ประวัติศาสตร์ 3 ม.5 ครูทวิช

สอื่ การเรียนรู้ (On-Hand) รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ 3 รหัสวชิ า ส32102 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ผ้สู อน นายทวิช บญุ ญะถิติ ตาแหนง่ ครูชานาญการ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นขนุ ยวมวทิ ยา อาเภอขุนยวม จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามัธยมศกึ ษาแม่ฮอ่ งสอน

19/05/64 หนวยการเรยี นรทู ่ี 1 แบง เปน 2 เรือ่ ง การแบงยคุ สมยั ยคุ สมยั และ หลักฐานทาง ทางประวัตศิ าสตร หลักฐานทาง ประวตั ิศาสตร ประวัติศาสตร 1 ตัวชวี ดั รายวชิ าประวัตศิ าสตร 3 รหสั วิชา ส32102 ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 5 เวลา 20 ชัว่ โมง จาํ นวน 0.5 หนวยกติ ภาคเรยี นท่ี 1 1.วิเคราะหอิทธิพลของอารยธรรรมโบราณ และการติดตอระหวางโลก ตะวนั ออกกบั โลกตะวันตกที่มี ผลตอพัฒนาการและการเปลยี่ นแปลงของโลก 2. วเิ คราะหเหตุการณสําคญั ตา ง ๆ ท่ีสง ผลตอการเปล่ยี นแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งเขา สโู ลกสมัยปจ จบุ ัน 2 1

19/05/64 การแบงยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร 3 แบบทดสอบกอน-หลังเรยี น หนวยการเรยี นรูท ่ี 1 ยุคสมยั และหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร 4 2

19/05/64 เลอื กคําตอบท่ถี ูกตองที่สุดเพียงคําตอบเดียว 1. ยคุ สมัยทางประวัติศาสตรในขอใดที่อยูในชว งเวลาติดตอ กนั ก ยคุ หินใหม่–ยคุ เหลก็ ข ยคุ หินใหม่–ยคุ สาํ ริด ค ยคุ หินเก่า–ยคุ หินใหม่ ง ยคุ หินเก่าตอนกลาง–ยคุ หินกลาง 5 2. ขอใดคือเครอ่ื งมอื ยุคหินเกา ตอนตน ก ฉมวก ข หวั ลูกศร ค ขวานกะเทาะแบบกาํ ปัน ง เคียวหินเหลก็ ไฟดา้ มไม้ 6 3

19/05/64 3. ขอ ใดกลา วไมถ กู ตอ งเกยี่ วกับสังคมยคุ เหลก็ ก มีชนชนั ต่าง ๆ ข เป็นชุมชนเมือง ค อพยพตามฝงู สัตว์ ง แบ่งความสมั พนั ธ์ตามความสามารถ 7 4. ประวตั ิศาสตรตะวนั ตกสมยั ปจจุบันหมายถงึ ชว งเวลาใด ก หลงั สงครามเยน็ –ปัจจุบนั ข หลงั สงครามโลกครังที 1–ปัจจุบนั ค หลงั สงครามโลกครังที 2–ปัจจุบนั ง หลงั การปฏิวตั ิอุตสาหกรรม–ปัจจุบนั 8 4

5. อะไรเปนหลกั ฐานชัน้ รอง 19/05/64 ก ศิลาจารึก ข ลูกปัดแกว้ 9 ค ตราประทบั ดินเผา ง หนงั สือเรียนประวตั ิศาสตร์ 6. ขอ ใดเปนหลักฐานประวัติศาสตรอนิ เดียสมัยกอ นประวัติศาสตร ก สโตนเฮนจ์ ข โครงกระดูกมนุษยส์ ไตนไ์ ฮม์ ค ภาพเขียนสีววั ป่ าทีถาํ อลั ตามีรา ง เมืองโบราณโมเฮนโจดาโร และฮารัปปา 10 5

