั่วไป และถือเป็นวงดนตรี ประจาชาติ ใช้บรรเลงในงานพิธีของทางราชการ งานต้อนรับอาคันตุกะของรัฐบาล งานท่ีเก่ียวข้องกับ พิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนา ตลอดจนใช้ในงานพิธกี รรมของราษฎรอีกด้วย
เครอื่ งดนตรีกัมพชู าท่ีควรรู้จัก • ปเ่ี นห์ เปน็ ปที่ มี่ ีลาโพง กาพวดปี่ ล้ินปีท่ าด้วยใบตาล เลาป่ีมีรู ๗ รู สาหรับเปล่ยี นระดับเสียง ปี่เนห์จะมีอยู่ด้วยกัน หลายขนาด ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ • มองซาย มลี กั ษณะเหมือนฆอ้ งของประเทศไทย จดุ กาเนิดเสียงอยู่ท่ีการนาเอา “ลูกโหม่ง” ท่ีพม่าเรียกว่า “มอง” ซ่งึ เป็นโลหะทองเหลอื งที่ถูกตีข้ึนรูปให้กลมและแบนบางอยา่ งถาด มีปุ่มนนู ขนึ้ เป็นจดุ กระทบตรงกลางมาประกอบ ติดกันเป็นจานวน ๓ ราง จากน้ันนาไปร้อยเชือกผูกไว้ในรางไม้ ซึ่งพม่าเรียกว่า “ซาย” สาหรับใช้ไม้ตี มองซาย หนึ่งชุดจะมีลูกโหม่งจานวนทั้งหมด ๑๗ - ๑๘ ใบ ไล่เรียงขนาดจากใหญ่ไปหาเล็ก จัดเป็นเคร่ืองดนตรีท่ีนิยม นามาใช้ในวงซายวายของพมา่ • ซองเกาะ เป็นพิณพม่าท่ีมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของดนตรีพม่า เป็นเครื่องดนตรีของราชสานักและชน ชั้นสูง ศิลปะการเล่นซองเกาะได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเน่ืองเดิมซองเกาะจะมีสายเพียง ๓ สาย แต่นักดนตรี พม่าไดเ้ พม่ิ เป็น ๑๖ สาย ดงั ท่ีปรากฏใหเ้ ห็นในปจั จุบัน ซองเกาะเปน็ เครอ่ื งดนตรที นี่ ยิ มนามาบรรเลงในงานสาคัญ ต่างๆ ของทางการ สามารถนามาใชใ้ นการบรรเลงเด่ียวและบรรเลงประกอบกรขับรอ้ ง ซองเกาะ เปน็ พณิ พม่าทม่ี ีความสวยงามและถอื เป็นเคร่ืองดนตรขี อง ราชสานักและชนชัน้ สงู
ดนตรีในวฒั นธรรมตา่ งประเทศ ดนตรีในวฒั นธรรมอนิ โดนเี ซยี • ประเทศอินโดนีเซียได้รับอิทธิพลเครื่องดนตรีสาริดมาจากวัฒนธรรมดองซอนของประเทศเวียดนาม นอกจากมโหระทึก แล้วก็มีการสร้างฆ้อง แผ่นตีสาริดขนาดต่างๆ สาหรับใช้เป็นเครื่องตี รวมทั้งมีการสร้างเครื่องดนตรีอื่นๆ อีกหลายชนิด และสามารถนามาประสมวงเป็นวงดนตรีขนาดใหญ่ได้ เรยี กวา่ “วงกาเมลนั ” • ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีอินโดนีเซียกับดนตรีไทย มีปรากฏมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยประเทศไทยได้นาเอาปี่ชวา กลองแขกมาบรรเลงในการราอาวุธ ใช้บรรเลงในขบวนแห่พยุหยาตรา มีการนาวรรณกรรมของชวามาแต่งเป็น บทละครเรื่องอิเหนาและเรือ่ งดาหลงั ใช้สาหรบั แสดงละครใน มกี ารนากลองแขกของชวามาตีเข้ากบั ป่ชี วา • ในสมัยรัตนโกสินทร์ หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ยังได้นาเคร่ืองดนตรีอังกะลุงเข้ามาในประเทศไทย และมกี ารแตง่ เพลงไทยให้มีสาเนยี งชวา สาหรับใชใ้ นการบรรเลงอังกะลงุ อีกด้วย
เคร่ืองดนตรีอนิ โดนีเซียท่คี วรรจู้ ัก • รือบับ เป็นเครื่องดนตรีประเภทเคร่ืองสายท่ีใช้คันชักอิสระ โดยทั่วไปมี ๒ สาย บางถ่ินมี ๓ สาย รูปร่างของรือบับ มีลักษณะคล้ายกับซอสามสายของไทย ใช้บรรเลงเด่ียวและบรรเลงประกอบการขับร้องท้ังในวงกาเมลันและ ใน วงดนตรขี องชาวบ้านทัว่ ไป • ซารอน เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี มีแผ่นโลหะจานวน ๕ - ๗ ชิ้น มีลักษณะคล้ายกับแผ่นระนาดเหล็ก ของไทย ต้ังเรยี