มองตนให้เป็น

๗.๑ เรามีกรรมเป็นของตน ไม่ว่าเราทำกรรมใดไว้ กรรมนั้นต้องเป็น ของเราแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น จะยกกรรมของตนไห!คร ย่อมไม่ไต้ จะรับ-จะแย่งกรรมของใครมาเป็นของตน ย่อมไม่ไต้ทั้งสิ้น ๗.๒ เราเป็นทายาทแห่งกรรม เราทำกรรมใดไว้ กรรมนั้นจะไม่สูญเปล่า ยังมีผลตามมาอีก ผลที่ตามมานัน ย่อมติดตามเราเพียงผู้เดียว เราจึงต้องเป็น ทายาทรับผลกรรมของตนเองโดยตรง ใครๆจะรับผลกรรมแทนเราไม่ไต้ ฉะนั้น จึงต้องเลือกคิด-พูด-ทำเฉพาะสิ่งดีงาม เพื่อดนเองจะไต้เป็นทายาทรับแต่ผลกรรม ดีเท่านั้น มองตนให้เป็น f www.kalyanamitra.org

๗.๓ เรามีกรรมเป็นกำเนิด ชาติที่แล้ว ๆ เราทำกรรมใดไว้ ก่อนตาย จิต ได้รวบรวมเอากรรมที่ทำไว้ด้วยความมักง่าย-บ่ระณีตiหล่านิน ส่งผลให้มาเกิดชาติ นี้ มิใช่ฟ้าดินลิขิต มิใช่ฤทธิเทพมันดาล มิใช่ท่านใดบ่ระทานมา ไม่ว่า หน้าตา สวยหส่อ ขี้ฉ้อ ตอแหล แค่ไหน จนใจ รวยสมบัติ ขัดสน ใช่ใครทำ เราเอง ทำ ไว้ เพื่อความไม่บ่ระมาทได้รูบ่สวยรวยฉลาด สมบ่รารถนาในสิ่งที่ดีงามโดยง่าย ทุกภพทุกชาติเบืองหน้า จงด้งใจสังสมกรรมดีด้งแต่ว้นนี เพือกำเนิดเกิดดีดลอดไบ่ ' m ๕๑ ''^ มอฟ็0tHไห้เป็น a yitfufd www.kalyanamitra.org

๗.๔ กรรมเป็นเผ่าพันธ์ (พี่น้อง) เป็นธรรมดาว่า พี่น้องเผ่าพันธ์ เดียวกันย่อมยินดีอุปถัมภ์ช่วยเหลือกัน แต่อาจขัดข้องด้วย ระยะทางใกล้-ไกล อยู่ในวิสัย-พันวิสัย เวลาหสับ-ตื่น กลางวิ'น-กลางคืน สุขภาพดี-ไม่ดี ถูกกฎหมาย-ไม่ลูก ฯลฯ ส่วนพีน้องทีไม่เคยมีข้อแม้ และอยู่กับเราตลอดเวลา ทั้งยามหสับ ตื่น ยน เดิน น้ง นอนพร้อมจะช่วยเหลืออุปถัมภ์เราทุกๆ อย่างตลอดชีวิต คือ กรรม ,ของเราเอง กรรมจึงเป็นเผ่าพันธ์พี่น้องตัวจริงของเรา ฉะนั้นกรรมดีน้อยใหญ่ ตัองทุ่มทำไว้เป็นเผ่าพันธ์ มองตนํ1ห้เป็น # พ^^:^:- _ ๕๒ www.kalyanamitra.org

๗.๕ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้ กรรมนั้นย่อมไม่สูญเปล่า ย่อมติดตามให้ได้พึ่งตลอดไป ตามควรแก่กรรมนั้น ๆ (๑) กรรมดีให้พึ่งด้วยการส่งผลให้ได้รับความสูฃความเจริญ แต่กรรมชั่วให้พึ่งด้วยการบีบคั้นให้เป็นทุกข์ตกตํ่า เป็นการเตือนสติให้หลาบจำ ไม่กล้าทำชั่วอีก โดยต่างให้พึ่งตามคราว ให้พึ่งในชาตินี้ก็มี ด้องรอให้พึ่งในชาติหน้าก็มี ให้พึ่งในชาติต่อๆไปก็มีได้พึ่งจนกว่าจะหมดฤทธิกรรมนั้นๆ (๒) ให้พึ่งในการเกิด - การตาย ^^ กรรมใดทำใจให้ผ่องใส กรรมนั้นให้พึ่งไปเกิดในสุคติ กรรมใดทำใจให้ขุ่นมว กรรมนั้นบีบคั้นให้ไปเกิดในทุคติ www.kalyanamitra.org มองตนให้เป็น , 'ท.