19/05/64 7. ขอ ใดกลา วถึงหลักฐานทเี่ ปน ลายลักษณอ ักษร ในสมัยราชวงศช างของจนี ไดถูกตอ ง ก เป็นอกั ษรภาพ ข จารึกลงบนกระดาษ ค ใหข้ อ้ มูลทางดา้ นการแพทย์ ง บนั ทึกเกียวกบั พระราชประวตั ิ 11 8. ประมวลกฎหมายฮัมมรู าบเี ปน กฎหมายจารกึ ของอารยธรรมอะไร ก จีน ข อียปิ ต์ ค อินเดีย ง เมโสโปเตเมีย 12 6

19/05/64 9. หลกั ฐานทางประวัติศาสตรขอใดเกาแกท ่ีสุด ก คมั ภีร์พระเวท ข ตาํ ราอรรถศาสตร์ ค คมั ภีร์มานวธรรมศาสตร์ ง ศิลาจารึกของพระเจา้ อโศกมหาราช 13 10. จดุ ประสงคของการทําสนธิสญั ญาแวรซ ายคอื อะไร ก จดั ประชุมสันติภาพ ข ตอ่ ตา้ นการทาํ สงคราม ค ลงโทษประเทศเยอรมนี ง ประกาศรายชือประเทศผแู้ พส้ งคราม 14 7

19/05/64 ประวตั ิศาสตรส ากล ม.ห4น–6ว ยการเรียนรทู ่ี 1 ยคุ สมยั และหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร 15 การศึกษาประวตั ิศาสตรม จี ดุ มุงหมายเพอื่ อะไร • ศึกษาเรืองราวและพฤติกรรมของมนุษยใ์ นอดีต และสร้างความตระหนกั วา่ อดีตเป็ นบทเรียนสาํ คญั สาํ หรับปัจจุบนั และอนาคต ผทู ่ศี กึ ษาประวัติศาสตรค วรมคี วามรูพ้ืนฐานเก่ียวกบั เรอ่ื งใด • ผศู้ ึกษาประวตั ิศาสตร์จะตอ้ งมีความรู้พืนฐานเกียวกบั เวลาและยคุ สมยั ทาง ประวตั ิศาสตร์ เพือให้รู้วา่ เหตุการณ์ใดเกิดขึนก่อน และเหตุการณ์ใดเกิดขึน หลงั รวมทงั สามารถเลือกหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ทีเหมาะสมมาใชใ้ น การทาํ ความเขา้ ใจเรืองราวทางประวตั ิศาสตร์ 16 8

19/05/64 12 สงิ่ ใดนาจะเกดิ ขึน้ กอ นกัน เพราะอะไร • หลักฐานหมายเลข 1 เกิดขึนก่อน เพราะหลักฐานหมายเลข 1 คือ เครืองมือหินกะเทาะยคุ หินเก่า ซึงถือเป็ นหลกั ฐานสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ • ส่วนหลกั ฐานหมายเลข 2 คือ หลกั ศิลาจารึก เกิดขึนทีหลงั เนืองจากเป็ น หลกั ฐานทีเป็ นลายลกั ษณ์อกั ษร จึงเป็ นหลกั ฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์ 17 1. การแบง ยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร การแบงยุคสมัย สมยั กอน ยคุ หิน ทางประวตั ศิ าสตร ประวัตศิ าสตร ยคุ โลหะ สมยั ประวัติศาสตร การแบ่งยคุ สมยั ในประวตั ิศาสตร์ตะวนั ออก การแบง่ ยคุ สมยั ในประวตั ิศาสตร์ตะวนั ตก ปัจจุบนั องค์การยูเนสโกได้กาํ หนดอายุยุคสมยั เพิมขึนอีก 1 สมัย คือ สมยั กึงก่อน ประวตั ิศาสตร์ ซึงมนุษยใ์ นสังคมนันยงั ไม่รู้จกั การใช้ตัวอกั ษรบนั ทึกเรืองราวของ ตนเอง แต่มีผคู้ นจากสงั คมอืนไดเ้ ดินทางผา่ นและไดบ้ นั ทึกเรืองราวเอาไว้ 18 9