งโดยมีหลกั โลหะปักหัว - ทา้ ย มรี างทาดว้ ยไม้ เพือ่ เป็นกลอ่ งเสียงใช้ไม้ตีทที่ าดว้ ยเขาควาย • ซูลิง เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่องเป่าทาด้วยไม้ไผ่ มีลักษณะคล้ายกับขลุ่ย มีหลายขนาดให้เสียงที่ไพเราะ ใชป้ ระสมในวงกาเมลนั บรรเลงประกอบการขับร้องและในกิจกรรมตา่ งๆ • เซรูไน เป็นเครื่องดนตรีประเภทเคร่ืองเป่าท่ีมีล้ินคู่ มีกาพวดสาหรับเสียบเข้ากับเลา ที่เลามีรูเปิด - ปิดเสียง ส่วนปลายเป็นปากลาโพงมีทั้งท่ีทาด้วยไม้และโลหะ มีหลายขนาด ใช้ประสมในวงฆ้องกลอง นิยมบรรเลงประกอบ พิธีกรรมและประกอบการแสดงสีละ
เหตกุ ารณ์ประวตั ศิ าสตร์กบั การเปลี่ยนแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย • ดนตรีเป็นศิลปะของมนุษยชาติที่ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดทางวัฒนธรรมของแต่ละวัฒนธรรม จึงย่อมมีการ ผสมผสาน ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ซึ่งปัจจัยสาคัญ ๒ ประการ ที่มีอิทธิพลต่องานดนตรีของ ประเทศไทย คอื การเปลีย่ นแปลงทางการเมอื งกับงานดนตรี การเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยีกับงานดนตรี
เหตกุ ารณป์ ระวัตศิ าสตร์กับการเปลี่ยนแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงทางการเมอื งกับงานดนตรี ชว่ งปฏริ ูปการปกครองแผ่นดิน • เพลงสรรเสรญิ พระบารมี เกิดจากเมื่อครั้งท่ีพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) เสด็จประพาส เกาะชวา เม่ือปี พ.ศ. ๒๔๑๔ ขณะท่ีประทับอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ วงดุริยางค์ของอังกฤษต้องการบรรเลงเพลง เกยี รติยศเพ่ือรบั เสดจ็ • สมัยน้ันประเทศไทยยังไม่มีเพลงเกียรติยศ จึงใช้เพลง “God Save the Queen” เพลงเกียรติยศของอังกฤษ บรรเลงรับเสดจ็ แทน และเมอ่ื ทรงเสด็จไปยงั เมืองปัตตาเวีย ประเทศอินโดนีเซีย ชาวฮอลันดาก็ได้สอบถามถึงเพลง ประจาพระองค์ เพือ่ จะไดน้ าไปบรรเลงรบั เสดจ็ เช่นเดียวกนั • เม่อื เสด็จนวิ ัตสปู่ ระเทศไทย ทรงโปรดเกล้าฯ ใหด้ าเนินการใหม้ เี พลงเกียรติยศสาหรับกษัตริย์ ครูดนตรีไทยได้เลือก เพลงบุหลนั ลอยเลือ่ นในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั (รชั กาลที่ ๒) มาปรบั ปรุงเป็นเพลงสรรเสริญ พระบารมี แต่ทว่ งทานองจังหวะยงั ไม่เหมาะสมกับการใช้เครื่องดนตรีสากลบรรเลง
เหตุการณ์ประวัตศิ าสตร์กับการเปลย่ี นแปลงทางดนตรีในประเทศไทย การเปลีย่ นแปลงทางการเมืองกบั งานดนตรี • ต่อมาโปรดเกล้าฯ ให้นาทานองเพลงท่ีครูดนตรีชาวฮอลันดาเป็นผู้แต่งมาใช้ ส่วนเน้ือร้องเป็นบทพระนิพนธ์ของ สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ เจา้ ฟ้าจติ รเจรญิ กรมพระยานริศรานวุ ัดติวงศ์ ภายหลงั พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว (รชั กาลที่ ๖) ทรงปรับคาบางแห่งให้สอดคล้องกันดงั เน้อื เพลงทีใ่ ช้รอ้ งกนั อยู่ในปจั จุบัน • สาหรับเพลงมหาชัย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงพระนิพนธ์ข้ึน เพ่อื ใช้เปน็ เพลงเกยี รตยิ ศของประธานในพิธีที่เปน็ พระบรมวงศานุวงศ์ช้ันผู้ใหญ่ เช่น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปน็ ต้น • ส่วนเพลงมหาฤกษ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจา้ ฟา้ บริพตั รสุขมุ พนั ธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงนาทานอง ของเก่าครั้งสมยั อยธุ ยามาพระนพิ นธข์ น้ึ ให้เปน็ ทานองอย่างเพลงฝรั่ง ใช้ในวโรกาสที่เก่ียวกับฤกษ์พิธี หรือช่วงเวลา ที่สาคัญที่สดุ ของงาน รวมท้ังใช้บรรเลงตอ้ นรับประธานในพธิ ีท่ีมไิ ดเ้ ป็นพระบรมวงศานุวงศ์