การให้ผลของกรรมอย่างต่อเนื่อง '1$ กุศลธรรม สุข เข้าใจกฎแฟงกรรม 1 ดี t ตั้งใจละชั่ว ทำ ดี ปีจจุบันกรรม ชั่ว บุญ โ\" บาป 1 ^0/ ประณีต ทุกข์ กิเลส อกุศลธรรม > นสย บักง่าย i แสลงต่อการทำกรรมดี พร้อมทำกรรมชั่ว กรรมทุกชนิดล้วนมีผลทั้งชาตินี้และชาติต่อ ๆไป มอฟ็ฟินให้เป็น www.kalyanamitra.org

๘. แม่บทปฏิบัติขันต้นในการผจญกับทุกข์ ๔ คือการปฏิบัติความดีสากล ๕ อย่างเคร่งครด แต่ก่อนปฏิบัติความดีสากล ๕ จะต้องเห็นโทษของความมักง่าย อย่างแจ่มแจ้งก่อน มองตนให้เป็น' www.kalyanamitra.org

บทที่ Gf) ความมักง่าย www.kalyanamitra.org

โทษของความมักง่ายกับความสกปรก ความม'กง่าย คือ การที่คิด-พูด-ทำอะไร เอาสะดวกเข้าว่า ไม่พยายามให้ดี จริง ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ขาดสติ สัมปชัญญะ ขาดความรับผิดชอบ จง เป็นต้นทางของกรรมชั่วทังหลาย และมีโทษทุกข์มากตามมาอีกต้วย คือ ๑. ความทักง่ายเป็นสัดส่วน ๒. ความสกปรกเป็นสัดส่วน โดยตรงสับความสกปรก โดยตรงสับความทุกข์ ยิ่ง ยิ่งทักง่าย ยิ่งทำสกปรก สกปรก ยิ่งเพิ่มทุกข์ .๓ คนทักง่ายอยู่ที่ไหน ย่อม ๔. ที่ไหนสกปรกมาก ที่นั่น สกปรกที่นั่น สถานที่เช่นนั้น คนทักง่ายย่อมเข้าไป ^ ทำ ดีไต้ยาก ทำ ชั่วไต้ง่าย นั่วสุม เกิดถิ่นอันตราย \"^®' * ๕๗ มองตนให้เป็น i www.kalyanamitra.org

มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความสกปรก เซลล์เกิด-ตาย เซลล์เกิด-ตาย ฯลฯ ๓๐๐-],๔๐๐ ล้านเซลล์/นาที 1 : กายสกปรก กายกระสับกระส่าย เป็น นิจ หนาว-ร้อน เป็น นิจ หิว-กระหาย ^ <น 'ะ=v เสอผา บาน ปวดอึ-ฉี่ เผลอ สต ยา อาหาร ทุกข์ประจำสรีรร 1f 1r ตามเใจตัว ๑. วัตถสกปรก { ๔. การไมตรงตอเวลา T ๒. ความไม่เป็นระเบียบ ๕. การปส่อยให้สมาธิสั้น มองตนให้เป็น J www.kalyanamitra.org

๑. โทษของความสกปรก ความสกปรก คือ การปล่อยปละละเลยให้ร่างกาย ว้ตถุ ลิงของ เครืองใช้ ลถานที่ และสิ่งแวดล้อม ให้เลอะเทอะเปรอะเปีอน ทำ ให้ผู้นันเสียสุขภาพ ลิงของ เครื่องใช้ชำรุดเสียหาย ลถานที่และสิ่งแวดล้อมต้องเสีอมโทรม ลดคุณค่า เช่น การ ปล่อยให้ ๑. ร่างกาย ตั้งแต่ผมจรดฝ่าเท้า หรืออวัยวะส่วนใดลกปรก ๒. อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม ที่นอน หมอน มุ้งลกปรก ๓. อาคาร บ้านเรือน ลถานที่ โกดัง บริเวณบ้านลกปรก ๔. เครื่องจักร เครื่องยนต์ รถยนต์ลกปรก ฯลฯ ๕๙ มองดนใท้เป็น www.kalyanamitra.org