19/05/64 1. การแบงยุคสมัยทางประวตั ศิ าสตร 1.1 สมัยกอ นประวัตศิ าสตร  ช่วงเวลาทีมนุษยย์ งั ไมร่ ู้จกั ใชต้ วั หนงั สือ  ยงั ไมม่ ีเอกสารใด ๆ ทีจดบนั ทึกเรืองราวใหม้ นุษยใ์ นยคุ หลงั ทราบได้  การศึกษาเรืองราวในสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์จึงตอ้ งอาศยั การสนั นิษฐาน และการตีความจากหลกั ฐานทางโบราณคดีและหลกั ฐานทางสภาพแวดลอ้ ม สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์สามารถแบ่งเป็น 2 ยคุ ยคุ หิน ยคุ โลหะ 19 1. การแบงยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร 1.1 สมัยกอนประวตั ิศาสตร ยุคหนิ ยคุ หนิ เกา ตอนตน เครอ่ื งมือหินเปน 2,500,000– 2,500,000– ขวานกะเทาะ 10,500 ป 180,000 ป แบบกําปน • มนุษยย์ คุ นีเริมทาํ ตอนกลาง เครอ่ื งมอื หนิ เครืองมือเครืองใช้ 180,000–49,000 ป แหลมคม มดี า ม ดว้ ยหินอยา่ งง่าย ตอนปลาย เครอ่ื งมอื ทําจากหนิ • ใชว้ สั ดุจาํ พวกหินไฟ 49,000–10,500 ป และกระดกู สตั ว เขม็ เยบ็ ผา หวั ลูกศร 20 10

19/05/64 1. การแบงยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร 1.1 สมัยกอนประวตั ศิ าสตร ยุคหนิ เกา การดาํ รงชีวติ สภาพสังคม 2,500,000– 10,500 ป  หาของป่ า ล่าสตั ว์  สงั คมล่าสตั ว์  เร่ร่อนไปตามฝงู สตั ว์  มีการอยรู่ วมกนั เป็ น  มีการวาดภาพตามผนงั ถาํ ครอบครัว เช่น ถาํ ลาสโก ประเทศ  มีการแบ่งหนา้ ทีกนั ฝรังเศส ผชู้ ายออกล่าสตั ว์ ผหู้ ญิงดูแลเด็กและ หาผลไม้  ทาํ ใหเ้ กิดเครืองมือและ ภาษาพดู 21 1. การแบงยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร 1.1 สมัยกอนประวัตศิ าสตร ยุคหนิ ยคุ หินกลาง ทําเคร่ืองจักสาน/ 10,500–10,000 ป เครอ่ื งมือเคร่อื งใชดว ยหิน มคี วามประณตี มากข้นึ การดาํ รงชีวติ สภาพสังคม  รู้จกั การเลียงสตั ว์  สงั คมลา่ สตั ว์  มีการเพาะปลกู  มีการประกอบอาชีพประมง  ยงั คงเร่ร่อนไปตาม 22 แหล่งทีอดุ มสมบูรณ์ เช่น แหล่งนาํ ชายฝัง ทะเล 11

19/05/64 1. การแบงยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร 1.1 สมัยกอ นประวัติศาสตร ยคุ หนิ ยคุ หนิ ใหม เคร่ืองมอื ประณตี ข้ึน ทาํ จาก 10,000–4,000 ป หนิ กระดกู เขาสัตว ทีส่ ําคญั เชน การดาํ รงชีวติ ขวานหนิ ดา มไม เคียวหินเหลก็ ไฟดา มไม  อาศยั รวมกนั เป็ นหมบู่ า้ น สภาพสงั คม  มีการเพาะปลกู เลียงสตั ว์  ตงั หลกั แหลง่ บริเวณลมุ่ นาํ  สงั คมเกษตรกรรม  รู้จกั ทาํ เครืองปันดินเผา  มีความซบั ซอ้ นขึน  มีการจดั สถานะทางสงั คม ทาํ เครืองจกั สาน  มีการแลกเปลียนทางเศรษฐกิจระหวา่ งชุมชน  มีการแลกเปลียนคา้ ขาย 23 1. การแบง ยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร 1.1 สมัยกอ นประวัตศิ าสตร  มนุษยย์ คุ หินใหมม่ ีความเชือและมีการประกอบพธิ ีกรรมในรูปแบบตา่ ง ๆ เพอื บูชาสิงเหนือธรรมชาติ  หลกั ฐานสาํ คญั เช่น สโตนเฮนจใ์ นประเทศองั กฤษ สนั นิษฐานวา่ เป็ นสถานที ประกอบพิธีกรรมตามความเชือหรือเครืองมือทางดาราศาสตร์ในยคุ หินใหม่ 24 12