เหตุการณ์ประวัตศิ าสตร์กับการเปล่ียนแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย การเปลยี่ นแปลงทางการเมืองกบั งานดนตรี ช่วงหลังการเปลีย่ นแปลงการปกครอง • ภายหลงั เปลย่ี นแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธปิ ไตย เม่ือเดือนมถิ ุนายน ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้มีการใช้เพลง ชาติฉบับท่ีพระเจนดุริยางค์ (ปติ ิ วาทยะกร) ประพันธ์ทานอง และขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์ุ) ประพันธ์ เน้ือเพลง แตใ่ ช้เปน็ ช่วงระยะเวลาส้นั ๆ อย่างไมเ่ ปน็ ทางการ • ในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ รัฐบาลได้จัดประกวดเนื้อร้องเพลงชาติข้ึนใหม่ ผลปรากฏว่าเนื้อร้องของขุนวิจิตรมาตรายังคง ได้รับการรับรองให้ใช้อีกต่อไป แต่มีการเพิ่มเนื้อร้องของนายฉันท์ ขาวิไล ต่อท้ายเข้ามาอีก ๒ บท ทาให้เนื้อร้อง เพลงชาติยาวมาก • เมอ่ื เปลยี่ นชือ่ ประเทศจากสยามมาเปน็ ไทย ในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ทางราชการจึงเลือกใช้ทานองเพลงเดิมของพระเจน ดุริยางค์ ใช้เน้ือเพลงของพันเอกหลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) ซ่ึงแต่งในนามของกองทัพบกได้รับ คดั เลอื กและนามาใช้อย่างเปน็ ทางการ นบั ตง้ั แต่วนั ท่ี ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ เป็นต้นมา
เหตกุ ารณ์ประวัตศิ าสตร์กับการเปล่ียนแปลงทางดนตรีในประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงทางการเมอื งกับงานดนตรี ชว่ งสมยั รฐั นยิ ม • การเมืองของประเทศไทยหลังปี พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นตน้ มา รฐั บาลมคี วามตอ้ งการจะพัฒนาประเทศใหม้ ีความทนั สมยั เหมอื นอยา่ งตะวันตก รวมทั้งต้องการปลูกฝังให้คนไทยมีความคิดแบบชาตินิยม จึงพยายามกาหนดวัฒนธรรมใหม่ ให้คนไทยยึดถือปฏิบัติแนวความคิดนี้มีความชัดเจนมากในรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งดารงตาแหน่ง นายกรัฐมนตรี ระหวา่ งปี พ.ศ. ๒๔๘๑ - ๒๔๘๗ • จอมพล ป. พิบูลสงครามได้ออกประกาศรัฐนิยมถึง ๑๒ ฉบับ ซ่ึงประกอบไปด้วยกิจกรรมหลายลักษณะ รวมทั้ง ดนตรีก็ถูกนาไปมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้สึกชาตินิยมด้วย ซ่ึงหน่วยงานท่ีเป็นหลักในการดาเนินงานสร้าง จิตสานึกรักชาติ ได้แก่ กรมศิลปากรและกรมโฆษณาการ บุคคลสาคัญท่ีมีบทบาทในการทางานก็คือ หลวงวิจิตร วาทการ (กิมเหลยี ง วัฒนปฤดา) ที่ใช้ละครเป็นเครอื่ งมือสื่อสารแนวคิดในการรกั ชาติ
เหตุการณป์ ระวตั ิศาสตร์กบั การเปลย่ี นแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย การเปลีย่ นแปลงทางการเมืองกับงานดนตรี • ละครปลุกใจเร่ืองต่างๆ ของหลวงวิจิตรวาทการ จะเน้นเนื้อหาสาระให้ผู้ชมตระหนักถึงความสามัคคี ความรักชาติ ความเสยี สละเพ่ือส่วนรวมผ่านตัวละคร บทร้อง และทานองเพลง ดังท่ีปรากฏในบทละครเร่ืองเลือดสุพรรณ เรื่อง ราชมนู เรอ่ื งศึกถลาง เร่ืองเจ้าหญิงแสนหวี เรือ่ งมหาเทวี ละครเร่อื งเลือดสุพรรณ เป็นละครท่ปี ลกุ ใจให้รกั ชาติ