ใครมักง่าย ไม่ดูแลรักษาทำความสะอาดร่างกาย ทรัพย์สิน สถานที่และสิ่ง แวดล้อมของตนให้อยู่ในสภาพปกติ จัดเป็นกรรมชั่วเบื้องต้น เพราะเป็นเหตุให้ บุคคลเป็นทุกข์ ใจขุ่นหมอง และสิ่งของ สถานที่ต้องเสิ่อมเสียคุณภาพลง คือ ๑. ทำ ให้เสียอารมณ์ หงุดหงิดง่าย ๒. ทำ ให้ฆ่าสัตว์-แมลงที่มารบกวนโดยใช่เหตุ ๓. ทำ ให้เสียทรัพย์โดยใช่เหตุ และเป็นเหตุให้สักขโมย ๔. ทำ ให้เสียสุขภาพ เกิดโรคภัยไข้เจ็บไต้ง่าย ๕. ทำ ให้ยิ่งมักง่ายเกิดนิสัยเสียต่างๆ อีกมากมาย มองตนให้เป็น www.kalyanamitra.org

หงุดหงิดง่าย แยกผิด-ถูกไม่ออก มักโกรธ ตนทำผิดก็โทษผู้อื่น มักง่าย ชอบฆ่าสัตว์ พอใจความสกปรก ชอบทำให้ สิ่งสาธารณะสกปรก ผู้ชอบทำสกปรกมักโทษว่าสัตว์น้อยใหญ่รบกวนตนมันใด คนพาลใจสกปรก แม้ตนเองทำผิด ก็หลงโทษว่าผู้อื่นผิดมันมัน นิสัยเสียจากความมักง่าย สกปรก ^ ร^^^^น^^^^L ^ เป็นเหตุให้รักษาศีลข้อ ๑ ไม่ได้ MT ■'Mte- ^>๑ มองตนให้เป็น c ๗ www.kalyanamitra.org •I

๒. โทษของความไม่เป็นระเบียบ ความไมไปีนระฌืยบ คือ ความมักง่ายจนขาดสติ ไม่สามารถควบคุมตนเอง คิด-พูด-ทำอะไรให้ถูกทิศ-ทาง-ที-ลำดับ-แบบแผนที่วๅงเอๅไ!เปีบแบ!ม่ฏิมัติ ทำ ให้สิงทีดังไจไว้เสียหาย แม้สิ่งที่ได้ทำความสะอาดแล้!ก็กลบสกปรกอีก เช่น ^ การไม่เก็บโต๊ะ เล้าอี ของเล่น อุปกรณ์ด่าง ๆ เข้าที่ หล้งเสิกใข้ การไม่จัด เก็บ เรียง ซ้อนล้!ย จานชาม ซ้อน อุปกรณ์เครื่องคร!หลังจาก ทำ ความสะอาดแล้!ให้เปีนหม!ดหม่ตามขนาดเล็ก-ใหญ่ ใช้ก่อน-หล้ง ใช้ถี่-ห่าง # การไม่จัดวางรองเท้าเข้าที่หล้งเลิกใล่ การไม่ตาก-เก็บ-รีด-พับ-แขวนเสื้อผ้าซ้กแล้ว ;๙ มองดฬให้เป็น ๖๒ www.kalyanamitra.org

4}^ การไม่สัด-หวีผม โกนหนวด-เคราให้เปีนระเบียบ ฯลฯ การไม่สัดระเบียบสิ่งของเครื่องใช้ สัดเปีนกรรมช้วเบีองสัน เพราะทำให้เสีย วินัย เสียบุคลิก เสียนิสัย เสียทรัพย์ มีโทษมาก คือ ๑. ทำ ให้ทรัพย์ สิ่งของสกปรก-เก่า-ชำรุด-เสือมค่าได้ง่าย ๒. ทำ ให้สิ่งของเครื่องใช้หยิบไม่ง่าย หายไม่รู้ ดูไม่งาม ๓. ทำ ให้ไม่รู้ประมาณ-ผลาญทรัพย์ตนเองโดยไม่รู้สัว ๔. ทำ ให้เกิดการเอาเปรียบ คดโกง สักขโมยได้ง่าย ๕. ทำ ให้หมดความไว้วางใจตนไม่เชือนันในตนไม่เห็นคุณค่าของตบหมต ความคิดพัฒนาตนให้พ้นทุกข์ ^><ท มองตนให้เป็น \" ^ ilnnfdJdry www.kalyanamitra.org 4 ss