19/05/64 1. การแบง ยุคสมัยทางประวัติศาสตร 1.1 สมยั กอนประวัตศิ าสตร ยคุ โลหะ ยคุ สํารดิ เคร่อื งมอื เคร่ืองใชทาํ จากสําริดซ่งึ เปน (4,000–2,700 ป) โลหะผสมระหวา งทองแดงกบั ดบี ุก พบเครื่องมือทําจากดนิ เผา หนิ และแร สภาพสังคม  ชุมชนเมือง  มีการจดั ระเบียบสงั คมเป็ นชนชนั ตา่ ง ๆ  สงั คมมีพฒั นาการไปสู่ความเป็ นรัฐ 25 1. การแบงยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร 1.1 สมยั กอ นประวตั ศิ าสตร ยคุ โลหะ ยุคเหล็ก มีการหลอมเหลก็ เปน เครื่องมอื (2,700–2,000 ป) เครื่องใช และเครอ่ื งประดับตาง ๆ สภาพสงั คม 26  เมือผลิตเหลก็ ได้ ทาํ ใหส้ ามารถ สร้างกองทพั ได้  สงั คมพฒั นาเป็ นรัฐ และกลายเป็ น อาณาจกั รในเวลาตอ่ มา 13

19/05/64 1. การแบงยุคสมัยทางประวัติศาสตร 1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร เป็ นสมยั ทีมีการจดบนั ทึกเรืองราวดว้ ยตวั อกั ษร แตล่ ะสงั คมจะเริมตน้ สมยั ประวตั ิศาสตร์ไมพ่ ร้อมกนั การศึกษาประวตั ิศาสตร์สากลมีความแตกต่างกนั ระหวา่ งการศึกษาประวตั ิศาสตร์ตะวนั ออกกบั ประวตั ิศาสตร์ตะวนั ตก ประวัตศิ าสตร แบ่งยคุ สมยั ตามช่วงเวลาของแต่ละราชวงศห์ รือ ตะวันออก ศูนยก์ ลางอาํ นาจเป็ นเกณฑ์ ประวัติศาสตร แบ่งยคุ สมยั โดยใชเ้ หตุการณ์สาํ คญั ทาง ตะวันตก ประวตั ิศาสตร์เป็ นเกณฑ์ 27 1. การแบงยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร 1.2 สมยั ประวตั ศิ าสตร การแบง ยุคสมยั ในประวตั ศิ าสตรต ะวนั ออก จนี แนวความคิดในการจดั แบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ จีนใชพ้ ฒั นาการทางอารยธรรมและช่วงเวลาทีราชวงศต์ ่าง ๆ มีอาํ นาจ ในการปกครองเป็ นเกณฑ์ สามารถแบ่งยคุ สมยั ออกไดเ้ ป็ น ประวัตศิ าสตรจนี สมยั โบราณ ประวตั ศิ าสตรจีนสมัยกลาง ประวตั ิศาสตรจีนสมัยใหม ประวตั ิศาสตรจ นี สมัยปจจุบนั 28 14

19/05/64 1. การแบงยุคสมัยทางประวัติศาสตร 1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร ปปรระะววัตตั ิศศิ าสาสตตรรจจีนีนสสมมัยัยโบโบรราณาณ o เริมในสมยั ราชวงศช์ าง 1,570–1,045 ปี ประวัติศาสตรจ นี สมัยกลาง ก่อนคริสตศ์ กั ราช ประวัตศิ าสตรจนี สมยั ใหม ประวัตศิ าสตรจ ีนสมัยปจจบุ นั o มกี ารวางรากฐานดา้ นการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม o มีอกั ษรจีนโบราณเขียนลงบนกระดองเต่า ใชใ้ นการเสียงทาย o สมยั ราชวงศโ์ จว เกิดสงครามระหวา่ งเจา้ ผคู้ รองรัฐต่าง ๆ o รัฐฉินไดร้ วบรวมประเทศก่อตงั ราชวงศ์ ฉิน o มกี ารรวมศูนยอ์ าํ นาจเป็นจกั รวรรดิได้ ชดั เจนในสมยั ราชวงศฮ์ นั 29 1. การแบง ยคุ สมยั ทางประวัตศิ าสตร 1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร ประวัตศิ าสตรจีนสมยั โบราณ o เป็นช่วงปรับตวั เพือรับอิทธิพล ปรปะรวะตั วศิ ัตาศิสาตสรตจรนี จ สีนมสัยมกยั ลกาลงาง ต่างชาติ ประวตั ิศาสตรจนี สมัยใหม ประวัติศาสตรจ ีนสมยั ปจจบุ นั o เกิดการแบ่งแยกดินแดนก่อนทีจะมี การรวมประเทศไดใ้ นราชวงศส์ ุย สมยั ราชวงศถ์ งั เป็นช่วงเวลาทีจีน เจริญรุ่งเรืองสูงสุด o สมยั ราชวงศซ์ ่งเป็นสมยั ของ ความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปวฒั นธรรม o ชาวมองโกลสามารถยดึ ครองประเทศ จีนและสถาปนาราชวงศห์ ยวน 30 15

19/05/64 1. การแบงยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร 1.2 สมัยประวัติศาสตร ประวัตศิ าสตรจ ีนสมยั โบราณ o เริมตน้ สมยั ราชวงศ์หมิงขึนปกครองจีน ประวัติศาสตรจนี สมัยกลาง ห ลัง จ า ก นัน ร า ช ว ง ศ์ ชิ ง ข อ ง แ ม น จู ขึ น ปปรระะววัตตั ิศิศาสาสตตรรจจนี นี สสมมัยยัใหใหมม  ปกครองแทน เป็ นช่วงทีจีนได้รับการ ประวตั ศิ าสตรจ นี สมยั ปจ จุบนั ยกย่องว่าประสบความสําเร็ จเกือบ ทุกด้าน นักวิชาการบางท่ านถือว่า ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ใหม่เริมตน้ เมือครัง ราชวงศช์ ิง (ค.ศ. 1644) o ช่วงปลายสมัยราชวงศ์ชิงเป็ นช่วงเวลา ทีประเทศจีนถูกคุกคามจากชาติตะวนั ตก o จีนแพอ้ งั กฤษในสงครามฝิน (ค.ศ. 1839– 1842) ราชวงศช์ ิงสินสุดลงใน ค.ศ. 1911 31 1. การแบงยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร 1.2 สมยั ประวัตศิ าสตร ประวตั ศิ าสตรจนี สมยั โบราณ o เริมตน้ ใน ค.ศ. 1911 ประวตั ิศาสตรจีนสมัยกลาง o จีนปฏิวตั ิการเปลียนแปลงการปกครอง ประวตั ิศาสตรจ ีนสมยั ใหม ปประรวะัตวตัศิ ศิาสาสตตรจรีนจีนสสมมยั ปัยปจจ บุจุบนั นั ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชยม์ าเป็น ระบอบสาธารณรัฐ (ค.ศ. 1911–1949) โดย ดร.ซุน ยตั เซน (Sun Yat-sen) o พรรคคอมมวิ นิสตไ์ ดป้ ฏวิ ตั ิและได้ ปกครองจีน จึงเปลียนการปกครองเป็น ระบอบคอมมิวนิสตต์ งั แต่ ค.ศ. 1949 จนถึงปัจจุบนั 32 16