เหตกุ ารณป์ ระวัติศาสตร์กบั การเปลี่ยนแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย การเปล่ยี นแปลงทางการเมอื งกับงานดนตรี ช่วงเหตกุ ารณ์ ๑๔ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๑๖ • สภาพเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะน้ัน ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินสร้างสรรค์ดนตรีและบทเพลงออกมารับใช้ สังคมเป็นจานวนมาก โดยเฉพาะบทเพลงเพ่ือชีวิต เพลงที่มีเน้ือหาสาระบอกเล่าเร่ืองราวความเป็นไปในสังคม ใหเ้ ห็นความยากไร้ของชนชน้ั กรรมาชพี การตอ่ ต้านสนิ คา้ ตา่ งชาติ ความไม่เปน็ ธรรม • เพลงเพื่อชีวิตจะใช้เครื่องดนตรีง่ายๆ แล้วแต่ความถนัด ผสมผสานระหว่างเคร่ืองดนตรีตะวันออกกับเครื่องดนตรี ตะวันตก วงดนตรีเพอื่ ชวี ติ ในยคุ น้นั มีอย่หู ลากหลายวงเชน่ วงคาราวาน วงแฮมเมอร์ เปน็ ตน้
เหตุการณ์ประวตั ิศาสตร์กับการเปลย่ี นแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย การเปล่ยี นแปลงทางการเมืองกบั งานดนตรี • มีดนตรีในอีกลักษณะหนึ่ง คือ เพลงปลุกใจ ท่ีมีเน้ือหาสาระเน้นให้รักชาติ รักแผ่นดิน ต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ ต่อตา้ นผู้ท่ีทาใหบ้ า้ นเมอื งเกิดความวนุ่ วาย เช่น เพลงหนักแผ่นดิน เพลงถามคนไทย เพลงอยุธยาราลึก เพลงรักกัน ไว้เถดิ เพลงตื่นเถิดชาวไทย เพลงตน้ ตระกูลไทย เป็นตน้ • ปจั จุบัน สภาพบา้ นเมืองมีการเปลย่ี นแปลงไปมาก แมจ้ ะมกี ารเปล่ียนแปลงทางการเมืองที่สาคัญเกิดขึ้นในประเทศ ไทย แต่สภาพดนตรีก็ยังไม่เปล่ียนแปลงรูปแบบไปมากนัก เพียงแต่มีการปรับให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและการ แขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ ของธุรกจิ ค่ายเพลง
เหตกุ ารณ์ประวัติศาสตร์กับการเปลยี่ นแปลงทางดนตรีในประเทศไทย การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยกี ับงานดนตรี • การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้ส่งผลให้งานดนตรีมีการพัฒนา ท้ังในระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องดนตรี เครื่องบันทึกเสียง เครอื่ งขยายเสียง และการปรับปรุงรปู แบบของดนตรจี นเกดิ ประสิทธภิ าพสูงสดุ • โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva-Edison) นักวิทยาศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงของโลก ได้คิดประดิษฐ์เครื่องมือสาหรับใช้บันทึก เสียงดนตรีข้ึน และเรียกเครื่องมือชนิดนี้ว่า“เครื่องบันทึกเสียง เอดิสัน โฟโนกราฟ” (Edison Phonograph) ใช้บันทึกทานอง และจังหวะของบทเพลงเพื่อสื่อไปถึงผู้ฟังได้ มีความแตกต่างไป จากการบนั ทกึ เพลงดว้ ยตัวโนต้ เหมอื นแต่ก่อน โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison)