การไม่จัดระฌียบสิงของทำให้ใจไม่ผ่องใส ความคิดไม่เปีนระเบียบ คำ พูด ก็สับสนไม่เปีนขั้นตอน กลายเปีนคนพูดไม่รู้เรื่อง การทำงานไร้ระเบียบบ่อยๆ ยง เพาะปมนิสัยเสีย ๆ ได้มาก เช่น มักง่ายไร้ระบบ ไม่รู้ประมาณ เกี่ยงงาน เอาเปรียบ มักมาก สักทรัพย์ เห็นแก่ได้ คดโกง คอรัปชั่น นิสัยเสียจากความมักง่าย ไร้ระเบียบ เปีนเหตุให้รักษาศีลข้อ ๒ ไม่ได้ ผฮงตนให้เป็น, ? ^>๕ ฟ^ www.kalyanamitra.org

๓. โทษของความไม่สุภาพ ความไม่สุภาพ คือ ความมักง่ายมากจนถึงขาดสติไม่สามารถควบสุมตนเอง ต่อหน้าผู้อื่น ทำ ให้แสดงกิริยา-ท่าทาง-คำพูด-แม้การนุ่งห่มก็ไม่เป็นระเบียบ ไม่ เหมาะสม จึงแสดงอาการแข็งกระด้างหยาบคาย ใจแคบ น่ารังเกียจ ขณะกระทบ อารมณ์ต่าง ๆ ทั้งๆ ที่เรื่องนั้น ๆ เป็นเรื่องปกติธรรมดา เช่น การออกปากขอของเขารำไป-แย่งชิงการใช้ของกลาง-ฉกฉวยเอาของ แจกมากเกินส่วน-แกล้งนิ่งนอนใจให้เขาออกทรัพย์แทน ฯลฯ ไม่สุกาพเพราะ มักมาก การพูดประชด-พูดคำหยาบ-พูดกระโชกโฮกฮาก-เตินสงล้น-กระทืบเท้า -ปีดประตูใส่หน้า-ทำท่ากระฟ้ดกระเชิเยด-ขว้างปาทุบสิ่งของ-แกล้งโชว์อรัยระ เพศ ฯลฯ ไม่สุกาพเพราะมักโกรธ ■&๕ มองตนให้เป็น www.kalyanamitra.org

4^ การยืน-เดิน-นง-นอนไม่สำรวม การแต่งกายรัดรูป-ชะเวิกชะวาก- ผิดกาลเทศะ การพูดจายัวยวนชวนให้คิดฟ้งซ่านแม้เรื่องเพศ «/|ลฯ ไม่สุภาพเพราะ ม้กหลง ความไม่สุภาพจัดเป็นความชั่วเบื้องต้น เพราะแสดงถึงความล้มเหลวใน การจัดระเบยบความคิด แยกผิด-ถูก ดี-เลวในเรืองคำพูด ความประพฤติ คิริยา มารยาทไม่ออก จึงมีโทษมากคือ ๑. ทำ ให้ตนเองเสียความน่ารัก น่าเชื่อถือ I ๒. ทำ ให้กระทบกระทั่ง ทะเลาะวิวาทไต้ง่าย ^ ๓. ทำ ให้แตกความสาม้คคื ๔. ทำ ให้เสียทรัพย์ เสียโอกาส เสียนิสัย ir. ๕. ทำ ให้เสียศีลถึงสับประพฤติผิดในกามไต้ง่าย I ■£>■๖ )7n7n/2M;^ i^ 'JM มองตนให้เป็น www.kalyanamitra.org

การขาดสติต่อเนื่องถึงกับแสดงความไม่สุภาพ ทำ ให้ใจ ยิงหยาบ ยิงแคบ ยิ่งสกปรก และยิ่งเพาะปมนิสัยเสียต่าง ๆ เช่น ชอบดถกผ้อื่น ม้กโกรธ ฉุนเฉียว q|(น CJ ม้กมาก เอาเปรียบ ไม่เกื้อกูลแม้พ่อแม่ ลบหลู่ ติเสมอ ก้าวร้าว ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน ม้กง่ายแม้เรื่องเพศ ชอบความแตกแยก นิสัยเสียจากความม้กง่ายในการควบคุมกิริยาทำทาง ะ;! เป็นเหตให้รักษาศีลข้อ ๓ ไม่ได้ ■^. พ? * ๖๗ มองตนให้เป็น % www.kalyanamitra.org

๔. โทษของการไม่ตรงต่อเวลา การไม่ตรงต่อเวลา คือ ความมักง่ายเรื่องเวลาจนล้มเหลวในการบริหารเวลา เพื่อ!]องกันกำจัดทุกๆร ๔ ของตนเอง ซึ่งใครจะประพฤติปฏิมัติกำจัดทุกๆรแทนก็ ไJ1 |XJ1 V ฌ[ด ๑. การกำจัดทุกๆรจากสรีระ ๒.การกำจัดทุกๆ!จากกังคม ๓.การกำจัดทุกๆJจากการเลี้ยงชีพ ๔. การกำจัดทุกข์จากใจขุ่นมัว ๑ ทุกข์จาก ทกฃ์ ๔ ๒ ทุกข์จาf| สรีรV . -j/ ประจำ ชีวิต 0^ I ^'๓ ทุกข์จากการ สังคม เลี้ยงชีพ ^ ทุกข์จาทุ นองตฬใฬ้เป็น กิเลส ■พ- www.kalyanamitra.org

ความล้มเหลวในการบริหารเวลา G). การเห็นป้ญหาและวิธีการกำจัดทุกข์ ๔ ของชีวิตไม่ครบ-ไม่ชัด ๒. การจัดลำด'บความสำคัญ ความเร่งด่วน และการใช้เวลาในการปฏิบัติ แด่ละภารกิจบังไม่เหมาะสม ทำ ให้ไม่กล้าตัดสินใจ ๓. การขาดสติสัมปช้ญญะขณะปฏิบัติภารกิจกำจัดทุกข์บัน ๆ ความบกพร่องในการบริหารงาน บริหารเวลา เพื่อการกำจัดทุกข์ ๔ของชีวิต แด่ละประการ ล้วนเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ใหญ่นานาชนิดแก่ชาวโลกตลอดมาเช่น การไม่ตรงเวลาในเรื่องการกิน-นอน-ตื่น-จับก่าย-อาบนํ้าชำระร่างกาย- 1 # แปรงฟ้น ฯลฯ เป็นการเพื่มสรีรทุกข์ ' ^เ^ i ■QCC มองตนใฟ้เป็น www.kalyanamitra.org

การผิดนัดกับสมาชิกในครอบครัว-เพื่อนบ้าน การไม่ใบ้การศึกษาบุตร ในรัยเรียน การไม่ดูแลพ่อแม่ผู้ชรา ฯลฯ เป็นการเพิ่มทุกข์จากสังคม การทำงานไม่เลร็อตามกำหนด การส่งสินค้า-การชำระเงินล่าช้า การไป ทำ งานลาย การเลิกงานก่อนเวลา ฯลฯ เป็นการเพิ่มทุกข์จากการเลี้ยงชีพ การถือฤกษ์ยาม การไม่ลวดมนต์-ไหว้พระ-เจริญลมาธิ-แผ่เมตตาก่อน นอน การไม่ไปรัด ไม่รักษาอุโบลถศึลในรันพระ ฯลฯ เป็นการเพิ่มทุกข์จากกิเลล '0^ มอฟ้mให้เป็น ๗0 www.kalyanamitra.org

การไม่ปฏิบัติภารกิจเพื่อ!]องกันกำจัดทุกข์ ๔ ของชีวิตให้ครบถ้วนถูกต้อง สมบูรณ์ ตรงตามเวลา จัตเปีนกรรมชั่วเบืองต้น เพราะเปีนเหตุให้ฃาตความรับผิต ชอบ ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม สำ กัญที่สุตคือ เปีนเหตุให้พูตเท็จและนิสัยเสีย ต่างๆ เช่น ต้ตสินดี-ชั่วใม่ใต้ ชอบผัตรันประกันพรุ่ง ต้ตใจเสียลละใม่เปีน บักโอ้อวตมีมารยา ชอบถือฤกษ์ยาม บักเครียต หนิปีญหา ลมองเสื่อมง่าย บักพูตเท็จ นิสัยเสียจากความบักง่ายส์องการบริหารเวลา^^ เปีนเหตุให้รักษาศีลข้อ ๔ ใม่ใต้ มองตนใหเรพ'E ๗๑ www.kalyanamitra.org

๕. โทษของการไม่ควบดุมใจให้เป็นสมาธิ การไม่ควบคุมใจใใiเป็นสมาธิ คือ การไม่แกใจให้ตั้งมั่นภายในต'วสมแก่เพศ วัย ภาวะ ปล่อยใจให้เทียวไปคิดอย่างไร้ระเบียบ คือคิดชอบ-ชัง หสงใหส หวั่นไหว ต่อรูป-เสียง-กสิน-รส-สัมผสที่มากระทบ จัดเป็นผลร้ายอย่างยิ่ง เพราะ ๑. ทำ ให้คิดฟ้งซ่านไร้ทิศทาง สมาธิสั้น ไม่สามารถรวมกำลังกาย กำ ลังใจ และกำลังความรู้ทีแม้มีมากมาใช้งานได้ จึงไม่ต่างลับวัว ควายแรงดีที่ยงไม่ได้แก ๒. ทำ ให้คิดไร้เหตุผล ไม่สามารถคิดเจาะรกสิบเหตุหาผลทำให้คิด-พูด-ทำ เหินห่างจากความดี แม้ใดเป็นผู้ใหญ่ก็คิดเอาแต่ใจ กวรไม่ควบคุมใจให้เป็นสมาธิจึงจัดเป็นกรรมชั่วเบื้องด้น ^Pมองตนให้เป็น ' www.kalyanamitra.org

พฤติกรรมแสดงความเปีน^ม่มีสมาธิหรือสมาธิสัน ยามป่วยไข้ วงไปพี่งหมอผื ไม่ไป่พึงแพทย์ ยามเป็นทุกข์ใจ วิ่งไปพึ่งคนทรง หมอดู ไม่ไปพึ่งพระ ยามจน วิ่งไปแทงหวย เข้าบ่อน ไม่พัฒนาแมือ ยามรวย บินไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ทำบุญไว้เป็นทีพึ่ง ยามเป็นสุข วิ่งไปเข้าบาร์ คลับ คาราโอเกะ ไม่ฟ้งธรรม ก่อนนอนไม่สวดมนต์ ไม่ทำสมาธิให้ใจตั้งมั่น ไม่นึกถึงพระคุณพ่อแม่ ครู อาจารย์ บรรพบุรุษผู้เหนื่อยยากสร้างประเทศ คุณพระร้ตนตรัย คิดถึงแต่แหล่ง เที่ยว-ร้อง-เล่น-เต้น-รำ-โชว์อบายบุฃ ฯลฯ ให้!จพ่งซ่าน ๗01 ผองตนให้เป็น www.kalyanamitra.org s -M\" '^' ' _

สภาพเคว้งคว้างของผู้ไม่มีสมาธิ ยามทุกๆรย่อมว้าเหว่ เพราะขาดที่พึ่ง ไม่เห็นโทษตนเอง ยามสุขย่อมหลงระเริง เพราะขาดที่ระลึก ลึมผู้มีพระคุณ ยามว่างย่อมเลื่อนลอย เพราะขาดเมีาหมายชีวิต ชอบทำตามใจตัว ไม่นึกถึงพระคุณใคร เบื่อบ้าน เบื่องาน เบื่อว้ต เบื่อบุญ หนึปึญหา มักคบมิตรชั่ว เข้าหาการพมัน มักพึ่งสุรายาเมา มักทำเรื่องไร้สาระ นิสัยเสียจากความมักง่าย จากการไม่จัดระเบียบความคิด ให้ใจตังมั่นภายในตัว เป็นเหตุให้รักบาศีลข้อ ๕ ไม่ได้ มองตนให้เป็น. ๗๕ www.kalyanamitra.org

๕ ๑ k) ไม่มี!]ญญา ไม่มีศรัทธา ขี้โรค ฃี้แฬ ผิด-ถูก ชั่ว-ดี รักษาสุขภาพไม่เปีน ไม่สู้กิเลส แยกไม่ออก v ผลเสีย ความมักง่าย Cfi ๓ ขี้เกียจ ฃฌ ทำ การงานอาชีพไม่เปีน มีมารยา ไม่อยากค้นคว้าหาความร ทำ การงานชีวิตส่วนตัวไม่เปีน 'บ ๗๕ มองตนให้เป็น :^ )}ทุฅ^4^ www.kalyanamitra.org

ตราบใดทียังไม่กำจัดนิสัยมักง่าย ความดีทุกอย่างและการรักษาศีล ๕ จักเกิดขนได้ยากมาก แด่จะเกิดได้ก็ต่อเมือปฏิมัติความดีสๅกลอย่างJฃ้าใจ เต็มใจ จนชำนาญ ต่อเนื่องติดเป็นนิสัยเท่านั้น โปรดติดตามเนื้อหาตอนต่อไป ความดีสากล ๕ พองตนใ'^เป็น ๗๖ www.kalyanamitra.org

คุณค่าของชีวิตอ www.kalyanamitra.org