19/05/64 1. การแบง ยคุ สมัยทางประวัติศาสตร 1.2 สมยั ประวตั ิศาสตร การแบงยคุ สมัยในประวัติศาสตรตะวันออก อินเดีย แนวความคิดในการจดั แบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ อินเดียใชพ้ ฒั นาการของอารยธรรมอินเดียและ เหตุการณ์สาํ คญั เป็ นเกณฑ์ สามารถแบ่งยคุ สมยั ออกไดเ้ ป็ น ประวตั ิศาสตรอ นิ เดยี สมัยโบราณ ประวตั ิศาสตรอ ินเดียสมัยกลาง ประวัติศาสตรอ ินเดยี สมยั ใหม ประวัตศิ าสตรอนิ เดียสมัยปจ จุบัน 33 1. การแบงยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร 1.2 สมัยประวัติศาสตร ปปรระะววตั ตั ศิ ศิ าาสสตตรรอ อ นิ ินเเดดยี ียสสมมัยัยโโบบรราาณณ o เริมตน้ ในสมยั มหากาพย์ (900–600 ปี ก่อน ประวตั ศิ าสตรอ นิ เดยี สมัยกลาง คริสตศ์ กั ราช) ประวตั ิศาสตรอินเดยี สมยั ใหม ประวัตศิ าสตรอ นิ เดียสมัยปจจบุ นั o มีการใชต้ วั อกั ษรอินเดียโบราณบนั ทึกเรืองราว o อินเดียรวมตวั ครังแรกในราชวงศม์ คธ (600–322 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช) o รวมตวั กนั อยา่ งแทจ้ ริงในสมยั ราชวงศเ์ มารยะ (322–184 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช) เป็นช่วงเวลาที พระพทุ ธศาสนาเผยแผไ่ ปยงั ดินแดนต่าง ๆ o อินเดียเขา้ สู่สมยั แห่งความแตกแยกและ การรุกรานจากภายนอก ทงั จากพวกกรีกและ กษุ าณะ เป็นช่วงเวลาของการผสมผสานทาง วฒั นธรรม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเจริญขึนแทน พระพทุ ธศาสนา 34 17

19/05/64 1. การแบง ยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร 1.2 สมัยประวัตศิ าสตร ประวตั ิศาสตรอ ินเดยี สมยั โบราณ o ค.ศ. 535–1526 เป็นช่วงเวลาแห่ง ปประรวะัตวศิัตาศิ สาตสรตอรินอินเดเยีดสยี มสยัมกัยลกาลงาง ความวนุ่ วายทางการเมืองและรุกราน ประวัตศิ าสตรอินเดยี สมัยใหม จากต่างชาติ โดยเฉพาะมสุ ลิม ประวตั ิศาสตรอนิ เดียสมัยปจจบุ ัน o แบ่งออกไดเ้ ป็นสมยั แห่งความแตกแยก ทางการเมอื ง (ค.ศ. 535–1200) และ สมยั สุลต่านแห่งเดลี (ค.ศ. 1200–1526) 35 1. การแบง ยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร 1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร ประวตั ิศาสตรอ ินเดยี สมัยโบราณ o ช่วงเวลานีเรียกว่า สมยั จกั รวรรดิมุคลั ประวตั ิศาสตรอ นิ เดียสมัยกลาง (Mughal Empire ค.ศ. 1526–1858) ปประรวะัตวตัศิ ิศาสาสตตรอรอินินเดเดียสียสมมัยัยใหใหมม  ประวัติศาสตรอ ินเดยี สมัยปจ จุบัน o องั กฤษไดเ้ ขา้ ปกครองอินเดียโดยตรง ใน ค.ศ. 1858 จนถึง ค.ศ. 1947 อินเดีย จึงไดร้ ับเอกราชจากองั กฤษ 36 18

19/05/64 1. การแบงยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร 1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร ประวัตศิ าสตรอินเดียสมยั โบราณ ประวัติศาสตรอ นิ เดียสมยั กลาง ประวตั ิศาสตรอ นิ เดยี สมัยใหม o เริมขึนภายหลังไดร้ ับเอกราชและถูก ปประรวะตัวตัศิ ศิาสาสตตรอรอินนิเดเดยี สียสมมัยยัปปจจ จุบุบนั นั แบ่งแยกออกเป็นประเทศต่าง ๆ ไดแ้ ก่ อินเดีย ปากีสถาน และบงั กลาเทศ 37 1. การแบง ยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร 1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร การแบงยุคสมยั ในประวตั ศิ าสตรตะวนั ตก ตะวันตก นกั ประวตั ิศาสตร์ตะวนั ตกแบ่งยคุ สมยั ออกไดเ้ ป็น 4 สมยั ประวตั ิศาสตรส มยั โบราณ ประวัติศาสตรสมยั กลาง ประวัติศาสตรส มยั ใหม ประวตั ศิ าสตรส มัยปจ จุบนั 38 19

19/05/64 1. การแบง ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร 1.2 สมัยประวัติศาสตร ปปรระะววตั ัติศศิ าาสสตตรรส ส มมัยัยโโบบรราาณณ o เริมขึนเมือ 3,500 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช ประวตั ศิ าสตรสมัยกลาง เป็ นช่วงเวลาทีอารยธรรมเมโสโปเตเมยี ประวตั ศิ าสตรสมยั ใหม ประวตั ิศาสตรส มัยปจจบุ ัน และอารยธรรมอียปิ ตซ์ ึงเป็นอารยธรรม ทีเก่าแก่ทีสุดในโลกเจริญรุ่งเรือง o สินสุดเมือ ค.ศ. 476 เมอื จกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ตกล่มสลาย 39 1. การแบง ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร 1.2 สมัยประวัตศิ าสตร ประวตั ศิ าสตรสมัยโบราณ o เป็นช่วงทีตะวนั ตกรับอิทธิพลจาก ปปรระะววตั ตั ิศศิ าาสสตตรรส สมมยั ัยกกลลาางง คริสตศ์ าสนาเป็นอยา่ งมาก ประวัติศาสตรสมยั ใหม ทงั ทางดา้ นการเมอื ง เศรษฐกิจ สังคม ประวัตศิ าสตรส มยั ปจ จบุ ัน และศิลปวฒั นธรรม o สังคมในสมยั กลางมลี กั ษณะเป็น สังคมระบบฟิ วดลั (feudalism) o เป็นสมยั ทีคริสตศ์ าสนาขดั แยง้ กบั ศาสนาอิสลามจนเกิดสงครามครูเสด o สมยั นีสินสุดลงเมอื พวกออตโตมนั เติร์ก ยดึ อาณาจกั รโรมนั ตะวนั ออก 40 20

19/05/64 1. การแบงยุคสมัยทางประวตั ศิ าสตร 1.2 สมยั ประวัติศาสตร ประวัตศิ าสตรสมัยโบราณ o เป็นสมยั แห่งความรุ่งเรืองทาง ประวตั ิศาสตรส มัยกลาง ศิลปวทิ ยาการของอารยธรรม ปปรระะววตั ตั ิศิศาสาสตตรรสส มมัยยัใหใหมม  ตะวนั ตกและแผอ่ ิทธิพลไปยงั ดินแดน ประวัตศิ าสตรสมยั ปจจุบนั อืน ๆ o มกี ารสาํ รวจเส้นทางเดินเรือ o เป็นยคุ การปฏิวตั ิวทิ ยาศาสตร์ o เป็นยคุ แห่งการรู้แจง้ o เป็นสมยั ประชาธิปไตย สมยั ชาตินิยม สมยั จกั รวรรดินิยมใหม่ และ สมยั สงครามโลก o สินสุดลงเมือ ค.ศ. 1945 เมือสงคราม โลกครังที 2 ยตุ ิ 41 1. การแบงยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร 1.2 สมยั ประวัติศาสตร ประวัติศาสตรสมยั โบราณ o เป็นช่วงสมยั หลงั สงครามโลกครังที 2 ประวัติศาสตรสมยั กลาง ประวัติศาสตรสมัยใหม ซึงมีผลกระทบรุ นแรงทัวโลก และ ปปรระะววตั ัตศิ ิศาาสสตตรรสส มมยั ัยปปจ จจจุบุบนั ัน ก่อใหเ้ กิดการเปลียนแปลงทงั ทางดา้ น เศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง ต่อสังคมโลกในปัจจุบนั 42 21

19/05/64 อานเนือ้ หาเกย่ี วกบั หลกั ฐานทางประวัติศาสตร 43 สรุปความรู • การแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์มีขึนเพือให้เกิดความ สะดวกในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ • ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์แบ่งไดเ้ ป็น 2 สมยั ไดแ้ ก่ สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์และสมยั ประวตั ิศาสตร์ • ผศู้ ึกษาประวตั ิศาสตร์จะตอ้ งมีความรู้พนื ฐานเกียวกบั เวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ เพือใหร้ ู้วา่ เหตุการณ์ใดเกิดขึนก่อน และเหตุการณ์ใดเกิดขึนหลงั 44 22

19/05/64 สรปุ ความรู ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร สมยั ก่อน สมยั โบราณ สมยั กลาง สมยั ใหม่ สมยั ปัจจุบนั ประวตั ิศาสตร์ จีนสมยั ใหม่ จีนสมยั ปัจจุบนั วฒั นธรรมหยางเชาและ จีนสมยั โบราณ (1,570 ปี จีนสมยั กลาง (ค.ศ. 1368–1911) (ค.ศ. 1911–ปัจจุบนั ) หลงชาน ประมาณกว่า ก่อนคริสตศ์ กั ราช–ค.ศ. (ค.ศ. 220–1368) อินเดียสมยั ใหม่ อินเดียสมยั ปัจจุบนั 5,000 ปี มาแลว้ 220) อินเดียสมยั กลาง (ค.ศ. 1526–1947) (ค.ศ. 1947–ปัจจุบนั ) (ค.ศ. 535–1526) เมืองโบราณโมเฮนโจดาโร อินเดียสมยั โบราณ (900 ปี ตะวนั ตกสมยั ใหม่ ตะวนั ตกสมยั ปัจจุบนั แ ล ะ คั ม ภี ร์ พ ร ะ เ ว ท ก่อนคริสตศ์ กั ราช–ค.ศ. ตะวนั ตกสมยั กลาง (ค.ศ. 1453–1945) (ค.ศ. 1945–ปัจจุบนั ) ประมาณ 1,000 ปี ก่อน (ค.ศ. 476–ค.ศ. 1453) คริสตศ์ กั ราช 535) 45 ประมาณ 350,000 ปี ตะวนั ตกสมยั โบราณ มาแลว้ จนถงึ 3,000 ปี (3,500 ปี ก่อน ก่อนคริสตศ์ กั ราช คริสตศ์ กั ราช–ค.ศ. 476) ถูกหรือผิด ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั โบราณเริมตน้ ในสมยั ราชวงศช์ างสินสุดใน สมยั ราชวงศฮ์ นั หา้ ราชวงศก์ บั สิบรัฐเกิดขึนในประวตั ิศาสตร์จีนสมยั กลาง สงครามฝินระหวา่ งจีนกบั องั กฤษเกิดขึนในสมยั ราชวงศห์ มิง สมยั จกั รวรรดิมุคลั เป็นจุดเริมตน้ สมยั ใหม่ของประวตั ิศาสตร์อินเดีย 46 23

19/05/64 ถูกหรือผดิ พระพทุ ธศาสนาเสือมความนิยมลงในสมยั ราชวงศเ์ มารยะ โดยศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเจริญรุ่งเรืองขึนมาแทนที ยคุ สมยั ของอารยธรรมตะวนั ตกเริมตน้ ในลุ่มนาํ ไทกริส-ยูเฟรตีส ยคุ ภูมิธรรมหรือยคุ แห่งการรู้แจง้ เกิดขึนในช่วงประวตั ิศาสตร์สมยั กลาง 47 ยุคหินและยคุ โลหะมีความแตกตา งในเรอ่ื งการทาํ เคร่อื งมอื เครื่องใชอยางไร 48 24

19/05/64 เหตุการณใดทนี่ ักประวัตศิ าสตรใ ชใ นการกําหนดจุดส้นิ สดุ ประวตั ศิ าสตรต ะวนั ตกสมยั โบราณ 49 ประวตั ิศาสตรจนี ใชเกณฑอ ะไรในการจดั แบงยคุ สมยั 50 25

19/05/64 เหตกุ ารณส งครามโลกครง้ั ที่ 2 ยตุ ลิ ง เปนจุดสิน้ สุดของสมัยใดทางประวัตศิ าสตรต ะวนั ตก 51 การแบงยคุ สมัยออกเปนสมยั โบราณสมัยกลางสมยั ใหม และสมยั ปจจุบัน สามารถนํามาใชในการแบง ยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตรไทยไดห รือไมเพราะเหตใุ ด 52 26