เหตกุ ารณป์ ระวตั ศิ าสตร์กบั การเปลี่ยนแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย การเปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยกี ับงานดนตรี • มีการเร่ิมต้นการพัฒนาระบบการบันทึก เสียงดนตรีอีกหลายรูปแบบในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเสียงลงใน กระบอกเสียงไขขี้ผึ้ง (Wax Cylinder) การบันทึกเสียงลงในจานเสียงหรือแผ่นเสียง ใช้เปิดกับเคร่ืองเล่นจานเสียง (Gramophone) เครือ่ งเล่นจานเสยี ง (Gramophone) • นอกจากการประดิษฐ์เคร่ืองมือเก่ียวกับการบันทึกเสียงแล้ว ยังมีการปรับปรุงคุณภาพของงานดนตรีโดยนักฟิสิกส์ ชื่อว่า “อเล็กซานเดอร์ เจ. เอลลิส” (Alexander J. Ellis) ได้ศึกษาวิธีวัด ระยะขั้นคู่เสียง โดยกาหนดให้ ๑ ช่วง ทบเสียง (Octave) มีค่าเท่ากับ ๑,๒๐๐ เซ็นต์ โดยแบ่งระยะครึ่งเสียงในดนตรีตะวันตกเท่ากับ ๑๐๐ เซ็นต์ วิธีคิด เชน่ นี้ยงั คงใชม้ าจนถึงปัจจุบนั
เหตกุ ารณป์ ระวตั ิศาสตร์กบั การเปล่ียนแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย การเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยีกับงานดนตรี • ในประเทศไทย เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสาคัญในการเผยแพร่งานดนตรีให้ได้รับความนิยมจากนักฟังเพลง มากขึ้น เพราะนบั ตงั้ แต่ทม่ี ีการเปดิ ใชไ้ ฟฟ้าคร้งั แรกในพระนคร เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๔๒๗ โดยจอมพลเจ้าพระยาสุรศักด์ิ มนตรี (เจิม แสงชูโต) ได้มอบหมายให้ครูฝึกทหารชาวอิตาลีเป็นผู้ดาเนินการจัดซื้อเครื่องจักรไฟฟ้าจากประเทศ องั กฤษ • เมื่อมีกระแสไฟฟ้าแล้ว พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกาแพงเพชรอัครโยธิน ได้ทรงเริ่มกระจายเสียงจากวังบ้านดอกไม้ เมื่อวันท่ี ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๖ กระจายเสียงข่าวสารของทาง ราชการ มีรายการบรรเลงดนตรีของวงต่างๆ ตามมาท้ังวงดนตรีสากล วงดนตรีไทยสากล และวงดนตรีไทย ฯลฯ ทาใหป้ ระชาชนมโี อกาสไดร้ ับฟงั ขา่ วสารและบทเพลงจากรายการตา่ งๆ ทั้งในพระนครและต่างจังหวัด
เหตุการณ์ประวตั ศิ าสตร์กับการเปลีย่ นแปลงทางดนตรใี นประเทศไทย การเปล่ยี นแปลงทางเทคโนโลยีกับงานดนตรี • ในปจั จบุ ันพัฒนาการของการดนตรไี ดป้ รบั ตามเทคโนโลยีระบบดจิ ทิ ลั คอื นอกจากการนาเสยี งดนตรีไปสผู่ ฟู้ ังผ่าน ทางวิทยุกระจายเสียงแล้ว ยังพัฒนาไปสู่การเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต จนเข้าสู่ระบบ ดาวเทียมที่ในปจั จบุ นั ถือวา่ เป็นส่อื เผยแพรท่ ี่มคี วามสาคัญในการนาเพลงไพเราะส่กู ลุม่ ผฟู้ ังเพลงทวั่ โลก • ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้ส่งผลให้งานดนตรีมีการพัฒนา ท้ังในระบบคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเครื่องดนตรี เครื่องบันทึกเสียง เครื่องขยายเสียง และปรับปรุงรูปแบบของดนตรีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพ่ือนาบทเพลง ไพเราะสู่ผูฟ้ ังใหไ้ ด้รบั ความสุขอยา่ งเต็มที่
อิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภาพเครอ่ื งดนตรที ใ่ี ชใ้ นวฒั นธรรมตา่ งประเทศ และเขยี นอธบิ ายลกั ษณะของ เครอ่ื งดนตรี เคร่อื งดนตรีของอินเดีย (ตดิ ภาพ) เคร่อื งดนตรีชนิดนี้ คือ................................................................. มีลกั ษณะดงั นี้ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ..........................................................................................................
อิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภาพเครอ่ื งดนตรที ใ่ี ชใ้ นวฒั นธรรมต่างประเทศ และเขยี นอธบิ ายลกั ษณะของ เครอ่ื งดนตรี เครื่องดนตรีของจีน (ตดิ ภาพ) เคร่อื งดนตรีชนิดนี้ คือ................................................................. มีลกั ษณะดงั นี้ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ..........................................................................................................
อิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภาพเครอ่ื งดนตรที ใ่ี ชใ้ นวฒั นธรรมตา่ งประเทศ และเขยี นอธบิ ายลกั ษณะของ เครอ่ื งดนตรี เครื่องดนตรีของเวียดนาม (ตดิ ภาพ) เคร่ืองดนตรีชนิดนี้ คือ................................................................. มีลกั ษณะดงั นี้ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ..........................................................................................................
อิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภาพเครอ่ื งดนตรที ใ่ี ชใ้ นวฒั นธรรมตา่ งประเทศ และเขยี นอธบิ ายลกั ษณะของ เครอ่ื งดนตรี เคร่อื งดนตรีของกมั พชู า (ตดิ ภาพ) เคร่อื งดนตรีชนิดนี้ คือ................................................................. มีลกั ษณะดงั นี้ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ..........................................................................................................
อิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภาพเครอ่ื งดนตรที ใ่ี ชใ้ นวฒั นธรรมต่างประเทศ และเขยี นอธบิ ายลกั ษณะของ เครอ่ื งดนตรี เครื่องดนตรีของพม่า (ตดิ ภาพ) เครือ่ งดนตรีชนิดนี้ คือ................................................................. มีลกั ษณะดงั นี้ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ..........................................................................................................
อิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตดิ ภาพเครอ่ื งดนตรที ใ่ี ชใ้ นวฒั นธรรมตา่ งประเทศ และเขยี นอธบิ ายลกั ษณะของ เครอ่ื งดนตรี เคร่ืองดนตรีของอินโดนีเซีย (ตดิ ภาพ) เครื่องดนตรีชนิดนี้ คือ................................................................. มีลกั ษณะดงั นี้ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ..........................................................................................................
อิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ ตอนที่ 2 คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลือกดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ 1 ประเทศ แลว้ เขียนอธิบายอิทธิพลของดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ ที่มีต่อดนตรีในวฒั นธรรมไทย .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: